บทที่ 7
คอนโดบอย
.......................................................................................
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาตอนราวๆตี5 ตื่นมาเพราะความหิวล้วนๆ มันไม่ใช่เวลาตื่นปกติของผมหรอก แต่วันนี้มันตื่นมาแล้วเนื่องจากนอนไปตั้งแต่หัวค่ำ นับเวลาได้ก็เกือบ10ชั่วโมง นอนยาวเลยเนี่ย...
เมื่อคืนผมนั่งดูรูปฮันนีมูนที่ตั้มแท็กมาให้ดูในมือถือ คู่นี้พอเสร็จงานแต่งมันก็ขึ้นเครื่องไปเชียงใหม่เลย น่ารักดีนะคู่นี้คบกันแบบผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่แบบไหนก็ลองนึกถึงพ่อเหมือนแม่เราดูว่าเป็นไง คู่นี้ก็แบบนั้นแหละ ดูรูปเสร็จผมก็ขยับไปนอนอ่านหนังสือที่ซื้อมาใหม่ แต่ไม่รู้เพราะแอร์เย็นหรือทำงานมาเหนื่อย ก็เผลอหลับคาเตียง ข้าวยังไม่ได้กินด้วยซ้ำ
นั่งทวนตัวเองเสร็จก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดผ้าม่านมองออกไปนอกระเบียง ฟ้ายังคงมืดสนิทและเงียบสงบผิดกับตอนหัวค่ำที่ฟ้ามืดแต่ด้านล่างกลับวุ่นวายจอแจ ผมไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้มานานมาก เพราะด้วยนิสัยที่เป็นคนตื่นสาย ก็เลยไม่รู้จะตื่นมาทำไมแต่เช้า เพราะเข้างานก็ตั้ง9โมง ผมก็เลยตัดสินใจล้างหน้าล้างตา เดินลงไปหาข้าวเช้ากินมันทั้งชุดนอนตอนตีห้าแบบนี้แหละ ร้านไหนไม่เปิดอย่างน้อยก็มีร้านสะดวกซื้อชื่อเป็นตัวเลขที่อยู่เคียงข้างเราเสมอมา ไม่ว่าจะสุข จะทุกข์ เหงา เศร้า รักจริงๆร้านนี้
ผมเดินเตาะแตะๆ ใส่รองเท้าหูคีบไปที่ลิฟต์ ตัวเปล่า ไม่เอาอะไรไปสักอย่างยกเว้นแบงค์50บาทในมือที่กำแน่น ปลิวหายกุก็ไม่มีอะไรเหลืออ่ะ
บรรยากาศใต้คอนโดมีคนบ้างเล็กน้อย บางคนก็เตรียมจะออกไปทำงาน (ตั้งแต่ตี5) บางคนก็ลงมาวิ่งรอบสวนของคอนโด เฮลตี้มาก ซึ่งผมไม่รวมอยู่ในพวกใดๆ ผมเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ มุ่งตรงไปที่ชุดอาหารเช้าราคาประหยัด 1ชุด กับแซนวิชอีกชิ้น ใช้เงิน 50บาทที่มีอย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว ระหว่างผมไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น เป็นช่วงอมขี้ฟันไม่อยากให้ใครเดือดร้อน จ่ายเงินเสร็จก็เดินมึนๆออกมาหน้าร้าน
ฟืดดดดดด
ผมสูดหายใจเอาอากาศยามเช้ามืดที่ไม่ได้เจอกันบ่อยๆเข้าไปในปอด มันสดชื่นดีนะเนี่ย ชื้นๆละอองน้ำค้างโถ... อันนี้ก็เวอร์ไป
สวนของคอนโดมีไฟสปอร์ตไลท์ส่องสว่าง ปลูกต้นไม้แทนรั้วกั้นอย่างเป็นสัดเป็นส่วน ผมเดินเข้ามานับครั้งได้เลยตั้งแต่อยู่ที่นี่มา สนามหญ้าไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็กจนเกินไปทำเป็นรูปตัวแอล มีม้านั่ง กับพวกน้ำพุเล็กตกแต่ง คนยืนอยู่กลางสนามหญ้าเพียงคนเดียวตอนนี้กำลังวอร์มร่างกายแบบทั่วๆไปที่เค้าควรจะทำกัน ยืดกล้ามเนื้ออะไรพวกนี้ ผมเลือกที่นั่งห่างๆจากชายผู้รักสุขภาพเสียหน่อย กลัวเชื้อความขี้โรคจะเข้าไปติด
ผมแกะแซนวิชที่กำลังร้อนๆออกมากิน ฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มรางๆ แดดแรกสะท้อนกับขอบก้อนเมฆเหมือนรูปถ่ายในนิตยสารเปี๊ยบเลย ผมน่าจะเอากล้องลงมาด้วย จะได้ถ่ายเก็บไว้เป็นความภาคภูมิใจสักหน่อยว่าตื่นแต่เช้ามาเห็นแสงแรกของวัน แหม... ได้บรรยากาศดีจริง
หันไปก็มองนก(ปลอม มองต้นไม้ไปเรื่อยๆ ฟ้าก็เริ่มสว่าง ผู้ชายที่ออกกำลังกายอยู่หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ผมก้มลงกัดแซนวิชอีกคำ เงยหน้าขึ้นมาเคี้ยวๆ คนที่หายไปเมื่อครู่ก็กลับเข้าสู่จอภาพอีกครั้ง มันคงไม่แปลกอะไรถ้า...
ชายหนุ่มสูงโปร่ง ในชุดวอร์มของแบรนด์ดังสีเข้ม เลิกฮู้ดคุมหัวออก กางแขนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ที่มุมปากเหมือนจะมีรอยยิ้มนิดๆ แต่ก็ไม่ใช่ จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาเรียวบ่งบอกว่าเขาไม่ใช่คนไทยแท้ รวมถึงผิวขาวที่ตัดกับเส้นผมตัดสั้นสีดำสนิท...
ผมไม่ใช่คนความจำดีอะไร แต่สำหรับคนหน้าตาดีๆหรือคนที่มีจุดเด่น คุณคงไม่ลืมได้ภายในระยะเวลาสั้นๆใช่ไหมล่ะ
“พี่หมิงนี่หว่า” ผมกระซิบกับตัวเองเบาๆ อีกฝ่ายไม่ได้สังเกตสิ่งรอบข้าง เขาเริ่มวิ่งเหยาะๆ เข้าไปทางใต้คอนโด ผมลุกพรวด ยัดแซนวิชที่เหลืออยู่ครึ่งอันใส่คืนลงถุง วิ่งตีนหมาเท่าที่รองเท้าแตะจะเอื้ออำนวยไปอีกทาง ตลกสภาพตัวเองพิลึก ผู้ชายหัวยุ่งๆ ตาปรือ ใส่ชุดนอนวิ่งเต็มตีนไปที่ร้านสะดวกซื้อ ผมมาเบรกเอาใกล้ๆจะถึงร้าน ทำท่าเป็นเดินเนิบๆ มึนๆ เนียนๆ ตามคาดพี่หมิงอะไรที่ว่าอยู่ในร้านเรียบร้อย ในมือกดโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้สีเข้มยุกยิกๆ มืออีกข้างก็มีน้ำผลไม้ยี่ห้อแพงสองกระป๋อง
ปิ้งป่อง
ผมเดินเข้ามาในร้าน แอบๆ เหมือนตัวเองเป็นโรคจิตเล็กๆว่ะ เสียววูบนิดๆ วันนั้นที่ไอ้ตั้มมันโดนอำนาจมืดสั่งปิดปาก พี่หมิงกับพี่กันต์นั่งอยู่ข้างกัน พี่กันต์น่าสงสัยเนื่องจากเป็นคนที่ทำตัวมีพิรุธทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะพี่กันต์อยู่บ้าน ส่วนพี่หมิง ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ตอนนี้เสือกเจอตัวว่าอยู่คอนโดเดียวกัน แถมยังเป็นเชฟ ไอ้การจะทำอาหารอร่อยมันก็เป็นเรื่องปกติองเชฟ เจอเข้าแบบนี้ก็ซีดเลยดิ ทำอะไรต่อไปถูก จะเล่าให้เจ๊แป้งช่วยคิดดีไหมวะ แต่ไม่เอา เดี๋ยวปากสว่างไปตามหาตัวพี่หมิงทั้งคอนโดอีก
...ว่าแต่ทำไมพี่เค้าต้องมาส่งข้าวส่งน้ำให้กุด้วยวะ
ตั้งแต่วันที่ได้แฮงค์มา ก็มีส่งมาให้ทุกวัน วันละอย่าง ไม่เช้าก็เย็น ไม่ขนมก็ข้าว เล็กๆน้อยๆ ไม่ขนาดส่งเช้าส่งเย็น มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกุวะ... มันเริ่มจากที่เมาไม่รู้เรื่องแล้วไอ้ปาล์มทิ้งให้ใครก็ไม่รู้หิ้วกลับคอนโดมา เจอพี่กันต์หลังจากที่ไม่ได้เจอมานานแล้วก็ไม่คิดด้วยว่าจะได้เจออีก มีคนส่งข้าวส่งน้ำให้กินฟรีทุกวัน แล้วจนมาวันนี้มาเจอว่ามีรุ่นพี่อยู่ที่คอนโดเดียวกันจริงๆ
ผมเริ่มคิดมา อาจจะเยี่ยวเหลืองได้ ระหว่างทางขึ้นลิฟท์มาก็คิดอีก ลิฟต์เปิดออก ผมมองไปที่หน้าห้องตัวเอง กระป๋องน้ำผลไม้กระเป๋าหนึ่งวางอยู่หน้าห้อง มีโน้ตแปะเอาไว้เช่นเคย มันเย็นเฉียบเหมือนพึ่งเอาออกมาจากตู้แช่ แบบเดียวกับที่เห็นพี่หมิงหยิบออกมาเมื่อครู่ เหมือนจนเริ่มเครียด!
‘จะได้ไม่ง่วงตอนเช้า เจ้าของเดียวกับแซนวิช’
เหี้ยไรวะ… พี่ต้องการอะไรจากผมวะเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!
...................................................................................................
17.30 (เลิกงานโว้ยยยยย!)
เลิกงานเสร็จผมขับนิวบีทเทิลมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เสี่ยปาล์มมันนัดพอดี ปกติพวกผมจะนัดกันออกมาหาอะไรกินแบบนี้อยู่แล้ว อย่าคิดลึกว่าจะหลงผิดมาเอากันเอง ไม่มีทาง ผมจอดรถเสร็จก็เดินหาร้านที่มันบอกให้ไปรอ มันนัดผมที่ร้านอาหารที่เป็นเครือร้านของโรงแรมดัง มีอาหารคาวอาหารหวานขายครบ นัดซะไฮโซเลย สงสัยกะผลาญเงินปลายเดือนให้เกลี้ยง
อันดับแรกเลยสั่งเหล้าปั่น เอ้ย... น้ำผลไม้ปั่นเบาๆรอมัน
“สตอเบอรี่W@#$@$” ชื่อเมนูมันเฉพาะมากไม่อาจจะสื่อสารออกมาเป็นภาษาชาวบ้านได้ สรุปสตอเบอร์รี่โยเกิร์ตสมูตตี้ เป็นไงเมนูกระแดะไหม ช่วยไม่ได้นะ คือข้างในแล้วเป็นคนหวานแหววและบอบบางมาก
“กินอะไรเข้ากับตัวดีนะมึง” ไอ้ปาล์มมาพอดี เดินมาอย่ามาดดีสมป็นเสี่ยปาล์มคนมีตังค์ และเห็นไหมมันยังยืนยันในความแบ๊วสตอเบอรี่สมูทตี้ของผม
“ก็กุน่ารักเลยเหมาะกับอะไรที่มันน่ารักๆ”
“ไม่... สตอเบอแหล ตอแหลดี” ปากน่ายัดด้วยดร.มาติน นศ.โต๊ะข้างๆจริงๆ เด็กสมัยนี้ก็รวยกันนะเนี่ย ใส่ดร.มาร์ตินมาเรียน ตอนเรียนผมใส่คอนเวิร์สมือสอง อนาถามาก เหมือนจะช่วยแม่ประหยัดเงิน ...แต่ถามว่ามือสองนี่กี่คู่ บอกได้เลยว่าซื้อทุกเดือน...
“กุจะยกโทษให้มึงเนื่องจากวันนี้มึงเลี้ยง” ผมยิ้มแฉ่ง ไอ้ปาล์มเอาเมนูมาบังแล้วยกนิ้วกลางให้ผมอย่างลับๆ มึงคงอายซินะที่ทำตัวสถุลต่อหน้าธารกำนัลจำนวนมาก ฮึ ฮึ
สักพักพวกผมก็สั่งอาหารเพิ่ม เปิดดูเมนูก็ไม่ได้อาหารพิสดารอะไร แต่สะดุดตาตรงที่มีข้าวผัดสามสีด้วยนี่ซิ ผมไม่ได้สนใจอะไรพลิกไปพลิกมาจนพนักงานเริ่มกัดดัน ไอ้ปาล์มก็สั่งไปแล้ว สุดท้ายผมเลยมาลงเอยกับข้าวผัดสามสี อยากรู้เหมือนกันว่าไอ้สามสีเนี่ย จะเป็นสีเหมือนที่ผมเคยกินไหม
“รูปวันงานแต่งไอ้ตั้มเดี๋ยวมันจะส่งให้ มันบอกว่าคัดๆอยู่ ป่านนี้คงหวานจนดอยมดขึ้นมั้งกูว่า” ไอ้ปาล์มพูดถึงเพื่อนที่หนีไปกกเมียเรียบร้อย ไม่เหมือนพวกผมที่ยังไงก็ยังโฉดอยู่เหมือนเดิม
“มันถ่ายรูปอัพลงเฟส มึงเข้าไปดูดิ อิจฉาตาร้อน อย่างมีเมียแบบมันบ้าง กุว่าไม่นานได้อุ้มหลานว่ะ” ผมฟันธงดูจากรูปการณ์แล้ว ไม่แคล้วต้นปีหน้า ไอ้เสี่ยปาล์มหัวเราะเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้
“ว่าแต่เมื่อไหร่มึงจะเจอสาวในดวงใจมึงวะ ไอ้ที่คุณสมบัติเยอะๆเหมือนสมาร์ทโฟนอ่ะเหี้ย กร๊ากกกกกกก กุนึกทีไรก็ขำ” มึงไม่รู้อะไรเสี่ยปาล์ม มันกำลังคุกคามชีวิตกุแล้วนะตอนนี้ไอ้สเปคที่มึงว่าอ่ะ
“มันเป็นอุดมคติเว้ย แต่เดี๋ยวก็มี เหมือนสมาร์ทโฟน ฮึๆๆๆ” ผมค้านมัน
“อะไรนะๆ สเปคมึงอ่ะ มึงพูดให้ฟังอีกรอบดิ”
“ไม่จู้จี้ ไม่ขี้บ่น ใจดี ยิ้มง่าย ทำอาหารเก่ง ขับรถได้ รักสัตว์ ไม่ขี้งอน คอแข็ง ใจเย็น ไม่สูบบุหรี่ ดูแลดี หน้าตาดี ขาว สูง คุยรู้เรื่อง ปรึกษาได้ รวย” ผมตบคำสุดท้ายหนักๆใส่หน้ามัน
ไอ้ปาล์มหัวเราะกั๊กๆๆๆๆ ดังมากไม่ได้เดี๋ยวโดนไล่ออกจากร้าน มันคงจะหัวเราะจนอั้นไม่อยู่ยิ่งกว่านี้หากทราบเรื่องราวทั้งหมดว่า เดี๋ยวนี้มีคนทำตัวใกล้เคียงสเป็คผมเข้ามาในวงจรชีวิต แถมยังเป็นผู้ชายเสียด้วย... สถานการณ์อาจจะบีบคั้นให้เป็นเกย์รับหากไม่แก้ไขให้ทันท่วงที
“เสี่ยมึงรู้จักพี่หมิงป่าววะ” ผมถามมันตรงๆแบบไม่อ้อมค้อม
“ใครวะ หมิงไหน กุจำชื่อคนไม่เก่ง” ไม่น่าหวังพึ่งอะไรมึงเล้ย...
“อะงั้นมึงจำได้ไหมว่าใครไปส่งกุ เอาแบบรูปร่างหน้าตาก็ได้อะ มึงคงไม่โง่ขนาดนั้นใช่ไหม” ผมถามมันอีก ไอ้ปาล์มยิ้มหวาน
“กุก็พอจำได้อยู่ไม่แม่นแต่กุมั่นใจว่าถ้าเจอกุนึกออกแน่ ชัวร์ ขาว สูง หล่อ ผมสั้น”
“ฮะ..”
“แค่นี้แหละ” มึงจบปริญญามาได้ไงวะไอ้ปาล์มถ้าความจำมึงมีแค่นี้ เหี้ยเอ้ยยยยย ผู้ชายคนไหนๆก็ผมสั้นทั้งนั้นแหละ ขาว สูง หล่อ ขาวกีบสูง มันก็ต้องหล่ออยู่แล้ว แล้วผู้ชายขาว สูง หล่อ สมัยนี้แม่งเต็มไปหมด หวังพึ่งคนผิดจริงๆกู
“มึงดูอยากรู้นะ มีไรกันแน่วะ” ไอ้ปาล์มชักเริ่มทำเกินหน้าที่ จากเพื่อนริจะเป็นพนักงานสอบสวนกุซะงั้น
“ไม่มีอะไร”
“มีดิน่า เล่าให้กุฟังหน่อยเผื่อช่วยได้” ไอ้นักหว่านล้อม คิดจะกล่อมกุเรอะ ที่กุถามมายังช่วยกุไม่ได้สักข้อเลย
“เดี๋ยวกุก็เล่าเองแหละ ไม่ต้องรีบๆ” ตัดบท พอดีกับที่อาหารเอามาเสิร์ฟ ไอ้ปาล์มสั่งอะไรสักอย่างห่อไข่ เยิ้มโคตรน่ากิน ผมก้มลงมามองดูจานตัวเอง ก็เจอกับข้าวผัดสามสีที่หน้าตาคุ้นๆ บล็อกโครี่ มะเขือเทศ แครอท กับกุ้ง...
“ของมึงน่ากินว่ะ ชิมดิ” โดยไม่รอคำอนุญาตไอ้ปาล์มก็ตัดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ
“เฮ้ยอร่อย”
ผมตักกินบ้าง... เอออร่อยจริง
ไม่รู้ว่าสูตรข้าวผัดสามสีนี้มันเป็นสูตรเดียวทั่วประเทศไทย เวิร์ดไวล์หรืออย่างไร ผมไม่ได้ลิ้นแดจังกึมขนาดจำรสชาติอาหารทุกอย่างได้แม่น แต่ถ้าเป็นคุณก็พอจำได้ใช่ไหมล่ะ ว่าอาหารที่ไหนรสชาติประมาณไหน แล้วไอ้ข้าวผัดนี้รสชาติมันโคตรใกล้กับที่เคยกินเมื่อไม่นานมานี้เลยวะ หรือพี่หมิงเป็นเชฟร้านนี้วะ...
...แต่กุจะคิดมากทำไมวะ มีอะไรให้แดกก็ดีละ บางทีมันอาจจะรสชาติเหมือนกันทั้งประเทศก็ได้นี่หว่า ข้าวผัด อาหารง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก เยี่ยวเหลืองแล้วไม่ดี
...22-10-2011
ขอบอกไว้ก่อนว่านิยายเรื่องนี้ไม่มีชิงรักหักสวาท ดราม่า อย่าคิดมาก คนแต่งว่าไรว่าตามๆมันไป 5555 คิดมากเดี๋ยวเยี่ยวเหลือง ธามฝากบอก555555555555555555555555
บทนี้คิดว่าโคตรได้สาระอ่ะ 555555555555555555555 ได้เนื้อหามาก ใครอ่านข้ามบทนี้นี่ คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลยนะ ชักจะเบลอๆกับตัวเอง ตารางชีวิตรวนหมด กลวงวันนอน กลางคืนตื่น ตี3ยังนอนไม่หลับอ่ะ แบดมากกกกกกกกกกกกกก
ปล. พี่น้องชาวไทยร่วมใจวิดน้ำนะจ้ะ จุ๊บๆ
...............................................................................
ตอบโพสจ้าพี่น้อง
theduchess - พี่กันต์ไม่แอ๊บ มันเป็นตัวตนของพี่กันต์ 555+ ธามชอบแบบไหนพี่กันต์ก็เป็นคนแบบนั้นแหละ เคี๊ยกกก
nemonoy - ขอบคุณที่ติดตามอ่านจ้า นิยายมันต้องมีอะไรให้ติดตามอ่าน กลัวคนอ่านเดาได้แล้วทิ้งกันไปหมด 555
howru - ธามคิดลึก... ลึกสุดใจ กร๊ากกๆๆๆๆๆ

iamnan - ตั้มเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้เลยในเรื่องนี้ 55555555555555555555555555555555
POPEA - อ่านบทนี้ซิ แล้วก็ไปเดาต่อว่าคอนโดบอยเป็นใครนะ 5555555555555555
greensnake - ฮิๆๆๆ อ่านตอนนี้แล้วบอกด้วยนะว่ายังไง ชอบไหม 55555555+ เราตอบโพสเพราะอยากหใ้คนอ่านโพสให้ตอบนี่แหละ
Dee^daY - ขนาดเราไม่ได้ดูละครเรายังรู้จักเลย เม้ยดังจริง 55555 เม้ยอ่านตอนใหม่แล้วชอบพี่หมิงไหมเจ้า
maruko - แต่งนิยายเรื่องนี้วางแผนตลาดมาเลยทีเดียว กะให้ซ้ำกะคนอื่นน้อยที่สุดละ กลัวคนอ่านเบื่อ จะเชียร์ใครก็เชียร์เลย ฮี่ๆๆๆๆๆ ไม่มีพลาด
Moonmaid - ผู้ชายในฝัน ไม่หล่อแต่ดี แต่ว่าสมัยนี้เน้นหล่อเลวเนอะ แย่ๆๆๆ
bulldog17 - นี่ยังไม่เฉลยอะไรนะ อย่าพึ่งรีบๆ 555555555555
koikoi - วันนี้คงไม่วนเวียนแล้วน้าาา
donghwa - ตั้มคนดี ตั้มจะไปเตรียมกับใครได้

DraCo_SLa13 - ติดตามกันต่อไปว่าใครกันแน่ ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
JkrR - คนเขียนก็เศร้าาาาาา อยากจะพยายามเขียนให้จบไวๆ เพราะว่าเป็นโรคที่พอเขียนขาดตอนแล้วดอง เปิดเทอมทีไรเวลาว่างก็ไม่ค่อยมีด้วย

nana - ขอบคุณที่ติดตามนะจ้ะ จุ๊บๆ
lidelia - มาแล้วตอนนี้คิดว่าอาจจะถูกใจ เอ๊ะ ...หรือขัดใจ
golove2 - ธามเริ่มตะหงิดๆแล้วแหละ 5555555555555555555555+
~prince™~ - ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ
gumrai3 - คำเตือน อ่านเรื่องนี้ จงอย่าคาดดาไปเองจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากธามหรือตัวต้นเรื่องอย่างเป็นทางการ 555555555555555555555555555555
chae - ถามแบบนี้ก็รู้ตอนจบหมดอ่ะเซะ! ไม่บอกหรอก ฮิๆๆๆๆๆ ที่บ้านน้ำท่วมแล้วเหรอ ดูแลตัวเองน้าาา
andy_kwan - แมวใช่ตัวที่อยู่รูปโปรไฟล์รึเปล่า น่ารักค้าาาา ฮิๆๆๆ หนุ่มปริศนายังคงไม่เปิดเผยตัว
TanyaPuech - ยัง มันยังตื่นเต้นไม่พอ!!!!!! ยังหวานไม่ได้ 5555555555555
tamako - คริๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บทนี้ตอบโพสยากแฮะ เหมือนน้ำท่ววมปาก ตอบอะไรไม่ได้ 5555
Yunatsu - น้ำนิ่งไหลลึกเสมออออ
loveview - ลึกลับๆจะได้ตื่นเต้นๆ 555+
killy - นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวายที่เราเขียนได้ซับซ้อนที่สุดแล้ว 555555555555555555
MM - มาอ่านต่อ ให้กระจ่างสว่างจิตได้ตามสะดวกเลยจ้า
vanny - มีคนนี้แหละสงสัยอะไรเข้าเค้าที่ต้องการจะสื่อ เคี๊ยกกกกกกกกกกกกก ไม่ตอบอะไร ให้ไปอ่านเอง ขอบคุณที่ติดตามนะ จุ๊บๆ
Cherry Red - ฆาตกรมีเพียงหนึ่งเดียว... เหยดดดดดดดดดดด ไม่ใช่ พระเอกเรื่องนี้มีเพียง1เดียว ที่สำคัญ ไม่มีรัก3เศร้าชัวร์ 55555555555555555555555555555
gumrai3 - ติดแล้วก็ต้องอ่านต่อ เคี๊ยกกกกกกกกกกกกกกกกกกก รักคนอ่านจุ๊บๆ
.............................................
ตอบโพสเสร็จแล้วเย้ๆๆๆๆ