มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 712004 ครั้ง)

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
อุว๊ากกกก ไม่ได้เข้ามานานมว๊ากกก
มาอ่านต่อ อุ๊ย เขินไปกับคุณเล็ก เลย
คุณเล็กนี่เป็นนายเอกในดววงใจผมแล้ว น่ารักมาก ๆ

รักคุณดอกไม้หลาย ๆ ฮับ

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
กรี๊ดดดดดด ร้องไห้ๆ ได้อ่านเเล้วตอนที่10 ขอบคุณมากค่ะ

จ้อยจะโดนสิงห์ทำไรอะ สงสารอะ ลอยมันก็เลวจริงๆ ออกมานิดเดียวแต่เห็นความช่ัวมาเเต่ไกล

ตอนนี้อาจารย์กะคุณชายหวานปนน่ารักงุงิ คุณชายแอบฮาไร้เดียงสาจริงๆ

รอวันศุกร์ค่ะ

ออฟไลน์ WinterRose

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ถึงตอนที่ 10 แล้ว
จะได้อ่านตอนที่ 11 แล้ว *น้ำตาไหลพราก*

จะรอคุณดอกไม้นะคะ  :กอด1: :กอด1:

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
ลอยอีกแล้วจ้า มาได้จังหวะตลอดเวลาจริง  :z3:
คราวนี้จะคิดแผนร้ายอะไรอีกละเนี่ย
แอบสงสารชายเล็กนิดๆ ก็คงต้องรอต่อไปละนะ
จะให้ครูคนึงลืมจินดาไปเลยคงจะไม่ได้
ส่วนพี่สิงห์กับน้องจ้อยนี้สถานการณ์กำลังย่ำแย่ได้ที่เลย

ปล.วัดนี่อยู่ไหนคะ อยากไปเซี่ยมซี่กะเค้าบ้าง

ออฟไลน์ thearboo

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่มSkip...!
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1
    • thearbooเพจจ๊า
อรั๊ยยยยยส์ อะไรกันอาจารย์ บทจะหวานก็.... :-[

ปล.อยากเตะลอย ให้ลอยละลิ่ว
อร๊ากกกก ช่วยเอามันไปทิ้งที!!!
 :z6:

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
พี่สิงห์ชอบSMกะน้องจ้อยอ่ะ                          ปล.เม้นต์ที่บอร์ดนู้นไปแล้ว

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ถามเนื้อคู่ อยู่มิไกล

เนื้อคู่เป็นม่ายยยยยยย


อ๊ายยยยยยๆๆ

คู่นี้น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
5555

มาต่อเสียที

ชื่นใจที่ได้อ่าน

ว่าแต่ติอะไรหน่อยสิ

ตอนหลังๆมา  หนูชักเขียนชมตัวเอก "เพศชาย" ด้วยสำนวนและถ้อยคำ "ชมนาง" ในวรรณคดีเยอะไปหน่อยนะ

เช่น  จ้อยมองบุตรชายท่านทูตมานั่งยองๆ ช่วยเก็บผักแล้วอดอมยิ้มขำไม่ได้  มือขาวราวกระเบื้องเคลือบบัดนี้มอมแมมด้วยเศษดิน  และเมื่อยกขึ้นปาดเหงื่อก็ทิ้งคราบไว้บนแก้มเนียนใส  มอมแมมไม่ต่างอะไรกับลูกตาสีตาสาอย่างเขา

มันได้อารมณ์เหมือนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น-ตาโตอย่างไรไม่รู้  มือขาวราวกระเบี้องเอย  แก้มเนียนใสเอย

มันไม่ได้อารมณ์อ่านนิยาย 'ชายรักชาย' เลย 

มันเหมือนอ่านนิยายทั่วไป  แค่เปลี่ยน "เครื่องเพศ" ของตัวเอกเป็น'องคชาต'เท่านั้น  นอกนั้นชะนีชัดๆ

ความสามารถระดับหนูแล้วนี่  น่าจะหาคำมา "ชมชาย" ให้สมชายได้นะ

นายเอกมันอ้อนแอ้นเกินชายไปหน่อยนะ  ดูเพ้อๆ ไงไม่รุ้  ถึงจะบอกว่ามีเชื้อฝรั่งก็เถอะ

อารมณ์ของ จ้อย  ก็อย่าให้สาวมากนัก  พยายามคุมธีมหน่อย  เหมือนบางทีก็หลุด อารมณ์หญิง มากไปหน่อย

อย่าลืมว่า ฝ่ายรับ ต่อให้สาวมากกกกกกกกกกกกขนาดไหน  อย่างไรเสียก็เป็นชาย  ย่อมมีความคิดและอารมณ์แบบชายอยู่

ผู้ชายมักใช้เหตุผลเข้ามาตัดสินมากกว่าปล่อยให้อารมณ์พาไป

เราใช้สมองคนละซีกกัน  อย่าลืมจุดนี้ด้วย  (ทำได้ดีในส่วนของอาจารย์คนึง)

ปล. **  มาจาก ศกุนตลา จริงๆ ด้วยนั้นแหละ

ปลล.  ชอบนะที่ยายจ้อยชมจ้อยว่า "สวย"  นานแล้วไม่ค่อยได้ยินคนชมผู้ชายว่า..."สวยเหมือนรูปหล่อ"  คำโบราณแท้ๆ  อิอิ

ออฟไลน์ mamichan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 o13  คุณชายของอิช้านนนนน  ไมถึงได้น่ารักขนาดนี้เนี่ยยยยย  ครูก็อย่าให้ลูกศิษย์รอนานเกินไปนะคะ  เห็นแล้วปวดจายยยย :sad4:

ส่วนอีกคู่..... :m16: พี่สิงห์ของอิช้านนนน  ไหงทำตัวแบบเดิมอีกแล้วล่ะค๊าาาาาา

น้องจ้อยโกรธแล้วนะแบบนี้  ไปพูดเพราะ ๆ หวาน ๆ ขอโทษน้องจ้อยเลยนะ ไม่งั้น เจ๊ไม่ยกโทษให้นะ o18

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย
น่ารักอ่ะรอก็รอเนอะ><
มันจะยอดมากถ้าไม่มีไอ้ลอยโผล่มาตอนท้าย :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
หวานกันมดยังอายเลย

แต่ตอนจบไอ้ลอยโผล่มา

เรื่องวุ่นๆ มาตามอีกกระบุงโกยแน่เลย

สงสารเลอมาน และน้องจ้อยโตย T^T

caramel toffee

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาเชียร์ที่บอร์ดนี้ค่ะ^^ ดีใจที่ได้อ่านต่อแล้ว
ตอนนี้ทำเอากลิ้งไปหลายตลบด้วยความเขินแทนคุณชาย
แต่แอบกลัวใจนายลอย ขออย่าเกิดเรื่องร้ายแรงมากเลยน๊า :sad4:

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
คือเรื่องนี้สุดๆ จริงๆ ครับ
ไม่รู้จะอธิบายยังไงนอกจาก "สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด"
ตามอ่านแน่นอนครับ คุณคนแต่ง ผมขอสมัครเป็นแฟนคลับครับ
แต่งแล้วไม่มีสะกดผิดเลย ตัวละครก็ดูจับต้องได้
ผมชอบทั้งสองคู่เลยครับ คิดแล้วสงสารสิงห์มาก

สุดท้าย ขอนิดนึงเหอะ
ลอย... มึงมันเหี้ยมาก

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๑๑

ดอกไม้ยังปั่นไม่เสร็จ

แต่วันนี้เป็นวันเกิดเพื่อนของดอกไม้

ดอกไม้ต้องไปลั้ลลา  :m17:

จึงขอแจ้งล่วงหน้า ว่าขออัพช้าไปหนึ่งวันนะคะ

ต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ไปล่ะเน้อ



(อ่า..เปรี้ยวปาก..)


ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ขอบคุณมากเลยที่มาบอกค่ะ รอได้เสมอ


tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อ่า รอได้นานเเค่ไหนก็รอ
คิดถึงพี่สิงห์กับจ้อย

wdaisuw

  • บุคคลทั่วไป
รออย่างใจจดใจจ่อค่ะ
 :3123:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ตอนนี้หวานจังครับ  แต่ก็ยังเจือเศร้า  อยากให้ทุกคนสมหวัง

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
โห วันเดียวเอง แค่นี้รอได้สบายมากค่ะ  :really2:

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






silent_loner

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ mamichan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
 o22 แวะมาดัน  กลัวคนแต่งไม่เห็นกระทู้ อิอิ

ออฟไลน์ MIkz_hotaru

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-4
วันที่ 11 แล้วค่ะ
แอ๊ก  :z6: โดนคนเขียนเตะ
ฮ่าๆๆๆ

พรุ่งนี้เอง รอได้งับ
รอคุณชายของเค้า  :-[
(อาจารย์จะเตะเค้าอีกคนมั้ยง่ะ)

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
วันนี้แล้ว ซินะ จะได้รู้ว่าจ้อยจะเป็นไงบ้าง

อย่าดราม่า มากได้ไหมจ๊ะ ช้วงนี้หัวใจอ่อนแอ

ขอหวานๆ แบบชุ่มชื่นหัวใจแทนได้ไหมนะ

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1

บทที่ ๑๑

เพชฌฆาตใจ


น้องเอ๋ย.. ใครเขาเคยเหมือนพี่บ้างไหม
ช้ำ ช้ำเท่าไร พี่เป็นแผลใจ ใครจะเห็น
เจ็บอย่างนี้เจ้ายังทรมาน หรือเป็นพรานล่าใจ ผลาญหัวใจใครเล่น
หรือเจ้าเป็นเพชฌฆาตที่เชี่ยวชาญ

โปรดฆ่าพี่เสีย  อย่าอ้างเอ่ยความสงสาร
จงประหารถ้าแม้ว่าเจ้าไม่รัก*




   
จ้อยจินตนาการถึงลานประหารของตัวเองเอาไว้หลายแบบ  ในป่าช้าเงียบสงัด  ท้ายหมู่เจดีย์เรียงราย  หรือไกลออกไปหน่อยก็ที่ริมคลองสระบัว 
   
แต่ที่เห็นอยู่นี่.. ออกจะเป็นอะไรที่.. เกินความคาดหมาย!

หลังจากสิงห์ฉุดกระชากเขาออกมา  มันก็ออกปากไล่พวกลูกน้องให้ไสหัวไปไกลๆ  จนเหลือแค่เขากับมันสองคน  จ้อยยิ่งกลัวจนตัวสั่น  แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งประหลาดใจ  คล้อยหลังพวกลูกน้อง  มือหยาบใหญ่นั้นก็เบาแรงลง  จนเกือบจะเรียกได้ว่า.. นุ่มนวล 
   
แทนที่จะยิ่งเดินยิ่งมืดยิ่งเปลี่ยว  ไอ้อันธพาลกลับเดินจูงมือเขาเข้าหาแสงสว่าง  เข้าหาผู้คนเรื่อยๆ  จนมาหยุดอยู่ที่..

ชิงช้าสวรรค์สูงตระหง่าน!

“สองใบ” เสียงห้าวบอกคนขายตั๋วห้วนๆ  จ้อยยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก  เมื่อมือใหญ่ผลักเขาให้เข้าไปในกระเช้าสีสดจนแทบกลิ้งหลุนๆ  แล้วร่างใหญ่โตเป็นยักษ์ปักหลั่นก็ยัดตัวเองตามเข้ามา  กระเช้าที่แคบอยู่แล้วยิ่งดูเล็กไปทันตา   

จ้อยนั่งตัวลีบติดลูกกรงอีกฝั่ง  เหงื่อเม็ดเล็กๆ เกาะพราวเต็มหน้าผาก  คิดไปต่างๆ นานา
   
หรือมันจะรอให้กระเช้าขึ้นสู่จุดที่สูงที่สุด  แล้วค่อยเปิดประตูผลักเขาลงไป!

“เมื่อไรจะหมุนวะเฮ้ย!” นักเลงโตตะคอกถามไอ้หนุ่มขายตั๋ว 

“รอคนเต็มก่อนพี่” ร่างผอมแห้งตอบเกรงๆ 
   
“ไม่รงไม่รอแม่งแล้วโว้ย!  กูสั่งให้หมุนเดี๋ยวนี้!” มือใหญ่ล้วงแถวเอว  จ้อยสะดุ้งเฮือกหลับตาปี๋  ใจเต้นรัวรอฟังเสียงปืน  หากพอลืมตาขึ้น  กลับเห็นไอ้สิงห์ควักแบงค์ออกมาสี่ห้าใบยัดใส่มือผอมแห้ง 
   
“จ้ะๆ” คนเห็นเงินก็ตาลุกวาวรีบส่งสัญญาณมือให้เดินเครื่องชิงช้าทันที 

   
ชิงช้าสวรรค์เริ่มหมุน  กระเช้าน้อยค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นสูง  พื้นดินห่างไกลออกไปทุกที  สิงห์มองคนตัวเล็กที่นั่งหน้าซีดเบียดชิดลูกกรงแต่ลูกตาแวววาวราวลูกแมวขี้ระแวงแล้วอดขำไม่ได้  นี่ไอ้จ้อยมันนึกว่าเขาจะฆ่ามันตายคากระเช้าหรือไง
   
เห็นน้องลูบข้อมือตัวเองป้อยๆ 
   
“เจ็บหรือเปล่า” เสียงห้าวดูตระหนก  ห่วงใย  ชะโงกหน้าดูความรุนแรงที่ตนก่อไว้ให้ชัดๆ  นักเรียนครูขึงตาใส่  ชักแขนหลบไม่ยอมให้ดูง่ายๆ  จนสิงห์ต้องกัดฟันใช้กำลังบังคับ  ฉุดกระชากแขนเล็กอีกครั้งทั้งที่ไม่อยากเลย   
   
แววตาคมกร้าวดูสลดไปเมื่อเห็นรอยแดงช้ำบนข้อมือที่เล็กจนกำได้รอบ 
   
“เอ็งมันรั้น  ยอมมาดีๆ ซะแต่แรกก็คงไม่เจ็บตัว”  มือที่เมื่อครู่เพิ่งยิงปืนขึ้นฟ้า  บัดนี้กลับบรรจงลูบบนข้อมือน้อยอย่างอ่อนโยน  ปากที่เมื่อครู่เพิ่งบอกว่าจะให้ลูกน้องไปกระทืบคนแก่  ตอนนี้กำลังเป่าแผ่วๆ ใส่รอยแดงช้ำ 
   
อยู่ต่อหน้าลูกน้องเขาต้องทำตัวให้โหดเหี้ยมเข้าไว้  จะได้เป็นที่เคารพยำเกรงของพวกนั้น  ปืนที่มีก็แค่พกเหน็บเอวไว้ตามคำแนะนำของไอ้ลอย  แต่ตั้งแต่ซื้อมา ไม่เคยสักครั้งที่ปืนกระบอกนี้จะหันปากใส่ใคร  แม้แต่หมาหรือนกสักตัวก็ไม่เคย  ส่วนใหญ่หน้าที่ของมันคือเอาไว้ซ้อมมือกับกระป๋องนมบ้าง ลูกมะม่วงบ้าง  หรืออย่างเก่งก็แค่ยิงขู่ขึ้นฟ้าเช่นเมื่อกี้นี้   
   
หมาแมวสักตัวยังไม่เคยเตะ  นับประสาอะไรกับคนแก่  ที่พูดไปก็เพื่อจะขู่ไอ้จ้อยเท่านั้นละ 
   
ใครๆก็รู้กันทั้งบางว่าหลานยายช้อยถึงจะพยศอย่างไรก็รักยายยิ่งกว่าชีวิต  ต่อให้ตีให้ตายมันก็คงสู้ขาดใจ  แต่หากเปลี่ยนเป็นเอาความปลอดภัยของยายมาขู่  ม้าพยศก็เชื่องลงทันตา     

“พามานี่ทำไม” จ้อยถามเสียงห้วน  ในแววตายังไม่คลายความหวาดระแวง 
   
ดวงตาสีเข้มจ้องมองนิ่ง  เสียงหยาบกระด้างดูอ่อนโยนลงยามเอ่ย  “ตอนเด็กๆ เอ็งอยากขึ้นนักไม่ใช่เรอะ  ไอ้ชิงช้าสวรรค์เนี่ย” 

จ้อยนิ่งงัน  ความทรงจำไหลบ่าราวน้ำเชี่ยว
   
ยังจำได้  ในงานบุญประจำปี  เขาเคยแหงนมองชิงช้าสวรรค์สูงลิบจนคอตั้งบ่า  ปรารถนาจะขึ้นให้ได้สักครั้ง  อยากรู้นักว่าเมื่ออยู่บนกระเช้า  เขาจะเอื้อมมือถึงดาวถึงพระจันทร์ได้ไหม 
   
เด็กชายตัวโตคนหนึ่งแผลงฤทธิ์กับแม่หน้าชิงช้าสวรรค์

[..“หนูจะให้จ้อยขึ้นด้วย!  หนูจะให้จ้อยขึ้นด้วย!”..
   
“อย่าดื้อนะตาสิงห์!” คุณนายพูนทรัพย์ดุลูกชายคนกลาง  ข้างๆ เจ้าแม่เงินกู้คือลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็ก  ดช.เสมและดญ.แสงดาวมองพี่น้องตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
   
“ถ้าอยากขึ้นก็ให้มันไปขอเงินยายมันมา  รอบละตั้งบาท  แม่ไม่ออกเงินให้หรอกนะ!”
   
“หนูมีอยู่สลึงนึง  ที่เหลือแม่ออกให้ก่อนสิ!”
   
“บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้สิ เอ๊ะลูกคนนี้นี่!” คุณนายดุลูกแล้วก็หันมาด่าจ้อย “นี่ก็อีกคน  หน้าไม่อาย  มาเดินตามเขาต้อยๆ  ทำตัวเป็นขอทานไปได้!” นิ้วชี้อวบขาวทาเล็บแดงจิ้มหน้าผากจ้อยจนหงาย
   
“ไปขอเงินแม่แกสิไป๊  อีกำไลมันหาผัวเก่งนักนี่  ถ้ามันหาเงินเก่งได้ซักครึ่งที่มันหาผัว  แกคงไม่ต้องมาเที่ยวเกาะลูกฉันแบบนี้หรอก!”
   
“พี่สิงห์..” จ้อยก้มหน้าน้ำตาคลอ  มือหนึ่งลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ อีกมือกระตุกชายเสื้อพี่ “น้องจ้อยไม่ขึ้นก็ได้  น้องจ้อยไม่อยากขึ้นแล้ว..”

เงินหนึ่งบาท.. พี่จินดาต้องขนกระสอบปุ๋ยกี่เที่ยว  ยายต้องรับจ้างเกี่ยวข้าวกี่งานกว่าจะได้มา  จ้อยไม่มีวันเอาหยาดเหงื่อของพี่กับยายมาแลกกับการที่เขาจะเข้าใกล้ดวงดาวมากขึ้นเป็นอันขาด   

สิงห์กัดฟันแน่น  จ้องแม่ตัวเองตาเขียว  ขณะมือยังจับมือน้องแน่นไม่ยอมปล่อย  เสียงเล็กประกาศลั่น 
   
“ถ้าจ้อยไม่ขึ้นหนูก็ไม่ขึ้น!” แล้วพี่ก็จูงมือน้องออกมาไม่ฟังเสียงแม่ที่ตะโกนเรียกตามหลัง 

“ชิงช้าสวรรค์อะไรกัน  มันก็งั้นๆ ละ  ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน  เนอะจ้อย” พี่หันมาปลอบน้อง  สองมือน้อยยังเกาะเกี่ยวกัน  ตาพี่แวววาว  เป็นประกายยิ่งกว่าดาวสุกใส  จนจ้อยคิดว่า.. บางที.. เขาไม่ต้องไปไขว่คว้าหาดาวที่ไหนก็ได้ 
   
ขอแค่มีพี่.. มีเจ้าของดวงตาคู่นี้อยู่ใกล้ๆ ก็พอ
   
“เดี๋ยวพี่พาไปเล่นชิงช้าดิน  สนุกกว่าชิงช้าสวรรค์ตั้งเยอะ”
   
“ชิงช้าดิน?” จ้อยเอียงคอมองพี่สิงห์ตาแป๋ว 

พี่สิงห์ยักคิ้ว  จูงจ้อยลัดเลาะมาหยุดตรงโคนต้นมะขามใหญ่หน้ากุฏิ  ใต้ต้นมะขาม.. มีชิงช้าเก่าๆ ผูกอยู่  คงมีเด็กวัดสักคนผูกไว้  จ้อยยิ้มกว้าง  วิ่งไปนั่งอย่างลิงโลด  พี่ตามมาไกวให้เบาๆ     
   
“จ้อยอยากไปให้สูงแค่ไหน  พี่จะไกวจ้อยไปให้ถึงฟ้าเลย” พี่เพิ่มแรงขึ้น  ร้องเพลงไปด้วย “ช้าเจ้าหงส์เอย.. ปีกพี่ไม่หัก  ใครเขาไม่ผลักพี่ลง..พี่อยู่ในดงนางแย้ม”
   
จ้อยหัวเราะเอิ้กอ้าก  ลมเย็นๆ ตีหน้าพัดพากลิ่นหอมของดอกไม้มาด้วย  ใบมะขามแก่ร่วงพรูพราย  มือเล็กเอื้อมคว้าดาวเมื่อชิงช้าโยนขึ้นสูง  ก่อนเปลี่ยนใจหันมองพี่  อืม..ดาวในลูกตาพี่สวยกว่าจริงๆ ด้วย 
   
“พี่ขอฝากจมูกของพี่ด้วยเหนอ  จะได้ไปเป็นเกลอกับแก้ม” พี่สิงห์ร้องเจื้อยแจ้วตามประสาเด็ก  ไม่เข้าใจความหมายเพลงเกี้ยวที่หนุ่มๆ สาวๆ เขาร้องกันหรอก 

จ้อยหยุดชิงช้ากึก  เอี้ยวหน้าไปทวงถามพี่ “ถ้าจะฝากก็เอาจมูกมาซี่  เอาจมูกมา”

มือเล็กดึงจมูกพี่หมับ!

“เอาจมูกพี่สิงห์มาเป็นเกลอแก้มน้องจ้อยสิ” ]



..เอาจมูกพี่สิงห์มาเป็นเกลอแก้มน้องจ้อยสิ..

จ้อยหน้าแดงซ่าน  ยกมือเล็กปิดใบหน้าร้อนผะผ่าว  เขาพูดออกไปได้ยังไงนั่น  จะไร้เดียงสาอะไรขนาดนั้น

“นั่นไง  ต้นมะขามที่เราเคยเล่นชิงช้ากัน” เสียงห้าวเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ  ลูกชายกำนันบุ้ยปาก  คนซื่อเหลียวมองตาม  ต้นมะขามใหญ่ยังอยู่แต่ชิงช้าที่เคยโล้เล่นหายไป  ป่านนี้ทั้งกระดานทั้งเชือกคงถูกทิ้งร้าง  อาจในป่าช้าหรือในกองขยะที่ไหนสักแห่ง 

เมื่อโรยราผุผังย่อมถูกทิ้งขว้างทำลายเช่นนี้ 
จะชิงช้าหรือสายใยสัมพันธ์ก็ไม่ต่างกัน

คิดแล้วสะท้อนใจ  มองเพลินจนไม่รู้สึกถึงใบหน้าคมสันที่ยื่นเข้ามาใกล้แทบชิด  ดังนั้นพอจ้อยหันหน้ามาอีกที  ปลายจมูกจึงทิ่มใส่แก้มสากเข้าให้.. เต็มๆ
   
หนุ่มน้อยผงะ  ตกตะลึงยิ่งกว่าตกชิงช้าสวรรค์  หันหน้าหนีแทบไม่ทัน 

“ไอ้จ้อย เอ็งหอมแก้มข้า!” นักเลงโตทำท่าเหมือนตกใจกว่า  เสียงห้าวโวยลั่น  กุมแก้มตัวเองยังกะสาวพรหมจรรย์โดนขโมยจูบ   
   
“ก็..” เด็กดีไม่พูดคำหยาบ  จ้อยจึงกลืนคำว่า ‘เสือก’ ลงคอดังเอื๊อก “..ยื่นหน้าเข้ามาทำไมล่ะ!”
   
“เอ็ง..เอ็งรับผิดชอบเดี๋ยวนี้!” ใบหน้าคมคร้ามถลึงตาใส่  ชี้หน้าอาฆาต  พูดหน้าตาเฉยไม่อายผีสาง “ให้ข้าหอมคืนซะดีๆ”
   
จ้อยส่ายหน้ารัวจนผมสะบัด  ถดกายหนีจนตัวลีบติดลูกกรง  ไม่ว่ายังไงเขาก็เสียเปรียบ  เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่อง  มือเล็กปัดป้องพัลวันยามถูกลูกชายกำนันกระชากร่างเข้าไปใกล้  แทบนั่งเกยอยู่บนตัก 

ข้างล่าง.. บนพื้นดิน  ไอ้จุกไอ้แกละแหงนมองชิงช้าสวรรค์คอตั้งบ่า  ชี้ชวนกันดู
   
‘ทำไมกระเช้าลูกนั้นมันสั่นๆ แกว่งๆ อย่างนั้นละน้อ’

จ้อยนั่งตัวแข็งทื่อเป็นหินยามถูกคนด้านหลังสวมกอดไว้หลวมๆ  ใบหน้าคมสันวางลงบนไหล่เล็ก  โชคดีที่กระเช้าหมุนขึ้นสูงจึงไม่มีใครเห็นหัวหน้าอันธพาลกับนักเรียนครูกอดกันบนชิงช้าสวรรค์         
   
“ช้าเจ้าหงส์เอย ปีกพี่ไม่หัก ใครเขาไม่ผลักพี่ลง พี่อยู่ในดงนางแย้ม” เสียงทุ้มต่ำกระซิบริมหู  ชี้ชวนน้องน้อยดูต้นมะขามใหญ่ 

จ้อยหันมองตามมือชี้  เกร็งคอแข็งทื่อ  รู้ทันหรอกน่า  คราวนี้ฝันไปเถอะว่าเขาจะโง่หันหน้าไปให้จมูกชนแก้มสากๆนั่นอีก
   
เห็นคนแสนดื้อนั่งนิ่งเหมือนแมวถูกดึงหลังคอแล้วสิงห์ลำพองใจนัก  ใกล้จนได้กลิ่นขนมหอมนวล  แก้มหรือก็ขาว.. เหมือนขนมหน้านวล.. อยากรู้นักว่าจะหอมหวานเหมือนกันไหม
   
“พี่ขอฝากจมูกของพี่ด้วยเหนอ จะได้ไปเป็นเกลอกับแก้ม” เกินจะยั้งใจอยู่  จมูกโด่งเป็นสันก้มลงขโมยกลิ่นหอมบนแก้มเนียน  จ้อยสะดุ้งเฮือกสุดตัว  หันมาจ้องตาขวาง  สิงห์เห็นคนตัวเล็กโกรธจนหน้าแดงก็หัวเราะขำ 

“โอ๊ย!”

มาขำไม่ออกก็อีตอนเจอศอกกระทุ้งเข้าให้เต็มรักนี่ละ 

สิงห์เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่ร่างเล็กที่โดดผลุงจากตักกลับไปนั่งฝั่งตรงข้าม  จุกแอ้ดขึ้นมาถึงลิ้นปี่  กว่าจะทุเลาก็ตอนกระเช้าหมุนขึ้นลงอีกรอบ       
   
“เดี๋ยวลงแล้วไปไหว้พระกัน” ชายหนุ่มกลืนลูกแน่นลงท้อง  ชักชวนกึ่งบังคับ
   
“ไม่  เดี๋ยวยายรอ” จ้อยตอบแบบไม่ต้องคิด 
   
“ป่านนี้ยายเอ็งดูลิเกน้ำหมากยืดไปแล้ว  เมื่อกี้ข้าเพิ่ง..”

เพิ่งซื้อข้าวโพดคั่วไปฝากแกที่โรงลิเกแหม่บๆ 

เรื่องสิ!  ขืนบอกมัน  มันก็รู้หมดว่าเมื่อกี้ที่เขาบอกว่าจะไปกระทืบยายช้อย  มันเป็นแค่คำขู่โง่ๆ 

“ไม่” จ้อยยังยืนยันคำเดิม  สายตาชิงชังปิดไม่มิด  “ไหว้พระด้วยกันเดี๋ยวชาติหน้าเกิดมาเจอกันอีก”
   
นักเลงโตนิ่งงัน  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคำพูดแค่นั้นถึงทำให้เขาเจ็บนัก

เขาหัวเราะขึ้นจมูก  ซ่อนเร้นแววตาร้านรานไว้ใต้คำพูดแดกดัน “ตอนเอ็งใส่บาตร ไม่อธิษฐานไปเลยล่ะ  ว่าถ้าชาติหน้ามีจริงขออย่ามาเจอกับข้าอีก”
   
“อธิษฐานทุกวัน”  นักเรียนครูพูดหน้าตาย  “กรรมใดที่เอ็งทำไว้กับข้า  ข้าอโหสิให้  แล้วเกิดชาติหน้าอย่ามาจองเวรกันอีก”

สิงห์ตาค้าง  เขาแค่ประชดแท้ๆ  นึกไม่ถึงว่าจ้อยจะทำจริง 

                                                   เสียแรงหวังใจมุ่งผดุงหวัง
ไม่ควรชังฤามารานพาลชิงชัง        เออเป็นใจเออใครมั่งไม่น้อยใจ**


“ความจริงไม่ต้องรอชาติหน้าหรอก  แค่ชาตินี้เดี๋ยวก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว” ปากแดงเรื่อยังพล่ามต่อ “เรียนจบแล้วข้าจะสอบบรรจุ  จะได้ย้ายไปสอนที่อื่น  ไม่ต้องเจออันธพาลอย่างเอ็งอีก”
   
ดวงตาสีนิลจ้องอีกฝ่ายนิ่งงัน 
   
“ในสายตาเอ็ง..” เสียงทุ้มสั่นพร่า “ข้าเลวขนาดนั้นเชียว”

ความเงียบแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี

“แล้วทำไม  เอ็งไม่บอกทุกคนล่ะ  ว่าเรื่องคืนนั้น.. ข้าเป็นคนทำ” สิงห์ประคองความหวังสุดท้ายที่ริบหรี่ไว้ในอุ้งมือ  ใครจะว่าเขาเข้าข้างตัวเองยังไงก็ช่าง  แต่ที่ผ่านมาเขาเข้าใจมาตลอด  ว่าที่จ้อยไม่บอกใคร  เพราะต้องการ.. ปกป้องเขา

ขอละจ้อย.. อย่าดับมันเลย


เป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีไม่รู้ที่จ้อยยิ้มให้  แต่ถ้าจะยิ้มแบบนี้สู้อย่ายิ้มให้เสียดีกว่า  ยิ้มเยาะหยัน  ยิ้มเหยียดหยามแบบนี้  เขาเคยได้รับมานักต่อนักแล้วจากใครต่อใคร 
   
ยิ้มหยันจากใครต่อใครที่ว่า  ยังไม่ทำให้เจ็บได้เท่ายิ้มหยันจากคนตรงหน้านี้เลย

“แค่โปรดสัตว์..”

สิงห์ชาดิกไปทั้งร่าง  อยากรู้นักว่าโรงเรียนสอนให้เป็นครูหรือเป็นอะไรกันแน่  เอ่ยคำพูดเชือดเฉือนได้โดยไม่กระพริบตาแบบนี้  น่าจะเป็นเพชฌฆาตเสียมากกว่า  เพชฌฆาตที่บั่นหัวใจเขาหลุดกระเด็นจากขั้ว แล้วเหยียบซ้ำลงดินอย่างเลือดเย็น 
   
ความเสียใจกับความโกรธตีรวนกันคลุ้มคลั่ง  ชายหนุ่มกระชากใบหน้าเล็กแหงนหงาย หมายจะฝังรสจูบ  หากจ้อยดิ้นรนจากอ้อมแขนแล้วฟาดเข้าให้เต็มฝ่ามือจนหน้าหัน  เสียงฉาดลั่นถูกกลบด้วยเสียงดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นฟ้า  สิงห์นิ่งงันเหมือนรูปปั้น  ดวงตาคมเข้มสลดลงเหมือนถูกทิ้งถ่วงลงน้ำ  หนักและจมลงในความประหลาดใจ  ในความไม่คาดฝัน  ในความเสียใจที่เกินพรรณนา   

เสี้ยวหน้าคมสันหันกลับมาช้าๆ  ประกายดอกไม้ไฟล้อแสงกับน้ำในดวงตาจนแวววาว  เค้นเสียงทุ้มลอดไรฟัน “ไอ้จ้อย  เอ็ง..”

กระเช้าเลื่อนลงแตะพื้น  ชิงช้าสวรรค์หมดรอบพอดี  ประตูถูกเปิดออกจากด้านนอก  จ้อยอาศัยตัวเล็กว่องไวโจนแผล็วออกไปทันทีก่อนอีกฝ่ายจะคว้าตัวได้ทัน 

“ไอ้จ้อย!” เสียงห้าวตะโกนไล่หลัง  หนุ่มน้อยหันกลับไปเห็นคนตัวโตลงจากกระเช้าวิ่งไล่ตามมา  จึงวิ่งหนีไม่คิดชีวิต  ค่าที่ตบหน้ามันไปเมื่อครู่  มันเอาคืนเขาถึงตายแน่! 
   
สัญชาติญาณการเอาตัวรอดสั่งให้จ้อยหนีให้เร็วที่สุด  เขาไม่มีกะใจจะเที่ยวงาน ไม่มีกะใจจะขายของอีกแล้ว  ห่วงแต่ความปลอดภัยของยายและตัวเองเท่านั้น 
   
เท้าเล็กวิ่งฝ่ากลุ่มคนไปยังโรงลิเก  ตั้งใจจะตามหายายและพากันกลับบ้านให้เร็วที่สุด!


“แม้นไม่ยอม พี่จะปล้ำ เอ๋ย..พี่จะปล้ำให้หนำใจ เป็นยังไงก็เป็นกัน..” บนเวทีลิเก  โจรป่าใจทรามกำลังจะฉุดคร่านางโมรา  เสียงปี่พาทย์ระนาดระรัวกระหึ่ม  เหล่าแม่ยกพากันตบมือเกรียวกราวชอบอกชอบใจ  แต่แล้วทุกคนต้องต๊กกะใจเมื่อจู่ๆ เด็กหนุ่มตัวขาวคนหนึ่งวิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาหน้าเวที 
   
จ้อยพยายามมองหายายแต่ก็ถูกโห่ไล่
   
“ไอ้หนู ออกไป!”
“เขากะลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม”
“เหรียญสลึงอย่าบังเหรียญบาทซีโว้ย!”

จ้อยเหลียวซ้ายแลขวา  หายายก็ไม่เจอ  เจอแต่คนตัวสูงวิ่งตามมาติดๆ  เขาเผ่นแผล็วจากหน้าเวทีลิเกทันควัน  สิงห์วิ่งตามมากระหืดกระหอบ  หากทีนี้ชาวบ้านกลับพากันขวัญผวาไม่กล้าโห่ไล่ 
   
“อ้าวเฮ้ย!  เหรียญห้าโผล่มาอี๊ก  บังมิดเลยพ่อคู๊ณ!”

*************************

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
ร้านน้ำชากาแฟของอาแปะคิวยาวเป็นหางว่าว  คนึงสั่งไว้แล้วเดินมาดูแผงขายปลาตะเพียนใบลานที่อยู่ไม่ห่างกันนัก  หันไปมองทางลูกศิษย์ที่ยืนรออยู่ไกลๆ ก็เห็นหยุดแวะแผงขายน้ำหอมเสียแล้ว
   
“หอมสนิทติดทนนาน  ทาพี่หอมน้อง  ทาน้องหอมพี่  ทาผัวหอมเมีย  ทาเมียหอมผัว  เชิญเลือกดมได้  ดมสักนิดจะติดใจเชิญเลยๆ” 

เสียงคนขายป่าวประกาศดังลั่น  ยื่นสำลีชุบน้ำหอมให้คุณชายดมก้อนแล้วก่อนเล่า 

อาจารย์หนุ่มคลี่ยิ้ม  ก่อนหันมาสนใจปลาตะเพียนหลากสีตรงหน้า  ทั้งที่แขวนห้อยระย้าและที่วางอยู่บนแคร่ไม้ไผ่  มือใหญ่หยิบเลือกตัวนั้นตัวนี้
   
“ซื้อเอาไปให้ลูกเรอะครู” หญิงชราถามยิ้มๆ ในมือเหี่ยวย่นยังสานค้างไว้ตัวหนึ่ง
   
ชายหนุ่มหัวเราะหึ  “ผมยังไม่มีลูก” ดวงตาคมหันมองร่างโปร่งบางที่ยืนดมน้ำหอมไกลๆ  ดวงตาเป็นประกายยามเอ่ยถึง “ซื้อไปให้เด็ก  จะได้ไม่ดื้อไม่ซน  ว่านอนสอนง่าย  โตเร็วๆ” 
   
“อ้อ” แม่เฒ่าช่วยเลือก  มือเหี่ยวย่นหยิบพวงตะเพียนสานยาวระย้าขึ้นชูให้ดู “นี่ไง..แม่ตะเพียนลูกสิบสอง ใหญ่ดีนะ หรือไม่ก็นี่..ลูกหก กำลังดี”
   
คนึงก้มหน้าซ่อนยิ้ม  โหนกแก้มอุ่นวาบจนขึ้นสียามเอ่ย 

“ขอเป็นตัวผู้ได้ไหมครับยาย”
 
************************

เลอมานเดินเตร่อยู่แถวซุ้มยิงปืน  กำลังมองตุ๊กตาหลากสีเรียงรายบนชั้น  เด็กผู้ชายไปจนถึงหนุ่มๆ พากันมาประลองความแม่นยำ  พลาดบ้างโดนบ้าง  และพอมีใครยิงไปถูกเป้า  ตุ๊กตานางฟ้าในตู้กระจกบนสุดก็จะหมุนเต้นระบำ  ไฟสว่างวิบวับ  คลอเสียงเพลงสดใส
   
“อยากลองไหม” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น  คุณชายถึงกับสะดุ้ง  หันขวับไปเห็นร่างสูงใหญ่ยืนชิดใกล้เสียจนเห็นเงาตัวเองในแววตาคมเข้ม 
   
“นายลอย” เด็กหนุ่มสูงศักดิ์เอ่ยทัก  หากก็ถอยห่างออกมาก้าวหนึ่ง 

ลอยมองกริยาไว้ตัวเช่นนั้นด้วยแววตาเรียบนิ่ง  ดั่งมหาสมุทรสุดลึกล้น คณนา 

ร่างกำยำเดินไปหยิบปืนยาวขึ้นประทับบ่า  สอดนิ้วในโกร่งไก  ดวงตาคมดุจเหยี่ยวหรี่เล็งเป้าหมายตรงหน้า  ทุกลีลาดูช่ำชอง  ดั่งคนที่คุ้นเคยกับปืนดี 
   
เลอมานได้แต่มองอย่างทึ่งยามกระสุนจุกน้ำปลาพุ่งกระทบตุ๊กตาล้มแม่นยำเหมือนจับวาง  ใบหน้าคมสันหันมายิ้มยักคิ้วให้  มีการเป่าปลายปืนโชว์ด้วยท่วงท่าราวพระเอกหนังจิงโก้จังโก้ 
   
“แม่นนี่” คุณชายชมเปาะ  ตบมือให้อย่างชื่นชม  ยื่นมือไปรับปืนที่มือใหญ่ส่งให้ลอง
   
“ฉันยิงไม่ค่อยแม่นหรอกนะ” เขาถ่อมตัวไว้ก่อน  ถึงจะไม่ใช่คนยิงปืนเก่ง แต่ก็เคยยิงเล่นมาบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย  หนังคาวบอยก็เคยดูออกบ่อย 
   
เพียงประทับปืนลงบนบ่า  ร่างใหญ่หนาก็ประชิดจากด้านหลัง เอื้อมมือมาทำท่าจะจับมือเขายิง  เลอมานรีบเบี่ยงตัวหนีจากอ้อมกอดกลายๆ นั้นทันที  “ไม่เป็นไร  ฉันยิงเองได้”

ลอยยอมถอยออกมา  แต่เพียงแวบเดียวที่เข้าใกล้  กลิ่นหอมหวานจากร่างเล็กกว่าก็โชยรื่นกระทบจมูก  หมายมั่นเหลือเกินที่จะได้ลิ้มชิมสักครั้ง 
   
พรานหรี่ตามอง  เนื้อทรายจอมเย่อหยิ่ง  ไว้ตัว.. หวงเนื้อหวงตัว..
   
ไม่เห็นเหมือนตอนพาไปเที่ยวโรงบิลเลียด  ไม่เห็นเหมือนตอนที่เขากับสิงห์พายเรือไปพบยืนตัวสั่นอยู่ริมคลอง
   
เนื้อเคยชิดเนื้อ.. หากวันนี้ไยเหินห่างนัก..

อ้อ.. ไอ้ลอยนึกขึ้นได้ 
วันโน้นคุณชายเมา  ส่วนวันนั้นก็แทบไม่มีสติ     

เมา.. ไม่มีสติ..

....................................
..................
   
คุณชายยิงแม่นไม่เบา  ได้รางวัลเป็นตุ๊กตานางฟ้ามีปีก สวมมงกุฎ กระโปรงสีชมพูติดดิ้นวูบวาบ  ตอนแรกเขาตั้งท่าไม่รับท่าเดียว  แต่จู่ๆ ก็นึกถึงแววตาใสซื่อของเด็กหญิงตัวน้อยที่แผงขนมของจ้อยขึ้นมาได้  จึงยอมรับมาแต่โดยดี  หมายมาดว่าจะเอาไปเป็นของฝากให้แม่หนูตากลมคนนั้น 
   
“เออนี่ นายลอย” เลอมานโพล่งอย่างนึกขึ้นได้ “ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ  เนื้อคู่คืออะไรหรือ”
   
“เนื้อคู่..” ใบหน้าคมสันทำท่านิ่งคิด “เนื้อคู่..ก็คือ.. คนสองคนที่เกิดมาคู่กัน  รักกัน  ร่วมชีวิตด้วยกัน  เอาง่ายๆ.. เป็นผัวเมียกัน”
   
“งั้นหรือ..” เขาพูดไม่ออก  หน้าร้อนผะผ่าว  จำไม่ได้ว่าเสียงตะกุกตะกักไหมยามถาม “แล้ว..ม้ายล่ะ”
   
“หือ?” คิ้วหนาขมวดมุ่น “ม้าย.. ต้นไม้น่ะเรอะ”
   
“หอ มอ อา ยอ หมาย หมายไม้โทม้าย” เขาสะกดให้ฟัง
   
“อ๋อ หม้าย” นายลอยแก้ให้ “หม้ายคือ.. คนที่คู่ของตัวเองเพิ่งเลิกราไป  หรือตายจากไป  ถ้าเป็นผู้หญิงก็เรียกแม่หม้าย  เป็นผู้ชายก็เรียกพ่อหม้าย”

ถามเนื้อคู่ คู่เป็นหม้าย ไม่ไกลนัก..
   
กระจ่างชัดแล้วในความหมาย  ราวดอกไม้เบ่งบานอยู่ในอก 

“ถามทำไม” ดวงตาคมดำหรี่ตามองวงหน้าอ่อนเยาว์  ยามแย้มยิ้ม.. น่าดู  แก้มขาวขึ้นสีเรื่อ  น่าหอม.. ริมฝีปากแดง..น่าจูบ..
   
“อ้อ..เซียมซีน่ะ” คุณชายทำมือไม้เขย่าประกอบ  ลอยมองมือขาวแล้วจินตนาการไปไกล.. ถ้าสิ่งที่อยู่ในมือนั้น..เป็นอย่างอื่น  ที่มีขนาดใกล้เคียงกับกระบอกเซียมซี
   
“แม่นนะ เซียมซีวัดนี้  ผมก็เพิ่งไปเสี่ยงมา  ได้ใบที่หก” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่า  สายตาจับจ้องอยู่ที่ปากแดง “ถามถึงคู่ร่วมเรียงเคียงเขนย  จะได้เชยชื่นชมสมประสงค์”
   
“แปลว่าอะไรหรือ”
   
“หมายปองใครไว้  ก็จะได้เชยชมสมใจ” สายตาลดต่ำลงไปยังลำคอขาว  มีเกล็ดทองเปลวติดอยู่บนไหปลาร้า  ชายหนุ่มหักห้ามใจที่จะไม่เอื้อมมือไปลูบออกให้   
   
“อ้อ”
   
ร่างสูงใหญ่ลอบกลืนน้ำลายลงคอ  “อย่าลืมเอาไปอวดอาจารย์ล่ะ”  เขากล่าวทิ้งท้ายไว้เท่านั้นก่อนหันหลังเดินจากไป 
   
คุณชายยิ้มให้ตุ๊กตานางฟ้าอีกที 
เดี๋ยวพออาจารย์กลับมา  เห็นทีจะต้องอวดเสียหน่อยแล้ว
...........................

คนึงเดินยิ้มกลับมาที่ร้านกาแฟ  ในกระเป๋ากางเกงมีปลาตะเพียนสานตัวเท่าฝ่ามือเด็กสองตัวนอนสงบนิ่ง  ยิ่งนึกถึงคำพูดที่แม่เฒ่าพูดยิ่งอารมณ์ดี     
   
“ซื้อไปสองตัวสิครู  มันจะได้ไม่เหงา”
“งั้น.. ผมขอตัวผู้อีกตัวละกัน”
“สีแดงกับน้ำเงินเรอะ  เดี๋ยวก็ได้ตีกันตาย”
“งั้นเปลี่ยนเป็นน้ำเงินกับเหลืองก็ได้ครับ”


เขาจะยื่นเจ้าตะเพียนน้อยให้กับมือเลยดี  หรือว่าจะแอบเอาไปผูกไว้ที่หน้าต่างข้างเตียงเลอมานดี  เจ้าเด็กดื้อจะทำหน้าแบบไหนตอนได้รับของขวัญจากเขา  แก้มขาวนั้นคงแดงก่ำ  เขาจะเป็นตัวสีน้ำเงิน  แล้วเลอมานเป็นตัวสีเหลืองดีไหมหนอ..   
   
“อาจารย์!”

เสียงจ้อยตะโกนเรียกเขาดังลั่น  คนึงหันขวับไปทางต้นเสียงทันที  เห็นลูกศิษย์ตัวเล็กวิ่งฝ่ากลุ่มคนตรงมาหา  ท่าทางเหมือนวิ่งหนีใครมา 
   
“อาจารย์ช่วยผมด้วย!”
   
“หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้จ้อย!”
   
คำตอบตัวโตวิ่งตามมาติดๆ  ชาวบ้านต่างพากันหลบหลีกวี้ดว้าย  จ้อยสะดุดหกล้มคางปักพื้นตรงหน้าร้านอาแปะ  คนึงรีบวิ่งตรงเข้าไปช่วยลูกศิษย์ทันที  แต่ยังช้ากว่าลูกชายกำนันที่ตรงเข้ากระชากแขนผอมบางให้ลุกขึ้น 
   
อาจารย์หนุ่มจึงได้รับรู้ว่านอกจากคางแล้ว  จ้อยยังได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า  มันแตกถลอกเลือดแดงซึมตัดกับผิวขาวจัด  ผู้คนรายล้อมพากันฮือฮา
   
ทว่าไม่มีใครสังเกตเห็นแววตานักเลงโตสลดวูบ   
 
“เอ็งจะวิ่งหนีทำไม  คิดว่าข้าจะทำอะไรเอ็ง!” เสียงห้าวตะคอกลั่นใส่คนตัวเล็กที่พยายามดิ้นรนหนี  มือใหญ่เพิ่มแรงบีบจนจ้อยหน้าเบ้ “มาพูดกันให้รู้เรื่อง!”
   
“หยุดเดี๋ยวนี้!” คนึงเข้าแทรกระหว่างทั้งสอง  ร่างสูงใหญ่ทัดเทียมกันดึงแขนเล็กออกจากมืออันธพาล  ดวงตาคมกร้าวมองสิงห์อย่างเอาเรื่อง  “มีเรื่องอะไรกัน!”

สิงห์กัดฟันกรอดเมื่อเห็นจ้อยอาศัยหลังอาจารย์เป็นที่พึ่งพิง  ทีกับข้าล่ะวิ่งหนีจะเป็นจะตาย  แต่พอมันมาถึงกับซุกหลังมันเลยเรอะวะไอ้จ้อย!

“มึงไม่ต้องเสือก!”  ความโกรธปะทุในอกเหมือนไฟโหม  โทสะบันดาลให้คนขาดสติคลุ้มคลั่งไร้เหตุผลและสามัญสำนึกเสมอ  แรงหึงหวงปิดตาสิงห์จนมืดบอดไม่รู้ดีชั่วอีกต่อไป 

ผลั่วะ!!

กำปั้นลุ่นๆ ซัดเปรี้ยงเข้าให้ที่ใบหน้าอาจารย์อย่างแรงจนเซ  ผู้คนรอบข้างพากันวี้ดว้าย  คนึงได้แต่กัดฟันข่ม  หลังมือป้ายมุมปากที่แตกซิบจนได้รสเลือด 
   
ถ้าไอ้นักเลงหมายจะประลองกำปั้นกับอาจารย์ มันคงต้องผิดหวัง  เขาไม่มีวันลดตัวลงไปแลกหมัดกับอันธพาลให้เสียเกียรติ
   
“ได้ชกครูแล้วพอใจหรือยัง” คนึงยังคุมสติได้ดีเยี่ยม  ในขณะอีกคนยังคำรามฮึ่มฮ่ำในคอเหมือนหมาบ้า “ถ้าพอใจแล้ว..ก็ปล่อยจ้อยเถอะนายสิงห์”     
   
“กูบอกว่าอย่าเสือก!” นักเลงเลือดร้อนกำหมัดแน่น  โถมเข้าใส่อาจารย์อีกครั้ง  หากยังช้ากว่าจ้อย  มือเล็กคว้าขวดน้ำอัดลมเปล่าบนโต๊ะไม้ของอาแปะ  ฟาดเปรี้ยงใส่คนบ้าดีเดือด

เปรี้ยง!!

ราวโลกหยุดหมุน  ทุกสรรพเสียงรอบข้างเงียบกริบ  ทุกคนต่างตะลึงอย่างคาดไม่ถึง  หากความตกใจนั้นยังไม่ได้แม้เศษเสี้ยวของคนที่ถูกตี 
   
เลือดแดงฉานปรี่ออกจากปลายคิ้วเข้ม! 

“เอ็งตีข้า” ฝ่ามือใหญ่ปาดหยดเหนียวที่ไหลริน  กลิ่นคาวข้นปนกลิ่นธูปเทียนจากพระอุโบสถ  จ้อยตาวาวโรจน์  ตัวสั่น  ในมือยังถือขวดแก้วที่แตกเป็นปากฉลาม 

“ไอ้ชาติชั่ว!  ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
   
“ข้าแค่..”

สิงห์พูดไม่ออก..
 
เขาไม่เคยอยากทำให้ใครเจ็บหรือเสียใจ  แต่ทำไมเขาถึงได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า  เขาแค่อยากมีชีวิตสงบ เรียบง่าย มีรัก ได้รัก ได้เป็นที่รักของใครสักคนที่จะไม่มีวันทำร้ายกัน

นักเลงโตกำนาฬิกาข้อมือในมืออีกข้างแน่นจนแทบทะลุผ่านเนื้อ
   
ข้อมือจ้อยว่างโล่ง  ไม่มีสิ่งใดประดับประดานอกจากสายสิญจน์เก่าๆ  ในขณะที่นักเรียนครูคนอื่นเขามีนาฬิกาข้อมือใส่กันทั้งนั้น 
   
อุตส่าห์วาดฝันไว้สวยหรู  ว่าคืนนี้จะพาน้องเดินเที่ยวงาน  จะไหว้พระด้วยกัน  แล้วก็.. มอบนาฬิกาเรือนนี้ให้ 

ทุกอย่างกลับพังทลายไม่มีชิ้นดี!

“เอ็งตีข้า” ชายหนุ่มพูดซ้ำ  แค่นหัวเราะคล้ายจะหยันตัวเอง   
   
“ไอ้ระยำ! จะไปตายที่ไหนก็ไป!” จ้อยด่าไล่ส่งไม่ไยดี 

ไอ้หมานไอ้เลิศเพิ่งวิ่งมาถึง  สองลูกน้องอ้วนผอมเห็นลูกพี่เลือดอาบคิ้วก็ถกแขนเสื้อหมายมาดเข้าไปจัดการไอ้นักเรียนครูตัวการ  หากลูกพี่กลับตะคอกลั่น “อย่า!” 
   
“กลับโว้ย!” สิงห์สั่งเสียงห้วน  ก่อนเขวี้ยงนาฬิกาในมือลงพื้นแล้วเตะเปรี้ยงเหมือนเศษขยะ  จ้องตาจ้อยเขม็งก่อนหันหลังกลับ 
   
เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก
ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน
ไม่รักกูกูก็จักไม่รักใคร..


“แม่งเอ๊ย..” สิงห์สบถทั้งขอบตาร้อนผ่าว  บาดแผลไม่ลึก  แต่ที่เจ็บรุนแรงคือหัวใจก้อนเท่ากำปั้น 

เอ๊ะ น้ำตากูไหลทำไมฤา?***

*************************

คนึงพาจ้อยไปหายายช้อยที่โรงลิเก  หญิงชราตกใจเมื่อเห็นสภาพหลานรัก  เนื้อตัวมอมแมม คางแตกเข่าแตก  จากนั้นทั้งสามพากันไปหาเลอมานที่นั่งรออยู่นานแล้ว
   
คุณชายตั้งใจจะอวดตุ๊กตาที่ได้มาเสียหน่อยถึงกับพูดไม่ออก  อาจารย์ก็ปากแตกเหมือนไปแลกหมัดกับใครมา  ส่วนจ้อยก็บอบช้ำไปทั้งตัว 
   
“เดี๋ยวครูจะไปส่งจ้อยกับยาย” คนึงห่วงจ้อยนัก  เพิ่งมีเรื่องกับพวกนักเลงแบบนี้  กลัวมันจะดักทำร้ายเอาระหว่างทาง  “เล็กรอครูอยู่ที่นี่ได้ไหม”
   
เลอมานก็ห่วงจ้อยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า  เขาพยักหน้ารับทันที “อาจารย์ไม่ต้องห่วง” ริมฝีปากบางคลี่ยิ้ม “ผมบอกแล้วไงว่ารอได้.. รอได้เสมอ”
      
กับคนตรงหน้านี้.. ใช่ว่าคนึงจะไม่ห่วง..
ห่วงแสนห่วง.. แทบไม่อยากปล่อยให้คลาดสายตา  แต่ติดที่ว่าเรือยายช้อยนั่งได้แค่สามคน 

คนึงนึกอยากคว้าร่างเล็กมากอดนัก  แต่เขาทำได้เพียงลูบศีรษะทุยสวยอย่างแผ่วเบา
   
“รอครูอยู่นี่นะ  แล้วครูจะรีบกลับมารับ” ดวงตาคมเข้มอ่อนแสงลง  กำชับหนักแน่น “ห้ามกลับคนเดียวเด็ดขาด  คนแปลกหน้ามาชวนไปไหนก็อย่าไป รู้ไหม”
   
เลอมานหัวเราะ  อาจารย์พูดเหมือนเขาเป็นเด็กไปได้  ดวงตาสีน้ำตาลใสได้แต่มองส่งทั้งสามจนลับสายตา 

คุณชายไม่กล้าไปไหนไกล  กลัวอาจารย์กลับมารับแล้วจะไม่เห็น  ได้แต่นั่งรออยู่แถวโรงลิเกอย่างที่อาจารย์สั่ง  นึกในใจว่าคนึงแค่พายเรือไปส่งยายช้อยที่บ้าน  แล้วก็พายไปส่งจ้อยที่โรงเรียน  หลังจากนั้นถึงค่อยกลับมารับเขา  คงใช้เวลาไม่นาน
   
หารู้ไม่.. จากคลองสระบัว  ทะลุคลองเมืองลัดเข้าคลองท่อเป็นการพายเรือทวนกระแสน้ำ  แม้คนึงและจ้อยจะช่วยกันพายสุดแรงจนล้า  หากกระแสลมและน้ำที่พัดทวนมาก็กินแรงและกินเวลานัก
   
บุตรชายท่านทูตนั่งดูลิเกจนปิดโรง  ผู้คนทยอยกันกลับจนเริ่มบางตา  เหลือเขานั่งอยู่ท่ามกลางเศษใบตอง เศษกระดาษใส่ของกินที่ถูกทิ้งไว้กลาดเกลื่อน  ก็ยังไม่เห็นแม้เงาของคนที่บอกว่าจะรีบกลับมารับ 

สายลมพัดอู้จนเลอมานต้องห่อไหล่  แหงนมองฟ้าไม่เห็นพระจันทร์เพราะถูกเมฆบดบังเสียมิด  กลิ่นฝนโชยมากับลมจนพ่อค้าแม่ขายพากันเก็บข้าวของ  แสงไฟสว่างไสวค่อยๆ ดับลงทีละดวงๆ  เลอมานยิ่งเหลียวซ้ายแลขวามองหาอาจารย์  อดยอมรับไม่ได้ว่าเขาเริ่มใจเสีย 

ฝนโปรยสายลงมาดังคาด  แม้ไม่แรงนักแต่ก็หนาวสะท้าน  เด็กหนุ่มไปนั่งหลบฝนบนเวทีลิเกที่เก็บข้าวของ ดับไฟมืด  บรรยากาศเงียบสงัดเปลี่ยนไปจากแสงสีตระการผู้คนเฮฮาเมื่อครู่ราวพลิกฝ่ามือ 
   
นั่งตรงนี้แม้มีหลังคาคุ้มหัว  แต่ฝนเปาะแปะก็ยังสาดมาต้องกาย  ในมือยังถือตุ๊กตานางฟ้าไม่ปล่อย 
   
หารู้ตัวไม่  ในมุมมืด.. พรานยังคงจับจ้อง  เนื้อทรายน้อยพลัดฝูง  ถูกทิ้งไว้เดียวดายในป่าเปลี่ยว   

จนกระทั่งมีเงาร่มคันใหญ่ยื่นมาบังฝนให้  เลอมานชะงัก  เงยหน้าขึ้นเห็นใบหน้าคมคร้าม  ดวงตาแวววามจ้องมองมา     
   
“นายลอย!” เด็กหนุ่มสูงศักดิ์ดีใจราวกับเด็กหลงทางเจอคนรู้จัก 
   
“ผมไปส่งที่โรงเรียนให้เอาไหม” เสียงทุ้มห้าวชักชวน  ในแววตาดำดิ่งจับจ้องไม่วางตา 
   
คุณชายนิ่งคิดชั่วอึดใจ  ก่อนส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ล่ะ  เดี๋ยวอาจารย์มาแล้วไม่เจอ”
   
ลอยหัวเราะหึ “ผมเอารถเครื่องมา  แป๊บเดียวก็ถึงโรงเรียน  เผลอๆ ถึงก่อนอาจารย์คนึงจะออกมาอีก” ร่างสูงใหญ่ถือวิสาสะนั่งลงเคียงข้าง  พยายามโน้มน้าว  แต่อีกฝ่ายยังคงนั่งนิ่ง 
   
“อยู่ที่นี่คนเดียวไม่กลัวหรือ” ชายหนุ่มตัดสินใจใช้ไม้เด็ด  ชะโงกหน้าไปใกล้  ลอบสูดกลิ่นหอมเข้าเต็มปอด  กระซิบเสียงต่ำพร่า “วัดนี้ผีดุนะ”
        
คุณชายหันขวับมาจ้องตาโต  เขยิบเข้ามาชิดร่างสูงใหญ่โดยอัตโนมัติ 

......................................

เลอมานซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้างหลบกระแสลมแรงและไอฝน  ที่ตีเข้าหน้าจนแสบตาไปหมด  จนกระทั่งรถจักรยานยนต์แล่นข้ามสะพานคลองเมือง  เด็กหนุ่มจึงเริ่มรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ 
   
“นายลอย!” เขาเสียงดังแข่งกับสายลมกรูเกรียว “ทางไปโรงเรียนมันต้องเลี้ยวอีกทางไม่ใช่หรือ”
   
“นี่เป็นทางลัด” เสียงทุ้มห้าวตะโกนตอบกลับมา  ใบหน้าคมสันเอี้ยวมามอง “สบายใจได้  เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”
   
“อ้อ”

ลอยหันหน้ากลับไปมองทาง  ดวงตาสีนิลวาววับ  จุดรอยยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์แพรวพราย


ถึงแน่.. ไม่ต้องห่วง

ถึงอกถึงใจเลยเชียวล่ะ  คุณชายเล็ก!


โปรดติดตามตอนต่อไป

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
* เพชฌฆาตใจ, ประดิษฐ์ อุตตะมัง คำร้อง, ชินกร ไกรลาส ขับร้อง
** กลบทพยัคฆ์ข้ามห้วย, กรมหมื่นไกรสรวิชิต
***สุจิตต์ วงษ์เทศ
ขอบคุณภาพประกอบจาก Chelsea www.2how.com ค่ะ


ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
ตอบเม้นกันจ้ะ :L2:

roseen
ขอบคุณจ้า ^^

Donaldye
ไม่รู้ว่าจะน่ารักกันได้นานไหมค่ะ T^T

hongzaa
รอลุ้นละกันเน้อว่าคู่ไหนจะได้อะระบะหึยกันก่อน  ส่วนพี่สิงห์นี่ ไม่รู้ว่าจะได้เป็นคนดีก่อนได้น้องจ้อยเป็นเมียไหม  พี่แกยิ่งใจร้อนอยู่ซะด้วยสิ

Lukaka
พี่สิงห์มันซึนละมั้งคะ  ขี้เก๊กอีกตะหาก  มันน่าปล่อยให้รักเขาข้างเดียวซะให้เข็ด 

~l3aml3ery~
พี่สิงห์แค่ขู่น่ะจ้าน้องแบม  แต่เป็นการขู่ที่แบบ..ควายมาก  (ก็บอกแล้วว่าพี่แกไม่ค่อยฉลาด^^”)

นางฟ้า
สามคำให้น้องนางฟ้าจ้า >> ลุ้น ตอน หน้า (แอร๊)
ตอนหน้าจ้ะตอนหน้า  ไอ้ลอยมันจะทำอะไรชายเล็กไหมน๊า..

Guill
มันเป็นตัวร้ายแบบ.. เลวบริสุทธิ์เลยล่ะค่ะไอ้ลอยเนี่ย

2pmui
ดูท่าอาจารย์คงไม่ให้ชายเล็กรอนานหรอกค่ะ  อยู่ใกล้กันทุกวันแบบนี้  น้ำตาลใกล้มดใครอดงดได้ ^^

hewlett
ไอ้ลอยมันเป็นตัวร้ายของเรื่องนี้ค่ะ  ทำหน้าที่ดีซะด้วย  จ้างร้อยเล่นซะหมื่น ๕๕๕+

หัวเเม่มือ
ตัวร้ายมาทำหน้าที่แล้วจ้า  จากที่ตอนแรกๆ แค่เลียบๆเคียงๆ มันจะเอาจริงละเน้อ

MinKKniM
ขอบคุณที่รักคุณชายค่ะ  รักน้อยๆแต่รักนานๆก็ได้ ^^

silverspoon
อ่านตอนนี้คงรู้แล้วนะคะว่าพี่สิงห์จะทำอะไรจ้อย  โถ..พ่อคู๊น.. ชวนเขามาดีๆก็ไม่ได้เนอะ

armmyrine
๕๕๕+ มันก็ไม่แน่นะคะ  อะไรก็เกิดขึ้นได้ในนิยายของเรา  คนเขียนใจร้ายเน้อ  ไม่ค่อยปรานีตัวละครตัวเองหรอก  แต่ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม  ทุกสิ่งย่อมมีที่มาและที่ไป  มีเหตุผลในการกระทำนั้นๆค่ะ  (รอลุ้นต่อตอนหน้าเนอะ^^)

Zymphoniz
ลอยมันหมั่นไส้+อิจฉาพี่สิงห์  และในขณะเดียวกันก็จ้องจะงาบชายเล็ก  มันเลยกลายร่างเป็นตัวอุปสรรคของทั้งสองคู่ฉะนี้แหละจ้า

fox
ไอ้ลอยไม่ฉุดค่ะคุณ fox มันมาพาไปแบบเนียนๆ เลย  อาจารย์จะทำยังไงน๊า^^ 

Loveyoujung
เนอะๆ งานวัดเนี่ยเป็นอะไรที่เราชอบมากเลยค่ะ  ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสเราก็ยังชอบไปเดินงานวัดอยู่นะ  ชอบกินขนมเบื้องกับถังแตกในงานวัดม๊ากมาก  แต่ระวังพวกยิงปืนยิงหนังสติ๊กนะคะ  เห็นเขียนป้ายวางไว้บนจานลูกกระสุนว่า ๑๐ บาท  ไม่ใช่จานละ ๑๐ บาทนะ  พี่แกคิดราคาลูกละ ๑๐ บาท  จานนึงมี ๑๐ ลูก  ก็ตกจานละร้อยเชียวค่ะ  (ไม่เคยโดนกับตัวนะ  เพื่อนเอามาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ)

namngern
ขอบคุณที่สงสารพี่สิงห์นะคะ  ตอนที่แล้วทำตัวเกรียนซะจนมีแต่คนเกลียดเลย 

MIkz_hotaru
อาจารย์กับคุณชายทำสัญญาใจกันแบบเนียนๆ แล้วจ้า 

fuku
เลเวลความเกรียนของพี่สิงห์จะพุ่งแรงมากเมื่ออยู่ต่อหน้าไอ้ลอยและลูกน้องค่ะ  จะค่อยๆ เผยให้เข้าใจนะคะว่าทำไมพี่แกต้องทำแบบนั้น 

EoBen
ใช่ค่ะ  ตอนนี้ทั้งอาจารย์และคุณชายก็เหมือนจะใจตรงกันแล้วล่ะ  แต่ยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่ทำให้อาจารย์ไม่กล้าแสดงความรู้สึกมากไปกว่านี้  (แต่ตอนหน้าไม่แน่ค่ะ^^)

silverphoenix
คำอธิษฐานของคุณ silverphoenix ท่าทางจะไม่ได้ผลซะแล้วค่ะ  ก็ไอ้ลอยมันตั้งท่าจะยุ่งเกี่ยวกับคุณชายให้ได้เลย  เกิดมาเพื่อเป็นตัวโกงโดยแท้
 
@BUA@
เราว่าน่ากังวลพอๆกันเลยล่ะค่ะ  เฮ้อ :เฮ้อ:

aisen
ดูท่าชายเล็กคงไม่ต้องรอนานแล้วละค่ะ ^^

PetitDragon
อาจารย์นี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเนอะ  ในที่สุดลอยมันก็พาชายเล็กไปจนได้  รีบไปช่วยเลยนะ ฮึ่!

Artemis
อ๋อ ใช่ๆๆ คุณ Artemis เขียนเรื่อง “รักนี้ต้องมีพิน” ใช่ไหมคะ  เราแอบกดเข้าไปดูด้วยล่ะ  น้องมูนน่ารักน่าเอ็นดูเนอะ  ขอบคุณที่อ่านแล้วชอบนะคะ^^

ycrazy
อุตส่าห์ฉุดกระชากลากถูเค้า  ที่แท้ก็.. ปัดโธ่เอ๊ย พี่สิงห์

sukie_moo
ไอ้ลอยนี่มันบ่อนทำลายแท้ๆ เลยค่ะ  เอาคาแรคเตอร์มาจาก “ไอ้ลอย” จากบทประพันธ์ชุดหลายชีวิตค่ะ  มันเลวได้ทั้งๆ ที่คนอื่นยังมองว่ามันเป็นคนดี  ไม่รู้มันทำได้ยังไง

pk11677
เปล่าน๊า.. พี่ไม่ได้ชอบแต่งนิยายเรียกน้ำตาเน้อ  ใจจริงก็อยากจะเขียนแบบน่ารักใสๆ  กะเค้ามั่งแหละค่ะ  แต่พอเริ่มจะเขียนทีไรมันก็ออกมาเป็นแนวนี้ทู้กที 

kunchan
๕๕๕+ ชอบแอบอ่านนิยายในเวลางานเหมือนกันเลยค่ะ  ขนาดเจ้านายจับได้แล้วก็ยังแอบอ่านอีกจนแกปล่อยวางไปแล้ว  ส่วนเรื่องชอบคู่พี่สิงห์น้องจ้อยมากกว่านี่เป็นเรื่องปกติค่ะ^^  มีคนอ่านไม่น้อยเชียวล่ะที่ชอบคู่รองมากกว่า (โดยเฉพาะอีกบอร์ดนึงที่ลงไว้)

appletokki
เดี๋ยวจะเขียนให้น้องจ้อยเมินซะให้เข็ด ๕๕๕+

yayee2
ไอ้ลอยมันหาความดีในตัวไม่ได้จริงๆเลยเนอะ  ตอนนี้ปล่อยมันลอยนวลไปก่อนค่ะ  ไม่นานกรรมต้องตามสนองมันแน่นอน

wdaisuw
เดี๋ยวจะค่อยๆ เปิดเผยให้รู้นะคะว่าทำไมพี่สิงห์ต้องยอมไอ้ลอยแบบนี้  เผื่อคะแนนนิยมจะกระเตื้องขึ้นบ้าง  (เค้าเกลียดขี้หน้าแกหมดแล้ว พี่สิงห์เอ๊ย)

Takamine
ว้าว..คู่พี่สิงห์น้องจ้อยมาแรงแซงโค้งจริงๆ  ส่วนไอ้ลอย..พวกร้ายเงียบๆ นี่น่ากลัวจริงๆแหละค่ะ  ร้ายแบบแสดงออกยังจะดีซะกว่า 

~MiKi~
ขอบคุณที่ชอบคุณชายเล็กนะคะ ^^

yagin
อาจารย์จะทนไม่ไหวแล้วจ้า  ตบะแตกแน่ตอนหน้า ๕๕๕+

kissey_love
กรี๊ดดดดด น้องปัดนี่เอง  คิดถึงจังเลยจ้า (มามะกอดกันๆ  :กอด1:– การ์ดที่น้องปัดทำให้ยังติดอยู่บนบอร์ดเหนือโต๊ะทำงานพี่อยู่เลยเน้อ^^) ตามมาอ่านถึงนี่เลย ขอบคุณมากนะจ๊ะ 

ต่ายน้อย
คนอ่านหลงรักคุณชายเล็ก  คนเขียนอย่างเราก็เป็นปลื้มค่ะ^^

jeaby@_@
ใช้คำว่าน่ารักงุงิกับอาจารย์และคุณชายแล้วมัน..น่าร๊ากกกกจังเลยค่ะ ๕๕๕+  ส่วนไอ้ลอยยังชั่วต่อจนถึงตอนหน้าจ้า 

WinterRose
ตอนที่ ๑๑ มาแล้วค่ะ  มาอัพช้าไปวันนึงขอโทษทีเน้อ  ศุกร์หน้ามาอัพต่อเหมือนเดิมค่ะ

silent_loner
แผนร้ายของไอ้ลอยยังทูบีคอนทินิว.. ติดตามต่อตอนหน้านะคะว่ามันจะทำอะไรคุณชาย

thearboo
จริงๆ อาจารย์แกก็เป็นคนหวานนะคะ (ทีตอนแรกๆ ละทำเป็นเกลียดเขา ชิ)

しろやま としんや
คนเขียนก็ SM จ้า ๕๕๕+

ลิงน้อยสุดเอ๋อ
ถ้าจะแม่นขนาดนี้  เซียมซีไม่บอกไปเลยล่ะว่าเนื้อคู่เป็นเพศเดียวกัน เย๊ย  :a5:

oaw_eang
หงึ  เจ้สองอ่ะ  :m17: (อย่า..อย่ามาทำตัวงิงุงุงิ)
คือ..ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือการ์ตูน หนูจะชอบนายเอกบุคลิกพิมพ์นิยม(ของสาววาย) ตัวเล็ก บอบบาง ผิวขาว เสียงเล็ก หน้าสวย อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ  นายเอกในนิยายของหนูจะอายุไม่เกิน ๒๐ อาศัยช่วงกล้ามเนื้อยังเติบโตไม่เต็มที่ ผิวยังไม่หยาบกร้านนี่แหละ แหะๆ  ก็มันให้ความรู้สึกเหมือนลูกไก่ในกำมือ น่ารักน่าทะนุถนอมดีนี่นา (ดูเป็นสาววายเพ้อฝันม้ากมากเลยเนอะ) หนูจะพยายามลดๆ เพลาๆ ความสาวของเหล่านายเอกลงก็แล้วกันนะคะ  ขอบคุณสำหรับคำติชมค่ะเจ้สอง (กราบงามๆ ^^)

mamichan
น้องจ้อยเล่นตัวเหลือเกิน  ไม่ยอมพูดดีๆ กับพี่สิงห์ซักที  พี่แกเลยต้องใช้ไม้แข็งแบบนี้แหละจ้า 

CoMa
ไอ้ลอยยังอยู่อีกนานค่ะ  ยังเป็นตัวป่วนชาวบ้านไปจนจะกว่าจะจบเรื่องนั่นละ ^^

vk_iupk
ไอ้ลอยมันจะทำอะไร  รอลุ้นตอนหน้าเลยจ้า ^^

caramel toffee
ขอบคุณที่ตามมาเชียร์ที่เล้าด้วยนะคะ  หวังว่าอาจารย์จะไม่ปล่อยให้คุณชายรอนานเนอะ

ฟิชโช่
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้จ้า (กอดกันๆ :กอด1:) ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ ^^

รักคนอ่านค่ะ

ดอกไม้
๑๑ ก.พ. ๕๕
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-02-2012 17:23:43 โดย ดอกไม้ »

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
ไอ้ลอย! :fire:

ออฟไลน์ aisen

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
อะไรกันนี่ ตอนนี้ พี่สิงห์น้องลอย ยังงมโข่งกันอยู่เลย

ส่วนคุณครูเปิดใจให้น้องเล็กเต็มที่แล้ว แต่อิลอยมาทำอย่างงี้

ได้ไงนะ ไม่ยอมๆๆๆ 

+1 ให้คุณดอกไม้ แล้วจ๊ะ

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ไม่ไหวแล้ว อ่านตอนนี้แล้วใจไม่ดีเลย
T^T

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด