บ้านพักอลเวง4 - คิมหันต์นิรันดร
ครืดด ครืดด
เสียงตัวผมไถลอยู่บนเตียง หลังจากลืมตามาได้ซักพักนึงแล้ว จำได้ว่าวันนี้เป็นวันเปิดเทอมๆใหม่
ของปีการศึกษาใหม่
วันนี้สถานภาพของผมเปลี่ยนจากพี่รองฯ มาเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียนแห่งนี้แล้ว ผมไม่อยากลุกไปไหนเลย
รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีแรงชอบกล (เมื่อคืนไม่ได้ทำอะไรนะ) เพราะผมรู้ตัวว่า ต่อจากนี้ไป ผมต้องเดินทางไป
กลับโรงเรียนคนเดียว โดยที่ไม่มีไอ้โอ้ตแล้ว
เมื่ออาทิตย์ก่อน โอ้ตมันขึ้นไปอยู่ที่เชียงใหม่แล้วครับ ผมก็ไม่รู้ว่าต้องรีบไปทำไม ในเมื่อคณะเภสัชฯมันก็มี
หอของคณะอยู่แล้ว หอก็ไม่ต้องรีบร้อนจองเหมือนคนอื่น แต่พ่อกะแม่มันอยากให้ขึ้นไปเตรียมตัวอะไรก่อนล่ะมั้ง
ก็เลยอพยพกันไปส่งถึงโน่นเลย ผมก็อยากไปนะ แต่คิดอีกที ในพ่อแม่ลูกเค้าได้อยู่ด้วยกันจะดีกว่า หลังจากนั้น
ช่วงค่ำๆ มันก็จะโทรมาหาผมทุกวันคับ เพราะว่าลุงแกซื้อมือถือให้มันเครื่องนึง อยู่ไกลจะได้ติดต่อกันได้สะดวก
แต่ก็โทรคุยกันได้แป๊บเดียว สมัยนั้นค่าโทรฯมานแพงอ่ะ แต่ก็ดีใจคับ ที่มันไปแล้วก็ยังมีกะใจจะโทรมาหาผม
ผมค่อยๆ เหยียดตัวลุกขึ้น ตอนนี้เวลาเกือบจะเจ็ดโมงแล้วคับ ท่าเป็นเมื่อก่อน โอ้ตมันก็คงจะวิ่งมาเคาะประตูห้อง
บอกว่าสายแล้วๆ ผมก็ต้องกระวีกระวาดรีบอาบน้ำแต่งตัว แต่ตอนนี้ไม่ต้องรีบคับ เลยค่อยๆลุกขึ้น รู้สึกเหมือน
จิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว
เข้าห้องน้ำแล้วก็หยิบหลอดบีบๆแล้วก็แปรงฟัน เอ๊ะ ทำไมรสชาติยาสีฟันมันแปลกๆไปกว่าวันก่อน เหลือบไปมอง
ตายห่า กรุดันหยิบโฟมล้างหน้ามามาบีบแทนยาสีฟัน เฮ้อ …
ออกจากห้องน้ำ ก็หยิบเสื้อผ้ามาใส่ รู้สึกว่ามันคับๆไปกว่าเดิมนิดหน่อย แล้วก็คว้ากระเป๋าวิ่งออกจากบ้าน
เพราะเริ่มรู้ตัวว่าจะสายตั้งแต่วันแรก(อีกแล้ว)
เคยเป็นม่ะครับ เวลาบางทีที่เราอยู่กับบ้านเป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เหรอว่ารู้สึกว่าตัวเองไม่อยู่
กับร่องกับรอย แล้วก็เราก็จะเบลอๆ ทำอะไรไม่ค่อยมีสติ วันนี้ผมก็เป็นแบบนี้ทั้งวัน เริ่มจากตอนเช้าหลัง
จากวิ่งออกมานอกบ้านรอรถ พอขึ้นไปแล้วก็จ่ายตังค์ค่ารถ พี่ที่เก็บเงินก็ทอนเงินมาให้ ผมดันไปไหวเค้าเฉยเลย
เค้าก็ทำหน้างงๆครับ ผมมารู้ตัวทีหลังก็ทำเนียนไม่สนใจ แต่ในใจ กรุอายโคด..
,
,
ติ้ง ต่อง ต๊อง ต่อง ต่อง ต๊อง ต้อง ต่อง
,
,
เดินเข้าไปถึงแค่หน้าประตูโรงเรียน ก็ได้ยินเสียงอ๊อดมาแต่ไกล ทำให้ผมต้องรีบจ้ำเข้าไปใหญ่ สุดท้ายผมก็
มาเข้าแถวทันคับ กระป๋งกระเป๋า ก็ไม่ได้เอาขึ้นไปเก็บไว้บนห้องหรอก วิ่งพลวดไปที่แถวเลย
“มาสายวันแรกเลยเหรอวะ” ซังมันหันมาถาม มันเป็นคนที่เลขที่อยู่ข้างหน้าผมคับ เลยคุยกันได้สะดวก
“เออ…”ผมตอบโดยไม่ได้สนใจ
“เมื่อคืนได้นอนมั่งป่าว ทำไมดูเซือยๆ” ซังมันก็ถาม ชวนคุยโน่นนี่ มันก็รู้แหละครับว่าผมกะลังอยู่ใน
ช่วงเวลาของการปรับตัว ก็เลยคอยอยู่เป็นเพื่อนตลอด แต่ผมก็ไม่ค่อยจะตอบรับเท่าไรนี่ซิ แต่มันก็ดีนะ
ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องโอ้ตให้ผมต้องมาคิด แต่ …
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าคิดถึงไอ้โอ้ตมันดิ” เสียงใครบางคนมันตอกย้ำความรู้สึกผม แล้วมันก็ม่ะใช่ใคร
ที่ไหนคับ ไอ้คิวเจ้าเก่านั้นเอง พอดีเราสามคนกินข้าวเสร็จแล้วก็เลยขึ้นมาอยู่บนห้องก่อน
“ปริ้น เมิงแมร่งก็เว่อร์ แค่มันไปเรียนเชียงใหม่แค่เนี้ย เมิงก็ทำเป็น...”
“คิว มึงพูดไรให้น้อยๆหน่อย” ซังปราม
“ก็เห็นแล้วกรุรำคาญนี่หว่า ทำเหมือนจะเป็นจะตาย” คิวมันพูดเสร็จก็เดินมาชนตัวผมจนเซแซ่ดๆ
แล้วก็เดินออกไปนอกห้อง
ผมก็พูดไม่ออกคับ เจอมันตอกหน้าแบบนี้ ก็มันไม่เป็นผมนี่หว่า แล้วผมก็เดินเนือยๆไปนั่งที่โต๊ะตัวเอง
“ปริ้น อย่าไปสนใจคิวมันเลย” มันพูดพลางเอามือมาตบไหล่ให้กำลังใจ
“มันก็พูดได้หนิ มันไม่ได้มาเป็นกรุนี่หว่า” ผมพูดไปเสียงสั่นๆ น้ำตาคลอ เหมือนจะน้อยใจที่
ไอ้คิวมันไม่เข้าใจ แถมยังมาด่าอีกตะหาก
“กรุก็ไม่อยากเป็นแบบนี้หรอก กรุก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน กรุก็เกลียดที่ตัวเองเป็นแบบนี้เหมือนกันแหละ”
ผมพูดไปพลางเอามือปาดน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหล คิดแล้วมันเจ็บใจจริงๆ ซังมันก็พูดไรม่ะออกคับ ได้แต่เอา
มือตบไหล่ผมอยู่นั่นหล่ะ จนเพื่อนบางคนมันขึ้นกันมาก็เลยรีบไปนั่งที่กันโดยไม่ได้พูดไรอีก
ยอมรับคับว่า วันนั้นเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องทั้งวันเลย โชคดีที่วันแรกก็ไม่ค่อยได้เรียนอะไรเท่าไร ตอนเย็นไอ้ซัง
มันก็เลยชวนผมไปเดินเที่ยวบิ๊กซีกัน (ตอนนั้นพึ่งเปิด)
“อ้าว ไหนเมิงบอกว่า วันนี้จะไปเตะบอลกะกรุไง ซัง” คิวมันถามแฟนด้วยความเคืองๆ
“เออ ผลัดไปวันอื่นล่ะกัน” ซังมันว่าพลางเก็บหนังสือลงกระเป๋า
“ไปด้วยกันเปล่าล่ะ หรือจะไปเตะบอล”
คิวทำท่าทางคิดนิดหน่อย
“ไปดิ เมิงไม่เตะ กรุก็ไม่มีรมณ์จะเตะเหมือนกัน” คิวมันว่า แล้วก็ทำเดินไปถือกระเป๋าให้ไอ้ซังมันแล้วก็
เอาหนังสือมันยัดๆเข้ากระเป๋า (ไอ้คิวมันถือหนังสือมาโรงเรียนประมาณสี่ห้าเล่มคับ)
“เด๋วกรุเดินไปรอที่รถนะ”
“เออ ไอ้คิวไปด้วยไม่เป็นไรนะ” ซังมันหันมาถามผม
“เออ อืม …” ผมก็ได้แต่พูดแบบนี้อ่ะ จะเป็นไรได้ล่ะ ก็มันเป็นแฟนกันนี่หว่า แล้วมีหวานถือกระเป๋าให้กัน
ด้วยนะ อิจฉาว้อย
ซักพักผมกะซังก็เดินลงมาที่รถ
“ซังเด๋วเมิงซ้อนกรุนะ ปริ้นเด๋วเมิงไปกะไอ้โค้ก” มันสั่งการณ์แล้วก็เดินจูงรถแน่วๆไปเลย ซังมันก็วิ่งตามไป
“แล้วไอ้โค้กมันอยู่ไหนวะ” ผมตะโกนถาม
“อยู่ข้างหลังพี่” เสียงคุ้นเคยดังมาแต่ไกล ไอ้โค้กมันพึ่งจูงรถมอไซต์ออกมา ขึ้นม.5 แล้วตัวมันก็โตกว่าเดิมมาก
เหมือนกันคับสูงร้อยเจ็ดสิบปลายๆได้แล้วมั้ง
“อ้าวแล้ววันนี้เค้าไม่ซ้อมบาสเหรอไง” ผมถามพลางเดินตามมันไป
“ไม่หรอก วันแรกเค้าไม่บ้าพลังกันขนาดนั้นหรอก” มันบอก พอจะออกจากโรงเรียน มันก็ต้องผ่านสนามบาสไง
“เฮ้ย ไอ้โค้กเมิงไปไหนวะ อู้อีกแล้วนะมึง” เสียงไอ้เด็กที่มันเป็นหัวหน้าทีมตะโกนมาจากสนามบาส
ผมก็มองหน้าโค้ก มันก็ยิ้มแหะๆ แล้วก็บอกให้ผมรีบซ้อนท้าย ยังไม่ทันได้นั่งดีเลยมันก็ออกรถอย่างเร็ว
“พี่ เด๋วแวะปั้มเติมน้ำมันก่อนนะ จะหมดแล้ว” มันว่าแล้วก็เลี้ยวเข้าปั้ม
“เติมไร เด๋วเติมให้” ผมว่า แต่มันทำท่าปฏิเสธ ผมก็เลยบอกมันว่า ถ้าไม่ให้ผมออกให้ก็ไม่ต้องพาไป
มันก็เลยยอม พอดีที่ปั้มมีร้าน 7 อยู่ก็เลยชวนมันไปหาอะไรกระแทกปากก่อนคับ ชักหิวๆ
ผมก็จะซื้อไส้กรอกชีส เดินไปดูๆ ชี้ๆ ไส้กรอกชีสที่หมุนวนอยู่
แล้วบอกพนักงานไปว่า “91 เต็มถังน้อง”
อ๊า กรุยังไม่หายใจลอย
ซักพัก พนักงาน 2 คนกะ คนซื้อข้างๆ แล้วก็ไอ้โค้ก ขำขี้แตกขี้แตนเลย -*-
พอมาถึงบิ๊กซี ซังมันก็โทรเข้ามือถือผมบอกว่ารออยู่ เคเอฟซี ไอ้โค้กก็ดันเสือกเล่าเรื่องที่ทำหน้าแหก
มันก็ขำกันยกใหญ่
“ปริ้น เมิงเป็นเอามากหว่ะ ” คิวมันกัดผม
“ไรมึงไม่เคยเป็นเหรอไง” คนมันเบลอๆ ผมแก้ตัว พลางดูดน้ำ กัดไก่กรวมๆ
เราสี่คนก็คุยๆอะไรกันซักพัก โค้กมันก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“ปริ้น ตอนที่โอ้ตมันไม่อยู่ เมิงก็หาคนคบไปพลางๆแก้เหงาไปก่อนเด๊ะ” ไอ้เชี่ยคิวมันเสนอแนะ
ซังมันเหลือบไปมองแฟนตัวเอง
“มึงอย่าไปแนะนำเรื่องชั่วๆให้ไอ้ปริ้นมันทำตัวเหมือนมึงได้ม่ะ กรุขอร้อง” ซังมันด่าไอ้คิวไป
มันก็ทำหน้าทะเล้นไม่ใส่ใจ
“เมิงไม่รู้สึกเหรอ ว่าไอ้โค้กอ่ะมันสนใจเมิงเหมือนกันนะว้อย ” ไอ้คิวพูดทำเอาผมสำลักน้ำเป๊ปซี่
“พูดไร จะบอกว่าไอ้โค้กก็เป็นเกย์เหรอ” ซังมันพูดแต่คราวนี้ทำเสียงค่อยแทบไม่ได้ยิน
“เหี้ย เมิงไม่สังเกตเหรอไง โดยเฉพาะเมิง ไอ้ปริ้น โค้กมันเกาะเมิงแจเลย ตั้งแต่กีฬาสีโน่นแล้ว”
คิวมันบอกผม จริงๆผมก็รู้สึกเหมือนที่มันพูดอะแหละ แต่ตอนนั้นผมมีโอ้ตอยู่นี่นา ก็เลยไม่ได้สนใจ
อะไรจริงๆจังๆ แถมบางที อาจจะดูเหมือนโค้กมันสนใจผมก็จริง แต่เวลาปกติ ก็เห็นมันไปเหล่สาว
กะเพื่อนมัน บางทีมันก็ยังเอาเรื่องที่จะจีบคนนั้นคนนี้มาเล่าให้ฟังบ่อยๆ
“ไม่รู้ว้อย กรุไม่ได้ชอบไอ้โค้กแบบนั้น” ผมรีบตอบ
“เจงอ่ะ” คิวมันมองผมเหมือนจะจับผิด พลางยิ้มแบบมีเลสนัย ไอ้ซังมันกระทุ้งศอกเป็นเชิงให้รู้ว่า
โค้กมันเดินมาแล้ว มันก็มองๆว่าคุยเรื่องไรกัน
“เปล่า เออ จะไปดูหนังกันเปล่า” ซังมันพูดไปเรื่องอื่น
“ไม่ดูอ่ะ เด๋วกรุกลับบ้านค่ำ” ผมบ้านไม่ได้อยู่ในอำเภอเมืองเหมือนมันทั้งสามตัว ก็เลยต้องรีบกลับ
“โห จะรีบกลับไปทำไมวะ ฟงแฟนก็ไม่ได้อยู่ด้วย” ไอ้คิวมันหลุดปากพูดแทงใจดำอีกแล้ว
“โอ้ย …” เสียงซังมันเหยียบเท้า
“เฮ้ย ดูด้วยกันดิ ปริ้น” ซังมันก็พยายามชวนผม แต่ผมหมดอารมณ์แระไม่อยากดู แล้วก็ไม่อยากทนปากหมา
ไอ้คิว ก็เลยบอกว่า ไม่ดู แล้วก็ขอตัวออกมาก่อน
“พี่ปริ้น เด๋วผมไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอก เด๋วรอตรงข้างหน้าห้างมันก็มีรถผ่าน” ผมบอกมัน เพราะผมก็ไม่อยากจะให้ความรู้สึก
ที่ไอ้คิวบอกมันเกิดขึ้นกับตัวผมจริงๆ
“ขืนรอตรงนี้ ก็ไม่ได้นั่งกันพอดีดิคับ มาเหอะ ไปขึ้นหน้าโรง’บาลดีกว่า” มันไม่พูดเปล่า ฉุดมือผม
มาด้วย ผมก็เลยไม่อยากต้านทาน เดินตามมันต้อยๆ (ใจง่ายม่ะกรุ)
“พี่โอ้ตไปเรียนแล้ว เหงาอะดิ” มันพูดขึ้นระหว่างที่กะลังมาส่งผม
“ก็นิดหน่อยว่ะ” ผมก็ตอบแบบเลี่ยงๆ ผมก็คิดว่ามันก็คงรู้มั้งว่าผมกะไอ้โอ้ต คบกัน แล้วก็คงรู้ว่า
ไอ้คิวกะไอ้ซังคบกันมากกว่าเพื่อน แต่เราสามคน ก็ไม่เคยคุยเรื่องแบบนี้กันต่อหน้าไอ้โค้กเลย เพราะ
ต่างคนก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นหรือไม่เป็น
“ขอบใจนะที่มาส่ง” ผมบอกตอนลงจากเบาะ
“ไม่เป็นไรคับ ผมเต็มใจ” มันพูดพลางยิ้ม ดวงตามันยังคงมีเสน่ห์ที่ใครเห็นแล้วก็อดหลงไปกะมันไม่ได้
พอดีเหลือบไปเห็นรถมาพอดี ผมก็เลยรีบลา แล้วก็กระโดดขึ้นรถ
ไม่ได้ๆ กรุจะมาใจอ่อนกะเด็กม่ะวานซืนได้ไงวะ(ห่างกันปีเดียว) กรุมีแฟนอยู่แล้วนะว้อย ผมคิดตอนอยู่บนรถ
มืดวันนั้น โอ้ตมันก็โทรมาหาผมตามปกติคับ ก็คุยๆกันไปเรื่อยๆ กว่ามหาลัยมันจะเปิดก็ตั้งต้นเดือนมิถุนา
ช่วงนี้มันก็เข้าหอแล้วคับ แต่โดนพวกรุ่นพี่นี่ดิ รับน้องกันแบบโหดๆทั้งนั้น ผมก็ถามว่าเค้ารับยังไงบ้างล่ะ
โอ้ตมันก็ได้แต่หัวเราะหึหึ แล้วก็ไม่ยอมบอกผม
“อย่าไปชอบใครที่โน่นล่ะ” ผมพูดดักคอ
“โห จะไปชอบใครล่ะ แล้วใครจะมาชอบเห้อะ” โอ้ตทำเสียงขำ
“ไม่รุ จะไปรู้เหรอไง ไปอยู่หอเอง จะทำอะไรก็ได้หนิ” ผมพูดประชดๆ
“แหม ไม่ไปมีใครหรอก ก็โอ้ตมีเด็กต้องดูแลที่เพชรอยู่ทั้งคนนี่นา” มันว่า
“เออ รู้ก็ดีแล้ว”
“เหอะๆ เป็นไร ดูทำเสียง ”
“ก็คิดถึงนี่หว่า”
“… หวงด้วย”
“ตอนเราอยู่ด้วยนี่น้า ไม่เห็นจะมาหึงเหิงแบบนี้เลย” โอ้ตมันว่า
“ก็มัน …” ผมพูดม่ะออกคับ เหอๆ
“ไม่รู้ล่ะ ตัดสินใจแล้วอ่ะ”
“ตัดสินใจว่าอะไร ? ”
“ปีหน้า ปริ้นจะเอนฯเข้า มช”
“ห๊า..!! ว่าอะไรนะ”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.