แอบมาลง หุหุ ใบ้ให้ว่าใกล้จบแล้ว
ตอน 4
ภาคตอง
หลังจากวันที่บอกรักผม พี่โอ๋ก็ทำเหมือนปกติทุกวัน คือการมารับผมกลับห้องหลังเลิกงานแต่ที่แปลกคือทุกวัน
จะต้องมีข้อความส่งมาถึงผมเสมอ นี่ผมกำลังโดน จีบ ใช่ไหมครับ เจอกันทีไรก็เป็นผมที่ทำหน้าไม่ถูกไม่รู้จะทำยังไงจริงๆครับ
“ตองเหม่ออะไร ทำไมยังไม่ขึ้นห้องอีก”
“อ้อ เปล่าหรอกครับ งั้นผมไปนะครับ”
“เดี๋ยวก่อนตอง”
“ฝันดีนะ แต่ถ้าจะให้ดีฝันถึงพี่บ้างก็ได้” “อะ เอ่อ” ผมอึ้งกับคำพูดของพี่โอ๋ที่นับวันมันจะแปลกขึ้นจนผมทำตัวไม่ถูก
ถ้าถามว่ารู้สึกยังไงที่ได้ฟัง ต้องบอกว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ดีเสียอีกที่มีคนมาทำให้คลายเหงาลงบ้าง
แต่สำหรับผมแล้วความรู้สึกที่มีให้พี่โอ๋ตอนนี้ ยังคงเป็น พี่ชาย อยู่ดี
“โอ ตองจะไม่ไหวแล้วนะ ตองสับสนมากเลย โอช่วยตองคิดหน่อยสิว่าต้องทำยังไง” รูปบนหัวเตียงยังเป็นที่พักพิงให้ผม
ในเวลาที่อ่อนล้าเสมอ ในวินาที ที่ผมหาทางออกไม่เจอแบบนี้ ผมอยากเจอโอจังเลยครับ
“เกลียดชีวิตในวันที่ไม่มีเธอ เกลียดความเหงาที่คอยกัดกินหัวใจ เกลียดที่ต้องรู้สึก ว่าไม่มีใคร ต้องใช้ชีวิตลำพัง ” เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อที่โชว์อยู่บนหน้าจอ ทำให้ผมต้องยิ้มกว้างทันที
“ครับพี่อิท”
“ตองอยู่ไหน เลิกงานแล้วใช่ไหม”
“ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้อง พี่อิทมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เออๆ เดี๋ยวพี่กับกรเข้าไปหาเอาอะไรไหมเดี๋ยวซื้อไปให้”
“ไม่หรอกครับ ”
“อืม งั้นแค่นี้นะ”
ผมยิ้มให้โทรศัพท์หลังจากที่พี่อิทวางสายไป พี่ชายคนนี้จะว่าไปแกเหมือนหมอดูนะครับ
ทุกครั้งที่ผมทุกข์หรือหาทางออกไม่ได้ พี่อิทจะคอยอยู่ข้างๆเสมอ
ตั้งแต่เรื่องของโอแล้ว บอกตามตรงว่าถ้าไม่มีพี่ๆให้กำลังใจผมก็ไม่รู้ว่าจะผ่านมันมาได้ยังไงเหมือนกัน
ก๊อกๆ ๆ พูดถึงก็มาเลยแต่เอ๊ะ ผมว่ามันเร็วไปนะครับ
“ทำไมมาเร็วจังเลยล่ะพี่อิท…………………พี่โอ๋” O_o
เฮ้ย !! แล้วพี่โอ๋มาอยู่หน้าห้องผมได้ยังไง ร้อยวันพันปีไม่เคยขึ้นห้องผมสักครั้ง
“เอ่อ ตองคือ รถพี่เสียน่ะ แต่พี่โทรเรียกช่างแล้วนะอีกหน่อยคงมา แต่ว่าข้างนอกฝนมันตกน่ะ พี่ขอหลบฝนก่อนได้ไหม”
“เอ่อ…ดะ ได้ครับ”
“เอ่อ..ดะ ได้ครับ” น้องตองบอกก่อนจะหลีกให้ผมเข้ามาในห้อง
ห้องที่ผมไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ขึ้นมาด้วยซ้ำ หรือต้องขอบคุณ
รถเจ้ากรรมที่ดันเสียพอดีแถมมีฝนตกด้วยอีกทำไมชีวิตผมมันเหมือนฉากละครไทยได้ขนาดนี้ครับเนี่ย
“พี่โอ๋เช็ดผมหน่อยดีกว่าครับ” น้องตองเอาผ้าขนหนูยื่นให้ผมก่อนจะนั่งลงบนเตียง
ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่สักพักก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเขียนหนังสือบ้าง ผมเช็ดผมไปด้วย
พลางกวาดสายตามองรอบๆห้องไปด้วย ทุกทีในห้องๆนี้เต็มไปด้วยความทรงจำของไอ้โอกับน้องตองจริงๆนะครับ
ไม่ว่าจะเป็นหัวเตียง โต๊ะเขียนหนังสือ ฝาผนัง ก็มีรูปไอ้โอกับน้องตองอยู่เต็มไปหมด
พอเห็นแบบนี้แล้วหัวใจมันเจ็บขึ้นมาซะเฉยๆเลยครับ
“ขอโทษนะ เลยพลอยทำให้ตองลำบากไปด้วยเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ”
แล้วบทสนทนาก็จบอยู่แค่นั้นเราสองคนนั่งเงียบๆกันอยู่คนละมุม เอ่อ
บรรยากาศมันชวนอึดอัดแปลกๆนะครับดีนะที่ยังมีเสียงฝนตกให้ได้ยินบ้าง
“เกลียดชีวิตในวันที่ไม่มีเธอ เกลียดความเหงาที่คอยกัดกินหัวใจ เกลียดที่ต้องรู้สึก ว่าไม่มีใคร ต้องใช้ชีวิตลำพัง ” เสียงริงโทนดังขึ้นทำลายความเงียบระหว่างเราสองคน
“ครับพี่อิท”
“ไม่เป็นไรครับ อยู่ได้ครับ”
“ครับ”
“สวัสดีครับ”
น้องตองวางสายไปแล้ว แล้วความเงียบที่ชวนอึดอัดก็กำลังจะเกิดอีกรอบเหรอครับเนี่ย
ฝนที่ตกอยู่ข้างนอกเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นตกหนัก เสียงฟ้าร้องดังก้อง จนผมสะดุ้ง
เอ่อ ผมบอกหรือยังว่าผมกลัวฟ้าร้อง แต่อย่าไปบอกใครนะครับเรื่องนี้น่ะความลับสุดยอด
ตำรวจสุดเท่อย่างผมจะมานั่งกรี๊ดกะเสียงฟ้าร้องมันเสียฟอร์มน่ะครับ แต่ผมกลัวจริงๆนะT^T
“เอ่อ พี่โอ๋ดูท่าทางไม่ค่อยดีเลยนะครับ ไม่สบายหรือเปล่า” น้องตองถามแล้วจะให้ผมตอบยังไงล่ะนั่น
บอกความจริงก็ไม่ได้เสียฟอร์มแย่
“ปะ เปล่าครับ พี่สบายดี”
ครืน เปรี๊ยง!!! เสียงฟ้าร้องข้างนอกทำให้สะดุ้งจนเกือบร้อง จ๊าก ดีนะยั้งปากไว้ทัน
“พี่โอ๋เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” น้องถามอีกรอบ
“เอ่อ คือพี่”
เปรี๊ยงงงงงงงงงงง!!!
“ว๊ากกกกกกกก” ผมตะโกนสุดเสียงหลังจากที่ฟ้าผ่าลงมา เอ่อ คงไม่ต้องบอกนะครับว่าน้องตองจะตกใจแค่ไหน
ผมยังตกใจตัวเองเลย ร้องได้ตุ๊ดมาก
“พี่โอ๋ กลัวฟ้าร้องเหรอครับ” น้องถามเหมือนกลั้นหัวเราะ
“คะ ครับ” หมด หมดกัน ชีวิตผม
“ถ้างั้น เอาอย่างงี้แล้วกัน” น้องตองเดินมาจูงผมไปนั่งที่เตียงก่อนจะกุมมือผมไว้แน่น
“ทีนี้ ก็ไม่ต้องกลัวแล้วเนาะ ” ^^
ทั้งรอยยิ้มจริงใจและมือที่กุมแน่นทำให้ผม ยิ้มออกกี่ครั้งแล้วที่ผู้ชายตัวเล็กหน้าหวานคนนี้ช่วยผมไว้
กี่ครั้งที่รอยยิ้มนี้ทำให้ผมคลายกังวล ผมชักจะอยากให้ฝนตกทั้งวันทั้งคืนแล้วสิครับ ไม่อยากให้คืนนี้มันผ่านไปเลย
เหมือนจะสั้น สั้นได้อีก ทำไมเรื้องนี้สั้นจังเลยเนาะ