Lesson 111
( Special Part )
“ยายซักผ้าเสร็จหรือยัง”
“อีกนิดนึงตา....ตาลงมานี่หน่อยสิ เสื้อมันลอยไปในน้ำน่ะ”
“ไหนๆ อ๋อ เดี๋ยวฉันลงไปเก็บให้” ชายชราอายุราวๆห้าสิบกว่าถอดเสื้อและโดดลงไปในแม่น้ำเพื่อเก็บเสื้อที่ภรรยาของตนทำหล่นลงไป
“ยาย ทำไมเหมือนมีอะไรอยู่ในเสื้อด้วยล่ะ” ชายชราตะโกนบอกภรรยาของตน ภรรยาก็พยายามเพ่งมองแต่มองยังไงก็ไม่เห็นเพราะสายตานั้นเริ่มพร่ามัวไปบ้างแล้ว
“เฮ้ย คนนี่หว่ายาย ตายห่าแล้ว” ตาตะโกนบอกยายด้วยความตกใจและลากคนที่ลอยตามน้ำมาเข้าฝั่ง และเมื่อตาสังเกตดีๆก็พบว่า ไม่ใช่มีแค่คนเดียวแต่มีถึงสองคนแถมทั้งคู่ยังจับมือกันแน่น
“ยังเด็กอยู่เล้ย...น่าสงสารเชียวเนอะตา” ยายบอกตาเสียงสลดเพราะคิดว่าเด็กหนุ่มทั้งสองนั้นจบชีวิตไปแล้ว
“แค่กๆๆๆ” เสียงของชายรูปร่างล่ำสันไอขึ้น สร้างความโล่งใจให้กับคู่สามีภรรยาที่ช่วยไว้ได้อย่างมาก
“ยังไม่ตายนี่ยาย ยายไปเอาเสื้อผ้าฉันแล้วก็น้ำอุ่นมาทีนะ ไอ้หนุ่มมันจะได้อุ่นขึ้น” ตาสั่งยายจบ ยายก็ไปเอาสิ่งของทั้งหมดอย่างว่องไว ตอนนี้จึงเหลือแค่ตา คนที่พึ่งตื่น และคนที่ยังหมดสติอยู่
“ไอ้หนุ่มเอ้ย เป็นไงมาไงล่ะ ถึงได้ลอยมากับน้ำได้น่ะ” ตาเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะคาดว่าน่าจะตกน้ำหรือเกิดอะไรขึ้นสักอย่างทั้งสองคนจึงได้ลอยมากับกระแสน้ำแบบนี้
“เรียกผมป๊อปก็ได้ครับ...ขอบคุณที่ช่วยเหลือไว้นะครับ” ป๊อปยกมือไหว้ขอบคุณ แล้วก็เริ่มมองหาใครอีกคนที่ลอยมาตามน้ำด้วยกันแต่เมื่อหันไปข้างๆก็พบกับอีกร่างหนึ่งที่ยังไม่ได้สติ
“พรหม พรหม พรหม” ป๊อปพยายามเขย่าตัวพรหมหวังจะให้คืนสติฟื้นคืนมาอย่างเร็วที่สุดเพราะพรหมค่อนข้างจะอ่อนแอ ข้อนี้ป๊อปรู้ดี
“เพื่อนหรอ...แล้วเป็นไงมาไงกันล่ะ” ตาถามซ้ำอีกรอบ
“ไม่ใช่เพื่อนหรอกครับ เมียผม!!!” เมื่อป๊อปบอกตาบรรยากาศความเงียบก็เข้ามาแทนที่ ตากำลังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินแต่ก็ไม่ได้นึกรังเกียจเพราะเข้าใจว่าเรื่องความรักมันไม่ได้เข้าใครออกใคร
“พรหม” เมื่อพยายามเรียกเท่าไรก็ไม่ยอมคืนสติป๊อปจึงตัดสินใจผายปอดให้พรหมและแล้วพรหมก็สำลักน้ำออกมาและเริ่มฟื้นคืนสติขึ้นมา
“แค่กๆ แฮ่กๆ” เสียงไอและหอบเหนื่อยดังมาจากร่างของพรหมเป็นระยะๆ ซึ่งสร้างความยินดีให้กับป๊อปอย่างมากที่พรหมไม่เป็นอะไร แต่มันก็ไม่ได้ช่วยลบความโกรธที่พรหมคิดกระทำไว้เลย
“ปะ....ป๊อป....แฮ่กๆ....” พรหมตกใจนิดหน่อยที่เห็นป๊อปจ้องหน้าของตัวเองเขม็ง
“ทำไมถึงทำแบบนี้” ป๊อปถามพรหมเสียงเรียบแต่แฝงไปด้วยอารมณ์ร้อนรุ่มมากมายมหาศาลที่พร้อมจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
“ทำอะไร” ผู้ถูกถามพยายามเบี่ยงเรื่องทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ ซึ่งความโมโหของป๊อปกำลังถึงขีดสุดเมื่อเห็นว่าคนที่ตนถามทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“ทำอะไรทำไมไม่คิด...คิดหรอว่าทำแบบนี้แล้วทุกอย่างมันจะจบน่ะ ฮ๊ะ!!!!” ร่างหนาตะคอกใส่ร่างบางอย่างเกรี้ยวกราดด้วยพื้นฐานที่เป็นคนอารมณ์ร้อนและใจเย็นไม่เป็นกับคนที่ตนรักอยู่แล้ว
“จบสิ...มันจะจบ ถ้านายไม่เข้ามายุ่งแล้วโดดน้ำตามเรามา ทุกอย่างมันก็จะจบ ทำไมนายไม่ฟังที่เราพูดบ้าง เราไม่อยากเป็นตัวที่ฉุดรั้งนายไว้ให้ตกต่ำตามเรามา เราหวังจะให้นายเป็นคนที่สมบูรณ์แบบและมีครอบครัว....”
“เพี๊ยะ!!!!” ร่างบางยังพูดไม่ทันจบฝ่ามือหนักๆจากร่างหนาก็ประทะเข้ากับหน้าของร่างบางอย่างแรงจนหน้าหัน คนถูกตบรู้สึกได้ถึงรสเลือดฝาดๆที่ไหลอยู่ภายในปนกับน้ำลายของตนเอง แต่ในจังหวะเดียวกันร่างบางก็ถูกรวบไว้ในอ้อมกอดที่แข็งแกร่งของใครอีกคน
“ทำไมต้องพูดแบบนี้อยู่เรื่อยเลยทำไม!!!!!” ป๊อปพูดอย่างเหลืออด แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ...มีแต่เสียงสะอื้นที่ค่อยๆดังขึ้นเรื่อยของป๊อป
“ที่ผ่านมาไม่เคยมีความหมายเลยใช่ไหม...จ้องแต่จะทิ้งกัน...ทำไมล่ะ ไหนว่าจะอยู่ด้วยกัน คอยให้กำลังใจในตอนที่กูต้องการ...แต่นี่อะไรมึงจะทิ้งกูเพราะอุปสรรคเรื่องแค่นี้น่ะหรอ กูบอกมึงให้ มึงมีค่ามากกว่าเงินร้อยล้านพันล้านที่พ่อแม่กูมีอีก กูยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อมึง แต่มึงกลับจะหนีกูไปง่ายๆแบบเนี่ยอ่ะหรอฮ๊ะ!!!!!” ร่างกายที่แข็งแกร่งสั่นสะท้านเพราะคิดเสียใจกับคนรักที่คิดทอดทิ้งเค้าไว้
“ขอโทษ...เราขอโทษ” พรหมได้แต่ร้องไห้พร้ำเพ้อขอโทษป๊อปอยู่เรื่อย เมื่อคิดถึงสิ่งที่ป๊อปพูดกับสิ่งที่ตนเองทำ...ตัวเค้านั้นช่างเห็นแกตัวจริงๆ
“ไม่เป็นไร ไมเป็นไร มันผ่านมาแล้วแต่สัญญากับกูได้ไหม ว่ามันจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีก”
“สัญญา สัญญาจริงๆ เป็นตายร้ายดียังไงเราจะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้ว” พรหมพูดทั้งน้ำตาพร้อมกับเข้ากอดคนตรงหน้าไว้แน่นเหมือนกับว่ากลัวคนตรงหน้าจะหายไป
“ต่อให้เหลือแต่ตัวกูคนนี้ก็จะขอดูแลมึงให้ดีที่สุด จำเอาไว้” เมื่อได้ฟังคำของป๊อปพรหมก็กอดป๊อปไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม เพราะมันเป็นคำเล็กๆแต่ซาบซึ้งไปถึงส่วนลึกของหัวใจมันทำให้พรหมคิดได้ว่า...อย่างน้อยก็ยังมีคนต้องการเรา
“ไอ้หนุ่มเอ้ย ไว้คุยกันต่อทีหลังดีกว่านะ ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไปแล้วเดี๋ยวมากินข้าวกัน เดี๋ยวตาจะบอกให้ยายทำไว้ให้” หลังจากที่ชายชรายืนมองการแสดงความรักของผู้ชายสองคนนี้อยู่นาน ก็มองออกทันทีว่าสองคนนี้รักกันมากเพียงแต่ว่าฝ่ายนึงต้องการจะให้อีกฝ่ายนึงได้ดีมีอนาคตจึงเลือกที่จะทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมเหมือนกัน ซึ่งมันทำให้ชายชราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ‘รักแท้มีจริงบนโลก’
“ขอบคุณนะครับตา” ทั้งสองกล่าวขอบคุณคุณตาอีกครั้ง
“ยายเอ้ย ยายไปทำกับข้าวให้ทีเร็ว” ตาตะโกนขึ้นไปบนบ้านไม้ที่สภาพดูมีอายุพอสมควรน่าจะยี่สิบปีขึ้น
“จ้า...แล้วไอ้สองหนุ่มนั่นฟื้นดีแล้วรึ” ยายตะโกนถามตากลับมา
“ฟื้นดีแล้วแหละ ยายเอาผ้ามาให้สองคนนั้นก่อนแล้วเดี๋ยวไปทำกับข้าวด้วย”
“เสื้อผ้ายายเอาไปไว้ที่หน้าห้องน้ำแล้ว ตาพาพ่อหนุ่มสองคนนั้นไปเลยละกันเดี๋ยวฉันไปทำกับข้าวมาให้” พรหมเหมือนจะงงๆเพราะว่าการพูดคุยกันของตากับยายนั้นไม่ได้คุยกันแบบเห็นหน้าเพราะตะโกนคุยกันด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง
“มาๆ เดี๋ยวตาพาไป” ชายชรานำทางให้กับทั้งสองคนไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะได้ไปกินข้าวกินปลากัน
“รีบอาบเข้าล่ะ เดี๋ยวจะปอดบวมตายซะก่อน” ตาบอก ทั้งสองคนก็พยักหน้ารับแล้วก็เกี่ยงกันว่าจะให้ใครอาบก่อน
“ป๊อปนั้นแหละไปอาบก่อนเรารอได้ แปปเดียวเอง”
“พรหมนั้นแหละไปอาบก่อนยิ่งไม่ค่อยแข็งแรงอยู่ด้วย เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมามันจะทรมานรู้ไหม” ทั้งสองคนเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใครเพราะต่างฝ่ายต่างก็เป็นห่วงซึ่งกันและกันจนคุณตาทนไม่ไหวต้องช่วยเป็นผู้ตัดสิน
“โอ้ย ถ้ามันยากลำบากมากนักก็อาบไปพร้อมกันนั้นแหละ” ไม่พูดเปล่าแต่ตาผลักทั้งสองคนเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูทันที ซึ่งเรียกเลือดที่หน้าของพรหมได้เป็นอย่างดีแต่ทั้งคุ่ก็ยอมรับข้อเสนอแนะแกมบังคับของลุง ซึ่งดูเหมือนพรหมจะเขินป๊อปมากในขณะที่ป๊อปมองพรหมด้วยสายตาเจ้าเล่ห์เหลือทน
“เสร็จสักที ไปกินข้าวกัน” เมื่อร่างของสองหนุ่มออกมาจากห้องน้ำตาก็ชักชวนทั้งสองไปกินข้าวทันที เมื่อมาถึงทั้งสองคนก็ได้พบกับยายซึ่งดูอายุยังไม่มากเพราะยังค่อนข้างสวยผิวก็ตึงแถมยังหน้าตาใจดีอีกต่างหาก
“มากันแล้ว นี่ๆยายทำกับข้าวเต็มเลยมากินเลยละกันนะ” ทั้งสองตอบรับและนั่งร่วมกินข้าวกับตายาย ซึ่งการกินข้าวมื้อนี้ตายายก็ถามถึงเหตุผลที่ทั้งสองคนลอยมากับน้ำ ชายทั้งสองก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้กับตายายฟัง ซึ่งพอเล่าจบตายายก็เล่าเหตุการณ์ต่างๆในเรื่องของรักของตนบ้าง กว่าจะรักกันได้ต้องพากันหนีตะลอนๆไปเรื่อยจนพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายยอมเลิกลาไปเองซึ่งเมื่อชายหนุ่มทั้งสองฟังเรื่องราวของตายายก็ถึงกับน้ำตาไหลเพราะมันค่อนข้างคล้ายกับชีวิตของทั้งคู่เหลือเกิน