หลังจากนนั้นชีวิตผม แทบไม่ได้กระดิกไปไหนมาไหนครับ
ไอ้พงมันเกาะผมแจ ยังกะเด็กหาแม่ไม่เจอ
ตอนเช้ามันก็มารับผมไปโรงเรียน ผมบอกไม่ไปมันก็ขู่
ตอนเที่ยงต้องไปกินข้าวกับมัน
ตอนเย็นกลับบ้านก็ต้องกลับกับมัน แถมมันยังไปขู่กรรโชค
เพื่อนที่นั่งติดกับผม ให้สลับโต๊ะกับมัน มันเลยมานั่งกับผมแทน
แล้วขอบอกอีกอย่างครับ ขนาดผมยังไม่รับปากเป็นแฟนกับมัน
มันมาโมเมเอาเฉยๆ แต่ขี้หึงโคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร
ไม่รู้อะไรของมัน ถ้าผมจะคุยกับผู้ชายคนอื่นต้องมีมันอยู่ด้วย
ไม่งั้นมันไม่ยอม ผมก็ไม่รู้มันจะมาพิสวาสอะไรผมนักหนา
บางครั้งที่ผมมีโอกาสได้อยู่คนเดียว ผมมักจะนั่งคิดเสมอๆว่า
มันกับผมคงมีอะไรเกี่ยวข้องกันแต่ชาติก่อนแน่ๆ ทำไมชาตินี้
มันถึงได้จองล้างจองผลาญผม ไม่แล้วไม่เลิก จนป่านนี้
คิดไปแล้วผมละปลงจริงๆ
ชีวิตผมเป็นแบบนี้มาเรื่อยๆจนผม ขึ้น ม.6 กับพี่เอก ผมขอเป็นแค่น้องแก
แกก็ยอม บอกจะรอผม ผมก็รู้สึกผิดอยู่ลึกๆที่ไม่สามารถตอบแทนความต้องการของพี่
แกได้ ทั้งที่ตลอด ระยะเวลา ปีสองปีที่ผ่านมา แกดีกับผมจริงๆ เสมอต้นเสมอปลาย
แต่ผมรู้สึกกับแกแค่พี่จริงๆ ไม่รู้ทำไม
แต่กับไอ้ควายบางตัว ถึงผมจะเบื่อๆมันบ้าง แต่ยอมรับชักขาดมันไม่ได้
วันไหนไม่ได้เห็นหน้ามัน ไม่ได้ยินเสียง วังเวง ชอบกล
ชีวิตผมนั้นมาหักเหเอามากๆ คงตอนไกล้จบ ม.6แหละครับ
ทางบ้านคุณชายพง เขาจะให้ลูกชายเขาไปเรียนต่อต่างประเทศ
ผมยอมรับว่า ตกใจพอสมควร ตอนที่มันบอกผม
ไม่คิดเลยว่า คนที่ผมคิดว่าไม่สำคัญอะไรมากกับผมเท่าไหร่
พอเขาจะจากไป ผมกลับรู้สึกแย่แบบนี้
“มึงจะไปตอนไหน”
“คิดว่าจบแล้วคงไปเลย แม่ทำเรื่องกับทางโน้นไว้แล้ว”
“แป้ง” มันถามผมเสียงเบา
“มีไร”
“ตอบพงสักอย่างได้ไหม” มันถามผมทำหน้าละห้อยหละครับ
“มีไรว่ามาสิ”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา พงรู้ว่าพงเคยทำไม่ดีกับแป้ง ทำร้ายแป้งไว้มาก
แต่พงก็รักแป้งนะ รักมากด้วยตอนนี้ และต่อไปก็จะรักเหมือนเดิม
ที่ผ่านมา ไม่รู้พงหลอกตัวเองรึเปล่า หลอกว่าแป้งก็รักพงเหมือนกัน
ก่อนไปพงอยากรู้ว่า แป้งรักพงบ้างไหม”
“............”เนี่ยนะสิ่งที่มันอยากรู้ ผมไม่รู้จะตอบยังไงดี
ก้มหน้าคิดหนักหละครับผม ไม่คิดว่าจะต้องคำถามแบบนี้
“ว่าไง บอกพงได้ไหมคนดี” มันพูดพลางจบผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับมัน
“...............”
ผมยอมรับว่าผมสับสนมาก ผมรักมันรึเปล่า รึว่ารู้สึกกับมันแค่ไหนผมยังไม่รู้เลย
ทางออกของผม คงได้แต่เงียบเท่านั้นแหละครับ ดีที่สุดแล้ว
“เฮ้อ ใจร้ายจริงคนเรา บอกแค่นี้ก็ไม่ได้” มันบ่นเหมือนตัดพ้อผมหละครับ ทำหน้างอน
ยังกะเด็กๆ
ผมละเบื่อกับมันจริงๆ ไอ้นิสัยไม่ได้อะไร ไม่พอใจอะไร ก็งอแงแบบนี้
ทำใจกับลูกคนเดียวพ่อแม่ตามใจหละครับ
แต่ผมยอมรับอยู่ว่าไม่มีมันผมคงเหงาหละครับ สองปีกว่าๆ เกือบสามปีที่ผ่านมา
แทบจะทุกวัน มีแต่หน้ามันลอยไปลอยมา เกาะผมแจหละครับ
ยอมรับอยู่ว่ามันสม่ำเสมอ(ปล้ำผมอะนะ) แต่อารมณ์นี่ควรปรับปรุงด่วน
ขึ้นๆลงๆ ตลอดเลย
ไม่นานพวกผมก็จบ ม.6หละครับ พอจบได้ไม่กี่วัน ไอ้คุณชายมันก็ต้องรีบ
ไปรายงานตัวทางมหาลัยที่โน่นหละครับ ผมก็ได้มาส่งมันแค่หน้าบ้านมันหละครับ
รู้จักตัวเองดี ไม่กล้าไปตีตัวเสมอครอบครัวมันหรอก แค่มันมาขลุกอยู่กับผม
สองสามปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกยังไงไม่รู้เวลาที่แม่ของไอ้คุณชาย เข้ามาคุยกับผม
ถึงท่านไม่ได้ดุอะไรมากมาย แต่ผมรู้สึกตัวเองด้อยค่ายังไงไม่รู้
เหมือนเวลาที่คนรวยเขาไปแจกของ แล้วคุยดีๆสนิทสนมกับคนที่ไปรับของแจก
ยังไงยังงั้น หลังจากที่ไอ้คุณชายมันไปลับตาแล้ว ผมก็ค่อยปั่นจักรยานกลับห้องผมหละครับ
ใจมันหวิวๆยังไงชอบกล ต่อไปนี้ผมคงไม่ได้มาที่บ้านหลังนี้อีกแล้ว
แม้แม่ไอ้คุณชาย กับป้าอ้วน จะบอกให้ผมไปเล่นกับ่านบ่อยๆก็ตาม แต่ผมคงไม่กล้า
ไปยุ่มย่ามแล้วหละครับ
หลังจากที่ไอ้คุณชายมันไปแล้วนี่แหละครับชีวิตผม หักเหแบบสุดๆแล้วชาตินี้
ผมสอบติดคณะที่ดีมหาลัยที่ดีพอสมควรครับผมก็ดีใจนะ แต่ก็เป็นกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายนะครับ
คิดว่าคงเกินกำลังแม่ผม ผมก็เป็นกังวลอยู่ แต่แม่บอกว่าลองกู้ยืมทุนของรัฐบาลไปด้วยก็ได้
ผมก็ว่าจะลองๆดู
ในช่วงที่ผมกำลังรอเข้ารายงานตัวนี่แหละครับ ผมสังเกตุได้ว่าแม่ผมโทรมลงไปมากพอสมควร
ไม่นานนับจากนั้นประมาณ 1อาทิตย์แม่ผม ก็ต้องเข้าโรงพยาลครับ
แม่บอกไม่ไป แต่ผมบังคับแม่หละครับ เพราะแม่แทบจะไม่มีแรงยืน เอาพี่เอกนั่นแหละครับ
มาช่วย ลากแม่ไปตรวจ ร่างกาย ถึงแม่ไม่ยอมไป แต่คงสู้แรงพวกผมสองคนไม่ไหว
ต่อมาอีกแค่สัปดาห์เดียวแม่ผมก็เสียครับ หลังจากที่ผมได้รับรู้ว่าแม่ผมจากไปแล้ว
ผมล้มทั้งยืนเลยครับ ญาติคนเดียวของผมในโลกนี้ที่มีอยู่ สมบัติล้ำค่ามากกว่าชีวิตของผม
คนที่เป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน จากผมไปแล้วผมแทบเสียสติครับ รับไม่ได้จริงๆ
กับความจริงข้อนี้ ถึงแม้มันจะเป็นสัจจธรรม ที่ว่าทุกคนต้องตาย แต่ผมคิดว่าสำหรับแม่ผม
มันเร็วเกินไป แต่เชื่อว่า มจจุราช คงไม่คิดแบบผมแน่นอน หมอบอกว่าแม่เป็นมะเร็งเต้านม
มานานแล้ว ไม่ยอมรักษา อาการเลยเกินเยียวยา และจากไปในที่สุด
พอผมรู้ความจริงจากปากหมอ ผมร้องให้ไม่ออกทันทีครับ
น้ำตามันหายหมดเหลือแต่ความภูมิใจ และดีใจ ปนเสียใจไปด้วยกัน
แม่ของผมช่างยิ่งใหญ่จริงๆ เป็นผู้เสียสละจริงๆ แม้แต่ชีวิต ก็ไม่ได้ห่วงได้หวงเลย
แต่กลับยอมแลกชีวิต กับโอกาส กับความสบายเล็กๆน้อยๆของผม
ผมภูมิใจในตัวแม่จริงๆ ผมยิ้มทั้งน้ำตาหละครับ
มองร่างแม่ที่ซีดจนน่ากลัว พลางจับมือท่านมากุมไว้
ผมสัญญาครับ ผมสัญญา ผมจะเข้มแข็งเหมือนแม่
แม้โชคชะตาจะไม่เข้าข้าง แต่ผมจะเข้มแข็ง
เพราะผมเป็นลูกแม่ แม่ผู้เสียสละ แม่ผู้อดทน
จากนั้นก็เป็นการจัดการเกี่ยวกับศพแม่ของผมหละครับ
ก็ได้ป้าอ้วน คุณท่านแม่ไอ้คุณพง และก็พี่เอกและครับ
คอยช่วยเหลือผมในช่วงนี้ จนงานเสร็จไปด้วยดี
แม่ช่างรอบคอบจริงๆแม้ตัวตายแต่ก็ยังห่วงลูก
แม่ทำประกันชีวิตเอาไว้ครับ โดยยกให้ผมทั้งหมด
ไม่ว่าแม่เป็นอะไรไป ถึงเงินไม่มากเท่าไหร่
แต่มันก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่แม่เตรียมไว้ให้ผม ผมจะใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด
เพื่อตัวเอง และเพื่อเจตนารมของแม่
***********-**********