[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 616142 ครั้ง)

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
ยิ่งอ่าน ยิ่งชอบค่ะ ออกทะเลยไปยังไง อ่านแล้วไม่เคยเบื่อเลย มีแต่สนุกมากขึ้น
ไม่อยากให้เรื่องนี้ใกล้จบ อยากให้อยุ่ด้วยกันไปนานๆ ^      ^
ไม่ได้เข้ามาเม้นบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่เข้ามาอ่าน ก็ + 1 ให้น้า ให้กำลังแบบเงียบๆ  o13 :mc4: 

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
คงฉ่วยหึงโหดเหมือนกันอ่ะ แต่โหมดนี้น่ารักมากกก แต่เผิงเผิงใจกล้ามากนะ รู้ว่าคงฉ่วยหึงก็ล้อไม่เลิก 5555

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
อย่าเกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นน๊า

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
วันนี้อัพปะครับ ผมมารอ  :z2:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
อัพค่ะ แต่เป็นตอนย้อนต้นนิดหนึ่งนะคะ

พอดีมาพิจารณาดูแล้ว เรื่องมันค่อนข้างจะโดดที่บท19 เลยเขียนบทที่18.1เพิ่มเติมน่ะค่ะ (เป็นแบบนี้อีกแล้วสินะเรา^^")

กำลังเขียนอยู่ค่ะ คาดว่าน่าจะอัพได้ช่วงบ่ายๆ ค่ะ

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
 :-[  นกยูงมีหึงด้วย แถมหึงโหชะมัดเลย
ดูทั้งคู่จะเข้าใจกันแล้ว
แล้วจะมีมาม่าไหม  ขอมาม่าไม่เยอะแค่ให้ชีวิตมีรสชาติก็พอน่ะค่ะ
ไม่เอาใครตายน่ะ

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
อ๋อ ฉากต่อจากเลี้ยงนกอ่าหรอ?  :-[


อยากอ่านอ่าครับ  :กอด1: นั่งรอๆๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เริ่มปรากฎคู่แค้นของคงฉ่วยออกมาแล้วเหรอ  แต่ตอนนี้น่ารักอะ ชอบ ......   :m3:

ความจริงเวลาอ่านนิยาย ก็ไม่ค่อยชอบใจเวลาที่นิยายเริ่มออกทะเลออกอ่าว แต่กับเรื่องนี้ อยากให้ออกทะเลไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ แบบหาทางเข้าฝั่งไม่เจอ :o8:

เพราะอ่านแล้วมันสนุกดี รู้สึกเป็นอะไรที่เสพติดนะเนี่ย และคงเหมือนกับหลายๆ คนที่ไม่อยากให้จบเร็วเลย
และแอบหวังให้มันไม่ดราม่าเศร้าเคล้าน้ำตา และจบแบบแฮปปี้ยิ้มกันบ้านแตกไปเลย  :o8: 

(แอร๊ยยย เกรงใจคนแต่งนะเนี่ย  :laugh:)


ออฟไลน์ wanderer

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
อย่าจบเศร้าน้าาาา กรี๊ดดด เค้าไม่ชอบให้จบเศร้า มาม่าได้ไม่เป็นไร (แต่ไม่มีกะดี) แต่ไม่จบเศร้าน้าาา :serius2: :call:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
หวานแบบโหดๆ!!!!
ว่าแต่...จะลงเอยกันยังไง???????

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
红孔雀นกยูงแดง 18.1
   ถ้าจะพูดถึงนายตำรวจที่กำลังมาแรงอยู่ในกรมตำรวจฮ่องกงตอนนี้ หนึ่งในรายชื่อที่ไม่ว่าใครก็ต้องพูดถึง ย่อมหนีไม่พ้นสารวัตรหนุ่มที่มีชื่อว่าลู่อี้เผิง
   ลู่อี้เผิงนั้นเป็นนายตำรวจที่เรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง หลังจากเข้าบรรจุราชการ ก็สร้างผลงานเอาไว้มากมาย จนได้รับแต่งตั้งเป็นสารวัตรตั้งแต่อายุยี่สิบสามยี่สิบสี่ มิหนำซ้ำ ด้วยรูปร่างบึกบึนสมส่วนราวกับนายแบบนิตยาสารสำหรับผู้ชาย และใบหน้าคมคายที่จัดว่าหล่อเหลาไม่แพ้ดาราดังในยุคนี้ ชื่อของลู่อี้เผิงจึงเป็นชื่อแรกๆ ที่มักจะถูกหยิบยกขึ้นมาในวงสนทนาเสมอๆ เมื่อต้องพูดถึงนายตำรวจหนุ่มคนไหนสักคนหนึ่ง
   ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เอง นายตำรวจหนุ่มจึงเป็นที่หมายตาจากผู้ใหญ่ในหลายเรื่อง รวมไปถึง....
---------------------------------------
   “ดูตัว!?” ลู่อี้เผิงโพล่งออกมาอย่างลืมรักษามารยาท เขากำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเฉินฉิน และคิดว่าตัวเองต้องฟังอะไรผิดไปแน่ๆ
   “อืม ใช่ ดูตัว สารวัตรฟังไม่ผิดหรอก” คนเป็นผู้ใหญ่กว่าพูด แล้วพูดต่ออย่างอารมณ์ดี “ท่านอดีตอธิปดีตงเฉี่ยมาเยี่ยมเราที่กรมวันก่อน ท่านบังเอิญเห็นเธอเข้า เลยมาคุยกับฉัน พอได้รู้ประวัติการทำงานของเธอท่านก็ชอบใจใหญ่ ออกปากว่าอยากจะยกลูกสาวให้น่ะ”
   “ดะ... เดี๋ยวสิครับ” ลู่อี้เผิงพูดออกไป ด้วยความรู้สึกอึ้งไม่หาย เมื่อเดือนก่อนเขาเพิ่งถูกหงคงฉ่วยมัดมือชกฝากนกมาเลี้ยง มาเดือนนี้จะถูกมัดมือชกให้แต่งเมียอีกหรือเนี่ย นี่มันเวรกรรมอะไรของเขากันนักนะ
   “ผมยังไม่เคยเห็นหน้าลูกสาวอดีตอธิปดีตงเลยนะครับ จู่ๆ มายกให้แบบนี้ ไม่ได้หรอกครับ นี่มันยุคดิจิตัลแล้วนะครับท่านรอง”
   “ก็ไม่ได้จะบังคับให้แต่งงานเลยสักหน่อยนี่นา แค่อยากจะให้ไปคุยกันดูก่อนน่ะ” เฉินฉินว่า นายตำรวจหนุ่มมองหน้าเขา แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เล่นเอานายตำรวจใหญ่ต้องเอ่ยปากทักขึ้นต่อ “เป็นอะไรน่ะสารวัตร ทำท่าโล่งใจเหมือนกลัวจะถูกจับแต่งงานเสียเต็มประดา รักจะอยู่เป็นโสดหรือไง”
   “เปล่าหรอกครับ” ลู่อี้เผิงตอบ “อืม... จู่ๆ มาบอกว่าจะยกลูกสาวให้ เป็นใครก็คงจะตกใจทั้งนั้นแหละ”
   เฉินฉินมีสีหน้าไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรในเรื่องนี้ เขามองหน้านายตำรวจหนุ่มอีกพักหนึ่ง จึงพูดต่อ “เย็นนี้คุณไม่มีเข้าเวรนี่นา คดีของอาทิตย์ก่อนก็ส่งสำนวนแล้ว ยังไงไปทานอาหารตามนัดนี้หน่อยสิ พาผู้กองต้วนไปเป็นเพื่อนก็ได้”
   พูดจบก็ยื่นกระดาษใบหนึ่งให้นายตำรวจหนุ่ม ลู่อี้เผิงรับมาแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที “นี่มันภัตตาคารดังเลยนี่ครับ อย่างผมจะ...”
   “เอาน่า สารวัตร อย่าเกร็งไปหน่อยเลย งานนี้อดีตอธิปดีท่านจัดการมา บอกว่าอยากให้พวกคุณได้เจอกันสักครั้ง อีกอย่าง ท่านอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวด้วย” หยุดไปพักหนึ่ง เฉินฉินจึงพูดต่อ “บอกคุณตรงๆ นะ คุณลีลี่ ลูกสาวท่านน่ะ ปีนี้เพิ่งจะยี่สิบสอง เรียนจบมาจากอังกฤษหมาดๆ สวยทันสมัยอย่าบอกใคร ถ้าคุณได้แต่งกับเธอล่ะก็ หนูตกถังข้าวสารดีๆ เลยนะ เรื่องหน้าที่การงานอะไรก็คงไปได้สวยเลยล่ะ โอกาสแบบนี้ไม่ใช่ว่าใครก็จะมีได้หรอกนะสารวัตร”
   ลู่อี้เผิงอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่สักพัก ในที่สุดก็ยอมตอบตกลง
----------------------------------------------------
   “โหย ดูตัวกับลูกสาวอดีตอธิปดีหรือครับ สารวัตรนี่โชคดีเป็นบ้าเลย” ต้วนเฟิงพูดพลางทำตาโตทันทีที่ได้ฟังเรื่องทั้งหมด ลู่อี้เผิงพยักหน้าเหนื่อยๆ
   “ก็อย่างนั้นแหละ เย็นนี้คุณไปเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ”
   “เอ่อ... จริงๆ ภัตตาคารหรูแบบนั้น ผมก็อยากไปใจจะขาดหรอกนะ” ต้วนเฟิงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจเป็นที่สุด “แต่บังเอิญเย็นนี้ผมมีนัดแล้ว นัดสำคัญเสียด้วยสิ”
   ลู่อี้เผิงมองหน้าลูกน้อง แล้วยิ้มหน่อยๆ “นัดกับสาวคนไหนอีกล่ะ”
   “แหม... สารวัตรรู้ทันอีกแล้ว” นายตำรวจหนุ่มพูดพลางหัวเราะ “ก็แม่สาวที่สารวัตรบึ่งรถไปช่วยจับโจรขโมยกระเป๋าวันก่อนนั่นแหละครับ”
   “อ้อ” ลู่อี้เผิงร้องแล้วพยักหน้าทันที “กำลังไปกันได้สวยเลยงั้นสิ”
   “ก็.. คิดว่าอย่างนั้นล่ะครับ เริ่มต้นดีแบบนี้ มันก็ต้องบำรุงกันให้เต็มที่ล่ะ” ต้วนเฟิงว่าแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ลู่อี้เผิงพยักหน้าอีกครั้ง
   “งั้นก็โชคดีแล้วกัน เดี๋ยวผมไปคนเดียวก็ได้”
   “สู้เขานะครับสารวัตร ได้ยินว่าลูกสาวท่านอดีตอธิปดีน่ะ สวยสะเด็ดไปเลย สารวัตรต้องรับมาเป็นคุณนายให้ได้นะ”
   “เอ่อ.... ผมยังไม่เคยเห็นหน้าเธอเลยน่ะ คุณอย่าเพิ่งพูดอะไรแบบนั้นเลย” ลู่อี้เผิงพูดอย่างออกจะประหม่านิดๆ อีกฝ่ายเลยได้ทีเย้าต่อ
   “แหม... มั่นใจในตัวเองหน่อยสิครับสารวัตร ทั้งรูปร่างหน้าตากินขาดขนาดนี้ ใครไม่หลงก็บ้าแล้วล่ะ”
   ลู่อี้เผิงไม่ตอบอะไร ได้แต่หัวเราะแห้งๆ ในคอ
----------------------------------------------
   ท้ายที่สุดนายตำรวจหนุ่มก็ต้องไปดูตัวตามกำหนดนัดด้วยตัวคนเดียว หลังจากเลิกงาน ลู่อี้เผิงจึงแวะกลับมาที่บ้านพัก รื้อหาเสื้อผ้าที่ดูจะเข้าท่ามากที่สุด เพื่อใส่ไปดูตัว พลางนึกขำตัวเอง ไม่คิดเหมือนกันว่าดูตัวครั้งแรกจะตื่นเต้นขนาดนี้
   แต่พอนายตำรวจหนุ่มถอดเสื้อผ้าชุดเดิมออกเพื่อจะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ รอยแผลเป็นสีแดงสดที่โคนขาอ่อนก็เผยตัวของมันออกมา ลู่อี้เผิงถึงกับลืมหายใจ เขามองรอยแผลเป็นบนขานั้น ก่อนจะถอนหายใจเฮือก
   จริงอยู่ว่าเขาอาจจะเป็นนายตำรวจโชคดี ที่มีโอกาสได้ไปดูตัวกับลูกสาวอดีตอธิปดี แต่ไม่ว่าเขาจะโชคดีขนาดไหน รอยแปลเป็นสามคำที่ขานี่คงจะลบโชคดีที่ว่านั้นของเขาไปจนหมด คงไม่มีใครอยากได้ลูกเขยที่มีแผลเป็นแบบนี้อยู่ที่โคนขาอ่อนหรอก แล้วก็คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้สามีที่มีชื่อของใครคนอื่นสลักอยู่บนต้นขาแบบนี้หรอก
   ลู่อี้เผิงเลื่อนมือไปลูบรอยแผลเป็นบนขา แล้วให้นึกโมโหขึ้นมา
   เจ้านกยูงบ้านั่นเป็นคนบังคับให้เกิดรอยแผลนี้บนขาของเขาแท้ๆ ทำไมไม่รู้จักหัดรับผิดชอบอย่างจริงๆ จังๆ บ้างนะ
   นายตำรวจหนุ่มแทบอยากจะเปลี่ยนกำหนดการ จากการไปดูตัวกับลูกสาวอดีตอธิปดี เปลี่ยนเป็นไปอาละวาดที่คฤหาสน์ของหงคงฉ่วย แต่มันก็แค่ความคิดชั่ววูบเท่านั้นแหละ เรื่องของเขากับหงคงฉ่วย กับรอยแผลเป็นนี่...
   สี่ปีมาแล้ว.... สี่ปีมาแล้วกับรอยแผลที่ตีตราตัวเขาเอาไว้
   เขากับเจ้านกยูงบ้านั่น.......
   ลู่อี้เผิงไม่รู้ว่าหงคงฉ่วยคิดอะไรไปมากกว่าการเห็นเขาเป็นของเอาไว้เล่นสนุก เอาไว้บำเรอความสุข เอาไว้กวนประสาท..... เอาไว้ใช้เลี้ยงนกเวลาที่ตัวเองไม่อยู่.... นอกจากนั้นแล้วหงคงฉ่วยยังเห็นเขาเป็นอะไรอีกนะ....
   นายตำรวจหนุ่มถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เขาเดาทางนกยูงเฒ่าตัวนั้นไม่ออกเลยสักนิด เดาไม่ออกว่าภายใต้ใบหน้าที่ดูเด็กเหลือเชื่อนั้นซ่อนความรู้สึกอะไรเอาไว้บ้าง ไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนกยูงตัวนั้นคืออะไรกันแน่
   ถึงอย่างนั้น ในบางคืนที่เขาตื่นขึ้นมา แล้วเห็นใบหน้ายามหลับของชายผู้ซึ่งเป็นเหมือนเรื่องเล่าขานอย่างนิทานปรัมปรา เขากลับอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบใบหน้านั้นเบาๆ แล้วจูบลงไปบนเรือนผมนั้น บางครั้งหงคงฉ่วยก็เป็นเหมือนความฝัน...
   ใช่ล่ะ ถ้ามันไม่ชัดเจนอยู่บนต้นขาเขาแบบนี้น่ะนะ!!
   ลู่อี้เผิงตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ แล้วบึ่งรถไปยังภัตตาคารที่นัดหมายเอาไว้ในตอนแรก
   ช่างหัวเจ้านกยูงบ้านั่นแล้วกัน ขอเขาไปเห็นอะไรสวยๆ งามๆ เพื่อผ่อนคลายจิตใจบ้างเถอะ
---------------------------------------------------
   ทันทีที่ยืนบัตรให้บริกรที่ด้านหน้าภัตตาคาร ลู่อี้เผิงก็ถูกพาตัวไปยังห้องอาหารชั้นวีไอพีทันที นายตำรวจหนุ่มรู้สึกเกร็งเล็กน้อย ห้องอาหารค่อนข้างกว้าง ตกแต่งหรูหรามีระดับ ด้านในมีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วสองคน คนหนึ่งคืออดีตอธิปดีตงเฉี่ย ที่ปีนี้อายุคงสักหกสิบสองแล้ว ที่นั่งอยู่ข้างๆ คือหญิงสาวในชุดกี่เพ้าสีแดงสด ผมของเธอดำเงาเป็นมันสวย หน้าตาก็แต่งกำลังพอดี พอเห็นหน้าเขา เธอก็ยกผ้าคลุมไหล่ขึ้นมาปิดปากเอาไว้ แต่ก็พอจะเดาได้จากสายตาว่ากำลังยิ้มให้เขาอยู่
   หัวใจของลู่อี้เผิงเต้นตึ่กตั่กทันที
   “เอ้า เข้ามาก่อนสิสารวัตร ไม่ต้องยืนเกร็งแบบนั้นหรอก” ตงเฉี่ยพูด เขาเป็นคนอายุหกสิบกว่าที่ออกจะผอมอยู่สักหน่อย ผมเริ่มกลายเป็นสีดอกเลาไปเสียส่วนใหญ่แล้ว อดีตอธิปดีกรมตำรวจยิ้มให้นายตำรวจหนุ่มอย่างเอ็นดู ลู่อี้เผิงผงกศีรษะ แล้วพูดทักทายออกไป “สายันสวัสดิ์ครับ ท่านอดีตอธิปดี”
   “นี่ ไม่ต้องเรียกกันเป็นการเป็นงานอย่างนั้นหรอก มานั่งก่อนสิ” คนเป็นผู้ใหญ่กว่าว่า ลู่อี้เผิงรีบเดินเข้าไปในห้องอาหารทันที บริกรที่ยืนรออยู่เลื่อนเก้าอี้ตัวหนึ่งให้เขา พอนั่งได้แล้ว ตงเฉี่ยก็หันมาพิจารณานายตำรวจหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจัง   
   “สารวัตรนี่ร้ายเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย” คนมีอาวุโสพูดด้วยสีหน้าขึงขัง จนลู่อี้เผิงนั่งตัวเกร็ง “ทำไมหรือครับท่าน?”
   “ก็ดูสิ” ตงเฉี่ยพูดพลางทำหน้าดุ “สารวัตรเดินเข้ามาไม่ถึงนาที ลูกสาวผมก็เขินจนหน้าแดงแล้ว แบบนี้ไม่เรียกว่าร้ายจะเรียกว่าอะไรดีล่ะ”
   คนเป็นลูกสาวเอ็ดขึ้นทันที “คุณพ่อล่ะก็... พูดอะไรก็ไม่รู้ ใครหน้าแดงกันล่ะคะ” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่กลับยกผ้าคลุมไหล่ขึ้นปิดหน้าเป็นการใหญ่ ตงเฉี่ยเห็นแล้วก็หัวเราะชอบใจ
   “ตอนแรกบอกไม่อยากจะมา ตอนนี้นึกขอบใจพ่อหรือยังล่ะ นี่ เดี๋ยวพ่อจะออกไปเดินเล่นด้านนอกสักหน่อย ลูกก็อยู่คุยกับสารวัตรเขาไปก่อนก็แล้วกันนะ”
   “คุณพ่อคะ!” ผู้เป็นลูกสาวเรียก แต่คนเป็นพ่อกลับลุกขึ้น แล้วหันไปพูดกับนายตำรวจหนุ่ม “ดูแลลูกสาวคนเล็กของผมด้วยนะ สารวัตร”
   ลู่อี้เผิงพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่อดีตนายตำรวจชราจะเดินออกจากห้องอาหารไป เหลือสองหนุ่มสาวอยู่กันตามลำพังสองคน
   “เอ่อ... ต้องขอโทษแทนคุณพ่อด้วยนะคะ พอแก่ตัวลง ท่านก็ชอบทำอะไรเอาแต่ใจแบบนี้อยู่เรื่อยเลยน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดขึ้น จนถึงตอนนี้ ลู่อี้เผิงถึงได้มีโอกาสเห็นหน้าเจ้าหล่อนชัดๆ เธอมีใบหน้ารูปไข่เกลี้ยงๆ ตาโตนิดๆ พอก้มหน้าแล้วยิ้มหน่อยๆ แบบนี้ ยิ่งดูมีเสน่ห์จนนายตำรวจหนุ่มแทบจะครางออกมา
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ คนมีอายุแล้วก็เอาแต่ใจแบบนี้แหละครับ เป็นธรรมดา” ลู่อี้เผิงพูด พลางรู้สึกว่ามีเหงื่อออกที่หลัง ผู้หญิงสาวสวยขนาดนี้... จะกลายมาเป็นว่าที่เจ้าสาวของเขาหรือเนี่ย..??
   “ผม... ลู่อี้เผิงครับ” นายตำรวจหนุ่มตัดสินใจแนะนำตัวก่อนตามมารยาท หญิงสาวมองหน้าเขา แล้วยิ้มเขินๆ “ฉัน... ตงชิงชิง เรียก.. ชิงชิงก็ได้ค่ะ”
   “ชิงชิง” ลู่อี้เผิงเรียกแล้วให้รู้สึกเขินขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก หลายปีมานี้เขาโดนหงคงฉ่วยปั่นหัวเสียจนไม่มีแก่ใจจะมองผู้หญิง เพราะมองทีไรก็ให้รู้สึกห่อเหี่ยวใจขึ้นมาทุกที แต่วันนี้ ลู่อี้เผิงแทบอยากจะให้ตัวหงคงฉ่วยที่ขาเป็นแค่ความฝัน ผู้หญิงสวยน่ารักขนาดนี้... ไม่คิดเลยว่าชาตินี้ทั้งชาติ เขาจะมีโอกาสได้เจอ แถมยัง.. มีคนเป็นพ่อให้การสนับสนุนอีก
   อยากจะลืมเจ้านกยูงนั่นไปให้พ้นๆ จริงๆ
   บริกรยกอาหารชุดแรกมาเสิร์ฟ ในตอนที่สองหนุ่มสาวกำลังอายม้วนกันอยู่ ลู่อี้เผิงจัดแจงทำตามมาตรฐานของสุภาพบุรุษที่ดี ด้วยการตักอาหารใส่จานของหญิงสาวก่อน ตงชิงชิงบอกขอบคุณเขาเขินๆ แล้วก็ชวนคุย
   “ปกติสารวัตรชอบทานอะไรหรือคะ?”
   ลู่อี้เผิงนิ่งนึกไปครู่หนึ่ง “ปลาหิมะมั้งครับ” เขาตอบ และมองมือหญิงสาวขณะที่ตักอาหารขึ้น แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อดันไปนึกซ้อนกับภาพมือใครสักคน
   
   “เผิงเผิง ทานนี่หน่อยสิ” หงคงฉ่วยพูดพลางคีบเนื้อปลาหิมะในจานให้เขา ลู่อี้เผิงทำหน้ายุ่ง “ผมมีอยู่เต็มจานแล้ว คุณไม่เห็นหรือไง?”
   “เห็นแล้ว” หงคงฉ่วยตอบ แล้วพูดต่อยิ้มๆ “เพราะงั้น เผิงเผิงอ้าปากสิ ปากว่างอยู่นี่”
   ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่อีกฝ่าย ก่อนจะปิดปากแน่น หงคงฉ่วยหัวเราะออกมา “นี่ ไม่ร้อนแล้วนะ ฉันเป่าให้ก็ได้ หรือจะให้อมก่อนดี” พูดแล้วก็ทำท่าจะอมเข้าไปจริงๆ ลู่อี้เผิงอดไม่ได้ต้องโพล่งออกมา “จะบ้าเรอะ ผมไม่ใช่เด็กเล็กๆ นะ”
   “งั้นก็อ้าปากสักทีซี่ จะให้ฉันคีบอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กัน หรือจะต้องให้เอาคีมง้างปากออกมา”
   ในที่สุด ลู่อี้เผิงก็จำต้องยอมอ้าปาก เพื่อกลืนปลาชิ้นนั้นลงไป หงคงฉ่วยมองหน้าเขา แล้วพูดขึ้นอีก “ปากเลอะแน่ะ”
   ยังไม่ทันที่นายตำรวจหนุ่มจะพูดอะไร ทางนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามา แล้วจูบปากเขาเบาๆ
   “หลุดแล้วล่ะ” หงคงฉ่วยพูดแล้วยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก ลู่อี้เผิงรีบยกมือผลักฝ่ายนั้นออก แต่ก็ช้าไปเหมือนทุกที

   “สารวัตรคะ?”
   เสียงเรียกของหญิงสาวทำให้นายตำรวจหนุ่มสะดุ้ง ก่อนจะมองหน้าหล่อนด้วยสายตางงๆ
   “กำลังนึกถึงเรื่องอะไรอยู่เหรอคะ?” ตงชิงชิงถาม พลางเอียงคอมองเขาอย่างน่ารัก ลู่อี้เผิงสั่นศีรษะ “เปล่าครับ แค่นึกถึงเรื่องปลาหิมะน่ะ”
   “อ๋อ... จะสั่งเข้ามาเพิ่มไหมคะ รู้สึกเหมือนจะไม่ได้เลือกเอาไว้ในรายการอาหารตอนแรกน่ะค่ะ”
   “ไม่เป็นไรหรอกครับ” นายตำรวจหนุ่มรีบพูดตอบไป แล้วพยายามชวนฝ่ายนั้นคุยบ้าง “คุณชิงชิงเรียนจบอะไรมาหรือครับ?”
   “กฎหมายรัฐศาสตร์ค่ะ” ฝ่ายหญิงตอบ “ฉันกำลังจะสอบเข้าบรรจุเป็นอัยการ”
   “อ้อ...” ลู่อี้เผิงคราง แล้วกะพริบตาปริบๆ อัยการกับตำรวจ.... มันก็คงจะมีแววไปกันได้ดีมากกว่ามาเฟียกับตำรวจล่ะนะ....
   “งั้นก็ขอให้สอบได้นะครับ ผมเป็นกำลังใจให้” นายตำรวจหนุ่มพูด อีกฝ่ายผงกศีรษะ “ขอบคุณนะคะ ว่าแต่คุณสารวัตร ทำงานเป็นยังไงบ้างคะ ตอนเด็กๆ น่ะ ฉันเห็นคุณพ่อทำงานหามรุ่งหามค่ำตลอดเลย แถมบางทีก็ไม่ได้กลับบ้านหลายๆ วัน”
   “อืม... อาชีพตำรวจก็แบบนั้นล่ะครับ” ลู่อี้เผิงตอบ “เวลาว่างไม่ค่อยจะมีหรอก”
   “นั่นสินะคะ” ตงชิงชิงพูด พลางทำหน้าเศร้า ลู่อี้เผิงจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “แล้วคุณชิงชิง มีงานอดิเรกอะไรหรือครับ?”
   “ก็.. อ่านหนังสือ กับนั่งรถเล่นน่ะค่ะ ฉันชอบเวลาที่ขับรถออกไปตามชนบท แล้วได้เห็นบรรยากาศสบายๆ มันรู้สึกผ่อนคลายดีน่ะค่ะ”
   “อืม.... ไว้ผมลองทำดูบ้างดีกว่า” ลู่อี้เผิงว่า ตงชิงชิงมองหน้าเขา แล้วยิ้ม “ได้ยินมาว่าสารวัตรขับรถเร็วมากนี่คะ ฉันดูจากข่าวเอาน่ะค่ะ”
   “อ๋อ เอ่อ... ” นายตำรวจหนุ่มรู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันที “ผมจับคนร้ายน่ะ จะขับช้าๆ ได้ยังไงล่ะ”
   “ถึงอย่างนั้นก็ระวังตัวไว้หน่อยเถอะค่ะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา คนที่เขารักสารวัตรจะเดือดร้อนเอานะคะ” ตงชิงชิงว่า ลู่อี้เผิงมองหน้าหล่อน แล้วพาลนึกไปถึงตอนที่หงคงฉ่วยนั่งรถที่เขาขับ ไม่เห็นเจ้านกยูงบ้านั่นจะเดือดร้อนกับการขับรถของเขาสักนิด แถมท่าทางจะชอบอีกต่างหาก
   “ไม่มีใครรักผมขนาดนั้นหรอกครับ” ลู่อี้เผิงตอบ อีกฝ่ายทำหน้าตกใจ “สารวัตรพูดอะไรอย่างนั้นล่ะคะ อย่างน้อยก็ยังมีคุณพ่อ คุณแม่ที่เป็นห่วงสารวัตรอยู่นะคะ”
   “อ้อ... พ่อแม่ผมเสียไปนานแล้วล่ะ”
   ตงชิงชิงสะอึกไปหน่อยหนึ่งทันที แต่ก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ อย่างน้อยๆ ญาติพี่น้องของสารวัตร เขาก็รักสารวัตรนะคะ”
   “ผมไม่มีพี่น้องน่ะ ญาติก็ไม่ได้สนิทอะไรกันมาก” ลู่อี้เผิงตอบ ตงชิงชิงมองเขาด้วยสายตาตระหนกอยู่พอสมควร “สารวัตร.. เอ่อ.... ไม่เคยมีคนรักเลยหรือคะ?”
   “ถ้าแฟนก็เคยมีนะครับ แต่เลิกกันไปแล้ว คงทนนิสัยผมไม่ไหว” ลู่อี้เผิงว่า แล้วถอนหายใจออกมา “ผมมันคงสุดโต่งเกินไปล่ะมั้ง”
   ตงชิงชิงมองหน้าเขา แล้วพยักหน้า “สารวัตรมุ่งมั่นกับอาชีพตำรวจมากสินะคะ”
   “ครับ”
   “แล้ว... สารวัตรเคยรักใครบ้างรึเปล่าคะ?”
   ลู่อี้เผิงมองหน้าหญิงสาว แล้วถามกลับไป “หมายความว่ายังไงหรือครับ?”
   ตงชิงชิงมองหน้าเขา แล้วพูดออกมา “ฉันอยากรู้ว่า สารวัตรเคยรักใคร มากกว่าอาชีพตำรวจบ้างรึเปล่าคะ? ถ้าคนรักของสารวัตร ขอให้สารวัตรเลิกเป็นตำรวจ สารวัตรจะยอมรึเปล่าคะ?”
   ลู่อี้เผิงอึ้งไปนาน เขามองหน้าหญิงสาว พลางย้อนนึกไปถึงช่วงเวลาที่เขาศึกษาอยู่ในโรงเรียนนายร้อย ย้อนไปถึงช่วงเวลาที่เขายังอยู่กับพ่อ ช่วงเวลาที่เขามุ่งมั่นจะเป็นตำรวจอาชีพให้ได้....
   “ผม... คงเลิกเป็นตำรวจไม่ได้หรอกครับ” นายตำรวจหนุ่มพูดออกมาในที่สุด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว “อาชีพนี้เป็นความฝันของผม เป็นความมุ่งมั่นของผม เป็นตัวผม..”
   ตงชิงชิงมองหน้าเขา แล้วถอนหายใจบ้าง “ที่ฉันไม่อยากมาดูตัว ก็เพราะว่าสารวัตรเป็นตำรวจนี่แหละค่ะ”
   “ครับ...”
   “คุณพ่อไม่ค่อยจะมีเวลาให้ฉันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันเลยไม่อยากจะมีสามี ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันหรอกค่ะ”
   “ครับ......”
   “สารวัตรคะ....” ตงชิงชิงมองหน้าเขา แล้วเม้มปากแน่น “ฉันถามสารวัตรสักคำเถอะค่ะ... ถ้าเราลองคบกันแล้ว สารวัตรคิดว่า สักวันหนึ่ง พอพร้อม สารวัตรจะยอมลาออกมาเพื่ออยู่กับครอบครัวได้รึเปล่าคะ?”
   ลู่อี้เผิงมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เขาเม้มปากอยู่หลายครั้ง ท้ายที่สุด หญิงสาวก็เป็นฝ่ายพูดออกมา
   “ฉันอาจจะเป็นคนด่วนตัดสินใจไปสักหน่อยก็ได้นะคะ แต่ถ้าสารวัตรมั่นใจแบบนั้น เราสองคน รู้จักกันในฐานะเพื่อนจะดีกว่าค่ะ”
   “ครับ ผมเข้าใจ” ลู่อี้เผิงพูดออกมาในที่สุด สองหนุ่มสาวมองหน้ากันอยู่สักพัก ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะพูดออกมาอีก
   “ทานอาหารกันเถอะครับ ชักช้าเดี๋ยวจะชืดหมด”
   ตงชิงชิงมองหน้าเขา ก่อนจะยิ้มออกมา “ค่ะ”
---------------------------------------------------------
   ตงเฉี่ยดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ เมื่อพบว่านัดดูตัวคราวนี้ท่าทางจะไม่สัมฤทธิ์ผล เขาหันมามองลู่อี้เผิงอย่างเอาเรื่อง แต่ก็ถูกคนเป็นลูกสาวห้ามไว้
   “สารวัตรลู่ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกค่ะ แต่ลูกไม่ชอบอาชีพตำรวจ คุณพ่อเองก็รู้อยู่แล้วนี่คะ”
   ตงเฉี่ยมองลูกสาวตัวเอง “แต่ว่า.. พ่ออยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี มีสามีดีๆ นะ”
   “ผู้ชายดีๆ ไม่ได้มีแค่สารวัตรลู่นะคะ” ตงชิงชิงพูดยิ้มๆ “ขอเถอะค่ะคุณพ่อ หนูจะมีคู่ชีวิตทั้งที ขอคนที่หนูคิดว่าใช่ก็แล้วกันนะคะ ถ้าหนูแต่งงานกับสารวัตรลู่ ทั้งหนูทั้งเขาอาจจะไม่มีความสุขก็ได้”
   ตงเฉี่ยหันไปมองนายตำรวจหนุ่ม “ลู่อี้เผิง เธอรักอาชีพตำรวจมากกว่าลูกสาวฉันหรือไง?”
   ลู่อี้เผิงมองหน้าเขา ก่อนจะพยักหน้าตอบไป “ครับ”
   อดีตนายตำรวจใหญ่มองหน้าเขาอีกพัก แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ “งั้นก็เอาเถอะ เธอคงจะเป็นตำรวจที่ดีจริงๆ นั่นแหละ”
   “ขอโทษด้วยนะครับ” ลู่อี้เผิงพูด หลังจากนั้นเขาก็แยกตัวออกมา นายตำรวจหนุ่มเดินกลับมาที่รถ สตาร์ตเครื่อง แล้วขับออกไป

   ตำรวจที่ดีงั้นหรือ.....?
   ลู่อี้เผิงขับรถเลียบไปตามถนนที่ตัดเลียบอ่าว พลางนึกถึงคำพูดของตงชิงชิงเรื่องการนั่งรถเล่น จะว่าไปแล้ว เขาเองก็ขับรถมานาน แต่ไม่เคยคิดจะมองบรรยากาศข้างทางเพื่อผ่อนคลายเลยสักครั้ง ที่ผ่านๆ มา เขาตั้งใจจะจำทุกซอกทุกมุมของถนน ทุกตรอกทุกซอย เผื่อไว้เป็นทางหนีทีไล่เวลาไล่จับคนร้าย ทั้งชีวิตเขามีแต่การเป็นตำรวจจริงๆ
   ลู่อี้เผิงหวังที่จะได้เป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็ก และมั่นใจว่าตัวเองจะต้องเป็นตำรวจที่ยอดเยี่ยม เชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าจะยึดอาชีพตำรวจตลอดไป ไม่เคยเสียใจที่ทำอาชีพนี้เลยสักครั้ง
   จนกระทั่ง............
---------------------------------------------------
   รถยนต์กลางใหม่กลางเก่าหยุดจอดตรงหน้าประตูเหล็กของคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ริมอ่าวฮ่องกง ลู่อี้เผิงนั่งเงียบอยู่ในรถพักหนึ่ง ในที่สุดก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออก หลังจากรอสายอยู่พักหนึ่ง เขาก็ได้พูดกับคนที่ต้องการ
   “คงฉ่วย นอนหรือยังน่ะ?”
   “หัวของฉันกำลังจะถึงหมอนเลยล่ะ ตอนที่หลี่คงหยิบโทรศัพท์มาให้น่ะ” เสียงปลายสายตอบ และพูดต่อ "คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ คดีเมื่อสัปดาห์ก่อนเสร็จไปแล้วไม่ใช่หรือไง หรือเพิ่งมีคดีเข้ามาอีก”
   “เปล่า ไม่ใช่เรื่องคดีหรอก” ลู่อี้เผิงตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองตัวคฤหาสน์สีดำสนิท ด้านหลังประตูรั้วเหล็กสูง ที่ตกอยู่ภายใต้เงารัตติกาลดำมืด
   “ผมอยู่หน้าประตูรั้วคุณน่ะ”
   “?”
   “ให้ผมเข้าไปได้มั้ย?”
   “เผิงเผิงไม่สบายหรือ?”
   “.......................................”
   “เป็นอะไรน่ะ?”
   ลู่อี้เผิงเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะพูดตอบไป “ผมคิดถึงคุณ”
   “............” เสียงปลายสายเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดตอบกลับมา “ไม่ใช่คืนเดือนเพ็ญสักหน่อย”
   “เดือนดับผมก็มาหาคุณไม่ได้เหรอ? มีคนอื่นนอนแทนผมแล้วหรือไง?”
   “ปากเสีย ฉันไม่ซี้ซั้วหิ้วใครมานอนด้วยมั่วๆ หรอก”
   “ข้างเตียงคุณว่างรึเปล่าล่ะ?”
   “ว่าง”
   “ผมนอนด้วยได้มั้ย?”
   “................” ปลายสายเงียบไปอีกพัก ก่อนที่ประตูรั้วสูงตระหง่านจะค่อยๆ เปิดอ้าออก รถยนต์ที่จอดรออยู่ ค่อยๆ เลี้ยวเข้าไปด้านในของคฤหาสน์
---------------------------------------
** หลายคนอาจจะงงกับเลขตอน....

ขออนุญาต ลงย้อนหลังนะคะ เพราะพิจารณาแล้ว เห็นว่าเนื้อหาบท19มันค่อนข้างจะก้าวกระโดดไปพอสมควร ก็เลยคิดว่าจะเขียนชดก่อนหน้านั้นสักสองตอน แต่ยังไม่อยากขยับเลื่อนตอน เพราะเดี๋ยวจะยิ่งงงหนัก(หรือจริงๆ ก็งงกันอยู่แล้วหว่า) ดังนั้น ตอนที่เขียนแทรกจึงกลายเป็น18.1 (แต่ในรวมเล่มคงจะขยับเรียงเลขตามปกตินะคะ)

เอาว่า... ยืดเวลาต้มมาม่าออกไปสักหน่อยก็แล้วกัน (วิ่งหนีคนอ่าน :z10:)

ปล. ท่าทางจะสองเล่มสมใจอยากแล้วล่ะ!!!<<มันเอาจนได้สิน่า!!! :z6:


zhiki

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ akera

  • I love him anymore. but he love him.
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อ๊าก อ่านกี่ครั้งก้อยังไม่เบื่อ        รักคนเขียนต่ออีกนะ

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
ขอ 18.2 ขอ 18.2ด่วน!!!!!!

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

อ่านแล้วใจเต้นตึกตักเลยอ่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
*วิ่งตามคนเขียนไป*  ฮึ่มๆ   (อิอิ)

อ๋อ เยี่ยงนี้นี่เอง..
บทนี้เผิงเผิงของเราไม่ยักกะซึนแฮะ
น่าร๊ากก น่ารัก

ออฟไลน์ ♥a2k♥

  • 見えないままだって愛しい
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-2
อยากอ่านไปเรื่อยๆ ไม่อยากกินมาม่า  :o12:

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านไปเรื่อยๆ ไม่อยากกินมาม่า  :o12:

มาม่า คืออะไรหล๋อ  :confuse:

akike

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว  เนื้อหาดูไม่ขาดแล้วจ้ะ  เติมอย่างงี้ เห็นความรู้สึกของเผิง ๆ น้อย  ชัดขึ้นเยอะเลย

จูบุคนแต่งนะ คิดถึงอาแปะง่ะ สงสัยช่วงนี้แปะค่าตัวแพง  เลยพักร้อน 55+

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งติด

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
แง่ม ๆ และแล้วเผิงเผิงก็เปิดเผยความในใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
รอรวมเล่มนะคะ อยากได้สารวัตรอ่ะ

(มองซ้ายมองขวาตอนพูด)

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
คู่นี้มันเป็นความผูกพันกันสินะ  :กอด1:

รอ 18.2 ค่า  :pig4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
กรีดร้องด้วยความดีใจที่จะเป็น 2 เล่ม

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
ติดเรื่องนี้ละหล่ะ ฮะๆ  :))

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อย่าเพิ่งมาม่าน้าา  :sad4:
ขอของหวานเป็นทุนสำรอง ก่อนจะกินมาม่า

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
สงสัยเราจะเหมือนสารวัตรลู่
ที่ยิ่งอ่านเรื่องนี้ยิ่งติด ยิ่งอยากอ่านอีกเรื่อยๆ
ส่วนสารวัตร ยิ่งอยากเจอหน้านกยูง

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
 :เฮ้อ:มันเป็นรักแบบเศร้าๆจริงๆนะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
เลื่อนไปยาวๆเลยก็ได้
หรือไม่มีเลยยิ่งดี
 :L2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ถ้าหงคงฉ่วยรู้ว่าเผิงเผิงไปดูตัวมา จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า

a_om

  • บุคคลทั่วไป
สุดท้ายก็มาตายที่นกยูง โฮะๆๆๆๆ
 :laugh: :laugh: :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด