Lesson 53
( Prom Part )
ผมรีบเดินหนีพรหมเข้ามาในห้องก่อนที่ผมจะร้องไห้ต่อหน้าอัท ผมไม่อยากแสดงความอ่อนแอของตัวเองต่อหน้าอัท ผมรู้สึกสะเทือนใจมากที่อัทคบกับวิน บอกตรงๆผมตั้งตัวไม่ทัน และยังทำใจไม่ได้ แต่ยังไงผมก็ต้องยอมรับมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ผมต้องเคารพการตัดสินใจของอัท
“ขอให้รักกันนานๆนะอัท” ผมพูดมองไปที่ผนังห้องสีขาวโพนซึ่งหากว่าทะลุผ่านผนังไปจะเป็นห้องของอัท ผมนั่งนิ่งๆสักพักนึงก็ลุกไปอาบน้ำเผื่อความเย็นของสายน้ำจะช่วยให้อะไรๆมันดีขึ้นมาบ้าง ผมอาบน้ำอยู่พักใหญ่ก็ออกมาจากห้องน้ำเพราะผมแช่จนตัวเปื่อยไปหมดแล้ว ผมแต่งตัวอย่างรวดเร็วหยิบกุญแจรถแล้วออกจากคอนโดมุ่งหน้าไปที่เซเว่นแถวนั้น พอถึงผมก็หยิบเบียร์ไม่ยั้ง หยิบจนเต็มตะกร้าแล้วก็มีเสียงดังขึ้น
“กินขนาดนี้เดี๋ยวก็ตายหรอก” เมื่อผมหันไปตามเสียงก็เจอกับเพื่อนวินนั่นเอง รู้สึกจะชื่อป๊อปหรือเปล่าไม่แน่ใจ
“…” ผมไม่ตอบแต่เดินเลี่ยงเพื่อไปจ่ายเงิน
“นี่...พูดไม่ได้ยินหรอ” มันฉุดมือผมไว้ ผมจึงค่อยๆหันไปมอง
“เราจะกินนายจะทำไม” ผมพูดบอกมัน
“อกหักละสิ ใช่ไหมล่ะ” มันยิ้มเยาะเย้ยผม
“มันไม่ใช่เรื่องของนาย” ผมพูดเสียงแข็งแล้วกระชากมือกลับแล้วเดินไปจ่ายเงิน
“เอ่อ...คุณคะทางเราไม่สามารถขายสุราให้กับลูกค้าได้เกิน 12 ขวดต่อหนึ่งท่านนะคะ” พนักงานบอกผม
“ทำไมล่ะครับ” ผมถามกลับ
“มันเป็นนโยบายของเซเว่นน่ะค่ะพึ่งออกกฎมาเมื่อไม่นานนี้เอง ขอโทษจริงๆนะคะ” พนักงานทำหน้าลำบากใจ ผมลองนับในตะกร้าของผมมีทั้งหมด 24 ขวด
“แล้วถ้าเป็นสองคนล่ะครับ” มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังผม
“นาย!!!!” ผมหันกลับไปก็เจอกับคนเดิมนั่นแหละที่เดินตามผมมา
“ไม่มีปัญหาค่ะ” พนักงานตอบกลับมา
“งั้นก็คิดเงินเลยครับ” พูดจบมันก็ยิ้มให้ผม
“ช่วยได้แค่นี้แหละนะ” พูดจบมันก็เดินออกไปจากเซเว่น
“ทั้งหมด 960 บาทค่ะ” ผมยื่นเงินให้กับพนักงานแล้วเดินหิ้วเบียร์ออกจากเซเว่นทันทีโดยไม่ได้สนใจเงินทอนเลยสักนิด ผมรีบขับรถกลับมาที่คอนโดอย่างเร็วแล้วมุ่งหน้าขึ้นห้องผมทันที พอถึงห้องผมก็รินเบียร์ดื่มทันที ผมดื่มไปเรื่อยๆเหมือนเทน้ำทิ้ง แล้วอยู่ๆก็รู้สึกมึนและทุกอย่างก็มืดลง
“~โปรดส่งใครมารัก ฉันทีอยู่อย่างนี้มันเหงาเกินไป~” เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงที่ปลุกผมจากการหลับใหล
“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์
“พรหมมึงอยู่ไหน” เสียงในสายถามผมมา
“ใครครับเนี่ย” ผมถามกลับไปเพราะรับไม่ได้ดูเบอร์เลย
“เราเคียวเอง” เมื่อได้ยินชื่อผมก็อ๋อทันที
“อ๋อ เคียวว่าไง”
“มึงอยู่ไหน”
“อยู่ที่คอนโดเนี่ยแหละ” ผมบอกมันกลับไป มองไปที่นาฬิกาติดผนังก็ตกใจนี่มันเที่ยงแล้วนี่หว่า
“ไม่เที่ยวไหนหรอวะ” มันถามผม
“เออ คงไม่ว่ะมึนหัวนิดหน่อย” ผมบอกมันตามอาการที่เป็นอยู่ จี๊ดมากครับตอนนี้
“เฮ้ยๆ เป็นอะไรมากหรือเปล่า” เคียวถามผมเสียงตกใจ
“อือ ไม่เป็นไรมากหรอก” ผมบอกกลับไป
“เดี๋ยวกูไปหามึงที่คอนโดละกัน เอาที่อยู่มาสิ”
“เฮ้ยๆ ไม่เป็นไรไม่ต้องขนาดนั้น” ผมบอกมัน
“เออน่า บอกมาเร็ว” ผมเลยต้องยอมบอกที่อยู่คอนโดและเลขห้องไป
“เดี๋ยวอีก 20 นาทีเจอกัน” พูดจบเคียวก็วางสายไป แต่ผมสิมึนหัวมากเลยไปนอนต่อบนเตียง แล้วผมก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกเมื่อได้ยินเสียงคนกดออดหน้าห้องผมเลยฝืนตวองลุกไปเปิดประตู
“เฮ้ย พรหมเป็นไงบ้างวะ” เคียงเดินเข้ามาประคองผมในห้องเพราะผมจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่อยู่แล้ว
“โห อะไรวะเนี่ย มึงแดกเหี้ยอะไรขนาดนี้” เคียวดูตกใจมากเมื่อมองไปที่พื้นห้องแล้วเจอกับกองขวดเบียร์กลิ้งเกะกะ
“…” ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะว่ามึนหัวมากๆไม่อยากพูดอะไร
“มึงกินเบียร์ตั้งแต่เมื่อไร” เคียวประคองผมมานั่งที่โซฟาแล้วถามผม
“เมื่อคืน” ผมตอบมันนิ่งๆ
“เป็นไงมาไงวะ ถึงได้แดกสะขนาดนี้” เคียวถามผมแต่มือก็เก็บกวาดขวดไปด้วย
“ไม่มีอะไรหรอก...เคียวไม่ต้องเก็บหรอกเดี๋ยวเราเก็บเอง” ผมบอกเคียว
“มึงนั่งเฉยๆเถอะ ทำไมแค่นี้กูจะทำให้มึงไม่ได้” เคียวพูดแต่มือก็ทำความสะอาดต่อไป
“ขอบใจละกันนะ” ผมบอกมัน
“เออไม่เป็นไร จิ๊บจ๊อยน่า” เคียวพูดแล้วยิ้มมาให้ผม
“เราขอไปนอนก่อนละกันนะ” ผมเริ่มรู้สึกไม่ไหวเลยขอมันไปนอนก่อน
“เออ แล้วนี่แต่เช้ามึงแดกอะไรหรือยัง” มันถามผม
“ยังเลย” ผมบอกมัน
“เออ ไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวกูไปหามาให้กิน”
“อือ” ผมเดินเข้ามาในห้องแล้วล้มตัวนอนอย่างหมดแรง
“พรหม พรหม มึงตื่นได้แล้ว” มีเสียงหนึ่งเรียกผมพอลืมตาก็พบ เคียวกำลังเขย่าตัวผมอยู่
“อือๆ ตื่นแล้ว” ผมตอบมันเสียงงัวเงีย
“อ่ะนี่กินข้าวก่อน” เคียวเอาจานข้าวมาให้ผมเป็นข้าวผัดไข่
“ขอบใจนะ” ผมบอกมัน
“เออไม่เป็นไร เพื่อนกันก็ต้องช่วยกันดิวะ” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีกแต่นั่งกินข้าวจนหมดเพราะหิวมากตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย เคียวบังคับผมกินยาตามหลังกินข้าว เคียวนั่งคุยกับผมสักพักก็ขอตัวกลับไป
“ไว้วันหลังจะมาใหม่นะเว้ย” เคียวบอกลาผมหน้าห้อง
“อือได้สิ…ขอบใจสำหรับวันนี้” แล้วก็เดินจากไปอย่าง เคียวเป็นเพื่อนที่ดีคนนึงตั้งแต่มัธยมปลายแล้วแต่เรามาห่างกันตอนช่วงเรียนมหาลัยถึงจะอยู่มหาลัยเดียวกันแต่ก็คนละคณะ แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องขอบคุณเคียวมากๆเพราะเคียวคอยดูแลผมตลอดทั้งวันเลย