~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ Limited Lovers ~ ( แจ้งข่าว!!! ) 4 พ.ค 59 - หน้า 339  (อ่าน 2022452 ครั้ง)

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9720 เมื่อ09-10-2012 23:31:55 »

แอบดราม่า แต่ก็ดราม่าจริงๆนั่นแหละ
รงสารพี่คิว
จะมารออ่านตอนหน้าค่ะ

ออฟไลน์ amito

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-0
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9721 เมื่อ10-10-2012 23:50:09 »

เข้าใจคิวมากขึ้นเยอะเลยค่ะ คิวทำให้เค้กเจ็บคราวนี้คงทำให้เปิดใจกันมากขึ้นนะคะ

ออฟไลน์ ♫~Eristneth~♪

  • ดวงจันทร์~
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9722 เมื่อ11-10-2012 13:55:29 »

เกือบไปแล้วมั๊ยละ  :เฮ้อ:

auw

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9723 เมื่อ12-10-2012 20:07:35 »

เอิ่มมมมม :impress2: แบบว่าอ่านไปจินตนาการว่าตัวเองเป็นเค้กไป ชอบพี่คิววววว  :impress2:

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษน๊าาค๊าา สนุกมากๆเลยค่ะเรื่องนี้

 :L2: :L2:


ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9724 เมื่อ14-10-2012 08:58:00 »

มารอตอนต่อไปคร่า  :impress2:   :L2:

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9725 เมื่อ14-10-2012 09:03:46 »

 :z2: :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 09:11:06 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9726 เมื่อ14-10-2012 09:08:03 »

God of Desire [by..Cake]



ณ  โรงพยาบาล..
หลังจากที่ผมโชคร้ายโดนรถชนก็ผ่านมาได้สามวันแล้ว  ตั้งแต่ผมฟื้นขึ้นมาผมได้อธิบายเรื่องราวในวันนั้นให้แม่ฟังอีกครั้งเพราะแม่บอกว่าอยากฟังจากปากของผมด้วย  ผมได้อธิบายว่านี่ไม่ใช่ความผิดของพี่คิว  ในขณะนั้นผมเพียงแค่บังเอิญหันไปเห็นพอดีว่ามีรถผ่าไฟแดงพุ่งตรงมาที่คันของเรา  เหตุการณ์กระชั้นชิดมากจนถึงแม้ว่าถ้ารถไม่ติดก็คงจะไม่สามารถหักหลบหรือทำอะไรได้  เมื่อผมเห็นรถยนต์คันดังกล่าวพุ่งตรงมาด้วยความเร็วและผมก็ทราบในทันทีเลยว่าตนเองจะต้องโดนชนอย่างแน่นอน  ที่ผมเรียกพี่คิวในตอนนั้นก็เพียงเพราะอยากให้พี่เขามีสติรับรู้เช่นเดียวกันกับผมเท่านั้น เมื่อผมฟื้นขึ้นมาพี่คิวบอกว่าน่าแปลกที่ผมไม่มีอาการอะไรที่น่าเป็นห่วง  นั่นสิครับ..ผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้ด้วยเหมือนกันเพราะในตอนนั้นประโยคที่ผุดขึ้นมาในสมองคือ..“ตายวันนี้ล่ะมั้ง” ที่จริงแล้วพอนึกไปถึงเหตุการณ์นั้นทีไรก็อดเสียวไม่ได้เหมือนกัน
วันพรุ่งนี้คุณหมอก็อนุญาตให้ผมออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว  ทุกอย่างเป็นปกติไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  แต่ว่าผมต้องมาตัดไหมกับล้างแผลตรวจร่างกายตามที่หมอนัดอีกครั้งสองครั้งเท่านั้น
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่  ปีที่จะถึงนี้ผมก็จะขึ้นปี2 แล้วละครับ  ปีปีหนึ่งผมรู้สึกผ่านไปเร็วมาก  เรื่องราวที่ร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์เกิดขึ้นมากมาย  บางทีผมก็รู้สึกเหมือนกับว่า  คนอื่นเขามีเรื่องยุ่งยากมากมายมากกว่าเราอีกเป็นพันเท่าเลยล่ะ
“ใช่ครับ ถ้าคุณทิพย์ได้บัญชีจากสาขาที่อเมริกาเรียบร้อยแล้ว ช่วยส่งให้ผมทันทีเลยนะครับ ผมอยากดูคืนนี้ ส่วนวันจันทร์ผมขอดูรายงานการประชุมครั้งที่แล้วด้วย ช่วยวางไว้บนโต๊ะให้ผมตอนเช้านะครับ..ผมจะเข้าไปแต่เช้า” ผมเหลือบมองคนที่นั่งคุยงานอยู่ตรงโซฟาข้างๆ  พี่คิวนั่งคุยงานมาเกือบชั่วโมงแล้ว  เดี๋ยวรับโทรศัพท์  เดี๋ยวเช็คอินเตอร์เน็ต  เดี๋ยวตรวจเอกสาร  ทำสลับอยู่อย่างนี้ซ้ำๆทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์
“หึ..ครับ คงต้องเช้ามาก รบกวนด้วย..ขอบคุณครับ” พี่คิวอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตัดสายไปและนั่งอ่านเอกสารต่อ 
“ที่จริง พี่ไปบริษัทก็ได้นะครับ..เดี๋ยวแม่เค้กก็มาแล้ว” ผมพูดขึ้น  วันนี้พี่คิวดันไปบอกแม่ผมว่าจะมาเฝ้าให้  แม่ผมก็ไม่ได้รู้หรอกครับว่าพี่คิวงานยุ่งมาก  แม่รีบยินดีให้พี่คิวมาเฝ้าในทันทีเพราะแม่จะไปทำบุญกับน้าและตาว  เห็นบอกว่าจะกลับมาเฝ้าผมตอนบ่ายๆนะครับ 
“หิวรึไงถึงพูดได้น่ะ” อีกฝ่ายย้อนคนละเรื่อง  เหมือนต้องการพูดว่าผมในทางอ้อมว่าให้ผมหยุดพูดประมาณนั้นละครับ
“ฮะ หิว” ผมตอบส่งๆเพราะต้องการกวนกลับ
“จะกินอะไร” พี่คิวถามแต่ตายังคงจ้องเอกสารตรงหน้าอยู่  ผมไม่ตอบ  ส่วนพี่คิวก็นั่งเงียบไปครู่หนึ่งได้  ผมจ้องมองอีกฝ่ายและก็ต้องนึกถึงเรื่องของพี่ปรายแฟนเก่าของพี่คิวอีกครั้ง  หลายวันมานี่ผมนึกถึงเรื่องนี้มาตลอด  ก่อนวันที่ผมจะถูกรถชนพี่คิวบอกว่าจะเล่าเรื่องของเธอให้ผมฟัง  ถ้าผมถามพี่เขาก็จะตอบอย่างไม่ปิดปัง  แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น  พี่คิวก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก  ผมเองก็แทบหาจังหวะที่จะเริ่มต้นถามไม่ได้เพราะมันคงจะดูแปลกๆ  ที่จริงมันก็คงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรสำหรับผมมากมาย  แต่ผมก็อยากรับรู้ไว้เท่านั้น  ว่าคนที่พี่คิวเคยรักมากเป็นคนอย่างไรและเขาสองคนรักกันมากแค่ไหน
“จ้องฉันทำไม มีอะไรไม่ทราบ” อีกฝ่ายพูดขึ้นอย่างกับมีตาทิพย์เห็นว่าผมจ้องอยู่อย่างนั้น  ผมชะงัก  พี่คิวเงยหน้าขึ้นมอง
“เปล่า” ผมรีบตอบก่อนจะหันหน้าหนีมาจ้องโทรทัศน์แทน  ผมเห็นว่าพี่คิวลุกเดินตรงเข้ามาที่เตียงแต่ผมยังคงนิ่งไม่ไหวติง  พี่คิวเท้าแขนลงบนเตียงพร้อมกับจ้องมาที่ผมเขม็ง
“มีอะไรจะพูดรึไง” อีกฝ่ายถามเสียงเรียบเป็นการมาเหมือนต้องการคำตอบจริงจัง  ผมส่ายหัวตอบแต่กลับไม่กล้าสบตาพี่คิวตรงๆ
“ตาหลุกหลิกขนาดนั้น..จะทำอะไรก็ช่วยอย่าให้อาการมันสวนทางกันนักสิ” อีกฝ่ายบ่นแกมหัวเราะ  ผมหันไปมองค้อนในทันที
“พี่ไปทำงานเลยป่ะ ชอบกวนอยู่ได้” ผมว่าบ้าง  พี่คิวยักคิ้วตอบให้อีก
“เมื่อไหร่พวกนั้นจะมา จะลงแดงอยู่แล้ว” พี่เขาบ่นหน้านิ่ว  พวกพี่ๆที่ร้านบอกว่าวันนี้จะมาเยี่ยมผมเพราะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะอยู่ที่โรงพยาบาล  วันนี้เป็นวันเสาร์ทุกคนเลยไม่ต้องทำงานที่ร้าน  เห็นพี่ซีบอกว่าจะนัดกันมาพร้อมๆกัน  ส่วนพี่คิวโทรไปสั่งให้พี่หมีซื้อกาแฟมาให้  แต่นี่ก็เกือบชั่วโมงเข้าไปแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าใครจะโผล่มาเลยละครับ
ผมมองพี่คิวที่หันหลังยืนพิงเตียงให้ผม  พี่คิวเหลือบสายตามามองผมนิดหน่อยก่อนจะหันกลับไป  เราต่างฝ่ายต่างเงียบ  พี่เขายืนกอดอกอยู่อย่างนั้นอยู่นาน  แถมยังไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรอีกต่างหาก
“ไม่เมื่อยรึไงฮะ” ผมพูดขึ้น  อีกฝ่ายไม่ตอบ
“เหนื่อยไหมครับ” ผมถามอย่างเป็นห่วง  ทั้งทั้งที่ผมอยู่โรงพยาบาลอย่างนี้แต่พี่คิวก็มาเยี่ยมผมเกือบทุกวัน  บางวันที่พี่คิวมีงานสำคัญก็จะมาแค่ห้าถึงสิบนาทีก็กลับไป  และถึงแม้บางวันจะลางานมาเฝ้าผมได้แต่พี่คิวก็ต้องหอบงานมาทำอยู่ที่นี่ถึงดึกตีสองตีสามทุกครั้งไป
“เหนื่อย” พี่คิวตอบเสียงเรียบและห้วนเหมือนไม่ต้องการขยายความมากกว่านี้
“.................” อยู่ๆในห้องก็เงียบลง  ผมเอื้อมมือไปจับชายเสื้อของพี่คิวไว้  พี่เขาหันมามองเพียงนิดเดียวก็หันกลับไป
“เล่าเรื่อง ของพี่ปราย..ให้เค้กฟังหน่อยได้ไหมครับ” ผมตัดสินใจพูดออกไปอย่างแผ่วเบา  พี่คิวหันกลับมาจ้องหน้าผมในทันที  เราต่างฝ่ายต่างมองตากันอยู่ครู่หนึ่ง  ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีเพราะมันคล้ายกับว่าผมระแวงและไม่เชื่อใจในตัวพี่เขาอย่างนั้นเลยครับ
“ถามมาสิ” อีกฝ่ายพูดบอกเสียงเรียบ..



= = = = = = = =


1 ชั่วโมงผ่านไป..
“มาแล้ว!!” ทั้งผมและพี่คิวสะดุ้ง  คล้ายกับเราสองคนเพิ่งหลุดออกจากละครน่าเศร้าเรื่องหนึ่ง  พี่ซีและพี่กัสวิ่งเข้ามาด้วยท่าทางร่าเริงจนผมอดยิ้มไม่ได้  พี่คิวเดินกลับไปที่โซฟาและนั่งลงอย่างเดิม  ถ้าจะต้องบอกว่าพวกพี่ๆเข้ามาได้เวลาพอดีก็คงจะอย่างนั้น  ที่จริงผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วเกี่ยวกับพี่ปราย  รักแรก  สาเหตุ  ความรัก  ความเข้าใจ  การละเลยบางสิ่งบางอย่าง  ความทรมาน  การตายหรือแม้กระทั่งการที่พยายามรั้งชีวิตของอีกฝ่ายไว้จนนาทีสุดท้าย  ผมควรรู้เท่าที่พอดี  บางอย่างเราไม่ต้องรู้มากเกินความจำเป็นก็ได้  มันอาจจะมากเกินจะรับไหว  ทั้งต่อตัวผู้ฟังหรือแม้กระทั่งผู้เล่าเอง  แน่นอนว่า..คนที่ได้พบเจอเหตุการณ์นั้นๆมักจะได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดมากกว่าอยู่แล้ว
“นี่..ดอกกุหลาบขาวสวยไหม” พี่ซีชูช่อดอกไม้สีขาวมาให้ผม
“ห..ให้เค้กเหรอครับ” ผมถามอย่างตกใจและก็อดดีใจไม่ได้  เกิดมายังไม่เคยได้ช่อดอกไม้สวยๆอย่างนี้เลยสักครั้ง  อืม..หรือผมอาจจะได้บ่อยๆตอนเข้าโรงพยาบาลก็ไม่รู้ละนะครับ
“ใช่นะซี่..ชอบไหม” พี่ซียิ้มกว้าง
“ชอบสิครับ เค้กน่ะไม่เคยได้ดอกไม้สวยๆแบบนี้หรอกนะฮะ” ผมยิ้มกว้าง  อยากจะกอดดอกไม้เข้ามาไว้แน่นๆแต่ก็กลัวของสวยๆแบบนี้จะช้ำเสียก่อน
“นี่ของพี่กับพี่หมี” พี่กัสยื่นตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวโตมาวางไว้บนเตียง 
“ขนนิ่มมากเลยครับ” ผมตื่นเต้นอย่างกับเด็กได้ของเล่น  บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าการได้นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลก็ดีเหมือนกันนะ (^v^)
“พอดีเลย กำลังเมื่อย” อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นเดินตรงมาพร้อมกับหยิบตุ๊กตาที่พี่กัสให้ผมไป  ทุกคนมองเป็นตาเดียวกัน  แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจโลกเอาเสียเลย  พี่คิวนำตุ๊กตาไปวางไว้ก่อนจะนอนพิงตุ๊กตาอ่านเอกสารต่ออย่างสบายอารมณ์
“พี่ซื้อขนมมาให้” พี่ออฟยิ้มพร้อมกับวางกล่องคุกกี้กล่องใหญ่วางไว้ตรงที่วางของตรงหัวเตียง
“ขอบคุณครับพี่ออฟ” ผมยิ้มกว้าง  พี่ออฟเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ
“สุดหล่อมาแล้วจ้า” ผมรู้ในทันทีว่าเป็นเสียงใคร  พี่เซ็นเดินยิ้มแป้นแล้นเข้ามาพร้อมกับพี่ฝันและพี่ฟ้า  ผมชะงักเล็กน้อยแต่ก็รีบยกมือไหว้ทุกคน
“ทำไมมาช้าละฮะ” พี่กัสถามหน้างอในทันที
“ไปรับฝันมาน่ะสิ” พี่เซ็นตอบ  ทุกคนต่างยกมือไหว้พี่ฝัน
“นี่ครับ..ของรับขวัญออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้” พี่เซ็นพูดพร้อมกับถือกระเช้าช็อกโกแลตกระเช้าใหญ่มาให้  ผมรีบยกมือไหว้
“ขอบคุณครับ” ผมบอกและก็ต้องเก็บอาการที่แทบจะคลุ้มคลั่งไว้เบื้องลึก  ช็อกโกแลตราคาแพงกระเช้าใหญ่มากอย่างที่ถ้าผมได้เห็นตามห้างสรรพสินค้าผมก็คงจะไม่มีปัญญาซื้อ
“เอ่อ นี่ของพี่กับฝันนะครับเค้ก..พี่สั่งให้เพื่อนฝันซื้อมาจากเบลเยียมสดๆร้อนๆเลยนะเนี่ย” พี่ฟ้ายิ้มตาโตพร้อมกับยื่นกล่องช็อกโกแลตมาให้อีกกล่องหนึ่ง
“ไม่รู้ว่า จะถูกปากรึเปล่านะ” พี่ฝันพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ขอบคุณครับ เค้กชอบทาน..ครับ” ผมยิ้มตอบโดยละคำว่า “กิน” เป็นใช้คำว่า “ทาน” แทนเพราะไม่กล้าพูดคำพูดบ้านๆกับพี่ฝันเท่าไหร่
“อย่ามามุงน้องสิ เดี๋ยวพี่จัดของให้นะ” พี่ฟ้าไล่คนอื่น  พร้อมกับกุลีกุจอนำของที่ทุกคนซื้อมาฝากไปจัดไว้ตรงชั้นวางของให้ผม
“เป็นไงบ้างเค้ก โห..ตรงนี้ช้ำกว่าเดิมอีกเนอะ” พี่ซีชี้ไปที่แผลตรงขาของผม
“นั่นนะสิ..ช้ำกว่าเดิมอีก” พี่เซ็นเอื้อมมือไปแตะที่แผลด้วย


เพี้ย !


“อะไรอ่ะซี” พี่เซ็นโวยวาย
“ของเค้ามีเจ้าของ มือไม้เนี่ย..ว่างนักก็ไปหาอะไรที่มีประโยชน์ทำซะไป” พี่ซีว่าตาขวาง
“หึ..หึหึ ฮ่าๆๆ หน้าพี่เซ็นเหวอเลย ชอบอ่ะพี่ซี..เอาอีกๆ ตลกอ่ะ” พี่กัสขำออกมาเสียงดังพร้อมกับปรบมืออย่างชอบใจ  ทำให้ทุกคนต่างยิ้มกว้าง
“พี่ผิดอะไรไม่ทราบ เจ้าของมันยังนอนนิ่งเป็นสากกะเบืออยู่เลย” พี่เซ็นเบะปากใส่ก่อนจะเดินไปนั่งเบียดกับพี่คิวที่โซฟา  พี่ฝันเดินไปที่โซฟาอีกคนทำให้พี่คิวต้องลุกขึ้นนั่ง  พี่คิวและพี่เซ็นนั่งโดยมีพี่ฝันนั่งคั่นกลาง  ทั้งสามคนเริ่มคุยกันในโลกส่วนตัวของพี่เขาไป
“นี่เค้ก” พี่ฟ้าเรียก
“ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมอง
“เค้กจะให้ของขวัญอะไรคิวเหรอ” พี่ฟ้ายิ้มถามแทบกระซิบ  ผมชะงักตาเบิกโพรงด้วยความตกใจ  พี่ฟ้าหน้านิ่งไปและรอยยิ้มเริ่มหุบลงเรื่อยๆ
“เอ๊ะ..เค้ก ไม่รู้เหรอ หรือว่ายังหาของขวัญไม่ได้” พี่ฟ้าก้มหน้าลงมาใกล้ผมมากขึ้น  ทำให้พี่ซีกับพี่กัสชะโงกหน้าเข้ามาฟังเหมือนต้องการอยากรู้เรื่องราวด้วยอีกคน
“ป..เปล่าฮะ คือ วันเกิดพี่คิว วันไหนเหรอครับ” ผมตกใจ  ถามออกไปอย่างตะกุกตะกัก  ผมลุ้นกับคำตอบเพราะกลัวว่าจะเป็นวันนี้นะสิครับ
“วันจันทร์ที่จะถึงนี้ไง เค้กไม่รู้หรอกเหรอ” พี่ฟ้ากระซิบถามด้วยความตกใจ
“เค้กลืมเหรอเนี่ย” พี่ซีกับพี่กัสกระซิบอีก  ทั้งสองคนตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้าอยู่แล้ว
“เค้กไม่ได้ลืมครับ แต่เค้กไม่รู้มาก่อนครับว่าวันไหน..คือเค้กลืมถาม เอ่อ ที่จริง..เค้กไม่กล้าถามมากกว่า ส่วนเรื่องส่วนตัวของพี่คิว เค้กก็ไม่ค่อยรู้นี่ฮะ” ผมรีบกระซิบแก้ตัว  พยายามกดน้ำเสียงลงเรื่อยๆเพราะกลัวว่าคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาจะได้ยิน  แต่พี่คิวคงจะไม่ทันสังเกตเพราะทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างออกรสทีเดียว
“หื้ม ไม่รู้วันเกิดแฟนได้ไง เป็นแฟนกันจริงป่ะเนี่ย” พี่กัสทำหน้างอใส่
“เค้กขอโทษครับ แล้ว..เอ่อ ทำยังไงดีครับ” ผมรีบถามอย่างร้อนรน
“งั้นพรุ่งนี้พี่มารับไหม ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปซื้อของพร้อมกัน ไปไหวรึเปล่าครับ” พี่ฟ้าเสนอ
“ได้ครับ” ผมรีบรับปากในทันที  โชคดีหน่อยที่พรุ่งนี้พี่คิวไม่ว่าง  เห็นว่าต้องเข้าไปดูงานที่โรงแรมและหลังจากนั้นก็ต้องไปธุระกับพี่เซ็นต่ออีก  แม่เลยจะมารับผมเพื่อกลับไปเตรียมเสื้อผ้าและข้าวของที่บ้านของผมเพื่อจะนำไปไว้บ้านของพี่ฟ้า  ไม่รู้ว่าพี่ฟ้าไปคุยกับแม่ผมอย่างไรว่าระหว่างที่ผมยังไม่หายดีนี้ขอให้ผมไปอยู่บ้านพี่ฟ้าจนกว่าจะตัดไหมออกและหายดีเป็นปกติ  แม่เองก็ตอบตกลงคงเพราะเห็นว่าวันธรรมดาจะไม่มีใครอยู่บ้านเลย  ส่วนน้องสาวผมก็ต้องไปเรียนพิเศษทั้งวันอีกด้วย  แต่ผมไม่ทราบมาก่อนเลยจริงๆครับว่าวันจันทร์นี้เป็นวันเกิดของพี่คิว  ดีนะครับที่พี่ฟ้ามาถามก่อนแบบนี้  ไม่อย่างนั้นผมคงไม่รู้จะเอาหน้าไหนไปมองพี่คิวตรงๆได้แน่



= = = = = = = =


สายของวันอาทิตย์พี่ฟ้ามารับผมที่โรงพยาบาลพร้อมกับทิกเกอร์  โดยมีลุงมีเป็นคนขับรถพาพวกเราไปที่บ้านของผม  ผมเก็บเสื้อผ้าและข้าวของที่จำเป็น  ร่ำลาแม่  น้าและตาวก่อนจะออกมา  พี่ฟ้าพาผมไปห้างสรรพสินค้า  เราทานอาหารกลางวันกันก่อนจะเลือกซื้อของอย่างใจเย็น
“เค้กตั้งใจว่าจะซื้ออะไรให้คิวเหรอ” พี่ฟ้าถามขึ้นระหว่างที่เรากำลังเลือกดูเสื้อผ้ากันอยู่  ที่จริงอย่าใช้คำว่าเราคงจะดีกว่า  เสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้ผมคงจะไม่มีปัญญาซื้อหรอกครับ  ผมเพียงดูมันผ่านๆเป็นเพื่อนพี่ฟ้าก็เท่านั้น
“ยังไม่รู้เลยอ่ะครับ เค้กไม่รู้ล่วงหน้า..ถ้ารู้ก็คงจะทำอะไรให้แทน” ผมตอบ  พี่ฟ้าไล่มือไปที่ไม้แขวน  ตาก็มองเสื้อผ้าไม่ได้หันมามองหน้าผม
“ที่จริง คิวมันก็ไม่ได้ชอบให้จัดวันเกิดเท่าไหร่หรอก..พี่ก็โดนมันบ่นทุกปีแหละเพราะพี่จัดให้ทุกปี” พี่ฟ้าหันมายิ้มให้เล็กน้อยก่อนจะหยิบเสื้อขึ้นทาบบนตัวของตัวเอง
“ที่มันหุบปากเงียบก็เพราะมันเห็นว่าไม่สำคัญสำหรับมันละนะ แต่มันสำคัญสำหรับพี่นี่นา..ก็พี่อยากจัด” พี่ฟ้าหัวเราะทีเล่นทีจริง
“พี่ฟ้าชอบปาร์ตี้สินะครับ” ผมแซว
“ทำนองนั้น ฮ่าๆๆ” พี่ฟ้าหัวเราะร่าก่อนจะยื่นเสื้อให้กับพนักงานที่ยืนรอให้บริการอยู่
“เค้กซื้อให้ พี่คิวจะชอบรึเปล่าก็ไม่รู้..หึ” ผมหัวเราะน้อยๆ  วันนี้ผมกดเงินจากเงินเก็บออกมาประมาณสามพันบาท  ในกระเป๋ามีเงินติดตัวอยู่หนึ่งพันห้าร้อยบาท  เป็นเงินที่ไม่ได้ลดหายไปไหนตั้งแต่ได้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้วละครับ  ที่กดเงินออกมาเพิ่มก็กดมาเผื่อไว้เฉยๆเพราะถ้าเงินไม่พอผมก็ไม่อยากจะออกปากยืมเงินพี่ฟ้านะครับ
“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ ของที่คนสำคัญให้ ก็สำคัญทั้งนั้นแหละ” พี่ฟ้าหันมาลูบหัวผมเล็กน้อย
“ฟ้า..ดีไหมครับ” ทิกเกอร์เดินมาพร้อมกับนำเสื้อขึ้นทาบตัวเองให้พี่ฟ้าดู
“อื้ม..ก็ดี แต่อันนี้ของผม กี้จ่ายให้ด้วยนะ” พี่ฟ้ายิ้มกว้างชี้ไปที่เสื้อของตัวเองที่พนักงานถืออยู่เกือบสิบชุด  ผมสังเกตอยู่หลายครั้ง  ตั้งแต่พี่ฟ้าตกลงกลับมาคบกับทิกเกอร์  พี่ฟ้าเลิกแทนตัวเองว่า..ผมกับคุณ  แล้วก็ไม่ได้เรียกทิกเกอร์ว่าทิกเกอร์  แต่เรียกกว่า “ทิกกี้” หรือบางครั้งก็เป็น “กี้” สั้นๆอย่างที่เห็นละครับ
“ครับ” ทิกเกอร์ยิ้มตอบ  ตอนนี้ทั้งทิกเกอร์และพี่ฟ้าทำตัวอย่างกับเด็ก  บางครั้งผมแอบเห็นพี่ฟ้ากับทิกเกอร์จู๋จี๋กันคู่รักหนุ่มสาวนี่ต้องอายไปเลยล่ะ  ทั้งสองคนหวานใส่กันจนผมเองยังแอบเขินเองไม่ได้  ตอนที่พี่ฟ้าอยู่กับทิกเกอร์พี่ฟ้ากลายเป็นเด็กไปเลยละครับ
ผมนั่งรอพี่ฟ้าเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่เกือบสิบนาทีเราก็พากันเปลี่ยนร้าน  เข้าร้านนู้นออกร้านนี้  กว่าจะถึงร้านขายตุ๊กตาขายของขวัญก็นานเลยล่ะ  ผมเดินวนเวียนอยู่ในร้านนั้นอยู่นานมากจนผมรู้สึกเกรงใจพี่ฟ้า  เพราะผมตัดสินใจไม่ได้สักที  ผมจึงบอกให้พี่ฟ้าออกไปดูของกับทิกเกอร์ต่อ  พี่ฟ้าเองก็ตามใจผม  ตอบตกลงแล้วบอกว่าถ้าผมเลือกของเสร็จเมื่อไหร่ให้โทรหา  หลังจากนั้นผมก็เดินวนอยู่ในร้านอีกสองสามรอบ  เดินมาหยุดอยู่ที่ตุ๊กตาไขลานอยู่นานมากแต่ก็ตัดใจไม่เอาด้วยราคามันดูถูกเกินไป  ผมคิดมากเรื่องนู้นเรื่องนี้ว่าอะไรจะไม่เหมาะสม  ความคิดมันตีกันจนสับสนไปหมดเลยละครับ 
แล้วก็เหมือนโชคชะตา..ผมเดินมาหยุดอยู่ที่กล่องไม้กล่องหนึ่ง  เป็นกล่องไม้สีน้ำตาลทรงสูง  ด้วยความที่สงสัยและไม่ได้คิดอะไรจึงเปิดมันมันออก  กล่องค่อนข้างฝืดและหนักเหมือนกับบอกได้ว่าเป็นงานฝีมือชิ้นดี  เมื่อผมเปิดมันออกก็ต้องตกใจปนขำกับภาพตรงหน้า  ด้านในของกล่องเป็นรูปแก้วสีเหลี่ยมอยู่บนฐานอีกทีหนึ่ง  ด้านในของแก้วเป็นรูปเด็กผู้ชายหน้าตาทะลึ่งผายมือและแลบลิ้นกว้างด้วยท่าทางมีความสุข  ผมเอื้อมมือเข้าไปบิดฐานของตัวตุ๊กตานั่นก็พบว่ามีเสียงเพลงบรรเลงด้วย
“มิวสิคบ๊อกเหรอ..ฮึ” ผมหัวเราะด้วยนึกชอบใจกับของชิ้นนี้  ผมหาราคาดูในทันทีเพราะเหมือนตกหลุมรักกับของชิ้นนี้เข้าเต็มเปา  ราคาสองพันต้นๆทำให้ผมไม่ต้องคิดมากที่จะหยิบมันไปจ่ายเงินในทันที  ผมคิดว่าหลายๆท่านก็คงจะเคยเช่นเดียวกันผม  เลือกของนานร่วมวันร่วมเดือนก็ไม่สามารถเลือกได้สักทีถ้าไม่เจอของชิ้นที่ถูกใจจริงๆ 
"ห่อพิเศษไหมครับ” พนักงานขายถามด้วยหน้าตาเบื่อโลก
“ครับ..ห่อพิเศษ” ผมรีบพยักหน้าและยิ้มกว้างตอบให้  และพยายามคิดในแง่ดีว่าที่พี่เขาเป็นอย่างนี้อาจคงเพราะกำลังปวดท้องอยู่ก็เป็นได้
“งั้นเชิญเลือกกระดาษห่อของขวัญกับริบบิ้นได้เลยครับ” เขายิ้มกลับให้เล็กน้อย  ผมพยักหน้าก่อนที่จะวางการ์ดวันเกิดให้พนักงานคิดเงินด้วย  ผมเลือกกระดาษห่อของขวัญอยู่ไม่นานเท่าไหร่ก็เลือกได้  ระหว่างที่รอจ่ายเงินและรอของ  ผมก็โทรหาพี่ฟ้าบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว



= = = = = = =
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 10:01:43 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9727 เมื่อ14-10-2012 09:10:35 »

วันจันทร์ 7 พฤษภาคม  ณ บ้านเมธิชัย  สิทธิบดีทรัพย์..
วันนี้พี่ฟ้าลางานหนึ่งวัน  เพื่อมาเตรียมจัดงานวันเกิดให้พี่คิว  เป็นงานเล็กๆแบบส่วนตัว  ถึงแม้จะเป็นงานเล็กแต่ก็จัดในห้องอาหารใหญ่ของบ้าน  เชิญเฉพาะแขกที่สนิทกันเท่านั้น  พี่คิวรู้เรื่องนี้ดี  พี่ฟ้าบอกว่าไม่ต้องแอบเซอร์ไฟรส์อะไรเพราะพี่คิวรู้อยู่แล้วว่าพี่ฟ้าจะจัดให้ทุกปี  วันนี้พี่คิวออกไปทำงานแต่เช้ามืด  เห็นบอกว่าจะกลับมาบ่ายๆ  วันนี้ผมจึงช่วยพี่ฟ้าเตรียมอาหาร  ติดต่อนำของนู่นนี่มาจัด  พี่ฟ้าโทรสั่งอาหารนานาชาติจากร้านอาหารชื่อดังบวกกับบอกให้ป้านิดทำเมนูพิเศษเตรียมเพิ่มไว้ด้วย  วันนี้พี่ฟ้าบอกว่าทุกคนอาจจะอยู่ถึงดึก  เราจึงจัดงานกันในห้องอาหารสำหรับรับแขกห้องใหญ่ที่มีไว้สำหรับต้อนรับแขกเยอะๆโดยเฉพาะเพื่อทุกคนจะได้สะดวกสบาย
“คุณคิวกลับมาแล้วค่ะคุณเค้ก” ป้านิดเดินมาบอก  ตอนนี้ผมชินกับการที่ได้รับการเรียกอย่างให้เกียรติจากคนรับใช้ที่นี่ว่า “คุณ” เสียแล้วเพราะถึงผมจะบอกว่าอย่างเรียกอย่างนี้เลยแต่ทุกคนก็คงจะยังเรียกอยู่ดี 
ก่อนออกจากบ้านวันนี้เห็นพี่คิวบอกว่าหลังเลิกงานจะไปหาคุณแม่ของพี่คิวก่อนที่จะกลับมา  สงสัยคงไปหามาเรียบร้อยแล้วถึงได้กลับบ้านช้ากว่าเวลาที่บอกผมไว้
“ขอบคุณครับ” ผมยิ้มตอบให้เธอก่อนจะวางมือลงจากการเตรียมอาหารและเดินออกมาจากห้องครัว  ผมเดินอย่างช้าๆไปที่ห้องหนังสือเพราะยังรู้สึกเจ็บขาอยู่  พี่คิวยืนอยู่ที่นั่นก่อนจะหันมาเห็นผมพอดี
“วุ่นวายเลยสินะ” พี่คิวพูดเหมือนรู้ว่าคนในบ้านกำลังจัดแจงทำนู่นนี่กันให้วุ่นไปหมด
“ไม่หรอกครับ” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปหา  พี่คิวถอดสูทออกช้าๆ  ผมเดินเข้าไปรับมาถือไว้
“แล้วตัวปัญหาไปไหนล่ะ” อีกฝ่ายถามและนั่งลงบนโซฟา
“พี่ฟ้าเหรอครับ..ออกไปรับบัตเตอร์กับเชอร์เบ็ตที่โรงเรียนน่ะครับ เห็นว่าวันนี้น้องจะมานอนด้วย” ผมตอบ  ก่อนออกไปพี่ฟ้าได้สั่งผมไว้ทุกอย่างแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง  และถ้าพี่คิวถามอะไรต้องตอบว่าอย่างไร  ผมรู้สึกว่าตัวเองคล้ายกับหัวหน้าพ่อบ้านอย่างไรอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบใจอะไรหรอกนะครับ  ปกติแล้วผมเป็นคนที่ชอบทำงานบ้านและงานบริการเพราะผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวที่ผมสามารถทำได้ดีที่สุด
“น้ำค่ะคุณ” น้าเพียงเดินนำน้ำเข้ามาเสิร์ฟให้ก่อนจะเดินออกไป  พี่คิวปลดเนคไทออกก่อนจะถอนหายใจแรง  พี่เขาหยิบน้ำขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว
“นายรู้ไหมว่าใครเป็นคนคิดให้สูทมีเนคไท” พี่คิวพูดขึ้นตาลอยไปอีกทาง  ผมยืนงง
“ฉันจะได้ตามไปฆ่ามัน” พี่เขาพูดแกมบ่น  ผมถึงกับหัวเราะ
“หึ..พี่จะอาบน้ำไหมครับ” ผมเปลี่ยนเรื่อง
“อืม” พี่คิวพยักหน้าตอบด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ
“เหนื่อยเหรอครับ ปวดหัวรึเปล่า” ผมนั่งลงข้างๆ  พี่คิวหันหน้ากลับมาจ้องหน้าผม
“เปล่า..แต่” พี่คิวตอบพร้อมกับทิ้งเสียงลง
“ช่วยไปหยิบดาร์กช็อกโกแล็ตมาให้หน่อยสิ” พี่เขาพูดขึ้นเสียงเอื่อย  ผมพยักหน้าและรีบเดินเข้าครัวสำหรับทำเค้กของพี่คิวก่อนจะหยิบดาร์กช็อกโกแล็ตชิ้นหนึ่งที่ถูกแกะห่อแล้วนำออกมาให้  พี่คิวรับไปถือไว้
“นี่..ถอดเสื้อผ้าให้หน่อยสิ” อีกฝ่ายพูดขึ้นหน้าตาย
“มีมือก็ ถอดเองสิครับ” ผมขึ้นเสียงแข็งอย่างลืมตัว
“หึ..” พี่คิวแสยะหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงคล้ายกับจะนอนอย่างนั้น
“จะแช่น้ำอุ่นรึเปล่าฮะ เดี๋ยวเค้กไปเตรียมให้” ผมถาม  พี่คิวไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน  ผมขึ้นมาเตรียมน้ำและเตรียมเสื้อผ้าให้พี่คิว  ก่อนจะนำสูทมาแขวนไว้สำหรับเตรียมทำความสะอาดด้วย  พี่คิวมีชุดสูทนับร้อยชุดซึ่งผมไม่เคยย่างกรายเข้าไปแตะต้องมันโดยเฉพาะชั้นเก็บนาฬิกา  หน้าที่ในการทำความสะอาดของพวกนี้ก็เช่นเดียวกัน  คนที่ดูแลงานนี้จึงเป็นป้านิดที่รู้วิธีในการจัดการเพียงคนเดียว 
ไม่นานพี่คิวก็ขึ้นมาอาบน้ำ  ผมไม่อยู่รอเพราะพี่คิวเป็นคนอาบน้ำนานและพี่เขานำดาร์กช็อกโกแล็ตเข้าไปในห้องน้ำด้วยแบบนี้คงแช่ตัวนานกว่าเดิมเป็นแน่  ผมลงมาจัดการเตรียมอาหารต่อ  ประมาณเกือบสองชั่วโมงพี่ฟ้าก็กลับมาถึง
“คิว..คิวววว” ทุกคนในครัวตกใจที่ได้ยินเสียงพี่ฟ้าเรียกเสียงดังลั่นบ้านอย่างนั้น
“ไอ้คิว!” พวกเราต่างมองหน้ากันเพราะเสียงของพี่ฟ้าดังมากขึ้นกว่าเก่า
“เดี๋ยวไงเค้กไปดูก่อนนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมยิ้มแหย  พวกป้าๆยิ้มและพยักหน้าตอบ  ผมเดินออกจากห้องครัวตรงไปตามเสียงก็พบพี่ฟ้าและพี่คิวอยู่ในห้องหนังสือ
“ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้นะ” พี่ฟ้าโวยวายก่อนจะหันกลับมามองหน้าผมและยิ้มให้  ผมชะงักยืนอยู่หน้าประตู  เจ้าของชื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะอย่างไม่สนใจคนอื่นอีกตามเคย
“น้าคิว..อาขอ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ทำเสียงอ่อนเสียงหวานขึ้นมาจนผมปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
“อ๋อ สรุปว่าที่บอกให้อาปูนไปหาซื้อไวน์จากฝรั่งเศสมาให้ก็เพราะเรื่องนี้ด้วยใช่ไหม” พี่คิวพูดเสียงเรียบแต่สายตากลับจ้องหน้าพี่ฟ้าเขม็ง
“ก็..เอ่อ ก็ด้วย” พี่ฟ้าตอบตะกุกตะกัก
“หึ คุณนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆนะ” พี่คิวแสยะหัวเราะก่อนจะหันหน้าหนี
“นะคิว..เดินแบบให้อาหน่อยนะ เซ็นกับฝันก็ตกลงแล้วด้วย แค่นี้เอง..แค่เดินไปเดินกลับเอง หน้าคิวอ่ะไม่ต้องทำอะไรเลย..เป็นอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละ ได้อยู่แล้ว..นะๆ” พี่ฟ้าเข้าไปเขย่าตัวพี่คิวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแต่ผมกลับหลุดขำเพราะเมื่อกี้เหมือนพี่ฟ้าต้องการพูดประชดประชัดเกี่ยวกับหน้าตาที่ชอบทำหน้างออยู่ตลอดเวลาของพี่คิวเลยอ่ะครับ
“ไม่! อะไรปัญญาอ่อนแบบนั้นน่ะ ผมไม่ทำให้เปลืองตัวหรอกนะ” พี่คิวตอบเสียงแข็งก่อนจะสลัดแขนหนี
“งั้น..งั้น จะเอาอะไรล่ะ ค่าตัวแค่นี้ไม่พอรึไง อาให้มากกว่านายแบบอาชีพไม่ได้หรอกจะ จะบ้ารึไง” พี่ฟ้าโวยวายหน้าเครียด
“ผมก็ไม่ได้เรียกร้องนี่ว่าจะเอาค่าตัวเพิ่ม” พี่คิวหัวเราะทันที  พี่ฟ้าชะงักไป
“ผมฆ่าคุณแล้วขายบ้านที่คุณยกให้น่ะ รวยเร็วกว่าเยอะเลย” พี่คิวยักคิ้วยิ้มๆ
“ไอ้..อ้าย” พี่ฟ้ากัดฟัน  ยืนเท้าเอวก่อนจะเงยหน้าขึ้นเหมือนระงับสติอารมณ์ตัวเอง  ผมมองว่าพี่ฟ้าจะทำอย่างไรต่อ  พี่ฟ้าหันตัวกลับมาโดยหันหลังให้พี่คิวก่อนที่พี่เขาจะหลับตาลงและผายมือออกเหมือนต้องการใช้พลังงานขั้นสูงที่มี
“ผมบอกว่าผมไม่เดิน ก็คือไม่..เหตุผลมีแค่นั้น” พี่คิวพูดขึ้นเสียงเรียบ
“นี่จะไม่เห็นใจกันบ้างเลยใช่ไหม” พี่ฟ้าหันกลับไปว่าด้วยน้ำเสียงน้อยใจ
“คุณว่าไหมว่าคำว่าเห็นใจน่ะถูกใช้พร่ำเพรื่อ มันปัญญาอ่อน..ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อ้างถึงความอกเห็นใจ ไร้สาระว่ะ” พี่คิวจ้องหน้าพี่ฟ้าเขม็ง
“แต่...ผมก็เห็นใจคุณน่ะนะ แต่ก็ทำให้ไม่ได้” พี่คิวตอบเสียงเรียบแต่ใบหน้ากลับเปื้อนยิ้ม
“งั้นจะให้อาทำยังไงล่ะ..งานนี้ไม่มีคิวไม่ได้นะ” พี่ฟ้าบอก
“ผมอยากเดินกับ Gal Gadot กับ Portman เออ..Cheryl ก็ดีนะ คุณทำให้ได้ไหมล่ะ” พี่คิวพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง  ผมได้แต่ยืนสงสัยว่าชื่อที่พี่คิวพูดนั่นพูดจริงหรือพูดเล่นกันแน่
“ไอ้บ้า ของอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้ยังไงเล่า!” พี่ฟ้าว่ากลับเสียงดัง
“นั่นสิ..มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ผมเองก็ด้วย คุณว่าไหม” พี่คิวย้อนพร้อมกับยักคิ้วกวนให้
“โห..นี่แกกล้าเอาตัวเองไปเทียบกับ Gal กับ Natalie เหรอ..ช่างหลงตัวเองเหลือเกินนะ” พี่ฟ้าแสยะปากและทำหน้าตาอย่างดูถูก
“ก็ไม่ได้หลงตัวเองเท่าไหร่ แต่ใครกันนะที่กำลังยืนง้ออ้อนวอนผมอยู่น่ะ” พี่คิวเบะปากด้วยท่าทางหยิ่งทะนงก่อนจะหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ  ผมเห็นพี่ฟ้ากัดฟันเข้าหากันก่อนจะเดินหนีออกมาอย่างกระฟัดกระเฟียด พี่ฟ้าหันมาจ้องหน้าผมหน้างอ  ผมยิ้มแหยอย่างให้กำลังใจ
“เค้กว่า เค้กไปเตรียมอาหารต่อดีกว่านะครับ” ผมบอก  มือไม้ชี้มั่วไปหมดก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกมา
“เดี๋ยวเค้ก” อยู่ๆพี่ฟ้าก็เข้ามาดึงแขนผมไว้  ผมหันกลับไปด้วยความตกใจ
“เค้ก..เออ คือ..เค้กช่วยพี่ขอคิวมันหน่อยนะเค้กนะ คิวมันต้องฟังเค้กแน่ๆเลย” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“เนี่ย..วันงานก็ใกล้เข้ามาแล้ว ทางพี่เองก็ต้องรีบออกแบบเสื้อผ้าให้เหมาะกับหุ่นคิว ถ้าคิวยังไม่ยอมอยู่อย่างนี้พี่งานเข้าแน่ๆ”
“เอ่อ ไม่ดีหรอกครับ เค้ก..พี่คิวไม่ฟังเค้กหรอก” ผมบอก  ขนาดวันที่ถูกรถชนวันนั้น  ผมพูดเรื่องพี่ฝันพี่คิวยังไม่ฟังเลย  ผมเองก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะครับ  พี่เขาเองก็มีเหตุผลของเขา  ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเองกันทั้งนั้น  ผมจึงไม่อยากเข้าไปก้าวก่ายให้มากเรื่อง
“น้า ลองก่อนก็ได้ เค้กลองพูดให้พี่หน่อยนะครับ เค้กไม่สงสารพี่เหรอ..พี่จะบ้าตายอยู่แล้วเนี่ย” พี่ฟ้าพูดพร้อมกับเขย่าแขนผมอย่างขอร้องอีกด้วย
“แต่ว่า..” ผมอ้ำอึ้งด้วยความลำบากใจ
“นะครับเค้ก ไปเลยครับ” อยู่ๆพี่ฟ้าก็ตัดบทขึ้นมาพร้อมกับออกแรงผลักผมให้เดินกลับเข้าไปในห้องอีกด้วย  เมื่อขาก้าวเข้ามาถึงในห้อง  ผมรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่ผมไม่ชอบเอาเสียเลย  พี่ฟ้ายืนแอบอยู่ตรงปากประตูห้องพร้อมกับโบกมือและยิ้มเป็นกำลังใจให้ผม  ผมเดินเข้าไปหาพี่คิวที่โต๊ะอ่านหนังสืออย่างเงียบๆ  อีกฝ่ายยังคงนั่งอ่านหนังสือโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองผมเลยทั้งที่ก็คงรู้ว่ามีคนเดินเข้ามา
“พี่..พี่คิวฮะ” ผมเรียกเสียงเบาด้วยรู้สึกเกรงเล็กน้อย  แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองอีก
“พี่ครับ” ผมย้ำเสียงให้หนักแน่นมากขึ้นกว่าเดิม 
“มีอะไร” พี่คิวเงยหน้าขึ้นมอง  ถึงน้ำเสียงจะราบเรียบแต่สายตาดุดันที่ส่งมาแทบทำให้ผมอยากจะมุดลงไปใต้โต๊ะซะเดี๋ยวนี้
“คือเค้กมีเรื่องจะพูดด้วยนะครับ” ผมยิ้มสู้
“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ..” พี่คิวกระแอมเสียงก่อนจะพูด  พี่เขาหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบก่อนจะวางมันลงอย่างใจเย็นและเหลือบมามองหน้าผมอีกครั้ง  ผมได้แต่รอว่าพี่คิวจะพูดอะไร
“ว่าถ้าจะพูดเรื่องที่อาหื่นนั่นขอละก็ ฉันไม่ขอรับฟัง แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้..ก็พูดมา” พี่คิวพูดเสียงเรียบแต่กลับเป็นน้ำเสียงเรียบที่ฟังดูเด็ดขาดอย่างไรอย่างนั้น
“อ่ะ เอ๊ะ..คือ” ผมอ้ำอึ้งด้วยโดนดักทางจนรู้สึกเหมือนตัวเองจนมุม
“เชิญ ฉันจะอ่านหนังสือ” พี่คิวตัดบท  ผมลุกจากเก้าอี้อย่างเงียบๆและเดินตัวลีบออกมาจากห้อง
“พี่ฟ้าอ่า..พี่คิวจะกินหัวเค้กอยู่แล้วเห็นไหมครับ” ผมโวยวายบ้าง
“ขอโทษครับ” พี่ฟ้าหน้าแหยลูบหัวผม
“จะทำยังไงละครับ พี่คิวไม่ยอมง่ายๆหรอกฮะ” ผมบอก
“ฟ้าครับ ผมซื้อองุ่นมาให้เต็มเลยครับ” ผมและพี่ฟ้าหันไปเห็นทิกเกอร์เดินยิ้มกว้างเข้ามาพร้อมกับถุงองุ่นถุงใหญ่
“..................” ผมหันกลับมามองหน้าพี่ฟ้าด้วยอยู่ๆเห็นพี่ฟ้าเงียบไป  ทิกเกอร์จ้องหน้าพี่ฟ้าอย่างสงสัย
“กี้..” พี่ฟ้าเรียก  ทิกเกอร์เลิกคิ้วมองหน้าพี่ฟ้า  ผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาเมื่อเห็นรอยยิ้มพี่ฟ้าที่มีเล่ห์นัยเหลือเกิน
“ผมจะยอมลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง” พี่ฟ้ายิ้ม  พอพี่ฟ้าพูดจบผมก็เห็นทิกเกอร์ยิ้มกว้างในทันที  ผมรู้สึกสงสัยมากว่าทิกเกอร์ไปทำอะไรผิดไว้  ทั้งทั้งที่ก็เห็นว่าพี่ฟ้ากับทิกเกอร์ก็ดูรักกันดีไม่มีอะไรผิดปกติเลย
“จากสองเดือนลดเหลือหนึ่งเดือน หลังจากนี้หนึ่งเดือนคุณจะมานอนบ้านผมได้” พี่ฟ้ากอดอกเข้าหากัน
“จริงนะครับ” ทิกเกอร์อุทานด้วยความดีใจ
“แต่!” พี่ฟ้ากระแทกเสียง
“ครับ” ทิกเกอร์ชะงัก  หุบยิ้มลงเรื่อยๆ
“คุณทำยังไงก็ได้ ให้คิวยอมเดินแบบให้ผมในงานแฟชั่นโชว์ปลายปีนี้..คุณก็น่าจะรู้ว่าคิวเป็นคนยังไง ทำยังไงก็ได้ให้ยอม..ทุกอย่าง” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง
“ถ้าผมทำได้ ผมจะมานอนที่นี่ ได้เลยใช่ไหม..ห้องเดียวกับฟ้านะครับ” ทิกเกอร์พูด  น้ำเสียงที่พูดไม่ค่อยชัดกลับดูมีเสน่ห์เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพยายามพูดอยู่อย่างเต็มที่
“อื้อ แต่อยู่ในกรณีที่คุณไม่ได้ทำให้ผมโกรธอีกอะนะ” พี่ฟ้าบอกหน้าเข้ม
“ครับ” ทิกเกอร์รีบรับปากทันที
“งั้นรีบจัดการซะ เพราะผมต้องการคำตอบ..เดี๋ยวนี้!” พี่ฟ้าสั่งและชี้เข้าไปในห้องเป็นการส่งสัญญาณ 
“อ่ะ มาครับ เดี๋ยวผมช่วยถือ” ผมรับถุงองุ่นจากทิกเกอร์มาถือไว้  ด้วยตัวเองก็รู้สึกลุ้นว่าทิกเกอร์จะทำอย่างไรให้พี่คิวตกลง  ผมชักเริ่มรู้สึกแปลกๆเหมือนที่พี่ฟ้ารู้สึกแล้วละมั้งครับ  การที่ทำให้พี่คิวพ่ายแพ้ได้ก็เป็นความสนุกอย่างหนึ่ง  ซึ่งต้องมีความคิดสร้างสรรค์และลูกล่อลูกชนมากพอสมควรทีเดียว
ทิกเกอร์เดินตรงไปหาพี่คิวอย่างเงียบๆ  ผมว่าพี่คิว พี่ฟ้า พี่เซ็นเป็นผู้ชายที่ดูดีแล้ว  แต่ทิกเกอร์ยิ่งกว่านั้นอีก  ที่จริงเขาก็ไม่ได้หน้าตาหล่อเหลาอะไรมากมาย  เอ่อ..สำหรับผมคิดว่าเขาไม่ได้หล่อกว่าพี่คิว  แต่ลักษณะท่าทางการวางตัวของเขาดูผู้ดีมาก  การเดินและรูปร่างของเขาดูดีสง่างามไปเสียหมดอย่างไม่มีที่ติเลยละครับ
“ผมขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ทิกเกอร์พูด  พี่คิวเงยหน้าขึ้นมองนิดเดียวก่อนจะพยักหน้าตอบ  ทิกเกอร์เลื่อนเก้าอี้ก่อนจะนั่งลง  ผมกับพี่ฟ้ายืนแอบรอฟังอยู่ที่หน้าประตูอย่างกันโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น (-_-)
“ผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะ” ทิกเกอร์บอกด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“ขอบคุณ” พี่คิวตอบหน้านิ่งเช่นเดียวกัน  เขาทั้งสองอย่างกับไม่ใช่คนในครอบครัวคุยกัน  แต่คล้ายกับนักธุรกิจกำลังต่อรองอะไรกันอยู่  เป็นครอบครัวที่ต่อสู้กันทางสติปัญญามากเกินไปจนผมรู้สึกขยาดกับครอบครัวนี้ไม่ได้
“ผมอยากให้คุณช่วยเดินแฟชั่นโชว์ในงานของฟ้าให้หน่อย” ทิกเกอร์พูดตรงประเด็นในทันที
“แล้วผมจะได้อะไร” พี่คิวย้อนพร้อมปิดหนังสือในมือลงก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะและขยับมันให้ตรงเสมอกับแก้วกาแฟ
“แล้วคุณอยากได้อะไร” ทิกเกอร์ย้อนถาม
“ไม่มี” พี่คิวตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหน้าตาย
“ไม่น่ารอดนะครับ” ผมพูดเดาสถานการณ์
“เค้กครับ” พี่ฟ้าปรามหน้างอทำให้ผมต้องหลุดขำออกมา
“งั้นผมขอยื่นข้อเสนอให้คุณได้ไหม” ทิกเกอร์ยิ้มเล็กน้อย
“ก็ถ้าคิดว่าไม่ถูกใจผม..ก็อย่าเสนอเลยดีกว่านะ” พี่คิวอมยิ้มกลับให้เหมือนต้องการลองเชิง 
“หึ..” ทิกเกอร์หัวเราะให้บ้างก่อนจะวางมือกุมเข้าหากันลงบนโต๊ะ  อยู่ๆทุกอย่างก็เงียบสงบลงไปชั่วขณะ  ทั้งบ้านเงียบไร้เสียงรบกวนใดๆ  ทั้งทิกเกอร์และพี่คิวต่างนั่งจ้องหน้ากันเขม็ง
“ตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคราสไปกลับฝรั่งเศส สายการบินแล้วแต่คุณจะพอใจเลือก ห้องพัก The Imperial Suite..ของ Park Hyatt Vendome กี่คืนก็ได้..แล้วแต่คุณ” ทิกเกอร์พูดขึ้น  พี่คิวยังคงนั่งนิ่งจ้องหน้าทิกเกอร์เขม็ง  ผมได้ยินเสียงอุทานจากพี่ฟ้าเบาๆ
“รถเฟอร์รารี่คันโปรดของคุณปู่ผม..ที่คุณชอบ จะจอดรอคุณอยู่ที่โรงแรม ในระหว่างที่คุณอยู่ที่นั่น คุณสามารถใช้มันได้ตามสบาย”
“หึ ฉลาดหนิ” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะเหสายตามองไปที่สวนด้านนอก
“แล้วไงต่อ..” พี่คิวเลิกคิ้วหันกลับมามองหน้าทิกเกอร์เหมือนบอกเป็นนัยว่าพี่เขายังไม่เพียงพอต่อสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังเสนอ
“Horse racing ที่นั่งวีไอพี..ของการแข่งขันที่จะถึงกลางปีนี่ก็ด้วย ถ้าคุณต้องการ” ทิกเกอร์บอก  พี่คิวเงียบไปสักพักก่อนจะอมยิ้มออกมา
“ไม่นะกี้ จะบ้ารึไง!” พี่ฟ้าว่าขึ้นเสียงดังพร้อมกับเดินจ้ำเข้าไปในห้อง
“นั่นมันตั้งกี่ล้าน ผมไม่ให้คุณเสียเงินหลายล้านกับเรื่องแค่นี้หรอกนะ” พี่ฟ้าว่าให้  ผมรีบเข้าไปจับแขนพี่ฟ้าอย่างห้ามปราม
“โอ๊ะ เรื่องแค่นี้” พี่คิวยิ้มอย่างชอบใจ
“ถ้าต้องเสียเงินหลายล้านขนาดนี้ ผมไปจ้างนายแบบดังระดับโลกมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ไม่ดีกว่ารึไง”
“นั่นน่ะสิ..งั้นก็ทำอย่างที่พูดสิคุณอา” พี่คิวกวนไม่เลิก
“ฟ้าครับ ก็คุณบอกว่าให้ผมจัดการยังไงก็ได้” ทิกเกอร์ลุกขึ้นปรามพี่ฟ้าด้วยสีหน้าร้อนรน
“แล้วนี่ก็ไม่ใช่แค่ทำเพื่อคุณหรือเพื่อคิว แต่ก็เพราะเพื่อผมด้วย” ทิกเกอร์อธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“แต่ คิว..มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” พี่ฟ้าว่าให้พี่คิวอีกครั้ง
“ผมจะบอกอะไรให้คุณฟังนะ” อยู่ๆพี่คิวก็ลุกขึ้นยืนด้วยหน้าตาถมึงทึง  ผมกับพี่ฟ้าชะงักในทันที
“ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็นใจคุณ..แต่ผมไม่ชอบ อ๋อ..ไม่ใช่สิ มันมากกว่าคำว่าไม่ชอบ..ดังนั้น มันก็ไม่แปลกถ้าสิ่งของที่จะมาต่อรองกับผมต้องมีค่ามากพอ มีมากพอที่ผมจะยอมสูญเสียตัวตน เสียความเป็นส่วนตัวของผม เสียเวลาของผมที่จะต้องไปเจอใครหน้าไหนที่ผมไม่ต้องการ หึ คุณพูดเหมือนคุณไม่รู้จักผม..” พี่คิวขมวดคิ้ว  พี่ฟ้ายืนนิ่ง
“ขอโทษด้วยแล้วกันนะถ้ามันจะมากเกินไปจนคุณรู้สึกรับไม่ได้ไปสักหน่อย” พี่คิวว่าพร้อมกับหันหน้าหนี  ผมไม่รู้ว่าพี่ฟ้าอึ้งไหมแต่ตอนนี้ผมกำลังอึ้ง
“โอเค ผมจะให้ตามที่คุณบอกเมื่อกี้..คุณพร้อมไปเมื่อไหร่ก็บอกผมได้เลย แต่คุณต้องรับปากผมก่อน ว่าคุณจะเดินแฟชั่นโชว์ให้” ทิกเกอร์รีบตัดบทคงเพราะเห็นว่าต่างฝ่ายต่างเริ่มครุกรุ่นเต็มที่แล้ว
“ได้” พี่คิวยักไหล่ตอบส่งๆ
“ห้ามหงุดหงิด ห้ามเรื่องมาก ห้ามหนีงาน ให้ใส่ชุดไหนต้องใส่ โกนหนวดด้วย สั่งให้ทำอะไรเกี่ยวกับงานนี้ต้องทำไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญ..อย่ากวนตีน” พี่ฟ้าพูดเสียงแข็ง
“ตามนั้น..แต่ในงาน เค้กต้องคอยเป็นคนดูแลผม จบ” พี่คิวสรุป
“อ่ะ..ผม ไปเกี่ยว อะ..” ผมอ้าปากกำลังจะพูดค้านในที่ประชุมนี้บ้าง
“ได้!” พี่ฟ้ากระแทกเสียง
“อ่อ เดี๋ยวก่อนครับคุณอา..มีอีกเรื่องนึง” พี่คิวเรียกไว้เมื่อเห็นพี่ฟ้าทำท่าจะเดินไป
“เรื่องค่าตัวน่ะ ผมขอรับด้วยนะ..ที่ทิกเกอร์เสนอเมื่อกี้กับค่าตัวมันคนละเรื่องกัน”
“เออ ไอ้..ไอ้เวร!” พี่ฟ้ากระแทกว่าเสียงดังลั่น
“อ่อ เดี๋ยวๆๆ..” อยู่ๆพี่ฟ้าก็หันกลับมายืนเท้าเอวเหมือนนึกอะไรออก
“งั้นอาจะไปด้วย เฮอะ..ฉันไม่ให้แกนอนเสวยสุขคนเดียวหรอกย่ะ ลืมอะไรแบบนั้นไปได้เลย หึหึ..ฮ่าๆ โฮะๆๆๆ ฉันเป็นเจ้าโลก..กร๊าก ฉันรักตัวเอง!” พี่ฟ้าแสยะหัวเราะร่า  กระแทกเสียงพูดพร้อมกับผายแขนออกกว้างอย่างกับนางมารร้ายก็ไม่ปานก่อนจะเดินออกไป
“ไอ้..อานี่” พี่คิวกัดฟันอย่างเหลืออด
“คุ้มไหมวะเนี้ย” พี่คิวบ่นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้
“ก็พอกันนั่นแหละครับ” ผมส่ายหัวบ่นก่อนจะเดินหนีออกมา  เฮ้อ..ให้ตาย



= = = = = = = =


19:30 น.  ณ บ้านเมธิชัย  สิทธิบดีทรัพย์..
ตอนนี้แขกทุกคนมาครบหมดแล้ว  มีเพื่อนพี่คิว  เพื่อนพี่ฟ้า  พวกพี่ๆในร้านคิวปิด เบเกอรี่เฮ้าส์  น้องเชอร์เบ็ตกับน้องบัตเตอร์ที่ติดพี่คิวกับพี่ฟ้าแจ  ผมช่วยป้านิดจัดอาหารบ้างแต่ป้านิดไม่ยอมให้ผมช่วยเยอะมากนักเพราะโดนคำสั่งจากพี่ฟ้าเนื่องจากแผลของผมยังไม่หายดี
ระหว่างในห้องอาหารห้องใหญ่นี้  เป็นห้องสำหรับรับรองแขกหลายคนโดยเฉพาะ  โต๊ะอาหารตัวยาวตกแต่งไปด้วยดอกไม้และด้านข้างของห้องมีวางอาหารบุปเฟ่ต์ที่ทุกคนสามารถมาตักอาหารทานได้ตามสะดวก  อาหารมีมากพอสำหรับต้อนรับแขกทุกคนหรือบางทีอาจจะมากจนเกินไปด้วยซ้ำ  เค้กวันเกิดของพี่คิวพี่เซ็นจะเป็นคนทำมาให้ในทุกๆปี  ส่วนของขวัญวันเกิดที่ทุกคนนำมาให้พี่คิวได้จัดวางแยกไว้อีกโต๊ะหนึ่ง  ผมนึกว่ากองของขวัญใหญ่ขนาดนี้จะมีแค่ในหนังหรือในละครเท่านั้น  เพิ่งจะได้มาเห็นจริงๆก็วันนี้เองละครับ  และที่ดูจะเรียกสีสันให้กับงานคงจะไม่พ้นของขวัญวันเกิดของพี่เซ็นที่นำมาเพื่อเอาใจเพื่อนสนิทของตน  กรอบรูปขนาดใหญ่ประมาณเมตรครึ่งห้ากรอบรูปนำมาวางเรียงกัน  แถมพี่เซ็นยังระริกระรี้บอกให้เจ้าของวันเกิดเปิดเดี๋ยวนั้นอีกด้วยทั้งที่พี่คิวพยายามบ่ายเบี่ยงคล้ายกับรู้ว่าพี่เซ็นคงนำอะไรน่าอายมาแน่ๆ  พวกเราแขกในงานก็อยากรู้ด้วยเหมือนกันจึงส่งเสียงเชียร์จนสุดท้ายพี่คิวก็ยอมแกะของขวัญในที่สุด  เมื่อแกะออกมาก็พบว่าเป็นกรอบรูปพวกนั้นเป็นรูปของดารานางแบบชื่อดังระดับฮอลลีวูดที่มีลักษณะการโพสท่าที่ค่อนข้างหวือหวาและบนร่างกายของพวกเธอแทบไม่มีอะไรปกปิดเลย  จะมองให้เป็นภาพศิลปะก็สามารถมองได้แต่ถ้าจะใช้คำว่า..เกือบโป๊ก็ใช้คำคำนี้ได้เช่นเดียวกัน  สองในห้านั้นมีดาราที่ผมรู้จักดีและผมเองก็ชอบเธอจึงจำได้ดีแม้ว่าเธอจะเกือบเปลือยก็ตาม  อีกสองคนผมเคยได้เห็นผลงานของพวกเธอมาบ้างแต่หนึ่งในนั้นผมไม่ทราบว่าเธอเป็นใคร  เรียกได้ว่าห้ารูปจากห้าดาราสาวชื่อดังนั่น  ผมเดาเอาว่าคงจะเป็นคนโปรดของพี่คิวเพราะพี่เขากระหยิ่มยิ้มด้วยความพอใจอยู่ตลอดเวลาและถึงแม้ว่าบางคนจะแซวว่าภาพออกแนวลามกมากไปหน่อยเพราะภาพถูกขยายใหญ่และมีเสื้อผ้าคลุมร่างพวกเธออยู่น้อยชิ้น  แต่ดูเหมือนเจ้าของของขวัญจะไม่สะทกสะท้านใดๆเลย  โดยเฉพาะพี่เซ็นที่พี่เขาดูจะเป็นปลื้มกับสิ่งที่นำเสนอให้เพื่อนตนเสียเหลือเกิน..ผมกับพี่กัสละเพลีย (~_~)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 09:37:02 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9728 เมื่อ14-10-2012 09:12:58 »


พวกรุ่นใหญ่อย่างเพื่อนของพี่ฟ้ากับเพื่อนของพี่คิวนั่งรับทานอาหารกันที่โต๊ะอาหารใหญ่  ส่วนพวกผมจะมานั่งเล่นเกมและพูดคุยกันที่โซฟาซะส่วนมาก  เพราะเนื่องจากบนโต๊ะอาหารดูเป็นทางการเกินไป  แถมคุยแต่เรื่องอะไรที่ผมฟังไม่รู้เรื่อง  ไม่มีใครสักคนบนโต๊ะพูดภาษาไทยเลยและไหนจะภาษาต่างด้าวที่ผมฟังไม่ออกอีกว่าเป็นภาษาจากชาติไหนเยอะแยะไปหมด แต่ดูพวกพี่เขาจะมีความสุขกันดีเหลือเกินครับดังนั้นผมไม่ควรที่จะเอาตัวเข้าไปอยู่ในวงโคจรอย่างนั้นด้วยเพราะผมเองก็จะได้มีความสุขอย่างพวกพี่เขาด้วยน่ะนะ
“พี่เค้กเล่นเปียโนเป็นรึเปล่าคะ” น้องเชอร์เบ็ตที่นั่งเล่นตุ๊กตากับผมอยู่ถามขึ้น  พี่คิวไล่ให้เชอร์เบ็ตกับบัตเตอร์มาอยู่กับกลุ่มพวกผมแทนเพราะตรงนั้นมีแต่เหล้า  บุหรี่และกลิ่นซิการ์  น้องเชอร์เบ็ตเล่นกับคนทั่วไปได้หมดยกเว้นบัตเตอร์ที่เอาแต่นั่งเงียบเล่นเกมอยู่กับพี่ออฟและพี่หมี  ผมเองก็ไม่กล้าเข้าไปเล่นกับบัตเตอร์มากนักเพราะน้องเขาไม่เอาใครเลยอ่ะครับ  ถามคำตอบคำ  ดังนั้น..พวกเราควรอยู่ห่างๆไว้จะดีที่สุด
“เล่นไม่เป็นหรอกครับ” ผมยิ้มตอบ
“งั้น..พี่เค้กเล่นดนตรีอะไรเป็น” น้องเชอร์เบ็ตยิ้มถามอย่างมีความหวัง
“หึ..ไม่เป็นสักอย่างเลยครับ” ผมยิ้มเขิน  ที่จริงอยากจะตอบไปว่า “เป่าขลุ่ยเป็น” แต่เกรงใจน้องอะนะ  ถึงผมจะภูมิใจในการที่ผมเป่าขลุ่ยเป็นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะมาภูมิใจอย่างผมเมื่อไหร่
“เอ๋ อ่อ..ค่ะ” เชอร์เบ็ตชะงักเหมือนสงสัยอะไรสักอย่างแต่ก็ยิ้มให้ผมหลังจากนั้น
“แล้วเชอร์เบ็ตเล่นอะไรเป็นบ้างครับ” ผมถามกลับบ้าง
“เปียโนกับฮาร์ฟค่ะ ที่บ้าน..ทุกคนจะต้องเล่นเปียโนเป็น” น้องรีบตอบทันที  น้องเชอร์เบ็ตเป็นเด็กช่างคุยมาก  ตั้งแต่มานั่งกับพวกผมก็ชวนพวกเราคุยไม่หยุดเลย
“เหรอครับ เก่งจังเลยน้า” ผมลูบหัวน้องเบาๆ
“เชอร์เบ็ตอ่ะเต้นเป็นด้วย เชอร์เบ็ตชอบเต้นบัลเล่ย์..แต่ว่า เอ่อ แต่ว่าก็ชอบเต้นลีลาศด้วย บัตเตอร์เป็นคู่เต้นลีลาศกับเชอร์เบ็ตแหละ” น้องพูดเหมือนต้องการบอกอวด  ต้องการชวนคุยให้มากขึ้นไปอีก  เชอร์เบ็ตขยับเข้ามาใกล้ผมจนทำให้ผมอดลูบแก้มน้องอย่างเบามือไม่ได้
“แต่บัตเตอร์ไม่ชอบเต้น” น้องบอกเสียงเบาลง  ผมได้แต่อมยิ้ม
“แล้วเชอร์เบ็ตชอบทานเค้กรึเปล่า” ผมถามเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นน้องทำหน้าเศร้า
“ชอบค่ะ เค้กของพี่คิวชอบที่สุด” น้องยิ้มกว้างกว่าเดิม
“นั่นสินะ..เหมือนกันเลย” ผมหัวเราะ
“เนอะ” เราสองคนประสานเสียงกัน
“อ่ะแฮ่ม” ผมสะดุ้ง  อยู่ๆพี่กัสนำหน้ามาใกล้
“ชอบที่สุดเยยหยอ” พี่กัสได้ทีจึงแซวทันที
“แอบฟังคนอื่น มันเสียมารยาทนะครับ” บางทีผมก็อดใช้มุขของพี่คิวเพื่อแก้สถานการณ์บางอย่างบ้างไม่ได้
“ชิ..น้องเชอร์เบ็ตมาเล่นกับพี่มา พี่เหงา” พี่กัสเอื้อมแขนมาจะอุ้มเชอร์เบ็ตไป  น้องเชอร์เบ็ตยิ้มกว้างรีบจับมือพี่กัสตอบและปล่อยให้พี่กัสอุ้มไปนั่งตักตัวเอง
“เค้กพี่อยากกินไอ้นี่อีกอ่ะ ไปเอาให้หน่อยสิขี้เกียจเดิน” พี่ออฟหันมาบอกแต่มือยังคงกดเกมไม่หยุด
“พี่ออฟไปเอาเองสิครับ นี่มันไวน์ของพี่คิวนะ” ผมกระซิบบอกอย่างไม่กล้า  ไวน์กับเหล้าและเครื่องดื่มอื่นๆที่พี่ฟ้าอนุญาตให้ดื่มได้ตามสบายได้วางไว้ที่เคาร์เตอร์สำหรับทุกคนแล้วซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นของดีทั้งนั้น  แต่ไวน์แก้วของพี่ออฟที่เพิ่งหมดไปนี้เป็นขวดที่พี่คิวเปิด  จะเรียกว่าเปิดไว้ดื่มคนเดียวก็น่าจะประมาณนั้น
“น่า..เค้กไปเอา พี่คิวให้อยู่แล้วแหละ เร็วๆล่ะ” พี่ออฟบ่นก่อนจะหันกลับไปเล่นเกมต่อ  ทำไมทุกคนจะต้องพูดเหมือนกับว่า..ผมเป็นทัพหน้าในการเข้าหาพี่คิวและถ้าเป็นผมจะไม่เป็นไรอยู่แล้ว  ผมคิดว่านี่เป็นการคิดไปเองทั้งนั้น..พูดอย่างกับไม่รู้จักนิสัยของพี่คิวอย่างนั้นอ่ะ  เซ็งเป็ด!
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ดื่มน้ำอะไรธรรมดาๆกันไม่ได้รึไงครับ” ผมบ่นทำให้พี่หมีเงยหน้ามาหัวเราะเหมือนชอบอกชอบใจอีก  ผมลุกขึ้นหันกลับไปมองที่โต๊ะ  เห็นพี่คิวกำลังคุยอย่างออกรสกับพวกเพื่อนๆ  คนบนโต๊ะเกือบสิบกว่าคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานขนาดนั้น  ผมจะเอาตัวเองเข้าไปแทรกได้อย่างไร  ถ้าเข้าไปมีหวังเป็นเป้าสายตาแน่ๆ  ผมแกล้งเดินถือแก้วไวน์ออกมาจากห้องและตรงไปที่ห้องครัวของพี่คิวเพื่อหลอกพี่ออฟ  ผมกะว่าจะแอบนำไวน์ขวดอื่นรินให้แทน  คิดว่าพี่ออฟไม่น่าจะจับได้  เอ๊ะ..หรือว่าจับได้ (=_=)
“เข้ามาทำไมน่ะ” พี่คิวชะงักเมื่อเห็นผมอยู่ในห้องครัวแสนรักของตน
“เอ่อ เอ่อ..มาแอบ” ผมตอบอย่างไม่ทันคิด  พี่คิวขมวดคิ้วเหมือนไม่เข้าใจในความหมาย  ผมมองพี่คิวเดินไปเปิดตู้ก่อนจะหยิบกล่องซิการ์ออกมากล่องหนึ่ง
“จะเอาอะไร” พี่คิวถามไม่ได้มองผม  พี่เขาเดินไปมาเหมือนหาอะไรสักอย่าง
“ไวน์ที่พี่ดื่มเมื่อกี้นี้อ่ะ..” ผมลองพูดดู  พี่คิวหันกลับมามอง
“มันหมด พี่ออฟเค้าอยากดื่มอีก” ผมชี้ไปที่แก้วไวน์ของพี่ออฟและยิ้มแหยให้
“ฉันดื่มหมดไปแล้ว” พี่คิวตอบพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย  ดื่มหมดขวดไปแล้วแต่ยังเดินเหินได้ปกติเลยเนี่ยนะ  ขวดที่พี่คิวบอกว่าหมดนั่นไม่ใช่ขวดแรกสักหน่อย
“แล้วทำไมจะต้องเข้ามาในห้องครัว ฉันไม่เห็นจะเข้าใจ” พี่คิวเดินมาใกล้ผมพร้อมกับอะไรสักอย่างในมือที่ผมไม่รู้จัก
“ก็เค้กไม่กล้าเข้าไปขอพี่อีกนี่ แล้ว..เปิดอีกขวดไม่ได้เหรอครับ พี่ออฟเค้าอยากดื่ม” ผมขอ  ยืนมองพี่คิวที่กำลังวุ่นอยู่กับซิการ์ของตน
“หมดแล้ว ขวดเมื่อกี้น่ะลิมิเต็ดที่ฉันมีขวดสุดท้าย..บอกไอ้ออฟไปว่าถ้าอยากดื่มให้มันไปหาซื้อเอาเอง หึ..ไอ้นี่มันขอไวน์อย่างกับขอน้ำประปา” พี่คิวบ่นยิ้มๆ
“มันแพงไหมฮะ เค้กจะได้ไปซื้อให้พี่ออฟ” ผมถามเล่นไปอย่างนั้นเพราะอยากรู้ว่าไอ้ลิมิเต็ดที่ว่านั่นราคาประมาณเท่าไหร่
“รถเก๋งถูกๆสักคันละมั้ง” พี่คิวตอบส่งๆอย่างไม่คิดมาก  ผมไม่อยากคิดมากไปกว่านี่เพราะคำว่า “ถูก” ของพี่เขากับ “ถูก” ของผมมีมาตรฐานที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“อ่อ โอเค..งั้นก็ปล่อยให้พี่ออฟอดตายไปเถอะครับ” ผมบอก  พี่คิวหัวเราะ
“หยิบไฟแช็กให้หน่อยสิ อยู่ในลิ้นชักที่สามขวามือ” พี่คิวสั่ง  ผมเดินไปที่ลิ้นชักขวามือและก็ต้องนับไปที่ลิ้นชักที่สามด้วยเพราะถ้าแกล้งเปิดลิ้นชักที่สองอาจจะโดนด่าได้  ผมหยิบไฟแช็กออกมาและมองมันอย่างไม่เข้าใจว่าใช้ยังไง
“ขนาดไฟแช็กยังพิสดาร” ผมบ่น  พี่คิวเหล่มอง
“หึ โทษครับ” ผมปัดแกมขำ
“ดี..งั้นจุดให้หน่อย” พี่คิวพูดสั่งอีก  ผมชะงัก  พี่คิวคาบซิการ์ยืนรอผมด้วยสายตาดุดันคล้ายกับว่าถ้าผมไม่ทำอย่างที่สั่งผมได้เจอดีอย่างแน่นอน  ผมกดเปิดไฟแช็กพิศดารนี่ออกก่อนจะพยายามกดมันอย่างตั้งใจ  เมื่อเห็นไฟลุกขึ้นผมจึงจ่อมันไปที่ปลายซิการ์อย่างไม่ชินมือ  มันจึงทุลักทุเลพิลึก
“นายจะเผาซิการ์ฉันรึไง” พี่คิวพูดขึ้นก่อนจะเอนตัวหนี  ผมชะงักเล็กน้อย
“จ่อไฟไกลกว่านี้หน่อย” พี่คิวสั่งก่อนจะคาบมันอีกครั้ง  ครั้งนี้ผมจึงตั้งใจทำมากกว่าเดิม  มือของผมยังถือไฟแช็กจุดอยู่ที่ปลายซิการ์  พี่คิวยังคงยืนเงียบ  ผมเองก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่หรือซิการ์จะต้องมีลักษณะแบบไหนถึงจะพอ  ควันออกจากปากพี่คิวเป็นระยะเหมือนอีกฝ่ายต้องการแกล้งพ่นใส่ผมอย่างนั้น  ผมทำจมูกย่นเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมกำลังกลั้นหายใจอยู่  ที่จริงผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไร  ใครอยากจะสูบอะไรมันก็เป็นความชอบและคลั่งไคล้ส่วนบุคคล  ยิ่งผมมาทราบจากพี่ฟ้าว่าพี่เขาคลั่งซิการ์มากขนาดนี้ผมเองก็ไม่เคยคิดที่จะปริปากว่าอะไรออกไปสักครั้งเดียว  ส่วนมากแล้วผมจะเห็นพี่คิวสูบเฉพาะมีปาร์ตี้เท่านั้นและพี่คิวก็เป็นคนที่ไม่ชอบสูบบุหรี่ด้วย  แต่นี่คงเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่บางครั้งพี่เขาเองก็คงต้องการละมังครับ
“พอแล้ว” อีกฝ่ายบอกเสียงเรียบด้วยหน้าตาไม่สบอารมณ์นัก  ผมหยุดมือก่อนจะวางไฟแช็กลง
“ก็เค้กทำไม่เป็นนี่ ชอบใช้คนอื่นแล้วก็มาทำเป็นไม่พอใจ” ผมบ่นทันทีแต่ก็ต้องหุบปากลงเมื่อพี่คิวเอาแต่จ้องหน้าผมโดยไร้คำพูดตอบโต้
“..หัดสิ” ผมชะงักแทบกลั้นหายใจเมื่ออยู่ๆพี่คิวก็เอนหน้าเข้ามาใกล้กับหน้าของผมอย่างไม่ทันให้ผมได้หนีทัน  เสียงกระซิบใกล้หูทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัว
“จะได้ชิน” พี่เขากระซิบบอกอีก  รอยยิ้มแสยะทำให้ผมยืนตัวแข็งทื่อก่อนที่พี่เขาจะเดินสูบซิการ์อย่างสบายอารมณ์ออกจากห้องไป
“ไอ้..ขี้เก๊ก” ผมไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรต่อผู้ชายคนนี้  จึงได้แต่ยืนจับหูของตัวเองที่รู้สึกร้อนผ่าวไปหมด  ไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าตาของตัวเองเป็นยังไงบ้าง  รู้เพียงว่าตัวมันร้อนและอายเป็นบ้าเลยละครับ
เวลาผ่านไปเกือบเที่ยงคืน เป็นเวลาที่บัตเตอร์และเชอร์เบ็ตต้องเข้านอนทำให้พี่คิวต้องเป่าเค้กเร็วกว่ากำหนด  พวกเราพากันตัดเค้กและกินโดยที่เจ้าของงานวันเกิดเอาแต่นั่งนำเอาแอลกอฮอล์เข้าร่างกาย  กลายเป็นว่าคนที่สนใจเค้กก็มีแต่เด็กๆอย่างพวกผมนี่ละครับ  เมื่อทานเค้กเสร็จพี่เลี้ยงของบัตเตอร์และเชอร์เบ็ตได้พาทั้งสองคนขึ้นไปอาบน้ำนอน  น้องอ้อนให้พี่คิวขึ้นไปอ่านนิทานให้ฟัง  ตอนแรกผมคิดว่าพี่คิวจะไม่ทำตามแต่พี่คิวก็ขึ้นไปอ่านนิทานให้ทั้งสองคนฟังอยู่เกือบยี่สิบนาทีกว่าจะลงมาดื่มต่อ 
พวกพี่กัส  พี่ซีและพี่ไจ๋ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านไปก่อน  ส่วนพี่ออฟ  พี่รุจและพี่หมีพากันดื่มเหล้าร่วมกับพวกพี่ฟ้าต่อหลังจากนั้น  ผมเองก็เริ่มรู้สึกง่วงแล้วด้วย  เมื่อกลุ่มของผมไม่อยู่ร่วมวงด้วยแล้วทุกอย่างกร่อยลงไป  ผมคงไม่ไปนั่งร่วมวงสนทนากับพวกเพื่อนพี่คิวเป็นแน่  ประเด็นตอนนี้คือ..ของขวัญที่ผมจะให้พี่คิว  ผมไม่ได้นำวางรวมไว้กับคนอื่นเพราะผมอาย  ผมจึงนำมันวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้องนอนของพี่คิวเรียบร้อยแล้ว  ซึ่งผมยังไม่เห็นพี่คิวขึ้นไปบนห้องเลยสักครั้ง  ผมคิดว่าพี่เขาคงยังไม่เห็นว่าผมได้เตรียมของขวัญกับการ์ดไว้ให้  ตอนนี้ผมกำลังทำตัวไม่ถูก  ในร่ายกายรู้สึกแปรปรวน..มันว้าวุ่นไปหมด  เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงผมไม่เห็นว่าพี่คิวจะมีท่าทีลุกออกจากโต๊ะเลย  ซึ่งหลังจากดื่มไวน์ตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นบรั่นดีที่วางอยู่ข้างกายแต่พี่เขายังไม่มีท่าทีว่าจะมึนเมาแต่อย่างใด  คิดได้อย่างนั้นผมจึงตัดสินใจขึ้นมาอาบน้ำเข้านอนก่อนดีกว่า  ส่วนพี่คิวจะเห็นของขวัญตอนไหนคงไม่สำคัญเพราะผมจะ....แกล้งหลับ
ในห้องนอนของพี่คิวไม่มีรูปของพี่ปรายแล้ว  รูปที่ติดอยู่ที่บอร์ดตรงผนังห้องก็หายไปด้วยเช่นกัน  ก่อนหน้านั้นผมพยายามแล้วที่จะต่อสู้กับหัวใจตัวเองไม่ให้สอดรู้สอดเห็นไปเปิดดู  แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ได้ทั้งทั้งที่อีกใจก็กลัวมาก..กลัวว่าถ้าหากยังมีรูปอยู่คงเดิมแล้วผมจะทำยังไง
หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็จัดการเปิดแอร์  ปิดโทรทัศน์  ทุกอย่างในห้องนี้ผมใช้จนเริ่มชินแล้วว่าอะไรควรปิดเปิดอย่างไร  ที่จริงผมไม่ได้มานอนห้องพี่คิวบ่อยเท่าไหร่นัก  นี่อาจจะเป็นครั้งที่สี่แต่เป็นครั้งที่สี่ที่นอนติดกันหลายวันหน่อย  ครั้งถึงสองครั้งแรกที่ผมได้มานอนที่บ้านหลังนี้แต่ด้วยสถานการณ์บางอย่างทำให้ผมต้องนอนที่ห้องของพี่ฟ้าซะส่วนใหญ่ 
ผมจัดหมอนให้เข้าที่เข้าทางสำหรับพื้นที่ของพี่คิวและพื้นที่ของผม  ผมตั้งนาฬิกาปลุกก่อนจะเอนตัวลงนอนแต่ก็ยังเปิดไฟหัวเตียงฝั่งที่นอนของพี่คิวไว้เผื่อถ้าเจ้าของห้องเข้ามาแล้วจะเดินเหินได้สะดวก  ห้องจะได้ไม่มืดเกินไปด้วย


แกรก~


ผมชะงักด้วยยังไม่ทันจะได้ข่มตาหลับ  เจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามา  ผมพลิกหน้าตรงตามสัญชาตญาณ  ท่านอนที่นอนหงายอยู่อย่างนี้อยากจะพลิกตัวหันไปเป็นนอนตะแคงซะให้ได้  แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  ที่มันอดนึกไม่ได้ว่าพี่คิวอาจจะเห็นของขวัญที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานอีกห้องหนึ่งนั่นแล้ว  พี่คิวเดินมาที่เตียงฝั่งที่นอนของตัวเอง  พี่เขานั่งลงอย่างเงียบๆก่อนจะถอดเสื้อยืดที่ใส่อยู่ออก
“อะ อาบน้ำ..เหรอครับ” ผมถามเสียงเบาพยายามให้เป็นธรรมชาติ  พี่คิวพยักหน้าตอบก่อนจะเดินตรงเข้าห้องน้ำไปซะเฉยๆอย่างนั้น  ผมรู้สึกโล่งอกในทันทีที่พี่คิวไม่ถามอะไร  พี่คิวเข้าไปอาบน้ำไม่ถึงสิบนาทีก็เดินออกมา  ผมยังคงนอนนิ่ง  เหลือบเห็นพี่คิวเข้าห้องแต่งตัวไปสักพักก็ออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงนอนธรรมดา
“ฉัน..ไปดื่มต่อนะ” พี่คิวหันหน้ามาบอก
“อ่าว ไม่เข้านอนเหรอครับ” ผมถามอย่างสงสัย  เมื่อตอนบ่ายก็อาบน้ำไปแล้ว  ที่พี่คิวขึ้นมาอาบน้ำอีกครั้งนี่ผมก็นึกว่าจะเข้านอนแล้วเสียอีก
“ยังไม่มีใครกลับเลย คง..อีกสักสองสามชั่วโมง” พี่คิวตอบ
“ครับ” ผมพยักหน้าตอบ  อยู่ๆพี่คิวก็เดินมาฝั่งที่ผมนอนอยู่  ใจเริ่มเต้นตึกตักแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างควบคุมไม่ได้  ทำไมอะไรๆที่ดูเหมือนปกติดีถึงทำให้ผมลุ้นได้มากขนาดนี้กันนะครับ..ให้ตายเถอะ!
“..................” ในห้องซึ่งเงียบมาก  ผมกำลังรู้สึกกลัวว่าการที่เงียบมากเกินไปนี้จะทำให้พี่คิวได้ยินเสียงการเต้นของหัวใจกับเสียงที่ผมหายใจได้ถนัดมากขึ้น  และผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ดันไม่ปิดไฟหัวเตียงตั้งแต่เมื่อกี้  พี่คิวนั่งลงข้างๆผมและหันมาจ้องผมเขม็ง  ถึงแม้ว่าในห้องจะค่อนข้างมืด  มีเพียงแสงไฟจากหัวเตียงจากอีกฝั่งให้ความสว่างแต่แน่นอนว่าเราต่างฝ่ายต่างเห็นกันอย่างชัดเจนทีเดียว
ผมนอนนิ่งไม่กล้าขยับไม่ว่าจะส่วนไหนของร่างกาย  หรืออาจจะมีเพียงส่วนเดียว “ลูกตา” ที่กลอกไปทางอื่นอย่างช่วยไมได้ พี่คิวนั่งจ้องผมนิ่งมาก  นิ่งเกินไปจนผมรู้สึกเหมือนตัวเองหายใจไม่สะดวก  สายตาคู่นี้ที่ผมยังไม่สามารถอ่านออกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่  อยู่ๆพี่คิวก็ก้มลงมาใกล้  ผมได้แต่กลืนน้ำลายลงคอและก็บังคับตัวเองไม่ได้ที่จะไม่ให้กลั้นหายใจไว้แบบนี้
“จุ๊บ~” อีกฝ่ายจูบเบาๆลงที่หน้าผากของผม  ผมสบตาพี่คิวเพียงนิดเดียว  พี่คิวจ้องตาผมตอบก่อนที่จะเลื่อนลงหอมแก้มผม  อีกฝ่ายคลอเคลียอยู่ที่แก้มผมทำให้บางอย่างในร่างกายของผมมันมีอาการแปลกๆไปหมด
“การ์ดนาย..ตลก” พี่คิวกระซิบปนหัวเราะ
“พี่คิว” ผมตีอีกฝ่ายเบาๆอย่างห้ามปราม  พี่คิวยังคงซุกหน้าอยู่ที่แก้มผมอยู่อย่างนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบลงอีกครั้ง  พี่คิวเลื่อนปากจูบแก้มและใบหูของผมจนผมรู้สึกว่าขนของตัวเองตั้งชันไปทั้งตัว  นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมเพิ่งจะรู้ว่าบนตัวผมก็มีขนเยอะเหมือนกัน  ผมได้กลิ่นเหล้ากับกลิ่นไวน์จางๆจากตัวพี่คิว  ผมไม่รู้ว่ากลิ่นอะไรเด่นชัดกันแน่  หรืออาจจะเป็นกลิ่นซิการ์  ผมไม่รู้..ผมไม่รู้จักกลิ่นพวกนั้นเป็นอย่างดีอย่างพี่เขา  หลายกลิ่นตีกันไปหมด  พี่คิวเอนตัวกลับไปนั่งอย่างปกติแต่สายตาก็ยังคงจับจ้องมาที่ผมอยู่  ผมยังคงนอนนิ่ง  ตัวเกร็งไปทั้งตัวเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนมือจากที่ใบหน้าของผม เลื่อนจับลงไปต้นคอก่อนจะเลื่อนมือลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าอกของผม  ผมพยายามกลั้นหายใจแม้มือนี้จะลูบอย่างแผ่วเบาก็ตาม  มือทั้งสองมือของผมกำเข้าหากันแน่นอย่างต้องการระบายความตื่นเต้นทั้งหมดให้มันหายไป  ทั้งทั้งที่ผมก็ไม่อยากถูกทำอะไรแบบนี้เท่าไหร่เพราะมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก  แต่ผมกลับไม่กล้าปฏิเสธสายตาคู่นี้ที่กำลังจับจ้องมาที่ผมไม่วางตา  ถึงแม้จะเป็นสายตาและใบหน้าเรียบนิ่งอย่างที่ผมไม่สามารถหยั่งความหมายได้แต่เหมือนทุกอย่างบนร่างกายผมกำลังถูกมนต์สะกด 
“อึ..” ผมรู้สึกว่าตัวเองหายใจติดขัดขึ้นมาในทันทีเมื่อมือของพี่คิวลูบหน้าอกของผมผ่านเสื้อนอน  ทั้งที่เป็นการลูบอย่างเบามือแต่ผมกลับรับรู้ได้ถึงมือใหญ่ๆมือนี้  มันคล้ายกับถูกไฟฟ้าช๊อต..เมื่อไหร่ที่นิ้วของพี่คิวแตะลงมาบนตัวผมก็รู้สึสปาร์คในทันใด  ผมเหหน้าหนีเล็กน้อยเมื่อพี่คิวเลื่อนมือลงต่ำลงเรื่อยๆ  ลมหายใจแรงกว่าเดิมอย่างไม่สามารถควบคุมมันได้อีก  มือของพี่คิวลูบผ่านหน้าท้องของผมจนผมต้องแขม่วท้องหนี  นิ้วมือไล่วนอยู่ตรงหน้าท้องผมเบาๆเหมือนต้องการหยอกล้อนั่นยิ่งทำให้ผมตัวเกร็งมากกว่าเดิม  เกร็งตั้งแต่หัวจรดปลายเท่า  นิ้วเท้าของผมเกร็งจนรับรู้ได้ว่าผมไม่สามารถผ่อนคลายให้มากกว่านี่ได้  พี่คิวอมยิ้มให้ผมเล็กน้อยเมื่อผมหันไปสบตากับพี่เขาเข้า  พี่เขาไล่นิ้วมือกลับขึ้นมาบนหน้าอกของผมอีกครั้ง  นี่ทำให้ผมโล่งใจขึ้นมาที่พี่คิวไม่เลื่อนมือลงต่ำมากไปกว่านั่น 
“อ่ะ” ผมสะดุ้งในทันทีเมื่อถูกอีกฝ่ายเน้นมือลงมาที่หน้าอก  สายตาและท่านั่งของพี่เขาเหมือนต้องการดูปฏิกิริยาโต้ตอบจากผมอย่างนั้น  พี่คิวยังคงไม่ยอมปล่อยมือออกและแสยะยิ้มเหมือนพอใจอะไรสักอย่าง
“พี่ครับ” ผมจับมือพี่คิวไว้อย่างห้ามปราม  อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรแต่กลับก้มลงจูบผมอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัวทำให้ผมไม่สามารถปรับอารมณ์ตามได้ทัน  พี่คิวกดปากจูบผมต่างจากทุกครั้ง  ผมไม่เคยจูบกับใครแบบนี้มาก่อน  ผมไม่รู้ว่าผมควรจะทำตัวยังไงมันถึงจะพอดี  บางครั้งผมก็รู้สึกประหม่าจนไม่อยากเป็นตัวเอง  พี่คิวจับหน้าผมให้เงยขึ้นเหมือนให้ถนัดกว่าเดิม  มือของพี่เขาลูบปากผมเบาๆก่อนจะกดจูบผมอีกครั้งและอีกครั้ง  ผมรับรู้ได้ถึงแอลกอฮอล์หลากรส  สมองผมมึนเบลอไปหมด  ตัวสะดุ้งแต่ก็ร้องไม่ออกเมื่อรู้สึกว่าลิ้นของอีกฝ่ายเข้ามาอยู่ในปาก  มันลื่นพันไปมาจนเริ่มรู้สึกแปลก..แปลกไปหมดทุกส่วนบนร่างกาย
“อึก” ผมหลับตาหนี  พี่คิวหยุดจูบแต่กลายเป็นเลื่อนพรมจูบแก้มผมเบาๆไปจนถึงใบหู  ถึงแม้ผมจะรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ดีกว่าที่จะโดนอีกฝ่ายนั่งจ้องเฉยๆอย่างเมื่อกี้  ผมจับไหล่ของพี่คิวอย่างต้องการผ่อนคลายตัวเอง  เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้รู้สึกแบบนี้  เป็นความรู้สึกแบบที่พีทเคยบอกผมแล้วผมไม่สามารถเข้าใจได้ก่อนหน้ารึเปล่าไม่ทราบ  พีทบอกว่าสักวันผมก็จะรู้เองว่าการมีเซ็กส์แบบถึงขีดสุดมันเป็นอย่างไร  มันคงจะเป็นความรู้สึกนี้ละมัง  พี่คิวจูบผมอีกครั้ง  มือของพี่เขาไล่ต่ำลงลูบไปทั่วตัวของผม  รู้ตัวอีกทีเสื้อของผมก็ถูกเลื่อนขึ้นมาจนถึงหน้าอกแล้ว
“เอ๊ะ อ เอ่อ..คือ” ผมก้มลงมอง  พยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมาพร้อมกับดันไหล่พี่คิวเบาๆ  อีกฝ่ายยังคงเลื่อนปากอย่างแผ่วเบาอยู่ที่แก้มของผม  มือลูบไล้อยู่ที่เอวของผม
“พี่คิวฮะ” ผมเรียก  อีกฝ่ายไม่ยอมตอบอะไร
“คือ..คือว่า” เมื่อผมรู้สึกว่าพี่คิวเลื่อนมือลงต่ำไปลูบไล้อยู่ตรงต้นขาของผม  ผมจึงเอื้อมมือจับมือของพี่คิวไว้อย่างห้ามปราม  อีกฝ่ายหยุดชะงัก  เหลือบมองผมหน้านิ่งเหมือนตั้งใจฟังว่าผมจะพูดอะไร  นี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าสายตาของพี่คิวเจ้าชู้มากกว่าเจ้าเล่ห์
“..คือ” ผมได้แต่อ้ำอึ้งและก็ต้องหลบสายตา
“แบบ เอ่อ พี่คิว..จะทำ” ผมพยายามอธิบาย  แต่ดูเหมือนมันจะสับสนปนเปไปหมด  ในหัวของผมเริ่มรวนและแทบจะไม่สามารถพูดได้อย่างปกติ  คำถามเกิดขึ้นเยอะแยะในหัวของผม..ไม่ว่าจะ “ทำไมพี่ดูคล่องมือจัง” “ผมเป็นผู้ชายคนแรกของพี่แน่เหรอ” “พี่เคยมีอะไรกับใครมาบ้าง..กี่คนแล้ว” “ร่างกายผมเป็นยังไงบ้าง” และอีก ฯลฯ  ซึ่งผมคิดว่าไม่มีอะไรน่าถามออกไปสักอย่าง..มันดูไร้สาระไปซะหมด
“ของพี่คิว จะใส่เข้ามา ตรงนั้นของเค้ก..เหรอครับ” ผมถามออกไป  คำพูดน่าอายแบบนี้ผมไม่ควรพูดมันออกมาด้วยซ้ำแต่ผมเพียงแค่อยากแน่ใจ  พีทเคยบอกผมว่าอะไรๆระหว่างผู้ชายกับผู้ชายจะต้องเป็นยังไง  พีทบอกว่ามันก็เหมือนการทำกับผู้หญิง  ที่จริงการทำกับผู้หญิงเองผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันควรจะเป็นอย่างไร  ทำแบบไหนถึงจะเรียกว่า..“รู้สึกดี” อย่างที่พวกเพื่อนๆชอบเอามาพูดกัน  ที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขั้นตอนการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงต้องทำอย่างไร  ผมไม่เคยดูหนังโป๊หรือหนังสือโป๊อะไรทำนองนั้นแต่อาจจะได้เคยเห็นผ่านตาบ้าง  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตลอดมาทำไมผมไม่เคยคิดจะอยากดูของพวกนั้นเลย  ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกอะไรแต่ผมก็ไม่เคยมีความรู้สึกทางเพศบ่อยๆหรือสามารถจิตนาการต่างๆนาๆว่าอยากทำกับใครคนไหนได้  อะไรแบบนั้นที่เกิดขึ้นกับผมมันทำให้เพื่อนเคยหาว่าผม..“โกหก” ตอนนั้นผมค่อนข้างรู้สึกแย่มากๆเพราะมันคล้ายกับว่าผมโกหกเพื่อให้ตัวเองดูดี  ก็ไม่รู้นะครับว่าผมอาจจะผิดปกติไปจากเพื่อนก็ได้ซึ่งที่จริงผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าการที่เป็นผู้ชายปกติมันควรทำตัวอย่างไร  ผมจึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทุกครั้งเวลาที่เพื่อนผมคุยเรื่องต่ำกว่าสะดือเพราะผมไม่มีข้อมูลอะไรไปพูดคุยร่วมวงด้วย  หรือที่จริงแล้วผมอาจจะ..ผิดปกติ..ก็คงจะอย่างนั้น
“หึ..ตรงไหน” พี่คิวหัวเราะเล็กน้อย  ผมเหสายตาลงต่ำ  มือกำเสื้อของพี่คิวไว้กับมือแน่น
“ตรง เอ่อ” ผมอ้ำอึ้ง  ใครจะไปกล้าอธิบายมากมายกว่านี้กัน
“โอเค..คิดหลักง่ายๆนะ” พี่คิวตัดบทพร้อมกับชันแขนขึ้นคร่อมตัวผมไว้  ผมเงยหน้ามองอย่างสงสัย
“นายคิดว่าบนร่างกายของนาย มีส่วนไหนที่ฉันควรจะนำไอ้นี่ของฉันที่นายว่า..ใส่เข้าไปได้อีกนอกจากตรงนั้นของนายที่นายหมายถึง” พี่คิวพูดด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์จนผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด  ดีแล้วที่แสงสว่างมีไม่มากพอ..ขอบคุณมากจริงๆ
“ไง” พี่คิวยังคงซักคำตอบไม่หยุด 
“ไม่ ไม่รู้ครับ” ผมตอบส่งๆ  ขึ้นเสียงเล็กน้อยเพราะอยากจะปรามอีกฝ่ายบ้าง
“หู..” พี่คิวพูดเสียงสูงคล้ายกับต้องการจะแกล้งถาม  มือของอีกฝ่ายก็เลื่อนมือมาจับหูของผม  ผมสะดุ้งเบนคอหนี
“จมูก” พี่คิวเลิกคิ้วแทนคำถามพร้อมกับนำมือมาบีบจมูกของผมจนผมไม่สามารถหายใจได้
“รึว่าปาก..” พี่คิวอมยิ้ม  มือก็เปลี่ยนลงมาลูบปากของผมเบาๆ
“ก็ดีนะ ปากก็ โอเคเลยล่ะ..ฮึ”
“พี่คิว ไอ้ลามก..อุบาทว์!” ผมปัดมือพี่คิวออกเมื่อนึกภาพต่างๆนาๆออกมาได้เป็นฉากและผมไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดออกมาได้หน้าตาเฉยขนาดนี้
“หึ ฮ่าๆๆ..ตลกชะมัด ฮ่าๆๆๆ” อยู่ๆพี่คิวก็หัวเราะดังลั่นทำให้ผมรู้สึกอายมากกว่าเดิม  ถึงผมจะไม่เคยได้เห็นพี่คิวหัวเราะเสียงดังอย่างเปิดเผยมากขนาดนี้มาก่อนแต่ถ้าจะมาหัวเราะแบบนี้เพราะขำผมแล้วละก็..ผมก็ไม่อยากจะได้ยินหรอกนะครับ 
ผมพลิกตัวหนีมาอีกทาง  พี่คิวนั่งขำอยู่อย่างนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงียบเสียงลงแต่ก็ยังได้ยินว่าอีกฝ่ายยังคงหัวเราะในลำคอเหมือนยังหยุดขำไม่ได้  เมื่อพี่คิวเงียบลงไปอยู่ๆพี่เขาก้มมานำแขนคร่อมตัวผมอีกครั้งก่อนที่ผมจะรับรู้ได้ว่าพี่คิวก้มลงจูบที่ใบหูของผม  ผมถึงกับสะดุ้ง
“ฉันยังไม่ทำหรอกน่า” พี่เขากระซิบบอก  ทั้งที่ผมรู้สึกตื่นเต้นกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่ได้รับแต่นั่นกลับทำให้ผมรู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที
“..เพราะช่วงนี้ ฉันจะให้เวลานาย..ทำใจ” พี่คิวบอกแกมหัวเราะ  ผมหันไปค้อนใส่แต่อีกฝ่ายยังทำลอยหน้าลอยตาจนผมต้องหันกลับมามุดหน้าเข้าที่หมอนอย่างช่วยไม่ได้
“หึ..ขอตัวออกไปขำต่อข้างนอกนะ ถ้าจะขำต่อตรงนี้..ดูจะเป็นการเสียมารยาทกับนายไปสักหน่อย” พี่คิวยังแซวไม่หยุด 
“ไปไหนก็ไป” ผมบ่นเสียงเบาและได้แต่นอนตัวเกร็งเพราะไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไรแล้ว  พี่คิวเงียบไปครู่หนึ่งแต่ผมยังรู้สึกได้ว่าพี่เขายังนั่งอยู่ไม่ได้ลุกไปไหน
“ฝันดีครับ” อีกฝ่ายก้มลงกระซิบบอกพร้อมกับหอมต้นคอผมเบาๆก่อนจะลุกไป
“พ..พี่คิว” ผมรีบเรียกไว้เมื่อนึกอะไรขึ้นได้  พี่คิวหยุดเดินและหันมามอง  ผมนอนอยู่ท่าเดิมโดยไม่ได้หันไปเพื่อจ้องตอบ
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ” ผมพูดลอยๆ  พี่คิวไม่ตอบอะไรก่อนจะเดินออกจากห้องไป  ผมยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงคล้ายกับท่อนไม้  ในสมองนึกไปต่างๆนาๆ  ผมยังรับรู้ได้ถึงลมหายใจที่กระทบอยู่ใกล้ใบหู  กลิ่นของพี่เขา  รสสัมผัสและทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่เขาทำเมื่อกี้คล้ายกับมันยังคงอยู่  หัวใจของผมยังคงเต้นแรง  นี่คงเป็นเหตุการณ์ที่ผมคงได้อายไปอีกสามร้อยล้านวันแน่ๆ บ้าบอ..อยากจะบ้าตายจริงๆ




.................>>>><<<<.................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 09:37:31 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
«ตอบ #9729 เมื่อ14-10-2012 09:35:19 »

หมายเหตุ : ความจริงแล้วเบบี้อยากบอกว่าอย่าหวังอะไรกับ NC มากนักเลยค่ะ  แม้กระทั่งในหนังสือเองก็อาจจะแทบไม่ได้เห็นด้วยซ้ำ  มันก็อาจจะมีบ้างแต่คงไม่หวือหวาขนาดที่ว่า "โอ้ เยส fuck me, come on. โอ้ย เสียว ลึก เจ็บ เยสสสส โอ๊ะ อ้า เบาๆ อู้อ้า..ใช่เลย" แบบนี้คงไม่มี..ฮ่าๆๆๆ ฉากร่วมรักก็คงจะเป็นฉากบรรยายซะส่วนใหญ่ค่ะ  ขอความกรุณาได้โปรดเข้าใจ

*** ที่จริงแล้ว คิวหื่นมาก..กร๊าก ****

1. ในตอนนี้มีข้อมูลหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับตอนพิเศษตอนของเซ็นนะคะ  ดังนั้น..ต้องรออ่านตอนพิเศษตอนของเซ็นค่ะ
2. ตอนต่อไปเป็นตอนพิเศษของทิกเกอร์ค่ะ
3. เบบี้เพิ่งสอบเสร็จเมื่อวานนี้  ดังนั้น..ขอไปพักผ่อนหย่อนใจสักพักนะคะ  ไว้จะมาต่อตอนต่อไปให้  คงไม่นานเกินจะทนค่ะ


เบบี้..^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 10:56:10 โดย เบบี้ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..Born to Die by Cupid [06/10/55 @ 09:25] P.321
« ตอบ #9729 เมื่อ: 14-10-2012 09:35:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9730 เมื่อ14-10-2012 09:57:52 »

 :man1:

อ๊ายยยยน่ารักอ่ะ. อีกนิดนึงพี่คิวจะได้...เค้กแรว  :-[. รอตอนต่อไปค่ะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 11:36:32 โดย Tiamo_jamsai »

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9731 เมื่อ14-10-2012 10:01:49 »

ลุ้นเกือบตายนึกว่าจะมี NC ในวันเกิดพี่คิว กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :กอด1:
ไอ้พี่คิวมันก็หื่นเหมือนกันนะเนี่ย 55555555
ไม่มี NC ก็ดีเหมือนกันนะ มโนกันเอาเอง แค่นี้ก็ขอบคุณเบบี้แล้วที่พี่คิวมันยังจูบเค้กมั่ง
อย่างน้อยก็รู้ว่าพี่คิวมันก็หื่น แต่มันรอเวลาให้เค้กทำใจ  :laugh:
รอเบบี้ได้เสมอ  :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2012 13:24:56 โดย rujaya »

ออฟไลน์ withmeto_PJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9732 เมื่อ14-10-2012 10:31:43 »

ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขินมากกกกกกกกก อ่านแล้วเขินนสุดๆๆไปเลย  :-[ :impress2:
น้องเค้กพี่คิวน่ารักสุดๆ

ขอบคุณเบบี้มากๆๆของมากๆๆเลย นิยายสนุกมากๆ รอติดตามต่อนะค่ะ  :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ krit24

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9733 เมื่อ14-10-2012 10:43:00 »

น้องเค้กน่ารักอ่ะ
ว่าแต่พี่คิวจะให้เวลาเค้กทำใจถึงเมื่อไหร่อ่ะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9734 เมื่อ14-10-2012 10:46:41 »

พี่คิวแกก็แอบหื่นเหมือนกันนะยะ

ออฟไลน์ FantasyPloy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9735 เมื่อ14-10-2012 10:54:54 »

 :m25: :m25: แอบเลือดพุ่งตอนท้ายนิดนึง 5555

พี่คิวกับเค้กยังน่ารักเหมือนเดิม  ข้อเสนอที่ทิกเกอร์ยื่นให้ มันช่างน่าสนใจจริงๆเลย

ขอบคุณที่อัพนะคะ และรออ่านต่อค่ะ^^

ออฟไลน์ Chk~a

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 618
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9736 เมื่อ14-10-2012 10:56:03 »

พี่คิวกวนได้อีกกก ก เขินแย่ๆเลยเค้ก :-[

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9737 เมื่อ14-10-2012 10:58:06 »

กรี๊ดกร๊าดดดด พี่คิวโมเม้นลามก เจ้าเล่ห์ ก็เท่ห์ไปอีกแบบบ
กว่าจะเดินแบบให้อาได้ ต้องเอาของล่อเยอะมากกก หุหุ อยากเห็นพี่คิวเดินแบบ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9738 เมื่อ14-10-2012 11:02:57 »

นึกว่าจะ บ๊วบ และเนี่ย 5555

เค้กน่ารักจังแอบอยากอ่านคู่นี้อีอง่

ขอบคุณเบบี้จ้าา

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9739 เมื่อ14-10-2012 11:10:52 »

พี่คิวมาทำให้อยากแล้วก็จากไปนะ  :a6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
« ตอบ #9739 เมื่อ: 14-10-2012 11:10:52 »





ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9740 เมื่อ14-10-2012 11:27:01 »

:o8:พี่คิวเก้ลงเค้กอะ :o8: :o8:



รออออออออออออออจ้า :call: :call:

ออฟไลน์ ruby

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 477
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-3
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9741 เมื่อ14-10-2012 11:33:50 »

น้องเค้กน่ารักอ่ะ เราไม่หวังกับ nc เรื่องนี้เท่าเรื่องอื่นๆ
แต่แค่ได้รู้ว่าพี่คิว ก็หื่นเหมือนกัน แค่นี้ก็ฟินแล้ว กร๊ากกกก
ขอบคุณที่มาต่อให้แบบยาวมาก กดบวกให้ค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ KURATA

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +146/-1
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9742 เมื่อ14-10-2012 11:39:55 »

อร๊าาายยยยยยย  เขิลแทนเค้กอย่างแรงงงงง ตื่นเต้นๆ  :-[ :-[

รอได้เสมอจ้า  :กอด1:

ขอบคุณค่า  :pig4:

ออฟไลน์ popeye

  • umz
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9743 เมื่อ14-10-2012 12:14:47 »

พี่คิวแอบหื่นกะน้องเค้ก

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9744 เมื่อ14-10-2012 12:18:32 »

เป็นตอนพิเศษที่ยาวสะใจมากกกกกกกกก

ตอนนี้อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย คึคึ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9745 เมื่อ14-10-2012 12:20:59 »

ชอบอ่ะ ชอบที่สุดเลย

 :-[

ชอบบุคลิกแบบพี่คิวจัง

อ่านแล้วอิจฉาเค้กอ่ะ

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9746 เมื่อ14-10-2012 12:22:45 »

...อา หลานนี่ ถึงพริกถึงขิงกันดีจริงๆๆ
...เค๊กดูเด็กมากและก็อินโนเซ้น มากๆๆเลย เลยโดนคิวยั่วบ่อยๆๆแต่ก็น่ารักไปอีกแบบ
...ไม่ค่อยเห็นตัวตนที่แท้จริงของคิว นอกจากอยู่กับเค๊กอย่างว่าอะเนอะ
...คนที่สนิทที่สุดก็คือ..คนที่เค้า......นอน.......คุยกันนั่นแหละ
:laugh:

ออฟไลน์ A-J.seiya*

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +306/-8
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9747 เมื่อ14-10-2012 12:28:30 »

อ่อยยยยยย
น้องเค้กน่ารักมากกกก
ถามแบบนี้ ฉนเป็นพี่คิว ก็ทำไม่ลง กร๊ากกกก
ตรงไปมั้ยลูกกกกก
ชอบที่พี่คิวหื่นมาก ได้รู้แค่นี้ก็สบายใจ (ห้ะ?)
คิคิ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9748 เมื่อ14-10-2012 12:28:53 »

จริงๆปลอด NC ใสๆแบบนี้ก็น่ารักดีนะคะ :o8:
จะบอกว่าใจเต้นแรงยิ่งกว่าอ่าน NC ซะอีก เค้กน่ารักเกินห้ามใจ พี่คิวอดทนได้ไงอะ อึดมาก :laugh:
ให้เค้กได้เตรียมใจ แล้วที่เหลือเราก็จิ้นจนฟินเองแล้วกัน อยากทะนุถนอมเค้กนานๆ เพราะเบบี้บอกพี่คิวหื่นนี่นา สงสารเค้ก :haun4:

ออฟไลน์ NCJung

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 988
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-5
Re: ~Limited Lovers~ (SPECIAL)..God of Desire by Cake [14/10/55 @ 09:40] P.325
«ตอบ #9749 เมื่อ14-10-2012 12:29:03 »

ที่จริงแล้วพี่คิวก็....หื่น!!! ตัวพ่อเลยนะเนี่ย
น้องเค้กแย่แล้ว กร๊ากกกกก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด