(ต่อ)
“ซันนี่!!” ผมถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปแล้วเจอกับเสียงสูงๆ ของมาดามริต้าดาเมจเข้าเต็มสองรูหู
“อะ..อะไร แม่? ตกใจหมด” ผมถามขณะถูกแม่ลากไปนั่งบนโซฟา คั่นกลางระหว่างป๊ะป๋ากับแม่..ที่เก่าเอี้ยฟ้านั่นแหล่ะ
ชักสังหรณ์ใจไม่ดียังไงไม่รู้สิ..
“น้องฟ้าเค้าชอบอะไร?”
“หา?!” เจอคำถามแปลกๆ กับหน้าตาจริงจังของแม่เข้าไป ผมถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเลยทีเดียว
“จะอยากรู้ไปทำไมน่ะ ริต้า?” ป๊ะป๋าถามด้วยความสงสัย
แม่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะตอบอย่างภูมิใจในความเจ้าแผนการของตัวเอง “ก็ถ้าฉันรู้ว่าน้องฟ้าชอบอะไร ฉันก็จะได้ไปหามาหลอกล่อเขาเข้าสังกัดฉันน่ะสิ ยังไงฉันก็อยากให้เด็กคนนี้ได้เป็นนายแบบจริงๆ คาแรคเตอร์โดดเด่นและชัดเจนขนาดนี้ เขาจะต้องกลายเป็นสินค้าเกรดดีของฉันแน่ๆ”
โห.. ความคิดคนเราอ่ะเนาะ
“ยัยแม่มด” แว่วเสียงซิน(เป็นภาษาอังกฤษ)มาจากโต๊ะอาหาร หันไปมองก็เห็นมันเปลี่ยนไปถือแก้วเหล้าแทนแก้วไวน์แล้ว
“ช่ายยย..” ซอลลี่กับมิรันด้าพยักหน้าสนับสนุนความคิดนั้นรัวๆ หน้าตาทั้งคู่กำลังกรึ่มได้ที่เลย ส่วนเออร์เนสนั่งจิบเหล้าไปเงียบๆ ตามสไตล์เขา
แต่แม่หาสนใจไม่ ยังคงพยายามล้วงความลับ(?)ของเอี้ยฟ้าจากผมต่อ “ว่าไง? รู้มั้ยว่าน้องฟ้าเค้าชอบอะไร?”
“ผมรู้!” ผมไม่ได้ตอบนะ แต่ป๊ะป๋าเป็นคนแทรกขึ้นมา
แม่แทบจะหมดความสนใจในตัวผมแล้วพุ่งไปหาป๊ะป๋าทันที “อะไร?”
ป๊ะป๋าไม่ตอบทันที แต่กลับหัวเราะลงคออย่างไม่น่าไว้วางใจ พลางปรายตามองผมชนิดที่ทำเอาเย็นสันหลังวาบๆ เลยล่ะ
“อย่ามาลีลา เซ็นทรัล” แม่เร่งอย่างคนไม่สบอารมณ์นัก
“คราวนี้ผมชนะนะ ริต้า เพราะสิ่งที่ฟ้าชอบเป็นสิทธิ์ชอบธรรมของผมมาตั้งแต่แรก” ป๊ะป๋าว่ายิ้มๆ
“หมายความว่าไง?” แม่เริ่มรับรู้ได้ถึงความไม่ชอบมาพากล
“ก็หมายความว่า..” ป๊ะป๋าเว้นนิดนึงให้ผมกับแม่ได้ลุ้นระทึก “..ฟ้าเค้าชอบซันนี่ของผมไงล่ะ”
“ห๊า?!!!!”
ผมกับแม่ลุกพรวดขึ้นแหกปากพร้อมกัน แต่ซอลลี่กับซินดูไม่ค่อยจะตื่นเต้นตกใจเท่าไหร่ ส่วนมิรันด้ากับเออร์เนสดูจะงงๆ เพราะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง ขณะที่ป๊ะป๋ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ภูมิอกภูมิใจในข้อมูลของตัวเอง
“ฟ้าเค้าเคยบอกป๊ะป๋าน่ะ” ป๊ะป๋าหันมาพูดกับผม “เป็นเด็กที่ซื่อดีนะ ถามก็ตอบตรงๆ น่ารักดี”
ระหว่างที่กำลังเอ๋อแดกเพราะไม่รู้ว่าป๊ะป๋าไปคุยกับเอี้ยฟ้าตั้งแต่ตอนไหน ..แต่ถ้าคิดดูดีๆ สองคนนี้ก็นอนห้องเดียวกันมาตั้งสองคืนนี่นะ ถ้าจะคุยกันบ้างก็คงไม่แปลกหรอกมั้ง ..แต่ทำไมต้องเรื่องนี้เล่า?! ไอ้เอี้ยฟ้า มึงนี่ก็ปากเปราะจริงนะ ใครถามอะไรก็บอกเขาหมดเลย จะซื่อไปไหนวะ?!
หมับ! ..ผมก็ถูกแม่คว้าหมับเข้าให้ที่คอ แม่เอาคางมาเกยไว้ที่ไหล่ผม(แม่ผมเป็นผู้หญิงที่สูงมากน่ะ เกือบๆ จะสูงกว่าป๊ะป๋าด้วยซ้ำ) ก่อนจะเจรจาด้วยน้ำเสียงของนายหน้ามืออาชีพ
“ถ้าซันนี่ช่วยแม่นะลูกรัก..”
“เดี๋ยวๆๆ ริต้า ซันนี่เป็นลูกผมนะ เค้าต้องช่วยผมสิ” ป๊ะป๋ารีบคว้าแขนผมแล้วดึงไปหาตัวเอง แต่แม่ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ
..ผมว่าผมเข้าใจความรู้สึกของเอี้ยฟ้าแล้วล่ะ
“เค้าก็เป็นลูกฉันเหมือนกันนะ ฉันอุ้มท้องเค้ามาเอง เป็นคนเบ่งเค้าออกมาเอง จริงๆ แล้วฉันน่ะมีสิทธิ์ในตัวเค้ามากกว่าเธอซะอีก”
“ตู้ขายเครื่องดื่มน่ะ ถ้าไม่มีคนหยอดเหรียญแล้วเครื่องดื่มมันจะไหลออกมาเองได้รึไง? ถ้าไม่มีเหรียญของผม คุณก็มีเค้าไม่ได้หรอก เค้าเป็นของผม!”
“ฉันไม่ใช่ตู้ขายเครื่องดื่ม และนี่ก็ลูกของฉัน!”
“ของผม!”
“ของซินต่างหาก!!” ซินที่กำลังกรึ่มได้ที่รีบปรี่เข้ามากระชากผมออกจากคนทั้งคู่แล้วเอาไปกอดไว้เอง
..อย่าหาว่าผมมัวนิ่งไม่ยอมพูดอะไรเลยนะ ผมแค่ไม่มีจังหวะจะแทรกเท่านั้นเอง
“ซันนี่เป็นของซินนะ จะเอาไปให้ใครหน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหล่ะ!”
“แล้วถ้าป๊ะป๋าขอแลกน้องกับเฟอร์รารี่ซักคันล่ะ ซินจะว่าไง?” ป๊ะป๋าเดินเข้ามาจับมือซ้ายผมพร้อมทั้งยื่นข้อเสนอให้พี่ชายฝาแฝด
แต่.. เฟอร์รารี่เลยเนี่ยนะ ลงทุนไปหรือเปล่าป๊ะป๋า?
แล้วแม่ล่ะจะว่าไง?
แม่เข้ามาจับมือขวาผมแล้วยื่นข้อเสนอให้ซินบ้าง “แม่ขอแลกน้องกับลัมโบร์กินี่.. ซินเซียร์”
อื้อหือ.. เพิ่งจะรู้ว่าค่าตัวผมก็แพงใช้ได้เลยนะเนี่ย ฮ่าๆๆ
เอ๊ะ แต่แบบนี้พวกเขาก็คิดว่าเอี้ยฟ้าน่าจะทำเงินได้มากกว่านั้นน่ะสิ? พวกเขาถึงกล้าเอาของแบบนั้นมาลงทุนน่ะ.. แต่เสียใจด้วยนะแม่กับป๊ะป๋า ต่อให้เอาปากินี่หรือบูกัตติมาล่อ ซินก็ไม่ไขว้เขวหรอก เพราะผมต้องมีค่าที่สุดสำหรับเขาอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ
“...เฟอร์รารี่หรือลัมโบร์กินี่ดีนะ?” เสียงซินพึมพำเหมือนตัดสินใจไม่ถูก แต่.. เชี่ย! นี่มึงกล้าเอากูไปแลกกับรถงั้นเรอะ ไอ้พี่เนรคุณ?!
ผมหันควับไปจ้องหน้ามันอย่างเอาเรื่อง ซินเหมือนเพิ่งจะรู้ตัวเลยหัวเราะแหะๆ แล้วบอกว่า ‘ล้อเล่น’
“อย่ามาหลอกล่อซะให้ยาก ซินไม่ยกซันนี่ให้ใครทั้งนั้นแหล่ะ น้องของซิน ซินหวง!” ซินกอดคอผมแล้วชะโงกหน้าข้ามไหล่ไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ป๊ะป๋ากับแม่เหมือนเด็กน้อยหวงของยังไงยังงั้น
“โธ่~ ซิน..” แม่กับป๊ะป๋าทำหน้าอ้อนวอน
“นี่.. ถามจริงนะ” ผมแทรกขึ้นอย่างเหลืออด “ไม่คิดจะหวงจะห่วงซันกันบ้างเลยรึไง? ถึงคิดจะยกให้ใครก็ไม่รู้ง่ายๆ แบบนี้น่ะ”
นี่มันเข้าข่ายขายลูกกินแล้วนะเว้ยเฮ้ย!
“เรารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร” ป๊ะป๋าว่า
“ใช่ เค้าก็คือ ‘น้องฟ้า’ ไง” แม่ร่วมผสมโรง
แล้วไอ้ ‘น้องฟ้า’ น่ะมันเป็นใครมาจากไหน? รู้หรือไงเจ๊? ..ทีงี้ล่ะเข้ากันดีเป็นปี่เป็นกลองเชียวนะ เฮอะ
“แล้วลูกก็ไม่เห็นมีอะไรให้น่าห่วงนี่ อายุก็ตั้งยี่สิบแล้ว ไม่ใช่เด็กเล็กๆ ซักหน่อย” แม่กอดอก ยักไหล่ หน้าตาดูจะไม่ใส่ใจผมพอๆ กับคำที่พูดออกมานั่นล่ะ
“ใช่ แถมยังเป็นผู้ชายตัวเบ้อเร่ออีกต่างหาก ถ้าเป็นผู้หญิงบอบบางก็ว่าไปอย่าง” ป๊ะป๋าเออออห่อหมก
ผมล่ะทราบซึ้งใจบิดามารดาคู่นี้จนไม่สามารถเอื้อนเอ่ยออกมาเป็นภาษามนุษย์ได้เลยทีเดียว ..ให้ดิ้นตาย
สรุปว่าผมหมดความสำคัญเพราะผมเป็นผู้ชายตัวเบ้อเร่อที่อายุยี่สิบแล้วใช่ไหม? ...โอเค ยอมรับก็ได้
แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าจะเอาผมไปเร่ขายหรือแลกกับรถอิตาลีสักคันก็ได้นะเว้ยยยยยย! โหยยย..อยากจะกรีดร้องโวยวายใส่หน้าชายหญิงคู่นี้จริงเชียว ชิชะ!
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมป๊ะป๋ากับแม่ผมไม่แปลกใจ โวยวาย หรือรับไม่ได้ที่มีผู้ชายมาชอบลูกชายของตัวเอง ผมก็ไม่เคยถามตรงๆ หรอกนะ แต่ผมคิดว่าพวกเขาน่าจะชาชินน่ะ กรณีชายหนุ่มที่เข้ามาจีบซอลลี่ก็มีให้เห็นบ่อยๆ ตลอดสิบกว่าปีมานี้ และด้วยงานที่พวกเขาทำอยู่ ผู้คนที่พวกเขาคลุกคลี ผมว่าพวกเขาคงเข้าใจดีว่าสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้มันมีหลากหลายไฟลัมน่ะ ฮ่ะๆๆ
อีกอย่าง..พวกเขาก็เลี้ยงลูกแบบแฟร์ๆ มาตลอด อยากเป็นอะไรก็เป็น ทำอะไรก็ทำ ไม่เคยบังคับหรือตัดสินใจแทนเลยสักครั้ง พวกเรามักจะคุยกันด้วยเหตุผล(แต่พักหลังๆ นี่มักจะคุยกันด้วยผลประโยชน์ ..ก็อย่างที่พวกคุณกำลังเห็น) ถ้าพวกเราเห็นว่าดี มันก็คือดี ตราบใดที่ไม่ทำให้คนอื่นหรือแม้แต่ตัวเองต้องเดือดร้อน พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะขัดใจ
แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นปล่อยปละละเลยหรือทอดทิ้งหรอกนะ มีปัญหาก็ปรึกษาได้ ถึงจะไม่ค่อยได้เจอหน้าแต่ก็โทรหากันตลอด ..อืม ครอบครัวผมก็ประมาณนี้ล่ะ
“ไม่ต้องลงทุนกันขนาดหรอกมั้ง” ซอลลี่ที่นั่งดูสงครามแห่งผลประโยชน์อยู่พักใหญ่พูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เขาวางแก้วในมือลง ก่อนจะเทเหล้าลงไปใหม่อีก
“ถึงไงเด็กนั่นก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน..” เขาพูดต่อพลางจิบเหล้าไปพลาง “ผมว่าพวกคุณจะลงทุนสูญเปล่านะ”
“อย่าดื่มเยอะเกินไปล่ะ ซอลลี่ ที่นี่มันอากาศร้อนนะ” ป๊ะป๋าเตือนด้วยความหวังดี ซอลลี่พยักหน้ารับโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ จนแม่ทนไม่ไหวเลยต้องถามเพื่อกระทุ้งสักหน่อย(แต่ถึงแม่ไม่ถามผมก็คงจะถามอยู่ดี)
“หมายความว่าไง ซอลลี่? ลูกรู้จักน้องฟ้ามาก่อนเหรอ?”
ก็นั่นน่ะสิ แล้วซอลลี่พูดบ้าอะไรน่ะ? อย่างเอี้ยฟ้าประทานมันตายยากกว่าแมลงสาบซะอีกนะจะบอกให้ ..สงสัยจะเมาแล้วพี่ผม
“อืม.. บางทีผมอาจจะจำคนผิดก็ได้ ..มันหลายปีมาแล้วล่ะ” ซอลลี่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ เขาเงยหน้ามองเพดานห้องเหมือนกำลังทบทวนความทรงจำ “ผมเคยเห็นรูปถ่ายของเขา ..น้องชายของ โคเน่ น่ะ”
“โคเน่? ..เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อนรึเปล่า?” แม่หันไปถามป๊ะป๋าที่กำลังทำหน้านึกอยู่เหมือนกัน
โคเน่? ..ใครวะ? ผมมองหน้าซินงงๆ แต่มั่นใจว่าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแน่ อีกฝ่ายก็ดูจะงุนงงไม่ต่างอะไรจากผม ตกลงซอลลี่กำลังพูดถึงใครวะครับ?
“หมายถึง.. โคเนโร แบร์ลุสโคนี รึเปล่า?” ป๊ะป๋าถามซอลลี่อย่างไม่แน่ใจนัก ฝ่ายนั้นพยักหน้ารับ แม่ร้องอ๋อออกมาราวกับรู้จักชื่อนั้นเป็นอย่างดี
แต่ผมกับซินก็ยังมองหน้ากันงงๆ เหมือนเดิม(ไม่รวมอีกสองคนที่ฟังภาษาไทยไม่ออกนะ) ..โคเนโร แบร์ลุสโคนี.. ใครวะ?!
“ใครอ่ะ?” ซินโพล่งถามออกไปจนได้
“คนรู้จักคนหนึ่งของพี่น่ะ” ซอลลี่ตอบกลับมาอย่างกำกรวม(ซึ่งแปลว่ามันไม่ใช่คำตอบที่กระจ่างใจสำหรับผม)
ก็แล้วคนรู้จักของพี่มันมาเกี่ยวอะไรกับเอี้ยฟ้าของผมล่ะ?(แหม..เต็มปากเต็มคำ ฮ่ะๆ)
เขากระดกเหล้าที่มีเหลืออยู่ก้นแก้วนิดหน่อยก่อนจะลุกเดินไปทางห้องซิน
“แม่กับป๊ะป๋าก็รู้จักเหรอ?” ผมถามบ้าง
“แค่เคยได้ยินเฉยๆ น่ะ” แม่ตอบผ่านๆ แบบไม่ได้ใส่ใจ ป๊ะป๋าเองก็แค่พยักหน้า
“เขาคงตายก่อนอายุครบยี่สิบ แต่ถ้ารอดจนถึงยี่สิบ..เขาก็ต้องตายอยู่ดี” ซอลลี่พูดอะไรก็ไม่รู้ไปเรื่อยก่อนที่เขาจะหายเข้าห้องซินไป “โคเน่ เคยพูดถึงน้องชายแบบนั้น”
ขณะที่ผมกับซินมองหน้ากันด้วยแววตาที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ป๊ะป๋ากับแม่ก็แยกย้ายไปจับจองที่นั่งกันตามชอบใจ..
ดูเหมือนจะไม่มีใครติดใจเรื่องนี้อีก ผมก็เลยสรุปกับตัวเองในใจว่าซอลลี่คงจะเมาแน่แท้แล้วล่ะ ถึงได้พูดจาไม่รู้เรื่องแบบนั้น ..แต่ระหว่างที่พยักหน้าหงึกหงักกับตัวเอง หน้าสวยๆ ของซอลลี่ก็โผล่ออกมาจากประตูห้องซินอีกครั้ง ทำเอาผมแทบสะดุ้ง
“อ้อ.. ว่าแต่เพื่อนนายนามสกุลอะไรล่ะ?” เขาถามผมก่อนจะหาวหวอดใหญ่แบบไม่เกรงใจหน้าตาตัวเองเลย
“ทามิยะ.. ฟ้าประทาน ทามิยะ” ผมตอบทั้งที่ยังงงอยู่
ซอลลี่นิ่งไปนิดนึง ก่อนจะยักไหล่แบบไม่ใส่ใจนัก แต่นั่นไม่น่าเตะเท่ากับคำพูดไร้ความผิดชอบของเขาหรอก
“อ้อ.. งั้นพี่คงจำคนผิดจริงๆ” แล้วเขาก็หายหัวกลับเข้าห้องซินไปหน้าตาเฉย ..อะไรของมันวะ?
แล้วตกลง โคเนโร แบร์ลุสโคนี นี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่วะครับ? ..งง
TBC. 