บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: บาปรัก...บาปบริสุทธิ์♥นิยายรักหื่นเซ็กเศร้าเอาฮา ตอนพิเศษ (9) หน้า 89 (24-02-14)  (อ่าน 915402 ครั้ง)

ออฟไลน์ vista054

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
หงะเลือดหมดตัว 

ขอไปนอนให้เลือดที่โรงพยาบาลก่อน

555555

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
เพิ่ง เข้ามาอ่าน ชอบมาก สนุกมากเรยยย

มาต่ออีกเยอะๆนะฮะ

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
หยกเก่งหรือคนเขียนเก่งกว่ากันแน่เนี่ย เหอๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ matilda.taon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอตัวไปโรงพยาบาล เลือดหมดตัวแล้ว :haun4: :haun4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
 :m25: :m25: :m25:
มาถึงบั๊ปก็เก็ยแต้มฮันนีมูนเลยนะพี่กฤษ

nut28phat

  • บุคคลทั่วไป
สลบคากองเลือดนองหน้าจอ
พี่กฤษคะ ซื้ออะไรให้หยกใช่ไหมเอ่ย แหวนแน่เลย...(แอบทาย)
รักกันจริงๆ แถมแสดงความรักกันแบบนี้สุดยอดเลยค่ะ
ขอให้คำรักที่พรํ่าบอกต่อกันมั่นคงพอที่จะฟันฝ่าอุปสรรคและมาม่าไปได้
 

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 35 “กรหยก”
«ตอบ #339 เมื่อ16-01-2012 00:21:59 »

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 35 “กรหยก”
คอยแกล้งเธอทุกวันอยากรู้ว่าเราผูกพันแค่ไหน ถ้าเธอยังงอน ถ้ายังน้อยใจ แสดงว่าเธอยังรักกัน คอยแกล้งเธอเท่าไร ให้รู้หัวใจตรงข้ามทั้งนั้น แลกง้อเธอคนเดียว เชื่อมความสัมพันธ์ ง้อเธอคนเดียว ถึงงอนทุกวัน รักเธอคนเดียว รักเธอทุกวัน ไม่งั้นจะง้อเธอทำไม

          ผมกับพี่กฤษอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้น แล้วลงมาเดินเล่นข้างล่างรอคนอื่นๆ ผู้คนบางตาด้วยเวลาเย็นอย่างนี้ เราจับมือเดินเคียงคู่กัน ด้วยเท้าเปล่าไปตามชายหาดยามตะวันตกดิน สุดปลายสายตาที่แลเห็นมีเพียงน้ำจรดฟ้าคราม  คลื่นลมคร่ำครวญแผ่วหวานยามสนธยา แสงสีทองที่กำลังจะลาลับไปกระทบกับผิวน้ำเป็นเปลวทองระยับระยิบสะเทือนไหว เจ้าปลาตัวนิดๆ ฝูงเล็กๆ ที่กระโดดโลดระเริงอยู่เหนือผิวน้ำนั้นเกล็ดทองของมันสะท้อนเป็นประกาย

          ฝ่าเท้าที่ย่ำสัมผัสกับพื้นทรายละเอียดอุ่นๆ รู้สึกสบาย สัมผัสอันเปลือยเปล่าหยาบระคายนี้ซุกซ่อนความบริสุทธิ์จริงใจไว้อย่างยากที่จะบรรยาย สายลมโอนอ่อนระเรื่อย พลอยทำให้เราทั้งคู่เคลิ้มไปกับบรรยากาศ เราทั้งคู่กำลังมีความสุข ไม่ต้องพูดคุยกัน มีเพียงมือที่จับประสานใจสองดวงของเราเอาไว้

          ไม่นานก็เจอน้องพลอยที่ยังอยู่ในชุดเดิม กำลังนอนพักอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบใต้ร่มคันใหญ่คนเดียว ไม่ห่างกันนักพี่ทองและคุณมาร์ทกำลังพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ใบหน้าของพี่ทองมีเพียงรอยแดงจางๆ ไม่น่ากลัวเหมือนตอนกลางวันนี้ สงสัยจะได้คนดูแลดี

           “พี่กฤษครับ พี่ทองไปโดนอะไรมาเหรอ” ผมอดสงสัยไม่ได้เพราะจำได้ว่า พี่กฤษเป็นคนขึ้นไปตามพี่ทองในห้องแล้วก็หัวเราะลั่น เหมือนขำที่ใบหน้าพี่ทองเป็นแบบนั้น

           “หึหึ ทองมันเอาครีมกัดสีผมมาพอกหน้าน่ะสิ เค้าเอาไว้กัดสีผมให้เป็นสีอ่อน มันคงอยากจะทำผิวขาวจนไม่ทันคิดดีนะไม่เข้าตา...ไม่งั้นมีหวังตาบอด” พี่กฤษยังคงขำเบาๆ แต่ผมเห็นว่ามันอันตรายมาก ทำไมพี่ทองถึงทำอะไรไม่คิดให้ดีก่อน ดังที่พี่กฤษพูดก็จริง ถ้าพลาดพลั้งเข้าตาอาจจะบอดก็ได้

           “คุณกฤษ คุณหยก มานั่งด้านนี้ก่อนสิครับ แดนกับแชริมกำลังคุยกับฝ่ายห้องจัดเลี้ยงงานวันพรุ่งนี้อยู่น่ะครับ” คุณมาร์ทชวนพวกผมไปนั่งที่เก้าอี้ว่างด้านข้าง คงเสียงดังจนน้องพลอยตื่นขึ้นมา ลุกขึ้นนั่งแล้วยิ้มทักทายให้กันอย่างอารมณ์ดี บรรยากาศที่นี่เหมาะแก่การพักผ่อนดีจริงๆ

           “รับเครื่องดื่มอะไรดีค่ะ มีน้ำมะตูม น้ำส้ม น้ำอัดลมให้เลือกค่ะ” พอผมกับพี่กฤษนั่งเรียบร้อยบนเก้าอี้ยาวตัวเดียวกันพนักงานสาวสวยก็เดินเข้ามาเสิร์ฟน้ำ ผมกับพี่กฤษใจตรงกันเราหยิบน้ำมะตูมมาดื่มคนละแก้ว แล้วกล่าวขอบคุณพนักงาน

           “พี่ทองอาการดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ยังแสบแผลอยู่หรือเปล่าครับ” ผมถามออกไปด้วยความห่วงใย เพราะเห็นหน้าตาที่สดใสขึ้นกว่าเดิมมากของพี่ทอง คิดว่าคงไม่มีอาการแสบร้อนแล้ว และเห็นเจ้าตัวยังมีอารมณ์ยิ้มแย้มสดใสขึ้นกว่าเดิม

           “ก็ไม่แสบหน้าแล้วล่ะ ต้องขอบคุณที่ได้คุณมาร์ทมาช่วยดูแล ไม่งั้นผมแย่ๆ เลยครับ” พี่ทองที่พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มดูน่าฟัง อีกทั้งยังมีกริยาที่ต่างจากเดิม ทำให้ผมพอเดาได้ว่าคงสงวนท่าทางเพื่อสร้างภาพลักษณ์กับหนุ่มอิตาลี่คนนี้

           “หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวสิไม่ว่า ทำอะไรไม่คิดระวังให้ดีเหอะ” น้องพลอยที่คงจะรู้เรื่องแล้วเหมือนกันแขวะเข้าให้มาลอยๆ โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าคนที่พูดพาดพิง พี่ทองถึงกับหุบยิ้มทันทีจนผมเละพี่กฤษ รวมถึงคุณมาร์ทต้องขำออกมาเบาๆ ท่าทางน้องพลอยจะเป็นห่วงพี่ชายมากเหมือนกัน

           “อ้าว...กำลังจะให้พนักงานโทรขึ้นไปตามบนห้องพอดีเลยครับ ไม่นึกว่าจะอยู่ที่นี่กันครบ” พี่แดนนี่ที่เดินมากับพี่แชริมร้องทักพวกเรา ทั้งคู่ถามไถ่อาการของพี่ทองแต่พี่มาร์ทดันตอบคำถามแทนพี่ทอง ว่าไม่เป็นอะไรแล้วคืนนี้ล้างแผลให้อีกรอบก็จะไม่ตกสะเก็ด เราทุกคนพลอยอมยิ้มที่ดูคุณมาร์ทจะมีทีท่าห่วงใยพี่ทองเป็นพิเศษ

           “งั้นเราไปเดินเที่ยวกันเถอะจะได้ไปหาอะไรทานกันด้วย เริ่มหิวกันรึยังคะ” พี่แชริมดื่มน้ำส้มที่รับมาจากพนักแล้วก็พูดขึ้นมา เราทุกคนจึงลุกขึ้นเดินเข้าไปในโรงแรมเพื่ออกไปด้านหน้า รอรถที่พนักงานไปรับมาให้เพียงไม่นานก็ขับออกมาถึงตลาดจักจั่น หรือซิคาด้า มาร์เก็ต

          พวกเราเดินเล่นทานอาหาร แล้วก็ชมการแสดงกันจนค่ำ ผมสอนพี่กฤษใช้ฟังก์ชั่นถ่ายรูปจากกล้องในมือถือกันอย่างสนุกสนาน ทริปนี้ไม่มีอะไรพิเศษส่วนใหญ่จะแยกกันเดินเป็นคู่ มีเพียงน้องพลอยที่เดินตามพี่ชายอยู่ไม่ห่าง จนพี่กฤษที่ดูออกว่าพี่ทองอยากจะเดินเคียงข้างพี่มาร์ทกันสองต่อสอง จึงเดินเข้าไปบอกให้น้องพลอยเดินกับเราทั้งคู่ก็ได้

           “พลอยเดินกับพี่มาร์ทพี่ทองนี่แหล่ะค่ะ เดี๋ยวมีคนคิดว่าพี่สาวหนูเป็นเมียเช่าฝรั่ง แล้วถ้าเข้าหูเจ๊แกนะคะ หึหึ...มีหวังตลาดแตก พี่กฤษยังจำได้ใช่ไหมคะ ให้หนูเดินรวมกันสามคนนี่ล่ะค่ะ...ดีแล้ว” น้องพลอยบอกเหตุผลให้ผมกับคนรักฟังแล้วเดินตามคู่นั้นไป พี่กฤษก็ได้แต่ขำจนผมสงสัยว่าจำได้เรื่องอะไรกัน

           “พี่กฤษ พี่ทองทำไมเหรอ เล่าให้ฟังหน่อย” ผมถามขึ้นหลังจากแยกกับน้องพลอย พี่กฤษชวนผมมานั่งที่เก้าอี้ยาวริมทางเดิน ความจริงถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ทองจะไม่อยากรู้ แต่เหตุการณ์นี้คาดว่าทั้งคนรักของผม และน้องพลอยคงอยู่ในเหตุการณ์ด้วยแน่ๆ ดูจากสีหน้าจริงจังของน้องพลอยแล้วคงจะเป็นเรื่องใหญ่เอาการ

           “ก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่ทองมันโดนเข้าใจผิดน่ะ คือ...ลูกค้าฝรั่งผู้ชายพาเด็กขายตัวเป็นผู้ชายมาพักที่โรงแรม แล้วทองมันก็ไม่ยอมให้เด็กขายตัวขึ้นไปนอนกับแขก บอกว่าที่โรงแรมเค้าไม่ช่านรูด เด็กคนนั้นดันบอกว่ารู้ว่าทองมันคิดจะจับฝรั่งคนนั้นเอง หวังจะขายตัวเป็นอาชีพเสริมเลยกันท่าไม่ยอมให้เค้าขึ้นไป” พี่กฤษเล่าไปสายตาก็มองดูผู้คนไปเรื่อย

           “เท่านั้นเองมีตบกันกลางโรงแรมจนแขกหนีกระเจิงไปหมดเลย พี่กับน้องพลอยต้องมาช่วยกันเคลียร์จนเด็กขายตัวยอมกลับไป แถมฝรั่งคนนั้นดันหล่อจนทองมันเผลอตัวแสดงอาการชอบจนคนอื่นจับได้น่ะ แต่บางครั้งเวลามีฝรั่งพักที่โรงแรม ก็จะมีบางคนมาถาม เหมือนคิดว่าทองมันเป็นเด็กขายตัวค่อนข้างบ่อยเหมือนกันนะ” พี่กฤษเล่าให้ฟังเรื่อยๆ เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ โดนลูกค้าเข้าใจผิดแบบนี้ก็ลำบากใจเหมือนกันนะ แต่ท่าทางพี่ทองจะเป็นคนไม่ยอมคนอื่นเฉพาะเวลาโกรธหรือเปล่า ปกติก็ดูน่ารักดีนี่นา

          พี่กฤษอาสาไปซื้อไอศกรีมมาทานเป็นของหวานเพราะอากาศค่อนข้างร้อน โดยให้ผมนั่งรออยู่ที่นี่คนเดียวเพื่อจองที่เอาไว้ด้วย ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินปรี่มายืนข้างผมที่ยังนั่งอยู่ ผู้ชายคนนี้ตัวค่อนข้างสูงทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง หน้าตาหล่อดูตี๋ๆ ตาโศกสวมแว่นตาแฟชั่นสีฟ้า ผมตั้งสมัยนิยม ผิวขาวรูปร่างสูงใหญ่ เค้าก็ยิ้มมาให้แต่ผมทำเป็นไม่เห็นต้องรีบก้มหน้าลง รู้ตัวทันทีว่าตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของชายหนุ่มคนนี้

           “สวัสดีครับ ขอผมนั่งด้วยคนได้ไหม เดินคนเดียวนี่มันเมื่อยเร็วนะครับ” ผมต้องเงยหน้ามองชายหนุ่มหน้าตี๋สวมแว่นไม่หนามาก ก่อนส่ายหน้าไม่อนุญาตให้เขานั่งลง เพราะคิดว่าอีกสักครู่พี่กฤษก็จะกลับมานั่งด้วยอยู่แล้ว ที่นั่งตรงนี้ไม่ว่างแต่ยังไม่ทันได้อธิบาย

           “เอ่อ...คุณ” หนุ่มตี๋ตาโศกคนนี้ไม่สนใจที่ผมส่ายหน้าให้ กลับทรุดตัวลงมานั่งข้างๆ ผมเฉยเลย แถมยังยกเท้ามาไขว่ห้าง ผายมือกางแขนไปข้างหลังจนผมต้องนั่งตัวตรงขึ้นมาเพราะไม่แน่ใจว่าชายคนนี้กำลังจะทำอะไรกันแน่ และท่าทางคงจะไม่คิดแค่นั่งพักเฉยๆ แน่นอน

           “มาเที่ยวคนเดียวเหรอครับ” นอกจากจะหน้าด้านแล้วยังจะมาชวนผมคุยอีก ผมทำท่าจะลุกขึ้น แต่คิดในใจว่าถ้าชายคนนี้ลุกเดินตามขึ้นมาจะทำอย่างไร สู้คุยให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่า หากคิดมาจีบกันคงจะต้องบอกไปให้รู้ว่าหัวใจผมไม่ว่างเสียแล้ว

           “ป่าวครับผมมากับแฟน เค้าไปซื้อไอศกรีมมาให้ผมอีกสักครู่คงจะกลับมา” ผมตอบไปทันทีจนคนข้างๆ มีอาการอึ้งเพียงเล็กน้อย แต่ปากรูปกระจับสีแดงสดนั้นกลับเผยอยิ้มให้แบบไม่สะทกสะท้าน แถมยังยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้อีก

           “ผมมากับคุณพ่อครับ พ่อผมมาประชุมที่นี่เรื่องขยายกิจการโรงแรมในเครือ ผมเห็นคุณพักโรงแรมเดียวกับผมด้วย” ผมได้แต่เงียบเพราะไม่อยากชวนคุยเท่าไรแล้ว ในใจก็ภาวนาให้พี่กฤษเดินกลับมาหาเร็วๆ จะได้ไปจากตรงนี้เสียที

           “ผมเพิ่งจะมาเที่ยวที่นี่เป็นครั้งแรกครับ อ้อ...ดีใจจังที่ได้เจอคนน่ารักๆ อย่างคุณ...” หนุ่มตี๋คนนี้ยังทำท่าเหมือนอยากจะให้ผมบอกชื่ออกไปอีก ช่างไม่รู้สถานการณ์เอาเสียเลย ผมกำลังจะลุกออกไปจากที่นั่งตรงนี้ พี่กฤษไปนานเหลือเกินจนผมคิดว่าไม่อยากนั่งรอเฉยๆ เสียแล้ว

           “ผมชื่อ เจ ครับผม ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณกรหยกนะครับ” นายเจจับมือผมขึ้นมาเขย่าทักทายแบบฝรั่ง ผมได้แต่อึ้งที่เค้ารู้จักชื่อผมได้ยังไง และไม่ได้มีความคิดอยากจะบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักเค้าเลยสักนิด เพราะไม่คิดจะฝืนใจตัวเองจนต้องสะบัดมือที่ยังจับมือผมค้างเอาไว้ให้หลุดออก คนคนนี้ทำตัวน่ากลัวสำหรับผมเสียแล้ว ผมรีบเดินออกไปจากที่นั่งโดยไม่หันกลับไปมองแล้วสอดส่ายสายตามองหาพี่กฤษ

          พี่กฤษยืนอยู่ใต้ต้นไม้ฝั่งทางเดินอีกด้าน กำลังมองมาที่ผมเหมือนกัน ในมือถือไอศกรีมสองข้างแต่ดูท่าทางจะถือนานแล้วเพราะไอศกรีมละลายรดมือทั้งสองข้าง จนหยดย้อยลงบนพื้นหญ้า สีหน้าพี่กฤษดูจะไม่พอใจเอามากๆ คงจะเห็นเหตุการณ์อยู่สักพักแล้วแน่ๆ

           “พี่กฤษมายืนทำอะไรตรงนี้ ปล่อยให้หยกรอตั้งนานนะครับ” ผมรีบเดินเข้าไปหา แต่พี่กฤษไม่ได้สนใจมองผมเท่าไร กลับจ้องเขม็งไปมองหนุ่มตี๋คนนั้นจนคิ้วขมวดเข้าหากัน คนรักของผมเหมือนยังไม่รู้ตัวว่าไอศกรีมที่ซื้อมาละลายเลอะมือจนหมดแล้ว

           “พี่กฤษไอศกรีมละลายหมดแล้วครับ” ผมเตือนคนรักที่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ตรงนี้ จนคนตัวใหญ่เอาไอศกรีมไปโยนทิ้งลงในถังขยะข้างๆ แล้วสะบัดมือแรงๆ ให้เศษไอศกรีมที่เลอะอยู่หลุดลงถังขยะไปด้วย แถมยังทำท่าจะเดินตรงไปหาชายคนนั้นอีก

           “พี่กฤษ...จะไปไหนครับ” ผมต้องฉุดแขนคนรักเอาไว้ เพราะท่าทางของพี่กฤษเหมือนจะไปหาเรื่องคนคนนั้น และใจผมนั้นไม่อยากให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตที่นี่ อีกทั้งผมยังเกรงใจพี่แดนกับพี่แชริมที่พาพวกเรามาเที่ยวพักผ่อนกันแท้ๆ หากมีเรื่องเพียงเพราะผม ทริปนี้คงไม่มีความสุขกันแน่ๆ

           “มันเป็นใคร แล้วคุยอะไรกัน ทำไมต้องจับมือกันด้วย” พี่กฤษหันมาถามผมทันที หน้าตายังดูเคร่งเครียด เหมือนไม่พอใจที่เห็นผมนั่งคุยอยู่กับผู้ชายแปลกหน้า พี่กฤษหึงผมแน่ๆ ลึกๆ แล้วแอบดีใจแต่ตอนนี้อยากจะให้คนรักของผมใจเย็นๆ ก่อน เพราะท่าทางดูจะเป็นคนโมโหร้ายน่าดู เห็นจากอาการที่พยายามจะเข้าไปหาเรื่องหนุ่มตี๋คนนั้นแบบนี้แล้ว ยังว่างใจไม่ได้

           “พี่กฤษครับ เค้าแค่ขอมานั่งพักแล้วชวนหยกคุย แต่หยกไม่ได้คุยอะไรเลยจริงๆ ครับ พอเค้าพูดมากเข้าหยกก็เดินหนีออกมาหาพี่กฤษนี่ไง” ผมรายงานคนรักไปตามความเป็นจริง พร้อมกับเข้าไปเกาะแขนหนาแกว่งเบาๆ จนคนตัวใหญ่ก้มลงมามองหน้าผมที่กำลังส่งสายตาอ้อนวอนให้หายโกรธเสียที

           “ก็ได้...พี่ไม่ยุ่งกับมัน ถ้ามันไม่เข้ามายุ่งกับหยกอีก” พี่กฤษเดินหนีผมออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว จนถึงที่จอดรถ จนผมต้องวิ่งตามไปเพราะไม่คิดว่าคนรักจะหึงแรงได้ขนาดนี้ ทำท่าเหมือนยังโกรธอยู่ไม่หาย จนผมกลัวว่าหากทุกคนกลับมาเจอแล้วจะพลอยคิดว่าเราโกรธกันอยู่ก็ได้

           “พี่กฤษ...คือ...หยกขอโทษ ต่อไปหยกจะไม่คุยกับผู้ชายคนอื่นอีกแล้ว ทำยังไงพี่กฤษถึงจะหายโกรธล่ะครับ” ผมเริ่มใจไม่ดีเพราะเห็นคนรักยังทำท่ามึนตึง จนผมต้องรวบข้อมือหนาทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเขาข้างเดียว พี่กฤษยิ่งนิ่งด้วยอารมณ์ทั้งโกรธ ตรงนี้ค่อนข้างไม่มีผู้คน มีแต่รถที่จอดซ้อนกันอยู่หลายคัน

           “จุ๊บ...หายโกรธหยกนะครับ” ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงยืดตัวขึ้นไปหอมแก้มคนรักที่ทำหน้าเคร่งเครียดอยู่อย่างนั้น พี่กฤษคงไม่ทันตั้งตัวจึงทำตาโตมองผมเพียงแวบเดียว ก็กลับมาทำสีหน้าเฉยเมยเหมือนเดิม แถมยังหันหลังให้ผมอีก ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วที่ทำไมถึงยังงอนได้มากมายขนาดนี้

           “พี่กฤษ...จะให้หยกทำยังไง บอกหยกสิครับ พี่กฤษถึงจะหายโกรธหยก” ผมทนไม่ไหวแล้ว ไม่ชอบความอึดอัดแบบนี้เลยจริงๆ จึงต้องดึงแขนคนรักให้หันกลับมา ซึ่งเจ้าตัวยังขืนตัวไว้ไม่มีท่าทีว่าจะยอมหันมาหาผมง่ายๆ เลยใช้ไม้ตายเข้าไปโอบกอดจากด้านหลังจนคนตัวใหญ่มีอาการสะดุ้งเล็กน้อย

           “งั้นหยกโทรไปบอกพี่แชริมว่าเราขอกลับก่อน แล้วก็ไม่ต้องออกไปเที่ยวผับด้วยคืนนี้ พี่อยากกลับโรงแรมแล้ว” พี่กฤษยังทำเสียงแข็งสั่งผม จนต้องพยักหน้ารับหงึกๆ อยู่ที่แผ่นหลังคนรักแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะไปเที่ยวไหนแล้วเหมือนกัน

           “พี่แชริมครับ หยกกับพี่กฤษขอตัวไปพักที่โรงแรมก่อนนะ พอดีหยกไม่ค่อยสบาย...อ๋อ ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ แค่เพลียนิดหน่อย...ครับ งั้นคืนนี้หยกไม่ไปเที่ยวนะครับ ครับ...พรุ่งนี้เจอกันครับ” ผมโทรไปบอกพี่แชริมตามคำสั่งของสุดที่รักเรียบร้อยแล้ว พี่กฤษก็หันมามองหน้าผม

           “เราเดินกลับแล้วกันนะ ที่นี่ไม่ไกลจากโรงแรมมากเท่าไร” พี่กฤษพูดจบก็เดินนำหน้าผมไป เราเดินมาสักพักก็ถึงโรงแรม ระยะทางทำให้ได้ออกเหงื่อมาเหมือนกัน พี่กฤษยังไม่พูดไม่จาจนขึ้นลิฟต์เดินเข้าห้องไปแล้ว ผมอึดอัดใจจริงๆ ไม่อยากให้พี่กฤษคิดมาก เพราะผมไม่ทันระวังตัวเองปล่อยให้คนอื่นมาจับมือแล้วจีบต่อหน้าแฟนตัวเอง สมควรแล้วที่ต้องโดนคนรักโกรธ

           “เฮ้อ...พี่กฤษ ให้หยกทำยังไงครับ หยกอยากให้พี่กฤษหายโกรธเสียที บอกหยกหน่อยนะครับ” ผมถอนหายใจมองแผ่นหลังกว้างของคนรักที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง แล้วเดินเข้าไปนั่งข้างๆ กอดท่อนแขนกำยำไว้แนบตัวเอาศรีษะพิงไหล่หนา อ้อนวอนขอความเห็นใจ

           “หยกจะทำทุกอย่างที่พี่ขอเลยหรือเปล่า หยกสัญญานะครับ หึหึ...” พี่กฤษทำเสียงเข้มถามออกมาจนผมรีบพยักหน้าเพราะคิดว่าพี่กฤษคงให้ผมสัญญาว่าจะไปให้ใครเข้ามายุ่มย่ามได้อีก  แต่สุดท้ายผมได้ยินเสียงพี่กฤษหัวเราะเบาในลำคอ ทำให้รู้ว่าโดนพี่กฤษหลอกเข้าให้แล้ว

           “พี่กฤษ...หัวเราะอะไร ตกลงนี่โกรธหยกจริงหรือเปล่าเนี่ย” ผมเริ่มเสียงดังด้วยความไม่พอใจ รีบลุกทำท่าจะเดินหนี แต่กลับโดนคนรักดึงแขนจนเซล้มตัวลงมานั่งที่เดิมแล้วยังกอดกระชับตัวผมไว้แน่น แถมเอาใบหน้าเข้ามาซุกไซร้ตรงซอกคอให้ผมสยิวจนขนลุก จากนั้นก้ใช้คางตัวเองวางบนบ่าผม

           “พี่ไม่ได้โกรธหยกเลยครับ แต่พี่โกรธไอ้นั่น มันกล้ามาจีบแฟนพี่แถมยังจับมือแฟนพี่อีก ถ้าหยกไม่ห้ามพี่จะเข้าไปกระทืบมันแล้ว” พี่กฤษพูดเสียงเบาๆ ข้างหูผมจนต้องบิดตัวหนีด้วยความจักกะจี้ ท่าทางพี่กฤษจะหึงโหดอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย ดีนะที่ผมตัดสินใจห้ามไม่ให้พี่กฤษไปปะทะกับหมอนั่น ไม่อย่างนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่

           “หยกสัญญาแล้วนะ ว่าจะทำทุกอย่างให้พี่หายโกรธ หึหึ” พี่กฤษพูดจบก็อุ้มผมขึ้นอย่างรวดเร็วจนต้องผวากอดคอคนแข็งแรงเอาไว้ด้วยความตกใจ นี่ผมกำลังโดนพี่กฤษแกล้งอีกแล้วแน่ๆ เลย พอได้สติก็เริ่มดิ้นขัดขืน แต่กลับโดนท่อนแขนกำยำของคนรักรัดตัวไว้ให้แน่นขึ้นจนแทบขยับไม่ได้

           “พี่กฤษปล่อยหยกก่อน ขี้โกงนี่นา จะทำอะไรหยกเนี่ย...พี่กฤษ” ผมร้องออกมาเพราะขยับตัวไม่ได้ แล้วเจ้าตัวก็กำลังอุ้มผมเดินเข้าไปทางห้องน้ำอีกด้วย ไม่อยากให้นึกเลยว่าจะโดนทำอะไรที่สามารถทำให้พี่กฤษอารมณ์ดีได้ในนั้น เมื่อกลางเย็นผมยังระบมไม่หายเลย คนอะไรแรงดีชะมัด

          “ก็จะให้หยกอาบน้ำให้พี่ไง ในนี้มีอ่างจากุซซี่ด้วยนะแถมผนังกระจกยังเห็นวิวทะเลอีก ไม่ได้เอากับเมียในทะเลไม่เป็นไร ขอลองเอาในอ่างจากุซซี่ชมวิวทะเลกลางคืนแทนแล้วกันนะครับ ดีกว่าที่เคยฝันเอาไว้ตั้งเยอะแน่ะ” พี่กฤษทำหน้าหื่นใส่ผมแล้วยังจะพูดจาทะลึ่งตึงตังเข้าให้อีก นี่สงสัยคืนนี้ผมคงต้องมาร่วมสร้างความฝันของพี่กฤษให้เป็นความจริงอีกกี่รอบกันเนี่ย เฮ้อ...คิดแล้วก็ปลง ต้องยอมไปเพราะดิ้นขัดขืนไปก็ไม่มีทางรอด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 02:36:30 โดย AxCiO@ToToKeN »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 35 “กรหยก”
« ตอบ #339 เมื่อ: 16-01-2012 00:21:59 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
หนุกๆ พี่เจรู้ชื่อหยกได้ยังงัยน้าา มาต่ออีกเร็วๆนะฮ๊าฟ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
อรั๊ยยยยยยยยยยยยยยย
 :a5:
อิเจแอบโรคจิตนี่หว่า
ตบกบาลให้
 :beat:
ดันมาทำให้น้องหยกชั้นโดนจัดหนักเลย

ที่ว่าเนี่ยไม่ใช่ไม่ชอบนะ
 :z1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
พี่กฤษพูดจาทะลึ่งจริงๆ แต่ก็ชอบ ฮ่า ฮ่า เป็นใครมาพูดกับเราแบบนี้คงเขินเอาหน้ามุดดินหนีแน่ๆ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
กฤษหื่นว่ะ กลางวันก็จัดไปแล้วนี่ยังมีการกลับมาจัด(หนัก)กลางคืนอีก :z1:
มีคนมาทำท่าทางแบบนั้นใส่เป็นใครเขาก็กลัวทั้งนั้นหละคุณ(ไอ้)เจ o18

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
อร๊ายยยยยยยยยยยยย น้องหยก
รับศึกหนักแน่ๆ    :m20: :laugh:
พี่กฤษดีใจด้วยนะ ความฝันเป็นจริงแล้ว

ออฟไลน์ matilda.taon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หยก ไม่น่ารั้งพี่กฤษเลย น่าจะให้ไอ้พี่เจโดนต่อย  :m31:

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป
พี่หยกจะไปห้ามทำไม พี่กฤษถ้าเจอไอ้เจเจบ้าบอคอแตกอะไรนั้นอีกอ่ะ กระทืบมันเดี๋ยวหนูช่วย  :angry2: :angry2: ฉากในห้องน้ำกระจกใส เหอะๆคิดแล้ว o13 o13

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่อคิดว่าอะไรที่แท้ก็จะมาสานฝันวันเด็กนี้เอง
เจมันรู้ชื่อหยกได้ไงเนี๊ย
ท่าจะเป็นลูกคนใหญ่คนโตเนอะ
เหมือนไปสืบมาแล้วอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ujen

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-13
พี่กฤษหื่นได้ใจจริงๆ :laugh:

 :L2: :L2:

Ilesa

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้อ่าน
พี่กฤษหื่นตลอดเวลา สงสารหยก

ออฟไลน์ lidelia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-1
พี่กฤษนี่แรงดีไม่มีตกจริงๆ สงสารหยก  :laugh: :laugh:


nut28phat

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดฝันที่เป็นจริงของพี่กฤษ
ดีใจด้วยนะคะแถมหรูกว่าเยอะเลย o13
ท่าทางจะได้ทำการค้นฟ้าคว้าฝันกันทั้งคืนแน่ๆ :-[(แอบเหนื่อยแทนหยกพรุ่งนี้จะมีแรงไหมนี่)
ว่าแต่เจนี่ใครกัน
รู้ชื่อหยกด้วย
งานนี้ได้เห็นพี่กฤษหึงโหด :m31:แหงแซะ
รอติดตามตอนต่อปาย

PotaeMunmun

  • บุคคลทั่วไป
"โอ้ยยยย ทำให้หัวใจพองโตอีกแล้ว"  ขอบคุณครับ  o13

ออฟไลน์ charapin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เลือดท่วม รอตอนต่อไปคร้าบ

ออฟไลน์ taran

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 325
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แล้วคนชื่อเจรู้จักหยกได้ไงเนี้ย ลางร้ายเริ่มมาแล้วไง

แต่ระหว่างนั้น ไปแอบดูในอ่างจากุชชี่ดีกว่าว่าจะกี่กระบวนท่า  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

พี่กฤษทะลึ่งดี ชอบ ฮ่าดีด้วย ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ น้องหยกก็น่าแกล้งน่าหยอกใช้น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ กิ้วววววววววววว

เจ๊ทอง พยายามเข้านะ สู้ ๆ เจ๊พี่มาร์ทเขาแสดงออกขนาดนั้น เจ๊ก็อย่าปล่อยให้หลุดมือนะจ้า  ฮิ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ Vesi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +204/-3
หนุ่มตี๋คนนั้นคือใครกัน
ป้าทองเมื่อไหร่จะเผด็จศึก 555555

JipPy

  • บุคคลทั่วไป

totoken

  • บุคคลทั่วไป
บาปรัก...บาปบริสุทธิ์ 36 “ทองหล่อ”
เวลาเธอกอดคอ เล่นหยอกล้อกันอยู่ทุกวัน หัวใจมันสั่น ฝันละเมอคิดไปไกล เธอไม่เคยจะรู้ เพื่อนที่ดูแลเธอทุกวันข้างกาย เค้ามีบางสิ่ง คิดไม่ซื่อกว่าเพื่อนกัน

          ผมชื่อทองหล่อ หรือใครๆ ก็เรียกผมสั้นๆ ว่า “ทอง” มาตลอด อันที่จริงผมเป็นเกย์สาวแต่จะแสดงออกต่อหน้าคนสนิทเพียงเท่านั้น หากใครที่ไม่สนิทด้วยผมก็จะทำตัวปกติ คุณพ่อคุณแม่ของผมเป็นคนไทยแท้ ผมและน้องสาวจึงมีหน้าตาที่คมเข้ม ท่านเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรัฐใจกลางกรุงเทพฯ โชคดีที่ใครๆ ก็ชมว่าผมและน้องสาวหน้าตาดีเหมือนคุณพ่อคุณแม่ คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าผมเจ้าชู้เพราะเปลี่ยนคนคบด้วยบ่อยๆ แต่ความจริงแล้วใครจะรู้ว่าผมกำลังตามหารักแท้มาตลอดชีวิต

          ช่วงชีวิตในวัยเด็กที่ผ่านมาของผมนั้น ผมเป็นเด็กกล้าแสดงออก เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ผมชอบคบหาผู้คนมากมาย และเป็นที่เอ็นดูของคนรอบข้าง แล้วชีวิตผมก็ถึงจุดเปลี่ยนในช่วงวัยรุ่น ในวันนั้น วันที่ผมไปเที่ยวประจำปีของมหาวิทยาลัยที่คุณพ่อคุณแม่ผมสอนอยู่ คราวที่เราไปเที่ยวอัมพวา แล้วผมก็มี...รักแรกพบครั้งแรกในชีวิต

          เมื่อผมได้พบเค้าในครั้งแรก เค้าคนนั้นกำลังช่วยคุณยายขายน้ำตาลสดและน้ำตาลมะพร้าว ผมสะดุดในความใสซื่อ บุคลิกภาพที่ดูบ้านๆ ของเด็กคนนั้น หากเค้าไม่ได้ใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงนักเรียนสีกากีซีดแบบนั้น ผมคิดว่าเค้าคงจะดูดีขึ้นมากหลายเท่าหากได้แต่งตัวดีๆ เค้าเป็นเด็กหน้าตาดีถึงขั้นดีมาก ผมชวนคุณแม่เข้าไปซื้อน้ำตาลสดไม่ใช่เพราะอยากกิน แต่อยากเข้าไปหาเค้าใกล้ๆ เท่านั้นเอง

           “ขอน้ำตาลสดถุงหนึ่งสิจ้ะ อ้อ...น้ำตาลมะพร้าวถุงเท่าไรจ้ะหนู” คุณแม่ผมเป็นคนถามเด็กชายคนนั้นที่ผมยังจ้องมองไม่ว่างตา คาดว่าอายุน่าจะไม่เกินสิบห้าสิบหกปีดูรุ่นราวคราวเดียวกับผม แต่ความสูงของเค้านี่มากกว่าผมพอสมควร แม้เค้าจะยังนั่งอยู่ก็ตาม

           “น้ำตาลมะพร้าวถุงละสี่สิบบาทครับ ผมทำเองกวนเองเลยนะครับ รับรองว่าทั้งสดแล้วก็สะอาดด้วยครับ รับกี่ถุงดีครับ” เด็กชายลุกขึ้นพูดขายของอย่างคล่องแคล่ว นอกจากหน้าตาดีแล้วรูปร่างยังดีอีกด้วย อายุเพียงแค่นี้แต่ดูมีมัดกล้ามเหมือนคนออกกำลังกายอย่างหนัก แถมยังสูงชะลูดอีกต่างหาก นี่ถ้าไปเรียนในกรุงเทพฯ คงมีสาวๆ ติดกันเป็นพรวน

           “หนูทำเองเลยเหรอจ้ะ เก่งจังเลย งั้นป้าขอสิบถุงเลยจ้ะ ลดได้ไหมเอ่ย” คุณแม่ชมเด็กชายคนนั้นแถมยังขอต่อราคาลงอีก ผมเห็นว่าของราคาถูกดีอยู่แล้ว แถมคนขายยังหน้าตาดีอีก ผมมัวแต่มองเด็กชายจนไม่ทันเห็นคุณยายที่กำลังหยิบน้ำตาลสดในกระติกใส่น้ำแข็งยื่นมาให้ผมค้างอยู่อย่างนั้น จนคุณแม่ต้องรับไปแทน

“คุณแม่ครับ...ราคาถูกอยู่แล้วยังจะไปต่อเค้าอีกทำไมล่ะครับ นี่ทั้งหมดแค่สี่ร้อยบาทเอง” ผมเห็นน้ำตาลวางอยู่สิบถุงพอดี คิดว่าถ้าเราเหมาหมด เค้าคงจะได้มีความสุขที่ขายของหมดเร็ว ไม่ต้องมานั่งทนขายของกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่แบบนี้ที่นี่นานๆ

           “ไม่เป็นไรครับ ผมแถมน้ำตาลสดให้สี่ขวดเลยดีไหมครับ” เด็กชายยังยิ้มหวาน ผมเห็นแล้วแทบจะละลายไปกับรอยยิ้มของคนตรงหน้าไปเสียทันที คนอะไรหน้าตาก็ดี แถมยิ้มแต่ละทีโลกทั้งใบเหมือนจะหลอมละลายเสียให้ได้ในตอนนั้น ความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามาทั้งอยากรู้จัก อยากคบเป็นเพื่อน อยากจะมาที่นี่อีก อยากเห็นเค้ายิ้มแบบนี้ให้ผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ความคิดวุ่นวายออกมาอย่างมากมายในตอนนี้ จนหัวใจและสมองปั่นป่วนไปหมดแล้ว

          หลังจากวันนั้นผมมัวแต่เฝ้าฝันถึงหนุ่มคนนั้น จนถึงวันสุดสัปดาห์ก็รบเร้าขอคุณพ่อคุณแม่ให้พาไปเที่ยวที่นั่นอีกบ่อยๆ จนเริ่มสนิทกับกฤษ เค้าคนนั้นชื่อกฤษกร เป็นเด็กขยัน กตัญญู และมีความซื่อสัตย์ แต่ค่อนข้างยากจน บางครั้งผมก็เอาเสื้อผ้าทั้งเก่าทั้งใหม่ไปให้กฤษ คุณแม่ท่านก็เห็นด้วย เพราะท่านชอบที่กฤษเป็นเด็กดี นานเข้าคุณพ่อคุณแม่ก็เบื่อที่จะไปอัมพวา จนผมถึงกับต้องนั่งรถตู้ประจำทางเดินทางไปหากฤษคนเดียว

          ผมทำแบบนี้มานานหลายปี โดยมีน้องพลอยสวย น้องสาวสุดแสบของผมที่รู้มาตลอดว่าผมไปทำอะไรที่นั่น พลอยคอยช่วยเหลือผมในการโกหกคุณพ่อคุณแม่ ตอนนั้นผมสนิทกับกฤษมาก เพราะกฤษขายของกับคุณยายทุกวันหยุด ส่วนวันธรรมดาก็ไปโรงเรียนแล้วรีบกลับมาช่วยคุณตาทำสวน ทำน้ำตาลมะพร้าวไปส่งร้านประจำ จนไม่มีเวลาว่างเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป

          ชีวิตวัยรุ่นของผมมัวแต่เสียเวลาหลงรักเพื่อนสนิทคนนี้ ผมใช้เวลาทั้งหมดที่พอจะหาได้ไปอยู่กับมัน จนจบมัธยมปลายผมก็แทบไม่มีเพื่อนสนิทที่กรุงเทพฯ เลยจนกระทั่งในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วย ผมเรียนต่อด้านธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว แม้เฝ้าเพียรพยายามโน้มน้าวให้กฤษเข้ามาเรียนต่อ หรือหางานทำในกรุงเทพฯ กฤษก็ปฏิเสธผมได้ทุกครั้ง อ้างว่าเป็นห่วงคุณตากับคุณยาย กฤษมีชีวิตที่น่าสงสาร โดยคุณพ่อทิ้งไปตั้งแต่เด็กแถมคุณแม่ก็เป็นบ้าเสียชีวิตไปตั้งแต่กฤษอยู่ชั้นประถม

          ทุกครั้งกฤษจะชวนผมไปนอนที่บ้านเวลาที่ผมไปหาที่อัมพวา หากแต่ผมไม่สะดวก เพราะบ้านกฤษไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย ผมจึงชวนกฤษมานอนด้วยกันที่โรงแรม แต่กฤษก็ไม่เคยอยู่ค้างด้วยเพราะเป็นห่วงคุณตากับคุณยาย พอเริ่มค่ำก็ขับมอเตอไซด์คันเก่าของคุณตากลับบ้านตลอด แต่แล้ววันหนึ่ง...ผมก็ต้องเสียใจที่สุดในชีวิต วันที่ผมเรียนจบแล้วขอคุณพ่อคุณแม่เปิดกิจการโรงแรมที่อัมพวา ด้วยเหตุผลที่มีเพียงข้อเดียว ผมอยากอยู่ใกล้ชิดกับกฤษ

          ในวันนั้นเราจัดงานเลี้ยงที่โรงแรมของผม มีเพื่อนคุณพ่อและคุณแม่มาร่วมฉลองกันมากมาย ผมและกฤษเราเมากันทั้งคู่ เพียงแต่ผมยังพอมีสติเหลือพอที่จะทำความต้องการ และความฝันของผมที่เฝ้ารอมาเกือบสิบปีให้เป็นความจริง ผมชวนกฤษค้างด้วยกันที่โรงแรมของผม กฤษตอบตกลงเป็นครั้งแรกเพราะค่อนข้างเมาและเป็นเวลาดึกมากพอสมควร

          แล้ว...ผมก็ทำสิ่งที่ต้องเป็นตราบาป และเกือบทำให้มิตรภาพขอผมกับกฤษพังทลาย ผม...ลักหลับมัน ทั้งที่ยังไม่ทันจะทำอะไรมากมาย เพียงแค่ลูบไล้กำลังก่อนจะปลดซิบกางเกง มันก็ถีบผมเข้าให้เต็มแรงจนตัวผมเองลอยตกลงไปด้านล่างของปลายเตียง ร่างกายกระทบกับฝาผนังห้องเสียงดังลั่น ทั้งเจ็บร้าว ทั้งจุกปวด ทั้งอับอาย และมากมายที่สุดคือความกลัว

          กฤษโกรธผมมากประกอบด้วยสายตาตัดพ้อแสดงความผิดหวังในตัวผม ผมร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อายตรงนั้น ยังไม่ทันจะได้อธิบายอะไร มันก็พรวดพราดออกจากห้องผมไป น้องพลอยโผล่หน้าเข้ามาประคองผมลุกขึ้นนั่ง ในตอนนั้น...ไม่มีแม้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นมาเองได้ ความเสียใจมันจุกแน่นอยู่ในอก ผมทำผิดพลาด ผม...ผมทำลายมิตรภาพที่ดีมาตลอดสิบปีของเราจนไม่เหลือชิ้นดี ผม...ผมทำอะไรลงไป ผมทำแบบนั้นทำไม...แค่การหักห้ามใจทำไมทำไม่ได้ ผมผิดหวังในตัวเองที่สุดในชีวิต

          ตอนนี้ความเสียใจจากความผิดพลาดครั้งนี้มันจุกขึ้นมาจนถึงลำคอ จนผมเริ่มหายใจไม่ออก...ผมอยาก...อยาก...ตาย ชายหนุ่มที่ผมแอบหลงรักมาตลอดชีวิต ชายหนุ่มที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิต เค้า...ทิ้ง...ผมไปแล้ว ผมทำให้เค้าทิ้งผมไปแล้ว ผม...ผมทำตัวเอง...ผมทำลายมิตรภาพของเราพังด้วยตัวของผมเองทั้งหมด

          ความเสียใจกลั่นออกมาเป็นน้ำตาหลั่งไหลออกมาต่อเนื่องเหมือนไม่มีวันจบสิ้น ผมกอดน้องพลอยแน่น ร้องไห้เหมือนคนบ้า รับรู้เพียงความรู้สึกเจ็บปวดภายนอกจากแรงถีบของเพื่อนรัก และความเจ็บปวดภายในหัวใจจากการกระทำของตนเอง ความผิดพลาดแล่นผ่านไปทุกอณูของร่างกาย น้ำตาที่ทั้งอุ่นและร้อนไหลอาบลงมาบนใบหน้า ประกอบกับเสียงสะอื้นอย่างหนักที่ทำให้ดูไม่เป็นผู้เป็นคน

          ผมร้องไห้ฟูมฟายนานหลายชั่วโมง โดยมีน้องสาวคนเดียวของผมช่วยปลอบประโลม ความคิดในสมองตอนนี้เริ่มว่างเปล่า จนกระทั่งเช้า...ผมให้น้องพลอยพากลับบ้าน ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมต้องสารภาพผิดกับคุณพ่อและคุณแม่ ผมอยากให้ใครสักคนที่พอจะช่วยผมดึงเพื่อนสนิทคนเดิมของผมกลับคืนมา และผมไม่มีความกล้าเพียงพอที่จะไปหาเค้าด้วยตนเอง

           “เผี๊ยะ...” เมื่อผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง แรงตบมหาศาลจากฝ่ามือบิดาผู้ให้กำเนิดฟาดเข้ามาอย่างจังบนใบหน้า แรงจนร่างของผมเซถลาด้วยความอ่อนเพลียอยู่แล้ว ผมล้มลงไปกองนิ่งกับพื้น...ความเสียใจถาโถมซ้ำเติมเข้ามาอีกระรอกใหญ่ น้ำตาผมไหลพร้อมกับอาการสะอื้นอยู่บนพื้นเย็นๆ ตรงนั้น ผมไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงกำลังจะขยับเขยื้อน ตอนนี้ใบหน้าของผมชาวาบมันรู้สึกแสบร้อนไปจนทั่ว หูผมไม่ได้ยินเสียงใดๆ เพราะแรงตบ สมองผมแทบไม่สั่งการว่ามีอะไรเกิดขึ้นรอบตัวต่อจากนี้

          รู้สึกตัวอีกทีร่างที่ยังมีชีวิตของผมมานั่งอยู่บนรถยนต์ของคุณแม่ ท่านพาผมไปที่บ้านของกฤษ คุณตาของกฤษเข้าไปในสวน ส่วนคุณยายท่านนอนพักอยู่ในห้องเพราะอาการป่วย คุณแม่ของผมคุยกับกฤษเพียงลำพัง โดยปล่อยให้ผมนั่งสะอื้นเสียใจภายในรถเพียงคนเดียว สำนึกผิดกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

          ไม่นานท่านก็กลับเข้ามาพาผมออกไปเจอกฤษ ผมเดินเหมือนคนหมดแรง และ...เมื่อผมเจอเพื่อนสนิทคนเดิม คนที่ผมแอบหลงรักมาตลอดสิบปี คนคนนี้...คนที่ผมเพิ่งทำลายมิตรภาพที่ดีงามลงไป ผมทรุดตัวลงไปกองอยู่กับพื้นดินแทบเท้าของเค้า ร้องไห้ฟูมฟาย...ผมร้องขอความเห็นใจ ร้องขอการให้อภัย ผม...สำนึกผิดกับความคิดอันเลวร้ายของผม ผมพูดจาออกมาแทบไม่เป็นภาษาด้วยอาการสะอื้น

           “กฤษ...ฮือออ...ฮึก...กู...กูขอ...โทษ...กู...ผิด...ไปแล้ว ฮึก...กฤษ...มึง...มึงให้อะ...ให้อภัยกูได้...ไหม...ฮือออ” ผมไม่กล้าเงยหน้ามองมัน ผมรู้สึกเสียดายความสัมพันธ์อันยาวนานของเรา ความเป็นเพื่อนรักมาตลอดสิบปี ในตอนนี้ผมไม่เหลือความพิศวาส ความใคร่ ความหลงใดๆ อีกแล้ว ผม...ผมขอเพียงความเป็นเพื่อนของเรา ผมขอ...เพียงเท่านั้น ขอให้เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะนะกฤษ

           “กู...ให้อภัยมึง...ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนรักกู และมึงจะเป็นเพื่อนของกูตลอดไป กูรักมึงแค่เพื่อนจริงๆ ทอง...ฮือออ” กฤษโผเข้ามากอดผมไว้ เราสองคนกอดกันแน่นแล้วร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง ผม...ผมได้เพื่อนรักกลับคืนมาแล้ว ผมดีใจ...ผมเสียน้ำตามากมายออกมาอีกรอบ น้ำตาคราวนี้ไหลออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต ผมจะรักมันแค่เพื่อน ผมจะมีกฤษเป็นเพื่อรักตลอดไป ขอบใจ...ขอบใจที่ให้อภัยเพื่อนคนนี้ กฤษกูรักเพื่อนอย่างมึงจริงๆ

           “เอาละ...ในเมื่อเข้าใจกันก็ดีแล้ว ต่อไปก็อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกนะลูกแม่ กฤษก็กลับไปทำงานกับทองอย่างที่เคยตกลงกับแม่เอาไว้แล้วกันนะ” คุณแม่ที่ยืนน้ำตาไหลมองเราสองคนพูดขึ้นมา แล้วเข้ามาประคองผมไปขึ้นรถ เราล่ำลากฤษแล้วก็กลับบ้านกัน ผมสาบานกับตัวเองว่า...ผมจะไม่ทำให้เพื่อนคนนี้ต้องผิดหวังในตัวผมอีกเป็นอันขาด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2012 02:40:56 โดย AxCiO@ToToKeN »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด