บทที่31
ทำอะไรต่อ
...
ผมเหลือบเป็นเห็นเจ๊แป้งที่ปลายหางตา ไม่ได้เห็นทั้งตัวแต่ผมจำไอ้รองเท้า กับชุดเดรสสีชมพูหวานแหววตัวนั้นได้ แต่ปลายเท้าที่ผมเห็นกลับเหมือนค่อยๆย่องออกไป ทำไมไม่เดินเข้ามา ผมถามตัวเอง แต่ไม่นานคำตอบที่ผมสงสัยก็ได้รับคำตอบเพราะข้อความที่ส่งเข้ามาในมือถือดังขึ้นทันที
น้องรักสุดสวาทของเจ๊ มีงานเข้าด่วนมาก แกหาทางกลับเอาเองนะ รักนะ จุ๊บๆ
พี่กันต์ยืนยิ้มท้าลมท้าผมอยู่เหมือนเดิมผมเก็บมือถือลงในกระเป๋า รู้แล้วล่ะว่าเจ๊แป้งคงรู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพี่กันต์ ที่จริงพี่กันต์น่าจะเล่นการเมืองนะ เพราะดูจากคุณสมบัติแล้วผ่านมาก โดยเฉพาะอิทธิพลแทรกแซง พี่แกเล่นวางเครือข่ายไว้รอบตัวขยับไปไหนรู้หมด...
ถ้าไม่ได้กูเนี่ย พี่กันต์จะเอาปืนใต้เบาระยิงไข่กูแตกตายไหมวะ
“พี่กันต์” ผมเรียกพี่กันต์ที่ทำท่าจะแยกออกไป
“หืมมม” หันมาหาผมแบบหล่อๆ แต่หน้ายังงงว่าผมเรียกอะไร โปรดนึกภาพตาม
ไหนๆก็ไหนๆ “พี่กินอาหารญี่ปุ่นด้วยกันป่ะ” ผมเอ่ยปากชวน ลัยังไม่ทันจะเว้นเวลาให้คิด พี่กันต์ก็รีบตอบออกมาเหมือนกลัวผมจะเปลี่ยนใจว่า
“ไปดิ” พี่กันต์พยักหน้าประกอบคำพูด ส่วนผมก็ได้แต่ยิ้มขำๆ กับท่าทางที่บางทีก็ดูเหมือนเด็กของพี่กันต์ ถ้าผมเป็นผู้หญิงนะ ผมจะรักผู้ชายคนนี้ตั้งแต่รู้จักกันวันแรกเลย จริงๆ แต่ผมเป็นผู้ชาย ใครจะไปทำใจรักลงได้
ผมซื้อของตามรายการอีกไม่กี่อย่าง โดยที่มีพี่กันต์เข็นรถตาม แต่สักพักการเดินเข็นรถไปทั่วทั้งสองคนเริ่มจะสร้างความขวางหูขวางตาให้กับชาวบ้าน ผมหยุดเข็น หันไปมองพี่กันต์พี่ผงกหัวขออนุญาตขอทางผ่านกับแม่บ้านวัยกลางคนที่แหงนหน้ามองพี่กันต์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ... อารมณ์ประมาณว่า ถ้าผัวกุหล่อแบบนี้กุจะดีใจมาก...
“รวมของดีกว่า มันเกะกะ” ผมบอกพี่กันต์ แล้วคว้าเอารถเข็นมาโยนๆของใส่ พี่กันต์ทำหน้างงๆ แต่ก็ยิ้มออกมา
“วันนี้รุกพี่จัง” พี่กันต์โน้มตัวลงมากระซิบผมกันคนนอกได้บิน แต่ไอ้ท่ากระซิบแบบนี้มมันยิ่งชวนให้เข้าใจถูกมากกว่าคำพูดที่บอกมาซะอีก
“กลัวได้รับ” ผมตอบพร้อมยักคิ้วกวนๆให้หนึ่งที
“ไม่กล้าต่อเลยนะแบบนี้” พี่กันต์ก้มลงมากระซิบผมอีกรอบ... เยอะนะ ประกาศศักดาไปป่ะเฮ้ย
“ธามไม่ได้หูตึงนะ พูดปกติได้” ผมปรามไอ้คนที่จ้องทุกโอกาส ไม่พรากทุกวินาทีแบบพี่กันต์ พ่อแม่สอนมาดีเหลือร้าย
“รู้แล้ว แค่อยากเข้าไปใกล้ๆเฉยๆ ใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันแปลว่าอยู่ด้วยกันได้นะ ประหยัดค่าน้ำหอม” พี่กันต์กระซิบผมอีกครั้ง ตอนนี้รู้สึกเลยว่าหน้าร้อน ร้อนมาก ช่างกล้าพูด แล้วเรื่องน้ำหอม เกือบลืมไปเลยว่าใส่น้ำหอมมา ไม่รู้นึกยังไงถึงใส่มาเหมือนกัน รู้สึกแค่ว่าวันนี้อยากใส่มาก็เลยใส่ ให้ตายเถอะ คราวนี้ใส่มาเหมือนกัน เจอใครเค้าก็คงจะคิดว่าใช้มาจากขวดเดียวกัน กุอยากตาย
“พอเลยพี่กันต์” ผมเข็นรถด้วยความเร็วสูงไปที่ช่องจ่ายเงิน อยู่นานกว่านี้คงทำเยาวชนเสื่อมเสีย
ผมยืนรอจ่ายเงิน เห็นไอ้หนึ่งกำลังต่อแถวในอีกสองช่องถัดไป อุ้มหลานชายมันไว้อย่างกับพ่อลูกอ่อน เกย์รักเด็ก เจ้าชู้ เงินหนา หูตาว่องไว คำจำกัดความของไอ้หนึ่ง มันหันมาหามึงแล้วยกมือขึ้นชี้หน้าอย่างมาดร้าย แต่ไอ้ท่าร้ายๆก็ยกลงทันใดเมื่อเห็นพี่กันต์โผล่เข้ามาในฉากสายตาของมัน จากหน้าหาเรื่องกลายมาเป็นหน้ายิ้มในพริบตา ระดับมืออาชีพก็ต้องยกให้พี่หนึ่งเขาล่ะครับ
...ไม่อยากจะคิดเลยว่ากุจะโดนอะไร
ตอนมัธยมไอ้หนึ่งมันเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็นมาก เรื่องผมกับพี่กันต์ที่มันเริ่มทะแม่งๆ ไอ้หนึ่งนี่ผมก็ไม่แน่ใจว่าไปเสือกรู้ด้วยไหม เพราะด้วยความที่คนอื่นไม่รู้ผมเลยคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ไอ้หนึ่งจะไม่รู้ เพราะเรื่องอะไรที่ใครไม่รู้ไอ้หนึ่งรู้แต่ก็ไม่อยากถามหรอก เดี๋ยวจะเหมือนชี้หญ้าให้เก้งมันเคี้ยวเล่น
“จะจ่ายหมดเลยเหรอ” พี่กันต์ถามผมที่ควักเงินสดมาออกมาจ่ายรวมรายการของทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่มันก็ของพี่กันต์ทั้งนั้น อาหารหมาเป็นกระสอบ...
“ซะที่ไหน เดี๋ยวให้จ่ายคืนแน่”
“นึกว่าจะเลี้ยงคืน ทำบุญให้หมา เป็นคนน่ารัก น้ำใจงาม” พี่กันต์เดี๋ยวนี้ชักจะวาจาน่าเตะขึ้นทุกที
“แค่นี้ก็ทำบุญกับเจ้าของหมาเยอะแล้วนะ” ผมพึมพำๆ ควักแบงค์สีเทาจ่าย พนักงานสาวแอบมีส่งสายตาหาพี่กันต์ที ผมที นี่เจ๊จะเหล่ใครเอาให้มันชัดๆได้ไหม บอกว่าเลยว่าอยากได้คนไหน มามองสลับกันไปมาแบบนี้ไม่ไหวนะจ้ะคนดี ตาดีได้ชาย ตาร้ายได้ชายเหนือชาย
วันนี้คนเยอะ ผมกับพี่กันต์เลยเข็นรถไปเข็นรถมาวนๆอยู่แถวหน้าร้าน รอพนักงานมาเรียกให้ถึงคิว สักพักพอเริ่มเข็นไปเข็นมาจนเบื่อก็มานั่งหน้าโหยอยู่หน้าร้าน หล่อแค่ไหนก็หิวเป็น...
“หิวอ่ะ” พี่กันต์เริ่มบน
“หิวเหมือนกันแหละ” ผมสมทบ
“เมื่อเช้านี้พี่ตื่นมา ข้าวตัวเองไม่มี มีแต่อาหารหมาเหลืออยู่นิดเดียว ไม่ได้กินอะไรสักอย่างเลย หิวจะกินธามได้ทั้งตัวแล้ว” คำพูดมันแปลกๆรึเปล่า ผมไปเกี่ยวอะไรกับความหิว
“ไม่ใช่ละพี่กันต์ กินธาม มันไม่ใช่ประเด็น” ผมเบรกพี่กันต์ที่นั่งกอดอาหารหมาประหนึ่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจชิ้นสำคัญ
“เป็นดิ อันที่จริงหิวไม่หิวก็อยากกินธามตลอดแหละ” สารภาพบาปมาหน้าตาย พี่กันต์ไม่เคยอายแต่ผมดิอาย พูดอะไรไม่เคยคิดหรอก
“เสื่อมว่ะพี่กันต์”
“พี่เสื่อมได้มากกว่านี้อีกนะธาม” หันไปมองหน้าหิวของพี่กันต์แบบขำๆ มันใช่เรื่องที่มาโฆษณาตัวเองไหม ผม มาบอกว่าตัวเองเสื่อมได้มากกว่านี้อีก มันใช่อะไรที่ต้องบอกไหมเนี่ย
“ไม่ต้องบอกก็รู้ จุดขายไม่ใช่เหรอไอ้ความเสื่อมเนี่ย” ผมแซวพี่กันต์ที่ก็ฉีกยิ้มรับเป็นอย่างดี พอดีกับที่พนักงานเรียกคิวพอดี พี่กันต์รีบคว้าข้าวของด้วยความเร็วผิดปกติขัดกับไอ้ท่าทางหมดแรงเมื่อครู่แบบสุดๆ เห็นอาหารก็รีบเลยนะ ผมวางของลง นั่งถอนหายใจ เริ่มคิดว่าจะเริ่มจากอะไรก่อน แต่พี่กันต์ไปแล้ว ดวยความเร็ว พริบตาเดียว อาหารก็เต็มโต๊ะ...
“พี่กันต์ เยอะไปป่ะ” ผมมองเนื้อที่รอต้ม ผักเยอะแยะ ซูชิสามจานเต็มๆ เทมปูระ เกี้ยวซ่า อีกหลายอย่างที่พี่กันต์ไปหยิบมาได้ในพริบตาเดียว
“เดี๋ยวก็หมด ธามกินเยอะจะตาย” ดูพูด เออ... รู้ด้วย ผมเริ่มคีบซุชิเข้าปากแล้ว อร่อยอ่ะ หิวน้ำย่อยไหลเจิ่งเต็มกระเพาะแบบนี้แหละกำลังกินอร่อย ไม่ว่าอะไรก็จะอร่อยขึ้นเป็นสองเท่า พี่กันต์เททุกอย่างรวมกันในหม้อ เร่งไฟแรงสุด หิวมากจริงๆ
“เฮ้ยใจเย็นๆ”
“หิวว่ะ” ว่าแล้วก็คีบกุ้งเทมปูระไปเคี้ยวเล่นก่อน ปากเคี้ยงกุ้งแต่ตานี่ดิมองผม..
“อะไร”
“ธามวันนี้ไม่ต้องเรียกพี่ว่าพี่กันต์ได้ป่ะ เรียกแต่ชื่อเฉยๆ” คำขอแสนพิลึก ที่ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ก็คนมันเป็นพี่บอกว่าไม่อยากให้เรียกว่าพี่ มีแบบนี้ด้วยเหรอวะ แค่คิดก็แปลกแล้วในเมื่อที่ผ่านมาผมเรียกแต่ว่าพี่กันตื ตอนนี้จะให้มาเรียกกว่า
“กันต์” เหยดดดดดดดดดดดด จั๊กจี้ปากมาก พี่กันต์ยิ้มกว้างหัวเราะชอบใจ อะไรวะเนี่ย รู้สึกว่ามันแปลกๆอีกแล้วนะ
“แบบนี้แหละ ขอวันนึงทำเหมือนเดิมแต่ห้ามเรียกพี่โอเคไหม” พี่กันต์ยิ้มให้ผม ซึ่งผมก็โอเคอย่างไม่มีปัญหาแปลกๆหน่อยแต่ก้ไม่เห็นเป็นไร ในเมื่อผมกยังไม่ต้องคิดว่าพี่กันต์เป็นเพื่อน
“ดูเด็กลงไปเลยนะกันต์” ผมลองเรียกซ้ำอีกครั้ง แต่ความรู้สึกมันก็ยังไม่หายไป แปลกจริงๆ
“นี่ธาม กุ้งๆ” พี่กันต์คีบกุ้งให้ผมตัวนึง ให้ตัวเองตัวนึง แบบนี้ก็สบายไปอีกแบบนะ ปกติต้องคีบเองต้มเอง ตอนนี้อยากกินอะไรก็หยิบ บางทีไม่ต้องหยิบมีคนวางให้ถึงจาน
ผมกับพี่กันต์ นั่งคุยไปกินไป คุยเรื่องอะไรที่ไร้สาะอย่างบอลวันนี้คู่ไหนเตะ ใครชนะเมื่อคืนก่อน ชนะยังไงแล้วใครจะได้แชมป์ ได้เล่นเกมนี้ไหม แอปฟรีอันนี้ดีลองหรือยัง แล้วลองกินแบบนี้หรือยัง พอถามก็จะทำให้ดี พี่กันต์ไม่ได้เจ๋งแต่ในครัว ขนาดร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ยังคิดหาวิธีทำอะไรให้มันแปลกออกมาได้ เอาวุ้นเส้นไส้ไข่ใส่ผัก คนๆแล้วเทลงหม้อ อะไรจำพวกนี้ แล้วทุกคำผมจะเรียกว่ากันต์ มันแปลกจริงๆผมรู้สึกได้รู้สึกเหมือนไม่ใช่แบบเดิม แค่คำว่าพี่หายไป มันก็ดูจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย เหมือนว่ามันให้ความรู้สึก...
เราใกล้กันมากกว่าเดิม...
“ธามมากับพี่แป้งแล้วขากลับจะกลับไงล่ะ” พี่กันต์ถามผม แต่มือก็ยังไม่หยุดคีบ กินไวมาก เยอะมากๆด้วย
“แท็กซี่มั้ง แต่ก็คิดว่าคงมีใครสักคนไปส่ง” ผมพูดพาดพิงไปถึงคนที่นั่งตรงข้าม ก็ขี้เกียจกลับแท็กซี่ ค่าแท็กซี่ก็หลายบาท ของก็เยอะ ไหนๆก็มาเจอคนรู้จักผ่านทางเดียวกัน ขอติดรถไปด้วยไม่แปลกหรอกมั้ง ก็คนมันขี้เกียจนี่หว่า
“ให้กันต์ส่ง เดี๋ยวส่งถึงเตียงเลยยังได้” ผมบอกแล้วว่ามันแปลก มันรู้สึกมีอะไรยุกยิกๆอยู่ข้างใน เพราะมันดู... ไม่รู้ซิ ผมอธิบายไม่ถูกจริงๆว่าอารมณ์แบบนี้มันเรียกว่าอะไร
“หยุดจังไรสักวันได้ไหมกันต์ มันตายป่ะเนี่ย ทำอะไรให้มันเข้ากับหน้านิดนึง” ผมพูดกลั้วหัวเราะ พี่กันต์ส่ายหน้า ตาเป็นประกาย
“ธามบอกว่ารักกันต์เมื่อไหร่วันนั้นจะไม่พูดจาแบบนี้ให้ได้ยินเลยสักคำเดียว แล้วหน้าแบบกันต์ต้องพูดแบบไหนเหรอออ” พี่กันต์ลากเสียงยาว
“เอาเถอะ อยากพูดอะไรก็พูดไป” ผมยอมแพ้ๆ
ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้พี่กันต์ถึงกล้าพูดคำว่ารักออกมา หรือเป็นเพราะแปดปีที่แล้วเราทั้งสองคนทำแต่เรื่องที่ดูพลาดๆลงไปหลายอย่างจนทำให้ตอนนี้เลยอยากจะลองทำให้มันต่างดูงั้นเหรอ ดูจากบุคลิกภายนอกของพี่กันต์ก็ไม่เห็นจะเหมือนกับคนที่ชอบพูดว่ารัก คงจะชอบทำให้เห็นมากกว่าพูดให้เป็น แต่ทำไมก็รู้ถึงได้พูดให้ผมฟังบ่อยเหลือเกิน แต่ที่ทำมามันก็มากจนตีความเป็นอย่างอื่นไม่ถูกเหมือนกัน
“สรุปไปส่งไหมเนี่ย” ผมถามพี่กันต์ ควานเจอปลาในหม้อก็ตักใส่งานพี่กันต์ที่กินเหมือนมีหลุมดำอยู่ในท้อง
“ก็บอกแล้วว่าส่งถึงเตียงยังได้” พี่กันต์ยิ้มมุมปาก ก่อนจะคีบปลาชิ้นนั้นเข้าปาก ผมยิ้มแล้วก้มหน้าลงมาจัดการอาหารในจาน วันนี้เป็นวันที่อร่อยมากอีกวันนึงเท่าที่เคยกินร้านนี้มา อาจจะเพราะพี่กันต์มีอะไรแปลกๆมาทำให้กิน อาจจะผมหิวมากๆ หรือด้วยความที่ผมอยากกินมาก หรือด้วยอย่างอื่น หือลิ้นผมเสื่อม หรือผมเป็นบ้าอีกแล้วก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผมไม่เคยถูกผู้ชายจีบตรงๆแบบนี้มาก่อน ผมเคยแต่เป็นฝ่ายที่เชื้อเชิญ เป็นฝ่ายที่รุกเข้าหา ผมควรทำยังไงต่อไปเมื่อตอนนี้ผมถูกร้องขอ และพี่กันต์ก็ทำในแบบที่ผู้ชายคนนึงควรทำถ้าหากเขาคนนั้นรักใคร มีแต่ผมเท่านั้นที่ไม่รู้ว่าควรทำอะไรยังไงต่อ จะจัดการกับมันยังไงเมื่อผมมาอยู่ตรงกลาง ระหว่างความรู้สึกที่แสนคลุมเครือ
ผมต้องทำยังไงต่อไป...
เป็นคำถามที่ตอบยาก หรือผมจะลองถามพี่กันต์เลยว่าจะให้ผมทำยังไงต่อไป
ดูโง่ๆ ที่ไม่รู้จะก้าวต่อไปทางไหน แต่สารภาพตามตรง ตอนนี้ผมโง่จริงๆ
*………………………………………………………………………………………..18-11-2011
พิมพ์ไปน้ำตาไหลไป ..ไม่ได้ซึ้งนะ แต่ง่วงเหี้ยยยยย!!! เมื่อเช้าได้นอน3ชม. เพื่อนโทรมาปลุกบุกบ้านแต่7โมง
บทนี้ก็กันต์-ธามกันไป น่ารักกุ๊กกิ๊ก งุกงิก ง้องแง้ม อาจจะมีเบลอๆ งงๆ ก็โพสด่าไว้ได้ เดี๋ยวไปแก้ แต่อย่าด่าแรงมาก เด๊่ยวของขึ้น 555555 โพสแม่งก็ไม่ได้ตอบ เหี้ยอ่ะคนเขียนช่วงนี้ พรุ่งนี้จะต้องหาเวลามาตอบโพสให้ได้!!!!!!!!!!!!!!!!!
แม่ก็สั่งงาน มหาลัยก็ไม่เลื่อนเปิดเทอม เสาร์-อาทิตย์นี้ไปตจว.อีก เหอออออออออออ บัดซบบบบบบบ
ปล. ตาเริ่มเบลอ น้ำตาไหลไม่หยุด พิมไปหาวไป นอนละ ราตรีสวัสดิ์ คร่อกกกกกกกกกกกกกกกก
