ตอนนี้มาดึกเลยเพราะเช้าไม่รู้จะว่างตอนไหนรีบมาลงให้อ่านกันก่อน ^^ตอนที่ 14วิน“กัสพร้อมฟังวินแล้วมีอะไรก็พูดมาให้หมด”
ประโยคนี้เป็นประโยคที่หนุ่มหล่อที่มีร่างบางนั่งข้างกันอีกฝั่งของเก้าอี้อยากได้ยินมากมาตลอด 1 ปี
“เรื่องที่เกิดเมื่อคืนนั้นมันเกิดขึ้นจริงกัสไม่ได้เข้าใจผิดหรอก”
ร่างหนาหันมองหน้าด้านข้างของร่างบางที่มองตรงไปข้างหน้านิ่ง จับสังเกตถึงความผิดปกติเมื่อเค้าพูดจบประโยค แต่ไม่มีความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าที่เค้าจับจ้องอยู่ จึงเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น
“วินมีอะไรกับแนทคืนนั้น แนทเป็นเพื่อนคณะเดียวกันกับวินเจอกันคืนที่วินไปผับ ถ้ากัสยังจำได้วินบอกกัสว่าคืนนั้นเพื่อนในกลุ่มนัดเจอกัน เราเจอกันโดยบังเอิญแนทมาขอนั่งด้วยเมื่อเห็นวินกับฟินนั่งอยู่แค่ 2 คนส่วนคนอื่นกลับกันไปก่อนแล้ว เราคุยกันเรื่องทั่วๆไปและวินยืนยันได้ว่าวินไม่เคยคิดกับแนทเกินเพื่อน”
เค้าจับจ้องร่างข้างๆตลอดขณะเล่ากลัวว่าร่างนี้จะลุกหนีก่อนที่เค้าจะพูดจบ แต่ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากร่างบาง ยังคงนั่งมองตรงไปข้างหน้านิ่งเฉย
“จนได้เวลากลับคืนนั้นวินกลับเร็วกว่าปกติเพราะวันรุ่งขึ้นมีเรียนเช้าและเย็นต้องไปรับกัส จึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำและ
เครียร์บิล กลับมาที่โต๊ะตามหาไอ้ฟินมารู้จากแนทว่ากลับไปกับเพื่อนแนทที่มานั่งด้วยกันก่อนแล้ว แนทขยั้นขยอให้วินดื่มเครื่องดื่มที่เหลือและขอให้วินไปส่งเพราะเหลือตัวคนเดียวแล้ว วินไม่คิดอะไรมากก็ดื่มๆไปจะได้รีบกลับห้องซะทีและอีกอย่างแนทก็เป็นเพื่อนจึงไว้ใจไม่คิดอะไร หลังดื่มหมดวินก็ชวนกลับเราเดินกันไปที่รถวินตอนนั้นวินร้อนวูบวาบแปลกๆและเริ่มมึนหัว หลังจากนั้นก็มารู้สึกตัวจริงๆก็ตอนที่ได้ยินเสียงกัสร้องไห้”
เล่าถึงตอนนี้ความเจ็บแล่นเข้ามาที่อกเค้าเหมือนเมื่อครั้งที่เห็นคนตัวเล็กนี้ร้องไห้ในวันนั้น เค้าสังเกตเห็นแววตาด้านข้างของคนตรงหน้าไหววูบมีน้ำตาวาวซักพักก็หายไป อยากเอื้อมมือไปโอบกอดแต่ตอนนี้เค้าไม่มีสิทธิทำแบบนั้นกับคนตรงหน้า
“วินเจ็บมากนะกัสที่เห็นกัสร้องไห้เพราะวิน วินมีอะไรกับคนอื่นจริง แต่วินไม่เคยนอกใจกัสนะครับ”
น้ำตาของร่างบางไหลมาตามแก้มเป็นสายจากตอนแรกสามารถสะกดกั้นไว้ได้มือจิกเกร็งลงไปที่หน้าขาของตน ทำให้เค้าอดใจไม่ได้เอื้อมมือคว้ามือนุ่มทั้ง 2 มากอบกุมไว้ไม่ให้ร่างบางทำร้ายตัวเองโดยไม่รู้ตัว เค้ารู้ว่าการรื้อฟื้นอดีตที่เจ็บปวดจนอยากลืมก็เหมือนการกรีดเปิดแผลเพื่อเอาหนองในแผลออกมันเจ็บปวดมาก แต่ถ้าไม่เอาหนองออกแผลก็ไม่หาย เค้าต้องการเอาหนองออกให้หมดเพื่อแผลนี้จะได้หายหลังเป็นแผลเรื้อรังมาเป็นปี เค้าเป็นคนทำให้เกิดแผลเค้าต้องเป็นคนรักษามันเอง ร่างบางที่โดนเค้ากุมมือไม่ได้สะบัดมืออกจากการเกาะกุมนี้มีเพียงน้ำตาที่ไหลรินไร้ซึ่งเสียงสะอื้น เค้าใช้มือข้างหนึ่งจับปลายคางคนที่เค้ายังรักไม่ลืมให้หันมาสบตากันพร้อมเช็ดคราบน้ำตาให้แผ่วเบา
“วินนอกกายกัสแต่วินไม่เคยนอกใจซักครั้ง ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม”
ร่างหนาจ้องตาร่างบางนิ่งแสดงให้เห็นถึงความจริงใจขณะพูด ไร้เสียงตอบกลับจากร่างตรงหน้าเค้าแต่แววตาที่เค้าเห็นนั้นส่งคำถามมาโดยที่ร่างนี้ไม่ต้องพูดเค้าก็เข้าใจ จึงยิ้มอ่อนโยนกลับไปให้
“วินโดนวางยาจากแนทครับ วินเลยมีอะไรกับแนทไปโดยไม่เต็มใจจนกัสมาเห็นนั่นแหละวินถึงเพิ่งรู้สึกตัว ตอนนั้นวินยังงงๆอยู่เลยว่าเกิดอะไรขึ้น วินรู้ว่าถึงวินไม่เต็มใจให้เกิดแต่มันก็เกิดขึ้นและทำร้ายใจกัสอย่างร้ายกาจ หลังจากวินส่งกัสกลับแล้ว วินโทรตามเพื่อนทุกคนในกลุ่มมาปรึกษาว่าจะทำยังไงต่อดี กัสรู้มั้ยตอนนั้นวินรักพวกมันมากกว่าเดิมอีก ไอ้ปรัชตามเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพตอนที่แนทใส่ยาในแก้วเหล้ามาให้ ส่วนไอ้ฟินไปตามเพื่อนของแนทมาเป็นพยานว่าแนทมีแผนมอมยาวินจริงมาได้ด้วยนะ ฮึๆๆๆ แถมมนยังไปคาดคั้นความจริงจากปากแนทเองกับตัวด้วยตอนแรกเรื่องแนทนี่วินจะจัดการเอง แต่มนบอกว่าถ้าวินทำเองจะเหมือนรังแกผู้หญิงและอีกอย่างถ้าวินไปเองในตอนนั้นวินก็ไม่แน่ใจว่าจะอดใจไม่ทำร้ายแนทได้มั้ย ไอ้ธีช่วยถ่ายภาพช่วงที่แนทโดนมนคาดคั้นแถมตัดต่อมาให้ยังกับละครเลย”
คิดถึงตรงนี้เค้าว่าเค้าโชคดีที่มีเพื่อนรักมากอยู่เคียงข้างขนาดนี้ อดอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยด้วย ร่างบางตรงหน้าน้ำตาหยุดไหลแล้วและจ้องเค้าเขม็ง
“ตอนนั้นวินอยากเอาหลักฐานทั้งหมดที่มีไปคุยกับกัสมากเพราะกว่าหลักฐานจะครบก็กินเวลาไป 2 วันแล้ว แต่กัสไม่ยอมรับโทรศัพท์วินไปหาที่ห้องก็ไม่อยู่ ถามจากเพื่อนกัสก็ไม่มีใครบอกว่ากัสไปไหนแถมโกรธวินแทนกัสมากเลยรู้มั้ย หมอมิคแทบจะต่อยหน้าวินเลยเมื่อเจอกันน่ะ วินทายว่ากัสคงกลับบ้านแต่วินไม่เคยไปเลยไม่รู้ว่าจะตามที่ไหน”
เล่ามาถึงตรงนี้ให้กลับมาอึดอัดใจเหมือนตอนนั้นที่ตามตัวคนรักไม่ได้อยากพูดอยากบอกแต่เจ้าตัวไม่เปิดโอกาสให้เลย
“ตอนนั้นวินต้องเตรียมตัวไปฝึกงานและเคลียร์งานอีกมากแถมมีเรื่องกัสด้วย ทำเอาวินแทบบ้าดีที่มีเพื่อนๆช่วยจึงผ่านมาได้ ไอ้ตอนนั้นที่ว่าแทบบ้าแล้วมาเจอจดหมายกับต่างหูที่วินเคยให้กัสไปที่เพื่อนกัสส่งมาคืนวินทำเอาวินไปไม่เป็นเลยนะเสีย
ศูนย์ไปเลย คิดเสียใจปนน้อยใจสารพัดที่กัสไม่ยอมฟังวินอธิบายกับบอกเลิกกันอีก วินต้องไปฝึกงานและยอมรับคำตัดสินจากกัสให้เราห่างกันจนวันนี้วินถึงได้มีโอกาสเจอกัสอีกครั้ง”
อาการเสียศูนย์ตอนนั้นของเค้าเกือบทำให้เค้าจบช้าเพราะเกือบไม่ได้ไปฝึกงานกับเพื่อนๆ งานที่ต้องทำก็ทำไม่ทันดีที่ปรัชเพื่อนคนเก่งของเค้าลงมือช่วยแถมด้วยนายธีไปขอร้องอาจารย์ให้ผ่อนผันให้เค้าส่งช้ากว่าคนอื่นได้อ้างเหตุว่าไม่สบายมาก และอาจารย์คงเห็นใจเพราะเค้ารับผิดชอบเรื่องเรียนมาตลอดจึงผ่อนผันให้เค้า เค้ามองหน้ากัสตอนนี้ที่เหมือนต้องการจะพูดอะไรแต่คงหาคำพูดอยู่จึงยังไม่พูดออกมาแววตาสับสนกับข้อมูลที่ได้รับรู้จากเค้า
................................................................................................
กัสหลังเกิดเหตุการณ์คืนนั้นเมื่อเค้าใช้สติคิดเค้าตั้งใจว่าต้องคุยกับวินให้รู้เรื่องแต่เค้ากับได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนวินและหลักฐานมันฟ้องทุกอย่างว่าสิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเป็นเรื่องจริง เค้าตัดสินใจบอกเลิกกับวินทันทีโดยส่งจดหมายบอกเลิกและต่างหูข้างนั้นคืนแกเจ้าของ เหมือนเค้าดูใจร้ายแต่ตอนนั้นเค้าเจ็บเหมือนโดนหลอกจากคนที่คิดว่ารักเค้าจนไม่อยากรับรู้อะไรแล้วอยากหนีไปจากความเจ็บที่เกิดขึ้น พอดีว่าเป็นช่วงที่วินไม่อยู่มหาวิทยาลัยต้องไปฝึกงาน 3 เดือน ส่วนเค้าก็อยู่เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยโดยไม่ติดต่อและหลบเลี่ยงการเจอวิน จนกระทั่งจบถึงเวลาที่เค้าออกมาใช้ชีวิตทำงานที่ต่างจังหวัดจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่คนตรงหน้าพูดมาทั้งหมดร่างบางที่รับฟังอยู่ไม่อยากจะเชื่อแต่ท่าทางและแววตาที่ส่งมาให้นั้นมันจริงจังเกินกว่าจะคิดว่าคนๆนี้โกหกได้ เพราะทางเค้าก็มีหลักฐานจากผู้หญิงคนนั้นมายืนยันถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันและเค้าก็เห็นมันกับตาด้วย
“วิน กัสถามจริงๆนะวินไม่ได้โกหกกัสใช่มั้ยกับเรื่องที่พูดมาทั้งหมดนี่”
หน้าคนโดนถามนิ่งดวงตาสบตรงมาที่เค้ามีแววน้อยใจโผล่มาให้เห็นและจางไป
“วินยืนยันในสิ่งที่พูดทั้งหมดว่าเป็นความจริงถ้ากัสอยากเห็นหลักฐานไปที่ห้องวินตอนนี้ได้เลยมันอยู่ที่นั่นทั้งหมด”
“เฮ้อออ วินต้องเข้าใจนะว่าตอนนี้กัสไม่สามารถเชื่อใจวินได้เต็มร้อยถึงวินจะพูดมาแบบนี้ เพราะก่อนที่กัสจะส่งจดหมายกับต่างหูข้างนั้นไปคืนวิน กัสก็มั่นใจว่าวินไม่ได้รักกัสจริงแค่มาหลอกกัน ไม่ต้องทำหน้าบึ้งเลย”
ชายหนุ่มตรงหน้าเค้าทำหน้าตาบึ้งตึงทันทีที่ได้ยินเค้าพูดว่าไม่ได้รักเค้าจริงและมาหลอกกัน
“ทำไมกัสคิดว่าวินไม่รักกัสและหลอกกัสล่ะ ในเมื่อที่ผ่านมาตอนเราคบกันวินแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำให้กัสเห็น กัสอย่าบอกนะว่าไม่ได้รับรู้สิ่งนั้น”
ชายหนุ่มพูดอย่างตัดพ้อคนร่างบางตรงหน้าพร้อมกุมมือเค้าแน่นขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่วินพูดมาก็ถูกแต่ตอนนั้นเค้าคงหวั่นไหวง่ายอยู่แล้วกับความรักครั้งแรกที่ทุ่มเทให้ทุกอย่าง พอมารู้ว่าสิ่งที่วินทำให้หรือแสดงออกมามันหลอกลวงจึงเสียใจและผิดหวังมากจนไม่คิดจะคุยกับวินอีกเค้ากลัว ‘กลัวที่เจ็บมากกว่านี้’ ถ้าได้ยินวินพูดออกมาเองว่าไม่ได้รักเค้า เราสบตากันนิ่งตอนนี้ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่องให้ได้เพราะเริ่มจับได้ถึงข้อมูลที่ไม่ตรงกันที่เค้ารับรู้มาจากผู้หญิงคนนั้นที่อ้างว่าเป็นแฟนวิน
“วินเป็นแฟนกับแนทแล้วแอบมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกใช่มั้ย”
ชายหนุ่มที่กุมมือเค้าตาโตทำหน้างงกับข้อมูลที่ได้ยิน และเปลี่ยนเป็นสงสัยกับเรื่องนี้แทน
“กัสหมายความว่ายังไงและทำไมถึงถามแบบนี้ วินไม่เคยเป็นแฟนกับแนทเราเป็นเพื่อนกัน ตอนแรกแนทมาบอกชอบวิน
ก่อนแต่วินปฏิเสธไปเพราะไม่อยากคบกับเพื่อนในคณะเดี๋ยวมีปัญหาถ้าเลิกกันทีหลัง และแนทวางตัวเป็นเพื่อนมาตลอดไม่ได้เกินเลยกันกว่านั้น มีก็แค่ทำงานคู่กันแต่ก็ทำที่คณะไม่เคยไปไหนกัน 2 คนเลย”
ชายหนุ่มตรงหน้าพูดมาถึงตรงนี้ทำให้เค้าย้อนกับไปนึกถึงภาพถ่ายที่เห็นวันนั้นเป็นรูปคู่ที่ 2 คนใกล้ชิดกันแต่อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆเหมือนโดนแอบถ่ายมากกว่า
“ตอนนั้นวินมีกัสเป็นแฟนเท่านั้นครับ”
“เรื่องต่างหูวินได้ทำที่เหมือนกับของกัสไปให้แนทรึเปล่า”
“เอ๊ะ กัสอย่าบอกนะว่าแนทมีต่างหูที่เหมือนกับของวินที่ให้กัสไปน่ะ”
เค้าพยักหน้ารับทันทีต่างหูที่เคยเห็นจากผู้หญิงคนนั้นมันเหมือนกับข้างที่เค้าคืนให้กับเจ้าของตรงหน้านี้ไปแล้ว ทั้งขนาดของต่างหู ขนาดเม็ดเพชรหรือแม้แต่ตัว “W” ที่เป็นตัวอักษรแบบเดียวกันเลย
“โธ่เอ้ย! วินนี่โง่มากที่โดนยัยนั่นย้อนมาทำร้ายแบบนี้ กัสรู้มั้ยต่างหูที่วินเคยให้กัสไปวินทำมาคู่เดียวข้างหนึ่งมีตัว “W” อีกข้างมีตัว “G” ที่วินใส่คู่กับกัส วินทำแค่นั้นแต่ที่กัสเห็นแนทคงไปทำเองเพราะร้านที่สั่งทำเป็นร้านที่แนทแนะนำวิน
น่ะครับ ตอนนั้นวินกำลังคิดหาของขวัญวันวาเลนไทด์ให้กัสอยู่ แนทเข้ามาคุยด้วยพอดีจึงรู้ว่าวินจะเตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์แฟน จึงแนะนำร้านเครื่องประดับที่แนทเป็นลูกค้าอยู่มาให้ และคงแอบไปทำมาให้เหมือนกับข้างที่วินให้กัสไป”
สิ่งที่ชายหนุ่มพูดออกมาทำให้ร่างน้อยตรงหน้านิ่งงันไปหมายความว่าที่เค้าต้องเลิกกับคนรักของเค้าเพราะเป็นแผนการของผู้หญิงร้ายกาจคนนั้นใช่มั้ย ความเงียบครอบคลุมคนทั้ง 2 ไว้เมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในภวังค์ของตัวเอง แต่ก็คิดไม่ต่างกันที่รู้ว่าความรักเมื่อ 1 ปีก่อนนั้นต้องขาดลงเพราะยัยผู้หญิงคนนั้นที่วางแผนขึ้นทั้งหมด
“หลังจากกัสกลับจากห้องวินวันนั้นแล้วก็ได้คิดนะว่าเราต้องคุยกัน แต่กัสได้รับโทรศัพท์จากผู้หญิงคนนั้นให้ออกไปเจอ บอกว่าเค้าเป็นแฟนวินต้องการเคลียร์เรื่องของวินกับกัส”
หนุ่มน้อยสบตานิ่งกับคนตรงหน้าที่จับกุมมือเค้าอยู่ขณะพูดเรื่องอดีตที่ผ่านมา
“ไปถึงเค้าบอกว่าเป็นแฟนกับวินอยู่แล้วแต่วินมาจีบกัสเพราะเห็นเป็นของแปลกแค่อยากลองดู ตอนนั้นกัสยังไม่เชื่อแต่เค้าเอารูปถ่ายที่มีวินกับตัวเค้ามาให้ดู ในรูปวินดูสนิทและใกล้ชิดกับเค้ามากเกินเพื่อน และรูปถ่ายที่กัสเห็นมันมีหลายสถานที่หลายสถานการณ์ด้วย วินรู้มั้ยกัสเริ่มใจเสียเลยที่เห็นภาพวินกับผู้หญิงคนนั้นแต่ก็ยังแอบหวังว่ามันไม่จริง ยัยนั่นจึงหยิบต่างหูข้างนั้นมาให้กัสดูเหมือนโลกถล่มเลยวิน กัสคิดแต่ว่าวินหลอกกัสจริงๆมันเจ็บจนชา กัสนั่งอยู่ที่นั่นไม่รู้ว่ายัยนั่นลุกไปเมื่อไหร่ด้วยซ้ำ”
สายตาที่สบมาที่เค้ามีแววโกรธขึงเปลี่ยนเป็นเสียใจและรู้สึกผิดในท้ายที่สุด เค้าดึงมือข้างหนึ่งออกมาจากการเกาะกุมเอื้อมไปสัมผัสผิวหน้าด้านข้างของคนตรงหน้า วินพลิกหน้ากลับมาที่ฝ่ามือเค้าพรมจูบและหลับตานิ่งนาน เค้าเสียเวลาไปนานกับความเข้าใจผิดจมอยู่กับความเสียใจสาเหตุมาจากผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น
“ช่วงที่เราห่างกันกัสรู้มั้ยครับว่าวินไม่เคยเลิกคิดถึงกัสได้เลย วินน้อยใจที่กัสไม่ให้โอกาสวินอธิบายและเสียใจมากที่กัสตัดวินไปจากชีวิตได้ ไม่ติดต่อไม่ให้เห็นหน้าแถมหนีไปทำงานต่างจังหวัดทันทีที่จบอีก วินรู้นะว่ากัสอยู่ที่ไหนแต่ความเสียใจและทิฐิในตอนนั้นทำให้วินไม่ไปหากัส พอคิดจะไปก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรถ้าโดนถามว่าทำไมเพิ่งมาหา วินมันขี้ขลาด”
ชายหนุ่มสบตาเค้าอย่างจริงจังขณะพูดมีแววน้อยใจและเสียใจออกมาที่พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว
“ขนาดบอกว่าคิดถึงกัสแต่วินก็มีคนอื่น อย่าบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริงนะ”
เค้าดึงมือออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่ายเมื่อพูดมาถึงประโยคนี้
“วินไม่เถียงครับว่ามีคนอื่น แต่คนที่วินเลือกคบด้วยทั้งรูปร่างหน้าตาเหมือนกัสมากรู้มั้ย วินอาจจะเลวที่หาคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องมาแทนที่คนที่วินโหยหาให้มาคบด้วย แต่กัสครับวินยอมรับนะว่าไม่ได้นึกรักคนนั้นเลยแค่อยากได้ใครซักคนที่เหมือนกัสมาอยู่เคียงข้างให้เหมือนว่าวินยังมีกัสอยู่ วินมันเลวจริงๆ”
ร่างหนาเอื้อมมือมากุมมือเค้าอีกครั้งลูบไล้ใบหน้าเค้าอย่างโหยหาเริ่มจากคิ้ว จมูก แก้ม และอ้อยอิ่งลูบไล้แผ่วเบาอยู่ที่ริมฝีปาก ใจเค้าเต้นแรงกับสัมผัสนี้ที่ห่างหายไปนานยังจำได้ว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้ใกล้ชิดกับคนๆนี้
“และกรรมก็ตามทัน ฮึๆๆ วินโดนคนที่วินเลือกและไว้ใจให้อยู่เคียงข้างหักหลัง เค้ามีคนอื่นตอนคบกับวินน่ะ คืนนั้นที่วินเห็นเค้าบนเตียงกับผู้ชายคนอื่นแล้ววินเศร้าเสียใจโกรธที่โดนทำแบบนี้จากคนที่เราไว้ใจแม้วินจะไม่ได้รักเค้าก็ตาม หลัง
จากนั้นวินก็เข้าใจเค้านะมันหายโกรธไปเลยเมื่อคิดถึงวันที่กัสมาเจอวินที่ห้องกับแนท และรู้ว่าเรารู้สึกไม่ต่างกันแต่กัสต้องเจ็บกว่าวินมากแน่ๆ และคนอื่นนอกจากนี้ก็มีบ้างไม่ได้จริงจังอะไรครับ วินมันก็ผู้ชายเห็นแกตัวคนหนึ่งที่โดนกัสทิ้งไป กัสจะให้โอกาสวินอีกครั้งได้มั้ยครับ”
..............................................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^
ตอนหน้ามาลุ้นกันค่ะว่ากัสจะตอบวินกลับยังไง
ตอนนี้ได้เฉลยกันหมดเปลือกแล้วกับปมที่คนเขียนได้ผูกไว้ในตอนต้นเรื่อง
กับปัญหารักกัสวิน หลายท่านอาจไม่ถูกใจที่วินบอกรักกัสแต่ดั๊นมีคนอื่น
รายทางระหว่างรอกัสและไม่ยอมไปตามง้อปล่อยมาเป็นปี
ขอแจงค่ะ เรื่องแรกที่วินมีคนอื่นนั้นคนเขียนขอยกความผิดไปที่นายวิน(555)
มันเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวรักรอมีทิฐิขี้ขลาดและหาตัวแทนเพื่อปลอบใจตัวเอง
ว่าเหมือนยังมีกัสข้างๆ ซึ่งคนแบบวินเราพบเจอได้จริงแต่ถ้าเราเป็นกัสก็คงไม่เอาแล้ว
แต่นี่นิยายที่เราเลือกมาแล้วว่าให้เป็นพระเอกที่ยอมพลีกายให้คนอ่านเกลียด
แต่อยากขอโอกาสให้วินได้แก้ตัวในตอนต่อๆไปค่ะ และเรื่องที่ไม่ตามไปง้อเพราะ
นอกจากทิฐิส่วนตัวในตอนแรกบวกกับจดหมายขอเลิกจากกัสว่าไม่อยากเจอวินอีก
จึงยอมรับคำตัดสินใจของกัสอย่างจำยอมค่ะ เหตุผลก็ประมาณนี้นะคะอาจไม่สมเหตุสมผลนัก
เม้นกันได้เต็มที่เช่นเดิมค่ะ
และ
แน่นๆให้คนอ่านทุกคนนะคะ
ปล.เจอกันวันพุธค่ะ