^
^
........................
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๗
ตึกช่าง อาคาร ๒ ณ ห้องเรียนห้องหนึ่ง
ประธานนักเรียนจะเรียกคุยกับประธานสายน่ะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เขามายืนทำอะไรที่นี่ด้วย
“ไม่เชื่อถามไอ้แก้วดูสิ ผมอยู่กับมันตลอด” พี่ดิวพูดบอกเมื่อถูกคาดคั้นจากพี่ป๊อบ
“ขะ ครับ” เขาตอบได้ไม่เต็มปากนัก ...อยู่ตลอดน่ะใช่ แต่เขาไม่มั่นใจว่าทุกเวลารึเปล่าเพราะบางทีเขาก็ลืมมองพี่ดิวไป
ถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่สถาบันอื่นมาเยือนเราถึงถิ่น แต่ก็น้อยครั้งที่ประธานนักเรียนจะออกมารับเรื่องเองอย่างนี้
แล้วครั้งนี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
“แล้วจะเอายังไง ประธาน๕X มันบ้าจะตาย กูต้องเตรียมคนไว้รอเลยใช่ไหม?” พี่เวย์ ประธานสาย๗T พูดแขวะ
“ไม่ใช่เรื่องของกู กูคงไม่จำเป็นต้องยุ่งใช่ไหม?” พี่โซ่ ประธานสาย๙T พูดจบยกมือลาพวกที่ยืนอยู่ แล้วเดินหนีออกจากวงสนทนาไปเลย
มันถูกแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเอง ไม่มีใครเขาจะเอาตัวมาข้องเกี่ยวหรอก
“เรื่องเกิดที่สายกู กูจัดการเอง รับรองว่าจะไม่ให้มันใหญ่ไปกว่านี้ จะไม่ให้สายอื่นต้องมาเดือดร้อนไปด้วย” พี่แชมป์มองหน้าพี่ดิวคาดโทษทั้งเอ่ยปากบอกพี่อีกสองคนที่เหลือ ก่อนที่พี่ป๊อบ พี่เวย์จะพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้อง
“รุ่นน้องเจ็บสอง คงต้องนอนโรงพยาบาล” พี่แชมป์บอก เดินไปนั่งเก้าอี้
“แล้วไง? กูทำอะไร? มีใครเห็นไหมว่ากูเป็นคนทำ” พี่ดิวเดินไปยืนท้าวโต๊ะ
“ไอ้ดิว!”
“หึ กูว่ามึงจะป๊อดขึ้นทุกวันแล้วนะแชมป์ กะอิแค่มันยกพวกมาข่ม ก็กลัวจนขี้หด” พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันดูถูก
เขาไม่ชอบพี่ดิวในเวลานี้นัก น่าจะให้เกียรติพี่แชมป์มากกว่านี้เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นแค่เด็กในสายธรรมดาที่ไม่ควรมาได้ยินคำพูดแบบนี้เลย
“มึงจะทำอะไรกูไม่ยุ่งหรอกนะ แต่อย่าให้คนอื่นต้องมาเจ็บตัวไปด้วย มึงเป็นพี่ มึงน่าจะมีความรับผิดชอบมากกว่านี้”
“รับผิดชอบ? แล้วมึงล่ะ มึงเห็นพวกนั้นเล่นกูต่อหน้าต่อตา แล้วมึงจัดการยังไงให้กู”
“แล้วมึงรอได้ไหมล่ะ! ทำไมมึงไม่รอบ้าง ยังไงกูต้องเคลียร์ให้มึงอยู่แล้ว มึงคิดว่ากูอยู่เฉยๆรึไงวะ! “ เขา...รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่รุนแรงขึ้นของพี่แชมป์ แก้วมองหน้าพี่ทีละคน ถ้าไม่มีธุระอะไรกับเขาแล้ว เขาขอออกไปรอข้างนอกได้ไหม
...อยากจะพูดคำนี้เหลือเกิน แต่ทำได้แค่ก้มหน้ามองใต้โต๊ะเงียบๆ
“กว่ามึงจะจัดการได้ เด็กทั้งสายคงต้องนอนจมเลือดอยู่ข้างถนนหมด”
“ก็ถ้ากูโดนเล่นงานคนเดียวแล้วพวกมึงอยู่รอดปลอดภัยกันทุกคนกูก็ทำให้ได้ แต่พวกมึงจะเลิกสร้างปัญหากันได้ไหมล่ะ ก็ไม่ได้ เพราะงั้นพวกมึงก็ควรจะใจเย็น อย่ายุน้อง เด็กมันมีเรื่อง เรื่องมันก็มาถึงทุกคนในสาย มันอยู่ยากมึงไม่ยอมเข้าใจเลย”
“เหอะ” พี่ดิวแสยะยิ้มท่าทีต่อต้าน “คราวนี้ก็ถือว่าเจ๊ากันไปละกัน เมื่อวานมันทำกูก่อนเองนี่หว่า” พี่ดิวมองมาที่คอเขา แก้วร้อนตัวชอบกลกับแววตาเอาเรื่องของพี่
“เด็กโดนซ้อมจนถึงต้องปริปากบอกว่ามึงสั่งนี่นะ! คงจบง่ายๆได้หรอก” พี่แชมป์เสียงดังจ้องพี่ดิวเขม็ง
“เด็กนั่นมันคงหมั่นไส้อะไรกูสักอย่าง มึงก็อย่าไปเชื่อมันให้มาก ไปแก้วกลับบ้านกัน” พี่ดิวดึงแขนเขาออกจากห้องเหมือนไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น แก้วหันไปมองตามเสียงโต๊ะล้มโครมครามจากในห้องเรียน
พี่แชมป์คงโมโหมาก แล้วหันมามองหลังพี่…อย่างไหนที่เขาควรจะเชื่อนะ
“พี่ดิว” เขากระตุกแขนเรียกให้พี่หันมาฟัง พี่ดิวหันมามองหน้า...มองคอ แล้วมองหน้าอีกรอบ “พี่ไม่ได้ทำใช่ไหม” เขาไม่เข้าใจว่าจะถามเอาอะไร ทำหรือไม่ได้ทำก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเขาตรงไหนเลย ดีซะอีกให้มันได้เจ็บตัวซะบ้าง
“แล้วแก้วเชื่อพี่รึเปล่า?” พี่ดิวตั้งคำถามกลับมา “พี่ที่ไอ้พงษ์นับถือ พี่ที่ยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองเพื่อช่วยไอ้พงษ์ พี่ที่ทำทุกอย่างเพื่อเพื่อนของเรา ...หวังแค่ให้เราเชื่อในตัวพี่ แล้วแก้วคิดว่ายังไง?” เขานิ่ง
...ก่อนจะพยักหน้าให้พี่ดิวที่มองเขาอย่างคาดหวังพลันดึงมือตัวเองออกจากมือพี่และเป็นคนเดินนำออกจากโรงเรียนแทน
เป็นสิ่งที่เขาเคยคิดไว้ เหตุการณ์อย่างนี้มันจะหมุนรอบเป็นวงกลมอยู่ซ้ำๆ
เมื่อวานไอ้ฝิ่นไม่พอใจเรื่องเขาเลยมาดักเล่นงานคนในสาย
วันนี้พี่ดิวเอาคืน
“เฮ้อ...” เขาแหงนหน้ามองฟ้า เขาไม่ได้คิดจะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำกันมารุ่นสู่รุ่นหรอกนะ
แต่เขาจะต้องอยู่กับความรู้สึกกดดันอย่างนี้ไปอีกกี่วันกัน
ทางที่ดีเขาต้องรีบจบเรื่องของตัวเองให้ได้เร็วๆ ก่อนที่จะเกิดเรื่องอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทั้งที่บางทีมันอาจไม่เกี่ยวกับเขาแต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อรู้ว่าคนที่ทำคือใคร
ด้วยเพราะต้นเหตุมาจากเขา เขาต้องทำมันให้ได้
สักครั้งที่จะเป็นครั้งแรก...เขาอยากทำให้สำเร็จสักครั้ง ไม่ใช่แค่เป็นสิ่งที่ตัวเองทำได้
แต่มันจะต้องเป็นสิ่งที่เขาพิสูจน์ให้ไอ้พงษ์ได้เห็นว่าเขาเข้มแข็งขึ้นแล้วจริงๆ
อีกไม่นานหรอกพงษ์ เรื่องนี้มันจะต้องจบ ถ้ากูกลับไปบ้านมันอีกครั้ง กูต้องทำตามข้อตกลงให้สำเร็จ
ถึงตอนนี้กูจะอยากรู้ว่ามันอาการเป็นยังไงบ้าง แต่กูก็ไม่อยากทำลายความเชื่อใจของพี่ดิวเป็นครั้งที่สองเหมือนกัน
นักเรียนทุกระดับชั้นถูกแจ้งให้กลับบ้านทันทีไม่ต้องรอเวลาเลิกเรียน
เพราะอาจารย์ไม่มั่นใจในความปลอดภัยจากสิ่งที่เห็นเมื่อช่วงพักกลางวัน
เด็กบริหารจะมีรถตู้ไปส่งถึงหน้าบ้าน เด็กช่างจะถูกจัดให้นั่งรถบัสของโรงเรียนไปส่ง
เขากับเพื่อนร่วมสายและเด็กช่างบางส่วนก็เลือกนั่งแท๊กซี่กลับ แทนที่จะกลับรถประจำทางเหมือนทุกวัน เพื่อความปลอดภัยเช่นกัน
.
.
.
“พวกนั้นกลับมาแล้วพี่” ไอ้โจ้เดินเข้ามาบอก
เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้น ใช้ปลายรองเท้าเหยียบขยี้จนบี้แบน
วันนี้เขาใส่รองเท้าผ้าใบมาเรียน ถึงจะยังวางฝ่าเท้าได้ไม่เต็มที่ แต่แผลแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
“เรียบร้อยพี่ ผมให้เวลามันสามวันตามที่พี่บอก” สามวันเหรอ...หึ ก็แค่คำขู่เล่นๆ คนอย่างเขาจะต้องเสียเวลารอเพื่ออะไร
“ดีมาก” เขาพูดแล้วจับเสื้อฉ็อปสีเทาที่พาดอยู่บนบ่ามาสวมใส่ท่อนบนเปลือยเปล่าแทนเสื้อนักศึกษาที่ขาดเป็นรอยเฉียงจากด้านหลัง
ก็แค่โดนมีดสะกิดเท่านั้น แต่เล่นยกพวกไปถึงโรงเรียนมัน ทุกคนต้องคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ หึ ให้คิดอย่างนั้นแหละดีแล้ว
“ไม่ว่ามึงจะโวยวายหรือจะนิ่ง ในหัวมึงก็ยังคิดแต่ให้คนอื่นรู้สึกผิด” เขาโยนเสื้อนักศึกษาให้โจ้เป็นคนเอาทิ้งถังขยะที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ใส่ใจคำพูดพี่ไม้
วิธีเอาคืนน่ะ ไม่จำเป็นต้องเจาะจงวิธีใดวิธีหนึ่งหรอกนะ
แค่ลูกกระจ๊อกอยากเอาใจลูกพี่ แต่คงขาดการเทรนด์อยู่มาก...อย่าหวังว่าจะทำอะไรเขาได้เลย นี่ขนาดเขาปล่อยโอกาสให้มันได้ลงมีดกับเขาเป็นบุญหัว ยังทำได้แค่เอามีดมาเขี่ยหลัง คิดจะฟันคนมีของ โถ อนาถ...ลูกพี่อ่อนยังไง ลูกน้องก็ไม่ต่างกัน กูไม่อยากจะสมเพชพวกมึงเลยจริงๆ
“แดกยาดองดีกว่า” ฝิ่นยักไหล่กอดคอพี่พร้อมยิ้มให้ พี่ไม้ส่ายหน้าเพราะเบื่อที่จะรู้ทันแต่ปรามไม่ได้
เขาเดินนำไปจนถึงร้านยาดองซึ่งตั้งอยู่ข้างวิทยาลัย
“เอาเป็นว่าพี่รอดูอย่างเดียวละกัน ถ้าพี่ไม่อยากลงมือเองจริงๆ” ถึงเวลานั้นพี่จะต้องขอบคุณเขาแทบไม่ทันเชียวล่ะ
เขารู้ว่าพี่รอได้ แต่กว่าจะถึงวันที่ไอ้พงษ์กลับมาให้พี่เอาคืน วันนั้นเขาไม่มั่นใจว่าพี่จะเจ็บน้อยลงจนคำว่าอภัยมาแทนที่ไหม นั่นคือสิ่งที่เขากลัว จิตใจที่โลเลของพี่ในตอนนี้
สู้คอยสะกิดพวกมันต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้จุดหมาย เขาคิดอย่างนั้น และความคิดของเขานี่แหละคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว อีกทั้งการได้ลงมือทำด้วยตัวเอง คือสิ่งที่จะกำหนดบทสรุปให้เห็นกับตา ได้ดีที่สุด
อย่างเวลานี้ไอ้ดิวคงกำลังกระวนกระวายแล้วสินะ หึ เล่นด้วยกับกูง่ายจริงๆ นี่สิถึงจะสนุก แค่รอยที่กูทำเล่นๆ มึงยังลนได้ขนาดนี้
แต่...ยังหรอก มึงจะยังไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกของการสูญเสียได้ ในเมื่อวันนี้แผนของกูยังไม่คืบหน้าเลย เอาไว้ถึงวันที่ไอ้แก้ว คนของมึงหลงกูจนโงหัวไม่ขึ้นขึ้นมา วันนั้นจะเป็นวันที่พวกมึงได้ชิมรสชาดของการตายทั้งเป็นว่ามันรู้สึกยังไง
เพื่อนกูต้องไม่ตายเปล่า พี่กูต้องไม่เจ็บฟรี
...บทบาทของการเป็นผู้ถูกกระทำ พวกกูเป็นฝ่ายถูกทำร้ายมาตั้งแต่แรก จำไว้!
..................
ฝิ่นขอขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เป็นห่วงเป็นใยกับข่าวคราวที่ได้อ่านมา (เหรอ?)
ฝิ่นไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกค่ะ แต่แผ่นหลังฝิ่นนั้น...ต้องรอฉากอนาคตก่อนแล้วจะได้รู้ว่าทำไมมีดยันสปาต้าถึงทำอะไรมันไม่ได้
อันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ เพราะส่วนใหญ่คนพวกนี้เขาจะบูชาของป้องกันตัวเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าเป็นพระเอก(โถ กล้าพูด) แล้วคนเขียนจะสร้างมันขึ้นมาให้เหนือกว่าคนอื่นหรอก แต่การจะทำร้ายคนพวกนี้มันมีทริคค่ะ ไม่ใช่สักแต่จะแกว่งคมมีดแล้วจะได้เห็นเลือดพวกนี้ง่ายๆ
ลองมองความแตกต่างจากวิธีการทำร้ายฝิ่นกับเป้งดู แล้วคนเขียนจะมาบอกว่าทริคนั้นคืออะไร (อินี่มันเล่นตัว กร๊ากกก)
ประเดี๋ยวซีซั่นจะรีวิววิธีชำแหละเด็กช่างให้ดูนะคะ ฮ่าๆๆๆ
ปอลิง2 ถามนิดนึง ในชีวิตจริงแล้ว พอสอบสวน แล้วส่งตัวให้ฝ่ายตรงข้าม ปกติจะจัดการยังไงอ่าคะ โดนรุมกระทืบ? หรือส่งตัวให้ตำรวจ? etc? หรือมันจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่อง? ><"
...ไม่สปอยล์อะไรค่ะ แต่Gossip นะ (ถึงตรงนี้ไม่มีอะไรเป็นความลับแล้วล่ะนังคนเขียน )
ถ้าเรื่องที่ก่อไม่ร้ายแรง ไม่ได้เล่นกันจนตาย ไม่ส่งตัวให้ ไม่ต้องหนี ชิลๆ
ถ้าร้ายแรงถึงขั้นมีการตาย (ณ ที่นี้ หมายถึงฝ่ายกระทำ เช่นคนเขียนฆ่าพี่ไม้อย่างนี้) ก็จะสั่งโรงเรียนให้ปิดข่าวให้เงียบ คนในห้ามพูดถึงเด็ดขาด และสั่งคนที่ก่อเรื่องให้หนีไปซ่อนตัวจนกว่าเรื่องจะซา แต่ถ้าอยากกลับมาก็ดูแลตัวเองดีๆเพราะโอกาสรอด ยาก เท่าเดิม
อย่าฝันว่าคู่อริจะให้ความร่วมมืออะไร ไอ้ที่ว่าเดี๋ยวตามให้ๆอย่าไปเชื่อคำนั้น
นอกจากอาจารย์จะส่งตัวให้ตำรวจทางเดียว ซึ่งอาจารย์ก็ไม่กล้ายุ่งอยู่แล้ว
ตอบได้เท่านี้ค่ะ บางส่วนอยู่ในเนื้อเรื่องที่ผ่านมาแล้วด้วยเพียงแต่ไม่ได้บอกเป็นภาษาชัดเจนอย่างนี้ อิอิ
ตรงนี้จะเห็นเลยว่าวิธีการข่มขู่หน้าโรงเรียนเพื่อเอาตัวประกันเป็นเรื่องสูญเปล่า ที่จะได้คือ...ทำให้พวกเด็กใหม่เสียขวัญ เหมือนเป็นการดิสเครดิตความน่าเชื่อถือของพี่ใหญ่ในสาย และสร้างความวุ่นวายทำให้โรงเรียนจับตามองเด็กของตัวเองเพิ่มเพียงเล็กน้อย
ซึ่งไอ้ฝิ่นมันก็รู้ดี เพราะในเรื่องก็เคยคว้าน้ำเหลวมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ทำ...เพราะมันมองว่าครั้งนี้มันได้มากกว่าเสีย (หรือจะว่าไป มันไม่คิดถึงสิ่งที่มันเสียต่างหาก)
ปล.พี่ภู + เฮียโซ่ แปะโป้งไว้ก่อนนะคะ หวังว่าจะมีโอกาสพาไปเก็บstoryสองคนนี้เหมือนกัน แต่อะไรๆก็ไม่แน่นอนค่ะ ^^ ทำความรู้จักแบบแซมๆในเรื่องนี้ไปก่อนเนอะ
:pig4:ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่ะ ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับทุกคอมเม้นท์^^
ยินดีต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่นะคะ หลงกลเราอีกแล้ว เย่ เย่ กอดๆจุ๊บ
กรีดร้องงง เปลี่ยนหัวเรื่องแล้วจะโพสเน็ตดันหลุด เลวร้ายมาก โฮT^T
ปล.๒ คนเขียนตกใจ ไหงตอนนี้สั้นจังหว่า
แอร๊ เข้ามาดิทสาย ขอบคุณคุณเฉาก๊วยมากเจ้าาาา^^