สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14  (อ่าน 202806 ครั้ง)

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ชอบแนวฉลาดๆแบบหมอกะซอมากกว่า ห้าๆ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ซอพูดได้โดนใจมาก ธเนศอะไรนั่นไม่ได้รู้อะไรเรื่องภูภู่สักหน่อยมาตัดสินได้ไง ภู่น่า่จะบอกภูนะว่าเป็นอะไร ทำแบบนี้ไม่ดีเลย

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หนูซอตอบคุณหมอได้ใจแม่มาก ๆ เลยลูกเอ๋ย...
ถามถึงสิทธิ์.....จะเอามาจากไหนเจ้าคะคุณหมอขา...
ขอจากหนูซอดีกว่า...ซอยังว่างอยู่นี่นา.... o13

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :z2:


“อ๋อ!! งั้นสิทธิ์ที่คุณมี คุณถามคุณภู่รึยัง!? ว่าเขาต้องการให้คุณมีสิทธิ์นั้นมั้ย!!” 


เป็นวาทะที่เด้ดมากค่ะ ซอ   ชอบมากเลย   


ไม่ได้เ้ขามาหลายวัยอัพหลายตอนเลย ไม่เสียแรงที่รอเลย 



ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก   


 :z6:

noo Rock 456

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pae666

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 506
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
อ่านรวดเดียวจบ อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!
น้องซอน่ารักมากจ้าาาา ตอบคุณหมอได้เยี่ยมจริงๆ ขอให้คู่กันนะจ๊ะ 555555

reu_aha

  • บุคคลทั่วไป
รอ ร้อ รอออออออ รออยู่นะคะ

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 22 * คืนสุข*




‘แชะ’



‘แชะ’


เสียงลั่นชัตเตอร์ดังเป็นระยะ รอบกายของนายแบบหนุ่มผู้แสนทรงเสน่ห์จนแม้ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็มิสามารถกลบประกายเจิดจ้านี้ได้ แล้วยิ่งได้แสงไฟยามค่ำคืนช่วยขับผิวขาวให้ดูเด่นขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้ภุมราดูโดดเด่นจนไม่ว่าใครได้เห็นก็ยากจะห้ามใจไม่ให้ลุ่มหลงในเสน่ห์เย้ายวนนี้ได้ แม้กระทั่งทีมงานที่ว่าเห็นๆภุมราอยู่ทุกๆวันอยู่แล้ว ก็ยังไม่วายยืนมองกันจนเคลิ้ม แทบไม่เป็นอันทำงาน คงจะเหลือแต่ตากล้องหนุ่มนี่แหละที่ยังคงลั่นชัตเตอร์ทำงานของตนอย่างไม่หยุดมือ


“ภู่ เดี๋ยวนายโพสต์ท่าหันหน้าเข้ากำแพง แล้วหันหน้ามาทางนี้หน่อยนะ”

“แบบนี้เป็นไง?”

“อืม...ดี...เดี๋ยวเชิดคางขึ้นนิดนะ”


ปลายนิ้วกร้านของตากล้องกนุ่มบรรจงเชิดคางเรียวของภุมราขึ้นแผ่วเบา


“เอามือวางตรงนี้แล้วกัน”

“อืม...”


ระหว่างที่นคินทร์กำลังช่วยจัดท่าทางให้ภุมราอยู่นั้น ทั้งคู่แอบสบตากันอยู่ไม่ขาดระยะ โดยส่งนัยยะที่รู้กันอยู่เพียงสองคนให้อิ่มเอิบใจกันไม่วางตา


“.....เฮ้ย ไอ้ซอ...”

“ครับ...พี่แอน”

“...แกเห็นอย่างที่ฉันเห็นป่ะ?”

“...ครับ?”

“แกเห็นป่ะ ระหว่างสองคนนั้นอ่ะ”

“ยะ...ยังไงเหรอครับ?”

“ปัดโธ่!! ไม่แหกตาดูมั่งรึไงยะ มานี่เลย...เอ้า! ถ่างตาดูให้ดีซะ แกเห็นอะไรบ้าง”



‘เอาแล้วไง โรคเรื่องชาวบ้านกำเริบอีกแล้ว เฮ้อ~’



ซอคิดในใจ แล้วได้แต่ทำหน้าตาปะหลับปะเหลือก พลางมองไปที่สองหนุ่ม คุณตากล้อง และคุณนายแบบ ที่กำลังสร้างโลกส่วนตัวกันแบบไม่แคร์สื่อ



“ก็...ไม่เห็นมีไรเลยพี่แอน เขาก็แค่ทำงานกันอยู่...”

“อร๊ายยยย!! ไอ้ตาถั่ว แกถ่างตาดูดีๆดี๋ยวนี้เลยนะ เอ้าถ่างรูหูฟังพี่ดีๆก่อนเลย แกจำได้มั้ยว่าตอนมาแรกๆสองคนนั้นน่ะ โคตรจะเป็นไม้เบื่อไม้เมาจนแทบจะหักคอกันตายอยู่แล้ว แต่แกดูตอนนี้สิ ไอ้บรรยากาศมาคุตอนนั้น มันเปลี่ยนเป็นบรรยากาศแบบหวานละมุน อุ่นละไมแบบนี้ไปแล้วง่ะ มันไม่ทะแเม่งๆมั่งเหรอยะ”

“ทะแม่งไรกันครับพี่แอน เค๊าดีกันก็ดีแล้วนี่ พี่อยากให้เค๊าตีกันหรือไง”

“มันก็ดีนั่นแหละ แต่พี่แค่สงสัยว่าสองคนนั้นไปดีกันตอนไหนเท่านั้นเอง เออจริงสิ! วันนี้ที่ไปเดินเที่ยวด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?”

“กะ...ก็...ก็ไม่เห็นมีไรนี่พี่ ปกติดี...เอ่อ...จริงๆนะ”

“หืมมมม...ดูแกมีพิรุธจังเลยนะ ไม่มีอะไรจริงง่ะ?”

“จริ๊งงงง...ไม่มีจริงๆครับพี่ โหย...ผมไม่โกหกพี่หรอกน่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”



ระหว่างที่กำลังเข้าตาจน แอนก็ถูกสต๊าฟฝ่ายอื่นเรียกไปพอดี ซอจึงได้ถอนหายใจโล่งอก คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะคำถามหนึ่งวนเวียนให้สับสนอยู่ในใจว่า ทำไมเขาต้องคอยปิดบังเพื่อปกป้องสองคนนั้นด้วย แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้อยู่ดี ขณะที่กำลังละสายตาจากคู่รักหวานฉ่ำตรงหน้า สายตาเจ้ากรรมก็ดันไปป๊ะเข้ากับบรรยากาศมาคุใต้ร่มไม้ใหญ่ ใช่ใครอื่น หมอธเนตร ผู้ถูกกันไปอยู่นอกวงโคจร กำลังนั่งทำหน้านิ่งประดุจก้อนน้ำแข็งทั่วโลก แถมแผ่รังสีอำมหิตประหนึ่งว่าหากใครเข้าใกล้อาจไส้บิดตายได้



‘จะมานั่งเฝ้าทำไมอีกวะ...ก็เห็นๆอยู่ว่าเค๊าไม่เอา ยังจะมานั่งเสนอหน้าอยู่อีก เชอะ!!’



ด้วยความที่เพิ่งได้ฟาดฝีปากมาเมื่อตอนกลางวัน ทำให้ซอไม่ใคร่จะมองหมอหนุ่มในทางสร้างสรรค์มากนัก และระหว่างที่ยังใช้สายตาดูแคลนจ้องอีกฝ่ายอย่างลืมตัวอยู่นั้น สายตาของหมอหนุ่มก็หันมาสบเข้าตรงๆกับซอเข้าพอดี ทำเอาผู้ช่วยหนุ่มแทบจะหงายเงิบด้วยความที่ตั้งตัวไม่ทัน



‘เชี่ยแล้ว!!...จะหันมาก็ไม่บอก!!’



ผู้ช่วยหนุ่มรีบหลบตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็เหมือนจะช้าเกินไป เพราะทันทีที่ได้สบตา หมอหนุ่มก็เดินตรงดิ่งมาที่ซอทันที ตอนแรกซอก็พยายามจะเดินหนี แต่กลับโดนคว้าตัวไว้เสียก่อน



“ขอโทษทีนะคุณซอ...ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณหน่อย”

“แต่ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณอ่ะ แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเวลางานของผมด้วย...”



มือแกร่งของหมอธเนตรกระชับแน่นเช้าที่ต้นแขนของซอ นัยทีว่าจะไม่ยอมปล่อย และยังไม่ทันที่ซอจะตั้งตัว หมอหนุ่มก็ออกแรงลากซอออกจากจุดที่กำลังถ่ายทำกันอยู่เสียแล้ว ซอที่ดิ้นรนในคราแรกนั้น ก็ผ่อนแรงลงเมื่อเห็นว่าสะบัดสะบิ้งไปก็ไม่เป็นผล แภมหน้าตาของหมอหนุ่มผู้อวดดีตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะโอนอ่อนผ่อนตาม สุดท้ายซอจึงจำใจต้องเดินตามไปอย่างเงียบๆแทน



‘ฮึ่ย...ถามกุยัง กุอยากคุยกะเมิงมั้ย ไอ้ถั่วเอ้ย!!’


.......................................................................................


“ภู่...นายหน้าซีดๆนะ พักหน่อยมั้ย?”


นคินทร์ทักออกไปด้วยสังเกตุเห็นว่าหน้าของนายแบบหนุ่มซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด แถมการตอบสนองก็ดูเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น



“ไม่เป็นไร ฉันยังไหวอยู่ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จอยู่แล้ว รีบถ่ายเถอะ”

“นาย...ไหวแน่นะ”

“อืม อย่าห่วงมากนักเลยน่า เอาเป็นว่าถ้าอยากให้ฉันพักล่ะก็ รีบถ่ายให้เสร็จเร็วๆจะได้รีบกลับไปพักกันไง”

“อ่า...อืม”


ด้วยคำยืนยันที่หนักแน่นของภุมรา ตากล้องหนุ่มจึงจำใจต้องถ่ายต่อทั้งที่ในใจนั้นเป็นห่วงนายแบบหนุ่มเหลือเกิน


“เอาล่ะ อีกสักรูปสองรูป ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ ภู่ เดี๋ยวนายลองไปโพสต์ท่าที่โซฟาตรงนั้นดูนะ ขอเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยแล้วกัน”


‘แชะ’


‘แชะ’



“เอาล่ะ เรียบร้อย”

“ฮ้า~ห์ เสร็จซะที”



สัญญาณว่างานเสร็จเรียบร้อยแล้ว สต๊าฟก็เริ่มเก็บของเพื่อที่จะกลับที่พัก แอนที่ง่วนอยู่กับการเช็ครูปภาพก็ได้เงยหน้าขึ้นมาบิดกายคลายความเมื่อยล้า พลันก็นึกขึ้นได้ว่า ผู้ช่วยของตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย



“อ้าว? นี่ไอ้ซอมันหายหัวไปไหนของมันเนี่ย เฮ้ยไอ้ตั๋งเห็นไอ้ซอมั่งมั้ย!!?”

“ไม่เห็นเลยพี่”

“ไอ้จิ๋มล่ะ แกเห็นมั่งเปล่า?”

“ไม่เห็นจ๊ะพี่แอน สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง”

“เออๆ ช่างหัวมันเหอะมันกลับเองเป็น...เอาๆ!! เก็บของกันได้แล้ว เร่งมือเข้าหน่อย”


ระหว่างที่แอนยังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของ และ ทางนคินทร์เองก็กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกล้องและอุปกรณ์อยู่นั้น ไม่มีใครทันสังเกตุเลยว่าภุมราได้ล้มฟุบลงไปบนโซฟา และดูเหมือนว่าสติของเขากำลังลางเลือน




“ภู่!!!”



นคินทร์เป็นคนแรที่หันมาเจอภุมรานอนสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บนโซฟา ตากล้องหนุ่มทิ้งทุกอย่างในมือพร้อมกระโจนเข้าหาร่างนายแบบหนุ่มทันที



“ภู่! นายเป็นอะไรไปน่ะ ภู่ ได้ยินฉันมั้ย ภู่!”



นคินทร์ลนลานเรียกชื่อภุมราเพื่อเรียกสติร่างบางให้ฟื้นคืน เสียงของนคินทร์ทำให้ทั้งแอนและสต๊าฟคนอื่นๆตื่นตกใจไปตามๆกัน ทุกคนทิ้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่กำลังขนๆกันอยู่วิ่งเขามาดูอาการของภุมรากันเป็นการใหญ่



“ภู่ ภู่”

“ฉันโอเค ภู ฉันไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน ก็นายล้มพับไปแบบนี้!!”

“ฮ่า ฮ่า ฉันแค่เหนื่อยน่ะ สงสัยวันนี้เที่ยวเยอะไปหน่อย”

“โถ น้องภู่ ไม่สบายมากหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย พี่ไม่น่าจัดตารางงานให้ค่ำมืดขนาดนี้เลย พี่ขอโทษ”



แอนละล่ำละลักถามไถ่ พลางโทษตัวเองเป็นการใหญ่ที่รู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้นายแบบหนุ่มไม่สบายแบบนี้



“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับพี่แอน อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิครับ ผมแค่เหนื่อยพักหน่อยก็หายแล้ว”

“งั้นเรากลับกันเลยก็แล้วกันนะ ป่ะทุกคน รีบเก็บของกลับกันเร็ว”



แค่ชั่วอึดใจทุกอย่างก็พร้อมสรรพ นคินทร์ประคองภุมราขึ้นรถและทุกคนก็เคลื่อนรถออกจากที่นั่นทันที โดยที่ไม่มีใครนึกเอะใจเลยว่า ลืมใครอีกคนไว้หรือเปล่า...

.................................................................................


“ภู...”

“หืม”

“ให้ฉัน...เอ่อ...ทำเอง...ได้มั้ย...”

“ไหวเหรอ? ขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ ดูสิ มือนายสั่นเชียว...”

“ตะ...แต่ว่า...ฉัน...”

“ทำไมเหรอ...?”

“ฉัน...อะ...อาย...”



ฟอด...



ปลายจมูกเข้าโฉบกรุ่นกลิ่นแก้มหอมอย่างอดใจไม่ไหว ผลของการกระทำย่ามใจ ยิ่งทำให้ร่างบางบนเตียงนุ่มเขินอายจนน้ำตารื้นขอบตาอย่างน่าสงสาร



“อะไรกันภู่ แค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอ ขี้แยไม่เลี่ยนเลยนะนายเนี่ย”

“ก็นายนั่นแหละ ขี้แกล้งไม่เปลี่ยนเลยนะ!”



เสียงหวานตัดพ้อ จนคนที่กำลังกลัดกระดุมชุดนอนให้ถึงกับหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่



“ก็นายชอบทำตัวให้น่าแกล้งเองทำไมล่ะ เป็นใครก็อดใจไม่ไหวหรอก”

“นั่นมันเฉพาะนายคนเดียวต่างหาก ไอ้บ้า...”



บ่นได้แค่นั้น ภุมราก็รีบยกผ้าห่มขึ้นคลุมกายแล้วม้วนจนแทบเป็นดักแด้เพื่อหลบสายตากรุ้มกริ่มที่นคินทร์จ้องมองมา และเพียงครู่ต่อมา  ความอบอุ่นที่คุ้นเคยก็แผ่ซ่านอยู่ที่แผ่นหลัง เมื่อนคินทร์ซ้อนร่างลงแนบข้างพลางวาดวงแขนแกร่งเข้าโอบกอดร่างบางตรงหน้าเข้ากระชับแผ่นอกอุ่น



“นายผอมเกินไปแล้วนะภู่ นาย...ป่วยเป็นอะไรกันหืม?...บอกฉันได้มั้ย?”



นคินทร์กระซิบแผ่วเบาอยู่กับท้ายทอยเล็กของภุมรา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความห่วงใยคนในอ้อมกอดยิ่งนัก



“ฉัน...เอ่อ...ภู...”

“หืม?”

“ฉันดีใจมากนะที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนายแบบนี้...การที่นายเรียกชื่อฉัน ให้อภัยฉัน...แค่นี้ฉันก็มีความสุขจะแย่อยู่แล้วนะ รู้หรือเปล่า...แล้วยิ่ง...ฮะ ฮะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่การที่ฉันรู้สึกว่านาย...เอ่อ...มีใจให้แบบนี้ ฉันยิ่งมีความสุข จนแทบจะสำลักตายอยู่แล้วล่ะ...”



จบคำของภุมราอ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งกระชับขึ้น และภุมราก็รู้สึกได้เพียงแผ่วเบาว่า ด้านหลังต้นคอของตนนั้นสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่อุปมาได้ว่านั่นคือริมฝีปากของคนที่ซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง แม้จะไร้คำพูดใดๆ แต่ภุมราก็ยินดีเหลือแสนแล้วกับปฏิกิริยาของนคินทร์ที่มีให้ แม้ว่าคำตอบจะยังคลุมเครือ แค่การกระทำนั้นมันก็เหมือนจะสื่อออกมาได้ทั้งหมดแล้ว มันคือคำตอบที่บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว และตอนนี้ก็คงถึงเวลาแล้ว...เช่นกัน



“ภู...ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณ?...เรื่องอะไร?”

“ทั้งหมด...ตลอดชีวิตที่ผ่านมา...แล้วก็...”

“ขอโทษ...”

“.............”

“ขอโทษจริง ในทุกๆอย่างที่ฉันทำผิดต่อนาย...ขอโทษ...”

“อืม...พอเถอะภู่...”

“ภู...มีอีกเรื่องที่ฉัน...”

“พอได้แล้วภู่...นอนเถอะ พักผ่อนได้แล้วนะ”



ร่างแกร่งกระชับอ้อมกอดเป็นเชิงเตือนให้อีกฝ่ายหยุดพูดและนอนหลับพักผ่อนได้แล้ว



“งก...ฟังฉันหน่อยก็ไม่ได้...ไอ้งก...”



นายแบบหนุ่มบ่นงึมงำเบาๆ แต่ก็ไม่เบาเกินกว่าที่นคินทร์จะได้ยิน ตากล้องหนุ่มกอดก่ายร่างบางแน่นขึ้นอีก พลางปลายจมูกโด่งก็ซุกไซร้ไปทั่วต้นคอขาว เป็นการลงโทษคนช่างบ่น



“อ๊ายยย จั๊กจี้นะไอ้บ้า...”

“ลงโทษเด็กดื้อไง พูดไม่ยอมฟัง หึหึ ถ้ามีแรงบ่นขนาดนั้น เดี๋ยวฉันช่วยทำให้หมดแรงดีกว่ามั้ย จะได้รีบนอนเร็วๆ”



พูดพลางยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วเท้าแขนคร่อมร่างภุมราไว้ นคินทร์จ้องลึกลงไปในดวงตากลมใสของคนใต้ร่าง ใบหน้าภุมรานั้นดูซีดเซียวจนหน้าใจหาย ราวกับอุปทาน แต่ในตอนนี้เขามองเห็นภุมราดั่งแก้วคริสตัลบางใสแสนเปราะบาง จนน่ากลัวว่าจะแตกสลายหายไปต่อหน้าเขาเสียให้ได้  ในสมองของตากล้องหนุ่มนิ่งงัน แต่ภายในใจเล่าก็กลับสับสน นี่เขาเคยเกลียดคนตรงหน้าอย่างนั้นหรือ...หรือว่ามันเป็นแค่ความฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าเกลียด เขาจะอยากโอบกอดคนตรงหน้าแบบนี้หรือ อยากป้องป้องดูแลขนาดนี้หรือ อยากรักจนหมดใจ...ขนาดนี้หรือ... นคินทร์แสนจะสับสน ยิ่งมองภุมรา ในใจชายหนุ่มยิ่งรู้สึกว่า ทุกสิ่งที่ผ่านมาราวกับเรื่อง...ฝันไป



ขณะที่นคินทร์ยังคงยังจ้องหน้าของภุมราอยู่นั้น มืออุ่นของภุมราก็เอื้อมมาจับแก้มนคินทร์ไว้อย่างแผ่วเบา ดวงหน้าขาวซีดยกยิ้มหวาน ราวกับเทพยดารูปงามผู้เอื้ออารีย์ นคินทร์จ้องมองดวงหน้านั้นด้วยความหลงใหล



“ภู...”

“หืม”

“ฉันมีอะไรอยากบอก”

“อะไรเหรอ”



“ฉัน...”



นิ้วเรียวลูบไล้ตามแนวสันกรามแกร่ง ก่อนจะวกกลับมาที่ข้างแก้มอุ่น ราวกับสัมผัสสิ่งที่มีค่า และน่าหลงใหล ก่อนที่ริมฝีปากบางซีดของภุมรานั้นจะเอื้อนเอ่ยคำที่เชือดเฉือนใจของคนฟังจนขาดวิ่น




“ฉัน....เป็น...เนื้องอกในสมอง...”


.......................................................................


อ่าฮ้า...และแล้วก็รู้กันได้เสียที ว่าภู่ป่วยเป็นอะไร อิอิ

หมายเหตุ : เนื่องจากคนเขียนไร้ความรู้เกี่ยวกับโรคของภู่แบบสุดๆ
ทุอย่างที่เขียนไปล้วนแล้วแต่มาจากจินตนาการ กับการหาผ่านเน็ตเล็กน้อย
อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงต้องขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะเจ้าคะ
เอาเป็นว่า อ่านเพื่อความเพลิดเพลินไปก่อนก็แล้วกันนะค๊า

ขออภัยที่คนเขียนไร้ความรับผิดชอบค๊า

ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับนะเจ้าค่ะ
จุ๊บๆ จ๊วบๆๆๆ
 :m29:
THEARBOO
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-08-2012 18:47:28 โดย thearboo »

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
โอ้..กลับมาแล้ว ภู-ภู่ กลับมาพร้อมกับความหวาน :man1: :m1:เล็กๆ
แต่ก็มาตกใจ :a5: :a5:ตอนท้าย
สมัยนี้การแพทย์ออกจะยอดเยี่ยม นายเอกของเราต้องหายได้จากการรักษานะ
อ๊ะ อ๊ะ อย่าบอกนะว่า จะมีคู่ใหม่อีกคู่คือ ซอกะคุณหมอ ถ้าใช่นะรึ ก็เชียร์ :ped149: :ped149:เต็มที่นะซี

ออฟไลน์ Ju

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-2
งือ  :o12:

อีกไม่นานก็จบแล้วสินะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jj@room

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
น่าสงสารจัง อย่าเศร้าน่ะ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
คู่นี้รอแค่ดราม่ารักษาตัวของนายเอก

รออีกคู่ดีกว่า ดูท่าจะจัดจ้าน  :z1:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 o22 o22


โอยยย เม้นท์ไม่ออก สงสารน้องแต่พี่เชื่อว่าน้องจะต้องหาย

 :z7: :z7:  สู้ๆๆๆ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อีกคู่ที่ถูกทิ้งไว้ ไปถึงไหนกันแล้วน๊า

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
สุดท้ายก็รู้ความจริงสักทีนะ เอาใจบช่วย ยอให้หายป่วยนะ และเราก็จะเชียร์คู่ที่สองด้วย เค้าต้องมีซัมริงรองแน่นอนเลย สู้ๆ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธเนศพาซอไปไหนเนี่ย ภููดูแลภู่ให้ดีนะ

reu_aha

  • บุคคลทั่วไป
ตึ๊งงงงง ค้างเลย แง่งๆๆๆๆ

แล้วคุณหมอพาน้องซอไปไหนเนี่ย ฮี่ๆ

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
 :call: :call: :call: สนุกมากเลยมาต่อเร็วๆนะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2

มาต่อเร็วๆนะคะ
อยากอ่านต่อแล้ววว

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1

~Ti amo~

  • บุคคลทั่วไป
ตอนแรกไปซุ่มอ่านที่เด็กดีมา... //โดนเตะ  :z6:
ภู่เป็นเนื้องอกในสมอง TT^TT ค้างงง!! รีบมาต่อนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
โอ๊ยย อ่านแล้วปวดหัวใจจังเลยค่ะ ต่อเร็วๆนะค้าา เฝ้ารอเลยยย :sad4:

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 23 *คืนบาป 1 * (ซอXหมอเนศ)


“นี่ คุณหมอ ไม่ทราบว่าคุณลากผมถ่อมาถึงนี่ทำไมเนี่ย ผมไม่ได้ว่างนะ!!”

“งานคุณก็เสร็จแล้วนี่ เค๊าก็กลับกันไปหมดแล้ว...”



จริงอย่างที่หมอธเนศพูด เพราะเมื่อซอดึงดันหนีกลับมาที่กองถ่ายได้ ก็ไม่เหลือใครแล้ว ทุกคนทิ้งเขาไว้ราวกับของที่ถูกลืม นั่นยังไม่ทำให้ซอรู้สึกหงุดหงิดเท่ากับที่หมอธเนศยังตามราวีไม่เลิก จนสุดท้ายก็โดนลากมานั่งกินลมชมวิวกันที่ร้านเหล้าริมทะเลจนได้



“ว่ามาสิ”

“หืม?”

“ก็ไหนว่ามีอะไรคุยกะผมไง! ถึงได้ลากผมมาถึงนี่น่ะ!!”

“ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”

“ห๋า? อะไรของคุณน่ะ ลากมากินเหล้าเนี่ยนะ”

“เถอะน่าคุณซอ เห็นแก่ผมนะ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยเถอะ ช่วยอยู่กับหมาขี้แพ้อย่างผมที”

“................”

“ได้โปรด”

“อืมๆ...แค่วันนี้เท่านั้นนะ”

“ขอบคุณนะ”

........................................

.............................

........................

...............

เวลาล่วงเลยจากชั่วโมงเป็นสอง สองเป็นสาม และต่อเนื่องจนไม่รู้แล้วว่าตอนนี้มันผ่านไปนานแค่ไหนที่ซอต้องนั่งเป็นเพื่อนนายแพทย์หนุ่มผู้ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์จากรักที่แพ้พ่าย ดูจากสภาพกองขวดเหล้าและเบียร์ที่แทบจะล้นโต๊ะ กับความรู้สึกมึนๆ วิ้งๆ  จนหัวแทบจะทิ่มอยู่ตอนนี้ อุปมาได้ว่าตอนนี้เขาคงเมาได้ที่แล้วเช่นกัน ส่วนทางด้านหมอธเนศเองนั้นก็เริ่มนั่งตาปรือปรอย หน้าเน่อเห่อแดงจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ซึ่งตอนนี้กำลังรวมอยู่ในกระแสเลือด และทั้งๆที่นั่งดื่มกันมาร่วมหลายชั่วโมงมาแล้ว แต่หมอหนุ่มก็ไม่ได้พูดได้จาอะไรเลยนอกจาก ดื่ม ดื่ม และดื่ม


“นี่...คูนหมอคับ...ใจคอ เนี่ย จาม่ายคูยกันม่างเลยเหรอคับ?”

“.....................”

“ลากโผม   มานั่งบื้อใบ้อยู่ทามมายเนี่ย ฮ๊า!?”

“...ขอโทษ”

“จาพูดอาไรก็พูดมาเด้ อมอารายอยู่ว๊า”


สุดท้ายซอก็ทนไม่ไหวแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่าจะรั้งสติให้รักษามารยาทไว้ได้อีกต่อไป มือไม้คว้าสะเปะสะปะเข้าที่คอเสื้อของหมอหนุ่ม พลางเค้นถามอย่างเสียอารมณ์ที่อีกคนเอาแต่เงียบจนอึดอัด

“ผม...รักภู่...”

ในที่สุดหมอธเนศก็เริ่มพูดออกมาบ้าง

“เออ ดูก็รู้แล้ว ว่าหมออ่ะ ร๊ากคูนภู่ค๊าวข้างเดียว แต่ในเมื่อคูนหมอก็รู้ตัว ทำมาย ม่ายเลิกตอแย...คูนภู่เค๊าซากทีล๊า...”

ซอเอ่ยต่อว่าด้วยเสียงยานคาง

“ถ้าภู่มีความสุข ผมก็จะยอมถอย”

“เหน เหน อยู่ เค๊าร๊ากกานจาตาย หมออ่ะ ตาดจายได้แร้ว...”

“ไม่ ผมไม่ไว้ใจคุณนคินทร์ ที่ภู่ต้องทรมารขนาดนี้ก็เพราะเขา ผมไม่มีวันยกภู่ให้เขาเด็ดขาด”

“โฮ่ย!! ไอ้หมอพูดม่ายรู้ฟางนี่!!”

“ซอ!!”


พูดไม่ทันขาดคำ ซอก็โดนฤทธิ์เหล้าเข้าแทรก เซแท่ดๆจะล้มแหล่มิล้มแหล่ หมอธเนศจึงรีบยื่นมือเข้าไปรับไว้ก่อนล้มหน้าคว่ำได้อย่างหวุดหวิด ระหว่างที่ซอยังคงมึนๆอยู่ในอ้อมแขนของหมอหนุ่มนั้น แก้มร้อนของซอก็พลันรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่นที่ไม่รู้ว่าหยดร่วงมาจากไหน จนสัมผัสได้ถึงแรงสะอื้นจากอ้อมกอดที่ประคองตนอยู่นี่แหละซอถึงได้กระจ่างใจในทันทีว่า หยดนั้นคือหยดน้ำตาแห่งความปวดร้าว ที่หมอธเนศหลั่งออกมาเพื่อคนที่เป็นที่รัก คนที่เป็นของของคนอื่น

เหนือการสั่งการของสมอง ทันทีที่ซอมองเห็นคนตรงหน้ามีน้ำตาไหลอาบแก้ม ดูสิ้นหวัง ราวกับผู้แพ้แก่ทุกสิ่งบนโลก มือเรียวของผู้ช่วยหนุ่มเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนหน้านั้นอย่างเบามือ พร้อมยื่นหน้าเข้าไปจูบซับน้ำตาของคนที่น่าสงสารให้ พลางกระซิบริมหูแผ่วเบา


“ให้ผมช่วยปลอบคุณนะ”

..................................................................................

...................................................

...........................................

.........................

“อ๊ะ”

“อ๊ะ ห...หมอ อ๊ะ”

“อย...อ๊า”


แสงไฟสลัวในห้องบังกะโลของนายแพทย์หนุ่ม ส่องกระทบสองร่างที่กำลังเริงรักเร่าร้อนอยู่บนเตียงกว้าง โดยไม่สนใจว่าเสียงครางวาบหวิวนี้จะดังไปถึงไหนต่อไหน  เนื้อต่อเนื้อเสียดสีกันไม่เหลือช่องว่าง ทั้งเสียงเนื้อที่กระทบกันเป็นจังหวะ ทั้งเสียงเตียงที่ลั่นขานรับ หลอมรวมเข้ากับเสียงหอบหายใจของหมอธเนศและเสียงครางหวานของซออย่างลงตัว เป็นเพลงเสน่หาที่ไพเราะยิ่ง


“อ๊า…………..อ๊ะ…………โอ๊วววว!”


ซอร้องดังขึ้นเมื่อธเนศเร่งจังหวะโรมรันร่างสูงกอดขานวลแนบข้างลำตัวและยกเอวขึ้นเพื่อเปลี่ยนมุมกระแทกกระทั้น


“อะ…..มะ…หมอ………โอ้วววว!!.........”

“อึก….สุดยอด…สุดยอด….อึก!”

ธเนศทั้งกระทั้นและโยกวนส่วนปลายเข้ากับจุดที่ลึกที่สุดของเรือนกายขาวเนียน ความกระสันระคนเสียวซ่านนำพาให้สติสัมปชัญญะของทั้งสองร่างหายสิ้น ที่ยังเหลืออยู่ตรงนี้คือดำกฤษณาที่เรียกร้องอยากปลอดปล่อยเท่านั้น!

“อ๊ะ…อ๊ะ ดี…หมอ…ดะ…ดี…โอ้ว”

“ตรงนี้ชอบใช่มั้ย”

“อ๊ะ! ตรงนั้นดี…อะ…เอาอีก อ๊ะๆๆๆๆ”

ได้ยินดังนั้นธเนศก็เปลี่ยนมุมในการสอดแทรก เขาขยับสะโพกถอยออกมานิดนึง แล้วขยับให้แก่นกายครูดเบียดกับผนังร้อน
กระทุ้งให้โดนจุดกระสันของคนใต้ร่างให้ได้มากที่สุด ราวกับย้ำหัวตะปู


“อ๊า....อ๊ะๆๆๆๆ มะ หมอ อ๊า...ส์”


ซอครางเสียงสั่น เมื่อถูกรุกเร้าจุดไวสัมผัสจนไม่อาจทนได้ สุขสมจนน้ำตารื้นขอบตา  ยิ่งธเนศรู้สึกได้ว่าคนใต้ร่างกำลังสุขสมตัวธเนศเองก็ยิ่งบดเบียดสะโพกสาวกายหนักหน่วง ทั้งโยกทั้งคว้าน จนซอสั่นสะท้านไปท้งร่าง และเมื่อถึงที่สุดแห่งความอดทนสองแขนซอก็กอดรัดร่างของผู้รุกรานไว้แน่น ทั้งเรียวขาขาวก็ตวัดโอบรอบสะโพกแกร่ง

“อ๊ะๆๆๆๆ อ๊างงงง!!! โอ๊ววว ลึก ลึก อ๊าๆๆๆๆ ดี อ๊า!”



ในจังหวะสุดท้ายธเนศขยับกายเข้าออกรุนแรงจนซอหัวสั่นหัวคลอน นอกจากจะรุนแรงแล้วยังคว้านลึกหมุนวนทั่วทั้งช่องทางแคบร้อนจนซอต้องแอ่นร่างรับอย่างเสียวซ่าน


“มะ...ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว..อะ...อ๊า!!!!!”


จุดสุดยอดที่มาถึงราวกับสายฟ้าฟาด ร่างทั้งร่างของซอเกร็งสะท้านกระตุกเฮือกๆไม่หยุด ตอบรับจุดสุดยอดแบบต่อเนื่อง



“อึก… ดีมาก!... อึก!!”




แรงตอดรัดมหาศาลทำเอาธเนศแทบสำลักความสุขตาย ร่างแกร่งเร่งจังหวะรัวเร็วกระแทกหนักๆในจังหวะสุดท้าย ปลดปล่อยความเร่าร้อนมากมายเข้าไปในช่องทางคับแน่นจนน้ำรักขาวขุ่นเอ่อล้นออกมาถึงด้านนอก ช่องทางคับแน่นตอดรัดราวกับยินดี รีดเร้นหยาดหยดน้ำรักของหมอหนุ่ม แทบไม่เหลือสักหยด ร่างสูงขยับเข้าออกเบาๆอีกสองสามครั้ง เพื่อซึบซาบความสุขที่กำลังกำจายไปทั่วร่าง ความสุขสมจากการได้ปลดปล่อย

หลังจากเสร็จสมซอก็ถึงกับหมดสติสลบไศลไปในอ้อมแขนของหมอหนุ่ม ทั้งที่ช่องทางรักยังโดนความเป็นชายของอีกฝ่ายแช่คาไว้อยู่ ฝ่ายธเนศเองก็เช่นกัน ทั้งฤทธิ์เหล้าและความสุขสมจากการร่วมเพศ หลังจากที่ร่างกายได้รับการปลดปล่อย หมอหนุ่มก็ผล็อยหลับไปบนร่างของซอเช่นเดียวกัน


“ภู่...”

............................................................................

.....................................................

....................................

...........................

"หายหัวไปไหนมาทั้งคืน ห๊ะ ไอ้ซอ คนเค้าเป็นห่วงกันทั้งกองถ่าย ทำอะไรคิดบ้างมั้ยเนี่ย"

"ผมขอโทษครับเจ้แอน คราวหน้าผมไม่ทำแล้ว อย่าโกรธผมเลยนะครับ นะ"

"เออๆ จำเอาไว้ก็แล้วกัน คราวหน้าจะหายไปไหนบอกกันก่อนด้วยนะ"

"ครับ ขอโทษนะครับ"


แอนแทบจะหักคอซอทิ้งทันทีที่เจอหน้า เพราะเจ้าหล่อนแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เฝ้ารอให้เด็กหนุ่มกลับมา แต่สุดท้ายก็หายไปทั้งคืนโยไม่บอกไม่กล่าว แถมกว่าจะกลับมาก็ปาเขาไปเกือบ8โมงเช้า ตลอดทั้งคืนนั้นหล่อนใจคอไม่ดีเลย กลัวว่าซออาจเป็นอันตราย แถมยังอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก อาจโดนหลอก หรืออาจโดนทำร้าย หล่อนคิดสะระตะ จนเกือบจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้วดีที่ว่าเจ้าหนุ่มซอกลับมาเสียก่อน แต่จะถามยังไงก็ไม่ยอมบอกว่าไปอยู่ไหนมาทั้งคืน บอกแต่ว่าไปนั่งเล่นกินเหล้าอยู่ที่ร้านริมหาดแล้วเผลอหลับไปเพราะเมาเท่านั้น ทางหล่อนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไป เพราะอย่างไรเสียแค่ชายหนุ่มกลับมาก็คงไม่เป็นไรแล้ว


วันนี้เป็นการเก็บรายละเอียดวันสุดท้าย ตอนค่ำทุกคนก็จะต้องโบกมือลาเกาะสวรรค์มัลดีฟส์เพื่อกลับประเทศไทยบ้านอันเป็นที่รักที่คิดถึงกันแล้ว

ตอนนี้เพิ่งจะ 8 โมงครึ่ง กว่าจะเช็คเอ้าท์ออกจากบังกะโลก็ตอนเที่ยง ทีมงานทุกคนยังคงพักผ่อนตามอัธยาศัย เพราะทางตากล้องแจ้งมาว่าไม่มีรูปต้องถ่ายซ่อมอีกแล้ว งานทุกอย่างโอเคเสร็จสิ้น ดังนั้นวันนี้ทุกคนจะได้พักผ่อนจนถึงเวลาขึ้นเครื่อง เช้านี้ซอยังไม่เห็นภุมรากับนคินทร์เลย ทั้งสองยังคงอยู่ที่บังกะโล คงจะไปเจอกันอีกทีตอนเช็คเอ้าท์


“อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เราเองก็จะได้อยู่เงียบๆด้วย”


 

ซอนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้หวายหน้าบังกะโล ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปที่ชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตงดงามตรงหน้า สมองก็ไพล่คิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับหมอธเนศเมื่อคืน


“ภู่...”


ชื่อสุดท้ายที่ได้ยินก่อนสติจะดับวูบ ชื่อที่คนที่กำลังร่วมรักกับตนเองเอ่ยเรียกออกมา ชื่อของคนอื่นที่ไม่ใช่ตน


“เฮ้อ....เป็นอะไรไปแล้ววะเรา เข้มแข็งหน่อยสิเฟ้ย ไม่ได้รักไม่ได้ชอบหมอนั่นสักหน่อย จะไปคิดมากทำไมวะ โธ่เว้ย”


             
บ่นกับตัวเองไปสองมือก็จิกทึ้งผมบนศรีษะไปอย่างคิดไม่ตก ก็จะไม่ให้คิดได้อย่างไรในเมื่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะไปมีอะไรกับคนอื่น คนที่เขาไม่ได้รัก ไม่ใช่คนที่รักเขา  และที่สำคัญคนคนนั้นเป็นผู้ชาย

ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีอะไรกับผู้ชาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายรับ ยอมรับว่าเขาเป็นเกย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีอะไรกับใครก็ได้ คนแรกที่เคยนอนด้วยก็คือน้องรหัสสมัยมหาวิทยาลัยเท่านั้น และมันเกิดจากที่เขาทั้งสองคนรู้สึกดีๆต่อกัน และคบกันเป็นแฟนแล้ว หลังจากที่เลิกรากับน้องคนนั้น แล้วเขาก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครอีก จนกระทั่ง...เมื่อคืน

มั่นใจว่าไม่ใช่ความรัก และแน่นอนว่าไม่ใช่ความใคร่ ดังนั้นเขาถึงหนักใจอยู่จนถึงตอนนี้เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรนี่แหละ


“เฮ้อ...ช่างเหอะ ยังไงซะวันนี้ก็กลับแล้ว อยู่ที่ไทยก็คงไม่ต้องเจอกันอีก คิดซะว่า...ฝันไปละกัน”


เหมือนจะตัดใจได้ทั้งที่ลึกๆแล้ว...

...........................

..............


ก็ยังเจ็บ...จี๊ดๆ

 :undecided:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2012 23:18:26 โดย thearboo »

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
  :z13:

หายไปนานมาก  เป็นนิยายที่ชอบมากเรื่องนึง

นานแค่ไหนก็รอ  มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ

สงสารซอมากเลย รักข้างเดียว อารมณ์เดียวกับเราเลย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ซอเคยเป็นรุกกับเขาด้วยหรือเนี่ย :a5:

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:



ซอคงสับสนน่าดู ใจมันก็คงรู้สึกดีกับหมอ แต่ยังไม่ถึงขั้นรัก  แถมยังมาเจอเหตุการณืแบบนี้อีก


ก็แล้วแต่หมอว่าจะเอายังไง


มาต่อแล้วดีใจนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Rukki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ *ปาดเหงื่อ*
ช่วงแรกๆ สงสารภู่มากกกกกกกกกกกกก
ยิ่งช่วงที่อาการป่วยของภู่ออกอาการยิ่งรู้สึกเจ็บปวดดดด แต่เผอิญชอบนิยายแนวนี้อยู่แล้วด้วย
คนเขียนก็ใช้ภาษาดีมากเลยค่ะ อ่านไม่ติดขัดเลย

ดูจากวันที่แล้วรู้สึกว่าจะแอบหายไปนาน
มาต่อตอนใหม่เร็วๆนะคะ
เห็นใจน้องซอ แง่มๆ ขอให้คุณหมอเห็นความน่ารักไวๆนะคะ

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์*



นคินทร์ ความหมายคือ ภูผาสูงใหญ่

นคินทร์ จึงไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด

หัวใจของนคินทร์ก็เช่นกัน มันแข็งแกร่ง มั่นคงและยิ่งใหญ่ ไม่เคยหวั่นไหว หรือสั่นคลอน

ในชีวิตนี้ผ่านมาแล้วทั้ง สุข ทุกข์ เศร้า สูญเสีย เจ็บ...แต่ไม่เคยล้ม ภูผายังคงเป็นภูผา นคินทร์ยังคงเป็นนคินทร์

.
.
.
.
.


“ฉันเป็นเนื้องอกในสมอง”

.
.
.
.


เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แค่เพียงแผ่วเบาเท่านั้น หากแต่มันกลับ สั่นคลอนภูผาได้ สั่นคลอนหัวใจของนคินทร์ได้  หัวใจที่เคยคิดว่าแน่นหนัก มั่นคง แข็งแกร่งเป็นหนักหนา เพิ่งได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว มันก็แค่ก้อนเนื้ออ่อนๆ ในอกข้างซ้ายเท่านั้น หาได้แข็งแรงทนทานเหมือนที่เคยคิดไว้แต่อย่างใด เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงแผ่วๆนั่น ก้อนเนื้อในอกซ้ายของเขาก็กระอักออกมาเป็นเลือด เลือดที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตา หยดเผาะแผะลงบนแก้มซีดๆของร่างตรงหน้ามากมาย อย่างยากจะบังคับ...

แตกสลายแล้ว...หัวใจแห่งภูผา...

แตกสลายแล้ว...หัวใจของ นคินทร์

.
.
.
.
.

หลังการเดินทางที่ยาวนาน ทุกคนก็เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตอน ห้าทุ่มนิดๆ กว่าจะด้ออกจากสนามบินก็เกือบจะเที่ยงคืน สต๊าฟบางส่วนรวมทั้งแอนต้องขนของกลับเข้าออฟฟิตที่สีลมก่อน เหลือแต่ซอ ภุมรา และ นคินทร์ที่แยกตัวกลับบ้านกันได้เลย

“ภู่ นายไหวมั้ย?”

“ไหวๆ นั่งเครื่องนานเลยเหนื่อยน่ะ ไม่ได้เป็นไรมากหรอก”

“เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านนะ ตอนนี้นายพักอยู่ไหน”

“ฉันอยู่ที่คอนโด xxx ตรงแถวๆราชเทวีน่ะ รบกวนหน่อยก็แล้วกันนะ”
.
.
.
.

กว่าแท็กซี่จะมาถึงคอนโดของภุมราก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า  ภุมราดูเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด พอกลับถึงห้องได้เจ้าตัวก็ผล็อยหลับไปทันที ทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้า  ที่จริงตลอดการเดินทางภุมราหลับแทบจะตลอดเวลา ในรถแท็กซี่เมื่อกี้ก็เช่นกัน ระหว่างทางจากลิฟท์มาถึงห้องภุมราก็แทบจะเดินหลับเสียให้ได้ 

ก้อนอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่กลางอกของนคินทร์ ชายหนุ่มนั่งเฝ้าคนหลับลึกอยู่ตรงขอบเตียง มือแกร่งบรรจงลูบเรือนผมนิ่มสลวยแผ่วเบา ดวงตาจับจ้องใบหน้าซีดขาวไร้สีโลหิตไม่วางตา ไม่อยากละสายตาไปไหน ด้วยกลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะหายไปจากมือของตน

เหตุการณ์เมื่อคืนวานยังคงฉายชัดอยู่ในหัว ตอนที่เขารู้ว่าภุมรา ป่วยหนัก น้ำตานคินทร์ไหล เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กตัวเล็กๆ สองแขนผอมบางโอบกอดศรีษะของเขาไว้ ปลอบโยน



“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ภู่ นายป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ประมาน4-5ปีได้แล้วล่ะ”

“ทำไมนายม่ยอมบอกฉัน”

“ฉันไม่รู้นี่นาว่านายอยู่ที่ไหน”

“งั้นตอนที่เจอกันทำไมไม่ยอมบอก”

“ช่างเถอะภู...ฉันมันก็ป่วยไปแล้ว บอกหรือไม่บอกก็เหมือนกันน่ะแหละ”

“ขอโทษ ภู่ ฮึก ฉันขอโทษ...เพราะฉันไม่ดีกับนายใช่มั้ย นายเลยไม่กล้าบอก ฉันขอโทษ ภู่..ฮึก”

“โธ่...อย่าร้องสิคนดีของภู่ อย่าร้องนะ ภู่พอแล้ว แค่ภูอยู่กับภู่แบบนี้ ภู่ก็พอใจแล้ว อย่าร้องนะคนดี”

“ภูขอโทษ ฮือ...ยกโทษให้ภูนะ”

“ภู่ไม่เคยโกรธภูเลยนะ ไม่เคยเลยแม้สักวินาที”


อ้อมแขนแกร่งตระกองกอดร่างบางแน่น นคินทร์สะอื้นฮั่กอย่างไม่อาย มันเพิ่งจะลงตัวแท้ๆ เพิ่งจะดีขึ้นแท้ๆ เขากำลังมีความสุขราวกับกำลังอยู่ในความฝันแท้ๆ หรือเพราะมันเป็นแค่ความฝันที่หวานจนเกินไป เวลาลืมตาตื่นถึงได้ราวกับตกจากสวรรค์เยี่ยงนี้
เขาเอง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเอง เขาคนเดียวที่เป็นต้นเหตุให้เรื่องราวมันเลวร้ายลงถึงเพียงนี้ ทั้งที่คนตรงหน้าทำดีกับเขาสารพัด เป็นเขาเองที่ไม่ยี่หระ เป็นเขาเองที่ทำร้ายคนที่รักเขาอย่างเลือดเย็น เขาต่างหากที่สมควรจะเป็นคนที่ป่วย เขาต่างหากที่สมควรจะโดนทำร้าย เขาต่างหากที่สมควรจะเจ็บปวด



“ภู่...ภู่ต้องหายนะ ฮึก...ภู่ต้องไม่เป็นอะไรนะ”

“อืม รู้แล้ว...ไม่ต้องห่วงนะภู เดี๋ยวภู่ก็หายแล้วล่ะ”


.
.
.
.
.


ล่วงเลยจนตี 2 แล้วนคินทร์ยังคงนั่นมองคนที่หลับไหลไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่อย่างนั้น แววตาวูบไหวสั่นระริก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้ง ด้วยสงสารคนตรงหน้าจับใจ อาการป่วยของภุมราหนักหนาเหลือเกิน ทั้งๆที่ป่วยแต่ก็ยังต้องมาทนรับแรงอารมณ์ของเขา ก้มหน้ารับคำพูดผลักไสทำร้าย ยินยอมถูกกระทำย่ำยี แค่คิดนคินทร์ก็แทบกระอักเลือดกับความระยำชั่วช้าที่เขาเคยทำไว้กับภุมรา ทำร้ายคนที่รักเขา ทำร้ายคนที่เป็นดั่งดวงใจของเขาเอง

....................................................................

.................................................

................................

................


แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนอน นคินทร์ลืมตาตื่นขึ้น เพราะแรงขยับจากคนในอ้อมกอด


“ภู่...”

“อือ...”

“ภู่!! ภู่เป็นอะไรภู่”

“อือออ...”

“เจ็บตรงไหน บอกภูสิ ภู่ ภู่!!”


หัวใจนคินทร์หายวาบ ร่างสูงสะดุ้งสุดตัว ลนลานเข้าดูอาการของคนที่นอนดิ้นเร่าๆอยู่บนเตียงท่าทางทรมาน ภุมรากัดฟันแน่น ใบหน้างามซีดเผือด  ไรผมมีเหงื่อผุดพรายทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ไม่ว่าจะเขย่าตัว หรือเรียกยังไงเจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบ ได้แต่ดิ้นทุรนทุราย สองมือกุมศรีษะไว้มั่น พร้อมทั้งจิกทึ่งผมไปมา ปากครางอืออาราวกับไม่ได้สติ


“ภู่ ภู่เป็นอะไรไป ภู่ ตอบภูสิ ภู่!”


ในระหว่างที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่นั้น จู่ๆภุมราก็ลุกพรวดขึ้นและอาเจียรออกมา แต่ชายหนุ่มยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน นอกจากอาหารบนเครื่องบินแล้วภุมราแทบไม่ได้แตะอาหารใดๆอีก ดังนั้นเมื่ออาเจียรออกมาจึงมีเพียงน้ำย่อยสีเขียวใสๆเท่านั้น หลังจากโก่งคออาเจียรอยู่เพียงครู่ ภุมราก็ทรุดลงไปนอนเหนื่อยหอบอยู่บนเตียง คิ้วเรียวขมวดมุ่น  นคินทร์ไม่รอช้าอีกต่อไป ร่างแกร่งช้อนอุ้มภุมราที่นอนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงขึ้นในอ้อมแขน จำได้ว่าเห็นกุญแจรถยนต์อยู่ที่หัวนอน คว้าได้ก็ถลาอกจากห้องไปทันที

...................................................................


 :m2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด