"No broken Heart ,Non broken Glass"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "No broken Heart ,Non broken Glass"  (อ่าน 526829 ครั้ง)

ออฟไลน์ nokkie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +56/-0
ความสามารถพิเศษนี้รึเปล่าที่บาลีกล้วว่าคอสจะกลัว

Giniz

  • บุคคลทั่วไป
บอกกันขนาดนี้ เค้าก็อดใจรอตอนที่31ไม่ไหวอ่ะสิ  :oo1:

ปล.บาลี นายแอบน่ากลัวเบาๆนะ

kakuro

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณไจฟ์ที :L2:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
สองผัวเมียนั้นน่าจะเข็ดแล้วนะ คงไม่มายุ่งกับหนังสือแล้ว
แต่คนที่ต้องเคลียร์ก็เหลือก้อย อยากรู้ว่าแพทไปทำอะไรมากันแน่

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 o13

บาลีเจ๋งอ่ะ  สงสารหมอกจัง  แพทจะรู้มั้ยคนที่จริงใจกับตัวเองที่สุดกำลังเสียใจ

รอให้บาลีจัดการแก้วอีกใบ

+1และเป็ด

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
บาลีน่ากลัวหงะตอนนี้

- คราส -

  • บุคคลทั่วไป
บาลีโหดแฮะ
 :pig4:

ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
อ๊า  พี่บาลีจาเป็นรัยมั้ยนิ แต่กับคนแบบนี้แค่นี้มันยังน้อยไป

Gohan

  • บุคคลทั่วไป
:a2: สองผัวเมียจอมดาร์กเจอจัดเต็มของบาลีกับปู่
ถึงกะผมขาวผมร่วงกันเลยทีเดียว วะฮะฮ่า สมน้ำหน้า
ยังเหลือก้อยอีกคน รายนี้ท่าจะโดนหนักกว่า หุหุ
ใจคนนี่มันยากแท้หยั่งถึงจริงๆ เนอะ
แพทก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ เอาใจช่วยผู้กองหมอกให้ปราบแพทจนอยู่หมัด
เรื่องเริ่มงวดขึ้นๆ ล่ะ รอฆาตกรตัวจริงออกมารับผลกรรม พร้อมกับแก้วอีกหนึ่งที่ไม่แตก

วันอาทิตย์เจอกัน ขอบคุณสองหนุ่มครับ ^^

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อั๊ยยะ...~
มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วเหรอ
เค้าเพิ่งรู้อ่ะ
~~~~
ถ้าบอกว่าสะใจ
มันจะดูเหมือนนางร้ายไปไหม
แต่เค้ารู้สึกแบบนี้จริงๆนะ
ตอนนี้พี่บาลีเท่ห์มาก
(ไม่เรียกลุงแล้ว เท่ห์เกิ๊น)
สงสารพี่หมอกอ่ะ
อยากให้น้องแพทรักตอบบ้างไรบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: "No broken Heart ,Non broken Glass" (ตอนที่ 23 หน้า 30#29/12/2554)
« ตอบ #909 เมื่อ: 30-12-2011 11:03:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
บาลี.......น่ากลัวนะเนี่ย
ถ้าคอสมาเห็นคงกลัวหัวหด จ๋อยแน่ๆ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
:m3: กรี๊ดดดังๆให้พี่บาีลี วันนี้แสดงฝีมือได้ถูกใจสุดๆ
เล่นเอาพี่บาลีเึ้ค้าเป็นลมไปเลย
ป๋าไจฟ์มีแอบแย้ม nc ให้ได้ตั้งตารอกันอีกด้วย :haun4:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
โว้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยิ่งอ่านยิ่งเข้มข้น บาลีกับปู่สุดยอดอ่ะ เล่นงานซะสองคนนั้นผวาไปเลย

คนโลภแบบนี้มันต้องเจอซะบ้างจะได้รู้จักเข็ดซะที หึหึหึ

แต่แหม คราวนี้คุณไจฟ์มาสปอยล์เองเลยนะว่า nc คู่หลักจะมาตอนไหน อิอิอิ

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ คุณไจฟ์น้องที ^^

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
บาลีมีอาวุธที่เท่ได้ใจ...ฮ่าๆ
กำลังอยากมีพลังแบบนี้เช่นกัน...เรื่องส่วนตัวทั้งนั้น ^^"

กำจัดตัวโลภและจิตไม่ปกติไปได้ชั่วคราว??
เดาว่า เดี๋ยวความโลภก็พามันมาอีก...เฮ้ออออ

ส่วนก้อยยังคงความน่ากลัวได้อยู่เสมอ
สงสารน้องนักเรียน...จะเป็นคนเดียวกันมั้ยนะ

เป็นสวัสดิภาพของน้องคอสและน้องมะตูม...เหนื่อยแทนบาลีด้วยล่ะ ^^V

Yukisae

  • บุคคลทั่วไป
อร๊ายยยยย นายรักอ่านเท่ห์มาก ชอบบบบบบบ :-[
นี่ขนาดยังไม่โกรธมากนะเนี่ย >____<
สะจายยยยยย คุณปู่สุดยอดดดด
ก้อยโรคจิตอ่ะ สงสารเด็กผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย
รอตอนที่31 หุหุ อ่านตอนนี้แล้วชอบอ่ะ
+1+เป็ด+กอดจ้า

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ที่หมอกเคยพูดว่าบาลีเคยจัดการกับใครสักคนในตอนต้นๆ มันน่ากลัวอย่างนี้เอง
พระเอกเราสุดยอดมาก o13

LoveBaBy

  • บุคคลทั่วไป
โอ้วววววววววววววววววววววววววววววว
มันส์มาก ซะจายยยย ลุ้นตัวโก่งเรย
นายรักอ่าน กะ ปู่ จัดเต็ม อิอิ
ผู้กองหมอกอ่า ไม่น่ามาขัดจังหวะเรย ><

เริ่มระแคะระคาย คอสชอบก้อย ก้อยชอบเป็นหนึ่ง
เอ๊ะ!! เป็นหนึ่งชอบใคร??
เป็นหนึ่ง...อย่ากลัวจิ พูดได้แล้ว
เค้าอยากรู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ

ลุ้นต่อไป รอผู้กองหมอก รอเป็นหนึ่งพูด รอ nc คึคึ

ขอบคุณไจฟ์ทีจ้า
พรุ่งนี้ทามบุญเผื่อด้วยนะ อิอิ

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
ผมกลายเป็นสีขาว   o22
ใช้พลังเยอะไม่แล้วเนอะ พักผ่อนๆ  :กอด1:
รอตอนต่อไปฮะ  ^^

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
สุดยอดเลยนายรักอ่าน รอให้จัดการมานานแล้ว

ต่อไปก็ก้อย เมื่อไหร่จะเปิดเผยความชั่วร้ายน๊าาา

maprang-baba

  • บุคคลทั่วไป
ชอบมากเลยคร้าาาาาาาา ชอบๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: "No broken Heart ,Non broken Glass" (ตอนที่ 23 หน้า 30#29/12/2554)
« ตอบ #919 เมื่อ: 30-12-2011 22:58:05 »





ออฟไลน์ Dongmin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
รอตอนพิเศษครับ

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
รออ่านนะคะ

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
สวัสดีปีใหม่คะ
ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไป  :L2:                                                               

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สวัสดีปีใหม่ไจฟ์ น้องที
มีความสุขมาก ๆ นะคะ สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวย ๆ

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
"No broken Heart ,Non broken Glass" (ตอนพิเศษ#1/หน้า 31)
«ตอบ #924 เมื่อ01-01-2012 07:42:03 »

อรุณสวัสดิ์นายงูใหญ่
เริ่มต้นปีใหม่ด้วยความสุข และขอให้ความสุขนั้นคงอยู่ตลอดปีครับ

(ตอนพิเศษตอนที่ 1)


ช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำ หนุ่มนักเรียน ม.6 ลงจากรถเมล์แล้ววิ่งหน้าตั้งกลับมาที่ร้านนายรักอ่าน ห้องแถวสร้างด้วยไม้ขนาด 2 ชั้นแบบดั้งเดิม
ร้านไม่มีลูกค้าเหมือนทุกวันที่ผ่านมา แต่บนโต๊ะตัวเล็กหน้าร้านมีเงินเหรียญค่าหนังสือพิมพ์วางอยู่อย่างไม่กลัวว่าใครจะมาหยิบไป
“พ่อ หวัดดี ผมกลับมาแล้ว”
“เออ พ่ออยู่หลังร้าน”
หนุ่มนักเรียนเดินผ่านตู้หนังสือเรียงรายไปด้านหลังร้านที่เป็นตรอกเล็กๆ ชายวัยประมาณ 40 ปีกำลังเก็บไขควงลงกล่องอุปกรณ์
“พ่อหวัดดี ทำอะไร”
“ซ่อมก๊อกมันรั่ว”
“.....หิวหรือยังบาลี....”
บาลีหันไปยกมือไหว้ชายชราผมสีดำในชุดเสื้อขาวกางเกงสีกากี ที่ยืนอยู่ในร้าน
“ปู่หวัดดี หิวครับ จะหกโมงแล้วนะพ่อ” ตอนท้ายบาลีหันกลับมาบอกพ่อ
“เออ งั้นบาลีไปหุงข้าวเลย พ่อออกไปซื้อไข่ไก่ก่อน” พ่อยกกล่องเครื่องมือเข้ามาเก็บด้านใน
“ผมหุงข้าวแล้วออกไปซื้อเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรๆ” พ่อบอกเดินมาหยิบเงินในลิ้นชักโต๊ะ “บาลีหุงข้าวแล้วทำการบ้านไปเถอะใกล้สอบแล้ว พ่อไปร้านไอ้เฮงแป๊บเดียว”
บาลียืนมองพ่อเดินออกไปจากร้านด้วยความรู้สึกที่ว่าพ่อจะไม่ได้กลับมา

ปู่คือนายรักอ่านคนที่ 1 ที่มีความสามารถในการได้ยินเสียงเรียกของหนังสือโบราณ และเมื่อได้ยินแล้ว ก็ต้องออกไปติดตามหามาซ่อมแล้วเก็บไว้รอเจ้าของที่แท้จริงมารับไป
ภาระผูกพันนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ผ่านไปนานหลายสิบปีปู่ก็ยังนึกไม่ออก รู้แต่ว่า หากได้ยินเสียงเรียกแล้วไม่ออกไปนำหนังสือนั้นกลับมาซ่อม จิตใจของเราเองนี่แหละ ที่มันร้อนรนทุรนทุราย จนต้องออกไปตามหาหนังสือนั้นกลับมาในที่สุด การทำหน้าที่นายรักอ่านในช่วงแรกต้องเผชิญกับความไม่เข้าใจจากคนรอบข้างมากมาย จนในที่สุดปู่ก็ต้องจัดการร้านนี้ไปตามลำพัง
นายรักอ่านคนที่ 2 คือพ่อ ที่ก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอื่นใดนอกไปจากความสามารถในการได้ยินเสียงเช่นกัน วิญญาณที่พ่อสัมผัสได้คือปู่กับเจ้าของหนังสือที่จะปรากฏให้เห็นเฉพาะตอนที่มีผู้มารับหนังสือไปเท่านั้น
พ่ออ่านสายตาใครไม่ได้ ไม่มีสัญชาตญาณระวังภัยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็น่าแปลกที่ตลอดช่วงที่พ่อเป็นนายรักอ่าน มันคือช่วงเวลาที่ร้านอยู่อย่างสงบที่สุด จนกระทั่งเมื่อบาลีเริ่มแสดงให้เห็นว่า มีความสามารถมากกว่าการได้ยินเสียงเรียก
บาลีในวัยเด็กยังเห็นและพูดคุยกับวิญญาณดวงอื่นได้ แม้เพื่อนบ้านและคนแก่คนเฒ่าจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องแม่ซื้อ  แต่เมื่ออายุ 6 ขวบเข้าโรงเรียนแล้ว บาลีก็ยังคงเล่นกับแม่ซื้ออยู่เหมือนเดิม ความหวาดกลัวของแม่ก็มากเกินกว่าที่จะอยู่ในร้านนายรักอ่านได้
สุดท้ายแม่ก็จากไป
ถามบาลีว่ามันคือปมด้อยหรือไม่ เคยโหยหาหรือไม่ บาลีก็แค่ยิ้ม ไม่เคยถามถึง ไม่เคยพูดถึง
เพียงแต่เรียนรู้ว่า ความสามารถที่มีอยู่ไม่ใช่เรื่องที่สามารถแสดงออกต่อหน้าคนอื่นได้
 
เด็กน้อยวัย 10 ขวบในร้านขายของชำที่อยู่ติดกันยื่นถุงขนมห่อใหญ่มาข้างหน้า “พี่กินมั้ย”
“ไม่ล่ะ ย้งกินเหอะ แล้วนี่กินข้าวแล้วหรือไงถึงกินขนม”
“ยัง เพิ่งทำการบ้านเสร็จเนี่ย”
“อะไรวะ การบ้านอะไร”
“มันโอ้เอ้น่ะสิ บาลี” เสียงแม่ของย้งตะโกนออกมาจากหลังร้าน “กลับมาตั้งแต่ยังไม่สามโมงครึ่ง ทำทุกอย่างยกเว้นการบ้าน”
ย้งหันมาทำหน้าตาล้อเลียนแม่กับบาลี แต่แม่เดินออกมาเห็นพอดี “ยังมาทำหน้าตาพิกลอีก ไปกินข้าวได้แล้ว”
แม่ย้งหันมาถามบาลีต่อ “พ่อไปไหนล่ะ”
“ไปซื้อไข่ครับ”
“ใกล้สอบเข้ามหาลัยแล้วสินะ”
“ครับ”
แม่ย้งพยักหน้า หันไปมองย้งที่เดินไปกินข้าว “ไวจังเนอะ เหมือนเพิ่งเห็นพ่อเค้าอุ้มบาลีตัวแดงๆ มาอวดเมื่อวานนี้เอง”
แม่ย้งเดินเข้าร้าน บาลีก็กลับเข้าร้านเหมือนกัน
“...คิดถึงแม่หรือไง...” เสียงทักถามเย็นๆ จากในร้าน
“เปล่า” บาลีบอกแล้วเดินผ่านไปที่ชั้น 2 หุงข้าวรอพ่อกลับมา

ในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ก็มีคนวิ่งมาตามบอกว่าพ่อโดนคนร้ายแทงจนเสียชีวิตอยู่ห่างจากร้านค้าของชำไม่มากนัก
บาลีวิ่งไปดู เสื้อยืดสีขาวของพ่อชุ่มไปด้วยเลือด ถุงไข่ไก่และของสดที่จะมาทำเป็นมื้อเย็นตกเกลื่อนพื้น
บาลีกลายเป็นคนไร้ญาตินับจากนั้น มันอาจทำให้ดูเงียบเหงา แต่มันก็ไม่ได้ต่างจากวันที่ผ่านมา เพราะกิจการร้านหนังสือไม่ได้เฟื่องฟูมาแต่ไหนแต่ไร บางวันพ่อยังต้องปิดร้านเพื่อเดินทางไกลไปตามหาหนังสือ แล้วกลับมาซ่อมหนังสือทีละหน้าด้วยซ้ำไป
มรดกเหล่านี้ไม่เห็นจะมีใครที่ไหนเข้ามาแย่ง เมื่องานศพผ่านไปก็ไม่มีใครติดต่อมาอีกเลย
แต่มันทำให้เห็นบางสิ่งบางอย่างชัดเจนขึ้น นั่นคือมิตรภาพจากเพื่อน ทั้งฟอง หมอก เจ็ต และโอม ซึ่งต่อให้แยกย้ายกันเรียนต่างสถาบัน แต่ทั้งหมดก็ยังคงแวะเวียนมาหา บางทีก็เฝ้าร้านให้ในเวลาที่บาลีไม่อยู่
จนกระทั่งวันหนึ่งที่บาลีออกไปกินข้าว และเดินเที่ยวกลับมาที่ร้านตอนเกือบสี่ทุ่ม ประตูเหล็กพับหน้าร้านมีร่องรอยถูกงัด
ปู่นั่งกอดอกทำหน้าตาภูมิใจอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเดิม
“.....ฝีมือปู่เอง.....”
“มีขโมยหรือปู่”
“....เออ ร้านนายรักอ่านถูกงัดเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี....”
บาลีได้แต่ขำ “ภูมิใจอะไรแปลกๆ นะปู่”
“....แสดงว่าเราก็น่าสนใจเหมือนกันไง....”
“แล้วเรามีอะไรน่าสนใจ”
ปู่หันไปมองรอบร้านแล้วยักคิ้ว “....ใครจะไปรู้...”
“พูดแบบนี้รู้แน่นอน มาปู่กินปลากริม” บาลีบอกขณะที่หันไปหยิบธูปดอกเดียวจุดเรียกแล้ววางไว้ใกล้ๆ
ในอีกไม่เกิน 3 วันถัดมา บาลีกับปู่ถึงได้รู้ว่าหัวขโมยต้องการอะไร
ชายรูปร่างอ้วนเตี้ยท่าทางร่ำรวย เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับผู้ติดตามอีก 2 คน
“ชั้นต้องการคัมภีร์หมื่นฟ้า”
บาลีมั่นใจว่าไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้มาก่อน แต่พอได้ยินน้ำเสียงแบบผู้มีอำนาจพูดชื่อของคัมภีร์ ภาพของม้วนกระดาษในกล่องไม้เนื้อดีก็ปรากฏขึ้นในความคิด
“นิยายจีนหรือครับ” บาลีถามขณะที่หันไปมองชั้นวางหนังสือกำลังภายใน
“ไม่ใช่”
บาลีเหลียวมองไปรอบตัว “แล้วเป็นหนังสือแบบไหนครับ ผมคงต้องหา”
ชายคนนั้นยืนอยู่ที่เดิม ดวงตายาวเรียวเหมือนงูมองปราดไปทั่วร้าน “นายรักอ่านไม่ต้องหาหรอก ชั้นให้คนของชั้นหาหนังสือเล่มนั้นเอง”
ชายคนหนึ่งปราดไปที่ตู้หนังสือค้นหาหนังสือด้วยการหยิบโยนลงมาที่พื้น
“เฮ้ย อย่าโยนหนังสือ!”  บาลีถลาเข้าไปหา แต่ชายอีกคนเข้ามาล็อกแขนไว้
“คัมภีร์อยู่ที่ไหน”
“คัมภีร์อะไร ถ้ามีพวกแกต้องเห็นสิวะ!” บาลีร้องตะโกนใส่หน้า เสียงดังจนร้านค้าข้างๆ เดินออกมาดู
ชายคนนั้นเดินเข้ามายืนอยู่ข้างหน้า พูดช้าๆ
“คัมภีร์โบราณที่จะทำให้ครอบครองทั้งอำนาจและ...เงิน”
บาลีจ้องมองลึกลงไปในดวงตายาวเรียว ภาพที่เห็นคือภาพมัวๆ ของการเข่นฆ่า และ....พ่อที่ล้มลง
ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่ง เลือดในกายค่อยอุ่นจนร้อน คนที่ยืนล็อกแขนอยู่ดีๆ ก็ผละออก
“อะ ร้อน”
เสียงใครบางคนด้านนอกร้องตะโกน “ตำรวจมา! ตำรวจมา!”
“....บาลีเป็นอะไรมากมั้ยลูก....” ปู่ถามอย่างร้อนใจ ขณะที่เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยกันดูแล
“ผมไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” บาลีหันไปบอกทุกคน แล้วจัดหนังสือเข้าชั้นเหมือนเดิม

ความโกรธแค้นถูกพักวาง แต่ไม่ได้หายไปไหน เป็นเหมือนปีศาจร้ายที่รอให้ใครบางคนเข้ามาปลุกให้มันตื่นขึ้นมาเท่านั้น

วันหนึ่งที่ฝนตกพรำ รถสีดำเข้มติดธงชาติต่างประเทศเข้ามาจอดที่หน้าร้าน หญิงวัยกลางคนท่าทางสุภาพเรียบร้อยก้าวลงจากรถพร้อมกับผู้ติดตามที่พูดภาษาไทยได้
“ขอโทษครับ มาดามต้องการหนังสือ”
ไม่ต้องพูดชื่อหนังสือ ภาพของม้วนคัมภีร์ในกล่องไม้ผุดขึ้นมาได้เอง ทั้งรู้ว่าอยู่ตรงไหนของร้าน
บาลียืนตรงค้อมตัวเล็กน้อย ผายมือเข้าไปด้านใน
กล่องไม้วางอยู่ที่ชั้นวางในระดับสายตาพอดี บาลีเปิดกล่องให้ดู
“อยู่ที่นี่ครับ”
มาดามยกมือแตะอก น้ำเสียงสั่นเครือ 
“มาดามบอกว่าขอบคุณมากครับ”
เสียงหัวเราะของปู่ดังก้องไปทั้งร้าน แม้ในตอนที่เงาร่างโปร่งใสของชายชราในชุดขาวหันมายิ้มกว้างค้อมตัวขอบคุณปู่ ต่างคนต่างขอบคุณจนกระทั่งร่างโปร่งใสสีขาวจางหายไปในกล่องไม้

ไม่นานนักมีเงินจำนวนมากโอนเข้าบัญชีของบาลี
“โห เงินมากมายแบบนี้ผมโดนสอบว่าฟอกเงินแน่ๆ” บาลีจ้องมองตัวเลขมากมายในบัญชี
“เออว่ะ  ไม่ได้นะโว้ย แกโดนจับยิงเป้าแล้วใครจะดูแลร้านนี้”
บาลีหันไปทำตาขวางกับปู่ “สรุปว่าห่วงหนังสือ”
“เออ”

เรียนจบปริญญาบาลีย้ายร้านมาในย่านการค้าแห่งใหม่
หลังการย้ายออกได้ไม่กี่วัน มีชายหนุ่มอีกคน รูปร่างผอมสูงมาดเซอร์ ในมือคีบบุหรี่กลิ่นฉุนมาถามหาร้านนายรักอ่าน
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องแถวเก่าๆ ขณะที่เหลียวมองไปรอบตัว
“แล้วกรุงเทพตั้งกว้าง ผมจะหาพี่เจอได้ยังไง ผมแค่จะมาบอกพี่ว่า แม่รักพี่นะครับ”

ร้านใหม่ยังไม่ทันเข้าที่กลุ่มเพื่อนรักที่เพิ่งเรียนจบก็พากันไปเที่ยวพักผ่อนที่ชายทะเล
“เฮ้ย มีรับน้องมหาลัยว่ะ” ฟองชี้ไปที่รถทัวร์อีกคันที่เข้ามาจอด
“คิดถึงความหลังล่ะสิ” เจ็ตบอก
แต่บาลียกกระเป๋าลงจากรถแล้วเดินไปที่บ้านพัก “กูไม่รู้ เพราะกูไม่เคยรับน้อง”
“ห่าหมาลี ขวางโลกตลอดกาล”

นักศึกษาน้องใหม่เดินเรียงแถวลงจากรถทัวร์ แล้วก็ถูกจับแยกกลุ่มชายหญิง และจัดให้ปะปนกับเพื่อนคณะอื่น
หนุ่มผมสีอ่อน ดวงตาคู่หวานหันมาส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่สูงกว่ากันไม่ถึงคืบ “หวัดดีกูชื่อมะตูม”
“คอส อุตศิลป์”
มะตูมยิ้มหวานขณะที่พยักหน้า “กูเรียนออกแบบนิเทศ”
“มันคืออะไร”
“ก็โฆษณา แพ็กเกจ นิทรรศการแบบนั้น”
“เหรอ อันนั้นมันไม่ใช่คนเรียนโฆษณาเหรอ”
“เหรอ” มะตูมย้อนถาม
“เฮ้ย ไอ้ 2 คนตรงนั้นกะจะแต่งกันเย็นนี้เลยหรือไงวะ” รุ่นพี่ร้องเตือน
คนที่ตัวสูงกว่า ทำปากยื่นหน้าตาเหมือนตัวการ์ตูน แต่คนที่ตัวเล็กกว่าหันไปส่งยิ้มให้รุ่นพี่ ทำรุ่นพี่หน้าแดงโดยไม่รู้ตัว
รุ่นพี่ออกแบบนิเทศหันมาทำหน้าตาเยาะเย้ย “กูบอกมึงแล้ว เจอยิ้มไอ้มะตูมเข้าไป โหดขนาดไหนก็ไม่กล้าดุมัน”
รุ่นพี่ขาโหดหันซ้ายหันขวาแล้วหันมาหาไอ้คนที่ทำหน้าตาตลก “มึงน่ะ ดูเพื่อนมึงเป็นตัวอย่าง หัดยิ้มอย่างนั้นซะบ้าง”
คอสชี้จมูกตัวเอง หน้าตาเด๋อด๋า “อ้าว ไหงมาลงที่ผมล่ะพี่”
“ลงที่มึงแหละ เพราะกูไม่กล้าดุมัน มาช่วยถือของไปเก็บที่โรงนอนเลย”
“ไรวะเนี่ย” คอสบ่นอุบอิบ เดินมามองลังเครื่องดื่ม แต่พอจะก้มตัวลงยกของ คนตัวโตรูปร่างผอมสูงมาดเซอร์ชิงยกขึ้นมาเสียก่อน
“กูยกเอง มึงไปถือกล่องยาสิ เบาหน่อย”
หันมาอีกทีมะตูมกำลังถือกระติกน้ำใบใหญ่รออยู่
“กูชื่อเป้ง ภาพพิมพ์”
คอสมองหน้าเป้งแล้วทัก “มึงอยู่หอเดียวกะกูนี่หว่า”
“ภูมิใจฉิบหาย ที่มึงจำกูได้”
“สัดเหอะ คนให้ครึ่ดทั้งมหาลัย ทั้งหอพัก ใครจะไปจำได้หมด” คอสบ่นแล้วเดินตามเป้งมาที่โรงนอน แต่หันไปถามมะตูม “มึงอยู่หอหรือเปล่า”
“เปล่า กูอยู่บ้าน”
“บ้านกูอยู่แพร่ ไว้ไปเที่ยวกัน” คอสชวน
“บ้านกูอยู่ราช-รี ไปเที่ยวบ้านกูก่อนดีกว่า ใกล้กว่า” เป้งชวนบ้าง แต่ส่งยิ้มเลยคอสไปหามะตูม
มะตูมส่งยิ้มพยักหน้ารับทุกคำชวน
พอเอาของไปเก็บ รุ่นพี่ก็เรียกเข้ากลุ่มเพื่อลอดซุ้มรับน้อง แบบที่ตอนที่เดินเข้าไปหน้าตาสะอาดสะอ้าน พอออกมาหน้าลายพร้อย แถมด้วยเครื่องประดับที่รุ่นพี่ชื่นชมนักหนาว่ามันสวยสุดยอด
ตามมาด้วยการเต้นท่ารั่วสารพัดเพลง จนกระทั่งค่ำลงถึงได้ล้อมรอบกองไฟบายศรีสู่ขวัญ
คอสมองซ้ายขวา มาถึงตอนนี้เพื่อนที่อยู่รอบตัวกลายเป็นเพื่อนในคณะเดียวกันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ที่นั่งติดกันคือเทียม ถัดไปอีก 3 คนคั่นกลางคือก้อยพอเห็นหน้า ก็ส่งยิ้มหวานไปให้ แต่ก้อยมองผ่านไปเหมือนไม่เห็น สายตาของก้อยไปหยุดอยู่ที่หนุ่มยิ้มเก่งที่ชื่อมะตูมคนนั้น
คอสยักไหล่ ชอบไปแล้วนี่หว่า ก็ชอบไปเรื่อยๆ ละกัน

รุ่นพี่กลุ่มหนึ่งแยกไปตั้งวงเหล้ากันที่ชายหาดทำให้เหลือรุ่นพี่ตรงนี้ไม่มากนัก ร้องเพลงกันไปเรื่อยจนกระทั่งมีคนร้องตะโกนว่าไฟไหม้ ทั้งหมดก็เลยลุกมาดูและมีบางคนวิ่งไปตามรุ่นพี่ที่กำลังกินเหล้า
ท้องฟ้ากลางคืนส่องสว่างด้วยเปลวไฟ รู้สึกเหมือนได้กลิ่นเขม่าเจือปนอยู่ในอากาศ
“น่ากลัวเนอะ” เสียงคนพูดยืนอยู่ข้างๆ หันไปมองถึงเห็นเป็นมะตูม ที่จับแขนเป้งไว้แน่น
คนตัวผอมสูงก้มลงมองเพื่อนตัวเล็ก “เพราะท้องฟ้าต่างจังหวัดมันมืดกว่ากรุงเทพด้วย มันถึงได้ดูแรงขนาดนี้”
สักพักมีรุ่นพี่มาบอก
“เจ้าหน้าที่บอกว่าไฟไหม้แถวๆ ร้านเหล้าข้างนอกรีสอร์ทโน่นแน่ะ”
แต่ละคนโล่งใจ แต่ก็ไม่ลืมเตือนกันให้ระมัดระวังเรื่องไฟ และเรื่องเหล้า ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้านอน

คอสเดินกลับมาที่โรงนอนเห็นยังมีที่นอนว่างอยู่หลายที่ เป้งเป็นคนตอบ “ไปกินเหล้ากับรุ่นพี่มั้ง”
“แล้วมึงล่ะ”
“ก็อยากไป แต่วันนี้กูโดนซ่อมจนอยากนอนมากกว่าแล้วว่ะ เดี๋ยวกลับหอกูไปเปิดขวดเลี้ยงพวกมันก็ได้”
รุ่นพี่ที่คุมเด็กปี 1 อยู่ในโรงนอนหันมาชี้หน้าเป้ง “เดี๋ยวเหอะมึง ไอ้โย่ง ไม่เข็ดนะเดี๋ยวพรุ่งนี้โดนอีก”
เป้งกลับหัวเราะ ไม่ได้กลัวคำขู่ของรุ่นพี่เลยสักนิด

ก่อนหน้านั้น
ฟองจอดรถที่หน้าร้านเหล้าไม่ไกลจากรีสอร์ทที่พักมากนัก ห้องร้องคาราโอเกะไม่ได้หรูหรา แต่มันแสดงถึงความเป็นส่วนตัว ให้นั่งดื่มเหล้าฟังเพลงที่เลือกได้เองไปเรื่อย เมื่อเพื่อนเก่ามาเจอกันแต่ละคนสรรหาเรื่องมาเล่า ตั้งแต่เรื่องเมื่อครั้งที่เจอกันครั้งแรก ไล่มาจนถึงชีวิตปัจจุบัน
แน่นอนว่าทุกเรื่องทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้ว แต่พอยกมาเล่าใหม่มันก็เรียกเสียงหัวเราะได้ก้องเหมือนเดิมทุกที
เหล้าขวดแรกผ่านไปครึ่งขวดบาลีก็ลุกออกมาเข้าห้องน้ำ
จากห้องคาราโอเกะ เดินมาห้องน้ำในสวนจะมองทะลุออกไปถึงด้านหน้าของร้าน รถคันหนึ่งจอดอยู่ ทั้งที่แน่ใจว่าไม่เคยเห็นรถคันนี้ แต่สังหรณ์บางอย่างกลับเกิดขึ้นในใจ ต่อให้บอกกับตัวเองว่า มันไม่มีอะไร แต่พอเข้าห้องน้ำเสร็จ เดินกลับมาจนถึงห้องคาราโอเกะ ยังต้องเดินกลับไปมองรถคันนั้นอยู่เหมือนเดิม
ขณะที่ดวงตาสีเข้มมองรถที่จอดนิ่งอยู่ แวบหนึ่งในคลองสายตากลับเห็นรถอีกคันที่เคยจอดอยู่ใกล้ร้าน ในวันที่มีกลุ่มผู้ชายหลายคนบุกเข้ามาในร้านแล้วข่มขู่ถามหาหนังสือ
บาลีหลับตาแล้วหันหลังกลับ แต่กลับต้องหยุดนิ่งเมื่อชายผิวคล้ำ เดินตรงมาหา
“ไม่เจอกันนาน”
นี่คือคนที่รื้อหนังสือลงมาจากชั้นหนังสือในวันนั้น
บาลีบอกกับตัวเองว่าเรื่องเล็กน้อย ถึงจะข่มขู่กันยังไง เขาก็ไม่ได้ของที่ต้องการ
แต่เมื่อชายคนนี้เดินเข้ามาใกล้
ใกล้พอที่บาลีจะอ่านบางอย่างในดวงตาคู่นั้นได้
ทั้งที่เป็นภาพเลือนราง แต่เลือดในกายกลับเพิ่มองศามากขึ้นเรื่อยๆ
ความร้อนที่มันถูกฝังไว้ในหัวใจมานานหลายปี ด้วยการคิดถึงเรื่องบาปบุญ และกฏหมาย
“เฮ้ย ให้มาเอารถ ทำอะไรอยู่” ชายอีกคนเดินเข้ามาเรียก
บาลีไม่เคยเห็นผู้ชายคนนี้ แต่จำชายที่เดินตามมาข้างหลังได้ดี
“คุยกับใครวะ”
“ไอ้เด็กนักเรียนลูกชายนายรักอ่านไงครับเจ้านาย”
ชายรูปร่างอ้วนเตี้ยท่าทางร่ำรวยที่บอกว่าต้องการคัมภีร์คนนั้น รอยยิ้มประหลาดพิกลกระจายเต็มใบหน้าเมื่อเดินเข้ามาใกล้
“ไง ได้ข่าวว่าต้องย้ายบ้านหนีกันเลยหรือไง”
บาลีไม่ได้ตอบคำถาม เพียงแต่พูดอยู่ในใจ ให้คนๆ นี้เดินเข้ามาใกล้อีกนิด
เมื่อจำนวนคนที่ห้อมล้อมบาลีอยู่มีจำนวนมากขึ้น คนที่เป็นเจ้านายก็ทำเหมือนไม่มีอะไรอยู่ในความสนใจอีกต่อไป หันไปบอกลูกน้องให้เปิดรถ แต่เพราะบาลียืนอยู่ใกล้รถ ทำให้เจ้านายเดินเข้ามาสะบัดหลังมือใส่ต้นแขนของบาลี
“ย้ายร้านไปอยู่แถวไหนล่ะ ว่างๆ จะแวะไปเยี่ยม”
“เราไม่มีหนังสือของคุณ”
ประโยคเดิม แต่คนพูดเป็นคนละคนกัน
เจ้านายหันขวับมามอง ดวงตาหรี่ลงคล้ายงูพิษ
“มึงรู้...ก็ดี เตรียมตัวไว้เลย เพราะกูจะเอามา ให้หมด!”
“เราไม่มีหนังสือของคุณ” บาลีย้ำคำเดิม ดวงตาสีเข้มจ้องมองลึกลงไปในดวงตาของฝ่ายตรงข้าม
สายตาของคนมองจากในรถไปที่ชายในเสื้อยืดสีขาวเดินกึ่งวิ่งออกมาจากร้านหนังสือ  ติดตามไปจนถึงร้านขายของชำ แต่เมื่อออกมาชายฉกรรจ์หลายคนเข้ามารุมล้อม ไม่มีคำพูดโต้เถียงมีแต่การผลักไหล่ แล้วชายคนนั้นก็ล้มลง กลุ่มคนแตกกระจายแล้วกลับเข้ามารวมกลุ่มกันใหม่ จากนั้นภาพที่เห็นก็เปลี่ยนไป
เมื่อบาลีรู้สึกตัว ก็คือเจ้านายที่กำลังตะโกนว่าร้อนขณะที่กำลังจะก้าวเข้าไปในรถ แต่ทันทีที่มือแตะกับเบาะที่นั่งกลับติดไฟ จนต้องชักมือออกมา ถอยหลัง เสียงร้องตะโกนดังกว่าเดิมเมื่อเส้นผมติดไฟ ลุกลามลงมาติดเสื้อผ้า หันไปคว้าลูกน้องได้คนหนึ่งก็ทำให้เสื้อผ้าของคนนั้นติดไฟไปด้วย
บรรดาลูกน้องทั้งหลายกระจัดกระจายไปคนละทาง
พนักงานของคาราโอเกะคว้าถังดับเพลิงได้ ก็รีบเอามาฉีด แต่มาถึงตอนนี้เจ้านายมีไฟลุกท่วมตัววิ่งตรงเข้าไปด้านในของร้าน เสียงร้องโหยหวน
กลุ่มเพื่อนที่แม้จะอยู่ด้านใน แต่เมื่อมีไฟไหม้ สัญญาณเตือนภัยก็ดังก้อง ทุกคนจึงรีบวิ่งออกมา แล้วยิ่งแตกตื่นเมื่อมาถึงห้องโถง แล้วเจอว่ามีคนกำลังถูกไฟไหม้รุนแรง กลิ่นเนื้อเหม็นเขียวฉุนติดจมูก 
มองไปด้านหลังบาลียืนนิ่งอยู่ที่ระเบียงด้านนอก และด้านหลังของบาลีคือรถที่กำลังมีไฟลุกไหม้ และใครอีกคนที่ถูกไฟคลอกกำลังดิ้นพล่านอยู่ที่สนามหญ้า
หมอกร้องตะโกน “รีบออกไปเร็ว รถไฟไหม้ เดี๋ยวมันระเบิด”
บาลีได้ยินเสียงหมอกกับเพื่อนที่ร้องเตือนผู้คนรอบตัว และวินาทีถัดมาคือสติที่ดับวูบลง
แต่เมื่อฟองขับรถกลับออกมาจากสถานที่ที่เกิดไฟไหม้ ยังไม่ทันจะถึงรีสอร์ทที่พัก บาลีก็ลืมตาแล้วลุกขึ้นนั่งทันที
“เป็นไงบ้างบาลี” โอมถาม แต่บาลีส่ายหน้า ดวงตาสีเข้มมองตรง ไม่ได้พูดอะไร และเดินตรงไปที่ชายหาดแทนที่จะกลับเข้าที่พัก
เพียงเดินไปถึงชายหาด บาลีต้องคุกเข่าลงอ้วกกับผืนทราย อ้วกจนแทบไม่เหลืออะไรอยู่ในกระเพาะ
หมอกรู้ดีว่าอาการนี้เกิดจากอะไร
มันคือทุกอารมณ์ที่วิ่งเข้ามาปะทะกันอย่างแรงเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไว้ได้ หลังจากการฆ่าคน!
หมอกลูบหลังเพื่อนแล้วส่งน้ำดื่มให้กลั้วปาก ล้างหน้า แล้วถอยมานั่งให้พ้นจากเขตน้ำขึ้น...
บาลีนั่งลงบนผืนทรายมองทะเลที่มีเพียงแสงไฟจากเรือประมงอยู่ไกลลิบ ด้านหนึ่งคือหมอก อีกด้านหนึ่งคือฟอง ส่วนเจ็ตกับโอมกลับเข้าไปในที่พักแล้วออกมาใหม่พร้อมกับเบียร์
กลุ่มนักศึกษาที่มารับน้องนั่งดื่มเหล้าและร้องเพลงกันอยู่ที่ชายหาด หันมามองกลุ่มคนที่นั่งดื่มกันอยู่เงียบๆ ไม่มีใครพูดคุยอะไรกัน สักพักหนุ่มศิลป์ที่ท่าทางจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็วิ่งมาหา
“ขอโทษครับพี่ พวกผมส่งเสียงดังรบกวนพี่หรือเปล่า”
“ไม่เป็นไร ตามสบาย เพลงเพราะดี” ฟองบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง

จนใกล้รุ่งเช้าเพื่อนทั้ง 4 คนยังคงอยู่ข้างๆ มีเพียงโอมที่เอนตัวลงนอน เจ็ตนั่งอ่านหนังสือด้วยแสงไฟจากเสาไฟริมชายหาด ส่วนฟองกับหมอกนั่งคุยกัน
“กลับเข้าไปนอนข้างในบ้านกันดีกว่า” บาลีบอกเพื่อนแล้วหันไปปลุกโอม

(มีต่อ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2012 08:32:08 โดย jivetea »

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
"No broken Heart ,Non broken Glass" (ตอนพิเศษ#1/หน้า 31)
«ตอบ #925 เมื่อ01-01-2012 07:43:08 »

8 โมงเช้ากลุ่มนักศึกษาที่มารับน้องถึงได้ลุกมากินอาหารเช้าแล้วแยกย้ายเข้ากลุ่มเหมือนเมื่อวาน
“เข้าแถวหน้ากระดาน ลำดับความสูงตามใจชอบรักใครชอบใครยืนใกล้กันไว้” รุ่นพี่พูดยิ้มๆ
มะตูมเป็นหนุ่มตัวเล็ก ก็ยืนอยู่หางแถวด้วยความเคยชิน ส่วนคนถัดมารู้สึกตัวเหมือนโดนใครสักคนดึงแขนให้มายืนอยู่ตรงนี้ พอมองไปซ้ายมือถึงเห็นว่าเป็นมะตูมหนุ่มตาหวาน หันมาทางขวากลายเป็นเป้งตัวสูงโย่ง
“อ้าว”
เป้งรีบยกมือ “อย่าๆ รุ่นพี่จับกูมาวางตรงนี้เหมือนมึงแหละ”
จากนั้นก็เป็นไปตามสเต็ปร้องเพลงแล้วก็เต้นรั่วท่าประหลาดผ่านไป 5 เพลงคือการแสดงความสามารถพิเศษ อันนี้ไม่ต้องออกไปทุกคน รุ่นพี่สุ่มเรียกออกมา
แล้วก็เป็นเกมจูบกระดาษ เพราะกลุ่มย่อยมีอยู่ 20 คนเลยต้องแบ่งเป็น 4 แถวๆ ละ 5 คน
รอบแรกจากหัวแถวฝั่งขวามาก่อน เป้งประคองกระดาษแผ่นเล็กติดริมฝีปากส่งให้คอสด้วยดี แต่คอสหมุนตัวไปหามะตูมเร็วไปนิดกระดาษร่วงลงมาติดปลายคางแต่ริมฝีปาก 2 คนชิดกันแล้วผละออกอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่มันเร็วเกินกว่าที่รุ่นพี่จะมองทันแล้วส่งเสียงแซว
แต่มะตูมกับคอสรู้ตัวว่ามันเกิดอะไรขึ้น เหมือนกับเป้งที่มองอยู่ เพียงแต่ว่ามันเร็วมาก...จนเมื่อมาคิดอีกครั้งกลับต้องสงสัยว่า จูบกันหรือเปล่าหว่า...
ขากลับเปลี่ยนกระดาษอีกแผ่น มะตูมทำท่าทางบอกคอส ว่าจะวางกระดาษลงบนริมฝีปากแล้วก็จะย่อตัวให้คอสก้มลงมานิดหนึ่งเพื่อแตะกระดาษไป ส่วนเป้งก็สูงกว่าคอส ดังนั้นคอสก็จะทำแบบเดียวกัน
รุ่นพี่เดินมายืนอยู่ข้างหน้า ทำเป็นเอาคางชี้หน้า “อย่าแม้แต่จะคิดแผนกับพวกกูทีเดียวเชียว”
แต่พอรุ่นพี่ให้สัญญาณมะตูมก็ย่อตัวให้คอสรับกระดาษไปตามแผนที่วางไว้ คอสส่งกระดาษให้เป้งแบบเดียวกัน พอหมดแถว เป้งโดนซ่อมวิดพื้น 15 ครั้ง
มะตูมกับคอสจะก้มลงวิดพื้นด้วย แต่รุ่นพี่สั่งซ่อมเป้งคนเดียว
“เพราะมึงเป็นหัวหน้าชั้นปี ให้ไอ้ตัวเล็กหน้าหวาน 2 คนสั่งมึงได้ไง”
เป้งส่ายหน้าขำๆ “กูว่าแล้ว ตั้งแต่เจอกับพวกมึง 2 คนมา 2 วันเนี่ยกูโดนตลอด”
เล่นเกมจูบกระดาษเสร็จ มาถึงเกมต่อไป ทันทีที่รุ่นพี่หยิบเม็ดลูกอมออกมา ทุกคนก็ส่งเสียงคัดค้าน เป้งยกมือทันที “เกมอมลูกอมส่งต่อกันยังไงก็เล่นไม่ได้ครับ ไม่ใช่ว่าเพื่อนกันรังเกียจกัน แต่มันยังมีโรคที่ติดต่อกันด้วยน้ำลายหลายโรค เปลี่ยนเป็นเล่นเกมอย่างอื่นกันเถอะครับ”
รุ่นพี่หันไปมองกลุ่มอื่นแล้วปรึกษาหาเกมใหม่มาเล่น
ปี 1 แถวหลังยกมือขอเล่นเกมจูบกระดาษอีกรอบเลยโดนโห่รู้ทัน
“กูรู้นะ ว่ามึงเล็งคนข้างๆ”
“น้องผู้หญิงย้ายมายืนแถวหน้านี้เลยครับ ไอ้คนนั้นมันไม่น่าไว้ใจซะแล้ว”
เล่นเกมรอบนี้ ริมฝีปากของเป้งกดสนิทที่ริมฝีปากของคอส แต่คอสมันก็ไม่ได้สนใจเหมือนเดิมรีบหันไปหามะตูมส่งกระดาษให้ แล้วยืนหัวเราะร่วนที่เห็นมะตูมหน้าแดง ขณะที่ยกมือปิดปากหัวเราะจนดวงตาพราว
ส่วนเป้งยืนเท้าเอวหัวเราะคึคึ
เวลาเห็นไอ้ 2 คนนี้มันยิ้ม มันหัวเราะแล้วมันทำให้เรายิ้ม แล้วก็หัวเราะตามพวกมันได้ก็จริง แต่มันคันๆ ในหัวใจที่คอสมันไม่ยักทำท่าเขินๆ หรือรู้ตัวว่าโดนจูบไปแล้ว
แต่เป้งจำได้ไม่มีวันลืม ว่านั่นคือการจูบผู้ชายเป็นครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่เห็นผู้ชาย 2 คนจูบกันแล้วไม่ได้รู้สึกอยากวิ่งไปอ้วก!


ปีใหม่มาถึง กลุ่มเพื่อนเก่าของบาลีย้ายสถานที่รวมกลุ่มจากร้านเหล้ามาเป็นบ้าน 2 ชั้นหลังเล็ก ในซอยถัดจากย่านการค้าที่ตั้งของร้านนายรักอ่าน  ด้วยเหตุผลที่ว่าทุกคนต่างเห่อสมาชิกใหม่
เด็กชายกลบท
กลุ่มเพื่อนพร้อมหน้า ไล่มาตั้งแต่ฟองกับแตงโม คู่นี้ยังไม่มีลูก ส่วนกิ๊บกับเท่ห์ตอนนี้มีลูกสาว 2 คนแล้วพามาด้วยเหมือนกัน แล้วก็ยังมี หมอกกับแพท โอม แล้วก็เจ็ต ที่ยังคงเป็นหนุ่มรักงานหวงความโสด
แล้วยังมีเทียมกับบรรดาเพื่อนๆ ของคอสและเป้งที่มาพบเจอกันเป็นระยะตามแต่โอกาส

เมื่อนั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ บาลีก็ต้องยอมรับว่า โลกของนายรักอ่านกับโลกของคอสมันช่างต่างกันเหมือนอยู่คนละฝั่ง

หนุ่มมัดผมหางม้า กัดลูกชิ้นเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ย หันมาหาคนผอมโปร่งที่กำลังเป่าเนื้อปลาดุกย่างให้เย็นก่อนป้อนให้เด็กน้อยวัยขวบเศษบนตัก
“ตกลงว่านี่กูจูบมึงจริงๆ อ่ะ”
คนที่กำลังป้อนเนื้อปลาให้เด็กทำหน้าเหนื่อย “บอกว่ากูจูบมึง ไม่ใช่มึงจูบกู”
“แล้วมันต่างกันตรงไหน” คอสเถียงแล้วถามเด็กน้อย “กล ถ้ามึงคือไอ้มะตูมจริงๆ อย่างที่พ่อมึงบอกมึงจำได้มั้ย ว่ากูจูบมึงอ่ะ”
เด็กน้อยกลับพยักหน้า เป้งรีบบอก “เฮ้ย ไปบ้าจี้พยักหน้าตามอาคอสได้ไง”
แต่เด็กน้อยยังคงยืนยัน “จำได้ๆ”
คอสกะพริบตามอง หน้าตาตื่นเมื่อหันไปหาคนที่นั่งจิบเบียร์อยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนเก่าที่คบหากันมานานเกินกว่า 10 ปี
“พี่....”
“อะไร เป้งหลอกอะไรคอส” เสียงห้วนๆ หันมาดุน้องชายทันที
“ผมเปล่า” เป้งรีบบอก “ไอ้กลหรอก แค่บอกว่าจำได้ คอสมันก็กลัวแล้ว”
“จำได้ๆ” กลบทบอกอีกที
“กลบทห้ามหลอกคอส” บาลีดุ
“คอสชอบกัว หลอกคอส” กลบทตัวน้อยเถียง ทั้งที่ยังพูดไม่ชัด
“เออดี หลอกกู งั้นวันพุธนี้พ่อมึงมีนัดไปหาหมอแต่เช้าไม่ต้องมาฝากกูเลี้ยงเลยนะ”
“ก็มึงน่ะแหละ ฟังกูเล่าเรื่องรับน้องแล้วดันมาถามเด็ก”
“ก็แล้วมึงบอกกูทำไมว่าลูกมึงคือไอ้มะตูม”
“อ้าว เกี่ยวมั้ยเนี่ย” เป้งบอกพลางป้อนปลาให้ลูก “อาคอสขี้กลัวเองแล้วมาโทษกลเนอะลูกเนอะ”
คอสหันไปหาบาลี ตาขวางปากยื่น งอนกันชัดๆ ยิ่งกว่ามีตัวหนังสืออยู่บนหน้าผาก
“คอสงอน” กลบทชี้แล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊าก
เป้งป้อนเนื้อปลาให้ลูกแล้วหันไปป้องปากไอโขลก เสียงไอที่แหบแห้ง ทำให้เสียงพูดคุยของทุกคนเงียบลง
“กล ไป อยู่ กับอา ก่อนลูก” เป้งส่งลูกให้คอส แล้วลุกออกมาหน้าบ้านหลังเล็กๆ ตั้งอยู่ในซอยถัดจากร้านนายรักอ่าน
คอสรับกลบทมาอุ้มไว้ ที่มือข้างขวาซึ่งปราศจากรอยสักยังมีเชือกถักล้อมแก้วหยดเลือดเส้นเดิม
บาลีลุกตามมาดู “ไหวมั้ย”
“ไหวพี่ แต่ผมกลัวว่าไอไปโดนลูก” เป้งหันกลับมาเห็นคอสอุ้มกลบทตามมายืนอยู่ข้างหลัง ก็โบกมือไล่ให้กลับเข้าบ้าน
บาลีลูบแผ่นหลังที่บางจนสัมผัสถึงกระดูก
“กินยาแล้วไปนอนพักดีกว่า”
เป้งส่ายหน้า “พี่ ผมฝากลูก”
บาลียิ้มเศร้า “มึงยังไม่ไปวันนี้พรุ่งนี้หรอก ไม่ต้องรีบฝากกู”
“แต่มันก็คงอีกไม่นาน” เป้งพูดปนหอบ ทั้งที่เมื่อครู่ยังพูดคุยสนุกสนานต่อหน้าคนอื่นได้ “ผมยังคิดว่าผมจะได้อยู่จนเห็นกลขึ้นป.1 ซะอีก”
“มึงจะได้เห็น” บาลีพูดสวนทันที
เป้งมองหน้าพี่ชายแล้วคลี่ยิ้มกว้าง “เชื่อมั้ยหมอก็บอกผมอย่างนี้ แต่ผมไม่เคยเชื่อ พอพี่พูดผมกลับเชื่อ”
“พวกมึงน่ะเชื่อกู จนกูชักกลัวตัวเอง”
แตงโมถือแก้วน้ำอุ่นผสมมะนาวมาให้เป้ง “จิบสักนิดนะ”
เป้งขอบคุณแล้วเดินมาที่เก้าอี้หินอ่อนติดรั้ว จิบน้ำอุ่น
2 พี่น้องนั่งคุยกันเบาๆ
“แม่ชอบเล่าเรื่องพี่ให้ผมฟัง”
บาลีพยักหน้า ขณะที่ฟังน้องชายพูดไปเรื่อย “พี่เก่งอย่างนั้น ฉลาดอย่างนี้ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้กลัวพี่มาก” เป้งเอนตัวพิงรั้ว “คอสจะกลัวกลเหมือนแม่ของเรามั้ย”
“ไม่หรอก” บาลีตอบทันที “คอสผูกติดอยู่กับเป็นหนึ่งมากกว่าที่เราคิด”
เป้งหันมามองพี่ชายแล้วทำหน้าตาแปลกๆ จนพี่ชายสงสัย
“อะไร”
“ผมเชื่อมาตลอดว่า คอสหึงพี่กับไอ้มะตูม แต่ที่จริงมันคือพี่หึงคอสกับมะตูมนี่หว่า”
คนตัวโตมีอาการเหมือนสำลักลมหายใจของเอง ต้องกระแอมไล่ลม “ไม่ได้หึงโว้ย ดูยังไงวะว่าหึงกูก็แค่...”
“แค่อะไร”
“แค่..เออ ช่างกูเหอะ...”
..ที่จริงมันค่อนไปทางอิจฉา ผสมเสียดาย ที่คน 2 คนไม่ต้องคุยกันมากนัก แต่ก็มีความหวังดีให้กันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่ในชีวิตหนึ่งเราจะเจอเพื่อนแท้แบบนี้สักกี่คน แต่ทั้งคู่กลับปล่อยโอกาสนั้นไป เพราะมิตรภาพแบบนี้แหละ ที่ทำให้ร้านนายรักอ่านยังคงอยู่
..แต่ก็นั่นแหละ ใครจะไปรู้อนาคต และใครจะรู้ได้ว่า ในชีวิตหนึ่ง เราปล่อยโอกาสแบบนี้ไปแล้วกี่ครั้งกี่หน
ความรู้สึกเวลาที่คิดถึงคอสกับเป็นหนึ่งมันเป็นความรู้สึกที่ให้คำจำกัดความได้ยาก

ส่วนในบ้านแตงโมรับกลบทมาจากคอส จับกอดนั่งตักแล้วป้อนลูกชิ้นปลาให้
“คอส”
“ฮะ”
“ยังน้อยใจเรื่องมะตูมอยู่หรือเปล่า”
คอสมองกลบท ลูกชายของเป้งที่บอกมาตั้งแต่วันแรกที่มันลืมตาดูโลกว่า นี่คือมะตูม
“มันก็เป็นพักๆ แหละฮะ อาการเรื้อรังเป็นๆ หายๆ”
“เรานี่ มะตูมตายไปตั้งหลายปีแล้ว น่าจะเลิกน้อยใจได้แล้วนะ”
“ก็รู้ฮะ แต่พอนึกถึงเรื่องที่พี่ทำให้มัน แล้วทิ้งผมไว้ข้างหลัง ยังไงผมก็ยังน้อยใจอยู่ดี”
“อ้าว ยังไม่เคลียร์กันอีกหรือ” โอมหันมาถาม
“เคลียร์แล้วฮะ แต่ผมก็ยัง....” คอสพูดแล้วหันมาทำปากยื่นใส่กลบท เด็กน้อยทำปากยื่นเลียนแบบทันที
ฟองขยับจากวงเหล้าหน้าโทรทัศน์มาหาแฟน ส่งข้าวเกรียบให้กลบทแต่แตงโมตีมือ “มีแต่ผงชูรส”
“อ้าว งั้นกินเองก็ได้เนอะ กลเนอะ”
“เนอะ” กลยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นเส้นโค้ง
คอสที่กำลังเริ่มออกอาการงอนในระยะเริ่มต้น ทำตาโต มือที่กำลังถือส้อมจิ้มลูกชิ้นถึงกับค้าง
“มีอะไร” ฟองถาม
คอสยิ้มแหยๆ “เวลามันกวนตรีน ไม่ค่อยเหมือน แต่เวลามันยิ้มนะ แมร่ง....”
“เหมือนหรือ” แตงโมถาม ขณะที่กอดกลบทไว้แน่น “แสดงว่ามะตูมคนนั้นน่ารักมากสินะ”
“น่ารักมากจิ” กลบทส่งเสียงตาม
“เหอะ แต่ไอ้พูดเยอะหลงตัวเองแบบนี้แหละที่ไม่เหมือน” คอสยักไหล่
แพทเดินเอาข้าวผัดจานใหญ่มาวางแล้วถามคอส “งั้นให้พี่มาเลี้ยงกลบทมั้ย เวลาที่เป้งไปหาหมอน่ะ”
“ไม่เป็นไรฮะ ผมเลี้ยงได้”
“อ้าว ก็คอสกลัว” แพทไม่ค่อยเข้าใจหันไปขอความเห็นจากหมอก
“ใครกลัว ไอ้คอสไม่กลัวอยู่แล้ว แต่มันน่ะชอบแกล้ง”
เป้งเดินเข้ามาในบ้านโบกหัวคอสไปที “มึงนี่ชอบว่าลูกกูนัก ลูกกูเพิ่งได้ขวบกว่าๆ จะแกล้งมึงได้ยังไง”
“โห รู้จักลูกตัวเองน้อยไปซะละ ไอ้นี่น่ะตัวแสบ” คอสโวยรวบทั้งพ่อทั้งลูก
“เออ งั้นพุธนี้ผมฝากที่แพทดูกลให้ผมนะครับ”
“พี่แพทต้องทำงาน” สุดท้ายคอสก็หันไปหรี่ตามองไอ้ตัวเล็กบนตักแตงโม “มึงจะเป็นมะตูมหรือไม่ก็ช่าง แต่ถ้าพ่อมึงไม่อยู่ แล้วมึงหลอกผีกู กูจะ...”
ทุกคนในบ้านหลังเล็กหันมารอฟังคำตอบ
“เปิดเฮฟวี่ เมทให้มึงฟัง” คอสว่าแล้วหัวเราะร่วน
เป้งโวยทันที “สัดคอส มึงจะเลี้ยงลูกกูให้เป็นอะไรเนี่ย”
“หรือจะเอาแร็ปนรกแตก” คอสไม่สนใจที่เป้งโวย นั่งหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่คนเดียว

หมอกหันไปกระทุ้งศอกใส่เพื่อน “หน้าบานไปนะหมาลี”
บาลีก็แค่ยิ้ม นั่งมองคอสคุยเล่นกับเป้ง และแตงโมไปเรื่อย
ฟองหมุนตัวกลับมาที่วงเหล้าเหมือนเดิม “คอสนี่มันดีนะ เคยเจอมันตอนเรียนมหาลัยยังไง จนตอนนี้มันก็ยังเหมือนเดิม”
“มันเพี้ยนเหมือนเดิมใช่มั้ยพี่” เป้งหันมาถาม
ฟองหัวเราะ “มีส่วนว่ะ”
“อ้าววววววววววว” คอสลากเสียงยาว แน่นอนว่าเด็กน้อยกลบทก็ทำเสียงยาวตามไปด้วย คอสเลยหันมาคว้ามือเล็กขึ้นมา “มากล กิฟมีไฟฟ์กัน”
“ไฟ้ๆ”
ฟองกระแอมแล้วทำน้ำเสียงจริงจัง “เอาจริงจัง ไม่มีล้อเล่นน่ะ บาลีน่ะถ้าเปรียบมันเป็นหนังสือนะ มันคือหนังสือปกหนังสีดำที่เก็บอยู่ชั้นบนสุดของตู้ แค่มองเห็นสันปกก็ไม่มีใครอยากเดินไปยกบันไดมาหยิบหนังสือเล่มนี้แล้ว ส่วนคอสเป็น...”
“คนทำความสะอาดตู้หนังสือ” คอสสวนขึ้นมา แล้วทำหน้าตาเหรอหรา “อ้าว ไม่ใช่เหรอฮะ ขอโทษๆ”
ฟองใช้สองนิ้วขยี้ตรงขมับแล้วบอก “เออ ก็...คงได้ละมั้ง”
รถปิกอัพคันกลางเก่ากลางใหม่ ทะเบียนราชบุรี มาจอดที่หน้าบ้าน เป้งหันมาบอกลูกชาย
“ปู่มาแล้วลูก”
บาลีกับเป้งลุกไปสวัสดีชายสูงวัยผมขาวโพลนก้าวลงมาจากรถ ตามมาด้วยกลุ่มคนงานที่ขนของฝากจากบ้านราชบุรีเข้ามาในบ้าน
คอสอุ้มกลบทไปหาปู่
“สวัสดีปีใหม่ครับคุณปู่”
ปู่รับไหว้ทุกคนในบ้าน แล้วหันมาตบไหล่บาลีเบาๆ “ขอบใจมาก”

กลับมาถึงร้านนายรักอ่าน บาลีแวะเข้าร้าน ส่วนคอสก็เดินขึ้นมาที่ชั้น 2 เก็บผ้าที่ตากไว้ที่ระเบียงเข้ามาในบ้านแล้วก็กลับเข้าห้องนอน
“....เป็นอะไร....” ปู่นั่งอยู่ที่เก้าอี้โยกถามหลานชายทันทีที่เปิดประตูเข้ามาในห้องชั้น 2
บาลีเลิกคิ้วสูง “เป็นอะไร ผมหรือ ไม่มีอะไรนี่”
“....อ้าว แล้วทำไมแยกกันเข้าบ้าน…”
“ผมเก็บตกลูกค้าไง”
“...อ้อ...งั้นก็แล้วไป...ปู่คิดว่างอนอะไรอีกแล้ว งั้นปู่ลงไปคุยกับเพื่อนละนะ....”
พอบาลีขึ้นมาบนห้อง คอสอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังเช็ดผมอยู่ ที่ข้อมือขวาไม่มีสร้อยถักเส้นนั้น
“พี่อาบน้ำเหอะ เดี๋ยวลงไปดูทีวีหรือเปล่า ผมถอดสร้อยเก็บไว้ในกล่องแล้วนะ” คอสชี้ไปที่กล่องไม้โบราณใต้กรอบหน้าต่าง
“อย่าเพิ่งลงไปนะ รอพี่แป๊บเดียว”
คนตัวโตเหมือนตึกใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนัก ก็ออกมาจากห้องน้ำสวมกางเกงนอนเพียงตัวเดียว แล้วเดินมานั่งบนเตียง
“มีไร พี่ไปหาหมอกับเป้งก็ได้นะ”
“แล้วอยู่กับกลบท 2 คนไม่กลัวหรือไง”
“กลัวอะไร” คอสถามแล้วหัวเราะร่วนขยับขึ้นมานั่งคร่อมตัก โอบเอวพี่ไว้หลวมๆ “ผมไม่ได้กลัวไอ้กลอย่างที่พี่ๆ คิดหรอกน่า”
พี่ทำเสียงเหมือนเครื่องหมายคำถาม คอสเลยทำตาโตใส่
“ดูดิๆ”
มือใหญ่บีบจมูกรั้น “เออ ก็เห็นทำหน้าตื่นๆ เวลากลบทยิ้ม”
“ก็เวลามันยิ้มแล้วเหมือนโคตรๆ เนี่ยยิ้มแล้วตาเป็นเส้นโค้ง” คอสกดนิ้วที่หางตาตัวเอง “แต่ไอ้มะตูมมันไม่ได้ขี้แกล้ง แล้วก็ไม่ได้พูดมาก”
“สรุปว่าอยู่กัน 2 คนได้แน่นะ”
คอสพยักหน้าหงึกหงักเหมือนตัวการ์ตูน
“เอาเป็นว่า นาทีนี้ผมเข้าใจว่าพี่ต้องดูไอ้เป้งให้ดี”
บาลีช้อนคอคอสให้เงยหน้าขึ้นมารับจูบ “ขอบใจมาก”
“แต่ว่า....” คอสทำท่าลังเล “กลบทคือมะตูมจริงๆ หรือเปล่าฮะ”
บาลีใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยแก้ม “คอสคิดว่าใช่หรือเปล่า”
“ผมไม่รู้”
“งั้นคำตอบของพี่ก็คือไม่รู้”
“อ้าว ก็เป้งมันบอกว่าลูกมันคือมะตูม”
“งั้นต้องไปถามเป้ง”
“ไรวะ” คอสชกที่ไหล่หนาเบาๆ “พี่ไม่รู้ได้ไงอ่ะ”
“ไม่รู้จริงๆ”
“ไม่รู้ไม่ได้ ต้องรู้สิ”
“เฮ้ย มีบังคับกันด้วยโว้ย”
“ก็ถ้าเกิดมันคือมะตูม พี่ก็คงรักมันมากกว่าผม...”
น้ำเสียงคำสุดท้ายหงอยเหงาไม่มีเรี่ยวแรง
“ถ้ากลบทคือมะตูม คอสจะเป็นห่วงกลบทมากกว่าพี่หรือเปล่า”
“ห๊ะ เอาไปเปรียบกันได้ยังไง กลมันเป็นหลานนะ แค่ขวบเศษเอง พี่น้อยใจไรเนี่ย กวนประสาทว่ะ”
พี่หัวเราะหึหึ “นั่นสินะ น้อยใจไรเนี่ย”
คอสเพิ่งรู้ตัว “พี่อ่ะ”
บาลียิ้มกว้าง “ในทางพระเขาว่า เมื่อจิตดับทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับลง เวลาที่พี่นึกถึงความเกี่ยวข้องระหว่างคอสกับเป็นหนึ่งบางทีก็คิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกินเหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกัน” คอสสวนทันที “พี่จะเป็นส่วนเกินได้ไง ตาแก่คนนี้คิดไรไม่รุ เบื่อว่ะ”
“ที่สำคัญคือเรามีมะตูมที่มีความสุขอยู่ในความทรงจำ แต่เรามีกลบทที่เราจะต้องเลี้ยงดูเขาให้เติบโตเป็นคนดี และมีความสุขใช่มั้ย”
คอสพยักหน้า
“และที่สำคัญกว่านั้น พี่มีคอส”
คอสเอียงหูรอฟังคำต่อไป แต่พี่เงียบ “มีคอส...แล้วไง แค่เนี๊ยะ”
“ก็..แค่นี้...”
“เนี่ยๆๆๆ” คอสทุบที่ไหล่หนาไม่ยั้ง “ทีเวลาพูดถึงน้องชาย พูดถึงเพื่อน พูดถึงหลาน บรรยายซะ 3 วา 8 ไร่แต่พอถึงผมนะ ใครไม่งอนก็บ้าแล้ว”

บาลีช้อนคอดึงใบหน้าใสมาจูบปิดปาก ตามด้วยจูบแก้มอีกที
“งอนตลอด ทำยังไงจะหายงอนเนี่ย”
คอสหดคอหนี “พี่อย่าพูดติดเนื้องี้ดิ ขนลุก”
ริมฝีหนาจูบย้ำที่แก้มเรื่อยลงมาที่ต้นคอขาว
คอสหลับตาเหยียดคอ ผ่อนลมหายใจตามปลายลิ้นที่เลาะเล็มอย่างรู้จุดอ่อนไหว
พี่จูบย้ำจนร่างกายร้อนวูบแต่กลับผละออก ประคองใบหน้าเล็กไว้ในมือ “ทำไงดีนะ”
คอสหน้าแดงไปถึงหู โผเข้ากอดซุกหน้าแนบแก้มพี่ “ไม่รุ”
มือใหญ่ลูบแผ่นหลัง ขบฟันสวยที่ใบหู แล้วแตะปลายลิ้น
คอสรัดไหล่พี่ไว้แน่น “อ๊ะ....”
“แบบนี้หรือเปล่า”
แขนเรียวคลายออกจากไหล่พี่ ทั้งดึงมือพี่ออกจากเอวจากหลัง
“คอส”
“พี่...รักผมมั้ย”
“รักสิ”
“จริงนะ”
“ดีมาก คำตอบเหมือนเดิม” คอสยิ้มกว้างดวงตาพราว
มือใหญ่ถอดเสื้อนอนตัวหลวมออก เผยลายสักครึ่งตัวกับจิวเล็กๆ ที่หัวนม พี่มองแล้วต้องกลืนก้อนน้ำลายลงคอ เลื่อนสายตาขึ้นสบตาสีอ่อน
ดวงตาที่ไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ก็จะพบแต่ความใส ปราศจากเรื่องราวซับซ้อน ทุกอย่างที่คิดแสดงออกอย่างชัดเจนผ่านทางสีหน้า และเสียงหัวเราะ
....มีคอส ก็ไม่ต้องการใครอีกแล้ว....
“พี่ฮะ....”
ริมฝีปากสวยคลี่ยิ้ม ขณะที่คอสค่อยๆ ยกตัวขึ้นมาหา จดจ่อยอดอกที่สวมจิวใกล้ริมฝีปากสวยที่งับไว้แล้วตวัดลิ้นเลีย
คอสเหยียดตัว แทรกนิ้วมือที่ผมสีเข้ม เสียงครางแผ่วหวาน
พี่รั้งขอบกางเกงนอนลงแค่ต้นขา เพียงมือใหญ่บีบย้ำก้นกลมเอวบางก็สั่นไหว แก่นกายยิ่งอุ่นร้อนทั้งที่พี่รูดรั้งเนิบช้า
ร่างกายผอมบางเรียกร้องให้พี่สัมผัสมากกว่าเดิม
เสื้อผ้าร่วงลงข้างเตียง ร่างกายเปลือยเปล่ากอดรัดประสานแทบเป็นเนื้อเดียว
ขาเรียวตวัดรัดต้นขาไว้แน่น ร่างกายแข็งเกร็งจนต้องหยุดสะโพกแกร่ง
“เจ็บหรือ”
คอสส่ายหน้า “ไม่ฮะ แต่มัน แน่น”
บาลีจูบริมฝีปากบางจับให้ลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหากันทั้งที่ยังไม่ถอนแก่นกายออก คอสจิกมือที่ไหล่หนาไว้แน่น ใบหน้าแดงจัด
“อ๊า....ไม่ๆๆ ไม่เอาท่านี้ มันโด๊น อ๊า.....”
คอสกรีดร้องร่างกายผอมบางเหยียดสุด เมื่อพี่ยกสะโพกบางแล้วกดลง ร่างกายก็กระตุกแรง ฉีดน้ำสีขาวถึงอก
“อะ เอาออก เอาออก”
คอสจะขยับหนีในทันทีที่ตัวเองเสร็จแต่พี่รั้งขาไว้
“ได้ไงกัน”
“ท่าอื่น ท่านี้ไม่ได้ จะขาดใจ” คอสบอกหอบๆ มือขาวพยายามดันตัวออก แต่พี่กลับเลื่อนมือตามแนวขามาที่ก้นกลมยกขึ้นแล้วกลับกดลงมาใหม่
“อ๊า......พอแล้วๆ พี่ อ๊า....”
ภาพในสมองขาวโพลน รับรู้เพียงฝ่ามือใหญ่ที่สัมผัสร่างกาย กับริมฝีปากที่เฝ้าจูบวนเวียนทั่วใบหน้า
คอสถึงจุดสูงสุดอีกครั้งในอีกไม่กี่นาทีถัดมา ร่างกายผอมบางหมดเรี่ยวแรงให้พี่ประคองวาง ยกขาเรียวขึ้นพาดไหล่ สาวสะโพกยาวแล้วกดนิ่ง หยดเหงื่อไหลซึมที่ไรผม ค่อยๆ ผละออกไปอาบน้ำล้างตัว แล้วกลับมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำ
คอสหายใจเข้าลึกๆ แล้วผ่อนออกเมื่อใบหน้าสัมผัสน้ำเย็น ปรือตาขึ้นมองพี่ แล้วยกแขนเรียวขึ้นให้พี่กอดร่างกายผอมบางไว้
“พี่ฮะ..”
“ครับ”
“รักผมบ้างนะ”
มือใหญ่ช้อนใบหน้าหวานให้เงยขึ้นมาหา “คอส”
“ฮะ”
“พี่รักคอส หยุดคิดหยุดพูดอะไรที่มันเหมือนกับพี่รักใครหลายคนแบบนั้น”
น้ำเสียงจริงจัง จนคอสต้องลืมตาขึ้นมอง “ก็...”
“พี่รักคอสคนเดียว ไม่มีลำดับหมายเลขเข้าใจมั้ย”
คอสเบี่ยงหน้าหนีจากมือใหญ่ แล้วขยับซุกหน้ากับไหล่กว้าง พี่ดันไว้
“ฮื้อ ง่วงอ่ะ”
“ตอบมาก่อน เข้าใจมั้ย”
“ก็ได้”
“ตอบดีๆ ไม่งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอน”
“ฮื้อ ไรวะ เกี่ยวไรเนี่ย” คอสพลิกตัวหนี แต่พี่ตามสวมกอดหลังเอาขาใหญ่ๆ รัดไว้ “อึดอัดอ่ะ เล่นไร ไม่รุ”
พี่ซุกไซ้ที่ใบหู ขบจูบสลับลงมาถึงไหล่ ร่างกายผอมบางทำได้แค่บิดหนี
“อื้อ พอแล้ว อึดอัด”
มือใหญ่กอบที่อกบางแล้วกดไล่ลงมาที่ท้องน้อย คอสลืมตาโพลงรีบคว้าข้อมือพี่ไว้ แต่ไม่ทัน
“ไหนว่าง่วง อึดอัด”
น้ำเสียงหวานติดอยู่ข้างหู มือใหญ่กำรอบแก่นกายที่เริ่มขยายตัวไว้หลวมๆ แล้วเลื่อนมือมาที่พวงแฝด ขาเรียวแยกรับฝ่ามือ
“ก็ พี่ อ่ะ” คอสหายใจหอบๆ เมื่อพี่โจมตีทุกจุดที่เป็นจุดอ่อนไหว จนร่างกายอุ่นร้อน หันหน้ามาแลกลิ้นจูบ ปลายลิ้นที่ตวัดเข้าหากัน ซ้ำด้วยมือที่รูดแก่นกายให้ช้าๆ กลับยิ่งให้ความรู้สึกเร่าร้อนมากกว่าเดิม
คอสขยับสะโพกรับมือพี่ เบี่ยงหน้าจูบคางสาก “รักผมมั้ย”
“รัก รักมากที่สุด”
“รักอีก รักให้เยอะๆ รักให้ผมคลั่งตายไปเลย”
“ตามนั้น”
พี่มองดวงตาหรี่ปรือแล้วกดจูบที่ริมฝีปาก กดสะโพกเข้าหาขยับสอดรับ กระซิบคำว่ารักที่ข้างหูอีกครั้ง และ..อีกครั้ง...

----จบตอนพิเศษหมายเลข1---
ขอบคุณมากครับ
ไจฟ์กับนายน้ำชา (คนหล่อมากและไม่เมาข้ามปี 5555)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2012 19:30:26 โดย jivetea »

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
นี่เป็นบทลงโทษของพี่บาลี
สำหรับคนที่คิดมากและขี้งอนใช่ป่ะ
แบบนี้น้องคอสก็โดนตลอดอ่ะสิ
ก็น้องขี้งอนมากกกกก~
อ่ะคึ~~
ดีใจที่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่า
น้องมะตูมเกิดใหม่เป็นลูกพี่เป้ง
ขอบคุณตอนพิเศษเรียกเลือดสุดๆ
สวัสดีปีใหม่น้องทีพี่ไจฟ์
กอดน้องทีแน่นๆ
จุ๊บแก้มซ้ายขวาจ้า

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
โอยยยยยย เซอร์ไพรส์อ่ะ ไม่คิดว่าเป้งจะเป็นน้องชายของบาลี (หรือพี่อ่านตกหล่นอีกแล้ว??)

ตอนพิเศษนี้ ทำให้เข้าใจเรื่องหลายอย่างเลย เหมือนเฉลยปมที่คาใจมานาน หุหุ

สวัสดีปีใหม่คุณไจฟ์กับน้องทีด้วยนะคะ พบเจอแต่สิ่งดีดีตลอดปีค่า~

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
เป็นตอนพิเศษรับปีใหม่ที่อลังการงานสร้างมากค่ะ  :a2:
เป้งเป็นน้องพี่บาลี เป้งเป็นหนึ่งในแก๊งสามหนุ่มเพื่อนสนิทกับคอสมะตูมช่วงรับน้อง เป้งกลายมาเป็นพ่อมะตูม ! โฮ้ว..เป็นตัวแปรที่เหนือความคาดหมายสุดๆอ่ะ
มีเรื่องพ่อ เรื่องการแก้แค้นที่เคยเกริ่นๆไว้ แถมด้วยฉากอัศจรรย์ปิดท้ายอีก
"นี่อ่านตอนพิเศษตอนเดียว ภาคปกติที่ยังค้างอยู่นี่จิ๊บจ๊อยไปเลยอ๊ะ!! "  o13

สงสารคอสเนาะ คงมีปมฝังใจไปตลอด แต่ไม่เป็นไร ยังไงพี่บาลีก็อยู่แก้ปมกันต่อไป
งั้นมาสงสารเป้งแทน อนาคตต้องทิ้งน้องกลไว้
แต่เอ๊ะ....งี้ร้านนายรักอ่านก็มีเจนเนเรชั่นที่สี่รอไว้เรียบร้อยแล้วดิ
ไจฟ์ทีวางแผนไว้แล้วใช่ป๊ะ  อิอิ

Happy New Year นะคะ  ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ  :กอด1:

ปล.เป็นเรื่องที่มั่นใจว่า จบแล้ว เราต้องขออ่านรวบยอดใหม่ตั้งแต่ต้นแน่นอน มันส์ซะไม่มีอ่ะค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-01-2012 10:00:18 โดย nn~~NN »

ออฟไลน์ @PurPle SuN@

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
อ๊ากกก อ่านตอนพิเศษแล้วอยากให้ตอนปกติตามมาขยายโดยเร็ว
เป้งมาเป็นน้องบาลีได้ไง แล้วตอนที่บาลีรู้ ทำยังไง
แพททำอะไรอีกรึเปล่า เป้งมีลูกกับใคร ทำไมถึงคิดว่ากลบทเป็นมะตูม
มากมายหลายอย่าง 55

แต่อ่านตอนพิเศษแล้วรู้อะไรเยอะขึ้น เรื่องพลังพิเศษของบาลี เรื่องความผูกพันของเป้ง มะตูม คอส
รู้ไปถึงว่า แม้คอสจะกลัวผีสุดๆ แต่ก็ไม่ทิ้งนายรักอ่านไปไหน

รับเป็ดไปเลย เด็กน้อยรูปหล่อที่ไม่เมาข้ามปี (แต่เห็นป๋าบอกว่าเด็กชายน้ำชาจะเล่นเกมข้ามปี จริงป่ะ) o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด