แจ้งกันนิดนึง อ่านก่อนนะคะ ^^ อ่านนะนะจ๊ะ สำคัญนะจ๊ะ
คือแบมเห็นเม้นหนึ่งแล้วไม่สบายใจค่ะ ไม่ใช่ว่าทำร้ายจิตใจแต่ เขาบอกว่า นิยายเรื่องนี้เหมือนผลงานของพี่ภาคเรื่อง 'กูล่ะเซ็งจิต ไอ้ติสต์แตก'
ก่อนอื่นเลยแบมก็ได้กลับไปอ่านงานพี่ภาคมาแล้วค่ะ คือเอาตามจริง มันอาจจะเหมือนกันตรงที่นายเอกออกแนวๆนิสัยแบบนี้ ส่วนพระเอกแบมมันดันชื่อเดียวกัน TT. ฮืออออ อยากบอกว่าแบมไม่ได้ก็อบมาจริงๆนะคะ ไม่งั้นพระเอกคงไม่ชื่อแดนแน่ๆ TT ของพี่ภาคถ้าจำไม่ผิดแดนดนัยใช่มั้ยคะ ของแบมนี่ชื่อชายแดนนะคะ TT ไม่เหมือนจริงๆนะ
ก็ขอกราบขอโทษทุกๆท่านหรือบางท่านที่อาจจะคิดเหมือน แต่จริงๆแล้วไม่เหมือนนะคะ ลองมองดีๆ เรื่องของพี่ภาคมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าดำเนินเรื่องได้ดีกว่ามากด้วยค่ะ สมเหตุสมผลกว่า แต่อาจจะด้วยคาแร็คเตอร์คล้ายกันมันเลยเหมือนกัน แล้วคำพูดคำจาบางครั้งอาจทำให้ภาพรวมมันเป็นแบบนั้น แต่แบมขอสาบานว่าแบมพิมพ์เองทุกตอน ไม่ได้ไปก็อบไปลอกมาจริงๆนะคะ TT เพราะแบมลองดูแล้วพล็อตมันก็ไม่คล้ายจริงๆนะคะ ของแบมออกแนวปัญญาอ่อนตามสไตล์แบมอ่ะค่ะ อันนั้นเขาเหตุผลรองรับขั้นเทพจริงๆนะจ๊ะ T___T อย่าเปรียบเทียบกันเลยนะคะ จุ้บๆ จิ้บๆ พล็อตแบมเอาตรงๆ เซาะกาวกว่าพี่ภาคเยอะเลยค่ะ
ปล. ขอบคุณที่มาเม้นบอกด้วยนะคะ แบมไม่ได้โกรธเน้อ T^T อย่าโกรธแบมด้วยเน้อออ
ตอนที่ 19
นาฬิกาบอกเวลาสามโมงครึ่ง อืม .. ไอ้เป็ดยังไม่เลิกเรียน ผมก็นั่งมองพวกไอ้กัสไอแจ๊สเตะบอล ไอ้แจ๊สมันก็ถอดเสื้อออกตะโกนโหวนเหวกเป็นกองหน้าเหมือนเดิม จริงๆมันขาวครับ แล้วหน้าตามันก็ออกๆแนวเดียวกับไอ้โอม ตาคม คิ้วเข้ม แต่ผิวมันดันอมชมพู แรกๆนี่นึกว่าผู้หญิงหน้าหล่อ มันเลยรับไม่ได้ไปบอกช่างเอาหัวเดดร็อคแล้วก็ไปอบผิวจนคล้ำดำเมี่ยง จากสาวหน้าหล่อมันเลยกลายเป็นไอ้ดำหน้าโหดแทน พอครับวกกลับมาก่อนเหตุผลที่ผมเล่นบอลกลางแดดกับพวกมันไม่ได้ไม่ใช่ว่าห่วงผิวขาวๆเหลืองๆของตัวเองจะดำหรืออะไร แต่ขาของผมกระดูกมันเคลื่อนสมัยเตะบอลตอนมัธยมปลาย หมอบอกว่ารักษาหายแต่ใช้การไม่ดีเท่าเดิมก็เลยต้องเลิกไป วิ่ง เดิน ได้ปกติ แต่ออกแรงเตะบอลหนักๆมันก็ปวด ปมด้อยในชีวิต แต่ก็ไม่ได้เจ็บใจอะไรเท่าไหร่เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้ชอบเล่นบอล แต่อาจารย์ดันให้ลงเป็นตัวจริงเพราะผมตัวหนา สูง เอาไปวิ่งชนกับทีมอื่นเอาตัวบังสะกัดบอลเขาเท่านั้นแหละ หน้าที่อันทรงเกียรติของนาย ชายแดน !
“ไอ้เชี่ยกัสสสสสสสส มึงวืดดดได้ไงวะสาสสส มึงจะหลบบอลทำเชี่ยไร เฮ้ยยย ไอ้สัสแจ้มึง !!! เชี่ยแม่งเอ้ยยย”
ไม่ต้องบอกว่าเสียงใคร มีตัวเดียว และ ตัวเดิม โวยไปเหอะ ไม่มีใครฟังมันหรอก เดี๋ยวมันเบื่อก็หยุดเอง
มหาลัยผมลมมันพัดเย็นดีครับ ยิ่งไกลปืนเที่ยงหลบมุมมหาลัยอย่างคณะผมแล้วสิ่งมีชีวิตที่รวมตัวกันด้วยเพศผู้ 98% อีก 1% เป็นทอม อีก 1% ก็หญิงสาวที่หน้าตา … ไม่ค่อยสวย ดังนั้นเลิกเรียน กลางวัน หรือยามเช้า ผู้ชายที่แม่งตายอดตายอยากก็เลยระอพยพพากันไปเดินส่องสาว หรือ ขี่มอไซต์เหล่หญิงคณะอื่น อย่างไอ้แจ้เป็นต้น
นาฬิกาตอนนี้สี่โมงเย็นสมควรจะไปรอไอ้เป็ดได้แล้ว วันนี้งดรับน้องเพราะปีสองมันประชุมร่างโครงการไปค่ายทหารที่ต้องแก้งานรอบสุดท้ายก่อนยื่นให้อธิการเซ็นรับรอง
ผมก็เดินมานั่งม้าหินหน้าตึกเรียนไอ้เป็ด สักพักเด็กๆมันก็เดินลงมากัน ก็ไหว้ผมไปตามเรื่องตามราวจนไอ้เป็ดมันกระโดดๆเอ๋อๆมากับไอ้โอมนั่นล่ะ มันทำหน้าเครียดบ่นไรสักอย่าง ส่วนไอ้โอมก็หน้าเอือมใส่มัน คงจะเป็นเรื่องโคตรยิ่งใหญ่สำหรับมันแต่ปัญญาอ่อนชิงถ้วยพระราชทานเหมือนเดิมสำหรับไอ้โอม
“ดีครับเฮียแดน เอาเมียเฮียไปเลย แม่งปัญญาอ่อน กูไปละม่อน ลากจากตลอดกาลและตลอดไป”
“เชี่ยโอมมมม ด่ากู !!! มันซีเรียสจริงๆนะแสรด เฮ้ยกลับมา !! ไอ้โอ้มม”
“หยุดตะโกนได้แล้วมึง กลับหอ”
“หา !!! เฮีย …”
ดูมันทำหน้าตกใจแล้วก็หน้าแดง อะไรมึง อะไรอีก เขินอะไรเนี่ย
“เป็นเชี่ยไร ?”
“เก๊าะ .. กลับหออ้ะ แง้ววว”
“หยุดเพ้อ กลับหอกู ส่วนมึงไปร้านนมของมึง หรือจะไปสตูพี่มึงก็ตามใจ”
“อะไรว้าเฮียแม่งขัดบรรยากาศโรแม้งอ่ะโรแม้งงงงงงติ๊ก”
“หึ โรแม้งติ๊กของมึงเขามีไว้สำหรับหนุ่มหล่อสาวสวย แต่กรณีหนุ่มหล่อกับเป็ดด๋อย โรแม้งของมึงคงได้แค่ เฮอเร่อ”
“เฮียครับ ม่อนบ่ใช่ผีสางนางไม้ในละครเด้อ มาเฮอร่งเฮฮเร่อ ข้อยบ่พอใจเด้หล่า”
“เฮ้ย ภาษาไรวะ ?”
“อีสานไงเฮียย เจ๋งอ่ะดิ”
“เออเจ๋งดี เข้ากับหน้ามึงเลยว่ะ”
“จ๊ากกกกกก เป็นอีสานมันผิดตรงไหนวะ !!!”
“ก็ไม่ผิด แต่ผิดที่เป็นมึงไง”
ผมได้แต่กลั้นหัวเราะ ไอ้หน้าตี๋พูดอีสานหาไม่ได้ง่ายๆนะครับ คิดแล้วฮา มันก็บ่นกระปอดกระแปดตามภาษาเป็ดด๋อยต่อไป ผมก็ไม่ได้ฟัง ดูแต่ปากมันขยับๆ คิ้วมันก็ขมวดๆ เลยล็อคแม่งมาซุกอกแน่นๆ เวลามันดิ้นตะแง้วๆน่ารักดี
“แง่งงง เฮียย ปล่อยว้อยยยย จะตายแล้วๆๆๆ”
“เอาให้ตายเลยมึง !!! ไอ้เป็ดด๋อยเอ้ยยย”
“แกว๊กกกกกกกกกกกกกกกก”
“ฮ่าๆๆๆๆ ป่ะกลับหอกัน เดี๋ยวจะสอนใช้ถุงยาง”
“เฮียยย … ยังไม่เรียนวันนี้ได้ปะ”
“กลัวไร ใช้ไม่ยาก มานี่อย่าหนี จะได้เป็น”
“เฮีย .. ม่ายอ้าวววววววววววววววว”
“มานี่ !!! อย่าหนีกูนะไอ้เป็ด”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
“หึหึหึหึหึหึหึหึ คิดหรอว่าจะรอด !!”
“เฮียยยยย จะสอนทำไมวะ ไม่อยากเรียนแล้วโว้ยยย”
“อย่าฝัน ! มึงเสร็จกูแน่ !!!”
“จ๊ากกกกกกกกกกกกก”
ผมกลั้นขำเต็มที่ แม่งจะกลั้นไม่อยู่แล้วครับมองมันหน้านิ่วคิ้วขมวดก็ยิ่งขำ หึหึ ดูมันนั่งแกะถุงยางกับสวมไปที่กล้วยหอมลูกใหญ่ๆที่ผมอุตส่าห์ไปซื้อมา
“ทำปากขมุบขมิบไรมึง สวมไวๆ อย่าดึงแบบนั้นเดี๋ยวมันเสื่อม”
“โอ้ยย อะไรเนี่ยเฮียแม่ง !!!”
“เอ้าก็สอนใช้ถุงยางไง นี่สอนอยู่ปะล่ะ”
“ก็นึกว่า …”
“นึกว่าไร”
“เปล๊า ! ไม่นึกแล้ว”
“คิดหื่นๆอ่ะดิมึง”
“ม่ายว้อยยยย เอ้าสวมแล้วเนี่ย กล้วยจะปลิ้นเพราะโดนถุงรัดแล้วเนี่ย”
“อย่าถึงตรงปลายอย่างนั้นสิวะ แล้วขอบอ่ะคลี่ดีๆ เดี๋ยวหลุดนะมึง”
ผมแกล้งทำหน้าเคร่ง พูดเว่อร์เกินจริง แหมถุงยางจะให้บอบบางเอะอะดึงนิดหน่อยก็ขาด ยืดนิดนึงก็รั่วป่านนี้คงท้องกันทั้งประเทศแล้วครับ มันก็มีหรอกไอ้วิธีใช้ถูกต้องเนี่ย แต่อารมณ์คนมันจะเสียบคงไม่มีใครมานั่งบรรจงค่อยสอดค่อยๆใส่หรอกครับ
“อ้ะ เสร็จแล้วกล้วยห่อ !! ผ่านยังเฮียเบื่อแล้วอ่ะ”
“ไปดูหนังกันมะ ?”
“ไม่ไปห้องเฮีย !!!”
มันตาเบิ่งตกใจ ส่ายหน้าแรงๆ เหล่มองกล้วยในมือแล้วก็รีบวาง โอ้ยแม่งขำว่ะ มันคงคิดว่าดูหนังแล้วก็เลยตามเลยหรือไง เด็กหนอเด็ก ฮ่าๆๆๆ
“ไปดูในโรงโว้ย ไปเปล่า”
“งั้นก็โอเค ป่ะไปกันเฮีย เลือกหน้าโรงเนาะ”
“อือ ป่ะ”
เราสองคนก็เดินกันออกจากร้านนมไปห้างใกล้ๆ เลือกหนังฆ่ากันตายทั้งเรื่องมาเรื่องหนึ่งไอ้เป็ดมันบอกแนวมัน มันชอบ มันปลื้ม เออเอากับมันผมยังไงก็ได้
แต่พอเข้าไปดูสักพักมันก็เริ่มเบื่อ ยิงห่าไรกันนักหนา ไอ้เป็ดมันก็มือนึงล้วงข้าวโพดตาก็จ้องแป๋วดูจอเลือดสาด เออแนวมันจริงๆนั่นแหละ แต่มันไม่ใช่แนวผมเลย ทั้งโรงก็มีดูอยู่ห้าคน ผมกับมันสองคน ที่ข้างหน้าถัดไปสี่แถวอีกสามคน สุดท้ายผมก็เอนตัวนอนพิงไหล่มันนั่นแหละ
“อ่าว เฮียไม่สนุกหรอ”
“เห็นเลือดแล้วรู้สึกเวียนๆหัว”
อ้างไปงั้น ถ้าเพื่อนผมอยู่คงพากันด่าว่าตอแหลลงตับจริงๆก็อยากซบไหล่ไอ้เป็ดมัน กลิ่นตัวมันหอมอ่อนๆดี
“อ่าว ออกก็ได้นะเฮีย”
“ไม่เอา มึงอยากดู ดูไปขอกูหลับแบบนี้แล้วกัน”
“โอเค ไม่ไหวก็บอกนะเฮีย”
“อือ”
ผมก็ซบมันไปตลอดเรื่องนั่นแหละ ไม่ได้หลับหรอกครับ แอบม้วนผมมันเล่นมั่ง เอามือมันมาหอมมั่ง มันก็ครางงุ้งงิ้งไม่ได้ว่าอะไร ผมก็หันไปจูบคอมันเบาๆ มันก็เอียงคอหนีทำหน้าตกใจ หึหึ แค่นี้ก็พอแล้ว หาเศษหาเลยกับแฟนตัวเองนี่มันสนุกดีว่ะ
ดูหนังเสร็จก็สี่ทุ่มแล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันครับ ผมก็แค่ยิ้มๆ มันก็ยิ้มๆ มีแค่มือเราที่จับกันไว้ ผมก็ไม่ปล่อย มันก็ไม่ดึงออก ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนแค่ ถึงจะแค่จับมือแต่มันโคตรฟินเลยว่ะ !
- -----------------------------
มันหวานขึ้นแล้ว -..- หึหึ เฮียหลงเป็ด
ปล . นิยายใกล้จะมาถึงท่อนปลายแล้วนะคะ 5555
- ------------------------------
ศัพท์ประจำตอน
Horror : แปลว่า ความกลัวที่แฝงไปด้วยความรู้สึกแย่
หรือที่เรารู้จักกันในควายหมายของคำว่า 'สยองขวัญ' นั่นเองค่ะ
หลายๆคนบอกว่า พวกหนังเฮอเร่อนี่เป็นพวกหนังผี แต่จริงๆมันรวมถึงพวกหนักฆาตกรรมได้ด้วยนะคะ พวกฆาตกรโรคจิตอะไรแบบนี้
ปล . เป็นคำนามนะจ๊ะ ลองเอาไปใช้กันดู ^^