18. งานศพคุณหญิงทัดพวงและนายสาโรจน์ คุณช่อแก้วและคุณวิชัยผู้เป็นสามีเป็นผู้จัดการงานทั้งหมดทั้งมวล เพราะเหนือนับว่ายังเด็ก และยังสภาพจิตที่ย่ำแย่ย่อมไม่สามารถจัดการใดๆได้
แม้การสูญสียจะผ่านเกือบ 2 เดือนแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความโศกเศร้าหายไป ยิ่งเหนือด้วยแล้วการเสียผู้ให้กำเนิดไปอย่างกระทันทำให้กลายเป็นพูดน้อยไปในทันที
เหนือวางช้อนลง ทั้งที่เพิ่งกินข้าวไปไม่กี่คำ น้ำมองแล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะชายหนุ่มผอมลงไปมากจริงๆ
“คุณเหนืออิ่มแล้วหรือครับ?” เด็กหนุ่มถาม
“อืม” เหนือว่าลุกขึ้น น้ำลุกขึ้นตาม
“เดี๋ยวน้ำเอานมขึ้นไปให้นะครับ”
“ ฉันไม่หิว” เหนือว่า
“แต่คุณเหนือครับ กินหน่อยนะครับ”
“………………..” เหนือไม่ตอบ น้ำยิ่งไม่สบายใจ หากว่าคุณแม่มาเห็นคุณเหนือตอนนี้ก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน เขาจะทำยังไงดี?
ถึงแม้ว่าเหนือจะไม่ตอบ แต่น้ำก็เอานมมาให้เหนือถึงบนห้อง
“……………..” น้ำมองชายหนุ่มที่นั่งเหม่ออยู่บนเตียง ก่อนที่ยกถาดแก้วนมเข้าไปหา
“คุณเหนือดื่มนมสักหน่อยนะครับ คุณเหนือกินข้าวน้อยเหลือเกินดื่มนมจะได้ไม่หิว” น้ำว่า ชายหนุ่มไม่ได้ไหวติงทำเหมือนไม่มีน้ำอยู่ในห้องนี้ด้วยซ้ำ
“ คุณเหนือครับ” น้ำว่าก่อนที่เหนือจะหันหน้ามา
“ ฉันไม่หิวเอากลับไปเถอะ”
“ แต่”
“
เอาออกไป ฉันไม่กิน! ” เหนือว่าปัดมือน้ำจนแก้วหล่นลงพื้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆน้ำนมสีขาวแตกกระจายเปื้อนเป็นวงกว้าง
เพล้ง!? น้ำตกใจทำอะไรไม่ถูก รีบถอยออกมา แต่เหนือกลับคว้ามือน้ำไว้
“ คุณเหนือ!?”
“ ………………………..……” เหนือเงยหน้าจ้องใบหน้าน้ำนิ่ง
“คุณเหนือ?”
“ ………………………..……” ชายหนุ่มยังคงไม่พูดอะไร เด็กหนุ่มเดาไม่ออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ คุณเหนืออย่าทำแบบนี้เลยครับ คุณพ่อคุณแม่เองก็ไม่อยากให้คุณเหนือเป็นแบบนี้ ท่านคงอยากให้คุณเหนือทำใจได้เร็วๆ เพราะคุณเหนือยังต้องมีมีชีวิตอยู่ต่อไป…คุณเหนือต้องผ่านไปให้ได้นะครับ!”
“ แก…จะไปรู้อะไร คุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่พ่อแม่แกจริงๆ แกจะไปเข้าใจอะไร!?” น้ำสะเทือนใจมากที่ถูกเหนือพูดแบบนี้
“ ทำไมคุณเหนือพูดแบบนี้ละครับ ถึงคุณแม่คุณพ่อจะไม่ใช่พ่อแม่แท้ๆของน้ำ แต่ท่านก็รักและเอ็นดูน้ำ ดีกับน้ำ และน้ำก็รักท่านเหมือนพ่อแม่จริงๆทำไมน้ำจะไม่เสียใจที่ท่านทั้ง2มาจากไปเร็วแบบนี้ แต่ที่น้ำพูดกับคุณเหนือแบบนี้ เพราะไม่อยากเห็นคุณ
ทรุดโทรมไปมากกว่านี้ น้ำคิดว่าคุณพ่อคุณแม่ก็เช่นกัน”
“แกก็ทำเป็นพูดดี เหมือนไอ้พวกที่มาหาฉันไม่เว้นแต่วัน ทำมาเป็นเสียใจ เห็นอกเห็นใจแต่หวังผลประโยชน์จากฉันทั้งนั้น!” เหนือว่า หลังจากที่ผู้ให้กำเนิดจากไป มีคนที่รู้จักมาแสดงความเสียใจที่บ้านแม้งานศพจะเรียบร้อยไปแล้ว เขารู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างมากที่ยังมีคนที่ยังนึกถึงคุณพ่อคุณแม่อยู่ แต่คนที่มากลับพูดถึงธุรกิจของเขา การร่วมลงทุน คงคิดว่าเขาเด็กที่จะไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริง แต่พวกมันคิดผิด
“ คุณเหนืออย่าเอาน้ำไปรวมกับคนพวกนั้นสิครับ น้ำจะได้ประโยชน์อะไร คุณเหนือก็น่าจะรู้ว่าน้ำไม่ใช่คนแบบนั้น ที่น้ำทำทั้งหมดเพราะน้ำเป็นห่วงคุณเหนือนะครับ”
“ ได้สิแกได้!” เหนือว่ากระชากน้ำเข้ามาหาตัว
ได้ทำ………ให้ฉันรักแก……………..
“ นะครับคุณเหนืออย่าทำร้ายตัวเองเลย คุณเหนือยังมีคุณฟอร์ คุณช่อแก้ว คุณนม และทุกๆคนที่บ้านหลังนี้”
“ รวมแกด้วยใช่ไหม?” เหนือถาม
“ครับ” เหนือรู้สึกอุ่นใจอย่างประหลาดกับคำพูดว่า ‘ครับ’ เพียงคำเดียวของน้ำ
“ ไปเอานมมาให้ใหม่ได้ไหม?” เหนือบอก มองหน้าน้ำที่กำลังยิ้มที่เหนือบอกให้ไปเอานมมาให้ครับ
“ครับ แต่เดี๋ยวน้ำเก็บแก้วนี้ก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวฉันทำเอง ก็ฉันเป็นทำแตกใช่ไหมละ?” เหนือว่าลุกขึ้นจำได้ว่าน้ำเคยพูดว่าใครทำคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ น้ำมองเหนือด้วยความงงงัน
คุณเหนือนะเหรอจะเก็บแก้วที่แตกเอง?
“ ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวน้ำเก็บเอง เพราะคุณเหนือไม่เคยทำ เดี๋ยวจะโดนบาด”
“ ไม่โดนบาดหรอกน่า เรื่องแค่นี้ ตกลงจะให้กินไหมนม หรือจะให้กินอย่างอื่นจะได้ไม่ต้องไป” เหนือว่ามองหน้าน้ำเจ้าเหล์ เด็กหนุ่มสีหน้าเลิกลั่กก่อนที่วิ่งออกจากห้องไปเร็วเท่าที่ขาจพาวิ่งไปได้
“………………..” เหนือขำที่น้ำทำท่ากลัวเสียเต็มประดา แต่ชายหนุ่มก็คิดในใจไว้แล้ว
‘คืนนี้อย่าคิดว่าจะรอด’
เหนือเก็บเศษแก้วไปยิ้มไป โลกใบเดิมค่อยๆสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
น้ำกลับเข้ามา เหนือก็เก็บเศษแก้วใส่ถาดและนำมาผ้าเช็คตัวมาเช็คพื้นเสร็จเรียบร้อย หากว่าพื้นนั้นไม่เหนียวแบบนี้
“ มองอะไร ตกตลึงในความสามารถของฉันหรือไง?” ชายหนุ่มว่าสบายใจเอามือหนุนต่างหมอนนอนไขว้ห้างรอน้ำบนเตียง
น้ำเดินไปหา เสริฟนมให้เหนือถึงเตียงนอน
“………………” เหนือรับแก้วจากมือน้ำแต่กลับไม่ยอมปล่อยมือคนที่ยื่นให้
“คุณเหนือ?!” น้ำพยายามดึงมือตัวเองกลับ เหนือยิ่งไม่ยอมปล่อยจนเหมือนเป็นการชักกระเย่อย่อมๆ
“ ดึกแล้วนอนกันเถอะ” เหนือว่าวางแก้วนมไว้ยังไม่ยอมกิน น้ำย่อมรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้หมายถึงการนอนเฉยๆแน่
“ แล้วนมละครับ?” น้ำว่าไม่กล้าสบตาเหนือตรงๆ
“ ……………” เหนือยิ้มกระชากน้ำลงมานอนบนเตียงก่อนที่จะเอาตัวทับไว้ น้ำตกใจก็จริงแต่ไม่ได้ขัดขืนนอกจากมองหน้าชายหนุ่มที่ที่จ้องมองมา
“……………………..” เหนือลูบแก้มน้ำไปมาก่อนที่จะก้มลงจูบเบาๆ น้ำหดคอหนีเล็กน้อย หัวใจเริ่มเต้นเร็วขึ้น
“ คุณ เหนือ?”
“ เรียกทำไม หืม?” เหนือว่าสูดกลิ่นหอมจากลำคออีกฝ่ายก่อนที่จะใช้ลิ้นเลียให้น้ำขนลุกซู่ จนเหนือก็รู้สึก
“ ปะเปล่าครับ” น้ำว่าก่อนที่ริมฝีปากจะถูกปิดด้วยริมปากของอีกฝ่าย ภายในปากถูกลิ้นที่ชำนาญสำรวจทั่วทุกมุกก่อนที่จะมาหยอกกับลิ้นของเขา ร่างกายถูกปลดเปลื้องจนเหลือเหลือแต่ร่างกายเปลือยเปล่า และกำลังเสียดสีแนบชิดกับร่างที่แน่นหนัก
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างไม่รีบร้อนเหมือนทุกครั้ง น้ำรู้สึกได้ว่าเขาถูกปฎิบัติอย่างอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยได้รับ
.
.
.
.
.
..
เหนือกอดน้ำเข้ามาอีกก่อนที่หอมศรีษะชื้นๆของอีกฝ่ายอย่างไม่รังเกลียจ น้ำที่กำลังจะหลับลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“ ถ้าง่วงก็นอนเถอะ” เหนือว่าก้มมองคนในอ้อมแขน
“………………………..” น้ำนึกสงสัยในคำพูดและการกระทำของเหนือที่ช่างอ่อนโยนเหลือเกินก่อนที่ผล็อยหลับไป
เด็กหนุ่มฝันถึง เมื่อครั้งยังเด็กที่นั่งรอแม่วันแล้ววันเล่า คุณเหนือลูกชายคุณหญิงที่มักจะเดินมาพูดให้ร้องไห้
“ไอ้เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ แบร่” เด็กชายว่าแลบลื้นปลิ้นตาสนุกที่ได้แกล้งลูกคนใช้ในบ้าน
“ น้ำไม่ใช่เด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ น้ำมีแม่” เด็กชายตอบอย่างแข็งขัน เพราะไม่คิดว่าแม่จะทิ้งตัวเองไปจริงๆ
“ แล้วไหนละแม่แก เด็กไม่มีพ่อไม่มีเขาเรียกเด็กกำพร้า ต้องไปอยู่ที่ที่เด็กแบบแกอยู่กันเยอะๆ พวกที่เด็กกำพร้าเขาอยู่กัน”
“ ไม่ครับ น้ำจะอยู่ที่นี่รอแม่”
“ ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ฉันไม่ให้แกอยู่ ฉันไม่ให้เด็กกำพร้าอย่างแกอยู่บ้านฉัน!”
“ แต่น้ำจะอยู่ที่นี่”
“ ไม่ให้อยู่!” เด็กชายว่าโกรธที่โดนขัดใจ แล้วขว้างรถบังคับวิทยุที่ถือมาใส่อีกคนที่นั่งกอดเข่าอยู่
ภาพถูกตัดหายไปเหมือนสายหมอกก่อนที่จะเป็นตัวเองที่กำลังโดนข่มขืน
“คุณเหนือ อย่าครับ อย่าทำน้ำเลย!?”
“ แกจะขัดขืนให้ได้อะไรขึ้นมา ไอ้น้ำ แกไม่สึกเหร่อสักหน่อย ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ก็ไสออกไปจากบ้านฉัน!” เหนือว่า น้ำค่อยๆลดแรงที่ผลักอีกคนออกไปเหมือนว่าเรี่ยวแรงโดนสูบ
“ ก็แค่เนี่ยะ ทำให้โมโหทุกทีสิแก!” เหนือว่ายิ้มพอใจ
*
*
น้ำลืมตาขึ้นมาก่อนที่รับรู้ว่าตัวเองฝันถึงอดีต เด็กหนุ่มลุกขึ้นมองนาฬิกา บอกเวลา 6 โมงเช้า เขาตื่นสายกว่าทุกที น้ำยกแขนเหนือออกไปให้พ้นตัว น้ำเหลียวมองใบหน้ายามหลับของชายหนุ่มนึกย้อนว่าตัวเขาตอนนี้ดีกว่าเมื่อก่อนมากมายนัก ไม่คิดว่าดีขนาดนี้ด้วยซ้ำ ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนไหล่ออกจากบ้าน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่ซุกหัวนอน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่คิด
เมื่อก่อนถึงแม้จะต้องลำบากกายทรมานใจแต่อยู่ด้วยความหวังว่าสักวันแม่คงจะกลับมารับ ในตอนนี้เขาอยู่อย่างสุขสบาย ใจก็ไม่ถูกย่ำยีเหมือนอดีตแต่อยู่อย่างไร้จุดหมาย
เมื่อก่อนเพราะทุกข์ทรมาน ความสุขเล็กๆน้อยๆที่มีชีวิตแม้จะเล้กน้อยแต่เป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจให้นอนหลับฝันดี โดยเฉพาะ เมื่อ คุณฟอร์ มาที่นี่ แค่ได้เห็นหน้าแม้จะอยู่ไกลก็แอบมีความสุขคนเดียวไปทั้งวัน
“…………” น้ำตาไหลอาบแก้มเด็กหนุ่มโดยไม่รู้ตัว จนเมื่อมันหยดลงบนมือน้ำถึงได้รีบเช็คออกและรีบเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและไปสอบ
น้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาลงมาทานข้าวเช้าโดนไม่ได้ปลุกชายหนุ่มเพราะยังเช้าอยู่ วันนี้เขาตั้งใจไปถึงโรงเรียนให้เช้ากว่าทุกครั้ง เพื่อจะได้ไปอ่านซ็อตโน๊ตที่จดไว้ และไปดูห้องสอบด้วย
ฟอร์มาถึงบ้านเหนือแต่เช้า ตามคำสั่งของมารดาที่ให้มาดูเหนือว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง คุณช่อแก้วที่มักจะโรมามาถามนมก้านพูอยู่บ่อยครั้งเรื่องหลานชายว่าเป็นยังไงบ้าง? รู้สึกไม่สบายใจที่นมก้านพูบอกว่าหลานชายเอาแต่เก็บตัวเงียบ
“คุณฟอร์?!” น้ำว่าเมื่อเห็นฟอร์นั่งอยู่เก้าอี้นวม
“ ตื่นแต่เช้านะเรา” ฟอร์ว่าอดที่จะรู้สึกแปลกๆไม่ได้ เขาเฝ้าถามตัวเองว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันสมควรเรียกว่าอะไรดี
“ครับ วันนี้น้ำมีสอบ” น้ำบอก พอดีกับแก้วเดินเข้ามาบอกว่าเตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อย น้ำชวนฟอร์ทานข้าวเช้าด้วยกัน ชายหนุ่มไม่ขัดเพราะก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาจากบ้าน
“ เหนือเป็นไงบ้าง?” ฟอร์ถามคนข้าวต้มกุ้งในชามไปมา ตอนนี้ยังเช้าอยู่เขายังไม่หิวเท่าไร แต่อยากที่จะคุยกับน้ำมากกว่า
“ ยังทำใจเรื่องคุณพ่อคุณแม่ยังไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าเมื่อ 2 เดือนก่อนมากครับ” ฟอร์พยักหน้า รับรู้ถ้าเป็นตัวเขาก็คงทำใจไม่ได้ง่ายๆเหมือนกัน
“ ก็ดีแล้ว คุณแม่ท่านก็เป็นห่วงเหนือมาก ถ้าเริ่มทำใจได้แล้วท่านก็จะได้สบายใจ” ฟอร์ว่าก่อนที่ความเงียบจะก่อตัวล้อมน้ำและฟอร์ไว้ น้ำกินข้าวต้มไปเงียบๆความรู้สึกที่ได้อยู่กับฟอร์สองต่อสองไม่ได้ทำให้ดีใจจนลิงโลดเหมือนเมื่อก่อน แต่กลายเป็นความความอึดอัด และทรมาน เพราะไม่อาจจะวาดฝันว่าสักวันคุณฟอร์จะหันมามองเขาบ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี เรื่องที่เคยฝันเคยหวังในตอนนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นได้เลย เพราะตอนนี้เขาเป็นของคุณเหนือ คุณฟอร์รับรู้เรื่องนี้ดี ได้แต่ยอมรับความจริงว่าตัวเองอยู่ในสถานนะใด
“ น้ำ” ฟอร์เรียก
“ครับ” น้ำเงยหน้ามอง ใบหน้าเด็กหนุ่มราวกับกำลังจะร้องไห้ ฟอร์ถึงกับชะงักเมื่อได้เห็น
“ น้ำมีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้ หากว่าฉันช่วยได้ฉันก็จะช่วยเต็มที่”
“ น้ำไม่มีเรื่องอะไรให้คุณฟอร์ช่วยหรอกครับ คงเป็นคุณเหนือที่ต้องการกำลังใจจากคุณฟอร์และทุกๆคน” น้ำว่าซาบซึ้งแค่ฟอร์เอ่ยที่จะช่วยเด็กหนุ่มก็มีกำลังใจขึ้นมา
“ แล้วน้ำละ?”
“ น้ำไม่เป็นไรหรอกครับ” น้ำคลี่ยิ้ม
“ แต่วันนี้ฉันไปส่งน้ำที่โรงเรียนได้ใช่ไหม?”ฟอร์ว่ารู้ว่าน้ำมีเรื่องที่ไม่สบายใจแต่ก็ไม่อาจรบเร้าให้น้ำบอกเขาได้ถ้าน้ำไม่อยากบอก
“ คุณฟอร์ไม่รอเจอคุณเหนือหรือครับ?” น้ำถาม แอบตกใจที่ฟอร์จะไปส่ง
“ เดี๋ยวค่อยกลับมาก็ได้ วันนี้ฉันมีเวลาทั้งวัน ตอนนี้เหนือก็ยังไม่ตื่นใช่ไหม?”
“ ครับ” น้ำพยักหน้า ยิ้มโดยไม่ต้องฝืนเหมือนเมื่อครู่แต่ริมฝีปากก็หุบยิ้มแทบจะทันที เพราะไม่คิดจะให้ฟอร์ไปส่งอย่างที่ชายหนุ่มต้องการ เขาไม่ต้องการที่จะใกล้คุณฟอร์ไปมากกว่านี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจจนเนื้อเต้น ทว่าเขาจะตัดใจแล้วก็ต้องทำให้ได้ หากยังลังเลอีกเขาเองที่จะเจ็บปวดและทรมานใจที่สุด
รักได้ก็ย่อมเลิกได้ แม้จะรู้ว่าไม่ง่าย แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้
“ แต่น้ำไม่รบกวนคุณฟอร์หรอกครับ น้ำให้ลุงน้อยไปส่งดีกว่า”
“น้ำ ฉัน..”
“ นะครับ น้ำไม่อยากรบกวนคุณฟอร์จริงๆ”น้ำบอกก่อนที่จะลุกขึ้น และบอกฟอร์ว่าตัวเองอิ่มแล้วและจะไปรอลุงน้อยหน้าบ้าน เป็นการตัดการพูดคุยโดยสิ้นเชิง
ฟอร์เจ็บปวดที่โดนน้ำปฎิเสธตรงๆ ซึ่งน้ำเองก็เจ็บปวดที่ต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ
คุณฟอร์ขอโทษนะครับ ที่ทำร้ายน้ำใจคุณฟอร์แบบนี้ เพราะน้ำไม่ดีเอง น้ำคิดไม่ซื่อเอง เพราะฉะนั้นหยุดทำดีกับน้ำเถอะครับ ยิ่งคุณฟอร์ดีกับน้ำ น้ำก็ยิ่งคิด ทั้งที่น้ำมีคุณเหนือแล้ว น้ำกับคุณฟอร์เหมือนเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันได้ เพราะหากย้อนเวลากลับไปได้ ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิม คุณฟอร์คือเพื่อนคุณเหนือ น้ำคือเด็กรับใช้ในบ้านที่ไม่อาจเอื้อมคุณฟอร์ได้
แม้จะฝันยังไงสักวันก็ต้องตื่นมาเจอความจริงจนได้
ฟอร์นั่งรอเหนือไม่นาน เพราะเมื่อเหนือลืมตาตื่นไม่เห็นน้ำเขาก็ตาสว่างแล้ว ชายหนุ่มนึกไม่พอใจที่น้ำไม่ยอมปลุกเขา เพราะเขาคิดจะไปส่งน้ำไปโรงเรียนจากที่เคยไปส่งเมื่อนานมาแล้ว
เมื่อเหนือลงมารับประทานอาหาร นมก้านพูบอกว่าฟอร์มาหาเหนือตั้งแต่เช้า ชายหนุ่มจึงไปหาเพื่อนที่ห้องรับแขกทันที
“ ฟอร์มาแต่เช้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ?” เหนือคิดว่าฟอร์น่าจะมีเรื่องด่วนเพราะหากเป็นเรื่องไม่สำคัญฟอร์ก็น่าจะโทรมา
“ มีเรื่องมาบอกนาย และที่มาหาเพราะคุณแม่เป็นห่วงนาย” ฟอร์บอก มิตรภาพความเป็นเพื่อนของฟอร์และเหนือกลับมาสนิทแนบแน่นเหมือนไม่มีเรื่องให้ขุ่นหมองข้องใจดั่งเดิม นับตั้งแต่เรื่องของคุณหญิงทัดพวง และคุณสาโรจน์เสีย ราวกับว่าเรื่องเมื่อคราวนั้นได้ตายตามไปด้วย
“ เราก็โอเคแล้วละ” เหนือหวนคิดถึงผู้ให้กำเนิด ชายหนุ่มบอกตัวเองว่าเขาต้องผ่านมันไปให้ได้ ความโศกเศร้า ความสูญเสียนี้เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แม้เขาจะสูญเสีย.. แต่ก็มีบางสิ่งที่คงอยู่ ..
“ ถ้านายพูดอย่างงั้นเราก็สบายใจ และคิดว่าเวลาจะช่วยให้นายทำใจได้”
“ อืม” เหนือพยักหน้า คิดเช่นนั้นเหมือนกัน และเขาเองก็มีน้ำอยู่ทั้งคน ..
“ แล้วก็คุณพ่อให้เรามาพูดเรื่องบริษัท ว่านายจะต้องเริ่มไปศึกษางานได้แล้ว เพราะอีก2 ปีนายก็จะเรียนจบและดูแลกิจการทั้งหมดเอง” ฟอร์บอกรู้ว่านี่เป็นภาระที่หนักมาก และยิ่งเป็นเหนือที่ไม่เคยไปดูดำดูดีบริษัท เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลา คุณน้าทั้ง2 เองก็ไม่เคยให้เหนือต้องรับรู้เรื่องนี้จนกว่าจะเรียนจบ เหนือยังเคยแซวที่เขาต้องเริ่มไปทำงานกับคุณพ่ออาทิตย์ละ 1 วันด้วยซ้ำ
“ เราต้องขอบคุณคุณลุงที่ตอนนี้ดูแลห้างให้ ถ้าคุณลุงจะให้ไปเมื่อไรก็บอก” เหนือบอก ชายหนุ่มเองก้ไม่มีทางเลือก ถ้าเขาไม่ทำใครจะทำ ะรกิจของคุณพ่อคุณแม่เขาสานต่อเอง
“ คงเร็วๆนี้แหละ คุณพ่อคงจะมาพูดกับนายอีกที” ฟอร์ว่า เห็นใจเหนือ แต่เขาไม่รู้จะช่วยยังไง
“ เออ นายกินข้าวมารึยัง? ไปกินด้วยกันสิ” เหนือชวน
“ กินพร้อมน้ำแล้วละ” ฟอร์บอก เหนือเงียบไปก่อนที่จะถาม
“นายเจอน้ำ?”
“ ...พอดีเจอกำลังจะกินข้าวพอดี ไม่คิดว่าจะตื่นเช้าขนาดนี้” ฟอร์ตอบแบบไม่ได้สนใจมากนัก เขาสังเกตท่าทีเหนือได้ว่า ในใจเหนือยังไม่ลืมเรื่องคราวที่น้ำหนีไปแล้วเขาช่วยน้ำโดยไม่บอกเหนือ
“ น้ำไปสอบ ก็เลยไปเช้ากว่าปกติ นี่สอบคราวนี้ก็จบ” เหนืออธิบาย
“ แล้ว น้ำจะเรียนต่อเลยหรือเปล่า?” ฟอร์อดที่จะถามไม่ได้
น้ำสอบเสร็จเดินออกมาจากห้องสอบด้วยความโล่งอก เพราะเนื้อหาที่สอบตรงกับที่อ่านมาค่อนข้างเยอะ น้ำมั่นใจว่าการสอบครั้งนี้คงผ่านไปด้วยดี
“น้ำเป็นไงบ้าง?” บุญมีน้ำถาม เขาทำข้อสอบเสร็จก่อนน้ำเป็น 10 นาทีแต่ที่ยังไม่กลับเพราะรอเจอน้ำ
“ คิดว่าทำได้มากกว่าครึ่งครับ”น้ำบอกเก็บปากกา ดินสอ ใส่กระเป๋าที่สะพายอยู่
“ ให้มันได้อย่างงี้สิน่า ไปฉลองกัน ฉลองที่สอบเสร็จ ฉลองที่เรียนจบกันสักที”
“ น้ำไม่ได้บอกที่บ้านไว้..” น้ำพูดไม่ทันจบ บุญมีก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ ก็โทรบอกดิ นี่น้ำกับพี่ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไร ไปฉลองกันแค่นี้เอง ที่บ้านไม่ว่าหรอกโตๆกันแล้ว เดี๋ยวถ้ากลับดึกพี่ไปส่ง” บุญมีบอก คะยั้นคะยอ น้ำปฏิเสธไม่ลง จึงโทรกลับบ้าน นมก้านพูเป็นคนรับพอดี เด็กหนุ่มฝากบอกนมก้านพูบอกเหนือก่อนที่จะวางสายไป
“อยากกินอะไร?” บุญมีถาม อารมณ์ดีที่สอบเสร็จสักที
“ อะไรก็ได้ครับ”
“ งั้นไปกินหมูกระทะกัน” บุญมีว่ายิ้ม เดินนำหน้าน้ำไปก่อน
ก็อกๆ
นมก้านพูเคาะประตูห้องหนือ เพื่อบอกเรื่องน้ำว่าวันนี้จำกลับช้า เพราะไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนที่สอบเสร็จ
“ ใคร?” เหนือถามพลิกตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ โดยไม่ได้เงยหน้าจากเอกสารโครงสร้างของบริษัท
“ นมเองค่ะ”
“ เหนือ ไม่ได้ล็อค เข้าเลยครับนม” เหนือว่าก่อนที่หญิงสูงวัยจะเปิดประตูเข้ามา
“ มีอะไรครับ?” เหนือเงยหน้าขึ้น
“ น้ำโทรมาบอกว่าวันนี้จะกลับดึกหน่อย เพราะมีกินเลี้ยงสอบเสร็จกับเพื่อนค่ะ”
“…………………………..” คิ้วชายหนุ่มขมวดย่นทันที
“ นมมาบอกแค่นี้แหละค่ะ” นมก้านพูว่ากำลังจะออกจากห้อง
“ แล้วบอกไหมว่าจะกลับกี่โมง?” เหนือถามตามหลังหญิงสูงวัย
“ ไม่ได้บอกหรอกค่ะ”
“ แล้วบอกไหมว่าไปที่ไหน?”
“ ไม่ได้บอกเหมือนกันค่ะ” นมก้านพูบอก ชายหนุ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาในทันที ไม่ใช่ว่าเขาไม่ให้น้ำไปสังสรรค์กับเพื่อนแต่เขาหงุดหงิดที่ตัวเองรู้เป็นคนสุดท้ายต่างหาก เหนือหันไปมองลิ้นชักที่ปิดอยู่ ในลิ้นชักเหนือเก็บโทรศัพท์ที่ซื้อไว้กะว่าจะให้น้ำ แต่ไม่ได้ให้สักที ถ้าตอนนี้น้ำมีโทรศัพท์เขาก็คงจะโทรถามน้ำได้ และถ้าน้ำกลับดึก เขาเป็นห่วงก็คงไปรับไม่ใช่ไม่รู้ว่าน้ำจะกลับมากี่โมง เพราะมันทำให้กระวนกระวายใจ
นมก้านพูมองเหนือที่เงียบไป และใบหน้าหล่อเหลาคล้ายกำลังครุนคิดบางอย่างอยู่ นมก้านพูเดาไม่ผิดว่าเหนือกำลังคิดเรื่องน้ำอยู่แน่นอน
“ คุณเหนือมีอะไรจะถามนมอีกไหมคะ?”
“ ไม่มี เออนม น้ำโทรมาเมื่อกี้เหรอ?”
“ค่ะ” นมก้านพูบอกยิ้มอย่างผู้ใหญ่ที่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนมองชายหนุ่มทะลุปรุโปร่ง
“ อืม” ชายหนุ่มส่งเสียงในลำคอว่ารู้แล้วก่อนที่จะก้มมองเอกสารในแฟ้ม แต่ไม่ได้อ่านสักตัวอักษร
2 ทุ่มครึ่งน้ำยังไม่กลับมา เหนือเริ่มร้อนรน จนมานั่งรอน้ำในห้องรับแขก ความคิดที่ว่าน้ำอาจจะหนีไป แล้วแวบเข้ามาในหัว เหนือนั่งไม่ติดที่ เดินวนกลับไปกลับมา กระหล่ำแอบมองอยู่นานไม่เข้าใจว่าคุณเหนือจะเดินวนให้ได้อะไรขึ้นมา สู้รอนั่งรอน้ำอยู่เงียบๆดีกว่าเพราะถึงคุณเหนือจะเดินจนปวดน่องน้ำก็ไม่ได้รับรู้และกลับมาเร็วหรอก พอเข้ามาในครัวกระกล่ำก็อดที่พูดถึงไม่ได้
“ คุณนม คุณเหนือเดินไปเดินมาจนหนูเวียนหัวไปหมด และยังมองนาฬิกาแทบจะตลอดเวลาถ้านาฬิกามันทะลุได้คงทะลุไปแล้ว” กระหล่ำเล่า พร้อมทั้งยกกับข้าวจากตู้กับข้าวออกมาวางเรียง
“ หนูไม่เข้าใจว่าคุณเหนือจะอะไรหนักหนา ทำยังกะว่าตอนนี้มันตี2 ทั้งที่แค่2 ทุ่มครึ่ง!” กระหล่ำว่าถือจานข้าวเดินมายังโต๊ะกินข้าวที่เธอนำจานกับข้าวมาวางเรียงก่อนหน้านี้
“ แล้วเอ็งไปอยากรู้ทำไมเรื่องเจ้านาย กระหล่ำจะกินข้าวก็กินไป” นมก้านพูเอ็ด
“ก็หนูอยากรู้นิคูณน้ม”
แก้วเองก็อยากรู้เหมือนกัน เธอคิดได้อย่างเดียวว่าทำไมคุณเหนือถึงได้เดินพล่านเหมือนหนูติดจั่น คงเพราะกลัวว่าน้ำจะไม่กลับมา เธอเลยพูดขึ้นมา
“ คุณนมคุณนม แก้วว่าคุณเหนือคงกลัวน้ำไม่กลับมา แบบว่าหนีไปเลยเหมือนคราวที่แล้วไง” กระกล่ำเห็นด้วยกับแก้วขึ้นมาทันที
“ ใช่เลยคุณนม คุณเหนือกลัวน้ำมันหนีไป”
“ พวกเอ็งสองคนนี่เหลวไหล!” นมก้านพูพูดเหมือนไม่ได้คิดอย่างที่หญิงสาวสองคนบอก แต่หญิงสูงวัยคิดไม่ต่างจากหญิงสาวทั้งคู่ แต่ด้วยความที่เป็นผู้ใหญ่จะคิดอะไรพูดอะไรไปโดยไม่คิดไม่ได้
“ น้ำมันจะไปไหนได้ ก็ต้องอยู่บ้านอยู่ที่นี่แหละ”
กระหล่ำและแก้วมองหน้ากันคิดเหมือนกัน ‘ใครจะไปรู้’
** * **
