อ่านต่อเลยนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 39
ผมนั่งงงๆไปพักนึง แล้วก็นึกขึ้นมาได้ ว่าผมอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปหรือเปล่า
ง้อก็ได้ว่ะ ไหนๆมันอุตส่าห์มาหาถึงบ้าน ผมล่ะไม่เข้าใจเวลาใครงอน ทำไมผมต้องง้อ
แล้วทำไมเวลาผมงอนไม่มีใครง้อเลย ไม่เข้าใจจริงๆ
“บุ้งมรึงกลับมาก่อนดิ”
ผมวิ่งตามไปคว้ามือมันมาครับ มันกำลังจะออกไปนอกบ้านล่ะ มันก็ยังดึงดัน
จะไปอยู่นั่นแหล่ะ ยื้อๆยุดๆกันอยู่ตรงนั้น เหมือนเล่นชักคะเย่อ
“มรึงไม่ต้องมายุ่งกับกรู..........กรูมันคนนิสัยไม่ดีชอบหาเรื่องชาวบ้าน”
ไอ้ห่าบุ้งนี่มันงอนยังกับผู้หญิง
“กรูไม่ได้ว่าแบบนั้น...กรูไม่ได้ตั้งใจ”
“กรูจะกลับ.....ก็มรึงไล่กรูเอง”
มันยังยืนยันครับ ง้อยากนักนะมรึง งอนซะให้พอผมเลย ผมสะบัดมือมันทิ้งเลยครับ
กรูชักยัวะแล้วนะ
“ตามใจ....แต่ถ้ามรึงกลับมรึงก็ไม่ต้องมาพูดกะกูอีก...มึงจะไปไหนก็ไป”
ผมเองก็เริ่มน้อยใจเหมือนกันครับ ก็ผมง้อแล้วนะ ยังมาเล่นตัวอีก ผมกับบุ้งมองหน้ากัน
พักนึง เหมือนวัดใจกันว่าใครจะพูดก่อน
“...........” มันก็เงียบ
“............” ผมก็เงียบ
ผมเลยจะเดินเข้าบ้านละ เซ็ง........คนกำลังอารมณ์ดีๆ ทำไมต้องมาหาเรื่องทะเลาะ
กะกรูแบบดีลิเวอร์รี่ด้วยว่ะ ส่งตรงถึงบ้านเลย กรูไม่ได้โทรสั่งมาซักกะหน่อย
บุ้งเอื้อมมือมาดึงมือผมไว้ครับ มันน้ำตาไหลด้วย
โอว......เพื่อนกรู.........
ช่างเซ็นซิทีฟอะไรขนาดนี้ ผมเลยน้ำตาซึมไปด้วย
“กรูขอโทษโอม.....กรูแค่....แค่....กำลังกลุ้มใจกะจะมาคุยกับมรึงให้สบายใจ”
“พอมาเจอมรึงพูดเสียงดังกรูเลยเสียใจ.....มากไปหน่อย”
มันเช็ดน้ำตาซะน่าสงสารเลยครับ ผมมันคนใจอ่อน ผมเลยดึงตัวมันมากอดหลวมๆ
แล้วตบไหล่มันเบาๆ
“กรูก็ขอโทษ......มรึงมีเรื่องอะไรมา.......ไป....เข้าไปคุยกัน”
พอเราหันกลับมากำลังจะเข้าบ้านครับ ปรากฎว่าพี่ต่ายยืนอยู่ที่ประตู ไม่รู้ว่ายืนนาน
มาแล้วแค่ไหน สีหน้าพี่ต่ายไม่ได้บอกอะไรเลยครับ พี่ต่ายบอกผมแค่ว่า
“โอมแม่โทรมาน่ะ.....รอสายอยู่” แล้วพี่ต่ายก็เดินเข้าไปในบ้านครับ
ผมกับบุ้งก็เดินตามเข้าบ้านไปเงียบๆ ผมแยกไปรับสายแม่ บุ้งเลยนั่งรอผมอยู่ที่ห้องรับแขก
“แม่.....หวัดดีครับ” ไม่รู้แม่มีเรื่องอะไร สงสัยคิดถึงผม
“โอม....เป็นไงพี่ต่ายมาอยู่ด้วย....ดีไม๊”
“แม่ก็...เพิ่งจะมาวันแรกเอง จะไปรู้ได้ไง แต่ก็ดีไม่เหงา แม่รู้ไม๊พี่ต่ายกำลังทำกับข้าวให้โอมทานด้วย”
“เหรอก็ดีแล้วนี่.....ถ้ามีต่ายมาอยู่ด้วยแม่ก็เบาใจหน่อย...โอมน่ะยังไงๆก็ยังไม่ค่อยรู้จักรับผิดชอบ
เรื่องอะไรเลย”
อ้าวชมคนอื่นนะได้แต่ไหงว่าลูกตัวเองแบบนั้นเล่า “แม่อ่ะ...ทำไมพูดแบบนี้”
“หรือไม่จริง เราน่ะก็ยังเด็กอยู่ดี”
“ไปเรียกพี่ต่ายมาคุยกับแม่อีกที”
“ครับผม” คุยกันไปแล้วเรอะ...เมื่อกี้ พ่อลูกคนโปรดคนใหม่
“พี่ต่าย....พี่ต่ายแม่จะคุยด้วย” ผมเลยใช้ไมค์ตะโกนครับ ขี้เกียจเดิน พี่ต่ายเดินมาเขกหัวผม
“โอ๊ย.......อะไรพี่” อยู่ดีๆมาทำร้ายผมทำไม
“ก็เรานะเสียงดัง...ตะโกนทำไม...โตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ”
ผมเลยโดนเทศน์เลยครับ แค่เนี้ย....ก็ไม่ได้ ตกลงมีแฟนมาอยู่หรือได้พ่อมาอีกคนกันแน่
“ครับแม่...ครับ..ผมสอนไปแล้วครับ...กำลังทำครับ....ไม่เป็นไรครับผมชอบทำอยู่แล้ว”
“ครับผม...ได้ครับ..สวัสดีครับ”
“ไม่รู้ใครเป็นลูกกันแน่นะ...แม่เรา” ผมได้แต่บ่นไปอย่างนั้นล่ะครับ ตกกระป๋องไปซะละ
“พี่ต่ายหิวแล้ว..........ทำกับข้าวเสร็จยังคร๊าบ”
ผมเผลออ้อนพี่ต่ายไปหน่อยครับ เอามือไปเกี่ยวแขนพี่ต่ายด้วย แล้วก็รู้สึกเหมือน
มีใครมองอยู่ อ้าวลืมไปว่าบุ้งอยู่ด้วย รีบปล่อยมือแทบไม่ทัน ไอ้บุ้งมันมองตาแป๋วเลยครับ
แล้วก็พอดีกับที่พี่ต่ายหันหน้ามาเรียกผมไปกินเลยครับ
“เสร็จแล้ว ไป....โอมเรียกบุ้งมากินได้เลย”
ระหว่างทานข้าวเราก็คุยกันปรกติครับ แต่บุ้งมันคอยมองผมกับพี่ต่ายตลอดเวลา
จนบางครั้งผมก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน ว่ามันจะมองเอารางวัลหรือไงว่ะ เดี๋ยวกรูก็จัดให้หรอก
“โอมสนิทกับพี่ต่ายจังนะ” บุ้งมันเริ่มแล้วครับ แล้วผมจะตอบไงดี
“ครับสนิทมาก” พี่ต่ายตอบแทนครับ ผมกำลังจะอ้าปากพูด แต่บุ้งมันสวนมาอีก
“พี่ต่ายไม่มีบ้านเหรอ” อ้าวไอ้บุ้งกวนซะละ หยาบคายไปไม๊มรึง พี่ต่ายตอบกลับครับ
“มีครับ....แต่พี่อยากมาอยู่บ้านนี้” พอกันทั้งคู่ ผมกำลังจะพูดบ้าง
“ถ้าใครอยากจะมาอยู่แล้วก็มาได้...ผมก็จะมาอยู่บ้าง” บุ้งมันก็ร้ายนะเนี่ย แต่ที่พูด กันเนี่ย
บ้านกรูนะ แล้วนี่จะไม่ให้กรูพูดบ้างเหรอว่ะ ชักฉุนแล้วนะ
“ห้องเต็มแล้ว...ใช่ไม๊โอม”พี่ต่ายโยนมาให้ผมเลยครับ ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ถึงกับสะดุ้ง
“อือ..ใช่ๆ....ห้องที่เหลือมีแต่ของพี่อิง...ต้องกันไว้บางทีพี่เค้ามาค้างน่ะเวลาเข้ากรุงเทพฯ”
ผมก็ไม่ได้โกหกนะเรื่องจริง บุ้งมันหน้าเจื่อนไปเลยครับ ผมเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย เดี๋ยวมัน
เกิดปี่แตกขึ้นมาอีก ผมคงไม่ไหว เอาใจมันหน่อยแล้วกัน
“บุ้งกินเยอะๆนะ...พี่ต่ายทำเองอร่อยดีนะ” ผมตักกับข้าวให้บุ้ง
“ก็งั้นๆแหล่ะ...พอกินได้” ดูมันตอบครับ มันคงต้องการรอยแผลกลับบ้านไปด้วยมั๊ง
ไม่เป็นไร เชิญกันตามสบาย ผมรอเป็นหน่วยกู้ภัยเอง สงบศึกเมื่อไหร่ค่อยตามเก็บศพ
บุ้งมันกวนประสาทมากครับวันนี้ ทำไมไม่ชมไปตามมารยาทซักหน่อย พี่ต่ายเริ่มหน้ามุ่ยล่ะ
ไม่รู้จะสวนกลับว่าอะไร
“ถ้าไม่อร่อย บุ้งคงต้องไปหากินที่อื่นแล้วล่ะ แล้วนี่จะกลับหรือยัง จะได้ไปหาซื้อของอร่อยๆกิน
” เหอๆๆ เสียงพี่ต่ายเฉยเมยมากครับ น่ากลัวจริงๆ
เฮ้อ...กรูจะบร้า.....นี่จะมาตั้งป้อมทะเลาะกันใช่ไม๊เนี่ยสองคนนี้ กินข้าวแทบไม่ลงเลย
นั่นก็เพื่อนนี่ก็คนอันเป็นที่รัก หุหุหุ แล้วบุ้งมันก็พูดตอบแบบเสียงเค้นๆนะครับ
“ผมไม่ได้ว่าไม่อร่อย ผมบอกว่าพอกินได้ ผมจะกินต่อ....ยังไม่อยากกลับ” เน้นด้วยครับอีตรงประโยคสุดท้าย
“งั้นก็...กินไปซิ” พี่ต่ายยิ้มกวน....ใจ....มากเลยครับ แต่ตานะซิน่ากลัวจัง
แล้วสองคนเค้าก็คุยกันแบบนี้ไปจนกินข้าวเสร็จครับ ผมก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งฟัง
สองคนโต้คารมกัน สงสัยจะอยู่ชมรมโต้วาทีของมหาลัยกันทั้งคู่ กินกันไม่ลงจริงๆ ยังดีที่
ไม่ลุกขึ้นมาตีหัวกันไปข้างนึง แต่ถ้ากินเหล้าก็ไม่แน่ครับ ถ้าเมากันทั้งคู่ผมคงต้องจับ
แยกกันก่อนไม่ให้มาเจอกัน น่ากลัวจริงๆ ผมเลยกินข้าวไม่ค่อยลงเลยครับ
มีคนรักก็ดีกว่าคนเกลียดแต่ขอมาทีละคนจะดีกว่าครับ มานปวดหัว พอทานข้าวเสร็จ
บุ้งก็ไม่มีท่าทีจะกลับครับทั้งที่เกือบสองทุ่มแล้ว พี่ต่ายคงอยากคุยกับผมเป็นส่วนตัว ก็เลยออกมา
ในแนวๆนี้
“โอม...ขึ้นไปหาแว่นอีกอันกับพี่หน่อยซิ ตอนที่จัดของไม่รู้โอมเอาไปไว้ไหน”
“ผมไม่......”เห็นเลย แต่ไม่ทันได้พูดพี่ต่ายลากผมไปเลยครับ บุ้งมันก็ทำหน้างงๆนะครับ
“บุ้งเดี๋ยวกูมานะ”
บุ้งมันก็พยักหน้าครับ ตกลงจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันอยากจะคุยเรื่องอะไรกับผม
เฮ้อ สงสารมันเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำยังไง จะให้ผมบอกมันไปตรงๆเรื่องพี่ต่ายผมก็ไม่กล้า
พี่ต่ายใช้กำลังลากผมมาที่ห้องพี่ต่ายครับ จนผมชักเจ็บมือ เลยสะบัดมือตอนที่ขึ้นมา
ถึงบนห้อง อดโวยไม่ได้
“พี่ต่ายผมเจ็บแล้วนะ...ทำไมต้องมาฉุดไม้ฉุดมือกันขนาดนี้” ท่าทางพี่ต่ายตกใจเหมือนกัน
เลยยกข้อมือผมขึ้นมาดู มันแดงเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วเลยครับ
“พี่ขอโทษ....พี่ลืมตัวไปหน่อย...โอมเจ็บมากไม๊”
พี่ต่ายจูบที่ข้อมือผม เอาริมฝีปากคลึงๆไปมา เหมือนนวดนะครับ แต่มันแปลกๆนะ
ไม่ปล่อยซักที มีโอกาสละเป็นไม่ได้เชียว
“พี่ต่าย.....พี่ต่ายทำอะไรนะ....” แล้วพี่ต่ายก็เลิกเอาปากสัมผัสที่ข้อมือผมครับ แต่เปลี่ยนมา
จับมือผมเอามาแตะไว้ที่เอวพี่ต่าย แล้วรวบตัวผมเข้าไปสวมกอดผมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว
“โอม...พี่อยากอยู่กับโอมสองคนแล้วล่ะ”
เสียงพี่ต่ายค่อยมากๆเลยครับ ไม่รู้จะกระซิบกระซาบทำไม ก็ยืนอยู่กันแค่นี้
“จะทำยังไงให้บุ้งกลับไปฮึ.....ฮึ......ฮึ.....ฮึ” แล้วพี่ต่ายก็หอมแก้มผมสลับซ้ายขวาไปมา
ตอนที่ทำเสียงฮึๆนั่นแหล่ะครับ
“พี่ต่ายยยย....ทำอะไร....ไม่เอานะบุ้งอยู่ข้างล่าง” ผมได้แต่ส่ายหน้าหลบ แต่มันก็ไม่รอดหรอกครับ
“ถ้าโอมไม่รับปากพี่ว่าจะทำให้บุ้งกลับไปพี่ก็จะไม่ปล่อยโอมหรอก...ลองดูซิ”
“จะกอด......จะหอมแก้มโอม.....จนบุ้งขึ้นมาตาม...แล้วก็จะทำแบบนี้......”
พี่ต่ายไม่รอให้ผมยกมือฟ้องกับท่านปวีณาที่โดนพี่ต่ายประทุษร้ายครับ แต่ประทับริมฝีปากลงมาที่ปากผม สัมผัสริมฝีปากผมอย่างหิวกระหายเม้มนิดๆ แล้วพยายามสอดแทรกลิ้นเข้ามาในปากผม จนผมต้องเปิดปากรับ พี่ต่ายเอาลิ้นล้อเล่นกับลิ้นผม ผมรู้สึกร้อนไปหมดทั้งร่างกาย หัวใจเต้นแรง แข้งขาอ่อนไปหมด จนต้องกอดเอวพี่ต่ายแน่นๆ ผมเหมือนใจจะขาด พี่ต่ายเริ่มไซร้หลังหูผม ซอกคอผมแล้วอ่ะ แล้วเริ่มเอามือลวนลามเข้ามาในตัวผมแล้ว
“อืออ....พี่ต่ายยย...อย่า”ผมเสียงสั่นมากเลยครับ อายจังเลย
“ผมไปบอกบุ้งแล้วพี่......อื๋อ”
แล้วพี่ต่ายก็ปิดปากผมด้วยจุมพิตอีกครั้ง ใช้ปากซุกซนกับผมน่าดู ส่วนมือพี่ต่ายยัง
คงทำงานต่อเนื่องครับ มือนึงลูบไปตามแนวกระดูกสันหลังผมในเสื้อ อีกมือนึงก็ลูบไล้ด้าน
หน้าของผม ใช้มือลูบจากแนวไหปลาร้า ลงมาสัมผัสที่หน้าอกผม ถึงแม้จะผ่านเสื้อแต่มันก็
ทำให้ผมสั่นไปหมด ไม่ไหวแล้วถ้าเป็นแบบนี้บุ้งต้องขึ้นมาแน่ ผมเลยต้องผลักพี่ต่ายออกไปเบาๆ
“ผมไปไล่บุ้งแล้วนะพี่นะ” หอบเล็กน้อยครับ
“พี่อาบน้ำไปก่อนแล้วกัน” แล้วผมก็รีบลงไปเลยครับ เหงื่อแตกหมดเลย ขณะที่ผมลงบันได
มาก็สวนกับบุ้งกำลังจะขึ้นมาตามครับ
“อ้าวเห็นหายไปนาน เลยจะขึ้นมาดู....มีอะไรรึเปล่าโอม”
“ไม่มีอะไรหรอก..พอดีเพิ่งย้ายของมาเลยวุ่นๆหาของน่ะ”
“ไป....ลงไปข้างล่างกัน”
ผมกับบุ้งเลยลงไปนั่งคุยต่อกันพักนึง เพื่อเป็นการปรับอารมณ์ผมไปด้วย บุ้งก็ไม่เห็นพูดเรื่องอะไรเลย นอกจากเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไป ซักครึ่งชั่วโมงได้ครับ
“กรูว่าวันนี้กรูกลับก่อนดีกว่าไม่ค่อยสะดวกคุย....ไว้กรูมาหามรึงใหม่”
ผมตบไหล่มันเบาๆ แล้วบอกมันว่า
“มรึงมีอะไร ก็มาบอกกรูนะ กรูยินดีรับฟังทุกเรื่อง”
บุ้งมองหน้าแล้วสบตากับผมไม่พูดอะไรอีก พยักหน้า แล้วดึงตัวผมมากอดหลวมๆ เหมือนเวลาหยุดนิ่งไปพักนึงครับบุ้งมันถอนหายใจแล้วก็ปล่อยผม แล้วมันก็กลับไปครับ ผมไม่รู้ว่ามันมีอะไร แต่ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยมันก็รู้ว่ามีผมเป็นเพื่อนมันอยู่ตรงนี้
แต่ผมนะซิ พอนึกขึ้นมาได้เมื่อกี้บุ้งอยู่ทั้งคนยังแทบจะไม่พ้นมือพี่ต่าย แล้วนี่
เหลือกันสองคน ผมจะทำไงดี ไม่รู้ว่าคิดถูกไม๊ที่ให้บุ้งกลับไป ผมค่อยๆเดินขึ้นบ้าน
ชะโงกดูในห้องน้ำมีร่องรอยว่าพี่ต่ายอาบน้ำเสร็จแล้ว คงอยู่ในห้องนอน ผมเลยเคาะประตูห้องพี่ต่าย
“พี่ต่ายๆ พี่ช่วยไปปิดประตูบ้านข้างล่างให้ผมหน่อยนะ ผมจะได้อาบน้ำบ้าง”
พี่ต่ายชะโงกหน้าออกมาจากห้อง ส่งยิ้มสดใสมาให้ผม กลิ่นแชมพู สบู่ รวยระรินออกมาจากตัวพี่ต่าย
“ได้ครับ...โอม รอพี่ก่อนนะอย่าเพิ่งนอนล่ะ”
แล้วผมก็รีบอาบน้ำเลยครับ ด้วยความรวดเร็ว ยังได้ยินเสียงฝีเท้าพี่ต่ายเดินลงไป
ข้างล่าง ผมอาบเสร็จรีบประแป้ง แต่งตัวเรียบร้อยเลยครับแล้วนอนรอพี่ต่ายในห้องนอนผม
คอยฟังเสียงว่าเมื่อไหร่พี่ต่ายจะมา ตื่นเต้นจัง สักครู่ได้ยินเสียงบิดลูกบิดประตู กริ๊กๆ แก๊กๆ
แล้วตามด้วยเสียง ปัง....ปัง.....ปัง
“โอม...เปิดประตูให้พี่หน่อยมันล็อคอยู่น่ะ....โอมได้ยินไม๊”
อิอิอิ ขำครับ โดนผมหลอกซะละ ผมว่าเสียงผมเริงร่ามากตอนที่ตอบกลับไปว่า
“พี่ต่ายผมง่วงแล้วจะนอนแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ.....บาย”
พี่ต่ายยังคงทุบประตูต่อไปอีกพักนึงครับ แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นเบาๆว่า
“จำไว้เลยนะโอม......มาหลอกพี่....จำไว้ หึหึหึ เจ้าเด็กแสบ....”
คืนนี้ผมนอนสบายเลยครับ ได้หลอกพี่ต่ายกลับบ้าง หุหุหุ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมบอกแล้วว่าพี่ต่ายเปลี๊ยนไป๋