พิมพ์หน้านี้ - สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: thearboo ที่ 22-12-2011 01:07:50

หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 22-12-2011 01:07:50
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
********************************************************************

ผิดไหม? หากเพื่อนรักจะหลงรักเพื่อนของตัวเองสุดหัวใจ หากแต่ด้วยความไม่ยั้งคิด กลับสร้างรอยร้าวระหว่างกันจนไม่อาจมองหน้า แล้วเขาจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้กลับมาเคียงข้างกันอีกครั้ง แม้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

“ฉันเกลียดแก และจะเกลียดไปตลอดชีวิตที่ฉันมี”
แต่ฉันรักนายนะ และจะรักนายไปจนกว่าฉันจะหมดลมหายใจ

“ฉันจะทำให้นายเจ็บ ยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บ”
ทำเถอะ ถ้ามันจะทำให้นายสบายใจได้ ฉันก็ยินดี

“ออกไปจากชีวิตฉันสักที”
ถ้าฉันไปนายจะอภัยให้ฉันหรือเปล่า ถ้านายอภัยให้ฉันล่ะก็ ฉันสาบาน จะหายไปจากนาย ตลอดชีวิต...
<
<
<
<
<


ตอนที่ 1 *อีกครั้ง*
 
“อะไรนะ พี่จะให้ผมรับงานถ่ายแบบอีกงั้นเหรอ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ค่อยสะดวก ผมไม่ไหวหรอกนะครับ”
“แค่สองอาทิตย์เองนะภู่ เป็นงานที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่หนักมากหรอก และที่สำคัญนะ งานนี้จะไปถ่ายทำกันถึงเกาะมัลดีฟแน่ะ เธอก็เหมือนได้ไปพักผ่อนนั่นแหละ ไม่ดีเหรอ?”
“ ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ ผมอยากพักอยู่บ้านมากกว่าอีก”
“โธ่ ถือว่าช่วยพี่สักครั้งเถอะนะ ครั้งเดียว งานนี้มันสำคัญกับอนาคตพี่เลยนะภู่ ช่วยพี่หน่อยเถอะนะ นะ นะ”
“แต่ว่า พี่แอนครับ...”
“อ๊ะ จริงด้วย พี่ลืมบอกไป คนที่จะมาเป็นตากล้องให้น่ะ เขาเป็นถึงตากล้องที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือขั้นเทพเลยนะ”
“ใครเหรอครับพี่แอน”
“คุณนคินทร์ไงล่ะ ทั้งๆที่ฝีมือของเขาดังมากเลยนะแต่กลับไม่ค่อยยอมรับงานในวงการสักเท่าไหร่ แต่เพราะงานนี้มันสำคัญมากจริงๆ ไง เขาถึงได้ตกปากรับคำมาช่วยน่ะ ก็เหลือแต่เธอนี่แหละ ช่วยพี่หน่อยนะ ภู่นะ”
“เขา...เอ่อคุณนคินทร์ เป็นคนเลือกผมเหรอครับ”
“อ๋อ เปล่าหรอกจ๊ะ เรื่องนายแบบน่ะทางผู้จัดเขาเป็นคนเลือกเอง คุณนคินทร์เขาไม่รู้หรอก ตอนที่ไปขอคำปรึกษา คุณเธอก็บอกว่าจะใครก็ได้ไม่เกี่ยงล่ะ”
“งั้นเหรอครับ...ถ้าเขารู้ว่านายแบบเป็นผมเขาคงจะขอถอนตัวแน่ๆ”
“พูดอะไรน่ะ เธอน่ะนะ เป็นนายแบบในตำนานที่ไม่ว่าตากล้องคนไหนไหนก็อยากได้ตัวเธอทั้งนั้นแหละ”
“หึ หึ มันไม่แน่เสมอไปหรอกครับพี่แอน”
“หืม อะไรของเธอเนี่ย แล้วว่ายังไงตกลงรับงานนี้ไหมภู่ รับนะ รับนะ”
“...ก็ได้ครับพี่แอน ผมรับงานนี้ครับ แต่แค่งานนี้งานเดียวนะ ผมจะไม่รับงานอื่นอีกแล้วนะครับ”
“อุ๊ย จ๊ะๆ แค่งานนี้พี่ก็ดีใจแล้วล่ะ เย้ๆดีใจจังเลย”
“ฮะ ฮะ แล้วคอนเซ็ปงานเป็นยังไงเหรอครับพี่แอน”
“ก็เป็นงานถ่ายแบบเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์เสื้อGEOGARDน่ะ งานนี้เขาทุ่มทุนกันแบบสุดตัว เลยอยากได้นายแบบขั้นเทพอย่างภู่ และตากล้องมือพระกาฬอย่างคุณนคินทร์ไงล่ะ ก็แบรนด์เขาดังมากเลยนี่นา จะเปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งทีแค่นายแบบธรรมดาๆ มันไม่เวิร์คหรอกนะ ต้องเป็นเธอเท่านั้นแหละจ๊ะ”
“อืม ครับ แล้วจะเริ่มงานวันไหนเหรอครับ ผมจะได้เตรียมตัวก่อน”
“งานจะเริ่มอาทิตย์หน้าน่ะ เดี๋ยวพี่จัดตารางมาให้ภู่อีกทีนะ”
“ครับ รบกวนด้วยนะครับพี่แอน”
ภู่ หรือภุมรา นายแบบหนุ่มที่เคยโด่งดังมาก แล้วจู่ๆก็ประกาศตัวออกจากวงการเอาดื้อๆ ชายหนุ่มเป็นคนหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวละเอียด เรือนผมสีดำนุ่มสลวย ซอยสั้นระต้นคอ ตามสไตล์นายแบบ คิ้วสวยได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่แสนทรงสน่ห์ เป็นที่หลงใหลแก่ทุกคนที่พบเห็น แม้จะเป็นนายแบบที่โด่งดัง ภายนอกอาจดูเป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหอง เข้าถึงได้ยาก แต่จริงๆแล้วก็เป็นคนที่ไม่ถือเนื้อถือตัว และจริงใจกับทุกคนที่เข้าใกล้
เช้าวันเสาร์ชายหนุ่มสาละวนอยู่กับการจัดกระเป๋าเดินทางเพื่อเดินทางไปถ่ายแบบที่เกาะมัลดีฟ ตามตารางงานที่ได้รับมา เวลาแค่สองอาทิตย์ก็ไม่ได้มากมายนัก แล้วก็ไม่ใช่คนที่เรื่องมากอะไร ดังนั้นของที่นำติดตัวไปจึงมีแค่ของใช้จำเป็นแค่หยิบมือเดียว พอได้เวลาก็มีทีมงานมารับไปส่งที่สนามบิน

“ฮัลโหล ครับหมอ ครับ กำลังเดินทางไปสนามบินเลยครับ”
“.........”
“ฮะ ฮะ ฮะ ผมไม่ลืมหรอกน่า ผมจะซื้อมาฝากเยอะๆเลย”
“.........”
“ก็หมอไม่ยอมไปกับผมนี่นา ไหนว่าอยากพักผ่อนบ้างไง ไปกับผมก็ได้ เดี๋ยวผมเที่ยวเป็นเพื่อนให้เอง”
“............”
“ฮะ ฮะ ฮะ ได้ ได้ เดี๋ยวผมกลับมาแล้ว เราค่อยไปเที่ยวกัน เตรียมลาพักร้อนไว้ได้เลยครับ”
“..........”
“คร้าบ คร้าบ รู้แล้ว แล้วเจอกันครับ สวัสดีครับ”
พอวางสายก็หันมาเจอกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของสต๊าฟหนุ่มที่นั่งมาด้วยกัน ดูท่าทางก็รู้ว่าหนุ่มคนนี้ชื่นชมเขาอยู่มากพอควร ดูจากหน้าตาแล้วอายุคงจะไล่เลี่ยกันอยู่ หรืออาจอ่อนกว่าเขาอยู่สักหน่อย แววตาดูเป็นมิตร ดูไม่มีพิษภัย
“คุณภู่ มีของเอาไปแค่นั้นเองเหรอครับ”
“อือฮึ ทำไมเหรอครับ”
“ น้อยไปหรือเปล่าครับเนี่ย ผมเคยเห็นนายแบบบางคน เวลาไปไหนมาไหนทีของเยอะแยะมากมายเลยนะครับ”
“หึ หึ แค่นี้ก็พอแล้ว ผมไม่ชอบขนของไปไหนเยอะๆ ไม่ได้จะย้ายบ้านสักหน่อยนี่ครับ”
“ฮ่าๆๆ จริงด้วยครับ”
“เอ่อ ขอโทษที ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย ทั้งๆที่คุณรู้จักผมแล้ว...”
“อ๊ะ ขอโทษครับลืมแนะนำตัวไป ผมชื่อซอ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ซอ”
“ตอนแรกผมคิดว่าคุณภู่ จะคุยด้วยยากกว่านี้ซะอีกครับ แต่เอาเข้าจริง คุณเป็นคนที่คุยได้ง่ายดีนะครับ”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ใครๆก็ว่ากันอย่างนั้นแหละ ว่าแต่เรียกผมว่า ภู่ เฉยๆก็ได้ เรียกคุณภู่ ฟังแล้วมันจั๊กกะจี้นะครับ”
“ฮ่าๆๆ โอเค ครับ โอเค”
หลังจากคุยกันอย่างถูกคออยู่ได้สักพักก็ถึงสนามบิน คิดว่าถ้าได้ผูกมิตรไว้หน่อยก็ดีอย่างน้อยๆสองอาทิตย์ที่มัลดีฟก็จะได้มีเพื่อนคุย
ตลอดทางที่เดินเข้าไปเคาน์เตอร์เช็คอิน หัวใจของภุมราเต้นระทึกขึ้นเรื่อยๆ เขากำลังจะได้เจอกับคนที่เขาเฝ้ารอ คนที่อยู่ในหัวใจมาตลอด คนที่เป็นดั่งลมหายใจ คนคนนั้น คนที่ถูกเขาทำเรื่องที่เกินให้อภัย คนที่ชิงชังเขายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกนี้ “นคินทร์”   
ในที่สุด ก็ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น มันผ่านมานานแค่ไหนแล้วนะ สำหรับภุมรา มันนานราวกับทั้งชีวิตเลยทีเดียว พอไปถึงจุดรวมพลที่ทุกคนรวมตัวกันอยู่ ทุคนหันมามองที่เขา เพราะเขาหายจากวงการไปนาน สต๊าฟหลายๆคนต่างก็อยากจะทักทายด้วยความคิดถึง แต่เขามองไม่เห็นใครเลยสายตาพุ่งตรงไปที่คนคนนั้น คนที่เขาคาดหวังที่จะเจอมาตลอด เฝ้าอธิฐานให้ได้เจอ ยอมแลกทุกอย่างเพียงเพื่อจะได้ยืนเคียงข้างอีกครั้ง แม้จะแค่นาทีเดียว เขาก็ยินดี นคินทร์ ชำเลืองมองมาทางภุมราเพียงแวบเดียว แล้วก็หันกลับไป คงรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะมาเป็นนายแบบให้
‘ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็เจ็บชะมัด’ ในใจของภุมรา คิดออกมาแบบนั้น
“อ้าวภู่ มาแล้วเหรอ มานี่เร็ว มาตรงนี้”
“สวัสดีครับพี่แอน”
“นี่พี่จะแนะนำให้รู้จักคุณนคินทร์”
ไม่มีใครรู้ว่าภุมรากับนคินทร์นั้นเคยรู้จักกันมาก่อนตั้งแต่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงในวงการ
“คุณนคินทร์คะนี่ภุมราค่ะ นายแบบที่น่ารักของเราในงานนี้ แล้วก็ภู่จ๊ะ นี่คุณนคินทร์ นะ ยอดตากล้องสุดหล่อของเราเช่นกัน สนิทๆกันไว้นะจ๊ะ เขาว่ากันว่า งานจะออกมาดีได้ ตากล้องกับนายแบบต้องใจถึงใจนะ ฮิฮิ”
ภุมราทำเป็นโค้งให้ทั้งๆที่ไม่ได้ละสายตาจากใบหน้าคมเข้มนั้นเลยแม้แต่น้อย ฝ่ายนั้นเองก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเพียงแค่ยืนนิ่งๆเท่านั้น แอนที่พยายามสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นมิตรถึงกับหน้าเจื่อนเพราะชายหนุ่มไม่เล่นด้วย ภุมราเป็นคนถอยออกมาก่อนเพื่อลดบรรยากาศอึดอัดที่เกิดขึ้น กลัวว่าอาจทำให้คนอื่นๆระแคะระคายเอาได้ แอนจึงรีบตามมาคุยกับภุมราด้วย
“นี่ๆ ภู่ อีตาคุณนคินทร์เนี่ยเย็นชาชะมัดเลยอ่ะ ไม่ยอมรับมุกพี่เลย จริงๆแล้วต้องเออออไปตามมารยาทบ้างสิ เสียเซลฟ์ชะมัดเลยเชียว”
“เขาคงเป็นคนนิ่งๆน่ะครับ คงไม่มีอะไรหรอก อาจตื่นคนก็ได้ หึหึ”
“ว๊าย ร้ายกาจ คุณนคินทร์เขาไม่ใช่สัตว์ป่านะภู่ เอ๊ะ หรือว่าใช่ ฮ่าๆๆ”   
ไม่มีใครเอะใจสงสัยบรรยากาศน่าอึดอัดระหว่างชายหนุ่มทั้งคู่ คงเพราะตัวนคินทร์เองนั้นก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับใครอยู่แล้ว
*************************************************

ฝากไว้ในใจทุกท่านด้วยนะเจ้าคะ
ครุคริ งุงิ งืมงืม :z3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: amfinetoday ที่ 22-12-2011 01:18:27
มาให้กำลังใจคนแรก  o13 (รึเปล่า)

เรื่องน่าติดตามมากนะคนเขียน อยากรู้ว่า 2 คนมีเบื้องลึกเบื้องหลังยังไง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป...

อัพบ่อย ๆ หน่อยน้า จะคอยอ่าน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 15:26:15
ตอนที่ 2 *เกาะสวรรค์*

6 ชั่วโมงจากกรุงเทพ และแล้วก็เดินทางมาถึงดินแดนในฝันของใครหลายๆคน เกาะมัลดีฟส์ ทีมงานทั้งหมดเดินทางมาถึงที่พัก บังกะโลสวย หาดทรายขาว ทะเลฟ้าใสเป็นประกาย  แค่ได้เห็น ทุกคนก็รู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางหายไปเป็นปลิดทิ้ง และตื่นเต้นกับการทำงานที่จะเริ่มวันพรุ่งนี้ และต่อไปอีก 2 สัปดาห์  ภุมราแอบคิดอยู่ในใจว่า บริษัท GEOGARD นี่ช่างเป็นพ่อบุญทุ่มเหลือเกินเพราะ แค่ทำโฆษณาลงนิตยาสาร ถึงกับลงทุนออกค่าที่กินที่พักให้ทีมงานทุกคน 7 ชีวิตมาที่มัลดีฟส์ คงไม่ใช่จำนวนน้อยๆเป็นแน่
บังกะโลที่จองเอาไว้มี 2 หลัง ขนาดกลางและขนาดเล็ก ดูเป็นส่วนตัว แอน ผู้จัดการส่วนตัวของภุมรา และเป็นผู้จัดการกับทริปถ่ายแบบทั้งทริปนี้ เป็นคนจัดการที่อยู่เสร็จสรรพ
“เอาล่ะ ทีมงานทั้งหมด 5 คนจะอยู่รวมกันที่บังกะโลหลังใหญ่นะคะ เพราะที่นั่นมี 3 ห้องนอน ส่วนน้องภู่ กับคุณนคินทร์ เป็นแขกพิเศษของเรา ขออนุญาตให้ทั้งสอง อยู่อย่างสบายๆ ไม่แออัด กับบังกะโล 2 ห้องนอนหลังเล็ก ที่ดูเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวสำหรับ 2 หนุ่มนะค๊า” พูดจบทีมงานก็ขนของพะรุงพะรังเข้าไปในบังกะโลหลังใหญ่ทันที จนเหลือแค่ภุมรากับนคินทร์เท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม ภุมรารู้ดีว่านคินทร์คงจะอึดอัดไม่น้อยที่ต้องมาอยู่กับเขาแค่ 2 คนในบังกะโลหลังนี้ แต่สำหรับภุมรานั้น ช่างเป็นความโชคดี อย่างที่อาจต้องใช้โชคทั้งชีวิต เพื่อคว้ามันเลยทีเดียว ดังนั้นเขาจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่ได้มานี้หลุดมือไปอบ่างเด็ดขาด คิดพลางก็ขนของตัวเองเดินตามนคินทร์เข้าไปในบังกะโล

“ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ”  ภุมราไม่รอช้า เอ่ยทักออกไปเป็นการลองเชิง หากแต่ไม่ได้รับเสียงตอบรับจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด
“ ตอนนี้ นายยังอยู่ที่เดิม หรือเปล่าน่ะ สบายดีใช่มั้ย?”  ภุมราลองชวนคุยอีกครั้ง หากแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ อีกฝ่ายยังคงจัดเก็บของของตัวเองโดยไม่ได้สนใจเลยว่ามีอีกคนอยู่ในบังกะโลหลังนี้ด้วย
“หึหึ นายนี่ยังเงียบเป็นเป่าสากเหมือนเดิมเลยนะ ภู”
“อย่ามาเรียกฉันว่า ภู!! แกไม่มีสิทธิ์เรียกฉันอย่างสนิทสนมแบบนั้น!!” นคินทร์ตวาดกลับออกมา อย่างที่ภุมราคิดไว้ไม่ผิด ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้น นคินทร์เคยประกาศกร้าวตัดขาดความเป็นเพื่อนกับเขาไปแล้ว ขนาดที่ว่าตายไม่เผาผี และจะโกรธมากหากเขาเผลอไปเรียกชื่อเล่นของเขาเข้า
“นี่นาย...ยังไม่เลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นอีกเหรอ นานมากแล้วนะ อโหสิกรรมให้ฉันได้แล้วมั้ง”
“หุบปากไปเถอะ คนอย่างแก ตายไปกี่ชาติ ฉันก็ไม่มีทางให้อภัย!!” พูดจาคาดโทษ เคียดแค้น เหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน นคินทร์ยังคงเป็นคนเดิมที่เขารู้จัก ยังคงเป็นคนที่เกลียดเขา และยังคงเป็นคนที่เขารัก
“โห...พูดแบบนี้ ให้ฉันตีความว่า ไม่ว่าชาติไหน นายก็อยากเกิดมาเจอฉันงั้นสิ ขาดกันไม่ได้เลยเนอะ” การพูดยียวนเป็นไสตล์ที่ภุมราคุ้นเคย และมันเป็นแค่หนทางเดียวเท่านั้นที่จะสามารถได้พูดคุยกับนคินทร์ ถึงจะไม่ใช่ในเชิงที่ดีนักก็ตาม
“ใช่...แกกับฉันยังต้องเจอกัน รวมทั้งกับฝ้ายด้วย เพราะแกยังต้องชดใช้ให้เธอ อย่างไม่มีวันสิ้นสุด สิ่งที่แกทำมันเกินจะอโหสิกรรม!!” นคินทร์ คำรามต่ำ แววตาวาวโรจน์จ้องมองมาในดวงตาของภุมรา หากแต่ดวงตาคู่นั้นกลับไม่เคยเห็นถึงความอาทรในดวงตาคู่นี้เลยแม้แต่ฝีกริ้น
“หึ...เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว นายยอมทิ้งทั้งชีวิตผูกพันกับฉันไปจนชาติหน้าเลยสินะ ฉันล่ะอิจฉาหล่อนจริงๆ...อึก!!” ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ภุมราก็ถูกอุ้งมือหนาของนคินทร์ล็อคเข้าที่คออย่างหนักจนแทบสำลัก มือกร้านบีบเค้น ราวกับจะให้คอเขาแหลกคามือ
“หุบปากเน่าๆของแกไปซะ  แกไม่มีสิทธิ์พูดถึงเธอแบบนั้น!!!”
“ทำไมจะพูดถึงไม่ได้ล่ะ ฝ้ายก็เป็นคนที่ฉันรักเหมือนกันนะ นายก็รู้ดีอยู่นี่”
“อย่าเรียกชื่อเธอ แกทำลายชีวิตเธอ แกมันใจบาปหยาบช้า ราวกับไม่ใช่คน” อุ้งมือที่บีบคอเขาอยู่กระชับแน่นขึ้นเข้าไปอีกจนลมหายจะเริ่มจะขาดห้วง นี่นคินทร์ตั้งใจจะบีบคอเขาให้ตายเลยอย่างนั้นหรือ นั่นสินะ ที่จริงนคินทร์คงอยากจะฆ่าเขาให้ตายๆไปซะตั้งแต่วันนั้นแล้ว
“นะ...นี่...ถ้ายังไม่คิด...จะฆ่าให้ตายตอนนี้ล่ะก็...ปล่อยมือก่อนเถอะ... ไม่งั้นพรุ่งนี้ฉันจะถ่ายแบบไม่ได้เอา” ภุมราพูดเตือนสติ ใช่ ถึงเขาสองคนจะมีความแค้นอะไรกันอยู่ก็ตาม แต่การที่ทั้งคู่อยู่ที่นี่ในสาเหตุจริงๆแล้วนั้นมันก็คือเรื่องงาน และเขาไม่ควรให้มันมีผลกระทบต่อทั้งทีมงานหรือลูกค้า นคินทร์คลายมือออกแต่โดยดี หากแต่อารมณ์คุกรุ่นก็ยังไม่จางหาย ฝ่ายภุมราพอหลุดจากอุ้งมือชายหนุ่มได้ ก็ถึงกับสำลักอากาศเสียตัวโยน และได้แต่ยืนมองนคินทร์เก็บของเข้าห้องส่วนตัวอยู่ตรงนั้น โดยไม่สามารถจะรั้งตัวกลับมาคุยดีๆได้อีก แต่ช่างเถอะ เหลือเวลาอีก 2 อาทิตย์ มันต้องมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างล่ะน่า เขาจะพยายามทำให้นคินทร์อภัยให้เขาให้จงได้
ความมืดโรยตัวเข้าปกคลุมทุกพื้นที่บนเกาะเล็กๆนี้ ภุมรานอนอยู่ในห้องส่วนตัว โดยที่ใจยังคงคิดคำนึงอยู่ตลอด ว่าถัดออกไปจากห้องเขานี้ คือห้องของนคินทร์ คิดได้ว่า เขาทั้งคู่อยู่ใต้ชายคาเดียวกันในบังกะโลหลังนี้ ในที่ที่เป็นส่วนตัวนี้ เพียงแค่คิดแบบนั้นหัวใจของภุมราก็พองโตอุ่นซ่าน ด้วยที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มีโอกาสนี้อีก  ดึกสงัดภุมราผลอยหลับไป และคงเป็นค่ำคืนที่เขาอาจฝันดี  

...................................................................

ต่อด้านล่างจ๊ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 15:28:12
ตอนที่ 3 *เหตุเกิดจากความเหงา*

แสงอาทิตย์ อบอุ่นในยามเย็นโพล้เพล้ เด็กชายตัวน้อยนั่งเหม่อลอยอยู่บนขอบสะพานหันหน้ามองไกลออกไปในทะเลกว้าง เฝ้าดูดวงอาทิตย์ ที่ค่อยๆไหลลงสู่ท้องทะเลอย่างช้าๆ และเงียบเชียบ เย็นขนาดนี้แล้ว เด็กชายวัย 10 ขวบยังคงนั่งอยู่คนเดียวไร้วี่แววใครมาสนใจดูแล นั่นเพราะเขาเป็นลูกที่ถูกลืม เด็กชาย “ภุมรา” 
เด็กน้อยถูกส่งมาอยู่ในความดูแลของคุณป้าที่จังหวัดเล็กๆนี่ ป้าของเขาทำงานกลางคืน เป็นเจ้าของบาร์เล็กๆริมชายหาด เพราะป้าทำงานกลางคืนจึงไม่ได้มาดูแลเด็กน้อยมากนัก หากแต่ก็เป็นญาติเพียงคนเดียวที่ยอมรับเลี้ยงเขา เด็กชายผู้ซึ่งพ่อแม่แยกทางกัน ไปมีครอบครัวใหม่ และเห็นเขาเป็นเพียงส่วนเกิน แม้จะยังส่งเสียเงินทองให้ แต่ก็ไม่ได้รับเลี้ยงดู ดังนั้นป้าเขาจึงรับมาอยู่ด้วย แม้จะไม่ได้มีเวลาดูแลมากมาย แต่ก็ให้ความรักเอ็นดูพอจะหล่อเลี้ยงหัวใจแห้งผากของเด็กน้อยให้พอชุ่มชื้นอบอุ่น 3เดือนแล้วที่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ เด็กน้อยชอบมานั่งรับลมทะเลยามเย็นที่นี่ เพราะมันสวยงามและสงบ และที่สำคัญ 3 เดือนแล้วที่เขามาอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ยังไม่มีเพื่อนเลยแม้สักคน
พระอาทิตย์ลับขอบทะเลไปแล้ว ความมืดปกคลุมทั่วพื้นที่ เด็กชายคิดจะเดินกลับเข้าไปในบ้าน พลันสายตาไปเจอเข้ากับลูกหมาตัวหนึ่งนอนขดตัวอยู่ใกล้ๆถังขยะริมสะพาน ท่าทางดูเหมือนจะบาดเจ็บ ภุมราไม่รอช้า รีบเข้าไปดูอาการ ลูกหมาหน้าตาน่ารัก ดูไม่เหมือนหมาข้างถนน เด็กชายอุ้มลูกหมาน้อยขึ้นดูอาร ดูท่ามันจะโดนหมาเจ้าถิ่นทำร้าย แต่ก็ไม่ได้บาดเจ็บมาก แค่อยู่ในอาการตกใจกลัวเท่านั้น ภุมราเดินอุ้มเจ้าหมาน้อยตั้งใจที่จะพากลับไปรักษาที่บ้านเขา พลันมีเด็กชายอีกคนเดินมาขวางทางเขาไว้
“นี่ นาย นั่นน่ะหมาของฉันนะ!” เด็กชายที่มาใหม่ หน้าตาถมึงทึง ดูไม่พอใจนักที่เห็นภุมราอุ้มลูกหมาของตนอยู่
“ฉันไม่ได้จะขโมยนะ ฉันแค่เห็นมันบาดเจ็บเลยจะรักษาให้น่ะ” ภุมราอธิบายออกไป เด็กชายที่มาใหม่จึงคลายสีหน้าลง
“มันหายออกมาจากบ้านฉันมาน่ะ  แล้วคงหลงทางกลับไม่ได้” เด็กชายเจ้าของเจ้าหมาน้อยอธิบาย สายตับจับจ้องลูกหมาน้อยด้วยความสงสาร
“งั้น พามันไปบ้านฉันก่อนมั้ย หายาทาให้มันก่อนแล้วค่อยพากลับ”
“อืม ก็ดีเหือนกัน บ้านนายอยู่ใกล้ๆนี้เหรอ”
“ใช่ ตรงบาร์นั่นไงล่ะ”
“อ๋อ งั้นนายก็เป็นเด็กใหม่ หลานป้ากรรนิการ์เจ้าของบาร์นั่นที่เพิ่งมาอยุ่ใหม่ใช่มั้ย?”
“อีม”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉัน นคินทร์ เรียกว่า “ภู” ก็ได้”
“ฉัน “ภู่” ภุมรา  ยินดีที่ได้รู้จัก”
“งั้นเราจะให้ภู่เป็นเพื่อนคนสำคัญของเรานะ เพราะภู่ช่วยเจ้าตูบ หมาของเราไว้”
“ขอบใจนะ ภู นายก็เป็นเพื่อนคนแรกของเราที่นี่เหมือนกัน”
“ฮ่า ฮ่า เราก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนกัน งั้นเรามาเป็นเพื่อนรักกันตลอดไปเลยนะ”
“ได้สิ”
จุดเริ่มต้นของมิตรภาพล็กๆ ของเด็กชายภุมรา และ เด็กชายนคินทร์ ทำให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดี เป็นเพื่อนรักของกันและกันมาตลอด ทั้งตอนที่ยังเรียนชั้นประถม มัธยม จนกระทั่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งสองคน เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ที่ไม่ว่าใครก็ชื่นชมหลงใหล จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ทำให้มิตรภาพกว่า 10 ปีของทั้งคู่สะบั้นลง อย่างไม่มีทางจะต่อติดได้อีก

.....................................................................

เดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 28-12-2011 16:04:07
 :mc4:  ต้อนรับเรื่องใหม่ บวกเป็ดเป็นกำลังใจค่ะ

ว่าแต่วงเล็บไว้ว่าเรื่องสั้น แล้วมันสั้นขนาดไหนอะคะ? อ่านแล้วดูเหมือนมันจะยังอีกยาวเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-12-2011 16:25:25
มาม่าโชยยยยมาแต่ไกล
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 17:28:04
ตอนที่ 4 *ไม่คาดฝัน*

เช้าวันรุ่งขึ้น เป็นวันแรกของการถ่ายแบบ ทีมงานทุกคนเตรียมการพร้อมเพรียง ภุมรานายแบบหนุ่ม ตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้า การถ่ายแบบวันนี้อยู่ในหัวข้อ “วันสบายๆ สายลม แสงแดด” ดังนั้นจึงต้องตื่นมาตั้งแต่เช้า เพื่อให้ทันพระอาทิตย์ขึ้น เพราะแสงแดดยามเช้าเป็นแสงที่สวยมาก การถ่ายแบบเริ่มขึ้น ไปได้สักพัก ภุมราก็เริ่มคิดที่จะหาเรื่องคุยกับนคินทร์อีก ตอนนี้อยู่กันเยอะ นคินทร์คงไม่กล้าปฏิเสธตน
“นี่ คุณตากล้องครับ คุณพูดน้อยอย่างนี้ตลอดเลยเหรอ” ยิงไปดอกแรก เสียงของภุมรา ทำให้ทุกคนหันมาสนใจ แต่ไม่ใช่นคินทร์ แน่นอนว่าคำตอบที่นายแบบหนุ่มได้รับคือ ความเงียบ
“นี่ คุณตากล้องครับ ไม่ได้เอาปากติดมาเหรอครับ” ดอกที่สองยังคงน้ำเสียงสบายๆ แต่เป็นคำพูดที่ค่อนข้างแรงสำหรับผู้ฟัง แต่ภุมราตั้งใจยั่วออกไป เพราะรู้ดีว่า อีกฝ่ายไม่ใช่คนที่มีความอดทนสูงนัก
“อ๋อ~ เพิ่งรู้นะครับเนี่ย ว่าคุณตากล้องเป็นใบ้ หึหึ” การพูดจายียวนของภุมรา ยังความแปลกใจปนหวาดหวั่น เกรงจะมีวางมวย และยังรู้สึกแปลกใจซ้ำที่เห็นนายแบบผู้สุภาพเรียบร้อยใช้คำพูดที่ไม่เคยได้ยิน หากแต่นคินทร์ยังคงนิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ยิน สิ่งที่ภุมราพูดมาทั้งหมด นายแบบหนุ่มเจ็บใจเล็กๆ ‘ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ’
ตอนกำลังจะเริ่มถ่ายแบบต่อ จู่ๆ นคินทร์ก็เดินเข้ามาผลักเขาจนล้มลงนอนหงายไม่เป็นท่าอยู่บนหาดทราย และเจ้าตัวก็ขึ้นไปยืนคร่อมอยู่บนตัวนายแบบหนุ่ม ภุมรานิ่งอึ้ง เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะโดนตอบโต้กลับอย่างรุนแรงต่อหน้าคนอื่นๆแบบนี้
“ว้าย เดี๋ยวคะ เดี๋ยว ค่อยๆพูดค่อยๆจากันสิคะ ตายจริง” คนที่ตกใจที่สุดคงจะเป็นแอน ที่เห็นว่านายแบบกับตากล้องคนสำคัญเริ่มจะวางมวยกัน
“เอ่อ นี่ทั้งสองคน คือพี่แอนว่า...” จะไปต่อก็พูดไม่ถูกเมื่อเห็นทั้งสองหนุ่มจ้องตาอาฆาตกันอย่างไม่ลดละแล้วจู่ๆ...
“แชะ”
“แชะ”
เสียงลั่นชัตเตอร์ดังขึ้น ทำเอาทั้งแอน และภุมราสะดุ้ง ซอ ซึ่งเป็นเด็กจัดไฟวิ่งหูตาเหลือกเข้ามาจัดแสงแบบเฉียดฉิว
“เอาอย่างนี้เหรอ คุณนคินทร์” ภุมราพูดรอดไรฟัน ขณะนอนแผ่หรา ให้ตากล้องหนุ่มจับภาพ และด้วยความที่ภุมราเป็นนายแบบมืออาชีพ เขาย่อมไม่หวั่นไหว โพสต์ท่าให้ถ่ายมุมเด็ดอย่างชำนิชำนาญ จริงอยู่ว่าการโดนนคินทร์มองผ่านเลนส์จะทำให้หัวใจเขาระทึกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียสมาธินักหรอก
การถ่ายแบบวันนี้จบลงไปด้วยดี ไม่มีมวยคู่เอกหนุ่มหล่อให้ชม แต่ทีมงานก็ยังคงระส่ำระสาย เพราะนี่เพิ่งจะวันแรก ยังต้องทำงานด้วยกันไปอีกตั้ง 2 อาทิตย์ กลัวใจสองหนุ่มจริงๆ หลังจากกลับมาถึงบังกะโลที่พัก ภุมราข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายก่อน เพราะวันนี้เขาโดน ตากล้องอวดดี จับเขากลิ้งอยู่บนทรายทั้งวัน หลังจากอาบน้ำแล้วนายแบบหนุ่มในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงยีนส์สบายๆ เดินออกมารับลมข้างนอกบังกะโล พระอาทิตย์กำลังจะตกทะเล บรรยากาศดูว้าเหว่ ช่างเหมือนกับตอนนั้นเหลือเกิน ตอนที่ถูกเอาไปฝากป้าไว้ ทุกวันเขาก็จะนั่งมองพระอาทิตย์ตกอยู่คนเดียวอย่างนี้ ตอนั้นเขาเหงา แต่ตอนนี้เขาเหงากว่ามาก เพราะไม่มีเด็กชายนคินทร์ อยู่เป็นเพื่อนรัก เฮไหนเฮนั่น เป็นเพื่อนใจ ให้คำปรึกษา  นคินทร์คนนั้น คนที่เติมเต็มทุกอย่างในชีวิตที่ขาดๆเกินๆของเขา คนที่เขารักจนหมดใจ เขาเองแหละที่ผิด เป็นเขาเองที่ทำร้ายใจของนคินทร์ ถ้าวันนั้นเขาไม่ทำแบบนั้นลงไป วันนี้ นคินทร์กับเขาก็คงยังเป็นเพื่อนรัก ไม่เปลี่ยนไป เหมือนตอนนี้  หากว่าพอจะมีอะไรที่เขาทำได้ อะไรก็ได้ที่จะทำให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม ให้เขาได้อยู่เคียงข้างนคินทร์เหมือนเดิมไม่ว่าในฐานะอะไร เขาจะยอมทำทุกอย่าง และจะยอมแลกได้ทุกอย่างเช่นกัน
ระหว่างที่นั่งคิดอะไรอยู่เงียบๆ ตากล้องหนุ่มก็เดินกลับมาที่บังกะโลพอดี ครั้นพอหันมาเจอกับภุมรา ตากล้องหนุ่มก็คิดจะเดินหนีเขาเข้าห้องไปเสีย หากแต่มีหรือที่ภุมราจะยินยอม
“นี่ นคินทร์ นายทานข้าวเย็นหรือยังน่ะ?”
“............” ชายหนุ่มไม่ตอบ เดินตรงเข้าบังกะโลไปอย่างไม่สนใจนัก
“นี่ เดี๋ยวสิ นายคุยกับฉันสักนิดได้ไหมเนี่ย” ภุมราตามยื้อนคินทร์ไว้
“มีอะไรก็ว่ามา” แม้จะฟังดูห้วนๆ แต่มันคือคำตอบที่ทำให้หัวใจภุมรา พองโตขึ้น อย่างน้อยชายหนุ่มก้ยอมที่จะคุยกับเขา
“เรา...กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมได้หรือเปล่า?” คำขอร้องที่เขารอคอย เหมือนจะทั้งชีวิต เพื่อที่จะได้พูดออกมา
“อะไรนะ?”
“คือว่า...นายจะอภัยให้ฉันได้มั้ย แล้วกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“นี่แกคิดจะขอกันได้ง่ายๆแบบนี้เลยงั้นเหรอ กับสิ่งที่แกเคยทำเอาไว้น่ะ?”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าจะให้ฉันทำยังไงก็ได้นะ อะไรก็ได้ ที่จะทำให้นายให้อภัย ฉันจะทำทุกอย่างเลย”
“มันไม่มีอะไรของแกที่มีค่าพอที่จะมาแลกได้หรอก”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ นายถึงจะยอมน่ะ”
“...........” นคินทร์จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของภุมรา ก่อนจะตอบออกมา
“ไม่มีทาง” ชายหนุ่มให้คำตอบหนักแน่น “ไม่มีทาง ที่ฉันจะอภัยให้แกได้หรอก ต่อให้แกตายตรงนี้ก็ตาม”
“ทำไมล่ะ...ทำไม” หัวใจภุมราถูกบีดรัด จนเหมือนมันจะหยุดเต้นเอาดื้อๆ
“แกมันไม่คู่ควร จริงๆแล้วแกมันไม่ควรมีสิทธิ์เสนอหน้าอยู่ในสังคมนี้ซะด้วยซ้ำ กับการที่แกทรยศฉัน ทำลายผู้หญิงที่ฉันรัก และไม่ยอมรับผิดชอบเธอ จนกระทั่งเธอตายน่ะ” นคินทร์รื้อฟื้นสิ่งที่คอยตอกย้ำหัวใจภุมรามาตลอดขึ้นมา  มันเกินกว่าที่ภุมราจะรับได้
“นายไม่ได้รู้อะไรเลย นคินทร์  นายมันไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหล่อนเป็นคนยังไง ไม่รู้ว่าผุ้หญิงคนนั้นคิดอะไร ไม่รู้ว่าฉันทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร นายมันไม่เคยรู้!!” ภุมราตวาดลั่น ทำไมถึงไม่เคยฟังเขา ทำไมผุ้ชายคนนี้ถึงได้ยึดติดขนาดนี้นะ ฉับพลัน ภุมราก็ถูกนคินทร์กระชากคอเสื้อขึ้น พร้อมกล่าวถ้อยคำทำร้ายจิตใจของนายแบบหนุ่มอย่างไม่คิดสงสาร
“ทำไมฉันจะไม่รู้! หึ ฉันรู้ดีว่าฝ้ายเป็นคนยังไง และฉันรู้ดีด้วยว่าคนอย่างแกมันเลว มีแต่ความคิดสกปรก คอยแต่จะโยนความผิดให้คนอื่น ไม่เว้นแม้แต่กับคนที่ตายไปแล้ว !!!!”  คอเสื้อถูปล่อยกะทันหัน ทำให้ภุมราเซเล็กน้อย แต่คำพูดของนคินทร์ทำให้ภุมราเสียศูนย์ถึงขีดสุด ‘ช่างไร้ค่า ราวกับไม่ใช่มนุษย์’
“ถ้านายคิดอย่างนั้น ฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วล่ะ นายรู้ดีทั้งหมดอยู่แล้วนี่ อย่างที่นายบอกนั่นแหละฉันมันเลว ไร้ค่า หน้าหนาหน้าทน หึหึ เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดทุกประการแล้วกัน ขอโทษนะ” ภุมราหัวตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ทั้งที่รักขนาดนี้ มากขนาดนี้แท้ๆ
“...........” คำพูดนั้นเล่นเอานคินทร์นิ่งอึ้ง เขาจ้องมองภุมราที่ทำท่าจะเดินจากไป

...................................................................................

ต่อด้านล่างจ๊ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 17:30:21
ตอนที่ 5 *คำอ้อนวอน* 1

ภุมรารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุด เขารีบเดินจากมาจากตรงนั้น อยากออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้ายังต้องมองหน้านคินทร์ต่ออีกนิด เขาต้องร้องไห้ออกมาแน่ๆ และหัวใจเขาคงเกินจะรับไหว ภุมรามาถึงห้องพักในที่สุด แต่พอจะปิดประตูห้องก็ถูกนคินทร์เอาตัวเข้ามากั้นเอาไว้
“อะ อะไรอีกล่ะ”
“...............”
ภุมราภูกผลักเข้าไปในห้อง โดยมีนคินทร์ตามเข้าไปแล้วปิดล็อคประตู ทั้งสองยืนสบตากันอยู่ในห้องมืดๆ ภุมราไม่เข้าใจเลยว่านคินทร์ยังจะมีอะไรคุยกับตนอีก
“มีอะไรอีกล่ะ นายรู้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่ ฉันก็ขอโทษและยอมรับทุกอย่างแล้วไง ยังจะมีอะไรอีกล่ะ”
“ฉันไม่เข้าใจ  ไม่เข้าใจว่าแกทำแบบนั้นทำไม” นคินทร์ตวาดถามออกมาพร้อมสาวเท้าเข้าไปใกล้ภุมรา
“หึหึ นายเคยบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่านายรู้ทุกอย่าง แล้วยังจะมาถามฉันอีกทำไมล่ะ” ภุมราตอบออกไปด้วยท่าทางที่ราวกับได้ฟังคำถามที่แสนจะขบขัน ได้ยินดังนั้น เส้นความอดทนของนคินทร์ คล้ายจะสะบั้นลงเสียให้ได้ ชายหนุ่มหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระบายความคุกรุ่นที่พร้อมจะระเบิดออกมาในอีกไม่กี่อึดใจนี้
“ฉันถามว่านายมีเหตุผลอะไรถึงได้ทำแบบนั้น” นคินทร์กัดฟันถามออกไป หากเขายังโดนภุมรายียวนอยู่แบบนี้ เขาอาจพลั้งมือฆ่าคนในวันนี้แน่ๆ
“เหตุผลเหรอ รู้แล้วมันจะได้อะไรล่ะ ในเมื่อผลมันก็ออกมาเหมือนกัน เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ยังยืนยันว่าฉันจะทำ ดังนั้นฉันไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกับนายอีกแล้ว ออกไปซะ” ภุมราตอบออกไปด้วยเสียงที่เริ่มไม่มั่นคง เขาจะไม่ไหวอยู่แล้ว อย่าไล่ต้อนเขาได้ไหม ชายหนุ่มยื่นมือออกไปหวังจะผลักนคินทร์ไปที่ประตู แต่กลับถูกคว้าต้นแขนเอาไว้ซะเอง
“โอ้ย ฉันเจ็บนะ นคินทร์ ปล่อย!!” นคินทร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พลางถามออกมาเสียงต่ำราวกับคำราม วูบนั้นภุมรารู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ครานี้นคินทร์น่ากลัวเหลือเกิน แววตาที่มองมานั้นราวกับจะฉีกร่างเขาออกเป็นชิ้นๆ
“แต่ฉันต้องการจะรู้ ว่าแกทำแบบนั้นทำไม ทำไปเพื่ออะไร นายต้องการอะไร!!” ชายหนุ่มเลื่อนมือจากต้นแขนมาจับที่คอของภุมรา ราวกับกำลังเค้นคอนักโทษก็ไม่ปาน ภุมราตัวสั่นระริก เขาไม่ไหวแล้ว เขาทนไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
“มันไม่ใช่เหตุผลที่น่าฟังหรอก นคินทร์ นายคงไม่อยากได้ยินมันหรอก ฉันยอมรับโทษทัณฑ์ทุกอย่าง ขอเพียงอย่างเดียว อย่าถามถึงเหตุผลของมันอีก”  เขาอ้อนวอนเป็นครั้งสุดท้าย อย่าให้เขาต้องพูดมันออกมาเลย แค่ที่เป็นอยู่นี่นคินทร์ก็เกลียดเขาอย่างกับอะไรดีอยู่แล้ว ขืนเขาพูดความจริงออกไป เขาจะต้องไม่ได้รับการให้อภัยอีกเลยตลอดชีวิตแน่ๆ นคินทร์กระชับมือที่คอของภุมรามากขึ้น มันอะกันนักหนา ทำไมชายหนุ่มข้างหน้าเขาถึงได้เป็นผู้ร้ายปากแข็งขนาดนี้ เขาแค่ต้องการรู้เหตุผล เขาอยากหลุดพ้นจากความสงสัยบ้าๆนี้เสียที
“แต่ฉันอยากรู้เดี๋ยวนี้ และแกก็ต้องพูดออกมา ก่อนที่ฉันจะหักคอแกซะตอนนี้ พูด!!” ถึงขีดสุดแล้ว เขาทนไม่ได้อีกต่อไป และถึงขั้นคิดว่า ถ้าชายหนุ่มข้างหน้าเขา ยังไม่ยอมปริปากอีกล่ะก็ เขาก็จะเค้นให้ตายกันไปข้าง คิดไปถึงกระทั่งจะหักคอขาวๆนี่ซะให้แหลกคามือ
“หึ หึ ได้ ถ้านายยืนยันอยากจะรู้ซะให้ได้ล่ะก็ ฉันจะบอกให้” ภุมราอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็จะไม่สนอีกแล้ว ไหนๆก็โดนเกลียดขนาดจะฆ่าเขาให้ได้มาตลอดอยู่แล้ว และคงไม่มีความหวังจะทำให้กลับมามองหน้ากันได้อีก จะโดนเกลียดอยู่แค่นี้ หรือมากกว่านี้ก็มีความหมายเหมือนกัน ดังนั้นต่อให้บอกหรือไม่บอกความจริงออกไปก็คงมีค่าเท่ากัน ถึงขั้นนี้แล้ว อะไรจะเกิดก็เกิดไปเถอะ เขาไม่คาดหวังอะไรอีกแล้ว ภุมราสูดกายใจเข้าลึก พร้อมจ้องเข้าไปในดวงตาวาวโรจน์คู่นั้น
“นั่นเพราะฉันรักนาย และไม่ต้องการให้ใครแย่งนายไปไงล่ะ”

...........................................................................................[/left]

ต่ออีกจ๊ะ ไม่มาลงตั้งนาน มาทีมาหลายตอนหน่อยจ๊ะ  :z10:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 17:35:57
ตอนที่ 6 *คำอ้อนวอน* 2

“นั่นเพราะฉันรักนาย และไม่ต้องการให้ใครแย่งนายไปไงล่ะ” คำพูดนี้ถึงกับทำให้นคินทร์ตะลึง
มือที่บีบคอภุมราอยู่สั่นระริก
“อย่ามาล้อเล่นนะ” เสียงที่หลุดออกมาหลังจากที่ได้ยินเรื่องที่ไม่คาดฝันนั้นแหบแห้งราวกับออกมาจากลำคอที่แห้งผาก
“ฉันพูดจริง ฉันรักนาย นคินทร์ ฉันรักนายมาตั้งแต่ตอนที่เจอกันครั้งแรก รักนายมาตลอด แต่แล้วผู้หญิงคนนั้นกลับแย่งนายไป ทั้งๆที่ฉันอยู่กับนายมาก่อน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็แย่งนายไป ฉันทนไม่ได้เลยทำแบบนั้นลงไปไงล่ะ” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังนิ่งเงียบภุมราก็พูอต่อออกไปอีก
“นายไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไง หล่อนชอบฉัน แต่กลับไปตกลงแต่งงานกับนาย เพราะผิดหวังจากฉันไงล่ะ หล่อนรู้ว่าฉันชอบนาย หล่อนเลยทนไม่ได้ก็เลยวางแผนแย่งนายไปจากฉันไงล่ะ!”
“หุบปาก แกอย่ามาใส่ร้าย ฝ้ายนะ ฝ้ายเขาไม่ใช่คนแบบนั้น เธอตายไปแล้วแท้ๆ แกยังจะไม่หยุดจองเวรเธออีกเหรอ ไอ้เลวเอ้ย!!” คำผรุสวาสที่ออกมานั้นยังผลให้ความคิดผิดชอบชั่วดีของภุมรามลายหายสิ้น เขาไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ยังไงในสายตานคินทร์เขาก็คือคนเลว งั้นเขาก็จะเลวให้มันถึงที่สุดกันไปเลย
“เพราะนายมันโง่ไงล่ะ นคินทร์ นายมันโง่ที่ไปหลงกับคำพูดและมารยาของผู้หญิงคนนั้น นายมันตาบอด”
“หุบปาก!!”
“นายอย่ามามัวหน้ามืดอยู่เลย นายก็รู้อยู่แก่ใจ แต่นายกำลังหลอกตัวเอง เข้าใจหรือเปล่า”
“พอที ภุมรา!! หยุดพูดนะ!!”
“ทำไมนายต้องจมปลักอยู่กับผู้หญิงคนนั้นด้วย นายควรลืมตามองรอบๆบ้างได้แล้วว่ามีใครที่คอยเป็นห่วงนายรักนายอยู่น่ะ!”
“คนอื่นเหรอ หมายถึงแกน่ะเหรอ ที่แกพูดมาทั้งหมดเนี่ย เพียงเพราะจะให้ฉันหันไปรักใคร่ชอบพอแกแทนอย่างนั้นใช่ไหม!?”
“ใช่!! ฉันต่างหากล่ะที่รักนาย ฉันต่างหากล่ะที่ทำได้ทุอย่างเพื่อนาย ตาสว่างซะทีสิ อึก!” มือที่กำรอบคอเขาอยู่ที่ดูเหมือนจะคลายลงแล้วเมื่อครู่ กลับกระชับแน่นขึ้นอย่างกะทันหัน รุนแรงราวกับจะบีบคอเขาให้แหลกคามือ
“งั้นเหรอ? แกรักฉันงั้นเหรอ มากขนาดไหนล่ะ ที่ว่าทำได้ทุกอย่างน่ะจริงเหรอ?” น้ำเสียงเรียบเย็นที่ถามขึ้นมานั้นถึงกับทำให้ภุมราสั่นสะท้าน พลันมือที่กระชับรอบคอนั้นก็เปลี่ยนเป็นลูบผมเขาเบาๆแทน แม้จะรู้สึกพรั่นพรึงอยู่ไม่น้อย แต่ภุมราก็รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ชายหนุ่มเข้าใจเขา
“ใช่ ฉันรักนาย รักเท่าชีวิตที่ฉันมี นคินทร์  นายไม่ต้องรักฉันก็ได้  ขอแค่ให้นายรับรู้ว่าฉันรักนาย ขอแค่นายไม่เกลียดฉัน ฉันยินดีทำทุอย่างตามที่นายปรารถนา”
ฉับพลันร่างของภุมราก็ถูกผลักลงบนเตียงโดยแรง ตามด้วยนคินทร์ที่ขึ้นคร่อมบนร่างของภุมราไว้ อารามตกใจภุมรารีบกระเสือกกระสนหนีจากการถูกคุกคามตามสัญชาตญาณที่รู้สึกว่าอันตราย แต่ก็ใช่ว่าจะหนีพ้น ร่างของเขาถูกนคินทร์จับตรึงไว้กับเตียงนอนอย่างง่ายดาย
“ทะ...ทำอะไรน่ะนคินทร์ นะ...นายจะทำอะไร?” เสียงสั่นเครือถามออกไปด้วยความหวาดหวั่น น่ากลัวเหลือเกิน ครานี้เขากลัวนคินทร์เหลือเกิน กลัวแววตาที่เหมือนจะฉีกกระชากร่างเขาให้เป็นชิ้นๆนั่น กลัวอุ้งมือที่แม้เขาจะพยายามดิ้นรนหนีออกไปเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกบีดรัดแน่นจนเจ็บร้าวราวกระดูกจะแหลกเป็นผุยผง
“ไม่เห็นจะต้องถาม แกบอกเองไม่ใช่เหรอว่ารักฉัน มันก็หมายถึงแบบนี้ไม่ใช่รึไง อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้!!”
“ไม่ใช่...ไม่ใช่นะ ฉันไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ นคินทร์นายเข้าใจฉันผิดไป มันไม่ได้...”
“หุบปาก!! อย่ามาพูดยกหางให้ตัวเองดูดีไปหน่อยเลย คนสกปรกอย่างแกไม่ต้องทำเป็นพูดดีไปหรอก!!”
...เจ็บ เจ็บเหลือเกิน ภุมราถึงกับนิ่งอึ้งกับสิ่งที่นคินทร์พูด เขาจ้องลงไปที่นัยตาที่สะท้อนแต่ความรู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์ เหยียดหยันเขาแบบไม่มีปิดบัง ตัวเขารู้ดีอยู่แล้ว รู้อยู่เต็มอกว่าโดนเกลียดชังมากแค่ไหน แต่ทั้งๆที่เขาพูดคำว่ารักออกไป ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแววตานั้นให้มองเขาต่างออกไปเลยสักนิด เขายังคงเลวทราม จิตใจเขายังคงสกปรก ชีวิตเขายังคงไร้ค่า แม้แต่ลมหายใจก็คงมีแต่กลิ่นมนทิล...ไม่เอาแล้ว ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว ต้องไป ไปเดี๋ยวนี้...
“ปล่อย!!” ภุมราตวาดลั่นอย่างสุดจะอดกลั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป พยายามดิ้นรนออกจากอุ้งมือที่ทำร้ายหัวใจเขาจนป่นปี้ไม่มีชิ้นดี
“ปล่อยเซ่!!” เหมือนยิ่งดิ้นรน ยิ่งถูกกดตรึง ยิ่งผลักไส ยิ่งถูกรุกไล่
‘แคว่ก!!’  

......................................................................................

เอาอีกตอนละกันเนอะ  :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(ฝากฝังนิยายเรื่องแรกค๊า)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-12-2011 17:38:03
ตอนที่ 7 *อ้อนวอน 3*

‘แคว่ก!!’ เสื้อเชิ๊ตเนื้อดีขาดติดมือ ภุมราสะดุ้งเฮือก ตกตะลึงกับสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น หากยังไม่ทันได้เอื้อนเอ่ยสิ่งใดริมฝีปากอุ่นร้อนก็แนบเข้ากับซอกคอขาวอย่างจาบจ้วง ดวงตาภุมราเบิกกว้าง ตกใจสุดชีวิตกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น
“อยะ...อย่า!! นคินทร์ อื้อ ปล่อยนะ!!” สองมือพยายามผลักไส ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความตื่นตระหนก หากแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้น
“นคินทร์ อย่านะ! หยุดเดี๋ยวนี้!!” นคินทร์คว้าใบหน้ของภุมราไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วบีบบังคับให้ใบหน้านั้นให้มองตรงมาที่เขา นคินทร์จ้องมองลงไปที่แววตาตื่นตระหนกของภุมราด้วยความรู้สึกเย้ยหยัน เขาเหยียดยิ้มเย็นที่มุมปากก่อนจะกล่าวคำทำร้ายหัวใจของภุมราอีกคำรบ
“จะดิ้นรนทำเป็นไร้เดียงสาไปทำไมกัน มันไม่เหมาะกับแกหรอก หึหึ” จบคำนคินทร์ก็ก้มลงลากลิ้นร้อนไปบนแก้มของภุมรา  ไล้ลิ้นลงไปยังซอกคอขาว ขบแทะ ราวกับกำลังจะกัดให้เนื้อขาดติดออกมา
“อ๊ะ...อยะ...อย่า อึก!” สองมือบางของภุมรา ยังคงผลักใส ทั้งทุบตีร่างหนา หากแต่ก็ไม่ได้เป็นผล ซ้ำยังถูกกดตรึงข้อมือทั้งสองข้างลงบนเตียงใหญ่ ราวกับถูกพันธนาการ นคินทร์บดเบียดร่างเข้าหาภุมราราวกับจะเย้ยหยัน พื้นที่ร่างกายที่เสียดสีกันนั้นร้อนผ่าว ร่างหนาบดจูบ ไล้เลีย ไปทั่วทั้งซอกคอขาวจนถึงแผงอก ภุมราสะดุ้งร่าง เมื่อยอดอกสีอ่อนถูกนคินทร์ดูดดุน
“อ๊า!! อย่า! นคินทร์ ตรงนั้น ไม่!!” อยากดิ้นรนหลบหนี แต่รู้ดีว่ายากนัก เมื่อข้อมือทั้งสองข้างยังถูกตรึงไว้ แถมยังถูกนคินทร์โถมทับมาทั้งตัวจะแทบหายใจหายคอไม่ออก
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ นคินทร์ ฉันเจ็บ! ไม่งั้นเรื่องมันไม่จบแค่นี้แน่!!” แม้จะหวาดกลัวแต่ปากของภุมรายังคงทำหน้าที่ได้ไม่มีขาดตกบกพร่อง
“หึ หึ ยังจะปากดีได้อยู่อีกนะ คนอย่างแก นี่มันไม่เคยรู้สึกสำนึกอะไรเลยนะ”
“บอก ให้ปล่อยไงเล่า โอ้ย!!เจ็บนะ!!” ยิ่งดิ้นรนผลักไส แรงบีบที่กดอยู่ที่ข้อมือยิ่งแรงมากขึ้น
“เจ็บ งั้นเหรอ...ทีอย่างนี้ทำเป็นเจ็บงั้นเหรอ คนที่ทำร้ายใครต่อใครได้อย่างเลือดเย็นอย่างแกน่ะ ยังจะเจ็บเป็นอยู่ด้วยเหรอ  คราวนี้ฉันจะทำให้แกเจ็บยิ่งกว่าที่ฉันเคยเจ็บ!!” ราวกับโดนกรีดซ้ำๆลงมาที่หัวใจที่บอบช้ำดวงนี้ หัวใจที่มีแต่รอยแผล แหว่งวิ่น และไร้ค่า ภุมราจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผู่ที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เขาเห็นคือความเกลียดชังที่เห็นมาตลอด และมันไม่เคยเปลี่ยนแปลง มือสั่นเทาเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง ปล่อยเขาทีเถอะ ให้เขาหลุดพ้นไปจากตรงนี้ที...
        ภุมราพยายามดิ้นรนออกจากการทาบทับของนคินทร์ จนเสื้อเชิ๊ตตัวบางที่ถูกนคินทร์ฉีกทึ้งเลื่อนหลุดลงมาเผยให้เห็นลาดไหล่ขาวนวล นคินทร์เลื้อยไล่ประทับรอยแค้นที่ตัวของภุมราจนช้ำไปทั่วแผ่นอกและลำคอ ภุมราหายใจหอบฮั่กมือที่พยายามผลักไสถูกตรึงไว้กับเตียงอย่างแน่นหนา เขาสะท้านกายทุกครั้งที่ลิ้นร้อนลากผ่านบนผิวกาย ไม่มีความอ่อนโยนให้เห็นเลยแม้แต่นิด ช่างกักขฬะจนทำให้เจ็บปวดทวีคูณ ภุมราผวากายดิ้นรนหนักหน่วงอีกครั้งเมื่อมือแกร่งกระชากกางเกงเขาออก มือที่หลุดจากพันธนาการทั้งทุบทั้งข่วนแขนกำยำของร่างข้างบนให้หยุดการกระทำ แต่หากไม่เป็นผล กระทั่งกางเกงหลุดออกจากตัวภุมราดีดตัวขดเข้าหากันเพื่อปกปิดเรือนร่างเปล่าเปลือยที่เหลือเพียงเสื้อเชิ๊ตขาดวิ่นปิดร่าง กายสั่นสะท้านราวสัตว์ตัวเล็กๆที่กำลังจะถูกขย้ำ นคินทร์ยืดตัวขึ้นพร้อมถอดเสื้อของตัวเองออก พร้อมทั้งปลดตะขอกางเกง การกระทำเหล่านั้นอยู่ในสายตาของภุมราทุกอย่าง ยิ่งทำให้ภุมราหวาดกลัว ร่างบางกระถดกายหนีทั้งๆที่แทบจะสิ้นเรี่ยวแรง มือกำยำกระชากข้อเท้าเขากลับมาพร้อมแทรกกายเข้ามาตรงกลางหว่างขา เสียงแกรกกรากของซิปกางเกงของนคินทร์ที่ถูกรูดลงสะท้อนลั่นอยู่ในโสตประสาทของภุมราจนเขาแทบคลั่งเมื่อพอจะเข้าใจว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น ภุมราดิ้นรนครั้งสุดท้ายด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ปากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งขอร้องอ้อนวอนให้หยุดการกระทำนี้ หากแต่บังกะโลทั้งหลังก็มีเพียงเขาอยู่แค่ 2 คนเท่านั้นมันจึงไม่เป็นผลใดๆ หัวใจของภุมราเต้นแรงจนแทบจะหน้ามืด ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่ไม่โดนสัมผัส นคินทร์จับเข่าทั้งสองของภุมราแยกออกกว้าง
“อะ...อะไรน่ะ อยะ...อ๊า!!”  ท่อนลำใหญ่โตของนคินทร์พยายามดุนดันเข้าไป ฝืนรอยจีบรัดรึงเข้าสู่ช่องทางคับแน่นอุ่นร้อน
“ทำไมล่ะ แกอยากโดนอย่างนี้ไม่ใช่รึไง จะโวยวายไปทำไมเล่า” นคินทร์ยังคงเยาะหยัน พร้อมจับขาภุมราแยกออกกว้างเพื่อรองรับการสอดใส่ของตนให้ลึกล้ำยิ่งขึ้น
“จ...เจ็บ อ๊า...อยะ...อึก อ๊ะ”  เหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นบนหน้าผากของภุมรา เจ็บ เขาเจ็บเหลือเกิน ทั้งร่างกายที่กำลังถูกย่ำยี และจิตใจที่กำลังโดนเหยียบย่ำ ฝ่ายนคินทร์เองก็มีสีหน้าทรมานไม่แพ้กัน ช่องทางคับแน่นจนทำให้เขาคิดอะไรแทบไม่ออก มีแต่ความปรารถนาอยากดึงดันไปจนสุดทางให้เร็วที่สุดเท่านั้น ภุมราใช้แรงน้อยนิดของตนปัดป่าย ไปข้างหน้า เผื่อว่าอาจพอมีทางที่จะหลุดพ้นจากความทรมาน
“อ๊ะ ยะ..อย่า นคินทร์...อย่า อ๊ะ อ๊ะ อ๊า” สองมือสั่นเทาถูกตรึงเอาไว้กับเตียงอีกครั้ง แผ่นหลังแอ่นโค้งทุกครั้งที่ถูกแทรกลึกเข้ามาในกาย เจ็บปวดราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ถะ ถอนออกไปนะ...อะ..ออกไป..ขะ..ขอร้องล่ะ อื้ม อ๊ะ” เจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหว ร่างกายสั่นไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น น้ำตาปริ่มที่หางตา เจ็บปวดเหลือเกิน
“อึก ชอบไม่ใช่รึไง ที่พูดนี่ก็เพื่อยั่วฉันใช่มั้ยล่ะ คนสกปรก” คำพูดเชือดเฉือนที่จงใจพูดออกมาเพื่อทำร้ายจิตใจของอีกฝ่ายให้เจ็บช้ำจนเจียนตาย นคินทร์โน้มกายลงแนบชิดร่างข้างใต้กดร่างลงให้แนบชิดเสียดสีกันมากยิ่งขึ้น ยิ่งเร่งจังหวะเริงร่อน ร่างข้างใต้ยิ่งรุ่มร้อนแทบหลอมละลาย
“อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊า อย่า ไม่! อ๊ะ อึก!” แก่นกายใหญ่โตของนคินทร์ขยับเข้าออก กระแทกกระทั้นหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่น บรรยากาศแห่งเพศรสฟุ้งกระจายไปทั้งห้อง ร่างข้างใต้หอบหายใจ พร้อมส่งเสียงอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
 แม้นเกลียดชัง แต่ยากปฏิเสธว่าช่างน่าหลงใหล ยิ่งเห็นใบหน้าที่สะบัดไหวไปตามแรงอารมณ์ แผ่นอกที่หอบสะท้าน ยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบให้พลุ่งพล่าน อยากรุกล้ำให้ลึกเข้าไปอีก อยากโยกไหวกระทั้นให้รุนแรงกว่านี้อีก อยากทำให้ใต้ร่างเขาสะท้านกายเย้ายวนให้มากกว่านี้ ส่งเสียงร้องหวานหูยิ่งกว่านี้ แรงอารมณ์ขับเคลื่อนนคินทร์ให้ขยับกายรุนแรงยิ่งขึ้น เร่งจังหวะไปจนสุดปลายทาง
“อ๊า~” ภุมรากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อร่างกายถูกชำแรกเข้ามาจนถึงส่วนที่ลึกที่สุด เขารู้สึกได้ถึงกระแสธารร้อนจัดที่ฉีดพุ่งเข้ามาในกาย ร่างบางสั่นสะท้านอย่างยากจะอดกลั้น ธารอุทกอุ่นร้อนฉีดพุ่งเข้าสู่ช่องทางคับแน่น มากมายจนภุมราต้องส่งเสียงครางหวิวออกมา
“อึก...” นคินทร์ขยับกายเบาๆสองสามครั้ง เขาทะลักทลายในร่างนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน  ความสุขสมเอ่อล้นจนขนลุกชัน  เรี่ยวแรงของภุมราราวถูกดูดกลืนเสียจนสิ้น ลมหายใจของทั้งสองหอบสะท้าน ภุมราบิดตัวเล็กน้อยขณะที่นคินทร์ถอดถอนร่างออกไป ราวกับพายุร้ายกลางทะเลที่ซัดสาดเรือสำเภาลำน้อยได้สงบลงเสียที น้ำตาหยดน้อยไหลลงจากหางตาก่อนที่สติจะดับวูบไป

....................................................................................

เฮ้ออออออ แล้วเจอกันใหม่นะเจ้าค๊า ครุคริ ครุคริ :z10:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 28-12-2011 19:27:09
รุนแรง โหดร้ายได้อีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 28-12-2011 21:42:07
ค้างมากมาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: kuichai ที่ 28-12-2011 22:03:51
นคินทร์ ทำแบบนี้ได้ไง เพื่อนคบกันมาตั้งแต่เด็กมาโกรธกันเพราะผู้หญิงคนเดียว  :m31: :m31:

อ้ายยยยยสงสารภู่อ่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-12-2011 23:07:13
ต้อนรับเรื่องใหม่นะคร้าบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 29-12-2011 03:51:21
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 29-12-2011 14:38:23
ตอนที่ 8 *ฝ้าย*

วูบแรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่เห็นก็คือเพดานห้องพักอันว่างเปล่า นคินทร์ ไม่ได้อยู่ในห้องนี้แล้ว
‘อยากอาบน้ำจัง’ คิดได้ดังนี้ ก็พยายามจะฝืนกายลุกขึ้น หากแต่ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บระบม ทั่วร่างหนักอึ้ง และเมื่อก้าวเท้าลงมาจากเตียงได้ก็เป็นอันทรุดฮวบลงไปนั่งกองบนพื้น เหมือนตุ๊กตาที่ไร้กระดูก
“โอย...” ภุมรายังคงฝืนกายลุกขึ้น เพือเดินไปห้องน้ำ เขาพยายามที่จะไม่คิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้น พยายามไม่คิดว่าที่ตนเจ็บแบบนี้เพราะอะไร
“...!!” พอฝืนกายลุกขึ้นเดินได้ไม่กี่ก้าว ภุมราก็เป็นอันต้องตกใจ เมื่อจู่ๆ สิ่งที่ถูกนคินทร์ปล่อยทิ้งไว้ในร่างของเขา ได้ไหลลงมาตามเรียวขา ร่างภุมราสั่นสะท้าน เขารีบฝืนกายเดินไปจนถึงห้องน้ำ อยากอาบน้ำเร็วๆ ล้างทุกอย่างออกไป ล้างความเจ็บปวดออกไป ล้างน้ำตาที่ไหลไม่หยุดนี้ออกไป
   
   ควันขาวลอยฟ่องรับลมทะเล ชายหนุ่มนั่งเหม่อมองทะเลยามราตรี ที่จริงเขาไม่ได้ติดบุหรี่หรอก แต่ยามนี้เขาอยากสูบมันเหลือเกิน รสชาดขมลิ้นของมันอาจทำให้เขามีสติ จากจิตใจที่สับสนว้าวุ่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ได้ แต่มันก็คงไม่ได้ผล นคินทร์เอื้อมมือหนาของตนขึ้นมากุมขมับ เขาสับสนกับสิ่งที่เพิ่งผ่านไปเมื่อครู่ ‘นี่เขาทำอะไรลงไป’ ใจหนึ่งก็คิดที่จะปล่อยให้มันผ่านไป ดีเสียอีก เขาน่าจะสะใจด้วยซ้ำที่สามารถทำลาย คนเลวแบบภุมราลงได้ แต่อีกใจก็หนักอึ้ง เมื่อคิดถึง เสียงร้องอ้อนวอน อย่างทรมาน หยดน้ำตา และคำว่า “รัก” ที่คนคนนั้นเอ่ยกับตน นี่ต่อไปเรื่องราวจะเป็นไปในทิศทางไหนต่อ เขาคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ

   หลังจากที่นายแบบหนุ่ม อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ล้มตัวลงนอน ร่างกายอ่อนล้า หนักอึ้ง แต่หัวใจเขา อ่อนล้ายิ่งกว่าหลายเท่านัก คิดไม่ออกจริงๆว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อ เขาจะต้องทำตัวยังไง นอนคิดไปได้ไม่เท่าไหร่ เปลือกตาก็หนักอึ้ง และผลอยหลับไปในที่สุด

“จริงๆแล้วฝ้ายรักภู่นะ ภู่”

 “ภู่ ฉันคิดว่า ฉันคงชอบฝ้ายล่ะ”

“ฝ้ายรู้นะว่าที่ภู่ไม่ยอมรับรักฝ้าย เพราะภูใช่มั้ย ภู่รักภูใช่มั้ย”

“นี่ภู่ ฉันตกลงคบกับฝ้ายแล้วนะ”

“ใช่ภู่ ฝ้ายไม่ได้รักภู แต่ฝ้ายจะไม่ยอมให้ภู่สมหวังเด็ดขาด ถ้าฝ้ายไม่ได้ ใครก็ไม่มีทางได้ทั้งนั้น!!”

“ภู่ ฉันกับฝ้ายตกลงจะแต่งงานกันแล้วนะ”

“ทำไมฝ้ายจะทำไม่ได้ ฝ้ายจะกีดกันภู่ไปจนตายนั่นแหละ แต่ถ้าภู่รับข้อเสนอฝ้าย ฝ้ายลองจะคิดดูก่อนก็ได้นะ”

“ฉันรู้สึกว่าฝ้ายเปลี่ยนไป ภู่ ฉันจะทำยังไงดี”

“ถ้าภู่ยอมเป็นของฝ้าย ฝ้ายก็จะยอมปล่อยภูไป”

“ภู่ นี่นายเองเหรอ เป็นนายที่ทรยศฉัน!!”

“อย่าใส่ใจเลยภู่ ภู่ทำดีแล้วล่ะ อยู่กับฝ้ายแบบนี้และดีแล้ว”

“แกเป็นเพื่อนฉัน ถ้าแกรักฝ้ายจริง ฉันก็จะถอยให้นายเอง”

“ภู่ กล้าทำแบบนี้กับฝ้ายได้ยังไง ภู่รับปากฝ้ายแล้วไงล่ะ ว่าจะอยู่กับฝ้ายน่ะ”

“ฝ้ายบอกว่านายทำร้ายเขา จริงหรือเปล่าภู่”

“โกหกแล้วไง ฝ้ายก็ต้องกันไว้ก่อนสิ ไม่งั้นภู่ก็จะทิ้งฝ้ายไป”

“ใช่ ฉันยังรักฝ้ายอยู่ รักมากด้วย ดูแลเขาให้ดีๆนะภู่”

“ไม่นะภู่ ฉันไม่ยอมเด็ดขาด ฝ้ายจะไม่ยอมปล่อยภู่ไปเด็ดขาด”

“ฝ้ายมาหาฉัน บอกว่านายไม่รับผิดชอบเธอ นายทำอย่างนั้นจริงๆเหรอ”

“ได้ภู่ ถ้าภู่จะไม่อยู่กับฝ้าย ไม่เป็นไร แต่ภู่จะไม่มีวันที่จะได้อยู่กับภูอีก”

“ฝ้ายจะทำให้ภู เกลียดภู่ไปตลอดชีวิตให้ดู!!”

“ไม่นะ อย่าทำอย่างนั้น!!!!!” ภุมราสะดุ้งตื่นขึ้นมาหอบตัวโยน นี่เขาฝันถึงเรื่องบ้าๆนี่อีกแล้วเหรอเนี่ย ประโยคสุดท้ายที่ฝ้ายพูดในฝันนั้น มันเป็นเรื่องจริง และเธอทำมันสำเร็จ
   ฝ้ายเพื่อนสาวที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย และเข้ามาสนิทกับภุมราและนคินทร์มาก เธอตกหลุมรักภุมรา และสารภาพรัก แต่ชายหนุ่มไม่สามารถตอบแทนน้ำใจได้ จะให้ทำยังไง ในเมื่อใจเขามีแต่นคินทร์ เพียงคนเดียว ฝ้ายที่รู้เรื่องเข้ากลับไม่ยอมเข้าใจ และไม่ยอมพ่ายแพ้ ฝ้ายรู้ตัวว่านคินทร์ชอบตนจึงได้ใช้ประโยชน์จาก ความรักที่นคินทร์ มีให้มาหลอกล่อให้ภุมราเป็นของตน เธอทำให้ความสัมพันธ์ของภุมราและนคินทร์แย่ลงทุกวัน ความรักที่เธอเคยมีให้ภุมราก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความคั่งแค้น จนสุดท้ายเธอก็สามารถทำให้ภุมรา แตกหักกับนคินทร์ได้ในที่สุด โดยการแสร้งทำเป็นโดนภุมราทำร้ายเลยกลับไปขออยู่กับนคินทร์ และจัดฉากให้ภุมราลงมือทำร้ายเธอต่อหน้านคินทร์ แผนการแยบยล จนภุมราพลาดท่า ฝ่ายนคินทร์ซึ่งวางใจในตัวฝ้ายมาตลอด ย่อมที่จะเชื่อฝ้ายมากกว่า อย่างไรเสีย ภุมราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นการรังแกผู้หญิง จึงได้ปล่อยให้เลยตามเลยเท่านั้น

“ภู่ อภัยให้ฝ้ายนะ ที่ผ่านมาฝ้ายขอโทษ” คำพูดสุดท้ายก่อนที่ฝ้ายจะลาโลกนี้ไปอย่างกะทันหัน จากอุบัติเหตุ ภุมราอโหสิกรรมให้ฝ้าย หากแต่คนนอกอย่างนคินทร์ ซึ่งเข้าใจมาตลอดว่าภุมราทำร้ายหล่อน และเข้าใจผิดอย่างหนักว่า ที่ฝ้ายจากไปเพราะภุมรา เขาประกาศกร้าวในงานฌาปนกิจของฝ้าย ตัดความเป็นเพื่อนที่มีมากับภุมราทันที โดยที่ภุมราเองไม่มีโอกาสได้แก้ตัว หรือแม้แต่ตอนนี้ที่เขาทิ้งศักดิ์ศรีทุกอย่าง ง้องอน ก็ยังไม่เป็นผล หรือนี่คงเป็นผลกรรม ที่เขาเคยทำไว้กับฝ้าย ที่เธอรักเขา แต่เขากลับไม่ใยดีเธอ ผลกรรมนั้นมันเลยส่งผลให้เขาทรมานถึงตอนนี้ เขายอมรับว่าในตอนนั้นเป็นเขาเอง ที่กลัวฝ้ายจะแย่งนคินทร์ไป เขาถึงได้ยอมทำทุกอย่างเพื่อขัดขวาง และเผลอทำร้ายน้ำใจของฝ้าย ทำให้เธอชิงชัง เป็นเขานี่เอง

“ฝ้าย อภัยให้ภู่เถอะนะ ภู่ขอโทษ”  

.........................................................................

มาลงเพิ่มความค้างคา...
แต่งไปแต่งมา ไหงพระเอกโง่จังว๊า....เฮ้ออออ :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-12-2011 23:24:10
 :เฮ้อ:  เหนื่อยใจแทนภู่
เมื่อไรภูจะฟังภู่บ้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 01-01-2012 01:32:43
ใช่พระเอกโง่มาก ทำไมไม่ฟังบ้าง
แถมยังไปทำร้ายเขาอีก เพื่อนที่คบกันมาตั้งสิบกว่าปี เสียเพราะผู้หญิงคนเดียว ก็ไม่ไหวจะเครียนะคุณตากล้อง

ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 02-01-2012 16:21:24
น่าสนใจ น่าติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...
เริ่มหัวข้อโดย: Ole ที่ 04-01-2012 12:56:14
รอ  รอ รอ  คาฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...( *ขอให้เหมือนเดิม*)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 04-01-2012 19:00:56
ตอนที่ 9 *ขอให้เหมือนเดิม*


ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“น้องภู่ น้องภู่คะ น้องภู่ตื่นรึยัง?”
เช้าวันรุ่งขึ้นในการถ่ายแบบวันที่ 2 ทีมงานทุกคนเตรียมพร้อม หากแต่ไม่เห็นวี่แววของ ภุมรา นายแบบคนสำคัญ แอนจึงทำหน้าที่มาปลุกให้
“น้องภู่คะ ได้ยินพี่รึเปล่าคะ ภู่ น้องภู่”
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ออกจากห้องของภุมรา ทำให้แอนเริ่มใจเสีย
ปัง ปัง ปัง จากเคาะเปลี่ยนเป็นทุบประตูเลยงานนี้
“น้องภู่! น้องภู่! ได้ยินพี่มั้ยคะ น้องภู่!!”
เสียงกระวนกระวายดังลั่นของแอนทำให้ทีมงานทุกคนที่อยู่ข้างนอกตกใจ นคินทร์รีบวิ่งกลับเข้ามาในบังกะโลเพื่อดูเหตุการณ์ทันที
“เกิดอะไรขึ้นครับ คุณแอน?”
“คุณนคินทร์คะ คือว่า น้องภู่ค่ะ น้องภู่นายแบบของเป็นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ พี่แอนเคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมขานเลย”
“งั้นคุณแอนลองเรียกต่อไปอีกหน่อยนะครับ เดี๋ยวผมไปเอากุญแจสำรองกับทางคนดูแลที่พักก่อน”
“ค่ะ ค่ะ”

สักพักนคินทร์ก็กลับมาพร้อมกุญแจสำรอง พอไขเข้าไปสำเร็จ สิ่งแรกที่ทุกคนเห็นคือสภาพภุมราที่นอนคลุมโปงอยู่
“น้องภู่ เป็นอะไรไปคะ ได้ยินพี่แอนรึเปล่า?” แอนเดินเข้าไปกระซิบถาม พร้อมเขย่าตัวเบาๆให้เจ้าตัวรู้สึกตัว
“..........อืม” มีแค่เสียงครางบางเบาออกมาเป็นการตอบรับเท่านั้น
“ว๊าย!!! น้องภู่ ตัวร้อนอย่างกับไฟเลย ไม่สบายมากเลยนี่คะ ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลให้ที”
“ไม่ต้อง...ครับ...พี่แอน ผมยังไหว”
“ไหวยังไงคะน้องภู่ นี่ภู่ไม่สบายมากเลยนะ”
“ขอร้องล่ะครับ...พี่แอน ขอผมนอนพักที่นี่สักหน่อย เดี๋ยว...ก็ดี...ขึ้นครับ”
“โธ่ น้องภู่อย่าดื้อสิ....”

“เดี๋ยวผมดูแลคุณภุมราให้เองครับ คุณแอน ยังไงวันนี้พักกองก่อนก็แล้วกันนะครับ” ขณะที่แอนกับภู่ยังคงเถียงกันอยู่นั้น จู่ๆ นคินทร์ก็เสนอตัวดูแลภุมราให้ ยังความแปลกใจมาให้ทั้งคู่ไม่น้อย
“เอ่อ...จะดีเหรอคะ คุณนคินทร์ พี่ว่าจะเป็นการรบกวนคุณนคินทร์เสียเปล่าๆ ยังไงเรียกรถพยาบาลซะไม่ดีกว่าเหรอคะ?”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ยังไงซะผมกับคุณภุมราก็อยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ผมดูแลให้ดีกว่าครับ รบกวนคุณแอนช่วยหายามาให้หน่อยแล้วกันนะครับ”
“เอางั้นก็ได้ค่ะ แต่เดี่ยวยังไง พี่จะคอยมาดูอยู่เรื่อยๆแล้วกันนะคะ ถ้าสายๆอาการยังไม่ดีขึ้น รบกวนตามคุณหมอดีกว่านะคะ”
“ได้ครับ”

ตกลงเสร็จสรรพต่อหน้าต่อตา ภุมราได้แต่เงียบไว้ เพราะก็ไม่มีแรงจะอิดออด  แบบนี้ก็ดีเหมือนกันอย่างน้อยเขาก็ได้นอนอยู่ตรงนี้ไม่ต้องเอาตัวเองที่มีร่องรอยน่าอายไปให้หมอดู

หลังจากที่แอนออกไปได้สักพัก ก็กลับมาพร้อมหยูกยาอาหารที่ทางบ้านพักจัดให้  นคินทร์เข้ามาช่วยป้อนข้าวป้อนยาอย่างดี ใจของภุมราย่อมพองโต ยินดี หากก็ไม่อาจปักใจในความน่ายินดีนั้น เพราะที่นคินทร์ดีกับตน อาจเป็นเพราะแค่รู้สึกสังเวช ที่เขาเจ็บ หรืออาจเป็นเพราะอยู่ต่อหน้าพี่แอน เขาไม่อาจคาดหวังสิ่งใดอีกต่อไป เมื่อผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมาแล้ว ใช่ว่าภุมราปลงใจหรือตัดใจได้ หากแต่ก้แค่เหนื่อยเหลือเกินแล้วเท่านั้นเอง

“ภู่ เดี๋ยวพี่แอนต้องไปวางตารางการทำงานใหม่กับพวกทีมงานนะ ยังไงพี่ว่า วันนี้กับพรุ่งนี้ภู่พักผ่อนแล้วกัน เดี๋ยวเราค่อยเริ่มงานกันใหม่เนอะ”
“ขอโทษนะครับพี่แอน เพราะภู่...ทำให้ลำบากกันหมดเลย งานก็ล่าช้า”
“ไม่เป็นไรหรอกภู่ อย่าซีเรียสไปเลยนะ นอนพักซะ รักษาร่างกายไว้ให้ดีดีกว่านะจ๊ะพ่อนายแบบ ถ้าไง เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนแล้วกันนะจ๊ะ”
“ครับ พี่แอน”

หลังจากทานยาแล้วภุมราก็หลับเป็นตาย เนื่องจากร่างกายที่เหนื่อยล้า และระบมไปทั่วร่าง กว่าเขาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ปาเข้าไป 4โมงเย็นแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“.....................” ภาพแรกที่เห็นเมื่อลืมตา คือภาพของนคินทร์ที่นั่งมองเขาอยู่ หากแต่คอแห้งเกินกว่าจะเอ่ยอะไรออกไปได้
“นะ...น้ำ...” คำแรกที่ออกมาจากลำคอแห้งผาก นคินทร์ลุกขึ้นรินน้ำแล้วยื่นให้ ภุมราพยายามยื่นมืออันหนักอึ้งไปรับแก้วน้ำมา ‘ถึงจะยอมดูแล แต่ก็ช่างห่างเหิน’
“ขอบใจนะ ฉันดีขึ้นแล้วล่ะ นายกลับไปห้องเถอะ อย่าเสียเวลามาดูใจฉันเลย”
“อย่ามาทำอวดเก่งนักเลย หน้าเหมือนซากศพอยู่แล้วยังจะทำปากดีอีกเหรอ”
“พูดไป ถอนหายใจไป คงอึดอัดที่ต้องมาดูแลฉันล่ะสิ ไม่เห็นต้องเป็นวีระบุรุษขนาดนั้นเลยนี่ หรือว่านาย......”
“อะไร?”
“อยากรับผิดชอบฉันงั้นเหรอ? รับผิดชอบในสิ่งที่นายพรากไปจากฉัน...”
“..........หุบปาก แล้วกินข้าวซะ จะได้กินยา” นคินทร์ตัดบทไป โดยที่ไม่มีการต่อล้อต่อเถียง ชายหนุ่มเดินไปหยิบชามข้าวต้ม พร้อมจัดโต๊ะมาใกล้กับเตียงของภุมรา
“คุณแอนให้แม่บ้านยกมาให้เมื่อกี้นี้ ยังร้อนอยู่รีบกินซะสิ” ภุมราลุกขึ้นมานั่งทานแต่โดยดี ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีเหมือนกัน ในเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์อยากต่อปากต่อคำกับเขา มือบางสั่นน้อยๆพยายามจับจับช้อนให้มั่นเพื่อจะได้จัดการกับข้าวต้มตรงหน้าสัก 2-3คำ เพราะยังไงซะ ท้องเขาก็ร้องแล้วด้วย การกินข้าวต้มครั้งนี้ทุลักทุเลจนภุมราเองยังรู้สึกหงุดหงิด ทำไมนะมือไม้เขามันช่างไม่มีแรงเอาซะเลย หากยังไม่ทันจะเอาข้าวต้มเจ้ากรรมเข้าปาก ช้อนก็ถูกแย่งไปจากมือ
“มานี่...”
“อะ...อะไรน่ะ” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ข้าวต้มอุ่นๆก็ถูกเสิร์ฟมาถึงปากภุมราเรียบร้อย
“ทะ...ทำอะไรของนายเนี่ย?”
“กิน กิน เข้าไปเถอะ อย่าถามให้มากความได้มั้ย! ป่วยอยู่ก็ช่วยเจียมตัวซะบ้าง!” ถึงกับเงียบรับประทานเลยทีเดียวสำหรับภุมรา ยอมรับว่าเถียงไม่ออก ที่จริงแล้วตัวเขาก็ไม่ได้อยากขัดใจที่อีกฝ่ายอยากจะเซอร์วิสเขาโดยการป้อน ใช่ว่าเมื่อในอดีตจะไม่เคยทำ หากแต่ เรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในความสัมพันธ์ของทั้งคู่มันช่างเลวร้ายเกินกว่าที่จะจินตนาการว่าจะมีเหตุการณ์อย่างตอนนี้อีก ร่างบางยอมถูกปรนนิบัติแต่โดยดี ระหว่างทางไม่มีการพูดคุยหรือแม้แต่กระแอมกระไอสักคำ ต่างคนต่างเงียบ ภุมราไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ สงสาร เห็นใจ รู้สึกผิด หรือแค่เพื่อมนุษยธรรม ทั้งๆที่จนถึงเมื่อวานชายหนุ่มตรงหน้า แทบอยากจะฆ่าเขาให้ตายคามือวันละหลายหน ภุมราคิดไม่ออกเลยจริงๆ


“นี่ นคินทร์...เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”

................................................................................

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ขอให้สุขีสุโขกันถ้วนหน้านะเจ้าค๊า :mc4:

วันนี้มาลงตามสัญญา แต่น้อยไปหน่อยขอโทษนะคะ อย่าห่วงค่ะ นี่คือเรื่องสั่น อีกไม่นานก็จะถึงบทสรุปแล้วค๊า เอิ๊กๆๆๆ :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ขอให้เหมือนเดิม*)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-01-2012 19:29:11
รอคำตอบจากปากนคินทร์
หวังว่าภู่คงไม่โดนข้าวต้มสาดหน้าหรอกนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ขอให้เหมือนเดิม*)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 04-01-2012 22:30:01
ภู่มันก็รักภูจริงๆ เลยแฮะ   :เฮ้อ:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ขอให้เหมือนเดิม*)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-01-2012 23:46:35
อ่านแล้วมันเสียดแทงอารมณ์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-01-2012 11:59:09
ตอนที่ 10 *ความรู้สึก*
“นี่ นคินทร์...เราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้ไหม?”
ราวกับลืมหายใจชั่วขณะ คำถามเดิม ที่เคยถามซ้ำๆ รู้ตัวว่าเหมือนเจ็บไม่จำ  หากเขาไม่รู้สึกเบื่อหน่ายที่จะถาม แสงแห่งความหวังแม้ริหรี่แต่มันคือสิ่งเดียวที่เขาจะสามารถยึดมั่นเอาไว้ในชั่วชีวิตนี้
ภุมราลุ้นระทึก รอคำตอบจากชายหนุ่มที่ยังคงนั่นนิ่งอยู่ตรงหน้า จะมีโอกาสไหม จะเป็นไปได้ไหม หรือเขาอาจโดนต่อว่าด่าทอ เหมือนทุกครั้ง เลวร้ายหน่อยก็คงโดนอะไรบางอย่างฟาดหัว นคินทร์เงียบเกินไป นานจนภุมราเจ็บยอกในอก
“มัน...ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้หรอก ไม่มีวันอีกต่อไป เลิกถามแบบนี้เสียที”
ในที่สุดชายหนุ่มก็ตอบคำถามเขา นึกไว้อยู่แล้วว่ามันคงไม่ใช่คำตอบที่ต้องการหรอก แต่ก็ยังดีที่ไม่มีอะไรมากระแทกหน้าเอาพร้อมคำตอบด้วย
“แล้ว...นายจะ...ให้อภัยฉันได้หรือเปล่า?”
“อิ่มแล้วใช่ไหม งั้นกินยา แล้วนอนพักไปซะ”
ไม่มีการตอบคำถามใดๆอีกชายหนุ่มตัดบท และจัดการเก็บชามข้าวต้มออกจากห้องภุมราไปทั้งอย่างนั้น คมมีดที่ไร้รูป ถูกกรีดช้าๆลงมาที่หัวใจของภุมรา  ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังหนานั้นอย่างเลื่อนลอย ‘ไม่มีทางเหมือนกันสินะ’  ทั้งชีวิตนี้เขาคงไม่มีทางได้รับการให้อภัยเลยสินะ ฉับพลันโพรงจมูกเขาก็ร้อนผ่าว ธารน้ำตาจากที่ไหนไม่รู้ได้ ไหลลงจากดวงตาเศร้าสร้อย พรั่งพรูสู่สองแก้มไม่ขาดสาย ‘จะแตกสลายอยู่แล้ว หัวใจ’

นคินทร์เดินเอาชามข้าวต้มมาเก็บไว้ที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็นั่งลงเงียบๆบนโซฟาหน้าห้องพัก ในหัวตื้อสนิทราวกับสมองไม่ทำงาน หัวใจเหมือนแบ่งภาค เจ็บแค้น ชิงชัง สงสาร เห็นใจ เดียดฉันท์ อาฆาต หากแต่ก็ยัง ห่วงหาอาทรณ์
“เป็นอะไรไปแล้วนะเรา หนักแน่นหน่อยสิ”
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเอง เขาคิดผิดหรือเปล่านะที่ยอมรับงานนี้ ก็ตอนนั้นเขาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องมาเจอกับภุมรา ที่จริงเขาอยากจบความรู้สึกนี้โดยการไม่มาเจอชายหนุ่มอีกตลอดชีวิต ไม่แน่ว่าเวลาอาจทำให้เขาลืมได้ ลืมในสิ่งที่อีกฝ่ายทำไว้กับเขาได้ หากแต่ตั้งแต่ที่สนามบินวันนั้น วันที่ได้พบหน้ากันอีกครั้ง ส่วนหนึ่งคือปฎิเสธไม่ได้เพาะตกปากรับคำทำงานนี้ไปแล้ว และอีกส่วนหนึ่งคือ เขาอยากลองอยู่กับภุมราอีกสักครั้ง เพื่อทดสอบว่าตัวเองปล่อยวางได้แค่ไหน และเพื่อเคลียร์บางอย่างในใจกับชายหนุ่มด้วย ซึ่งเขาตัดสินใจพลาด และมันพลาดเสียจนถอยหลังกลับไปไม่ได้อีก
“ภู ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหัวใจภูนะ แต่เพราะภู่ ภู่เขาทำให้ฝ้ายเป็นแบบนี้”
“ฮือๆ...ฝ้ายเป็นของภูไม่ได้อีกแล้ว ฝ้าย ฝ้ายกลายเป็นของภู่ไปแล้ว ภู่เขา ...ฮึก...ภู่เขา ขืนใจฝ้าย ฝ้ายเป็นผู้หญิงไม่ดีไปแล้วภู”
“ภู ช่วยฝ้ายที ภู่เขาจะทิ้งฝ้าย ภู่เขาไม่รับผิดชอบฝ้าย ฝ้ายจะทำยังไงดี ฮือๆๆ”
“รอยช้ำบนตัวฝ้ายก็เพราะภู่เป็นคนทำนั่นแหละ ภู่โกรธที่ฝ้ายไม่ยอมออกไปจากชีวิตภู่ ภู่เลยทำร้ายฝ้ายไงล่ะ”
ฝ้าย ผู้หญิงที่เขารัก เธอสะอาด บริสุทธิ์เสมอในสายตาเขา เธอโดนภุมราทำร้ายน้ำใจอย่างแสนสาหัส แล้วหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เสียชีวิต เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ นั่นเป็นเพราะภุมราหรือเปล่า เพราะชายหนุ่มอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย แต่ภุมราเองก็ปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ใจหนึ่งเขาก็เชื่อว่าคนอบ่างภุมราเป็นลูกผู้ชายพอ ที่ถ้ากล้าทำ ก็กล้ารับ เหมือนกับตอนที่เจ้าตัวยอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำร้ายน้ำใจฝ้าย แต่อีกใจก็ไม่อาจยอมรับ มันมากเกินไป
พอคิดถึงเรื่องในอดีตขึ้นมาหัวใจนคินทร์ก็ราวถูกบีบรัด เขาหลับตานิ่งๆ เพื่อจะไม่คิดอะไรต่อ หากแต่ความคิดหนึ่งกลับฉายชัดขึ้นมาแทน
“อยะ อย่า นคินทร์ ปล่อย อ๊ะ...” ใบหน้าราวรูปสลักส่ายไปมา แก้มนิ่มแดงก่ำ ริมฝีปากแดงจัดถูกเม้มแน่น บางครั้งเผยอครางอ้อนวอนเสียงแหบพร่า ด้วยเพราะถูกขับเคลื่อนด้วยแรงอารมณ์ เรือนร่างที่ชวนให้ติดตรึงหลงใหล จนยากจะถอนสายตา เพียงแค่นึกถึงภาพนั้น ร่างกายเขาก็ร้อนผ่าว
“นี่เราเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย บ้าจริง”
พอรู้สึกตัวว่ากำลังตกไปอยู่ในภวังค์ที่ไม่เหมาะสม นคินทร์ก็พยายามสลัดภาพนั้นให้หลุดออกไป เพียงแต่จะได้นานสักแค่ไหนก็ไม่รู้
“ฉันรักนาย”
แต่ก็ที่จะสลัดความคิดออกไปได้หมด คำคำหนึ่งก็แว่วเข้ามาในโสตประสาท คำที่ยากเกินกว่าจะทำใจยอมรับ คำที่ทำให้ความเป็นปกติสุขในชีวิตที่เขาเพิ่งจะเริ่มต้นไขว่คว้าได้มาพังทลายลง หัวใจนคินทร์เต้นระรัวขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะคำคำนั้นหรือเพราะอะไร
ตอนนี้ไม่ว่าอะไรๆ ก็ดูยุ่งเหยิงวุ่นวายไปหมด เขาสับสน ยิ่งเห็นภุมราอยู่ตรงหน้ายิ่งสับสน แถมเจ้าตัวยังไม่สบาย โดยที่นคินทร์รู้ดีว่า ที่อีกฝ่ายไม่สบายนั้นก็เพราะฝีมือของตน ทั้งที่เขาน่าจะสะใจที่เห็นอีกฝ่ายเจ็บปวดขนาดล้มหมอนนอนเสื่อ แต่นี่ทำไมหัวใจเขากลับสั่นไหว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเจ็บ ถูกบีบรัด เมื่อเห็นอีกฝ่ายทรมาน
“เป็นบ้าไปแล้วสินะเรา”
ถึงจะรู้สึกเห็นใจ หรือรู้สึกอะไรก็ตามกับอีกฝ่าย แต่นคินทร์ก็ยังคงยืนยันที่จะไม่ขอกลับไปเป็นเพื่อนกันกับภุมราเหมือนเมื่อก่อนอีก และเรื่องที่เขาจะอโหสิกรรม หรืออภัยให้ได้หรือเปล่านั้น คงต้องปล่อยให้เวลาเป็นผู้กำหนดแล้ว
................................................................................................

มาต่ออีกตอนจร๊า ขอบคุณทุกกำลังใจค๊า :z10:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 06-01-2012 14:19:16
ไม่เคยเชื่อคำพูดจากภู่ แล้วภูจะรู้ความจริงจากปากใคร?

ฝ้ายน่ากลัวจริงๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 06-01-2012 14:34:22
ว๊าวๆ เพิ่งมาเจอ สแกนดูแล้วชอบอ่ะแนวนี้
เดี๋ยวจะมาอ่านอีกทีนะจ๊ะ ตอนนี้ต้องทำงานก่อนล่ะ
จะแวะมาดูบ่อยๆ นะ
 :กอด1:

นั่นสิคะแล้วภูจะรู้ความจริงได้ยังไง เรื่องนี้มีคนรู้แค่ภู่กับฝ้ายนี่ใช่มั้ย
แอบสับสนชื่อนิดนึง ฮ่าๆ มาไวๆนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 14-01-2012 19:47:26
แวะมาดัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-01-2012 20:22:16
มาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึก*)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-01-2012 20:30:19
จะครบเดือนหรือยังจ้ะ
รอตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 20-01-2012 16:30:56
ตอนที่ 11 *หวั่นไหว*


ดึกสงัด เงียบเชียบจนได้ยินเสียงทะเลซัดสาดกับชายฝั่ง ราวกับอยู่ในความฝัน นี่หรือเขากำลังฝันอยู่จริงๆ ฝันว่ามาอยู่ที่รีสอร์ทแสนสวยบนเกาะมัลดีฟส์ ฝันว่าได้พบกับคนที่เขาอยากจะเจอมาตลอด ฝัน...
กริ๊งงงงงง.....
กริ๊งงงงงง....
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น ทำให้ภุมราลืมตาตื่นขึ้นจากภวังค์ฝันทั้งมวลสู่ความจริง และเป็นความจริงที่แสนจะเจ็บปวด ภุมราพยายามลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมา สมองเขายังไม่สามารถสั่งการได้ดีสักเท่าไหร่ เพราะชายหนุ่มกำลังถูกทั้งพิษไข้ และ ฤทธิ์ของยาลดไข้รุมเร้า
“ฮัลโหล...ภุมราพูดสายครับ”    ภุมรารับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนโทรมา
“ภู่ คุณเป็นอะไรไปน่ะ เสียงคุณดูแย่มากเลยนี่” น้ำเสียงร้อนรนจากปลายสาย เป็นเสียงที่ภุมราคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับ หมอเนศ ผมแค่ไม่สบายนิดหน่อยเอง อย่ากังวลไปเลยครับ”
“ไม่สบาย! แล้วนี่...เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ? แล้วทำไมปล่อยตัวเองให้ไม่สบายได้ล่ะเนี่ย ผมเตือนคุณแล้วไง ว่าอย่าหักโหม คุณก็รู้ตัวคุณอยู่นี่นา”
“โอ้ย คุณหมอ เปิดฉากก็บ่นไม่ยั้งเลยนะคร๊าบบบบ ขี้หูผมร่วงกราวเลยเนี่ย ฮ่าๆๆ”
“ไม่ต้องมาทำเป็นเล่นเลยนะภู่ ร่างกายคุณไม่แข็งแรงอยู่ คุณก็รู้ ผมก็เตือนคุณตั้งแต่คุณรับงานนี้แล้ว”
“โอยยยย ครับๆ เข้าใจแล้ว ผมแค่พลาดไปนิดเดียวเอง ผมสัญญาว่าจะทำตัวให้แข็งแรงเร็วๆแล้วกันนะครับ คุณหมอคนเก่ง”
การสนทนา ที่คุ้นเคยทำให้ภุมรารู้สึกดีขึ้น ทำให้เขาลืมไปได้ว่าตอนนี้ความรู้สึกเขามันเลวร้ายแค่ไหน ศักดิ์ศรีของเขามันต้อยต่ำเพียงใด
“แล้วนี่ คุณกินยาครบตามเวลาหรือเปล่า ยังมีอาการปวดอยู่บ้างมั้ย?”
“แน่นอนครับ ไม่พลาดอยู่แล้ว ส่วนอาการปวดมันก็ไม่มีหรอกครับ แต่บังเอิญผมดันไม่สบายขึ้นมา เลยแยกไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่ามันคงไม่เป็นไรหรอกครับ”
“เอาเป็นว่าดูแลตัวเองให้ดีนะครับภู่ ผมไม่อยากให้คุณล้มหมอนนอนเสื่อแบบนี้เลยนะ ผมเป็นห่วง”
“ครับ ผมจะดูแลตัวเองอย่างดีเลย ขอบคุณนะครับหมอ”
“ภู่...เดี๋ยวผมจะไปหาคุณที่นั่นวันเสาร์นี้นะ”
“หือ? มาทำไมกันครับคุณหมอ?”
“ผมลาพักร้อนได้แล้วน่ะ ว่าจะไปเที่ยวตามที่คุณชวนสักหน่อย”
“ว๊าว ดีเลยครับ เดี๋ยวผมพาทัวร์เอง”
“แล้วอีกอย่าง ผมเป็นห่วงคุณด้วย ขอไปดูแลใกล้ๆหน่อยแล้วกัน”
“โห มาคุมเองเลยง่ะ จะเข้มงวดไปไหนเนี่ย ฮ่าๆๆๆ”
...
หลังจากวางสาย ภุมรารู้สึกอยากอาบน้ำชำระร่างกายเหลือเกิน เหงื่อที่ออกเนื่องจากโดนยาขับพิษไข้ มันทำให้เขาค่อนข้างจะเหนียวตัว นอนไม่สบายเอาเสียเลย ชายหนุ่ม พยายามลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ แม้จะยังมึนๆ และหนักตัวอยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นจากช่วงเช้าพอสมควร
“นั่นจะทำอะไรน่ะ?”
เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังทำให้ภุมราถึงกับสะดุ้ง นี่นคินทร์อยู่ในห้องของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“น่ะ นายอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”
“ถามว่าจะทำอะไร?”
“ก็แค่...จะ..อาบน้ำ...”
“ทั้งที่แกยังมีไข้ซมอยู่อย่างนี้น่ะเหรอ?”
“กะ...ก็มันเหนียวตัวนี่ มัน...”
“ไปนอนซะ ฉันจะเช็ดตัวให้”
“หา! จะ...อะไรนะ!?”
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำกลับไปนั่งรอที่เตียงซะ”
“.......เอ่อ.....”
“ไปซะสิ”
ตื่นตาตื่นใจยิ่งนักสำหรับภุมรา ที่จู่ๆ นคินทร์ผู้ซึ่งเมื่อวานยังจะฆ่าเขาให้ตายคามืออยู่เลย แต่วันนี้ชายหนุ่มตรงหน้ากลับเอ่ยปากว่าจะช่วยเช็ดตัวให้ รับผิดชอบ สงสาร เวทนา หรือจะเพราะอะไรก็ช่าง การที่ถูกนคินทร์ดูแลแบบนี้ก็ทำให้หัวใจของภุมราลิงโลดได้โดยที่ไม่ต้องการเหตุผล ภุมราลากสังขารมานั่งรออยู่ที่เตียง หน้าตาเขาตอนนี้คงพิลึกน่าดู จะป่วย จะหาย จะร้องไห้ จะยิ้ม อยู่ในหน้าเดียวกันหมด ไม่ถึงอึดใจนคินทร์ก็เอาน้ำอุ่นใส่กาละมังพร้อมผ้าขนหนูผืนน้อยเตรียมพร้อมออกมาจากห้องน้ำ
“ถอดเสื้อซะสิ”
“อะ...หา...?”
“ถอดเสื้อซะ”
“!!!!!!!!”
ภุมราลืมไปเลยว่าการถูกช่วยเช็ดตัวนั้น หมายถึงตัวเขาเองต้องเปลือยต่อหน้านคินทร์ ภุมราหน้าชาวาบ เขาจะกล้าถอดเสื้อต่อหน้านคินทร์ในสภาพนี้ได้อย่างไรกัน เนื้อตัวเขาตอนนี้ไม่ได้น่าดูเลยสักนิด ทั้งรอยช้ำ และ รอยจูบ แม้มันจะเป็นร่องรอยจากน้ำมือของคนตรงหน้าเองก็ตาม แต่ก็ไม่อยากให้เห็น ไม่ต้องการให้ใครเห็น
“คะ...คือฉันว่า ฉันเช็ดเองดีกว่านะ ฉัน...ไม่อยากจะกวนนายน่ะ”
“อย่าอวดดี มือแกจะมีเรี่ยวแรงพอจะบิดน้ำจากผ้าหรือเปล่า”
“ฉันทำเองได้ ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว”
ภุมราขึ้นเสียงกร้าว เผื่ออีกฝ่ายจะรู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากทำให้
“เอาล่ะ ฉันถอดให้เองก็แล้วกัน”
“เฮ้ย!!!!! อย่านะ!!!”
จู่ๆมือแกร่งก็ยื่นเข้ามาปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตภุมราอย่างถือวิสาสะ ร่างกายภุมราสั่นสะท้านขึ้นมาราวกับหวาดกลัว มือบางยกขึ้นปัดป้อง เขาไม่ได้กลัวนคินทร์ แค่อายและไม่อยากให้เห็นสภาพใต้ร่มผ้าเท่านั้น แต่ร่างกายเขากลับสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ มือแกร่งไม่ได้ฝืนยื้อยุดและล่าถอย  ขณะนั้นเองนคินทร์กลับเป็นฝ่ายถอนหายใจ

“จะอายไปไหนกัน ใต้เสื้อผ้านั่นฉันก็เคยเห็นมาหมดแล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องอายอีกนี่”

คำพูดเดียวของนคินทร์ทำร่างที่สั่นราวลูกนกของภุมราผวาเฮือกขึ้นมา ไม่ใช่จากความกลัว หรือโกรธเกรี้ยว แต่มันขับเคลื่อนขึ้นมาจากความอายล้วนๆ
“อะ..อะ..อะไรนะ!!!!!?????”[/color]...

มาเพิ่มแล้วคร๊า หลังจากหาย ไปอยู่กับเรื่องอื่นเสียนาน ขออภัยอย่างสุดซึ้งเจ้าค่ะ
ช่วงนี้งานเข้า เวลามีจำกัด อีกเรื่องหนึ่งเลยไม่มีเวลาจัดการต่อ แต่สำหรับนิยายไม่มีปัญหา แล้วพบกันใหม่นะเจ้าค๊า :z2:



หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 20-01-2012 16:55:13
 :L2:   :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 20-01-2012 17:46:44
เป็นโรคอะไรเนี้ย ร้ายแรงไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-01-2012 22:03:12
มาต่อแล้วแต่ค้างอย่างหวั่นไหวอยู่เลย
แอบสงสัยว่าภุมรามีโรคประจำตัวอะไร
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: myall ที่ 21-01-2012 02:25:49
ว๊าว มาต่อแล้ว แต่ตอนนี้สั้นจัง มาอีกเยอะๆอย่าหายไปนานนะคะ
แล้วภู่เป็นโรคอะไรเนี่ย คงไม่ร้ายแรงหรอกใช่มั้ย
หวังว่าจะจบแบบแฮปปี้นะคะ ไม่อยากให้ภู่เป็นอะไร คือเราไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลยแฮะ พอภู่ไม่สบายเลยกังวลไปหน่อย
คนแต่งสู้ๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 03-02-2012 01:03:18
แวะมาดัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*หวั่นไหว*)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 03-02-2012 18:20:36
ตอนที่ 12 *ความรู้สึกดีๆ*

“จะอายไปไหนกัน ใต้เสื้อผ้านั่นฉันก็เคยเห็นมาหมดแล้ว ไม่เห็นมีอะไรต้องอายอีกนี่”
“อะ..อะ..อะไรนะ!!!!!?????”

เมื่อเห็นร่างตรงหน้าทั้งตัวสั่น ทั้งหน้าแดง นคินทร์ก็อดที่จะเผลออมยิ้มออกมาไม่ได้ ภุมราที่ได้แต่ก้มหน้างุดๆอยู่นั้น ทำได้แค่เพียง พยายามพูดเพื่อหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้เท่านั้น
 “นะ...นายพูดอะไรออกมาน่ะ!!”
“ความจริงไง”
“ยังไงก็ไม่เอาเด็ดขาด ฉันทำเองได้”
“อย่าดื่อเพ่งนักได้มั้ย มันน่ารำคาญนะ”
อย่างไรก็ไร้ผล ในเมื่อคนตรงหน้ายืนกรานจะทำให้ สุดท้ายภุมราก็ได้แต่นั่งหน้าแดงตั่วสั่นให้นคินทร์ปลดกระดุมเสื้อแต่โดยดี พอเสื้อเชิ้ตตัวบางหลุดลงจากลาดไหล่ เผยผิวนวลที่ซ่อนเร้นไว้ด้านใต้สู่สายตา ลมหายใจของทั้งคู่ราวกับจะสะดุด นคินทร์จ้องมองไปยังผิวเนื้อเนียน  ที่ประดับประดาไปด้วยร่องรอยแห่งการกระทำของตนในคืนที่ผ่านมา ราวกับหัวใจเขาจะถูกแช่แข็งชั่วขณะ เหมือนจะเจ็บ แต่กลับไม่รู้สึก เพราะมันชา...ชาไปหมด

มือแกร่งบิดผ้าชุบน้ำอุ่นหมาด ค่อยๆเช็ดเลงบนร่างของภุมราอย่างแผ่วเบา ราวกับจะกลัวว่าคนตรงหน้าจะเจ็บ นคินทร์บรรจงเช็ดถูร่างบางอย่างเบามือ เขาไม่ได้อยากจะทะนุถนอมอะไร แต่ร่างกายเขามันเป็นไปเอง ร่างกายมันอยากจะแตะต้องอย่างแผ่วเบา ราวกับสัมผัสกับแก้วคริสตัลบางใส
“เอาล่ะ ทีนี้ถอดกางเกงด้วย”
“........แต่”
หัวใจของภุมราเต้นรัวจนแทบจะหลุดออกมา  ร่างบางสะดุ้งทุกครั้งที่ผ้าอุ่นสัมผัสผิวกาย หลังเช็ดตัวเสร็จ นคินทร์ช่วยตระกองร่างบางขึ้น เพื่อช่วยใส่เสื้อผ้า
“นอนซะ เดี๋ยวดึกๆฉันจะเข้ามาดูอีกที หรือถ้าอยากได้อะไรก็โทรหาฉัน ฉันจะมา”
“ขอบใจนะ”
ตาสบตา ภุมรานึกขึ้นมาในใจว่า คิดไปเองหรือเปล่านะ หรือตัวเขาเองจะตาฝาด ที่เห็นกระแสความห่วงใยฉายออกมาจากแววตาคู่นั้นของคนตรงหน้า ช่างดูอบอุ่น และโดยไม่ได้ตั้งใจ หยาดน้ำอุ่นเอ่อล้นออกจากดวงตาคู่สวย ไหลรินลงสู่สองแก้มใส ภุมราไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด แต่มันอบอุ่น แล้วจู่ๆมือแกร่งของคนตรงหน้าก็ยื่นมาปาดหยดน้ำตานั้นให้ อย่างแผ่วเบา เขาไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะคิดยังไง แต่เขามีความสุข มีความสุขเหลือเกิน นี่อาจเป็นความสุข ที่เขาอาจหาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตที่เหลืออยู่ หรือนี่มันอาจเรียกได้ว่า ปาฏิหารย์ ถึงภุมราจะไม่รู้ว่าคนตรงหน้ารู้สึกอย่างไร จะเหมือนกับเขาหรือไม่ แต่สิ่งเดียวที่เขารู้คือในตอนนี้ ราวกับหัวใจที่มีแต่บาดแผลของทั้งคู่กำลังถูกเยียวยา
หลังจากคืนนั้น เหมือนสายใยที่เคยขาดสะบั้น กำลังถูกถักทอขึ้นอีกครั้ง แม้จะยังคงเย็นชา แต่ก็ไม่ได้เกรี้ยวกราด บางคราวก็มีความเอื้ออาทรณ์ที่คาดไม่ถึงหยิบยื่นมาให้ นคินทร์จะรู้หรือไม่นะ ว่าการกระทำเหล่านั้น มันทำให้หัวใจของภุมราพองโตมากแค่ไหน   และมีผลทำให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
กริ๊งงงงงง......
กริ๊งงงงงง.........
“สวัสดีครับ คุณหมอ”
“สบายดีแล้วหรือยังครับ ภู่?”
“หายตั้งนานแล้วครับหมอ โดนเช็คทุกวันขนาดนั้นไม่รีบหายก็แย่แล้วครับ”
“อย่ามาพูดดีเลย คุณน่ะมันเด็กดื้อ ไม่เคยฟังที่หมอพูดเลยสักคำ”
“อย่าบ่นสิครับ ผมก็หายแล้วไง แข็งแรงมากด้วยล่ะ”
“เฮ้อ เอาเถอะครับ ได้ฟังเสียงคุณดูดีขนาดนี้ผมก็สบายใจแล้วล่ะ”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณก็ดีกับผมเสมอ ทั้งๆที่ผม...”
“ภู่...อย่าคิดมากเลยนะ ผมรักคุณก็จริง แต่ผมไม่ได้ต้องการให้คุณตอบรับผมหรอกนะ ผมแค่อยากดูแลภู่แค่นั้นเอง”
“ผมอยากเปลี่ยนใจครับ ผมอยากรักหมอ แต่ผมกลัว”
“กลัวอะไรเหรอครับ?”
“ผมกลัวว่า ผมจะเปลี่ยนใจไม่ทันในเวลาที่เหลืออยู่ของผม ผมไม่อยากจากไปโดยที่ใจผมสับสน”
“อย่าพูดอย่างนั้นอีกนะภู่ หลังคุณเข้ารับการผ่าตัด คุณก็จะหายดี อย่าคิดในแง่ร้ายสิครับ”
“แค่ เผื่อไว้นะครับ อะไรมันก็ไม่แน่นอน”
“นี่ ผมอาจคิดว่าคุณกำลังดูถูกฝีมือผมอยู่นะ”
“เปล่าๆๆๆ โถ อย่าน้อยใจสิค๊าบบบบ ผมขอโทษ”
“งั้นอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ไม่งั้นผมโกรธจริงๆ”
“ครับๆ ผมสัญญา จะไม่พูดอีกครับ แฮะๆๆ”
“ภู่ ผมรักคุณนะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ผมจะไม่มีวันให้คุณเป็นอะไรไปอย่างเด็ดขาด”
“ขอบคุณครับคุณหมอ ผมก็รักคุณครับ คุณคือคนที่ดีที่สุดในชีวิตของผมเลยล่ะ”
“ขอบคุณนะภู่ อีก 2 วัน ผมจะไปหา รอผมนะ”
“ครับ...ผมจะรอ”

หลังจากวางสายที่แสนอบอุ่นจากคนที่คุ้นเคย ภุมรารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แม้จะยังสับสน ว่าดีแล้วหรือเปล่าที่ยังยึดเหนี่ยว คุณหมอคนดีไว้ ทั้งๆที่ไม่สามารถตอบแทนหัวใจของอีกฝ่ายได้ ภุมราพยายามตีตัวจากมาหลายต่อหลายครั้ง หากก็ไม่สามารถทำร้ายคนใจดีได้อีก และคุณหมอเองก็ยืนยันว่าไม่ต้องการความรักของเขาตอบแทน ดังนั้นจึงทำให้ความผูกพันที่มากกว่าคุณหมอ และคนไข้ ดำเนินมาจนถึงตอนนี้

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะภู่ มีอะไรดีๆงั้นเหรอ?”
“อ้าว พี่แอน ฮะ ฮะ ไม่มีอะไรหรอกครับ ภู่แค่คุยกับเพื่อนน่ะ”
“ต๊าย แค่เพื่อนหรือมากกว่านั้นคะ หน้าตาถึงได้อิ่มเอิบแบบนี้น่ะ ฮิฮิ”
“อย่าแซว สิครับ เพื่อนกันจริงๆ เดี๋ยวเขาจะมาพักร้อนที่นี่ด้วย ภู่เลยก็ดีใจเท่านั้นเอง”
“ค๊า ค๊า พ่อคนปากแข็ง เพื่อนก็เพื่อน แล้วเขาจะมาวันไหนเหรอ?”
“วันเสาร์นี้ครับ คงถึงสักตอนบ่ายๆ”
“โอเค เดี๋ยวพี่จัดตารางงานวันเสาร์ให้จบภายในช่วงเช้าแล้วกันนะ น้องภู่จะได้มีเวลาอยู่กับเพื่อนคนนั้นตอนบ่ายไง”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับพี่แอน เหมือนเดิมแหละดีแล้ว อย่าให้ผมทำเสียงานสิ”
“เสียงงเสียงานตรงไหนกัน วันเสาร์ตารางถ่ายทำมีนิดเดียวเอง ดีจะตาย ทุกคนได้พักผ่อนกันด้วย นะภู่”
“อ่า ตามใจก็แล้วกันครับ สิทธิ์ขาดมันอยู่ที่พี่แอนอยู่แล้วนี่”
“อ่าฮ้า พี่มันเจ๊ใหญ่ ใครห้ามแหยมนี่นา อิอิ”

ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังคุยกันอยู่โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีอีกคนอยู่ตรงนั้นด้วย

“ขอโทษนะ แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นความคิดที่ดี”
“....!!!???”
“คุณนคินทร์ !!”
“ที่จริงแล้ว วันเสาร์เรามีส่วนที่ต้องถ่ายซ่อมนอกเหนือจากตารางด้วย มันคงจะไม่เสร็จภายในช่วงเช้าหรอกครับ”
“โธ่ คุณนคินทร์ พี่แอนว่านะ ส่วนที่ถ่ายซ่อมน่ะ ค่อยๆทยอยทำวันอื่นก็ได้นี่นา เหลืออีกตั้ง 7 วันแน่ะ”
“คงไม่ได้หรอกครับ ผมไม่อยากให้งานมันค้าง แล้วต้องรีบมาตามเก็บกันทีหลัง”
“คือวันเสาร์เนี่ย เพื่อนน้องภู่เขามาเยี่ยมน่ะค่ะ พี่เลยอยากจะ...”
“คงไม่คิดจะให้เรื่องส่วนตัวของคนๆเดียว ทำให้เสียงานกันทั้งหมดหรอกใช่มั้ยครับ”
“อ่า...คือพี่”
“ไม่เป็นไรครับพี่แอน วันเสาร์ภู่จะทำงานเต็มวันตามตารางครับ”
“แต่ภู่ พี่ว่า...”
“ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องส่วนตัวของผมครับ”
“ถ้ารู้ก็ดีครับ คุณนายแบบคนดัง ไม่ได้ใกล้ชิดเพื่อนรักคนนั้นสักวันครึ่งวันคงไม่ถึงกับขาดใจหรอกนะครับ”
“ก็ไม่แน่หรอกครับ หัวใจผมมันไม่ค่อยจะแข็งแรง ไม่รู้จะทนได้แค่ไหน”
บรรยากาศราวกับพายุเฮอริเคนกำลังจะขึ้นฝั่งแล้วกวาดทุกอย่างราบพนาสูรไปต่อหน้า เป็นแอนที่ต้องถอยทัพออกมา เพราะเกรงว่าหากตนโดนหางเลขเข้า คงยับแบบไม่มีใครรับรีด หลังจากที่แอนถอนสมอออกไป บรรยากาศระหว่างชายหนุ่มก็ยิ่งตึงเครียดยิ่งขึ้น
“ทำงานมาก็นานแล้ว น่าจะคิดได้นะ ว่าอะไรควรหรือไม่ควร”
“ฉันไปทำอะไรไม่ควรตอนไหนมิทราบ”
“ก็ที่จะเอาเวลางาน ไปหาผู้ชายที่อุตส่าห์ถ่อมาหาถึงที่นี่ไง”
“นี่นายแอบฟังเหรอ นคินทร์”
“ เปล่า แกเองต่างหากที่นั่งคุยโทรศัพท์โจ่งแจ้งเองน่ะ ใครผ่านไปผ่านมาก็ได้ยินทั้งนั้นแหละ”
“งั้นก็ขอโทษทีแล้วกัน คราวหน้าฉันจะระวัง”

ในที่สุดภุมราก็ยอมเป็นฝ่ายล่าถอย หาเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะยังต่อปากต่อคำจนถึงที่สุด หากแต่ตอนนี้เขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำ และอีกอย่างก็คือเขาเพิ่งจะรู้สึกดีกับหลายวันที่ผ่านมาหลังจากที่เขาหายป่วย เขาอุตส่าห์คิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนคินทร์จะดีขึ้น และเขาไม่ต้องการให้มันพังทลายลง ไม่ต้องการอีกแล้ว แต่ในขณะที่ภุมราตั้งท่าจะเดินจากไปนั้น จู่ๆก็ถูกมือแกร่งดึงเอาไว้
“อะไรกันทนฟังไม่ได้รึไง?”
“ทนฟังอะไร?”
“ทนฟังที่ฉันพูดไม่ได้ไงล่ะ”
“ทำไมฉันต้องทนด้วยล่ะ มันก็ไม่เห็นจะมีอะไร ฉันแค่เบื่อจะเถียงกับนายแล้วก็เท่านั้นเอง”
“ทนตัวเองไม่ได้สินะ”
“อะไร ทนตัวเองไม่ได้ อะไร?”
“ก็เมื่อ3วันที่แล้ว ยังร้องห่มร้องไห้บอกว่ารักฉันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอวันนี้แกกลับโทรไปนัดผู้ชายอีกคนมากกถึงที่นี่ไงล่ะ”
“น่ะ...นาย !!”
“แพศยากว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยนะ ภุมรา!”
.................................................................................

มาต่อแล้วค๊า ขอโทษที่ทิ้งไว้ช้านานนะเจ้าค๊า อรั๊ยยยยส์
 :z3:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึกดีๆ*) UP เพิ่มแล้วค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 03-02-2012 19:04:18
ไอย๊า ท่าทางเศร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึกดีๆ*) UP เพิ่มแล้วค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 04-02-2012 10:01:46
 :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) สุดปลายทางหัวใจ...(*ความรู้สึกดีๆ*) UP เพิ่มแล้วค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-02-2012 22:23:15
ไม่อยากร้องเพลงนี้ให้นคินทร์ฟังเลย
เมื่อรู้สึกตัวก็สายเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (*สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ*) 6 Jan.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-02-2012 17:16:00
ตอนที่ 13 *สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ*

“แพศยากว่าที่ฉันคิดไว้มากเลยนะ ภุมรา!”

ร่างสูงตะคอกใส่ในสิ่งที่คาดไม่ถึง ภุมราถึงกับนิ่งอึ้งด้วยอับจนปัญญาจะตอบโต้ นี่เขาเป็นคนแพศยาไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ร่างบางขบริมฝีปากแน่น เจ็บราวหัวใจโดนเข็มตำนับพันเล่ม คำว่ารักที่เขาเคยบอกไป กลับย้อนมาทำร้ายเขา ด้วยคำว่าแพศยาอย่างนั้นหรือ คิดแล้วท้อในหัวใจยิ่งนัก หากแต่ก็ไม่อยากจะโต้เถียง ให้ต้องถูกครหามากไปกว่านี้ กลัวว่ายิ่งตนยังขืนต่อปากต่อคำกับอีกฝ่าย จะกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง ร่างบางถอนหายใจแรงๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบไปอีกทาง เขาอยากกลับห้องโดยเร็วที่สุด หากยังไม่ทันจะพ้นทางก็ถูกมือแกร่งรั้งราวกับกระชากไว้เสียก่อน
“ปล่อยนะ!!!”
“จะรีบไปไหนล่ะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ!”
“ก็ถ้านายคิดว่าฉันเป็นแบบนั้นแล้ว เราก็ไม่เห็นมีอะไรต้องคุยกันอีกนี่!”
“แต่ฉันมี”
“นายจะมีหรือไม่มีอะไรก็ฉันไม่อยากคุยทั้งนั้น ฉันจะกลับห้องแล้ว ปล่อย!!”
“กลับห้องก็ดี เราได้ไปคุยกันได้ถึงพริกถึงขิงขึ้นไง”
“นคินทร์!!!”
“อะไรกัน ทำเป็นโกรธทั้งที่จริงๆแล้วก็อยากจนเนื้อตัวสั่น ถึงขนาดต้องรีบเรียกคู่ขาให้ถ่อมาหาถึงที่นี่ไง”
‘ผลั๊วะ’
เสียงชัดเจนเต็มสองหูของนคินทร์ เพราะโดนหมัดเล็กๆของคนตรงหน้าซัดเข้าเต็มเหนี่ยวที่ปลายคาง ชายหนุ่มถึงกับมึนไปหลายวินาที
“คุณหมอเขาไม่ใช่คู่ขาฉัน อย่ามาหยาบคายใส่เขานะ อุ๊บ...!!”
ทันทีที่นคินทร์หันกลับมาชายหนุ่มก็รั้งลำคอภุมราเข้ามาประกบริมฝีปากทันที
“อื้อ...!!”
หลังจากชะงักไปด้วยอารามตกใจ พอตั้งสติได้ร่างบางพยายามดิ้นรนทันที สองมือบางทั้งทุบทั้งผลักไส หากมือแกร่งที่รั้งต้นแขนและต้นคออยู่นั้นช่างแข็งราวคีมเหล็กล็อคภุมราไว้ให้มิอาจหลุดพ้นได้โดยง่าย ริมฝีปากหนาบดขยี้รุนแรงจนลิ้นบางรู้สึกได้ถึงรสชาดของโลหิต
“อื้อ...อื้ม...อ๊ะ!”
เพียงเผลอเผยอริมฝีปากเพียงนิด ก็ถูกเรียวลิ้นร้อนของนคินทร์ล่วงล้ำเข้ากวาดชิมความหวานล้ำภายในช่องปากอย่างคุกคาม สองมือที่พยายามผลักไสสั่นระริก เรี่ยวแรงราวกับถูกดูดหายไป และทั้งที่ถูกบังคับ ทั้งที่ควรจะขัดขืน หากแต่ความรู้สึกอันแสนประหลาดกลับทำให้ใจภุมราอ่อนยวบและโอนอ่อนไปกับรสจูบดุดันที่อีกฝ่ายมอบให้ เช่นเดียวกันกับนคินทร์ที่แรกเริ่มเขากระทำลงไปด้วยแรงโทสะ หากเพียงครู่เดียวเท่านั้นความหวานล้ำที่ได้รับจากอีกฝ่าย ทำให้เขาเผลอไผล จากที่คุกคามดุดัน แปรเปลี่ยนเป็น ดูดดื่มและเว้าวอน เวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใดไม่ทราบได้ ที่เขาทั้งคู่ไม่อาจผละริมฝีปากออกจากกัน
‘แกร๊บ...’
จู่ๆเสียงกี่งไม้หักก็ดังขึ้น นคินทร์และภุมราถึงกับสะดุ้งและผละจากกันอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ เหตุการณ์เมื่อครู่ไม่ได้รู้เห็นกันอยู่เพียงแค่สองคนอีกแล้ว เพราะ ซอ เด็กหนุ่มผู้ช่วยตากล้อง ได้เป็นผู้ร่วมเหตุการณ์นี้ไปแล้วเรียบร้อย
“เอ่อ...ขอโทษนะครับ ผมไม่คิดว่าจะมีคนอยู่...เอ่อ...ตรงนี้...”
“...!!!!...”
พอภุมราตั้งสติได้เขาก็รีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว และไม่รุ้ว่าด้วยความที่ตกใจเพราะมีคนเห็น หรือเพาะความสียใจที่ถูกย่ำยีสักดิ์ศรีกันแน่ ถึงทำให้หยาดน้ำอุ่นเอ่ออาบดวงตากลมใสคู่นี้ นคินทร์ได้แต่มองภุมราเดินหนีไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะอธิบาย แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว เด็กหนุ่มตรงหน้าเขานี่ต่างหากล่ะ ปัญหาที่เขาต้องจัดการก่อน
“เอ่อ...”
“ว่าไง...ซอ?”
“ผมโผล่มาผิดเวลาหรือเปล่าครับ”
“ก็นะ อย่าบอกใครล่ะ”
“เอ่อ แล้ว...คุณนคินทร์กับคุณภู่เป็น...เอ่อ...เป็น....”
“กลับห้องไปได้แล้ว”
นคินทร์ตัดบทเด็กหนุ่มช่างซักไป แล้วเขาก็เดินหลบฉากกลับมาที่บังกะโล พอชายหนุ่มเดินผ่านหน้าห้องของภุมรา เขาก็เผลอหยุดมอง ภายในห้องตรงหน้าเงียบกริบ เหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงติดตรึงในใจ นคินทร์พร่ำถามตัวเองตลอดทางเดินกลับมาที่บังกะโลว่า มันเกิดอะไรขึ้น และเขาเป็นอะไรไป คนที่อยู่ในห้องนี้เคยทำให้ใจของเขาบาดเจ็บอย่างแสนสาหัสมาก่อน ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ และทรยศเขาอย่างไม่น่าให้อภัย ตัวเขาเองก็เคยสาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ยอมให้อภัยคนคนนี้ จะไม่มีวันญาติดีกับคนๆนี้อีกเด็ดขาด ตราบเท่าที่เขายังมีลมหายใจ หากแต่ตั้งแต่ที่สนามบินวันนั้น วันที่ได้กลับมาพบคนในห้องนี้อีกครั้ง ไม่รู้ทำไม เศษเสี้ยวหัวใจที่ยังเหลืออยู่ของเขา กลับหวั่นไหว คิดอยู่เสมอว่ามันคงเป็นเพราะความทรงจำครั้งอดีตสมัยที่ยังเป็นเพื่อนที่รู้ใจ แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น เศษเสี้ยวนั้นกลับเพิ่มจำนวน จนกระทั่งวันที่ข้อความบางอย่างหลุดออกมาจากปากของภุมรา ‘คำว่ารัก’  ที่อีกฝ่ายเอื้อนเอ่ย  มันยิ่งทำให้เศษเสี้ยวนั้นสั่นไหว ทั้งที่เขาพยายามจะปฏิเสธมันและพยายามจะให้ความขุ่นแค้นบดบังสิ่งเหล่านั้นไว้ แต่สุดท้ายแล้ว ยิ่งพยายามจะทำลายอีกฝ่าย ยิ่งพยายามจะเคืองแค้นอีกฝ่าย หากพอได้เห็นแค่หยาดน้ำตาเพียงหยดเดียวของภุมรา อีกทั้งพอได้เห็นว่าอีกฝ่ายอ่อนแอล้มป่วยเพียงเพราะฝีมือของตัวเขาเอง เพียงแค่นั้น เศษเสี้ยวของเขาก็ดั่งกับรุ่มร้อนจนหลอมละลาย กลายเป็นสิ่งสิ่งหนึ่ง นั่นคือ...หัวใจ   
..........................................................................

มาต่ออีก 1 ตอน ก่อนที่อาจหายสาปสูญไปอีกสักระยะ
อร๊ายยยยยยยส์
ขอบคุณทุกท่านที่ยังคงติดตามนะเค๊า จ๊วบๆๆๆ
 :o12:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 13 *สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ*) 6 Jan.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-02-2012 20:22:44
หลังจากแต่งมาถึงตอนที่ 13 แล้ว...อึก อึดอัด หาวเรอ...
มันคงแถเป็นเรื่องสั้นต่อไปไม่ไหว
 o22
ดังนั้นก้าเจ้าเลยขออนุญาต เปลี่ยนเรื่องนี้เป็นเรื่องกึ่งสั้น กึ่งยาวละกัน เฮ้อ...

ขอประทานโทษท่านผู้อ่านทุกท่านจริงๆเจ้าค่ะ อ๊างส์
 :z6:

THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 13 *สิ่งที่เรียกว่าหัวใจ*) 6 Jan.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 06-02-2012 20:27:37
ไม่ใช่เรื่องสั้นแล้ว ว๊ายยๆๆ อย่างนี้ต้องเกาะติดเวที
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 1 *เก้อเขิน*) 8 Feb.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 08-02-2012 18:24:11
ตอนที่ 14 *เก้อเขิน*


“ไอ้ภูบ้า ไอ้บ้าภู!!”

ในห้องมืดๆ  ภุมรานอนคลุมโปงอยู่อย่างเงียบเชียบ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนดีนะ ถูกเห็นเข้าซะแล้ว ถูกเห็นเรื่องน่าอายเข้าซะแล้ว เขาจะทำยังไงดี ถ้าซอพูดเรื่องนี้ออกไป แล้วพรุ่งนี้เขาจะทำหน้ายังไงดี   

“ไอ้หน้าไม่อาย...”

พึมพำอยู่คนเดียวใต้ผ้าห่มอุ่น และผลอยหลับไปทั้งๆที่ยังคงขมวดคิ้วหน้ายู่แก้มแดงก่ำอยู่อย่างนั้น

..............................................................................
   อากาศในเช้าวันนี้ ดูปลอดโปร่งแจ่มใสกว่าทุกๆวัน ปุยเมฆขาวลอยห่าง ผืนฟ้าสีครามสดใสเคียงคู่กับน้ำทะเลเขียวมรกต สะท้อนประกายระยิบระยับ เมื่อเปลวแดดอ่อนทอแสงล้อยอดคลื่น  ใช่...บรรยากาศเช้านี้ช่างผ่อนคลาย ทีมงานทุกคนเริงร่าตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างขมักเขม่น  มีแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ตลอดเวลา  ซอ นคินทร์ และภุมรา

“อะไรกันน่ะ บรรยากาศแปลกๆเนี่ย พี่แอนรู้สึกไม่ชอบมาพากลเลยแฮะ ไหน ซอ มานี่สิ!!”
“อ่ะ ครับๆ”

ทันทีที่แอนเรียกซอเข้าไปหา หัวใจของภุมราก็ร่วงตุ๊บไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อย สายตามองตาหลังซอไปด้วยหัวใจประหวั่น

“มีอะไรกันน่ะ ทั้ง 3 คนเนี่ย เลิ่กลั่กๆกันแปลกๆ ไหนบอกพี่มาสิซอ”
“อ่า...คือว่า...อ๊ะ วันนี้ซอท้องไส้ไม่ค่อยดีน่ะครับพี่แอน ซอเลยมึนๆ นิดหน่อยน่ะครับ”
“หา!! ท้องเสียเหรอ? อ้าวแล้วเป็นอะไรมากป่ะเนี่ย ซอมียามั้ย กินยารึยัง นี่ๆ วันนี้จะพักก่อนมั้ย?”
“อะ เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ผะ...ผมไหวครับพี่แอน”
“อืมๆ เอางั้นก็ได้  แต่ถ้าไม่ไหวก็รีบบอกนะ”
“ครับพี่แอน”
“เอ้าทุกคนเร่งมือเข้าหน่อย เดี๋ยวแดดสวยๆจะหายไปซะหมด ช้าเจ๊โมโหนะจ๊ะ”

ถอนหายใจโล่งอกกันทั้งสามคน เมื่อไม่โดนคาดคั้นอีก

“ซอ....เอ่อคือฉัน...”
“อ๊ะ คุณภู่ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?”
“ปะ...เปล่า ไม่ คือ...ฉันแค่...”
“วางใจเถอะคุณภู่ ผมไม่บอกใครหรอก”
“อ๊ะเปล่า ซอ คือ มันไม่ได้...”
“ความรักมันเป็นเรื่องธรรมชาติครับ มันไม่พรหมแดน ไม่มีศาสนา และไม่มีเพศ หรอกครับ ผมเข้าใจ”
“.....ขอบคุณนะ”

ผิดจากที่คาดนิดหน่อยทีตอนแรกเขาหวาดหวั่นว่า ซอจะเป็นคนปากเบา เพราะเด็กหนุ่มค่อนข้างจะคุยเก่งและเปิดเผย แต่เอาเข้าจริง ความหวาดระแวงของเขามันช่างไร้สาระ เมื่อเด็กหนุ่มตรงหน้า ดูมีความคิดอ่านเป็นผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลกมากกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก

“นายไปยืนดีๆได้แล้ว...”

จู่ๆนคินทร์ก็เข้ามากระซิบจากทางด้านหลัง ใกล้ชิดจนลมหายใจรดต้นคอ ภุมราสะดุ้งโหยง หน้าเนียนแดงซ่านอีกรอบ

“เฮ้ย จะหน้าแดงทำไม เดี๋ยวเขาก็ได้แห่มาดูกันหมดอีกหรอก”
“ก็ ก็เพราะนายนั่นแหละ จู่ๆจะเข้ามาใกล้ทำไมเล่า”
“แล้วจะทำไมล่ะ ก็แค่เข้าใกล้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรแกสักหน่อย”
“ก็มัน...!!”
“หึ อายเหรอ?”
“หา!? อะ อายอะไรตรงไหนกัน”
“มองหน้าฉันแล้วหน้าแดง เดี่ยวคนอืนเขาก็รู้กันหมดหรอก ว่าแกแอบคิดไม่ซื่อกับฉันน่ะ”
“อะ ไอ้....”

“เอาล่ะพร้อมแล้ว คุณตากล้องกับน้องภู่พร้อมกันหรือยังคะ?”

เสียงของแอนราวกับระฆังหมดยก ช่วยชีวิตภุมราได้ทันการก่อนที่จะจมความอายตายไปซะตรงนี้ ตัวเขาเองผู้ซึ่งวางตัวดีมาตลอด กลับถูกดึงให้เป๋ได้เพียงเพราะคำพูดไม่กี่วันของคนตรงหน้า และแทนที่เขาจะโมโหกับท่าทีกวนโอ้ยของอีกฝ่าย ภุมรากลับหัวใจเต้นรัว แก้มแดงร้อนฉ่า  แถมยังรู้สึกยินดีเล็กๆกับเหตุการณ์นี้ คงเพราะมันคือสิ่งที่เขารอคอยจากคนตรงหน้าหรือเปล่านะ คำพูดหยอกล้ออย่างตอนนี้ถึงทำให้เขารู้สึกชื่นใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ทำงานได้แล้ว ไอ้บ้า”

ภุมราเอ่ยก่อนเดินจากไปยืนตรงจุดที่จะสามารถถ่ายรูปออกมาได้ดูดีที่สุด ด้วยใบหน้าที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุด ระหว่างที่นิ้วมือของนคินทร์กำลังลั่นชั๊ตเตอร์อยู่นั้น สายตาของเขาเองก็ไม่ได้ละไปจากร่างตรงหน้าเลยเช่นกัน ไม่รู้ว่าหลายวันนี้เขาเป็นอะไรไป ทั้งที่จดจำได้ตลอดเวลาว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่เขาเกลียดชังและเจ็บแค้น แต่หัวใจเขาเล่า มันกลับเรียกร้องอยากเข้าใกล้ อยากสัมผัส  และเหมือนดั่งเป็นภาพลวงตา ที่เขาเห็นภุมรา น่ารักกว่าที่เคย โดยเฉพาะเมื่อกี้ ที่จู่ก็หน้าแดงราวกับเด็กน้อย จนทำให้ใจเขาเผลอไผล นี่ถ้าไม่ได้อยู่กันหลายคน เขาอาจเผลอทำในสิ่งที่ตัวเองคาดไม่ถึงก็เป็นได้

โดยไม่มีใครรู้ ที่ทั้งนายแบบเจ้าเสน่ห์และตากล้องคนเก่งที่มองภายนอกแล้วเหมือนกำลังทำงานกันอย่างขยันขันแข็งอยู่นั้น ที่จริงแล้วในใจของเขาทั้งคู่กำลัง  อบอวลไปด้วยความรู้สึกแสนประหลาดระหว่างกัน ไม่มีใครสังเกตุเห็นถึงสายตารุ่มร้อนแทบละลายที่ทั้งสองส่งให้กันเป็นระยะๆ

หลังเสร็จงานต่างคนต่างก็เก็บของและแยกย้ายกันไปพักผ่อน 

“ภู่ ภู่ เพื่อนภุ่จะมาถึงนี่กี่โมงเหรอ?”
“อ๋อ ถึงพรุ่งนี้ตอน 4ทุ่มครับ ผมว่าจะไปรับเขาที่สนามบินอยู่ล่ะ พี่แอน”
“หืม...แล้วเขามีที่พักหรือยัง หรือว่ามาพักกับภู่กันจ๊ะ?”
“เปล่าครับ เห็นว่าจองบังกะโลใกล้ๆนี้ไว้ได้ เขาบอกว่าเกรงใจน่ะครับ ไม่อยากรบกวนการทำงาน”
“อ่ะนะ...ดีนะเนี่ยที่เป็นเพื่อนผู้ชาย ถ้าเป็นเพื่อนผู้หญิงพี่คงคิดลึกไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
“คิดไปไหนกันครับ จะผู้หญิงผู้ชายก็เหมือนกัน เพื่อนภู่ทั้งนั้นแหละ”
“ก็มันน่าคิด นายแบบหนุ่มเจ้าเสน่ห์ แถมโสด พอมีใครเข้ามาสนิท ทุกคนเขาก้คิดเป็นแง่ฉันท์ชู้สาวหมดน่ะแหละจ๊ะ”
“งั้นเว้นไว้สักคนแล้วกันครับ ผมยืนยัน แค่เพื่อนจริงๆ”
“จ้าๆ รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ชัดแล้ว แหมย้ำจริ๊ง ฮิฮิฮิ”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ งั้นผมขอตัวก่อนนะพี่แอน อยากอาบน้ำแล้วล่ะ เหนียวลมทะเลจะแย่”
“จ้า เจอกันพรุ่งนี้นะ เอ๊ะ หรือจะไปกินข้าวกับพวกพี่ก่อนดีจ๊ะ?”
“ไม่แล้วล่ะครับ อยากนอนแล้ว เดี๋ยวผมสั่งทางโรงแรมเอาดีกว่าครับ”
“ตามใจ งั้นพี่ไปนะ”
“ครับ”

ภุมราเดินเรื่อยเปื่อยมาจนถึงห้องพัก อากาศยามเย็นขมุกขมัว สีม่วงล้ำของยามราตรีพาดผ่านคุ้งขอบฟ้า พอเดินมาถึงหน้าบังกะโล ภุมราก็มาจ๊ะเอ่เข้ากับนคินทร์พอดิบพอดี อะไรไม่รู้มาดลใจ ให้คนปากเก่งอย่างเขากลายร่างเป็นคนบื้อใบ้ พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้หัวใจเต้นรัวเป็นกลองศึก ทั้งที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเขาแม้สักคำ

และเช่นเดียวกันภุมราก็ไม่ได้รู้สึกเลยว่า คนตรงหน้าก็มีอาการเช่นเดียวกันเขา นคินทร์อึกอัก เขาไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับความรู้สึกของตัวเองยังไงดี
...........................................................................

ตอนที่ 14 เข้าไปแระ อิอิ
เดี๋ยวตอนที่ 15 มีเฮอีกรอบ จะรีบมาลงต่อในเร็ววันนะจ๊ะ
 :z2:

THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 14 *เก้อเขิน*) 8 Feb.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 16-02-2012 02:35:23
รอลุ้นตอนคุณหมอมานะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 14 *เก้อเขิน*) 8 Feb.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 16-02-2012 05:08:26
อ่านเรื่องนี้ก็สนุกดีแต่พระเอกดูโง่ๆไงไม่รู้  :o11: :o11:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 14 *เก้อเขิน*) 8 Feb.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: GoonKGiinK ที่ 16-02-2012 07:47:42
แอบชอบภู่น้อยแล้วล่ะซิ  :-[
ตอนต่อไปคงมีตัวเร่งปฏิกิริยาเข้ามา ตายแน่พระเอก,, ,หรือนายเอก :haun4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 14 *เก้อเขิน*) 8 Feb.อัพ ตอนใหม่ค๊า^^
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-02-2012 17:20:35
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 16-02-2012 20:11:08
ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*


1 ทุ่มวันเสาร์ กับการทำงานที่เหน็ดเหนื่อย หลังการถ่ายซ่อมฉากสุดท้ายของวันนี้เสร็จสิ้นลง ทีมงานก็เริ่มเก็บของกัน

“เหนื่อยหน่อยนะภู่ ทำได้ดีมากเลยจ๊ะวันนี้”
“ขอบคุณครับ พี่แอน”
“เพื่อนภู่มาถึงยังจ๊ะ มาวันนี้แล้วนี่”
“ถึง 4 ทุ่มครับ เดี๋ยวสัก 3 ทุ่มผมจะออกไปรับ”
“จ๊าๆ อย่าลืมพามาแนะนำบ้างนะ”
“ได้ครับ เดี๋ยวพามาให้ดูหน้า เตือนไว้ก่อนนะครับ ว่าเพื่อนผมหล่อมาก”
“ต๊าย!! พามาเลย พี่ชอบกินคนหล่อๆ ^^ แล้วนี่หิวมั้ย ไปกินข้าวกับพี่ก่อนดีป่ะ?”
“ก็ดีครับ กำลังหิวพอดี”

“อ้าว คุณนคินทร์ ไปทานข้าวกับเราไหมคะ?”

แอนชำเลืองไปเจอกับนคินทร์พอดี เลยเอ่ยปากชวนไปด้วยกัน ถึงจะไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านนัก แต่รู้สึกว่าจะปล่อยให้เรื่องระหว่างคุณตากล้องกับน้องนายแบบผ่านไปเฉยๆไม่ได้ เพราะรังสีความเย็นชาที่ออกจากทั้งสองคนนี้ ทำให้บรรยากาศในการทำงานดูอึดอัด ดังนั้นควรขอให้เคลียร์กันซะให้เข้าใจกะซะน่าจะดีกว่า โดยเริ่มแรกเลยก้ควรเชิญไปกินข้าวด้วยกัน เป็นการปูทางก่อน

“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณแอน ผมยังไม่หิว”
“แหม...ไปทานด้วยกันสักนิดเถอะคะ นะ จะได้ปรึกษากันเรื่องงานในส่วนที่เหลือด้วย”
“..........................ก็ได้ครับ”
“โอเค งั้นไปกันเลย ป่ะภู่”
“................................”

และแล้ว 1 สาว 2 หนุ่มก็เลือกที่จะทานอาหารง่ายๆ ที่บาร์เล็กๆ ริมชายหาด ภุมรารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เพราะไม่คาดคิดว่า นคินทร์จะตอบรับคำชวนของแอน เพราะร้อยวันพันปี ไม่ว่างานไหน หากมีเขาไปด้วย นคินทร์จะไม่ขอร่วมวงเด็ดขาด แต่นี่มัน...คงเรียกได้ว่าปาฏิหารย์เลยทีเดียว

“เฮ้อ~ อิ่มจังเลย เป็นไงบ้างคะ ทั้งสองคน”
“ก็ดีครับ พี่ ภู่ชอบร้านนี้”
“ทำไมสองคนนี้เงียบกันจังเลยล่ะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า? อย่าหาว่าพี่ละลาบละล้วงเลยนะ แต่ว่าถ้าทั้งสองคนมีเรื่องอะไรกันอยู่ พี่ก็อยากให้คุยกันให้เข้าใจเสียก่อน บอกตรงๆนะ ทั้งพี่แอน กับทีมงานเนี่ยรู้สึกอึดอัดแทนนิดหน่อยน่ะจ๊ะ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับพี่แอน พวกผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกครับ”
“ภู่อย่ามาหลอกพี่นะ เห็นๆกันอยู่”
“เราแค่ซีเรียสกับการทำงานเท่านั้นครับคุณแอน”
“อะ...เหรอคะ งั้นก็อย่าเครียดกันมากนะคะ เดี๋ยวไม่สบาย”
“พี่แอน ทีผมพูดพี่ไม่ยอมเชื่อนะ”
“ก็แหม...แฮะๆ”
(แอนแอบคิดในใจว่า ก็อีตากล้องมันน่ากลัวนี่หว่า กลัวเถียงแล้วตาย)
..............................................................................................

“พี่แอนครับ ภู่ขอกลับก่อนนะ ต้องกลับไปอาบน้ำก่อน เดี่ยวไปสนามบินไม่ทัน”
“อ๊ะ? จ๊ะๆ อุ๊ย 2 ทุ่มครึ้งแล้วเหรอเนี่ย ขอโทษทีนะภู่พี่เมาน้ำลายไปหน่อย รีบไปเถอะจ๊ะ เดี๋ยวไปรับเพื่อนไม่ทัน”
“ครับ ขอตัวนะพี่แอน ขอตัวนะคุณนคินทร์”
“...........................”

ถึงร้านอาหารกับบังกะโลจะไม่ได้ไกลกันมากนัก แต่กว่าที่ภุมราจะกลับมาถึงห้องได้ ก็ปาไป 2 ทุ่ม 45 เข้าไปแล้ว

“อ๊ะ! ต้องรีบแล้วสิเรา อาบน้ำ อาบน้ำ...”

ภุมรารีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แต่พอออกจากห้องน้ำเขาก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ ก็ถูกมือแกร่งของนคินทร์ฉุดลากถูลู่ถูกังไปที่เตียง ภุมราดิ้นรนออกจากวงแขนแกร่งอย่างทุลักทุเล เพราะตนมีแค่ผ้าขนหนูพันกายอยู่แค่ผืนเดียว จะออกแรงมากไปก็กลัวว่าอาภรณ์ที่นุ่งมาอย่างหมินเหม่ของตนจะหลุดออกจากร่างเสียก่อน

“อ๊ะ! เฮ้ย! นี่! ทำอะไรน่ะ นคินทร์!!??”
“โอ้ย! ปล่อยนะ!”
‘ผลั่ก...ตุบ’

ร่างภุมราถูกผลักจนเสียหลักล้มลงบนเตียง และในขณะเดียวกัน นคินทร์ก็ขึ้นคร่อมภุมราไว้

“แกจะไปไหน ภุมรา?”
“จะไปไหน...มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย”
“จะไปรับผู้ชายมา “กก” งั้นเหรอ”
“!!?? หยุดหยาบคายใส่ฉันสักทีได้มั้ย? นคินทร์!!”

ภุมรายกตัวขึ้น มือบางผลักร่างตรงหน้า หวังจะให้ถอยพ้นทาง เขาต้องรีบไปสนามบินแล้ว

“ไม่ไปได้มั้ย?”

จู่ๆ นคินทร์ก็กระซิบแผ่วขึ้น ภุมราเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“อะไร...นะ?....!!?”

ยังไม่ทันได้คำตอบใดๆ ภุมราก็ถูกริมฝีปากร้อนของคนตรงหน้า ฉกจูบอย่างรุนแรง

“อื้อ!!??”

ริมฝีปากหนาบดเบียดอย่างเร่าร้อน จนภุมราคิดอะไรไม่ออก รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกลิ้นร้อนของอีกฝ่ายรุกล้ำเข้ามาเกี่ยวกระหวัดลิ้นของตนอย่างชำนาญ

“อ๊า~”

เสียงหวานครางหวิว เมื่อโดนเลียชิมในโพรงปากอย่างเร่าร้อนและคุกคาม หากแต่ยิ่งถูกรุกราน เรี่ยวแรงภุมราราวกับโดนสูบ มือที่ตอนแรกเคยผลักไส แต่ตอนนี้กลับเผลอไผลโอบต้นคอคนตรงหน้าเสียได้

“นคินทร์...ฉะ...ฉันต้อง...รีบไป...อ๊ะ!!...ดะ เดี๋ยว...อื้ม!!”

ภุมราร้องห้ามเมื่อนคินทร์เริ่มซุกใซ้ซอกคอหอมกรุ่น ริมฝีปากหนาขบแทะ ดูดดุน จนผิวขาวละเอียดขึ้นรอยรักแดงช้ำ ร่างภุมราสะท้านเฮือก ทุกครั้งที่ริมฝีปากร้อนผ่าวของร่างหนาประทับบนผิวกาย มือใหญ่ลากผ่านตามจุดที่สามารถปลุกอารมณ์ปรารถนาของภุมราให้กระพือโหมได้ ราวกับรู้จักร่างกายภุมราเป็นอย่างดี

“อยะ...อื้อ...อย่า...อ๊ะ...อ๊ะ”

เสียงหวานดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อยอดอกบอบบางสีชมพูสด ถูกดูดดุน เพียงเท่านี้สติสัมปชัญญะทั้งหลายทั้งมวลของภุมราก็ราวกับถูกลบให้หายไปจากก้อนสมองที่ว่างเปล่าของเขา ยิ่งอีกฝ่ายใช้ลิ้นโลมเลียตุ่มไตเล็กๆนั่น ร่างภุมราก็ยิ่งสั่นสะท้าน ทั้งบิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่านอย่างสุดทน

“อ๊า...นะ...นคินทร์...อย่า...อื้ม!...อ๊ะ...อ๊า!!!”

เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผ้าขนหนูผืนน้อยหลุดออกจากร่าง เปิดเผยให้เห็นสัดส่วนร่างกายที่กำลังตื่นตัวอย่างช่วยไม่ได้ ท้าทายสายตาของคนตรงหน้ายิ่งนัก

“นะ...นคินทร์?...”

นคินทร์ยกตัวขึ้นถอดเสื้อยืดตัวบางของตนออกอย่างรีบร้อน เผยให้เห็นมัดกล้าม กำยำ ที่บ่งบอกว่าเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งขนาดไหน ภุมราปรือตามองคนตรงหน้าที่กำลังจัดการอาภรณ์ของตัวเองออก เขาไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือไม่ ว่าภาพที่ตนกำลังเห็นอยู่นั้นมันมีพลังบาดตาอย่างประหลาด เซ็กซี่ น่ามอง จนไม่อาจละสายตาได้ ยิ่งมอง ลมหายใจภุมรายิ่งหอบถี่ ความปารถนาที่แล่นอยู่ทั่วร่างอยู่แล้วนั้น กลับยิ่งทบเท่าทวีคูณ จนแทบจะเอ่อล้นออกมาจากร่าง

“อะไรกัน ภุมรา นี่นายเปียกขนาดนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ”
“อ๊ะ! ตรงนั้น! อย่า อย่าจับนะ อ๋า~!!”

ภุมราแทบห้ามตัวเองไม่อยู่เมื่อแท่งความปรารถนาของตนถูกนคินทร์สัมผัส หยาดน้ำหวานสีสวยไหลหยดลงบนมือชายหนุ่ม เมื่อมันถูกรูดรั้งแผ่วเบา

“อ๊ะ...อื้อ...นคินทร์...ได้โปรด...อ๊า”
“ฉัน...ขอนะ”
“หา?...อ๊ะ...อะไร?”
ระหว่างที่ด้านหน้ายังถูกปรนเปรอไม่ขาดช่วง จู่ๆ มืออีกข้างของนคินทร์ก็เริ่มสัมผัสลงสู่ส่วนลึก นิ้วหนาลูบไล้ปากทางเข้าเล็กนั่นราวกับกำลังปลอบประโลม แค่เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น นิ้วหนาก็ล่วงล้ำเข้ามาในช่องทางคับแน่น โดยไม่มีการเตือน

“อ๊ะ ไม่ !! เดี๋ยว นคินทร์ ไม่เอานะ”
“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวจะเจ็บเอานะ”

นคินทร์กระซิบเสียงแหบพร่าโดยไม่สนใจคำทัดทานของร่างเล็ก

“ไม่นะ ฉะ...ฉัน...อื้ม!?”

เพื่อตัดความรำคาญนคินทร์จึงทำการจูบปิดเสียงคนตรงหน้าซะ จึงทำให้จากเสียงห้าม กลายเป็นครางหวานหูแทน

เวลาผ่านไปเพียงแค่ลมหายใจเดียว ช่องทางของภุมราก็พร้อม นคินทร์เองก็แทบจะอดทนต่อไปไม่ไหว เพราะคนตรงหน้าเขาช่างเย้ายวน ไม่ว่าจะเป็นร่างกายที่แสนจะทรงเสน่ห์ เสียงหอบหายใจเนื่องจากพ่ายแพ้ต่อความปรารถนา เสียงครางหวานซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้ ร่างบาง พร้อมสำหรับเขาแล้ว

“อืม...อย่าเกร็งนะ”
“อ๊ะ ...อื้อ... อ๊ะ...อ๊ะ ....อ๊า”

ภุมรากรีดร้องเสียงสูง เมื่อถูกแก่นความปารถนาของคนตรงหน้ารุกล้ำ  ถึงจะรู้สึกเจ็บแปลบในคราแรกที่ถูกสอดใส่ แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพราะต่อมาไม่นาน ความรู้สึกอีกอย่างก็เข้ามาแทน

“อ๊ะ ...อ๊ะ...อย่ะ...อย่า...”
“ไม่ทันแล้วล่ะ อึก...อย่ารัดนักสิ”
“มะ...ไม่ไหว...อ๊ะ...อื้ม! อ๋า!!”

ภุมรากรีดร้องเสียงสูง ร่างบางสะท้านเฮือก เมื่อส่วนปลายความปรารถนาของนคินทร์ที่ฝังอยู่ในร่างนั้น ไปกระทบเข้ากับบางจุดเล็กๆในช่องทางคับแน่นของเขา

“หืม...ตรงนี้...รู้สึกดีสินะ พอโดนปุ๊บ...ข้างในก็รัดฉันใหญ่เลย...”
“มะ...ไม่ ...อ๊ะ ...อ๊ะ ...อ๊ะ ...อ๊า ....อา ...อ๋า!!”
“อืม ...ดี ...ภุมรา ...ดีมาก อืม...”

ร่างสูงครางต่ำในลำคอ เมื่อตัวเขาเองตอนนี้ก็รู้สึกเสียวซ่านจนทนแทบจะไม่ไหว นคินทร์ยับยั้งตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เขากระแทกกระทั้นหนักหน่วง จนภุมราต้องร้องเสียงหลง ความปรารถใหญ่โตของนคินทร์ที่ผลุบเข้าผลุบออกจากช่องทางคับแน่นนั้น เหมือนจะขยายตัวขึ้นอีก เนื่องจากความต้องการที่โหมกระพือขึ้นอย่างไม่อาจห้าม เสียงดังจอกแจก น่าอายที่ดังขึ้นเมื่อแก่นกายขยับเข้าออกนั้น เล่นเอาภุมรายิ่งอายจนแทบทนไม่ได้

 “ภะ...ภู...ภู...อ๊ะ ...มะ...ไม่ไหวแล้ว...ฉะ ...ฉันไม่ไหวแล้ว”
“อึก...อืม...”

ร่างหนาเร่งความเร็วในกระแทกกาย เสียงผิวกายเสียดสีกันดังลั่น

“อ๋า~!!!”

ภุมรากรีดร้องเมื่อเขาได้พบกับความสุขสม ความปรารถนาสีขาวข่นหลั่งไหลทะลักทลาย จนในหัวของภุมราตื้อไปหมด

“อึก!!”
วินาทีที่คนตรงหน้าถึงฝั่งฝัน ช่องทางที่แคบอยู่แล้ว ก็ยิ่งตอดรัดหนักหน่วงจนนคินทร์ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป ชายหนุ่มกระตุกปลดปล่อยความปารถนามากมายเข้าสู่ร่างบางมากมายจนล้นเอ่อออกมายังด้านนอก ร่างทั้งสองหอบสะท้าน ความสุขสมที่ทั้งคู่ได้พบนั้นมันช่างมากมาย จนไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้พบเจอ

“ภู...ฉันรักนาย...”

ภุมราเอ่ยปากคำสุดท้ายก่อนจะผลอยหลับไป นคินทร์มองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนจะบรรจงจรดริมฝีปากลงบนหน้าผากชื้นเหงื่อของคนตรงหน้าที่อยู่ในภวังค์ฝันไปแล้ว ก่อนที่จะโอบกอดร่างบางไว้ในอ้อมแขน แล้วหลับค่อยๆหลับตาลง
............................................................................

แต่งไป ซับกำเดาไป เฮ้อออ
 :o8:

THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-02-2012 20:26:10
แล้วใครไปรับคุณหมอล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 16-02-2012 20:36:49
คุณหมอรอเก้อไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 16-02-2012 21:37:30
 :pighaun: ภูหื่นอ่ะ >,,<
มาเกาะขอบเวทีอ่านด้วยคนค่า  :L2:
 
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 17-02-2012 00:06:22
แสบมากเลยพระเอกเรา คุณหมอก็ทนรอหน่อยนะ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-02-2012 02:15:10
พระเอกเราได้ทีเอาใหญ่เลยนะ  :oo1:

คุณหมอคงรอเก้อ  :laugh:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 21-02-2012 11:19:38
แวะมาดัน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 28-02-2012 23:16:42
ไม่มาแล้วเหรอ กำลังสนุกเชียว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 29-02-2012 00:12:17
อ่านแล้วแบบว่าเลือดสาดมากมาย     :pighaun:    :pighaun:    :pighaun:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 29-02-2012 08:34:34
ตกลงคุฯหมอละภู่
ปต่อยู่กับหัวใจไปสักพักก่อนก็ได้น่าา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 29-02-2012 08:48:09
สนุกอ่ะ มาต่ออีกน่ะ พลาดไปได้ไง

พระเอก เถื่อน หื่น โง่ แบบนี้ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 29-02-2012 10:42:37
มารอจ้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 29-02-2012 11:49:20
 :-[
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 29-02-2012 12:24:45

เพิ่งเข้ามาอ่านวันนี้ หมาดๆเลยค่ะ อ่านรวดเดียว 15 ตอนและพบว่ามันเยี่ยมมาก o13 o13 o13
อยากบอกคนเขียนว่า.. เรื่องนี้สนุกมากๆๆๆ เนื้อเรื่องเข้มข้น ส่วนผสมอารมณ์และความรู้สึกกำลังดีเลย
ชอบมากๆเลยค่ะ เรื่องราวเริ่มต้นจากความผูกพันของทั้งคู่ตั้งแต่วัยเด็ก จนมีปัญหากันถึงขึ้นเกลียดกันรุนแรง
และท้ายที่สุดทั้งสองคนก็กำลังเผยความรู้สึกลึกๆและหัวใจตัวเองออกมา... โดยเฉพาะตอนที่ 15 มันแบบว่า.... :z1: :m13: :m1: :m3:
รอติดตามตอนต่อไป มาต่อไวๆน๊าาา  :impress: :impress:
อยากรู้ด้วยคนว่า ภู่มีโรคร้ายอะไรน๊าา หมอถึงห่วงมากขนาดนั้น แถมภู่ยังบอกว่าเวลาของตัวเองเหลือน้อย อีก  :m15: มันจะเศร้ามั้ย??
ขอใหุ้๋ภู่อย่าเป็นอะไรเลยนะ ขอให้การผ่าตัดช่วยภู่ให้ได้อยู่กับคนที่อยู่ในหัวใจภู่มาโดยตลอดด้วยนะคะ

 :กอด1: กอดคนเขียนแน่นๆ ขอบคุณ  :pig4: ที่แต่งเรื่องสนุกๆให้อ่านค่ะ

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 29-02-2012 12:49:50
คุณหมอก็รอต่อไปนะครับ5555
แอบจิ้นคุณหมอกับน้องซออ่ะ คนแต่งช่วยหน่อยน้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 29-02-2012 14:37:13
พึ่งเข้ามาอ่านวันนี้เหมือนกับรี64 สนุกจังเลย
ที่ภู่โดนภู(ชื่อพระเอก-นายเอกนี่ออกเสียงใกล้กันเกิ๊น) เข้าใจผิดและโกรธแค้นนี่ เพราะมีคนจงใจสร้างสถานการณ์
แถมคนจงใจสร้างฯนั่นก็ตายไปแล้ว แล้วภูจะไปรู้ความจริงจากใครล่ะ จะมิแคลงใจไปตลอดรึ
(ตรงนี้ได้ข้อคิดว่าชะนีร้ายจริงๆ ร้ายกว่าลิงซะอีก :เฮ้อ:)
แล้วก็มาตรงที่ปัจจุบัน คุณหมอของชั้น จะมินั่งรอคนไปรับหง่าวอยู่ที่สนามบินรึนี่
แล้วคุณหมอมาทั้งที คงโดนตากล้องเทพ ทั้งกันทั้งกั้นล่ะมั้ง ดูท่าออกจะหวง(หึง) นะนั่น
แล้วภู่จะมีเวลาส่วนตัวกับคุณหมอเท่าที่ควรปะเนี่ย ถ้าออกมารูปนี้..เรากลัวคุณหมอจะเหงาแหละ
เอ่อ..คุณคนเขียน  งั้นเราขอนำเสนอน้องซอ คอยเทคแคร์ดุณหมอดีปะล่ะ
หึ หึ หึ ถ้าเราเพ้อเจ้อไปบ้าง คุณคนเขียนโปรดอภัย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 29-02-2012 16:36:30
มาอ่านวันนี้ ทันแล้วววววววววววว
เรื่องกดดันแบบนี้ ชอบ รอดูพี่หมอ อิ อิ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 15 *สัญญาณหัวใจ*) ตอนใหม่เลือดโชก (NC 20+) ^^
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 29-02-2012 17:45:28
โว้เลือดสาด

งะงั้นก็ไม่ได้ไปรับคุณหมออะดิ


ภูคิดยังไงเนี่ยรออ่านตอนต่อไปค้าบบบ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-03-2012 18:47:07
ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*


“กริ๊งงงง”
“กริ๊งงงง”

“ฮัลโหลภู่ คุณอยู่ไหนแล้วครับ ผมมาถึงสนามบินแล้ว”
“ผะ...ผมขอโทษครับ คุณหมอ ผม...คงไปรับไม่ทันแล้วครับ...ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ไม่ต้องมารับก็ได้ ว่าแต่ภู่เป็นอะไรหรือเปล่า เสียงภู่ดูแย่จังเลย?”
“มะ ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ ผมแค่เผลอหลับไปเท่านั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็โล่งใจครับ ผมนึกว่าคุณจะไม่สบายเอาซะอีก”
“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆครับ คุณหมอ ผมขอโทษ”
“ขอโทษเรื่องอะไรกันครับ ผมไม่ได้โกรธอะไรสักหน่อย ผมเข้าใจว่าคุณทำงานเหนื่อย ที่จริงผมไม่ได้อยากให้ภู่มารับอยู่แล้วล่ะ เดี๋ยวผมไปหาภู่เองดีกว่านะครับ”
“เอ่อ ตะ ตอนนี้เลยเหรอครับ?”
“ครับ เดี๋ยวผมเช็คอินที่บังกะโลแล้วผมกะว่าจะไปหาภู่สักหน่อยน่ะ ไม่สะดวกเหรอครับ?”
“เอ่อ คือ...ผม ผม”
“มีอะไรหรือเปล่าภู่ ถ้าคืนนี้ไม่สะดวกเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้นะครับ”
“ครับ คือ...คือผมนอนแล้วน่ะครับคุณหมอ ถ้าไง...เจอกันพรุ่งนี้ ได้หรือเปล่า?”
“ได้สิครับ ผมก็แค่อยากเจอคุณเร็วๆเท่านั้นเอง แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เราค่อยเจอกันพรุ่งนี้ก็ได้ ภู่พักผ่อนเถอะครับ”
“ขอโทษจริงๆนะครับคุณหมอ”
“ไม่เป็นไร แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับภู่ ฝันดีนะครับ”
“ขอบคุณครับ พรุ่งนี้เจอกัน”
...

หลังจากวางสาย ภุมราได้แต่ถอนหายใจอย่างรู้สึกผิด เขาสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกับคุณหมอไว้แล้วแท้ๆว่าจะไปรับ แต่เขากลับไม่ได้ไป หรือพูดอีกอย่างก็คือ เขาไม่สามารถไปได้ ภุมราขยับกายเล็กน้อย เพื่อจะลุกจากเตียง แต่เพียงแค่ขยับเพียงนิดเดียวก็ถูกวงแขนจากคนที่นอนแนบกายอยู่กอดเอวเอาไว้แน่น

“จะไปไหน?”
“...................!!...ตะ...ตื่นแล้วเหรอ?”
“เปล่า...ฉันไม่ได้หลับสักหน่อย”
“เอ่อ...งะ งั้น ปล่อยฉันก่อนได้มั้ย?”
“จะไปไหน?”
“ห้องน้ำ...ฉันอยากอาบน้ำ”
“อาบน้ำไปไหน ดึกป่านนี้แล้ว”
“เปล่านี่ ฉันแค่เหนียวตัว”
“จริงเหรอ ไม่ใช่ว่าจะไปหาคนที่ตามมาดูใจถึงนี่หรอกเหรอ?”
“................มันเรื่องของฉัน! ปล่อยนะ!”

ภุมราตอบกลับไปอย่างหัวเสีย ทั้งๆที่เขาคิดว่าชายตรงหน้าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่านี้แล้ว แต่กลับยังกวนไม่เลิกเสียอีก ว่าพลางแกะมือหนาออกจากเอวของตัวเอง อยากอาบน้ำล้างคราบไคลจะแย่ หากแต่มือแกร่งกลับไม่ยอมปล่อยโดยง่าย แถมยังรั้งร่างบางลงไปนอนพังพาบอยู่ใต้ร่าง

“เดี๋ยว นี่! จะทำอะไรน่ะ!!?? ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“ก็บอกมาก่อนสิว่าจะไปไหน!!”
“ไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นแหละ ไอ้บ้า!! เซ้าซี้จริง!”
“แล้วเมื่อกี้ที่คุยกันเสียงอ่อนเสียงหวานนั่นไง ไม่ได้จะนัดพรอดรักกันหรอกเหรอ!”
“ไม่ได้เจอเฟ้ย! ถึงอยากจะเจอก็เจอไม่ได้หรอก สภาพแบบนี้น่ะ!!”
“สภาพแบบไหน?”
“ก็แบบ.....................”
“หึหึ...แบบไหนเหรอ?”
“ฮึ้ย!! ปล่อยนะ!!”
“เดี๋ยวสิ...ที่ไม่ยอมไปเจอเพราะไม่อยาก ให้หวานใจคนนั้นเห็นสินะ ว่า....”
“ว่าอะไร!!??”
“ว่าถูกผู้ชายทำอะไรมาไงล่ะ  แถมเร่าร้อนมากด้วย หึหึ”
“นคินทร์!!”

มือบางผลักไสร่างที่คร่อมอยู่ด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเกินทน ทั้งที่เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้เขายังรู้สึกดีๆอยู่เลยแท้ๆ หากแต่ยิ่งผลักไส คนตรงหน้าก็ยิ่งโถมทับลงมาราวกับกลั่นแกล้ง นคินทร์จ้องมองร่างเล็กที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน ร่างขาวนวลน่าหลงใหล หน้าตาแดงก่ำไม่รู้เพราะโกรธหรือกำลังเขินอายกันแน่ ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักน่าใคร่ หากไม่ติดที่ว่าคนในอ้อมแขนเขาคนนี้คือใคร เขาอาจหลงรักในความน่าเอ็นดูนี้ไปแล้วก็ได้  แต่ทั้งๆที่รู้อีกเหมือนกันว่าคนตรงหน้าคือใคร เขาเองก็ยังคงเผลอหวั่นไหว รู้ตัวอีกทีก็คือตอนที่รู้สึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆของซอกคอขาวที่เขาเอาปลายจมูกลงไปซุกไซร้อยู่

“อ๊ะ! นี่! ปล่อยนะ นคินทร์!!”

ฟอด!

“อ๊า! อย่านะ!!”
“จะดิ้นไปทำไมล่ะ แค่หอมแค่นี้เอง”
“ไม่เอาแล้ว ปล่อยนะ อ๊า!!”

เมื่อถูกรุกเร้าหนักขึ้นภุมราก็เริ่มโอนอ่อน หยุดดิ้นรน และตอบรับจุมพิตเร่าร้อนของคนตรงหน้าอย่างหมดทางเลือก ร่างเปลือยเปล่าถูกลูบไล้หนักหน่วงตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น ลมหายใจหอบหนักของทั้งคู่สะท้อนให้เห็นว่า กิจกรรมเข้าจังหวะกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง หากแต่สติที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของภุมราส่งเสียงร้องขึ้นมาว่า หากมีต่ออีกรอบ ร่างกายเขาคงจะไม่ไหว และพรุ่งนี้คงทำงานไม่ได้แน่ๆ ภุมราจึงจำเป็นต้องรีบหยุดกิจกรรมบันเทิงนี้ก่อนที่มันจะเลยเถิด

“อย่า...นคินทร์...อึก...วันนี้ไม่ได้แล้วนะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เดี๋ยวทำงานไม่ไหวเอาน่ะสิ”
“รอบเดียวก็ไม่ไหวแล้วเหรอ แกเนี่ย อ่อนชะมัด”
“ไม่ใช่สักหน่อย! แต่พรุ่งนี้มีงานตั้งแต่เช้า เดี๋ยวก็ตื่นไม่ไหวกันพอดีหรอก!!”
“หึหึ เอ้าๆ ตามใจ งั้นนอนเลยก็แล้วกัน”
“ปล่อยก่อนสิ ฉันจะไปอาบน้ำ”
“ไม่ต้องอาบแล้ว บอกให้นอนก็นอนเถอะ”

นคินทร์ออกคำสั่งพร้อมทั้งกอดคนตัวเล็กกว่าไว้ในอ้อมแขน ความหวานซ่านอกอย่างไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นกับเขาทั้งคู่ ภุมรารู้สึกยินดีในอกอย่างไม่เคยคิดฝัน การที่เขาโดนกอดแบบนี้ ถูกรุกเร้าแบบนี้ ถูกเย้าแหย่แบบนี้ เขาจะขอคิดเข้าข้างตัวเองได้ไหม ว่าเขาได้รับการให้อภัย และอีกฝ่ายยอมเปิดใจให้เขาอีกครั้งแล้ว และด้วยอารมณ์พาไปหรืออะไรดลใจไม่รู้ได้ ภุมราจึงหลุดปากถามในสิ่งที่จริงๆแล้วเขาไม่ควรพูดถึงมันอีกออกไป และโดยไม่ทันคิดนี่เองภุมราได้ถลาบินเข้ากองไฟไปเสียแล้ว

“นายอภัยให้ฉันได้แล้วใช่ไหมภู?”
“............ถามทำไมอีก?”
“เรื่องของฝ้าย...ฉันไม่ได้หลอกนายจริงๆนะ”
“อย่าพูดถึงฝ้ายอีก”
“ฉันรู้ ฉันผิดเองเรื่องฝ้ายน่ะ แต่เรื่องที่ฝ้ายรักฉันและหลอกนายน่ะเรื่องจริงนะ ทั้งเรื่องที่ฝ้ายตายด้วย มันเป็นอุบัติเหตุ”

อ้อมแขนที่เคยอุ่น ตอนนี้กลับเย็นจัดราวกับน้ำแข็ง นคินทร์คลายวงแขนออกทันที ทำให้ภุมรายิ่งใจเสีย

“ถ้าแกยังอยากให้เราทั้งคู่ยังคงพูดคุยกันได้ล่ะก็ อย่าพูดถึงเรื่องฝ้ายอีก เพราะไม่ว่ายังไงในชาตินี้ฉันก็จะไม่มีทางอภัยให้แก จำไว้”

น้ำเสียงเย็นชา พาให้ใจของภุมราหนาวยะเยือก เขาควรพอได้แล้วสินะ ได้แค่นี้ก็เกินพอแล้ว นึกโมโหตัวเองนักที่พูดออกไปโดยที่ไม่รู้จักคิด

“ขอโทษนะภู ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว อย่าโกรธฉันเลยนะ”
“...................................”
“ฉะ....ฉัน...ฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวได้นอนพักผ่อนกัน”
“....................อืม”

ยังดีที่อีกฝ่ายไม่โกรธจนเลิกคุยกับเขาไปอีก ภุมราโซซัดโซเซลงจากเตียงเหลือบไปมองคนที่หันหลังให้กันอยู่เล็กน้อย ในเบ้าตาร้อนระอุ หลังจากเข้าห้องน้ำแล้วภุมราก็เปิดฝักบัวน้ำปล่อยน้ำอุ่นเป็นละอองฝอยผ่านร่างเพื่อล้างคราบเหงื่อไคล พร้อมชำระหยาดหยดเล็กๆในดวงตาเศร้าหมองให้ไหลไปพร้อมกับกระแสน้ำ
‘แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก ไม่เอาแล้ว ไม่เรียกร้องอะไรอีกแล้ว พอแล้ว เราพอแล้ว’

‘แหมะ’

เลือดสีแดงสดหยดติ๋งลงมาจากโพรงจมูกร้อนผ่าว และมิใช่แค่เพียงหนึ่งหยด เพราะยังไม่ทันที่ภุมราจะตกตะลึงพรึงเพริด ธารน้ำสีแดงสดกลิ่นคาวคลุ้งก็ไหลโกรกโพรงจมูกของภุมราไปเสียแล้ว และเพียงแค่ไม่ถึงนาทีที่สาละวนอยู่กับเลือดกำเดานั้น อาการหน้ามืด มึนงงก็เข้าครอบงำทั่วร่าง ดวงตาเริ่มมืดมัว สองมือพยายามปะป่ายหาที่จับไปทั่ว

‘แย่แล้ว’

สิ่งสุดท้ายที่คิดได้ก่อนที่ทั้งร่างจะร่วงลงสู่พื้น ภุมราหมดสติไปทั้งๆที่เลือดยังไหลโกรกจมูกอยู่ในห้องน้ำ

‘โครม’
‘เพล้ง’
‘ตึง!’

เสียงดังโครมครามจากในห้องน้ำ ทำให้นคินทร์ตกใจเล็กน้อย เพียงแค่นึกในใจว่า คนในห้องน้ำอาจแค่ทำของตก แต่อีกใจที่ห่วงใยคนในห้องน้ำนั้นมากนัก ผลักดันให้เดินไปเคาะประตูถามไถ่

“ภุมรา เป็นอะไรหรือเปล่า?”

เงียบ

“ภุมรา ได้ยินไหม?”

เงียบ

นคินทร์เริ่มใจเสียเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากภุมรา เงี่ยหูฟังก็ได้ยินเพียงเสียงน้ำไหลจากฝักบัวเท่านั้น ยิ่งเวลาผ่านไป หัวใจของนคินทร์ยิ่งสั่นไหว ห่วงคนในห้องน้ำเหลือเกิน ทำไมถึงไม่ตอบออกมาบ้างเลยนะ มือก็ทุบประตู ปากก็ตะโกนเรียกไป

“ภุมรา!!”

ปัง ปัง

“เฮ้ ภุมรา!!”

ปังปังปัง!!

“ภู่ ภู่!!”

สุดจะทนรอต่อไปได้ นคินทร์ตัดสินใจพังประตูห้องน้ำเข้าไป ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำนคินทร์ตัวชาวาบ ร่างขาวโพลนของภุมรา นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้องน้ำ และที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือเลือดที่ไหลซึมเป็นวงใหญ่จากจมูกร่างบาง นคินทร์ถลันเข้าไปประคองร่างภุมราทันที

“ภู่ ภู่!!”

หัวใจนคินทร์เต้นไม่เป็นส่ำ นี่มันเกิดอะไรขึ้น คนในอ้อมกอดเขาเป็นอะไรไป ร่างที่ไร้สติ ไร้เรี่ยวแรงอยู่ตรงหน้า พาให้เขามืดแปดด้าน นคินทร์รีบอุ้มร่างเล็กออกจากห้องน้ำไปที่เตียงนอน ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้เลือดหยุดไหล ก่อนจะตาลีตาเหลือก โทรศัพท์ไปทางโรงแรมเพื่อขอประสานงานเรียกรถพยาบาลทันที

“ภู...ภู...”
“ภู่! นายเป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย??”
“ไม่เป็นไร...นายช่วยโทร...โทรหาหมอเนศให้หน่อยได้มั้ย?”
“หมอเนศ?”
“อืม...เบอร์อยู่ในมือถือน่ะ เขาเป็นหมอประจำตัวฉัน โทรเรียกเขามานี่ให้หน่อยได้มั้ย?”
“อะ...อืม รอเดี๋ยวนะ”

ถึงจะไม่เข้าใจนัก แต่พอได้ยินว่าคนที่มาถึงจริงๆแล้วเป็นหมอประจำตัว ก็ยิ่งรู้สึกผิด และสงสารคนตรงหน้าจับใจที่เห็นว่าป่วยหนัก

‘นายเป็นอะไรไปนะ ภู่?’

30 นาทีหลังจากโทรหาคนที่ได้ชื่อว่าหมอประจำตัว นคินทร์ก็ได้พบหน้าชายที่เขาเคยแต่ได้ยินชื่ออย่างเป็นทางการ หากยังไม่ทันได้แนะนำตัวทำความรู้จักกันสักเท่าไหร่นัก เพราะต้องรีบดูอาการนายแบบหนุ่มเสียก่อน ระหว่างที่หมอหนุ่มเข้าตรวจอาการของภุมรา ตัวนคินทร์เองก็รออยู่ข้างนอกกับแอนและซอด้วยอาการกระวนกระวาย

“สวัสดีครับหมอ ไม่เจอตั้งหลายวัน”

เสียงแหบแห้งเอ่ยทักทายผู้มาเยือนด้วยความสนิทสนม

“ไม่ต้องมาปากหวานเลยครับ ภู่ ยังไงครับ ยังไง ไหนบอกว่าแข็งแรงสบายดีไง แล้วทำไมนอนป่วยอย่างนี้ได้ล่ะครับ หือ?”
“เจอก็บ่นท่าเดียวเลยนะครับ”
“มา ให้ผมดูอาการหน่อยสิครับ ตอนนี้ปวดตรงไหนหรือเปล่า?”
“ไม่ครับ เมื่อกี้ตอนอาบน้ำ เลือดกำเดามันไหลออกมา แล้วผมก็วูบไปแป๊บนึงเท่านั้นเองครับ”
“ภู่ ยาคุณอยู่ไหน!? ผมขอดูหน่อยได้มั้ย?”
“เอ่อ...ในลิ้นชักน่ะครับ”

“ยามันพร่องไม่เท่ากันนี่? แสดงว่าคุณทานยาไม่ครบนี่นา ใช่มั้ยครับ?”
“เอ่อ...แฮะๆ ผมขอโทษ คือบางทีผมก็เผลอหลับไป หรือบางทีก็ลืมไปบ้าง แค่ ไม่กี่ครั้งเองนะครับ”
“ภู่ ผมยอมให้คุณรับงานนี้ จนต้องเลื่อนการผ่าตัดออกไปเนี่ย เพราะคุณสัญญาว่า คุณจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี แต่แล้วนี่คุณกลับ...”
“ผมก็ขอโทษแล้วไง ต่อไปผมจะไม่ทำแล้ว ผมสัญญา”
“ภู่ ผมจะยอมให้ภู่ทำงานต่อ ถ้าภู่รักษากติกา แต่แบบนี้โมฆะไปเลยครับ เตรียมตัวกลับเมืองไทยกับผมได้เลย”
“อีกนิดเดียวนะครับหมอ อีกแค่ 6 วันเอง นะ เสร็จงานนี้แล้วผมจะทำตามคุณหมอทุกอย่างเลย นะครับๆ”
“เพราะคนที่โทรหาผมเมื่อครู่นี้สินะครับ คุณถึงดั้นด้นออกจากโรงพยาบาลมารับงานนี้”
“......................................” (- -) (_ _) (- -)   
“แล้วเขารู้มั้ยว่าคุณป่วย”
“..........................”  (--  )=(  --)
“ทำไมไม่บอกเขาล่ะครับ?"
"ผมกลัว"
“กลัวอะไรกันครับ? ไม่ดีเหรอเขาอาจดีกับคุณมากขึ้นก็ได้นะ ที่คุณบอกว่าเขาเคยโกรธคุณน่ะ เขาก็อาจยอมดีกับคุณนะ”
“ผมรู้ครับ แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ยังกลัว”
“คุณจะยังกลัวอะไรครับ ภู่?”
“ผมกลัว...กลัวว่าถึงเขารู้ มันก้จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“...........................”
“ผมอยากจะรำลึกอยู่ในใจว่า...ที่เขาไม่แคร์ผมเพราะเขาไม่รู้ว่าผมป่วย ไม่ใช่...ถึงเขาจะรู้ว่าผมป่วย แต่เขาก็ไม่แคร์...”
“............................ภู่.....”

...

ต่ออีก 1 ตอน ขอโทษที่ช้านะเจ้าคะ
 :o12:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 06-03-2012 19:15:38
โอ๊ย อ่านแล้วปวดใจ แต่สนุกมาก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-03-2012 19:17:30
คำคมทิ้งทายได้ปวดใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-03-2012 19:32:47
ปวดใจจริงๆด้วย
อยากให้ถึงวันนั้นจริงๆเลย วันที่ภูได้รู้ความจริง
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-03-2012 19:33:51
มันได้แค่ตัวจริงๆ แต่ไม่ได้หัวใจไปด้วย



เพราะมันรู้อะไรสักอย่าง


หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัว) UP UP UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: chompoonut139 ที่ 06-03-2012 19:34:40
ปวดใจรีบมาต่อน่ะประโยคสุดท้ายมันแทงใจดำจนแหลกเลย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: coon_all ที่ 06-03-2012 23:58:59
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้า
อ่านทีเดียวเลย
เค้าก็ชอบเรื่องเศร้านะแต่ว่า ขอจบแบบมีความสุขนิดนึง
สงสารภู่อ่ะ อธิบายอะไรไม่ได้เลย
อยากบอกว่าชอบประโยคนี้มากๆเลยอ่ะ รู้สึกว่านายเอกเรามองโลกแบบให้ตัวเองมีความสุขอ่ะ ถึงมันจะเศร้าก็เถอะ
“ผมอยากจะรำลึกอยู่ในใจว่า...ที่เขาไม่แคร์ผมเพราะเขาไม่รู้ว่าผมป่วย ไม่ใช่...ถึงเขาจะรู้ว่าผมป่วย แต่เขาก็ไม่แคร์...”
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 07-03-2012 04:04:18
สงสารภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 07-03-2012 11:39:18
มาอัพต่อไวไวนะค่ะ o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 07-03-2012 12:07:19
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-03-2012 08:45:26
 :a5:

เลิกสนใจนคินทร์ไปเถอะภู่.....
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 12-03-2012 23:41:51
ปวดใจจี๊ดๆ เลย  :z3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 13-03-2012 07:31:24
อ่านแล้วมันเหมือนใครมา ทุบหัวใจเอาไว้


ยังมองไม่เห็นปมที่จะทำให้ความแค้นที่มันบังตา นคินทร์หมดไปเลย



 :m15: :m15: สงสารภู่สุดๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 14-03-2012 18:22:58
อ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว.....  แต่ทำไมถึงเป็นดราม่าที่อ่านแล้วยิ้มตาม??  > _______<  รอมาต่อครับ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: chompoonut139 ที่ 14-03-2012 18:56:54
มาต่อเถอะจะลงแดงตายแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 14-03-2012 20:36:50

ถ้าภู่ไม่เอาหมอ
เราขอแทนได้ไหม ?
เฮ้อ รักคนที่เขาไม่รัก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 14-03-2012 22:33:28
ปล. มิเจตนาปล่อยทิ้งร้าง แต่ตอนนี้อัพไม่ไหวจร๊า ISO audit เสร็จ
ไข้หวัดใหญ่ก็เล่นซะอ่วม เดี๋ยวน้ำมูกเลิกหยดแล้วจะรีบมาต่อนะคร๊า
ขออภัยมา ณ ที่นี้
 :monkeysad:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 15-03-2012 06:22:37
ภู่เป็นอะไรอะ
โลหิตจางไง๊?
ชอบมากๆเลย
เพิ่งได้อ่าน
แลดูจะเศร้า
แต่ดูเหมือนภูจะใจอ่่อนละนะ
คงไห้อภัยได้บ้างแล้วละ
จัดเต็มไปขนาดนั้นอะหิอะหิ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 15-03-2012 08:49:49
ชีวิภู่ =..=
ภูโง่

=="
อย่าลืมมาต่อนาคนเขียนน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 15-03-2012 11:18:02
มารอตอนใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: 7th SensE ที่ 15-03-2012 17:01:06
อ้ากกกกกก
เจ็บปวด เมื่อไหร่ภูจะเข้าใจภู่น้าาา
สงสารอ่า หายไวๆนะภู่
ภูก็นะตาสว่างสักทีเหอะ ก่อนจะสายไปน่ะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 15-03-2012 23:07:16
กรี๊ด ชอบนิยายแนวนี้เป็นที่สุด
มาบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 16-03-2012 13:52:08
เพิ่งมาอ่านรวดเดียวถึงตอนปัจจุบันเลย
ชอบมากๆค่ะ
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 03-04-2012 13:22:45
หายไปนานแล้วหนอ??
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: owo llยมuมข้u ที่ 03-04-2012 14:43:40
ชอบพระเอก ปางตาย 0w0 b
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 11-04-2012 12:48:04
รออยู่นะคะ^^
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 12-04-2012 03:46:35
หายไปเบย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: ☥ŹeMî☠kändä☥ ที่ 13-04-2012 01:28:53
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน สนุกมากเลยครับ อ่านๆ ไปแล้วติดเฉยเลย
เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ
รอต่อไป~
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 18-05-2012 07:17:02
รอเน้อ~
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 28-05-2012 18:59:10
หายไปนานแล้วนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Ole ที่ 17-06-2012 20:13:13
นานไปน่ะ อิอิ :laugh:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 17-06-2012 21:01:24
 :z13:   :call:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: hellfire ที่ 17-06-2012 22:39:13
รอคอยเธอมาแสนนนนน นานนนนน ทรมานนนนน~~~~~~

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 18-06-2012 00:43:13
เพิ่งเข้ามาอ่าน

อ่านรวดเดียว ขอบอกว่า

"ชอบมาก"

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 21-06-2012 01:35:54
สงสารภู่เน้อออ...T_T
ชอบหมอเนศมากกก....เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ทันมั้ยคะ...55+
หมอเนศน่ารักที่สุดในเรื่องเลย...คอยดูแลภู่ตลอด.......ดูแลดีกว่าคุณภูอีกอะ...= =
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 16 *สิ่งที่อยู่ในหัวใจ*
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 21-06-2012 10:55:38
ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่*



ครู่ใหญ่ๆเลยทีเดียว ที่คุณหมอหนุ่มเข้าไปตรวจอาการของภุมรา ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ หัวใจของคนที่เฝ้ารอก็ยิ่งไหวระทึกเท่านั่น นคินทร์ร้อนใจจนไม่อาจนั่งติดพื้นได้เลย ชายหนุ่มคอยแต่เดินไปเดินมา ป้วนเปี้ยนอยู่หน้าห้องคนป่วยไม่กล้าไปไหนไกล

“น้องภู่จะเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย พี่แอนใจไม่ดีเลย”

“ใจเย็นๆนะครับพี่แอน ซอว่าคุณภู่คงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”

“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะซอเอ้ย พี่แอนล่ะหวั่นใจจริงๆ เป็นห่วงน้องภู่ก็เป็นห่วง ไหนจะเรื่องงานอีก โอ้ย...พี่จะป่วยตามอยู่แล้วเนี่ย!”

“ใจร่มๆก่อนพี่ พี่ดูนั่นสิ มีคนเป็นห่วงกว่าพี่เยอะเลย”


ซอว่าพลางก็ชี้ไปยังบุคคลที่เดินวนไปวนมาไม่หยุด หน้าตาดูเคร่งเครียดร้อนรน จนแอนกับซอที่ได้มองตามตากล้องหนุ่มอยู่ ถึงกับเริ่มเวียนหัว ตาลายกันเลยทีเดียว

"ตอนแรกพี่แอนนึกว่าสองคนนี้จะเกลียดกันมากๆเสียอีก เห็นมีปากเสียงกันได้ตลอดเลย ที่ไหนได้ ดูเป็นห่วงเป็นใยกันสุดๆเลยนะเนี่ย...ว่ามั้ยซอ?"

"......อ่ะ อ่า ครับ...”


โดนถามแบบนั้นเข้า ซอก็ได้แต่นั่งอ้ำอึ้ง พูดไม่ออกเพราะเด็กหนุ่มรู้ดีว่า เรื่องระหว่างสองคนนั้นมันลึกซึ้งมากกว่าที่ใครๆคิดไว้เยอะ~

'จะไม่ให้เขาห๊วงห่วงกันได้ยังไงล่ะครับ...ก็เขาเป็นอะไรๆกันแบบว่า...เอ่อ ก็จูบกันไปแล้วอ่ะ...ผมเห็นเต็มสองตาเลย~'


ซอที่ไม่สามารถ เอื้อนเอ่ยบอกใครได้ ก็ได้แต่เออ ออ และพยายามบอกกับแอนทางสายตาเท่านั้น ทำไงได้ล่ะมันใช่เรื่องที่ควรจะโพทนาซะที่ไหน เขาซวยเองแหละที่ดันไปเห็นเหตุการณ์เข้า แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เป็นเขา เพราะหากเป้นคนอื่นอาจเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปแล้ว คิดได้ก็รู้สึกภูมิใจในการเป็นคนเก็บความลับเก่งของตัวเองขึ้นมานิดๆ


เวลาผ่านไปอีกเพียงครู่หนึ่ง ชายหนุ่มหน้าตาสะอาดสะอ้านในชุดลำลองสบายๆ สวมแว่นแบบไร้กรอบบางใส ถึงมองดูแล้วจะยังอ่อนวัยยิ่งนัก แต่จริงๆแล้วดีกรีเป็นถึงนายแพทย์ใหญ่ ก็เปิดประตูออกมาด้วยหน้าตาที่สงบนิ่ง หากแต่แฝงไว้ด้วยริ้วรอยแห่งความกังวลเล็กๆ ปรากฏอยู่ในแววตา


"ภู่! เอ่อ ภุมรา เป็นยังไงบ้างครับหมอ!?"

"อาการดีขึ้นแล้วล่ะครับ ตอนนี้ผมให้ภู่ได้หลับพักผ่อนแล้วล่ะครับ"

"เฮ้อ~ ค่อยสบายใจขึ้นหน่อยค่ะ ดีใจจังเลยที่เพื่อนน้องภู่เป็นคุณหมอพอดี ไม่อย่างนั้นพวกพี่แย่แน่เลยค่ะ"

"ก็ถือว่าโชคดีที่เค้ามาป่วยเอาตอนที่ผมมาถึงพอดีด้วยแหละครับ"

"ไม่หรอกครับ ก่อนหน้านี้ก็ป่วยไปทีนึงแล้ว แต่ก็ไม่ได้หนักเท่าไหร่พวกเราเลยปล่อยเลยตามเลย ซอไม่คิดว่า~"

"อาการจะทรุดลงอีก...หึหึ...มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้หรอกครับที่ภู่จะป่วยบ่อย เพราะร่างกายเขาตอนนี้ไม่ค่อยแข็งแรงนัก"

"น้องภู่ป่วยเป็นอะไรเหรอคะน้องหมอ ไม่เห็นเขาจะเคยบอกพี่แอนเลยค่ะ แถมเมื่อก่อนก็เห็นออกจะแข็งแรง..."

"ภู่คงไม่อยากให้ทุกคนต้องกังวลน่ะครับ แต่ในฐานะที่ผมเป็นหมอ ผมอยากให้เขาได้พักผ่อนมากหน่อยนะครับ"

"คุณภู่...เค้าป่วยเป็นอะไรกันแน่เหรอครับ ดูซีเรียสจัง"

ซอจับน้ำเสียงความเคร่งเครียดของหมอหนุ่มได้ จึงถามออกไปด้วยความที่อดใจไว้ไม่อยู่ ดูท่าการที่นายแบบคนเดียวของทีมงานป่วยคราวนี้คงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆเสียแล้ว

"อย่างที่บอกไปครับ ภู่ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง หึหึ ไม่ต้องซีเรียสกันไปหรอกครับ ภู่ยังทำงานได้ เพียงแต่ขอแค่ให้เขาอย่าหักโหมมากไปก็แค่นั้น"

คำตอบคลุมเครือของหมอหนุ่มไม่ได้ทำให้ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ตอนนี้สบายใจขึ้นเลย แถมยังเครียดหนักเข้าไปอีก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามต่อ เพราะดูท่าทางแล้วคุณหมอคนนี้คงไม่ปริปากบอกอะไรมากกว่านี้อีกเป็นแน่แท้

"คุณแอนเป็นคนจัดตารางงานใช่มั้ยครับ?"

"อ๊ะ ค่ะ พี่แอนเป็นคนจัดตารางงานเอง ทะ...ทำไมเหรอคะ?"

"ไม่ทราบว่า งานที่ยังค้างอยู่มีอีกเยอะหรือเปล่าครับ?"

"อ๋อ ก็ยังเหลือที่ต้องถ่ายอีก 3 เซ็ตน่ะค่ะใช้เวลา 3 วัน และอีก 3 วันที่เหลือก็จะเป็นถ่ายซ่อมกับพักผ่อนน่ะค่ะ"

"3 เซ็ตนี่หนักมากมั้ยครับ ใช้เวลาต่อวันเยอะขนาดไหน?"

"เอ่อ ตามปกติ ก็ถ่ายเน้นคุณภาพน่ะค่ะ ไม่ได้เยอะมาก จะหนักก็ตอนที่ต้องเดินทางเปลี่ยนโลเกชั่นนี่แหละค่ะ คือเราต้องการแสงสีที่ตรงตามคอนเซ็ปต์ด้วย มันจะยุ่งยากและเสียเวลาตอนเซ็ตนี่แหละค่ะ"

""งั้นเหรอครับ...คือ ถ้าผมอยากจะขออะไรหน่อยได้หรือเปล่า"

"เอ่อ อะไรเหรอคะ"

"ผมอยากให้คุณแอนช่วยจัดตารางใหม่ให้งานแต่ละวันของภู่น้อยลงหน่อย และที่สำคัญ เอาแบบไม่ต้องถ่ายซ่อมได้มั้ยครับ ถ้าสามารถถ่ายทำเสร็จภายใน 3 วันนี้ได้ ผมก็อยากจะพาภู่เขากลับเลย"

"อืม พี่จะพยายามนะคะ เดี๋ยวคืนนี้พี่จะลองจัดตารางงานใหม่ของที่เหลือดู แล้วยังไงพี่แจ้งอีกทีวันพรุ่งนี้นะคะน้องหมอ"

"ขอบคุณครับ...งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับก่อนนะครับ"

"อุ๊ย! ให้รถทีมงานไปส่งมั้ยคะ?"

"ไม่เป็นไรครับผมอยู่ใกล้ๆนี่เอง เดินเอาก็ได้ครับ ราตรีสวัสดิ์นะครับ"

"ราตรสวัสดิ์ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ...ป่ะซอ กลับกัน คืนนี้งานรอเราอยู่เพียบเลย"

"...ครับพี่แอน"

ซอพยักหน้ารับคำแอน แต่สายตายังคงมองแผ่นหลังของหมอหนุ่ม สลับกับห้องของภุมราอยู่เป็นระยะ เขาไม่รู้ว่าภุมราป่วยเป็นอะไร แต่แน่ใจว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆแน่ๆ เพราะต่อให้คุณหมอท่าทางเจ้าเหล่ห์(ในความคิดซอ) ไม่ปริปากพูดอะไรออกมา แต่ทั้งการที่ขอให้เปลี่ยนเวลางาน และการที่เร่งจะพาภุมรากลับนั้นสะท้อนให้เห็นเป็นอย่างดีว่า ภุมราต้องป่วยหนักกว่าที่ใครๆคิดอย่างแน่ๆ ระหว่างที่ซอกำลังคิดอยู่ในใจและเดินตามแอนไปอย่างช้าๆ ก็เหลือบไปเห็นว่า นคินทร์ก็ออกตามคุณหมอไปเช่นกัน...ซอคิดอยู่เสมอว่าตัวเองไม่ใช่คนอยากรู้อยากเห็น แต่เรื่องนี้เขาก็ปล่อยไว้ไม่ได้เช่นกัน!

"คุณหมอ!"

".....ครับ? คุณนคินทร์"

"....!? คุณรู้จักชื่อผม?"

"ก็นิดหน่อยครับ^^ มีอะไรกับผมหรือเปล่า?"

"ตกลงภุมราป่วยเป็นอะไรกันแน่?"

"....ผมบอกไม่ได้ครับ"

"บอกไม่ได้!? ทำไม?"

"ภู่ขอร้องผมไว้ไม่ให้ผมบอกใคร โดยเฉพาะคุณ!"

"แต่.....!?"

"ในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนและด้วยจรรยาบรรแพทย์...ผมบอกคุณไม่ได้หรอกครับคุณนคินทร์...ถ้าคุณอยากรู้ รบกวนคุณถามกับทางเจ้าตัวดีกว่า"

ตาต่อตา หมอหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาของนคินทร์อย่างผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า และยิ่งรูปร่างของเขาทั้งคู่นั้นไล่เลี่ยกันด้วยแล้ว หมอหนุ่มยิ่งอยากจะข่มคนตรงหน้าให้จมดินเลยทีเดียว คนที่ได้หัวใจของคนที่เขารักเอาไว้ แต่ไม่เคยดูแล ความริษยาแผดเผาอยู่ในใจหมอหนุ่ม จนเขารู้สึกไม่ชอบหน้าคนตรงหน้าเอาเสียเลย ดังนั้นมีอะไรที่จะหักหาญน้ำใจคนคนนี้ได้ เขาก็พร้อมจะทำ! หมอธเนศยกยิ้มที่มุมปากอย่างผู้มีชัย เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งอึ้ง จึงคิดจะเดินจากไป แต่ไม่ทันจะระวังตัวก็โดนนคินทร์กระชากคอเสื้อขึ้นเสียก่อน

"บอกผมมาเดี๋ยวนี้นะคุณหมอ ว่าภุมราเป็นอะไร!!"

"........................"

นคินทร์ตะคอกเสียงต่ำ แววตาที่จ้องมองฝ่ายตรงข้ามฉายแววคุกรุ่นคุกคาม เขาต้องการรู้ตอนนี้ว่าภุมราป่วยเป็นอะไรร้ายแรงแค่ไหน เขารู้ดีว่าภุมราจะไม่ยอมบอกเขาแน่ๆ และทางเดียวที่เขาจะรู้ได้คือคนตรงหน้าเขาตอนนี้เท่านั้น เขารู้ดีว่าคุณหมอคนนี้มองเขาเป็นศัตรู แต่เขาไม่มีทางเลือก ต่อให้ต้องเค้นคอ ก็ต้องถามความจริงมาให้ได้!

"ขอโทษนะครับ...ผม บอก ไม่ ได้!!"

หมอหนุ่มพูดย้ำช้าๆ ชัดๆ สีหน้าท่าทางไม่ได้บ่งบอกว่ากลัวนคินทร์จะทำร้ายแต่อย่างใด ถึงเขาจะเป็นหมอ แต่ก็ไม่เคยกลัวเรื่องชกต่อย และที่สำคัญเขาเป็นถึงแชมป์ยูโดสายดำระดับมหาวิทยาลัยมาก่อนด้วย เรื่องจะเพลี่ยงพล้ำ มันไม่มีทางอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์อยากตอบโต้อีกฝ่าย ถึงได้ไม่สะบัดตัวออกจากการจับกุม หากคนตรงหน้าอยากรู้นัก เขาก็จะบอกให้...

"ผมว่าคุณอยู่เฉยๆจะดีกว่านะ คุณนคินทร์...เอาล่ะผมจะบอกอะไรคุณอย่างนึงก็ได้...ตอนนี้ผมพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะยืดเวลาของภู่ออกไป คุณอย่ามาทำให้มันสั้นลงอีก!"

ประโยคสุดท้าย หมอหนุ่มคำรามเสียงต่ำออกมาเพื่อคุกคามนคินทร์กลับบ้าง จากนั้นก็สะบัดคอเสื้อที่อยู่ในมืออีกฝ่ายที่นิ่งอึ้งไปแล้วออก แล้วจ้องมองคนตรงหน้าที่กำลังอยู่ในท่าทางที่ดูเหมือนจะสับสน

"มะ...หมายความว่ายังไง..."

นคินทร์ถามออกไปแผ่วผิวราวกับเสียงครางอย่างเจ็บปวด

"ภู่บอกว่า...คุณอยากให้เขาตาย!...และตอนนี้ เขากำลังจะทำให้มันเป็นจริง! พอใจแล้วใช่มั้ย!?"

"........................."

นคินทร์เหมือนจะพูดอะไรไม่ออกอีก เขาสับสนเหลือเกิน จริงอยู่เมื่อก่อนนั้น ภุมราคือคนที่เขาไม่อยากอยู่ร่วมโลก แต่ไม่ได้หมายความว่า อยากให้ภุมราตายจากกัน!

หมอธเนศเดินจากไปโดยไม่เหลียวกลับมามองคนที่ทรุดตัวลงไปคุกเข่าอยู่บนพื้นไปแล้วนั่นอีก เขาสะใจที่ได้ทำให้คนคนนั้นได้คิด แต่มันก็เต็มไปด้วยความเศร้าเหลือเกิน

โดยที่ทั้งหมอธเนศ และนคินทร์ไม่ทันรู้ตัว ว่ามีอีก 1 คนที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นี้ด้วยนั่นก็คือ ซอ ซึ่งขณะนี้เด็กหนุ่มได้แต่นั่งอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินอยู่เช่นกัน...

...

ลงใหม่หลังเล้าล่มจร๊า...
เด๋วตอนต่อไปจะตามมาติดๆ ^^

รอกันนาน คิดถึงภูกันมั้ยจ๊ะ
 :m15:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 21-06-2012 11:02:39
ได้เวลาสะใจ ของให้พระเอกเจ็บเจียนตายไปเลย
เจ็บเท่าไรยิ่งดี (ไม่ค่อยเลยเนอะเรา โฮ่ะๆๆๆ >o<)
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 21-06-2012 13:56:28
สะใจ สะใจ สะใจ !!

 :fire: :fire: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: hellfire ที่ 25-06-2012 21:16:25
อัพเจ้าฮะ

เฮ้ รออยู่ค่ะ รออยู่(ไปซุ่มอ่นเด็กดีมาไม่รุ้เลยว่าอัพใหม่แล้ว)

ชอบเรื่องนี้มากเลยนะเจ้าฮะ อยากตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววววววว

 :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 25-06-2012 22:00:22
หมอเท่ห์นัก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: I_HAM_NOI ที่ 28-06-2012 00:54:17
มาปูเสื่อนอนรออ่านตอนต่อไป ยิ่งอ่านยิ่งติด
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (ดราม่า+น้ำเน่า) ตอนที่ 17 *เวลาที่เหลืออยู่* (21/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 28-06-2012 20:09:36
ตอนที่ 18 *กอด”



เวลา6โมงตรงของเช้าวันใหม่ ภุมรารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี ตามเวลาปกติที่เขาตื่นอยู่ทุกวัน หากร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เขาก็จะกระปรี้กระเปร่าและอารมณ์ดี ซึ่งนั่นมันนานมาแล้ว เพราะตั้งแต่ที่เขาล้มป่วย การตื่นนอนทุกเช้าเป็นเรื่องที่ทรมาน บางวันโชคดีหน่อยก็จะไม่มีอาการใดๆ บางวันหนักหน่อยก็อาเจียรฉลองตอนตื่นนอน เป็นแบบนั้นตลอด และวันนี้ก็เช่นกัน เขาตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่ไม่ค่อยจะปกตินัก เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเหมือนจะมีไข้อ่อนๆ แต่ก็ไม่ได้ปวดหัวถึงขั้นอยากอาเจียร ภุมราลองหายใจเข้าออกลึกๆ เรียกอ๊อคซิเจนเข้าเส้นเลือดเยอะๆ เผื่อหัวจะโล่งขึ้น แต่ก็ไม่ค่อยจะช่วยได้มากนัก ยิ่งพอเปิดหน้าต่างดูด้านนอกยิ่งหดหู่เข้าไปใหญ่เพราะเช้านี้จู่ๆก็มีฝนหลงฤดูมาจากไหนไม่รู้ตกหนักเลยทีเดียว...

“อากาศแบบนี้จะถ่ายแบบได้หรือเปล่าเนี่ย?”

กรี๊งงงงงง...

กริ๊งงงงง...

“ฮัลโหลครับพี่แอน”

“ภู่จ๊ะ เป็นไงบ้าง ขอโทษทีนะที่พี่โทรมาซะเช้าเลย ภู่ตื่นหรือยังเนี่ย?”

“ตื่นแล้วครับพี่แอน ผมสบายดีแล้วครับ เมื่อวานต้องขอโทษจริงๆนะครับที่ทำให้ต้องวุ่นวายกันไปหมด”

“จะขอโทษทำไมกันจ๊ะ ไม่มีใครว่าอะไรหรอก มีแต่คนเป็นห่วง อยากให้ภู่หายไวๆเท่านั้นแหละจ๊ะ”

“ขอบคุณครับพี่แอน...ว่าแต่โทรมาแต่เช้าแบบนี้มีอะไรเหรอครับ เรื่องถ่ายแบบใช่มั้ย?”

“จ๊ะ ก็ทางทีมงานตกลงกันว่าวันนี้คงจะเปลี่ยนโลเกชั่นเป็นถ่ายแบบในร้านอาหารหรือในโรงแรม เป็นแบบถ่ายในร่มแทนน่ะจ๊ะ เพราะวันนี้ดูท่าแล้วฝนคงจะตกอีกยาวเลย คงเดินทางไปถ่ายทำที่ “อทอล อารี่” ไม่ไหว คงต้องเปลี่ยนเป็นถ่ายใกล้ๆนี่ก่อนจ๊ะ”

“อ๋อ ครับ เอ่อ แล้วโปรแกรมของอีก 2 วันล่ะครับ”

“ถามได้ดีมากจ๊ะน้องภู่ พี่มีข่าวดีจะบอก เมื่อวานนี้พี่กับพวกทีมงานนั่งจัดภาพทั้งหมดดูแล้ว และลองส่งบางส่วนไปให้กับทางลูกค้าดู เค๊าโอเคกลับมาแล้วล่ะ ผ่านฉลุย ดังนั้นการถ่ายทำของเราจะจบเสร็จสิ้นกันภายในวันพรุ่งนี้นี่แล้วค๊า!! ถ้าอากาศดี บินไปถ่ายเก็บภาพที่อทอลอารี่อีกหน่อยก็ปิดกองได้เลยจ๊า”

“ดีจังเลยพี่แอน ว่าแต่ที่ต้องร่นเวลาขึ้นเนี่ยเพราะผมหรือเปล่า?”

“.....แหมภู่ ไม่ใช่แบบนั้นนะ เพราะภู่กับคุณนคินทร์ฝีมือดีมากต่างหากล่ะ แทบไม่ต้องถ่ายซ่อมเลยเนี่ย งานเลยเสร็จเร็วไง ไม่ดีเหรอจ๊ะ”

“ก็ดีอยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่ ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมก็ไม่สบายใจ”

“อ๊ายยย อย่าคิดมากสิจ๊ะสุดหล่อ เอาล่ะ เดี๋ยววันนี้เราจะเริ่มถ่ายทำกันตอนเย็นๆนะ เดี๋ยวสัก 4 โมงรถทีมงานจะไปรับนะจ๊ะภู่”

“โอเค ครับ”

“จ๊า งั้นเดี๋ยวสายๆหน่อยพี่เข้าไปเยี่ยมนะ อยากได้อะไรหรือเปล่า?”

“ไม่เอาครับพี่แอน ขอบคุณครับ”

“จ๊า งั้นแค่นี้นะ’ บายจ๊ะ”

............................................................................................

กริ๊งงงงง.....

กรื๊งงงงง....

“ครับ หมอ”

“ตื่นหรือยังครับภู่? ผมโทรมากวนตอนนอนหรือเปล่า”

“อ๋อตื่นแล้วครับคุณหมอ ไม่ได้รบกวนหรอกครับ” 

“แล้ว... รู้สึกดีขึ้นรึยัง?”

 “อาการก็ดีขึ้นแล้วเหมือนกัน มีหมอเก่งๆอย่างหมอเนศอยู่ทั้งคน จะไม่หายได้ยังไงล่ะคร๊าบบบบ ฮิฮิ”

“เด็กดื้ออย่างคุณน่ะ เงียบไปเลยนะ แล้วเช้านี้คุณปวดหัวมากไหม?”

“ไม่ค่อยเท่าไหร่ครับ ดีที่หมอฉีดยาให้เมื่อคืน เช้านี้เลยสบายหน่อย”

“งั้นเดี๋ยวผมไปหาคุณที่บังกะโลนะ แล้วสัก 7โมงเราไปทานอาหารเช้ากัน”

“ยังเช้าอยู่เลยครับหมอ ฝนตกหนักด้วยคุณจะมายังไง?”

“ไม่เป็นไร ผมยืมร่มกับทางฟร้อนท์ไว้แล้ว หรือว่าคุณไม่สะดวกครับ?”

“เปล่าหรอก แต่ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ ยังไม่หิวด้วย เอาเป็นว่ารอฝนซาก่อนดีกว่านะครับ สัก 8 โมงค่อยเจอกัน”

“อืมมม...เอางั้นก็ได้ครับ เดี๋ยว 8 โมงผมเดินไปหา แล้วจะไปถ่ายแบบกี่โมงกันครับ”

“อ๋อ วันนี้ถ่ายตอนเย็นนู่นเลย กลางวันผมว่าง ไปไหนกันมั้ยครับ เดี๋ยวผมพาทัวร์เอง”

“ก็อยากไปอยู่ แต่ขอผมดูอาการคุณก่อน ถ้าไหวก็ไปครับ”

“แหม...ผมก็บอกอยู่นี่ไงล่ะว่าไหว ไหว ไหว ไหงไม่ยอมเชื่อกันบ้างเลยล่ะคร๊าบบบท่านนายแพทย์ใหญ่”

“ก็คุณมันเด็กเลี้ยงแกะ คนไข้อย่างคุณน่ะ หมอเชื่อไม่ได้หรอกครับคุณภุมรา”

“อ่ะ อ่ะ ตามใจ ไม่อยากไปเที่ยวก็ตามใจ ผมไม่วอรี่ร๊อก!”

“คิก คิก เอาล่ะๆ ผมไม่เถียงกับคุณแล้ว เดี๋ยว 8 โมงเจอกันก็แล้วกันนะครับภู่”

“คร๊าบ คร๊าบ”

.............................................................................................

“เนื้อหอมจังแฮะเรา เช้าปุ๊บก็ 2 สายเข้าไปแล้ว” (หัวเราะ)

ภุมราเหลือบดูนาฬิกา เห็นว่าเกือบจะ 6 โมงครึ่งแล้ว ก็จัดแจงเตรียมตัวอาบน้ำ อากาศเย็นๆชวนให้คิดถึงน้ำอุ่นๆเหลือเกิน

ภุมราใช้เวลาในการอาบน้ำอยู่ครู่ใหญ่ๆ พอได้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น แต่พอออกจากห้องน้ำก็ถึงกับผงะเลยทีเดียว

“เฮ้ย!! นคินทร์! นายเข้ามาได้ยังไง!?”

ภุมราตกใจ ละล่ำละลักถามเสียงหลง ที่จู่ๆก็มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาอยู่ในห้อง ชายหนุ่มที่ถูกเรียกเองก็ไม่ยอมตอบคำใดๆ ยังคงยืนพิงกรอบประตูหน้าห้องน้ำนิ่งๆ และค่อยๆยกมือขึ้นมาอย่างอ้อยอิ่ง เพื่อโชว์บางอย่างในมือนั้นให้ภุมราเห็น

“นะ นายมีกุญแจห้องฉันได้ยังไงกันน่ะ!! เอามานี่เลยนะ!”

ภุมราเอื้อมมือไปหานคินทร์หมายที่จะแย่งกุญแจจากมือแกร่ง แต่มีหรือที่นคินทร์จะยอมอยู่เฉยให้แย่งไปง่ายๆ ตากล้องหนุ่มขยับมือหลบ พร้อมเอี้ยวตัวเข้าไปตวัดรวบเอวภุมราอุ้มขึ้น

“เฮ้ย!! ปล่อยนะ ไอ้บ้า ปล่อยนะเว้ย!!!”

ภุมราแหกปากร้องเมื่อถูกอุ้มตัวลอยขึ้น ทั้งอยากจะดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง แต่ก็ติดอยู่ที่เขานุ่งผ้าขนหนูตัวเดียวอยู่อีกแล้ว นึกหงุดหงิดอยู่เหมือนกันที่ไม่รู้ทำไม เวลามีเรื่องกับนคินทร์ทีไร เขาต้องอยู่ในสภาพที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แบบนี้เสียทุกที!


‘ตุบ!’


“จะยั่วฉันตั้งแต่เช้าเลยหรือไง? แทนที่จะแย่งกุญแจจากฉันเนี่ย นายแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนดีกว่ามั้ย?”


นคินทร์กระเซ้า พลางยิ้มน้อยๆให้ภุมรา ซึ่งตอนนี้ถูกเขาตรึงไว้บนเตียงอยู่ในกรงแขนเขาเป็นที่เรียบร้อย แถมไม่พูดเปล่า ยังทำสายตากรุ้มกริ่ม จ้องมองเรือนกายขาวสะอาดที่ยังมีหยาดน้ำเกาะพราวอยู่บนร่าง อย่างไม่เกรงใจเจ้าของ ภุมราเองก็แทบสำลักกับสายตาทะลึ่งทะเล้น ที่ตากล้องหนุ่มมองมา

“.......อึก!! งะ...งั้นก็ถอยออกไปสิ ฉันจะไปแต่งตัว!”

“อืม...คิดดูอีกที นายอยู่สภาพนี้ก็น่ามองดีนะ ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าแล้วก็ได้ หึหึ”


พูดพลางก็โน้มตัวลงมาใกล้ด้วย ใกล้จนลมหายใจรดแก้มภุมราเลยทีเดียว  ภุมราอายจนหน้าขึ้นสีแดงก่ำ ลามไปจนถึงใบหู


“อึ๊ย!! ไอ้โรคจิต ถอยออกไปเลยนะ!”

“อ่ะ อ่ะ ก็ได้ ก็ได้ ลุกดีๆล่ะ ผ้าขนหนูหลุดขึ้นมาล่ะก็ งานเข้าแน่ๆ...หึหึ”

“......หุบปากไปเลย! ไอ้บ้า!!”

ในที่สุดนายแบบหนุ่มก็ถูกปล่อยตัว ภุมราจับชายผ้าขนหนูที่เอวแน่น เพราะกลัวจะหลุดจากตัวเหมือนที่อีกคนแซวไว้ พอลุกขึ้นจากเตียงได้ก็ปรี่ไปที่ตู้เสื้อผ้าทันที สองมือควานหาเสื้อผ้าใส่แบบไม่ต้องเสียเวลาเลือก

‘หมับ!’

“..........!!”

แต่ยังไม่ทันที่จะหยิบเสื้อ กางเกง หรือแม้กระทั่งกางเกงใน ภุมราก็ถูกกอดจากด้านหลังเสียก่อน หัวใจนายแบบหนุ่มเต้นระทึก เพราะอ้อมกอดนี้ช่างอ่อนโยน อบอุ่นจนไม่คิดว่าจะได้รับจากคนที่กำลังสวมกอดเขาอยู่

“ภู่...”

‘ภู่!!?’ ภุมราเบิกตาโพลงทันทีเมื่อได้ยินคนที่โอบกอดเขาอยู่เรียกชื่อของตัวเขาเองที่ไม่ได้ยินมานาน ชื่อของเขาที่เคยใช้เรียกกันตอนที่ยังคงสนิทสนม ตอนที่ยังคงเชื่อใจ ตอนที่ยังรัก...

ร่างกายชะงักค้างทุกการกระทำ เบ้าตาเริ่มร้อนผ่าว ในสมองขาวโพลน ร่างสั่นสะท้านด้วยแรงสะอื้น คนที่อยู่ด้านหลังเหมือนจะรู้สึกได้ จึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น พร้อมใช้คางเกยไหล่ภุมราไว้ แนบแก้มเย็นๆเข้าหาใบหูร้อนผ่าวตรงหน้า

“อย่าทำอย่างนั้นอีกนะภู่...อย่าล้มไปต่อหน้าฉันอีก”

“นาย...ยอมเรียกฉันว่า...ภู่...แล้วเหรอ?”

“อืม...รับปากฉันก่อนสิ ว่าจะไม่เป็นแบบนั้นอีก”

 “ภู...นายอภัยให้ฉันแล้วเหรอ?”

“รับปากฉันสิ ภู่”

“......อืม...ฉันจะพยายาม...ปล่อยฉันก่อนได้มั้ย ขอแต่งตัวก่อน”


ร่างใหญ่ยอมถอยแต่โดยดี ปล่อยให้นายแบบหนุ่มได้สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ในใจของนคินทร์เองคิดเพียงแต่ไม่อยากให้ภุมราเป็นอะไรไป ไม่อยากเสียคนตรงหน้าไป เขาคิดเพียงแค่นั้นโดยที่ไม่เคยหาเหตุผล  หากทำได้ตอนนี้ เขาก็อยากจะลืมอดีตไปเสียให้ได้ แล้วเริ่มต้นใหม่ เริ่มต้นอีกครั้งกับ...คนตรงหน้าเขา ตอนนี้...

ส่วนในใจที่กำลังสั่นไหวอย่างหนักของภุมรานั้น ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลย เขาดีใจมากเหลือเกินที่นคินทร์ยอมเรียกชื่อเขา ราวกับจะยอมอภัยให้กัน หากแต่เมื่อถามออกไปกลับไร้คำตอบ เอาเข้าจริงตอนนี้ภุมราแสนจะสับสน แต่ในที่สุดก็ได้แต่คิดว่า 'เอาเถอะ ได้แค่นี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว...'

“.....................อย่ามองนะ ฉันจะใส่กางเกงใน...”

..........................................................

มาต่ออีกตอนแล้วนะ จบฮาไปมั้ยเนี่ย...

ใกล้จบเข้ามาทุกทีๆ
มาลุ้นกันดูว่าภู่จะสามารถทำให้ภูเข้าใจได้หรือเปล่า

แล้วภูจะรู้ใจตัวเองเมื่อไหร่

แล้วหมอเนศคนดีของเราล่ะ?...

ขอบคุณที่ตามอ่านนะค๊าบ
 :o8:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 28-06-2012 23:38:24
ติดตามๆ  o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 29-06-2012 00:30:51
 :monkeysad: :monkeysad:

ขออย่างเดียว ภู่อย่าเป็นอะไร อิตาภูก็เลิกโง่  :beat: เพราะผู้หญิงคนเดียวได้แล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 29-06-2012 03:49:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-06-2012 03:52:15
ยังไม่ไว้ใจภูเลยอ่ะ  :m16:


รอตอนต่อไปนะครับ   :z13:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 29-06-2012 06:52:50
ธเนศถึงจะคอยดูแลภู่ก็เถอะ แต่ทำไมต้องพูดจาทำท่าแบบนั้นกับภูด้วย ถึงแม้ว่าภูจะสมควรถูกทำท่าแบบนั้นใส่ก็เถอะนะ แต่เรื่องแบบนี้ควรเป็นเรื่องของภูภู่คุยกันเองดีกว่าไหม เพราะธเนศคงไม่ได้รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางอะไรของภู่ภูมากขนาดนั้นหรอกมั้ง ภูเปิดใจดูให้ดี ๆ คิดให้ดี ๆ นะภู ทำไมภูไม่ฟังภู่บ้าง ภู่มีอะไรทำไมไม่คุย ปิดบังอาการของตัวเองแบบนั้นไม่ดีเลย แต่ภู่จะคิดมากก็ไม่แปลก ก็ภูทำแต่ละอย่าง ซอนี่ท่าทางจะมีบทบาทพอสมควรเลยนะนั่น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 29-06-2012 07:06:46
เพิ่งเข้ามาอ่านติดเรื่องนี้ซ่ะแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 29-06-2012 11:13:43
คุณหมอดีกว่าเห็นๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 29-06-2012 14:07:21
ใส่กางเกงในก็อายเป็นด้วยแฮะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 30-06-2012 12:00:30
 :o8:

สนุกมากค่ะ


รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 30-06-2012 13:20:07
 :impress3:

มาต่อเร็วนะคะ  สนุกมาก อยากอ่านเร็วๆ



ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: vocaloid ที่ 03-07-2012 18:29:07
สนุกมากกกกกกก
ตอนนี้ภูเริ่มชอบภู่แล้วใช่ไหม  :-[
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: hellfire ที่ 03-07-2012 18:57:10
 :jul3: :jul3: :jul3: :m20: :m20: :m20: :laugh: :laugh: :laugh:

“.....................อย่ามองนะ ฉันจะใส่กางเกงใน...”
55555+
ตัดอารมซึ้งเป็นที่สุด ฮาตอนจบนี่แหละ 5555+
สนุกมากกกกกกก รอต่อไปนะคุคิ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 03-07-2012 19:06:48
 :m15: :m15:  อดทนไว้ภู่  ภูลืมเรื่องเก่าๆแล้วเริ่มต้นใหม่นะ :3123:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 03-07-2012 19:34:47
ขอบคุณที่มาต่อคร้าบ :pig4:
ยังหนุกเหมือนเดิม o13
และก็ยังหมั่นไส้ภูเหมือนเดิม  :z6: 555+
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 03-07-2012 21:08:09
เพิ่งเข้ามาอ่านนะคะ ทันแล้วค่า ^^
ภู่้ป่วยเป็นอะไรกันแน่ อย่าเป็นหนักเลยนะค้า  :monkeysad:
ภูเริ่มดีกับภู่แล้ว ดีใจๆๆ ><
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 04-07-2012 13:36:17
ทำไมเราถึงยังไม่ค่อยไว้ใจภูเท่าไรเลย หวังว่าจะดีขึ้นแล้วจริงๆ
แต่ภู่ก็นะ น้ำท่วมปากไปไหน ภูก็ไม่ยอมรับฟังอะไร ดีจริงๆสองคนนี้
แวะมากินมาม่า ฮุฮุฮุ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: jj@room ที่ 12-07-2012 16:22:51
สงสารภุมราอ่ะ ป่วยเปนไรหว่า :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 21-07-2012 23:38:56
แวะมาดัน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 21-07-2012 23:55:36
สุดท้ายคนเขียนก็ลอยแพ...

อย่าทำร้ายคนอ่านสิครับ

ผมเฝ้ารอวันที่คุณจะมาอัพต่ออยู่นะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 22-07-2012 01:40:28
เข้ามารออ่าน สงสารภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 18 *กอด* (28/06) P.4
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 25-07-2012 14:58:54
ตอนที่ 19  *อลเวง*



8โมงเช้า ฝนเริ่มซาเม็ดลง แต่บรรยากาศยังคงอึมครึมอยู่  เช่นเดียวกับในบังกะโลหลังน้อยของภุมราตอนนี้ซึ่งบรรยากาศชวนหดหู่เป็นที่สุด เนื่องจากมีบุคคลสองคนกำลังนั่งฟาดฟันกันทางสายตาอยู่ และไม่ใช่ใครอื่น เป็นนคินทร์กับคุณหมอธเนตรนั่นเอง
หนึ่งคือคนที่ภุมรารักและมอบทั้งใจให้แต่กลับไม่เคยดูแล อีกหนึ่งคือคนที่คอยดูแลเยียวยาหัวใจให้ภุมรา แต่กลับไม่เคยได้ใจ

นคินทร์ที่เพิ่งจะรู้ใจตัวเองว่า ตัวเองนั้นมีความรู้สึกพิเศษให้กับภุมรานั้น เขารู้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าหมอธเนตรเองก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน ให้กับคนคนเดียวกัน และรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็รู้สึกได้ สัตว์เพศผู้ย่อมหวงของหวงถิ่นฉันใด นคินทร์ก็เป็นฉันท์นั้นเหมือนกัน

ทางฝ่ายคุณหมอเองก็รู้สึกไม่พอใจนัก ที่สัมผัสได้ว่าตนเองกำลังโดนคุกคามทางสายตา  และมีหรือที่คนอย่างเขาจะยอม ดังนั้นตอนนี้ห้องรับแขกกลางบังกะโลหลังเล็กนี่ จึงเกิดสงครามฟาดฟันด้วยสายตาขึ้น ประกายไฟแลบแปลบปลาบ จนคนกลางอย่างซอและพี่แอนยังต้องนั่งสะดุ้งเลยทีเดียว ก็มีเพียงแต่นายแบบหนุ่มภุมราเท่านั้นแหละที่ไม่ได้รับรู้ความเป็นไปที่เกิดขึ้นอยู่เลย แถมยังยิ้มเริงร่าอารมณ์ดี ชวนทุกคนเดินเที่ยวรอบเกาะวันนี้   

เรื่องของเรื่องมันเกิดจากตอนที่หมอธเนตรมาถึง ภู่ก็ออกไปต้อนรับขับสู้อย่างดี ทำให้นคินทร์รู้สึกไม่พอใจจึงเข้าไปนัวเนีย แตะเนื้อต้องตัวภุมราต่อหน้าหมอธเนตร เพื่อเป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ ทำให้หมอธเนตรรู้สึกหมั่นใส้สุดๆ ก็รู้ตัวว่าไม่มีทางได้เป็นเจ้าของ แต่ก็อดที่จะเขม่นผู้ชายตรงหน้านี้ไม่ได้เช่นกัน จากนั้นสงครามที่ชื่อว่า “ใครหลบตาก่อนแพ้” ก็เริ่มขึ้น จนถึงตอนที่แอนกับซอมาถึง ก็ไม่มีใครยอมลดราวาศอก จนแอนกับซอถึงกับหน้าซีดไปเลยทีเดียว   


“ทุกคนครับ เดี๋ยวพอทานข้าวเช้ากันแล้ว เราไปเที่ยวรอบเมืองกันดีมั้ยครับ ฝนซาแล้วด้วย งานก็เริ่มตอนเย็นแน่ะ”


ภุมราเอ่ยชวนทุกคนเสียงใส เพราะวันนี้เขาอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ที่ความสัมพันธ์ของเขากับตากล้องหนุ่มมีทีท่าว่าจะดีขึ้น   

                     
“เอ่อ พี่แอนไม่ค่อยสะดวกน่ะจ๊ะน้องภู่ บังเอิญว่า แฮะๆ พี่มีนัดนวดสปาตอนสายๆนี่แล้วน่ะจ๊ะ”

“ว้า เสียดายจังครับพี่แอน แล้วนี่จะมีใครไปเที่ยวกับผมได้บ้างล่ะเนี่ย”

“ผมไปครับ”

หมอธเนตรตอบออกไปทันทีแบบไม่ต้องคิด


“ของตายอยู่แล้วครับหมอ ที่หมอจะต้องไปกับผมน่ะ ห้ามเบี้ยวด้วย”


“ฉันจะไปด้วย!!”


เสียงกร้าวดังขึ้นแทบจะตะโกน จนทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันนั้นพากันเงียบกริบ โดยเฉพาะภุมราที่ตกใจจนตาโตเป็นไข่ห่านเลยทีเดียว


“งะ...งั้น ซอไปกับคุณภู่ด้วยก็แล้วกันครับ”


ซอตัดสินใจตามไปเที่ยวด้วย แต่ไม่ใช่เพราะอยากเที่ยว ไม่ใช่เพราะห้าวหาญ แต่เพราะโดนสายตาของแอนจิกบังคับให้ตามไป เพราะต่างก็รู้กันดีว่า อาจมีศึกชิงนายกลางเกาะมัลดีฟได้ อย่างน้อยๆ ซออาจช่วยห้ามทัพได้

‘ซะที่ไหนเล่าครับ พี่แอน งานนี้ไอ้ซอไม่เหลือซากกลับมาแน่เลย ฮือๆๆ’



เวลานัดคือ 10 โมงเช้า หลังจากทานอาหารเช้าและแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัวแล้วก็ให้ไปเจอกันที่ล็อบบี้โรงแรม ระหว่างทางที่จะไปยังจุดนัดพบ ซอกับแอนก็ได้ปรึกษากันไปตลอดทาง


“พี่แอนอ่า จะให้ซอไปกับพวกคุณภู่จริงง่ะ ไม่ไหวมั้งครับ”

“จะเล่นตัวไมเนี่ย ไปไปเหอะน่า ถือว่าเปิดหูเปิดตาไง ไหนๆวันนี้เธอก็ว่างนี่จ๊ะซอ”

“ไม่ต้องมาอ้างเลยพี่แอน พี่จะให้ผมไปสืบอะไรอีกอ่ะ”

“ต๊าย! เกลียดจริงๆคนรู้ทันเนี่ย พี่ก็แค่เห็นว่าท่าจะไม่ค่อยดีที่จะปล่อยให้ไปกันแค่สามคนก็เท่านั้นแหละ แหม~ดูก็รู้ว่าอีตาตากล้อง กะอีตาคุณหมอนั่นน่ะ เล็งงาบน้องภู่อยู่ ขืนให้ไปกันแค่สามคนแล้วบังเอิญดันเกิดศึกชิงนายขึ้นมาล่ะ น้องภู่ก็น่าสงสารแย่ล่ะสิ ซอเลยต้องไปเป็นองครักษ์พิทักษ์น้องภู่ให้พี่ไง”

“น้ำหน้าอย่างซอเนี่ยนะ จะเป็นองค์รักษ์ โธ่~ พี่แอนครับ แค่คุณนคินทร์ดีดซอก็เซแล้ว ยิ่งไอ้คุณหมอนั่นน่ะไม่ต้องพูดถึง ตัวถึกซะขนาดนั้นซอได้กระอักเลือดตายกันพอดี”

“นี่! จะอิดออดทำไมเยอะแยะเนี่ย ไม่ต้องมาเวิ่นเลย ยังไงนายก็ต้องไปย่ะ นี่คือคำสั่ง  เข้าใจ๊!!

“ได้ไงอ่ะพี่แอน โหย~ ปกครองลูกน้องแบบคอมมิวนิสต์ชัดๆเลย อยากปกป้องคุณภู่ หรืออยากรู้เรื่องของเขากันแน่อ่ะ ถ้าอยากรู้อยากเห็นเรื่องพวกนั้น ไมพี่ไม่ไปเองซะเลยล่ะคร๊าบบ จะส่งผมไปทำม๊ายยย!!”

“ไปเองได้ ฉันก็ไปแล้วล่ะย่ะ ก็บอกแล้วไง ว่าติดทำสปาน่ะ เอ้~ ซอนี่พูดไม่รู้ฟัง”

“ฮึ่ย~ แบบนี้เค้าเรียกว่าอ้างแบบหน้าด้านๆเลยอ่ะ”

“ไอ้ซอ!! ปากดีนักนะแกน่ะ เดี๋ยวแม่ฟ้อนเล็บใส่ซะนี่! จะไปตายเอาดาบหน้า หรือจะตายซะตอนนี้เลยดียะ ห๊ะ!!”

“ไปครับเจ๊! ไปเดี๋ยวนี้เลยครับพ้ม! ไอ้ซอคนนี้จะทำหน้าที่ที่เจ๊มอบหมายให้ดีที่สุดครับพ้ม!” (พูดพร้อมทำท่าตะเบ๊ะมือราวกับทหารกล้า)

“ดีมาก!ลงมือได้!”

“ครับพ้ม ทั่นผู้พัน!!”

หลังจากตกปากรับคำแบบจำยอมแล้ว ซอ หนุ่มน้อยผู้น่าสงสารก็เดินกะปลกกะเปลี้ยมาจนถึงหน้าล็อบบี้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครมาถึง เพราะตอนนี้ก็เพิ่งจะ 9โมง40นาทีเท่านั้นเอง


“ไม่รู้จะเรียกเวรหรือกรรมดีน้อเรา เฮ้อ~”


คร่ำครวญแค่นี้ดูเหมือนจะยังไม่พอสำหรับซอ


“ชีวิตไอ้ซอมันเป็นได้แค่ลูกล่อลูกชน! ชีวิตเป็นได้แค่ลูกเมียน้อย! ไอ้ซอมันเป็นได้แค่...”

“แค่อะไรเหรอซอ?”

“แค่ดอกไม้ริมทาง...”

“หืม...ขนาดนั้นเลยเหรอ”

“......เย้ย!! คุณภู่!! มะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ!?”

“ก็ตั้งแต่ ‘ชีวิตเป็นได้แค่ลูกเมียน้อย’ นั่นแหละ หึหึ เป็นอะไรไปอ่ะเรา มีเรื่องกลุ้มใจอะไรหรือเปล่า”

“ไม่ครับ ไม่มี๊ ไม่มี ฮ่าๆๆ ผมก็แค่พูดไปขำๆเท่านั้นเอ๊ง!!”

“เอาเหอะๆ แต่ถ้าเครียดเรื่องอะไรก็บอกฉันได้นะ ยินดีช่วย”

“ครับคุณภู่...”

‘อา...มายด์แองเจิ้ล’


ระหว่างที่ซอยังนั่งเคลิบเคลิ้มกับความใจดีของภุมราอยู่นั้น พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเงาทะมึนที่อยู่ด้านหลัง เงาร่างนั้นกำลังแผ่รังสีอำมหิตออกมา และแน่นอนว่าหาใช่ใครอื่นไกล นคินทร์ตากล้องหนุ่มนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ชายหนุ่มกำลังอยู่ในอารมณ์ที่คุกรุ่นสุดขีด และข้างๆนั้นก็คือธเนตร นายแพทย์หนุ่มซึ่งยืนทำหน้าไม่สะทกสะท้านอยู่


“ออกเดินทางกันได้แล้วมั้ง เดี๋ยวจะช้าเกิน เที่ยวไม่ทั่วกันพอดี”

“อ่ะ ดี ดีครับ...ไปกันเถอะ”



‘เอาล่ะ สงครามชีวิต ไอ้ซอ เริ่มขึ้นแล้ว!’

..................................................................................

ごめんなさい~
ขอโทษนะคะ ท่านผู้อ่านที่รัก ที่หายหัวไปอีกแล้ว เดี๋ยวลงต่อเนื่อง 2 ตอนให้เลยนะ (ขอปั่นแป๊ป)
จะรีบให้จบภายในก่อนเดือนพฤศจิกายนเลยจ๊ะ
(เพราะหลังจากนั้นคนเขียนต้องอ่านหนังสือสอบวัดระดับจ๊ะ)

ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอดนะจ๊ะ จุ๊บๆๆ
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย) ตอนที่ 19 *อลเวง* (25/07) P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 25-07-2012 15:45:01
จะเกิดสึกชิงนางขึ้นมั้ยล่ะเนี่ยต้องลุ้น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย)ตอนที่ 19 *อลเวง*(25/07) P5 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 25-07-2012 16:35:04
ต้องเกิดศึกครั้งสำคัญแน่นอนระหว่านครินทร์และหมอ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย)ตอนที่ 19 *อลเวง*(25/07) P5 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-07-2012 17:23:57
สงสารคุณหมอเพราะมีแววได้กินแห้วแน่ๆ  o7
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย)ตอนที่ 19 *อลเวง*(25/07) P5 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 25-07-2012 19:58:53
คุณหมอ ขอให้ได้กับซอนะเอออ จะได้ไม่เหงาใจ  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (พระเอกโง่เงียบ+นายเอกป่วย)ตอนที่ 19 *อลเวง*(25/07) P5 UP!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 26-07-2012 12:04:28
ตอนที่ 20 *เจ้าของ*





“สร้อยเส้นนี้เหมาะกับภู่ดีนะ เอามั้ย ผมซื้อให้”

“อืม สวยดีจริงๆด้วย แต่ผมซื้อเองดีกว่าครับ เกรงใจ”

“อย่าเกรงใจเลยครับ ผมอยากซื้อให้ นะ”

“อืม...ตามใจคุณหมอก็แล้วกันครับ ขอบคุณนะครับ” ^^


ฉากที่สองคนคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่ที่ร้านขายเครื่องประดับนั้นอยู่ในสายตาของนคินทร์ตลอดเวลา ชนิดที่ว่า จ้องแบบไม่คลาดสายตาเลยทีเดียว  และในที่สุดเจ้าตัวก็เริ่มทนไม่ไหว ตากล้องหนุ่มเดินย่างสามขุม เข้าไปหาภุมราทันที


“ไปต่อกันได้แล้ว!”

“อ๊ะ ภู เดี๋ยว...!”


ไม่ว่าเปล่า นคินทร์คว้าแขนของภุมราลากออกไปต่อหน้าต่อตาหมอธเนตรเลยด้วย ไม่เพียงแค่นั้น เพราะจู่ๆนคินทร์ก็โอบเอวภุมราอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ สายตาชำเลืองมองหมอธเนตรอย่างเป็นต่อ


“เฮ้ย! ภู ปละ ปล่อยฉันนะเว้ย! ฉันอายเค้านะ”


ภุมราร้องโวยวายพลางมือไม้ก็เริ่มแกะมือปลาหมึกของนคินทร์เป็นพัลวัล


“อายใครที่ไหนกัน ไม่มีใครรู้จักเราสักหน่อย”

“โธ่ ก็ซอกับคุณหมอไงล่ะ พวกเขามองอยู่นะ ปล่อยฉันก่อน”

“หึหึ จะไปอายอะไรกับเจ้าซอกัน ขนาดตอนเราจูบกันมันยังเคยเห็นมาแล้วเลย ประสาอะไรกะอีแค่โอบเอว...ส่วนคุณหมอนั่นน่ะให้เห็นอย่างนี้แหละดีแล้ว จะได้รู้กันไปไง ว่านายมีเจ้าของแล้ว!”

“ไม่ตลกนะภู ปล่อย!”

“แล้วหน้าฉันมันบอกว่าตลกงั้นเหรอ”

ท่อนแขนกำยำกระชับร่างบางแน่นขึ้น ใบหน้าคมเข้มขยับเข้าประชิดจนลมหายใจรินรดแก้มนิ่ม จนภุมราต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย


“ฉะ...ฉัน ไม่ใช่ของของใครสักหน่อย”

เสียงหวานเอ่ยแผ่วผิว ทัดทานคำพูดของร่างหนา

“ใช่ครับ ภู่ไม่ใช่ของของใคร เพราะภู่ไม่ใช่สิ่งของ!”

“คุณหมอ...”


เป็นหมอธเนตรที่เข้ามาขัดขวางการลวนลามทางร่างกายระหว่างตากล้องนายแบบหนุ่ม


“ขอโทษนะครับคุณนคินทร์ ช่วยปล่อยภู่ทีเถอะครับ”

“มันไม่ใช่ธุระของคุณนะครับ คุณหมอธเนตร”

“ธุระของผมแน่ครับ เพราะภู่เป็นเพื่อนของผม ผมไม่อยากให้คนนอกมาทำเรื่องที่ไม่ให้เกียรติเพื่อนของผม!”

"คนนอกเหรอ หึ!"

"อื้อ!!"
           
"…!!!"

           
เพื่อพิสูจว่าตัวเองหาใช่คนนอกอย่างที่คุณหมอหนุ่มปรามาส นคินทร์จึงคว้าคอภุมรามาจูบแบบไม่เกรงใจใคร นายแบบหนุ่มตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง  ก่อนจะดิ้นรนผลักใสร่างคนใหญ่ตรงหน้า แต่ก็เหมือนทุกครั้ง ที่ไม่สามารถขัดขืนคนๆนี้ได้เลย นคินทร์บดเบียดริมฝีปากหนักหน่วง   แสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกหน้าออกตา หลังจากนคินทร์ผละริมฝีปากออกไป ภุมราก็ถึงกับเข่าอ่อนพับลงกับอ้อมอกของตากล้องหนุ่มทันที ลมหายใจหอบสะท้าน ตากลมใสรื้นด้วยน้ำตา


"ทีนี้รู้แล้วหรือยัง ว่าใครกันแน่ที่เป็น…'คนนอก!'  "

           
ตากล้องหนุ่มปรายตามองอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า หมอธเนตรแทบจะสำลักความโกรธตายเสียตรงนี้ จนเขาอยากจะซัดไอ้ผู้ชายไร้มารยาทตรงหน้านี้ให้คว่ำเลยทีเดียว

   
ผลัวะ!'

               
"!!!"

               
"!!!!!!"

               
"ไปตายซะ ไอ้บ้า!!"

               
ภุมราตะโกนลั่น หลังจากที่ประเคนหมัดหลุนๆใส่หน้านคินทร์จนเซ ท่ามกลางความตกตะลึงของทั้งตากล้องหนุ่มและหมอธเนตร ก่อนจะวิ่งออกไปจากจุดเกิดเหตุ ทั้งโมโห ทั้งอาย จนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ตอนนี้ถ้ามีหลุมหรือรูอะไรสักอย่างอยู่บนพื้นถนนล่ะก็นายแบบหนุ่มจะกระโดดลงไปแบบไม่ต้องคิดกันเลยทีเดียว


"เจ็บไหมครับ คุณนคินทร์ แย่หน่อยนะครับ คนนอกอย่างผมคงต้องตามไปปลอบภู่เพราะเรื่องห่วยๆที่คุณทำลงไปก่อนล่ะนะครับ หึ หึ"

   
หมอหนุ่มเยาะหยัน ก่อนจะรีบวิ่งตามภุมราไป นคินทร์ที่ตอนนี้ทำได้แค่มองตาม โกรธจนควันแทบจะออกหู เพราะถูกก้างชิ้นใหญ่เหยียบปลายจมูกเข้าเสียแล้ว

   
"เอ่อ...ไม่ตามไปจะดีเหรอครับ?..ง่า...คุณนคินทร์"

           
ซอ หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร ผู้อยู่ร่วมเหตุการณ์อย่างเงียบๆมาได้สักพักแล้ว เดินเข้ามาถามนคินทร์ด้วยใจระส่ำ

           
 ‘นี่มันเกิดอาเพศอะไรขึ้นอีกวะเนี่ย ตูไปซื้อไอติมแป๊บเดียวเองนะ  กลับมาอีกทีพวกก็แทบฆ่ากันตายแล้วอ่า โอ้ว~เจ๊แอนครับ ญาณหยั่งรู้ของเจ๊ช่างเมพขิง!! ศึกชิงนายเริ่มแล้วคร๊าบบบพี่น้อง!! ตัยหองแล้ว ไอ้ซออยู่กลางสมรภูมิซะแล้วงับ พระพุทธเจ้า
ช่วยลูกช้างด้วย!! '


"...ฉันผิดเหรอซอ?"
               
"ง่า....ครือว่า..."

               
‘ ไม่ผิดเลยมั้งค๊าบเฮีย เล่นไปจูบเค๊ากลางตลาดแบบนี้เนี่ย เค๊าแค่ต่อยเนี่ยก็บุญแค่ไหนแล้วคร๊าบ’

           
ซอก็ได้แค่บ่นในใจเท่านั้น เพราะขืนพูดออกไปอาจโดนดีดได้ ด้านนคินทร์เองก็ไม่ได้ใส่ใจอยากได้คำตอบเท่าไหร่ เพราะตอนนี้เขานึกอะไรดีๆออกแล้ว

   
"ซอ"
               
"คะ..ครับ!"
               
"นายก็รู้ใช่มั้ย ว่าฉันกับภู่เป็นอะไรกัน"
           
"ง่า...คะ..ครับ?"

               
 ‘ผมไม่รู้อ่ะ ว่าพวกเฮียเป็นอะไรกัน แต่ที่แน่ๆพี่จูบกันโชว์ผมสองรอบแล้วเนี่ย…'

           
"งั้นนาย..."
               
"....อึก"
               
แล้วมือใหญ่ของนคินทร์ก็โอบไหล่บางที่กำลังสั่นน้อยๆของซอไว้ เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาหากแต่ดูร้ายกาจ แววตาสีรัตติกาลฉายแววคุกคามอย่างเปิดเผย ซอ เด็กหนุ่มตัวเล็กๆจึงทำได้แค่กลืนน้ำลายดังเฮือก แล้วสงบปาก สงบคำ ฟังคำบัญชาเท่านั้น


"ทำอะไรให้ฉันหน่อยได้มั้ย?"
               
"...อึก...ทำ?"
               
"ทำอะไรก็ได้ กันไอ้หมอนั่นออกจากภู่ให้ฉันที"
           
"ห๋า…!?"
               
"...คงรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง..."
           
"ฮึก..."


               
 ‘กุว่าแล้ว...งานงอกแล้วไง ไอ้ซอ…'

...................................................................................

มาเพิ่มอีกตอน อิอิ ...
มีเรื่องเล่านิดนึงอ่ะ
เมื่อวานคนเขียนไปซื้อการ์ตูนที่ห้างดังกลางสยาม ตอนขากลับสายตาข้าพเจ้าก็ไปพบกะคู่วายคู่หนึ่ง ตอนที่เดินผ่านหน้าก็ว่าเออแมนดี แต่ที่สะดุดตาก็คือ แมะ! มันเดินจูงมือกันด้วยอ่า สวีวี่วีสุดๆ น่ารักอ่า ฮิ้วๆ
เป็นการชาร์ตไฟเล็กๆน้อยๆของคนแต่ง อิอิ เลยเอามาเล่าให้ฟัง
 :-[
ขอบคุณที่ติดตามนะค๊าบ
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 26-07-2012 12:31:05
ศึกชิงนาง ฮ่าๆ
ซอเอ้ยๆแก งานเข้าแล้วสิ

รอติดตามจร้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-07-2012 12:35:14
นคินทร์ร้ายว่ะ นิสัย เอาแต่ใจตัวเอง
เห็นภู่อ่อนแอกว่าก็จาบจ้วงตามอำเภอใจ
โดนหมัดเดียวนี่ไม่สะใจเลย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 26-07-2012 13:08:41
ธเนตรดูวุ่นวายเกินไปไหม ทำแบบนั้นทำไม นคินทร์ก็น่าจะใจเย็นลงบ้างทำอะไรคิดถึงใจภู่บ้างสิ ซอน่ารักดี
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 26-07-2012 13:17:35
ซอนี่ซซยตลอดเลยเนอะ ต้องมารู้เรื่องเขา แล้วต้องมาช่วยเขาอีก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-07-2012 17:21:08
ส่งซอไปกันหมอ กันไปกันมา ซอเสร็จหมอ 555+
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 26-07-2012 19:09:45
ภู่น่าจะกระโดดถีบขาคู่แถมไปอีกสักที


 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: ทำไรเคยนึกถึงความรู้สึก ภุมราไหมหะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 26-07-2012 19:27:19
หายไปนานมากกกกกกกกก

ติดตามตอนต่อไป

 :really2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 26-07-2012 19:56:22
ซอ ย่อมาจากซวยรึเปล่าจ๊ะเนี่ย 55555
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 20 *เจ้าของ*(26/07) P.5 อัพเพิ่มจ๊า!
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 26-07-2012 22:41:17
เริ่มเห็นเค้าลางจากคู่ต่อไปนิดๆน่ะ ขอให้คู่นั้นเค้าพัฒนาต่อน่ะ ภู-ภู่ เค้าจะได้สมหวังกันซะที
หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 26-07-2012 23:38:50
ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*





"ภู่...คุณ...เป็นยังไงบ้าง"

"คุณหมอ...ผมไม่เป็นไรหรอกครับ"

       
หมอธเนตรเข้าไปหาภุมราทันทีที่ตามตัวนายแบบหนุ่มเจอ

       
"ขอโทษทีนะครับหมอ ที่ทำให้เสียบรรยากาศตอนกำลังเที่ยวกัน"
       
"มันไม่ใช่ความผิดของภู่สักหน่อย ไม่เห็นต้องขอโทษผมเลย คุณนคินทร์ต่างหากที่ต้องขอโทษภู่"
       
"ช่างเขาเถอะครับหมอ ภูเค๊าก็เป็นแบบนั้นแหละ ที่จริงเค๊าก็ไม่ใช่คนไม่ดีหรอกครับ"
       
"ภู่… แต่สิ่งที่เขาทำกับคุณมันไม่ใช่เรื่องน่าให้อภัยเลยนะครับ เขาไม่ให้เกียรติคุณ!"
       
"พอเถอะครับหมอ เรื่องไร้สาระน่ะครับ ช่างมันเถอะ"
       
"ทำไมกันภู่ ทำไมคุณถึงต้องรักคนแบบนั้นด้วย"

       
หมอธเนตรจับไหล่ทั้งสองข้างของภุมราไว้ พลางจ้องลึกลงไปในดวงตาของนายแบบหนุ่ม ดวงตาหลังแว่นใสนั้นฉายแววปวดร้าว ในที่สุดเขาก็ทนต่อไปอีกไม่ไหว

       
"มะ...หมอ?"
           
"คนที่ชื่อว่า 'ภู' คนที่คุณเพียรเล่าให้ผมฟังครั้งแล้วครั้งเล่าคนนั้น มันเป็นคนที่ดีมากไม่ใช่เหรอ ไหนคุณบอกว่าเป็นคนอ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ เป็นคนที่ราวกับเทพบุตร คนคนนั้นน่ะเหรอ ไอ้คนที่ลากคุณไปจูบกลางสาธารณะชนแบบไม่ให้เกียรติคุณแบบนั้นน่ะเหรอ คือคนที่คุณศรัทธา คือคนที่คุณรัก คนแบบนั้นเนี่ยนะ!!!!"

"หมอธเนตร..."
               
"ผมไม่เข้าใจคุณเลยภู่ ไม่เข้าใจจริงๆ"
           
"คือ...ผม"
               
"ถ้าเขาดีอย่างที่คุณเคยเล่าให้ผมฟังจริงๆล่ะก็ ผมจะยอมให้คุณไปกับเขาแต่โดยดี โดยไม่มีข้อแม้เลยด้วยซ้ำ...แต่นี่มัน...ไม่ใช่"

           
มือที่จับไหล่ทั้งสองข้างของภุมราอยู่นั้นสั่นระริก ธเนตรเจ็บปวดจริงๆ เขารักภุมรามากเหลือเกิน มากจนไม่สามารถทนเห็นอีกฝ่ายต้องเจ็บปวดได้ ทำไมเขาจะต้องยอมยกหัวใจที่เขาอุตส่าห์เฝ้าทะนุถนอม ไปให้กับคนพรรค์นั้นทำร้ายด้วย ทำไมเขาจะต้องยกคนที่เขารักดั่งดวงใจ ไปให้กับคนใจร้ายแบบนั้นด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บปวดใจ สองมือบีบไหล่ภุมราแน่นขึ้น จนภุมราต้องนิ่วหน้า


"คุณหมอ...ผมเจ็บ.."

               
ภุมราร้องเตือนเมื่อเห็นว่าอารมณ์ของคุณหมอเริ่มคุกรุ่นเกินจะกู่กลับแล้ว

           
"อ๊ะ...ผ...ผมขอโทษ…จะ…เจ็บหรือเปล่าครับ?"
               
"หมอครับ  ภูเขาไม่ใช่คนไม่ดีหรอก แต่ที่เขาเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวผมคนนี้ ผมเอง...ที่ทำให้เขาเปลี่ยนไป ผมเองที่ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนั้น และผมต้องรับผิดชอบ"
   
"ภู่...ผมไม่อยากให้คุณเจ็บแบบนี้เลย คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น...ไม่จำเป็น"

           
หมอธเนตรยกมือขึ้นประทับแก้มอุ่นของภุมราไว้ มือหนาลูบแก้มเนียนอย่างอ่อนโยน คนตรงหน้าเขาช่างเปราะบาง หากแต่ใจกลับแข็งเหลือเกิน เขาอยากปกป้องคนตรงหน้า เอาใจใส่ดูแล แต่ก็ติดอยู่แค่เรื่องเดียวเท่านั้น…นั่นคือ เขามาช้าไป ช้าเกินกว่าที่จะเป็นเจ้าของหัวใจของคนตรงหน้าได้


"ภู่"
               
"…!!!"

               
นคินทร์ตามมาทันจนได้ ตากล้องหนุ่มฉุนกึกทันทีที่เห็นว่าแก้มของภุมราถูกหมอธเนตรสัมผัส แต่ชายหนุ่มก็พยายามระงับอารมณ์ตัวเองเอาไว้ เขาอยากง้อภุมราดีๆ ไม่อยากให้เสียเรื่องอีก


"คนแถวนี้เขาบอกว่า โขดหินตรงโน้นเป็นจุดชมวิวที่สวยมากทีเดียว เราไปดูกันมั้ย?"
           
"มาไม้ไหนอีกเนี่ย ภู?"
               
"อย่าถามเยอะน่า ไปกันเถอะ"

               
ว่าพลางนคินทร์ก็เข้าไปจับข้อมือภุมราไว้แล้วลากเดินไปดื้อๆ โดยไม่สนใจการมีตัวตนอยู่ของหมอธเนตรเลยสักนิด

           
"เฮ้ย! เดี๋ยว ภู! ฉันยังไม่หายโกรธนายเลยนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย!"
           
"ก็ง้ออยู่นี่ไง อย่าดื้อน่า"
               
"ง้อแบบนี้เนี่ยนะ!?"

               
นคินทร์ไม่ได้ต่อคำ เปลี่ยนจากจูงมือเป็นโอบไหล่ภุมราแทน เมื่อเห็นว่านายแบบหนุ่มไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้ว ก่อนจะเดินจากไปนคินทร์หันกลับมามองไปที่ซอ ที่กำลังยืนตัวลีบตัวเล็กอยู่ด้านหลังหมอธเนตร พลันขยิบตาส่งซิกเล็กๆไปที่เด็กหนุ่ม


"อึก"

               
 ‘มะ...มาแว้วววว’

               
เห็นแบบนั้นซอก็กลืนน้ำลายดังเอื๊อกทันที เอาล่ะสิ เขายังไม่มีแผนเลยว่าควรทำยังไงดี

           
 ‘เอาไงดีวะตรู...คิดดิวะไอ้ซอ คิดซิวะคิด!!’


จุดชมวิวสวยเหมือนที่ร่ำลือ โดยเฉพาะจุดที่นคินทร์พาภุมรามายืนอยู่นั้นเป็นจุดที่เห็นวิวทะเลสวยที่สุด แต่ภุมรายังคงหน้าบึ้งไม่ยอมพูดกับคนข้างๆอยู่ดี


"นี่ ยังไม่หายงอนอีกเหรอ ฉันอุตส่าห์ง้อแล้วนะ"

".........................."
       
"สงครามเงียบรึไง?"
           
"..................."
           
"เอาเถอะ ตามใจแล้วกัน...ว่าแต่ นายผอมลงอีกแล้วนะ"
       
"…? รู้ได้ไง?"
           
"ก็...กอดแล้วไม่เต็มไม้เต็มมือเหมือนเมื่อก่อนไง...หึหึหึ"
       
"หัวเราะอะไร?"
           
"ยอมคุยด้วยแล้วเหรอ?"
           
"...........ไอ้บ้า"

           
ภุมราหน้าบึ้งทันทีที่รู้ว่าเสียรู้ให้กับนคินทร์อีกแล้ว นายแบบหนุ่มจึงก้มหน้างุดๆ หลบสายตาขี้แกล้งของคนตรงหน้า แก้มแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย ใช่ว่าจะไม่โกรธที่โดนนคินทร์รังแก ใช่ว่าจะไม่น้อยใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมนึกถึงจิตใจของเขาบ้าง แต่ที่ยิ่งกว่าคำว่าโกรธคือคำว่าดีใจ ดีใจที่นคินทร์กลับมาให้ความสำคัญกับเขา พูดคุยกับเขาเหมือนอย่างในอดีต ไม่โกรธขึ้งมึนตึงกับเขาอีกแล้ว แค่นี้เขาก็ไม่อยากได้อะไรอีกเพราะตอนนี้เขาสุขใจเหลือเกิน


คิดสะระตะแล้ว ดวงตาที่หลุบต่ำอยู่นั้นก็รื้นขึ้นด้วยหยาดน้ำใสอีกครั้ง ภุมรารู้ตัวดีเขาอาจจะอภัยให้นคินทร์ง่ายเกินไป แต่จะให้ทำอย่างไรได้เล่า ในเมื่อใจเขารักนคินทร์มากมายจนไม่สามารถทำใจร้ายโกรธอีกฝ่ายได้นานเสียแล้ว สิ่งที่ให้อภัยไม่ได้จริงๆก็คงเป็นตัวเขาเองนี่แหละ


"ภู่…เรื่องเมื่อกี้น่ะฉัน...ขอโทษนะ"
           
           
ภุมราช็อคเล็กๆที่จู่ๆ นคินทร์ก็พูดขอโทษเขาออกมา นายแบบหนุ่มเบิกตากว้าง แม้จะยังก้มหน้ามองพื้นอยู่ เขายังไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถามว่าอีกฝ่ายขอโทษเป็นด้วยหรือ และไม่กล้าพอที่จะมองหน้าอีกฝ่ายตอนนี้ เนื่องจากกลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องตลกร้ายที่นคินทร์อาจใช้ล้อเล่นกับหัวใจเขาก็เป็นได้ แม้ใจหนึ่งจะตะโกนว่า ชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีวันทำแบบนั้น แต่อีกใจก็ยังกลัว

"....ขอโทษเป็นด้วยเหรอเนี่ย"
           
"หึ หึ ฉันก็แค่โมโหไอ้หมอนั่นที่มาทำเป็นหวงนายเท่านั้นแหละ"
           
"หึ ตัวเองก็ทำเหมือนกันไม่ใช่เหรอ"

           
ภุมราพูดเสียงแผ่ว ราวกับกระซิบกับตัวเอง นคินทร์ที่ฟังไม่ถนัดนักจึงรีบเงี่ยหูฟังใกล้ๆ

           
"หือ? นายพูดว่าอะไรนะภู่ ฉันได้ยินไม่ถนัด"
           
"เปล่าๆ ก็แค่บอกว่าช่างมันเหอะ ฉันก็ไม่ได้โกรธอะไรนักหรอก"
           
"เหรอ...หึหึ แต่ว่าเรื่องที่นายผอมลงน่ะ ฉันพูดจริงนะ"
           
"อืม ก็นิดหน่อย"
               
"เพราะนายป่วยใช่มั้ย บอกฉันได้หรือเปล่าว่านายป่วยเป็นอะไร?"
           
"....ก็แค่...โรคอ่อนเพลียนิดหน่อยเท่านั้นแหละ"
           
"จริงเหรอ"
               
"อืม"

               
คำถามที่ออกจากปากนคินทร์เป็นคำถามที่จี้ใจดำของภุมราที่สุด ที่ตอนแรกเขาไม่ยอมบอกให้นคินทร์รู้เพราะเขาไม่อยากสมเพชตัวเองหากนคินทร์ไม่ยอมสนใจ แต่ตอนนี้เขายิ่งไม่อยากบอก เพราะไม่อยากให้บรรยากาศดีๆที่เกิดขึ้นต้องหดหู่ลงไป ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเก็บงำมันไว้ต่อไป ภุมราพยายามที่จะปลอบใจตัวเองว่ายังไงซะ เขาจะต้องรอดและหายป่วยในเร็ววัน หลังจากการเข้ารับการผ่าตัด… ระหว่างที่ภุมรายังคงเงียบอยู่นั้นมือแกร่งของนคินทร์ก็โอบไหล่เขาไว้อย่างอ่อนโยน ภุมราซบศรีษะลงบนไหล่กว้าง รู้สึกสงบใจได้ในที่สุด...



ภาพความรักของทั้งคู่อยู่ในสายตาของหมอธเนตรและซอโดยตลอด ในตอนแรกซอคิดว่าธเนตรจะเข้าไปอาละวาดใส่สองคนนั้นเสียแล้ว แต่เอาเข้าจริงหมอหนุ่มกลับใจเย็นกว่าที่เขาคิดไว้


"ผมไม่เข้าใจ ทำไมภู่ภึงได้เลือกคนแบบนั้น"


จู่ๆหมอหนุ่มก็เปรยขึ้นมา จนซอเองที่ยืนอยู่ด้านหลังถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเอาเข้าจริงจนถึงตอนนี้ เขากับหมอธเนตรยังไม่เคยคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลย ดังนั้นซอจึงเลือกที่จะเงียบไว้ก่อน


‘ถามใครวะนั่น หรือว่าคุยกับตัวเองวะ เอ…หรือว่า กำลังถามเรา…’


“คุณคิดอย่างผมหรือเปล่า…คุณ…คุณชื่ออะไรนะ?”


‘เอ้า!! ไอ้หมอบ้านี่ คุยกะตูอยู่นี่ไม่รู้จักชื่อตูเหรอฟร๊ะ!!’


“เอ่อ…ผมชื่อศุภวิชครับ จะเรียกว่าซอก็ได้”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ซอ”

“ครับ…”

“ขอโทษนะครับที่ผมทำอะไรไม่เข้าท่า แต่ผมไม่เห็นด้วยจริงๆนะที่ภู่จะไปรักคนแบบนั้น”

“ความรักมันห้ามกันไม่ได้หรอกครับคุณหมอ”

“แต่เราก็เลือกที่จะรักได้นี่ครับ ไม่เห็นจะจำเป็นต้องไปรักคนที่ทำร้ายเราเลยนี่”


‘ชะ! ไอ้หมอคนนี้ เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่จริงๆวุ้ย’


“คุณหมอเป็นจิตแพทย์เหรอครับ?”

“…? เปล่าครับ ผมเป็นศัลยแพทย์”

“เป็นศัลยแพทย์ ไม่ใช่จิตแพทย์ งั้นคุณก็ไม่มีความรู้ด้านโน้มน้าวใจคนสินะครับ คุณภู่ถึงไม่เชื่อคุณน่ะ”

“………นี่คุณ!!…อ๋อ อย่างนี้นี่เอง คุณคงเป็นพวกเดียวกับคุณตากล้องนั่นสินะครับ”


แค่ไม่กี่คำที่คุยกันซอก็รู้ทันทีเลยว่า เขากับหมอหนุ่มคงญาติดีกันไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายตั้งค่าหัวเขาว่าเป็นศัตรู เขาก็คงไม่ต้องรักษามารยาทอีกต่อไป


“ผมไม่ใช่พวกใครทั้งนั้นแหละ!! ผมแค่พูดไปตามความจริงก็เท่านั้น ในเมื่อคุณภู่กับคุณนคินทร์รักกันมันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ! ก็ดูมีความสุขกันดีออก”

“คุณใช้อะไรดูกันครับ ว่าเขามีความสุขกัน!! อย่ามาพูดทั้งๆที่ไม่รู้อะไรเลยดีกว่า”

“อ้าว!! ผมก็แค่พูดไปตามที่ผมเห็น แล้วคุณใช้อะไรมาวัดล่ะ ว่าเขาดูไม่มีความสุข อย่าพยายามครอบงำคุณภู่ด้วยคำว่ารักข้างเดียวของคุณสิครับ!!”

“นี่คุณ!! ช่างเถอะ ผมไม่อยากมาต่อล้อต่อเถียงกับคนนอกที่ไม่รู้อะไรเลยอย่างคุณอีกแล้ว”

“เหอะ! คุณเองมันก็คนนอกไม่ต่างกันละว้า!!”

“ผมไม่ใช่คนนอก ผมเป็นคนที่ใกล้ชิดภู่มากที่สุด และรักเขามากกว่าทุกคน!!”

“แต่ความรักของสองคนนั้น คุณเองก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายเช่นกัน!!”

“ใครว่าผมไม่มีสิทธิ์!!”

“อ๋อ!! งั้นสิทธิ์ที่คุณมี คุณถามคุณภู่รึยัง!? ว่าเขาต้องการให้คุณมีสิทธิ์นั้นมั้ย!!”
…………………………………………………………………………………………………

มาต่ออีกรอบ ช่วงนี้ขยัน (กับเรื่องนี้) จัด!! อิอิ
 :try2:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 27-07-2012 00:01:44
ซอ x คุณหมอ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 27-07-2012 00:51:16
ซอน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 27-07-2012 06:36:18
กระแทกไลค์ น้องซอ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 27-07-2012 06:58:18
ดราม่าแน่ๆ  :sad3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 27-07-2012 07:37:30
จิ้นซอกะคุณหมอดีกว่า คู่นี้น่าลุ้น ร้ายเก่ง เถียง ด่า งอน
ครบรส
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 27-07-2012 15:55:13
ชอบซอ
อยากให้ซอคู่กับหมอ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 27-07-2012 23:20:57
ชอบแนวฉลาดๆแบบหมอกะซอมากกว่า ห้าๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 28-07-2012 00:15:36
ซอพูดได้โดนใจมาก ธเนศอะไรนั่นไม่ได้รู้อะไรเรื่องภูภู่สักหน่อยมาตัดสินได้ไง ภู่น่า่จะบอกภูนะว่าเป็นอะไร ทำแบบนี้ไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 28-07-2012 00:55:42
หนูซอตอบคุณหมอได้ใจแม่มาก ๆ เลยลูกเอ๋ย...
ถามถึงสิทธิ์.....จะเอามาจากไหนเจ้าคะคุณหมอขา...
ขอจากหนูซอดีกว่า...ซอยังว่างอยู่นี่นา.... o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 31-07-2012 20:10:29
 :z2:


“อ๋อ!! งั้นสิทธิ์ที่คุณมี คุณถามคุณภู่รึยัง!? ว่าเขาต้องการให้คุณมีสิทธิ์นั้นมั้ย!!” 


เป็นวาทะที่เด้ดมากค่ะ ซอ   ชอบมากเลย   


ไม่ได้เ้ขามาหลายวัยอัพหลายตอนเลย ไม่เสียแรงที่รอเลย 



ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก   


 :z6:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: noo Rock 456 ที่ 31-07-2012 20:33:19
 :-[ :-[ ซอ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 04-08-2012 00:52:51
อ่านรวดเดียวจบ อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!
น้องซอน่ารักมากจ้าาาา ตอบคุณหมอได้เยี่ยมจริงๆ ขอให้คู่กันนะจ๊ะ 555555
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 12-08-2012 11:25:19
รอ ร้อ รอออออออ รออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 21 *สามหัวใจ*(26/07) P.5 อัพอีกแว้ว!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 14-08-2012 18:38:11
ตอนที่ 22 * คืนสุข*




‘แชะ’



‘แชะ’


เสียงลั่นชัตเตอร์ดังเป็นระยะ รอบกายของนายแบบหนุ่มผู้แสนทรงเสน่ห์จนแม้ท้องฟ้ายามค่ำคืนก็มิสามารถกลบประกายเจิดจ้านี้ได้ แล้วยิ่งได้แสงไฟยามค่ำคืนช่วยขับผิวขาวให้ดูเด่นขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้ภุมราดูโดดเด่นจนไม่ว่าใครได้เห็นก็ยากจะห้ามใจไม่ให้ลุ่มหลงในเสน่ห์เย้ายวนนี้ได้ แม้กระทั่งทีมงานที่ว่าเห็นๆภุมราอยู่ทุกๆวันอยู่แล้ว ก็ยังไม่วายยืนมองกันจนเคลิ้ม แทบไม่เป็นอันทำงาน คงจะเหลือแต่ตากล้องหนุ่มนี่แหละที่ยังคงลั่นชัตเตอร์ทำงานของตนอย่างไม่หยุดมือ


“ภู่ เดี๋ยวนายโพสต์ท่าหันหน้าเข้ากำแพง แล้วหันหน้ามาทางนี้หน่อยนะ”

“แบบนี้เป็นไง?”

“อืม...ดี...เดี๋ยวเชิดคางขึ้นนิดนะ”


ปลายนิ้วกร้านของตากล้องกนุ่มบรรจงเชิดคางเรียวของภุมราขึ้นแผ่วเบา


“เอามือวางตรงนี้แล้วกัน”

“อืม...”


ระหว่างที่นคินทร์กำลังช่วยจัดท่าทางให้ภุมราอยู่นั้น ทั้งคู่แอบสบตากันอยู่ไม่ขาดระยะ โดยส่งนัยยะที่รู้กันอยู่เพียงสองคนให้อิ่มเอิบใจกันไม่วางตา


“.....เฮ้ย ไอ้ซอ...”

“ครับ...พี่แอน”

“...แกเห็นอย่างที่ฉันเห็นป่ะ?”

“...ครับ?”

“แกเห็นป่ะ ระหว่างสองคนนั้นอ่ะ”

“ยะ...ยังไงเหรอครับ?”

“ปัดโธ่!! ไม่แหกตาดูมั่งรึไงยะ มานี่เลย...เอ้า! ถ่างตาดูให้ดีซะ แกเห็นอะไรบ้าง”



‘เอาแล้วไง โรคเรื่องชาวบ้านกำเริบอีกแล้ว เฮ้อ~’



ซอคิดในใจ แล้วได้แต่ทำหน้าตาปะหลับปะเหลือก พลางมองไปที่สองหนุ่ม คุณตากล้อง และคุณนายแบบ ที่กำลังสร้างโลกส่วนตัวกันแบบไม่แคร์สื่อ



“ก็...ไม่เห็นมีไรเลยพี่แอน เขาก็แค่ทำงานกันอยู่...”

“อร๊ายยยย!! ไอ้ตาถั่ว แกถ่างตาดูดีๆดี๋ยวนี้เลยนะ เอ้าถ่างรูหูฟังพี่ดีๆก่อนเลย แกจำได้มั้ยว่าตอนมาแรกๆสองคนนั้นน่ะ โคตรจะเป็นไม้เบื่อไม้เมาจนแทบจะหักคอกันตายอยู่แล้ว แต่แกดูตอนนี้สิ ไอ้บรรยากาศมาคุตอนนั้น มันเปลี่ยนเป็นบรรยากาศแบบหวานละมุน อุ่นละไมแบบนี้ไปแล้วง่ะ มันไม่ทะแเม่งๆมั่งเหรอยะ”

“ทะแม่งไรกันครับพี่แอน เค๊าดีกันก็ดีแล้วนี่ พี่อยากให้เค๊าตีกันหรือไง”

“มันก็ดีนั่นแหละ แต่พี่แค่สงสัยว่าสองคนนั้นไปดีกันตอนไหนเท่านั้นเอง เออจริงสิ! วันนี้ที่ไปเดินเที่ยวด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?”

“กะ...ก็...ก็ไม่เห็นมีไรนี่พี่ ปกติดี...เอ่อ...จริงๆนะ”

“หืมมมม...ดูแกมีพิรุธจังเลยนะ ไม่มีอะไรจริงง่ะ?”

“จริ๊งงงง...ไม่มีจริงๆครับพี่ โหย...ผมไม่โกหกพี่หรอกน่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”



ระหว่างที่กำลังเข้าตาจน แอนก็ถูกสต๊าฟฝ่ายอื่นเรียกไปพอดี ซอจึงได้ถอนหายใจโล่งอก คิ้วเรียวขมวดมุ่นเพราะคำถามหนึ่งวนเวียนให้สับสนอยู่ในใจว่า ทำไมเขาต้องคอยปิดบังเพื่อปกป้องสองคนนั้นด้วย แต่เอาเข้าจริงเขาก็ไม่สามารถเปิดปากบอกใครได้อยู่ดี ขณะที่กำลังละสายตาจากคู่รักหวานฉ่ำตรงหน้า สายตาเจ้ากรรมก็ดันไปป๊ะเข้ากับบรรยากาศมาคุใต้ร่มไม้ใหญ่ ใช่ใครอื่น หมอธเนตร ผู้ถูกกันไปอยู่นอกวงโคจร กำลังนั่งทำหน้านิ่งประดุจก้อนน้ำแข็งทั่วโลก แถมแผ่รังสีอำมหิตประหนึ่งว่าหากใครเข้าใกล้อาจไส้บิดตายได้



‘จะมานั่งเฝ้าทำไมอีกวะ...ก็เห็นๆอยู่ว่าเค๊าไม่เอา ยังจะมานั่งเสนอหน้าอยู่อีก เชอะ!!’



ด้วยความที่เพิ่งได้ฟาดฝีปากมาเมื่อตอนกลางวัน ทำให้ซอไม่ใคร่จะมองหมอหนุ่มในทางสร้างสรรค์มากนัก และระหว่างที่ยังใช้สายตาดูแคลนจ้องอีกฝ่ายอย่างลืมตัวอยู่นั้น สายตาของหมอหนุ่มก็หันมาสบเข้าตรงๆกับซอเข้าพอดี ทำเอาผู้ช่วยหนุ่มแทบจะหงายเงิบด้วยความที่ตั้งตัวไม่ทัน



‘เชี่ยแล้ว!!...จะหันมาก็ไม่บอก!!’



ผู้ช่วยหนุ่มรีบหลบตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่ก็เหมือนจะช้าเกินไป เพราะทันทีที่ได้สบตา หมอหนุ่มก็เดินตรงดิ่งมาที่ซอทันที ตอนแรกซอก็พยายามจะเดินหนี แต่กลับโดนคว้าตัวไว้เสียก่อน



“ขอโทษทีนะคุณซอ...ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณหน่อย”

“แต่ผมไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณอ่ะ แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเวลางานของผมด้วย...”



มือแกร่งของหมอธเนตรกระชับแน่นเช้าที่ต้นแขนของซอ นัยทีว่าจะไม่ยอมปล่อย และยังไม่ทันที่ซอจะตั้งตัว หมอหนุ่มก็ออกแรงลากซอออกจากจุดที่กำลังถ่ายทำกันอยู่เสียแล้ว ซอที่ดิ้นรนในคราแรกนั้น ก็ผ่อนแรงลงเมื่อเห็นว่าสะบัดสะบิ้งไปก็ไม่เป็นผล แภมหน้าตาของหมอหนุ่มผู้อวดดีตรงหน้าก็ไม่มีทีท่าว่าจะโอนอ่อนผ่อนตาม สุดท้ายซอจึงจำใจต้องเดินตามไปอย่างเงียบๆแทน



‘ฮึ่ย...ถามกุยัง กุอยากคุยกะเมิงมั้ย ไอ้ถั่วเอ้ย!!’


.......................................................................................


“ภู่...นายหน้าซีดๆนะ พักหน่อยมั้ย?”


นคินทร์ทักออกไปด้วยสังเกตุเห็นว่าหน้าของนายแบบหนุ่มซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด แถมการตอบสนองก็ดูเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น



“ไม่เป็นไร ฉันยังไหวอยู่ อีกนิดเดียวก็จะเสร็จอยู่แล้ว รีบถ่ายเถอะ”

“นาย...ไหวแน่นะ”

“อืม อย่าห่วงมากนักเลยน่า เอาเป็นว่าถ้าอยากให้ฉันพักล่ะก็ รีบถ่ายให้เสร็จเร็วๆจะได้รีบกลับไปพักกันไง”

“อ่า...อืม”


ด้วยคำยืนยันที่หนักแน่นของภุมรา ตากล้องหนุ่มจึงจำใจต้องถ่ายต่อทั้งที่ในใจนั้นเป็นห่วงนายแบบหนุ่มเหลือเกิน


“เอาล่ะ อีกสักรูปสองรูป ก็น่าจะโอเคแล้วล่ะ ภู่ เดี๋ยวนายลองไปโพสต์ท่าที่โซฟาตรงนั้นดูนะ ขอเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อยแล้วกัน”


‘แชะ’


‘แชะ’



“เอาล่ะ เรียบร้อย”

“ฮ้า~ห์ เสร็จซะที”



สัญญาณว่างานเสร็จเรียบร้อยแล้ว สต๊าฟก็เริ่มเก็บของเพื่อที่จะกลับที่พัก แอนที่ง่วนอยู่กับการเช็ครูปภาพก็ได้เงยหน้าขึ้นมาบิดกายคลายความเมื่อยล้า พลันก็นึกขึ้นได้ว่า ผู้ช่วยของตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย



“อ้าว? นี่ไอ้ซอมันหายหัวไปไหนของมันเนี่ย เฮ้ยไอ้ตั๋งเห็นไอ้ซอมั่งมั้ย!!?”

“ไม่เห็นเลยพี่”

“ไอ้จิ๋มล่ะ แกเห็นมั่งเปล่า?”

“ไม่เห็นจ๊ะพี่แอน สงสัยไปเข้าห้องน้ำมั้ง”

“เออๆ ช่างหัวมันเหอะมันกลับเองเป็น...เอาๆ!! เก็บของกันได้แล้ว เร่งมือเข้าหน่อย”


ระหว่างที่แอนยังสาละวนอยู่กับการเก็บข้าวของ และ ทางนคินทร์เองก็กำลังง่วนอยู่กับการเก็บกล้องและอุปกรณ์อยู่นั้น ไม่มีใครทันสังเกตุเลยว่าภุมราได้ล้มฟุบลงไปบนโซฟา และดูเหมือนว่าสติของเขากำลังลางเลือน




“ภู่!!!”



นคินทร์เป็นคนแรที่หันมาเจอภุมรานอนสิ้นเรี่ยวแรงอยู่บนโซฟา ตากล้องหนุ่มทิ้งทุกอย่างในมือพร้อมกระโจนเข้าหาร่างนายแบบหนุ่มทันที



“ภู่! นายเป็นอะไรไปน่ะ ภู่ ได้ยินฉันมั้ย ภู่!”



นคินทร์ลนลานเรียกชื่อภุมราเพื่อเรียกสติร่างบางให้ฟื้นคืน เสียงของนคินทร์ทำให้ทั้งแอนและสต๊าฟคนอื่นๆตื่นตกใจไปตามๆกัน ทุกคนทิ้งเครื่องมืออุปกรณ์ที่กำลังขนๆกันอยู่วิ่งเขามาดูอาการของภุมรากันเป็นการใหญ่



“ภู่ ภู่”

“ฉันโอเค ภู ฉันไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน ก็นายล้มพับไปแบบนี้!!”

“ฮ่า ฮ่า ฉันแค่เหนื่อยน่ะ สงสัยวันนี้เที่ยวเยอะไปหน่อย”

“โถ น้องภู่ ไม่สบายมากหรือเปล่าจ๊ะเนี่ย พี่ไม่น่าจัดตารางงานให้ค่ำมืดขนาดนี้เลย พี่ขอโทษ”



แอนละล่ำละลักถามไถ่ พลางโทษตัวเองเป็นการใหญ่ที่รู้สึกว่าตนเองเป็นต้นเหตุให้นายแบบหนุ่มไม่สบายแบบนี้



“ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับพี่แอน อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิครับ ผมแค่เหนื่อยพักหน่อยก็หายแล้ว”

“งั้นเรากลับกันเลยก็แล้วกันนะ ป่ะทุกคน รีบเก็บของกลับกันเร็ว”



แค่ชั่วอึดใจทุกอย่างก็พร้อมสรรพ นคินทร์ประคองภุมราขึ้นรถและทุกคนก็เคลื่อนรถออกจากที่นั่นทันที โดยที่ไม่มีใครนึกเอะใจเลยว่า ลืมใครอีกคนไว้หรือเปล่า...

.................................................................................


“ภู...”

“หืม”

“ให้ฉัน...เอ่อ...ทำเอง...ได้มั้ย...”

“ไหวเหรอ? ขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ ดูสิ มือนายสั่นเชียว...”

“ตะ...แต่ว่า...ฉัน...”

“ทำไมเหรอ...?”

“ฉัน...อะ...อาย...”



ฟอด...



ปลายจมูกเข้าโฉบกรุ่นกลิ่นแก้มหอมอย่างอดใจไม่ไหว ผลของการกระทำย่ามใจ ยิ่งทำให้ร่างบางบนเตียงนุ่มเขินอายจนน้ำตารื้นขอบตาอย่างน่าสงสาร



“อะไรกันภู่ แค่นี้ก็ร้องไห้แล้วเหรอ ขี้แยไม่เลี่ยนเลยนะนายเนี่ย”

“ก็นายนั่นแหละ ขี้แกล้งไม่เปลี่ยนเลยนะ!”



เสียงหวานตัดพ้อ จนคนที่กำลังกลัดกระดุมชุดนอนให้ถึงกับหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่



“ก็นายชอบทำตัวให้น่าแกล้งเองทำไมล่ะ เป็นใครก็อดใจไม่ไหวหรอก”

“นั่นมันเฉพาะนายคนเดียวต่างหาก ไอ้บ้า...”



บ่นได้แค่นั้น ภุมราก็รีบยกผ้าห่มขึ้นคลุมกายแล้วม้วนจนแทบเป็นดักแด้เพื่อหลบสายตากรุ้มกริ่มที่นคินทร์จ้องมองมา และเพียงครู่ต่อมา  ความอบอุ่นที่คุ้นเคยก็แผ่ซ่านอยู่ที่แผ่นหลัง เมื่อนคินทร์ซ้อนร่างลงแนบข้างพลางวาดวงแขนแกร่งเข้าโอบกอดร่างบางตรงหน้าเข้ากระชับแผ่นอกอุ่น



“นายผอมเกินไปแล้วนะภู่ นาย...ป่วยเป็นอะไรกันหืม?...บอกฉันได้มั้ย?”



นคินทร์กระซิบแผ่วเบาอยู่กับท้ายทอยเล็กของภุมรา น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความห่วงใยคนในอ้อมกอดยิ่งนัก



“ฉัน...เอ่อ...ภู...”

“หืม?”

“ฉันดีใจมากนะที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนายแบบนี้...การที่นายเรียกชื่อฉัน ให้อภัยฉัน...แค่นี้ฉันก็มีความสุขจะแย่อยู่แล้วนะ รู้หรือเปล่า...แล้วยิ่ง...ฮะ ฮะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่านะ แต่การที่ฉันรู้สึกว่านาย...เอ่อ...มีใจให้แบบนี้ ฉันยิ่งมีความสุข จนแทบจะสำลักตายอยู่แล้วล่ะ...”



จบคำของภุมราอ้อมแขนแกร่งก็ยิ่งกระชับขึ้น และภุมราก็รู้สึกได้เพียงแผ่วเบาว่า ด้านหลังต้นคอของตนนั้นสัมผัสได้ถึงความอุ่นชื้นที่อุปมาได้ว่านั่นคือริมฝีปากของคนที่ซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง แม้จะไร้คำพูดใดๆ แต่ภุมราก็ยินดีเหลือแสนแล้วกับปฏิกิริยาของนคินทร์ที่มีให้ แม้ว่าคำตอบจะยังคลุมเครือ แค่การกระทำนั้นมันก็เหมือนจะสื่อออกมาได้ทั้งหมดแล้ว มันคือคำตอบที่บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว และตอนนี้ก็คงถึงเวลาแล้ว...เช่นกัน



“ภู...ขอบคุณนะ”

“ขอบคุณ?...เรื่องอะไร?”

“ทั้งหมด...ตลอดชีวิตที่ผ่านมา...แล้วก็...”

“ขอโทษ...”

“.............”

“ขอโทษจริง ในทุกๆอย่างที่ฉันทำผิดต่อนาย...ขอโทษ...”

“อืม...พอเถอะภู่...”

“ภู...มีอีกเรื่องที่ฉัน...”

“พอได้แล้วภู่...นอนเถอะ พักผ่อนได้แล้วนะ”



ร่างแกร่งกระชับอ้อมกอดเป็นเชิงเตือนให้อีกฝ่ายหยุดพูดและนอนหลับพักผ่อนได้แล้ว



“งก...ฟังฉันหน่อยก็ไม่ได้...ไอ้งก...”



นายแบบหนุ่มบ่นงึมงำเบาๆ แต่ก็ไม่เบาเกินกว่าที่นคินทร์จะได้ยิน ตากล้องหนุ่มกอดก่ายร่างบางแน่นขึ้นอีก พลางปลายจมูกโด่งก็ซุกไซร้ไปทั่วต้นคอขาว เป็นการลงโทษคนช่างบ่น



“อ๊ายยย จั๊กจี้นะไอ้บ้า...”

“ลงโทษเด็กดื้อไง พูดไม่ยอมฟัง หึหึ ถ้ามีแรงบ่นขนาดนั้น เดี๋ยวฉันช่วยทำให้หมดแรงดีกว่ามั้ย จะได้รีบนอนเร็วๆ”



พูดพลางยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วเท้าแขนคร่อมร่างภุมราไว้ นคินทร์จ้องลึกลงไปในดวงตากลมใสของคนใต้ร่าง ใบหน้าภุมรานั้นดูซีดเซียวจนหน้าใจหาย ราวกับอุปทาน แต่ในตอนนี้เขามองเห็นภุมราดั่งแก้วคริสตัลบางใสแสนเปราะบาง จนน่ากลัวว่าจะแตกสลายหายไปต่อหน้าเขาเสียให้ได้  ในสมองของตากล้องหนุ่มนิ่งงัน แต่ภายในใจเล่าก็กลับสับสน นี่เขาเคยเกลียดคนตรงหน้าอย่างนั้นหรือ...หรือว่ามันเป็นแค่ความฝันตื่นหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าเกลียด เขาจะอยากโอบกอดคนตรงหน้าแบบนี้หรือ อยากป้องป้องดูแลขนาดนี้หรือ อยากรักจนหมดใจ...ขนาดนี้หรือ... นคินทร์แสนจะสับสน ยิ่งมองภุมรา ในใจชายหนุ่มยิ่งรู้สึกว่า ทุกสิ่งที่ผ่านมาราวกับเรื่อง...ฝันไป



ขณะที่นคินทร์ยังคงยังจ้องหน้าของภุมราอยู่นั้น มืออุ่นของภุมราก็เอื้อมมาจับแก้มนคินทร์ไว้อย่างแผ่วเบา ดวงหน้าขาวซีดยกยิ้มหวาน ราวกับเทพยดารูปงามผู้เอื้ออารีย์ นคินทร์จ้องมองดวงหน้านั้นด้วยความหลงใหล



“ภู...”

“หืม”

“ฉันมีอะไรอยากบอก”

“อะไรเหรอ”



“ฉัน...”



นิ้วเรียวลูบไล้ตามแนวสันกรามแกร่ง ก่อนจะวกกลับมาที่ข้างแก้มอุ่น ราวกับสัมผัสสิ่งที่มีค่า และน่าหลงใหล ก่อนที่ริมฝีปากบางซีดของภุมรานั้นจะเอื้อนเอ่ยคำที่เชือดเฉือนใจของคนฟังจนขาดวิ่น



“ฉัน....เป็น...เนื้องอกในสมอง...”


.......................................................................


อ่าฮ้า...และแล้วก็รู้กันได้เสียที ว่าภู่ป่วยเป็นอะไร อิอิ

หมายเหตุ : เนื่องจากคนเขียนไร้ความรู้เกี่ยวกับโรคของภู่แบบสุดๆ
ทุอย่างที่เขียนไปล้วนแล้วแต่มาจากจินตนาการ กับการหาผ่านเน็ตเล็กน้อย
อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงต้องขออภัยท่านผู้รู้ทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยนะเจ้าคะ
เอาเป็นว่า อ่านเพื่อความเพลิดเพลินไปก่อนก็แล้วกันนะค๊า

ขออภัยที่คนเขียนไร้ความรับผิดชอบค๊า

ขอบคุณที่เข้าใจและยอมรับนะเจ้าค่ะ
จุ๊บๆ จ๊วบๆๆๆ
 :m29:
THEARBOO
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-08-2012 19:17:08
โอ้..กลับมาแล้ว ภู-ภู่ กลับมาพร้อมกับความหวาน :man1: :m1:เล็กๆ
แต่ก็มาตกใจ :a5: :a5:ตอนท้าย
สมัยนี้การแพทย์ออกจะยอดเยี่ยม นายเอกของเราต้องหายได้จากการรักษานะ
อ๊ะ อ๊ะ อย่าบอกนะว่า จะมีคู่ใหม่อีกคู่คือ ซอกะคุณหมอ ถ้าใช่นะรึ ก็เชียร์ :ped149: :ped149:เต็มที่นะซี
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 14-08-2012 19:28:59
งือ  :o12:

อีกไม่นานก็จบแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: jj@room ที่ 14-08-2012 19:59:36
น่าสงสารจัง อย่าเศร้าน่ะ :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-08-2012 20:01:22
คู่นี้รอแค่ดราม่ารักษาตัวของนายเอก

รออีกคู่ดีกว่า ดูท่าจะจัดจ้าน  :z1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 14-08-2012 20:22:43
 o22 o22


โอยยย เม้นท์ไม่ออก สงสารน้องแต่พี่เชื่อว่าน้องจะต้องหาย

 :z7: :z7:  สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-08-2012 23:08:44
อีกคู่ที่ถูกทิ้งไว้ ไปถึงไหนกันแล้วน๊า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 14-08-2012 23:18:45
อ๊ายเศร้า :z3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 14-08-2012 23:24:45
พี่ภู่จะต้องหายน้าาาา  :m15:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 15-08-2012 00:52:37
สุดท้ายก็รู้ความจริงสักทีนะ เอาใจบช่วย ยอให้หายป่วยนะ และเราก็จะเชียร์คู่ที่สองด้วย เค้าต้องมีซัมริงรองแน่นอนเลย สู้ๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 15-08-2012 02:02:32
ธเนศพาซอไปไหนเนี่ย ภููดูแลภู่ให้ดีนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: reu_aha ที่ 24-08-2012 01:37:40
ตึ๊งงงงง ค้างเลย แง่งๆๆๆๆ

แล้วคุณหมอพาน้องซอไปไหนเนี่ย ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: pjny_tem ที่ 24-08-2012 13:02:44
 :call: :call: :call: สนุกมากเลยมาต่อเร็วๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 09-11-2012 21:52:37

มาต่อเร็วๆนะคะ
อยากอ่านต่อแล้ววว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 09-11-2012 23:15:38
 :a5: :a5: :a5: เเอร๊ย!!!!!!!
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: ~Ti amo~ ที่ 10-11-2012 20:23:05
ตอนแรกไปซุ่มอ่านที่เด็กดีมา... //โดนเตะ  :z6:
ภู่เป็นเนื้องอกในสมอง TT^TT ค้างงง!! รีบมาต่อนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 22 *คืนสุข*(14 สค.) P.6 อัพแล้วจ๊า!!
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 16-11-2012 11:13:13
โอ๊ยย อ่านแล้วปวดหัวใจจังเลยค่ะ ต่อเร็วๆนะค้าา เฝ้ารอเลยยย :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่23*คืนบาป* 21NOV. New up.
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 21-11-2012 18:13:42
ตอนที่ 23 *คืนบาป 1 * (ซอXหมอเนศ)


“นี่ คุณหมอ ไม่ทราบว่าคุณลากผมถ่อมาถึงนี่ทำไมเนี่ย ผมไม่ได้ว่างนะ!!”

“งานคุณก็เสร็จแล้วนี่ เค๊าก็กลับกันไปหมดแล้ว...”



จริงอย่างที่หมอธเนศพูด เพราะเมื่อซอดึงดันหนีกลับมาที่กองถ่ายได้ ก็ไม่เหลือใครแล้ว ทุกคนทิ้งเขาไว้ราวกับของที่ถูกลืม นั่นยังไม่ทำให้ซอรู้สึกหงุดหงิดเท่ากับที่หมอธเนศยังตามราวีไม่เลิก จนสุดท้ายก็โดนลากมานั่งกินลมชมวิวกันที่ร้านเหล้าริมทะเลจนได้



“ว่ามาสิ”

“หืม?”

“ก็ไหนว่ามีอะไรคุยกะผมไง! ถึงได้ลากผมมาถึงนี่น่ะ!!”

“ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”

“ห๋า? อะไรของคุณน่ะ ลากมากินเหล้าเนี่ยนะ”

“เถอะน่าคุณซอ เห็นแก่ผมนะ ช่วยอยู่เป็นเพื่อนผมหน่อยเถอะ ช่วยอยู่กับหมาขี้แพ้อย่างผมที”

“................”

“ได้โปรด”

“อืมๆ...แค่วันนี้เท่านั้นนะ”

“ขอบคุณนะ”

........................................

.............................

........................

...............

เวลาล่วงเลยจากชั่วโมงเป็นสอง สองเป็นสาม และต่อเนื่องจนไม่รู้แล้วว่าตอนนี้มันผ่านไปนานแค่ไหนที่ซอต้องนั่งเป็นเพื่อนนายแพทย์หนุ่มผู้ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงแห่งความทุกข์จากรักที่แพ้พ่าย ดูจากสภาพกองขวดเหล้าและเบียร์ที่แทบจะล้นโต๊ะ กับความรู้สึกมึนๆ วิ้งๆ  จนหัวแทบจะทิ่มอยู่ตอนนี้ อุปมาได้ว่าตอนนี้เขาคงเมาได้ที่แล้วเช่นกัน ส่วนทางด้านหมอธเนศเองนั้นก็เริ่มนั่งตาปรือปรอย หน้าเน่อเห่อแดงจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ซึ่งตอนนี้กำลังรวมอยู่ในกระแสเลือด และทั้งๆที่นั่งดื่มกันมาร่วมหลายชั่วโมงมาแล้ว แต่หมอหนุ่มก็ไม่ได้พูดได้จาอะไรเลยนอกจาก ดื่ม ดื่ม และดื่ม


“นี่...คูนหมอคับ...ใจคอ เนี่ย จาม่ายคูยกันม่างเลยเหรอคับ?”

“.....................”

“ลากโผม   มานั่งบื้อใบ้อยู่ทามมายเนี่ย ฮ๊า!?”

“...ขอโทษ”

“จาพูดอาไรก็พูดมาเด้ อมอารายอยู่ว๊า”


สุดท้ายซอก็ทนไม่ไหวแอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินกว่าจะรั้งสติให้รักษามารยาทไว้ได้อีกต่อไป มือไม้คว้าสะเปะสะปะเข้าที่คอเสื้อของหมอหนุ่ม พลางเค้นถามอย่างเสียอารมณ์ที่อีกคนเอาแต่เงียบจนอึดอัด

“ผม...รักภู่...”

ในที่สุดหมอธเนศก็เริ่มพูดออกมาบ้าง

“เออ ดูก็รู้แล้ว ว่าหมออ่ะ ร๊ากคูนภู่ค๊าวข้างเดียว แต่ในเมื่อคูนหมอก็รู้ตัว ทำมาย ม่ายเลิกตอแย...คูนภู่เค๊าซากทีล๊า...”

ซอเอ่ยต่อว่าด้วยเสียงยานคาง

“ถ้าภู่มีความสุข ผมก็จะยอมถอย”

“เหน เหน อยู่ เค๊าร๊ากกานจาตาย หมออ่ะ ตาดจายได้แร้ว...”

“ไม่ ผมไม่ไว้ใจคุณนคินทร์ ที่ภู่ต้องทรมารขนาดนี้ก็เพราะเขา ผมไม่มีวันยกภู่ให้เขาเด็ดขาด”

“โฮ่ย!! ไอ้หมอพูดม่ายรู้ฟางนี่!!”

“ซอ!!”


พูดไม่ทันขาดคำ ซอก็โดนฤทธิ์เหล้าเข้าแทรก เซแท่ดๆจะล้มแหล่มิล้มแหล่ หมอธเนศจึงรีบยื่นมือเข้าไปรับไว้ก่อนล้มหน้าคว่ำได้อย่างหวุดหวิด ระหว่างที่ซอยังคงมึนๆอยู่ในอ้อมแขนของหมอหนุ่มนั้น แก้มร้อนของซอก็พลันรู้สึกได้ถึงหยดน้ำอุ่นที่ไม่รู้ว่าหยดร่วงมาจากไหน จนสัมผัสได้ถึงแรงสะอื้นจากอ้อมกอดที่ประคองตนอยู่นี่แหละซอถึงได้กระจ่างใจในทันทีว่า หยดนั้นคือหยดน้ำตาแห่งความปวดร้าว ที่หมอธเนศหลั่งออกมาเพื่อคนที่เป็นที่รัก คนที่เป็นของของคนอื่น

เหนือการสั่งการของสมอง ทันทีที่ซอมองเห็นคนตรงหน้ามีน้ำตาไหลอาบแก้ม ดูสิ้นหวัง ราวกับผู้แพ้แก่ทุกสิ่งบนโลก มือเรียวของผู้ช่วยหนุ่มเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนหน้านั้นอย่างเบามือ พร้อมยื่นหน้าเข้าไปจูบซับน้ำตาของคนที่น่าสงสารให้ พลางกระซิบริมหูแผ่วเบา


“ให้ผมช่วยปลอบคุณนะ”

..................................................................................

...................................................

...........................................

.........................

“อ๊ะ”

“อ๊ะ ห...หมอ อ๊ะ”

“อย...อ๊า”


แสงไฟสลัวในห้องบังกะโลของนายแพทย์หนุ่ม ส่องกระทบสองร่างที่กำลังเริงรักเร่าร้อนอยู่บนเตียงกว้าง โดยไม่สนใจว่าเสียงครางวาบหวิวนี้จะดังไปถึงไหนต่อไหน  เนื้อต่อเนื้อเสียดสีกันไม่เหลือช่องว่าง ทั้งเสียงเนื้อที่กระทบกันเป็นจังหวะ ทั้งเสียงเตียงที่ลั่นขานรับ หลอมรวมเข้ากับเสียงหอบหายใจของหมอธเนศและเสียงครางหวานของซออย่างลงตัว เป็นเพลงเสน่หาที่ไพเราะยิ่ง


“อ๊า…………..อ๊ะ…………โอ๊วววว!”


ซอร้องดังขึ้นเมื่อธเนศเร่งจังหวะโรมรันร่างสูงกอดขานวลแนบข้างลำตัวและยกเอวขึ้นเพื่อเปลี่ยนมุมกระแทกกระทั้น


“อะ…..มะ…หมอ………โอ้วววว!!.........”

“อึก….สุดยอด…สุดยอด….อึก!”

ธเนศทั้งกระทั้นและโยกวนส่วนปลายเข้ากับจุดที่ลึกที่สุดของเรือนกายขาวเนียน ความกระสันระคนเสียวซ่านนำพาให้สติสัมปชัญญะของทั้งสองร่างหายสิ้น ที่ยังเหลืออยู่ตรงนี้คือดำกฤษณาที่เรียกร้องอยากปลอดปล่อยเท่านั้น!

“อ๊ะ…อ๊ะ ดี…หมอ…ดะ…ดี…โอ้ว”

“ตรงนี้ชอบใช่มั้ย”

“อ๊ะ! ตรงนั้นดี…อะ…เอาอีก อ๊ะๆๆๆๆ”

ได้ยินดังนั้นธเนศก็เปลี่ยนมุมในการสอดแทรก เขาขยับสะโพกถอยออกมานิดนึง แล้วขยับให้แก่นกายครูดเบียดกับผนังร้อน
กระทุ้งให้โดนจุดกระสันของคนใต้ร่างให้ได้มากที่สุด ราวกับย้ำหัวตะปู


“อ๊า....อ๊ะๆๆๆๆ มะ หมอ อ๊า...ส์”


ซอครางเสียงสั่น เมื่อถูกรุกเร้าจุดไวสัมผัสจนไม่อาจทนได้ สุขสมจนน้ำตารื้นขอบตา  ยิ่งธเนศรู้สึกได้ว่าคนใต้ร่างกำลังสุขสมตัวธเนศเองก็ยิ่งบดเบียดสะโพกสาวกายหนักหน่วง ทั้งโยกทั้งคว้าน จนซอสั่นสะท้านไปท้งร่าง และเมื่อถึงที่สุดแห่งความอดทนสองแขนซอก็กอดรัดร่างของผู้รุกรานไว้แน่น ทั้งเรียวขาขาวก็ตวัดโอบรอบสะโพกแกร่ง

“อ๊ะๆๆๆๆ อ๊างงงง!!! โอ๊ววว ลึก ลึก อ๊าๆๆๆๆ ดี อ๊า!”



ในจังหวะสุดท้ายธเนศขยับกายเข้าออกรุนแรงจนซอหัวสั่นหัวคลอน นอกจากจะรุนแรงแล้วยังคว้านลึกหมุนวนทั่วทั้งช่องทางแคบร้อนจนซอต้องแอ่นร่างรับอย่างเสียวซ่าน


“มะ...ไม่ไหว...ไม่ไหวแล้ว..อะ...อ๊า!!!!!”


จุดสุดยอดที่มาถึงราวกับสายฟ้าฟาด ร่างทั้งร่างของซอเกร็งสะท้านกระตุกเฮือกๆไม่หยุด ตอบรับจุดสุดยอดแบบต่อเนื่อง



“อึก… ดีมาก!... อึก!!”




แรงตอดรัดมหาศาลทำเอาธเนศแทบสำลักความสุขตาย ร่างแกร่งเร่งจังหวะรัวเร็วกระแทกหนักๆในจังหวะสุดท้าย ปลดปล่อยความเร่าร้อนมากมายเข้าไปในช่องทางคับแน่นจนน้ำรักขาวขุ่นเอ่อล้นออกมาถึงด้านนอก ช่องทางคับแน่นตอดรัดราวกับยินดี รีดเร้นหยาดหยดน้ำรักของหมอหนุ่ม แทบไม่เหลือสักหยด ร่างสูงขยับเข้าออกเบาๆอีกสองสามครั้ง เพื่อซึบซาบความสุขที่กำลังกำจายไปทั่วร่าง ความสุขสมจากการได้ปลดปล่อย

หลังจากเสร็จสมซอก็ถึงกับหมดสติสลบไศลไปในอ้อมแขนของหมอหนุ่ม ทั้งที่ช่องทางรักยังโดนความเป็นชายของอีกฝ่ายแช่คาไว้อยู่ ฝ่ายธเนศเองก็เช่นกัน ทั้งฤทธิ์เหล้าและความสุขสมจากการร่วมเพศ หลังจากที่ร่างกายได้รับการปลดปล่อย หมอหนุ่มก็ผล็อยหลับไปบนร่างของซอเช่นเดียวกัน


“ภู่...”

............................................................................

.....................................................

....................................

...........................

"หายหัวไปไหนมาทั้งคืน ห๊ะ ไอ้ซอ คนเค้าเป็นห่วงกันทั้งกองถ่าย ทำอะไรคิดบ้างมั้ยเนี่ย"

"ผมขอโทษครับเจ้แอน คราวหน้าผมไม่ทำแล้ว อย่าโกรธผมเลยนะครับ นะ"

"เออๆ จำเอาไว้ก็แล้วกัน คราวหน้าจะหายไปไหนบอกกันก่อนด้วยนะ"

"ครับ ขอโทษนะครับ"


แอนแทบจะหักคอซอทิ้งทันทีที่เจอหน้า เพราะเจ้าหล่อนแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เฝ้ารอให้เด็กหนุ่มกลับมา แต่สุดท้ายก็หายไปทั้งคืนโยไม่บอกไม่กล่าว แถมกว่าจะกลับมาก็ปาเขาไปเกือบ8โมงเช้า ตลอดทั้งคืนนั้นหล่อนใจคอไม่ดีเลย กลัวว่าซออาจเป็นอันตราย แถมยังอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอีก อาจโดนหลอก หรืออาจโดนทำร้าย หล่อนคิดสะระตะ จนเกือบจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้วดีที่ว่าเจ้าหนุ่มซอกลับมาเสียก่อน แต่จะถามยังไงก็ไม่ยอมบอกว่าไปอยู่ไหนมาทั้งคืน บอกแต่ว่าไปนั่งเล่นกินเหล้าอยู่ที่ร้านริมหาดแล้วเผลอหลับไปเพราะเมาเท่านั้น ทางหล่อนเองก็ไม่อยากเซ้าซี้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไป เพราะอย่างไรเสียแค่ชายหนุ่มกลับมาก็คงไม่เป็นไรแล้ว


วันนี้เป็นการเก็บรายละเอียดวันสุดท้าย ตอนค่ำทุกคนก็จะต้องโบกมือลาเกาะสวรรค์มัลดีฟส์เพื่อกลับประเทศไทยบ้านอันเป็นที่รักที่คิดถึงกันแล้ว

ตอนนี้เพิ่งจะ 8 โมงครึ่ง กว่าจะเช็คเอ้าท์ออกจากบังกะโลก็ตอนเที่ยง ทีมงานทุกคนยังคงพักผ่อนตามอัธยาศัย เพราะทางตากล้องแจ้งมาว่าไม่มีรูปต้องถ่ายซ่อมอีกแล้ว งานทุกอย่างโอเคเสร็จสิ้น ดังนั้นวันนี้ทุกคนจะได้พักผ่อนจนถึงเวลาขึ้นเครื่อง เช้านี้ซอยังไม่เห็นภุมรากับนคินทร์เลย ทั้งสองยังคงอยู่ที่บังกะโล คงจะไปเจอกันอีกทีตอนเช็คเอ้าท์


“อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เราเองก็จะได้อยู่เงียบๆด้วย”


 

ซอนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้หวายหน้าบังกะโล ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหม่อมองออกไปที่ชายหาดสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตงดงามตรงหน้า สมองก็ไพล่คิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับหมอธเนศเมื่อคืน


“ภู่...”


ชื่อสุดท้ายที่ได้ยินก่อนสติจะดับวูบ ชื่อที่คนที่กำลังร่วมรักกับตนเองเอ่ยเรียกออกมา ชื่อของคนอื่นที่ไม่ใช่ตน


“เฮ้อ....เป็นอะไรไปแล้ววะเรา เข้มแข็งหน่อยสิเฟ้ย ไม่ได้รักไม่ได้ชอบหมอนั่นสักหน่อย จะไปคิดมากทำไมวะ โธ่เว้ย”


             
บ่นกับตัวเองไปสองมือก็จิกทึ้งผมบนศรีษะไปอย่างคิดไม่ตก ก็จะไม่ให้คิดได้อย่างไรในเมื่อ เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะไปมีอะไรกับคนอื่น คนที่เขาไม่ได้รัก ไม่ใช่คนที่รักเขา  และที่สำคัญคนคนนั้นเป็นผู้ชาย

ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีอะไรกับผู้ชาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายรับ ยอมรับว่าเขาเป็นเกย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีอะไรกับใครก็ได้ คนแรกที่เคยนอนด้วยก็คือน้องรหัสสมัยมหาวิทยาลัยเท่านั้น และมันเกิดจากที่เขาทั้งสองคนรู้สึกดีๆต่อกัน และคบกันเป็นแฟนแล้ว หลังจากที่เลิกรากับน้องคนนั้น แล้วเขาก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครอีก จนกระทั่ง...เมื่อคืน

มั่นใจว่าไม่ใช่ความรัก และแน่นอนว่าไม่ใช่ความใคร่ ดังนั้นเขาถึงหนักใจอยู่จนถึงตอนนี้เพราะไม่รู้ว่ามันคืออะไรนี่แหละ


“เฮ้อ...ช่างเหอะ ยังไงซะวันนี้ก็กลับแล้ว อยู่ที่ไทยก็คงไม่ต้องเจอกันอีก คิดซะว่า...ฝันไปละกัน”


เหมือนจะตัดใจได้ทั้งที่ลึกๆแล้ว...

...........................

..............

ก็ยังเจ็บ...จี๊ดๆ

 :undecided:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 23 *คืนบาป1*(ซอxธเนศ) 21Nov. new up!!
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 21-11-2012 19:12:24
  :z13:

หายไปนานมาก  เป็นนิยายที่ชอบมากเรื่องนึง

นานแค่ไหนก็รอ  มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ

สงสารซอมากเลย รักข้างเดียว อารมณ์เดียวกับเราเลย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 23 *คืนบาป1*(ซอxธเนศ) 21Nov. new up!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-11-2012 20:46:02
ซอเคยเป็นรุกกับเขาด้วยหรือเนี่ย :a5:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 23 *คืนบาป1*(ซอxธเนศ) 21Nov. new up!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 21-11-2012 21:36:55
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:



ซอคงสับสนน่าดู ใจมันก็คงรู้สึกดีกับหมอ แต่ยังไม่ถึงขั้นรัก  แถมยังมาเจอเหตุการณืแบบนี้อีก


ก็แล้วแต่หมอว่าจะเอายังไง


มาต่อแล้วดีใจนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 23 *คืนบาป1*(ซอxธเนศ) 21Nov. new up!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 21-11-2012 22:59:24
เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ *ปาดเหงื่อ*
ช่วงแรกๆ สงสารภู่มากกกกกกกกกกกกก
ยิ่งช่วงที่อาการป่วยของภู่ออกอาการยิ่งรู้สึกเจ็บปวดดดด แต่เผอิญชอบนิยายแนวนี้อยู่แล้วด้วย
คนเขียนก็ใช้ภาษาดีมากเลยค่ะ อ่านไม่ติดขัดเลย

ดูจากวันที่แล้วรู้สึกว่าจะแอบหายไปนาน
มาต่อตอนใหม่เร็วๆนะคะ
เห็นใจน้องซอ แง่มๆ ขอให้คุณหมอเห็นความน่ารักไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. new up!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 22-11-2012 16:00:54
ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์*



นคินทร์ ความหมายคือ ภูผาสูงใหญ่

นคินทร์ จึงไม่เคยเกรงกลัวต่อสิ่งใด

หัวใจของนคินทร์ก็เช่นกัน มันแข็งแกร่ง มั่นคงและยิ่งใหญ่ ไม่เคยหวั่นไหว หรือสั่นคลอน

ในชีวิตนี้ผ่านมาแล้วทั้ง สุข ทุกข์ เศร้า สูญเสีย เจ็บ...แต่ไม่เคยล้ม ภูผายังคงเป็นภูผา นคินทร์ยังคงเป็นนคินทร์

.
.
.
.
.


“ฉันเป็นเนื้องอกในสมอง”

.
.
.
.


เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา แค่เพียงแผ่วเบาเท่านั้น หากแต่มันกลับ สั่นคลอนภูผาได้ สั่นคลอนหัวใจของนคินทร์ได้  หัวใจที่เคยคิดว่าแน่นหนัก มั่นคง แข็งแกร่งเป็นหนักหนา เพิ่งได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว มันก็แค่ก้อนเนื้ออ่อนๆ ในอกข้างซ้ายเท่านั้น หาได้แข็งแรงทนทานเหมือนที่เคยคิดไว้แต่อย่างใด เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงแผ่วๆนั่น ก้อนเนื้อในอกซ้ายของเขาก็กระอักออกมาเป็นเลือด เลือดที่กลั่นออกมาเป็นน้ำตา หยดเผาะแผะลงบนแก้มซีดๆของร่างตรงหน้ามากมาย อย่างยากจะบังคับ...

แตกสลายแล้ว...หัวใจแห่งภูผา...

แตกสลายแล้ว...หัวใจของ นคินทร์

.
.
.
.
.

หลังการเดินทางที่ยาวนาน ทุกคนก็เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตอน ห้าทุ่มนิดๆ กว่าจะด้ออกจากสนามบินก็เกือบจะเที่ยงคืน สต๊าฟบางส่วนรวมทั้งแอนต้องขนของกลับเข้าออฟฟิตที่สีลมก่อน เหลือแต่ซอ ภุมรา และ นคินทร์ที่แยกตัวกลับบ้านกันได้เลย

“ภู่ นายไหวมั้ย?”

“ไหวๆ นั่งเครื่องนานเลยเหนื่อยน่ะ ไม่ได้เป็นไรมากหรอก”

“เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านนะ ตอนนี้นายพักอยู่ไหน”

“ฉันอยู่ที่คอนโด xxx ตรงแถวๆราชเทวีน่ะ รบกวนหน่อยก็แล้วกันนะ”
.
.
.
.

กว่าแท็กซี่จะมาถึงคอนโดของภุมราก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่า  ภุมราดูเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด พอกลับถึงห้องได้เจ้าตัวก็ผล็อยหลับไปทันที ทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้า  ที่จริงตลอดการเดินทางภุมราหลับแทบจะตลอดเวลา ในรถแท็กซี่เมื่อกี้ก็เช่นกัน ระหว่างทางจากลิฟท์มาถึงห้องภุมราก็แทบจะเดินหลับเสียให้ได้ 

ก้อนอะไรบางอย่างจุกอยู่ที่กลางอกของนคินทร์ ชายหนุ่มนั่งเฝ้าคนหลับลึกอยู่ตรงขอบเตียง มือแกร่งบรรจงลูบเรือนผมนิ่มสลวยแผ่วเบา ดวงตาจับจ้องใบหน้าซีดขาวไร้สีโลหิตไม่วางตา ไม่อยากละสายตาไปไหน ด้วยกลัวเหลือเกินว่าคนตรงหน้าจะหายไปจากมือของตน

เหตุการณ์เมื่อคืนวานยังคงฉายชัดอยู่ในหัว ตอนที่เขารู้ว่าภุมรา ป่วยหนัก น้ำตานคินทร์ไหล เขาร้องไห้สะอึกสะอื้นราวกับเด็กตัวเล็กๆ สองแขนผอมบางโอบกอดศรีษะของเขาไว้ ปลอบโยน



“ตั้งแต่เมื่อไหร่ ภู่ นายป่วยตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ก็ประมาน4-5ปีได้แล้วล่ะ”

“ทำไมนายม่ยอมบอกฉัน”

“ฉันไม่รู้นี่นาว่านายอยู่ที่ไหน”

“งั้นตอนที่เจอกันทำไมไม่ยอมบอก”

“ช่างเถอะภู...ฉันมันก็ป่วยไปแล้ว บอกหรือไม่บอกก็เหมือนกันน่ะแหละ”

“ขอโทษ ภู่ ฮึก ฉันขอโทษ...เพราะฉันไม่ดีกับนายใช่มั้ย นายเลยไม่กล้าบอก ฉันขอโทษ ภู่..ฮึก”

“โธ่...อย่าร้องสิคนดีของภู่ อย่าร้องนะ ภู่พอแล้ว แค่ภูอยู่กับภู่แบบนี้ ภู่ก็พอใจแล้ว อย่าร้องนะคนดี”

“ภูขอโทษ ฮือ...ยกโทษให้ภูนะ”

“ภู่ไม่เคยโกรธภูเลยนะ ไม่เคยเลยแม้สักวินาที”


อ้อมแขนแกร่งตระกองกอดร่างบางแน่น นคินทร์สะอื้นฮั่กอย่างไม่อาย มันเพิ่งจะลงตัวแท้ๆ เพิ่งจะดีขึ้นแท้ๆ เขากำลังมีความสุขราวกับกำลังอยู่ในความฝันแท้ๆ หรือเพราะมันเป็นแค่ความฝันที่หวานจนเกินไป เวลาลืมตาตื่นถึงได้ราวกับตกจากสวรรค์เยี่ยงนี้
เขาเอง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเอง เขาคนเดียวที่เป็นต้นเหตุให้เรื่องราวมันเลวร้ายลงถึงเพียงนี้ ทั้งที่คนตรงหน้าทำดีกับเขาสารพัด เป็นเขาเองที่ไม่ยี่หระ เป็นเขาเองที่ทำร้ายคนที่รักเขาอย่างเลือดเย็น เขาต่างหากที่สมควรจะเป็นคนที่ป่วย เขาต่างหากที่สมควรจะโดนทำร้าย เขาต่างหากที่สมควรจะเจ็บปวด



“ภู่...ภู่ต้องหายนะ ฮึก...ภู่ต้องไม่เป็นอะไรนะ”

“อืม รู้แล้ว...ไม่ต้องห่วงนะภู เดี๋ยวภู่ก็หายแล้วล่ะ”


.
.
.
.
.


ล่วงเลยจนตี 2 แล้วนคินทร์ยังคงนั่นมองคนที่หลับไหลไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่อย่างนั้น แววตาวูบไหวสั่นระริก ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้ง ด้วยสงสารคนตรงหน้าจับใจ อาการป่วยของภุมราหนักหนาเหลือเกิน ทั้งๆที่ป่วยแต่ก็ยังต้องมาทนรับแรงอารมณ์ของเขา ก้มหน้ารับคำพูดผลักไสทำร้าย ยินยอมถูกกระทำย่ำยี แค่คิดนคินทร์ก็แทบกระอักเลือดกับความระยำชั่วช้าที่เขาเคยทำไว้กับภุมรา ทำร้ายคนที่รักเขา ทำร้ายคนที่เป็นดั่งดวงใจของเขาเอง

....................................................................

.................................................

................................

................


แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนอน นคินทร์ลืมตาตื่นขึ้น เพราะแรงขยับจากคนในอ้อมกอด


“ภู่...”

“อือ...”

“ภู่!! ภู่เป็นอะไรภู่”

“อือออ...”

“เจ็บตรงไหน บอกภูสิ ภู่ ภู่!!”


หัวใจนคินทร์หายวาบ ร่างสูงสะดุ้งสุดตัว ลนลานเข้าดูอาการของคนที่นอนดิ้นเร่าๆอยู่บนเตียงท่าทางทรมาน ภุมรากัดฟันแน่น ใบหน้างามซีดเผือด  ไรผมมีเหงื่อผุดพรายทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ไม่ว่าจะเขย่าตัว หรือเรียกยังไงเจ้าตัวก็ไม่ยอมตอบ ได้แต่ดิ้นทุรนทุราย สองมือกุมศรีษะไว้มั่น พร้อมทั้งจิกทึ่งผมไปมา ปากครางอืออาราวกับไม่ได้สติ


“ภู่ ภู่เป็นอะไรไป ภู่ ตอบภูสิ ภู่!”


ในระหว่างที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่นั้น จู่ๆภุมราก็ลุกพรวดขึ้นและอาเจียรออกมา แต่ชายหนุ่มยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน นอกจากอาหารบนเครื่องบินแล้วภุมราแทบไม่ได้แตะอาหารใดๆอีก ดังนั้นเมื่ออาเจียรออกมาจึงมีเพียงน้ำย่อยสีเขียวใสๆเท่านั้น หลังจากโก่งคออาเจียรอยู่เพียงครู่ ภุมราก็ทรุดลงไปนอนเหนื่อยหอบอยู่บนเตียง คิ้วเรียวขมวดมุ่น  นคินทร์ไม่รอช้าอีกต่อไป ร่างแกร่งช้อนอุ้มภุมราที่นอนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงขึ้นในอ้อมแขน จำได้ว่าเห็นกุญแจรถยนต์อยู่ที่หัวนอน คว้าได้ก็ถลาอกจากห้องไปทันที

...................................................................

 :m2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 22-11-2012 16:42:26
 :z13:

อยากอ่านต่อแบบยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ภูนายต้องดูแลภู่ให้ดีๆนะ ในช่วงที่ยังมีโอกาสได้ทำ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-11-2012 18:00:50
บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 22-11-2012 19:36:32
ป่วยมานานขนาดนี้ไม่แปลกที่ภู่จะออกอาการหนักอย่างนี้
สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ ฮืออออออ
ขอให้ภู่หายไวๆ ทั้งคนป่วยกับคนที่สบายดีเจ็บปวดพอกัน ;____;

คนเขียนสู้ๆนะคะ ชอบนิยายแนวแบบนายเอกป่วยอย่างนี้อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-11-2012 20:43:45
ขอเถอะ ชีวิตภู่ทนทุกข์มามากแล้ว ขอให้ภู่มีความสุขจริงๆซะที


อย่าเพิ่งพรากภู่ไปตอนนี้เลย  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 22-11-2012 21:37:50
ลุ้นคู่หมอกับซออยู่ และแล้วก็เป็นจริง

แต่ภู่อย่าเป็นไรนะ ขอให้ผ่าตัดแล้วก็หายด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-11-2012 22:14:34
ภู่คงไม่เป็นอะไรใช่ไหม ภูดูแลภู่ให้ดี ๆ นะ ซอจะเป็นยังไงต่อไปนะเนี่ย ธเนศไม่คิดจะทำอะไรเลยหรือไงกัน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 23-11-2012 22:19:22
ทำไมหนูภู่ปล่อยให้เป็นมานานขนาดนี้ :sad4:

ช่วงนี้เจอแต่เรื่องหน่วงๆ  :m15:

อยากอ่านแบบยาวๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 26-11-2012 12:54:13
ภู่จะเป็นอะไรมากไหมอะ อย่าพึ่งเป็นอะไรไปนะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 26-11-2012 13:17:07
 :เฮ้อ: ยามที่ไม่สนใจ ละเลยมานาน ก็ไม่เจ็บหรอกใจ

แต่พอสนใจ รับรู้ความรู้สึก เมื่อนั้นก็เจ็บหนัก...

แต่รู้ตอนนี้... กับรู้หลังจากนี้อย่างไหนเจ็บกว่ากัน... :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 24 *ดวงใจนคินทร์* 22 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 28-11-2012 23:55:05
 :sad11:   เมื่อไหร่จะมาต่อคะ   :impress3:

 :z3:  รอฉันรอเธออยู่.........     :z10:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 29-11-2012 02:02:58
ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน*




 
“ธเนศอยู่ไหน!? หมอธเนศอยู่ไหน!!?”

หลังจากมาถึงโรงพยาบาล ภุมราถูกส่งตัวเข้าเข้าห้องฉุกเฉินทันที นคินทร์ร้อนใจจนไม่อาจกลั้น เขาตามหาหมอธเนศอย่างทุรนทุราย

“คุณคะ ใจเย็นๆก่อนนะคะ คุณหมอธเนศลาพักร้อนน่ะค่ะ ทางเราโทรไปแล้ว เดี๋ยวเธอกำลังเดินทางมานะคะ”

“โธ่เว้ย ไอ้หมอนั่น มันมัวไปทำอะไรอยู่ในเวลาแบบนี้ว๊ะ!!!”

ครู่ใหญ่ๆ หมอธเนศก็มาถึง หมอหนุ่มรีบร้อนเข้าดูอาการของภุมราทันทีโดยไม่สนใจนคินทร์ที่แทบจะคอยเกาะแจ เมื่อตรวจดูอาการคนไข้ได้สักพัก หมอหนุ่มก็ถอนหายใจลึก พร้อมหันไปแจ้งกับทางผู้ช่วยพยาบาล

 “เตรียมห้องผ่าตัด”

ธเนศหันมาสบตากับนคินทร์นิ่ง ดวงหน้าเครียดขึง

“คุณรู้แล้วใช่มั้ย เรื่องอาการของภู่”

นคินทร์ได้แต่พยักหน้าเงียบๆ ก่อนเอ่ยถามสิ่งที่เขากลัว

“ผ่าตัด…เสี่ยงมากมั้ย?” กว่าที่นคินทร์จะพูดออกมาได้แต่ละคำ เสียงแหบพร่าแทบไม่ออกจากลำคอแห้งผาก เขากลัวจับขั้วหัวใจถึงคำตอบของหมอธเนศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคาดหวัง

“ฟังนะ...เนื้องอกของภู่เป็นแบบ Gliomas (ไกลโอมา) ชนิดที่ไม่ใช่มะเร็ง ตอนที่ผมตรวจพบแรกเริ่มมันมีขนาดแค่ 2.5 เซ็นติเมตรและถือว่ามีอัตราการเติบโตที่ช้า ทำให้ภู่ไม่แสดงอาการอะไร แต่แม้จะเล็กแต่ก็อยู่ในจุดที่ค่อนข้างอันตราย และแม้อัตราการเติบโตของมันจะช้า แต่ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมามันโตขึ้นกว่า 1.9 เซ็นติเมตร จนเริ่มไปกดเบียดทับตัวเนื้อสมองข้างเคียง ที่อาจทำให้ภู่ต้องทานยามากขึ้น และอ่อนแอลง เนื้องอกของภู่น่ะหากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะสามารถหายได้ แม้จะไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่กลับมาเป็นใหม่ก็เถอะ แต่...ภู่ป่วยมากว่า 5 ปีแล้วโดยไม่ยอมเข้ารับการผ่าตัด นอกจากรับเพียงยาบรรเทาอาการ ถึงคนอื่นๆจะมองเห็นว่าภู่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร แต่สิ่งที่ภู่เป็นอยู่มันอันตรายถึงชีวิตได้ทุกเมื่อ...” หมอธเนศพยายามอธิบายให้นคินทร์ได้ฟัง แต่ยังพูดไม่จบ ก็ดันถูกอีกฝ่ายกระชากคอเสื้อแล้วดันเข้ากำแพงเสียก่อน

“แล้วทำไมคุณไม่ยอมรักษาเขา” นคินทร์ตวาดลั่น ยิ่งได้ฟังเขาก็ยิ่งกลัว

“ในฐานะของหมอผมอยากรักษาเขาใจจะขาด แต่ในเมื่อเขาไม่ยอมรับผมก็บังคับเขาไม่ได้!” หมอธเนศตวาดกลับ พร้อมสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของนคินทร์ทันที มองเห็นใบหน้าที่ราวกับจะตายเสียให้ได้ของนคินทร์แล้วก็พาลนึกสะใจเบาๆ ที่ในที่สุดอีกฝ่ายก็ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยได้รับเสียที แม้ว่าตัวเขาเองจะเจ็บไม่ต่างก็ตาม
เขาเองก็รักภุมราไม่ต่างกัน แล้วทำไมเขาถึงจะไม่อยากรักษากันเล่า!!?

ยิ่งคิดธเนศก็ยิ่งเจ็บ แต่ก็ได้แต่ข่มกลั้นความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ ในฐานะของแพทย์ผู้รักษาแล้ว เขาจำต้องใจเย็นให้ได้มากที่สุด

เพราะถูกตวาดเรียกสติ นคินทร์จึงได้รู้สึกตัวว่าเขากำลังเสียศูนย์ ชายหนุ่มพยายามใจเย็นลงแล้วเอื้อมมือมาจับไหล่ของหมอธเนศไว้มั่น เพื่อกลั้นใจถามคำถามสุดท้าย “ภู่จะหายใช่มั้ย?”

 “ตอนนี้อาการเขาหนักมาก ผมเกรงว่า…”

“ผมถามว่าภู่จะหายใช่มั้ย!!!”

นคินทร์ตะคอกเสียงดังมือที่จับไหล่ธเนศอยู่สั่นระริก

“เนื้องอกของภู่อยู่ในจุดที่อันตราย การผ่าตัดมีความเสี่ยงสูง หากโชคดีหน่อย ภู่อาจหาย แต่อาจขยับร่างกายบางส่วนลำบาก โชคร้ายก็อาจไม่ยอมตื่นขึ้นอีกเลย”

แค่ได้ยินคำคาดการณ์เข่านคินทร์ก็แทบพับ เรียวแรงราวกับถูกดูดหายไป นคินทร์ก้มหน้านิ่งงัน ทำนบน้ำตาพังทลาย…
 “ได้โปรด…คุณหมอ…ได้โปรด…ช่วยภู่ที ช่วยภู่ด้วยผมขอร้อง”

ร่างสูงใหญ่สั่นสะท้าน เอ่ยขอร้องหมอธเนศทั้งน้ำตา

“ตอนนี้อาการเขาหนักมาก ผมเกรงว่า…” หมอธเนศอึกอัก
 
“ผมถามว่าภู่จะหายใช่มั้ย!?” นคินทร์ตะคอกเสียงดังมือที่พุ่งไปจับที่ไหล่ของหมอธเนศอีกครั้งสั่นระริก ถึงตอนนี้เขาไม่อยากได้คำอธิบายอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ยินว่าคนรักของเขาจะหาย อยากได้ยินว่าภุมราจะหายดีเท่านั้นเอง

“เนื้องอกของภู่อยู่ในจุดที่อันตราย การผ่าตัดจึงมีความเสี่ยงสูง หากโชคดีหน่อยภู่ก็คงหาย โชคร้ายก็อาจขยับร่างกายบางส่วนลำบาก หรือไม่ก็อาจไม่ยอมตื่นขึ้นอีกเลย” หมอธเนศพูดตามความจริง ไม่ปิดบัง และไม่รักษาน้ำใจ เพราะแค่พยายามครองสติของตัวเองให้มั่นคงพอที่จะทำการผ่าตัดภุมราได้นั้น มันก็เต็มกลืนแล้ว 
 
แค่ได้ยินคำคาดการณ์เข่านคินทร์ก็แทบพับ เรียวแรงราวกับถูกดูดหายไป ชายหนุ่มก้มหน้านิ่งงัน ทำนบน้ำตาพังทลาย…
“ได้โปรด…คุณหมอ…ได้โปรด…ช่วยภู่ที ช่วยภู่ด้วยผมขอร้อง” ร่างสูงใหญ่สั่นสะท้าน เอ่ยขอร้องหมอธเนศทั้งน้ำตา ไม่อยากสูญเสีย ไม่ต้องการสูญเสีย กลัว...เขากลัวเหลือเกิน

เห็นสภาพสิ้นไร้ไม้ตอกของนิคนทร์แบบนั้นเข้าไป หมอธเนศก็ได้สติ เขาเคยรับรู้มาเพียงว่าภุมรารักนคินทร์ข้างเดียว และถูกอีกฝ่ายทำร้ายจิตใจมาตลอด มาวันนี้เขาจึงอยากให้อีกฝ่ายได้เจ็บปวดบ้าง แต่พอเห็นใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยหยาดน้ำตาและความทรมานปานใจจะขาดของนคินทร์แล้ว หมอธเนศก็เข้าใจได้ในทันทีว่าเขาคิดผิด

หมอธเนศยื่นมือมากระชับไหล่ของนคินทร์ไว้มั่น พลางให้คำสัญญาที่หนักแน่นที่สุด “แน่นอนครับคุณนคินทร์ ผมจะรักษาภู่อย่างสุดความสามารถ ผมสาบาน…”
*****************************************************

“ขอโทษนะภู…ทำให้ภูต้องลำบากเลย”

ระหว่างเตรียมห้องผ่าตัด นคินทร์คอยเฝ้าอยู่ข้างภุมราไม่ห่าง คนป่วยรู้สึกตัวขึ้นแล้วหลังจากได้ยาลดความดันในสมองไป ทันทีที่รู้สึกตัวขึ้นได้ก็เห็นว่านคินทร์คอยเฝ้าอยู่ไม่ห่าง มือของเขาถูกชายหนุ่มกุมไว้แน่น เมื่อภุมราเห็นดวงตาแดงช้ำของนคินทร์ที่ผ่านการร้องไห้อย่างหนักก็อดสะท้อนใจไม่ได้

“ทำไมกันภู่…ทำไมถึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้” นคินทร์ตัดพ้อ น้ำตาของร่างสูงไหลอาบแก้มอีกครั้ง หัวใจเขาเหมือนจะขาด พาลคิดซ้ำไปซ้ำมาว่า แค่เพียงเขารู้เร็วกว่านี้ เขาจะไม่มีวันทำร้ายคนตรงหน้าให้เจ็บปวดเลยแม้แต่ปลายผม

“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้ว่านายอยู่ไหน” ภุมราเถียงพร้อมเสียงหัวเราเบาบาง

“นายรู้...ฉันไม่เคยย้ายไปไหน” แต่นคินทร์กลับไม่ขำด้วย

เห็นแบบนั้นภุมราก็ได้แต่ถอนหายใจ เรื่องมันดำเนินมาถึงจุดที่ต้องเปิดใจคุยกันตรงๆแล้วสินะ เพราะไม่แน่ว่าหลังการผ่าตัดแล้ว เขาจะยังมีโอกาสฟื้นขึ้นมาอีกหรือเปล่า

“…..ฉันกลัวนี่นา” ภุมราตอบตามความจริง

“กลัวอะไรกันภู่” และมันก็ยิ่งทำให้นคินทร์ร้อนรน

“ก็ตอนนั้นนายเกลียดฉันเหลือเกิน คนที่ชื่อว่าภุมราในสายตาของนคินทร์ ช่างเลวร้าย…น่ารังเกียจ…ฉันเลยกลัว กลัวว่าถึงบอกไป ก็จะยิ่งน่าสมเพช กลัวภูจะพูดว่าสมน้ำหน้า และไม่ยอมใยดีกันเลย…มันน่ากลัว...กลัวจนฉันพูดไม่ออก” พูดไปน้ำตาของภุมราก็เอ่ออาบ ร่างอ่อนแอสั่นไหวไปตามแรงสะอื้น นคินทร์คว้าร่างสั่นเทิ้มเข้าสวมกอด จูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมกับหยดน้ำตามากมายที่ร่วงลงบนเรือนผมนุ่มของคนในอ้อมแขน

“ขอโทษภู่ ขอโทษที่ฉันปล่อยให้ความเกลียดชัง มาบังตาฉันไว้ ทำให้ฉันทำผิดต่อภู่สารพัด ได้โปรด...ภู่ อย่าลงโทษฉันด้วยวิธีนี้ จะให้ฉันทำอะไรยังไงก็ได้ ให้ไปตายยังได้เลย ขอแค่เรื่องเดียวเท่านั้นภู่...แค่เรื่องเดียว ได้โปรดอยู่กับภูนะ ได้โปรด...อย่าทิ้งกัน...ที่ผ่านมาภูผิดไปแล้ว ภูขอโทษ...นะภู่นะ...”

“…ภู…งั้นฉันขออธิบายเรื่องทั้งหมดอีกครั้งได้มั้ย จะยอมฟังกันได้หรือเปล่า?” มือบางของเจ้าของดวงตาเศร้าสร้อย ดึงมืออีกคนมาทาบไว้แนบอก

“ได้ภู่…ฉันสาบาน จะเชื่อทุกอย่างที่ภู่พูด” นคินทร์รับคำ ทั้งที่ยังคงสะอื้น

ภุมรายิ้มกว้างเมื่อในที่สุดนคินทร์ก็ยอมรับฟังกัน เขารู้ดีว่าเรื่องของอดีตมันไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้วในความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่ แต่ถึงอย่างไรภุมราก็ยังอยากจะบอกเล่าทุกอย่างให้นคินทร์ได้ฟัง ทั้งความรู้สึกที่ตัวเขามีให้ และความเลวร้ายที่เขาเคยได้กระทำ อยากสารภาพบาปกับคนที่รักอย่างสุดหัวใจ

เหมือนเรื่องเก่าเล่าใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา ทุกอย่างที่ออกจากปากภุมรา นคินทร์เคยได้ยินเจ้าตัวอธิบายซ้ำๆ ทุกครั้งที่เจอหน้า แต่เขากลับไม่เคยใส่ใจ นคินทร์ร้องไห้กับร่างในอ้อมกอด หัวใจแตกสลายที่รู้ว่า ภุมราจงใจไม่เข้ารับการรักษา เพียงเพราะต้องการลงโทษตัวเองตามคำพูดของเขา ที่ทุกครั้งคอยสาปแช่งให้เจ็บปวดทรมาน คอยไล่ให้ไปตายให้พ้นๆ เป็นเขาเอง เขาทั้งนั้นที่เป็นต้นเหตุให้คนรักต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เรื่องราวที่เคยคิดว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำ แท้จริงแล้ว คนที่ผิดพลาดมาตลอดกลับกลายเป็นตัวเขาเอง

หัวใจราวกับโดนควักออกมาบดขยี้ นคินทร์ได้แต่โอบร่างอ่อนเปลี้ยนี้ไว้อย่างหวงแหน เจ็บปวดเจียนตายกับทิฐิจนโง่เขลาของตัวเอง

“ขอโทษภู่…ภูขอโทษ ฮึก…ภูขอโทษ” นคินทร์ร้องไห้จนน้ำตาแทบกลายเป็นสายเลือด ปากพร่ำแต่คำขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า แช่งชักตัวเองให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

“อย่าทำอย่างนั้นภู อย่าโทษตัวเองอย่างนั้น ภู่ไม่เคยโกรธภูเลยนะ ไม่เคยเลยทั้งชีวิต คนดีของภู่ แค่ภูไม่ถือโทษโกรธกัน แค่ภูเข้าใจภู่ก็ดีใจที่สุดแล้ว” ภุมราลูบใบหน้าคมสันที่บัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาของนคินทร์ด้วยความรัก

“ภู่รักภูนะ...”

ในที่สุดภุมราก็เอ่ยคำว่ารักออกมาอีกครั้ง ก่อนตั้งคำถามกลับไปให้นคินทร์บ้าง “แล้วภูล่ะ…คนไม่ดีอย่างภู่…ภูจะยังรักมั้ย…เรื่องของฝ้ายที่ภู่ทำให้ภูต้องเจ็บ…ภูจะอภัยให้ภู่ได้มั้ย…ฮึก…ได้มั้ย?” พูดไปพลางทำนบน้ำตาเริ่มระบายความเจ็บร้าวออกมาอีกครั้ง เสียงสั่นเครือปนก้อนสะอื้นจนแทบฟังไม่เป็นภาษา พยายามเอ่ยคำขอซ้ำๆที่เขาเคยพูดกับคนที่กอดเขาอยู่ทั้งน้ำตาอีกครั้ง คำขอที่อาจเป็นการขอครั้งสุดท้าย

“จะโกหกก็ได้ภู…แค่ตอนนี้ บอกรักภู่สักคำ…ได้มั้ย”

“ได้…ภูรักภู่นะ รักเท่าชีวิตที่ภูมี…รักมาตลอด ที่ผ่านมาภูแค่หลอกตัวเองว่าภู่ไม่ใช่ แต่จริงๆแล้วมันไม่เคยเปลี่ยน ตั้งแต่แรกที่เราพบกันจนถึงตอนนี้ ภูรักภู่นะ” นคินทร์ระล่ำระลักตอบ

“ขอบใจนะภู…ถึงจะแค่คำโกหก…แต่มันก็ดีต่อใจเหลือเกิน...อิอิ ตายตาหลับแล้วล่ะ” ได้ยินคำว่ารักภุมราก็ยิ้มกว้าง แม้ดวงตาจะยังเจิ่งนองไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไม่อาจห้าม หรือร่างกายจะยังคงสะอึกสะอื้นจนเหนื่อยหอบ แต่คำว่ารักที่นคินทร์มอบให้มาก็สามารถทำให้เขามีความสุขจนยอมปล่อยวางได้ทุกสิ่งจริงๆ

“ไม่ภู่! ทุกอย่างที่ภูพูดมาเป็นเรื่องจริง ภูรักภู่จริงๆ!!” ใจนคินทร์แทบขาดเมื่อคนตรงหน้าหาว่าเขาโกหก หาว่าคำรักนี้ไม่ใช่เรื่องจิง นคินทร์จับมือซีดเย็นของภุมรามาแนบอก อ้อนวอนให้เชื่อกันอย่างสุดความสามารถ

“ภู…ครั้งหนึ่งภูเคยบอกว่า จะทำให้ภู่เจ็บมากกว่าที่ภูเคยเจ็บ จะเกลียดไปจนกว่าภู่คนนี้จะหมดลมหายใจ และไล่ให้ไปตายให้พ้นๆ…” น้ำเสียงระโหยแรงเอ่ยขึ้น พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ทะลักไหลออกมาอีกครั้ง
 
นคินทร์ปฏิเสธจ้าล่ะหวั่น ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

“ภู่อาจจะทำให้ภูสมหวังวันนี้แหละ หลังผ่าตัดวันนี้...ถ้าภู่ไม่ได้กลับมา…ฮึก…สำหรับเรื่องชั่วช้าที่ภู่เคยทำที่ผ่านมา…ภู่ขอชดใช้ให้ภูในครั้งนี้นะ…ภู่ขอโทษ…อโหสิให้ภู่นะ…”

“ไม่ภู่…ไม่ใช่ ภู่ไม่ต้องชดใช้อะไรแล้ว พอแล้ว ภูต่างหากที่ต้องชดใช้ให้ภู่ ได้ปรดอย่าทิ้งภูไปเลยนะ”

“อีกอย่าง…ขอบคุณนะภู…ที่อย่างน้อย…ฮึก…ในตอนสุดท้าย…ฮึก…ภูก็ทำให้ภู่…ได้เห็นฝันที่แสนหวาน…ฮึก”

“ไม่ใช่ฝันนะภู่…ทุกอย่างคือเรื่องจริง เรื่องที่ภูรักภู่เป็นเรื่องจริง!!” นคินทร์ร่ำไห้ใจแทบขาด เขารู้ซึ้งแล้วว่าภุมรารู้สึกยังไง ในตอนที่อีกฝ่ายอธิบายอะไรมาแล้วเขาไม่ยอมฟังไม่ยอมเชื่อ…มันเจ็บปวด เหมือนกับเขาตอนนี้ ที่ไม่ว่าจะพร่ำบอกรักคนตรงหน้ายังไง อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเชื่อ เจ็บปวด เจ็บปวดราวกับหัวใจโดนปลิดทึ้งออกมาจากอก

ภุมราทั้งร้อง ทั้งสะอื้น จนร่างที่อ่อนแออยู่แล้ว เริ่มหอบหายใจหนักหน่วง มือของเขาพยายามเอื้อมไปที่ใบหน้าของนคินทร์อีกครั้ง เอื้อมไปหาคนที่เขารักอีกครั้ง อยากโอบกอดไว้แนบกายอีกสักหน ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้ทำอีก

กว่าจะได้เอ่ยคำว่ารักแสนยากลำบาก กว่าจะได้สัมผัสโอบกอดภุมราต้องผ่านความเจ็บช้ำมานับไม่หวาดไม่ไหว
ในที่สุด วันนี้ก็ได้มาอยู่ในอ้อมแขนแล้ว...

แต่ทว่า

ตอนนี้ กลับไร้สิ้นแล้วซึ่งพลังในการเหนี่ยวรั้ง

อยากอยู่กับนคินทร์ไปตลอดชีวิต...

แต่ว่า...

เขากลับไร้ปัญญา จะรักษาชีวิตตน

อยากกอด แต่เหลือแรงทำได้เพียงเอื้อมมือแตะต้อง

หากพรุ่งนี้จะไม่เหลือซึ่งลมหายใจ อยากเก็บสัมผัสแสนหวานนี่ไว้เหลือเกิน

ยิ่งคิดยิ่งโศกเศร้า ก้อนสะอื้นตีตื้นตีบตันในลำคอ ภุมราทำได้เพียงแค่นั้น ทำได้เพียงเอื้อมมือไขว่คว้า...ครั้งสุดท้าย

ทันทีที่เห็นคนรักเอื้อมมือหา นคินทร์ก็คว้าร่างร้างแรงขึ้นมาโอบกอด พลางบรรจงจูบมือเรียวที่เย็นเยียบของอีกฝ่ายอย่างหวงแหน พร่ำบอกรักคนในอ้อมอกไม่ขาดปาก น้ำตาลูกผู้ชายของนคินทร์หลั่งรินแทบจะเป็นสายเลือด

จะภินท์พังเสียให้ได้แล้วหัวใจแห่งภูผา...

อยากกอด อยากยื้อเวลาให้หยุดอยู่ตรงนี้อีกสักหน่อย หากแต่ตอนนี้ภุมราไม่ไหวแล้ว สายตาพร่าเบลอจนเห็นภาพซ้อน สมองมึนตื้อ เริ่มขาดการรับรู้รอบข้าง ในหัวมันปวดจนราวกับจะระเบิด ไม่รู้ตัวแม้กระทั่งตอนที่อาเจียนพุ่งออกมาแบบมีแต่น้ำกับลม ลมหายใจเริ่มติดขัดไม่เป็นจังหวะ ก่อนทุกอย่างจะเริ่มดับมืดลง

ภาวะเซื่องซึมลงอย่างกะทันหันของภุมราทำเอานคินทร์ใจเสีย เขามองหน้าคนรักที่เปียกฉ่ำไปด้วยน้ำตาอีกครั้ง ใบหน้านั้นแทบไม่มีการตอบสนอง ดวงตาแดงช้ำเหม่อลอย รูม่านตาหดตัวอย่างผิดปกติ เรียกเท่าไหร่ก็เหมือนกับจะไร้อารตอบสนอง หัวใจนคินทร์กระตุกวูบ ร่างกายสั่นสะท้าน

"ภู่! ภู่!!"  แม้จะตะโกนเรียกเท่าไหร่ ภุมราก็ไม่ตอบสนอง

นคินทร์ลนลานกดเรียกพยาบาลพร้อมตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างบ้าคลั่ง ทั้งพยายามเรียกชื่อคนรักให้ฟื้นสติ เพียงอึดใจพยาบาลและเหล่าผู้ช่วยรีบเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นคินทร์ถูกกันตัวออกจากร่างภุมราที่นอนระโหยโรยแรงอยู่ท่ามกลางเหล่าพยาบาล ดูเหมือนภุมราจะรู้สึกตัวเล็กน้อยในตอนนั้น

ชายหนุ่มผินหน้าไปมองคนรักเนิบช้า รวบรวมเรียวแรงที่เหลือเผยอปากขึ้นอีกครั้ง

หัวใจนคินทร์แหลกสลายกลายเป็นเถ้าธุลีในที่สุด เพราะสิ่งสุดท้ายที่คนรักมอบไว้ให้ คำบางคำที่ภุมราพยายามเอื้อนเอ่ยออกมาแม้ไร้ซึ่งเสียง…หากแต่นคินทร์สามารถเข้าใจในความหมายนั้นได้ทันที




“ลาก่อน…ภูที่รัก”

………………………………………………………………………………….

อืม...เอามันให้ตาย!!
 :m15:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 29-11-2012 02:27:02
ใช่ ตายไปเลย
คนอ่านเนี่ยแหละ ร้องไห้ตายไปเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 29-11-2012 03:56:21
ภู่อย่าเป็นอะไรไปนะ ธเนศต้องช่วยภู่ให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 29-11-2012 07:21:49
ตายแน่ๆ ตายชัวร์ๆ


คนอ่านท่วมน้ำตาตายแน่ๆ โฮฮฮฮฮฮฮ


ไม่นะ เชื่อภูซิภู่ อยู่ต่อไปนะ ต้องมีชีวิตต่อให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 29-11-2012 07:24:36
ตื่นมาอ่าน ร้องไห้ตอนเช้าเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: DIIK ที่ 29-11-2012 11:22:36
ตายยยยยยยยยย
ตายยยยยย
คนอ่านตายจริงๆ  :sad4:

โอ้ยยยยยยยยย
สงสาร สงสารทั้งสองคนเลยค่า ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอให้คุณภู่รอด เชื่อว่าต่อให้เปนอัมพา๖นายภูก็รัก T^T
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 29-11-2012 11:31:19
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 29-11-2012 11:44:11
โอ้ย บีบหัวใจคนอ่านมากเลยอ่ะ สงสารทั้งสองคนเลยอ่ะ แต่อย่างในช่วงสุดท้ายของชีวิตก็ยังมีเรื่องดีอยู่ แต่อย่าจบแบบเศร้าเลยนะ ขอให้มีปาฎิหารย์ก้วยเถอะนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: black love ที่ 29-11-2012 18:36:43
โอ๊ย เศร้า น้ำตาท่วมเลย
ภู่อย่าเป็นอะไรนะ :sad4:
ฮือ ฮือ คนเขียน!!! :serius2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-11-2012 18:43:35
ตาย ไม่ตาย
ตาย ไม่ตาย
ตาย ไม่ตาย
ลุ้นนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 08-12-2012 00:01:10
อ๋าาาจบแบบนี้ ค้างคาอยากอ่านต่อค่ะ ติดเรื่องนี้มากมาย>{}<
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 14-12-2012 11:41:30
ภู่ อย่าเป็นอะไรนะะะะ เข้มแข็งไว้และต้องคิดถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยนะ
ฮืออออออออ
ภูเอ้ย ... หัวใจสลายเลยสิ .....
หมอธเนศสู้ๆนะคะ .. ฮึก...
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: saradino1 ที่ 14-12-2012 18:29:51
จะตายป่าวเนี้ยยยยย   ภุมรา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 14-12-2012 19:11:01
 :o12:
ทรมานแทบขาดใจ   :sad4:
 :m15: :m15: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 22-12-2012 00:39:49
อัพเถอะค่ะ นี่เข้ามารอทุกวันเลยนะคะ;A; ขอร้องล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-12-2012 00:59:40
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Huo_To ที่ 22-12-2012 04:53:22
 วันนี้เพิ่งได้อ่านครั้งแรก ตอนตี1 หะหะ กะว่าไว้อ่านเรื่อยๆ  ตามอ่านอย่างทิ้งระยะถ่ายสด หุหุ

แต่อิฉันพลาดอีกแล้ว  :impress3:
ตัวละครไม่เยอะ ผู้เขียนผูกปมสำคัญไว้ปมเดียว  แต่เอาอยู่มากค่ะ ไม่หลับไม่นอนตามจนทัน  และ

น้ำตาท่วมตาย สาสมใจผู้เขียนแล้ว :m15:  :monkeysad:
รู้ตัวช้า  อยากจะร้องเพลงนี้ (จะมีใครรู้จักกะเธอมั้ยเนี่ยะ)  :z3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 22-12-2012 18:30:19
ดันกระทู้;w;
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 23-12-2012 10:00:58
ม่ายยยยยยยยยยยยยน้าาาาา
ไอเนื้องอกอย่าพรากความสุขไปจากภู่เลย
แงงงงงงง :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-12-2012 23:31:42
ภู่

ชีวิตสั้นจังๆ

เนื้องอกบ้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: MangoBlue ที่ 29-12-2012 11:56:10
ภู่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ!! ได้โปรดดดดด  :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 29-12-2012 19:47:14
ขอบอกเรื่องนี่ชอบมากอะกินใจสุดๆเหมือนชีรี่เรื่องหนึ่งเลย ขอตอนจบแบบสมบูรณ์แบบและหน้าประทับใจทีเถอะครับ คู่ต่อไปหมอกับซอใช้เปล่าแอบลุ้น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 29-12-2012 21:38:58
นั่งรอตอนต่อทุกวัน;w;
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 30-12-2012 00:19:47
ไม่ตาย ชัวร์ !






ถ้าคนแต่งไม่ใจร้ายนะ เฮ้อออออ tt'

จะซะใจดีมั้ยเนี่ย สงสารมากกว่าอ่ะ ถ้าเป็นเราคนที่เคยด่าให้ไปตายจริงๆ
แต่เรากลับรักเค้าขึ้นมา มันก็คง เอ่อ... มันจุกนะ คนนึงกำลังจะตาย
อีกคนกำลังจะเห็นคนรักตายไปต่อหน้าต่อตา ภูมาสำนึกแล้วได้อะไรอ่ะ ?
เข้าใจว่ามีทิฐิแต่ก็นะ... มันก็คือพื้นฐานของความเป็นจริงน่ะแหละ ทิฐิบังตา

ถ้าตายก็อโหสิแล้วก็อยู่กับความรู้สึกผิดไปนั่นแหละ อะไรๆคงแก้ไม่ได้
แต่ถ้ายังอยู่คิดว่าคงไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมหรอกใช่มั้ย ไม่ได้แล้วล่ะ
เอาดราม่าจัดเต็มมาเลยละกัน ทนได้อยู่ละ เอาให้เขื่อนแตกเลยยยย

# ว่าแต่คุณคนแต่งค่ะ จะให้ค้าถึงหนายยยยยยยยยยยย เรื่องมันเศร้ายิ่งกว่านิยายอีก ฮึกฮึก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 11-01-2013 00:33:19
นั่งรอคนเขียน เค้าเข้ามารอทุกวันเลยนะ TwT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 11-01-2013 16:42:27
นั่งรอคนเขียน เค้าเข้ามารอทุกวันเลยนะ TwT

เดี๋ยวเค๊ารีบมาต่อให้ภายในวันอาทิตย์เลยนะจ๊ะ
ดราม่าอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วจ๊ะ

ตอนนี้ขออนุญาตไปจบอีกเรื่องนึงก่อนนะจ๊ะ เรื่องนั้นกำลังจะลงตอนจบแล้วจ๊ะ
ขอบคุณจริงๆนะคะที่เข้ามาติดตามอยู่ตลอดเลย ซาบซึ้งจริงๆจ๊า

ปล. ตอนต่อไป ชื่อตอน “บันทึกของภู่” ค่ะ เศร้าแซดกว่าตอนนี้เล็กน้อยจ๊า

ขอโทษที่ช้านะคะ
 o1
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 11-01-2013 23:35:30
^
^
^
จิ้มๆคนเขียน รออยู่เหมือนกันค้า

เศร้าแซดกว่านี้อีกหรอแค่นี้เค้าก็สงสารภู่จะแย่

ร้องไห้รอ กระซิกๆ :o12:

ปล.ต้องแจกผ้าเช็ดหน้าให้คนละโหลแล้วละคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 13-01-2013 23:59:10
รออยู่เหมือนกันนะคะ^^
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ (นายเอกป่วย) ตอนที่ 25 *ไม่อาจย้อน* 29 Nov. P.7 UP!!
เริ่มหัวข้อโดย: Mengjie_JJ ที่ 14-01-2013 01:24:49
 :sad4: :o12:

บอกไม่ถูก   :sad4:  :sad4:  :sad4:

คนเรา จะมารู้สึกตัวว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นสำคัญ ก็ต่อ เมื่อเรา สูญเสียมันไป

คนที่ไม่เคยเจอก็จะไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 14-01-2013 14:59:40
จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 14-01-2013 15:17:08
^
^
^
เปลี่ยนชื่อเป็นบันทึกของภู่แล้วไหนละเนื้อหาาาา  :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 14-01-2013 15:20:56
*บันทึกของภู่*



ห้องผ่าตัดที่เข้ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ผ่าตัดมาแล้วกว่าร้อยชีวิต ฝีมือการผ่าตัดรักษาของเขาไม่เคยผิดพลาด ชั่วชีวิตการเป็นหมอของเขาผ่านมาแล้วทั้งเคสง่าย เคสยาก แต่ไม่เคยเจอเคสที่ทรมานใจแบบนี้มาก่อน เขาจ้องมองศรีษะที่กะโหลกถูกเปิดอยู่ ภาพที่เขาคุ้นเคย แต่เขากลับทำใจที่จะลงมีดไม่ได้  มีดผ่าตัดสั่นระริก จนเขาต้องขอตั้งสมาธิเรียบเรียงสมองให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว หมอหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ตั้งสติมาดมั่น ก่อนบรรจงกรีดมีดหมอคมกริบลงบนชิ้นเนื้อร้าย
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เข็มนาฬิกาเดินหน้าไปเรื่อยไม่ยอมหยุดพัก จากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสาม ก็ยังไม่มีทีท่าว่าหมอธเนศจะออกจากห้องผ่าตัดเสียที นคินทร์ได้แต่นั่งคอตก ตัวเกร็ง บีบมือตัวเองจนข้อซีด พร่ำภาวนาไม่ขาด ขอให้ดวงใจของเขาปลอดภัย ขอให้หายดี บนบาลศาลกล่าวสารพัด ยอมแลกทั้งชีวิตที่มีก็ได้ ขอแค่ได้คนที่รักคืนมา หัวใจถูกบีบคั้นจนหายหายคอไม่ค่อยออก พร่ำเพียรรอแล้วรอเล่า จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปอีกนานแค่ไหน แต่ในที่สุดหมอธเนศก็ออกมาจากห้องผ่าตัด เสียงประตูห้องผ่าตัดเปิดขึ้นท่ามกลางความเงียบ นคินทร์ลุกพรวดแทบกระโจนเข้าหาหมอธเนศที่หน้าตาอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แววตาทอประกายเศร้าโศกจนนคินทร์หวั่นใจ


“ม…หมอ…ผ่าตัดเรียบร้อยดีใช่มั้ย? ภ…ภู่ ภู่โอเคใช่มั้ย!?”


นคินทร์ละล่ำละลักถามไถ่ อย่างมีความหวัง หมอธเนศถอยหายใจออกมาแผ่วเบา


“ชิ้นเนื้อร้าย…ถูกผ่าออกจนหมดแล้ว…”


“ง…งั้น ภูก็หายแล้วใช่มั้ย หมอ ภู่เขาหายแล้วใช่มั้ย”


นคินทร์พูดรัวขึ้นด้วยความยินดียิ่ง ดวงตาส่องประกายเปี่ยมไปด้วยความหวัง ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้หมอธเนศพูดไม่ออก


“ภู่เขา…ยัง อยู่ในขั้นโคม่า ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด”


“หมายความว่ายังไง…?”


นคินทร์หน้าซีดเผือด แขนขาราวกับจะเริ่มหมดแรง เขาไม่อยากทำความเข้าใจกับคำว่า”โคม่า”ของหมอธเนศตอนนี้เลย


“ชิ้นเนื้อนั่นก็โดนผ่าออกไปแล้วนี่ แล้ว แล้วทำไมภู่ถึงโคม่าล่ะ ไหนบอกว่าให้ผมไว้ใจคุณไงหมอ!! แล้วทำไมล่ะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม!!?”


มือไม้ที่แทบอ่อนแรงของนคินทร์กำแน่นอยู่กับเสื้อคลุมสีเขียวของหมอธเนศ ที่ยังมีกลิ่นคาวเลือดจางๆ กับกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออบอวลอยู่


“ภู่เขา ร่างกายอ่อนแอมาก ตอนที่ผ่าตัดอยู่ ภู่หยุดหายใจไปครู่นึง…”


หมอธเนศอธิบายออกมาด้วยเสียงที่เริ่มสั่น แต่ด้วยความที่เขาเป็นแพทย์ เขาจะแสดงความอ่อนแอออกมาไม่ได้


“แล้ว แล้วจะต้องทำยังไงหมอ ผมจะต้องทำยังไง!!?”


น้ำตาของนคินทร์ที่เหือดแห้งไปแล้วนั้นก็ได้รื้นขึ้นมาอีกรอบ เขาไม่อายที่จะร้องไห้ ไม่อายอีกต่อไป หมอธเนศ สูดหายใจเข้าลึก สองมือกำไหล่นคินทร์แน่น พร้อมกล่าวคำเชือดเฉือนหัวใจของคนฟังให้แหลกสลายอีกครั้ง




“หากภู่ผ่านคืนนี้ไปได้ …ภู่ อาจจะรอด”



พูดได้เพียงแค่นั้น นคินทร์ก็ร่วงลงไปนั่งคุกเข่าเสียแล้ว ชายหนุ่มสะอื้นจนตัวโยน เป็นการสะอื้นเงียบที่บ่งบอกได้ถึงความทรมานจับขั้วหัวใจ


“ลุกขึ้นซะ คุณนคินทร์ ภู่เขาคงไม่อยากให้คุณเป็นแบบนี้หรอกนะ พวกเราต้องเป็นกำลังใจให้เขาสิ โดยเฉพาะคุณ”


ธเนศเรียกสติของนคินทร์ไว้


“ขอผม…ไปดูภู่หน่อยได้มั้ย?”


นคินทร์ครางเสียงแผ่ว


“ได้ครับ เดี๋ยวเราจะย้ายภู่ไปอยู่ที่ห้อง ICU ตอนนั้นคุณจะสามารถเข้าไปดูภู่ได้”


“ขอบคุณนะหมอ…ขอบคุณจริงๆ…”

.
.
.
.
.
.

สายระโยงระยาง ตามร่างกายขาวซีด ผ้าก๊อตสีขาวผืนใหญ่ ห่อคลุมรอบศรีษะ เครื่องช่วยหายใจที่ยังคงทำงานเสียงดังฟู่ฟ่า เสียงชีพจรที่ยังคงเต้นผ่านเครื่องตรวจจับดัง ตี๊ด ตี๊ด และอีกหลายอุปกรณ์การแพทย์ที่เยื่อมโยงอยู่กับร่างแบบบาง นคินทร์จ้องมองร่างนั้นด้วยความสงสารจับหัวใจ เขาได้รับอนุญาตให้เข้ามาที่ห้อง ไอ ซี ยู นี้ได้ แต่ได้ไม่นานนัก นคินทร์ในชุดปลอดเชื้อ เดินเข้าไปสัมผัสมือสั่นระริกของตนลงบนมือบางเย็นซีดนั่น


“คนดีของภู รีบตื่นขึ้นมานะครับ”


“ภูรอภู่อยู่นะครับ ตื่นขึ้นมานะที่รัก ตื่นขึ้นมา ได้โปรด…”


หยดน้ำตาร่วงหล่นลงบนแขนซีด ใบหน้าคมก้มต่ำมองลงไปยังใบหน้าขาวที่ยังคงหลับสนิทโดยมีเครื่องช่วยหายใจเสียบคาอยู่ที่ปาก หัวใจชายหนุ่มบีดรัดอย่างรุนแรง เจ็บปวดกับภาพตรงหน้าเหลือเกิน


“ภู่ครับ…ภูรอภู่อยู่นะ”


“ภูรักภู่นะครับ…รักที่สุดในชีวิต...”


“กลับมาหาภูนะคนดี…”


นคินทร์ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากภุมราแผ่วเบา หยดหยาดน้ำตามากมายร่วงเปาะแปะลงบนผิวแก้มของร่างที่ยังคงหลับใหล ใจจะขาดเสียให้ได้แล้วนคินทร์


“หมดเวลาเยี่ยมแล้วครับคุณนคินทร์ ปล่อยภู่ได้พักผ่อนนะครับ”


หมอธเนศเข้ามาเรียกนคินทร์ออกไป อาการคนไข้ยังอยู่ในอาการโคม่า ไม่สามารถให้เยี่ยมนานได้ นคินทร์เองก็ถอยออกจากร่างภุมราอย่างว่าง่าย เขาออกไปนั่งรอคนรักของตัวเองข้างนอกตามคำสั่งแพทย์ รออย่างมีความหวัง ว่าพรุ่งนี้จะมาถึงและภุมราจะฟื้นขึ้นมาคุยกับเขา เฉกเช่นดังเมื่อวันเก่าก่อน


นคินทร์นั่งรออยู่หน้าห้อ งไอ ซี ยู เงียบๆ ตอนแรกหมอธเนศให้เขากลับไปพักผ่อนก่อน แต่เขาไม่ยอม ตอนนี้เพิ่งจะบ่าย อาการของภุมรายังคงทรงๆ ทรุดๆ นคินทร์จึงไม่อยากจากไปไหน เขากลัวว่า จะกลับมาไม่ทันได้ดูใจคนรัก จึงยืนยันจะไม่ไปไหนท่าเดียว แม้กระทั่งข้าวปลาก็ไม่ยอมแตะ จนเข้าช่วงเย็นที่อาการของภุมราคงตัวแล้วนั่นแหละ เขาจึงยอมทานอาหารที่หมอธเนศเตรียมไว้ให้ โดยบอกกับเขาว่าถ้าอยากอยู่รอจนภุมราฟื้นเขาต้องมีแรงด้วย จึงตัดใจกินอย่างช่วยไม่ได้


ติ๊ด ตี่ ติ๊ด ตี่ ตี่ ติ๊ด…


จู่ๆเสียงโทรศัพท์ไม่คุ้นหูก็ดังขึ้น ตอนแรกนคินทร์ไม่ได้ให้ความสนใจนัก แต่เพราะว่าจะดังอยู่ใกล้ๆเลยเอะใจ ที่แท้ก็เป็นโทรศัพท์ของภุมรานั่นเอง ตอนอุ้มภุมราออกจากห้องนคินทร์คว้ากระเป๋าใบเล็กที่ใส่ของจุกจิกทั่วไปของภุมรามาด้วย เพราะอาจต้องใช้เอกสารสำคัญที่เก็บอยู่ในกระเป๋าเงินของเจ้าตัว


“ฮัลโหล…”


สุดท้าย นคินทร์ก็ตัดใจรับสายแทน


“อ๊ะ คุณภู่หรือเปล่า นี่ผม ซอ เองนะครับ”

“…………เปล่า ไม่ใช่ภู่”


“เอ๊ะ…เอ่อ…ขอโทษครับ ผมโทรผิด…”


“ซอ…ฉันเอง นคินทร์”


“เอ๊ะ อ้าว คุณนคินทร์ อ๋อ…อยู่กับคุณภู่เหรอครับ?”


“…..อืม…”


“เอ้ งั้น เดี๋ยวให้คุณภู่โทรกลับผมหน่อยแล้วกัน บังเอิญว่าพรุ่งนี้ทางทีมงานจะจัดปาร์ตี้ฉลองปิดกล้องกันน่ะครับ เลยกะว่าจะชวนคุณภู่มาร่วมงาน อื้อ ช่วนคุณนคินทร์ด้วยนะครับ มากันหลายๆคนสนุกดี…”


ซอ พูดเป้นน้ำไหลเพราะยังไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดเหตุร้ายกับคนที่ตัวเองโทรหา


“ขอโทษนะซอ…ภู่คงไปไม่ได้…”


“อ้าว ทำไมล่ะครับ เอ่อ…ติดงาน…?”


“ภู่เขา…ไม่สบายน่ะ…”


“ห๋า!! คุณภู่ไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ?”


“ไม่รู้สิ…ตอนนี้ยัง…ไม่รู้เลย ว่าเขาจะตื่นขึ้นมามั้ย…”


น้ำเสียงราวกับจะร้องไห้ของนคินทร์ทำให้ซอรู้ได้ทันทีว่า ภุมราคงป่วยหนักหนาเอาการ


“ตอนนี้อยู่ที่ไหนครับ!!”
.
.
.
.
.
.
.


หลังจากวางสายจากซอไป นคินทร์ก็ถอนหายใจหนักหน่วง ไม่มีเรี่ยวแรงอยากทำอะไรทั้งนั้น คืนนี้ยังอีกยาวนาน เขาสับสนเหลือเกิน เขาอยากให้ค่ำคืนนี้ผ่านไปโดยเร็วเพื่อที่พรุ่งนี้ภุมราของเขาจะได้ฟื้นคืน แต่หากว่าพรุ่งนี้ภุมราจะไม่มีวันฟื้นกลับมาหาเขาอีกแล้วล่ะก็…เขาก็ไม่อยากให้คืนนี้ผ่านพ้นไปเลย


ตุ่บ!


เสียงกระเป๋าหนังสีดำของภุมราร่วงลงพื้น เพราะเมื่อครู่นคินทร์เปิดกระเป๋าล้วงโทรศัพท์ออกมา แล้วยังไม่ได้ปิดให้เรียบร้อยดังนั้น ตอนที่ตก ของในกระเป๋าเลยร่วงกระจัดกระจายไปด้วย ระหว่างที่นคินทร์กำลังก้มลงเก็บให้ พลันสายของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับของชิ้นหนึ่ง มันคือสมุดปกสีน้ำเงินเข้มค่อนข้างจะเก่า ลักษณะคล้ายสมุดจดอะไรสักอย่าง นคินทร์จึงถือวิสาสะเปิดออกดูด้านในสมุดเก่าๆเล่มนี้ที่น่าจะเป็น “บันทึก”




ต่อด้านล่างจ๊ะ

..................................

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 14-01-2013 15:21:09
ต่อจ๊ะ...





‘ย้ายโรงเรียนอีกแล้ว น่าเบื่อ!’


หน้าแรก ประโยคนี้เลย ถ้านคินทร์เดาไม่ผิด คงเป็นช่วงประถมที่ภุมราต้องย้ายมาอยู่กับป้า


‘ในที่สุดก็มีเพื่อนเหมือนคนอื่นๆเขาเสียที
เพื่อนใหม่ ชื่อ “ภู” ล่ะ คล้ายชื่อ ภู่ ของเราเลย ตลกชะมัด
หมอนั่นมีลูกหมาน่ารักด้วยล่ะ คงจะเป็นเพื่อนสนิทที่ดีแน่ๆเลย’




ประโยคนี้คงหมายถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกแน่ๆ นคินทร์เผลอยิ้มออกมาบางๆ เมื่อนึกถึงตอนเยาววัยนั้นก็ทำให้เขาสามารถลืมความทุกข์ตรงนี้ได้นิดหน่อย


‘ทำไงดี! นี่เราแอบรักเพื่อนรักของตัวเองเข้าซะแล้ว!! แถมยังเป็นผู้ชายด้วย!!
ไม่นะ เราเป็นเกย์ เหรอวะเนี่ย!!’




อ่านลงมาเรื่อยๆก็เจอเข้ากับประโยคไม่คาดฝัน แอบรักเพื่อนผู้ชาย…ใครกัน?  บันทึกของภุมรานั้นไม่ได้บันทึกทุกวัน เหมือนกับว่าจะบันทึกแค่เหตุการณ์พิเศษๆ เท่านั้น เพราะประโยคที่ว่าแอบรักเพื่อนนี้ ดูจากที่ลงวันที่ไว้ คงอยู่ช่วง ม.ต้น น่าจะประมาณ ม.2 ถ้าเดาไม่ผิด ภุมราคงหมายถึงเขา…นี่เขาถูกเพื่อนสนิทแอบรักมาตั้งแต่ ม.2 เลยหรือนี่


ความไร้ดียงสาในถ้อยคำที่อยู่ในบันทึก ทำให้นคินทร์อดยิ้มไม่ได้ จากนั้นเขายังกวาดตาอ่านบันทึกของคนซื่อต่อไปเรื่อย ทั้งๆที่เนื้อหาในบันทึกนั้นออกจะน่ารัก ออกจะมีความสุข โดยมากเนื้อหาส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับเขา ภุมราเขียนบรรยายทุกเหตุการณ์ที่ได้ทำร่วมกัน บางทีก็มีมุมหวานๆที่เขาเองยังไม่เคยรู้ตัว บางเหตุการณ์เขาก็หลงลืมไปแล้ว ภุมราที่เขาเคยคิดว่ารู้จักดี เอาเข้าจริง เขาไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้ในเชิงลึกเลยด้วยซ้ำ เขาไม่เคยรู้เลยว่า ภุมราจะอ่อนหวาน ช่างฝัน แสนซื่อ ไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ ไม่เคยรู้สึกตัวเลยว่า ชายหนุ่มจะรักเขาได้ถึงเพียงนี้ นคินทร์ยังคงอ่านบันทึกของคนช่างฝันไปเรื่อยๆ ยิ้มทั้งน้ำตาไปกับความซื่อใสของเจ้าของบันทึก

 
‘ดีใจจังเลย ที่เอ็นฯเข้าคณะเดียวกันกับภูได้ ถึงจะไม่ได้อยู่เอกเดียวกัน แต่ก็เอาเหอะ แค่นี้ก็ดีถมไปแร้ว เย้ๆๆๆ'
ตอนแรกตั้งใจว่าจะสารภาพรักกับภู วันปัจฉิมนิเทศน์ แต่ใจไม่ด้านพอว่ะ สุดท้ายก็ได้แต่กอดคอกันเดินออกจากโรงเรียนเท่านั้น เฮ้อ ไอ้ภู่เอ้ย เอ็งมันป๊อดว่ะ...'




‘ปีหนึ่งโดนบังคับให้อยู่หอพักในมหาวิทยาลัยด้วย หอชายห้องนึงนอนกันตั้ง 4 คนแน่ะ แถมเจ้าพวกนั้นยังอยู่คณะศิลปกรรมอีกต่างหาก เถื่อนได้อีกอ่ะ ทั้งผมทั้งหนวด... ยังดีที่ภูมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย ค่อยโล่งใจหน่อย เฮ้อ...'



‘วันนี้รับน้องคณะ อร๊ากกกก!!! โดนเล่นเกมป้อนไข่ต้มด้วยปากด้วยอ่ะ ตอนแรกได้คู่กับไอ้จ๊อดตัวกวน มันชอบแซวว่าปากเราน่าจูบอยู่ด้วย เล่นเอาผวาไปพักนึงเลยเรา ดีว่าภูขอเปลี่ยนคู่เพราะภูไม่อยากคู่กับผู้หญิง ไอ้จ๊อดเลยยอมแลก ไอ้นี่มันหื่นกับสาวๆตลอด เลยได้เล่นเกมป้อนไข่กับภูแทน แต่บร๊ะเจ้า รุ่นพี่ดันออกกฏประหลาด ตอนแรกให้คนป้อนปิดตาป้อน และคนโดนป้อนโดนมัดมือ แต่ถ้าเป็นผู้ชายคู่กัน หรือผู้หญิงคู่กัน ต้องถูกมัดมือทั้งคู่แล้วป้อนกันด้วยปาก แถมคนป้อนยังต้องปิดตาอีก อร๊ากกก!! ไอ้ภู่จะเป็นลม สุดท้ายก็โดนปิดตาเป็นคนป้อน ไอ้ไข่เวรไข่กรรมนั่นมันดันเป็นไข่นกกระทาต้มใบกะจึ๋งเดียวอีกต่างหาก อายจะตายแล้วไอ้ภู่เอ้ย กว่าจะป้อนกันจนจบเกม ไม่รู้ปากชนปากกับภูไปกี่ครั้ง เกร็งจนเหงื่อแตก พวกรุ่นพี่เหมือนจะพอใจ โห่แซวกันใหญ่ ไอ้ภูก็รุกจ๊างงงง งับทั้งไข่งับทั้งปาก เรียกเสียงกรี๊ดตลอดเกมเลยทีเดียว จำได้ว่าตอนจบเกมไอ้ภู่เอ็กไซด์จนกำเดาไหลโกรกจมูก ฮืออาหามไปปฐมพยาบาลกันแทบไม่ทัน ภูเองก็ช่วยดูแลไม่ห่าง แฮะๆ แอบดีใจเล็กๆแฮะ อิอิ'



‘วันนี้ภูไม่อยู่ ไปรับน้องในสายวิชาเอก เหงาแฮะ ดีว่ามีไอ้อาร์กะไอ้ลี เด็กศิลปกรรมที่ยังคงหน้าเถื่อนได้อีกอยู่เป็นเพื่อน เอาเข้าจริงไอ้สองตัวนี้ก็นิสัยดีไม่หยอก ไอ้ลีมันฮาได้ทั้งวัน ออกแนวรั่วๆ ส่วนไอ้อาร์มก็ซึนซะ แต่รวมๆแล้วก็น่ารักดี อยู่กับพวกมันแล้วไม่เหงาดีเหมือนกัน'



‘ถูกส่งชื่อเป็นดาวคณะด้วยอ่ะ เวรละ ทำตัวไม่ถูกเลย ทำไงดี ทำไงดี'



‘วันนี้เป็นวัน bye freshy ทุกคนแต่งชุดนักศึกษาถูกระเบียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมที่อยู่หลังเวทีเตรียมตัวออกไปโชว์ตัวในการประกวดดาวคณะต่างๆ ภูที่เป็นตากล้องอยู่ก็แซวไม่หยุด เขินนะเว้ย (>////<) เพิ่งเห็นไอ้อาร์เวอร์ชั่นไม่มีหนวดเครา ผูกผมเรียบร้อย พระเจ้าช่วย หล่อบรรลัยเลยง่ะ นี่มันเงาะถอดรูปชัดๆ...'



‘งานเยอะชะมัด ไม่อยากเป็นเลยไอ้ดาวมหาลัยเนี่ย ชิ...ใครโหวตตูฟร๊ะ เลยไม่ค่อยได้กินข้าวกับภูเลย ฮือๆๆๆ'
สอบปลายภาค ยากสุดๆ เฮ้อ นี่ขนาดอ่านหนังสือหนักแล้วนะเนี่ย'




‘ขึ้นปีสองต้องอยู่หอนอก วันนี้ต้องย้ายห้องแล้ว ตกลงไปเช่าห้องอยู่กับภูสองคน เพราะประหยัดดี วันนี้เพิ่งจะรู้นะเนี่ย ว่าลีกับอาร์มคบกันอยู่ ว่าแล้วเชียว ไอ้สองตัวนี้มันทะเม่งๆ ฮามากตอนที่รู้ว่าไอ้ลิงลีเป็นรับ แล้วไอ้ซึนอาร์มเป็นรุก นี่มันแอบไปได้กันตอนไหนเนี่ย...’



‘วันนี้มีสาวมาสารภาพรักด้วยอ่ะ ชื่อฝ้าย อยู่คณะเดียวกัน หน้าตาน่ารักมาก สวย หวาน แต่เรารับรักฝ้ายไม่ได้ง่ะ ก็นะ ใจมันไม่ว่างนี่ ไอ้ภูมันยึดไปหมดแร้ว (แต่มันดันไม่รู้ตัว)...เฮ้อ...'



‘ภูรักฝ้าย ...ไม่จริงใช่มั้ย?'



อ่านมาถึงตรงนี้ หัวใจนคินทร์ก็เต้นถี่ขึ้น เรื่องของฝ้าย เรื่องที่ทำให้เขากับภุมราถึงกับเข้าหน้ากันไม่ติด ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในนี้ นคินทร์กลืนน้ำลายเหนี่ยวๆลงคอ แล้วกวาดสายตาอ่านต่อไปด้วยใจระทึก



‘วันนี้ฝ้ายมาหาเรา บอกว่าที่จริงไม่ได้รักภู แต่ที่ทำไปเพราะต้องการประชดเรา และบอกให้เราตกลงเป็นแฟนกับเธอซะ ฝ้ายจะได้เลิกยุ่งกับภู ...นี่เราจะทำยังไงดี'



‘มีอะไรกับฝ้ายไปซะแล้ว เราไม่อยากให้ภูโดนหลอกอีก ถ้ายอมทำแบบนี้ ฝ้ายจะได้ปล่อยภูไป...'



‘เราเป็นแฟนกับฝ้ายไม่ได้ เราทำไม่ได้ เมื่อไหร่ฝ้ายจะยอมเข้าใจ'


‘ภูโกรธ ที่เราแย่งฝ้ายมา เราไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย ภู...เรารักภูนะ...'


‘วันนี้เราทะเลาะกับฝ้ายอีกแล้ว ทำไมฝ้ายอารมณ์รุนแรงนักนะ เพราะเธอทุบตีเรา เราแค่ผลักเธอลงบนเตียงเท่านั้นเอง เธอกลับลุกขึ้นมาจิกทึ้งทำร้ายตัวเอง ห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง นี่มันอะไรกันเนี่ย!!'


‘โดนภูต่อยด้วยอ่ะ หาว่าเราทำร้ายฝ้าย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับ... เฮ้อ ความรักที่ให้มาตลอดมันไม่สามารถสื่อถึงใจภูบ้างเลยหรือไงกันนะ ความรักของภู่คนนี้มีค่าน้อยกว่า ผู้หญิงที่ชื่อว่าฝ้ายใช่มั้ย?'


‘เราย้ายของออกมาอยู่กับฝ้ายแล้ว อย่างนี้ดีแล้วใช่มั้ย เพราะถึงอยู่ในห้องนั้นกับภูต่อไป ภูก็คงจะรังเกียจ ตั้งแต่มีเรื่องกัน ภูไม่ยอมกลับห้องเลย งั้นถ้าเราออกมาซะ...ภูก็คงจะดีใจสินะ...'


บันทึกในมือสั่นระริก ไหล่ทั้งไหล่สะท้าน น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วในคราแรก ไหลทะลักออกมาอีก ปวดใจเหลือเกินที่เคยทำร้ายภุมราขนาดนี้ เกลียดความโง่งมของตัวเองจนแทบจะกัดลิ้นตาย เจ็บใจตัวเองเหลือเกิน



‘ฝ้ายตายแล้ว...ภู่ขอ อโหสิกรรมนะฝ้าย ภู่ขอโทษ...'



‘พูดไปก็เหมือนแก้ตัว งั้นขอจดบันทึกนี้เอาไว้เงียบๆคนเดียวแล้วกัน... ที่จริงที่ฝ้ายประสบอุบัติเหตุอาจเป็นเพราะเราก็ได้ วันนั้นเราอยู่ในรถของฝ้าย เราสองคนทะเลาะกันในเรื่องเดิมๆ ฝ้ายขับรถเร็วมากจนเรากลัว พยายามห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง คาดคั้นให้เราเลิกรักภู ซึ่งเราทำไม่ได้ ตอนนั้นเราได้แต่คิดว่า ทำไมฝ้ายไม่รู้จักพอนะ เราก็ยอมอยู่ด้วยแล้วไงล่ะ ทำไมยังจะบังคับใจเราให้เลิกรักคนที่เรารักอีก เราไม่เข้าใจเลย แล้วฝ้ายก็พูดว่า ฝ้ายจะทำให้ภูเกลียดเราไปตลอดชีวิต เรากลัวมาก เพราะฝ้ายต้องทำได้จริงๆแน่ๆ เราหมดทางจริงๆ สุดท้ายก็ได้แต่พูดความในใจซึ่งไม่เคยบอกใครให้ฝ้ายได้ฟัง เรื่องงี่เง่าของผู้ชายคนหนึ่ง เรื่องงี่เง่าที่ว่าเรารักภูมากแค่ไหน แม้จะเป็นได้แค่เพื่อน หรือเป็นผู้ชายเหมือนกัน เราก็ไม่เคยสนใจ ยังคงดิ้นรนจะรักทั้งที่ไม่มีความหวัง เราขอแค่นี้จริงๆ แต่เหมือนฝ้ายจะไม่ยอมเข้าใจ เธอร้องไห้ ทั้งๆที่แววตามีแต่ความโกรธแค้น โกรธจนน้ำตาไหล อยากเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตานั้นให้ แต่ฝ้ายกลับพูดอะไรที่น่ากลัวที่สุดขึ้นมาเสียก่อน "ถ้าฝ้ายไม่ได้ ใครก็ไม่มีวันได้! ฝ้ายรักภู่ ภู่ก็ต้องรักฝ้าย ในเมื่อภู่บอกว่ารักฝ้ายไม่ได้ งั้นเรามาตายไปด้วยกันซะเลยแล้วกัน!! สิ้นคำฝ้ายก็ขับรถอัดเข้ากับเกาะกลางถนนอย่างจัง จำได้ว่ารถลอยคว้างอยู่พักนึง ก่อนจะกระแทกหงายท้องขึ้นพร้อมกับครูดไปกับถนน จำไม่ได้ว่าไกลแค่ไหน เพราะตอนนั้นสติเราเลือนรางเหลือเกินแล้ว รู้สึกตัวเอาตอนที่เริ่มได้ยินเสียงคนเอะอะ เข้ามาช่วยดึงร่างเราสองคนออกจากซากรถ... "ภู่ อภัยให้ฝ้ายนะ ที่ผ่านมาฝ้ายขอโทษ" คำพูดสุดท้ายที่เราได้ยิน ก่อนที่สติจะดับวูบไป แล้วมารู้ทีหลังตอนที่มาฟื้นขึ้นที่โรงพยาบาลว่า นั่นเป็นถ้อยคำสุดท้ายจากผู้หญิงที่ชื่อฝ้าย ผู้หญิงที่รักเรา... ฝ้ายคอหักตายในที่เกิดเหตุ ส่วนเราบาดเจ็บที่หัวเพราะโดนกระแทก กับข้อมือร้าว ไม่ได้บาดเจ็บมากไปกว่านั้น เราสับสนเหลือเกิน ถึงจะไม่ได้รักฝ้าย แต่ก็อดที่จะใจหายที่เธอจากไปไม่ได้ เพราะรู้ดีว่าฝ้ายรักเราแค่ไหน ขอโทษนะฝ้ายที่ภู่ทำให้ฝ้ายต้องเจ็บปวด อโหสิกรรมให้ภู่ด้วยนะฝ้าย... ภู่ขอโทษ...'



‘วันนี้เราเพิ่งจะได้ไปร่วมงานฌาปณกิจของฝ้าย เพราะก่อนหน้านั้นเราอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน หมอจึงต้องเก็บตัวไว้ดูอาการ อีกทั้งแผลถลอกตามร่างกายที่ดูเหมือนจะอักเสบ กับข้อมือที่ยังคงร้าวระบม กว่าจะได้ออกมาก็เป็นวันเผาพอดี วันนี้เราเจอภูด้วย ภูโกรธเรามาก บอกว่าเราเป็นต้นเหตุให้ฝ้ายตาย บอกว่าเราเป็นฆาตกร... เราอยากอธิบายแต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เราเองก็เลวกับฝ้ายมาเยอะเหมือนกัน จะบอกว่าเราไม่เกี่ยวเลยก็คงไม่ได้... ภูโกรธเรา เกลียดเรา จนกระทั่งประกาศกลางงานว่าจะจงเกลียดจงชัง ผรุสวาทสาปแช่งให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ประกาศตัดขาดไม่ขอพบเจออีก... เจ็บมาก จำได้ว่าเจ็บจนหายใจไม่ออกเลย ราวกับหัวใจถูกมีดกรีดลงซ้ำๆ จากที่ขาดวิ่นอยู่แล้ว ก็ยิ่งแหลกละเอียด ภู...ภู่เจ็บปวดเหลือเกิน...'



อ่านถึงตรงนี้นคินทร์รีบปิดบันทึกลงพร้อมก้มลงร้องไห้สะอื้นฮั่ก เกลียดตัวเองจนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว  แต่ถึงตรงนี้เขาอยากอ่านมันให้จบ อยากรู้ความรู้สึกทั้งหมดของภุมราให้สิ้น เพื่อที่พรุ่งนี้ ตอนที่ภุมราตื่น เขาจะเข้าไปขอโทษ เข้าไปปลอบประโลมคนที่เป็นดั่งหัวใจของเขา ยอมรับผิดทุกอย่างทุกประการแล้ว



หลังจากบันทึกวันที่ฝ้ายจากไป ดูเหมือนว่าภุมราจะไม่ได้เขียนบันทึกอีก เพราะเหตุการณ์ต่อมาที่ภุมราเขียนลงไป นั่นคือตอนที่พวกเขาเจอกันอีกครั้งที่สนามบินก่อนไปถ่ายแบบที่มัลดีฟ  คงเพราะหลังจากงานศพฝ้ายครานั้น เขากับภุมราแทบไม่เจอกันอีก ต่างคนต่างอยู่จนกระทั่งเรียนจบ และแยกย้ายกันไป เขาเคยรู้อยู่บ้างว่าภุมราเป็นนายแบบอยู่ช่วงหนึ่ง ได้ยินว่ามีชื่อเสียงมาก แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ถอนตัวออกจากวงการ แต่จะไปทำอะไรที่ไหนยังไงเขาไม่รู้ เอาเข้าจริงคือเขาไม่สนใจ ตอนนั้นเขาไม่อยากรู้เรื่องของชายหนุ่มเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งมันทำให้เขาพลาดอยู่แบบนี้นี่เอง



‘พรมหมลิขิตหรือเปล่า... ที่ทำเราได้เจอภูอีกครั้ง ขอบคุณครับพระเจ้า ขอบคุณครับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอบคุณที่ยังให้โอกาสผม...'




'ปวดหัวจัง... ไอ้เนื้องอกบ้า จะมางอกทำไมที่หัวชาวบ้านเขาวะ!!'



นคินทร์พยายามพลิกกลับไปดูหน้าอื่นๆว่ามีบันทึกเกี่ยวกับการที่ภุมราเป็นเนื้องอกในสมองหรือเปล่า แต่ก็ไม่มี หลังจากงานศพฝ้าย ภุมราไม่เคยบันทึกอะไรอีกเลย แม้แต่คำเดียว



‘เขินจัง... โดนภูจ้องผ่านเลนส์แบบนี้…(>///<)'



‘เราถูกภูข่มขืน... เจ็บปวดที่สุดทั้งใจ ทั้งกาย ทำไมถึงทำแบบนี้กับเรานะ เพราะเกลียดมากงั้นเหรอ ผ่านมานานขนาดนั้นแล้ว ยังไม่ให้อภัยกันอีกหรือ...'



‘ปวดจนหัวจะระเบิดแล้ว... ทรมานเหลือเกิน ถึงเวลาของเราแล้วหรือนี่...'



‘ภูแปลกไปอ่ะ ถึงเนื้อถึงตัวเกินไปแฮะ หรือเราจะคิดไปเอง...'



‘โอย...เขียนหนังสือไม่ไหวแล้ว ...บังคับมือไม่ได้เลย...'



‘นี่อาจเป็นบันทึกครั้งสุดท้าย ...แต่มันก็เป็นการจบบันทึกที่ดี อย่างน้อยภุมราคนนี้ก็มีความสุข ไม่รู้หรอกว่าภูคิดอะไรอยู่ แต่การที่ภูดีกับเรามากขนาดนี้ เราก็มีความสุขมากๆแล้วล่ะ คนบาปอย่างเราจะยังต้องการอะไรมากไปกว่าการให้อภัยจากคนที่เรารักกันล่ะ อิอิ งั้นวันนี้เขียนยาวหน่อยแล้วกันนะ เผื่อในวันที่เราไม่อยู่แล้ว อาจมีใครสักคนสนใจเปิดอ่าน (ใครวะ?)... หลังจากเรียนจบได้สองปีตอนนั้นเราเป็นนายแบบดัง ไม่ได้คิดอะไรมากแค่อยากทำงานเก็บเงิน เผื่ออนาคตใครจะรู้อาจแต่งงานมีลูก มีครอบครัวกับใครสักคน วันที่จะสามารถเลิกรักผู้ชายที่ชื่อ "นคินทร์" ได้ วันนั้นจะมีมั้ยนะ (เฮ้อ) ทำงานเข้าปีที่สอง สุขภาพเริ่มย่ำแย่ เพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการปวดหัวที่ปวดอยู่ประจำเริ่มจะหนักขึ้น บางครั้งตอนเช้าก็มีอาเจียรโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยบ้าง และบางทีมือไม้ขยับไม่ค่อยได้ดังใจ เริ่มรู้สึกแปลกๆ เลยลองเข้ารับการตรวจ กับหมอที่หนุ่มมากคนหนึ่ง หน้าอ่อนยาว์จนไม่นึกว่าจะเป็นหมอฝีมือดีได้เลย ผลการตรวจน่าตกใจมาก เพราะเราเป็น "เนื้องอกในสมอง" แถมยังงอกอยู่ในส่วนที่ผ่าตัดยากเสียด้วย คาดว่าอาจเกิดจากการที่สมองโดนกระทบกระเทือนตอนเกิดอุบัติเหตุกับฝ้าย หมอแนะนำให้เรารีบรักษา แต่เราปฏิเสธ นี่คงเป็นผลกรรมของเราที่เราเคยทำไว้กับภูและฝ้าย เราเลยขอรับกรรมนี้เอง ดีเสียอีก อย่างน้อยในตอนที่ได้เจอกับภูอีกครั้ง เราจะได้พยายามที่จะบอกรักภูอีกครั้ง พยายามอยู่เคียงข้างภูอีกครั้ง โดยไม่ติดใจอะไรอีก เพราะเรากำลังจะได้ชดใช้กรรมแล้ว ไม่แน่นะ ภูอาจอภัยให้เราก็ได้ ...ในวันสุดท้ายของชีวิต เราอาจสามารถบอกรักภูได้เต็มปาก ...และในวันที่ได้ไปเจอกับฝ้ายที่โลกหน้า จะได้ยืดอกขอโทษเธอได้อย่างเต็มภาคภูมิ เฮ้อ...อยากเขียนต่ออ่ะ แต่ไม่ไหวแล้ว สะกดคำไม่ค่อยจะถูก บังคับมือไม่ค่อยจะได้ ลายมือตอนนี้ไก่เขี่ยยังสวยหว่าอีก 555+'



‘ภู่รักภูนะ รักเท่าชีวิต...'



'เรื่องเลวร้ายที่ภู่เคยทำ ภูอภัยให้ภู่ได้มั้ย ภู่ทำมันลงไปเพราะภู่รักภูเหลือเกิน แค่เพียงสักครั้งก่อนชีวิตของภู่นี้จะดับสูญไป กอดภู่สักครั้งได้หรือเปล่า บอกรักภู่สักครั้งได้หรือไม่คนดี แค่ครั้งเดียวเท่านั้น วินาทีเดียวก็ได้ ขอร้องล่ะภู สงสารภู่นะ ...กอดภู่ที'



‘ได้โปรด...ยอดรัก...’




‘กอดภู่ที...'
.
.
.
.
.

บันทึกจบลงแค่ตรงนี้ นี่ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้ว นคินทร์เหม่อมองเข้าไปที่ประตูห้อง ไอ ซี ยู



"ภู่ นายต้องรีบหายนะ ฉันยังติดค้างนายมากมายเหลือเกิน นายต้องรีบมาเอาคืนนะ ฉันยอมทุกอย่างเลย ภู่ รีบตื่นขึ้นมาสิ ได้โปรด..."



"คุณนคินทร์!!"



".......ซอ?"


นคินทร์หันไปมองตามเสียงเรียก เป็นซอนี่เองที่วิ่งกระหืดกระหอบมา


"ขอโทษนะครับที่มาช้าไปหน่อย ผมติดเคลียร์งานไปให้ลูกค้า และเพิ่งไปตามพี่แอนมาน่ะครับ เนี่ยเดี๋ยวก็คงตามกันมา คุณภู่เป็นยังไงบ้างครับ?"


ไม่รอให้ถึงตัวก่อน ซอตะโกนถามมาตังแต่ไกล


"ภู่เขายังหลับอยู่น่ะ..."


"เอ่อ...ปลอดภัยแล้ว ใช่มั้ยครับ?"


"..............คืนนี้..."


"ห๋ะ? อะไรเหรอครับ คืนนี้?"


"แค่ผ่าน...คืนนี้...ภู่ก็จะรอด..."


".................คุณภู่...."


ซอครางชื่อภุมราออกมาแผ่วเบา ตอนแรกเขานึกว่าอาจเป็นแค่ป่วยไข้ธรรมดา ไม่นึกเลยว่าจะหนักหนาขนาดนี้ ซอทรุดตัวลงนั่งข้างๆนคินทร์ ยกมือขึ้นจับไหล่ที่กำลังสั่นสะท้านนั่นเบาๆ


"เดี๋ยวภู่ก็ตื่นแล้วล่ะ นายรอหน่อยแล้วกันนะ"


นคินทร์เอ่ยขึ้นแผ่วเบา ดวงตาคมฉ่ำน้ำนั่นไม่เคยละจากประตูห้องไอ ซี ยู เลย


"....ครับ...คุณนคินทร์"
.
.
.
.
จู่ๆ ภายในห้อง ไอ ซี ยู ก็เหมือนจะวุ่นวายขึ้น รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวาย นคินทร์รีบลุกขึ้นไปดูที่ห้อง ไอ ซี ยู ทันที พลันสิ่งที่ได้ยินนั้น ...สิ่งที่ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้นนั้น...  



"คนไข้หยุดหายใจแล้ว!! เตรียม CPR เร็ว!!"

…………………………………………………………………………………………


ไม่มีแล้วแววตาคู่นั้นที่คอยห่วงใย น้ำเสียงที่คอยปลอบใจเมื่ออ่อนล้า
ไม่มีมือที่คอยสัมผัสให้กำลังใจคืนมา ในวันนี้คงมีเหลือแต่ความเหงา...
Credit : เพลง...สิ่งที่เหลืออยู่ ของ ลี โอ พุต
(ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหรอกจ๊ะ แค่เข้ากับเหตุการณ์เฉยๆ)


ขอโทษที่มาช้านะคะ เมื่อวานลงให้ไม่ทันจริงๆ จึงแอบมาลงในเวลางานแบบนี้ ฮือๆ ขอโทษเจ้าค่ะ
อีกไม่นานก็ถึงจุดจบ เอ้ย ตอนจบแล้วจ๊ะ
ภู่จะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตาม

ขอโทษที่ให้รอนะคะ

 :pig4: o1

ปล. ยาวสะใจดีมั้ยจ๊ะ
ปล.2 CPR คือการปั้มหัวใจจ๊ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 14-01-2013 15:45:20
โอ้ยก็ยังบีบหัวใจอยู่เลย จะสงสารใครดีเนี๊ย น่าสงสารทั้งคู่เลยอ่ะ ขอให้ภู่ปลอดภัยนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: U_Ton ที่ 14-01-2013 16:15:37
 :o12: อ่านครั้งไหนๆ ก็มีเเต่น้ำตา นี่ล่ะน้า... ผลของการไม่คิดจะฟัง ไม่คิดจะเชื่อคนที่รู็จักกันมานาน...

กลับฟังเเละเชื่อในสิ่งที่มาจากคนที่คบกันในช่วงเวลาสั้นๆ ไม่รู้จักกันดีด้วยซ้ำ อย่างว่าคนเรามักเชื่อในสิ่งที่เห็น

แทบจะตั้งเเต่วินาทีเเรก พอๆกับการเชื่อคนที่วิ่งมาพูดก่อน คำพูดของคนที่มาพูดทีหลังมันไม่จูงใจเท่าคนเเรกหรอก

ยิ่งเป็นคำพูดของคนที่ตัวเองหลงรัก เค้าพูดอะไรก็เห็นดีเห็นงาม... สุดท้ายเพราะไม่เคยฟังเพื่อนตัวเองเลยกลายเป็น

ว่ากว่าจะมีโอกาสก็สายไปซะเเล้ว...  :กอด1: ภู่ฟื้นเถอะนะ อย่างน้อยๆ ลืมตามามองหน้าภูอีกครั้งก็ยังดี ตอนนี้ภูคง

สำนึกจนไม่รู็จะรู้สึกยังไงเเล้วล่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 14-01-2013 16:51:24
"คนไข้หยุดหายใจแล้ว!! เตรียม CPR เร็ว!!"




หัวใจคนอ่านหยุดเต้นไปด้วย !!!!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 14-01-2013 19:13:36
ง่ะ ขอตัวไปนอนร้องไห้ก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว
สงสารทุกคนเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-01-2013 20:13:14
หมดไปเป็นปี๊บ
ไหลยังกับน้ำประปา :m15:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 14-01-2013 21:50:43
 :angry2: :angry2:

จะทรมาน ทั้ง ภู่ภู และคนอ่านไปถึงไหนหะคนเขียน


 :o12: :o12: :o12: นำตาไหลเลยตอนนี้ แถมยังมาตัดแบบนี้อีก  o7 ซึ้ง
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 14-01-2013 21:59:56
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 14-01-2013 22:12:32
http://www.youtube.com/watch?v=9hLwW5VqDLs ฟังเพลงนี้ไป อ่านไป น้ำตาไหลไม่หยุดเลย สงสารภู ภู่ จับใจ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 14-01-2013 23:00:40
 :o12: :o12:อย่าใจร้ายกับภูและภู่เลยนะคะ :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 14-01-2013 23:11:58
ม่ายน้าาาาาาาาา ฮรือวววววว T__________________________________________T///
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 15-01-2013 00:11:24
ภู่อย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 15-01-2013 01:09:08
อายแม่อ่ะ นั่งน้ำตาไหลหน้าคอม ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 15-01-2013 20:33:05
มาแล้วววววววววววว กรี๊ด ลงไปดิ้นกับพื้น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 15-01-2013 23:05:45
เฮ้อ อ่านไปก็ทรมารหัวใจไป รอฟ้าหลังฝน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 17-01-2013 00:00:26
มาต่อเมื่อไหร่หนอ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 18-01-2013 11:17:53
โฮกฮากน้ำตามันไหลอ่าTT :sad4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 18-01-2013 17:24:21
 :m15: มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 26-01-2013 15:32:28
รอๆๆๆ
สงสารภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 31-01-2013 20:10:32
เค้ายังคงกดเข้ามารอทุกวันนะ;w; อัพทีเถอะ....................
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เทพมังกร ที่ 01-02-2013 20:59:32
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบมากค่ะ บีบหัวใจสุดๆ ใจนึงอย่างให้ภู่ตายให้ภูได้รู้สึก แต่อีกใจก็อยากให้ภู่ได้มีความสุขสักที ยังไงก็รีบมาต่อนะคะ ค้างมากๆ  :z13:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: 403 ที่ 01-02-2013 21:40:41
ขอบคุณที่มาต่อให้ค่ะ  :pig4:

อ่านบันทึกแล้วสงสารภู่มาก ถ้าคนแต่งจะเขียนให้ภู่ตายเราก็ไม่เศร้านะ อยากให้ภูรู้ซะบ้างว่าคำว่าสายไปแล้วมันเป็นยังไง ภูทำกับภู่ไว้เยอะ ไม่อยากให้สมหวังง่ายๆ ฮ่า แต่ถ้าภู่ไม่ตายก็ดีค่ะ ยังไงก็แล้วแต่ก็สุดแล้วแต่คนแต่ง สู้ๆนะคะ รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 09-02-2013 14:53:16
ฮื้อออพึ่งเข้ามาอ่านคะ .อย่าตายนะ...มาต่อเร็วๆนะคะ..เราอ่านแล้วร้องไห้เลยอะ
สงสาร
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 23-02-2013 22:37:09
มารึยังเอ่ยยย?
กดเข้ามาดูเกือบทุกวันเลย
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 02-03-2013 03:29:49
หายไปนานอีกแล้ว :a6: :z3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 02-03-2013 15:33:44
จะร้องไห้อ่ะ ภู่อย่าตายนะ TT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 02-03-2013 23:26:06
นอนรอตอนต่อ;w; ฮือ ไม่มาต่อเลยค่ะ นอนรอมานานแล้วนะคะ ;w; ฮึกๆ..........
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 03-03-2013 00:25:22
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 26 *บันทึกของภู่*14/01 P.8 มาช้าแต่มาจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 03-03-2013 11:37:59
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 6/2/13
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 05-03-2013 18:34:12
ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง*


ฉากเก่าๆ ยังจำไว้ในใจ
เคยรักเธอยังไง รักเธอดังเดิม
ภาพทุกภาพยังตามติดอยู่ไม่หายไป
เสียงหัวเราะบนความอ่อนไหว

เจ็บปวดรู้ไหม ไม่อยากเคลื่อนไหว
ไม่อยากทำร้ายใคร
มันยังไม่พร้อมมีใครใช่ไหม
จะขอรอเธออย่างเดิม

เธออยากกลับมาไหม
อยู่ตัวคนเดียวไม่เหลือใคร
เหงาเกินไปบ้างไหมเธอ
รออยู่ไม่ไปไหน ปล่อยให้เวลาผ่านฉันไป
เพราะลืมเธอไม่ไหวไม่ได้อยู่ดี

สิ่งใหม่ๆ ไม่เคยให้เข้ามา
คนไม่มีเวลา แม้นานยังไง
แค่พรุ่งนี้วันเดียวที่ตื่นมาหายใจ
และเพื่อพร้อมรอเธอต่อไป

เหน็ดเหนื่อยรู้ไหม ไม่อยากเคลื่อนไหว
ไม่อยากจะรักใคร
มันยังไม่พร้อมมีใครใช่ไหม
จะขอรักเธออย่างเดิม

เธออยากกลับมาไหม
อยู่ตัวคนเดียวไม่เหลือใคร
เหงาเกินไปบ้างไหมเธอ
รออยู่ไม่ไปไหน ปล่อยให้เวลาผ่านฉันไป
เพราะลืมเธอไม่ไหวไม่ได้อยู่ดี

ความทรงจำที่ดีฉันขอให้มันไม่หายไป
แต่เธอคงจะลืมเมื่อเธอมีใคร
กาลเวลาอาจมีเงื่อนไข
แต่แตกต่างจากใจของฉัน
ที่จะรอเพียงเธอเหมือนเดิม

ยังรออยู่ไม่ไปไหน
ปล่อยให้เวลาผ่านฉันไป
ฉันลืมเธอไม่ไหวไม่ได้อยู่ดี

(เครดิต : คนไม่มีเวลา / ว่าน ธนกฤต)


สามเดือนมาแล้ว ที่ภุมราหลับไหลอยู่บนเตียงคนไข้ สามเดือนหลังจากที่หัวใจของภุมราหยุดเต้น แต่ก็กลับมาเต้นแรงขึ้นในอีกครั้ง หลังจากที่ทีมแพทย์ช่วยกันยื้อสุดชีวิต จำได้ว่าวันนั้นเขาร้องไห้หนักหนาแค่ไหน จำได้ว่าแข้งขาเขาสิ้นเรี่ยวแรงขนาดที่ว่าไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ จำได้ว่าเขาตะโกนเรียกชื่อคนรักจนสุดเสียง ครั้งแล้วครั้งเล่า หัวใจเขาบีบรัด จนแทบจะหยุดหายใจตามไป จากนั้นไม่นานภุมราก็กลับมา หัวใจที่อ่อนแรงนั้นกลับเต้นขึ้นมาอีกครั้ง กลับมามีชีวิตขึ้นใหม่ ท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน แล้วในที่สุดภุมราก็ยืนหยัดมาได้... แต่... ถึงจะพ้นขีดอันตราย ภุมรากลับไม่ยอมฟื้นลืมตา...
.
.
.
"ภู่ครับ...วันนี้อากาศดีมากเลยนะ อยากตื่นขึ้นมาเดินเล่นกับภูบ้างหรือยังครับ คนดี?"
  .
.
.

"เพลงแนวนี้ภู่ชอบฟังใช่มั้ยครับ มีอัลบัมออกใหม่ด้วยนะ เดี๋ยวภูซื้อมาให้ฟังนะครับ"
.
.
.

"ภู่ครับ สวนธารณะข้างบ้านเขาปรับปรุงใหม่แล้วนะครับ น่าเดินเล่นมากเลยล่ะ มีดอกไม้สวยๆเยอะแยะเลย ภู่รีบหายเร็วๆนะครับ แล้วเราไปเดินเล่นกันนะ"
.
.
.

"ภู่ครับ ภู่อยากกลับมาหรือยัง ภู่หนีภูเที่ยวนานแล้วนะครับ ภูเหงาเหลือเกิน ภู่กลับมานะครับคนดี"
.
.
.

นคินทร์พร่ำพูดเล่าเรื่องต่างๆให้ภุมราที่ยังคงหลับไหลฟังทุกวัน เรียกร้องให้คนที่รักกลับมา ทุกเมื่อเชื่อวันตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ตอนนี้นคินทร์รับภุมรามาอยู่ดูแลที่บ้านแล้ว เพราะสภาพร่างกายของนายแบบหนุ่มนั้นไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เหลือเพียงแค่รอให้ฟื้นขึ้นมาเท่านั้น แค่เรื่องเดียวที่ทุกคนรอคอย
.
.
.
ปิ้งป่อง...
.
.
.

แกร่ก
.
.
.

"ครับ?"


"สวัสดีครับคุณนคินทร์"


"อ้าว สวัสดีครับหมอ มาตรงเวลาทุกวันเลยนะครับ"


"ก็เป็นหน้าที่นี่คัรบ หึหึ แล้ววันนี้ภู่เป็นยังไงบ้างครับ?"


"ก็...เหมือนเดิมครับ..."


เมื่อถูกถามถึงอาการคนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง นคินทร์ก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วตอบหมอธเนศไปด้วยเสียงแผ่วระโหย หมอหนุ่มพยักหน้ารับรู้ ก่อนเตรียมตัวเข้าไปดูอาการคนไข้ของตน


"สวัสดีครับภู่ วันนี้เป็นยังไงบ้างเอ่ย? เอาล่ะเดี๋ยวหมอขอดูหน่อยนะ"


หมอธเนศพูดคุยกับคนที่ไม่เคยตอบสนองเหมือนกับทุกๆวันที่เขามาตรวจ ร่างกายของภุมราปกติดีทุกอย่างแล้ว และเพราะนคินทร์คอยดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ให้มีแผลกดทับเพราะการนอนนานๆ


"หมอ... เมื่อไหร่ภู่จะตื่นขึ้นมาเสียทีครับ?"

รู้ดีว่างี่เง่าที่ถามแต่คำถามซ้ำๆเดิมๆที่ตัวเองก็รู้คำตอบอยู่แก่ใจ แต่นคินทร์ก็อดถามออกไปไม่ได้ หมอธเนศหันมายิ้มให้บางเบาเหมือนทุกครั้งแทนคำตอบ ตากล้องหนุ่มเองก็ได้แต่ถอนหายใจเป็นการตอบรับ สองหนุ่มได้แต่ยืนนิ่งเงียบมองร่างไม่ตอบสนองของคนที่ยังคงหลับใหลอยู่บนเตียง ราวกับได้ปล่อยวางทุกสิ่งสิ้นแล้ว...

"ที่จริง เมื่อก่อนผมเกลียดคุณมากเลยนะ คุณนคินทร์..."


จู่ๆ หมอหนุ่มก็เอ่ยขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย


"หึ...ก็พอรู้อยู่ครับ...ผมเอง ก็ไม่ชอบหน้าคุณตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้ากันด้วยซ้ำ"


ทางฝ่ายตากล้องหนุ่มเองก็เหมือนจะไม่ได้ตกใจอะไรกับคำพูดของหมอธเนศ


"หืม? คุณรู้จักผมมาก่อนด้วยเหรอ?"


"ตอนอยู่ที่มัลดีฟ ผมเห็นภู่โทรคุยกับคุณบ่อยๆน่ะ ตอนนั้นผมเลยรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่นักน่ะครับ...หึหึ"


นคินทร์อธิบายไปพร้อมกับหัวเราะเล็กๆ ในความขี้หึงของตัวเอง


"หึ...อย่างนี้นี่เอง...ส่วนผมน่ะ ตั้งแต่ได้รู้จักกับภู่...ผมก็เกลียดคุณทันทีเลย"


"..................."


"เกลียดที่คุณเป็นคนทำให้ภู่ไม่ยอมเข้ารับการรักษา..."


"เกลียดที่คุณเป็นคนโง่งมงาย ไม่ยอมรับความจริง..."


"และเกลียด...ที่ภู่เฝ้าแต่รักคุณ..."


หมอหนุ่มระบายความในใจออกมา ทั้งที่รู้ว่า ที่จริงแล้วมันก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่เขาก็ยังอยากเล่าให้คนตรงหน้าเขาฟัง โดยที่ยังไม่แน่ใจเช่นกันว่า...เพื่อใคร?


"คุณคงรู้...ว่าผมรักภู่"


หลังจากเงียบไปได้ครู่หนึ่ง จู่ๆธเนศก็โพล่งถามออกมา


"ครับ..."


ตากล้องหนุ่มตอบออกไปเพียงแค่นั้น เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าหมอหนุ่มอยากจะสื่อสารอะไรกันแน่


"จะรังเกียจมั้ยครับ ถ้าผมจะเล่าอะไรให้ฟัง?...เรื่องระหว่างผมกับ...ภู่"


"หมอ...คุณต้องการจะบอกอะไรผม?"

"ผมรู้จักกับภู่ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว..."


หมอธเนศเอ่ยต่อแบบไม่สนใจคำทัดทานของนคินทร์แม้แต่น้อย


"ผมรู้จักเขาตอนที่เขามาเข้ารับการรักษาเนื้องอกในสมอง จำได้ว่าตอนนั้น เราทะเลาะกันแทบตาย"


"...............ทะเลาะกัน?"


สุดท้ายตากล้องหนุ่มก็ยอมฟังเรื่องราวที่หมอธเนศ ยัดเยียดเล่าสู่ให้ฟัง


"ก็ภู่เขา...ไม่ยอมเข้ารับการรักษาไงล่ะครับ จะขอรับแค่ยาระงับอาการ แต่ไม่ยอมให้รักษาแบบอื่นเลย"


"ภู่...เพราะผม..."


"ตอนแรกภู่ก็ไม่ยอมบอกผมหรอกว่าเพราะอะไร จนกระทั่งวันนั้น...วันที่อาการเขาเริ่มทรุดลง..."


พอเล่ามาถึงตรงนี้หมอหนุ่มก็สูดหายใจเข้าลึก


"และนั่น...ก็ทำให้ผมรู้จักคุณ"


"ภู่เล่าให้คุณฟัง...?"


"เปล่าครับ...ตอนที่ภู่เจ็บปวดทุรนทุราย...เขาเพ้อถึงแต่ชื่อคุณ"


".........!!"


ตากล้องหนุ่มเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใบหน้าเจ็บปวดนั้นหันไปมองร่างแน่นิ่งบนเตียงอย่างรวดร้าว


"ภู่...."


ธเนศมองภาพนั้นอย่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน ที่เขาเล่าเรื่องนี้ให้นคินทร์ฟังไม่ใช่เพื่อความสะใจที่เห็นศัตรูความรักเจ็บปวด แต่เขาอยากจะเล่าให้อีกฝ่ายได้ซาบซึ้งว่าภุมรานั้นรักนคินทร์มากแค่ไหน ทั้งรักทั้งรู้สึกผิด ทั้งลงโทษตัวเองอย่างน่าเวทนา ร่วม 4 ปีที่ภุมราต้องจ่อมจมอยู่ในความทุกข์เพราะรักที่แสนสาหัสนั้น เขาไม่อยากปล่อยให้มันเป็นเพียงเรื่องที่เจ้าตัวจะเก็บไว้เพียงลำพัง อย่างน้อยคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดก็ควรได้รู้ เขาคิดใตร่ตรองถี่ถ้วนแล้ว ถึงจะดูเหมือนใจร้าย แต่เขาก็จะทำ ไม่ได้อยากซ้ำเติม แต่อยากให้สำนึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ว่าภุมรารักนคินทร์มากเสียจนไม่ยอมรักตัวเอง และที่สำคัญ ที่เล่าให้ฟังนี่ไม่ใช่เพียงแค่ให้รู้ แต่อยากให้ในอนาคตต่อไปเบื้องหน้า นคินทร์เองก็ควรจะรักภุมรามากกว่าชีวิตตัวเอง เพื่อตอบแทนให้สาสมกับหัวใจของภุมรา และชดใช้ให้กับชีวิตที่เลวร้าย ของคนที่น่าสงสารคนนั้น ด้วยหัวใจ ด้วยความรัก และด้วยทั้งชีวิตของนคินทร์


"ผมคาดคั้นอยู่นาน จนในที่สุดภู่ก็ยอมเล่าให้ฟัง...ช่างเจ็บปวดนะเรื่องของพวกคุณ"


"เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผมเอง..."


นคินทร์ครางแผ่วอย่างคนรู้สึกผิดเหลือประมาณ


"ผมว่าแฟนเก่าคุณก็ผิดนะ ที่ไม่ยอมปล่อยมือทั้งคุณและภู่..."


"ฝ้ายเขา...คือ...ขอโทษนะหมอ ผมไม่อยากพูดถึงเธออีก ไม่ว่าในแง่ไหน เพราะไม่ว่ายังไง...ผมยังคงรู้สึกผิดกับเธออยู่...."


ครับ...คุณผิด ผิดมากด้วย...ผิด...ที่ปิดหูปิดตา และปิดใจตัวเอง..."


ธเนศกล่าวเสียงเข้มขึ้น


"ที่จริงผมไม่รู้หรอกนะ ว่าเรื่องระหว่างพวกคุณเป็นยังไง  ผมรู้แค่ว่าภู่ไม่ได้รับการให้อภัยเพราะคุณไม่ยอมฟังอะไรเลย..."


"ครับ...ใช่ ผมมันโง่เอง..."


"ผมไม่ได้หมายความว่าคุณโง่ คุณแค่มีทิฐิ และถือมันไว้เยอะเกินไป...เรื่องมันถึงได้ลงเอยแบบนี้"


ธเนศได้แต่จ้องมองแผ่นหลังที่สั่นน้อยๆของนคินทร์ที่ตอนนี้ยืนหันหลังให้เขา เพื่อหลบซ่อนใบหน้าที่เจ็บปวดเจียนตายนั่นอยู่


"...ผมรักภู่..."


"......ผมรู้...คุณบอกผมแล้ว"


"ตลอด4ปีที่ผมเพียรมอบความรักให้ภู่ ห่วงใยดูแล...แต่ผมไม่ได้คาดหวังหรอกนะว่าภู่จะหันมารักผม...ถึงจะแอบหวังลึกๆก็เถอะ"


".......หมายความว่ายังไง?"


"เพราะตลอดมาผมทำได้แค่มอบความรักความห่วงใย หวังว่าจะสามารถทดแทนในส่วนที่ภู่พยายามไขว่คว้าแสวงหาจากคุณได้...แต่สุดท้าย มันก็ไม่สามารถแทนกันได้เลย ไม่มีใครแทนคุณในใจภู่ได้ ขนาดผมเองยังต้องยอมแพ้เลย หึหึ...สุดท้ายก็ทำได้แค่ ตามหวง ตามห่วงเขาอยู่แบบนี้ไง น่าสมเพชใช่มั๊ยล่ะ"


"...ไม่หรอกครับ เอาเข้าจริงผมรู้สึกขอบคุณคุณมากนะคุณหมอ...อย่างน้อยในเวลาที่ผมยังคงตามืดบอด ภู่ก็ยังมีคุณ..."


นคินทร์หันมาพูดขอบคุณธเนศจากใจจริง ในดวงตาคมกล้านั้นบัดนี้รื้นไปด้วยน้ำตาแห่งความร้าวรวด


"หึหึ...ผมไม่ชอบคุณจริงๆด้วย"


"ครับ?...เอ่อ...มันก็สมควรแล้วล่ะครับ"


"ผมไม่ชอบเพราะคุณทำให้ภู่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่ก็...เกลียดคุณไม่ลง"


ธเนศจ้องลึกไปที่ดวงตาของศัตรูหัวใจอีกครั้ง เพื่อยืนยันความคิดของตัวเอง


"คงเพราะผมประจักษ์แล้วล่ะ ว่าที่จริงคุณเองก็รักภู่มาก และคงเจ็บปวดกับเรื่องนี้ไม่ต่างกัน  ตอนนี้คุณเองก็คงรู้สึกผิด และจ่อมจมอยู่กับความทุกข์ทรมาณนี้ไม่ต่างกัน"


"ถ้าเป็นไปได้...ผมอยากให้มันเกิดกับผมเองมากกว่านะครับหมอ  กรรมชั่วทั้งหลายที่ผมเป็นคนก่อ ผมควรจะต้องชดใช้มันเอง ไม่ใช่ภู่...ภู่ไม่ควรเป็นแบบนี้..."


หมอธเนศถอนหายใจยาวเหยียด เขาเห็นด้วยกับนคินทร์ว่าคงเป็นเรื่องของกรรม แต่แตกต่างกันเล็กน้อย


"ถ้าพูดถึงกรรม ถ้งงั้นเราก็คงกำลังชดใช้กรรมกันอยู่จริงๆนั่นแหละครับ"


"ชดใช้...?"


"ครับ...คุณฝ้ายก็ชดใช้กรรมของเธอแล้วในวาระสุดท้าย ภู่ก็เคยบอกว่าเขากำลังชดใช้กรรมที่ก่อไว้กับคุณฝ้าย ส่วนคุณนคินทร์เอง ที่ทุกข์ทรมาณอยู่ตอนนี้ ก็คงเพราะคุณต้องชดใช้ให้คุณภู่...ตัวผมเอง...ก็คงถึงเวลาต้องชดใช้ได้แล้วเหมือนกัน..."


"มันอาจจะจริงอย่างที่คุณหมอว่ามาก็ได้นะ...นั่นสินะ กรรมที่ผมก่อขึ้นมันหนักหนา มาก ผมถึงได้เจ็บปวดถึงขนาดนี้...ว่าแต่ว่าคุณหมอจะต้องชดใช้อะไรกันครับ? คุณหมอไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อยนี่?"


ธเนศยิ้มน้อยๆให้กับนคินทร์ พลางถอนหายใจเบาๆอีกครั้ง


"มีคนคนนึงที่ผมต้องชดใช้ครับ ผมทำผิดกับเขาไว้..."


"ใครกันครับ..."


ถึงจะถูกนคินทร์ถาม แต่ธเนศก็เอาแต่นั่งยิ้มกับตัวเอง...
.
.
.


ปิ๊งป่อง...
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง*
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 05-03-2013 18:39:20
ปิ๊งป่อง...

.
.


“...หืม...มาไวจัง...”

นคินทร์พึมพำออกมาเบาๆ ที่แขกอีกคนมาถึงเร็วกว่าที่นัดกันไว้

แกร่ก...

“ว่าไง ซอ... มาเร็วจังนะ”

"พอดีว่าว่างๆอยู่น่ะครับ เลยรีบมา เอ้านี่ครับของที่สั่ง"


"อืม ขอบใจมากนะ แล้วนี่นายมายังไง?"


"แท็กซี่ครับ  ใกล้แค่นี้เอง แป๊บเดียวก็ถึง ทะลุซอยลัดเข้ามารถก็ไม่ติดครับ...ว่าแต่คุณภู่เป็นยังไงบ้างครับ วันนี้..."


พอมาถึงปุ๊บซอเด็กหนุ่มผู้ร่าเริงก็เจื้อยแจ้วเจรจากับตากล้องหนุ่มไม่หยุดทันที จนลืมดูไปเลยว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตนั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย


"ก็..เหมือนเดิมนั่นแหละ ขอบใจสำหรับฟูกลมอันนี้มากนะ อันเก่าดูท่าจะเจ๊งแล้วจริงๆน่ะแหละ"


"อันนี้ของเกรด เอ เลยครับ รับรองทนทาน นอนนิ่มสบาย ไม่มีทางมีแผลกดทับมารบกวนใจแน่นอนครับ ม่ะ...เดี๋ยวผมช่วยเปลี่ยนให้ตอนนี้เลย"


นคินทร์ขำออกมาเล็กน้อยเมื่อซอประกาศสรรพคุณ

“แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง ในตู้เย็นมีขนมแน่ะ ซอกินได้เลยนะ”


ซอยิ้มกริ่ม...


"แฮะๆ ขอบคุณครับ"


สามเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ภุมราเป็นเจ้าชายนิทราหลับไหลอยู่นั้น ทั้งซอ ทั้งแอน และคนอื่นๆ ขยันมาเยี่ยมกันไม่เคยขาด โดยเฉพาะซอ ที่มาบ่อยเป็นพิเศษ เพราะคอนโดที่อยู่ใกล้กัน และเพราะเขาสนิทสนมชอบพอกับภู่เป็นพิเศษด้วย เลยยิ่งขยันมาเยี่ยมเยียนไม่เคยขาด


"คุณภู่คร๊าบบบ...ซอมา...เยี่ยม....!!!...คุณหมอ!!!?"


"......ซอ…!!?"


ทั้งซอและหมอธเนศต่างก็ตกใจที่เจอหน้ากัน เพราะตั้งแต่ที่เจอกันครั้งสุดท้ายวันที่ภุมราผ่าตัดใหญ่ ก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย แม้กระทั่งตอนนั้นที่เจอกัน ทั้งสองคนก็แทบไม่คุยกันเลยแม้สักคำเหมือนกัน


"อ้าว...ตกใจอะไรกันครับ?"


นคินทร์ที่ไม่รู้เหตุการณ์ระหว่างทั้งสองคนจึงได้แต่สงสัยเล็กน้อยกับปฏิกิริยาที่คาดไม่ถึง


"เอ่อ...คุณนคินทร์...คือผมเพิ่งคิดได้ว่ามีธุระด่วนน่ะครับ เดี๋ยวผม...ค่อยเข้ามาใหม่แล้วกันครับ ขอตัว..."


"อ้าว...เดี๋ยว..."


ซอไม่รอช้า รีบขอตัวเลี่ยงกลับออกไปทันที นคินทร์ที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับหน้าเหลอ


"งั้นผมขอตัวด้วยแล้วกันครับ คุณนคินทร์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาใหม่ บายครับ"


"อ่ะ...ครับ...??"


เป็นหมอธเนศอีกคนที่รีบร้อนขอตัวกลับตามออกไป ยิ่งทำให้นคินทร์มึนงงเข้าไปอีก หากแต่ก็ไม่ได้คิดติดใจมากมายนัก


“อะไรของสองคนนั้นวะ...”


ร่างสูงเดินกลับมาที่เตียงของภุมรา มือหนาบรรจงลูบไล้แก้มเนียนแผ่วเบา


"ภู่ครับ...เดี๋ยวเช็ดเนื้อเช็ดตัวหน่อยนะ จะได้สดชื่นนะครับ"


"วันนี้ซอซื้อฟูกลมอันใหม่มาให้แล้วนะ ภู่จะได้นอนสบายๆขึ้นนะครับ เดี๋ยวเช็ดตัวเสร็จแล้วภูเปลี่ยนฟูกใหม่ให้เลยนะ"


นคินทร์พร่ำพูดอยู่คนเดียวให้คนที่ไร้การตอบสนองฟัง เขาพูดได้ทั้งวัน ไม่มีเหนื่อย ไม่มีเบื่อ หวังใจแค่เพียงเล็กๆว่ามันอาจสื่อไปถึงคนที่หลับไหลอยู่ตรงหน้านี้บ้าง


ร่างสูงง่วนงุ่นอยู่กับการจัดการเช็ดตัวให้คนรัก โดยไม่ทันได้สังเกตุว่า "ปลายนิ้วเรียวซีดนั้น...ขยับไหวเล็กน้อย"
.
.
.
.
.
"ซอ เดี๋ยว!! รอก่อน"


เด็กหนุ่มแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดินลิ่วแบบไม่หันหลังมอง


"ซอ!!!"
.
.
.
.
หมับ
.
.
.
.
.
"อ๊ะ!!?"


ร่างบางของเด็กหนุ่มปลิวหวือตามแรงกระชากของหมอธเนศ  แรงดึงมหาศาลนั้นทำเอาซอเซเข้าปะทะอกแกร่งอย่างง่ายดาย
"ปล่อยนะคุณหมอ!! ทำอะไรของคุณน่ะ!!?"


"อ่ะ...ขอโทษ"


"ขอโทษแล้วก็ปล่อยสิครับ!"


ซอโวยขึ้นทันที หากแต่ก็ไม่กล้าสบตาตรงๆกับดวงตาคมภายใต้กรอบแว่นนั้น


"ให้ฉันไปส่งนะ"


"ผมกลับเองได้ นี่!ปล่อยซะทีได้มั้ย...เฮ้ย!?"


ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไม่ต้องขออนุญาตซ้ำ หมอธเนศก็ทั้งลากทั้งดึงซอไปที่รถโดยไม่สนใจร่างเล็กที่ทัดทานโวยวายไม่หยุด
.
.
.
ฟู่...
.
.
.
"...........ซอ..."


"............."


"สูบบุหรี่มันไม่ดีกับสุขภาพนะ ไม่รู้หรือไง?"


"เรื่องของผม! แล้วนี่ไหนว่าจะไปส่ง? พามาที่นี่ทำไม?"


หลังจากโดนลากขึ้นรถมา คุณหมอตัวดีก็เงียบเหมือนลืมปากตกไว้ที่ไหน ต่อให้ซอทั้งบ่นทั้งโวย ก็ไม่มีต่อปากต่อคำ ตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปตามเส้นทางที่ซอไม่คุ้นเคย ทักท้วงเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟังไม่ยอมจอด กระทั่งสุดท้ายหมอธเนศก็พาซอมาถึงคอนโดย่านชานเมือง ที่ไกลจากที่พักของซอเป็นชั่วโมง แถมเป็นย่านที่โบกแท็กซี่ลำบากอีกต่างหาก หลังโดนพาตัวขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดของตึกแล้ว ซอก็หงุดหงิดทะลุจุดเดือด จนต้องรีบคว้าบุหรี่ขึ้นมาสูบแก้เครียด ทั้งๆที่ปกติแล้วเขาเองก็ไม่ได้ติดบุหรี่


"เอ่อ...ซอ"


".............."


"คือ...ฉันอยากจะขอคุย เรื่องของเรา...คือว่า ตั้งแต่คืนนั้น..."


"เลิกพูดถึงมันได้มั้ยครับ คุณหมอธเนศ!"


"แต่มันติดอยู่ในใจฉันตลอด..."


ซอถอนหายใจออกมาหนักๆ พร้อมขยี้ก้นบุหรี่เข้ากับที่เขี่ยบุหรี่ พลางเอ่ยออกมาด้วยความเบื่อหน่าย


"คุณหมอครับ...คุณลืมไปหรือเปล่า? ว่าคืนนั้น คุณเป็นคนบอกกับผมเอง  ว่าเรื่องระหว่างเราขอให้เป็นแค่ฝันตื่นนึงเท่านั้น... จะไม่มีการมาสานต่อ จะไม่พูดถึงมันอีก ระหว่างเราก็จะไม่เปลี่ยน "แค่คนรู้จัก" ไม่มีทางจะเป็นอะไรได้มากกว่านั้น!  ผมก็โอเค.แล้วไง...เราตกลงกันแล้ว...แล้วนี่มันอะไรกันครับ? จะพูดถึงมันอีกทำไม? คุณยังต้องการอะไรอีก!?"


ซอกล่าวจริงจัง พร้อมจ้องใบหน้าคมคายนั้นตรงๆ


"ผมกลับได้แล้วใช่มั้ย..."


"ฉันขอโทษ...ให้ฉันรับผิดชอบนายได้มั้ย?"


จู่ๆ หมอหนุ่มก็โพล่งออกมา เล่นเอาซอหน้าหงาย ไม่รู้ว่าจะอึ้ง หรือจะโกรธดี แต่ที่รู้คือ ตอนนี้เลือดแทบเข้าตาเลยทีเดียว


"บ้าไปแล้วเหรอคุณน่ะ!!! รับผิดชอบบ้าบออะไรของคุณว๊ะ!!!?"


ซอแผดเสียงถามอย่างเดือดดาล เขาไม่เคยเข้าใจไอ้หมอโรคจิตที่อยู่ตรงหน้าเขานี่เลยจริงๆ หรือว่าตรรกกะของพวกแพทย์จะไม่เหมือนสามัญชนอย่างเขากัน ยิ่งคิดยิ่งเดือด


"ก็นั่น...มันครั้งแรกของนายไม่ใช่เหรอ!?"


"........!!!?....นี่หมอบ้าขนาดรู้ด้วยเหรอว่าผู้ชายซิงหรือไม่ซิง!?"


ซอ ตะคอกถามกลับไปพร้อมกับหน้าตาที่ซับสีเลือดจนแดงจัด ไม่รู้เพราะโกรธ หรือเพราะอย่างอื่นกันแน่


"รู้สิ...ฉันเป็นหมอนะ..."


"ถึงจะอย่างนั้นก็เหอะ...ผมไม่ใช่ผู้หญิง ผมไม่ท้องหรอก ไม่ต้องมารับผิดชอบผม ผมไม่ต้องการ!!"


"แต่ว่า..ซอ..."


"หุบปากพล่อยๆนั่นไปเลยหมอ!! ผมจะกลับแล้ว!!"


ร่างเล็กหมุนตัวผลุนผลันออกไปจากห้องทันที แต่ยังไม่ทันจะถึงหน้าประตู ดก็โดนคว้าตัวไว้ได้หวุดหวิด


"ปล่อยนะ!! จะอะไรอีกว๊ะ!!?"



"คบกับฉันได้มั๊ย?"

..........................................................

ขอโทษที่ช้านะคะ ไม่มีคำแก้ตัวใดๆค่ะ
เพราะนอกจากมัวไปปั่นเรื่องอื่นอยู่...แล้วก็กะลังตันมุกกับเรื่องนี้พอดีค่ะ
ขอโทษจริงๆ...

ขอบคุณที่ยังเข้ามารอกันนะคะ รู้สึกผิดจริงจังเลยค่ะ T^T
 :o12:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 05-03-2013 19:10:45
ภู่ตื่นขึ้นมาเถอะนะ นอนอยู่อย่างนั้นอยู่คนเดียวเหงาจะตาย....

คุณหมอง้อซอให้สำเร็จนะคะ~~

ปล.ตอนต่อไปอย่าช้าแบบนี้เลยนะคะ ทรมานใจคนอ่านจังเลยยย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 05-03-2013 20:39:35
ดีใจที่กลับมาต่อนะ
 :pig4:

ปล.วันที่ผิดนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: เทพมังกร ที่ 05-03-2013 20:50:00
รอเรื่องนี้นานมาก ดีใจจังได้อ่านต่อแล้ว รอภู่ฟื้น :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 05-03-2013 20:56:42
ภู่ รีบตื่นมาเร็ว พอแล้วหล่ะ ชดใช้กันพอแล้ว ตื่นมารับความสุขสักที


ส่วนคุณหมอ ก็นะ พูดไปแบบนั้น แล้วอยู่ๆจะเอาแบบนี้ก็เกินไปนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 05-03-2013 21:14:41
ภู่จะตื่นแล้วใช่ไหม ดีจังเลยนะภู ธเนศรู้สึกยังไงกับซอกันแน่เนี่ย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-03-2013 21:35:38
คู่นคินทร์ก็ยังอึมครึม รอวันภู่ฟื้น
ส่วนอีกคู่ดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 06/02/13
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 05-03-2013 21:49:02
ยังตามอยู่ค่า  :mc4: 
เริ่มมีความหวังสำหรับการฟื้นของภู่ แต่จะฟื้นแบบไหนนี่สิ  :really2:

รอลุ้นอีกคู่ค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 05-03-2013 22:43:47
ถึงเวลาที่การชดใช้จะหมดลงไปได้แล้วมั้ง อยากให้พบความสุขกันสักที
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 06-03-2013 00:12:32
ในที่สุดตอนต่อก็มา จุดพลุ ♥
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-03-2013 09:58:26
ดีใจที่กลับมาต่อนะ
 :pig4:

ปล.วันที่ผิดนะคะ

ขอบคุณค๊า...แก้แล้วค๊า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/0
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 06-03-2013 11:10:20
คู่สองเริ่มแล้ว ขอให้ภู่หายเร็วๆนะ รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: NT.orn ที่ 06-03-2013 18:56:30
ภู่ รีบๆฟื้นขึ้นมาเถอะนะ T_________T

เยี่ยมเลย ต้องแบบนี้สิหมอ รับผิดชอบการกระทำของตัวเองหน่อยยย ซอก็อย่าใจแข็งมากนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 06-03-2013 21:09:57
ได้อ่านตั้งแต่ต้นจนถึงตอนปัจจุบัน
ภู่น่าสงสาร :monkeysad:

ฟื้นขึ้นมาเถอะนะภู่ ทุกข์มามากแล้วฟื้นขึ้นมาสัมผัสกับความสุขบ้าง :sad11:

มาต่อไวๆนะคะ จะปักหลักรอค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 06-03-2013 21:12:20
หายไวๆนนะภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 22-03-2013 18:39:57
ดัน ดัน ดัน
คิดถึงภูกะภู่ :monkeysad:
เข้ามารอภู่ฟื้นคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 23-03-2013 14:43:34
กรื้ดด ภู่จะฟื้นแล้วว น้ำตาแทบไหล TT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 24-03-2013 21:05:34
รอวันภู่ฟื้นคืนกลับมา กลับมาเถอะคนเขียน!!!! เอ๊ย!!!! กลับมาเถอะภู่~
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 06-04-2013 23:15:46
รอคนเขียนทุกวันเลยนะคะเนี่ย;A; ฮึก..........ก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: ChaBuShi ที่ 08-04-2013 00:46:45
มาต่อก็ดีใจแล้วค่ะ ยังรออ่าน ภุ่ - ภู ตลอดน๊าา

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 17-04-2013 20:05:46
มีความรู้สึกว่าภู่หลับนานน เพราะไม่ยอมต่อสักที แงงงงงงง อยากอ่านนนนนน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 27 *หัวใจสลายกับฝันร้ายที่จบลง* 05/03/13
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-04-2013 23:54:29
เรียกน้ำตาคนอ่านได้เยอะแยะมากมาย
เศร้าก็ร้อง เสียใจก็ร้อง พอตอนที่ภู่สุขก็ร้องอีก
แต่เราไม่น่ามาอ่านก่อนนอนเลย ตื่นมาตาบวมแน่ๆ
แล้วอย่าลืมมาต่อเร็วๆนะคะ สองคู่ชู้ชื่น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 18-04-2013 19:27:28
ตอนที่ 28 *ลืมตา*




"คบกับฉันได้มั้ย?"


"อ...พูด...พูดอะไรออกมาน่ะ!!? บะ บ้ารึ..ง....อื้อ!!?"

ยังไม่ทันที่จะทำความเข้าใจกับความหมายของคำพูดนั้น ซอก็โดนคว้าเข้าไปประกบจูบกับหมอธเนศเสียแล้ว

"อ๊ะ...อื้อ...ปล่อยนะ!!...อื้อ...อึก..."
ร่างบางผลักอกหมอหนุ่มที่กำลังรุกรานเขาอยู่ออกอย่างแรง แต่มือหมอก็ราวกับหนวดปลาหมึก เพราะนอกจากจะไม่ยอมหลุดจากร่างแล้ว ยังพัวพันซอไว้ไม่ยอมห่างอีกต่างหาก  ริมฝีปากร้อนผ่าวยังคงรุกไล่ไม่เลิก บดขยี้ซอจนสติพร่าเลือน

เพี๊ยะ!

“.......................”

“แฮ่ก แฮ่ก... ฮึ่ย ไปบ้าอะไรไปแล้ววะ ไปหมอโรคจิต!!”

"...ข...ขอโทษ..."


"ไม่ต้องมาขอโทษเลย ถอย! ผมจะกลับแล้ว!!"


"เดี๋ยวสิ ซอ ฟังฉันหน่อย..."


"ไม่!!"



ปึ่ง!


เพราะถูกหมอหนุ่มยั่วโมโหจนถึงขีดสุด น้ำอดน้ำทนของซอจึงหมดลง ร่างบางปั้นปึงผลักคุณหมอให้พ้นหน้าประตู เพื่อจะได้ออกจากห้องหน้าอึดอัดนี้ไปเสียที และเป็นอีกครั้งที่โดนคว้าไว้ คราวนี้เขาถูกหมอธเนศกักตัวไว้ในกรงแขนอยู่ตรงหน้าประตู

"เฮ้อ! คุณหมอครับ ผมขอพูดตรงๆเลยนะ เราไม่มีวันคบกันได้หรอก"

"ทำไมล่ะ?"

"เพราะหมอไม่ได้รักผม เราไม่ได้รักกัน…หรือคุณหมอจะเถียง อย่าบอกนะว่าหลงรักผมเข้าแล้วน่ะ?”
 
"............คือ...ฉัน..."

"...นั่นไงล่ะ ไม่ได้รักใช่มั้ย แล้วจะมาทู่ซี้คบกันทำไม"

"ไม่ได้ทู่ซี้..."

"พอเหอะ อย่ากลืนน้ำลายตัวเองเลยหมอ แล้วที่สำคัญ เรื่องของเรามันผ่านมานานเกินไป นานจนไม่อาจรื้อฟื้นอะไรได้อีกแล้ว แค่ครั้งเดียว ผมยกให้ มันก็เหมือนกับเพื่อนปลอบเพื่อน ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น เพราะฉะนั้น ช่วยปล่อยผมกลับด้วย"

ซอ อธิบายฉะฉานเขารู้ดีว่าเรื่องระหว่างเขากับหมอธเนศมันคงเป็นไปไม่ได้ จริงอยู่ในตอนแรกเขาแอบสนใจในตัวหมอธเนศอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นว่าดื้อดึงตามตื้อภุมราไม่เลิก เขาก็ยิ่งสนใจ จนวันที่เห็นคนเคร่งขรึมและวางตัวดีตลอดคนนั้นอ่อนแอ น่าสงสาร เขาก็ยิ่งอยากเข้าใกล้ อยากลองสัมผัสหัวใจของคนคนนี้ สุดท้ายเลยลองนอนด้วย แต่นั่นเป็นความผิดพลาด ถึงสัมพันทางกายจะทำให้เขารู้สึกดีมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเข้ากันได้มากแค่ไหน แต่พอตื่นขึ้นมาเจอความจริง ตัวเขาก็เป็นได้แค่คู่นอน แค่คนช่วยปลอบใจชั่วข้ามคืนเท่านั้น ไม่สามารถเป็นอะไรได้มากไปกว่านั้นอีก เสร็จกิจ ทุกอย่างก็จบ แล้วก็ต้องมาหลบเลียแผลตัวเองอยู่ตั้งเป็นเดือนๆ แค่คิดก็สมเพชตัวเองจะแย่ แต่นี่มันเลวร้ายที่สุด เพราะคนใจร้ายที่เขาเคยแอบมีใจ คนที่ปฏิเสธที่จะสานต่อความสัมพันกับเขาทุกอย่างหลังจากคืนนั้น คนที่เขาตั้งใจว่าจะลืมให้ได้ ไอ้บ้านั่นกลับมาขอคบเป็นแฟน ไอ้บ้านั่นกลับมาจูบ ทำราวกับว่ารักเขาหนักหนา แต่พอถามว่ารักหรือเปล่าก็ตบไม่ได้ ทุรศเกินไปจนไม่อยากจะอยู่ร่วมด้วย ไม่อยากเห็นหน้าอีกแล้ว

"นายปลอบเพื่อนแบบนี้ทุกคนเลยงั้นเหรอ"

"กวนโอ้ยรึไง คุณหมอ อยากโดนต่อยใช่มะ!"

"นั่นเพราะเป็นฉัน นายเลยยอมใช่มั้ย?"

"นั่นมัน!!....ก็...คือไม่..."

"ซอ...ตั้งแต่คืนนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่มีวันไหนเลยที่ฉัน...ไม่คิดถึงนาย..."

"...อ...อะไรอีกล่ะ...นี่!"

ซอพยายามเบี่ยงตัวหนีทันทีที่หมอธเนศฉวยโอกาสซบหน้าลงบนไหล่บาง แต่ก็สุดจะหลบเลี่ยงเพราะยังไงซะก็โดนกักไว้ในวงแขนอยู่ดี สุดท้ายก็ได้แต่ยืนหน้าบูดให้อีกฝ่ายซบอยู่กับไหล่ตัวเองอยู่แบบนั้น และแม้ไม่อยากจะฟังเรื่องราวอะไรจากอีกฝ่ายแล้ว ท้ายที่สุดก็ยังต้องทนฟังต่อไปอยู่ดี

"ไม่รู้สิ สงสัยฉันมันคงหื่นมากไป เพราะไม่ว่าจะหลับตาหรือลืมตา ถ้าได้ว่างแม้สักนิด ฉันก็จะคิดถึงแต่หน้าตอนนั้นของนาย...ตลอดเลย...."

"น...หน้าตอนไหนกันวะ ไอ้หมอบ้า!!" (>///<)

"ก็หน้าตอนนั้นของนาย ที่กำลังโดนฉัน...กอดอยู่ไง..."

"..!!! อ..ไอ้....."

"สลัดยังไงก็ไม่ยอมหลุดจากหัว ติดตาตรึงใจสุดๆ ถึงตอนนั้นฉันจะเมาจนจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกก็เถอะนะ แต่หน้านายที่เรียกชื่อฉันด้วยเสียงที่เซ็กซี่สุดๆนั่น มันติดตา ติดหูฉันสุดๆเลย"

"พ...พอแล้ว!!..."

"จนได้มาเจอนายอีกครั้งที่โรงพยาบาล วันที่ผ่าตัดภู่ ฉันก็ยิ่งมั่นใจ..."

"บอกให้พอไงล่ะ!! เลิกพูดบ้าๆสักที!!"

"ว่าถ้าได้เจอนายอีกครั้ง..."

"พ.....พอแล้ว........."

ก่อนประโยคสุดท้ายจะจบลง ธเนศเงยหน้าขึ้นจากไหล่เล็กแล้วสบตาคนตรงหน้าตรงๆ ซึ่งตอนนี้คนตัวเล็กกว่าสีหน้าแดงจัด จนน่าหลงใหล ธเนศจ้องหน้าซอนิ่ง ดวงตาภายใต้กรอบแว่นนั้นฉายแววเสน่หา

"ฉันจะทำให้นาย เป็นของฉันให้ได้..."

".....บ...บ้า..."

ลมหายใจซอติดขัด เมื่อหมอธเนศรุกรานเขาโดยการยื่นหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้น ทั้งที่อยากจะผลักให้กระเด็นออกไปให้พ้น แต่มือไม้กลับสั่น เพราะความหวั่นไหว

"จะทำให้นาย เป็นคนรักของฉันให้ได้..."

"..............."

ไม่ทันได้ตอบโต้ใดๆ ริมฝีปากสั่นระริกของซอก็โดนประกบจุมพิตแผ่วเบาอ่อนหวานจากหมอธเนศ หัวหูอื้ออึงไม่รับรู้รอบข้าง สมองมึนงงประมวนความคิดไม่ออก ไม่ได้อยากสมยอม แต่ดันเผลอไผลไปซะแล้ว



ปิ๊บ ปิ๊บ ปิ๊บ...



สองร่างสะดุ้งเฮือกทันทีที่ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือ หมอธเนศรู้สึกฉุนเล็กน้อย ที่ถูกขัดจังหวะหวานๆที่เขาอุตส่าห์สร้างหลุมพรางแทบตาย

"เอ๊ะ? คุณนคินทร์?"

"..........คุณภู่!? เฮ้ย รีบรับสายดิหมอ เผื่อคุณภู่จะฟื้นแล้ว!"

"ฮัลโหล! ครับ คุณนคิรทร์!?..."

.
.
.
.
.

"ภู่...ภู่ครับ..."

"ภู่...ได้ยินภูมั้ย..."

"ภู่ครับ ขานหน่อยสิ ตอบภูหน่อยสิครับคนดี..."

"ภู่...ฮึก...ภู่ครับ..."

เสียงทุ้มครางแผ่ว น้ำตาอุ่นๆอาบรินไปทั้งใบหน้า มือแกร่งกุมมืออีกคนที่ยังนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นไว้แนบข้างแก้ม ปากพร่ำเรียกคนรักที่ได้แต่นอนลืมตาโพลง หากไม่ตอบสนองใดๆ

ผ่านมาแล้วถึง 3 เดือนในที่สุด วันนี้ภุมราก็ลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับไหลที่แสนจะยาวนาน นคินทร์ดีใจจนแทบกระโดดเมื่อเห็นคนรักฟื้นขึ้นได้ หากแต่ต้องสลดลงทันทีเช่นกัน ที่ภุมราได้แต่ฟื้นลืมตา แต่ไม่ตอบสนองใดๆกับเขาเลย ดวงตาที่เปิดขึ้นนั้นเลื่อนลอย ร่างกายนั้นยังคงนิ่งงัน นคินทร์ถึงกับใจเสียจนทนไม่ไหว ต้องรีบโทรหาหมอธเนศเป็นการใหญ่เลยทีเดียว



ปิ๊ง ป่อง



แกร๊ก



"คุณนคินทร์!!  ภู่เป็นยังไงบ้างครับ!!?"

"หมอ.. หมอครับ ช่วยภู่ด้วย..."

ทั้งหมอธเนศและซอ ที่วิ่งกระหืดกระหอบหน้าตาตื่นกันมาอยู่แล้วนั้น ต่างก็ต้องตกใจไปพร้อมๆกัน เมื่อเห็นหน้านคินทร์ที่มีแต่น้ำตานอง สองตาแดงก่ำ ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ธเนศเร่งรุดเข้าดูอาการของภุมราทันที ชายหนุ่มร่างผอมบางบนเตียงใหญ่ยังคงลืมตาเหม่อลอย ใบหน้าเรียบนิ่ง ราวกับไม่รับรู้ซึ่งอะไรรอบกายทั้งนั้น หมอธเนศจึงลองทดสอบปฏิกิริยาการตอบสนองต่างๆของร่างกายภุมราดูอีกครั้ง จากนั้นพักใหญ่ๆ การวินิจฉัยก็จบลง

"หมอ ภู่เป็นยังไงบ้าง..."

"คงต้องรอดูอาการต่ออีกหน่อยน่ะครับคุณนคินทร์ อาการของภู่ตอนนี้ผมวินิจฉัยเบื้องต้นได้แค่ว่า ภู่อาจเป็น Kleine Levin syndrome หรือโรคเจ้าหญิงนิทรา"

"ห๊ะ...เจ้าหญิงนิทรา...ภ...ภู่..."

นคินทร์ถึงกับเซไปเล็กน้อย เขาเข่าอ่อนจนยืนไม่ค่อยจะอยู่ น้ำตาที่เหือดแห้งไปเมื่อครู่ ปริ่มไหลลงจากดวงตาเศร้าโศกนั้นอีกครั้ง ซอที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็แทบจะพูดอะไรไม่ออกเลยเหมือนกัน หมอธเนศเองก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะอธิบายให้สองหนุ่มฟังเกี่ยวกับอาการของภุมราอีกครั้ง

"ผมยังฟันธงไม่ได้ว่าภู่จะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน ภาวะที่ภู่เป็นอยู่ตอนนี้คือ ร่างกายตื่นตัวต่อสิ่งเร้า แต่สมองจะยังไม่สามารถรับรู้ในสิ่งที่ร่างกายสื่อสารได้ อาจเป็นเอฟเฟคจากการผ่าตัด และการที่ภู่เขาหลับมานานเกินไป ก็เป็นได้ ถ้ายังไงคืนนี้ผมคงต้องค้างที่นี่เพื่อคอยดูอาการของภู่ แล้วพรุ่งนี้เช้าถ้าภู่ไม่ดีขึ้น ผมจะพาเขาไปตรวจคลื่นสมองที่โรงพยาบาลอีกครั้ง"

"ครับ..ขอบคุณครับหมอ..เดี๋ยวผมเตรียมที่นอนให้..."

นคินทร์ตอบออกไปเสียงสั่นเครือ ใจยังคงสั่นกับภาพคนที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงใหญ่ทั้งที่ยังคงลืมตา ภาพนั้นทำให้หมอธเนศรู้สึกเห็นใจมาก เขาเองก็เจ็บที่ภุมราตกอยู่ในสภาพแบบนี้ แต่คนตรงหน้าเขาคงเจ็บกว่าไม่รู้สักกี่ร้อยกี่พันเท่า แต่เขาก็ไม่สามารถปลอบใจอะไรได้นอกจากตบไหล่คนที่ยังยืนซึมอยู่อย่างนั้นเบาๆ และพูดให้กำลังใจเล็กน้อยเท่านั้น

"คิดในแง่ดีนะครับ คุณนคินทร์ อย่างน้อย วันนี้ภู่ก็ตื่นขึ้นมาแล้ว.."

"....ขอบคุณครับหมอ...ขอบคุณจริงๆ..."

การมานอนค้างที่บ้านนคินทร์แทบจะเป็นเรื่องปกติของธเนศ โดยเฉพาะในช่วงที่นคินทร์รับภุมรามาพักรักษาตัวที่บ้านในช่วงแรกๆ ธเนศต้องมาค้างที่บ้านนี้บ่อยๆ เพื่อช่วยแนะนำวิธีดูแลภุมรา เช่นการหมั่นพลิกตัวเพื่อไม่ให้เกิดแผลกดทับ การดูแลสายยางให้อาหารที่เสียบอยู่ทางจมูกไม่ให้มีเศษอาหารเก่าตกค้าง วิธีการทำความสะอาดท่อช่วยหายใจที่คอ การเก็บปัสสาวะ และอื่น จนกระทั่งนคินทร์สามารถทำเองได้คนเดียวแล้วนั่นแหละ ธเนศถึงยอมกลับไปนอนที่คอนโดตัวเอง แต่ก็ยังเทียวไปเทียวกลับ หากไม่มีเคสที่ต้องผ่าตัดด่วน อะไร ตัวเขาก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนนคินทร์ที่นี่ แต่นั่นก็แค่ทำให้เขาทั้งคู่รู้สึกดีต่อกันแค่นิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ทำให้สนิทชิดเชื้อกันเลยแม้แต่น้อย

"เอ่อ...คุณนคินทร์ ถ้าไงวันนี้ผมกลับก่อนแล้วกันนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมาใหม่"

ซอ ที่เห็นว่าเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว เขาเองก็คิดว่าตัวเองควรจะกลับบ้านก่อน ถึงใจจะยังเป็นห่วงภุมราอยู่ไม่น้อยก็ตาม
"อยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่เถอะซอ อยู่เป็นเพื่อนฉันกับภู่ก่อนนะ..."

คำขอร้องแผ่วเบาจากนคินทร์ที่ต้องการให้มีคนอยู่ในบ้านเยอะๆ เพื่อให้เขาไม่คิดฟุ้งซ่าน ขอร้องให้ซออยู่ต่อและค้างที่บ้านตนในคืนนี้

"อ่า....เอ่อ...ก็ได้ครับ..."

"....ขอบใจนะ เดี๋ยวฉันจัดที่นอนให้..."

นคินทร์ยิ้มออกมาน้อยๆ เพื่อตอบแทนน้ำใจของหมอธเนศ และซอ ก่อนจะสูดหายใจลึกๆให้ตัวเอง ตอนนี้เขาต้องเข้มแข็ง...
<
<
<
<
<

ตีหนึ่ง ของคืนที่ยาวนาน นคินทร์ยังคงนั่นอยู่ที่ข้างเตียงของภุมราสองมือแกร่งประคองมือขาวซีดของคนรักขึ้นมาแนบที่ข้างแก้มตน สายตาจ้องมองใบหน้าที่หลับไหลอยู่นั้นอย่างโหยหา ตอนนี้ภุมราหลับไปอีกครั้งนึงแล้ว ส่วนหมอธเนศ กับซอนั้นเขาก็จัดที่นอนให้ได้นอนพักกันเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาเองนั้นโดยปกติก็นอนอยู่ข้างๆกับภุมราทุกวัน เพื่อคอยเฝ้าคนรักไว้ไม่ให้ห่างกาย


เธออยากกลับมาไหม
อยู่ตัวคนเดียวไม่เหลือใคร
เหงาเกินไปบ้างไหมเธอ
รออยู่ไม่ไปไหน ปล่อยให้เวลาผ่านฉันไป
เพราะลืมเธอไม่ไหวไม่ได้อยู่ดี
(เครดิต : คนไม่มีเวลา / ว่าน ธนกฤต)


นคินทร์ร้องเพลงเรียกคนรักเบาๆด้วยเสียงที่แหบเครือ วนอยู่กับท่อนเดิมๆที่เขาพอจะจำได้ พร่ำบอกว่ารัก บอกว่ารอ เรียกร้องให้กลับมาเสียที ก่อนที่ใจของเขาจะขาดไปเสียก่อน ใบหน้าหล่อเหลาแต่เศร้าโศกเคลียคลออยู่กับมือขาวของคนรักที่เขาประคองขึ้นมาแนบไว้ที่แก้ม
 
"ภู่ครับ...ภูดีใจนะ ที่ภู่ลืมตา..."


"ในที่สุดที่รักของภูก็ตื่นขึ้นมาแล้ว...เหลืออีกนิดเดียวนะครับคนดี อีกนิดเดียวภู่ก็จะกลับมาหาภูใช่มั้ยครับ..."


"ภูจะรออยู่ตรงนี้ครับ จะรอทุกวัน ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ภูก็จะรอ แต่ภู่ต้องกลับมานะครับ อย่าให้ภูรอเก้อเลยนะ อย่าทำร้ายภูไปมากกว่านี้เลย ภูกลัวแล้วครับคนดี ภูจะไม่งี่เง่าอีกแล้ว ภู่อภัยให้ภูนะครับ..."


"ภูรักภู่ที่สุดในโลก รักภู่ที่สุดในชีวิตเลย..."


"ภู่...ภู่..."



นคินทร์ซบลงบนเตียงนุ่มข้างๆร่างคนรัก มือแกร่งยังคงกุมมือของภุมราไว้ ดวงตาคมนั้นปิดลงแล้ว แต่ปากยังคงพร่ำเรียกชื่อคนรักเบาๆไม่หยุด จะต้องแลกด้วยอะไรกันนะถึงจะทำให้ภุมรากลับมาได้ ถ้าภุมราจะตื่นขึ้นมาพูดคุยกับเขาได้อีกสักครั้ง ไม่ว่าอะไรเขาก็ยอมแลก...

.
.
.
.
.

"ภู........"

.
.
.
.
.

"ภู..ครับ..."

.
.
.
.
.

"ภู........"


"!!....."

เสียงแหบแว่วๆที่ได้ยินผ่านหู ทำเอานคินทร์ที่กึ่งหลับกึ่งตื่นถึงกับสะดุ้ง  ชายหนุ่มลุกพรวดขึ้นมาจ้องหน้าคนป่วยทันที และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า คือใบหน้าของคนรักที่กำลังยิ้มให้เขา ใบหน้านั้นไม่ใช่ความฝัน ใบหน้าภุมราที่มีสายยางส่งอาหารเสียบอยู่ทางจมูกนั้นกำลังยิ้มให้เขา เขามั่นใจ มั่นใจแน่นอนว่ามันไม่ใช่ความฝัน โดยเฉพาะเสียงแหบแห้งที่เอ่ยชื่อเขาเบาๆนั้น ยิ่งทำให้นคินทร์มั่นใจที่สุด ว่านี่ไม่ใช่ฝัน... คนรักของเขา "กลับมาแล้ว"...


"ขี้เซา...จังนะ...ภู..."


"ภู่!!"


"ภู่....ฮึก..ภู่!  ภู่!"


"อืม...ภู่เอง...."


นคินทร์ที่ตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีก เพราก้อนสะอื้นก้อนใหญ่จุกแน่นไปทั้งคอ แถมน้ำหูน้ำตายังไหลไม่หยุด ทำได้แค่จับมือของคนรักไว้ ทั้งบีบทั้งเขย่า แทนคำว่าดีใจมากมายที่เขาอยากจะพูดแต่พูดไม่ออก ภุมราที่ยังคงเหนื่อยอ่อน พยายามยิ้มออกมาให้คนรัก พร้อมกล่าวคำที่ทำให้นคินทร์ชื่นใจถึงที่สุด...




"ภู่...กลับมาแล้ว...ครับ....ภู..."



...............................................................................

หายหัวไปมั่วกะเรื่องอื่นอยู่เดือนกว่า แฮะๆ
ขอโทษค๊า...

จึงมาไถ่โทษด้วยการปลุกภู่ให้ฟื้นซะที หลับมานานม๊าก (เพราะคนเขียนอู้)
พร้อมช็อตหวานเล็กๆ ของหมอธเนศกะน้องซอคนดี อิอิ

คนเขียนจะกลับตัวเป็นคนดีโดยการขยันมาต่อให้จบนะคะ

เก๊าขอโทษจริงๆ
 :ling3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 18-04-2013 19:45:05
 :heaven
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 18-04-2013 19:45:36
มาแล้วๆ ยินดีกับภูด้วยภู่กลับมาแล้ว จากนั้นไปก็ได้เวลาที่จะมีความสุขแล้วนะ  :mc2:

คู่ซอกะหมอน่ารักมากอะ คิกๆ  o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 18-04-2013 20:02:47
 :mew4: :mew4:

ในที่สุดก็หลับมา ยินดีต้อนรับการกลับมาอีกครั้งนะภู่  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไป
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 18-04-2013 20:30:55
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด :m3:
จิ้มเป็ดก่อน แล้วก้อจิ้มก้นคนเขียนแรงๆหนึ่งที :z13:
คิดถึงภู่กะภูมากกกกกกก ในที่สุดก็มาแล้ววววว
ภู่ในที่สุดก็ฟื้นซะทีนะ ต่อไปคงเป็นช่วงเวลาความสุขของภู่กะภูซะทีนะ :L1:
รวมทั้งคู่ซอกะหมอธเนศด้วย ขอหวานๆปานน้ำผึ้งเดือนเมษา?เลยนะคะ :hao6:

กอดแน่นๆ รอตอนต่อไปค่ะ  :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 18-04-2013 20:39:24
 :mew1:

ในที่สุดสิ่งที่ภูนั้นคอยทำก็ส่งผลให้ เค้าทั้งคู่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน

ต่อไปก็เป็นเรื่องของหมอกับซอสินะ

ยังงัยก้ขอให้ลงเอยกันด้วยดีทั้งสองคู่เลยนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 18-04-2013 20:49:39
ในที่สุดภู่ก็ฟื้นแล้วดีใจแทนภู TT^TT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Violet Rose ที่ 18-04-2013 21:44:14
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

กลับมาแล้ว ดีใจๆ

ในที่สุดภูก็ตื่นแล้ว เย้ๆๆ  :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 18-04-2013 22:06:04
เอาเรื่องนี้ให้จบก่อนน้าๆๆๆๆ เอ่อ แต่เรื่องอื่นก็อยากอ่านด้วยยย อัพเยอะๆๆ อัพทุกเรื่องเลยยย

ในที่สุดภู่ก็ฟื้นแล้ววววว ดีใจโพดๆๆๆเลยยยยย :mew4: :hao5: :heaven
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2013 22:53:51
ดีใจมาก
ภู่กลับมาแล้ว :)
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: felin_kkr ที่ 18-04-2013 23:08:17
น้ำตาไหลเลย

TT____________________________TT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 18-04-2013 23:36:25
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Windyne ที่ 18-04-2013 23:38:40
ฟื้นแล้ววววววววว ^^
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 19-04-2013 00:03:04
เย้ ๆ น้องภู่ฟื้นแล้ว   :angellaugh2: :angellaugh2:  ดีใจกับภูด้วย  เฮ้อ  ตอนแรกคิดว่าพอภู่ลืมตาแต่ยังเลื่อนลอย คุณคนเขียนจะให้ภูต้องดูแลภู่ที่เป็นอย่างนั้นไปซักระยะซะอีกนะเนี่ย แค่คิดก็ทรมานหัวใจ ฮือ ๆ ดีที่คนเขียนใจดีให้ทั้งคู่ได้เจอความสุขสักที  หวังว่าตอนต่อจากนี้ทั้งคู่จะมีแต่รักหวานแหววนะจ้ะ   :mew6:

ยอมรับว่าตอนแรกเห็นชื่อเรื่องแล้วไม่กล้าเข้ามาอ่านค่ะ กลัวจบเศร้า  แต่เห็นตอนที่ชื่อว่า ฝันร้ายที่จบลง เลยลองเข้ามาดู  พออ่านไป  โฮ  ร้องไห้ใหญ่เลยอ่ะ  สงสารภู่เหลือเกิน  ฮือ ๆ  แต่รู้สึกได้เลยว่าภู่ต้องปลอดภัย จากนั้นก็เลยรอเรื่องนี้มาต่อค่ะ อยากอ่านตอนที่ทั้งคู่ได้พ้นทุกข์พ้นโศกซักที  ใกล้แล้วใช่มั้ยคะคุณคนเขียน  :impress: :impress:

ส่วนคู่หมอธเนศกับซอ  เรายังรู้สึกหมอธเนศยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่เลย  เหมือนจะรักซอ แต่ทำไมพอซอถามว่ารักมั้ย กลับตอบไม่ได้ล่ะ  แล้วยังมาบอกว่าคิดถึงแต่หน้าซอตอนอย่างว่า  เป็นเราจะรู้สึกว่าไม่ได้รักเราแต่เห็นเราเป็นแค่ที่ระบายเท่านั้นใช่มั้ย    ดังนั้น ถ้าเราเป็นซอเราก็คงให้หมอธเนศต้องเคลียร์ตัวเองให้ดีก่อนว่าตัดใจจากภู่ได้แน่ ๆ แล้ว และรักซอจริง ๆ ไม่งั้นก็อย่ามายุ่งกันเลยดีกว่า :m16: :m16:

ขอโทษคนเขียนด้วยนะคะ เพิ่งเข้ามาเมนท์เรื่องนี้ครั้งแรก เลยยาวไปหน่อย แล้วก็อินมากเกินไป ถ้าทำให้คนเขียนรู้สึกไม่ดีก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ  :m5:  ยังไงก็รอติดตามตอนต่อไปอยู่นะจ้ะ   :3123:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 19-04-2013 04:45:54
ภู่ฟื้นแล้วดีจังเลยนะภู ธเนศรักซอแล้วสินะนั่น
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-04-2013 09:08:25

ภู่..ฟื้นแล้ว
โล่งใจ โล่งไปหมด  :heaven
ดีใจที่ภู่ตื่นขึ้นมาซักที
จากนี้จะได้ไม่ต้องชดใช้อะไรอีกแล้ว
จะได้อยู่กันอย่างมีความสุขสักที
....
หมอกับซอยังต้องรอดูกันต่อไป
5555555555 เชียร์นะจ๊ะ
รออ่านตอนต่อไปจ้าาาา
+1 คนแต่ง้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-04-2013 11:52:42
ดีใจ ภู่ฟื้นแล้ว และคนแต่งก็กลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 19-04-2013 19:32:36
คนเขียนกลับมาแล้ววววววววววววว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 19-04-2013 21:07:35
 :ling1: :ling1: :ling1: :mew4: :mew4: :mew4:
บรรยายไม่ออก... :oo1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 19-04-2013 22:06:30
ในที่สุดภู่ก็กลับมาหาภูจนได้
หวังว่าจากนี้คงไม่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นอีกนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 16-05-2013 01:59:52
มาต่อไวๆน้า 
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 16-05-2013 02:43:31
อ่านไปน้ำตาไหลไปเลยอ่ะ
ซึ้งมากๆเลย  :hao5:

ชอบคู่ หมอกัยซอมากๆอ่ะ

รออ่านอยู่น้า   
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 16-05-2013 22:38:02
เล่นเอา น้ำตาไหลพรากอีกล่ะ  :m15:

กว่าจะฟื้นได้ เกร็งจนคอเคล็ด (?)  ดีใจที่ฟื้นขึ้นมา ถึงแม้จะสาปแช่งตาภูในตอนแรก แต่ตอนนี้ให้อภัยล่ะ หุหุหุ  :katai3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-05-2013 11:57:42
ภู่ฟื้นแล้ว ดีใจแทนภูจริง ๆ
แต่อีกคู่ก้กำลังไปได้ดีนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: nutjisub ที่ 21-05-2013 12:27:54
เมื่อวานนั่งอ่านบนรถไฟฟ้า ตอนกลับบ้าน ร้องไห้น้ำตาไหล น้ำมูกไหล แต่ซวยหนักกว่าเดิมไม่มีกระดาษทิชชูด้วย อายคนข้าง ๆ มาก 55
รีบมาต่อไว ๆๆนะค่ะ คนอ่านรออยู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 25-05-2013 21:30:23
แวะเอาความคิดถึงมาฝาก ภู่ ภู และคนเขียน  :mew6:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 25-05-2013 23:05:43
โอ้ว.ว.ว.ว.ว.ซึ้ง ในที่สุดก็ฟื้นแล้ว  o7
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 17-08-2013 11:04:52
หายไปจะครบสี่เดือนแล้วนะสำหรับเรื่องนี้ยังไงก็ยังรอนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 19-08-2013 18:25:41
หายไป 4 เดือนแล้วนะ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: อนาคี99 ที่ 21-08-2013 18:58:55
สุดปลายทางของ...หัวใจ
ตอนจบ
20%แรกจ๊ะ




“แผลที่คอ ดีขึ้นเยอะแล้วนะภู่ ข้างในยังรู้สึกระคายอยู่บ้างหรือเปล่า?”

“ดี...ขึ้นแล้ว...ครับภู...ขอบ...คุณนะ”

เสียงแหบหวานตอบรับ เกือบสองเดือนแล้วที่ภุมราฟื้นคืนสติ
ถึงร่างกายตอนนี้จะยังไม่เป็นปกติ สภาพต่างๆก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่แค่ฟื้นขึ้นมาแล้วไม่สูญเสียความทรงจำอะไรไป ยังคงเป็นภุมราคนเดิมอยู่ได้ แค่นี้ทุกคนก็มีความสุขมากแล้ว แน่นอนว่าคนที่ดีใจมากกว่าใครก็คือ นคินทร์ ผู้ที่กระตือรือร้นดูแลคนรักไม่ห่างกาย งานการถ้าสามารถทำที่บ้านได้ ชายหนุ่มไม่ยอมออกไปไหนเด็ดขาด ไม่ยอมทิ้งให้คนรักต้องอยู่คนเดียวอย่างเด็ดขาด
 
"ภู่หิวหรือยังครับ ภูทำข้าวต้มปลาไว้ อร่อยนะ กินมั้ยครับ?"

"ครับ...อยากกิน...จัง..."

เสียงตอบกระท่อนกระแท่นของคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ทำหัวใจของนคินทร์วูบไหวเล็กๆทุกครั้ง ร่างของภุมรายังคงผ่ายผอม ผิวพรรณยังคงซีดเซียว พวงแก้มซูบเนื้อ แผลเจาะคอที่ถึงแม้จะทำการปิดรักษาไปแล้วแต่ก็ยังคงมีร่องรอยไม่น่าดู ผลจากการผ่าตัดทำให้ร่างกายซีกขวาของภุมราชาชืด แขนขาขวาขยับทำแทบจะไม่ได้  แม้แต่ใบหน้าเองซีกขวาก็ขยับลำบาก ส่งผลให้การพูดของภุมรามีปัญหาตามไปด้วย ทั้งการออกเสียง หรือบางทีแม้แต่การตอบโต้ก็จะเชื่องช้ากว่าปกติ ถึงแม้ในช่วงแรกๆนคินทร์แทบจะทำใจรับไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านมากว่าหนึ่งเดือน ทั้งยาและการกายภาพทำให้ภุมราดีขึ้นพอสมควร การตอบสนองดีขึ้น เรียกกำลังใจให้กับนคินทร์ไม่น้อยเลยทีเดียว เขาจะต้องอยู่อย่างมีความหวัง หวังอย่างที่สุดว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า คนรักของเขาจะต้องหายดี
หลังจากจัดการป้อนข้าวต้มปลาเสร็จสรรพ นคินทร์ก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ภุมราต่อ เพราะวันนี้นายแบบหนุ่มเนื้อตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ นคินทร์เลยไม่เสี่ยงอาบน้ำให้คนป่วย กลัวจะเลยเถิดไปกันใหญ่ เช็ดตัวให้คนรักได้นอนสบายๆแล้ว ก็จัดแจงนวดเนื้อนวดตัวกระตุ้นปลายประสาทต่อ นคินทร์ทำแบบนี้ทุกวันตั้งแต่ที่ภุมราฟื้น ไม่เคยเบื่อ หรือเหน็ดเหนื่อย ทุกสิ่งที่ทำลงไปล้วนมาจากความตั้งใจ ความรักและความห่วงใยทั้งสิ้น
 
"เหนื่อย...มั้ย...ภู...?"

เสียงแหบหวานถามขึ้นแผ่วเบา ขณะที่นคินทร์กำลังนวดอยู่ตรงขาผอมบาง

"ไม่เหนื่อยหรอก ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ภูมีความสุขมากกว่า แถมยังสนุกด้วย..."

"...สนุก..ตรงไหน...ดูแลคน...ป่วย...น่าเบื่อ...ออก..."

“การที่ได้เห็นว่าคนรักของภูอาการดีขึ้นทุกวัน สดใสขึ้นทุกวัน ด้วยการดูแลอย่างไร้ที่ติของภู น่าสนุกจะตาย”

“หลง...ตัวเอง”

นคินทร์หัวเราะร่า เมื่อถูกกระเซ้าเบาๆจากคนรัก เห็นใบหน้าอ่อนหวานนั้นยิ้ม หัวเราะได้ นคินทร์ก็ดีใจนักหนาแล้ว ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตที่ข้อเท้าบอบบางของภุมราแผ่วผิวด้วยความรักมากล้น เรียกความเขินอายให้ภุมราไม่น้อยเลยทีเดียว ข้อเท้าขวาที่ถูกจุมพิตถึงกับกระตุกวูบ หากแต่ยังไม่สามารถขยับได้มากนัก

“ทำอะไร...น่ะภู...มันเท้า...ไม่ใช่...เหรอ”

“แล้วไง หอมดีออก”

“.........บ้า”

ยิ่งว่านคินทร์ยิ่งเย้าราวกับแกล้ง จนใบหน้าขาวนวลนั้นถึงกับขึ้นสีแดงเห่อ ดวงตาฉ่ำหวานต้องเลี่ยงหลบ สายตากรุ้มกริ่มของนคินทร์พัลวัล ตั้งแต่ฟื้นคืนสติขึ้นมา ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่ตกอยู่ในสภาพเขินจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ เขาทำใจให้ชินกับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ ภุมรากำลังจะแย่แล้ว เพราะน้ำตาลในเลือดเขากำลังจะขึ้นพุ่งพรวดๆ

**************************************************

 :hao5:

ขอโทษที่หายวับไปเลย ขอโทษค่ะ

ตอนนี้เป็นตอนจบแล้วค่ะ เย้ๆๆๆ
แล้วจะมีตอนพิเศษของหมอธเนศกับน้องซอแถมอีก 1 ตอนแน่นอนค่ะ
ปัญหาคือ...ใครจะมารู้บ้างนะ ว่าเราอัพ...เฮ้อ..

เอาเป็นว่า...เดี๋ยวจะทำการตั้งกระทู้ใหม่สำหรับสองตอนที่เหลือนะคะ
แล้วจะขอแจ้งย้ายอีกที
ชีวิตมันลำเค็ญจริงๆเลยค่ะ
ฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 21-08-2013 19:32:40
เห็นชื่ออนาคี99มาก็รีบพุ่งเข้ามาอ่านเลยจ้าาาา มาต่อแล้วดีใจมากเลยยยยย

ซึ้งเลยอ่ะ หวานปนซึ้ง ภูดูแลภู่ดีๆน้า หวังว่าสักวันทุกอย่างจะดีขึ้นกว่านี้ หายไวไวนะคะ

อย่าทิ้งนานอีกเลยขอร้องงง :mew6:
หัวข้อ: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 21-08-2013 20:17:07
น้องภู่ น่าสงสารจังเลย ฮือ ๆ  :monkeysad:  แต่ยังดี ที่มี ภู ดูแลไม่ห่าง ถึงน้องภู่จะยังไม่ปรกติเหมือนเดิม
แต่คิดในแง่ดี ก็ดีกว่านอนเป็นเจ้าชายนิทราไม่ตอนสนองอะไรนั่นแหละนะ
ภู ช่างแสนดี ดูแลน้องภู่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ้งใจไปกับน้องภู่ด้วยเลย
แล้วยังอุตส่าห์โชว์หวานได้อีกน้า จุ๊บที่ข้อเท้าเลยเหรอ ชอบจัง ๆ ภูที่เป็นแบบนี้
มา 20 % ก็ยังดี แต่ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ แงงง :ling1: ฮือ น้องภู่เพิ่งฟื้นเองน้า
ยังไม่ได้หวาน ๆ กับ ภู เท่าไหร่เลย :hao5:
แต่งเพิ่มอีกตี๊ด ๆ ได้มั้ยจ้ะ ตอนพิเศษของคู่นี้ก็ยังดี (มีต่อรองอีกแน่ะ)
คู่น้องซอ พี่หมอธเนศ ก็อยากอ่านยาว ๆ กว่านี้นะเนี่ย ได้ตอนพิเศษตอนเดียวเองเหรอค้า เศร้า :o12:
รอที่เหลือนะคะ ฮือ จะจบจริง ๆ เหรอ  (ยังไม่เลิก) 
ขอบคุณคนเขียนจ้ะ  :L2: :3123:



หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 21-08-2013 20:29:50
ในที่สุดคนเขียนก็มาต่อแล้ววววววว  :กอด1:
ภู่กะภูได้หวานกันซะที  :mew3:
รอที่เหลือนะคะ  :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 21-08-2013 21:27:58
บีบคั้นหัวใจมากยอะ เฮ้อออในที่สุดก็ฟื้นแล้วนะ ดูแลกันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 22-08-2013 21:39:30
สุดปลายทางของ...หัวใจ
ตอนจบ
50%แรกจ๊ะ



“แผลที่คอ ดีขึ้นเยอะแล้วนะภู่ ข้างในยังรู้สึกระคายอยู่บ้างหรือเปล่า?”

“ดี...ขึ้นแล้ว...ครับภู...ขอบ...คุณนะ”

เสียงแหบหวานตอบรับ เกือบสองเดือนแล้วที่ภุมราฟื้นคืนสติ
ถึงร่างกายตอนนี้จะยังไม่เป็นปกติ สภาพต่างๆก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่แค่ฟื้นขึ้นมาแล้วไม่สูญเสียความทรงจำอะไรไป ยังคงเป็นภุมราคนเดิมอยู่ได้ แค่นี้ทุกคนก็มีความสุขมากแล้ว แน่นอนว่าคนที่ดีใจมากกว่าใครก็คือ นคินทร์ ผู้ที่กระตือรือร้นดูแลคนรักไม่ห่างกาย งานการถ้าสามารถทำที่บ้านได้ ชายหนุ่มไม่ยอมออกไปไหนเด็ดขาด ไม่ยอมทิ้งให้คนรักต้องอยู่คนเดียวอย่างเด็ดขาด
 
"ภู่หิวหรือยังครับ ภูทำข้าวต้มปลาไว้ อร่อยนะ กินมั้ยครับ?"

"ครับ...อยากกิน...จัง..."

เสียงตอบกระท่อนกระแท่นของคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง ทำหัวใจของนคินทร์วูบไหวเล็กๆทุกครั้ง ร่างของภุมรายังคงผ่ายผอม ผิวพรรณยังคงซีดเซียว พวงแก้มซูบเนื้อ แผลเจาะคอที่ถึงแม้จะทำการปิดรักษาไปแล้วแต่ก็ยังคงมีร่องรอยไม่น่าดู ผลจากการผ่าตัดทำให้ร่างกายซีกขวาของภุมราชาชืด แขนขาขวาขยับทำแทบจะไม่ได้  แม้แต่ใบหน้าเองซีกขวาก็ขยับลำบาก ส่งผลให้การพูดของภุมรามีปัญหาตามไปด้วย ทั้งการออกเสียง หรือบางทีแม้แต่การตอบโต้ก็จะเชื่องช้ากว่าปกติ ถึงแม้ในช่วงแรกๆนคินทร์แทบจะทำใจรับไม่ได้ แต่พอเวลาผ่านมากว่าหนึ่งเดือน ทั้งยาและการกายภาพทำให้ภุมราดีขึ้นพอสมควร การตอบสนองดีขึ้น เรียกกำลังใจให้กับนคินทร์ไม่น้อยเลยทีเดียว เขาจะต้องอยู่อย่างมีความหวัง หวังอย่างที่สุดว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า คนรักของเขาจะต้องหายดี
หลังจากจัดการป้อนข้าวต้มปลาเสร็จสรรพ นคินทร์ก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ภุมราต่อ เพราะวันนี้นายแบบหนุ่มเนื้อตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ นคินทร์เลยไม่เสี่ยงอาบน้ำให้คนป่วย กลัวจะเลยเถิดไปกันใหญ่ เช็ดตัวให้คนรักได้นอนสบายๆแล้ว ก็จัดแจงนวดเนื้อนวดตัวกระตุ้นปลายประสาทต่อ นคินทร์ทำแบบนี้ทุกวันตั้งแต่ที่ภุมราฟื้น ไม่เคยเบื่อ หรือเหน็ดเหนื่อย ทุกสิ่งที่ทำลงไปล้วนมาจากความตั้งใจ ความรักและความห่วงใยทั้งสิ้น
 
"เหนื่อย...มั้ย...ภู...?"

เสียงแหบหวานถามขึ้นแผ่วเบา ขณะที่นคินทร์กำลังนวดอยู่ตรงขาผอมบาง

"ไม่เหนื่อยหรอก ไม่เหนื่อยเลยสักนิด ภูมีความสุขมากกว่า แถมยังสนุกด้วย..."

"...สนุก..ตรงไหน...ดูแลคน...ป่วย...น่าเบื่อ...ออก..."

“การที่ได้เห็นว่าคนรักของภูอาการดีขึ้นทุกวัน สดใสขึ้นทุกวัน ด้วยการดูแลอย่างไร้ที่ติของภู น่าสนุกจะตาย”

“หลง...ตัวเอง”

นคินทร์หัวเราะร่า เมื่อถูกกระเซ้าเบาๆจากคนรัก เห็นใบหน้าอ่อนหวานนั้นยิ้ม หัวเราะได้ นคินทร์ก็ดีใจนักหนาแล้ว ชายหนุ่มก้มลงจุมพิตที่ข้อเท้าบอบบางของภุมราแผ่วผิวด้วยความรักมากล้น เรียกความเขินอายให้ภุมราไม่น้อยเลยทีเดียว ข้อเท้าขวาที่ถูกจุมพิตถึงกับกระตุกวูบ หากแต่ยังไม่สามารถขยับได้มากนัก

“ทำอะไร...น่ะภู...มันเท้า...ไม่ใช่...เหรอ”

“แล้วไง หอมดีออก”

“.........บ้า”

ยิ่งว่านคินทร์ยิ่งเย้าราวกับแกล้ง จนใบหน้าขาวนวลนั้นถึงกับขึ้นสีแดงเห่อ ดวงตาฉ่ำหวานต้องเลี่ยงหลบ สายตากรุ้มกริ่มของนคินทร์พัลวัล ตั้งแต่ฟื้นคืนสติขึ้นมา ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่ตกอยู่ในสภาพเขินจนทำอะไรไม่ถูกแบบนี้ เขาทำใจให้ชินกับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้ไม่ได้เลยจริงๆ ภุมรากำลังจะแย่แล้ว เพราะน้ำตาลในเลือดเขากำลังจะขึ้นพุ่งพรวดๆ
"...เป็นอะไรครับภู่ หึหึ เขินเหรอ?"

"ป...เปล่า...สักหน่อย..."

ภุมราปฏิเสธเสียงแผ่ว เพราะยังต้องก้มหน้าหลบลี้สายตาซุกซนของคนรัก เมื่อเห็นว่าภุมราเขินอายขนาดนั้น นคินทร์ก็อดที่จะหยอกเย้าต่อไม่ได้ ชายหนุ่มขยับจากที่นั่งอยู่ที่ปลายเท้าของภุมราขึ้นไปหาร่างบางนั้นมากขึ้น ใช้สองแขนแกร่งเท้าคร่อมร่างคนรักไว้ แล้วใช้หน้าผากของตนแนบไว้กับหน้าผากคนรัก

"...ภู...?..."

"ภูรักภู่นะครับ...ยอมเชื่อกันหรือยัง?"

"...อืม.."

"แล้วภู่ล่ะ ยังรักภูมั้ย?"

".....รักสิ...จะไม่...รัก...ได้ยังไง...ล่ะ"

คำว่ารักที่แสนอบอุ่นที่ทั้งคู่ต่างมอบให้กันนั้นเป็นเหมือนยาขนานเอกที่สามารถรักษาทุกบาดแผลในใจได้อย่างไม่มีที่ติจริงๆ ความหวานล้ำที่แผ่กำจายอยู่ในบรรยากาศรอบๆตัวทำให้นคินทร์อดที่จะก้มลงสูดกิ่นหอมหวานจากแก้มใสไม่ได้ แต่เพียงแค่ปลายจมูกสำผัส ภุมราก็หดคอหนี เพราะทั้งจัก๊กจี้ทั้งเขินจนไม่อาจอยู่เฉย

"...ภู...ไม่เอา..."

"ทำไมล่ะครับ...หืม?"

"อยาก...นอนแล้ว..."

"งั้น...ขอภูจูบราตรีสวัสดิ์ได้มั้ย?"

"....ไม่เอา...อื้อ..."

เพราะปฏิเสธไม่แข็งขันแถมยังทำหน้าตาน่ารักหน้าแกล้ง นคินทร์จึงอดที่จะฉวยโอกาสไม่ได้ ชายหนุ่มอาศัยจังหวะที่ภุมราจะอ้าปากห้าม ฉกจูบรวดเร็วแต่แผ่วหวาน ริมฝีปากอุ่นร้อนเฝ้ารังแกเรียวปากอิ่มจนแทบช้ำ

"...อือ..."

เสียงครางเครือเบาๆเมื่อปลายลิ้นเล็กถูกดูดดุน แม้จะแอบเคืองคนใจร้ายเล็กๆไม่ได้ที่ชอบแกล้งบังคับจูบอยู่เรื่อย แต่อีกใจก็หวามหวิวไปกับรสสัมผัส แขนซ้ายของภุมราที่ขยับได้ปกติจึงอดที่จะเอื้อมไปคล้องไว้ที่ลำคอแกร่งของคนรักไม่ได้ นายแบบหนุ่มลืมไปเลยว่ายิ่งเขาทำแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้นคินทร์ย่ามใจ แต่กว่าภุมราจะรู้ตัวก็ถูกเอาเปรียบไปเยอะแล้ว...

"อะแฮ่ม"

ระหว่างกำลังเพลิดเพลินอยู่กับรสจูบละมุนลิ้นจู่ๆก็มีเสียงกระแอมมาขัดจังหวะ เล่นเอาสองร่างผละออกจากกันแทบไม่ทัน และพอหันไปมองที่ต้นตอของเสียง นคินทร์ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที

"อืม...ผมขัดจังหวะหรือเปล่าเอ่ย..."

"ก็รู้ตัวนี่หมอ...ฮึ!"

"..ส...สวัสดี...ครับ...คุณหมอ.." (>////<)

ภุมรากัดฟันทักทายทั้งที่ยังอายจนไม่กล้ามองหน้าหมอธเนศ

"เห็นเมื่อเช้าคุณภูโทรหาผมบอกว่าภู่มีไข้ ผมเลยแวะมาดูหน่อยน่ะครับ"

หมอธเนศอธิบายเหตุผลของการมาเยี่ยมเยียนให้ภุมราฟังพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะขออนุญาตเดินเข้าไปหาร่างบนเตียงด้วยความคุ้นเคย ฝ่ายนคินทร์ถึงจะหงุดหงิดอยู่บ้างแต่ก็ยอมหลีกทางให้แต่โดยดี

"ไหนขอผมดูหน่อย ภู่อ้าปากนิดนึงนะ ขอผมดูคอนิดนึง"

หมอธเนศที่นั่งอยู่บนเตียงข้างๆกับร่างของภุมราเอ่ยกับคนป่วยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โดยปกติธเนศก็มาที่นี่บ่อยๆอยู่แล้ว ตกอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งเพื่อมาติดตามอาการของภุมราอย่างใกล้ชิด แม้ว่าสภาพร่างกายของคนไข้ของเขาคนนี้จะยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก แต่ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นร่างกายซีกขวาซึ่งตอนแรกแทบจะไม่มีความรู้สึก แต่ตอนนี้ถึงกับเริ่มขยับได้บ้างแล้ว รู้สึกได้ถึงสัมผัสแล้ว แม้แขนขาจะยังอ่อนแรงจนยังไม่สามารถทำกายภาพด้วยการฝึกเดินตอนนี้ได้ แต่หมอธเนศรู้ว่าคงอีกไม่นาน โดยเฉพาะยิ่งมีพยาบาลส่วนตัวที่ถูกใจขนาดนี้ด้วยแล้ว อาการของภุมราย่อมดีวันดีคืน ไม่เกินครึ่งปีนายแบบของเขาต้องวิ่งปร๋อได้แน่ๆ

"โอเคครับ หวัดลงคอนิดหน่อยเนาะ ยังไม่มีเสมหะ ไม่มีอาการไอ ไม่มีลมในปอด เดี๋ยวผมจัดยาแก้หวัดให้สัก 3 ชุดแล้วกันนะภู่ พรุ่งนี้ก็หายละ"

หมอธเนศยิ้มละมุนพร้อมลูบศรีษะทุยด้วยความเอ็นดูหลังทำการวินิจฉัยเสร็จ ในสายตาของหมออย่างเขาภุมราสีหน้าดูดีขึ้นมากทีเดียวถ้านับจากตอนเพิ่งฟื้นสติ ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน จำได้ติดตาว่าวันนั้นเขาถูกนคินทร์โทรเรียก พอมาถึงก็เห็นภุมราที่ลืมตาตื่นขึ้นแล้วแต่กลับไม่ตอบสนองอะไร ถึงจะใจเสียแต่ก็ยังมีความหวังว่าอย่างน้อยก็ตื่นขึ้นแล้ว แล้วในคืนนั้นภุมราก็ตื่นขึ้นมาจริงๆ นคินทร์ตะโกนเรียกจนลั่นบ้าน ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ เขากับซอเองก็ไม่ต่างกัน คืนนั้นเขาส่งตัวภุมราไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการทันที โกลาหลกันทั้งคืน เพราะภุมราทั้งหายใจติดขัด ทั้งความดันต่ำลง กว่าจะเข้าที่เข้าทางก็เกือบเช้า หลังจากนั้นอีกเกือบสัปดาห์กว่าจะเริ่มถอดสายยางและให้อาหารกากได้ ทั้งต้องปิดแผลที่เจาะคอเอาไว้อีก การรักษาแผลทางร่างกายไม่น่าห่วงเท่ากับอาการอัมพาตครึ่งซีกของภุมรา ยอมรับว่าเขาเองก็ตื้อๆไปเหมือนกัน แต่ก็พยายามหาทางรักษาอย่างเต็มที่ จนในที่สุดภุมราของเขาก็เริ่มดีขึ้นอาการอัมพาตเหลือแค่อัมพฤต และคงจะต้องดีขึ้นในไม่ช้านี้

"ขอบ...คุณครับ...คุณหมอ..."

ภุมรายิ้มหวานขอบคุณหมอธเนศที่ดูแลตัวเองด้วยดีตลอดมา

"คุณหมอ..คือเพื่อน...ที่ดีที่..สุด..ของผม...เลยนะครับ...ถ้าไม่มี...คุณหมอผม...คง...ตาย...ไปแล้ว..."

"ไม่ตายหรอกครับ ภู่ของหมอน่ะกระดูกเหล็กจะตายไป หึหึ"

"อะแฮ่ม...หมอ พูดสวยๆ...ภู่ไม่ใช่ของคุณ ภู่เป็นของผมคนเดียว อย่าลำเลิกครับ..."

"....ภู....บ้า..."

อารมณ์หวานๆระหว่างหมอธเนศกับภุมรามลายหายสิ้น เมื่อนคินทร์รีบแทรกขึ้นกลางวง ออกตัวว่าหวงเต็มที่ ภุมราได้แต่เขิน สาวนหมอธเนศเองก็ได้แต่ขำ เขาเองก็เริ่มจะชินกับนคินทร์ที่เป็นเด็กหวงของแบบนี้แล้ว ถึงบางครั้งเขาจะแอบหมั่นใส้นคินทร์จนแกล้งหยอกมากไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับภุมราไปมากกว่าเพื่อนที่เขาห่วงใยมากที่สุดอีกแล้ว เพราะเขารู้ว่าถึงจะคิดไปก็ไม่มีทางสมหวัง ใจของภุมราเป็นของนคินทร์เพียงคนเดียว แถมตอนนี้ใจเขาเองก็มีเจ้าของแล้วเหมือนกัน

"โอเคครับ โอเค ของคุณภูก็ของคุณภู หึหึ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ คืนนี้ผมมีเข้าเวรที่โรงพยาบาล มีอะไรก็โทรหาได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ"

"ขอบคุณ..ครับ"

หลังจากที่หมอธเนศกลับออกไป นคินทร์ก็จัดการให้ภุมราทานยาแล้วนอนพัก ส่วนตัวของนคินทร์เองก็กลับออกไปทำงานที่ห้องส่วนตัวระหว่างที่คนรักนอนหลับ รอปลุกทานข้าวเย็นเพื่อนทานยาอีกรอบ เหตุการณ์ในแต่ละวันยังคงดำเนินไปตามปกติ รอวันนี้ภุมราจะกลับมาเดินได้ในอีกไม่ช้า

*
*
*
*
*

"ภู่ครับขยับไหวมั้ย มาหาภูเร็วเข้า"

"ไหว...แต่ขอเวลาหน่อยได้มั้ยภู...อย่าเร่งสิ"

"หึหึ ก็ภูใจร้อนนี่นา เอ้า เดินมาเร็วเข้า"

เสียงเจื้อยแจ้วในห้องกายภาพบำบัดของโรงพยาบาลที่ภุมราเข้ารักษาตัวนั้นไม่ใช่ของใครอื่น นคินทร์กับภุมรานั่นเอง หลังจากคืนสติได้เดือนที่ 4 อาการชาซีกขวาของภุมราดีขึ้นมากจนเกือบจะเป็นปกติแล้ว แม้แต่การพูดที่เคยตะกุกตะกักก็ดีขึ้นจนแทบจะเหมือนเดิมด้วย ดังนั้นเจ้าตัวจึงสามารถทำกายภาพบำบัดด้วยการหัดเดิน เหวี่ยงแขน กำมือ ก้ม ยืด ยึด เพื่อเป็นการคลายเส้นเอ็นที่ยึดแข็ง บริหารกล้ามเนื้อที่เล็กลีบลงให้กลับมามีเรี่ยวแรงมากขึ้น   

"อ๊ะ...แฮ่ก แฮ่ก"

"อึ๊บ! เย้...เก่งที่สุดครับภู่"

ในที่สุดภุมราก็เดินเกาะราวไปจนถึงนคินทร์จนได้ ตากล้องหนุ่มดีใจจนแทบจะอุ้ม แต่ภุมรานั้นทั้งเหนื่อยทั้งหอบจนดีใจไม่ออก ถึงร่างกายจะยังแบบบางอยู่มาก แต่ก็ดีกว่าตอนที่เพิ่งฟื้นเยอะ ขนาดนคินทร์เองยังชอบแซวอยู่บ่อยๆว่ากอดได้เต็มไม้เต็มมือขึ้น

"วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันเนอะ ภู่ของผมหอบเป็นลูกหมาแล้ว"

"บ้า...แต่ไม่ไหวแล้วจริงๆล่ะ แค่สามรอบนี่ภู่ก็จะตายแล้ว แฮ่ก แฮ่ก"

"คร๊าบๆ มาเดี๋ยวภูพาไปอาบน้ำนะ อึ๊บ"

"เดี๋ยวๆ! ภู่จะเดินเอง ไม่เอานะ ไม่อุ้ม"

ภุมราโวยวายขึ้นเมื่อนคินทร์ทำท่าจะช้อนขายกเขาอุ้ม ภุมราไม่ชอบโดนอุ้มท่านี้เลย นายแบบหนุ่มรู้สึกว่ามันน่าอายมาก ในตอนแรกที่ยังเดินเหินไม่ได้เขาก็ยอมให้อุ้มดีๆอยู่หรอก และถึงจะเป็นตอนนี้ถ้าอยู่กันแค่สองคนหรืออยู่ที่บ้านเขาก็อาจจะยอมให้อุ้มได้ แต่นี่คนในศูนย์กายภาพบำบัดเยอะแยะ ถึงมันจะดูเป็นเรื่องปกติ เพราะคนไข้คนอื่นๆก็มักจะโดนอุ้มกันแบบนี้ แต่ภุมราทนไม่ไหวจริงๆ โดนอุ้มทีไรโดนคนอื่นมองยิ้มๆทุกที

"หอบตัวโยนขนาดนี้จะไปเดินไหวได้ยังไงกันครับที่รัก มาให้อุ้มเหอะน่า"

"...ไม่เอาภู่จะเดินเอง..."

"อย่าดื้อครับภู่ คนอื่นมองกันใหญ่แล้วนะ ไม่อายเหรอ?"

"อึก...ภู...ภู่ขอขี่หลังแทนได้มั้ย..."

ไหนๆก็เดินเองยังไม่ไหว ให้นคินทร์พาไปน่าจะสะดวกกว่า แต่เพราะไม่อยากถูกอุ้มเหมือนเป็นผู้หญิง ดังนั้นการขี่หลังย่อมเป็นทางออกที่ดีที่สุด

".....ก็ได้ มาสิ"

นคินทร์ยอมแต่โดยดี ภุมรายิ้มกว้างก่อนพยายามใช้แขนเกาะที่ไหล่ของคนรักเพื่อจะขึ้นขี่หลัง แต่ในจังหวะที่ยังไม่ทันตั้งตัว นคินทร์ก็เบี่ยงตัวกลับมาคว้าตัวภุมราขึ้นอุ้มไปทั้งๆอย่างนั้น เล่นเอานายแบบหนุ่มถึงกับเผลอร้องออกไปด้วยความตกใจเสียงดัง

"เหวอออ!! ภ...ภู!!?"

"แบบนี้ปลอดภัยกว่า ไปกันเถอะ" (^ ^)

"ไอ้ภู..ไอ้บ้า.." (>///<)

ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองหนุ่มก็ออกจากศูนย์กายภาพบำบัด นคินทร์แย้มยิ้มอารมณ์ดีขณะเป็นสารถีให้คนรัก แต่ฝ่ายภุมรานั้นยังคงหน้าบึ้งเล็กน้อยด้วยว่ายังแอบเคืองคนขี้แกล้ง เมื่อเห้นว่าอีกฝ่ายยังงอนไม่เลิก นคินทร์จึงต้องง้อออกไปอย่างขำๆ
"ภู่ครับ ยังโกรธอยู่อีกเหรอ ภูขอโทษนะ..."

"......."

"โธ่ภู่ ก็ภูเห็นว่าแขนขวาภู่ยังไม่ค่อยมีแรงกลัวเกาะหลังภูไม่อยู่เดี๋ยวจะตกเอา อันตรายนะ..."

"...ก็บอกแต่แรกสิ จู่ๆก็อุ้มภู่อายคนอื่นเขานะ"

"ที่รักครับ ใครจะว่าอะไรคนป่วยก็ต้องโดนอุ้มทั้งนั้น ไม่แปลกหรอก"

"...ก็อายอยู่ดีแหละ"

"ครับๆ คราวหน้าภูจะบอกก่อน จะไม่ทำให้ภู่ตกใจอีกแล้วนะครับ นะนะ หายโกรธภูได้หรือยังคร๊าบ..."

"....ไม่"

"โธ่...ภู่ ดีกับภูเหอะนะ เดี๋ยวภูพาไปหาอะไรอร่อยๆทานนะครับ นะนะ"

"...อยากกินปลาดิบ"

".......จัดไปครับคุณภุมรา หึหึ"

ได้ยินออร์เดอร์ของกินจากอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าคนรักไม่ได้โกรธจริงจัง นคินทร์ก็ยิ้มร่ารับหน้าที่ขับรถพาเจ้าชายของเขาไปร้านอาหารญี่ปุ่นที่ห้างหรูใจกลางเมืองทันที

"ภู...ภู่อยากไปเยี่ยมฝ้าย..."

"..........."

จู่ๆภุมราก็เอ่ยเรื่องของฝ้ายขึ้นในขณะที่รถจอดติดไฟแดงอยู่ นคินทร์ยังไม่ได้ตอบคำใด เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่ภุมราจะไปเยี่ยมฝ้าย แต่เขาอยากให้ภุมราหายดีก่อน ยังไม่อยากให้มีอะไรกระทบกระเทือนจิตใจในช่วงนี้

"พรุ่งนี้ภูพาภู่ไปเยี่ยมฝ้ายหน่อยได้มั้ย?"

"...เอาไว้ก่อนดีกว่ามั้ยภู่ รอให้ภู่หายดีกว่านี้ก่อน..."

"ภู่ขอร้อง...ภู่อยากไปหาฝ้ายจริงๆ...นะครับภู..."

"........ภู่..."

"นะครับภู...นะ"

"ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ภูพาไปนะ"

"ขอบคุณครับ"

ในที่สุดนคินทร์ก็ทนคำอ้อนไม่ไหว ตัดใจพาภุมราไปหาฝ้ายในที่สุด ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยคราวนี้อะไรที่ยังคั่งค้างในใจจะได้เคลียร์กันให้หมดเสียที


***************************** TBC.

สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)

รออีก 50%นะจ๊ะ...ตอนจบยาวเชียว อิอิ

ใครรอตอนพิเศษหมอธเนศ & น้องซอ อดใจรอต่ออีกนิดนะจ๊ะ

ขอบคุณค๊า...

ขอบคุณที่ยังรักกันนะคะ
Thearboo / อนาคี99
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 22-08-2013 21:56:12
 :m28:
ย้ายมานี่แล้วใช่ไหมค่ะ เมื่อกี้ไปอีกกระทู้ที่ตั้งไว้แสดงความคิดเห็นไม่ได้ :mew2:



ในที่สุดก็ได้ชิมน้ำตาลบ้าง หลังจากภูกะภู่ดราม่าซะนาน
ก็อย่างว่าล่ะอาการภู่จะไม่ดีวันดีคืนได้ไงก็ได้พยาบาลพิเศษสุดที่รักแบบภูนี่นา  :mew3:
รออีกห้าสิบเปอร์เซ็นที่เหลือค่ะ  :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 23-08-2013 16:10:35
สุดยอดความน่ารัก สุดยอดความหวานนน สนุกมากเลยจ้าา รออีก 50 ที่เหลือนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: nutjisub ที่ 23-08-2013 17:08:07
เมื่อคืนมานั่งอ่านไหม่ นั่งร้องไห้ตาบวม  รอครึ่งหลังนะค่ะ เอาหวาน ๆๆๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: อนาคี99 ที่ 23-08-2013 17:32:54
ถูกย้ายกลับมาแล้วค๊า
ขอบคุณพี่โมดุฯมากค่ะ ค่อยใจชื้นว่า จะโดนย้ายเมื่อจบ อร๊างงงส์

อีกครึ่งตอนอาจช้าหน่อยนะคะ ติดงานนิดหน่อย แต่มาแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
อนาคี99 / Thearboo

 :hao7:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 23-08-2013 21:11:44
จะรอนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 23-09-2013 12:22:16
 :hao7: :hao7: ชอบเรื่องนี้มากๆเลยใคร เข้ามาบ่อยๆจนรูว่าอัพแล้วแต่เปลี่ยนหัวเรื่องไม่ได้
ยังไงเราก็รอนะคะ ชอบนิยายแนวนี้ที่สุดชอบจริงนายเอกใกล้ตายเนี่ย555
หน่วงดี   มาต่อไวๆน้าาา  ใครไมรอเรารอ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-09-2013 19:08:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-09-2013 19:19:23
ถ้าไม่ลองเปิดมาดู ก็ไม่รู้นะเนี้ยว่าเปลี่ยนหัวกระทู้ไม่ได้อะ

เกือบไม่ได้อ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 24-09-2013 19:33:07
มาอ่านบทละครที่เมธกะยุต้องเล่นหน่อย อิอิ ( -> p.8 )
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 26-09-2013 21:46:49
รออีก 50 % ที่เหลือค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-09-2013 01:55:16
ดีใจที่จบแบบแฮปปี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 27-09-2013 02:34:03
รอๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 27-09-2013 10:06:04
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoke ที่ 27-09-2013 12:14:54
 :katai4: :katai4:

รอออออออออออ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 27-09-2013 14:57:56
บันทึกของภู่ซึ้งมากเลยยยย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: shoky_9 ที่ 27-09-2013 17:22:33
รอที่เหลือ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: black-egoistic ที่ 27-09-2013 20:27:49
ตามมาอ่านเรื่องของน้องภู่
น้ำตาท่วมจอแทบทุกตอน
ตอนแรกเราโกรธภูมากเลยนะ
ถึงขนาดแช่งในใจว่าพอรู้ความจริงขึ้นมาแล้วอยากง้อภู่ขอให้ภู่ไม่ให้อภัย  :laugh:
แต่พอตอนที่หนูภู่นอนไม่ได้สติ
แอบสงสารอีตาภูจนร้องไห้
เรายกโทษให้ภูแล้วแหละ
ตอนนั้นภูก็ได้ใช้กรรมที่ทำไว้กับภู่เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ก็หวานกันสักที อิอิ
 o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 27-09-2013 21:02:14
มาตามอ่านตอนจบค่า   :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-09-2013 01:51:21
ฟื่นแล้วฟื่นแล้ว รออ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ultra_bang ที่ 06-10-2013 19:12:48
 :mew4: :mew4:

ซึ้งๆๆๆอ่ะตะเอง 

เค้านั่งอานตั้งแต่ เก้าโมง  ไม่นอมหยุดเลย  ิอิอิ  รอตอนต่อไปนะคราฟฟฟ  มาต่อเร็วๆๆนะ

ภู ภู่

หมอ  ซอ  อิอิอ  เข้ากันดีจังงงงงงงง
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 07-10-2013 20:39:04
รอรอรอตอนจบ คิกคิก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 16-10-2013 10:04:01
 :hao6:   :hao6:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 03-11-2013 14:56:24
อะไรกันนี่ เรื่องนี้น้ำตาร่วงเผาะๆ เจ๋งสุดๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 13-11-2013 22:13:05
 :sad11:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: JingJing ที่ 14-11-2013 23:10:36
 อยากอ่านๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: nuper ที่ 19-01-2014 02:39:30
เข้ามารอตอนจบค่า เสียน้ำตามาหลายตอนละคะ ขอหวานๆ อมยิ้มส่งท้ายได้ไหมคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: หมูน้อย ที่ 19-01-2014 12:34:15
 :hao5:   อ่านไปก็น้ำตาไหล
ดีใจที่ภู่ฟื้นสักที หลับนานเลย



คนเขียนสู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 09-02-2014 09:39:02
ขอให้หายดีเร็วๆนะ ภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: freesia ที่ 11-02-2014 01:49:58
ข่วนจอ เขาอยากอ่านต่อTAT
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 11-02-2014 12:46:29
ขำตัวเอง อ่านมาถึงตอนนี้เพิ่งตะหงิดๆ สดายุ=ภุมริน โอ้พระเจ้า นี่มันบทละครที่น้องยุเล่นนี่นา!!!! :katai3: :katai3: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: ultra_bang ที่ 22-02-2014 15:55:32
 :ling1: :ling1:

เฮ้อ ตัวเอง มัยไม่มาต่อแล้วอ่ะ  เค้าคิดถึงนะะะะะะะะะะะะะะะะ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 23-02-2014 01:16:37
 :hao5: :hao5: รอตอนจบใจจะขาดแล้ว
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 13-03-2014 13:54:09
 :hao5: :hao5: :hao5:จะปีแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: actionmarks ที่ 13-03-2014 21:53:48
แล้ว ๅที่เหลืออยู่ไหน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย)ตอนที่ 28 *ลืมตา* 18/04/13 (UP!หลังหายหัวไปนาน)
เริ่มหัวข้อโดย: caramely ที่ 15-03-2014 02:03:05
อ่านเรื่องนี้แล้วร้องไห้จนตาบวมเลย ฮื้อๆๆ  :hao5:
(เหมือนได้ดูหนังของยุกับเมธเลย อิอิ   :hao3: )
ภู่น่าสงสารมาก แต่ในที่สุด ภูกับภู่ก็ได้รักกัน เข้าใจกัน :m2:
จะรออีก 50% ที่เหลือนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 04-04-2014 18:52:12
สุดปลายทางของ...หัวใจ
จบบริบูรณ์
ส่วนที่ 51-70%


วัดใหญ่ชานเมืองหลวงสวยงามไปด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรตระการตา ทว่าก็เงียบสงัด โดยเฉพาะบริเวณหลังโบสก์ที่เป็นที่ตั้งของเจดีย์เก็บอัฐิของหลายคนหลายตระกูลเรียงรายเป็นทิวแถวยาวตามแนวกำแพงหลังวัด ท่ามกลางความร่มรื่นของต้นโพธิ์ต้นไทรขนาดใหญ่อายุยาวนาน แลดูสงบร่มเย็น แว่วเสียงกระดิ่งจากยอดช่อฟ้าและหลังคาโบสก์ดัง กรุ๊งกริ๊ง ยามต้องสายลมฟังแล้วช่างทำให้หัวใจสงบผ่อนคลาย

 เสียงล้อรถวิลแชร์เคลื่อนผ่านใบไม้แห้งดังแกรกกรากขณะเคลื่อนผ่านใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อมุ่งหน้าสู่แนวเจดีย์เรียงราย และมาหยุดอยู่ตรงหน้าเจดีย์อัฐิเจดีย์หนึ่งที่ติดรูปที่เคยคุ้นตาเอาไว้ พร้อมชื่อที่สลักใต้รูปนั้นว่า ‘นางสาวรมย์มณี วิจิตรศิลา’

“...ฝ้าย...ภู่มาเยี่ยม...นะ”

"ภู่ขอ...โทษนะ ที่ไม่ได้มาเยี่ยม...เลย...ขอโทษ...จริงๆ"

ภุมราค่อยๆเอื้อมมือเข้าหารูปถ่ายที่ติดไว้หน้าเจดีย์ แตะต้องมันอย่างเบามือ พลางเอ่ยทักทายเสียงอ่อนหวาน แม้จะยังพูดไม่ชัดถ้อยชัดคำนัก แต่ทุกคำก็เอื้อนเอ่ยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

รูปหญิงสาวที่ปลายนิ้วของภุมราส่งยิ้มหวาน ดูเหมือนว่ากำลังยินดีที่จะรับคำทักทายของภุมราอย่างเต็มอกเต็มใจ ราวกับกับว่ารอคอยมายาวนานเหลือเกิน

"...ภู่...คิดถึงฝ้าย...มากนะ..."

"ฝ้าย...อยู่ที่ทาง...นั้น...สบายดีหรือเปล่า?...คิดถึงภู่...บ้างไหม?..."

เสียงแหบหวานเครือสั่น ดวงตาคู่สวยเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำอุ่นก่อนมันจะกลั่นออกมาเป็นหยดน้ำตาอาบสองแก้มช้าๆ เขาเสียใจเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฝ้าย ความรู้สึกผิดยังคงประเดประดังไม่เสื่อมคลาย รังเกียจตัวเองจนขนลุกอยู่เสมอที่เป็นต้นเหตุให้ฝ้ายต้องตาย เขาเองที่ทำให้ฝ้ายเสียใจจนเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เป็นเพราะเขาทั้งหมด...

"ฮี่ก...ฝ้าย...ภู่ขอโทษ...ภู่ขอโทษนะ....ฮือ..."

ภุมราหลั่งน้ำตาอย่างเจ็บร้าว ร่างทั้งร่างสะท้านคลอนด้วยไม่อาจห้ามใจไม่ให้เศร้าโศกได้ไหว เสียงสะอื้นฮั่กที่น่าสงสารนำพาให้นคินทร์อดสะเทือนใจตามไปด้วยไม่ได้

“ภู่...”

“ฝ้าย...ฝ้ายครับ...อโหสิกรรมให้ภู่ด้วยนะ...”

ภาพของร่างผอมกะปลกกะเปลี้ยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนอยู่ตรงหน้านั้น ช่างบีบรัดหัวใจของนคินทร์ให้ต้องสะท้านวูบไหวไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ที่คนรักเผชิญอยู่นั้นตัวนคินทร์เองก็มีส่วนให้มันเกิดขึ้นด้วยเหมือนกัน เขาเองก็มีส่วนผิดกับเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าใครเหมือนกัน

"ภู่..."

นคินทร์สวมกอดคนบนรถเข็ญอย่างอ่อนโยนเป็นการปลอบขวัญ เจ็บปวดระคนรู้สึกผิดไม่น่อยที่เป็นต้นเหตุให้ต้องเสียน้ำตามากมายขนาดนี้ เขาเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่จนถึงตอนนี้ก็ไม่ยอมเปิดตาดูตัวเองว่าแท้จริงแล้วนั้นเขาต่างหากที่พลาด เขาต่างหากที่เป็นชนวน ความโง่งมของเขาทั้งนั้นที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เพิ่งมารู้ในวันที่มันสายจึงได้แต่ทรมาน

"ภู่ครับ...อย่าร้องเลยนะคนดี ภูเองที่ผิด ภูเองที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ภูต่างหากที่เลว ภู่อย่าร้องนะครับ...อย่าร้องไห้อีกเลยนะ..."

"ไม่ครับภู...ภูไม่ได้ผิดหรอก ภูแค่ซื่อ...ภูแค่ทำตามหัวใจ แต่ภู่เปล่า...ภู่หลอก...ใช้ฝ้ายเพื่อเป็น...สะพานไปหาภู รู้ว่า...ฝ้ายรัก...ภู่ก็เลยหลอกใช้ เพราะตอนนั้น...ภู่...รู้สึกตัวแล้วว่า...การเป็นแค่...เพื่อนรัก...มัน...ไม่พอสำหรับภู่..."

ภุมราสารภาพความในใจให้คนรักได้ฟังด้วยถ้อยคำตะกุกตะกัก พลางเคลียไล้ใบหน้าของตนไปกับข้างซอกแก้มของนคินทร์ที่โน้มตัวกอดมาจากด้านหลัง น้ำตาที่ไหลเอ่ออาบสองข้างแก้มตอบนั้นไม่ได้ช่วยชำระความผิดบาปในหัวใจได้เลยแม่แต่เศษเสี้ยว ยิ่งได้เห็นรูปถ่ายบนสถูปก็ยิ่งใจหาย ตั้งแต่ฝ้ายตายเขาก็ไม่เคยเหยียบไปที่ที่มีความทรงจำร่วมกันอีก เพราะเขาไม่อยากพบเจอกับความชิงชังความเจ็บร้าว เขาหนี เพราะเขาขี้ขลาดเกินกว่าจะรับความจริงว่า...

 เขาคือต้นเหตุทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขาอย่างสุดหัวใจ...

...ต้องตายไปต่อหน้าต่อตา

"...ตอนนั้นภู่หน้ามืด...ตาบอด พอได้รู้ว่า...ภู...มีใจให้ฝ้าย...ภู่ก็...ภู่ก็ไม่พอใจกับความเป็นเพื่อนของเรา...อีกต่อไป...ภู่อยากเป็น...มากกว่านั้น...ภู่ไม่อยากเป็นแล้ว...เพื่อนที่ต้อง...ยินดีด้วยเมื่อเพื่อนมีแฟน...ภู่คงอ้าปากพูดยินดี...ออกไป...ไม่ไหว...หากภูจะเป็นแฟนกับ...ฝ้าย....จริงๆ...ดังนั้นภู่จึงทำทุกอย่างเพื่อให้ภูกับ...ฝ้าย...อยู่ห่างจากกันโดยสมบูรณ์..."

ประโยคบอกเล่าความในใจที่ไม่ชัดถ้อยชัดคำนัก ค่อยๆเปรยปราศรัยความในออกมาราวกับตาน้ำผุด นคินทร์โอบกอดคนช่างพูดในอ้อมแขนแน่นขึ้น เพราะร่างบอบบางนั้นสั่นระริกราวกับลูกนกตกจากรัง คำพูดเหล่านั้นของภุมราเขารู้ว่ามันจริงแต่ก็ไม่ได้รู้สึกชิงชังรังเกียจแต่กลับเจ็บปวดแทนเสียมากกว่า เจ็บปวดที่ภุมราต้องทรมานขนาดนั้นเพื่อที่จะได้รักเขา...

"โชคดีที่ฝ้าย...รักภู่ไม่ใช่ภู และโชคร้ายที่ฝ้ายกับภู่...เราเป็นคนประเภท...เดียวกัน...ที่จะไม่ยอมตัดใจ...จากคนที่เรารักอย่างเด็ดขาด...เพราะอย่างนั้นแหละ ภู่ถึงให้อภัยตัวเองไม่ได้เลย...จนกระทั่งรู้ว่าตัวเอง...ป่วย"

"พอเถอะภู่...พอแล้ว..."

ยิ่งได้ฟังนคินทร์ก็ยิ่งเจ็บปวด ทำไมเขาในตอนนั้นถึงได้โง่งมนัก ทำไมถึงไม่ยอมมองเห็นอะไรเลย ทั้งเรื่องของภุมรา ทั้งเรื่องของฝ้าย ทั้งที่คนหนึ่งคือเพื่อนที่เขารักสุดใจ และอีกคนก็คือหญิงสาวที่เขามีใจ ทำไมเขาถึงได้โง่เง่าตาบอดขนาดนั้น...

นคินทร์โอบรัดร่างของภุมราแน่นขึ้นอีก ปากพร่ำอ้อนวอนขอให้ภุมราเลิกพูดจาทำร้ายตัวเอง ชายหนุ่มยังไม่หายดี นิคนทร์จึงไม่ต้องการให้อะไรทั้งนั้นมากระทบกระเทือน โดยเฉพาะเรื่องอดีตที่แสนเลวร้าย ที่พาให้สามหัวใจต้องจ่อมจมอยู่ในวังวนแห่งความชิงชัง เขาไม่อยากให้ภุมราต้องพูดถึงมันอีกแล้ว แค่ฝ้ายตายไปคนเขาก็เสียใจจะแย่ แล้วหากต้องเสียภุมราไปอีกเขาต้องขาดใจตายอย่างแน่นอน...

"ขอภู่พูดเถอะภู...ให้ภู่ได้ระบายมันออกมา...ให้ภูได้สารภาพทุกอย่าง...ต่อหน้า...ฝ้าย..."

"...โธ่...ภู่..."

นคินทร์ทำได้แต่กัดฟันกลันหยาดน้ำที่รื้นคลอหน่วยขึ้นมาไม่หยุด แล้วฟังภุมราพูดเรื่องที่แสนเจ็บปวดต่อไป เพราะไม่อาจขัดขืนฝืนให้ภุมราเลิกพูดเรื่องราวต่างๆได้

"...ภูรู้มั้ย? ตอนที่รู้ว่าฝ้ายตาย ไม่ใช่แค่ภูหรอกที่เกลียดภู่...เพราะภู่เองก็เกลียดตัวเอง...มากเลยล่ะ...จริงอยู่ที่ฝ้าย...เป็นฝ่ายเริ่ม...เป็นคนไล่ต้อนให้ผมต้องลงมือทำเรื่องเลวร้าย...ตอนนั้นภู่ไม่คิดอะไรเลย...ไม่คิดถึงจิตใจของฝ้ายเลย...ภู่ทำทุกอย่าง...ตามอำเภอใจ...เพียงเพื่อ...ให้ได้เข้าใกล้...ภู...ไม่สนว่าฝ้ายจะเจ็บ...ไม่แคร์ว่าฝ้ายจะร้องไห้ ฝ้ายไม่ยอมปล่อยภู่...ภู่ไม่ยอมปล่อยภู...ภูห่วงใยฝ้าย...ภูเกลียดภู่ขึ้นทุกวัน...วันเป็นวังวนที่ภู่คิดว่า...เราคงไม่มีวันหลุดพ้น...จนกระทั่งวันที่ฝ้ายตาย..."

ยิ่งพูดเยอะขึ้นร่างกายของภุมราก็เหมือนจะสิ้นเรี่ยวสิ้นแรง ร่างบอบบางพิ่งอ่อนลงบนเก้าอี้วิลแชร์ ศีรษะเอนซบไปกับไปแผ่นบ่ากว้างด้านหลังอย่างอ่อนล้า ด้วยว่าร้องไห้จนเหนื่อยเหลือเกินแล้ว

"...วันนั้นเอง...ที่ทำให้ภู่สำนึกได้ว่า...วังวนนั่นมันไม่ได้ดึงเราเข้าไป แต่เรานี่แหละที่พยายามจะเข้าไป...อยู่ในนั้นเอง... วันที่ฝ้ายตาย...ภู่ถึงได้รู้...ว่าทั้งหมดที่ผ่านมา...ภู่...ภู่นี่แหละที่ทำร้ายตัวเอง...ภู่นี่แหละที่ทำร้ายฝ้าย...ภู่นี่แหละที่ทำร้าย...ภู..."

เสียงขาดห้วงลงทุกขณะ เปลือตาก็เริ่มปรือปรอยลงอย่างเหนื่อยอ่อน วันนี้ภุมราใช้แรงเยอะกว่าทุกๆวันจึงเหนื่อยเกินกว่าที่ร่างกายของชายหนุ่มในตอนนี้จะรับไหว แถมยังร้องห่มร้องไห้หนักหน่วงอีก พลังที่เหลือประคองตัวจึงหมดลงอย่างรวดเร็ว

และในที่สุด...ก็ถึงเฮือกสุดท้าย

"...ภู่รู้สึกผิดตลอดมาจนกระทั่ง...รู้ว่าตัวเองป่วย...ภู่ดีใจมากที่ในที่สุด...ตัวเองก็ได้รับผลกรรม...อย่างสาสม...เสียที..."

"...ภู่..."

"...ภู่...ดีใจมาก...ดีใจ...เหลือเกิน...ที่...ในที่สุด...ภู่ก็สามารถ...บอกรักภู...ได้..อย่างเต็มปาก....และ...ขอโทษ...ฝ้าย...ได้...อย่างเต็ม...ที่...เสีย...ที......................."

หลังจากจบประโยคสุดท้าย ในที่สุดภุมราก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของนคินทร์...

ภุมราหลับไปพร้อมกับเสียงของสายลมที่พัดผ่านร่างกายให้เย็นฉ่ำ เสียงใบไม้ลู่ลม เสียงกระดิ่งตรงชายคาโบสถ์ สงบ...ราวกับเสียงเพลงแห่งสรวงสวรรค์ แม้หลับตาแต่ภุมราก็รู้สึกได้...เสียงนั้นแสนหวาน...เสียงนั้นแสนอ่อนโยน...   

...ไม่เป็นไรนะคะภู่...

....ไม่เป็นไรแล้วค่ะ คนดีของฝ้าย....

*
*
*
*
*
"ภู่...ทางนี้จ๊ะ"

เสียงหวานเรียกภุมราให้มานั่นด้วยกัน "ลานดิน" โรงอาหารโรงใหญ่สุดของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่หลังคณะมนุษย์ศาสตร์เป็นจุดนัดพบที่พวกเขาต้องมาเป็นปกติ เหตุเพราะโรงอาหารใหญ่สุดที่นั่งเยอะ และมีร้านอาหารตามสั่งป้าจงจิตต์ที่เป็นเจ้าประจำ จึงทำให้พวกเขาไปไหนไม่รอด ต้องจอดเปื่อยอยู่ที่นี่ตลอด   

"นั่งเลยภู่ ฝ้ายจองเอาไว้แล้ว ตอนเที่ยงนี่คนเยอะตลอดเลยเนอะ"

หญิงสาวชี้พิกัดให้ภุมรานั่งลงฝั่งตรงข้ามอย่างกระตือรือร้นตามสไตล์ของสาวน้อยผู้ร่าเริง ดาวคณะคู่ขวัญเดือนคณะอย่างภุมรา คู่จิ้นที่ทุกคนยังต้องอิจฉาตาร้อนเพราะความสวยหล่อที่แสนจะเหมาะเจาะและโคตรจะเหมาะสมกันจนเกินไป

"เดี๋ยวภู่มาเหนื่อยๆ นั่งเฝ้าที่ไปก่อนก็แล้วกันนะ ฝ้ายจะไปซื้อน้ำมาให้ ส่วนข้าวน่ะภูเขาไปซื้อให้อยู่ อ่ะ นั่งรอนี่ก่อนนะ"

พูดจบสาวน้อยก็วิ่งออกจากโต๊ะไปเพื่อต่อแถวซื้อน้ำ ปล่อยให้ภุมราได้แต่นั่งมองตามตาปริบๆ

และเพียงครู่ต่อมา...นคินทร์และฝ้ายก็กลับมาถึงโต๊ะ จากนั้นก็ลงมือกินข้าวกัน แน่นอนว่าข้าวตามสั่งที่นคิทร์ซื้อมาให้เป็นของโปรดของภุมรา น้ำลำไยที่ฝ้ายซื้อมาให้ก็ตรงใจ ทว่า...ภุมรารู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรจะเข้าใจ มันแปลกในความรู้สึกแต่ก็บอกไม่ได้ว่ามันคืออะไร...

"อ้าว? ไม่ทานข้าวล่ะภู่ ไม่หิวเหรอ?"

หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าทักออกมาเสียงหวาน เมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมตักอาหารเข้าปากเสียที ดวงตากลมสวยฉายแววเป็นมิตรดูอบอุ่น ริมฝีปากอิ่มสวยสีชมพูฉ่ำวาวคลี่ยิ้มหวานให้ไม่ขาด ภาพนั้นชัดเจนติดตรึงตา ทว่า...เขากลับมองนคินทร์ที่นั่งอยู่ข้างๆนี้ไม่เห็น รู้สึกว่าอยู่ใกล้จนหัวไหล่เบียดกัน แต่กลับไม่รู้สึกถึงตัวตน เพราะอะไรกันนะ...

"...ภู่...ภู่เหนื่อยมั้ยคะ?"

"....เอ๊ะ?"

"ทรมานอยู่คนเดียวตั้งนาน ภู่เหนื่อยมากมั้ยคะ? ฝ้ายขอโทษนะ..."

"...ฝ...ฝ้าย?..."

จู่ๆสาวน้อยตรงหน้าก็พูดจาแปลกๆ ฝ้ายยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร พร้อมกับเอ่ยอะไรบางอย่างที่ทำให้ภุมราหัวใจเต้นระทึก

"ฝ้ายอโหสิกรรมทุกอย่างให้ภู่ค่ะ แล้วภู่ล่ะคะ? อโหสิกรรมให้ฝ้ายได้หรือเปล่า?"

หญิงสาวยังคงยิ้มหวาน ให้กับภุมรา...ที่ขณะนี้มีแต่คราบน้ำตาเอ่ออาบไปทั่วแก้ม

"ฝ้ายขอโทษนะคะ ที่เอาแต่ใจจนทำให้ภู่กับภูต้องเสียใจมากมาย ขอโทษค่ะที่ดึงดันจะทำร้ายความรู้สึกของภู่ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าภู่รักภูแค่ไหน และภูคิดยังไงกับภู่..."

"ภู่ต่างหากที่ต้องขอโทษ...ฝ้าย...ภู่ขอโทษ ขอโทษจริงๆที่เอาเปรียบความรักของฝ้าย ขอโทษจริงๆที่ทำให้ฝ้ายต้องเสียใจ ภู่มันเลว ภู่ขอโทษ...."

ภุมรารีบคว้ามือเรียวขาวของฝ้ายเอาไว้พร้อมระล่ำระลักเอ่ยขอโทษทั้งน้ำตาออกไปอย่างไม่นึกอาย เพราะความรู้สึกผิดที่กัดกินหัวใจมานานหนักหนาแล้วนั้นมันเต็มจนล้น แทบขาดใจ...

"...ฮือ...ภู่ขอโทษ...อึ่ก...."

"โอ๋ๆ ไม่เป็นไรนะคะเจ้าชายของฝ้าย...ฝ้ายไม่เคยโกรธภู่เลยนะรู้หรือเปล่า ฝ้ายรู้ว่าภู่ไม่มีวันรักฝ้ายแบบนั้นได้ ฝ้ายต่างหากที่ดึงดันเอง อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ...หึหึ...อย่าร้องสิคะคนเก่ง โอ๋โอ๋"

ฝ้ายโอบกอดภุมราไว้อย่างอ่อนโยน โรงอาหารหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แม้แต่โต๊ะข้างหน้าก็หายไปเหลือเพียงเก้าอี้ตัวน้อยที่ภุมรานั่งอยู่ตัวเดียวเท่านั้น หายไปเหลือเพียงลานหมอกขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา พร้อมทั้งความอุ่นซ่านจากอ้อมกอดที่แสนอ่อนโยน...

"...รู้มั้ย? ฝ้ายรอวันนี้มานานแค่ไหน วันที่จะได้อยู่กับภู่อีกครั้ง วันที่จะได้ขอโทษภู่ และได้กอดภู่อีกครั้งอย่างตอนนี้ ฝ้ายดีใจจังค่ะ คิกคิก"

“ฮึ่ก...ฝ้าย...”

“ฝ้ายไม่มีอะไรติดค้างแล้วค่ะภู่ ขอบคุณนะคะที่ในที่สุดภู่ก็มาเสียที...”

“...ภู่...ขอโทษ...”

“คิก คิก อย่าเอาแต่ร้องไห้กับขอโทษสิคะเดี๋ยวฝ้ายก็ไปไหนไม่ได้กันพอดี เอางี้ละกัน ฝ้ายมีอะไรจะบอกค่ะ ตั้งใจฟังนะ...”

สุดท้ายฝ้ายก็ทนความงอแงของภุมราไม่ไหว หญิงสาวใช้สองมือตระกองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของคนที่เธอมีใจขึ้นมาสบตาตรงๆ ฝ้ายยิ้มให้กับคนที่ทำหน้าฉงนทั้งที่ดวงตายังแดงก่ำ พลางกระซิบบางเบาว่า

“ภู่รู้หรือเปล่า...ตลอดเวลาที่ภู่คิดว่าภูเกลียดภู่น่ะ...จริงๆแล้ว...”

“ภู...เขารักภู่จะตาย แต่เขาโกหกตัวเองค่ะ...”

“...มะ...ไม่จริงหรอก...”

ภุมราพยายามจะเถียงแต่ก็ถูกฝ้ายใช้นิ้วเรียวปิดปากเอาไว้เสียก่อน หญิงสาวส่ายหน้าเล็กๆก่อนจะส่งยิ้มพราวสดใส

“จุ๊ๆ ไม่ต้องเถียงค่ะ ไม่เชื่อไปถามกับเจ้าตัวได้เลย”

พูดจบก็เปลี่ยนจากประคองใบหน้ามาเป็นโอบกอดภุมราอีกครั้ง พร้อมกล่าวลาด้วยเสียงที่อ่อนหวานที่สุด

“มีความสุขมากๆนะคะภู่...ฝ้ายจะคอยอธิฐานทุกวันให้ภู่มีชีวิตที่มีความสุขที่สุด...”

“ลาก่อนค่ะ...”
*
*
*
*
*
*******************************
ยังเหลืออีก 30% ค่ะ อาทิตย์หน้ามานะคะ จบแน่นอนแล้วค่ะ
ขอโทษที่ไม่จบเสียทีนะคะ
ขอโทษจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 04-04-2014 19:31:28
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...ขอกรี๊ดก่อน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 04-04-2014 19:59:39
สงสารทั้งสามคนเลยยยย  :hao5:

รอที่เหลือค่ะ  :L2: :กอด1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 04-04-2014 20:02:23
 :m15: :m15:


หมดเวรหมดกรรม กันซะที นะ ฝ้ายจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่มีอะไรที่ต้องติดค้าง ต้องชดใช้กันอีก


หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 04-04-2014 20:41:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 04-04-2014 20:44:07
เป็นเรื่องที่อ่านทีไรจุกคอทุกที...อิน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-04-2014 21:29:14
อูยยยย
สงสารจริงๆ
รอตอนจบจริงๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 04-04-2014 21:49:58
น้ำตารื้นเลย อโหสิกรรมกันได้นะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
เพราะมันไม่ใช่แค่ปลดปล่อยความทุกข์ของคนอื่น แต่มันปลดปล่อยความทุกข์ในใจตัวเองด้วย
ดีใจกับทั้งสามคนเลย ที่หลุดพ้นจากสิ่งร้ายๆที่เกาะกินหัวใจได้
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 04-04-2014 22:34:08
มาต่อแล้วววววว

 :hao5: ตอนนี้ทำเอาซึ้งมากเลยอ่ะ น้ำตาแทบไหล
ทั้งฉากสารภาพผิดและฉากที่ฝ้ายให้อภัยภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 04-04-2014 22:34:56
เหลืออีกแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์เอง

จะจบจริงๆแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-04-2014 22:35:47
รออีก 30%
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-04-2014 23:48:18
มาต่อแล้ว เย้ๆ ><

ได้เวลาหวานกันแล้วสินะ อิอิ หายเร็วๆ น้าภู่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 05-04-2014 00:51:54
มาต่อแล้ววววเย้เย~ จะรอตอนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 05-04-2014 07:09:37
แล้วคนแต่งจะมาต่อตอนไหนอีกละเนี้ย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: ultra_bang ที่ 05-04-2014 20:35:05
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

จาจบแล้ว   อุ๊ฟฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: raluf ที่ 05-04-2014 22:47:46
อโหสิกันแล้ว ขอให้ภู่ได้มีความสุขสักทีนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 06-04-2014 23:37:02
เรื่องมันเศร้า

เล่าแล้วมันแซดจริงๆ

ความรักมันห้ามกันยาก

ไม่มีใครผิดหรือถูกจริงๆ

น่าเห็นใจทุกคน

รอส่วนที่เหลือขอรับ

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 07-04-2014 12:38:15
เรื่องนี้นานมากอ่ะ กว่าจะอัพ แม้แต่ตอนจบก็ยังเรียกน้ำตาได้ดี
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-04-2014 13:35:26
สงสารทุกคนเลย
แต่สงสารตัวเองมากกว่า :monkeysad:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...แต่ยังไม่จบจ๊ะ 4/4/2014 (P.12)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-04-2014 20:11:53
 :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 11-04-2014 22:49:04
สุดปลายทางของ...หัวใจ
71-85%




ลาก่อนค่ะ...

*

*

*
   
*

*

ภุมราลืมตาขึ้นในความมืด หยาดน้ำตายังคงถะถั่งหลังไหลไม่ขาด ได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆของตัวเองแว่วๆ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงความอุ่นซ่านตรงรอบเอว 'เขากำลังถูกโอบกอด'

"ฝันร้ายเหรอครับภู่?

เสียงทุ้มเปรยถามเสียงนุ่ม พร้อมปลายนิ้วกร้านคอยเกลี่ยหยาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ใบหน้าในความมืดนั้นภุมราเห็นไม่ชัดนัก แต่พอจะรับรู้ได้ว่าคนข้างกายกำลังเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย ทั้งปลายนิ้วที่ดูลนลานทั้งน้ำเสียงที่สั่นพร่าเล็กน้อยนั้นเป็นหลักฐานชั้นดีว่านคินทร์เป็นห่วงเขาขนาดเรื่องเล็กน้อยแค่นอนร้องไห้เพราะฝันร้ายคนรักคนนี้ของเขาก็ไม่ยอมปล่อยผ่าน ความอุ่นซ่านปะทุขึ้นในหัวใจจนเอ่อล้น 'การเป็นคนถูกรักนี่มันดีมากจริงๆ'

"...เปล่าครับ...ภู...ภู่เปล่าฝันร้าย..."

"หืม? แล้วร้องไห้ทำไมกันครับ สะอื้นซะน่าสงสารเชียว"

"ภู่...ฝันถึงฝ้ายน่ะ...ฝัน...ว่าฝ้ายเขามาอโหสิกรรมให้..."

จบคำของภุมรา นคินทร์ก็ยกตัวขึ้นจากที่นอนนุ่ม เอื้อมมือเปิดโคมไฟตรงหัวนอนเพื่อเพิ่มความสว่างให้แก่ห้องจากนั้นก็ประคองภุมราที่ทำท่าจะลุกตามขึ้นนั่งพิงขอบเตียงพร้อมจัดหมอนฟูนุ่มหนุนหลังให้ได้นั่งสบายๆ ใบหน้าซูบเนื้อยังคงเปื้อนไปด้วยน้ำตาแม้ว่าจะหยุดร้องไห้ไปได้ครู่หนึ่งแล้ว ร่างผอมสะท้านเบาๆด้วยว่าก้อนสะอื้นยังคงค้างอยู่อีกสองสามระลอก ดวงตากลมแบ๊วที่ยังคงรื้นไปด้วยหยาดน้ำเล็กน้อยพร้อมกับปลายจมูกแดงแจ๋นั้น แลดูว่าน่าสงสารระคนน่าเอ็นดูไปพร้อมกัน จนนคินทร์อดไม่ไหวที่ต้องปลอบด้วยจุมพิตหวานตรงหน้าผากไปสองฟอดติดกัน

"ไหน...เล่าให้ภูฟังหน่อยสิ ฝันว่ายังไงบ้างเหรอ?"

นคินทร์ถามไถ่ขณะใช้สองมือตระกองสองข้างแก้มของภุมราขึ้นเพื่อใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยเช็ดหยาดน้ำตาที่ยังคงเปื้อนให้ ความอ่อนโยนจากคนรักทำให้ภุมราอดไม่ได้ที่จะเอนศีรษะลงซบไหล่หนาเป็นการอ้อนขอความอบอุ่นเพิ่มอีก เขารักคนตรงหน้านี้มากมายเหลือเกิน มากเสียจนตักตวงเท่าไหร่ก็ไม่รู้สึกพอ ยังอยากรักมากขึ้นอีก ยังอยากถูกรักมากขึ้นไปอีก

"ภู่ฝันถึงตอน...มหาลัย ที่ลานดิน...เรากินข้าวด้วยกัน...แล้ว...ฝ้ายก็ถามภู่ว่าเหนื่อยมั้ย แล้วฝ้าย...ก็บอกว่า...ฝ้ายอโหสิกรรมให้...ฝ้ายกอดภู่ด้วย...อุ่น...อุ่นมากเลยล่ะ..."

"ฝ้ายเขาคงรู้ว่าภู่รู้สึกผิดจริงๆ และภู่เจ็บปวดมามากแค่ไหน ฝ้ายเลยมาหาภู่เพื่อให้ภู่สบายใจสินะ..."

"ดีจัง...ที่ฝ้ายดูมีความสุข...ในฝัน...ฝ้ายยังคงสดใส...ภู่ดีใจที่สุดเลย..."

เล่าไปน้ำตาก็รื้นนัยตาคู่โศกขึ้นมาอีก เจ็บปวดระคนตื้นตัน ไปกับฝันแสนหวาน หากย้อนเวลากลับไปได้เขาจะไม่มีวันให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น แต่เพราะไม่สามารถย้อนอะไรได้ ดังนั้นจึงต้องกัดฟันเดินผ่านมันไปให้ได้ก็เท่านั้น แม้ไม่อาจคาดหวังถึงความสุขที่ปลายทาง แต่เขาก็ต้องเดินไปให้ถึงที่นั่นให้ได้

"ฝ้ายเองก็คงอยากให้ภู่มีความสุขเหมือนกันนะ ภู่ต้องสู้นะ มีความสุขให้ได้ ฝ้ายจะต้องดีใจมากแน่ๆ...ภูเองก็ดีใจเหมือนกัน"

นคินทร์กระชับอ้อมกอดพร้อมโยกกายเบาๆแทนเปลมนุษย์เพื่อปลอบขวัญคนในอ้อมแขนให้ได้รู้สึกทุเลาความสร้อยเศร้า ขับกล่อมให้คนรักหลับใหลอย่างมีความสุขในอ้อมกอดผ่านราตรีที่ยังอีกยาวไกล เพื่อตื่นมาพบกับวันใหม่อย่างมีพลัง

*
*
*
*
*

"ปกติพี่ก็จะไม่ยอมให้นิตยาสารเล่มไหนได้สัมภาษณ์น้องภู่ง่ายๆหรอกนะคะ แต่นิตยาสารของเจ้านี้น่ะ ไม่ว่ายังไงพี่ก็อยากให้ภู่ลองพิจรณาให้สัมภาษณ์เขาดูหน่อย"

แอน ผู้จัดการส่วนตัวของภุมราเดินทางมาเยี่ยมเยือนนายแบบหนุ่มคนสำคัญดังเช่นปกติ แต่คราวนี้สาวเจ้านำข่าวบางอย่างมาแจ้งด้วย

ตั้งแต่ที่ภุมราล้มป่วย ทั้งนักข่าวและนิตยาสารหลายสำนักก็คอยให้ความสนใจอยู่ไม่ขาด เพราะถึงแม้ว่าภุมราจะออกจากวงการมาได้พักใหญ่ๆ แต่การที่เขาเป็นถึงนายแบบที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในวงกว้างทำให้แม้ไม่ได้ทำงานแล้วก็ยังมีข่าวคราวอยู่เนืองๆให้พอได้อัพเดท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนีที่ภุมรากำลังพักรักษาตัวโดยมีคนรักหนุ่มที่เป็นถึงตากล้องมือหนึ่งของวงการคอยดูแลกระคบประหงมอย่างใกล้ชิดด้วยแล้ว สายข่าวตาไวยิ่งอยากได้ข่าวเรื่องราวของทั้งคู่มากขึ้นไปอีก ตั้งแต่แรกเริ่มก็ประโคมข่าวว่า 'นายแบบ ภ. แอ๊บเกย์แตกแอบอยู่กินกับตากล้อง น.  ถ้าไม่ป่วยคงไม่มีใครรู้'  พาดหัวข่าวบ้าบอนั้นสร้างความเสียหายโดยที่ภุมราไม่มีโอกาสได้โต้แย้งเพราะหลับไม่ฟื้นถึงสามเดือนหลังการผ่าตัด หลังจากข่าวเสียหายของภุมราแพร่ออกไป นคินทร์ก็ออกแถลงข่าวทันที ตากล้องหนุ่มยอมรับโดยดีว่าพวกตนรักกันและพร้อมจะยอมรับคำพิพากษาของสังคมทุกอย่าง ยืนยันว่าไม่ได้ปกปิดความสัมพันธ์เพราะเพิ่งจะได้คบกันเป็นเรื่องเป็นราวก็ตอนที่ภุมราล้มป่วย ขณะยังถ่ายแฟชั่นอยู่ที่มัลดีฟส์ นคินทร์ยืนยันหนักแน่นว่าที่ออกมาแถลงข่าวไม่ใช่เพื่อขอความสงสาร แต่อยากให้คนรักที่ยังไม่ยอมฟื้นลืมตาได้รับความเป็นธรรมบ้าง เขาสองคนรักกันอย่างบริสุทธิ์ใจ และพร้อมออกจากวงการเพื่อเป็นการรับผิดชอบในเรื่องนี้ นคินทร์กล่าวว่าขอแค่เพียงคนรักของตนฟื้นขึ้นมา แม้จะต้องแลกด้วยอะไรเขาก็ยอม 

การแถลงข่าวครั้งนั้นส่งผลอย่างคาดไม่ถึง แม้จะยังมีคนแอนตี้อยู่บ้างแต่กระแสสังคมเข้าข้างและเห็นใจคนทั้งคู่อย่างเห็นได้ชัด จนเกิดกระแสกดดันสำนักข่าวที่ปล่อยข่าวเสียหายให้ต้องเร่งออกมาขอโทษต่อเรื่องที่เกิดขึ้นในที่สุด หลังจากนั้นนคินทร์ไม่เคยยอมให้ข่าวใดๆอีก แม้กระทั่งตอนที่ภุมราฟื้นขึ้นมาแล้วทั้งสองคนก็ไม่ยอมรับการขอสัมภาษณ์จากสำนักข่าวไหนทั้งนั้น โดยมีแอนและทีมงานคอยช่วยกันสกัดทุกดาวรุ่ง

แต่ดูเหมือนจะมีที่หนึ่งที่สามารถเจาะทะลวงผ่านแอนเข้ามาได้เสียแล้ว...

"... นิตยาสาร...ของใครเหรอครับ...พี่แอน?"

ภุมราถามขึ้นอย่างสงสัย เพราะปกติ แอนจะมีแต่บ่นและต่อว่าพวกนักข่าวบันเทิงทั้งหลายที่ติดต่อเข้ามาขอสัมภาษณ์ จะมีก็แต่หนนี้ที่ดูเหมือนจะคล้อยตามกับอีกฝ่ายจนถึงกับมาขอให้ภุมราลองพิจรณาเรื่องการสัมภาษณ์ลงหนังสือครั้งนี้เลยทีเดียว ฝ่ายนั้นเป็นใครกันนะ...

"จำที่พี่เคยเล่าให้ฟังได้มั้ยคะ ว่าช่วงหลังผ่าตัดแล้วภู่ยังไม่ฟื้น พวกนักข่าวกับนิตยาสารบันเทิงส่วนใหญ่จะประโคมข่าวเรื่องที่น้องภู่กับคุณภูเป็นคู่เกย์แอ๊บแต๊บหลุด แอบอยู่กินโดยปิดบังสถานภาพของตัวเองหลอกลวงผู้บริโภคอะไรทำนองนั้น แต่มีอยู่สำนักข่าวนึงที่เสนอข่าวแตกต่างออกไป คือเขาเสนอข่าวส่งเสริมและเห็นใจเราอย่างสุดโต่ง ประมาณว่าศรัทธาแห่งรักแท้มีอยู่จริง ที่คุณภูคอยดูแลน้องภู่ไม่ห่างตั้งแต่ผ่าตัดเสร็จแม้จะยังไม่ยอมฟื้น เพราะเจ้านี้นี่แหละค่ะที่คอยประโคมเรื่องดีๆให้ทำให้มีคนให้ความเห็นใจและเข้าข้างเราเสียมากกว่าแอนตี้ เพราะฉะนั้น คราวนี้ที่เขาขอมาสัมภาษณ์เพิ่มเติม พี่เลยปฏิเสธไม่ออก..."   

ได้ฟังรายละเอียดภุมราก็หันมาสบตากันเป็นเชิงปรึกษา เพราะจริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้อยากจะออกให้สัมภาษณ์อะไรที่ไหนอีกแล้ว แต่ในเมื่อผู้ที่เคยให้ข่าวที่เป็นเหมือนการช่วยเหลือพวกตนมาก่อนนั้นเป็นผู้ขอมาโดยตรง ก็คงยากที่จะปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เพราะอย่างน้อยพวกเขาควรตอบแทนน้ำใจของฝ่ายนั้นเสียหน่อย

"...ได้ครับพี่แอน...ภู่...จะลองดู..."

ในที่สุดภุมราก็ตอบตกลง แอนยิ้มโล่งใจก่อนจะทำการโทรติดต่อสำนักข่าวนั้นเพื่อทำนัดอย่างเป็นทางการ

"ตกลงเดี๋ยววันศุกร์นี้ 10 โมงเช้า พวกเขาจะเข้ามากันนะคะน้องภู่ วันนั้นพี่ก็จะเข้ามาด้วยค่ะ"

"ขอบคุณครับ...พี่แอน"

"ทำใจให้สบายค่ะน้องภู่ ไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยววันนั้นพี่จะคอยดูแลทุกอย่างเอง จะเกณฑ์เจ้าซอมันมาเป็นบอดี้การ์ดด้วย แต่พี่มั่นใจนะว่าสำนักข่าวที่จะมาสัมภาษณ์เขาคงเป็นมิตรกับเรามากกว่าที่คิดแน่ๆ

"ฮะฮะ...โอเคครับพี่แอน...ภู่โอเคครับ"

คำปลอบโยนติดตลกเล็กๆของแอนเรียกกำลังใจของภุมราขึ้นมาได้หน่อย หลังจากนั้นราวๆครึ่งชั่วโมงแอนก็ขอตัวกลับไป เป็นเวลาบ่ายคล้อยพอดีกับเวลาเริ่มทำอาหารเย็นของนคินทร์ ชายหนุ่มจึงจัดแจงอุ้มภุมราที่ยังคงเดินไม่ถนัดไปวางไว้บนเก้าอี้นวมตัวน้อยที่ห้องครัว เพื่อจะได้ช่วยเขาหยิบนู่นจับนี่เล็กน้อยพร้อมทั้งวิจารณรสชาดอาหาร 

"กังวลเหรอภู่? นั่งเงียบเชียว"

นคินทร์ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าภุมราที่กำลังช่วยเด็ดใบกะเพราอยู่นั้นกำลังเหม่อสุดๆ

"...นิดหน่อยน่ะ ภู่ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถาม...ของพวกเขายังไง..."

ความกังวลล่วงหน้าของภุมราทำเอานคินทร์ยกยิ้มเอ็นดู ชายหนุ่มละมือจากการสับหมู แล้วเดินเข้ามานั่งยองๆอยู่ตรงหน้าของคนรัก

"ภู่...ภู่รู้แล้วเหรอว่าเขาจะถามอะไรภู่บ้าง หืม?"

".......ไม่รู้..."

"นั่นไง ไม่รู้...หึหึ...แล้วภู่จะกังวลไปก่อนทำไมล่ะ? ค่อยไปคิดตอนโดนถามเถอะ"

"...แต่ถึงภู่จะไม่รู้...ภู่ก็พอเดาได้นี่...ว่าเขาอาจถาม...อะไรบ้าง..."

"...อ่ะ...แล้วภู่เดาว่าเขาจะถามอะไรบ้างล่ะ? ไหนว่ามาสิ"

เห็นว่าคนรักยังคงยืนยันว่าตัวเองจะต้องกังวลต่อไปให้ได้ดังนั้น นคินทร์จึงลองเลียบเคียงถามไถ่ว่าตรงไหนกันนะที่ภุมราเครียดนักเครียดหนา

"...ก็อย่างเช่น...รักกันได้ยังไง...คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่...ทำไมถึงไม่ยอมเปิดตัว...แอบคบ...ปกปิด..."

"หึหึ...ภู่ครับ นี่ภู่เครียดกับคำถามง่ายๆแค่นั้นเองน่ะเหรอ?"

ได้ยินแต่ละคำถามที่คนรักกังวลนคินทร์ก็ถึงกับขำพรืด เอ็นดูเหลือเกินกับหน้านิ่วคิ้วขมวดของภุมรา จนแทบจะอดใจที่จะใช้มือขย้ำแก้มของอีกฝ่ายไม่ไหว แต่เพราะติดว่ามือเลอะจากการหั่นเนื้อหมูมานคินทร์เลยต้องเก็บไม้เก็บมือตัวเองไว้ก่อน
 
"...อย่าขำสิภู... ภู่ไม่อยากโกหกนักข่าวนี่...แต่ก็ไม่อยากให้ภูดูแย่ที่ต้องมาคบ...กับคนแบบภู่ด้วย...ภู่เครียดจริงๆนะ...อื้อ!? ภู!..."

ง่ำ!...

พูดไม่ทันจบ ภุมราก็ต้องร้องออกมาด้วยความเขินระคนขัดใจเล็กๆที่ถูกนคินทร์แกล้งงับเข้าที่แก้มโดยไม่ยอมสนใจฟังความกังวลของเขาเลยแม้แต่น้อย พอถลึงตาใส่เข้า อีกฝ่ายก็ดันยิ้มร่าน่าตีใส่อีก ภุมราถึงกับถอนใจเฮือก งอนกันไปเลยทีเดียว

"หึหึ...อย่าเพิ่งงอนสิภู่ ภูไม่ได้ไม่สนใจ แต่ภูว่าภู่คิดมากไปแล้วล่ะ ใจร่มๆแล้วเด็ดใบกะเพราเร็วๆดีกว่ามั้ย?"

นคินทร์กล่าวยิ้มๆ แล้วยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มของภุมราเบาๆหนึ่งครั้งเพื่อเป็นการปลอบขวัญที่เผลอไปกัดเข้าเพราะความหมั่นเขี้ยวเมื่อครู่

"ไม่ต้องกังวลนะภู่ ไม่ว่าเขาจะถามอะไรมาเราก็แค่ตอบไปตามความเป็นจริง ตอบออกไปเท่าที่เราอยากจะตอบ ตอบเท่าที่เราเต็มใจ ภูไม่เห็นว่ามันจะมีปัญหา ภู่คิดมากไปหน่อยแล้วล่ะ ภู่ทำใจให้สบายเถอะถึงตอนนั้นเดี๋ยวภูจัดการเอง..."

"...แต่..."

"...ภู่เชื่อในตัวภูมั้ย?"

"เอ๊ะ?..."

"ถ้าภู่เชื่อในตัวของภู เชื่อในความรักของภูล่ะก็ ภู่ต้องเลิกกังวลได้แล้วนะ เอาล่ะ เด็ดใบกะเพราให้เสร็จได้แล้ว"

"...อืม...เข้าใจแล้ว..."

ภุมรายิ้มรับคำบางๆ ไม่ได้สบายใจขึ้นเท่าไหร่ แต่อุ่นใจพอที่จะลืมเรื่องการสัมภาษณ์ไปได้บ้างแล้วจึงได้ก้มหน้าก้มตาช่วยเด็ดใบกะเพราะต่ออย่างขมักเขม้นได้เสียที

พลบค่ำหลังทานอาหารเย็นกันเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงกิจกรรมอาบน้ำ กิจกรรมเดิมที่ต้องทำต่อเนื่องทุกวันเป็นกิจวัตร หลังทานอาหารเย็นทานยาหลังอาหารตอนหกโมงเย็น สองชั่วโมงจากนั้นนคินทร์ก็จะรองน้ำอุ่นใส่อ่างเอาไว้ อุ้มภุมราที่ถูกปอกเปลือกแล้วเข้าไปอาบน้ำสระผมให้ด้วยฝักบัวก่อนแล้วค่อยอุ้มลงไปหย่อนแช่ในอ่างน้ำอุ่น เพื่อให้ภุมราได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเล็กลีบแต่เครียดเกร็งเพราะการโหมออกแรงกายภาพบำบัด ระหว่างแช่น้ำอุ่นนั้นทุกครั้งนคินทร์ก็จะช่วยนวดเนื้อน่องเนื้อแขนไปให้ด้วยพลางๆ เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในร่างของภุมราไปในตัว เสร็จจากการแช่น้ำอุ่นนคินทร์ก็จะใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อตัวภุมราจนแทบเป็นแหนมแล้วอุ้มพาออกมาแต่งตัวที่ห้องนอน แล้วก็ถึงเวลานวดน้ำมันอโรมา จนถึงสี่ทุ่มก็ได้เวลาทานยาก่อนนอน แล้วปล่อยให้คนป่วยได้หลับพักผ่อน โดยนคินทร์จะคอยเฝ้าอยู่ข้างๆตลอดเวลาจนกว่าภุมราจะหลับ จากนั้นชายหนุ่มถึงจะได้ทำกิจกรรมส่วนตัวเช่นอาบน้ำ หรือทำงาน เสร็จสิ้นภารกิจส่วนตัวเมื่อไหร่นคินทร์ก็จะมานอนข้างๆภุมราและกอดร่างบอบบางของคนรักไว้จนเช้า 

ทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกันแบบนี้มาเกือบปีแล้ว การกายภาพบำบัดของภุมราดีขึ้นบ้าง แต่ชายหนุ่มก็ยังเดินเองไม่ได้ ถึงแม้ปัญหาเรื่องกล้ามเนื้ออ่อนแรงเล็กลีบหลังหลับอยู่นานสามเดือนจะดีขึ้นมากแล้ว ทว่าผลกระทบจากการผ่าตัดยังคงส่งผลมากอยู่ โดยเฉพาะกับกล้ามเนื้อในร่างกายซีกขวาที่อ่อนแรงและสั่งการลำบาก ทำให้จนถึงตอนนี้ภุมราก็ยังเดินเหินเองไม่ได้ แม้จะไม่ต้องอุ้มทุกอิริยาบถอย่างช่วงแรก แต่ก็ต้องมีคนช่วยพยุงเดินในระยะสั้นๆ และอุ้มเดินในทางยาวๆ นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ภุมรายังไม่อยากออกสื่อให้สัมภาษณ์ใดๆในตอนนี้ด้วย ไม่อยากให้ใครเห็นสภาพน่าสังเวชนี่เลย...

แต่ในเมื่อรับปากไปแล้ว...ก็คงต้องทำใจ

และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง...

หกโมงเช้าเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือก็ดังขึ้น ภุมรางัวเงียตื่นขึ้นทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะพยายามสะกิดคนที่นอนกอดตัวเองอยู่ให้ตื่นขึ้นมาปิดเสียงปลุกสะเทือนแก้วหูให้ นคินทร์ตื่นขึ้นมาปิดเสียงปลุกให้จริง แต่พอปิดเสียงปลุกเสร็จก็พลิกตัวกลับมากอดภุมราไว้แล้วหลับต่อเสียอย่างนั้น

"...ฮื่อ...ภู...ตื่นเดี๋ยวนี้เลย..."

ภุมราบ่นเสียงอู้อี้ทั้งพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนคนขี้เซาข้างๆ ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าเมื่อคืนนคินทร์ท่าทางจะนอนดึกมากเพราะเจ้าตัวขนงานมาทำที่บ้านเป็นตั้งเต็มโต๊ะไปหมด อยากให้นอนต่อใจจะขาดถ้าไม่ติดว่าต้องเตรียมตัวต้อนรับกองถ่ายของนิตยาสารที่มาขอสัมภาษณ์ล่ะก็ภุมราจะปล่อยให้คนรักนอนไปถึงเย็นเลยทีเดียว

"ภู...ถ้าไม่ตื่น ภู่จะกัดให้ปลายจมูกแหว่งเลยนะ..."

"...อือ...ขออีกสิบนาทีนะครับภู่...ภูลืมตาไม่ขึ้นเลย..."

น้ำเสียงงัวเงียอ้อนต่อรองอย่างน่าสงสาร

"...เฮ้อ...ก็ได้...ภู่ให้ภูนอนต่อได้ถึง...เจ็ดโมงเท่านั้นนะ...เอาล่ะ...ปล่อยภู่ก่อน..."

ในที่สุดภุมราก็ใจอ่อนยอมให้นอนต่อได้อีกหนึ่งชั่วโมง แต่ร่างบางเองไม่ได้อยากนอนต่อด้วยดังนั้นจึงพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดเพื่อจะได้พยุงตัวเองไปห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆเตรียมตัวล้างหน้าล้างตา ทว่า...

"ฮื่อ...อย่าดิ้นสิภู่..."

ดูเหมือนนคินทร์จะไม่ยอมปล่อยหมอนข้างใบน้อยไปง่ายๆเสียแล้ว

เมื่อถูกฉุดรั้งภุมราได้แต่ถอนหายใจให้กับคนขี้เซาแถมติดหมอนข้างอย่างนคินทร์ ภุมรานิ่งอยู่ครู่ใหญ่ๆจนรู้สึกว่านคินทร์หลับสนิทไปอีกรอบแล้ว ร่างบางจึงขยับกายเล็กน้อย เพื่อจะลุกจากเตียงอีกครั้ง แต่เพียงแค่ขยับเพียงนิดเดียวก็ถูกวงแขนจากคนที่นอนแนบกายอยู่กอดเอวเอาไว้แน่นอีกจนได้

“...จะไปไหน?”

 “ฮื่อ... ปล่อยภู่ก่อน...ได้มั้ยเนี่ย?”

“...จะไปไหน?”

“ห้องน้ำ...ภู่จะไปล้างหน้า”

“...อือ...ไม่เอา...ไม่ให้ไป...”

“งัวเงีย...ขนาดนี้...ยังจะดื้ออีก...ปล่อยเลยนะ...”

“ไม่เอา”

“ภู!...ปล่อยภู่นะ....ฮื่อออ!!”

ภุมราคำรามอย่างหัวเสีย พลางแกะมือหนาออกจากเอวของตัวเอง อยากลุกขึ้นไปเตรียมเรื่องต่างล่วงหน้าไว้ก่อนเสียหน่อย นคินทร์ดันดื้อไม่ยอมตื่น แถมมือยังเหนียวไม่ยอมปล่อยเขาง่ายๆอีก ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรั้ง จนภุมราไหลลงไปอยู่ใต้ร่างคนกวนโอ้ยในที่สุด

“ภู!...จะทำ...อะไรเนี่ย?”

 “ดื้อจังนะเราเนี่ย...”

พลิกคนตัวเล็กลงอยู่ใต้ร่างได้ นคินทร์ก็เอ็ดออกไปเล็กน้อย ยิ่งเห็นคนรักหน้านิ่วคิ้วขมวดขัดใจ ก็ยิ่งแกล้งกดร่างบางนั้นไว้ไม่ยอมให้ขยับ

“...ฮึ้ย!!...ปล่อยนะ!!...ภู!!...”

และแน่นอนว่า...ภุมราเองก็เริ่มโมโหแล้ว เช่นกัน

มือบางผลักไสร่างที่คร่อมอยู่ด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเกินทน ทั้งที่ไม่ได้อยากหงุดหงิดตั้งแต่เช้าเลยแท้ๆ หากแต่ยิ่งผลักไส คนตรงหน้าก็ยิ่งโถมทับลงมาราวกับกลั่นแกล้ง นคินทร์จ้องมองร่างเล็กที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน ร่างขาวนวลน่าหลงใหล โดยเฉพาะใบหน้าบูดบึ้งตูมจนแทบระเบิด ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักน่าใคร่ ที่จริงก็ไม่ได้จะตั้งใจแกล้งให้ต้องโมโหตั้งแต่เช้าหรอก เพียงแต่เขาไม่ต้องการให้ภุมราตื่นเต้นจนเกินไป เมื่อคืนก็ดูท่าจะนอนไม่ค่อยหลับเพราะเหมือนจะเครียดกับการสัมภาษณ์วันนี้อยู่ไม่น้อย นคินทร์จึงอยากให้เจ้าตัวดีของเขารีเล็กซ์ขึ้นหน่อย และเพราะไม่รู้จะทำยังไงดีชายหนุ่มเลยสร้างสถานการณ์หากำไรเข้าตัวเองขึ้น เริ่มด้วยซอกคอหอมๆกับแก้มนิ่มๆ

จุ๊บ...

“อ๊ะ! นี่! ปล่อยนะ...ภู!!”

ฟอด!

“อื้อ!... อย่านะ!!”

“จะดิ้นไปทำไม...หือ? ภูแค่หอมนิดเดียวเอง”

“...ภูบ้า..อื้อ...!!................อ๊ะ...”

ปากบอกว่าแค่นิดเดียว แต่ทั้งซุกทั้งไซร้ รุกรานจนภุมราหมดทางสู้

“อื้อ...ภู...อือ...”

เมื่อถูกรุกเร้าหนักขึ้นภุมราก็เริ่มโอนอ่อน หยุดดิ้นรน และตอบรับจุมพิตเร่าร้อนของนคินทร์อย่างหมดทางเลือก ร่างแบบบางถูกลูบไล้หนักหน่วงตามแรงอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น ลมหายใจหอบหนักของทั้งคู่สะท้อนให้เห็นว่า กิจกรรมบางอย่างอาจเกิดขึ้น หากแต่สติที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิดของภุมราส่งเสียงร้องขึ้นมาว่า หากมีกิจกรรมนั้นเกิดขึ้นล่ะก็ คงไม่ต้องสัมภาษณ์กัน เพราะสภาพร่างกายเขาไม่ได้ปกติอย่างเมื่อก่อน ขืนโดนเข้าไปไม่ต้องลุกไปไหนทั้งวันแน่ ภุมราจึงจำเป็นต้องรีบหยุดกิจกรรมบันเทิงนี้ก่อนที่มันจะเลยเถิด...แม้ลึกๆก็แอบเสียดาย...

“...อย่า...ภู...อือ...ไม่เอานะ...”

“...ทำไมล่ะ?”

“เดี๋ยวจะ...สัมภาษณ์ไม่ไหว...เอาน่ะสิ”

ภุมรารีบเอ่ยปากห้ามเสียงสั่นพร่า ทั้งที่ใบหน้าแดงเห่อนั้นไม่ได้เป็นไปในทางเดียวกันเลยสักนิด

“ไม่ไหว?...แค่หอมเองนะ...หึหึ...คิดไปถึงไหนเอ่ย...”

ภุมราเบิกตาโพลงทันทีที่ถูกนคินทร์แกล้งเย้าเล่น ใบหน้าแดงซ่านด้วยแรงอารมณ์เปลี่ยนเป็นแดงก่ำเพราะความอายที่ถูกจับไต๋ได้ ความหวามไหวหายวับไปพร้อมกับความหงุดหงิดเจ้าเก่าที่พลุ่งพล่านขึ้นมาแทนที่

“มะ...ไม่ได้คิด!...หลบไปเลยนะ...ภู!!...ไม่ต้องมาจับเลย!!”

“หึหึ โอ๋ๆ ภูขอโทษ ภู่น่ารักอ่ะ ภูเลยเผลอแกล้งแรงไปหน่อย หึหึ”

“...ฮึ!...ภู่จะไปห้องน้ำ!”

“คร๊าบ พาไปเดี๋ยวนี้เลยครับเจ้าชายของภู”

นคินทร์ยิ้มหวานค่อยๆตระกองร่างคนรักพยุงกันไปเข้าห้องน้ำอย่างที่ภุมราต้องการ และแน่นอนว่าในห้องน้ำภุมราก็โดนแกล้งอย่างต่อเนื่อง

*******************************************

อย่าเพิ่งด่านะคะ ที่ไม่ยอมจบเสียที ครือว่า…มันยาวไปหน่อยน่ะค่ะ เลยต้องแยกลงเป็นต่อนๆค่ะ T^T
แต่ตอนหน้าไม่น่าพลาดแล้วค่ะ
ขอโทษนะคะ
 :ling3:
ต่อนสุดท้าย เป็นฉากเซอร์ไพรซ์เล็กๆ
ฉากสัมภาษณ์แสนหวาน
และติ่งหมอธเนศกับหนูซอค๊า…

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 11-04-2014 23:16:06
มาแล้วๆ หวานแหววเลย  :mew3:

ภู่ขี้กังวลจริงๆ ส่วนภูก็ขี้แกล้งได้อีก น่าร๊ากกกกก

รอที่เหลือต่อไปค่ะ   :L2: :กอด1: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 11-04-2014 23:19:45
ดีใจที่ภู่ฟื้น แล้วมีภูคอยดูแลเป็นกำลังใจจัง อ่านแล้วยิ้มเลย
ถึงต้องใช้เวลา ก็หวังว่าภู่จะหายดีนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 11-04-2014 23:27:43
รอได้ค่ะรอได้

น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 11-04-2014 23:28:36
ไม่น่ามีสัมภาษณ์หนังสือนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ultra_bang ที่ 11-04-2014 23:48:51
 :ling1: :ling1: :ling1:

กรี๊ดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!   :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 11-04-2014 23:57:21
โอยยยย น่ารัก ฟรุ้งฟริ้งงงง  :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 12-04-2014 00:03:11
ภูขี้แกล้งงงงง หวานกันจริงๆ เล้ยยยยย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 12-04-2014 01:03:30
 :o8: มุ้งมิ้งดีจัง
ฟ้าหลังฝนนี่มันดีจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 12-04-2014 06:02:37
ฟรุ้งฟริ่งมากๆๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-04-2014 11:51:16
 :z1:
กว่าจะผ่านมาถึงวันนี้ได้ ก็ลำบากมากันมากอะนะ

ช่วงหลังๆนี่ก้หวานกันให้เต็มที่หน่อยเนาะ อิอิ

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-04-2014 18:12:21
ใครจะมาสัมภาษกันนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-04-2014 19:24:48
รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 15-04-2014 22:37:52
ภูภู่น่ารักฝุดๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 16-04-2014 01:09:51
โอ้ย น่ารักฟุ้งฟิ้งไปหมด

รอmission completeนะค่ะ ^^

 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 16-04-2014 02:21:31
น่ารัก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 19-04-2014 21:21:41
 :z1: :hao6: รอๆๆๆๆ นะคถ ชอบมากๆเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-04-2014 18:33:47
ภูขี้แกล้งงงงงง

เหมือนได้ดูหนังของตาลุงอยู่เลยค่าาา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: vivisama ที่ 06-06-2014 01:28:43
รอคนเขียนอยู่นะค่ะ. อยากอ่านตอนต่อแล้ว  :mew2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 30-06-2014 01:44:55
รอ รอ รอ เเล้ว ก็ รอ รอ รอ
รออยู่น้ะจ้ะคนเขียนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-06-2014 03:31:46
ให้รอนานมาก
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 03-07-2014 09:32:23
มาต่ิเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Caramel Syrup ที่ 15-08-2014 21:33:26
เมื่อไหร่จะมาต่อจนจบคะ    :ruready  รออยู่ตลอดเลยค่ะ    :mew2:
  ยังร ภู่  กะ  ภู  แล้วก้อคู่ของ คุณหมอ กับ ซอ ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ZooS ที่ 16-08-2014 12:55:19
อ้าวววววววววววว !! ฆ่ากันเถอะแบบนี้  :m15: :z3: :katai1:
 รอต่อปายสินะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 16-08-2014 20:04:07
อ่านแล้วน้ำตาท่วมจอ  :monkeysad: ให้คนอ่านร้องไห้ตายไปเลย   :hao5:

ตามอ่านมาจนทันแล้ว ขอตอนจบบริบูรณ์ด้วยค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: zizits ที่ 17-08-2014 11:10:28
การดำเนินเรื่องคุ้นๆเหมือนเคยอ่านที่ไหนมาก่อนอะ ไม่แน่ใจว่าพลอตไปคล้ายของพี่ข้าวปั้นมั้ย
แต่ช่างมันเถอะ ภู่น่าร้ากกกก
อย่าลืมคุณหมอกับน้องซอนะคะะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: khao_hom ที่ 17-08-2014 13:50:02
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากๆเลยค่ะ
แม้ตอนแรกจะนั่งอ่านไปบ่นไป พระเอกใจร้าย สงสารภู่
แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ค.น่ารักมุ้งมิ้งทำเอาฟินไปเลยค่ะ
 :-[
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: love AJ ที่ 17-08-2014 17:48:53
มาต่อให้จบเถอะพลีสสสสสส

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 18-08-2014 00:52:41
สนุกมากเบยยยย รอตอนจบฉบับสมบูรณ์นะจร้าาา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) ตอนจบ...71-85% ค่ะ 11/4/2014 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 25-08-2014 21:51:50
Q^Q
น้ำตาไหลพรากๆ เลยอ่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
พอดีว่าติดตามเรื่องผมคือนางเอกอยู่ เลยตามมาอ่าน
เนื้อหาแบบว่าทำร้ายคนอ่านมากอ่ะค่ะ
บีบหัวใจตลอดเลยอ่ะ
ตอนแรกก็เกลียดภูมากอ่ะ แบบว่าอะไรอ่ะไม่รับฟังอะไรบ้างเลยปิดหูปิดตาอยู่ได้ (แอบด่าพระเอกว่าโง่ด้วย)
พอถึงช่วงกลางก็แบบว่าบีบคั้นหัวใจมากเกือบหยุดหายไจไปพร้อมกับภู่เลยทีเดียว
ดราม่ามากมายเลยอ่ะเรื่องนี้ ขนาดใกล้จบแล้วยังต้องลุ้นอีก ไหนจะคู่หมอเนศน้องซอ ไหนจะภู่จะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมมั้ย
แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อ
โอ้ยยยย
อยากอ่านต่ออ่ะ
ขอ 15% ที่เหลือด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 27-08-2014 00:57:30
สุดปลายทางของ…หัวใจ
อวสาน



แม้จะสิบโมงแล้ว บรรยากาศยังคงร่มรื่น เพราะบ้านของนคินทร์ผู้ชอบธรรมชาตินั้นแสนจะร่มรื่น (ติดไปทางรกครึ้มเล็กน้อย) แต่ยิ่งรก กลับยิ่งทำให้ได้มุมกล้องที่สวยมากขึ้น จนทีมงานถึงกับออกปากชมเปาะ ว่าสมแล้วที่เป็นบ้านตากล้องมือพระกาฬ ขนาดจัดบ้านยังสวย (เกี่ยวกันใช่มั้ยเนี่ย?)

“ภู่ครับ พร้อมยัง? ทีมงานเขาเซ็ตพื้นที่เสร็จแล้วล่ะ” ประมาณ สิบโมงครึ่งนคินทร์ก็เข้ามาตามภุมราที่นั่งรออยู่ตรงหน้ากระจก

นคินทร์แต่งตัวรออยู่แล้วในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว มีริบบิ้นเส้นเล็กสีแดงสดที่ผูกเป็นโบว์แทนหูกระต่าย กับกางเกงยีนส์สีขาวเข้ากัน ตอนนี้ถูกทางทีมงานช่วยเซ็ตผมกับแต่งหน้าให้จนดูดีแทบจำไม่ได้ ผมรองทรงที่ถูกปัดเสยไปด้านหลังเผยหน้าผากเหลี่ยมสวยนั้นกระแทกตาภุมราเข้าอย่างจัง ทำเอาชายหนุ่มถึงกับนั่งอึ้ง ขนาดไม่ได้ยินเลยว่านคินทร์ถามอะไร

“ภู่?...เป็นอะไรไปหืม? เหม่อเชียว” เห็นปฏิกิริยาตาโตของภุมราเข้า นคินทร์ก็ได้แต่อมยิ้มขบขัน น่ารักน่าใคร่จนไม่อยากให้ใครได้เห็น (เลิกสัมภาษณ์ซะดีมั้ยนะ เริ่มหวงหน่อยๆซะแล้วสิ)

“อ่ะ...ปละ...เปล่า...แค่...ตกใจ” เห็นแววตากรุ้มกริ่มของนคินทร์เข้า ภุมราก็รีบก้มหน้างุด ซ่อนสีแก้มแดงก่ำถึงใบหู

“ตกใจ? เรื่องอะไรเหรอ?”

“ก็...ภูหล่อ...” ภุมราตอบเสียงเบาหวิว ทั้งที่ยังก้มหน้างุด

“ห๊ะ? อะไรนะครับ ภูไม่ได้ยินเลย...”  คำถามพร้อมสายตากรุ้มกริ่มส่งออกมาทันทีที่ภุมราพูดจบ นคินทร์เองแท้จริงก็ได้ยินชัดเจนอยู่ แต่ก็อยากจะแกล้งคนขี้อายอีกหน่อยโดยการถามย้ำขอฟังเพิ่ม (ก็แหม...นานๆคนน่ารักของเขาจะเอ่ยปากชมว่าหล่อสักที ขอฟังหลายๆครั้งให้ชื่นใจหน่อยเถอะ)

“...ก็...ภูหล่อนี่นา...ภู่เลย...ตกใจ......ฮื่อ...อย่าหัวเราะ...สิ...”

คำสารภาพซื่อๆ แสนน่ารักของภุมรา เรียกเสียงหัวเราะของนคินทร์ออกมาครืนใหญ่ ไม่ได้หัวเราะเยาะขบขัน แต่เป็นหัวเราะชอบใจถูกจิต ที่สามารถทำให้คนรักเห็นความหล่อเหลาของตัวเองได้ ยิ่งหัวเราะ ภุมราก็ยิ่งหน้าแดง ถ้าเอามือไปอัง แน่นอนว่าคงร้อนฉ่า

“ภู่เองก็หล่อเหมือนกัน”  นคินทร์ก้มลงใกล้ใบหน้าเห่อร้อนของคนรักพลางกระซิบหวาน วันนี้คนรักของเขาหล่อจริงๆ หล่อที่สุดเลยก็ว่าได้ เสื้อผ้าที่ภุมราแต่งนั้นก็ไม่ต่างกับของนคินทร์สักเท่าไหร่ เพียงแต่เสื้อเชิ้ตที่ใส่มีระบายตรงอกพร้อมตีเป็นเกร็ดผ้าเก๋ๆน่ารัก มีริบบิ้นสีแดงสดผูกเอาไว้ที่ต้นคอแทนปกเสื้อ

ทั้งคู่มีเส้นริบบิ้นสีแดงพันรอบแขนซ้ายเช่นกัน ดูเท่ห์จนภุมราอดชื่นชมสไตล์ลิสไม่ได้เลยทีเดียว ‘ก็แหม เนรมิตนคินทร์ให้เขาเสียหล่อกระชากใจปานนี้ ไม่ชมได้ยังไง’

“พร้อมหรือยังครับภู่” เมื่อต่างก็ชื่นชมความหล่อเหลาดูดีของกันและกันเรียบร้อยแล้วในที่สุดนคินทร์ก็ยอบตัวลงยคุกเข่าตรงหน้าของภุมรา พลางเอ่ยถามความพร้อม

“ครับ” ภุมรายิ้มหวาน พยักหน้าสองสามครั้งเป็นสัญญาณว่าพร้อม

นคินทร์ยิ้ม ก่อนจะหยิบกล่องกระดาษกล่องใหญ่กล่องหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้นั้นขึ้นมาเปิดออก ภุมราขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้เห็นว่าสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นคืออะไร

ของที่นคินทร์บรรจงหยิบขึ้นมานั้น มันเป็นผ้าขาวบางใส ที่ตรงปลายผ้ามีลายปักลูกไม้ อ่อนช้อยงดงาม ถ้าภุมราเดาไม่ผิด ของสิ่งนั้นมันคือ Bridal Veils ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว!?

“เอ่อ…ภู?”

พรึ่บ

ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากถามไถ่ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวผืนงามนั้นก็ถูกคลุมพาดบนศีรษะ เล่นเอาภุมราถึงกับตกประหม่าทำอะไรไม่ถูก

“ภู...นี่มัน?...”

“แต่งงานกับผมนะภู่”

“เอ๊ะ?”

คำขอแต่งงาน?

“ภ…ภู่ไม่เห็นจะ…เข้าใจ…เลย…มันคืออะไรเหรอ….ภู?...ร…เราต้องให้สัมภาษณ์…ม…ไม่ใช่…เหรอ?”

สิ่งที่ภุมรารู้คือ วันนี้เขาต้องออกให้สัมภาษณ์กับนิตยาสารของสำนักพิมพ์หนึ่งซึ่งเคยให้ข่าวช่วยเหลือพวกเขาตอนที่ภุมราป่วย ทั้งๆอย่างนั้น จู่ๆกลับถูกขอแต่งงานกันดื้อๆ เล่นเอาภุมราถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เอ๊ะ? หรือนี่จะเป็นราบการสารแนโชว์ หรือดาราจำเป็นกันนะ? แอบมีกล้องซ่อนเอาไว้เหรอ?

ยิ่งเห็นภุมราหน้าตื่น นคินทร์ก็ได้แต่ขำด้วยความเอ็นดู ถูกใจเหลือเกินที่ได้เห็นปฏิกิริยาแบบนี้จากคนรัก เพราะเขานั้นเตรียมการเพื่อวันนี้มาตั้งนาน ตั้งใจจะเซอร์ไพรซ์ภุมราอย่างเต็มที่ แล้วในที่สุดมันก็ได้ผล เพราะตอนนี้คนรักของเขา เอ๋อรับประทานไปแล้ว…

 “ภู่ครับ เรื่องให้สัมภาษณ์น่ะ มันเป็นเรื่องที่ภูเตี้ยมกันกับพวกพี่แอนกับเจ้าซอแล้วก็คุณหมอน่ะ”

“ต…เตี้ยม?”

“ครับ…ที่จริงแล้ววันนี้ คือวันแต่งงานของเรา…ภูตั้งใจเซอร์ไพรซ์ภู่ ด้วยการขอภู่แต่งงาน”

คำสารภาพอายๆของนคินทร์ ทำเอาภุมราหน้าแดงเห่อ ‘แต่งงาน?’ เขากำลังถูกขอแต่งงานจริงๆเหรอเนี่ย?

“…ค…คนบ้า หลอกกันนี่…” ภุมราได้แต่บ่นออกมาเบาๆด้วยความเขิน ถึงจะแอบเคืองเล็กๆที่ถูกหลอก แต่ความตื้นตันมันมหาศาลกว่ามาก

“บ้า…แล้วรักภูมั้ย? ภูขอโทษที่ปิดเป็นความลับนะ ก็ภูอยากเซอร์ไพรซ์ภู่นี่นา…” นคินทร์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าภุมรานั้นแนบจับสองมือเรียวนุ่มของคนรักขึ้นมาจุมพิตแผ่วเบา ก่อนจะพยายามออดอ้อนเสียงหวาน

“…รักสิ” และแน่นอนว่าโดนลูกอ้อนไปขนาดนั้น ภุมราไม่มีทางทนใจแข็งอยู่ได้หรอก ใบหน้าคมหวานยกยิ้มเขินอายที่ต้องเอ่ยคำว่ารัก ด้วยน้ำเสียงแหบเครือ

“งั้น…แต่งงานกับภูได้มั้ยครับ?” นคินทร์เอ่ยคำขอแต่งงานอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและจริงจัง

“ครับ…” และคราวนี้ภุมราเองก็ตอบรับชัดเจน โดยไม่มีข้อกังขาใดๆอีก

“ภู่จะแต่งงานกับภู”

จบคำตอบรับนคินทร์ยกตัวขึ้นสวมกอดว่าที่เจ้าสาวของตนสู่อ้อมอกอุ่นทันที น้ำตาว่าที่เจ้าบ่าวไหลเอ่อท่วมท้นอย่างลืมอาย

“ขอบคุณครับภู่…ขอบคุณครับที่ยอมแต่งงานกับภู” เสียงทุ้มเครือสั่นอย่างสุดห้าม ขณะกำลังสวมกอดเจ้าสาวของตนไว้แน่น ดีใจเหลือเกิน รักเหลือเกิน  สุขเหลือเกิน

“…ขอบคุณภู…เหมือนกัน…ครับ…ขอบคุณ…ที่รักภู” เฉกเช่นภุมราเองที่ไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความตื้นตันได้ ดีใจเหลือเกินที่ยังมีชีวิตอยู่ ดีใจเหลือเกิน รักเหลือเกิน สุขเหลือเกิน

เนิ่นนานกว่าน้ำตาแห่งความปิติจะเหือดแห้ง กว่าสองร่างจะคลายอ้อมแขนจากกัน แต่เหมือนยังไม่หนำใจคุณเจ้าบ่าวเลยต้องขอจูบมัดจำเจ้าสาวคนสวยไปก่อนหนึ่งครั้งอย่างอดไม่อยู่ ฝ่ายเจ้าสาวเองก็ยอมโอนอ่อนโดยง่ายไม่มีขัดขืน มีเพียงความประหม่าเขินอายเท่านั้นที่แสดงออกมาให้พ่อเจ้าบ่าวยิ่งใจเต้น ยิ่งกอดยิ่งฟัด

“พ…พอได้แล้ว…เดี๋ยวผ้าคลุมหน้า…ก็ยับหมด…” (แน่ะ…มีห่วงสวย)

“จ๊ะที่รัก ได้เวลาแล้ว เราออกไปข้างนอกกันเถอะ คนที่รักพวกเรารออวยพรเราอยู่นะ”

“อื้ม” ทันทีที่นคินทร์เอ่ยชวน ภุมราก็พยักหน้าถี่ ทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นจนตอนนี้มือไม้เย็นฉ่ำไปหมด

นคินทร์ยิ้มทิ้งท้าย ลูบศีรษะทุยเป็นการให้กำลังใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เพื่อจะเข็นรถเข็นของเจ้าสาวคนดีออกไปด้านนอก สู่พิธีแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์

“เอ่อ…ภู…” ทว่าทันทีที่นคินทร์ตั้งท่าจะเข็น ภุมราก็เอื้อมมือไปยั้งไว้เสียก่อน

“ครับ? ภู่มีอะไรเหรอ?” ว่าที่เจ้าบ่าวโน้มตัวลงใกล้เพื่อรับฟังคำขอร้องของว่าที่เจ้าสาว

“…ขอภู่…เดินออกไปเอง…ได้มั้ย?” ภุมราร้องขอ พร้อมช้อนสายตาขึ้นวิงวอน

“ไหวเหรอครับภู่ ทางมันไกลอยู่นะ ภูยังเดินไม่คล่องเลย…”

“ไหว…ภู่ไหว…ให้ภู่เดินเองนะภู…ขอร้องล่ะ”

“ทำไมล่ะ? ทำไมภู่ถึงอยากเดิน?”

“…วันนี้คือวัน…แต่งงาน…เส้นทาง…ที่เรากำลังจะเดินไป…คือเส้นทาง…อันศักดิ์สิทธิ์…ภู่…อยากเดินเคียงข้าง…กับภู…อยากเดิน…เคียงบ่าเคียงไหล่…เคียงคู่กันไป…จน…สุดปลายทาง…”



“…ภู่…”


“นะครับ…ให้ภู่ได้เดิน…ให้ภู่ได้เดินข้างภู…”


ภุมราอ้อนวอน นคินทร์ไม่เอ่ยอะไรอีก ไม่ได้ไม่อยากเอ่ย แต่เพราะก้อนสะอื้นมันจุกอยู่ตรงอก พูดอะไรไม่ออกนอกจากหลั่งน้ำตาแห่งความรักออกมาเป็นสาย  ชายหนุ่มเอื้อมมือมาประคองร่างคนรักให้ลุกยืน ค่อยๆตระกองเดินเตาะแตะ จากเก้าอี้วิลแชร์ สู่หน้าประตูห้องทีละก้าว ทีละก้าว เชื่องช้า ทว่ามั่นคง

“เหนื่อย…มั้ยครับภู…ที่ต้องพยุงภู่เดินตั้งไกล แถมยังช้าอีก” ภุมราหยุดเดินเมื่อถึงครึ่งทาง เพราะเหนื่อยหอบเล็กๆ ก่อนจะหันกลับไปถามคนรัก พร้อมกับเอื้อมมือไปช่วยซับหยาดน้ำตาให้ นคินทร์กระชับมืออุ่นของภุมรามาจุมพิตทันที

“ไม่เหนื่อยครับ ภูไม่มีวันเหนื่อย แค่ภู่อยู่กับภู แค่ภู่ยิ้มได้ ภูก็ไม่เหนื่อยแล้ว …” นคินทร์ตอบออกมาทั้งน้ำตา วันนี้เขาตั้งใจจะเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อที่สุดในงานแท้ๆ กลับร้องไห้จนดูไม่ได้แบบนี้น่าอายจริงๆ (แต่ก็มีความสุขมากจริงๆ)

“ขอบคุณ…นะครับ…คนดีของภู่…” ภุมราเอ่ยขอบคุณเสียงเครือสั่น มือที่จับมือนคินทร์ไว้กำแน่น

“ภู่รักภูครับ”

“ภูก็รักภู่ครับ…รัก…เท่าชีวิต”


สิ้นคำกระซิบรักหวานล้ำ สองร่างก็ตระกองกันเดินต่อไป แม้บางก้าวภุมราจะเซไปบ้าง ก้าวพลาดบ้าง แต่ร่างนั้นก็ไม่ได้หวั่นไหวหรือเอนล้ม เพราะนคินทร์คอยสอดสองมือแกร่งประคองข้างกายไม่ห่าง ทีละก้าว ทีละก้าว…


จนถึงหน้าประตู…


************************ จบบริบูรณ์ **************************

ในที่สุดก็จบเสียทีค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ
ตอนจบติ่งสุดท้าย ที่ต้องให้รอกันนานเหลือเกิน
เพราะตอนแรกกะจะให้จบพร้อมกับเรื่อง ‘ผมคือนางเอก’ (เพราะเป็นเรื่องที่คู่กัน)
แต่เพราะเรื่องนั้นยังเหลืออีกหลายตอนเกินไป
และในเรื่อง ‘นางเอก’ นั้น ได้กล่าวถึงตอนจบของเรื่องนี้แล้ว
เลยมาลงไว้ให้ครบจบบริบูรณ์เสียทีค่ะ

สำหรับเรื่อง ‘สุดปลายทางของ…หัวใจ’ นั้น
นับเป็นนิยายเรื่องแรกๆที่แต่งลงเล้าเลยล่ะค่ะ
(แต่กว่าจะจบได้ ฮ่าฮ่าฮ่า)
ความจริงแล้ว Thearboo ชอบนิยายแนวนางเอกรักข้างเดียวเหนียวนึ่งที่สุด
รักข้างเดียวเขาไม่รู้ไม่พอ ต้องรักข้างเดียวแบบถูกพระเอกเกลียดน้ำหน้าด้วย
แล้วถ้ายิ่งนางเอกป่วย หรือมีปมอะไรสักอย่างที่โคตรรันทดด้วยล่ะก็ ชอบสุดๆเลยค่ะ
เพราะเมื่อตอนเด็กๆ เคยดูเรื่อง ‘หนึ่งฤทัย’ ที่นางเอกเป็นเด็กรวย โดนสปอยล์ เอาแต่ใจ
แล้วพ่อแต่งงานใหม่ มีลูกเลี้ยงที่น่ารัก นิสัยดี นางเอกเราเลยปมมาก
มีแต่คนไม่ชอบ สุดท้ายเป็นมะเร็งในสมอง บอกใครก็ไม่มีใครเชื่อ พระเอกยังไปได้กับลูกแม่เลี้ยงนิสัยดีอีก
ตัวเองดันทำแม่เลี้ยงที่ท้อง (อยู่ป่าวหว่า) ตกบันไดด้วย หูยยย โดนทั้งบ้าน พ่อ ย่า พระเอก เกลียดขี้หน้าเป็นแถว
ทั้งที่นางเอกก็ป่วย แต่ไม่มีใครสนใจ สุดท้าย ‘ตาย’ คนในบ้านกระทั่งพระเอกถึงจะมารู้ทีหลังว่า
อ๋อ ความจริงแล้วนางเอกไม่ได้นิสัยไม่ดี ความจริงมันมีเหตุ ซึ่งมันสายไปแล้ว
ตอนส่งเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการโคม่า ร้องให้ตายนางเอกก็ไม่หาย
จำได้ว่าก่อนนางเอกตาย อิชั้นร้องไห้แทบบ้า…

ดังนั้นพล๊อตนี้จึงฝังใจมากค่ะ เลยได้กลายมาเป็นนิยายเรื่องนี้นี่แหละค่ะ ^^


ขอโทษสำหรับความเอาแต่ใจในหลายๆเรื่องนะคะ
เลยทำให้ท่านผู้อ่านต้องรอ ต้องคอยกันนานเหลือเกิน
ขอโทษจากใจอีกครั้งค่ะ…

ส่วนเรื่องตอนพิเศษนั้น มีแน่นอนค่ะ
จะเป็นเรื่องของคู่รองอย่าง ซอและคุณหมอ ที่ไม่มีบทสรุปแน่ชัดในเรื่อง
กับเรื่องของความกุ๊กกิ๊กน่ารักของสองสามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน

แต่อาจต้องรอกันสักนิดนะคะ สำหรับตอนพิเศษ
ขอเวลาไปปั่น ‘นางเอก’ แป๊บนึงนะคะ

สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากค่ะที่ร่วมฝ่าฟันกันมา
ขอบคุณนะคะที่เป็นแรงใจให้ภูภู่พบกับความสุขในตอนจบ
 :mew1:
ขอบคุณอย่างสุดซึ้งค่ะ
Thearboo

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 27-08-2014 02:10:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: ultra_bang ที่ 27-08-2014 10:01:38
จบแว้ววววววววววววววววววว  สนุกมากๆๆเลยครับ  รออ่านตอนพิเศษ แล้วก็รอติดตาม  ผมคือนางเอง  ตอนต่อไปด้วยนะครับ    เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 27-08-2014 17:29:47
เย่
ตามมานานในที่สุดก็มาลงตอนสุดท้ายเสียที 55555
ขอบคุณคนเขียนมากนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 27-08-2014 20:48:20
ดีใจ น่ารัก แฮปปี้
ตอนแรกเศร้ามาก น้ำตาไหลเลย
ดีใจที่ภู่ฟื้นขึ้นมา และภูเข้าใจหัวใจตัวเอง
ขอบคุณฝ้ายด้วยที่ในที่สุดก็เข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-08-2014 20:55:44
 :mc4:  วี๊ดว๊าย  มาต่อแล้ว    :pig4:  มาก ๆ ค่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: kongxinya ที่ 27-08-2014 21:08:03
จะรอตอนพิเศษนะคะ  :L2: :กอด1:  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 27-08-2014 21:43:42
 :mc3:  จบแล้ว ดีใจที่จบแบบนี้ มีความสุข

เรื่องที่นักเขียนเล่า ไม่เคยดูเลย แถมไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วย ดีนะที่ไม่ได้ดูไม่งั้นคงเศร้าแย่

 :pig4: นักเขียน

หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-08-2014 12:09:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 28-08-2014 12:44:01
ซึ้งมากกกก ขอบคุณมากๆ ที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้อ่าน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-08-2014 22:09:39
ในที่สุดก็ happy ending เย้ๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: klaew ที่ 28-08-2014 22:29:34
เย้ๆๆ ยินดีด้วย ตอนจบสุดประทับใจ
ความรักแบบชายรักชายว่ายากแล้วที่จะหาคำว่ารักแท้
แต่นี่บทสรุปยังได้แต่งงานกันอีก...ซึ้งเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะที่แต่งให้อ่านจนจบ

รอตามผมคือนางเอกอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: shijino ที่ 28-08-2014 23:58:34
ขอบคุณมากๆค่ะ ประทับใจกับทั้งเรื่องนี้และผมคือนางเอก
แต่ขอสารภาพว่า แอบอ่านแบบตุ้มๆต่อมๆมาตั้งนานแล้ว
แบบว่าส่วนตัวไม่ชอบเรื่องที่จบเศร้า เคยอ่านหลายเรื่องที่จบแบบนั้น แล้วอินจัด เศร้าซึมไปหลายวัน
เรื่องนี้ก็อ่านไป ลุ้นไปขอให้จบแบบดีๆ กลัวใจตัวเองจะอินร้องไห้ตามไปด้วย
ชอบความมุ้งมิ้ง ความรักขอบภูกับภู่มากๆเลยค่ะ ตอนจบประทับใจมากกกก ปาดน้ำตาไปหลายหยด
ขอตอนพิเศษแบบหวานๆเลยนะคะ ได้โปรด  :call:  :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 29-08-2014 22:55:00
รู้สึกดีใจมาก ในที่สุดก็ได้อ่านตอนจบซักที  :heaven
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 29-08-2014 23:15:56
เฮ้ยยยยจบแล้วว ซึ้งTT
รักแท้มีอยู่จริง^^
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Oilsaoo ที่ 30-08-2014 00:40:00
ในที่สุดกฺจบเเบบสวยงามม
หมดน้ำตาไปหลายถังเลย ชอบมาก ซึ้ง T^T
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 30-08-2014 00:52:52
ซึ้งค่ะ :hao5: :hao5: :hao5: ดีใจที่ทั้ง 2 คนมีความสุขกัน :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-08-2014 12:14:50
จบได้ซึ้งมาก มันมีความน่ารักเล็กๆ ชอบภูกับภู่มากมันคือความรักที่มั่นคง ชอบบบ รอตอนพิเศษค่าาา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 02-09-2014 21:07:32
ถึงจะจบช้าแต่ก็รอนิยายคุณภาพ และรอต่อไปสำหรับตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 03-09-2014 16:02:15
กรี๊ด~ หวานมากๆ ขอให้ความรักนี้เป็นนิจนิรันดร์นะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 06-09-2014 17:05:22
 :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 17-09-2014 04:09:10
เย้ จบแล้วววว ชอบมากๆๆ ตามอ่านหลายๆรอบรอัพ 555. ขอบคถณนะคะ สนุกมากๆ มันกินใจหลายอย่างบอกไม่ถูกเลย รอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: GIRL [Y] 100% ที่ 19-09-2014 14:27:45
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 22-09-2014 23:43:48
สุดยอดอ่ะ ซึ้งมากกกกก ประทับใจมากอ่ะ อ่านเเล้วอินมากอ่ะ  คือสุดยอดจริงๆอ่ะ. ชอบมาก
ยังไงก้อรอรอ รอรอ อยู่น้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 24-09-2014 22:30:35
เป็นเรื่องที่ประทับใจมากจ้า ชอบมาก รอตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ ที่ 30-09-2014 02:50:07
อ่านรวดเดียวจบเลยย >_<
ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องคิดว่านิยายหวานๆแต่พอเห็นวงเล็บว่า นายเอกป่วย เลยเข้ามาดู (ชอบกินมาม่า)
เรื่องนี้ไม่ทำให้ผิดหวังกับการอ่านจบจนเกือบตี3 จริงๆ

จะรอตอนพิเศษนะคะ  :m24:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่าาาา  :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 04-10-2014 14:55:32
เพิ่งจะได้เข้ามาเห็นตอนจบก็หลังจากส่งนิยายรักประทับใจไปแล้วจะเข้าไปแก้ไขได้มั๊ยน๊า......เรื่องนี้ประทับใจมาก...นายเอกก็สุดยอด พระเอกก็เช่นกัน...ไม่เป็นไรรอรอบสองเพิ่มเข้าก็ได้เนอะ....
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 08-10-2014 19:28:34
ตามมาจากผมคือนางเอกด้วยคนค่ะ .. ซึ้งจังเลย
ไรเตอร์ฝีมือดีจริงๆนะคะ ทั้งการใช้ภาษา ทั้งการเรียบเรียงเนื้อเรื่อง อ่านแล้วลื่นไหลมากเลยค่ะ
ถึงจะดราม่าแต่มันก็ไม่ออกแนวหน่วงหรือโศกแบบไม่มีเหตุผลนะคะ คืออธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 5555555555
ชอบตอนที่ภู่ฝันถึงฝ้ายมากเลยค่ะ ทำให้เรานึกถึงแฮร์รี่เล่มสุดท้ายเลย ฉากที่ไปโผล่ที่สถานีรถไฟคิงคอร์สเลยค่ะ
มันนัวๆ ขาวๆ โพลนๆ เหมือนความฝันแบบนั้นเลย แต่งดีมากเลยค่ะ ^^
กลับไปอ่านผมคือนางเอกต่อดีกว่า ><
ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องสั้นที่ตรึงใจขนาดนี้
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 08-10-2014 21:28:01
รอๆ ตอนพิเศษ :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 11-10-2014 02:57:51
จบดีมากค่ะ ซึ้งมากจริงๆ
อ่านครั้งแรกปวดใจแทนภู่มากกก
ภูทำร้ายจิตใจสารพัด ไล่ให้ไปตาย ไปไกลๆตลอด
เจ็บแทนจริงๆนะ แต่หลังจากที่ภู่ผ่าตัดแล้วฟื้น
คือดีใจมากอ่ะ ภูดีมากดูแลภู่ไม่คลาดสายตาเลย
รักเลยจริงๆ เส้นทางชีวิตยังอีกไกล สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 19-10-2014 19:38:59
กว่าจะได้รักกันได้มันไม่ง่ายเลยนะ คนอ่านหมดน้ำตาเป็นลิตร  :monkeysad:

ในที่สุดก็จบแฮปปี้ ตอนขอแต่งงานซึ้งมากๆเลยปลื้มภูตอนนี้สุด

รอตอนพิเศษคุณหมอกับซอนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 29-04-2015 00:58:15
ชอบเรื่องนี้จัง เราชอบนิสัยคาแรคเตอร์ตัวละครของภู่ ตอนแรกแอบสับสนชื่อนะ
แต่เราชอบเรื่องที่พระเอกเกลียดนายเอกก่อน นายเอกน่าสงสาร นายเอกเป็นคนเงียบๆ ไม่ถือตัว ไม่อวดี ไม่พูดมาก
เป็นเรื่องี่หาได้ยากในเล้ามากกกกกกเลย ขอบคุณจริงๆค่ะที่แต่งเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 02-05-2015 10:46:22
ขอบคุณค่ะ เป็นนิยายที่หายใจหายคอไม่ออก
ทิชชูหมดไปเป็นม้วนๆ
ซึ้งมากค่ะ
อ่านไปปวดมือไป น้ำตาไหลไป
ฮืออออออออ
ขอบคุณคนเขียนอีกครั้งนะคะ สำหรับความรู้สึก ความผูกพันอันยิ่งใหญ่ของความรัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-05-2015 12:49:41
น่ารักมาหครับหวานซึ้งกินใจ



ขอบคุณมากคร้าบจะติดตามผลงานต่อไป
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 22-05-2015 02:44:32
 :give2: ตามบวกให้ครบทุกตอนแล้วจ้า :mew1:
ตามอ่านเรื่องนี้เหมือนตัวเอง ได้ดูหนังของ ลุงเมธ - น้องยุ รอบปฐมทรรศน์
 :katai2-1: :กอด1: :L2: :L2: :L1: :L2: :L2: :กอด1: :katai2-1:

ขอบคุณครับ จะรอตอนพิเศษ หมอธเนศ - เจ้าซอ นะครับ

ปล. เรื่อง นางเอก ผมก็ติดตามอยู่นะ :mew3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Cardiac ที่ 23-05-2015 00:30:13
ประทับใจมากๆ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 25-05-2015 15:11:42
ขอบคุณท่านผู้อ่านที่ประทับใจ และชอบ ภูภู่ นะคะ (ปลื้มปริ่มค่ะ)
ตอนพิเศษ ยังมีแน่นอนค่ะ แต่รอ เมธกะยุ เล่นหนังจบก่อนนะคะ
เดี๋ยวมีชีวิตหลังแต่งงานของ ภูภู่ และบทสรุปของ หมอธเนศกะน้องซอ มาให้ชื่นใจแน่นอนค่ะ

ขอบคุณที่ยอมเสียน้ำตาไปพร้อมกันค๊า

ปล.ตอนแต่งเรื่องนี้ Thearboo ก็นอนร้องไห้อยู่หลายคืนค่ะ
คิดพล็อตไป ร้องไป สงสารภู่....ฮรือออ..
ขนาดตอนจบ ยังไม่วายเสียน้ำตา
ฉากฝ้ายโผล่มาในฝัน อิฉันก็แอบน้ำตาซึมคร๊า
Theaeboo เริ่มคิดแล้วค่ะว่าเอ็งมันเป็นคนซาดิสต์ อิThearboo!!
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 27-06-2015 13:19:26
น่าเห็นใจทั้งสามคนเลยค่ะ ที่ต่างก็รักใครอีกคนทั้งๆ ที่เขาไม่หันมามอง จนสุดท้ายต่างก็พลาดพลั้งทำร้ายใจกันไปเสียทุกฝ่าย..

ตอนแรกๆ อยากจะขอเปลี่ยนพระเอกเหลือเกินค่ะ -*- นิสัยเสียแถมยังไม่รับฟังคำอธิบายอะไรจากน้องภู่ให้ชัดแจ้งก็มาวีนแตกใส่กันเสียก่อน ไม่พอ!!! ยังอาจหาญมาข่มเหงรังแกน้องภู่ของเรา(?)ให้บาดเจ็บทั้งใจและกายเข้าไปอีก!!! หึย~ น่าโมโหสุดๆ ไปเลยค่า

แต่พอมาตอนหลังๆ ที่ภูได้รู้ความจริงจากน้องภู่แล้วนี่สิคะ ฮึก~ น่าสงสารทั้งสองคนสุดๆ ไปเลย :hao5: เรานี่อ่านไปร้องไห้ไปจนตาบวมฉึ่งเลยค่ะ T^T ยิ่งตอนที่ภูได้อ่านบันทึกของน้องภู่นี่เรียกได้ว่าสะเทือนใจกันไปข้างหนึ่งเลย

จนกระทั่งมาถึงตอนที่น้องภู่ฟื้นแล้ว ภูก็ดูน่ารักขึ้นมากโขเลยเชียวล่ะค่าา~ (เพิ่มมาจากตอนที่ดูแลน้องภู่ตอนป่วยด้วย >.<) คือเป็นคนที่อบอุ่นและอ่อนโยนมากๆ จนเราจำภาพภูเมื่อตอนแรกๆ ไม่ได้แล้วด้วยน่ะ หุหุ *อะไรที่ไม่ดีเราจะไม่จำ..-คติ

ส่วนน้องภู่เปรียบหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ สำหรับเรามาตั้งแต่เริ่มแรกแล้วล่ะค่ะ ^^ น่าทะนุถนอมที่สุดเลย ยิ่งตอนที่ถูกภูเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานยิ่งน่าร๊ากกกก :m3: แถมตอนสุดท้ายก็ไม่วายเรียกน้ำตาเราได้อีกอยู่ดีนั่นล่ะนะคะ ประทับใจกับ 'ความรัก' ของทั้งสองคนมากๆ..

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ นะค้าา o1
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 30-06-2015 21:48:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 01-07-2015 06:19:47
พระเอกโง่เเล้วยังเจือกเลว
หลงชะนีจนไม่ยอมฟังเพื่อนที่คบกันมาก่อนเจอชะนีหลายปี
เชื่อคำพูดละนีมากกว่าเพื่อน เกลียดคนเเบบนี้
ไม่สมควรเอามาทำทั้งเพื่อนเเละเเฟนเล้ยยย
ถึงมันจะสำนึกได้ก็ยังอยากตบอยู่ดี :beat:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: ikou ที่ 06-07-2015 02:28:21
ซาบซื้งตรึงใจจริงๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Dajong ที่ 05-08-2015 08:04:30
เป็นนิยายที่เรียกน้ำตาได้ดี ซึ้งมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวเลย แต่เรื่องนี้มาอ่านหลังจากเราได้อ่านเรื่อง"ผมคือ..นางเอก" พอรู้ว่ามีเรื่องนี้เราก็ไม่รอช้า รีบมาอ่านทันใด คนเขียนเขียนดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้เราได้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 05-08-2015 15:44:55
 :pig4: ตอนเข้ามาอ่านแรก ๆ หน่วงจนสุดทนยิ่งอ่าน ยิ่งสงสารภู่ พอไปเรื่อยๆ หวานแฮะ ยิ่งตอนจบยิ่งหวานใหญ่
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: thearboo ที่ 06-08-2015 10:10:09
ขอบคุณที่ชื่นชอบนะคะ ^^
ปลื้มปริ่มมากเลยค่ะ

ปล. เรื่องนางเอกใกล้จบเต็มทีแล้ว ตอนพิเศษ ภูภู่กำลังจะคลอดแล้วคร๊า

จุ๊บๆๆๆๆ
Thearboo (#อนาคี99)
 
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Chrysan ที่ 20-09-2015 17:42:03
เรามาดูรอบปฐมทัศน์ 5 5 5

ฉากก่อนผ่าตัดอ่านไปซับน้ำตาไป
อีกคนกำลังจะหลุดพ้นจากความรู้สึกผิด
แต่อีกคนเพิ่งรู้สึกผิดเลยรั้งไว้
สุดท้ายแล้วทุกคนก็ได้ชดใช้

ไม่คาดฝันว่าจะมีฉากแต่งงาน แต่เป็นการจบที่น่าประทับใจจริง ๆ
เหมือนเป็นจุดสิ้นสุดของความบาดหมางทุกอย่าง แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่

ปล.เราเคยดูหนึ่งฤทัย ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกัน
เพิ่งดูรีรันในยูทูปไปไม่กี่ปีนี่เอง ตอนฉายครั้งแรกยังเด็ก
แต่จำได้ว่ามันเจ็บปวดมาก เลยอยากดูอีก
ก็กินน้ำมูกน้ำตาไปตามระเบียบ


หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 20-09-2015 20:03:33
ตามน้องยุมาครับ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: himoru ที่ 25-09-2015 17:08:11
จบแล้ววววว
สนุกค่ะ
หวานน่ารัก
ชอบจัง
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 27-11-2015 02:19:54
ซึ้งมากเลยค่ะ ตอนจบก็ซึ้งเหลือเกิน
ชอบค่ะชอบๆ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-04-2016 10:12:15
เฮ้อ กว่าจะลงเอยกันได้ .......... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 02-05-2016 20:12:03
 :3123:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 07-05-2016 21:39:47
 :mew6:   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-05-2016 22:02:05
ซึ้งมากอ่ะ
ยิ่งตอนจบ ยิ่งประทับใจสุดๆ :mew6:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-06-2016 21:37:52
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 07-07-2016 02:43:04
ขอบคุณนะคะ ซึ้งมากเลย
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 10-07-2016 15:40:32
ชอบจังนิยายดราม่าหน่วงจิตหน่วงใจ แต่จบได้มีความสุขมาก ๆ

อ่านรวมเดียวจบเลยครับ คนก็อยู่เต็มบ้านกลั้นน้ำตาแทบแย่ อิอิ

ขอบคุณที่แต่งนิยายดี ๆ ให้ได้อ่านครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: vilaroly ที่ 25-07-2016 14:33:02
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 26-07-2016 23:15:06
 :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Kkookai ที่ 27-07-2016 11:30:32
อ่านกี่รอบ น้ำตาไหลทุกรอบอะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 29-07-2016 16:13:30
สะเทือนอารมณ์ กระแทกใจ น้ำตาซึมได้เด็ดมากค่า ขอบคุณคร่าาาาา
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 30-07-2016 16:11:22
เราว่ามันยังไม่สุดอะ เรื่องมันยังอึน ๆ งง ๆ อยู่บ้างในบางช่วง พล็อตเรื่องโอเคนะ แต่ยังดำเนินเรื่องราวได้ไม่ค่อยบิ้วท์เท่าไหร่ เราว่าเรื่องมันยังสามารถทำให้เศร้าได้ยิ่งกว่านี้ หน่วงได้ยิ่งกว่านี้ รักทดได้มากกว่านี้ บีบหัวใจได้มากกว่านี้อีก ไม่รู้สิเราอ่านแล้วมันยังไม่หน่วงจิตถึงขั้นหวิว ๆ ในใจเหมือนเรื่องหน่วงจิตเรื่องอื่น ๆ ที่เคยอ่านมา

 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 11-09-2016 09:44:49
ขอบคุณครับ  เป็นอีกเรื่องที่อ่านไปเสียน้ำตาไป
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 14-09-2016 11:28:39
อ่านมาก็หลายรอบละ แล้วก็น้ำตาไหลทุกรอบ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 02-01-2017 16:29:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-01-2017 20:38:21
ตามมาจาก ผมคือ..นางเอก ค่ะ แต่เรื้องนั้นยังอ่านไม่จบเลย :hao7: เดี๋ยวอ่านเรื่องนั้นจบจะมาอ่านเรื่องนี้ต่อ ฮือ คงม่าไม่มากหรอกใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-10-2017 15:58:00
 :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: NOOKNIK21 ที่ 25-08-2018 12:24:28
อ่านกี่ครั้งก็ยังประทับใจเสมอ  :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 28-11-2018 09:01:42
 :L2:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 29-11-2018 14:01:38
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 12-01-2019 20:31:25
 :pig4:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: Fufufeel ที่ 17-03-2019 20:16:36
 :o12:อ่านกี่รอก็สงสารนายเอก :katai1:
หัวข้อ: Re: สุดปลายทางของ...หัวใจ(นายเอกป่วย) จบบริบูรณ์ (P.14) 27/8/14
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 11-09-2021 10:47:34
 :-[