ต่อจากด้านบนค่ะ
v
v
ผมกวาดตาดูในหนังสือนั้นต่อ พยายามไล่ดูจากเพื่อนของไอ้เกงยีนจนไปเจอมัน ไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไร แต่มันชอบทำผมยุ่งๆ ดูหล่อดี ท่าทางเอาเรื่องไม่เบา คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้งถึงทำให้มีโจทก์เยอะ อย่างวันก่อนที่โดนไล่ตามนี่ก็มากันเป็นโขยง ถ้านับรวมอริของมันทั้งหมดอาจจะมีหลายร้อยก็ได้
ใช้ชีวิตเสี่ยงตายเหลือเกินนะครับคุณพชร มิน่าป๊าถึงได้ห่วง
ดูจนจบเล่มพร้อมมีซาวน์เอฟเฟกต์เป็นเสียงเครื่องยนต์ดังคลอ ผมก็เดินกลับไปเก็บหนังสือเข้าที่เดิม เปลี่ยนเป็นพวกหนังสือเอฟวันแทน จากนั้นเดินไปที่เตียงมันและหย่อนตัวลงไป เตียงมันกว้างแล้วก็นิ่มดี น่านอน พอคิดแบบนั้นก็ล้มตัวลงไปซบกับเบาะนุ่มๆ นั่น ได้กลิ่นอ่อนๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมของมัน
คนละกลิ่นกับที่เคยได้กลิ่นจากตัวมันตอนอยู่คอนโดไอ้กราฟ แต่กลิ่นนี้ก็หอมดี
ไม่รู้ว่าเพราะแอร์เย็นๆ กลิ่นหอมๆ หรือที่นอนนุ่มๆ กันแน่ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเริ่มจะง่วงทั้งที่เปิดหนังสือในมือดู หนังตาปิดลงทีละนิดก่อนจะครอบดวงตาจนสนิท ปล่อยให้ตัวเองล่องลอยอยู่ในห้วงนิทรา ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นหน้าใสๆ ของเจ้าของห้องอยู่ใกล้ๆ ลมหายใจของมันเป่าอยู่บนหน้า
“เฮ้ย!!”
เหมือนว่ามันจะตกใจอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆ ผมก็ลืมตาขึ้นมา มันผละหน้าออกห่างแต่ก็ช้าไป เพราะว่าผมคว้าเอวมันไว้แล้วกระชากตัวบางๆ นั่นเข้ามาหาจนนอนทับอยู่บนตัวผม
“ทำอะไร”
“ก็.. ก็ดูว่าหลับจริงหรือเปล่า”
เสียงมันตะกุกตะกักเล็กน้อย กลอกตาไปมาเหมือนกับไม่กล้าสบตาผมตรงๆ เห็นแบบนี้ยิ่งรู้สึกอยากแกล้ง ทั้งที่รู้ว่าคนอย่างมันไม่ทำอย่างที่ผมแหย่หรอก
“ไม่ได้จะลักหลับ?”
“ใครเขาจะไปลักหลับกันเล่า!”
มันโวยวายพลางดิ้นให้ผมปล่อย แต่ในเมื่อโอกาสมาถึงแบบนี้ใครจะโง่ปล่อยล่ะครับ ผมจับมันพลิกตัวลงไปนอนบนที่นอนแทนแล้วเปลี่ยนตัวเองขึ้นมาคร่อมมัน เล่นเอาไอ้คนตัวผอมตาเหลือกอย่างตกใจ จ้องผมตาไม่กะพริบ
“อะไรวะ มาบ้านคนอื่นแล้วก็มาหลับเฉยเลย ขอเจ้าของห้องเจ้าของเตียงก่อนก็เปล่า ไม่มีมารยาทว่ะ”
ถึงมันจะแสดงออกมาให้เห็นว่าตกใจแค่ไหน แต่ปากแดงๆ นั้นก็ยังหาเรื่องมาพล่ามได้อยู่ดี แล้วพูดมาแต่ละทีนี่ก็น่างับปากให้หลุดออกมาจริงๆ
“ก็เตียงมึงนุ่ม นอนสบาย เลยเผลอหลับ ไม่ได้หรือไง แค่นี้ทำหวง”
“หวงดิ คนอื่นมานอน ไม่หวงได้ไง”
“กับคนเคยๆ”
“ใครเคยๆ!”
มันโวยอีกรอบแล้วก็เตะขาไปมาหวังจะเอาตัวรอดจากการคร่อมของผมให้ได้ แต่ขอโทษเถอะครับ มึงเตะไปก็ไร้ประโยชน์เพราะว่ากูคร่อมตรงเอวมึงพอดี แต่ถึงอย่างนั้นพอมันดิ้นมากก็ชักรำคาญอยู่ดี ผมเลยก้มลงไปปิดปากมันเสียเลย แต่ใช่ว่าทำแล้วมันจะเฉย
ไอ้เกงยีนยกมือขึ้นมาดันคางผมให้ปากที่ประกบกับปากของมันอยู่หลุดออกไป ผมต้องดึงมือทั้งสองข้างมันออกแล้วล็อกเอาไว้เหนือหัว ก่อนจะบดจูบลงไปให้แรงมากกว่าเดิม
“อื้อออ อ่อยยย”
เสียงอู้อี้ของมันดังอยู่แป๊บนึง ผมจึงถือโอกาสตอนมันอ้าปากนั่นแหละยัดลิ้นลงไปรุกไล่ภายใน ดูดปากรั้นๆ แดงๆ ให้คนดื้อที่พยายามดิ้นอยู่สงบลง ซึ่งมันก็ได้ผล
เกงยีนค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาปะทะกับหน้าผม ขณะที่ปากของมันก็ขยับจูบตอบผมทีละนิดอย่างน่ารัก แขนที่ผมล็อกเอาไว้ทีแรกไม่ต้องออกแรงมากเหมือนเก่าเพราะมันไม่ได้ขัดขืนอะไรแล้ว ดูเหมือนจะเต็มใจให้ผมจูบแล้วเสียด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นผมเลยตักตวงความหอมหวานได้อย่างเต็มที่
ผละจูบออกมาเล็กน้อยแล้วมองหน้ามันที่ระเรื่อเป็นสีแดง ตาของมันปรือขึ้นทีละนิดและมองหน้าผม ตากลมใสสีน้ำตาลเป็นประกายวาววับ
แล้วแบบนี้จะให้ผมหยุดอยู่แค่นี้ได้ยังไง?
ผมก้มลงไปจูบมันอีกครั้ง ขบปากแดงๆ นั้นอย่างมันเขี้ยว มันก็ดูดปากของผมกลับเบาๆ ให้ผมยิ่งถอนจูบจากมันไม่ได้ แล้วต้องสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวเล่นกับลิ้นของมันอยู่ภายใน มือที่ล็อกแขนของมันละออกมาข้างนึง เลื่อนลงมาสอดเข้าใต้เสื้อยืดของมันแผ่วเบา
เพียงแค่ได้สัมผัสผิวลื่นๆ มันก็สะดุ้งเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังก่อกวนมันด้วยจูบร้อน ให้คนใต้ร่างเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบของผม มอมเมามันด้วยความชำนิชำนาญ ทว่ามันคงชำนาญพอกันถึงทำให้ผมลุ่มหลงจนไม่อยากละปากออกมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็จำต้องตัดใจถอยห่างออกมา กระซิบเสียงแหบพร่าพลางมองมันที่ลืมตาขึ้นมองผมเช่นกัน
“กูชอบมึง”ก่อนจะจูบมันซ้ำอีกครั้ง ราวกับเป็นการกระทำที่ห้ามปรามตัวเองไม่ได้ สีหน้า แววตา และริมฝีปากของเกงยีนกำลังล่อลวงให้ผมอยากจะทำในสิ่งที่มากขึ้น มือที่สอดอยู่ระหว่างเสื้อยืดสีดำกับผิวเนื้อขาวจึงลากลูบผ่านหน้าท้องเรียบให้เจ้าของร่างหดเกร็งเล็กน้อย เลื่อนขึ้นไปยังแผ่นอกราบแบน สะกิดเบาๆ กับยอดหยุ่นบนนั้นและก็ทำให้ร่างบางๆ นั้นสะท้าน
“ไอ้ยีน!”
แต่ก่อนที่จะอะไรเลยเถิดมากไปกว่านั้น เสียงของบุคคลที่สามก็ดังขึ้นเสียก่อน และเมื่อหันไปมองทางด้านหน้าประตู ผมก็เห็นไอ้กราฟกำลังยืนมองมาทางพวกเราด้วยสายตาตกตะลึง ดวงตาของมันเบิกโพลงอย่างที่ผมไม่เคยเห็น ก่อนร่างนั้นจะหมุนตัวแล้วเดินกลับออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ไอ้กราฟ เดี๋ยว ฟังกูก่อน!”
คนที่ผมคร่อมทับอยู่ผลักผมเสียกระเด็นลงไปนอนอยู่บนที่นอนนุ่มๆ แล้วรีบลุกออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้ผมนอนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น กว่าจะตั้งสติได้ประตูห้องก็ปิดไปนานแล้ว และไม่ต้องคาดเดาก็พอรู้ว่า...ถึงจะอยู่ที่นี่ต่อไปคงไม่มีประโยชน์อะไร
ทั้งที่เพิ่งสารภาพรักไป...
ทั้งที่อีกฝ่ายเหมือนจะมีใจ
แต่มันคงกลายเป็นการเข้าข้างตัวเอง
น่าสมเพชฉิบหายเลย ไอ้ชมภู
หัวเราะตัวเองเบาๆ แล้วผมก็ลุกขึ้นจากที่นอน ย่างเท้าลงจากเตียงที่เมื่อครู่ยังเหมือนสวนสวรรค์ของผม เปิดประตูห้องออกเพื่อลงไปยังชั้นล่าง ทว่าทันทีที่ก้าวออกมาจากพื้นที่สี่เหลี่ยมนั้นกลับทำให้รู้สึกว่ากูไม่น่าออกมาเลย เพราะว่าสิ่งที่ผมเห็นเต็มสองตาอยู่ในตอนนี้คือ...
ไอ้ยีนที่ถูกดันจนชิดผนังข้างประตูและกำลังรับจูบจากไอ้กราฟ
เสียงปิดประตูคงทำให้มันรู้ว่าผมออกมาจากห้องแล้ว ไอ้เกงยีนถึงได้เหลือบตามาทางผมแล้วเหลือกตากว้าง แต่สำหรับผมแล้ว...
แม่งเจ็บหัวใจเหี้ยๆ!!
==================
เหมือนจะหวาน แต่ทำไมจบแบบดราม่าล่ะเนี่ย?? 
ตอนต้นเดือนติดภารกิจค่ะ จริงๆ ตอนนี้ก็ติดอยู่ แต่แอบแวบมาแต่งก่อน
ดีใจแอบมีคนแวะมาบอกว่าคิดถึงน้องยีน ขอบคุณมากค่ะ 
พี่ภูเรียกความสงสารจากคนอ่านได้มั่งมั้ยน้อ?
เจอกันตอนหน้านะคะ
Undel2Sky