- 3 - “พระลักษมณ์ผมรักคุณ เป็นแฟนผมนะ” พระลักษมณ์อึ้งเหมือนโดนสะกดไปแล้วจริงๆ นี่มากเกินไป
ให้ตายเถอะในหัวตีกันวุ่นไปหมด คนที่คุกเข่าไม่ยอมเสียเวลารอคำตอบ ถือโอกาสล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องไม้
ขนาดเล็กเปิดฝาหยิบเอาแหวนทองคำขาวกลมเกลี้ยง แต่มีลวดลายสลักไว้รอบวงเป็นอักขระขอมโบราณที่ไม่สามารถ
รู้ความหมายออกมา
ก่อนจะฉวยมือซ้ายพระลักษมณ์ซึ่งยืนเป็นหุ่นไปแล้ว จับสวมเข้ากับนิ้วนางอย่างพอเหมาะพอดี
แบบไม่ต้องวัดนิ้วกันเลย พระลักษมณ์จึงหายมึนกะพริบตาก้มมองนิ้วที่สวมแหวนก่อนจะมองหน้าปาจากำลังจะ
อ้าปากปฏิเสธ แต่ปาจาชิงลุกขึ้นสวมกอดแล้วกระซิบใส่หูด้วยเสียงทุ้มนุ่ม
“คุณไม่ต้องปฏิเสธผมหรอกพระลักษมณ์ อย่าเอาทิฐิเป็นที่ตั้ง ผมรู้ว่าหัวใจคุณเป็นของผม
ตั้งแต่ผมจำความได้ปู่ซึ่งเป็นร่างมารบอกผมเสมอก่อนจะตัดสินใจยกแหวนวงนี้ให้ มันอยู่กับผมมายี่สิบห้าปีอักขระขอม
บนตัวแหวนสามารถป้องกันมนต์มืดได้ คุณจะปลอดภัยจากไสยศาสตร์มนต์ดำตราบใดที่สวมแหวนนี้ไว้กับตัว
เพราะงั้นนอกจากเป็นแหวนแทนใจแล้ว ผมห้ามคุณถอดออกเด็ดขาดรับปากผมนะ
คุณเป็นของผมแล้วพระลักษมณ์ เราถูกส่งมาเป็นของกันและกัน ทั้งคุณและผมไม่สามารถ
รักใครได้อีก เชื่อเถอะว่าเมื่อผมได้พบและพูดคุยกับพ่อคุณ ท่านจะไม่ปฏิเสธเรื่องของเรา ดังนั้นเลิกต่อต้านผม
อย่าฝืนใจตัวเอง เพราะมันไม่เกิดผลดีกับเราทั้งคู่” ปาจาพูดในขณะที่ยืนสวมกอดพระลักษมณ์แน่น
ทำให้ร่างโปร่งที่ได้ยินทุกถ้อยคำในโสตประสาท ไม่มีคำพูดต่อต้านแม้แต่แรงขืนกายหนีก็ยังไม่มีเลย
ก่อนปากหนาจะกดจูบลงบนปากบาง อ้อยอิ่งอ่อนโยนเรียกร้องให้พระลักษมณ์เปิดปากให้ลิ้นชื้น
แทรกเข้าไปชิมความหวานในที่สุด พระลักษมณ์ปล่อยให้จูบดูดดื่มวาบหวามชักนำโดยไม่ต่อต้าน พริ้มตาหลับ
ปล่อยสมองขาวโพลนไปตามอารมณ์ ไม่รู้ว่านั่นคือการตอบรับเป็นแฟนโดยไม่รู้ตัว
นั่นสินะ คนเราบางครั้งปากอย่างใจอย่าง ทางที่ดีอย่าคิดเยอะ เรื่องบางอย่างใช้ความรู้สึกก็พอ
มันคือคำตอบในตัวอยู่แล้ว....จูบหวานกลางทุ่งกว้าง ช่างได้บรรยากาศหวามไหวในอารมณ์ยิ่งนัก....?????????????
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ส่งกำลังใจกดเป็ดให้ข้าพเจ้า
ขอบคุณปาจา ที่ทำให้ข้าพเจ้ายิ้มไม่หุบจนมาต่อนิยายให้ทุกท่านได้อ่าน
ขอบคุณที่คอยติดตามทวงถามอย่างไม่ห่างหาย
ขอบคุณที่ร่วมกันรีไพฯ และกดคะแนนบวกให้ตลอดมา
หวังว่าพวกท่านจะส่งกำลังใจให้ข้าพเจ้าเช่นนี้ตลอดไป
Luk.
