บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 43 “คู่รัก”
โอ้...เธอ ทำให้ฉันรู้จักความรักที่ไม่มีเหมือนใครใดได้มามีเธอนั้นเป็นคนให้หัวใจอยากให้เธอรู้ แต่ไม่รู้จะขอบคุณ ไม่รู้ทำอย่างไรไม่รู้ว่าสิ่งไหนจะยิ่งใหญ่ควรค่าพอที่ฉันได้จากเธอ ได้รักโดยไม่ต้องขอได้รู้โดยไม่ต้องรอ ว่ารักคืออะไรได้รู้โดยไม่ต้องรอ ว่ารักคืออะไร
ตอนสายของวันรุ่งขึ้นกฤษตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ทั้งที่เมื่อคืนนี้เขาได้ใช้เรี่ยวแรงไปไม่ใช่น้อยเลยจนกระทั่งเช้าของวันนี้ เขาตื่นขึ้นมาโดยไม่ได้แสดงอาการงัวเงียแม้แต่น้อย ใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็ระลึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน อีกทั้งเขาได้ทำอะไรบ้างเมื่อคืนที่ผ่านมา
กฤษยังคงคิดไปว่าตัวเองฝันไป รอยยิ้มกว้างเต็มไปด้วยความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้า เมื่อเห็นหนุ่มน้อยนอนอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง เขามีความสุขมากเสียจนไม่สามารถหุบยิ้มลงได้ กฤษอยากให้หนุ่มน้อยนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดของเขา แล้วก็ตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเขาทุกๆ วัน เขากอดหยกแนบแน่นเพื่อซึมซับความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจากการได้นอนกอดคนรัก
กฤษรู้สึกมีความสุขจนไม่อยากจะลุกขึ้นจากที่นอน เขารู้สึกเหมือนตัวกำลังลอยจนคิดว่า นี่คือความฝันหรือเปล่า แต่จะให้เขานอนกอดหยกทั้งวันคงจะทำไม่ได้ เขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียง แม้จะอาลัยอาวรณ์แค่ไหนก็ตาม เขาหอมแก้มหยกทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว และจูบหยกที่ยังไม่มีท่าทีจะรู้สึกตัวตื่นสักที
สภาพเตียงนอนที่ยับยู่ยี่จากการกรำศึกของเขาและคนรัก มีกลีบดอกกุหลาบช้ำกระจายเต็มไปทั่ว กฤษหยิบกลีบดอกไม้ที่ติดตามผิวคนรักออกรวมรวมนำไปทิ้งถังขยะ วันนี้เขาตั้งใจปล่อยให้หยกได้นอนเต็มที่ ส่วนตัวเขาก็อาบน้ำเตรียมตัวไปขอพี่แชริมใช้ห้องครัวทำอาหารเช้าให้กับหยก เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีทำโน่นทำนี่ เดินคิดแผนการต่างๆ ที่เขาจะทำให้หยกในวันนี้อย่างสุขใจ
จนล่วงเลยเวลาถึงช่วงบ่ายของวัน หนุ่มน้อยจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หยกนอนนิ่งพียงสักพักหนึ่งเพื่อให้สติกลับมา รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยตามร่างกายมีอาการเมื่อยขบและเจ็บหน่วงๆ ในบางที่เมื่อขยับตัว หนุ่มน้อยลืมตานอนนิ่งๆ บนเตียงทบทวนสิ่งที่ผ่านมาเมื่อคืน หยกครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ด้วยสีหน้าเป็นกังวล และเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของสองครอบครัวทั้งเขาและคนรัก
สุดท้ายหยกได้ให้ข้อสรุปกับตัวเองว่า วันเวลาข้างหน้าชั่งมันเถอะ สู้วันนี้เก็บเกี่ยวเวลาแห่งความสุขในตอนนี้ไว้ก่อนดีกว่า เรื่องอื่นๆ ค่อยคิดทีหลัง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดอยู่กับความสุขในแต่ละวัน เพราะอย่างไร วันหนึ่งความทุกข์เหล่านั้นก็มาถึงอยู่ดี ทำไมจะต้องทุกข์ไปล่วงหน้า วันนี้หยกยังมีโอกาสที่จะมีความสุขนี่นา หยกถอนหายใจยาวก่อนจะยิ้มออกมาเพื่อเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง
หยกมองไปด้านข้างที่กฤษนอนเมื่อคืน มันยังคงมีร่องรอยบ่งบอกว่าเขานอนอยู่ข้างๆ หยก เมื่อหันไปที่หมอนที่เขานอน ตาของหยกเบิกโตด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างเต็มไปด้วยความสุขที่เจือปนไปด้วยความเขินอาย หัวใจเต็มไปด้วยความหวามไหวความปิติค่อยเอ่อล้นเต็มหัวใจเมื่อหยกเห็น ช่อกุหลาบสีขาวน่ารักวางอยู่บนหมอนแทนตัวเขาพร้อมกับการ์ดรูปหัวใจสีแดง
หนุ่มน้อยเอื้อมมือไปหยิบช่อดอกไม้ด้วยขึ้นมาดมด้วยความปลื้มใจ สีแดงระเรื่อค่อยๆ กระจายเต็มสองแก้มนุ่มเมื่ออ่านข้อความในการ์ด “แด่...น้องหยก ผู้ครอบครองหัวใจของพี่กฤษเพียงคนเดียว” หนุ่มน้อยไม่รู้ว่าความเขินอายที่เกิดขึ้นทำไมถึงมากมายขนาดนี้ หยกถึงกับไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย
แก้มของหยกยังร้อนผ่าวๆ ใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เมื่อหันไปมองช่อดอกไม้แสนน่ารัก ทำให้นึกถึงเจ้าของดอกไม้และเหตุการณ์เมื่อคืนทำให้หยกไม่สามารถหยุดความรู้สึกที่มันเต็มตื้นหัวใจได้เลย หยกวางช่อดอกไม้ไว้บนเตียงก่อนที่หยกจะเข้าไปอาบน้ำด้วยอารมณ์ที่เบิกบานมากๆ
เมื่อดูแลตัวเองเรียบร้อย หยกถือโอกาสเดินหาแก้วมาใส่ดอกไม้แทนแจกันที่ไม่มีในห้องพัก เมื่อหยกเดินออกมาที่ระเบียง บนโต๊ะอาหารเล็กๆ ที่ปูด้วยผ้าสีขาวลายลูกไม้สะอาดตามีชามเล็กพร้อมจานรองวางจัดชุดอยู่ ใกล้กันนั้นมีชามกระเบื้องสีขาวมีฝาปิดใบใหญ่ตั้งอยู่ข้างๆ เมื่อเปิดออกดูข้างในจึงพบว่ามีข้าวต้มทะเลกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ ชามกระเบื้องค่อนข้างหนาข้าวจึงยังร้อนน่ากิน หรือสงสัยจะผ่านการอุ่นมาหลายครั้ง
หยกทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะเอื้อมมือไปตักข้าวในโถมาใส่ชามใบเล็กมาทาน รสชาติข้าวต้มที่จำได้ว่าเป็นฝีมือของกฤษ หยกนั่งกินข้าวไปมองคลื่นทะเลซัดทรายหาดด้านล่างอย่างอารมณ์ดี รู้สึกกำลังสบายใจ และเปี่ยมสุขอย่างมากมายบอกไม่ถูก จนมองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด
มันทำให้หยกเจริญอาหารเป็นพิเศษทานได้ถึงสองชาม เมื่ออิ่มแล้วหยกจึงนั่งเล่นซึมซับอากาศสบายๆ ตรงระเบียงห้องพักที่เต็มไปด้วยความสดชื่นจากลมทะเล หนุ่มน้อยรู้สึกสบายใจ ผ่อนคลายจากอาการปวดหัวเมื่อครู่ที่มีอยู่หายเมื่อไหร่ไม่รู้ หยกนั่งมองทะเลด้วยความเพลิดเพลินทอดอารมณ์อย่างเป็นสุข ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ
เด็กหนุ่มสะดุ้งเพียงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงแขนแข็งแรงสองข้างรัดเข้ามาที่เอวกิ่ว ศีรษะหนักๆ วางเกยลงมาที่บนบ่าบอบบาง แม้ไม่ต้องหันไปมองดูหยกก็รู้ว่าใคร หนุ่มน้อยแก้มแดงระเรื่อเมื่อถูกกฤษหอมแก้มหนักๆ ทั้งซ้ายขวา พร้อมแรงกอดกระชับแน่นขึ้น
“ชอบดอกไม้ของพี่ไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มของคนรักกระซิบถามอยู่ข้างใบหูเข้ามาในโสตสัมผัส หนวดเคราที่เพิ่งได้รับการโกนสร้างสัมผัสสากบางเบาบนแก้มนวล กลิ่นกายหอมกรุ่นของชายหนุ่มทำให้ใบหน้าร้อนลุ่มจนแดงซ่าน หนุ่มน้อยก้มหน้าลงด้วยความขัดเขิน ก่อนตอบเบาๆ
“ชอบครับ มันน่ารักมากเลย” หนุ่มน้อยตอบแสนสั้น แก้มยังคงแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ชายหนุ่มผละจากหนุ่มน้อย อ้อมมาคุกเข่าลงด้านหน้าหยกก่อนจะจับมือรวบทั้งสองข้างขึ้นมาจูบกระชับริมฝีปากลงตรงหัวแหวนสีเขียวอ่อน แล้วยกมือข้างหนึ่งของหนุ่มน้อยมาแนบแก้ม
“น้องหยกครับ พี่กฤษขอโทษนะครับที่เมื่อคืนนี้ทำให้หยกต้องเหนื่อย แล้วก็เจ็บตัวหลายรอบ ในชีวิตพี่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ นะครับ” ชายหนุ่มออดอ้อนด้วยเสียงนุ่มหวาน คนตัวใหญ่พูดจบประโยคหนุ่มน้อยก็หน้าแดงด้วยความเขินอาย หนุ่มน้อยรู้สึกขัดเขินมากจนต้องหลุบตาลงเพื่อลดความประหม่า หยกแทบไปต่อไปไม่ได้ จึงไม่เห็นคนรักที่เงยหน้ามามองหนุ่มน้อยด้วยอารมณ์ขำปนประหม่าไม่แพ้กัน หยกเองก็แทบทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน
“ถ้ามีแบบ...เอ่อ...หลายๆ ครั้ง เหมือนเมื่อคืนนี้ หยกก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับพี่กฤษ” หนุ่มน้อยเอ่ยอย่างเก้อเขินก่อนที่เขาจะเงียบไปครู่ใหญ่ เมื่อไม่มีเสียงตอบจากคนตัวโตที่พูดไม่ออกเช่นกัน ก็เพราะอายมากๆ ด้วยกันทั้งคู่ ทำไมความรู้สึกต้องการตักตวงความวาบหวามซึ่งกันและกันถึงส่งถึงกันได้มากมายถึงเพียงนี้
จะให้หยกตอบรับว่าจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกหรือตอบรับว่าไม่เป็นไรก็ไม่ได้อีก คนบ้าพูดมาได้ไงนะอย่างนี้หยกจะตอบได้ยังไงเล่า หนุ่มน้อยคิดในใจอย่างขัดเขิน คนรักช่างพูดไม่รู้จักคิด เห็นหนุ่มน้อยเงียบไปเขาจึงโพล่งขึ้นมาอีกว่า
“แต่ทุกอย่างที่ทำลงไป ก็เพราะมาจากความรักที่มีให้กับหยกมากมายเหลือเกินนะครับ” กฤษจูบไปที่ฝ่ามือเนียนนุ่มของหนุ่มน้อยที่แนบแก้มเขาอยู่ ลำแขนโอบกอดกระชับไปรอบสะโพกของคนรัก แนบใบหน้าซุกลงบนหน้าท้องแบนรายของหนุ่มน้อย เขานิ่งไปอึดใจก่อนที่เขาเงยหน้ามองหยกอีกครั้งด้วยสายตาที่จริงจัง
“พี่ดีใจที่ยกตกลงมาเป็นภรรยาของพี่จริงๆ ไม่ได้ฝันเลื่อยลอยห่างไกลเกินจนเอื้อมไม่ถึง อาจจะดูเหมือนมันรวดเร็วจนเกินไป แต่พี่คิดว่าหยกเองก็รักไม่แพ้พี่เหมือนกัน แม้ในความเป็นจริงตอนนี้เราจะพบกันแค่ไม่กี่วัน แถมความสัมพันธ์ของเราจะไม่ถูกต้องตามประเพณี แต่พี่ไม่คิดย่อท้อจะพยายามทำให้หยกภาคภูมิใจในตัวพี่ให้ได้นะครับ พี่ขอให้หยกอดทนและเชื่อใจพี่นะครับ” ชายหนุ่มออดอ้อนหนุ่มน้อยก่อนที่จะแนบหน้ากับตักคนรัก
“วันนี้คุณป้าโทรมาหาตอนหยกหลับ หยกอยู่...กับพี่กฤษนะครับอย่าเพิ่งหนีไปไหน อยู่กับพี่นานๆ นะครับ พี่รอหยกมานานทั้งชีวิตกว่าจะมีวันนี้ แล้วนี่ไม่รู้ว่าหยกจะต้องกลับอเมริกาเมื่อไหร่ แล้วการไปหาหยกที่นั่นขั้นตอนก็ไม่ใช่ง่ายๆ ชักไม่อยากให้หยกกลับไปที่นั่นเลย พี่คงคิดถึงหยกเหลือเกิน” ชายหนุ่มจูบมือหนุ่มน้อยด้วยความรู้สึกใจหายวูบโหวง มันวาบเข้าสู่หัวใจที่ดูเหมือนจะแข็งแกร่งแต่กลับเต็มไปด้วยความอ่อนไหวหวาดหวั่น
เมื่อนึกว่าอาจจะต้องห่างจากหยกข้ามทวีปเขาคงแทบขาดใจ ด้วยวันนี้มีโทรศัพท์จากอเมริกาโทรมาหาคนรักที่รับอยู่ เขาเป็นคนรับสายและทราบว่าคุณป้าของหยกกำลังเป็นห่วงที่ไม่ได้โทรไปคุยเกินข้ามวัน แม้ตอนนี้หนุ่มน้อยได้ฟังก็รู้สึกถึงความตื้นตันที่เอ่อล้นเข้ามาสู่หัวใจน้อยๆ ของคนรัก เมื่อรับรู้ว่าเขารักหยกมากแค่ไหน ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นถึงหัวใจเต็มตื้นไปด้วยความยินดีจนใจพองโตลืมเลือนเรื่องต่างๆ ไปหมด
แม้เขาจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาที่ไม่มีฐานะในสายตาใครๆ ก็ตามแต่ หยกก็ภาคภูมิใจในตัวเขาเสมอมาตั้งแต่แรกเจอ แม้วันนี้สถานะภาพของทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปแต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือความชื่อชมในตัวเขา และความรักที่หยกมีให้มันมากขึ้น จนวันนี้เป็นความหนาแน่นจนยากที่จะมีอะไรจะมาแยกจากกันได้ หนุ่มน้อยลูบหัวชายหนุ่มที่อยู่บนตักของหยก
“ไม่เป็นไรนะครับพี่กฤษ รับรองว่าหยกจะอยู่กับพี่กฤษที่นี่ ยังไงตอนนี้หยกก็เป็นคนของพี่กฤษแล้ว เราหาโอกาสไปหาคุณป้าของหยกที่อเมริกากันไหมครับ แล้วไปบอกท่านว่าหยกเป็นภรรยาพี่กฤษแล้ว ท่านเป็นคนใจดี ท่านรักและเลี้ยงดูหยกใกล้ชิดมากกว่าพ่อแม่ของหยกเสียอีก หยกคิดว่าท่านต้องเข้าใจแน่ๆ ต่อจากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะไม่พรากจากกัน สัญญาสิครับ” หนุ่มน้อยขอคำสัญญาจากชายหนุ่ม
“ครับผม พี่ให้สัญญา” ชายหนุ่มผู้มีสีหน้าเศร้าหมองเมื่อรู้ว่าวันเวลาที่จะต้องห่างไกลอาจจะมาถึง รับปากสัญญากับหยก เขาพยายามปรับสีหน้า และอารมณ์ให้ดีขึ้นเพราะไม่อยากให้หยกต้องเป็นทุกข์ กฤษมีสีหน้าสบายใจขึ้นหยกรับรู้ความรักของเขา ชายหนุ่มคิดอย่างสบายใจในเรื่องนี้ อย่างน้อยตอนนี้เขาพยายามไม่อยากจะคิดอะไรมากนักในวันที่ต้องจากกันยังมาไม่ถึง ในวันดีๆ อย่างนี้เป็นวันที่หายากสู้มาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ กับหยกไว้ดีกว่า เมื่อคิดได้ดังนี้ชายหนุ่มก็เลยลุกขึ้นจากตักของหนุ่มน้อย ก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ กระซิบข้างหูของหนุ่มน้อยเบาๆ
“งั้นวันนี้เรามาร่วมสร้างความทรงจำดีๆ กันเถอะครับ” ชายหนุ่มยืนขึ้นก่อนจะจูงหยกให้ลุกขึ้น พาคนรักไปอาบน้ำพร้อมกัน เขาชักชวนหยกไปไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล แต่ที่หนุ่มน้อยไม่รู้คือชายหนุ่มพาหนุ่มน้อยไปไหว้พระเพราะคิดว่าจะไปขอพรให้เขาและหยกมีความสุข กฤษเช่ารถที่ดรงแรมมาใช้ด้วยความช่วยเหลือของพี่แดนนี่ เนื่องจากวันนี้เป็นวันฮันนีมูน เพื่อนๆ จึงไม่มีใครมารบกวนช่วงเวลาที่ควรเป็นของคู่รัก
หยกและเขาแต่งตัวสบายๆ ด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ทั้งคู่ เขาพาคนรักไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดเขาตะเกียบ ซึ่งกฤษถือว่าวันนี้เป็นวันดีของการเริ่มต้นชีวิตคู่ของเขาและหยกจากนี้ตลอดไป นั่นคือสิ่งเขาคิดแต่หยกไม่รู้ความในใจของเขา วันนี้เลยถือว่าเป็นวันพิเศษ กฤษกับหยกเลยแวะที่โน่นที่นี่เที่ยวเล่นไปเรื่อย บรรยากาศรอบตัวของทั้งสองคนอบอวลไปด้วยความสุข กระทั่งเวลาเย็นมากจึงได้เวลาที่จะต้องกลับโรงแรมที่พัก
เมื่อทั้งสองกลับถึงโรงแรมหยกล้มตัวลงนอนที่เก้าอี้นอนเล่นอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะคนตัวบางไม่ค่อยได้ออกกำลังกายมากนัก จึงมีอาการเหนื่อยล้าเกิดขึ้นได้ง่าย กฤษเห็นท่าทางของหยกแล้วอาสานวดให้กับหนุ่มน้อย หยกจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดตัวบางและกางเกงขาสั้นสบายๆ หยกได้หมอนวดฝีมือดีอย่างกฤษทำให้ขาหยกผ่อนคลายหายเมื่อย และเคลิ้มหลับไปไม่รู้ตัว
ตื่นมาอีกทีตอนใกล้ค่ำแล้ว พร้อมกับอาหารที่เสร็จเรียบร้อยบนโต๊ะริมระเบียงที่เดิม กลางโต๊ะมีช่อดอกไม้สีหวายล้อมโคมแก้วที่มีเปลวเทียนอยู่ด้านใน ด้านข้างมีรถเข็นที่มีถังแชมเปญขวดโตแช่อยู่ในน้ำแข็ง ในบรรยากาศแบบนี้ดูแล้วใกล้เคียงกับคำว่าโรแมนติกมากด้วยอุปกรณ์การทานอาหารเต็มโต๊ะ แตกต่างที่อาหารบนโต๊ะกลับเป็นอาหารทะเล ที่เวลากินต้องใช้มือแกะ เพียงเพราะคนตัวใหญ่อยากเอาใจคนรักด้วยการแกะเปลือกอาหารทะเลให้ แต่ใช้อุปกรณ์ไม่เป็น เลยไม่มีทางที่จะโรแมนติกไปได้เลย
แต่หยกก็คิดว่าเขาสร้างบรรยากาศได้ดูน่ารักดี อาหารมื้อนี้ผ่านไปอย่างสนุกสนานหนุ่มน้อยแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรนอกจากเป็นฝ่ายรอให้หนุ่มคนรักจัดการทุกอย่างให้จนเสร็จ รวมไปถึงตัดเค้กรูปครึ่งวงกลมสีเหลืองเคลือบด้วยเจลลี่แวววาวประดับไปรอบๆ ด้วยผลไม้สดหลากสีสันป้อนให้เป็นของหวาน เขาบริการหยกด้วยการเอาอกเอาใจเล่าเรื่องตลกให้หยกฟัง หยกเจริญอาหารมากๆ จนคิดว่าถ้าอยู่กับกฤษที่เมืองไทยนี่นานๆ ไม่แคล้วหยกคงอ้วนขึ้นมากแน่ๆ
หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านไป ทั้งสองคนมานั่งเอนรับลมทะเลที่ระเบียงอีกฝั่งเพื่อพักผ่อน หนุ่มน้อยนอนอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนรัก เขาและหยกนั่งฟังฟังเสียงคลื่นเงียบๆ ด้วยกัน ท่ามกลางความมืดแต่มีเพียงแสงเทียนจากภายในห้องส่องสว่างลางๆ เพราะทั้งสองคนต้องการปิดไฟเพื่อซึมซับบรรยากาศเงียบสงบเวลากลางคืน หนุ่มน้อยรู้สึกเพลียก็พลิกตัวเบาๆ ก่อนเอ่ยท่ามกลางความเงียบ
“พี่กฤษอึดอัดหรือเปล่าครับ หยกว่า...ให้หยกไปนั่งที่เก้าอี้ตัวโน้นดีกว่าไหมครับ พี่กฤษจะได้นั่งสบาย” หนุ่มน้อยขยับหันหน้ามาทางคนรัก หยกอยู่บนตัวเขาพลิกตัวหยุกหยิกเพราะนอกจากตัวเองก็รู้สึกง่วงนิดหน่อย หยกกลัวว่าจะหลับพิงร่างคนรักแล้วกฤษจะหนัก แม้เจ้าตัวจะไม่มีทีท่าแต่อย่างใดก็ตาม
“หยกเมื่อยหรือครับ” กฤษถามเมื่อเห็นตัวหยกหยุกหยิกไปมา หยกเงยหน้าสบตาเขาแล้วส่ายหน้าตอบเพียงเบา เพราะวันนี้กฤษพาหยกเดินเที่ยวไปหลายที่ แถมความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการรับศึกหนังบนเตียงเมื่อคืน อีกทั้งได้รับการปรนเปรอไปด้วยอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นดี ตอนนี้ร่างกายจึงพร้อมที่จะเตรียมพักผ่อนเต็มที่ คนตัวใหญ่จึงก้มหอมแก้มหนุ่มน้อย
“พี่นั่งตรงนี้สบายดีแล้วครับ แต่ถ้าหยกขยับตัวไปมาอย่างนี้ เดี๋ยวน้องพี่ก็ตื่นพอดีกัน” ชายหนุ่มหยอกล้อคนรักด้วยดวงตาแพรวพราวอยู่ในความมืด หนุ่มน้อยตัวแข็งทื่อไม่กล้าหยุกหยิกอีกเลย ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังกับความน่ารักของหยก
หยกทุบเขาเป็นพัลวันด้วยความหมั่นไส้ ชายหนุ่มยิ่งหัวเราะดังขึ้นไปอีกในขณะที่มือก็ปกป้องตัวเองไปด้วย เขาจับมือหนุ่มน้อยไว้เพื่อสองข้างเพื่อให้หยกหยุด แต่กลับกลายเป็นร่างกายส่วนล่างของเขาเองที่กำลังจะตื่น บางอย่างดิ้นรนระริกระรี้เสาะหาที่อยู่ที่เหมาะสมกับตัวมันเอง เพราะแรงดิ้นรนเสียดสีการหยอกเย้า ดังที่กล่าวว่าเมื่อคนรักอยู่ใกล้กัน ก็เหมือนน้ำมันใกล้กับไฟเกิดไฟลุกพรึบพรับกันขึ้นได้ง่ายๆ
ชายหนุ่มมองหนุ่มน้อยด้วยดวงตาฉ่ำเยิ้มเต็มไปด้วยไฟพิศวาส หนุ่มน้อยที่นอนคว่ำอยู่กับอกกว้างของเขารู้สึกสะท้านถึงความในจากดวงตาที่จ้องมองอยู่ รับรู้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของส่วนขยายแน่นตรงเป้าเบื้องล่างของคนรัก มันดุนดันขึ้นจนรู้สึกได้ตรงหน้าท้องของหยกเอง และทุกอย่างช่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
หยกกำลังจะดิ้นรนออกจากตัวเขาแต่มันช้าไปเสียแล้ว ชายหนุ่มจับตัวหนุ่มน้อยยกขึ้นเล็กน้อย เขาขยับตัวหยกให้อ้าขาลงค่อมลงบนตักของเขา จับมือทั้งสองข้างของหนุ่มน้อยให้มาเกี่ยวที่คอเขาไว้ก่อนจะก้มลงฉกไปที่ริมฝีปากของหยกอย่างรวดเร็ว เหยื่ออย่างหยกไม่ทันไหวตัวก็ถูกเขารัดจนดิ้นไม่หลุด หนุ่มน้อยเสียท่าเขาเสียแล้ว เขากักหยกไว้ในอ้อมแขน เหมือนงูรัดเหยื่อ รอที่จะกินเหยื่อลงท้องอย่างใจเย็น จนกว่าจะอิ่มหนำสำราญ
หนุ่มหล่อประคองท้ายทอยของหนุ่มน้อยเพื่อไม่ให้หยกดิ้นไปไหน ลิ้นของเขาค่อยไล้เลียริมฝีปากของหยก เลาะเล็มไปรอบๆ ปากบางอย่างใจเย็น จูบที่ดูดดื่มพร้อมเรียวลิ้นเปียกร้อนที่เกี่ยวกระหวัดจนให้ความรูสึกอุ่นซ่านไปทั้งร่าง เขาใช้มืออีกข้างค่อยๆ คืบคลานเข้าไปที่ขาอ่อนของหนุ่มน้อยลูบไล้ผิวเนียนเรียบลื่นอย่างพึงพอใจ
ขณะที่ริมฝีปากของเขาครอบครองหนุ่มน้อยด้วยความหนักหน่วงขึ้นที่ละน้อย ลิ้นหนาของเขาแหย่เข้าไปในปากคนรักส่งเข้าไปทักทายหยอกเย้าลิ้นของหยกที่ตอบรับเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ มือที่ไม่อยู่สุขของเขาไต่เข้าไปถึงถุงเนื้ออ่อนของหนุ่มน้อย หยกสะดุ้งเบาๆ ด้านนอกที่ยังมีชั้นในบางๆ ขวางกั้นอยู่ แต่มันกลับทำให้หนุ่มน้อยรู้สึกวาบหวิวจนต้องสยิวกายจนขนตั้งชัน
ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงความร้อนแรงที่เพิ่มขึ้นจนแข็งเป็นลำของหนุ่มน้อย มันทำให้เขาย่ามใจถึงกับใช้ปลายนิ้วผลักกางเกงในของหยกออกไว้ด้านข้าง ก่อนจะใช้ฝ่ามือสอดเข้าไปด้านในเพื่อกอบกุมส่วนแข็งขืนภายในของหยก ทำให้ตัวถึงกับครางอู้และดิ้นเร้าอยู่ภายในอ้อมกอดของคนตัวใหญ่
นิ้วหนาชอนไชเข้าไปข้างในอย่างช้าๆ เนิบๆ กดเคล้านวดคลึงไปตามส่วนต่างๆ ทั่วทั้งลำยาวขนาดพอดีมือ โดยเน้นส่วนปลายที่ยังมีหนังนุ่มบางๆ หุ้มอยู่ครึ่งมันไวต่อความรู้สึกถูกเขาใช้ปลายนิ้วชี้คลึงเบาๆ ส่วนนั้นกระตุกวูบหลั่งน้ำหล่อลื่นเป็นตัวช่วย มันให้สัมผัสจากปลายนิ้วของหนุ่มหล่อหมุนวันรอบหัวบานได้คล่องขึ้น แต่มันกลับเพิ่มความเสียวซ่านให้กับหนุ่มน้อยจนทนแทบไม่ไหว
หยกถึงกับระบายออกด้วยการดูดลิ้นของเขาเพื่อเป็นการระบายความเสียว ทำเอาชายหนุ่มคนรักถึงกับครางอู้ทีเดียว เขาจึงโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ด้วยการรูดรั้งหนังหุ้มส่วนปลายลงมา และกดนิ้วยาวขยี้เบาๆ ลงตรงหัวบานที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำหวานเพื่อตอบโต้หยกอย่างไม่ยอมกัน
เกมรักเริ่มขึ้นอีกครั้งตรงระเบียง พร้อมเสียงครางสอดประสานในยามค่ำคืนอันเงียบสงบ ทั้งคู่ต้องอยู่ในห้วงภวังค์ของเสน่หา ราตรีนี้มีเพียงเสียงคลื่นและลมทะเล และแรงลมหายใจที่หนักหน่วงของคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ดังก้องไปทั่วระเบียง คู่รักไม่ต้องกลัวว่าจะไปรบกวนโสตประสาทของใคร เพราะระเบียงแต่ละห้องไม่สามารถมองเห็นกันได้ ด้วยมุมที่ถูกออกแบบในการหลีกเลี่ยงสายตารบกวนจากห้องข้างๆ