:m30:เห็นคนอื่นเค้ามีเรื่องมาลงวันวาเลนไทน์
ด้วยใจคิดอิจฉาก็โดดเรียนมาเขียน

ยังไม่พองานไม่ทำอีก อิอิ

คงจะเจริญเข้าซักวัน

เอาไปอ่านก่อนพอเป็นน้ำจิ้มนะ แล้วเดี๋ยวมาลงต่อให้

++++++++++++++++++++++++++
ตอนพิเศษ "บ้านเรา"
เกือบสองเดือนแล้วครับที่เราเคลียร์กันได้ ทุกๆเรื่องครับผมคิดว่าเป็นแบบนั้น ทั้งเรื่องที่พี่ต่ายหายไป เรื่องที่บ้านผมแล้วก็เรื่องทำงานของพี่ต่าย ก็คืนนั้นแหล่ะครับก่อนที่ผมจะกลับมาบ้านต่างจังหวัด
ตอนนี้ผมก็ยุ่งกับงานที่ร้านเพราะกำลังจัดโปรโมชั่น ซึ่งผมเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ก็เลยยุ่งมากไม่มีเวลาคิดเรื่องสุดที่รัก ซึ่งก็คงจะยุ่งมากเหมือนกันเพราะพึ่งย้ายกลับมาต้องเริ่มต่องานกันใหม่อีก แต่พี่ต่ายก็ยังมีแก่ใจโทรหาผมเป็นระยะๆ เหอๆๆๆ ผมว่าพี่ต่ายเปลี่ยนไปครับ ดูแสดงออกมากขึ้นว่ารักผม แต่ผมก็เปลี่ยนไปครับแสดงออกน้อยลงว่ารักพี่ต่าย ผมว่าอะไรๆมันก็เปลี่ยนกันได้ทั้งนั้นแหล่ะครับ

ผมไม่ได้รักพี่ต่ายน้อยลงนะครับแต่งานผมมีเยอะมากขึ้น ต้องรับผิดชอบงานที่ตัวเองทำ พอจะหมดวันก็หมดแรงพอดี แล้วผมว่าคงเป็นเพราะตอนนี้ผมไม่ทุรนทุรายแล้วว่าพี่ต่ายรักผมรึเปล่า คิดถึงผมรึเปล่า เพราะผมมั่นใจในความรักของเรามากขึ้นครับ ตอนนี้เราเจอกันแค่อาทิตย์ละสองวันเองครับ เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมยังจำคืนวันที่เราคุยกันวันที่พี่ต่ายตกบันไดได้ดี
“พี่อยากอยู่กับโอมทุกวัน อยากเจอกันทุกคืน อยากได้นอนกอดโอมแบบนี้ตลอดเวลาพี่ลาออกดีกว่า” พี่ต่ายพูดหน้าตาเฉยครับ ไม่มีเสียดายงานอะไรเลย
“ไม่เอาพี่...จะลาออกทำไำมเงินเดือนจะเป็นแสนแล้วนะ...เสียดายยยยอ่ะ”
พี่ไม่เสียดายแต่ผมน่ะเสียดายเงินเดือน....มากกกกด้วย อิอิ แอบงกทั้งที่เงินพี่ต่ายไม่ใช่เงินผมสักหน่อย

“งั้นเราจะได้อยู่ด้วยกันได้ไงล่ะ.....หืมโอม”พี่ต่ายทำปากยื่น ขมวดคิ้ว ทำหน้างอนอย่างกับเด็กๆ ผมเห็นแล้วก็น่าขัน
ผมคลานขึ้นมานอนบนตัวพี่ต่าย เอามือมาลูบแก้มพี่ต่ายเล่น เอานิ้วกดลากที่คิ้วทั้งสองข้างให้แยกจากกัน เอานิ้วมือกดปากที่ยื่นๆให้หุบลง แต่พี่ต่ายกลับงับนิ้วผมไว้ ผมเลยต้องรีบดึงเอานิ้วออกมา พี่ต่ายยิ้มแล้วครับหัวเราะกิ๊กเชียว ผมเอานิ้วดึงแก้มพี่ต่ายออกสองข้าง ฮ่าๆๆเหมือนแป๊ะยิ้มเลยหน้าบานๆ
“ไม่เอาไม่เครียดน่ะ เดี๋ยวแก่เร็วผมไม่รักนะ” ผมยิ้มๆแล้วก็ขโมยจุ๊บปากพี่ต่ายเร็วๆ พี่ต่ายจุ๊บตอบแล้วเอามือประคองหน้าผมไว้ มองหน้าผมยิ้มๆ
“พี่คิดถึงโอมนะ.........ไม่อยากคิดเลยว่าจะไม่ได้เจอกันอีกตั้งอาทิตย์นึง เฮ้อ”พี่ต่ายถอนหายใจ
ผมต้องกลับบ้านพรุ่งนี้ พี่ต่ายก็ต้องทำงานตลอดอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ พี่ต่ายหอมแก้มผมสลับไปมาซ้ายขวาหลายครั้งเหมือนคนมันเขี้ยวน่ะครับ จนผมต้องดึงตัวเองออกมาก่อนที่แก้มผมจะช้ำ
“อาทิตย์นึงอะไรพี่แค่ 5 วันเอง พี่ต่ายก็มาหาผมที่บ้านวันเสาร์ไง”
“ไม่แค่5 ล่ะ มันตั้ง5วันนะ แล้วพี่ก็กลัวงานด่วนเสาร์จะได้ไปรึเปล่าก็ไม่รู้”พี่ต่ายขมวดคิ้ว ทำหน้ายุ่ง
“พี่จะไปกังวลทำไม ทีทิ้งผมไปตั้งปีพี่ยังทนได้เลย ชิ”
ทำเป็นมาบ่นเป็นตาแก่ ทีตอนนั้นไม่เจอกันตั้งนาน ไอ้เรื่องนี้เอาไว้เล่นได้ตลอดแหล่ะครับ เป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตรัก เหมือนพวกประวัติศาสตร์ชาติไทยประมาณนั้น หุหุหุ ขุดขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องมีเสียเลือดเนื้อกันไปข้าง
“ก็ตอนนั้นไม่เจอก็ทนได้ แต่พอเจอแล้วได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่อยากจากไปไหนแล้วนี่”

พี่ต่ายทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่ารักตายเลยครับ ไม่รู้ไปหัดอ้อนมาจากไหน
“อย่ามาพูดดีเลย”ผมพลิกตัวลงมานอนข้างๆพี่ต่าย
“ตอนนั้นพี่ก็งงนะไม่รู้ทนได้ไง อย่างดีก็แค่โทรมาถามข่าวคราวจากอิงกับบุ้ง แต่คุยถึงโอมทีไรก็คิดถึ้งคิดถึง” พี่ต่ายตะแคงตัวนอนมองหน้าผม มีเหงื่ออยู่ที่ปลายจมูกพี่ต่าย ผมเอานี้ไปเขี่ยเล่น แล้วแอบดึงจมูกพี่ต่ายเล่น
“แล้วเค้าเล่าเรื่องผมว่าไงบ้างพี่ นินทาอะไรผมบ้าง” ผมก็นอนมองหน้าพี่ต่าย พี่ต่ายเหมือนเดิมทุกอย่าง น่ารักเหมือนเคย ผมมองปากพี่ต่ายซะเพลิน
“เค้าบอกว่าโอมหงอย ซึมนั่งน้ำตาไหล ไม่ค่อยกินข้าว ไม่ยิ้ม ไม่คุย” พี่ต่ายจูบหน้าผากผมเบาๆ
“แล้วพี่ไม่สงสารผมเหรอ” ผมถามพี่ต่ายเพราะถ้าในทางกลับกันถ้าผมทิ้งพี่ต่ายไปแล้วพี่ต่ายเป็นแบบนี้ ผมคงแล่นกลับมาหาพี่ต่ายแล้ว ผมคงทนไม่ไหว
“พี่สงสารโอมมากนะ แต่ถ้าพี่กลับมาที่เราเสียใจกันไปก็ไม่มีความหมายซิ ตัดสินใจไปแล้วก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด” พี่ต่ายพูดเสียงนุ่มนวลค่อยๆสอนผม
“เหมือนคนที่เค้าวิ่งมาราธอนน่ะมันเหนื่อยมากนะโอม แต่ถ้ามีเป้าหมายคือชัยชนะข้างหน้าให้วิ่งไปแล้วมันเหนื่อยแทบจะขาดใจยังไง ก็ต้องกัดฟันวิ่งต่อไปให้ถึงเส้นชัย”
ผมเข้าใจทุกอย่างที่พี่ต่ายพูด แต่ตอนที่พี่ต่ายวิ่งทางไกลพี่ต่ายยังรู้ว่าเส้นชัยอยู่ตรงไหน ในขณะที่ผมวิ่งไปเหมือนโดนผลักให้วิ่ง โดนผูกตาวิ่งไปแบบไร้ทิศทาง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องวิ่งไปไกลอีกแค่ไหน แล้วมันมีเส้นชัยรอผมอยู่หรือเปล่า

“พี่ต่ายใจร้าย”ผมตะแคงตัวหันหลังให้พี่ต่าย คิดแล้วก็ยังอดแค้นใจไม่ได้ “พี่ยังรู้เรื่องผมบ้าง ผมซิไม่รู้เรื่องพี่เลย พี่คิดว่าใครทรมานกว่ากันล่ะ”
พี่ต่ายเอื้อมมือมาโอบเอวผม จูบผมที่ซอกคอแล้วซุกหน้าอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรแล้วถอนหายใจ คงแก้ตัวไม่ถูกน่ะซิ พี่ต่ายกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นแล้วกระซิบที่หูผมเบาๆ “พี่รักโอมน่ะครับ”
ผมรู้ว่าพี่ต่ายกำลังบอกผมในแบบของพี่ต่าย ผมเลยเลิกที่จะรื้อฟื้นเรื่องที่ทำให้เราขุ่นใจไป พยายามลืมๆมันไปชั่วคราวถึงแม้จริงๆแล้วมันยังคอยโผล่มากวนใจผมอยู่ พี่ต่ายเริ่มซุกซนมากขึ้นเรื่อยๆ แฮะๆๆ สงสัยเป็นอีกวิธีนึงปิดปากผมมั๊งครับ แล้วมันก็สำเร็จซะด้วย ใครจะไปพูดออกล่ะครับ เอิ๊กกกกกเอิ๊กกกกกกก

โดนอีกรอบแล้วครับภาค 3
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บอกแล้วว่ามันสั้น
เด๋วมาต่อดึกๆมั๊ง หรือพรุ่งนี้ดี อือดูก่อนล่ะกัน สับสน
