อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑๔
เพล้ง!!!
เสียงแก้วหลังถูกปาใส่ผนังด้วยความโกรธ
โจ้หน้าเสีย รินเหล้าใส่แก้วใบใหม่วางไว้ตรงหน้าพี่ก่อนจะรีบไปเก็บกวาดเศษแก้วที่กระจัด
กระจายเต็มทางเดิน...อีกรอบ
ฝิ่นจับแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมาบีบไว้แน่น คล้ายต้องการให้มันแตกคามือ
“โจ้ๆเปลี่ยนช่องดูบอล” ขัดกับพี่ไม้ที่นั่งไขว่ห้างดูโทรทัศน์แล้วจิบเหล้าพร้อมหยิบกับแกล้มเข้าปากเรื่อยๆอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน
“แม่ ไอ้แก้วกลับถึงบ้านรึยัง” เขากดโทรศัพท์โทรออกถามข่าวจากที่บ้านตนอีกครั้ง
“ยังไม่เห็นเลย ทำไมหนูไม่โทรเข้าเบอร์เพื่อนล่ะลูก”
“หนูไม่มีเบอร์มัน” พูดไปก็โมโหตัวเอง ทำไมไม่รู้จักเมมเบอร์มันไว้ก่อนวะ
“ไปดูที่บ้านรึยังลูก แม่ว่าเจ้าแก้วคงกลับบ้านเขาล่ะมั้ง”
“หนูรออยู่บ้านมันเนี่ย” รอตั้งแต่สามทุ่มแล้ว กลับมานะกูจะกระทืบให้ลุกไปเรียนไม่ไหวเลย
ตอแหลกูดีนัก เชื่อใจๆถุย เหี้ยเอ้ย “แม่แค่นี้นะถ้าเห็นมันกลับแล้วโทรบอกหนูด้วย”
“อืมๆจ๊ะ ถ้ายังไงตามเพื่อนด้วยนะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้ อยู่ๆก็หายไปแม่ใจไม่ดีเลย” แม่บ่นส่ง
ท้ายด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะวางสาย
...แม่ก็เป็นห่วงเพื่อนเขาทุกคนนั่นแหละ แต่ไอ้แก้วมันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากต้องการหนีความผิดน่ะแม่
ฝิ่นกระดกเหล้าเข้าปากทีเดียวหมดแก้วแล้วยกขึ้นสูงหมายจะปาใส่ผนังบ้านมัน
“แก้วบ้านเขาจะหมดแล้วมั้ง” ไม่ช่วยแล้วยังจะขัดอีก
เขาเหล่ตามองพี่ไม้ที่กระดิกเท้าอย่างสบายอารมณ์ เห็นแล้วชวนหงุดหงิด จึงลุกยืนเพื่อจะเดินไปเข้าห้องน้ำสงบอารมณ์สักหน่อย
“พี่ฝิ่นหยุด!!”
“อ๊ะ ซี๊ดดด เหี้ย!” ฝิ่นกระโดดยกเท้าขวา ร้องลั่นบ้าน
โจ้ที่ในมือถือไม้กวาดกับที่ตักกำลังเก็บเศษแก้วร้องบอกแล้วแต่ไม่ทัน ฝิ่นดันเหยียบเศษแก้วที่
ตัวเองทำซะก่อน
รุ่นน้องทำหน้าหน้าแหย๋เพราะกลัวความผิด โจ้จึงรีบกวาดๆเศษแก้วที่เหลือให้ออกไกลๆเท้าพี่ แล้วดึงตัวเขากลับมานั่งที่เดิม
“สวย” เสียงคนเชียร์บอลอยู่ข้างๆพร้อมปรบมือฉาดใหญ่ดังขึ้นได้จังหวะพอดี
“พี่ไม้ก็ทับถมดีจริงจริ๊ง” โจ้ส่ายหน้าแซวพี่ใหญ่ก่อนจะหันมาทางเขา “ผมอุตส่าห์เตือนพี่แล้วนะ ไม่ต้องมาด่ากันทีหลังด้วย”
“เตือนเหี้ยอะไรของมึง” เตือนตอนเขาเหยียบแล้วนี่นะ “มึงรีบๆไปหาอะไรมาพันตีนกูให้ไวเลยนะ ซี๊ด แม่งคนไม่อยู่ บ้านยังเลวใส่กูได้อีก” อย่าให้เจอนะ กูจะเอาคืนให้หนักเลย
“โหย ผมจะไปหาจากไหนพี่ฝิ่น กลับไปทำแผลที่บ้านพี่กันเถอะ เดี๋ยวผมรอมันอยู่นี่เอง” ไอ้นี่มึงก็รื้อหาสิวะ ยากตรงไหน
“นี่ๆ เลิกเถียงกันได้แล้ว รบกวนกูไหม มารยาทน่ะมีกันบ้าง” ปากพูดแต่ตาไม่ยอมหันหนีจากจอโทรทัศน์เลย
ใช่สิ เขาไม่ใช่น้องรักนี่
“จิ๊ พี่ห่วงผมสักนิดไหมวะ เห็นไหมเนี่ยเลือดออกเต็มตีนอยู่เนี่ย” เอาแต่จะคอยสมน้ำหน้าท่าเดียว
พี่ไม้หันมองเท้าเขาตามที่มือชี้ให้ดู แล้วพี่ก็จับยกขึ้นวางพาดโต๊ะกระจกเตี้ยๆซึ่งตอนนี้วางขวดวาง
แก้วเหล้าอยู่ แล้วหยิบแก้วเหล้าของตัวเองเทราดใส่เท้าเขา
“อ๊าก เย็นๆๆ ทำบ้าอะไรของพี่วะ”
“แอลกอฮอล์ล้างแผล”
“อุ๊บ ...ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้โจ้!” ตวาดไอ้โจ้ที่ไปรับมุกพี่ อยากจะต่อว่าพี่ว่ารักน้องไม่เท่ากันจริงๆแต่คิดว่าเอามาพูดเวลานี้คงยังไม่เหมาะ
จึงได้แต่นั่งหน้ามุ่ยให้ไอ้โจ้เอาน้ำสะอาดมาล้างแผลซ้ำไปก่อนแล้วเอาผ้าเช็ดตัวผืนเล็กๆของมันมาซับเท้าตัวเองไปพลางๆ
เขาส่งรุ่นน้องกลับบ้านเสร็จตั้งแต่ห้าโมงเย็น ไม่ได้หวังว่าจะเห็นมันกลับเข้าบ้านหกโมงเป๊ะหรอกนะแต่แค่ตั้งเวลาบีบไว้เล่นๆเท่านั้น
แต่หกโมงครึ่งก็แล้ว ทุ่มสองทุ่มก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นหัวมันโผล่เข้าบ้านจนเขาต้องชวนพี่ไม้กับไอ้โจ้มาดูที่บ้านนี้เผื่อว่ามันจะขัดคำสั่งเขาแล้วมาที่นี่ จนตอนนี้สี่ทุ่มกว่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ...นี่มึงตั้งใจหนีใช่ไหม
นึกแล้วเชียวทำไมอยู่ดีๆไอ้แก้วมันคิดจะกลับมาอยู่บ้านเพราะนอกจากจะชิ่งหนีความผิดแล้วจะมีเหตุผลอะไรได้อีก ในเมื่อบอกแล้วไม่ยอมทำตาม กล้าทำลายความเชื่อใจเขา เขาก็จะทำให้มันเห็นว่าเขาพูดจริงแล้วก็ทำได้จริง กล้าไม่รักษาคำพูดกับเขา มันก็ต้องมีตัวอย่างให้เห็นบ้างล่ะ
“มันหนีไปอยู่ไหนวะ”
“มันสนิทกับไอ้พงษ์ก็ใช่ว่ามันจะมีเพื่อนแค่คนเดียวนี่พี่” ไอ้โจ้พูดบอก ใช่มันมีเพื่อน แต่มันจะไปอยู่บ้านใครที่คุ้มหัวมันได้ล่ะ
“ไอ้ดิว!” เขาอุทานออกมา ใช่ มันยังเหลือไอ้ดิวอีกคนที่คอยคุ้มกะลาหัวมันอยู่ งั้นกูก็จะเล่นไอ้ดิวนี่แหละให้มึงดู จะได้รู้สักทีว่าถ้ากูไม่ปล่อย หน้าไหนมันก็เจ็บได้ทั้งนั้น
.
.
.
ฝิ่นในชุดนักศึกษาแต่สวมรองเท้าแตะ เท้าขวามีผ้าพันแผลพันไว้อยู่ แต่ยังเดินทางไปวิทยาลัย
จนถึงแยกระหว่างทางไปเทคโนTกับอาชีวะx ฝิ่นกับพวก ลงจากรถประจำทางเพื่อรอต้อนรับการเปิดเทอมและสั่งสอนไอ้แก้วไปในตัว
“ดักรอมันตรงนี้ เล่นไอ้ดิวให้ได้ เอาคนใกล้ตัวมันนั่นแหละ แต่ถ้าใครแส่ก็จัดการได้เลย” ฝิ่นสั่งรุ่นน้อง
“พี่จะเอาด้วยเหรอ เดินไหวไหมนั่น” ไอ้โจ้ถาม กะอิแค่ตีนเจ็บกูไม่ได้พิการนะเว้ย แล้วที่ตีนกูเป็นอย่างนี้เพราะใครล่ะ กูไม่ปล่อยให้มันอยู่อย่างสบายใจหรอกนะ
“แค่นี้กูไม่ตายหรอก แต่คนที่ไม่รักษาคำพูดกับกูน่ะ ต้องถูกสั่งสอน”
“พี่รอฟังข่าวละกัน เดี๋ยวผมเคลียร์ให้” ไอ้โจ้ส่ายหน้าไม่เห็นด้วย เอ่ยขัดความตั้งใจ เขาฮึดอัดลองทิ้งน้ำหนักลงเท้าจะได้ชิน แต่มันเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีเลยได้แต่พยักหน้าเออออตามมัน แต่ก็ไม่วายสั่ง
“เล่นให้หนักเอาแค่เจ็บ ระวังตัวกันด้วย” เอ่ยปากสั่งไอ้โจ้ ยกเท้าขึ้นมาดู เหี้ย เลือดซึม บ้าฉิบหาย
“ลูกพี่ไรวะ นั่งรออย่างเดียว” พี่ไม้ไม่วายเย้ยหยัน เหอะ กูคนนะเว้ยไม่ใช่หุ่นยนต์ แล้วมาได้แผลที่ตีนเนี่ย กูจะเอาอะไรเดินไม่ทราบ กัดกูได้ทุกเม็ดสิน่า
“เมื่อก่อนไม่เคยสั่งผมเลยเนอะ” พี่ไม้เฉไฉด้วยการตบหัวเขาเมื่อโดนย้อน ดีนะไม่มีเด็กในสายคนอื่นแล้ว ไม่งั้นเสียภาพพจน์ประธานสายฉิบหาย
“ไปรอที่วิทยาลัยดีกว่า เกิดตำรวจวิ่งมา กูไม่มีปัญญาแบกมึงหลบหรอกนะ” พี่ไม้พูดเสร็จเดินล้วงกระเป๋าไปยืนโบกแท็กซี่ก่อนเลย เขาจึงต้องรีบเขย่งเท้าเดินตาม
ไอ้โจ้กับพวกเข้ามาวิทยาลัยเกือบสิบโมง เขารู้ฝีมือลูกน้องดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องห่วงอะไร
“ไอ้ดิวหัวแตก มีคนเล่นสนับมือ ผมห้ามไม่ทัน” ฝิ่นหยักหน้า ก็บอกแล้วเอาให้เจ็บ จะเจ็บด้วยวิธีไหนก็ทำไปเถอะ “ส่วนไอ้แก้วประธานสายคุมอยู่ ผมเข้าใกล้ไม่ได้” ไม่เป็นไร ไม่ได้จะทำอะไรมันอยู่แล้วแค่ต้องการให้มันได้เห็นแค่นั้นพอ
แต่มันก็ใช่ย่อยเหมือนกันนอกจากไอ้ดิวแล้วยังมีถึงไอ้แชมป์คุ้มหัวอีก แต่... ปล่อยมันไปก่อน คนอย่างไอ้แก้วถ้ามีตัวอย่างให้เห็นสักสองสามครั้ง เดี๋ยวก็กลับมาอยู่แทบเท้าเขาเองนั่นแหละ
“ฝั่งเราล่ะ” เอ่ยถามสภาพลูกน้องตัวเอง
“เล็กน้อยพี่ ไม่ได้มากไปกว่าทุกครั้ง”
“อืม” เขาพยักหน้ารับ ถ้าโจ้บอกไม่เป็นไรก็คืออย่างนั้น อีกอย่างเรื่องอย่างนี้เด็กบางคนมันก็รอวันเล่นอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องสนุกของพวกมันซะอีก
ใครอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ แค่รักษาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว
คนเป็นพี่ใหญ่อย่างเขาทำใจไม่ได้หรอกนะถ้าต้องเห็นน้องหรือเพื่อนของตัวเองต้องเจ็บหรือตาย...
แต่ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ มึงทำกูเจ็บ มึงต้องเจ็บมากกว่ากู
เรื่องเก่ายังชดใช้ไม่ได้ อยากก่อเรื่องขึ้นมาเพิ่มทำไม ช่วยไม่ได้จริงๆ
จำไว้เป็นบทเรียนนะไอ้แก้ว นี่แค่คำเตือนเล็กๆน้อยๆ รอวันที่แผลกูหายเมื่อไหร่ มึงได้ทุกข์ใจจนแทบกระอักเลือดแน่
..................................................
สั้น!!
……………………………………
ชื่อเล่น ไม้
อายุ ๒๐ ปี
น้ำหนัก ๑๘๐ เซนติเมตร
ส่วนสูง ๖๔ กิโลกรัม
ปวส.๒ ช่างยนต์
ประธานสาย๕x ปีที่แล้ว
ได้ข่าวว่าเป็นแค่พี่พระเอกไหงโปรไฟล์มาก่อน... ก็เค้ารักของเค้านี่ ฮ่าๆๆๆ
ชื่อเล่น ฝิ่น
อายุ ๑๙ ปี
น้ำหนัก ๑๗๗ เซนติเมตร
ส่วนสูง ๖๕ กิโลกรัม
ปวส.๑ ช่างยนต์
ประธานสาย๕x ปัจจุบัน
............................
มีคำไม่สุภาพอยู่นะคร๊าบ เด็กๆไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
แต่ก็นะ จะให้ไอ้ฝิ่นพูดเพราะกว่านี้นิยายก็คงเลี่ยนแปลกๆพิลึก ฮ่า
คนอ่านน่ะ!! //ประท้วงๆโวยวายๆ ถ้าจะรู้ใจไอ้ฝิ่นกันขนาดนี้ล่ะก็...คนเขียนจะเอาอะไรมาหากินเน้อ โฮฮฮ
ช่วง...ชงตัวเอง ... ตอนนี้ก็ปาไปตอนที่ ๑๔ แล้ว //แปะ แปะ แปะ ปรบมือ (เยอะตรงไหน?) คนอ่านที่ติดตามกันมาอย่างมึนงงตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ ด้วยความที่ซีซั่นเป็นคนบกพร่องเรื่องการเรียบเรียงคำพูด เอ่อ อย่างหนัก เขียนนิยายเรื่องนี้ออกมาก็ด้วยความอยากล้วนๆ คนอ่านคิดว่าภาษาในนิยาย งงน้อยลงไหม? เค้าว่าน้อยลงแล้วนะ ใช่เปล่า คนอ่านว่าไง?
เสาร์ อาทิตย์ ไม่อัพนะคร๊าบบบ ไม่อยากเป็นเทพ //สะบัดหน้าใส่คุณratnalin ไม่ต้องมายุเลย เค้าทำไม่ได้ ฮ่าๆ
ปล.แก้วผอมจริงๆค่ะ คงต้องหายาดีให้น้องไวๆซะแล้ว คิกคิก
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ^^ กอดๆจุ๊บ
แฮ่ม ลืมบอก เดี๋ยวมีตอนนอกรอบตอบแทนคนอ่านนะคะ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆนี้^^