ตอนพิเศษ ภูรัก+โซ่
ประธานสาย คือชื่อเรียกแทนความเป็นผู้นำ
แน่นอน...คนที่อยู่ในตำแหน่งนี้ได้ต้องมีหน้าที่นำ และมีศักดิ์ยิ่งใหญ่กว่าสมาชิกคนอื่นๆในแก๊งค์
ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนต้องมีคนเดินตามเป็นพรวน
ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำเอง
เพียงแค่ขยับปากออกคำสั่งเท่านั้น ทุกอย่างจะมากองตรงหน้าคนอย่างเขาโดยไม่ต้องออกแรงใดๆ
แต่เรื่องบางเรื่อง พี่ใหญ่อย่างเขาก็ต้องลงมือทำเอง
เพราะสิ่งที่เขาต้องการ มันให้ใครทำแทนไม่ได้
อืม...บางทีอาจทำแทนกันได้ แต่เมื่อคิดถึงผลตอบแทนกับการลงทุนแล้วมันคุ้ม ...เขาก็ขอลงทุนลงแรงทำเองมันก็น่าภูมิใจมากกว่าว่ะ
เหมือนตอนนี้ที่เขากำลังเดินตามกลุ่มนักดนตรีของโรงเรียนท่ามกลางฝูงคนเป็นพันๆเพราะนี่มันงานเคาว์ดาวน์ปีใหม่ที่จังหวัดจัดขึ้น ถ้าไม่ได้ลูกน้องเดินแหวกทางให้ก่อนทั้งยังเคลียร์พื้นที่ด้านซ้าย-ขวาให้เดิน เขาคงไม่มีอากาศหายใจเป็นแน่ ไม่เข้าใจว่าภูรักมันเดินเบียดกับคนอื่นๆไปได้ยังไง จะให้รุ่นน้องนำทางให้เดินสะดวกๆก็ไม่ยอม แล้วจะไม่เป็นไรเลยถ้ามันเบียดเฉพาะคนในวง แต่นี่ใครก็ไม่รู้ยืนช้อนหลังมันซะแนบจนจะสิงกันอยู่แล้ว เข้าใจว่าคนแน่นแต่มึงอย่ามาโดนตัวเมียกูนะไอ้แย้
โซ่แตะไหล่เด็กในสายที่เดินอยู่ข้างหน้าให้หลบทางเดินตนกะจะไปเตือนไอ้แย้นั่นซะหน่อย แต่เพื่อนในสายดันจับไหล่เขาไว้ก่อน
“งานยังไม่เริ่มเลยนะมึง” ไอ้หนึ่งพูดบอก โซ่ปัดมือเพื่อนออกจากไหล่พลางถอดแว่นตาดำของตนที่ใส่ไว้ทำเท่แม้กระทั่งตอนกลางคืนออกมาเสียบไว้กระเป๋าเสื้อเชิ๊ตสีดำสกรีนหลังคำว่า ยนตกรรม ๙T แล้วมองหน้าเพื่อนอย่างขัดใจที่มันดันทักท้วง
“แต่ไอ้แย้นั่นเบียดแฟนกู” โซ่มองหน้าหนึ่งพลางชี้มือไปข้างหน้าโดยไม่หันไปมอง
“แต่ถ้ามึงไปสวัสดีมันตอนนี้แล้วโดนไอ้ภูงอนมันคุ้มว่างั้น” เออ ถูกของมัน เขาไม่ค่อยชอบลงไม้ลงมือเองหรอกนะ ไม่ชอบสนใจพวกตัวประกอบที่วิ่งผ่านสายตาด้วย แต่นี่ไอ้แย้มันดันมาวิ่งเข้าเบ้าตาโซ่พอดีเขาเลยเคือง
เกือบทำเสียฤกษ์ตั้งแต่เมียยังไม่ทันขึ้นเวทีซะละ
“เออๆ งั้นมึงเคลียร์เลยนะ” ไอ้หนึ่งมันนักเจรจาชั้นยอด ส่งมันไปคงดีกว่าเขาไปเคลียร์เอง ไอ้แย้นั่นจะได้มีชีวิตรอดรอดูเมียเขาร้องเพลงคืนนี้ต่อ
“กูว่าไม่ทันแล้วว่ะ”
“ห๊ะ?”
โซ่มองหนึ่งเป็นเครื่องหมายคำถามก่อนจะมองตามสายตาเพื่อนไปอีกทาง ทางที่ภูรักยังก้าวขาเดินไปไหนไม่ได้
ขณะเดียวกันภูรักเองก็หันมาจิกตามองโซ่เข้าพอดี เขายิ้มแหย๋โบกไม้โบกมือเชิงบอกว่าไม่เกี่ยวนะ มันไปเอง
“พี่ ขยับออกห่างๆหน่อยพี่” แสนเดินออกจากกลุ่มไปยืนหลังไอ้แย้แล้วตบไหล่มันสองที ชายหนุ่มรูปร่างสูงกว่าหันมามองด้วยความข้องใจ
“ครับ?” ไอ้แย้ชี้นิ้วใส่ตัวเอง เชิงถามว่าหมายถึงตัวมันเหรอ
“เออ พี่นั่นแหละ คนมันเยอะนะพี่ แต่เดินห่างๆพี่ชายผมหน่อยดิวะ อย่าเบียดอะเข้าใจไหม?” ไอ้แสนบอกไอ้แย้ด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจความหมายที่แสนจะสื่อเท่าไหร่...ไอ้นี่มันโง่ว่ะ คนเยอะแต่ห้ามเบียดมันน่างงตรงไหน
ป๊าบ!
ฝ่ามือเรียวบรรจงฟาดเน้นๆใส่หัวแสน
“เหี้ย ใครวะ”
“กูนี่แหละ” จากที่มือลูบหัวป้อยๆต้องยกมาไหว้เหนือหัว ยิ้มแหย๋
“แฮ่ โทษครับ ว่าแต่พี่ภูตบหัวแสนทำไมครับ”
“แล้วมึงมาหาเรื่องอะไรตรงนี้ บอกก่อนเลยนะถ้างานนี้ล่มกูคิดบัญชีทั้งสาย” ภูรักดึงแขนเสื้อทีละข้างก่อนจะวางมือทั้งสองข้างท้าวเอว มองหน้าแสนอย่างคาดโทษ
“เปล่าหาเรื่องนะ ก็ไอ้นี่มันมาเบียดพี่ก่อน” ไอ้แสนชี้หน้าไอ้แย้ที่ยืนชิดกันอยู่คล้ายฟ้อง ไอ้แย้นี่ก็ยังคงมึนทำหน้างงต่อไป
“คนมันเยอะมึงก็เห็น ใครเขาก็เบียดกันทั้งนั้น”
“แต่มันเบียดพี่นี่นา แสนไม่ชอบหนิ”
“งานนี้พ่อมึงจัดรึไงถึงได้มาจัดระเบียบคนร่วมงาน ถ้าพ่อมึงจัดก็ช่วยหาสถานที่กว้างๆกว่านี้ด้วยจะได้ไม่มีใครมาเดินเบียดกู” ภูรักต่อว่าแสนก่อนจะเชิดหน้าไปทางอื่นแล้วแหวกผู้คนเดินฉับๆไปคนเดียว ...องค์ลงอีกแล้ว
“โดนโกรธแน่เลย” แสนพึมพำตามหลัง มันก็รู้นะว่าภูรักไม่ชอบทำตัวเด่นกว่าคนอื่น นี่เล่นไปข่มคนต่อหน้าภูรักขนาดนี้ล่ะก็...สมน้ำหน้ามึงไอ้แสน
“ผมขอตัวนะครับ” ไอ้แย้พูดยิ้มๆทำให้ไอ้แสนต้องแยกเขี้ยวใส่มัน
“เพราะมึงพี่เลยโกรธกู”
“ไอ้เหี้ย” โซ่ตามมาพูดลากเสียงใส่แสนที่ทำหน้าหงอยอยู่ “จะโกรธกูอีกคนรึเปล่าวะ” เมียจ๋า งานนี้โซ่ไม่ได้สั่งไอ้แสนมันนะ โซ่คิดหาข้อแก้ต่างในใจล่วงหน้า งานนี้ต่อให้ไม่ได้เรื่องก็ทำตัวหาเรื่องเห็นๆขยันหางานให้กูจริงๆ
“ก็เฮียไม่ทำอะไร ไอ้นั่นมันลวนลามพี่อยู่นะ ผมเลยต้องออกโรงเอง”
“มึงอยู่เฉยๆได้ไหม กูนี่แฟนพี่มึง มึงไม่ต้องเสร่อมาหวงแทนกูหรอก” โซ่พูดแต่ชะเง้อคอมองตามหลังกลุ่มนักดนตรี
“ก็...”
“หุบปาก แล้วรีบตาม เดี๋ยวนี้”
เขาออกตัวเดินนำโดยไม่รอให้ใครมาแหวกทางให้เพราะกลัวตามภูรักไม่ทัน
“บัดดี้ๆ” เสียงไอ้แสนยังคงลอยมาเรื่อยๆ รำคาญมันเหมือนกันแต่ถ้าไม่มีมันเขาก็คงไม่มีโอกาสได้รู้จักกับภูรักมาถึงขนาดนี้ เพราะงั้น ปล่อยมันพล่ามอะไรของมันไปเถอะ
“เฮียๆ เมื่อกี้เราเดินผ่านอาชีวะxด้วย” แสนเบียดเพื่อนร่วมสายมาฟ้องเขา
“แล้วยังไงวะ” เดินผ่านก็เดินผ่านสิ นี่มันงานจังหวัดถึงสถาบันนั้นจะอยู่ไกลจากที่นี่แต่ใครๆก็มีสิทธิ์เที่ยวงานปีใหม่ได้ทั้งนั้น
“แต่เจอไอ้แก้วอยู่กับพวกนั้นด้วยนะเฮีย ไม่ใช่ครั้งแรกด้วย เฮียไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอ เมื่อกี้ผมเรียกก็เหมือนมันหันมาเจอนะ แต่เหมือนแกล้งหลบตากันยังไงอย่างนั้นแหละ” เด็กโนTกับอาชีวะxอีกแล้วเหรอ อะไรที่เขาไม่อยากรู้ไม่อยากเห็นนี่เข้ามาในสายตาบ่อยจริงๆ โซ่เพียงแค่ฟังไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรมากมาย
“แต่เพื่อนมึงก็อยู่รอดปลอดภัยใช่ไหมล่ะ” แต่ก็พูดให้ไอ้แสนมันเลิกหาเรื่องสงสัยไปงั้น ก็ยังไม่เห็นโดนเก็บแทนไอ้พงษ์และยังเห็นมีเวลาว่างมาหาภูรักทั้งที่อยู่ในช่วงฝึกงานได้อยู่ ถึงภูรักจะบ่นเป็นห่วงมันอยู่บ้าง แต่เขาคิดว่าเหตุการณ์มันดูไม่น่าจะมีอะไรร้ายแรงเพราะเรื่องนั้นก็ผ่านมานานแล้ว
“อืม เคยถามแล้วแต่มันไม่พูดผมก็เลยไม่อยากพูดถึงอีก”
“ดีแล้ว เรื่องของใครก็เรื่องของมัน อะไรที่ไม่เกี่ยวกับเราก็อย่าเข้าไปยุ่งเดี๋ยวมันจะวุ่นวายเปล่าๆ”
“ครับ...แต่ผมก็ยังอยากรู้เหตุผลอยู่ดี”
“ถุย มึงจะครับทำเชี่ยอะไรวะ” โซ่ส่ายหน้าระอารุ่นน้องแล้วมองเห็นภูรักมองมาทางเขาพอดี
เขาส่งยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าหาเต้นท์สีขาวที่มีไว้สำหรับใช้เป็นห้องพักของบรรดานักดนตรีที่จะขึ้นแสดงในงาน
“มองหน้าอยากได้กำลังใจเหรอ” โซ่เอ่ยถามภูรักที่มองเขาหน้าตาบึ้งตึง ซีเรียสได้อีกครับมึง
“อย่าสร้างเรื่องนะโซ่”
“ครับ” โซ่รับคำคนจอมเหวี่ยงที่กอดอกพูดบอกน้ำเสียงดุ พร้อมยิ้มให้เจ้าตัวด้วยความพออกพอใจที่เมียเป็นห่วง
“ไปรอที่หน้าเวทีได้แล้ว อีกสองวงก็จะขึ้นเล่นละ” ภูรักปัดมือไล่แล้วหันหลังจะเดินเข้าไปในเต้นท์ แต่โซ่จับมือไว้ทัน
จากที่โดนหางเลขของไอ้แสนเมื่อครู่กลายเป็นโดนเหวี่ยงเต็มๆก็คราวนี้แหละเพราะเขาไม่จับมือเดียวแต่ใช้สองมือกุมมือภูรักไว้โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้างเลย
“อย่าดื่มนะ” บอกด้วยความเป็นห่วงเช่นกันเพราะถ้าเมียเขาโดนแอลกอฮอส์เมื่อไหร่มันจะน่ารักจนเขากลัวทุกครั้ง
“นิดๆหน่อยๆเพื่องานน่า” นั่นไง ไม่มีทางที่มันจะยอมเขาง่ายๆหรอก อีกทั้งตอนนี้ภูรักก็ยังแกะมือเขาออกจากมือมันแล้วด้วย
จับนิดจับหน่อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวก็กอดให้กำลังใจมันซะตอนนี้เลยหรอก
“อย่าแม้แต่จะคิดนะโซ่ คนมองเยอะแยะ” มันพูดอย่างรู้ทัน หรือตาเขาจะฟ้องมากไป
ภูรักมันดูหยิ่งๆเหมือนไม่สนใจใคร แต่จริงๆแล้วมันแคร์คนรอบข้างจนเกินเหตุ ที่นี่นอกจากคนในสายที่รู้เรื่องของเราสองคนอยู่แล้ว คนอื่นๆก็ไม่เห็นรู้จักเราสักคน เขามั่นใจว่าคนในครอบครัวภูรักไม่มางานนี้แน่ ไม่รู้ว่ามันจะกลัวคนอื่นมองทำไม ไอ้สายตาคนอื่นนี่แคร์จริง แต่สายตาเขากว่าภูรักจะสนใจก็เล่นเอาท้อแล้วท้ออีก
“รัก”
“อะไร” เสียงเหวี่ยงได้อีก สายตาก็ต่อว่าเขาเข้าไปเถอะทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรที่ภูรักไม่ชอบเลยนะ (?)
“เปล่าเรียก แต่บอกว่ารัก” โซ่โน้มใบหน้าไปกระซิบข้างหูภูรัก
“ไอ้บ้า”
“ฮ่าๆ สู้ๆนะ” เขาถอยหลังเพราะโดนภูรักที่ยิ้มน้อยๆทุบหน้าอกเบาๆแก้เขิน พลางยกสองมือมาทำเป็นรูปหัวใจตรงหน้าอกข้างซ้ายให้ภูรักดู ภูรักแลบลิ้นแล้วรีบหมุนตัวเดินเข้าไปในเต้นท์ทันที...น่ารักว่ะ ไม่อยากให้มันร้องเพลงแล้วอยากพากลับบ้านมันซะตอนนี้เลย
“อ๊วกกกกก” ลับหลังภูรัก พวกในสายต่างพากันหันไปทำท่าอ๊วกคนละทิศคนละทาง มันแซวยันประธานสาย! แต่ไม่กล้าแซวต่อหน้าเมียเขา พวกมึงแม่งลูกน้องกูเจ๋งจริงๆ เหอะ...
...แต่ช่างพวกมันปะไร เขารักของเขา เขาพอใจที่จะบอกรักตอนไหนก็ได้ ทำไมต้องสนใจคนอื่นล่ะ
ถ้าผู้นำของคนนับร้อยจะเดินตามหลังคนๆเดียวบ้าง ไม่เห็นเป็นเรื่องเสียศักดิ์ศรีตรงไหน
...หัวใจมันอยู่เหนือศักดิ์ศรีว่ะ
............................
สวัสดีเจ้า ตอนพิเศษ? พิเศษตรงไหน...ตรงคนเขียนบอกว่ามันพิเศษเองนี่แหละ ฮาา แค่กๆ ฮ่าาาา อ้อนไว้ก่อน คิกคิก เค้าไม่สบายเน้อ กลับจากอุบลฯตั้งแต่วันที่ ๕ แล้ว แต่ปวดหัว ตัวร้อน เสียงหาย ไอจนเจ็บท้องมาตั้งแต่วันสิ้นปีแล้ว นี่ก็ยังไม่หายนะ เป็นคนที่ถ้าป่วยแล้วจะเป็นนาน รำคาญตัวเองมาก จะลุกจะนั่งก็โอย ฮ่าๆๆ แต่ขออดีตเด็กช่างมาพิมพ์พี่ภู เฮียโซ่ ก่อนเพราะวันนี้ได้นอนทั้งวันแล้ว(หยุดงานเอง กร๊ากก)
เอาเท่านี้นะคะ ไม่ต่อแล้ว(เดี๋ยวจะยาว) ทักทายพี่ๆของแก้วพอหอมปากหอมคอก็พอเนอะ ตอนหน้าเจอพี่ไม้จ้า
ขอบคุณที่มารอเน้อ (รู้สึกผิดเล็กๆที่ต้องให้รอ เล็กจริงๆ กร๊ากกก) โอย หัวเราะเสียงดังไม่ได้สะเทือนกระหม่อม เอิ๊กกก
ขอบคุณทุกคนอ่านขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ ขอตัวไปนอนต่อ กอดๆจุ๊บ^^
แวะมา ปล. ปากน้องแก้วเค้ายังไม่ลืมนะตัว รอก่อนๆ