ตอน 28: S & M วันรุ่งขึ้นเป็นวันศุกร์ ผมหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาโรงเรียนด้วยเพราะวันนี้จะต้องนอนค้างที่โรงเรียนเพื่อติวหนังสือกัน ส่วนไอ้เวอร์มันก็ยังมาเรียนสายอีกตามเคย เรื่องนี้แหละที่ทำให้ผมยังวางใจไม่ได้ ว่ามันจะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพย์ติด (หรือเรื่องน้องจั๊ดจั่นหว่า ) เพราะมันตาคล้ำมาเรียนแทบทุกเช้า วันนั้นตอนเช้าผมย้ายมานั่งด้านหลังกับไอ้อุ้ย ให้ไอ้ตุ๊ไปนั่งด้านหน้ากับไอ้เวอร์ ยังนึกงอนมันไม่หาย ว่าแล้วเชียวช่วงนี้มันไม่ค่อยมาเจ๊าะแจ๊ะกับผม นึกว่ามันเห็นผมวุ่นๆเรื่องการสอบเลยไม่มากวน ที่ไหนได้ไปติดหญิงนี่เอง แล้วจะไปติดยาด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แต่ ... เวน ให้ไอ้สองคนนี้ไปนั่งด้านหน้าแบบนี้ ผมจะมองเห็นกระดานดำได้ไงล่ะเนี่ย ... ใครก็ได้ เอาเสาโทรเลข ออกไปจากข้างหน้าผมทีททททท
ช่วงพักเที่ยงผมก็ขึ้นไปที่ห้องวิยาศาสตร์เหมือนเดิม แต่เหมือนจะอาจารย์วัฒน์จะยังไม่ขึ้นมา ในห้องไม่มีใครอยู่เลย ผมเดินไปนั่งที่โต๊ะด้านหลังห้องตัวเดิม ลงมือทำข้อสอบที่ทำค้างไว้จากเมื่อวาน ผมคงนั่งทำข้อสอบจนเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีอาจารย์วัฒน์ก็เดินมาอยู่ข้างหลังผมแล้ว
“ทำข้อสอบถึงไหนแล้ว ครบหมดทุกข้อหรือยัง” อาจารย์วัฒน์ถามผม ตอนนี้อาจารย์ยืนด้านหลังผม พร้อมเอามือมาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง
“อังกฤษ กับ คณิต เกือบหมดแล้วครับ แต่วิทย์นี่สิ โจทย์ย้าวยาว อ่านแล้วชวนงง”
“โจทย์ยาวก็ดีแล้วนี่ แสดงว่า เรายิ่งมีข้อมูลในการตอบคำถามมากขึ้น (อาจารย์หลายคนชอบพูดปลอบใจเวลาออกข้อสอบแล้วโจย์ยาวๆ -..,- )”
“แหะๆ จริงเหรอ’จารย์ ยิ่งอ่านมันยิ่งงงนี่สิ”
“แล้ว...ไหนข้อนี้ ทำไมคำนวณจุดโฟกัสได้ออกมาเท่านี้ล่ะ ข้อนี้จุดโฟกัสควรจะวัดจากตรงนี้ถึงตรงนี้ต่างหาก” อาจารย์นั่งลงข้างๆผม แล้วชี้โจทย์ข้อที่ผมทำผิดให้ดู แต่หน้าอาจารย์นี่สิ ยื่นมาซะไกล้ผมเชียว ผมเงยหน้าขึ้นมาโดยไม่ทันระวัง จนจมูกของผมเฉียดไปกับแก้มของอาจารย์ ผมเห็นอาจารย์ชะงักไปนิดนึง แล้วหันมายิ้ม อันที่จริงคนที่จะอายน่าจะเป็นอาจารย์ แต่กลับกลายว่าเป็นผมต่างหากที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง
“เอ่อ...ผมขอโทษครับ” อาจารย์ไม่พูดอะไร แค่ยิ้ม แล้วสอนผมทำข้อสอบข้ออื่นๆต่อ แต่ผมนี่สิ ไม่มีสมาธิจะจดจ่อกับแบบฝึกหัดตรงหน้าแล้ว ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ ทำให้ผมเองหัวใจเต้นแทบจะทะลุออกมาข้างนอก จมูกโด่งๆนั่น ริมฝีปากแดงและบาง ฟันทีขาวสะอาด เรียงกันสวยงามราวกับเมล็ดข้าวโพด(ใช้มั่ง เห็นนักเขียนชอบใช้คำนี้กัน หุหุ) ทำให้ผมอดใจไม่ได้ที่จะชำเลืองมองอาจารย์เป็นระยะๆ อาจารย์เองก็คงจะรู้ เพราะผมเห็นอาจารย์แกก็สอนไปยิ้มไปตลอดเวลา จนถึงบ่ายโมงเมื่อเสียงออดดังขึ้น
“บ่ายโมงแล้ว ครูต้องไปสอนละ แล้วเรามีเรียนอะไรล่ะ”
“ภาษาอังกฤษครับ กับอาจารย์อ๋อย”
“อ้อ งั้นครูไปก่อนนะ แล้วเจอกันตอนเย็น เตรียมเสื้อผ้ามาแล้วใช้ไหม”
“ครับเตรียมมาแล้ว งั้นเจอกันตอนเย็นครับ ขอบคุณนะครับอาจารย์” ผมยกมือไหว้ อาจารย์ยิ้มรับ แล้วหยิบหนังสือเดินออกไป น่ารักอีกแล้วอ่าาาาาาาา

ส่วนผมก็หยิบหนังสือเรียนเดินออกจากห้อง ทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าไว้ที่นี่เดี๋ยวตอนเย็นค่อยมาเอา ผมเดินลงบันไดจากชั้นสอง ผ่านห้องน้ำอาจารย์ที่อยู่ระหว่างบันไดทางขึ้นลง ทันใดนั้นก็มีมือใครบางคนมาคล้องเอวผมไว้ ยกผมลอยหวือเข้าไปในห้องน้ำอาจารย์
ปึง! แกร๊ก ! ประตูห้องน้ำถูกปิด และล็อคลงภายในคราวเดียวกัน ผมถูกวางลงตรงผนังห้องน้ำ พร้อมกับสายตา คู่พิฆาตคู่นั้น ของคนที่ลากผมเค้ามา
“ไอ้เวอร์! ทำเชี่ยไรเนี่ย” ไอ้นี่ ผีเข้าผีออก อะไรอีกล่ะ
“เมื่อวานไอ้ตุ๊ บอกว่ามึงถามหากู กูเลยมาตามหามึงที่นี่”
“ไหนละ มีอะไรจะพูดกับกู”
“เอ่อ...”
“พูดอะไรไม่ออกเหรอ ทำไม ความรักมันจุกอกมึงอยู่เหรอ”
“พูดบ้าอะไรของมึง”
“ทำไมแค่กูกับไอ้ตุ๊ ไม่พอรึไง จะขาดผู้ชายไม่ได้เลยเหรอมึง” อะไรของมึงเนี่ยยยยย ไปกินรังต่อรังแตนที่ไหนมา
“พูดเหี้ย ไรของมึงเนี่ย”
“ก็เห็นหายมาขลุกอยู่ที่นี่ตลอด มาติวหนังสือ หรือมาทำอย่างอื่นกันแน่วะ” อะไรเนี่ย กูทำผิดอะไรอีก กูมาติวหนังสือนะ
“มึงจะพูดอะไร มึงพูดมาตรงๆเลยดีกว่า กูไม่ชอบอ้อมค้อม”
“เอออยากให้กูพูดตรงๆใช่มะ มึงนั่งทำอะไรกับอาจารย์ตะกี้นี้ อย่าบอกนะว่าติวหนังสือกัน กูเห็นแทบจะขี่คอกันอยู่แล้ว แล้วติวหนังสือนี่เค้ามีหอมแก้มกันด้วยเหรอวะ หา!” เฮ้ยยยยย ตอนไหน มึงตาฝาดแล้ววว
“แม่งเอ๊ย! ทีกับกูละทำเป็นเล่นตัว ที่กับคนอื่นร่านกับเค้าไปทั่ว” โห ว่ากูร่านเหรอมึง ฟังเหตุผลกูมั่งสิวะ น้ำตาปริ่มอีกละ รู้สึกน้อยใจมันมาก ที่มันไม่ยอมให้ผมได้พูดอะไรเลย มาถึงก็ใส่เอาใส่เอา
“แล้วทีมึงล่ะ บอกว่ารักกูๆ ยังแอบไปเฝ้าคนอื่นได้ทุกวี่ทุกวัน เรื่องน้องจั่นน่ะ อย่านึกนะว่ากูไม่รู้” อะไรเนี่ยกูพูดอะไรออกไป โดนสองดอกเลย ดอกที่หนึ่งเท่ากับว่ากูหึงมัน ดอกที่สองเท่ากับว่ากูยอมรับว่าแต๊ะอั๋งอาจารย์จริงล่ะสิเนี่ย ไอ้เวอร์มันดูชะงักไปนิดหนึ่ง
“อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง แบบนี้มึงยอมรับแล้วสินะว่า มึงกับอาจารย์ทำอะไรกันจริงๆ เชี่ยเอ๊ย! ” มันสบถ พร้อมจับผมขึงเข้ากับผนังห้องน้ำ มันบีบข้อมือผมซะแรง
“กูไม่เคยคิด ไม่เคยทำอะไรเหี้ยๆ แบบที่มึงพูดมา มึงมันโรคจิต หมาบ้า เที่ยวกัดเค้าไปทั่ว” พูดอะไรไม่เคยจะเชื่อกูเลย
“เหรอ ไม่ได้ทำ แล้วที่กูเห็นล่ะมันอะไร กูเชื่อมึงก็ควายแล้ว เห็นตำตาขนาดนี้ เสาร์ อาทิตย์ก็มานอนด้วยกัน ได้กันไปกี่หนแล้วล่ะ ทีกับกูละเล่นตัวดีนัก” เออ ควายนะสิ ควายที่ไม่เชื่อกู อารมณ์นี้โกรธมากกว่า โกรธที่ไม่ได้ทำอะไรผิด พูดไปแล้วมันดันไม่เชื่ออีก มันดันผมเข้าชิดกับผนังมากขึ้นอีก แล้วเอาขาข้างหนึ่งสอดเข้ามาระหว่างขาผม แล้วก็ทำอย่างที่มันเคยทำ มันเริ่มซุกไซร้ซอกคอผม ทั้งซอกคอ ทั้งติ่งหู อารมณ์โกรธตอนนั้นไม่ได้ทำให้ผมเคลิ้มไปกับมันมากนัก ผมพยายามดิ้น ให้หลุดจากมัน ปากก็ร้องให้มันปล่อยผม
“ปล่อยนะ มึงจะทำอะไร เชี่ย ปล่อยกู อ๊า..” แต่แรงมดอย่างผมหรือ จะไปสู้แรงช้างอย่างมันได้ ผมเหลือบไปมองมัน เห็นเป้าหมายคือซอกคอมันที่ตอนนี้ กระดุมมันถูกปลดลงไป 2 เม็ด (ตอนไหนวะ) ในที่สุดผมตัดสินใจงับเข้าที่ตรงซอกคอมัน แล้วกัดเต็มแรง มันชะงักไปนิดหนึ่ง ผมคิดว่ามันจะร้อง แล้วผละออกจากผม แต่เปล่าเลย ผมได้ยินแค่มันทำเสียง อึ๊ก ในลำคอ แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี แถมรุกผมหนักยิ่งกว่าเดิม ทั้งขบทั้งเม้มผม จนเจ็บไปหมด (สงสัยจะยิ่งไปกระตุ้นความหื่นของมันเข้าไปอีก บอกแล้วไอ้นี่มันซาดิสม์) ผมกัดแรงขึ้นอีก กัดจนรู้สึกว่ามีรสชาติเค็มๆออกมา คิดในใจว่าคงเป็นเลือดมันออกมาแน่ ในใจหนึ่งอยากจะกัดให้เนื้อขาดหลุดออกมาเลย แต่ผมก็ทำไม่ได้ อารมณ์ตอนนั้นกลับกลายเป็นว่ารู้สึกผิด สงสารมัน กลัวมันเจ็บซะงั้น จนท้ายทีสุด ผมก็ต้องละปากจากคอมัน เผยให้เห็นรอยกัดเป็นรูปฟันที่คอมัน มีเลือดไหลซิบๆออกมา พอเห็นเลือดที่ไหลซิบๆออกมาแบบนี้แล้วก็อดสงสารมันไม่ได้ มันเห็นผมไม่ขัดขืนมันต่อแล้ว มันก็หยุดไซร้ผม ผละออกมามองหน้าผม มันปล่อยมือข้างหนึ่งของผมให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือข้างนั้นของมัน บีบคางผมขึ้น มันบีบปากผมไว้แล้วก็ประกบปากมันเข้ามา เหมือนอย่างที่มันเคยทำ หากแต่ว่าครั้งนี้จะดูรุนแรงเร่าร้อนกว่าที่เคยเป็น
“อึ๊....” มันใช้ฟันขบริมฝีปาก ผมเจ็บจนน้ำตาไหลออกมา(ไอ้ซาดิสม์) แล้วมันก็มันสอดลิ้นเข้ามา แรกๆผมก็เจ็บ แต่ในที่สุดก็ระทวยไปกับรสจูบของมัน (ฮ่า ฮ่า สุดท้ายก็ S&M พอกัน) ผมได้แต่คิดในใจ...ไม่รอดซะละมั้งกู วันนี้... แต่...เดี๋ยวก่อน ตะกี้มันเพิ่งด่าผมว่าร่านไปแหม็บๆ อย่าคิดว่าผมจะลืมนะ แล้วที่มึงทำแบบนี้กับกูอยู่ก็เพราะคิดว่ากูร่านใช่มะ เออดี แล้วมึงจะได้เห็นว่ากูไม่ได้เป็นอย่างที่มึงด่ากูนะ คิดได้ดังนั้น ก็ตั้งสติแล้วผละปากออกจากมัน ผมใช้มือข้างที่ถูกปล่อยเป็นอิสระแล้วนั้น สวนหมัดเข้าที่ท้องมันไป 1 หมัด ได้ผลครับ มันละมือจากผม เอามือกุมท้อง แล้วลงไปนั่ง ร้องโอย เลยครับ ผมรีบผละออกจากมัน เปิดประตูห้องน้ำแล้วเผ่นแน่บ ออกเลยครับ
ผมมาถึงห้องเรียน จน 15 นาทีผ่านไปก็เห็นไอ้เวอร์เพิ่งเดินเข้ามาห้องเรียน ที่คอมัน เห็นมีผ้าก็อตช์ติดอยู่ มันคงเดินไปทำแผลมาเรียบร้อยแล้ว โล่งอกไปที ที่ตะกี้ผมทั้งกัด ทั้งต่อยท้อง แล้วมันไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ไปโดนไรมะวะ ที่คอน่ะ” ไอ้อุ้ยถาม
“หมากัดว่ะ” มันพูด พร้อมกับมองมาทางผม แง่งงงง แล้วไม่บอกไปด้วยล่ะ ที่เมิงโดนหมากัดน่ะเพราะว่าจะไปปล้ำหมาน่ะ (อ่าว งี้กูก็เป็นหมาจริงๆอ่ะดิ) ผมเกือบจะแยกเขี้ยวใส่มัน แต่ก็ต้องรีบระงับอารมณ์ไว้ ทำหน้านิ่ง เดี๋ยวโดนไอ้ 2 คนที่มองอยู่จับได้ ว่าหมา เอ๊ยยย!!! ผม...เพิ่งไปฟัดกับไอ้เวอร์มา