28
ด้านของเหนือ
“เห้ย ไอ้เหนือ ช่วงนี้กูได้ข่าวว่ามึงไปตึกทันตะบ่อยอ่อวะ ฮะๆ” ผมเงยหน้ามองเพื่อนสกินเฮดตัวดีที่เอามือมาเกาะไหล่ผมฉับ นี่ถ้าไม่ซี้นะบอกตามตรงผมอาจจะแบะหัวมันเข้าให้ โทษฐานมากวนผมตอนที่ผมกำลังคร่ำเคร่งกับงานซ้ำยังมาโดนมือผมทำให้ต้องใช้ลิควิดอีกน่ะ
ป๊าบ!
ขอบใจเว้ยเชี่ยจิว สั่งสอนมันให้กูที
“ไปอยู่ไหนมาคร้าบบบบบเชี่ยโจ๊ก ไอ้เวรเหนือมันไปกิ๊กกับสาวทันตะตั้งนานแล้วเหอะ ทำไมเพิ่งมาได้ข่าววะ สาดดด สนใจแต่ส่งมุข9gagอ่ะดิ”
“ครวยเถอะครับ ก็เปล่าหรอก แฟนคลับมันเค้าถามกูมาเยอะ”
“เออ แล้วสรุปยังไงวะ นี่มึงจะปิดพวกกูไปถึงไหนฮะ!!!” คือไอ้เชี่ยจิวแม่งก็อยากรู้ครับ กูได้ข่าวมึงเป็นประธานชั้นปีมิใช่เหรอ เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นเถอะนะ
“กูไม่ได้ปิดสักหน่อย” ผมยืดตัวขึ้น วางปากกา บิดขี้เกียจซ้ายขวา รู้สึกตัวอีกที . .
ก็โดนเพื่อนจ้องทั้งโต๊ะ . .
“อะไรของพวกมึงเนี่ยยยย”
“สาดเหนือ กูมีอะไรกูบอกมึงตลอดนะเว้ย!!!!” ไอ้ยิม ดราม่าห่าเหวอะไร!
“เออ กูชอบใครกูยังบอกมึงตลอด อะไรวะ ปิดพวกกูทำเพื่อ ?”
ไอ้บาสขมุบขมิบปากบ่น . .
สาดดดดดดดด ก็เพราะมึงนั่นแหละ เพราะมึง . .
“มึงจะเสือกไปกับกูทำไมเนี่ยหา” ผมตัดบท ขีดซ้ายขีดขวาในกระดาษเตรียมตัวขึ้นไปหาอาจารย์เพื่อเตรียมเอาไปส่ง แต่ . .
“เฮ้ย เชี่ยเหนือ!!!!!!!!!”
แม่ง รำคาญจริงโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“นี่กูต่อยจริงนะ!!!!!!” ผมเป็นพวกพูดน้อยต่อยหนัก พวกมันน่าจะรู้อยู่แล้วครับ (นางพูดมากเฉพาะตอนอยู่กับแฟนนางอ่ะ - - : ชิฟฟ่อนเค้กเอ๊กเอ๊ก)
“ไม่ใช่โว้ยยยยยยยยยยย เอางานมึงมาลอกทีดิ๊!!!!!!”
อ้าวเหรอ . .
ผมจิ๊ปากขัดใจ แต่ก็ร่อนผ่านกระดาษให้พวกมันดู . .
“ฮัลโหล” ผมพูดขึ้นก่อน ทั้งๆที่ผมเป็นคนโทรไปหาคินตาเองในตอนเย็นย่ำ ตอนนี้ผมกับเพื่อนนั่งอยู่ในห้องเรียนครับ อาจารย์ใกล้จะเลิกสอนแล้ว ตอนนี้กำลังเสวนาส่งมุขกับพวกเชี่ยโจ๊กไปเรื่อย ผมเลยใช้เวลานี้โทรหาแฟนผมซะเลย
“อื้อ ฮัลโหล” น้ำเสียงของมันก็ยังทำให้โลกนี้สดใสเหมือนอย่างเคย คือมันเป็นคนที่เสียงใสแจ๋ว นี่ถ้าขี้อ้อนหน่อยล่ะก็ . . แมนทั้งแท่งร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ยังต้องใจสั่นไปกับมัน
เออแฮะ ก็ผมนี่ไง!!!!!
“เรียนเสร็จยังอ่า”
“เสร็จแล้วววววววววววววววว” คินลากเสียงอ้อแอ้ๆ
“เป็นไรทำไมทำเสียงอย่างนั้นครับ”
“อ่านหนังสือเหนื่อย” มันบ่น ผมได้ยินคินพูดเรื่องอ่านหนังสือทุกวันจนกลายเป็นความเคยชินไปแล้วล่ะครับ ยกตัวอย่างเช่น ขี้เกียจอ่านหนังสืออ่ะ ทำไมมันเยอะจังเลย ง่วงแล้วไม่อ่านแล้ว หรืออันที่ผมเกลียดสุดๆก็คือ . . ไปอ่านหนังสือก่อนนะ . .
ก็แหม . . มันทำให้ผมคุยโทรศัพท์กับมันได้น้อยลงนี่นา
แต่ผมก็ไม่เคยโวยวายอะไรนะ ก็อนาคตของเขานี่ เห็นบ่นอย่างงั้นอย่างงี้สุดท้ายก็อ่านจนดึกจนดื่นอยู่ดี
“อ้าว นี่ถึงบ้านแล้วเหรอ” ปกติผมไปรับไปส่งครับ แต่เขาก็ขอขับรถมาเองบ้างไรบ้าง ผมก็ยอม . . เห็นเขาบ่นว่าอยากขับรถตั้งนานแล้ว ไอ้เราก็นึกว่าชอบที่เรามารับมาส่งซะอีก ฮ่าๆๆ ไม่ว่ากัน ยังจำได้มั้ย ผมเคยรู้จักคินตาในนาม ‘ไอ้รถสวย’ อยู่เลย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ‘ไอ้นี่ รถมันแม่งจะเยอะไปไหนวะ’
“เปล่า อยู่ห้องสมุดดดดด” คินตาลากเสียงยานคาง ผมนึกภาพตาม คงจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วก็คุยโทรศัพท์แหงซะ
“อยู่กับใครอ่ะ”
“ภีมมมมมม”
“แล้วเพื่อนๆล่ะครับ”
“ไอ้เชี่ยภัทรไปหาเจ๊เอิญ ไอ้ฟิล์มไปกับกิ๊ง ส่วนไอ้มิก อันนี้ไม่รู้ว่ะ”
“คินอยู่ชั้นไหนล่ะ เดี๋ยวไปหานะ” ผมนั่งกระดิกเท้า เริ่มรู้สึกตงิดใจแปลกๆ ทำไมเพื่อนมันจ้องจังวะ !
“ไม่ต้องงงงงงงงงง จะออกไปละเนี่ย”
“อ้าว แล้วจะไปไหน”
“กลับบ้าน”
“หะ”
“ไม่ใช่อะไร” คินหาวให้ผมฟังฟอดใหญ่ “ไปนอนก่อน ดึกๆออกมาใหม่”
“ฮะ? คืนนี้จะเที่ยวเหรอ”
“อื้มมม”
“ไปด้วยดิ”
“ทำไม”
“ฮะ?” ผมทำหน้าฉงน
“ทำไมต้องขอด้วย?”
กรรมแล้วไงกู . . น้ำเสียงวีนเหวี่ยงน่ากลัวชิบหาย กูทำผิดอะไรเนี่ย ?
“เอ่อ . . คือ”
“มึงต้องไปเพราะมันเป็นหน้าที่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอคร้าบบบ”
มันหัวเราะคิกคักๆอย่างมีความสุข เอ่อะ?! ผมเกาหัวขณะกดวางสาย ไม่นานนัก . .
ผลั่ก!
“ไอ้เหนือออออออออออ”
“ไอ้เหี้ยยิม!”
“คุยกับใคร”
เสือกจริงๆเลย . .
“แม่งงงงง พักนี้ทำหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่โทรศัพท์ ถามจริงดิ ช่วงนี้มึงกิ๊กกับนางเอกเอวีรึเปล่า?” ยิมทำหน้าฉงน
ผมอยากจะเอาตีนก่ายหน้าผากตัวเอง - -
“ทำไมต้องเป็นนางเอกเอวี ?”
“มึงดูแบบ ..” ยิมสำรวจผมซ้ายทีขวาที “ฟินแปลกๆ ฟินเกิ๊น ฟินชิบหาย คราวนี้คนนี้น่ารักมากรึไง”
“เออ น่ารักสัดหมา น่าฟัด น่าหวงไม่ให้หมาดู” ผมพูดตัดบท รำคาญเพื่อนแม่งก็จ้องได้จ้องดีเสือกโคตรเก่ง แต่ผมก็เข้าใจมันนะครับบางที เพราะปกติจีบใครผมก็บอกพวกแม่งหมดแหละจะได้ไม่ซวยเกิดไปจีบคนเดียวกันเข้า แต่ทว่า . .
ไอ้บาสมันชอบคินตาไง . .
ไม่รู้ป่านนี้เลิกชอบยัง ผมกลัวว่าถ้าเอาคินมาเปิดตัวเข้าแล้วมันจะ . . เอ่อ . . เซอร์ไพรส์เกิ๊น เชี่ยบาสอกหัก ส่วนผมโดนเพื่อนรุมโขกสับ อันที่จริงก็ไม่ค่อยกลัวหรอกเรื่องโดนพวกมันด่าเพราะโดนทุกวันอยู่แล้ว แต่ความรู้สึกไอ้บาสเนี่ยสิ
“สรุปเย็นนี้เอาไงวะเหนืออออออออออออ”
เชี่ยจิว . . ทำไมต้องถามกูวะ ?
ผมกับพรรคพวกชาวช้อปสีน้ำเงินเดินลงบันไดกันเสียงดัง เป็นกลุ่มปีสองที่ใหญ่ที่สุดแล้วของทุกๆสาขาในมหาลัยนี้ แต่ไม่โดนรุ่นพี่หมั่นไส้ เพราะทำตัวเคารพรุ่นพี่ดี ไม่พูดกวนตีนและก็ทำตัวเป็นตัวอย่าง
“ไม่ว่าง” ผมตอบทันควัน เพื่อนแม่งชอบมารุมกอดคอผม แม้ผมจะพูดน้อย แต่แปลกที่เพื่อนมันติด ชอบถามความเห็นเวลาไปนั่นไปนี่
“ง่ะ ไอ้สัด วันก่อนก็ไม่ว่าง วันก่อนก่อนก็ไม่ว่าง วันก๊อนก่อนก่อนก็ไม่ว่าง อะไรวะ!!!!” ไอ้ยิมโวยวาย
“ถามได้นะสัดยิม เชี่ยเหนือมันติดเมีย” บาสยิ้ม
“อั๊ยยะ! ติดเมียหรือติดตัวผู้กันแน่คะ พี่เหนือออออออ กรี๊ดดดดดด ฮ่าๆๆๆ” เมลิน ตุ๊ดซี่ประจำสาขาผมเดินแซวผ่านไปทิ้งให้ผมขมวดคิ้วมุ่น
“ฮะ อิเมลิน มึงมานี่ดิ๊ พูดไม่เคลียร์นี่หว่า มาพูดให้มันจบๆดิ๊” สัดโจ๊กคว้าเมลิน ตุ๊ดหัวค่อนข้างโปกให้เดินกลับมาหา
“อร๊าย อิโจ๊ก ปล่อยกูนะ หล่อสู้อิเหนือก่อนค่อยมาแตะต้องกูได้ป่ะ อิดอกกกกกกกกก” เสียงตุ๊ดโวยวายเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ผมเกลียดให้ตายสิ
“หนอย ว่ากูไม่หล่อนะอิตุ๊ด ว่าแต่ใครวะ แฟนเชี่ยเหนือมันน่ะ”
“อิโจ๊ก เสือกขนาดมึงนี่ยังไม่รู้ แล้วนับประสาอะไรกับคนใสๆแบ๊วๆเอาแต่เรียนเฉกเช่นกูอ่ะคะ” พูดไม่พอ ยัยเมลินยังกระพริบตาวิ๊งๆชวนสงสารให้พวกผมได้อ้วกเล่นอีกน่ะ
“กูไม่ตบผู้หญิง แต่กูตบตุ๊ดนะครับ”
“หยาบคายมากอ่ะอิดอกกกกกกกกก เชอะ ไม่พูดกับมึงแล้วอิโจ๊ก!!”
“อื้อ ไม่ต้องคุยกับโจ๊ก มาคุยกับเราก็ได้ บอกเราหน่อยสิเมลิน ทำไมคนนี้มันปิดเราดีจังอ่ะ เราอยากรู้ว่าสวยแค่ไหน”
เสียงนุ่มๆไม่เสแสร้งของไอ้บาสทำเอาตุ๊ดวิศวะแทบละลายลงไปกองกับพื้น
“อุ๊ย ต๊ายตายบาสขา บาสปกรณ์ของอิเมลินนนนนนนน” เอ่อ บอย ปกรณ์ต่างหากละเฟ้ย!
แม่ง เสียเวลามาดูตุ๊ดโหยหวน ผมส่ายหน้า ขณะกำลังจะพาเพื่อนเดินหนีไปจากที่นี่ซะแต่ทว่า . .
“ก็ไม่ใช่อะไร ครั้งนี้ท่าทางเหนือเค้าจะคบผู้ชายนะคะ สายสืบของเมลินทุกที่ลงความเห็นตรงกัน ว่าเหนือเค้าคบผู้ชายจริงๆอ่ะ”
ผมทำหน้านิ่ง . . เออ . . เม มึงพูดเหมือนกูไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้เลยเว้ยเห้ย!
“จริงดิ!!!!!! ใช่ทันตะที่มึงพามาทำงานด้วยวันนั้นป่ะวะ” เพื่อนทั้งกลุ่มส่งเสียงหึ่งๆกันใหญ่ เว้นอยู่คนคือไอ้บาสที่ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก . . ก็วันที่ผมพาคินมานั่งดูผมทำงาน บาสไม่อยู่นี่ครับ
“ใครวะ คนไหนอ่ะ”
กูขอโทษเว้ยบาส แต่มึงไม่รู้ก็น่าจะดีกว่า . .
“เอางี้ดิ มึงพาเค้ามาเปิดตัวเย็นนี้เลยที่ร้านพี่เอก” จิวคว้าคอผมหมับ ไอ้พวกห่าหนิ ตัวก็เตี้ยๆทำไมชอบมากอดคอกูจังวะ
“ไม่เอา เค้าไม่ว่าง” ผมเอามือปัดมือไอ้จิวออกไปอย่างนึกรำคาญ วันนี้ผมเป็นเป้าหมายของพวกมันนานเท่าไหร่แล้วนะ
“จิ๊ ไม่ว่างก็ต้องทำให้ว่าง เร็วๆเลย” ไอ้เชี่ยโจ๊ก กวนตีนว่ะ
“อยากเจออีกแล้ว กูจำได้ว่าน่ารักมากกกกกกก อิ๊อิ๊” เชี่ยยิม!!!!
“เร็วๆ รีบพามา กูก็อยากเจอ”
“พวกเหี้ย เออ เดี๋ยวกูถามให้!” ผมตวาดตัดความรำคาญ พวกมันจะได้ไปสนใจเรื่องของคนอื่นที่ไม่ใช่ผมสักที . .
แต่คินตาก็จะออกมาตอนกลางคืนอยู่แล้วนี่นา บอกให้แวะมาหาพวกขี้เสือกนี่สักแป๊บก็ได้มั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่เขาอ่ะแหละ
ด้านของคินตา
สี่ทุ่มครึ่ง
เวลากำลังดี เหมาะที่จะออกไปเที่ยว ผมโทรชวนพรรคพวกให้ออกไปเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้ว มีไอ้ฟิล์มกับไอ้ภัทร ไอ้มิกมันบ่นปวดหัวตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้วผมจึงไม่ชวนมันและตอนนี้ผมกำลังจอดรถอยู่หน้าผับ รอไอ้ภัทรกับไอ้ฟิล์มมาอยู่ ส่วนไอ้เหนือ บอกว่าเดี๋ยวจะตามมาหาอีกที เพราะกินอยู่กับเพื่อนอยู่อีกร้าน วันนี้มันวันอะไรนัดกันเที่ยวจริงๆ แต่เอาเข้าจริงๆผมกับเหนือมันก็เที่ยวเก่งพอกันนั่นแหละถ้าไม่ใช่ช่วงสอบล่ะก็ . .
กลิ่นบุหรี่โชยเข้าจมูกผม ผมสำลัก ไอแค่กๆอย่างคนแพ้ ไม่ชอบกลิ่นเหี้ยนี่จริงๆ
“อ้าว พี่คิน”
ผมไม่ได้เจอมันนาน ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยยยยยยยย สาบานได้ว่าไอ้ปอนด์มันหล่อขึ้นมากกกกกกก แต่เถื่อนโคตร เกิดอะไรขึ้นกับน้องหล่อใสขี้เล่นคนนั้นฟะ?!!! ทรงผมไถข้าง มันเจาะหูกี่รูก็ไม่รู้ครับ ไว้เคราอีกน่ะ ก็หล่อดี แต่แบบ - - จากหน้าตาปีหนึ่งกลายเป็นปีสี่ไปซะงั้น!!!!
“พี่คินแพ้นี่เหรอ” และมันยังสูบบุหรี่ด้วยนะ!!!!
ไอ้ปอนด์ทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นแล้วเอาเท้าขยี้ มันทำให้ผมกลัวนะนี่ ไม่กล้าเล่นหัวมันเลยเพราะแม่งเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ
“มากับใครครับ”
“อ๋อ ตอนนี้กำลังรอเพื่อนมาอ่ะ” ผมยิ้มแหยๆตอบ
“ทำไมทำหน้างั้นอ่ะพี่ ผมน่ากลัวเหรอ” ไอ้บ้าปอนด์มันพูดทีเล่นทีจริง กำปั้นมันต่อยเข้ามาที่แก้มผมเบาๆอย่างล้อเล่น
“เอาจริงๆนะเว้ย” นี่ผมซีเรียสนะ “ไปทำไรมาวะ เถื่อนขึ้นมากกกอ่ะ”
“ฮ่าๆๆๆๆ” ปอนด์กลั้นหัวเราะไม่อยู่ อะไรวะ กูงงนี่กูตลกมากนักใช่ป่ะ “เถื่อนอะไรเล่า เปล่าซักหน่อย”
“ก็แบบ . . หนวดขึ้น แล้วก็ สูบบุหรี่”
“อนามัยๆอย่างพี่ อย่ามายุ่งกับเรื่องพรรค์นี้เลยดีกว่า” ปอนด์ยิ้มโชว์ฟันสวย “ผมสูบตั้งแต่อยู่มอหกแล้ว”
“เห้ยยยย เลิกซะ” ผมรู้สึกเหมือนตัวเองพูดเหมือนเทปที่กรอกลับเป็นครั้งที่สองยังไงยังงั้น ครั้งแรกผมเคยพูดกับไอ้เหนือ รายนั้นก็สูบบุหรี่เหมือนกัน แต่มันบอกว่าสูบเฉพาะเวลาเครียดๆ ป่านนี้ไม่รู้ว่าเลิกยังแต่ผมแพ้ควันบุหรี่จริงจัง ที่แน่ๆคงไม่สูบต่อหน้าผมแล้วล่ะ
ครั้งที่สองก็ . . กับไอ้เด็กนี่
“อ่า ครับๆๆ” มันยิ้มรับคำ แต่ผมไม่รู้นะว่ามันจะทำตามมั้ย “พี่คินสบายดีมั้ย ผมขอโทษนะ ไม่ได้ติดต่อไปหาเลย”
“เห้ย ขอโทษไมวะ สบายดีๆ ดูสิ อ้วนขึ้นตั้งเยอะ”
“ไม่เห็นจะอ้วน” ปอนด์จับผมพลิกซ้ายพลิกขวา “ตัวบางลงกว่าเดิมตั้งเยอะ และนี่ก็ . .” หมับ! มันรั้งเอวผมให้เข้าไปหามันจนผมตกใจ “เอวคอดชะมัด”
“สาดดดด เล่นไรวะ!! ปล่อยดิ” ทำไมกูไม่เกิดมาสูงๆแล้วก็มีแรงเยอะๆบ้างฟะ! ที่จริงร้อยเจ็ดห้านี่ก็ถือว่าโอเคสำหรับชายไทยแล้วล่ะ แต่ไอ้พวกที่ผมรู้จักมันดันสูงมากเอง!!!
“ไหนขอดูหน้าหน่อยสิ ไม่ได้เห็นหน้าตั้งนาน” น้ำเสียงของมันกรุ้มกริ่มอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผมกระพริบตาปริบๆมองดูไอ้เด็กเวรก้มหน้าโน้มเข้ามาหา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนกระพริบอยู่ตรงหน้าผมห่างออกไปประมาณห้าเซนต์ ผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่โชยมาจากลมหายใจของมัน ผมกลืนน้ำลาย . .
“เอ่อ . . มึงไม่เข้าไปในร้านเหรอวะ” ตุ๊ดชิบหายเลยผมเนี่ย! ผมดันทั้งตัวมันออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย ดันนิ่งให้เด็กมันจ้อง กูเพลีย
“น่ารักว่ะ” แม่ง เชี่ยปอนด์ตอบไม่ตรงคำถามผม ผมว่ามันเมาแล้ว! “เห็นใกล้ๆแล้วผมรู้สึกดีกว่าเห็นพี่ไกลๆตั้งเยอะแน่ะ”
“…”
“พี่คิน ผมบอกรึยังว่าผมชอบพี่”
เห้ยยยยยยยยย!!!! มึงมาพูดแบบนี้จะให้กูทำหน้ายังไงวะ?!!!
ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก ขณะบ่ายเบี่ยงเข้าหาประเด็นอื่นอย่างคนจนตรอก
“กูว่านะ เข้าไปข้างในกันเหอะๆ” ผมยิ้มแห้งๆ ชี้ชวนมันเข้าไปในร้าน
“ไม่เอาอ่ะ ผมเพิ่งออกมาเอง” ปอนด์ส่ายหน้า
ชิบหายละกู . . แล้วเมื่อไหร่เพื่อนผมจะมาเนี่ยหา!!!!
“พี่คิน ถ้าผมจะบอกว่า . . ผมตัดใจจากพี่ไม่ได้ล่ะ ผมรู้ว่าพี่รักพี่เหนือมากขนาดไหน แต่ . . ผม ผมก็แค่อยากบอกความรู้สึกของผมให้พี่รับรู้ แค่นั้นได้มั้ยครับ”
ไอ้เด็กบ้านี่มันพูดจริงทุกคำครับ ใบหน้ามันเศร้าๆเวลาที่พูดแต่น้ำเสียงนี่แฝงไปด้วยความจริงจัง ผมกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้จะตอบมันว่ายังไงดี
“ผมขอแค่อย่างเดียว . .” มันถือวิสาสะดึงมือผมไปจับ “เวลาที่พี่ไม่มีใคร อย่าคิดได้มั้ยว่าพี่อยู่คนเดียว เพราะไม่อย่างนั้น มันจะทำให้ผมเห็นว่าพี่ไม่เคยเห็นหัวผมอยู่ในสายตาเลย . . แค่คิด คิดเฉยๆว่ายังมีผมอยู่ . . ได้มั้ยครับ”
. . .
คือมึงโจมตีกูเร็วไปหน่อยมั้ย!!!!!!!!!!!!
แมนโคตรๆ
ไอ้ผมเองก็พอจะเดาๆได้ว่าปอนด์มันคิดยังไงกับผม แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่ามันจะโยนขี้มาใส่หน้าบ้านผมแบบรวดเร็วชนิดที่ว่าตั้งตัวไม่ติดยืนแทบไม่อยู่
“แค่ตอบว่าได้ แค่นั้น”
แน่ะ ยังมาย้ำกูอีกน่ะ
“เอ่อ . . ครับ”
“ขอบคุณนะครับพี่” ฉับพลันทันที ปอนด์ยกมือของผมที่มันกุมเอาไว้ขึ้นมาจุมพิตอย่างรวดเร็วแล้วแตะเข้าไปที่แก้มของมันอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่มันจะเดินจากไป ทิ้งให้ผมยืนเอ๋ออยู่คนเดียวหน้ารถบีเอ็มของตัวเองอย่างงงๆ
รสสัมผัสนิ่มๆยังติดอยู่บนหลังมือ ให้ตายสิ นี่ผมเข้ามาพัวพันกับวงการชายรักชายนี่เต็มตัวแล้วใช่ป่ะ?!!! โอ๊ยยยย รู้สึกแปลกชะมัด แต่ก็นะ จะให้ผมรักคนสองคนพร้อมกันได้ยังไงล่ะ มีรักก็ต้องมีสมหวังมีผิดหวัง เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่เหรอ
ว่าแต่ . . เมื่อไหร่เพื่อนจะลากกูไปจากตรงนี้ซักที!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมไม่กล้าเข้าไปในร้านที่มีไอ้ปอนด์อยู่อีกแล้ว . . น่าจะเปลี่ยนแพลนซะใหม่ และผมไม่ลืมที่จะโทรไปโวยวายใส่ไอ้ตัวเลททั้งคู่อย่างหัวเสียด้วย!!!
สรุป . . ผมขับบีเอ็มมาจอดที่หน้าร้านที่ไอ้เหนือนั่งอยู่ ร้านดนตรีสด บรรยากาศชิวๆโอเพ่นแอร์ไฟสีส้มอร่าม ผมโทรบอกเชี่ยภัทรกับเชี่ยฟิล์มให้ตามมานี่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับถามถึงเหตุผลที่พวกแม่งมาสาย
ไอ้ภัทร “กูทะเลาะกับเอิญ เมื่อวานวันเกิดเอิญช้ะ กูส่งดอกทิวลิปไปให้เขาแต่กูดันลืมว่าปีนี้เขาอยากได้ดอกคาร์เนชัน ทีนี้กูก็เลย . . ง้อยาววววววววววววววว แต่คาดว่าน่าจะหายงอนแล้วล่ะมั้ง เดี๋ยวจะรีบๆตามไปนะ”
เหตุผลของไอ้ภัทรถือว่าเป็นแนวป๊อบซอฟต์ใสน่ารัก แต่ของไอ้ฟิล์มเนี่ยสิ ฮาร์ดคอร์ของจริง!!!!!!
ไอ้ฟิล์ม “กูมาดูคนป่วย(ออกไปจากห้องกูเลย สาด!!!!:นั่นมันเสียงไอ้มิกน!!!)แม่งไม่ยอมกินยา ไม่ยอมกินข้าวที่กูซื้อมาให้(กูบอกให้ออกไปไง ไม่ได้ยินเหรอ!!!!) กูว่าคงอีกนานเลยล่ะ กว่าคนป่วยจะยอมสงบ ผลั่ก! โอ๊ยยยยย มิก มึงโยนมาหาพ่องงงงงงงง!!!!! (ออกไป!!!) เดี๋ยวกูกล่อมให้มันนอนหลับปุ๋ยเชื่องเป็นลูกแมวก่อนนะ เดี๋ยวกูจะตามออกไป นี่!!! อย่าโวยวายสิวะ!!!(ไอ้เอี้ย อ่อยอู๊! : ไอ้เหี้ย ปล่อยกู๊!) อยากโดนจูบเหรอ! (. . ถึงกับเงียบกริบไปเลย) แค่นี้ก่อนนะ โอ้ยยยย ฤทธิ์เยอะจริง”
ผมถือสายค้างไว้ และปากผมก็อ้าปากค้างตาม คือพวกมันทั้งสองคนที่อยู่ปลายสายอ่ะ เสียงดังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้ฟิล์มนี่ขี้หงุดหงิดโวยวายเสียงมันดังเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนไอ้มิก ได้ข่าวว่ามึงไม่สบายอยู่นะ - - ไอ้นี่มันป่วยจริงป่ะวะ!! แต่ก็ช่างมันเหอะ ถ้าพวกมันสองคนคบกันล่ะก็คงจะตลกพิลึก แต่มันจะมีวันนั้นของไอ้ฟิล์มมั้ยน้า
หึหึหึ หรือผมต้องช่วยอีก . .
“คินครับ” ก๊อกๆๆ หน้าหล่อๆ ผมเซ็ทไม่เป๊ะแต่เท่โคตรของไอ้เหนือโผล่มาจากทางหน้าต่าง มันยิ้มแฉ่งขณะที่ผมเองกำลังจัดการกับของในเก๊ะก่อนออกไปหามัน “มาช้าอ่ะ”
“โทษไอ้ภัทรกับไอ้ฟิล์มเลย อย่ามาโทษกู”
“โอ๋ๆ มาก็ดีแล้ว ง่ะ วันนี้แต่งตัวดูดีนะ” เหนือมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า หึหึ ไม่ดูดีได้ไง กูเกิดมาเพื่อเป็นนายแบบ ฮ่าๆ ว่าแต่จ้องกูแบบนี้ กูเขินมั่งเหอะ! “แต่บางไปหน่อย ไฟส่องนิดเดียวเห็นหมดแล้วเนี่ย”
“ก็ดูดีออก”
“ดูดีครับ แต่ให้เหนือดูคนเดียวได้มั้ยล่ะ” มันแย่งกุญแจรถไปจากผม แล้วก็เปิดเอาเสื้อนอกที่พาดอยู่บนเบาะรถุผมมาสวมทับให้
“เห้ย!!!!!”
“ห้ามโวยวาย”
“เชี่ยเหนือออออ!!!!”
“หวง ชัดป่ะ”
เหนือจับไหล่ทั้งสองข้างของผมแล้วดันให้เดินไปข้างหน้า คำพูดทุกคำของผมละลายหายลงไปมุดอยู่ใต้ท้องรถบีเอ็มของผมไปหมดแล้วหลังจากที่มันพูดประโยคนั้นให้ผมฟัง
“วันนี้จะพามาเปิดตัว”
“ฮะ?” ผมทำหน้างงกับคำพูดนั้น
“เพื่อนเหนืออยากเห็นแฟนเหนืออ่ะ”
อ้าว ชิบหายเลยสิกู . . ไม่ได้ตั้งตัวตั้งอะไรเลยโว้ยยยยยยยยยย
“เห้ยยยยยยยย นั่นไง มาแล้วๆ!!!!!!!!!!!!!!!”
“ในที่สุดกูก็ได้เห็น!!!!!”
“นั่งครับนั่งๆๆ”
“ทำไมน่ารักกว่าเดิมวะเนี่ย!!!!!!!!!!!!”
เอ่อ . . กูอึนไปหมดแล้ว ทีละคนได้ป่ะ
“สัด ห้ามแตะ” เหนือพาผมนั่งลง แล้วก็ปัดมือเพื่อนมันที่กำลังจะเข้ามาจับมือทักทาย “เชี่ยยิม มองห่าอะไรด้วยสายตาแบบนั้นน่ะ เลิกมอง!!! ไอ้สัดโจ๊ก มีอะไรพูดกับกูตรงๆอย่ามาซุบซิบ เชี่ยจิว!! กูบอกว่าอย่าจับไง!!!”
“โว๊ะ ไอ้สาดดดด หวงเมียโคตรๆ” คนที่นั่งข้างผมมันจิ๊ปากใส่ไอ้เหนือ
“เชี่ยบาส เรื่องนี้มึงจะว่ายังไง!” หัวสกินเฮดนามว่าโจ๊กถามไอ้บาสที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งข้างๆไอ้เหนือ ทั้งโต๊ะหันขวับไปหามัน ผมเองก็หัน
ยังจำกันได้รึเปล่า . . บาสชอบผม และเรื่องนี้เหนือก็รู้
“อะไร ว่ายังไงวะ” บาสเอ๋อกว่าที่ผมคิดแฮะ
“ก็ . . แฟนเชี่ยเหนือ เป็นคนเดียวกันกับคนที่มึงปลื้มนักปลื้มหนายังไงล่ะวะ!” โจ๊กพูดต่อ เหนือคว้ามือผมมากุม ส่วนบาสยิ้มซื่อๆ
“ก็ปลื้ม เห็นน่ารักดี แต่ถ้าจะจีบ คงคิดว่าไม่ได้ เหมือนเค้าจะมีคนที่เค้าชอบอยู่แล้ว”
“ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว” พวกมึงเสียงดังอายคนทั้งร้านมั้ยนั่นน่ะ!!!!!!!!
“และคนที่เค้าชอบคงจะเป็นไอ้เชี่ยเหนือล่ะสิท่า” คนนี้ชื่อยิม ผมจำได้
“ไอ้ห่านี่ มีดีอะไรนักหนาวะ หน้าก็บ้านๆ เงียบๆหยิ่งๆ ไม่เห็นจะหล่อเลย” โจ๊กใช้เท้าเขี่ยหน้าแข้งไอ้เหนือเบาๆอย่างคนสนิทกัน
“ง่ะ งั้นข่าวที่กูได้มาก็จริงดิวะ ที่เชี่ยบาสกำลังจีบรุ่นน้องคณะเราอยู่”
“เออๆ อันนี้เคยได้ยินๆ”
“นั่นไงล่ะ มีอะไรจะเล่ามั้ย หาๆ”
บาสหน้าแดงขณะกระดกแก้วเข้าไปในปาก ผมได้ยินเสียงเหนือถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนที่จะส่งแก้วที่มีแต่ . . น้ำส้มคั้นให้ผม!!!
“เฮ้ย อะไรนี่ เหล้าอ่ะ จะเอาเหล้าๆๆ” ไม่ได้แดกตั้งนาน วันนี้กูขอเมา ไม่เมา ไม่กลับ!!!!!
“ไม่ได้ เมาต่อหน้าพวกนี้ไม่ได้”
นี่กูมากับแฟน หรือกูมากับเจมส์ ผมอยากจะเอาตีนก่ายหน้าผาก
ตัวเอง
“ทำไมฮะ สัดเหนือ พวกกูมันทำไม!!!!!” โจ๊กหันมาถามอย่างหาเรื่อง
“พวกมึงหื่น”
“เหี้ยอะไร หรือเวลาแฟนมึงเมาแล้วจะถอดเสื้อผ้าวะ งั้นเดี๋ยวผมชงให้นะคร้าบบบบบบบบบบบบ”
ป๊าบ!
“ฮ่าๆๆ เชี่ยจิว กูว่าคืนนี้อย่าไปแตะแฟนเหี้ยเหนือเลยดีกว่า ไม่งั้นมึงเจ็บหนักจริงๆแน่”
“รู้ก็ดี”เหนือพึมพำขณะป้อนถั่วเข้าปากผม ที่ทำหน้าหงุดหงิดเพราะตัวเองไม่ได้ดื่มแอลซักหยด . .
“นี่”
“ไร”
“งอนเหรอ”
“เปล่า”
“งอนชัดๆ”
“ไม่โว้ย”
“งั้นเสร็จนี่ ซื้อไปกินกันสองคนป่ะล่ะ”
“เอา”
“เห้ย! เอาจริงดิ”
“จริงสิ เชี่ยฟิล์มกับเชี่ยภัทรติดค้างกูอยู่”
“งั้นก็ตามใจ”
“^^”
“ยิ้มออกแล้วล่ะสิ”
“หึ แน่นอน”
“นี่ ถ้าเวลาเหนือเมา แล้วเหนือทำ . . ขึ้นมาล่ะ ?”
“ทำ? ทำอะไร”
“ก็ . . แบบ ทำอะไรคินอ่ะ แบบอย่างว่า”
“มึงก็จะตายคาตีนกูนี่ไง”
“งั้นกูไม่เมาดีกว่า อื้มมมม”
ย่องมาอัพกลางดึกแบบเซอไพรส์!
เป็นกำลังใจให้ไฟนอลของเค้าด้วยนะ จุ๊บๆ
เม้นเชียร์เหนือกันหน่อย ขอให้คินยอมแต่โดยเร็ว ฮึบๆ