มนต์มาร
Part 3
กายันต์.....
.
.
.
หลังจากองุ่นออกไปแล้ว รพินทร์รีบปิดประตูห้องลงกลอน ก่อนจะนำคอมพิวเตอร์แบบพกพาส่วนตัว
เอาออกมาต่ออินเตอร์เน็ทด้วยระบบแอร์การ์ดที่เอาติดตัวมาเฉพาะ เธอไม่กล้าใช้คอมฯ ในห้องเด็ดขาด ข้อมูลอาจรั่วไหล...
นี่เป็นความรอบคอบของหน่วยสืบราชการลับต้องมีเป็นอันดับแรก เมื่อคอมฯ ออนไลน์เรียบร้อยเธอแชทกับ
ผู้บังคับบัญชาโดยตรงทันที
“หวัดดีครับ...หัวหน้า” รพินทร์พิมพ์บทสนทนา
“อืม....เป็นไงเรียบร้อยดีไหม?..พระลักษมณ์” หัวหน้าตอบกลับมา..
ชื่อจริงเธอคือ ‘พระลักษมณ์’
“ผ่านฉลุย..ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ในคุ้มเรียบร้อยแล้ว อีกชั่วโมงคงรู้จักสมาชิกในบ้านครบทุกคน
คุณปาจาจะแนะนำผมกับสมาชิกตอนทานมื้อเที่ยงครับ” พระลักษมณ์รายงานให้หัวหน้าทราบ
“ดีมาก...อย่าลืมว่านายอยู่ในคราบคุณรพินทร์..ห้ามมีพิรุธเด็ดขาด” หัวหน้ากำชับมา
“ไว้ใจได้น่า....ไม่เชื่อมือผมแล้วให้รับงานทำไม?” เป็นแบบนี้เสมอสำหรับหัวหน้า ไม่ว่าจะกี่ปี
ก็ยังย้ำอยู่ประจำ นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงแล้ว ยังมีศักดิ์เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของพระลักษมณ์อีกด้วย
“ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อมือแก...แต่แกอย่าลืมข้อเสียของแกที่จะทำแผนหล่มก็ไอ้นิสัยเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสวย
เป็นไม่ได้...เรื่องนี้ต่างหากที่ฉันเป็นห่วง” หัวหน้าประชดกลับ...เค้าพูดไม่ผิดพระลักษณ์เกือบทำงานพลาด ต้นเหตุมาจาก
ความเจ้าชู้ส่วนตัวนั่นแหละ..
“แฮ่ะๆ..คร๊าบบบบ!!..ผมจะระวังให้ดี อย่าย้ำบ่อยสิครับท่านเรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วเหอะ”
ยังเล่นลิ้นกลับไปได้อีก
“รู้ตัวก็ดีแล้ว...เรื่องคดีเหยื่อทุกรายมักถูกฆ่าตายในคืนพระจันทร์ดับ..ฉันหวังว่าแกคงไม่ต้องอยู่ที่นั่นนาน..
พระจันทร์ดับครั้งหน้า..ต้องลากคอคนร้ายออกมาให้สำเร็จ...ฉันว่าคนในคุ้มดงพญาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับฆาตกรรมปริศนา
ไม่มากก็น้อย...ระหว่างนี้แกต้องสืบให้ได้ว่าใครน่าสงสัยที่สุด มีอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่...ห้ามพลาดเด็ดขาดมันอันตราย
ต่อตัวแกเอง...สำคัญอย่าล่าช้ารีบปิดคดีให้ไว ขืนนานกว่านี้ฉันกลัวความลับของแกจะแตกเสียก่อน.”
หัวหน้าร่ายยาวเลยคราวนี้
“เออน่า..เชื่อมือผมสิ...ผมเคยทำพลาดหรือเปล่าเล่า” พระลักษมณ์ยังคงมั่นใจว่าตนเองคงไม่พลาด
ผลงานที่ผ่านมาการันตีได้อยู่แล้ว ไม่งั้นชื่อชั้นของเค้าคงไม่ติด 1 ใน 5 มือดีของหน่วยหรอก..งานหินกว่านี้เค้าผ่านมาไม่น้อย...
การปลอมตัวเป็นผู้หญิงใช่ทำครั้งแรกเสียเมื่อไหร...ถึงกับเคยทลายแก็งค้ามนุษย์โดยยอมปลอมเป็นโสเภณีเข้าไปปะปนใน
กลุ่มพวกมันมาแล้วด้วยซ้ำ ก่อนจะกระชากหน้ากากล้างบางเรียบร้อยโรงเรียนพระลักษมณ์ในที่สุด
ต่างกันแค่งานนี้ใช้เวลาหน่อย จำเป็นต้องปลอมเป็นทอมดีกว่าจะแอบเนียนเป็นหญิงจ๋า..ไม่งั้นเค้าเอง
ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเนียนได้เป็นเดือนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้...แต่ถ้าหากสวมบทเป็นทอมบอยอย่างน้อยนิสัยห้าวกระด้าง
ก็ยังเนียนกว่าหวานหยดย้อยละหว้า..
“ฉันบอกแล้ว...ว่าไม่ใช่ไม่ไว้ใจฝีมือแก...แต่ที่ฉันกังวลอยู่เรื่องเดียวไอ้เรื่องเจ้าชู้ไก่แจ้
ของแกเองนั่นแหละ...ขืนรุ่มร่ามกับสาวๆ ที่มาพัวพันคุณปาจาเข้า จะทำให้ความแตกได้ง่ายๆ...อย่าลืมที่ฉันเตือน..
คุณปูจาไม่ใช่คนโง่...วันนี้เค้าอาจจะยังดูแกไม่ออก..แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะดูไม่ออกตลอดไป..เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยง..
ไม่งั้นต่อให้เป็นฉันก็ช่วยอะไรแกไม่ได้..รู้ใช่ไหมปริศนาการตายแต่ละศพมันธรรมดาซะที่ไหน...หากมันง่ายอย่างที่คิด..
งานนี้คงไม่ถึงมือหน่วยเราลงไปคลี่คลายคดีหรอกไอ้ลูกลิง” ตกลงเป็นพ่อลิงแล้วใช่ไหมนั่น...ว่าไม่คิดอีกพ่อกู..
หัวหน้าก็ยังเป็นตาแก่ขี้บ่นอยู่วันยังค่ำรู้ว่าพ่อรักและเป็นห่วงมาก...พระลักษมณ์เป็นลูกชายคนเล็ก..ในขณะพี่ชายคนโตพระราม
ไม่ได้มีอาชีพเสี่ยงแบบเค้า....พระรามแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ทำธุรกิจต่อยอดคุณปู่ที่พ่อไม่อยากทำ
สุดท้ายตกเป็นของหลายชายคนแรกเติบโตจนสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งพระลักษมณ์มีหุ้นในนี้ด้วยเหมือนกัน
ที่น่าดีใจอย่างมากคงเพราะพระรามมอบหลานชายฝาแฝดน่ารักให้ครอบครัวอีกด้วย..
พระลักษมณ์ชอบที่จะเสี่ยงกับอาชีพนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเข้ารับการศึกษาผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก..
จนสำเร็จออกมาเดินตามรอยเท้าพ่อซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเค้านั่นเอง....
ใช่ว่าท่านจะดีใจที่ลูกชายคนเล็กเจริญรอยตามอาชีพนี้ซะเมื่อไหร แต่เพราะความสามารถและฝีมือ
อันยอดเยี่ยมจนติด 1 ใน 5 มือดีแถวหน้าของหน่วย จนอดยอมรับไม่ได้ว่า..ไอ้ลูกคนนี้มันมีดีจริง...
แต่ก็นั่นแหละ..ข้อเสียติดตัวของพระลักษมณ์แก้ไม่หาย..คือเจ้าชู้เห็นสาวสวยเป็นไม่ได้..ทำให้หัวหน้าต้อง
เตือนตลอดเวลา....คิดว่าถึงเวลาเหมาะสมคงให้พระลักษมณ์เลิกอาชีพนี้ถาวรเสียที..กลับไปทำอาชีพที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อชีวิต..
ทรัพย์สินที่ได้มาตลอดการทำงานกว่า 7 ปีของพระลักษมณ์ สามารถอยู่อย่างสบาย...ยังไม่รวมทรัพย์สินอันเป็นมรดกอีก...
กินไปทั้งชาติก็ไม่หมด..
เพราะพระลักษมณ์มีนิสัยโลดโผนชอบชีวิตแบบนี้ ทั้งที่รูปร่างหน้าตาออกจะตรงข้ามสิ้นเชิง..ซ้ำไม่เคยทำงาน
พลาดมาก่อน สร้างผลงานได้อย่างยอมเยี่ยมอีกต่างหาก..ต่อให้ลูกคนนี้ทำให้พ่ออย่างเค้าภาคภูมิใจมากแค่ไหน
ก็คงไม่มีพ่อคนไหนยินดีทนเห็นลูกเสี่ยงชีวิตกับงานที่ทำอย่างสบายใจหรอกจริงไหม?
“ทราบแล้วครับท่าน...ได้เวลาผมต้องไปร่วมทานกลางวันแล้ว ไว้แค่นี้ก่อนครับพ่อ....คืบหน้าอย่างไร
จะติดต่อกลับไป” น้อยครั้งที่ชายหนุ่มจะเรียกพ่อ หากไม่ใช่เรื่องส่วนตัวสรรพนามที่พระลักษมณ์ใช้ก็หัวหน้า
เหมือนคนอื่นจนชินปาก
“เดี๋ยว!...สารวัตรที่ดูแลคดีนี้คือ..ผู้กองคมสัน..แกควรทำความรู้จักเค้าไว้ด้วย..อย่าให้เค้ารู้เป็นอันขาดว่า
แกเป็นใคร...ฉันให้แกทำความรู้จักไว้เผื่อฉุกเฉินจะได้พึ่งพาเค้าได้..เข้าใจใช่ไหม?” ยังไม่หมดห่วง สั่งซะจริง..
“รับทราบครับท่าน...รับปฏิบัติครับผม” เป็นอันตัดจบบทสนทนา ก่อนพระลักษมณ์จะปิดคอมฯให้เรียบร้อย
ใส่ในกระเป๋าซ่อนไว้ใต้เตียงอย่างดี สำรวจผมเผ้าหน้าตาในกระจก แอบยักคิ้วเท่ๆ ให้หนึ่งที หึ...เป็นทอมยังหล่อสาด...
นี่ละหนาคนมันหล่อต่อให้อยู่ลุคไหนก็ไม่สามารถบดบังความหล่อลงได้....รำพันกับตัวเอง...หันหลังเปิดประตูห้องเดินออกไป..
รพินทร์เดินสำรวจตามทางมาเรื่อยๆ บ้านทรงไทยหลังนี้ใหญ่จริงๆมีห้องหับมากมายแถมลึกลับซับซ้อนพิกล...
เวลาแค่เดือนเดียวก่อนจะถึงคืนพระจันทร์ดับ อาจจะไม่มากพอถ้าขืนชักช้า ไว้คืนนี้ดึกๆ ต้องเริ่มลงมือสำรวจเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ท้องร้องประท้วงขึ้นมา..ไปเติมพลังงานกับอาหารมื้อแรกของคุ้มดงพญาดีกว่า ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า
ห้องอาหารของบ้านนี้อยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ...มองหาใครก็ไม่เจอ...ตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวคงเจอเอง...
ระหว่างเดินดุ่มๆ หันรีหันขวางหาทางไปอยู่นั้น จู่ๆ เสียงกระแอมก็ดังขึ้นด้านหลังไม่ไกลหนัก
“อะแฮ่ม...” ทำให้ต้องหันขวับไปทางต้นเสียงทันที....อ้าว!..คุณปาจานี่หว่า?.มาแต่เมื่อไหร่..
เอ๊ะ!..ไม่ใช่เหมือนคุณปาจาแต่ไม่ใช่แน่นอน..คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังเดินตรงมาทางเขา ยิ้มพราวเสน่ห์นัยตาวิบวับ
ซุกซนอีกตะหาก....ไม่ใช่บุคลิกคุณปาจา..
“หวัดดีครับ...มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า..ผมกายันต์” ไม่ต้องเสียเวลา เจ้าตัวตรงรี่เข้าหา
รพินทร์ทันที พร้อมยิ้มสว่างโร่ขับใบหน้าหล่อลากไส้น่าดูยิ่งกว่าเดิม แต่เสียใจมันใช้ได้กับสาวๆ หาใช้รพินทร์คนนี้ไม่
ไอ้พฤติกรรมแบบนี้ใช่ว่าเค้าเองจะไม่เคยใช้ แถมใช้ออกบ่อยเมื่ออยู่ในลุคของพระลักษณ์ เวลาต้องการคู่นอนสักคน
เค้าไม่เคยพลาดเช่นกัน เห็นทีคนตรงหน้ากำลังตั้งใจโปรยเสน่ห์เค้าแล้วหละ...หึหึหึ!..สนุกพิลึก...
เล่นกับไอ้รูปหล่อมันสักหน่อยก็ไม่เลว
“รพินทร์ค่ะ..ยินดีที่รู้จัก” พูดพร้อมกับยื่นมือให้ เป็นการทักทายแบบฝรั่งขอจับมือตามธรรมเนียม
ท่าทางที่รพินทร์ทำ พาเอาหนุ่มหล่อตรงหน้าเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ แต่ก็ยอมส่งมือมาให้จับก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ฟังดูคุ้นๆ แฮ่ะ!..อย่าบอกคุณคือลูกสาวอาไพรภพ” หนุ่มหล่อกายันต์ถามตรงเพ่ง
“คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว...ฉันคือลูกสาวคุณไพรภพ...แล้วคุณ..ถ้าให้เดาคงเป็นน้องชายคุณจา”
หญิงหล่อมาดเท่ยืนยันฐานะตนเอง ก่อนจะคาดเดาสถานะของคู่สนทนาให้เสร็จสรรพ
“ครับ...กายันต์ชื่อผม..แต่ผมชอบให้เรียกยันต์เฉยๆ ไม่ต้องมีกานำหน้าหรอก..ไม่รู้ทำไมพ่อแม่
ถึงตั้งชื่อนี้ให้ผม..ตัวผมไม่ได้ดำสักกะหน่อย คุณว่าจริงไหม?..พอพี่จาชื่อกลับโคดเท่..ปาจาซะงั้น” ไม่ทันไรนายกายันต์
ก็ออกอาการงุงงิงยังกะเด็กไม่ยอมโต..ให้รพินทร์อมยิ้มขำท่าทางพองแก้มคำพูดประชดนิดๆเหมือนน้อยใจ
ชวนให้น่าถีบมากกว่าน่าเอ็นดู..
มันเหมาะไหมนั้นผู้ชายตัวโตๆ คนคุยถึงกับต้องแหงนหน้าให้ ทั้งที่รพินทร์สูงถึง 175 แต่ผู้ชายตรงหน้า
คงจะ 180 ปลายๆ แล้วหละ..มีหน้ามากระแดะออกท่าทางแบบนี้อีก...ขัดลูกตาพิลึก
“คิดอย่างนั้นเหรอค่ะ..ฉันว่าชื่อคุณเพราะดีออก...ถ้าคุณไม่ชอบฉันตั้งให้ใหม่เอาไหม...เปลี่ยนเป็น
ยันดะ..ท่าจะดี?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ สำหรับชื่อใหม่ที่เธอเจตนาแกล้งคนตรงหน้า
“โห!..แรงจังคุณรพินทร์..เห็นอย่างนี้ผมก็เลือกน๊า..ใครว่าผมยันดะแหมว่าซะเสียเลยคุณ....
ช่างเหอะเรียกชื่อหลังผมดีกว่า...ว่าแต่คุณกำลังทำอะไรอยู่ครับ...ผมเห็นชะเง้อยึกยักยังกะกระเหรี่ยงคอยาวเลย..ฮ่าๆๆๆ”
อารมณ์ขันดีจริงนายกายันต์..กวนกลับจนได้..บุคลิกแตกต่างพี่ชายหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยวุ้ย!..แต่ก็ไม่เลวสำหรับมิตรภาพ
ของคนขี้เล่น ยิ้มง่ายอัธยาศัยดี..พลอยทำให้รพินทร์หัวเราะตามไปด้วย...พอเธอเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง หนุ่มตรงหน้า
กับยืนมองตาค้างซะงั้น
“มองอะไร...ไม่เคยเห็นคนหัวเราะหรือไง?” กลายเป็นเธอต้องแปลกใจเสียเอง อยู่ๆนายกายันต์
มองเธอตาลอยไปซะงั้น..ประสาทดีหรือเปล่าเนี่ยะ
“อะ..เออ..เคยครับ..เห็นมาเยอะครับคนหัวเราะ..แต่คนหัวเราะแล้วมีเสน่ห์ไม่เคยเห็นมาก่อน...
ผมถึงตะลึงไงครับ” อุแม่เจ้า!..เสือผู้หญิงอย่างรพินทร์ กลับมาเจอคาสโนวาตัวพ่อหม้อเอาซึ่งหน้าเข้าให้
“หืม!..บอกก่อนฉันมีรสนิยมเหมือนคุณนะ..เสียเวลาเปล่าถ้าคิดจะป้อฉันคุณยันดะ” รพินทร์เล่นลิ้น
กวนใส่ซะงั้น แต่ก็เรียกความฉงนในแววตาคู่สนทนาขึ้นมาทันที
“หมายความว่าไง ที่มีรสนิยมเหมือนผม..คุณรู้หรือว่าผมรสนิยมแบบไหน?” น้าน!...ว่าแล้ว
นายนี่ต้องงง..
“เข้าใจไม่ยากหรอก..คุณชอบผู้หญิงสวยฉันก็ชอบที่นี้เข้าใจหรือยัง” รพินทร์ตีแสกหน้า
เล่นเอานายกายันต์หน้าเจื่อนไปทันที ก่อนจะรีบถามให้ไว เพื่อยืนยันในสิ่งที่ตนเองได้ยิน
“อย่าบอกว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน” พูดจบลุ้นระทึกอีกตะหาก..
“ต้องพูดใหม่ให้ถูกต้องฉันไม่ใช่เลสเบี้ยน..เลสเบี้ยนคือผู้หญิงจับคู่เล่นดนตรีไทยบทบาทไม่แน่ชัด..
แต่ฉันไม่ใช่แบบนั้นถึงจะนิยมดนตรีไทย แต่ฉันชอบเป็นฝ่ายคุมเกม..เพราะฉะนั้นอย่างฉันเรียกว่า..’ทอมบอย’
น่าจะโอเคที่สุด” พูดจบคนฟังถึงกับเอากำปั้นทุบหน้าผากตนเอง ก่อนจะกลับมาจ้องหน้ารพินทร์สำรวจตรวจตรา
อีกครั้งอย่างละเอียด
“ความจริงผมก็พอดูออก ไม่คิดว่าคุณจะยอมรับโต้งๆ แบบนี้..แต่ช่างเหอะผมไม่แคร์
ในเมื่อคุณมีสิ่งที่ผมสน..ผมนี่แหละจะเปลี่ยนทอมอย่างคุณกลายเป็นหญิงให้ดู...คงไม่ว่าอะไรนะครับ..ถ้าผมจะจีบคุณ”
ชิ...ไอ้นี่มันหน้าถีบดีจริง..ยังกล้าขอจีบกูอีก...ตายแล้วไปเกิดใหม่อีกรอบก็ไม่มีทางเปลี่ยนกูเป็นหญิงได้หรอกไอ้บ้า...
ไม่ติดว่ามีภาระสำคัญ..พ่อจะถอดกางเกงให้แม่งดูตาแหกไปเลยไอ้ห่า....ได้แต่คิดที่ทำได้ก็เพียงแต่ยิ้มประจบ
ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ตามสบายเลยคุณ...ถ้าคิดว่าไม่ท้อเสียก่อนก็เชิญ” เหมือนเป็นการท้าทายคาสโนวาตัวพ่อ
อย่างกายันต์..ผู้ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าลองดีมาก่อน..ชายหนุ่มจึงเผลอยิ้มกว้างจนตาหยี แสดงความดีใจอย่างปิดไม่มิด..
ชีวิตมีรสชาติขึ้นเยอะ..ให้มันได้อย่างนี้สิหวะ...ลองเปลี่ยนมาจีบทอมที่ดูยังไงก็ตรึงใจยิ่งมองยิ่งใจสั่น ท่าทางรั้นๆ
อย่างคนชอบเอาชนะนั้นอีก ท้าทายให้คนอย่างกายันต์กระโดดลงไปลุยแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ
รูปร่างสูงโปรงไม่ถึงกับอ้อนแอ้นแต่ก็ดูดีน่ามอง...ผิวขาวใส รวมกันแล้วดูเท่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
สำหรับผู้หญิงที่ประกาศตัวว่าเป็นทอมได้อย่างองอาจผึ่งผาย...งานนี้ไอ้กายันต์จะล่อทอมให้ร้องครางดิ้นเร่าๆ
ใต้ร่างซะให้เข็ดเลยคอยดู...บ้านทรงไทยหลังนี้มีชีวิตชีวาขึ้นตา..เมื่อมีเรื่องสนุกให้ทำอยู่ข้างหน้า
“ถือว่าคุณรพินทร์อนุญาตแล้วนะ งั้นผมลุยได้เลยสิ..ว่าแต่ที่ผมถามคุณยังไม่ได้ตอบผมเลย..
กำลังทำอะไรอยู่” กายันต์ถามย้ำ ก่อนที่ทั้งคู่จะมายืนคุยกันแบบนี้
“ฉันกำลังหาทางไปห้องทานข้าว..จนคุณมานี่แหละ” รพินทร์บอกตามจริง
“พอดีเลย..ผมกำลังไปเหมือนกัน...มากับผมเลยดีกว่า..ดีใจจังมื้อนี้ได้ทานข้าวกับคุณรพินทร์..
เจริญอาหารน่าดูเลยหละ” พูดพร้อมกับก้าวเดินโดยที่รพินทร์ตีคู่ไปด้วย....ตลอดทางชายหนุ่มชี้ชวนให้ดูห้องหับต่างๆ
ที่เดินผ่าน ซึ่งรพินทร์รีบบันทึกข้อมูลไว้ในหัวอย่างละเอียด..ได้ประโยชน์ไม่น้อย ทำให้รู้ว่าส่วนไหนของบ้านมีห้องอะไรบ้าง
อย่างน้อยเธอก็สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องงงอีก..หลังฟังคำแนะนำจากเจ้าบ้านน้อย คุณกายันต์.............
มาต่อให้แล้วนะคะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
Luk.