ตอนที่ 24 เฮียเฮอร์มิตมาแล้ว~!( เกมต่อไปได้รับเกียรติจากท่านคณบดีคณะสถาปัตของเรานี่เองครับ ท่านคิดเกมสนุกๆ เกมนี้ขึ้นมา )
“เหี้ย คณบดีถาปัต...”
พอได้ยินพี่แทนประกาศแบบนั้น ไอ้โซโล่คนแรกเลยครับที่สบถออกมาอย่างอารมณ์เสียเป็นที่สุด ตามด้วยพี่เพ้นต์ที่ทำหน้าซีดๆ เหมือนกำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่เศร้าสลดใจ พวกรุ่นพี่สถาปัตเนี่ยหน้าเหวอกันถ้วนหน้า ทำไมวะ? คณบดีคนนี้มันน่ากลัวขนาดนั้นเชียว แล้วผมก็หันไปมองคุณลูกชายของคณบดีที่นั่งเป็นนินจาล่องหน...
ดูจากลูก ตูก็เริ่มวิตกว่าพ่อจะไม่ต่างกันสักเท่าไร!!“เป็นประสบการณ์ที่ทำให้กลัวละครรักไปชั่วชีวิต”พี่เพ้นต์กับไอ้โซโล่มันบ่นขึ้นมาพร้อมกันแล้วถอนหายใจตบไหล่กันอย่างเข้าใจกันและกัน พวกมันไปเป็นมิตรกันตั้งแต่เมื่อไรวะ กลายเป็นเพื่อนร่วมแชร์ความทุกข์กันได้ขนาดนั้น
อะ!! หรือว่า...ตอนนั้นไอ้ฮักบอกว่าแย่ มันแย่อย่างไงวะ? ผมหันไปมองไอ้ฮอยฮักที่ขยับแว่นตากันน้ำแล้วดึงหมวกปกปิดหน้าของตัวเอง ไม่พอมันยังใส่ฮู้ดไว้อีกชั้น กูล่ะร้อนแทนมึงจริงๆ มองไปแล้วจะเห็นแค่ปากแดงๆ น่าจุ๊บของมันเท่านั้นแหละครับ ผมเดินไปนั่งกับมันแล้วกระซิบกระซาบเบาๆ
“ตอนนั้นที่มึงบอกว่ามันแย่น่ะ พ่อมึงทำอะไรพวกไอ้โซโล่มันวะ?”
ไอ้ฮอยฮักหันมามองผมนิ่ง เหมือนมันกำลังคิดว่าผมถามอะไรมันอยู่ ก็ตอนนั้นมันบอกว่าแย่วะ แต่ก็ไม่เห็นไอ้โซโล่หรือพี่เพ้นต์จะโดนอะไรเลยนี่น่า ไม่ได้พักการเรียน ไม่ได้โดนโทษทัณฑ์ใดๆ แล้วมันแย่ตรงไหนวะ?
“อ้อ ตอนนั้นน่ะเหรอ กูกำลังบอกว่า แย่เพราะกูลืมถามน่ะ”
“...”
ไอ้คุณฮัก!!!! มึงพูดแย่มาคำเดียวทำเอากูเครียดจนเป็นลม เพราะมึงลืมถามพ่อมึง!!? ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับไอ้เพื่อนคนนี้จริงๆ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่ความผิดของมัน กูผิดเอง โอเค! กูดันเป็นลมก่อนที่มึงพูดจบ กูผิดเอง!! แต่ผมก็ยังสงสัยว่าทำไมสองคนนั้นถึงทำท่าหวาดกลัวคณบดีคณะเรานักวะ ถ้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ น่ะ?
“แล้วคณบดีทำโทษอะไรหรือเปล่าวะ?”
“อ้อ ทำสิ ให้สองคนนั้นนั่งดูละครเป็นเพื่อนไง รู้สึกว่าช่วงนี้พ่อกำลังติดซีรี่ย์รักๆ อยู่”ไอ้ฮอยฮักมันเอ่ยขึ้นเรียบๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ ดูละครเนี่ยน่ะ!!? มันเป็นการลงโทษประเภทไหนกันวะ!? แล้วทำไมไอ้สองคนนั้นมันถึงได้เศร้าสลดแบบนั้นได้ ละครเรื่องอะไรกัน!?
“แล้วทำไมสองคนนั้นถึงได้กลัวกันวะ?”ผมถามไปอย่างไม่เข้าใจสุดๆ ไอ้ฮักมันหัวเราะเบาๆ
“กูไม่รู้ แต่ขนาดพ่อดีซยังผวาเมื่อได้ยินชื่อละครทีไรน่ะนะ”
“...”
ขะ...ขนาดท่านคิงยังกลัว ดูละครนี้คงจะไม่ธรรมดา!!!?ตกลงมันเป็นการลงโทษประเภทไหนกันแน่วะ!!!?“อ่า...แม่ง! เจ้าคณบดีกวนประสาท”พี่เรียวและรุ่นพี่คนอื่นๆ ยังส่ายหน้าไม่สู้ดีเลยครับ คณบดีคณะกูเจ๋งขนาดชนะพวกนี้ได้เลยเหรอ!? เดี๋ยวว่างๆ ผมจะแถไปกินข้าวกับไอ้ฮักมันบ้างดีกว่า เป็นการตีสนิทกับคณบดี เผลอๆ อาจจะตีซี้กับท่านคิงเลยก็ได้!!
( อย่างที่เห็นที่สระน้ำ ทางทีมงานกำลังเช็คความเรียบร้อยอยู่ จากจุดที่เรายืนอยู่นะค่ะเป็นจุดเริ่มต้น แต่ละคู่จะเริ่มต้นจากจุดนี้เหมือนกัน ทั้งสองคนวิ่งไปตามแพแคบๆ นี้ไปจุดสุดท้าย จากนั้นก็ทำให้ลูกโป่งแตกด้วยหน้าอก ห้ามเอาส่วนอื่นช่วยนะค่ะ แล้ววิ่งกลับมาจุดเริ่มต้น โดยทั้งหมดนี้จะต้องคาบป๊อกกี้ไว้หนึ่งแท่ง ถ้าป๊อกกี้หักต้องเลือกแท่งที่สั้นที่สุดมาคาบไว้แทนนะค่ะ พยายามอย่าทำให้ป๊อกกี้หักล่ะ ถ้าไม่อยากสัมผัสความแปลกใหม่ในชีวิต ฮิๆ )
ตาหวานพูดไปหัวเราะไปคิกๆ อย่างมีความสุข ระหว่างที่เราวิ่งบนแพและคาบป็อกกี้ไปด้วย ป๊อกกี้มันก็หักง่ายอยู่แล้วขนาดวิ่งบนพื้นธรรมดายังหักเลย!! นับประสาอะไรกับการวิ่งบนแพน้ำที่ไม่ค่อยเสถียรอีก อย่างไงป๊อกกี้มันก็หักอยู่ดีนั้นแหละ!!! แถมยังต้องเลือกแท่งที่สั้นที่สุดมาคาบต่ออีก นี่ไม่เท่ากับจูบโชว์ชาวบ้านเขาหรือไงวะ!?
คณบดีท่านคิดอะไรอยู่คร้าบบบบ!!? ( และถ้าตกลงไปในน้ำล่ะก็ต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยนะครับ เกมนี้อาศัยความสามัคคีและสมาธิเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นทุกคู่เตรียมพร้อมนะครับ? )
“กูไม่ขอพร้อมได้ไหม ขอสละสิทธิ์เกมนี้ได้ไหมวะ?”คนผมเงินเอ่ยขึ้นมาก่อนใครเพื่อน ไม่ใช่ไอ้วินเซอร์ครับ แต่เป็น...รู้สึกว่าจะชื่ออัคน่ะครับ
“ทำอย่างกับกูอยากจะใกล้ชิดมึงงั้นแหละไอ้เหี้ยอัค ถ้าไม่มาป่านนี้ได้ไปนอนเล่นข้างเมียกูแล้ว”
“เออวะ ป่านนี้นอนสบายกับเมียไปแล้ว”
“ใครจะให้มึงนอนวะ? กูจะนอนกับเมียกู มึงไม่เกี่ยว”
“เหี้ย นั้นก็เมียกูโว้ย”
“เหี้ยยยยยย!!!”
แล้วก็เกิดศึกระหว่างสองหนุ่มวิศวะที่เป็นคู่กัน พี่อัคกับพี่ไลท์นั้นแหละครับ พูดอะไรจนผมงงๆ ตกลงแม่งเมียใคร แล้วไม่มีใครไปแยกสองคนนั้นที่กำลังกัดกันบ้างเลยเหรอ ดูเหมือนพวกเพื่อนๆ วิศวะจะมองดูอย่างปกติสุขเป็นที่สุดในสามโลก ดูเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เห็นหนุ่มหล่อทั้งสองคนถีบกันไปมา ทะเลาะกันอย่างกับเด็กๆ ผมหันไปมองไอ้โซโล่ที่อยู่ข้างๆ อย่างสงสัย
“ไม่ต้องสนใจ พี่อัคพี่ไลท์ทะเลาะแย่งเมียกันทุกวัน”มันโบกมือไปมาแบบไม่มายด์สักนิด แย่งเมียกันเนี่ยน่ะ!? รักสามเศร้าหรอกเหรอ? ผมมองไปที่สองคนนั้นที่ยังเถียงกันตาปูดตาโต
“แล้วตกลงใครสมหวังวะ?”
“หือ? ก็สมหวังทั้งสองนี่”
“มันจะสมหวังทั้งสองได้ไงวะ?”ผมทำหน้างุนงงสุดขีด ไอ้โซโล่มันเหล่มองผมอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนมันจะหัวเราะขำแล้วกระซิบข้างหูของผม
“พวกเฮียเขามีเมียคนเดียวกันวะ”
หา!!!!!? มึงหมายถึง 3P ชิมิ!!!!!? ผมนิ่งไปทันที ไอ้โซโล่มันพยักหน้ายืนยันอีกครั้ง แล้วมันก็เล่าเรื่องพวกเฮียๆ สองคนนั้นให้ฟังว่าทะเลาะจะเป็นจะตายแต่สุดท้ายมันก็ได้ด้วยกันน่ะนะ แถมเมียของสองคนนี้ก็เป็นผู้ชาย!!!!? แถมหล่อมากด้วย!!!
“เรียนบริหารเนี่ยแหละ”
แม่ง...ผู้ชายหล่อๆ เสร็จผู้ชายด้วยกันอีกรายแล้วเหรอวะ!!!? ( ใครจะขอสละสิทธิ์บ้างครับ? ยังมีเกมหน้าอยู่หนึ่งเกม แต่แหม น่าเสียดายนะครับ เกมนี้สนุกน่าดูเลย )
ผมมองไปคู่อื่นๆ สละสิทธิ์กันแบบไม่แคร์คะแนนอะไรทั้งนั้น เพราะต้องการรักษาเวอร์จิ้นให้กับริมฝีปากของตัวเองกันทั้งนั้นแหละครับ ไอ้ชินมันรีบยกมือไม่แคร์คู่ของมันสักนิด พี่เพ้นต์ยิ้มๆ กับอาการกระตือรือร้นที่จะสละสิทธิ์ของไอ้ชิน แม้แต่ไอ้วินเซอร์มันยังขอสละสิทธิ์โดยไม่ปรึกษาคู่ของมันเลยสักนิด ไอ้ฮอยฮักมันก็บ่นงึมงำ
“เกมนี้สนุกจะตาย”
สนุกจนตายน่ะสิ!!!!สุดท้ายแล้วเหลือสามคู่เท่านั้นครับที่ไม่สละสิทธิ์ แม่ง! แบบนี้อย่างไงก็ได้คะแนนวะ ดีแล้วที่ผมไม่สละสิทธิ์ไป คู่ที่เหลือก็คือพี่โมพพี่เรียว คู่น้องคาปูแล้วก็คู่ของผม อ่าฮะ!! ดูจากรูปการแล้วคู่ของผมชนะแน่นอน จะจูบหรืออะไรมันก็ธรรมดาๆ สำหรับผมกับไอ้โซโล่ที่เป็นแฟนกันอยู่แล้ว แต่สำหรับอีกสองคู่นั้นต่อให้สนิทกันแค่ไหนมันก็ไม่กล้าหร๊อกกกกก!!!
คู่แรกก็คือน้องคาปูชิโน่กับเจ้าคัลเลอร์ เล่นแบบระมัดระวังกันเต็มที่ ไปอย่างช้าๆ แต่มั่นคงจนกระทั่งจบเกมโดยที่แท่งป๊อกกี้ไม่หักเลยสักท่อน! แต่ใช้เวลาไปกว่าเกือบสิบนาทีแน่ะครับ ถ้าต้องการทำเวลาให้รวดเร็วก็ต้องทำให้ป๊อกกี้มันหักอย่างเลี่ยงไม่ได้ล่ะนะ เห็นไหมล่ะ? อย่างไงคู่ของผมก็ต้องชนะวะ!!
คู่ที่สองก็คือพี่โมพเรียว ผมนั่งดูทั้งสองที่เริ่มคาบป๊อกกี้คนละด้าน เสียงนกหวีดดังขึ้นเป็นสัญญาณการเริ่มเล่นเกม ทั้งสองก็ทำเอาผมอ้าปากค้าง พี่โมพพี่เรียวเดินบนแพแคบๆ นั้นอย่างรวดเร็ว แม้จะป๊อกกี้หักสั้นแค่ไหนก็ไม่แคร์ ริมฝีปากแม่งใกล้กันสุดขีดอ่ะ!! เสียงกรี๊ดของตาหวานเนี่ยดังขึ้นเป็นระยะๆ
พอมาถึงลูกโป่งทั้งสองก็ร่วมแรงร่วมใจกอดกันแน่นเพื่อให้ลูกโป่งมันแตก เป็นไปอย่างรวดเร็วมากครับ ชั่วพริบตาก็เดินกลับมาจุดเริ่มต้นโดยคาบป๊อกกี้ แบบนั้นมันไม่ได้คาบแล้วโว้ย!!! แบบนั้นมันจูบกันแล้วววววว!!!! แต่ละคนมองสองคนนั้นด้วยอาการอึ้งและทึ่ง ไอ้ฮักมันหัวเราะในลำคออย่างสนุก
( 1นาที 50 วินาทีค่ะ!! )
เร็วโคตร!!! “เย้~!!!!”พี่เรียวกระโดดตัวลอยเมื่อรู้เวลาของคู่ตัวเอง พี่โมพแกไม่ได้สนใจฟังเวลาด้วยซ้ำยืนเคี้ยวป๊อกกี้หน้านิ่งได้อีกอ่า ตกลงพวกพี่แม่งเป็นเพื่อนกันจริงๆ เปล่าเนี่ย เพื่อนมันจ๊วบกันหน้าตาเฉยขนาดนี้เลยเหรอวะ!? ไม่มีหวั่นไหวสักนิด? จะแมนอะไรขนาดนั้น!!!? กระหายชัยชนะมากเลยนะครับพี่เรียว!!
“แล้วเราจะชนะคู่นั้นได้ไงวะ?”ผมถามไอ้โซโล่อย่างสิ้นหวังสุดๆ ไอ้โซโล่มันหัวเราะออกมาแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ
“ด้วยความรัก!”
“...”
ถุย!!! ผมกับไอ้โซโล่มาจุดเริ่มต้นแล้วคาบป๊อกกี้ไว้กันละด้าน เอ่อ...ความยาวของป๊อกกี้มันก็ไม่ได้มากมายอะไร กลายเป็นการจ้องตาสื่อรักไปซะงั้น คณบดีครับนี่ใช่ไหมเป้าหมายของท่านนนนนน!!? ไอ้โซโล่มันเอียงหน้าแล้วกัดป๊อกกี้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม อะไรของมึงเนี่ย!!? ผมเบิกตากว้างพร้อมๆ กับเสียงกรี๊ดของตาหวานเสียงโห่ร้องของคนอื่นๆ แล้วเสียงนกหวีดเริ่มต้น
ไอ้โซโล่ประกบริมฝีปากของผมแล้วพาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ผมกำลังงงครับ โดนมันพาเดินไปจนกระทั่งมาถึงจุดลูกโป่ง พวกเรานั่งลงแล้วหยิบลูกโป่งขึ้นมาไว้ตรงกลางระหว่างเราสองคนแล้วกอดบีบให้ลูกโป่งมันแตกแล้วเดินกลับมาอย่างว่องไว
ไอ้บ้าโซโล่!!!เกมมันจบแล้วโว้ย!!!! ปล่อยกูสักที!!! ผมพยายามผลักไอ้โซโล่ ไอ้หื่นที่แม้กระทั่งตอนเล่นเกมก็ยังไม่เว้น ไอ้บ้าโซโล่มันปล่อยผมแล้วไปยืนเคี้ยวป๊อกกี้กรุ้บๆ หน้าตายมากกกก!!! ยิ่งกว่าพี่โมพเสียอีก!!!
( 1 นาที 20 วินาทีค่ะ เร็วมากกกกก!! )
ถึงกูจะชนะได้ที่หนึ่ง แต่มันก็ไม่มีความสุขเลยสักนิด อีแบบนี้กูจะมองหน้าใครติดวะ!!? ผมเดินกลับมาอย่างคอตกเหมือนกูเป็นคนแพ้อย่างไงอย่างนั้น คนอื่นๆ มองมาที่ผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป แต่ละคนเนี่ยมองกูแล้วยิ้มๆ เหมือนจะล้ออะไรบางอย่าง ผมนั่งมุดหน้าอายทันที ส่วนไอ้โซโล่มันด้านได้อีกอ่าครับ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักนิด!!
( สรุปเกมนี้คู่ของพรีสต์โซโล่ได้คะแนนไปสามคะแนนจากการร่วมมือที่สุดยอดแห่งความสามัคคี ต่อมาก็คือคู่ของเรียวโมพได้ไปสองคะแนน และคู่สุดท้ายคาปูชิโน่คัลเลอร์ได้ไปหนึ่งคะแนน!! )
พี่แทนไม่ต้องบรรยายก็ได้นะครับ ผมอายยยย!!!!( ต่อไปเป็นเกมสุดท้ายของอาทิตย์นี้แล้วล่ะครับ และเป็นเกมตัดสินว่าคู่ไหนจะได้ออก คู่ไหนจะได้อยู่ต่อไป เกมสุดท้ายนี้คืออะไรครับคุณตาหวาน? )
( แน่นอนค่ะ สิ่งสำคัญของเกมนี้มีอยู่สองอย่างหนึ่งคือ ความกล้าหาญ สองก็คือ...หอกระโดด!! )
ตาหวานพูดแล้วเผยมือไปที่หอกระโดดข้างสระน้ำที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ผมเงยหน้ามองขึ้นไปแล้วห่อปากทันที สะ...สูงมากเลยนะนั้น!!
( กติกาง่ายแสนง่ายค่ะ แค่แต่ละคนเลือกระดับการกระโดดได้ตามสบายใจ แล้วจะนำระดับความสูงมาร่วมกัน คู่ไหนสามารถร่วมได้สูงกว่าก็จะชนะไป เกมนี้ง่ายไหมล่ะคะ? )
( หอกระโดดจะมีความสูงตั้งแต่ 1 เมตร 3 เมตร 5 เมตร 7 เมตร 10 เมตร 12 เมตรและสูงสุด 15 เมตรครับผม!! ขอบอกว่าไม่ใช่ง่ายๆ อย่างที่คิดนะครับที่จะกระโดดจากหอคอยนั้นลงไปในสระน้ำได้ แค่ 7 เมตรก็ฉี่แตกแล้วครับ!! )
ผมมองหอกระโดดนั้นแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หันมามองไอ้โซโล่ที่เงยหน้ามองหอกระโดดอย่างซีดจัด อ้าว...ไอ้โซโล่มันกลัวความสูงนี่หว่า!! ผมมองไอ้โซโล่แล้วมองหอกระโดดนั้น ท่าทางไอ้โซโล่มันงงยิ่งกว่าใครทั้งหมด ค้างท่าเดิมเลยครับ แล้วมันก็ส่ายหน้าไปมาอย่างทรมาน
( คู่ไหนจะกระโดดคู่แรกครับ? )
เงียบกริบ....ไม่มีคู่ไหนยกมือสักคู่เลยครับ แต่ละคนมองหอคอยนั้นอย่างพินิจพิจารณากันสุดฤทธิ์แล้วสุดท้ายพี่แทนก็ใช้วิธีจับสลากเลือกคู่ดวงซวยกัน คู่แรกแม่งคงไม่ใช่คู่กูอีกหรอกนะ!! ผมมองพี่แทนอย่างหวาดหวั่น ขออย่าให้เป็นคู่กูอีกเลย!! เพราะตอนนี้ไอ้โซโล่มันจิตหลุดไปแล้ว!!
( คู่ของโจ้และโรมครับ! )
เยสสสสสส~!!!! ไอ้โจ้ไปตายแทนกูซะ!!!! ไอ้โจ้มันถอนหายใจเฮือกเลยล่ะครับ ส่วนพี่โรมทคอตกทำหน้ารับกรรมไปแต่โดยดี แล้วสองคนนั้นก็เดินขึ้นเขียงไปที่หอคอยสูงนั้น ไอ้โจ้ขึ้นไปที่ระดับ 7 เมตรแล้วคลานไปดูระดับ มันอุทานเสียงหลงแล้วเงยหน้าซีดๆ มามองพวกผม
“สูงโคตรรรร!!!”
“น่ากลัว...”พี่โรมก็แทบจะร้องไห้อ่าครับ มันสูงขนาดนั้นเชียว ทั้งสองหนุ่มทำปลงกันแล้วก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปอีกระดับซึ่งเป็นระดับ 10 เมตร พอทั้งคู่ส่องลงมาก็รีบเกาะราวกันทันที
“รีบๆ โดดลงมาไอ้โจ้ เสียเวลา!”พี่เรียวแกตะโกนเร่งไอ้โจ้ ไอ้บ้านั้นหน้าซีด
“โดดไปเนี่ยตายได้เลยนะพี่!”ไอ้โจ้มันตะโกนกลับมาหน้าตามันเหมือนจะร้องไห้ มันคงจะสูงจริงๆ นั้นแหละ ดูจากท่าทางของทั้งสองคนแล้วแบบว่า...ซีดกันสุดขีด!! แล้วสุดท้ายทั้งสองก็ใส่เสื้อชูชีพเดินมายืนตรงปลายแท่น จะโดดระดับ 10 เมตรจริงดิ!? จะฆ่าตัวตายงั้นเหรอออ!!?
ทุกคนส่งเสียงร้องเชียร์ทั้งคู่ ไอ้โจ้กับพี่โรมยืนเปายิงชุบกันแล้วสุดท้ายไอ้โจ้ก็เป็นคนแพ้โดนพี่โรมผลักให้ไปตาย เอ๊ย ไปกระโดดก่อน ไอ้โจ้มายืนปลายแท่นอีกครั้ง มันมองลงมาข้างล่างแล้วหลับตาปี๊ดก่อนจะกลั้นใจกระโดดลงมา น้ำในสระเนี่ยแตกกระจายดังตู้ม!! พี่โรมก็ก้าวออกมาแล้วกระโดดผลีชีพลงมาติดๆ พวกผมก็ตบมือกันทันที
( คู่แรกทำสถิติไป 20 เมตรครับผม! )
คู่แรกแม่งก็สูงสุดๆ เลยอ่ะ แล้วเนี่ยกูจะเอาอะไรไปสู้พวกมันวะ มองไอ้โซโล่ที่ซีดแล้วซีดอีกอย่างสงสาร แล้วนี่มันจะกระโดดระดับสามเมตรได้ไหมเนี่ย? รู้สึกถึงว่าอ่อนแอของแฟนตัวเอง ถ้าอย่างนั้นผมควรจะต้องเข้มแข็ง ให้มันโดดสามเมตรแล้วผมไปโดด 15 เมตร!?
หึ... พูดเป็นหนังการ์ตูนไปได้!!? อย่างไงผมก็จะลากไอ้โซโล่มันขึ้นเขียงไปด้วยกัน!! ผมแอบเหลือบมองไอ้โซโล่แล้วหัวเราะในใจ กูจะโดดสิบเมตร มึงก็ต้องโดดกับกู!! แต่ละคู่ขึ้นไปสิบเมตรแล้วทำหน้าตกใจกันสุดๆ อืม...แล้วกูจะโดดได้ไหมเนี่ย?
“มองลงมาโคตรน่ากลัวจริงๆ แต่พอโดดลงมาก็สนุกดีนะ”ไอ้โจ้มันเช็ดตัวพร้อมกับบ่นเสียงดัง ทำหน้าจริงจังซะ มึงผ่านแล้วมึงก็พูดได้สิวะ!! แล้วสถิติความสูงก็ยังไม่มีใครทำลายคู่ของไอ้โจ้พี่โรมสักคน มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ? แต่ละคนเลี่ยงมาโดด 7 เมตรกันทั้งนั้น พอโดดลงมาน้องคาปูชิโน่เนี่ยโอเว่อร์สุด
“อย่างกับโดดลงนรกเหอะพี่!! โคตรสูง!”
“ขาแบบว่าไม่มีแรงที่จะก้าวลงมาเลย”
“เหอะ โม้วะ! มันจะน่ากลัวอะไรนักหนา เดี๋ยวกูจะล้มสถิติให้ดู!”พี่อัคกับพี่ไลท์หัวเราะแล้วเอ่ยเยาะเย้ยพวกที่ไม่สามารถทำลายสถิติได้ แล้วทั้งสองก็เดินอาดๆ ขึ้นไปบนหอคอยอันสูงชันด้วยความมั่นใจสูงสุด เดินขึ้นไปในระดับ 12 เมตร!!!
“เฮ้ๆ ตายได้เลยน่ะนั้น!”พี่โรมแทบจะกรีดร้องเมื่อเห็นเพื่อนเดินอาดๆ ขึ้นไปอย่างกล้าหาญ คนข้างล่างเอ่ยกันระงม แต่ดูเหมือนสองคนข้างบนจะมีความมั่นใจในตัวเองมาก มายืนตรงปลายแท่นไม่กลัวหน้าไหนทั้งสิ้น แล้วเหลือบมองลงมาก่อนจะเดินกลับมาจับราว
“ฮ่าๆๆๆ กูว่าแล้ว! มันสูงโคตรๆ เหอะ”
แล้วทั้งสองคนก็ก้าวมาปลายแท่นอีกครั้ง พร้อมกับหลับตาลงทำใจอยู่ตั้งนานสองนาน พวกเพื่อนๆ ก็โบกมือให้ลงมาอีกระดับอย่าฝืนตัวเอง แต่สองคนนั้นก็ส่ายหน้าไปมาอย่างดื้อ แล้วสุดท้ายพี่อัคก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์เหลือบมองพี่ไลท์ที่อยู่ข้างๆ ก่อนที่พี่ไลท์จะลืมตาขึ้น พี่อัคแกก็ถีบพี่ไลท์ลงมาอย่างรวดเร็ว
ว๊ากกกกกก!!!! ตู้มมม!!!!“ง่ะ...”พวกผมหลับตากันทันที ภาพสยองสดเลยน่ะเนี่ย!! แล้วเสียงตู้มอีกครั้งก็เกิดขึ้น ผมลืมตาขึ้นไปมองก็เห็นพี่อัคกับพี่ไลท์กำลังทะเลาะกันในสระน้ำซะแล้วล่ะครับ อ้าวๆ คู่นี้ทะเลาะกันอีกแล้วครับ ไอ้โซโล่มันหัวเราะเบาๆ ในลำคอมองรุ่นพี่ทะเลาะกัน ผมมองมันแล้วถอนหายใจโล่งเล็กน้อย มันคงจะทำใจแล้วล่ะมั้ง
( สถิติใหม่ 24 เมตรครับ!! )
“ชิ ก็แค่นั้นแหละวะ เดี๋ยวกูโดด 15 เมตรให้ดู”
นั่น!!!! พี่เรียวพูดข่ม!!!แต่ก็น่าจะถามความคิดเห็นของพี่โมพบ้างนะครับ หันมมามองพี่เรียวตาโตเชียว! หน้าพี่โมพโคตรฮาอ่าครับ พี่เรียวทำเอาคนนิ่งๆ หลุดมาดได้ฮาขนาด!! แล้วพี่เรียวกับพี่โมพก็ได้ขึ้นไปกระโดดจริงๆ ด้วยสิครับ พี่เรียวใจกล้าหาญเดินขึ้นไปความสูงระดับ 15 เมตร แต่พอเฮียแกส่องลงมาเท่านั้นแหละ อ้าปากค้างเชียว! แล้วแกก็เดินลงมาอย่างสงบมาที่ความสูง 12 เมตรที่พี่โมพยืนรออยู่ก่อนแล้ว เหมือนพี่โมพเดาไว้แล้วว่าพี่เรียวไม่กล้าโดดระดับนั้นแน่ๆ
“โดดแล้วนะจ้ะ~!!! ยะฮู้~!!!”
ตู้ม!!!!พี่เรียวตะโกนอย่างร่าเริงราวกับกำลังสนุกเต็มที่ พี่แกกระโดดลงมาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า พี่โมพก็กระโดดลงมาติดๆ แล้วทั้งสองก็ทำสถิติเท่ากับคู่ของพี่อัคพี่ไลท์ และแล้วคู่ต่อไปที่ต้องไปโดดหอนรกนั้นไม่ใช่คู่ของไอ้ฮักหรอกครับ แต่เป็นคู่ของผม!! ไอ้โซโล่เนี่ยสะดุ้งเฮือกทันที
ผมลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง แค่หลับตาแล้วโดดๆ ลงมามันจะยากอะไรกัน ผมเดินไปที่หอคอยนั้น ไอ้โซโล่มันก็เดินลอยตามมาอย่างกับเป็นวิญญาณ ผมจอดรอมันที่บันไดทางขึ้น หน้าไอ้โซโล่มันซีดเอาซีดเอา เอ่อ...สามีกูจะตายหรือเปล่าเนี่ย? ผมคว้ามือของมันมาจับไว้ แม่ง มือมันโคตรเย็นเลยครับ มึงตายแล้วหรือเปล่าวะ!!?
“โซ ไหวเปล่าวะ?”
“...เหอะๆ”มันเงียบไปแล้วหัวเราะแห้งๆ ออกมาแทน ตายห่าแล้ว!! ไอ้โซโล่จิตหลุด!! ผมมองตาไอ้โซโล่ที่กรอกไปมาหลบตาผมอีกแน่ะ
“กูกลัวจริงๆ นะ”มันพูดเสียงกระซิบเบาๆ ผมเม้มริมฝีปากแล้วพยักหน้าเข้าใจมัน เอาน่า กูไม่ล้อมึงหรอกแต่ต่อไปไม่แน่วะ กร๊ากกกก!!! อะแฮ่ม.... ไม่มีอะไรครับ ผมจับมือมันมากุมไว้แล้วยิ้มให้มันแบบปลอบใจ
“มึงไม่ต้องกลัว กูอยู่กับมึง”
“...”
ผมดึงไอ้โซโล่ขึ้นมาที่ความสูงระดับ 10 เมตร ไอ้โซโล่ไม่กล้ามองลงไป มันมองตรงไปข้างหน้า มือของมันบีบมือของผมไว้แน่น ถึงผมจะเจ็บมือแต่ก็คงจะพูดอะไรไม่ได้ ตอนนี้ไอ้โซโล่มันกลัวจริงๆ นี่หว่า ผมเม้มปากรวบรวมความกล้าเหลือบมองไปข้างล่าง
อุแว๊กกกกกกกกก!!!!!!น่ากลัวโคตร!!!ไม่ใช่คนกลัวความสูงยังอยากจะร้องไห้อ่าครับ คนข้างล่างก็ส่งเสียงเชียร์กันขนาดหนัก ผมถอนหายใจแล้วมองไอ้โซโล่ที่เหงื่อไหลพรากๆ หน้าก็ซีดไม่มีสีเลือดฝาดแม้แต่น้อย เอาแล้วไง มือแม่งก็เริ่มสั่น หรือว่าผมจะขอสละสิทธิ์ดีเนี่ย ถ้าโดดลงไปเกิดมันหัวใจวายช็อกตาย ไม่เท่ากับว่าผมเป็นหม้ายแต่หนุ่มหรอกเหรอ!!? ผมกับไอ้โซโล่มายืนปลายแท่นกระโดด
“โซโล่”
“หือ?”
ผมเงยหน้าเรียกไอ้โซโล่เบาๆ แล้วใช้มือจับหน้ามันหันมามองผม ไอ้โซโล่เลิกคิ้วมองผมอย่างงุนงง ผมยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยประโยคนั้นไปเบาๆ
“Voi siete più di amore, Poiché voi è metà della mia vita.”“...?”ไอ้โซโล่ทำหน้างงไม่รู้ว่าผมพูดอะไรกับมัน แล้วผมก็เขย่งขึ้นไปจูบไอ้โซโล่ที่กำลังมึนอยู่ จากนั้นก็กอดมันเอาไว้แน่น เสียงกรี๊ดกร๊าดโห่ร้องดังลั่นจากข้างล่าง ผมก็ก้าวถอยหลังกระโดดลงไปพร้อมๆ กับไอ้โซโล่ นาทีที่กระโดดลงมามันช่างรวดเร็วแต่ในความรู้สึกของผมมันกลับเชื่องช้า ไอ้โซโล่มันหลับตาแล้วกอดผมไว้แน่น
ตู้มมม!!!!!“เพื่อนกู โฮกกกกก!!!!”
“กล้ามากกกกก!!!!!”
“กูน้ำตาไหลเลย ซาบซึ่ง เอ๊ย ซาบซึ้ง!”
ผมกับไอ้โซโล่โผล่ขึ้นมาจากสระน้ำก็ได้ยินคำสรรเสริญจากคนบนฝั่ง แต่ละคนเนี่ยยิ้มกว้างแล้วแซวพวกผมกันทันที ไอ้โซโล่กับผมก็พากันว่ายน้ำขึ้นฝั่งมา ไอ้โซโล่มันก็โดนพวกเพื่อนๆ ในคณะรุมแซวทันที ไอ้บ้านั้นหน้าแดงยิ้มเขินๆ ไปกับคำแซว
“Voi siete più di amore, Poiché voi è metà della mia vita.”พี่เรียวเอ่ยทวนประโยคที่ผมเอ่ยอย่างครบถ้วน ผมหันไปมองพี่แกทันที อย่าพี่!!! โปรดอย่าแปล!!! พี่เรียวกลั้นหัวเราะเอาไว้แล้วพี่แกก็ล้มตัวลงกุมท้องหัวเราะอย่างทนไม่ไหว
“มันเลี่ยนซะกูไม่กล้าแปลเป็นไทยเลยวะ!!”
ดีแล้วครับอย่าแปล!!“นายเป็นยิ่งกว่าความรัก เพราะนายคือครึ่งชีวิตของฉัน”“...ไอ้บ้า”
ผมยืนค้างทันที เมื่อจู่ๆ พี่โมพคุกเข่าลงไปแล้วเอ่ยประโยคนั้นออกมาด้วยใบหน้าจริงจัง แถมยังจับมือพี่เรียวไว้อย่างกับจะขอแต่งงานแน่ะ!! พี่เรียวอ้าปากค้างหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมาทันที ก่อนจะได้สติปัดมือพี่โมพออกแล้วแว้ดใส่ทันที พี่โมพลุกขึ้นแล้วหันมายิ้มล้อๆ ผม
“ใช่ไหมล่ะประโยคนั้นน่ะ?”
อะ...อ้าว!!? ผมอ้าปากกว้างยิ่งกว่าเดิม เฮียแกล้อกูอยู่นี่เองงงงงงง!!!! ผมหน้าแดงแปร๊ดแข่งกับพี่เรียวทันที ไอ้โซโล่มันมามองผม แล้วพี่โมพแกก็เดินไปกระซิบอะไรบางอย่างกับไอ้โซโล่ ไอ้บ้านั้นก็หันมายักคิ้วให้กับผม ตาของมันเนี่ยแทบจะทำให้ผมละลาย ไอ้โซโล่เอ่ยพร้อมกับวางมือไว้บนอกด้านซ้าย
“Caro, Voi è come il mio cuore stesso.”( ที่รัก คุณก็เป็นดั่งหัวใจของผมเช่นกัน )โฮกกกกกกกกกกกกกกก!!!!! เหมือนโดนแอทแท็ค!!!!!!! ประโยคนี้ฆ่ากูเลยทีเดียว!!!! พี่โมพถูกมันติดสินบนเท่าไรครับ!!? พี่โมพแกยิ้มนิดๆ อย่างพอใจในตัวของลูกศิษย์ใหม่เอี่ยมถอดด้าม ไอ้โซโล่มันก็หันไปยกนิ้วให้พี่โมพซะงั้น เยี่ยม!! รู้สึกสามีของผมจะเชื่อมสัมพันธ์กับหัวหอกอีกคนของสถาปัตไปแล้ว!! เอาล่ะครับ พักเรื่องของผมไว้แล้วมาโฟกัสที่คู่สุดท้ายก็คือไอ้ฮอยฮักและไอ้วินเซอร์ (เยี่ยม! คู่กูแย่งซีนกลับมาได้แล้ว!! )