ตอนที่ 32“มึงไม่ไปด้วยเหรอวะ?”ผมหัวเราะคิกๆ เมื่อเห็นหน้าลำบากใจของไอ้โซโล่ ไม่ได้แกล้งมันหรอกนะแต่อยากจะให้มันไปดูด้วยเฉยๆ แต่เมื่อมันไม่อยากไปผมก็ไม่บังคับมันหรอกครับ
“กูอยากไปดูกับมึงนะโว้ย ไปสนุกด้วยกัน”
“...”ไอ้โซโล่เหลือบมามองผมด้วยสายตาแปลกใจ ผมก็พยายามเก๊กหน้าจริงจังสุดๆ ผมอยากให้มันไปด้วยนี่น่า ก็ไม่ได้บังคับนะ แค่อยากให้ไปด้วยเท่านั้นเอ๊ง ผมก็ถามมันซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งมันรำคาญตอบตกลงนั้นแหละครับ หึๆ สนุกน่า ไม่ต้องห่วง!
ผมกับไอ้โซโล่ขับรถมาจอดทิ้งไว้ไกลพอสมควรครับ แค่จอดรถคนก็มองกันพรึบแน่ะ ไม่ให้มองได้ยังไงวะ รถ koenigsegg cxx คันดำเจ้าเก่าของไอ้โซโล่มันแหละครับ รถนอกสุดสวยมาเทียบท่าจอดดูหมอลำ ก๊ากกกกกก!!! ขนาดกูยังฮาอ่ะ ตอนลงมาจากรถไอ้โซโล่แทบจะเอาปิ๊บคุมหัวเดินแน่ะครับ ไอ้โซโล่มันก็พยายามเก๊กหน้านิ่งสุดชีวิต
ผมเดินนำหน้ามันแล้วยิ้มมาตลอดทาง ฮิๆ ขัดกับบรรยากาศข้างหลังที่ไอ้โซโล่มันดำทมึนสุดขีด พอมาถึงที่นัดหมายก็เห็นไอ้โจ้กับคนอื่นๆ มายืนรอกันอยู่แล้วครับ พวกเพื่อนๆ มองไอ้โซโล่กันอย่างแปลกใจกันออกหน้าออกตามาก ไอ้สตางค์อ้าปากเหวอเชียว หน้าโคตรตลกอ่ะครับ
ไอ้โจ้เตรียมเสื่อมาพร้อมแล้วพวกเราก็พากันไปจับจองสถานที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหน้าเวที อยู่ใกล้ก็จะเงยหน้ามากไปมันปวดหัวครับ อยู่ไกลก็จะมองเห็นหมอลำตัวเท่ามด พอปูเสื่อปุ๊บไอ้พวกไม่เตรียมอะไรมาก็รีบนั่งจองพื้นที่เสื่อกันสลอน
“ห่า ทำไมพวกมึงไม่เตรียมมาเองวะ”
“โห เพื่อนโจ้ แค่นี้เองแบ่งๆ กันไปสิวะ”
“วันนี้ลำเรื่องอะไรวะ?”
“พระสุธน มโนราห์วะ”
พอนั่งลงผมก็หันมาถามไอ้โจ้เจ้าพ่อหมอลำประจำคณะเลยล่ะครับ มีหมอลำที่ไหนมีไอ้โจ้ที่นั้นครับและที่บ้านของมันก็เป็นคณะหมอลำใหญ่ด้วยนะ ถ้าผมไปเยี่ยมตายายก็จะแวะไปหาไอ้โจ้มันตลอดครับ ช่วงปิดเทอมนั้นแหละที่จะเยี่ยมตากะยายพร้อมครอบครัว
“กินอะไรไหม?”ไอ้โซโล่หันมาถาม ผมก็มองมันเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา
“มึงจะไปซื้อเหรอวะ?”
“...”ไอ้โซโล่หันไปมองทางร้านต่างๆ แล้วทำหน้าลำบากใจที่จะไป แหงล่ะ คุณชายอย่างมันจะเคยซื้อของกินจากรถเข็นตามทางได้อย่างไงล่ะครับ!
“มึงก็ไปด้วยสิ”ไอ้โซโล่หันมาตอบด้วยใบหน้าตาย เออ กูคงไม่ปล่อยให้มึงไปเดินซื้อลูกชิ้นปิ้งหรือปลาหมึกย่างด้วยบัตรเครดิตของมึงแน่นอน! ผมหันมาบอกพวกเพื่อนๆ แล้วลุกขึ้นใส่รองเท้าเดินไปซื้อของกินกับไอ้โซโล่
ระหว่างที่เดินๆ หาของกินกันอยู่นั้น ไม่อยากจะบอกเลยว่ามันลำบากโคตรๆ ครับ ก็ไอ้คนที่เดินตามผมมาเนี่ยมันโคตรจะเด่นเลยอ่ะ ตัวก็สูงมากแถมหน้าตาก็จัดอยู่ในขั้นหล่อปานดาราดัง ผู้คนก็เลยมองมันกันเป็นตาเดียวเลยแน่ะ คงจะสงสัยว่าคนระดับนี้มันหลงมาเดินแถวนี้ได้อย่างไงล่ะมั้งครับ ดูการแต่งตัวของมันซีรัศมีคุณชายเปล่งประกายวิ๊งๆ
ผมเลือกซื้อนั้นซื้อนี้ไปเรื่อยๆ ตามทางที่มีรถขายของมาจอดขายนั้นแหละครับ ซื้อแล้วก็ให้ไอ้โซโล่มันถือ เรื่องอะไรที่ผมจะถือเต็มไม้เต็มมือวะ มีแฟนต้องใช้ให้คุ้มหน่อยล่ะครับ ผมยืนซื้อปีกไก่เล็กๆ ที่ย่างร้อนๆ ได้กลิ่นหอมๆ ก็น้ำลายไหลแล้วล่ะครับ ซื้อไปหลายๆ ไม้เผื่อเพื่อนๆ ช่วยกันแคะกระดูกครับ
“ซื้อแค่นี้ก็พอแล้วมั้ง กลับเหอะ”
“...”ไอ้โซโล่หันมามองผมด้วยสายตาประมาณว่า ‘ถ้ามึงซื้ออีกกูจะเหวี่ยงถุงใส่หน้ามึง’ ซื้อแค่นี้เองมึงแค่เดินตามหลังกูเหนื่อยไรวะ! ผมกับไอ้โซโล่ก็พยายามเดินกลับมาที่นั่งเดิมที่ตอนนี้คนมาจองพื้นที่เต็มไปหมดเลยล่ะครับ เดินออกมาน่ะง่ายแต่ตอนเข้ามันลำบากสุดๆ เลยล่ะ
แถมผมเบื่อจริงๆ กับเสียงซุบซิบตามรายทางที่เดินผ่านมา มันจะไม่เบื่อเลยนะถ้าพวกนั้นชมผมบ้างแต่นี่พูดถึงไอ้โซโล่คนเดียวเลยนี่หว่า เฮ้ย! พวกมึงเห็นกูเดินมากับไอ้โซโล่มันไหมเนี่ย พูดซะกูเป็นคนไร้ตัวตนไปเลยนะ หน้าตาผมก็ไม่ได้แพ้ไอ้โซโล่มันเท่าไรหรอก!!
“อย่างกับพระเอกในนิยายเลย”
“หล่ออ่า”
“ไม่น่าเป็นแฟนกับทอมเลย”
ใครทอม!!?
มึงเบิกตาให้ดีๆ สิวะ
กู ผู้ชาย แมนเต็มร้อย!!ผมถอดรองเท้าแล้วนั่งลงอย่างอารมณ์เสีย วางถุงในมือไว้กลางวง พวกอีแร้งก็รอลงอยู่เลยครับ พอวางปุ๊บลงแหบกันทันที ผมไม่สนใจหันไปมองเวทีที่เริ่มเพลงเปิดวงแล้ว ไอ้โซโล่มันก็นั่งลงข้างๆ ผมนั้นแหละครับ
“มีแฟนรวยมันดีอย่างนี้นี่เอง!”ไอ้สตางค์มันกินไปพูดไปด้วยความอิจฉา
“กูก็รวยนะ”ไอ้บู๊ลิ้มมันรีบพูดขึ้นแต่โดนไอ้สตางค์มันหัวเราะเยาะ
“รวยหนี้น่ะกูเชื่อ”
“เปล่า กูรวยความรักวะ ความรักที่กูมีให้มึงมหาศาลนับค่าไม่ได้”
“ฮิ้วววววววว!!! มาแล้ววลีเน่าของท่านจอมยุทธิ์บู๊ลิ้ม”
ไอ้แซมตบมือแปะๆ ชื่นชมความเน่าไม่เสื่อมคลายของไอ้บู๊ลิ้ม ไอ้สตางค์ก็ทำกระแดะหน้าแดงแล้วตีแขนผัวของมัน พวกมึงมาดูหมอลำหรือมาสวีตกันวะ!? แล้วพวกมึงแถวนี้ก็เหมือนกันมองอะไรนักหนาวะ ไม่เคยเห็นคนหรือไง ดูหมอลำไปสิโว้ย มองอยู่ได้ไอ้โซโล่น่ะ จะมองมันจนสึกเลยหรือไง!? อะไรตอนนี้แมร่งก็ช่างขัดตาของผมไปหมดครับ
“กูอยากลองกินบ้าง”ไอ้คุณชายมันมาสะกิดผมแล้วชี้ไปที่ลูกชิ้นปิ้ง มีมือไหม หยิบเอาเอง!
“อยากกินก็หยิบเองสิวะ กูดูหมอลำอยู่”
“มันอยู่ใกล้มึง”
“ก็ข้ามไปเอาสิ ไม่เห็นยาก”
“...”ไอ้โซโล่มันไม่ได้พูดอะไร ขยับตัววางมือไว้ข้างหลังของผมแล้วโน้มตัวเอื้อมไปเอาลูกชิ้นผ่านหน้าผมไป แมร่ง นี่จงใจหรือเปล่าวะ ผมมองไอ้โซโล่เขม็ง นี่มันเล่นกอดกูโชว์ชาวบ้านเขาเลยใช่ไหม!? ไอ้โซโล่ก็ทำหน้ามึนนั่งกินลูกชิ้นไปไม่รู้เรื่อง
“มันก็โอเคนะ”ไอ้โซโล่มันกินแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง ไอ้คุณชายที่กินแต่ไบท์ไม่เคยเจอลูกชิ้นกลมๆ ถูกๆ ล่ะสิ ผมมองไอ้โซโล่แล้วยิ้มๆ มันทำหน้าเหลือเชื่อมองลูกชิ้นในมือแล้วกินต่อ ผมเหลือบไปมองถุงที่ถูกพวกแร้งถึกทั้งหลายแหบจะหมดอยู่แล้ว กูว่าซื้อมาตั้งเยอะแต่ทำไมมันหมดเร็วแบบนี้วะ ผมก็จิ้มขนมครกมา
“มึงลองนี่ อร่อยเหมือนกัน”
“...”ไอ้โซโล่มันหันมามองผมเล็กน้อยก่อนจะอ้าปากงับไปแต่โดยดี ผมมองมันเคี้ยวคิ้วมันขมวดเข้าหากัน
“ก็ดี”
“กูชอบขนมครกนะ อร่อยออก”ผมหันไปจิ้มมากินเองแล้วยัดเหยียดขนมเบื้องให้กับไอ้โซโล่ มันก็บ่นว่าหวานเกินไป
“มองหน้ากูทำไมวะ?”
“ไม่ให้มองมึงแล้วจะมองใคร?”
“ดูหมอลำไปสิวะ”ผมดันหน้าของไอ้โซโล่ให้หันไป มันก็จับแขนของผมออกจากหน้ามัน
“กูฟังไม่รู้เรื่อง”
“เดี๋ยวกูแปลให้มึงฟังไหม?”
“ไม่ต้อง มึงดูไปเถอะ”
ผมก็หันไปดูหมอลำต่อ ไอ้โซโล่มันนั่งเงียบจนผมเกือบจะลืมมันไปล่ะ ถ้ามันไม่หันหลังแล้วเอนตัวมาพิงผม ผมหันมามองมันที่หลับตาเหมือนจะนอน
“โซโล่?”
“ง่วง ร้อน หนวกหู”มันบ่นสั้นๆ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลืมตานั้นแหละครับ นี่ผมเอามันมาทรมานหรือเปล่าวะ? มันฟังไม่รู้เรื่องแถมยังเสียงดังมากด้วย ผมก็ไม่ค่อยชอบเสียงดังนะแต่สำหรับหมอลำแล้วมันข้อยกเว้นวะ
“นอนดีๆ สิวะ เมื่อยไหล่”
“...”ไอ้โซโล่มันก็ไถลตัวมานอนบนตักของผมแทน เออ เมื่อกี้เมื่อยไหล่ตอนนี้กูรู้สึกว่าเหน็บจะกินขาแล้ววะ! ผมบ่นอะไรไม่ได้มากหรอกครับเพราะไอ้บ้าโซโล่มันชิงหลับตานอนไม่สนใจโลกไปแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ เอาเถอะ ผมผิดเองที่เอามันมาทรมานแบบนี้ มองไปที่พวกเพื่อนๆ ที่จ้องมาทางผมแล้วยิ้มเขินๆ
อะไรของพวกมึง!!?
กูต่างหากที่ต้องอาย!“มองอะไรของพวกมึง ดูหมอลำไปสิวะ!”
“ไอ้พรีสต์หน้าแดงถึงหูเลยวะ!!”
“อยู่กับผัวแล้วมึงดูน่ารักขึ้นนะพรีสต์”
“ไม่ต้องมาแซวกู!”
ผมพยายามจะไม่สนใจเจ้าพวกที่ยิ้มล้อเลียนพยายามโฟกัสไปที่เวทีกำลังดำเนินเรื่องไปอย่างเข้มข้น หลุบตามองไอ้ตัวต้นเหตุที่นอนอยู่บนตักแล้วยิ้มนิดหน่อย รีบหุบยิ้มเมื่อเห็นไอ้พวกส่วนเกินนั่งหัวเราะคิกคัก อะไรของพวกมึงวะ คนมีความสุขมันก็เป็นแบบนี้แหละ พวกมึงอิจฉาใช่ไหมล่ะ!?
ผมนั่งดูหมอลำอย่างมาราธอนเลยครับ เกือบถึงเที่ยงคืนแน่ะกว่ามันจะจบเรื่องจบราว ปลุกไอ้โซโล่ที่นอนทับขาผมจนเหน็บกินแล้วกินอีก ไอ้บ้านั้นก็สะลืมสะลือขึ้นมาอย่างงงๆ เร็วๆ โว้ยไอ้โจ้มันเก็บเสื่อไล่ที่แล้ว ไอ้โซโล่มันก็ลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้ผมที่ยังนั่งแหม็บอยู่ที่เดิม อยากบอกว่ากูลุกไม่ได้ เหน็บกินขากูสองขาเลย!
“เป็นไรวะ?”
“เหน็บแดกเพราะมึงนั้นแหละ สัด”
“แล้วทำไมไม่ปลุก”ไอ้โซโล่มันถอนหายใจเบาๆ แล้วดึงผมลุกขึ้น รู้สึกขามันไม่มีความรู้สึกเลยวะ
“เดินไหวเปล่าวะ?”ไอ้โจ้มันเก็บเสื่อแล้วลุกขึ้นมาถาม ผมก็พยักหน้าเกาะไอ้ต้นเหตุมันไปนั้นแหละครับ พวกผมโบกมือลาทางใครทางมัน ไอ้โซโล่มันก็พยุงผมมาที่รถ จริงๆ แล้วมันจะอุ้มผมแล้วล่ะ แต่ผมหน้าบางไปไม่กล้าให้มันอุ้มท่ามกลางสายตาของชาวบ้านหรอกครับ
“สนุกเปล่าวะ?”
“กูนอน”
โอเค มึงนอน!
กูไม่น่าถามให้โง่เลยนะ
“มึงหิวไหม?”ไอ้โซโล่มันขับรถอยู่ก็หันมาถามผม
“กินตอนนี้อ้วนนะมึง”
ตอกย้ำจุดอ่อนของมันไปครับ ไอ้โซโล่ก็เงียบไปเลย เอาน่า ผมรู้ว่ามันถามเพราะเป็นห่วงว่าผมจะหิวหรือเปล่า แต่ผมไม่ได้หิวอ่ะ ตอนนี้ขาก็กลับมาเป็นปกติแล้วล่ะครับ ไปดูหมอลำมันม่วนถึงใจอีหลีถึงจะเหน็บกินขาก็ตามเถอะครับ แค่ไอ้โซโล่มันตามไปก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว! ผมนั่งยิ้มกับตัวเอง เวลาแบบนี้รู้สึกดีเนอะ รู้สึกมีความสุขไปหมด เล็กๆ น้อยๆ ก็มีความสุขได้ ไอ้โซโล่หันมามองมันไม่ได้พูดอะไรครับ
“โซโล่”
“หือ”
“ไม่รู้ว่าผีห่าตัวไหนทำให้มึงกับกูมาเจอกันได้เนอะ”
“ผีหัวเงินๆ”ไอ้โซโล่มันพึมพำกับตัวเอง อะไรเงินๆ วะ? ผมเลิกคิ้วแล้วมองมัน ไอ้โซโล่มันก็หันมามองผม
“ไม่เห็นต้องไปสนใจ รู้แค่ว่าตอนนี้มึงมีกูก็พอ”“อืม!”ผมยิ้มกว้างแล้วพยักหน้า
มึงก็มีกูเหมือนกันนะโซโล่!ถ้ากำลังมีความสุขเวลามักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอแหละครับ แป๊บๆ เนี่ยก็จะใกล้ไฟนอลของเทอมที่หนึ่งแล้วน่ะเนี่ย ผมกับไอ้โซโล่ก็ยังเลิฟกันเหมือนเดิม ไม่ต้องอิจฉานะครับ สองอาทิตย์ที่ผ่านมามีอะไรๆ ตื่นเต้นเยอะแยะเลยล่ะครับ เป็นสองอาทิตย์ที่ผมมีความสุขสุดๆ แต่อาจจะเป็นสองอาทิตย์แห่งความทุกข์ของใครบางคน
อ๊ะๆ เดาสิว่าใครรรรร~
แม่นแล้วครับพี่น้อง!!!
มันคือไอ้วินเซอร์นั้นเอง!!!! 
ยังจำกันได้ไหมครับตั้งแต่เลิฟโฮเต็ลนั้นแล้วดูเหมือนว่าไอ้วินเซอร์กับไอ้ฮอยฮักมันจะแตกหักกันอย่างรุนแรงมาก และดูเหมือนไอ้ฮักของเรามันจะเย็นยะเยือกเพิ่มเลเวลขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฮอยฮักเมื่อสมัยมอปลายที่คงความโหดไว้อย่างครบถ้วน วันๆ ไม่ได้ทำอะไรครับพวกผมนั่งรอดูละครชีวิตบัดซบของไอ้วินเซอร์มันครับ สะใจวะ!!! สมน้ำหน้าไอ้หัวขาว!
ช่วงนี้ถ้าคุณเห็นไอ้วินเซอร์มันมาสิงสถิตที่คณะผมก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ มันมาทุกวันนั้นแหละ ว่างปุ๊บมาปั๊บขนวิธีสารพัดมาตามง้อตามจีบไอ้ฮอยฮักมัน จนเป็นข่าวดังทั่วมหาลัยแน่ะครับ และดูเหมือนท่านคณบดีจะห่วงใยสวัสดิภาพลูกชายสุดรักมากตามประกบไม่ให้ไอ้วินเซอร์เข้าใกล้ และเป็นที่มาของวิญญาณเศร้าสลดนั่งทำหน้าง่อยเป็นหมาอยู่แถวนี้ไงล่ะครับ
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิวะไอ้วิน”ไอ้ชินเข้ามาปลอบใจเพื่อนแต่ไอ้เพื่อนเลวมันส่งสายตาเหี้ยมให้ครับ ทำดีไม่ขึ้นหรอกกับไอ้วินเซอร์น่ะ อย่าไปปลอบใจมันเลยวะชิน ไอ้ชินน้อยก็เดินกลับมาอย่างง่อยๆ แล้วนั่งลงข้างๆ ไอ้โซโล่ ปล่อยให้มันดื่มดำกับความเศร้าโศกของมันไปเถอะไอ้วินเซอร์น่ะ!
( เอาล่ะครับ~!!! ยินดีต้อนรับสู่การแข่งขันครั้งสุดท้ายของการชนคณะ!!! )
( ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ที่ไหนคะคุณแทน? )
( คณะของผมเองครับ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์!!! )
( เย้~!!! )
อ๊ะ นั้นพี่แทนกับพี่น้ำหวานกำลังเปิดตัวการชนคณะครั้งสุดท้ายแล้วครับ ผมก็ต้องนั่งรอคิวกันสักหน่อย อาทิตย์ก่อนมันส์สุดยอดครับ อาทิตย์ก่อนต้องทำภารกิจลับของแต่ละคนให้สำเร็จและห้ามให้ใครรู้ว่าทำภารกิจอะไรอยู่ ระหว่างนั้นเราก็จะเล่นเกมต่างๆ จนกระทั่งมีคนทำภารกิจสำเร็จก่อนแปดคนแรกก็ได้ผ่านมาสัปดาห์สุดท้ายครับ
( มาพบกับผู้รอดชีวิต เอ๊ย ผู้เข้ารอดสุดท้ายทั้งแปดคนดีกว่านะครับ )
( ค่ะ แปดคนสุดท้าย คณะวิศวะของเรารอดเหลือแค่สามคนค่ะ มีโซโล่ วินเซอร์และชิน ปีสาม! )
( คณะสถาปัตของเรารอดมาตั้งห้าคนแน่ะ ว้าว! โมพ เรียว เพ้นต์ ปีสี่ พรีสต์และฮอยฮัก ปีสามครับ )
พวกเราที่ยืนรอคิวอยู่ก็เดินเข้ามายืนเรียงหน้ากัน พี่แทนมองพวกเราทีละคนแล้วยิ้ม พวกเราเจ็ดคน ครับ เจ็ดคน ไอ้ฮอยฮักมันติดธุระสำคัญมาไม่ได้ครับ ไอ้วินเซอร์บอกว่าไอ้ฮักมันไปทำงานที่ฝรั่งเศสนู้นยังไม่ได้กลับมา มิน่าถึงไม่เห็นมันเลยสองสามวันมานี้ ก็เลยไม่มีละครโศกของไอ้วินเซอร์ให้ดู ละครโศกล่าสุดแรงมากครับไอ้วินเซอร์มันตามง้อแบบสุดๆ ขนดอกไม้มาให้ทุกวัน ไอ้ฮักมันก็เมินไม่รับแต่ก่อนที่มันจะหายไปนั้นได้ทำไอ้วินเซอร์ช็อกจนเป็นสภาพแบบนั้นแหละครับ มันรับช่อดอกไม้แล้วฟาดไอ้วินเซอร์ด้วยช่อดอกไม้นั้นแหละแล้วขว้างทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ขนาดผมกับไอ้โซโล่ยังอึ้งเลยแล้วไอ้วินเซอร์มันจะช็อกกว่าขนาดไหน
( บรรยากาศเย็นๆ หน้าคณะสถาปัตที่ไร้ผู้คนแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆ อย่างไงไม่รู้แฮะ )
( มันเป็นบรรยากาศของความตื่นเต้นอย่างไงล่ะคะแทน )
( ใช่แล้วครับ บรรยากาศแบบนี้เหมาะสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดเผ็ดมันส์ครั้งสุดท้ายที่จะรวมทุกอย่างไว้ในรอบนี้ ไม่ว่าจะเป็น... )
( การใช้สมอง!! )
อ๊ะ ตูไม่ค่อยมีแฮะ
( พละกำลัง!! )
หือ? ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า?
( และทักษะการหนี! )
โอ้!!! อันนี้ใช่เลย!
( ครั้งนี้ภารกิจมีชื่อว่าล่าสมบัติ !! เยสสสสส!!! )
( คิลเลอร์!! คิลเลอร์!!! คิลเลอร์!! )
พี่แทนกับพี่น้ำหวานตื่นเต้นดี๊ด๊ากันอยู่สองคน ปล่อยให้พวกเรายืนงงกัน
( เอาล่ะๆ น้ำหวานพวกเราตื่นเต้นกับมากเกินไปแล้ว มาอธิบายกติกาให้ทุกๆ คนฟังกันดีกว่า! )
( ค่ะ! วันนี้กติกาจะเป็นอย่างไรคะแทน? )
( ตอนนี้พวกคุณทั้งหมดเป็นนักล่าสมบัติ! แน่นอนว่าอยู่ในตึกนี้มีสมบัติซ่อนไว้อยู่ครับ โดยเราจะให้ทุกคนค้นหากุญแจไขกล่องสมบัติที่มีอยู่เพียงดอกเดียวเท่านั้นที่จะไขได้ ดังนั้นผู้ชนะจะมีผู้แค่คนเดียวเท่านั้นครับ! )
( และที่สำคัญที่สุด สมบัติมีนักฆ่าเป็นคนเฝ้าสมบัติเพื่อไม่ให้มีใครเข้าไปเอาได้และนักฆ่าก็จะตามกำจัดคุณออกจากการแข่งขัน นักฆ่าคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลค่ะ เขาคือหนึ่งในแปดผู้เข้ารอบสุดท้ายเนี่ยแหละ เพราะฉะนั้น... )
( อย่าไว้ใจใคร นอกจากตัวคุณเอง!! )
( อย่าลืมว่าผู้ชนะมีคนเดียวเท่านั้น! )
ผมยืนใจเต้นตึกๆ มองซ้ายมองขวา ผมไม่ใช่นักฆ่าแน่นอนครับ แต่เมื่อกี้เหมือนเห็นไอ้โซโล่มันยิ้มที่มุมปากแวบหนึ่งนะครับ หรือว่าผมกำลังยืนอยู่ใกล้นักฆ่าวะ!! ผมพยายามแอบสังเกตแต่ละคน วันนี้มีแต่คนแปลกๆ ไป พี่โมพที่เคยเงียบกลับยิ้มที่มุมปาก พี่เรียวก็แปลกๆ วันนี้เงียบผิดปกติมาก พี่เพ้นต์วันนี้ดูซีเรียสๆ ไม่ยิ้มเหมือนเดิม ไอ้ชินก็แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอ้วินเซอร์ที่เศร้าแดกอยู่ก็ทำตาเป็นประกายเชียว ส่วนไอ้โซโล่มันก็แปลกๆ มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ ไม่คุยกับผมเลยถ้าผมไม่เข้าไปคุยก่อนมันก็ไม่คุยด้วย
ทำไมมีแต่คนทำตัวน่าสงสัยแบบนี้วะ!!?( เราจะให้ป้ายชื่อห้อยคอไว้ครับ รักษาป้ายนี้ไว้ให้ดีๆ เพราะชะตาของคุณจะขึ้นอยู่กับป้ายนี้ ถ้ามีคนฉีกป้ายชื่อของคุณขาดแสดงว่าคุณถูกกำจัดออกจากเกมครับ! )
( เราจะให้เข้าไปทีละคนตามลำดับการทำภารกิจสำเร็จจากครั้งที่แล้วนะค่ะ ล่าสมบัติ ค้นหากุญแจและระวังนักฆ่า! )
( เอาล่ะ! )
( ถึงเวลาล่าสมบัติแล้ว!!!! )TBC.กลับมาอัพคู่กัด อิๆ ไม่ได้อัพมาเกือบยี่สิบวันได้ โฮ เกือบเดือนแล้วน่ะเนี่ย
มาย่องอัพให้ก่อนจะไปศึกษานอกสถานที่(พูดง่ายๆ คือตูไปเที่ยวววววว)
กลับมาพร้อมกับการชนคณะครั้งสุดท้าย ใครจะเป็นผู้ชนะกันนะ?
แล้วใครคือนักฆ่า? หนึ่งในนี้จะมีคนที่ได้สมบัติไปครอง!!!
ติดตามตอนต่อไปจ้า~
ปล. โพลล์ที่ให้โหวตว่าใครจะเป็นคนชนะการชนคณะครั้งนี้ มาดูผลโหวตกัน!
คุณคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะของการชนคณะวิศวะวิศวะถาปัตถาปัตครั้งนี้???
พรีสต์ 10%
โซโล่ 1%
ฮอยฮัก 68%
วินเซอร์ 1%
พี่เพ้นต์ 1%
ชิน 2%
พี่เรียว 10%
พี่โมพ 7%
จากคนโหวตทั้งหมด 204 คน!!
ป๊าดดดดดดดดดดดด!!! คนโหวตให้ท่านเทพล้นหลาม แต่ท่านเทพไม่อยู่!!!
แล้วทำไมคุณชายแกโดนโหวตน้อยจังหว่า
พรีสต์มาคู่พี่เรียวเลยทีเดียว มีคนหวังพรีสต์ไว้มากนะเนี่ย
พรีสต์เอ๊ย จะไหวไหมลูก?