เอ่อ...ขอโทษขอโพยคนอ่านล่วงหน้าก่อนนิดนึงนะคะ แหะ ๆ ...ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะเลวอย่างนี้T^T
แต่นิยายเราเฮฮาปาจิงโกะใช่ไหมคะ อ่านจบแล้วอนุญาตให้เบิ๊ดหัวนางได้ กร๊ากกก
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๕๙
แก้วลุกไปกดปุ่มปรับระดับเตียงเพื่อให้พงษ์สามารถลุกขึ้นมาทานข้าวได้
“ซี๊ด พอ ๆ” พงษ์ยกมือบอกให้หยุด
“เจ็บแผลเหรอ เอายาชาอีกไหมพยาบาลบอกว่าขอได้นะ” แก้วบอก เห็นว่าพงษ์หน้าตาดูเหยเก
“ไม่เจ็บหรอก ไหนดูซิเขาเอาอะไรมาให้กูกินบ้าง” มันตอบหน้าบูดหน้าเบี้ยวแล้วเอามือออกจากแผลก่อนหยิบฝาที่ปิดภาชนะใส่อาหารของโรงพยาบาลเปิดออก พลางเบ้หน้า “แหวะ”
“ฮะ ๆ” แก้วหัวเราะ จนพงษ์แยกเขี้ยวใส่
“อาหารหมายังดูน่ากินกว่า นี่กูจ่ายค่าห้องคืนละร้อยห้าสิบเหรอวะ”
“เลือกไม่ได้ว่ะยังไงก็ต้องกิน ทนกินจืด ๆ ไม่กี่วันหรอกน่า” พงษ์ไม่ชอบอาหารรสจืด แต่ที่เปิดมานี่มีแค่ข้าวต้มปลาซึ่งไม่มีซองเครื่องปรุงติดมาด้วยเลยสักห่อ
“เออ ๆ ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว น้ำล้างจานยังกินมาแล้วเลย”
“พูดไปโน่น” แก้วส่ายหน้าให้กับความขี้โม้ของพงษ์แล้วหยิบช้อนมาตักข้าวต้มที่ไร้เครื่องปรุงแล้วเป่า
“กินเอง ๆ” พงษ์บอกพลางเอามือแตะข้อมือเขา เขาจึงส่งช้อนให้เจ้าตัวแล้วถอยไปนั่งที่เตียงมองมันกินอาหารมื้อเช้าที่ปาไปเก้าโมง
ยาชาน่าจะหมดฤทธิ์แล้ว ตอนหน้าผากกระแทกโขดหินได้แผลมานิดเดียวยังเจ็บจี๊ดเลย แล้วนี่ทั้งโดนผ่าทั้งโดนเย็บทั้งแผลภายในภายนอก ...ไม่เจ็บเลยจริง ๆ เหรอ?
“เฮ้อ...” แก้วส่ายหน้าให้คนชอบหนีความจริง
“ไอ้ฝิ่นล่ะ?” พงษ์ถาม มือตักข้าวต้มเข้าปาก ตามองโทรทัศน์
“ไปวิทยาลัยตั้งแต่เช้า”
“อืม”
“...อืม?” เขาทวนคำของพงษ์ “มีอะไรรึเปล่า” ปกติไม่เคยถามถึงนี่
“เปล่า!” เปล่า แต่ขึ้นเสียง...
“เอาล่ะ น่าจะตื่นดีแล้ว ข้าวก็กินเองได้ งั้นอธิบายได้รึยังพงษ์” ไม่มีใครรู้ดีและเขาซักได้ทุกคำเท่ามันแล้ว ในเมื่อเรื่องมาเกิดอย่างนี้ ยังไง ๆ ต้องบังคับเอาคำตอบจากมันให้หมดให้ได้
“ไอ้โซ่มันว่ายังไงบ้างล่ะ?” ถาม? นี่เขาถามมันก่อนนะ
“พี่ดิวฆ่าพี่เป้ง” แก้วตอบเสียงห้วน มือกอดอก มองไอ้คนที่กำลังกินข้าวตาขวาง
“เอาไว้พูดกันทีเดียว”
“เฮอะ? ไม่เอา บอกมาเลย ยังไง ๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว แค่...แค่ยังคาใจเล็ก ๆ เอง” แก้วโวย แต่ไอ้พงษ์ยังดูโทรทัศน์อยู่อย่างนั้น ฟังรึเปล่าก็ไม่รู้
ฟึ่บ!
หยิบรีโมทมากดปิดซะเลย
“ตัวเล็ก กูไม่ใช่ผู้ชายสมบูรณ์แบบอย่างที่ลูกผู้ชายควรจะเป็น มึง...” โอเคมันเลิกดูโทรทัศน์แล้ว เพราะเขาปิดไปแล้ว แต่มันมองถ้วยข้าวต้ม มองช้อนแทนแล้วก็พูดน้ำเสียงนิ่ง ๆ
“กูมีมึงอยู่คนเดียว” เขาพูดสวน
พงษ์ไม่จำเป็นต้องเป็นวีรบุรุษกู้โลก แค่มันเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเขาเหมือนเก่า แค่นั้นก็มากพอแล้ว
“มีกูสองคนก็แปลกแล้วล่ะ”
“พงษ์...” น้ำเสียงยาน ๆ ของเขาบวกกับลุกไปยืนท้าวเตียงคนไข้ทำให้พงษ์ตลกไม่ออกอีก “ถ้ากูเดาไม่ผิด มึงออกรับแทนพี่ดิวมันเกี่ยวกับกูใช่ไหม?”
“..............................” เงียบ
“นั่นไง” มีไม่กี่เหตุผลที่พงษ์จะทำอะไรแต่ละอย่าง “พี่เป้ง เคยทำกูยังเป็นเรื่องจริงสินะ” ถามเพราะไม่มั่นใจ เขาไม่เคยจดจำใบหน้าว่าใครเคยตบช็อปเขาเลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นในชีวิตขนาดนั้น
“ไม่ว่ากูจะเหลวไหลยังไงมึงก็เข้าข้างกู” มันพูดในสิ่งที่มันแน่อยู่แล้ว
“ไม่ใช่เหตุผลเลยพงษ์ กูไม่ดีใจหรอกนะถ้ามึงจะชั่วเพราะกูน่ะ แต่กูจะโทษมึงได้ยังไงในเมื่อมึง...แม่งเว้ย!” พูดไปก็เข้าตัว
“เลิกพูด ไปล้างหน้าไป”
“พงษ์?!”
แต่มันก็ไม่ยอมพูดอะไรต่อ
แก้วเดินฟึดฟัดเปิดประตูกระจกออกไประเบียง หยิบผ้าขนหนูที่ตากไว้เมื่อคืนแล้วเดินกลับเข้าห้อง
“งั้นกูอาบน้ำเลยนะ” สะบัดน้ำเสียงบอกมัน เห็นไอ้พงษ์พยักหน้าให้ แก้วจึงเดินเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่อีกด้านของเตียงและปิดประตูเสียงดังใส่ ปัง!
หวังว่าที่พี่ดิวฆ่าพี่เป้ง คงไม่ใช่สาเหตุเพราะพี่เป้งทำเขาหรอกนะ
สายน้ำจากฝักบัวไหลรดศีรษะลงไปตามร่างกายจรดปลายเท้า ถ้ารอจนกว่าฝิ่นกลับมาแล้วพงษ์จะเปิดปากพูดทุกอย่างที่ปิดไว้ไหมนะ แล้วเขา...จะมีส่วนต้องรับผิดชอบอีกรึเปล่า ถ้าต้นเหตุยังมาจากเขาที่ทำให้พงษ์ต้องออกรับแทนพี่ดิว แล้วเขา...ยังจะมีความผิดเกี่ยวกับการตายของพี่เป้งรึเปล่า หากยังเป็นอย่างนั้น เขาจะมองหน้าพี่ฝิ่นติดเหรอ
...สบายใจได้แค่ข้ามคืนเท่านั้นเองเหรอ?
เคร้ง!!
แก้วปิดฝักบัวเพราะได้ยินเสียงดังผิดปกติเหมือนมีอะไรหล่นลงพื้น
แต่พอไร้เสียงน้ำกระทบพื้นกลับไม่ได้ยินเสียงอะไร
บางทีเขาอาจหูแว่วไปเอง แก้วจึงเปิดฝักบัวอีกครั้งเพื่อล้างยาสระผมออกให้หมด
“แก้ว! แก้ว!”
“มีอะไร!” แก้วตะโกนถามพงษ์หลังปิดฝักบัวเป็นครั้งที่สองเพราะอาบน้ำเสร็จแล้ว
“อย่าออกมา อย่าออกมา!”
อะไร?!
“อ๊าก!! อย่าออกมานะ อย่าออกมา!” เสียงตะโกนสั่งห้ามคล้ายคนเจ็บปวด เขาร้อนใจเกินกว่าจะทำตามที่มันสั่ง แก้วรีบหยิบผ้าขนหนูมาพันเอวแล้วเปิดล็อกกลอนประตูห้องน้ำออกอย่างเร็วเพราะไม่รู้ว่าพงษ์เป็นอะไรไปแต่ฟังจากน้ำเสียงดูท่าจะไม่ดีเอาซะเลย
“เป็นอะไรรึเปล่าพงษ์! อ๊ะ!”
“หึ!”
“พี่ดี...” แก้วตาเบิกโพลงเมื่อเห็นมันท้าวแขนกับประตูห้องน้ำมองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าพลางยิ้มเหยียด
“รีบจัดการเลยดี!” เสียงดิวดังออกมาจากฝั่งแถวเตียงคนไข้ซึ่งเขามองไม่เห็นว่ามันทำอะไรพงษ์รึเปล่า
“แก้ว!หนีไป!หนี!”
“ไม่ทันแล้วล่ะ” ไอ้พี่ดีกระชากลากแขนเขาไปโยนใส่โซฟา เขาถึงได้เห็นว่าพงษ์โดนดิวซึ่งหัวยังมีผ้าพันที่หัว และแขนข้างซ้ายยังเข้าเฝือก แต่ข้างขวาดิวซึ่งปกติดีกำลังกดฝ่ามือเข้าที่แผลตรงหน้าท้องของพงษ์จนเห็นเลือดสีแดงซึมออกมาที่เสื้อคนไข้และที่ฝ่ามือดิว
“พงษ์!” ร้องเรียกออกไปทั้งน้ำตากำลังเอ่อ
“อย่าทำไอ้แก้ว” พงษ์กัดฟันพูดในขณะที่ดีจับสองแขนเขาขึงพืดกดกับโซฟา
ภาชนะใส่อาหารรวมทั้งข้าวต้มเทคว่ำเลอะเปื้อนเตียงยันพื้นห้อง
“เอาอะไรมาสั่งกู ห๊ะ มึงเอาอะไรมาสั่ง ฮ่า ๆ ๆ” ซ้ำมือข้างที่มีเข็มน้ำเกลือของพงษ์ ไอ้เหี้ยดิวมันยังยกเข่าขึ้นกดทิ่มเข็มให้แทงหลังมือพงษ์จนสายน้ำเกลือเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลย้อนขึ้นไป
“ดิว! มึงจะทำอะไรกูก็ได้ แต่อย่าทำมัน กูขอ กูขอ!”
“ขอ...? ทั้งที่ทำมัน กูสะใจกว่า? คนไม่รักษาสัญญาอย่างมึง สมควร...เอาให้ตายทั้งเป็น” สายตาไม่เป็นมิตรของไอ้ดิวมองไอ้พงษ์อย่างสะใจ
“อ๊าก! อือ” พงษ์พยายามปิดปากไม่ร้องแสดงความเจ็บปวดออกมา มืออีกข้างจับมือดิวที่ยังกดลงที่แผลไม่ลดละและดูจะเพิ่มแรงกดไปทั้งตัวด้วยซ้ำ
“อย่าสนใจคนอื่นเลย ในที่สุด พี่ก็ได้กินมึงจนได้” ดีกระซิบข้างหูแล้วขานั่นก็แทรกเข้ามากลางหว่างขาที่กั้นไว้เพียงผ้าขนหนูผืนเดียว
“แก้ว! อึก เหี้ย ๆ อย่างมึงกูอุตส่าห์เชื่อใจให้ดูแลไอ้แก้ว แต่นี่เหรอวะข้อแลกเปลี่ยนที่กูได้ ทั้งที่เรื่องมันไม่เคยแดงเลยถ้ามึงไม่ทำพวกกู อ๊าซ”
“มึงผิดสัญญาแต่แรกมึงลืมไปแล้วเหรอ!” ไอ้ดิวเปลี่ยนเป็นกดกำปั้นเข้าที่แผลพงษ์อีกรอบ แก้วที่เบือนหน้าหนีจากไอ้ดีแต่เห็นภาพบนเตียงคนไข้ได้ชัดเจน เขาเจ็บ เจ็บปวดแทนพงษ์เหลือเกิน ทำไมถึงได้โหดร้ายกับเราขนาดนี้ “มึงกลับมาตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง นั่น! มึงผิดสัญญากับกูแต่กูยังใจดี เฝ้าดูแลมันตามที่รับปากทั้งที่มันไม่ใยดีกูเลย จนมึงจะเอามันหนีกูไปอีกรอบ นอกจากเป็นขี้ข้าไอ้เหี้ยฝิ่นแล้ว มึงยังหักหลังกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
“กูไม่เคย!”
“หึ อย่าพล่ามอีกเลยเพื่อน ถ้าจะตายก็ตายมันไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ในเมื่อกูจะไม่รอดอยู่แล้ว มึงและมึง” ไอ้ดิวมองเขาสายตากร้าว “ดี ขย่มมันให้ตาย”
พี่ดิว...
เหมือนที่มันเคยสั่งไอ้ดีให้ทำกับมิว...
อึก
“ไอ้ดิวเคยหวงมึงมาก แต่ถ้ามันไม่เอาแล้วก็เสร็จกูทุกราย ฮืมมม...ตัวมึงหอมจริง ๆ เอ...หรือวันนี้มีผัวพร้อมกันสองคนเลยเป็นไง?” ไอ้ดีคลอเคลียสูดดมไปทั่วหน้าทั่วตา
“เป็นความคิดที่ดีมาก”
แก้วเกร็งแขนเพื่อรวบรวมแรงจะดันแขนคนด้านบนออก ในขณะที่ไอ้ดิวมันดึงสายน้ำเกลือออกจากขวดแล้วเอาไปพันข้อมือพงษ์ทั้งสองข้างที่มันเอาไขว้หลังไว้แล้ว
“พงษ์ ฮึก พี่ดิวพอเถอะ อย่าทำพงษ์ พงษ์เจ็บ อย่าทำ อย่าทำ”
“พอแล้ว พี่พอแล้วนี่ไง” ไอ้ดิวละมือออกจากหลังพงษ์เมื่อมันมัดมือพงษ์ไขว้หลังเสร็จด้วยสายน้ำเกลือ มันยิ้มอย่างน่ารังเกียจแล้วเดินมาดันหลังเขาให้ลุกขึ้นนั่งทั้งข้อแขนเขาซึ่งโดนไอ้ดีกำอย่างแรงทั้งสองข้าง เขาดิ้นขลุกขลักแต่ก็นั่นแหละ ... “พี่ใจดีกับมึงเสมอ เห็นไหม?” สุดท้ายก็โดนประกบหน้าประกบหลัง
“ถุย!” เขาถุยน้ำลายใส่หน้าไอ้ดิวที่มันวนเวียนอยู่ข้างแก้ม “กูไปทำอะไรให้มึงโกรธแค้นนักหนาทำไมต้องทำกันขนาดนี้”
“หึ อยากตายเร็วขึ้นงั้นสิ” ไอ้ดิวล็อกแขนเขาไว้จากข้างหลัง ไอ้ดีถอดเข็มขัดออกจากกางเกงมันแล้วกระตุกผ้าขนหนูออกจากเอวเขาโยนทิ้ง
ผลัก!
สู้แค่ตาย...
แก้วยันสองเท้าใส่ไอ้ดีเต็มแรงแต่มันแค่หงายหลังไปเท่านั้นแล้วลุกมามองหน้าเขาเหี้ยม
“แก้ว!” ตุ๊บ!
พงษ์กลิ้งตกจากเตียง ...สองแขนมันไร้อิสระ ตัวก็คู้งอด้วยความเจ็บแผลแต่มันยังจะช่วยเขา
“เรียกพยาบาลพงษ์ ฮึก เรียกพยาบาล” คนร่างเปลือยเปล่าตะโกนบอก แต่ไอ้สองพี่น้องหัวเราะชอบใจ และพงษ์ไม่ยอมทำตามที่เขาบอก มันกลับคลานเพื่อจะเข้ามาหาเขาให้เร็วที่สุด
“เข้าเลยดี สงสัยไอ้เพื่อนรักอยากเห็นให้เต็มตา” ไอ้ดิวล็อกแขน แล้วเอาขามาเกี่ยวขาเขาทั้งสองข้างให้อ้าออก ไอ้ดีมองส่วนกลางลำตัวเขาด้วยใบหน้าสาแก่ใจก่อนเอื้อมมือมาเขี่ย ๆ และจับรูดขึ้นรูดลงหากแต่เขาไม่มีอารมณ์ร่วมจะมีก็เพียงความขยะแขยง ก่อนแหย่นิ้วที่มันถุยน้ำลายใส่เข้ามาที่ช่องทางด้านหลังของเขาพรวดเดียวสองนิ้ว
“โอ๊ย! ฮึก” น้ำตาแตกด้วยความเจ็บ แสบ อึดอัด รังเกียจ ฮือ
“แก้ว...” พงษ์นอนตัวงออยู่ที่พื้นมองมายังเขา และน้ำตาของมันที่ชัดเจนกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด
“โอว อีกนิดเดียว อีกนิดพี่จะได้เข้าแล้ว ไม่ต้องร้อง ยังไงกูก็จะเอามึงให้ตายกันไปข้าง หึหึ” ไอ้ดีพูดบอกเสียงกระเส่า
ฮึก...
เขาส่ายหน้ารัวในขณะที่ไอ้ดีสอดนิ้วเข้า ๆ ออก ๆ มาในตัวเขาปนกับเสียงหัวเราะของมันทั้งสองคน ปนกับเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาที่ดังลั่นขึ้นมา
“ฝิ่น พี่ฝิ่น ฮือ” ร้องเรียกออกไปหวังว่าคนที่โทรมาคงเป็นมัน ทั้งที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ในเมื่อฝิ่นไม่สามารถได้ยินคำร้องขอของเขาได้
“เหี้ยเอ้ยของกูขึ้นแล้ว พอเลยดี กูก่อน กูขอโชว์เพื่อนมันหน่อยเถอะ” ไอ้ดิวกำแขนเขาไว้ด้วยมือเดียวแล้วลุกยืนดันไหล่พี่มันให้ถอยออก
แต่...
มีต่อ