บทที่ 21
เช้า
...
ผมนอนกอดผ้าห่มไม่ลุกไปไหนเหมือนเดิม เช้าวันอาทิตย์แสนสบายของผม แอร์เย็นๆ ผ้าห่มอุ่นๆ กับห้องที่รูดม่านมาปิดจนมืด ผมไม่คิดอะไรในหัวว่างเปล่าเรื่องเมื่อเปล่าเหมือนเกิดมาเมื่อนานมาแล้ว แต่ในความคิดอีกทีก็รู้สึกเหมือนมันพึ่งเกิดมาเมื่อวินาทีที่แล้ว ผมมองดูมือตัวเองที่พี่กันต์จับเมื่อวานแล้วก็ต้องขำ มือผม หรือมือพี่กันต์ แค่เอามาวางก็รู้แล้วว่ามือผู้ชาย เส้นเลือดขึ้นซะเต็มขนาดนี้ ถ้ามีใครอัดวีดีโอหรือถ่ายรูปเอาไว้มันจะคงจะขำพิลึกกับไอ้สิ่งที่ทำลงไป ไม่รู้จะรับมือยังเลยไม่คิด แต่ผมว่าคงไม่แปลกไปกว่านี้หรอก คงจะเหมือนที่เคย เข้ามาอยู่ใกล้ๆ ถึงไม่คิดถึง ยังไงก็เจอหน้า
คิดได้ไม่ทันไร เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ผมลืมตาขึ้นมาดูนาฬิกา 9โมงเช้า ใครกันที่มาเคาะแต่เช้าแบบนี้อีก... ผมเดินช้าๆไปที่ประตู ส่องช่องตามแมวก็พบกับลูกตาของคนที่ส่องเข้ามา... แม่งรู้หรือไงว่าส่องเข้ามามันไม่เห็น
“พี่หมิง ทำบ้าอะไร” ความเคารพของมันกับพี่หมิงมันแทบไม่เหลือแล้ว คำว่าพี่คือฟางเส้นสุดท้าย ทำป่วนไว้มาก ห่างกันแค่ปีเดียวคงไม่ต้องนับอาวุโสกันขนาดนั้นหรอก
“จะมาถามว่าเมื่อวานเป็นไงบ้าง” พี่หมิงยิ้มแห้งๆ พร้อมชูถุงข้าวขึ้นมา นี่เห็นผมเป็นอะไร ตอนนั้นพี่กันต์ก็ทำกับข้าวมาให้ พี่หมิงก็ทำข้าวมาให้อีก ผมดูหน้าตาเห็นแก่กินมากใช่ไหมเนี่ย เซ็งจริงๆ แต่ถ้าถามว่าสุดท้ายเอาไหม ก็เอาหมดและครับ ผมเปิดประตูให้พี่หมิงเข้ามา
“ขอล้างหน้าแรงฟันก่อน”
“ตามสบายเลย” หมิงพูด... ซึ่งมันควรจะเป็นคำพูดของผมไม่ใช่เหรอฮะ!
ผมแปรงฟันถูไปถูมาด้วยระดับความสะอาดสูงและความเร็วระดับ10 ปากแทบแหก ล้างหน้าแบบลวกๆ แล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ส่วนพี่หมิงไม่ได้นั่งเฉยๆแต่อย่างใดลุกขึ้นจัดอาหารเช้าให้ผมแล้วครับ ดีจริงกู เหมือนมีพี่เลี้ยงที่ไว้ใจไม่ได้ 1คน
“พี่กันต์ไม่ให้ฟังเหรอ” ผมถาม ซึ่งไม่น่าถามก็คงไม่
“มันบอกว่าให้พี่ไปถามแม่พี่” พี่หมิงตอบหงิมๆ ฮาดิครับ นึกออกเลย พี่กันต์คงพูดว่า ถามแม่มึงดิ และเสียง และหน้า ฮาว่ะ
“ธามเป็นแม่พี่หมิงเหรอ” แล้วมาหาผมทำไมวะ
“นั่นซิ... เฮ้ย ธาม อย่ากวนตีนดิ นี่พี่ทำด้วยส่วนผสมที่ดีที่สุดเท่าที่พี่จะหาได้ตอนนี้เลยนะ นี่ไข่คน นี่เบค่อนขีดละหลายร้อย นี่ซุปครีมเห็ดแชมปีญอง ผักสดปลอดสารพิษ ขนมปังกระเทียมหอทกรุ่นสุดอร่อยสไตล์เชฟหมิงที่ใครกินก็น้ำตาไหลด้วยความอร่อย กินแล้วก็เล่าให้ฟังเหอะ ทำสุดฝีมือ” พี่หมิงทำหน้าอ้อนวอน แต่ผมไม่ใจอ่อนหรอก ไอ้หน้าตาแบบนี้มันตอแหลสิ้นดี ผมรู้หมดแล้ว เบื้องหลังความน่าสงสาร ฮึ ไม่มีทาง
“ทำไมอยากรู้จัง เรื่องตัวเองรอดยังน่ะ”
“ก็พี่ชอบเรื่องคนอื่นอ่ะ” ช่างตอบมาได้...
“เสือกนะ ความหมายของคำนั้นน่ะ” ผมจำกัดความให้ พี่หมิงพยักหน้าแล้วก็ยิ้มแฉ่ง
“นั่นแหละ โคตรเหมือนไอ้กันต์เลยรู้ป่ะ การพูดการจาเนี่ย”
“ไม่มีความเหมือนเลย ส่วนข้าวนี่ถือเป็นของไถ่โทษแล้วกันนะพี่หมิง”
“เฮ้ย อะไรวะเนี่ย ไม่ได้นะ ใจร้ายอ่ะ” พี่หมิงโวยวาย อย่าส่งเสียงดังได้ไหม ไม่งั้นเอาส้อมแทงเลยแม่ง หนวกหูกินคนจะกิน...
………………………………………………………………………..
เจ้แป้งมาเอง...
...........................................................
เช้าจ้ะ 9โมงเช้า พึ่งกลับมาจากที่ทำงาน เมื่อคืนนอนค้างที่ทำงาน ชีวิตสถุลชาติชั่วมากจริงๆ หงุดหงิด งุ่นง่าน
แต่...
อยากจะกรี้ดคอหอยแตก ชั้นทำจริง กรี้ดอยู่ในรถ ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครเห็นเพราะรถชั้นติดฟิล์มปรอทที่โดนอิร้านประดับยนต์มันหลอกติดเอาตังค์มา เมื่อกี้ตอนพึ่งกลับมาจากทำงานนอกเวลาอันมีค่าของชั้น นี่ชั้นคงตาฝาดไปหรือเปล่า พ่อหนุ่มหล่อบาดใจกันต์ของเจ๊ ขับรถเปิดประทุนมาคอนโด้จ้า ชั้นเคยเกลียดพวกรวยรถหรูที่เปิดประทุนขับมาก แต่วันนี้ ชั้นเว้นให้คนนึง จะไม่เว้นได้ไง ก็ขนาดคนมองทั้งถนน อิสาวบนรถเมก็แทบจะน้ำลายย้อยลงมาหมดทั้งคันแล้ว
แต่ขอโทษเถอะจ้ะ ว่าที่ผัวน้องชั้น... กรี้ดดดดดด (ช้ำใจ)
ถ้าชั้นไม่รู้จักมาก่อนแล้วขับรถอยู่กกลางถนนอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เวลาเช้าๆ อากาศดีๆ บนถนนเส้นใหญ่การจราจรไม่หนาแน่นมากเท่าที่ควร พ่อหนุ่มผิวขาวน่าฟัด ใส่แว่นเรย์แบน Aviator เลนส์สีชา แม่เจ้าๆ ไอ้แว่นอันนี้หน้าเหี้ยแค่ไหนก็ใส่แล้วดูดีจ้ะ แล้วคิดดูว่าคนที่หน้าตาน่ากระชากลงรถมานัวเนียใส่แล้วจะขนาดไหน ไอ้ริมฝีปากสีชมพูดูสุขภาพดีไม่เกินหน้าเกินตาที่เหมือนยิ้มตลอดเวลานั่น จมูกโด่งน่าฟัด ใส่เสื้อยืดคอกว้างที่ทำให้ชั้นอยากจะถลาเข้าไปซุกที่ซอกคอ...
ไม่ไหวแล้ววววว!!! อยากขับรถเข้าไปชนท้าย แต่ดูท่าทางจะหมดเนื้อหมดตัวเลยได้แต่คิดในใจ
“เลี้ยวจ้า” นี่ชั้นตะโกนกรี้ดกราดอยู่ในรถคนเดียวเลยให้ตายดิ มาหาธามล่ะซิ ฮึ...
ชั้นจอดรถในที่ประจำ ส่วนน้องกันต์พ่อขมองอิ่ม ช่วงยาวของเจ๊เสียบข้างๆที่จอดอิน้องธามจ้ะ แรงเวอร์ จอดข้างแบบนี้มีนัยยะมาเสียบแน่อะไรรึเปล่า แต่รอหน่อย โอ้ย... จะเป็นลมล้มตึง
ชั้นจอดรถเอากุญแจออกมามือสั่นๆ ด้วยความอยากได้ผู้ชายคนนั้น... ไม่ใช่จ้ะ อาการชั้นปกติดี หอบข้าวหอบของราวคนบ้ายบ้านออกมาจากรถ พี่หนุ่มกันต์คนดียิ้มหวานให้ชั้นจ้า สตรีที่โชคดีอยู่ตรงนี้...
“พี่แป้งหวัดดีครับ” คือยกมือไหว้ชั้นซะเรียบร้อยเหมือนจะแก่มาก หรือเห็นชั้นเป็นญาติฝ่ายไหนของหนูธามหรือเปล่าไม่อาจทราบ
“ผมช่วยถือป่ะพี่” ว้าย เป็นทีที่ฉันจะโยนเอกสารกองใหญ่ให้น้องกันต์คนดี มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ ทำไมถึงไม่ได้ลงเป็นหนุ่มคลีโอเนี่ย คือเค้าพลาดไปได้ยังไง หนุ่มตี๋ชั้นบนอีกคนนึง หนุ่มโสดในฝันเลย หรือเค้าไม่รวมเกย์ฮึ เออ อาจจะใช่ เกิดได้มานี่ก็ปวดใจ เค้ามิใช่ของเรา ฮือๆ
“มาหาธามเหรอจ้ะ” ชั้นถามอ้อมแอ้ม แต่ถ้าเบื่อธามอยากจะต่อมาห้องพี่ก่อนได้ก็จะแรงไป แหม แต่พอดูดีๆแล้วก็เห็นว่าปากแตก ไปโดนอะไรมานะ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ชั้นจะสงสัย ใครจะไปรู้ว่าอาจจะมีจูบอันเร่าร้อนกับใครบางคน เช่นน้องธามก็เป็นได้ แบบดูดปากกันเลือดสาด ฟันขบ แล้วจบบนเตียง กรี้ดดด!
“อ้อเปล่าครับ อันที่จริงจะมาหาพี่แป้งล่ะครับ”
..อุ้ย ถึงขั้นเข่าอ่อน ชายคนนี้มาหาชั้นค่ะทุกคน
“ล้อเล่นน่ะครับ” ...แหมน่าตบนะจ่ะน้องกันต์ ระวังแผลได้แหกมากกว่าเดิม
“อ่ะจ้า แหมพี่เข้าใจว่าแบบพี่คงไม่เร้าใจพอ”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” พี่น้องกันต์ยังคงปลอบใจชั้นต่อไป แต่ไม่ขึ้นย่ะ ความจริงมันโหดร้าย
ชั้นกับพ่อหล่อลากไส้ไปยืนรอลิฟต์ด้วยกัน แหมน้ำหอมหอมอ่ะ กลิ่นจางๆเบาๆ แต่หอมจนอยากเข้าไปสูดใกล้ๆให้ถึงต้นตอของกลิ่น พอมาถึงชั้นน้องกันต์ก็แสนดีช่วยถือของมาให้ถึงห้อง โอ้ย ทำไมต้องเป็นเกย์ ทำไมล่ะ ทำไม ชั้นล่ะเศร้า คิดแล้วก็อิจฉาหนูธาม ผู้ชายดีๆมาเสนอตัวแบบนี้เป็นเจ๊นะ ได้กันนานแล้ว
“ไปก่อนนะครับ”
“จ้ะพ่อมหาจำเริญ” อยู่ๆคำนี้ก็หลุดออกมาจากปาก แหม แก่ซะไม่มีอ่ะกู
ชั้นทำท่าปิดประตูโยนของกองไว้ข้างตัว แอบส่องน้องกันต์ที่ไปยืนเคาะประตูหน้าห้องหนูธาม สักพักประตูก็แง้มออก แต่คนที่ออกมาเปิดมันไม่ใช่หนูธาม พี่หนุ่มตี๋ชั้นบนนั่น น้องกันต์ทำหน้าไม่สบอารมณ์เมื่อเจอหน้าพ่อหนุ่มตี๋ ส่วนหนุ่มตี๋ก็มีสีหน้าเหมือนแอบไม่พอใจเล็กๆ แล้วไอ้การแต่งตัวนี่มันอะไร เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น อย่างกับพุ่งลุกออกจากที่นอน หัวที่ยุ่งเหยิง...
อย่าบอกนะว่าน้องธามควบสอง ไหนว่าเป็นผู้ชาย แล้วไอ้การที่มีผู้ชายอยู่ในห้องตอนเช้าๆแบบนี้ที่ไม่ใช่เวลาตื่นน้องธามแบบนี้ โถ...
แกร๊ก... ชั้นปิดประตูลงมา เอามือจับอกหายใจเข้าปอดแรงๆสามที
“คุณพระ เด็กสมัยนี้แซ่บเวอร์ค่ะ...”
...
ธาม talking
……………………………………………………….
พี่กันต์เดินเข้าห้องมามองพี่หมิงเหมือนอยากจะต่อยสักหมัด แต่ผมเริ่มอยากจะต่อยทั้งพี่หมิงพี่ธามคนละหมัดจริงๆแล้ว เนี่ย มาบุกห้องผมแต่เช้าแบบนี้ พี่หมิงยังพอเข้าใจว่าอยู่คอนโดเดียวกันแล้วพลังความอยากรับรู้ข้อมูลมันพุ่งขึ้นสูงมากจนอดใจไม่ไหวต้องออกมาตามล่าหาความจริงกันถึงนี่ ยังดีมาพร้อมกับอาหารไม่งั้นผมยันกลับห้องแน่ ส่วนพี่กันต์ เข้าใจว่าบ้านไม่ไกลจากที่นี่มาก แต่พี่ท่านเล่นมาแต่เช้าแบบนี้ก็เหลือเกิน เปิดเผยตัวได้ก็เอาใหญ่สนุกสนานรุกหนัก มาก็ไม่บอกกันก่อน เกิดผมไม่อยู่ห้องขึ้นมาจะทำไง ไม่เคยคิดหรอกไอ้แบบนี้น่ะ
“มึงมาทำเหี้ยไรหมิง” พี่กันทักทายเพื่อนประโยคแรกแบบนี้แหละครับ ผมไม่แปลกใจหรอก บอกแล้วว่าจะตรงสเป็คเพอร์เฟ็คขนาดไหน ไอ้มุมที่กากๆก็มี
“กุก็มาถามหาข้อมูลที่กุควรรู้ไง” คำตอบที่โคตรมึนเลย ผมไม่สนใจ กินอาหารเช้าฝีมือเชฟโรงแรมระดับห้าดาวต่อ ปล่อยให้แม่งคุยกันไปเหอะ คู่หูมารผจญคู่นี้
“ธามเป็นแม่มึงหรา”
“แม่กุอยู่สิงคโปร์อ่ะ กุเลยว่ามาถามธามดีกว่า”
“มึงกวนตีนนะเจ๊ก”
“มึงกวนตีนกุก่อนอีกนะ บอกให้กุไปถามแม่เนี่ย แม่งมึงเซะ”
“ไปไหนก็ไปป่ะมึงอ่ะ” พี่กันต์ไล่พี่หมิง เอ้า... พี่หมิงทีมเพื่อนบ้านไป งั้นก็เหลือกุเป็นทีมเจ้าถิ่นกับทีมเยือนรายใหม่มาแรงอ่ะดิ เยสโด้ อยากรั้งไว้ แต่หมั่นไส้พี่หมิงเกินกว่าจะพูดออกมาในตอนนี้ได้
“ไปก็ได้ๆ ธาม พี่แอดวอทแอปละนะ” แหมมาง่ายไปง่ายจริงเว้ย
“เฮ้ย ตอนไหนวะ” ผมงงเป็นไก่ตาแตก แอดมาได้ไง พอมองอีกทีก็เห็นมือถือตัววางหราอยู่บนโต๊ะหน้าทีวีแม่งมือไวเป็นบ้า เมื่อประตูปิดลงพร้อมพี่หมิงที่อพยพออกไป ก็เหลือแค่ผมกับพี่กันต์ที่ลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามผมที่กินข้าวอยู่ หล่อนะวันนี้ ไม่รู้คิดไปเองหรือแต่งมาหล่อจริง
“มองอะไรอ่ะ” ผมถามพี่กันต์ที่นั่งจ้องผมกินข้าวไม่พูดอะไรสักคำ
“คิดอยู่ว่ะชวนไปไหนดี” พี่กันต์พูดเรียบ เอ้าเห้ย อย่าบอกนะว่าขับรถมา ไม่รู้จะมาทำอะไร บ้าแล้วผมว่า พี่กันต์คงบ้าแล้ว
“บ้าป่ะพี่กันต์ มานี่ไม่รู้เหรอว่ามาทำอะไร”
“เปล่า ก็จะมาเอากุญแจรถจากไอ้หมิงแล้วก็ขอร้องให้ธามช่วยขับz4ให้พี่ เพราะพี่ต้องขับฟอร์จูเนอร์กลับไปจอดบ้าน แล้วก็อยากพอธามไปต่อที่ไหนสักที่นี่แหละ แต่ตอนนั้งคิดไม่ออก” พี่กันต์อธิบายเป็นขั้นเป็นตอนมาก ว่าแต่z4เหรอ อะไรมันจะขนาดนี้ เอารถมาล่ออีกแล้ว
“ทำไมไม่ให้พี่หมิงขับไป ธามขี้เกียจ” ผมยัดเบค่อนเข้าปากเคี้ยว อร่อยจริงว่ะ เบค่อนรมควันชั้นดี ช่วงนี้ผมนี่มีความสุขบนความทุกข์แท้ๆ
“ก็ธามเป็นคนเอากุญแจรถให้มันขับออกไป ธามก็ต้องขับกลับมาคืนดิ” อะไรวะเนี่ย ความผิดผมเหรอ (ถึงใช่ก็ไม่อยากยอมรับ)
“ก็มันเพราะเรื่องอะไรล่ะ ผมถึงก็ต้องทำแบบนั้น”
“เพราะเรื่องที่ธามอยากคุยกับพี่สองต่อสองเนี่ยแหละ” พูดแล้วก็ยิ้มหวาน แต่ผมเนี่ยหนวดกระตุกเลย กวนตีนมาก!
“พี่กันต์” ผมเรียกเสียงเย็น
“หืม...” แต่คนตรงหน้าไม่สะทกสะท้าน เพียงแค่ยิ้มนิดๆให้
“พี่กันต์...” ผมเรียกอีกครั้ง
“......”
“พี่กันต์...”
“เรียกบ่อยนี่อยากโดนเหรอ เช้าๆแบบนี้มีอารมณ์นะ ไม่ได้ปล่อยนานแล้วด้วย” พี่กันต์ขยับเก้าอี้เข้ามาพร้อมพูดเสียงที่เรียกกันว่า เชื้อเชิญ ชวนเชื่อ และขู่ผมไปในตัว มันมาแล้วซินะไอ้เครื่องหมายการค้าอย่างเป็นทางการของพี่กันต์เนี่ย เรื่องใต้สะดือ
“อุบาท กินข้าวอยู่” ผมเริ่มกินไม่ลงแล้วเจอพูดเข้าให้แบบนี้
“มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ธามเองก็ปล่อยๆบ้างนะ เดี๋ยวมันจะเกิดความเครียดสะสม อยากเมื่อไหร่โทรเรียกได้ พร้อมให้ใช้บริการ” พี่กันต์นี่โคตรของความหน้าตาเฉยเวลาพูดเรื่องแบบนี้ คือเป็นคนที่ลามก และทะลึ่งมาจากอินเนอร์เลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเวลาพูดกับคนอื่นจะทะลึ่งแบบนี้ไหม แต่กับผมเนี่ย มากๆ
“ขายน้ำหรือไงฮะ” ผมถามเชิงประชดก่อนจะก้มหน้ารีบกินๆให้มันหมดก่อนพี่กันต์จะทำให้กินอะไรไม่ลง เพราะชวนคุยแต่ไอ้เรื่องทะลึ่งๆแบบนี้เนี่ย
“ให้ฟรีอ่ะถ้าธามเอา ไม่มีลิมิตด้วยนะ มีรีฟิล”
แค่กๆ! ถึงกับสำลักเมื่อเจอไอ้สโลแกนโฆษณาตัวเองของพี่กันต์ ผมวิ่งไปที่ตู้เย็นซดน้ำไปอึกใหญ่เพื่อนช่วยชีวิตตัวเองเพราะเกือบสำลักข้าวตายเพราะไอ้เรื่องแบบนี้ของพี่กันต์แม่ง ทุเรศสัสถ้าสำลักตายเพราะฟังเรื่องนี้
“โหพี่กันต์ นั่งเงียบๆเลย”
“เมื่อกี้พูดจริงนะ” ยังไม่เลิก ยังจะมายิ้มให้
“พี่กันต์!” ผมพูดออกมาแบบเหลืออด
“อยากปล่อยแล้วเหรอ” ยังจะมีหน้ามาถามเล่นไม่เลิก
“เฮ้ย ไม่ใช่เว้ย!” ผมตะโกน
ผมชักจะปวดหัวขึ้นมาจริงๆแล้วนะ!
*...................................................*................................................6-11-2011*
บทนี้มามึนๆ คนเขียนเบลออีกแล้ว เดี่ยวจะตามย้อนมาตอบโพสตอนกลางวันนะ เบลอออออออ มึนนนนน
ขอบคุณคนอ่านทุกคนเป็นอย่างมากที่ติดตามกันอ่านขนาดนี้ มีความสุขจริงๆ ถือเป็นการคลายเครียดอย่างนึงเลยเวลามานั่งอ่านคอมเม้น ปิดเทอมก็ยังเครียด เหอออ ชีวิต
บทหน้ามารอดูกันว่าธามกันกันต์จะทำอะไรต่อ เอิักกก ตอนนี้คนเขียนหมดแรงแล้ว ขอลาตายก่อน...
