ตอนพิเศษ Merry X’mas
“เซเว่น อิ่มสะดวกสวัสดีครับ” เอาล่ะครับคงรู้กันแล้วว่าผมเป็นใครฮ่าๆก็ยัยพิตเขียนทุกรอบก็ขึ้นต้นแบบนี้ทุกรอบ
“ตองเว้ย”
“อะไรพี่โน๊ต”
“พรุ่งนี้คริสต์มาส ไม่ชวนผู้หมวดไปเที่ยวไหนเหรอ”
“หือ ต้องไปด้วยเหรอพี่” ผมถามด้วยความสงสัยสำหรับผมแล้วจะวันไหนๆมันก็เหมือนกันทั้งนั้น ผมไม่เห็นว่ามันจะพิเศษตรงไหน
“ไอ้ตองเอ้ย นี่แกเป็นแฟนภาษาอะไรว่ะ ไม่มีความโรแมนติกเลยสักนิด” พี่โน้ตบอก
“มันจำเป็นด้วยเหรอพี่”
“ไอ้ตองที่รัก แกเป็นเคะภาษาอะไรว่ะไม่ได้มีความโรแมนติกเล๊ย” ไอ้พี่นี่ ยิ่งพูดยิ่ง งง ผมเป็นเคะแล้วมันเกี่ยวอะไรกะความโรแมนติกครับ ถึงจะเป็นเคะแต่ผมก็เป็นผู้ชาย??นะครับ ไอ้จะให้ไปจิจ๊ะหวานแหว๋ว มันคงดูไม่เหมาะมั้ง
“ไม่ดีมั้งพี่ ผมว่าอีตาผู้หมวดของพี่คงไม่ว่างหรอกบ้างานขนาดนั้น”
“เออ ตามใจเว้ย ” พี่โน้ตบอกก่อนจะเดินเข้าหลังร้าน
ติ๊ดๆๆๆ
“อีก 10 นาทีไปถึงนะครับ มารอหน้าร้านเลยนะ”
ผมยิ้มให้กับข้อความก่อนจะลงมือเก็บของเพื่อออกมารอพี่โอ๋ที่หน้าร้าน คิดไปคิดมาก็เกือบปีแล้วสินะครับที่ผมรู้จักกับพี่โอ๋ ถ้าถามว่าตอนนี้ยังเสียใจอยู่ไหม คงต้องบอกว่าผมยังเสียใจ แล้วก็คิดถึงโออยู่ แต่หลังจากที่ทุกคนพยายามเตือนสติผมมาตลอดทำให้ผมเริ่มคิดอะไรได้หลายอย่าง ชีวิตคนเราต้องเดินไปข้างหน้าถ้าผมมัวแต่จมปลักกับความเสียใจและอดีตที่ทันเรียกคืนมาไม่ได้ ชีวิตผมคงมีแต่แย่ลง แต่คนที่ผมควรจะขอบคุณมากที่สุดก็คงเป็นพี่โอ๋ เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้พี่โอ๋ยังดูแลผมดีเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเมื่อไหร่พี่โอ๋ก็ยังอยู่ข้างผมเสมอ
“คิดอะไรอยู่เหรอตอง”
“อ้าวพี่โอ๋ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
“ก็มานานพอที่เห็นใครไม่รู้นั่งเหม่ออยู่หน้าร้านเนี่ย” พี่โอ๋บอกพลางยีหัว ผมเล่น
“เฮ้ยพี่ เดี๋ยวผมเสียทรงไม่เอาไม่เล่น”
“หึหึ เด็กน้อยเอ้ย ป่ะกลับกันได้แล้ว” พี่โอ๋ยิ้มก่อนจะพาผมไปที่รถ ใช่แล้วครับทุกวันนี้ผมเลิกขี่จักรยานกลับแล้ว ในเมื่อผมต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ผมก็ควรที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างซะ แต่ผมไม่ได้เอาไปขายนะครับจักรยานคันนั้นผมเอาไปบริจาคให้เด็กวัดที่วัดของหลวงพี่ฟง แต่ก็ตกใจนิดหน่อยเหมือนกันที่รู้ว่าท่านมรณภาพไปแล้วตั้งแต่หลายเดือนก่อน ยังอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่มีโอกาสไปกราบท่าน เพราะจริงๆแล้วถ้าไม่มีหลวงพี่ฟงวันนั้น ป่านนี้ไม่รู้ว่าผมจะเอาตัวเองออกมาจากความเศร้าได้หรือยัง
“ถึงแล้วครับ” พี่โอ๋บอกพลางสะกิดผม คงเห็นว่าผมนั่งเหม่ออีกแล้ว
“ตองเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมวันนี้เหม่อบ่อยจัง”
“เปล่าครับ ผมก็คิดอะไรไปเรื่อย ทำไมเป็นห่วงเค้าเหรอตัวเอง กิ๊วๆ” ผมล้อ
“เป็นห่วงสิ ตองก็รู้ว่าสำหรับพี่แล้วตองน่ะสำคัญที่สุดนะ” คำตอบของพี่โอ๋ทำเอาผมพูดไม่ออก นานแค่ไหนแล้วนะที่คนๆนี้ดูแลผม ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแฟนแต่เอาเข้าจริงผมก็ไม่เคยทำหน้าที่แฟนที่ดีเลยสักครั้ง เพราะแม้แต่คำว่ารัก ผมยังไม่เคยบอกพี่โอ๋เลย
“ขอโทษครับที่ทำให้เป็นห่วง ”
“แน่ะ เด็กน้อยเอ้ยพี่ไม่ได้ว่าอะไรเราซะหน่อย อย่าคิดมากสิ” พี่โอ๋บอกก่อนจะยิ้มให้ผม
“ขอบคุณนะครับ”
“หือ ขอบคุณทำไมครับ”
“ขอบคุณที่ดูผมมาตลอดไงครับ ขอบคุณจริงๆ”
“เฮ้อ พี่บอกตองแล้วไง ว่าพี่เต็มใจที่จะดูแลตองตลอดไป”
“แต่ว่า..”
“ไม่มีแต่ ไปนอนได้แล้ว ดึกแล้วไปเร็วๆ” พี่โอ๋บอกก่อนจะจูงมือผมไปส่งที่ห้อง
“เอ่อ พรุ่งนี้พี่ว่างไหมครับ”
“พรุ่งนี้เหรอ ไม่แน่ใจนะต้องรอถามพี่กันก่อน ทำไมเหรอ”
“คือถ้าพี่โอ๋ว่าง มาหาผมหน่อยได้ไหม”
ผมบอก เหอๆ ทำไม หน้ามันร้อนๆชอบกลก็ไม่รู้นะครับ ผมเป็นอะไรกันเนี่ย
“ครับ แล้วพี่จะมานะ ฝันดีนะครับ”
ผมมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆเดินห่างออกไปช้าๆ ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงใจดีกับผมขนาดนี้นะ เขาได้อะไรจากการดูแลเอาใจใส่ผมเหรอครับ เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่พี่โอ๋จะเรียกร้องเอาอะไรจากผม กลับเป็นผมซะอีกที่เอาแต่พึ่งพี่โอ๋ ตลอดเวลาที่ตกลงเป็นแฟนกันพี่โอ๋ทำเพื่อผมมามากแค่ไหนกัน แล้วผมล่ะเคยให้อะไรตอบแทนผู้ชายที่แสนดีคนนี้บ้าง ผมได้แต่ถามตัวเองอย่างอ่อนใจ
ติ๊ตๆๆๆ
“นอนได้แล้วนะครับ พี่รู้นะว่าตองยังไม่นอน เข้านอนเร้วววววววว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาได้ย้ายไปเชียงใหม่น๊า”
ข้อความเรียกรอยยิ้มที่ผมได้รับทุกคืนก่อนนอนทำให้ผมยิ้มไม่หุบ
“ขอบคุณนะครับพี่โอ๋” ผมพึมพำก่อนจะหลับตาลงตามที่ข้อความบอก
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังตั้งแต่เช้าทำให้ผมนึกสาปแช่งคนมาเคาะอยู่ในใจ ถ้าไม่มีเรื่องด่วนนะพ่อจะขบหัวให้เลยคอยดูสิ
“มาแล้วครับ” ผมบอกงัวเงีย
“น้องตองงงงงง”
“เอ่อ พี่อิทหวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่อิทแทบจะทันที เหอๆไอ้ที่แช่งๆไปเมื่อกี้ลืมมันให้หมดนะครับ อย่าไปบอกพี่แกนะ
“แล้วนี่พี่กรล่ะครับ”
ผมถามเพราะปกติ คู่นี้เขาห่างกันได้ที่ไหนเหมือนซื้อหนึ่งแถมหนึ่งอ่ะครับ
“ไม่มาหรอก คือตองพี่ขอเข้าไปหลบในห้องก่อนได้ไหม”
“คะ ครับ” ผมรับคำทั้งๆที่ยัง งงๆ ว่าพี่อิทแกเล่นอะไรอยู่
“รู้ไหมวันนี้วันอะไร” มาแปลกนี่พี่ผมเบลอจนจำวันไม่ถูกแล้วเหรอครับ
“วันอาทิตย์ไงพี่”
“ตองเอ้ย นี่แกเกรียนหรือแกซื่อเนี่ย”
“วันนี้วันคริสต์มาสไง ”
“แล้วไงครับ” ผมก็ยัง งง ว่ามันเกี่ยวกับที่พี่อิท มาหาผมแต่เช้าตรงไหน
“คือว่าวันนี้ช่วยพี่ทำเค้กไปเซอร์ไพส์ กร หน่อยสิ นะตองนะ” เอ๋ พี่อิทเนี่ยนะครับทำเค้ก ผมว่าหิมะตกเมืองไทยแน่ๆ
“เอ่อ มันจะดีเหรอพี่” กลัวจริงๆนะครับเนี่ย ผมไม่อยากจินตนาการว่าห้องผมจะเละขนาดไหนถ้าพี่อิทแก เกิดทำเค้กขึ้นมาจริงๆ
“ดีสิ น่านะพี่สัญญาว่าจะไม่ทำห้องตองเลอะ นะๆๆ”
“ครับ เอาก็เอา”
“โอเค งั้นพี่ลงมือเลยนะ”
ปึก โป๊กๆๆ ตุ๊บๆๆๆ เอ่อ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงซ่อมท่อนะครับ คือตอนนี้ผมกับพี่อิทกำลังทำเค้กกันอยู่นะครับ แหะๆ
จะว่าไปไอ้การทำขนมนี่มันก็สนุกดีนะผมว่า ถึงจะเหนื่อยไปนิดจุกจิกไปบ้างก็เถอะ
“เสร็จแล้ว” พี่อิทบอกอย่างดีใจ ก่อนจะมองผลงานตัวเองอย่าภูมิใจ ไอ้จะบอกตรงๆว่ามันไม่ค่อยจะสวยก็เกรงใจเพราะผมเห็นพี่อิทตั้งใจทำตั้งแต่เช้าจนตอนนี้จะเที่ยงแล้ว แกก็ยังไม่เลิกทั้งที่ทำเสียไปเป็นสิบๆอัน
“อิอิ ตองว่ากรจะชอบไหม” พี่อิทหันมาถามผม
“ชอบสิ พี่กรน่ะรักพี่อิทจะตายอะไรที่พี่อิททำให้พี่กรต้องชอบแน่ๆ”
“เหรอ ตองคิดแบบนั้นจริงๆ”
“ครับ”
“นี่ตองรู้ไหมว่าเค้ก ก้อนนี้เป็นเค้กก้อนแรกในชีวิตพี่เลยนะ ตั้งแต่เกิดมาพี่ไม่เคยเข้าครัวเลยสักครั้งเพราะเข้าทีไรพังครัวทุกที แต่ว่า พี่ตั้งใจอยากจะทำเค้กให้กร ไม่รู้สิสำหรับพี่กรเป็นมากกว่าแฟน เพราะกร คือ หัวใจของพี่อาจจะฟังดูเสี่ยวๆไปบ้างแต่พี่ก็คิดแบบนั้นจริงๆนะ จนมาถึงวันนี้พี่ยังนึกขอบคุณความบังเอิญที่ทำให้พี่เจอคนดีๆอย่างกร” พี่อิทพูดราวกับเพ้อฝันแต่ผมรู้ว่าทุกคำที่พี่อิทพูดมันออกมาจากใจจริง พี่อิทรักพี่กรมาก มากจนทำให้ไม่ท้อกับอุปสรรคที่เจอถึงต้องรออย่างไร้จุดหมายตั้งสามปีแต่พี่อิทก็ไม่เคยท้อ ผมนับถือในความักของพี่สองคนมากเลยนะครับเพราะไม่ง่ายเลยกว่าพี่เขาจะลงเอยกัน
“ตอง ตอง น้องตอง”
“คะ ครับ”
“เหม่ออีกแล้ว พี่จะบอกว่า พี่ไปแล้วนะต้องรีบกลับเผื่อ ท่านด๊อก(เตอร์)กลับมาจะได้ไม่สงสัย ไปแล้วนะ บายๆๆ”
“อ้อ เตรียมของขวัญให้ผู้หมวดรึยังล่ะ”
“ครับ ก็คิดๆไว้แล้ว”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ”
22.00 น
ก๊อกๆๆๆ
“ครับ”
“ขอโทษนะตอง พอดีมีงานต้องเคลียร์นิดหน่อยเลยมาดึก” พี่โอ๋บอกทันทีที่เข้ามาในห้อง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรอได้”
“แล้วพี่โอ๋กินอะไรมาหรือยังครับ”
“ยังเลย หิวม๊ากกกกกกกก ตองล่ะ”
“ยังเหมือนกันครับ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำอะไรให้กินนะ”
“เดี๋ยวครับ พี่โอ๋” คนถูกเรียกหันมามองผม พลางขมวดคิ้ว
“อะไรเหรอตอง”
“พี่โอ๋เชื่อเรื่อง ซานตาครอสไหมครับ”
“หืม ถามอะไรเนี่ยตอง ”
“ตอบมาเถอะน่า เร็วๆ”
พี่โอ๋ยิ้ม ก่อนจะดึงผมออกไปยืนที่ระเบียง
“ไม่รู้สิ คงเชื่อมั้ง เฮ้อ แต่ถ้ามีซานตาครอสจริงๆพี่ก็อยากขอของขวัญเหมือนกันนะ”
“ขออะไรเหรอครับ”
“ไม่บอก เพราะพี่จะเก็บไว้บอกคุณลุงซานต้าคนเดียว”
“ตามใจ ชิ” ผมบอกงอนๆ
“ออ แล้วพี่โอ๋รู้ไหมว่าถ้าซานตาครอสมีจริงผมอยากได้อะไร” ผมถามพี่โอ๋ ก่อนจะมองดาวบนฟ้า ถ้าคุณลุงซานต้ามีจริงจะบินผ่านมาทางนี้ไหมน๊า
“พี่จะรู้ไหมครับ”
“ตอนเด็ก ผมเคยขอซานต้าว่า ผมอยากได้ใครสักคน คนที่จะคอยอยู่ข้างผมคอยปกป้องไม่ให้ผมถูกรังแก ”
“แต่ตอนนี้ ผมไม่อยากได้แล้วล่ะครับ”
“อ้าว ทำไมล่ะ” พี่โอ๋ถามอย่างแปลกใจ
“ก็เพราะว่า คนๆนั้นอยู่ตรงหน้าผมแล้วไง”
“หือ มะ เมื่อกี้ ตองพูดว่าไงนะ”
“ผมบอกว่า ผมไม่ต้องการใคร เพราะตอนนี้ ผมมีพี่คอยดูแลอยู่แล้ว ผม เอ่อ ตอง…..”
“ตองรักพี่โอ๋นะครับ” ผมบอกก่อนจะก้มหน้าเพราะความอาย
“ตอง พี่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ผมรับรู้ถึงแรงกอดรัดที่เพิ่มมากขึ้นจากอีกคน พร้อมกับความอบอุ่นที่ซึมผ่านไปถึงหัวใจ
“ตองรักพี่โอ๋นะ”
“พี่ก็รักตอง ”
เสียงบอกหนักแน่นที่มาพร้อมๆกับอ้อมกอดที่อบอุ่น ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ในที่สุดหัวใจที่บอบซ้ำของผมก็ได้รับการเยียวยาสักที วันนี้ผมยอมรับอย่างเต็มหัวใจว่าผมรักผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ามาก คนๆนี้ทำให้ผมกลับขึ้นมายืนอยู่บนโลกนี้ได้อีกครั้งพี่โอ๋เป็นเหมือนของขวัญที่ทำให้ผมยิ้มได้ในเวลาที่ผมทุกข์ที่สุด นับจากวันนี้ไปจะไม่ได้มีแต่พี่โอ๋ที่จะดูแลหัวใจของผม แต่ผมจะดูแลหัวใจของพี่โอ๋เหมือนกัน
Merry X’mas นะครับทุกคน ผมขอให้ทุกคนมีความสุขและพบเจอรักแท้อย่างที่ผมเจอนะครับ
------------------------------------------------------------------------
จริงๆจะลงตั้งนานแล้วแต่ติดอะไรนิดหน่อยคงไม่ว่ากันนะค ^^