รักไม่รู้ชื่อ (ทำ)ซื่อไม่รู้รัก โดย ภาณุเมศพลัง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักไม่รู้ชื่อ (ทำ)ซื่อไม่รู้รัก โดย ภาณุเมศพลัง  (อ่าน 177207 ครั้ง)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
^

^

แก๊
ยัยกิ๊ฟซี่
ชี้ให้ชัดๆ ว่าจะแช่งใคร
แบบว่าแค่นี้ก็แทบจะขายไม่ออกอยู่แล้ว
:serius2:

ขึ้นมาบนคานกันก่อนเจ้

อย่างอื่นค่อยว่ากัน

555555555555555555555555+

ลงไม่ได้อ่ะ หาบันไดไม่เจอ จะโดดก้ไม่ได้ กลัวขาหักแล้วไม่มีรับเลี้ยงง

 :laugh:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป

Givesza

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ตุลาลาลาลาลาลาลาลาลาลาลา~ :a5:
กำของเวร พี่สาวจะทำอย่างนี้จริงๆหรอ  o22 o22

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ช่ายเเล้ว....ขยี้ตาหลายทีก็เห็นเหมือนเดิมเเหล่ะค่ะ(เดี๋ยวเป็นตาเเดงนะเออ)

อัพเเล้วววววว~ ต้องขออัพเอง เพราะว่า ท่าทางพี่เเป๋มจะไม่ค่อยว่าง อัพเองดีก่าเน๊อะ :L2:






ตอนที่ ๑๖ เวิร์คแอนด์ตระเวน (๒) LOVE SIGN

      เกือบสามเดือนแล้วครับที่ผมใช้ชีวิตเป็นกะเหรี่ยงเมศ โดยมีมนุษย์ชื่อโหลไมเคิลสองคนคอยวนเวียน คนหนึ่งเป็นหลีดของผม ส่วนอีกหนึ่งเป็นผู้ชายที่ผ่านไปผ่านมา ใช่แล้วครับ มาผ่านไปมาให้พอเห็นอาทิตย์ละวัน แต่มันยิ้มน่ารัก ถ้าผมเป็นสาวๆไม่แคล้วจะเขวี้ยงเบอร์ใส่ (เอางั้นเลย)

“ใกล้เวลากลับบ้านแล้ว”ผมพูดใส่โทรศัพท์สายในจากหลังเครื่องเล่นไปที่แผงควบคุม คุยกับอิตาไมเคิลดูใบบอน

“ทำไมไม่อยู่ให้นานขึ้นอีกนิดล่ะ?”

“ต้องกลับบ้านสิ กลับไปเรียนหนังสือหนังหา” ผมพูดพลางเอาคอเหน็บโทรศัพท์ไว้กับหู มือซ้ายกดปุ่มเขียว มือขวาชูสัญญาณมือ

“ลาออกเสียสิ” โอ้โห....ไอ้เด็กไม่มีอนาคต ยังกล้ามาบอกให้คนอื่นเสียผู้เสียคนตามๆมันไป พนักงานกะค่ำโผล่มาทางประตูทางออก

“อยากกลับบ้านยัง?”ผมงึมงัมตอบไปว่า อยาก(แต่ในใจนี่ อยากกลับโค-ตรๆแล้วครับ)

“MEZZ cross over!!” เสียงประกาศผ่านไมโครโฟน เป็นสัญญาณอณุญาตให้ผมไป clock out ออกงานได้เสียที

      วันนี้ เป็นวันทำงานวันสุดท้ายของผมแล้วครับ  โชคดีที่เป็นวันศุกร์ ของฝากเล็กๆน้อยๆที่ผมหิ้วไปจากเมืองไทย จะได้แจกหมด เพราะวันศุกร์ที่สวนสนุกเปิดถึงดึกดื่นเที่ยงคืน กะค่ำจะมารับช่วงต่อ ซึ่งรอยต่อระหว่างกะนี่แหล่ะ เพื่อนๆจะพร้อมหน้ากันครับ  ผมร่ำลาเพื่อนๆบางคนเข้ามากอดผมและทำท่าจะร้องไห้ ซูเปอร์ไวเซอร์ของผมเข้ามากอดแล้วตบบ่า ต่อไปนี้ ไม่มีควายเมศให้ใช้แรงงาน ได่กระไดขึ้นไป100ฟุตขึ้นไปกดปุ่มรีเซตเวลาตัวรถไฟเหาะค้าง(ค้างเพื่อความปลอดภัยนะครับไม่ใช่เสีย)แล้วล่ะครับ ผมค้นพบข้อดีของเด็กไทยนะครับ ว่าการเป็นเด็กไทย เจ้านายมักมองว่าเราสู้งาน ซึ่งจริงครับเราสู้งาน ทั้งในกรณีพูดปฎิเสธงานไม่ได้ หรือในกรณีที่เราเห็นว่าไม่หนักหนา แต่จริงๆแล้วมันหนักหนาสำหรับคนอื่น  เพื่อไม่ให้บรรยากาศซึ้งเกินไป หลังจากผมคุยเล่นแลกเมลล์กันเรียบร้อย จึงไปทำเรื่องออกจากงานรับค่าจ้าง คืนเครื่องแบบ  ที่นี่คืนหมดทุกอย่างนะครับ เครื่องแบบทั้งหมด รวมถึง name tagไม่รู้มันจะเอาไปทำไม แต่ผมใช้วิชามาร ออดอ้อน เว้าวอนให้พี่สาวห้องเสื้อที่รับเครื่องแบบคืนยอมให้ผมเอากลับบ้านได้แบบฟรีๆ แม้เราจะต้องลับลอบกันเล็กน้อย  ระหว่างที่ผมกำลังจะกลับครับ ฟ้าก็ประทานไมเคิลน่ารักมาให้เจอ...แหมเป็นครั้งสุดท้าย

“อ้าว...จะกลับแล้วหรอ” ผมรีบตอบว่าใช่ เผื่อได้ติดรถกลับบ้าน ลมๆแล้งๆมากครับ แต่กลับรถเมล์นี่นานจริงๆ

“วันนี้มาทำงานวันสุดท้ายแล้ว”

“จริงดิ!!”ไมเคิลที่ไม่ได้ดูใบบอนทำหน้าเศร้า

“อืม  ดีใจที่ได้เจอนายนะ”

“เช่นกัน ขอกอดสักที ขอบใจมากที่วันนั้นพามาESO” มาขอก่งขอกอดกันด้วย  เต็มใจให้ครับผ๊ม!!

      ผมว่านะครับการที่ผมติดใจไมเคิลน่ารักนี่เพราะว่ามันเป็นคนที่มีบรรยากาศน่าเข้าหา เอ้ย น่าเข้าใกล้ครับ ไม่รวมที่มันหน้าตาดีนะครับ คุยสนุกเสียด้วย เราเลยแลกเมลล์กัน ขอเล่าความน่าอนาถหน่อย ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีกระดาษแผ่นเดียว จดอีเมลล์เพื่อนสิบกว่าชีวิต ถ้าหายไปคงฝันร้ายสุดๆ  เอาล่ะ....หลังจากผมร่ำลาเพื่อนคนนี้เสร็จแล้ว ถึงเวลาบอกลาที่ทำงานกันแล้วครับ ผมมองที่ทำงานของผมที่ทำมาแม้ไม่นาน แต่มันก็แอบผูกพันธ์ลึกๆครับ เครื่องเล่นไหน เคยไปเหวี่ยงพลิกคว่ำพลิกหงายมาอย่างไร เครื่องไหนเล่นแล้วน้ำลายไหลบ้าง น้ำลายไหลเพราะทนความหวาดเสียวไม่ไหวจนต้องร้องออกมา หวังว่าจะไม่ไปโดนหัวใครเขา วะฮ่าๆๆ

ผมกวาดสายตามองดูผู้คน ดูเครื่องเล่น ร้านรวง ต้นไม้และป้ายรถเมลล์ที่ผมอยู่กับมันมาสามเดือน เก็บไว้ครับ...เป็นประสบการณ์ เป็นความรู้สึกที่ดี ของช่วงหนึ่งในชีวิตที่มีความสุขที่สุด


“อย่าลืมเมลล์มานะ!!” เสียงหนึ่งตะโกนไล่หลัง ผมหันกลับไปมอง ไอ้คุณไมเคิลดูใบบอนโบกมือให้ไหวๆ ผมยิ้มแล้วโบกมือตอบ มันเป็นเพื่อนที่ดีนะครับ แม้มันจะแกล้งแรงไปหน่อย แต่ให้ตาย....ผมไม่เอามันเป็นแฟนแน่ๆ กวนซ่งติงเกินไปครับรับไม่ไหว  



      ช่วงใกล้ๆจะกลับอารมณ์พระเอกมิวสิคมักเกิดกับผมบ่อยๆครับ  วันนี้ผมกลับบ้านคนเดียวอีกแล้ว  เพราะเพื่อนคนอื่น บ้างทยอยกลับไปแล้ว บ้างยังไม่เลิกงาน ผมเลยได้นั่งเล่นเอ็มวีไปตลอดทาง พอเปิดประตูบ้าน เห็นบ้านกระจุยกระจายสภาพเหมือนโดนยกเค้า แต่ไม่ใช่ครับ เพื่อนร่วมบ้านของผมแพคของกลับบ้านกันแล้ว รู้สึกโหรงเหรงบอกไม่ถูกสะเทือนใจเล็กๆ บอกแล้วพระเอกมิวสิค แต่ผมเองก็แพคกระเป๋าเตรียมออกจากบ้านเอเอฟเช่นกันครับ วันกลับของผมคืออีกสองอาทิตย์หน้า ช่วงนี้ผมจะไปอยู่กับพี่คนหนึ่งของผมที่สนิทกันมาก

      ขอเล่าข้ามไปถึงวันกลับนะครับ เครื่องขึ้นสี่ทุ่มห้าทุ่มผมออกจากบ้านพี่กันตั้งแต่บ่ายสอง พี่ผมไปทำงานเสิร์ฟครับ ผมเลยตามไปเป็นวอลเปเปอร์เพราะร้านที่ไปทำมันใกล้สนามบินมาก นอกจากได้นั่งดูเขาทำงานแล้วได้ช่วยทำงานเล็กน้อยด้วย สนุกไปอีกแบบ ผมกับพี่ยังรื่นเริงกันดีครับ จนถึงใกล้เวลาขึ้นเครื่องกลับ ส่งกันที่น่าเกตนี่สิครับ อารมณ์พระเอกมิวสิคก็ดราม่าหนัก  ถ้าได้ไปส่งใครสักคนให้เดินทางไปไกลโดยที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหม ถึงวินาทีนั้น น้ำตาจะไหลกันทุกรายการแหล่ะครับผมว่า  ผมอุตส่าห์พร้อมเก๊กท่ารวบรวมลมปราณ ไม่อยากหน้าเละขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยอายคนเขานะครับ  แถมเดินทางคนเดียวด้วยสิครับ เวลาเดินทางคนเดียวต้องพกสติก่อนสตาร์ทตัวนะครับ   ผมเดินเข้าเกตหลังจากร่ำลาพี่ที่ผมเคารพรักมากพยายามบังคับตัวเองว่าอย่างหันไปมอง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้ครับ แอบหันไปดู พี่ผมร้องไห้หน้าเละ .....ไอ้เมศสุดจะทานทน น้ำตาไหลตายตามกันไป พระเอกมิวสิค.....ดราม่าได้อีก ทั้งพี่ทั้งน้อง

     ดราม่าไม่ได้นานครับ ความทรมานจาก13ชั่วโมงนรกที่ต้องทำตัวเป็นเกี้ยมฉ่ายอัดกระป๋องอยู่บนเครื่องบินนี่ทรมานเอาการครับ ยังการระแวงว่าตัวเองจะมีไข้หรือเปล่า ช่วงนั้น ไข้หวัดหมูหมากาไก่กำลังระบาดหนัก และวันก่อนเดินทางมีไข้ไม่ยอมลดเสียที เลยต้องซัดไทลินอลอย่างกับโบตันมิ้ลท์บอลจนถึงสุวรรณภูมิ สนามบินที่ชาวไทยภาคภูมิ(?) แต่ก็ผ่านมาได้เรียบร้อยดีครับ  

   ผมออกจากด่านตรวจเข้าไปรับกระเป๋าด้วยอาการเบลอเต็มที่เนื่องจากนอนไม่ได้เลยบนเครื่องทรมานมากครับ เป็นไข้และแสบตา(ผมเป็นไข้แล้วชอบแสบตาด้วยครับไม่รู้มันเพราะอะไร) แล้วงงอีกต่างหาก เนื่องจากบินออกจากอเมริกาคืนวันอาทิตย์ ถึงเมืองไทยวันอังคาร....แล้ววันจันทร์กรูไปไหนหว่า? ที่เด็ดไปกว่านั้นคือ ต้องออกจากสนามบินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ครับเพื่อไปเข้าเรียนคาบบ่ายให้ได้ กลับมาช้าไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆหลังจากเปิดเรียน กระเป๋าก็มาตามสายพานช้าเหลือเกิน ผมเริ่มลากสังขารไม่ไหวครับ เอารถเข็นๆกระเป๋ามานั่งรอกระเป๋าตัวเอง  เปิดโทรศัพท์มือถือรอคุณเตี่ยมารับไปหย่อนที่คณะ เสียงโทรศัพท์ผมร้องเรียกสติผมกลับมาครับ เคยรับโทรศัพท์แล้วได้ยินเสียงที่ปลายสายแล้วมันเปิดอาการ ‘อื๊มมมม’ ไหมครับ

“เครื่องลงแล้วใช่ไหม?”เสียงนุ่มๆของไอ้รันย์นั้นถาม  เหมือนน้ำเสียงนั้นมันกำลังบอกว่า เป็นห่วงนะๆ  นี่ละครับอาการอื๊มมม~

“เฮ่ย!! แคนยู hereมี” กรุณาเติมไม้โทให้ด้วยครับ หมดครับ...หมดกัน มู๊ดอื้ม สร้างมากับมือ

“เออ กุรอกระเป๋าอยู่เนี่ย โคตรนานเลย กรูจะนอนตามสายพานอยู่แล้วเนี่ย” ไอ้รันย์หัวเราะ พลางว่าใจเย็น

“แล้วนี่ให้ไปรับไหม? มีคนมารับหรือยัง” ผมบอกมันว่าเดี๋ยวเตี่ยมารับ จากคณะมาสนามบินแป๊บเดียวครับไม่เกินยี่สิบนาทีหรือสิบห้านาที

“อืม เดี๋ยวจะเข้าเรียนบ่าย”

“เฮ้ย กลับบ้านนอนไม่ดีกว่าหรอวะ เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆเรียนรู้เรื่องหรอ เจตเลกหรือเปล่า”

“ขาดหลายคาบแล้วเข้าดีกว่า ไปหลับก็ยังดี”ปลายสายร้องอ้าว  

“เป๋ามาแล้ว วางก่อนนะ” ผมรีบวางสาย ก่อนจะทำตัวเป็นนักยกทีมชาติ กระเป๋าสองใบ ไม่ใช่เบาๆนะครับ กว่าจะได้กระเป๋า รอจนคนอื่นๆที่มาไฟลท์เดียวกันทั้งอากงอาม่าเหล่าเจ็กเหล่าโกวเขาไปทัวร์อาม่ากันหมดแล้ว  



      หลังได้ของครับถ้วน ผมก็โทรหาเตี่ยครับ  นัดแนะกันว่าจะออกตรงไหน ให้นัดกันง่ายๆครับ  หลังจากเถียงกันอยู่นาน พลางพยายามบังคับรถเข็นเป๋ๆให้มันยอมไปตรงๆไม่เบ้ซ้ายก็เหนื่อยเอาการ

“เนี่ยๆแด๊ดดี้ยืนรออยู่เนี่ย ตรงที่คนเยอะๆ” วันนี้มาอารมณ์ไหนครับเตี่ย ปรกติไม่เคยแทนตัวอินเตอร์ขนาดนี้มาก่อน

“ตรงไหนอ่ะเตี่ย มองไปตรงไหนก็หัวคนเต็มไปหมด”

“เนี่ยที่มีพระเดินผ่านไป” พระเดินผ่าน.... เห็นสีจีวรพระท่านเป็นตัวบอกพิกัดจะบาปไหมครับ
“เตี่ย พระท่านมารูปเดียวหรือหลายรูป”

“เออ หลายว่ะ เดินตามพระมา ตามมาๆ” ผมรีบเข็นรถตามจีวรพระไปครับ  ในที่สุดก็เห็นเตี่ยยืนโป๊งเหน่ง อยู่  คิดถึงเตี่ยครับ แต่เขิน ไม่กล้ากอด มันอายๆไงไม่รู้  ได้แต่ยกมือไหว้เตี่ย

“สนุกไหม?”ผมรีบพยักหน้าเร็วๆ

“แล้วทำไมต้องเรียกตัวเองว่าแด๊ดดี้อ่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเรียก”

“อ้าวก็คนมันอินเตอร์” โอ้โห...เตี่ยครับนับถือๆๆ ข้อน้อยขอเคารวะ


      หลังจากเราพ่อลูกวอล์คแรลลี่หารถ เพราะจำไม่ได้ว่าจอดชั้นไหนกันเรียบร้อย  เตี่ยก็เอาผมมาหย่อนที่คณะครับ  ข้อดีของการเรียนวิศวะเพิ่งได้เห็นวันนี้ละครับ ใส่เสื้อชอปเข้าเรียนได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเสื้ออีกทีให้เสียเวลา หลังจากผมทำหน้ามึนๆเดินชมตึกใหม่ ให้พอสูดกลิ่นใหม่เต็มปอด ก็ไปนั่งรอในห้องเรียนคาบต่อไป รอซะเกือบหลับ ไอ้รันย์ก็โทรมา

“อยู่ไหนแล้ววะ”

“อยู่ห้องเรียนคาบต่อไปแล้ว….”ผมยังไม่ทันพูดจบพยางค์มันก็ชิงตัดสายก่อนเลย ไอ้เลวนิ....ชิชิ ผมฟุบลงกับโต๊ะมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นรถไฟฟ้าที่กำลังทดลองวิ่งผ่านไป ภายในห้องเงียบจนได้ยินเสียงรถไฟวิ่งผ่านไปเร็วๆ ได้ยินเสียงลิฟท์ที่หน้าห้องบอกชั้น  ได้ยินเสียงฝีเท้า ก้าวเร็วๆอยู่หน้าห้อง ก่อนจะเปิดประตู

“ไม่หิ้วแฟนกลับมาใช่ไหม?” เสียงไอ้รันย์ถามพลางเดินลงมายืนตรงหน้าผมที่หมอบกระแตอยู่กับโต๊ะ ห้องนี้เป็นห้องสโลปครับ แต่ไม่สโลปเป็นทางลาดเสียทีเดียว   แต่เป็นชั้นๆ คล้ายคั่นบันได ผมจึงนั่งห้อยขาได้

“แล้วถ้าหิ้วกลับมาแล้วทำไง” ผมถามบ้าง เห็นไอ้รันย์แอบทำปากยื่น ไปญี่ปุ่นกลับมามันขาวขึ้นหน่อยนึงนะครับ แอบตัดผมมาด้วย ลุคผมสั้นรับหน้าร้อน  ผมยิ้มจางพลางมองลุคใหม่ของมัน ...ก็น่าเอ็นดูดีนะครับผมว่า

“ก็ไม่ทำไง”

“มาถามเขาน่ะ ตัวเองหิ้วกลับมาบ้านหรือเปล่าล่ะ”

“ไม่มี!”

“จริงดิ”

“จริง”เอารันย์ตอบน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่มีใครจีบเลยหรอ น่าสงสารว่ะ”

“ไม่มีใครจีบแล้วก็ไม่ได้จีบใคร”  มันพูดแล้วเกาแก้มเขินๆ เฮ้ยๆๆๆๆๆ ไอ้รันย์มันได้ฝึกโมเอะ* มาจากญี่ปุ่นใช่ไหมเนี่ย

“ไม่เจอคนที่ใช่ ?”

“เจอไปแล้ว จะเจออะไรกันนักกันหนา” ผมร้องหา?

“แล้วเจอคนที่ใช่กว่าบ้างหรือเปล่า?” แล้วผมเจอคนที่ใช่เมื่อไหร่ล่ะครับ ไม่งั้นจะเทียบ ‘ใช่’ หรือ ‘ใช่กว่า’ ได้อย่างไร จริงไหม?

“ไม่มี แต่รู้จักเพื่อนเยอะเลย”

“ผู้ชายผู้หญิง”

“มีหมดนั่นแหล่ะ เก้งกวางบ่างชะนีสมเสร็จละมั่ง พังพอนงูเห่า ช่วงๆหลินฮุ่ย”

“อย่าให้รู้เชียว” รู้อะไรครับพี่ ผมจริงใจโปร่งใสขนาดนี้ เราเงียบกันไปอึดใจหนึ่ง


      เคยเกิดอาการคิดถึงแบบไม่รู้ตัวกันมาก่อนไหมครับ?  คืออาการแบบ ห่างกันแต่รู้สึกไม่ได้คิดถึง หรือหลอกตัวเองว่าไม่คิดถึงก็ไม่รู้ แต่พอได้กลับมาเจอหน้ากันแล้ว มันรู้สึกตื้อๆบอกไม่ถูก  มันรู้แต่ว่า คิดถึงใครคนหนึ่งมาก แต่เพิ่งจะมารู้เอาก็ตอนนี้เอง  ทีนี้ผมเชื่อแล้วครับว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน

“ไอ้รันย์  กูน่ะ....” ไอ้รันย์หันมาสบตา นัยน์ตาคมๆคู่นั้น จ้องมองผมอย่างรอคอย ในสายตาคู่นั้นกำลังบอกอะไรบางอย่าง ผมกลั้นหายใจก่อนจะพยายามเปร่งเสียง

“กูน่ะ….”
.
.
.
.
.


.
.

.
.
.
.
.
.
.
.


“โอ้โหเฮ้ย ไอ้เมศกลับมาแล้วว้อยยยย  ไม่อ้วนขึ้นเลยนี่หว่า ดำเชียวเมิง ค้าแรงงานสนุกไหมล่ะนั่น?” ครับ....ขอบคุณมากครับเพื่อนเสียด  เสียครับ เสีย.... ผมเสียฟีล ไอ้รันย์เสียเหมือนกันครับ พื้นเสีย

“พวกเมิงเนี่ยพูดกันเบาๆไม่ได้หรอว่ะไอ้ห่ าน”

“หูยย ดุว่ะ ไอ้เมศ เมิงเอาไม้แหย่มันหรอวะ” ผมรีบร้อง กุป่าววว ห้องเรียนเริ่มเอะอะเสียงดัง เนื่องจากใกล้เวลาเริ่มเรียน  แก๊งค์สาวสภาขึ้นนั่งเรียงตัวกัน ไอ้โม ญ หันมายักคิ้วให้หนึ่งที  ผมไม่เข้าใจนะครับ ว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรมาก ทำไมถึงต้องดูมีลับลมคมนัยตลอด ทั้งๆที่จริงๆก็ไม่มีอะไร(หวังว่านะครับ)


“เอ้าๆ นั่งที่เริ่มเรียนได้แล้ว”เสียงอาจารย์เอ็ดมาแต่ไกล ความสงบถึงกลับมาเยือนห้องเรียนได้อีกครั้ง



      หมดคาบเรียนไปนานแล้ว เสียงคุยเล่นกันวุ่นวายเงียบหายไปแล้วเช่นกัน เหลือผมกับไอ้รันย์นั่งกันอยู่สองคน ในห้องเรียนกว้างที่แม้ปิดแอร์ไปแล้วแต่ยังเย็นฉ่ำ.....ยังครับ....เรายังไม่ได้ทำอะไรผิดผี  แต่ผมกำลังรับกรรมครับ  กรรมจากการขาดเรียนหลายคาบจากสัปดาห์แรก ทำให้ผมเรียนไม่รู้เรื่อง ไม่มีอะไรอยู่ในหัวกลวงๆนี่เลย ไอ้รันย์จึงรับกรรมเหมือนกัน นั่งสอนให้ผม  เพราะวันนี้โจทย์ที่อาจารย์ให้ทำในห้อง ผมถึงกับอี่กิมกึ่งอึ้งกิมกี่

“เมิงรู้ป่าว เขาว่าตึกนี้มี ผอสระอี ด้วยนะเว้ย” ไอ้รันย์พูด เมิงผสมคำไม่เป็นหรือไงวะ สะกดให้ตรูทำไม

“ตึกใหม่ขนาดนี้เนี่ยนะ ว่าแต่ไอ้สมการล้านตัวแปลนี่มันมาจากไหนวะ?”

“เออ ดิ วันก่อนนะเว้ย..”

“มันมาจากไหน!”ผมเอาเสียงดังเข้าข่มครับ ไอ้รันย์เลยชะลอการเล่าเรื่องเดอะชอคไว้ก่อน

“เขาเล่ากันว่า มีพี่ออฟฟิซขึ้นมาแปะสติกเกอร์หน้าห้อง….”

“เอ้ย!!ทำไมกดแล้วได้ไม่เท่าเมิงวะ”กดเครื่องคิดเลขแล้วคำตอบได้ไม่เท่าชาวบ้านเขาก็โวยวายครับผมเนี่ย

“ กดใหม่สิวะ แล้วก็นะ พี่เขาก็แปะไปทีละห้องทีละห้อง จนมาถึงห้องนึง”

“โอ้ว  ได้แล้วว้อยยยย  กลับบ้านๆๆ” ผมพูดพลางโกยของใส่กระเป๋าเตครียมเผ่น มันอยากเล่าเรื่องผีก็เล่าไปคนเดียวเหอะ

“กลัวสิเมิงน่ะ” ไอ้รันย์พูดพลางยิ้มแอบเยาะ ก่อนจะลุกขึ้นสะพายกระเป๋า

“เปล่า”

“ให้จริง” มันว่าแล้วหัวเราะเบาๆ ผมละอยากจะทุบมัน

      เราไล่ปิดไฟในห้องจนหมด ทั้งห้องเงียบจนได้ยินเสียงรถไฟที่กำลังทดสอบวิ่งผ่านไป นอกหน้าต่างนั่น ดวงอาทิตย์ยังคงให้แสแม้จะค่อยๆอ่อนแสงลงตามเวลา  ผมมองแผ่นหลังของไอ้รันย์ที่ยืนสูงกว่าอยู่หนึ่งขั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปาก

“ไอ้รันย์  กูน่ะ”ไอ้รันย์หันมามองผมดวงท่าทางทีเล่นทีจริง เมื่อเห็นบางอย่างในดวงตาผม มันจริงนิ่งฟังอย่างตั้งใจ

“กูน่ะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

      ไอ้รันย์ยิ้ม มันเอามือมาเชยคางผมขึ้น ก่อนจะก้มตัวลงจนหน้าเราใกล้กัน ผมรีบหลับตาปี๋  ได้ยินเสียงไอ้รันย์หัวเราะเบาๆ และยิ่งหัวเราะได้ใจใหญ่เมื่อมันเอาจมูกมันมาถูกับจมูกผม เหมือนวันนั้น  หัวใจเต้นแรงแทบจะกระดอนออกมานอกอก  มันจะแกล้งทรมานผมไปทำไมกันครับเนี่ย  จะทำอะไรก็รีบทำ กุจะขาดอากาศหายใจตาย   สัมผัสอุ่นๆแตะลงแผ่วเบาลงบนริมฝีปากผมเพียงครู่เดียว ก่อนจะประทับลงบนหน้าผากอีกที

“ยังเล่าไม่จบเลย...”เสียงนุ่มนั้นกล่าวเบาๆแทบเป็นกระซิบ  ก่อนริมฝีปากจะประทับลงกึ่งปากกึ่งจมูก  ตอนนี้ผมชักไม่มีอารมณ์มาโรมานซ์ด้วยแล้ว

“หยุดเล่าเลยนะ”

“พี่เขาติดสติกเกอร์ไปจนถึงห้องนึง แล้วก็เจอ.....โอ้ยยยยยยย!!!”



“เฮ้ย! เมิงไปทำอะไรมาวะไอ้รันย์ ตะกี้ยังหน้าหล่อกิ๊งอยู่เลยทำไมเอาเลือดกลบปากเสียล่ะ”ไอ้เสียดทักขึ้นที่หน้าห้องสโมฯ ที่ปัจจุบันวิศวะปีสามได้ยึดไว้เป็นห้องนั่งเล่นกันแล้ว

“อ่อ....จูบเท็กซ์สันดาปฯเข้าไปน่ะสิ อร่อยไหมล่ะ1000หน้าน่ะ”ผมพูดเสียงเย็น

“อร่อยดี นุ่มๆ”

“เอาไปอีกสักพันหน้าดีไหมล่ะ....เมศ”โม ญ ที่เดินผ่านมายิ้มน้อยๆพลางชูเท็กซ์ไว้ในมือ

“ไม่เป็นไรครับโม ญ” โอ้รันย์รีบบอก

      ผมกลับบ้านโดยมีสารถีรันย์ไปส่งเป็นที่กิ้วก้าวของเหล่าสภาฯเช่นเคย   คือผมอยากจะบอกครับว่า มีได้โรคประจำตัวกลับมาด้วยหนึ่งโรค เรียกว่าโรคจิตป่วยครับ คือจะระแวงว่าของหายไปจากกระเป๋าหรือเปล่า เลยต้องคุ้ยบ่อยๆ  ซึ่งผมก็จิตป่วยอยู่บนรถไอ้รันย์

“เมิงเห็นกระดาษใบเหลืองๆของกุไหมวะ ที่จดอีเมลล์ไว้เยอะๆอ่ะ” ผมถามไอ้รันย์พลางคุ้ยของในกระเป่าอย่างร้อนใจ

“ไม่อ่ะ  เมลล์ใครหรอ?”

“เมลล์เพื่อนที่โน่นน่ะสิ ทุกคนเลย”

“ที่มีเขียนไมค่งไม่เคิลอะไรนั่นป่าว”ผมรับคำในคอ ไอ้รันย์หันมาทำหน้าตกใจ

“จริงเด่ะ ตะกี้ก่อนกลับเห็นหล่นบนเก้าอี้ เลยคายหมากฝรั่งทิ้งไปแล้ว”


ผมถึงบอกไงครับ ว่าผมอยากจะทุบมัน  ทุบมันให้ตายยยยยยยยยยยยยย....คามือ หึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึหึ





******************************************************************************
จบเสียทีจะดีไหม?    สามปีเเล้วน้อ...เร๊วววเร็ว (ยังมีหน้ามาพูดอีก) :z6:

มาEdit คำผิด(หวังว่าจะไม่ผิดเเล้วเเป่ว) +เเจ้งข่าว



ไปพบกันได้(ทวงกันได้ ตื๊บกันได้ วิ่งเล่นกันได้ เลี้ยงข้าวก็ได้ เลี้ยงหนมยิ่งดี) ที่ลิโด้ วันชมภาพยนต์เซ็งเป็ดนะคะ :o8:
ปล.จะพกเสื้อเกราะไปด้วย  o18
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-10-2009 23:48:28 โดย ภาณุเมศพลัง »

patz

  • บุคคลทั่วไป
^
^
อ๊ากกกกก   โว้วววๆๆๆ  ตอนใหม่มาแล้วววววววว



จบตอนมีหึงส่งท้ายด้วย อิอิ  :z1:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
คนแต่งลงเองอีกแล้ว แหะๆ
ทีนี้คนอ่านเขาไ้ด้รู้กันว่าคนโพสมันอู้ขนาดไหน

 :z10:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
กรีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส กลับมาแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






bank_book

  • บุคคลทั่วไป
การ รอ คอย ก็ มะ เสีย เป่า เป่า

คุ้ม ค่า กับ การ รอ คอย จิง จิง

ไง ก็ มา ต่อ เร็ว เร็ว นะ ครับบบบ   o13  o13  o13  o13  o13

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
 :o8: ลุ้นจนเหงื่อตก กูน่ะ กูน่ะ...กูเป็นไรไม่รู้แต่...ตรูลุ้นเหนื่อย
ฮ่วย...ไปปท.นอกกลับมา ไม่บอกรักกันซักทีว้า :z3:




ปล.จะไปเอาชื่อออกจากนิยายดองดีมั้ย ได้ข่าวว่าดองมาสูสีกับของคุณว่างวน
กร๊ากกกกกกก 3ปีแล้วหรือทำไปได้นะน้อง :z10:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2009 15:53:25 โดย M@nfaNG »

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
จะ...จะ...จะบอกรักกันแล้วใช่มั้ยคะ  :m11:
รอมานานแสนนานเหลือเกิน...ดีนะที่ยังจำตอนก่อนหน้านี้ได้ลางๆ
ว่าแต่ไมเคิลดูใบบอนนี่มันใครเรอะ???  กร๊ากกก!! ยังมีหน้าไปบอกเขาว่าพอจำได้ลางๆ
แต่ตอนนี้เขากุ๊กกิ๊กกันน่ารักจังเลย ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ไม่อยากเชื่อสายตาว่าเรื่องนี้มาต่อแล้ว  :call:

อ่านคู่นี้แล้วก็ยังสนุกน่ารักเหมือนเดิม ว่าแต่จะมีหวานๆ แบบไม่มีเท็กซ์เล่มหนามาเกี่ยวมั้งมั้ยค่ะ  :laugh:


Givesza

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าพี่เมศเขียนเรื่องนี้ไม่จบ



อิกิฟ๊จะฆ่าตัวตาย ถ้าตายไม่ได้ก็จะไม่มีผ+อัว ไปตลอดชาติ

 :o12: :o12: :o12:

พี่มศจะแกล้งกิฟีได้ลงคอหร๋อออ

 :sad4:


ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ถ้าพี่เมศเขียนเรื่องนี้ไม่จบ



อิกิฟ๊จะฆ่าตัวตาย ถ้าตายไม่ได้ก็จะไม่มีผ+อัว ไปตลอดชาติ

 :o12: :o12: :o12:

พี่มศจะแกล้งกิฟีได้ลงคอหร๋อออ

 :sad4:

เฮ้ย
เกิดเมศมันหมั่นไส้ไม่อยากให้กิฟปั๋ว
แล้วแต่งเรื่องนี้ไม่จบขึ้นมาทำไงล่ะ

 :jul3:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป
ฉิบหายสิพี่แป๋ม

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย

อย่าน๊าาา

 :sad4:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE







CaroL

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ถ้าพี่เมศเขียนเรื่องนี้ไม่จบ



อิกิฟ๊จะฆ่าตัวตาย ถ้าตายไม่ได้ก็จะไม่มีผ+อัว ไปตลอดชาติ

 :o12: :o12: :o12:

พี่มศจะแกล้งกิฟีได้ลงคอหร๋อออ

 :sad4:

เฮ้ย
เกิดเมศมันหมั่นไส้ไม่อยากให้กิฟปั๋ว
แล้วแต่งเรื่องนี้ไม่จบขึ้นมาทำไงล่ะ

 :jul3:


^
^
^
^
ไอ้จบไหมคงจบเเหล่ะ

เเต่เมื่อไหร่นี่ไม่รู้ไง  :laugh:

Givesza

  • บุคคลทั่วไป


Givesza

  • บุคคลทั่วไป

Y2Y

  • บุคคลทั่วไป
กรี้สสสสสสสสสส

มาต่อแล้ว เกือบพลาดนะเนี่ยะ 


 แบบว่าต้องกลับไปอ่านตอนที่แล้วก่อนแล้วค่อยกลับมาอ่านตอนนี้  555

เฮียเมศ   อ่ะน่ารัก คงไม่ใจร้ายให้จบหรอกมั้ง หุหุ


gypsy

  • บุคคลทั่วไป
สนุกดี มากเลยอ่ะเรื่องนี้

อ่านเพลินดี

น่ารักทั้งเมศ ทั้งรันย์เลย

แต่ได้ข่าวว่าคนแต่งดองมาก

หลงผิดไหมเนี่ยเรา  :m20:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด