[แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ระหว่างพญานกยูงแดง หงคงฉ่วย กับนายตำรวจเถรตรง ลู่อี้เผิง ท่านๆ ชอบใครมากกว่ากันคะ^^

ต้องหงคงฉ่วยอยู่แล้ว ราชินีฉัน เริ่ด และแสบสนิทขนาดนี้!!
ต้องเผิงเผิงน้อยอยู่แล้ว เมะอะไร มันจะน่ารักน่าแกล้งขนาดนี้!!

ผู้เขียน หัวข้อ: [แจ้งข่าวหน้า1]红孔雀 นกยูงแดง (มาเฟีย?vsตำรวจ SMนะ!-จบ) แปะรูปp40 :9/9/2554  (อ่าน 658989 ครั้ง)

ออฟไลน์ ErosAmor

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 851
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
คิดถึงก๋งก๋งเเล้วค่ะ

ออฟไลน์ PoP~Pu

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-5
กร๊าซซซ พ่นไฟ :m31:
คิดถึงเผิงเผิง คงฉ่วย จนแทบคลั่ง
ไม่ได้เร่ง แต่เค้ารออยู่นะตัวเองงง ฮ่าๆ

kisz

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านแล้วววววววววว

ออฟไลน์ Elleneza

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อยากอ่านอ่ะ  รอมาทั้งอาทิตย์เลยอ่ะ

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
** อิฉัน ป่วยค่ะ... แต่ก็ยังจะเขียนทันอีกนะเนี่ย (ดีใจหรือเสียใจดี :sad4:)

กลับมาจากต่างจังหวัดคราวนี้ นอกจากพกหวัดมาแล้ว ยังได้พล็อตเพิ่ม(ซึ่งล้วนแต่เป็นตอนชิลๆ และน่าจะออกทะเลทั้งสิ้น<<น่าดีใจไหมเนี่ย :a5:)

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ :really2:

--------------------------------------------------------

红孔雀นกยูงแดง 18
   เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในคฤหาสน์เขาวงกตว่า หงคงฉ่วย เจ้านายใหญ่ของคฤหาสน์ชอบเลี้ยงนกเป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดซื้อเกาะร้างเอาไว้เกาะหนึ่ง เพื่อเลี้ยงนกโดยเฉพาะ แต่ในบรรดานกทั้งหมด นกตัวโปรดที่สุดย่อมหนีไม่พ้นนกกระตั้วสีขาวที่มีชื่อว่าแปะชิกชิก ซึ่งเหมือนว่าหงคงฉ่วยจะไม่ยอมปล่อยให้ห่างตัวแม้แต่วันเดียว
   แต่ทว่า.....
---------------------------------------------
   “เผิงเผิง”
   ลู่อี้เผิงที่เปิดประตูเข้ามาถึงกับนิ่วหน้าทันทีที่ได้ยินเสียงเรียก เขามองตรงไปยังโต๊ะเปื้องหน้า มองเห็นนกกระตั้วสีขาวตัวหนึ่งเกาะคอนอยู่ คนรับใช้ทั้งหลายก็ยังยืนเรียงแถวกันหน้าสลอน แต่เก้าอี้บุหนังสีแดงคล้ำคล้ายเลือดแห้งตรงกลางกลับว่างเปล่าไร้เจ้าของนั่งอยู่
   “นี่มันเรื่องอะไรกัน?” นายตำรวจหนุ่มเอ่ยปากถามออกมา หลังจากมองไปรอบๆ อีกหนสองหน และแน่ใจแล้วว่าเจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องบากหน้ามาไม่ได้อยู่ในห้อง หลี่คงซึ่งเป็นพ่อบ้านวัยชราของหงคงฉ่วยเดินเนิบๆ และส่งโทรศัพท์ให้เขา
   “เผิงเผิงมาแล้วหรือ?” น้ำเสียงคุ้นเคยดังลอดผ่านหูโทรศัพท์ออกมาอย่างร่าเริง คิ้วของลู่อี้เผิงขมวดเข้าหากันมากยิ่งขึ้น เขากรอกเสียงลงไป
   “จะเล่นอะไรของคุณอีกเนี่ย ผมมาแล้ว ทำไมถึงต้องโทรศัพท์มาอีกล่ะ”
   ก็เพราะหงคงฉ่วยโทรศัพท์ไปหาเขาในช่วงเย็น ด้วยประโยคสั้นๆ ที่ว่า “เลิกงานแล้วให้รีบมาที่คฤหาสน์ด่วน ไม่งั้นจะได้เจอกับเรื่องที่คาดไม่ถึง”
   เพราะไม่อยากตอแยปัญหายุ่งยาก ลู่อี้เผิงเลิกงานแล้วถึงได้บึ่งรถมาที่นี่ แล้วท่าทางจะเจอเรื่องที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่า
   “อ้อ.. ลืมบอกเธอไป ฉันกำลังจะขึ้นเครื่องไปอเมริกา” หงคงฉ่วยพูด “พอดีว่ารอบนี้ต้องพาเสี่ยวจือไปด้วย ฉันกลัวเสี่ยวชิกไม่มีเพื่อนเล่น แล้วจะถอนขนตัวเองอีก เลยว่าจะให้เผิงเผิงมาเป็นเพื่อนเล่นให้หน่อย”
   ลู่อี้เผิงเงยหน้าขึ้นมองนกกระตั้วสีขาวตัวนั้น ซึ่งกำลังเอียงคอมองมาทางเขา และแทบจะขยี้โทรศัพท์ทิ้ง
   นี่เขาอุตส่าห์บึ่งรถมาแทบเป็นแทบตาย เพื่อมาเป็นเพื่อนเล่นนกกระตั้วหรือนี่!!!
   “ไหนเผิงเผิงลองคุยกับเสี่ยวชิกให้ฉันฟังหน่อยสิ” หงคงฉ่วยพูดต่อ มือของลู่อี้เผิงที่กำโทรศัพท์อยู่สั่นกึกๆ นายตำรวจหนุ่มยืนกัดฟันกรอดๆ อยู่นาน ถึงค่อยนึกถ้อยคำตอบโต้ออกมาได้
   “นี่มันนกคุณนะ คนรับใช้มีตั้งเยอะตั้งแยะ ให้จัดการกันเอาเองสิ ผมกลับล่ะ” ลู่อี้เผิงกรอกเสียงใส่หูโทรศัพท์ และนึกปวดประสาทขึ้นมา นี่ขนาดตัวไม่อยู่ ยังจะหาเรื่องมากวนประสาทเขาได้อีก เขาไม่น่าหลงเชื่อเจ้านกยูงบ้านี่เลย
   พูดจบยังไม่ทันจะวางสายหรือหันหลังกลับ ชายฉกรรจ์หุ่นล่ำสันสองสามคนก็เดินมาขนาบเขาเอาไว้เหมือนจะบี้ให้แบน ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยพูดผ่านหูโทรศัพท์กลับมา
   “เผิงเผิงอย่าใจร้ายนักซี่ คงฉ่วยขอร้องให้ช่วยมาดูเสี่ยวชิกแค่นี้เอง อย่าบอกนะว่านักเรียนเกียรตินิยมอย่างเธอ จะใจดำอำมหิตกระทั่งนกกระตั้วตัวหนึ่งก็ตัดใจทิ้งให้เกาะคอนถอนขนตัวเองได้ลงคอ”
   ลู่อี้เผิงอยากจะพูดออกไปจริงๆ ว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาตรงไหนที่จะต้องมาเล่นกับเจ้านกตัวนี้ด้วยเล่า แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร เจ้านกตัวนั้นก็ตีปีกพึ่บๆ แล้วพูดขึ้นบ้าง
   “เผิงเผิงจ๋า มาเล่นกันนะ”
   คนถูกเรียกอ้าปากพะงาบๆ เจ้านกกระตั้วตัวนั้นเอียงคอมองมาทางเขา แล้วผงกหัวขึ้นลง เหมือนจะเรียกให้เข้าไปเล่นด้วย
   ทีตอนเจ้าของอยู่ล่ะบินมาหา แต่พอเจ้าของไม่อยู่ก็ทำท่าอย่างกับจะเล่นเป็นเจ้าของแทนเชียว
   ขณะที่ลู่อี้เผิงกำลังเค้นสมองว่าสมควรจะเอาตัวรอดจากเรื่องงี่เง่านี้อย่างไรดี เสียงของหงคงฉ่วยก็ดังขึ้นต่อ “โอ๊ะ ฉันต้องขึ้นเครื่องแล้ว ดูแลเสี่ยวชิกให้ดีๆ นะเผิงเผิง ถ้าเกิดกลับไป เสี่ยวชิกของฉันหงอย หรือขนหายไปสักเส้นล่ะก็ ฉันจะเอาเหล็กร้อนจี้ปลายนิ้วเธอทีละนิ้ว อ้อ...” หยุดไปพักหนึ่งเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ “แล้วถ้าเธอกล้าสอนเสี่ยวชิกพูดอะไรแปลกๆ ล่ะก็ ฉันจะเจาะลิ้นเธอ เอาโซ่คล้อง แล้วล่ามเอาไว้กับล้อรถ ดูซิว่าระหว่างลิ้นเธอกับโซ่ อะไรจะขาดก่อนกัน”
   ลู่อี้เผิงรีบหุบปาก แล้วกลืนน้ำลายเฮือก พลางนึกสงสัยว่าหงคงฉ่วยเอาเซลสมองที่ไหนคิดวิธีทรมานพวกนี้ขึ้นมา ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยพูดต่ออย่างอารมณ์ดี “แต่คงฉ่วยรู้หรอกว่าเผิงเผิงไม่ใจร้าย อีกห้าวันฉันจะกลับ ฝากเสี่ยวชิกด้วยนะ”
   พูดจบก็วางสาย ทิ้งให้ลู่อี้เผิงยืนอึ้งๆ จ้องตากับเจ้านกกระตั้วตัวนั้นอยู่ในห้องรับรอง หลี่คงเดินมารับโทรศัพท์ไปเงียบๆ ลู่อี้เผิงจึงอดไม่ได้ต้องถามขึ้น
   “คุณพ่อบ้านหลี่ นี่ผมจะต้องเล่นกับเจ้านกตัวนี้จริงๆ รึ?”
   “ตามที่ท่านนกยูงว่านั่นแหละ” หลี่คงตอบ ลู่อี้เผิงมีสีหน้าประหนึ่งกลืนไข่ห่านเข้าไปทั้งลูก อ้ำๆ อึ้งๆ อยู่นาน ในที่สุดก็ถามออกไปได้สักที “แต่ผมไม่เคยเลี้ยงนกเลยนะ”
   หลี่คงไม่ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มๆ แล้วเดินจากไป ลู่อี้เผิงรู้สึกเหมือนถูกหลอกมาปล่อยเกาะ เขาเงยหน้าขึ้นมองนกกระตั้วที่มีชื่อว่าแปะชิกชิกตัวนั้นอีกครั้ง เจ้านกสีขาวนั่นยังคงเดินไปเดินมาบนคอน เหมือนจะรอให้เขาเดินไปหาจริงๆ
   “เผิงเผิง มาเล่นกันนะ มาเล่นกันนะ”
   ท้ายที่สุดลู่อี้เผิงจึงจำใจต้องเดินไปหานก แทนที่จะเดินไปหาคนอย่างที่เคยเป็นมา นายตำรวจหนุ่มชักนึกสงสัยว่า ต่อจากเจ้านายแล้ว เขาก็ยังต้องมารองรับอารมณ์ของนกหรือนี่ นี่มันเวรกรรมอะไรกันนักกันหนา
   พอเดินเข้าไปใกล้ ลู่อี้เผิงถึงเห็นว่ามีเก้าอี้อีกตัววางอยู่ข้างๆ เก้าอี้ปุหนังตัวสีแดงซึ่งหงคงฉ่วยนั่งเป็นประจำ แปะชิกชิกตีปีกพึ่บๆ ท่าทางดูตื่นเต้นเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้
   “เผิงเผิง เผิงเผิง” แปะชิกชิกอ้าปากเรียกชื่อเขาอย่างที่หงคงฉ่วยเคยเรียกเสียงแจ้วๆ พลางขยับตัวไปมาอยู่บนคอน พยักเพยิดไปทางเก้าอี้เหมือนจะบอกให้นั่งไม่มีผิด ลู่อี้เผิงยืนลังเลอยู่พักหนึ่ง ท้ายที่สุดก็ยอมนั่งลงไป
   “ดีมาก ดีมาก” เจ้านกตัวเดิมพูดขึ้นต่อ พลางตีปีกต่อ ลู่อี้เผิงถลึงตาใส่นก แล้วทำท่าจะลุกขึ้น
   “ไม่ดี ไม่ดี” แปะชิกชิกพูด แล้วร้องแกว้กๆ ขึ้นมา พลางบินมาเกาะบนศีรษะเขา แล้วเอาปากเคาะเบาๆ
   ลู่อี้เผิงจำต้องยกมือขึ้นปัดนก ซึ่งก็ดูเหมือนจะได้ผลนิดหน่อย แปะชิกชิกบินกลับไปเกาะที่คอนเหมือนเดิม แล้วเอียงคอมองเขาต่อ “มาเล่นกันเถอะ มาเล่นกันเถอะ”
   จริงอยู่ ลู่อี้เผิงเคยถูกหงคงฉ่วยพาตัวไปบังคับให้เป็นคนเลี้ยงนก ที่เกาะเลี้ยงนกของตนอยู่ถึงสามวัน แต่ตอนนั้นสิ่งที่เขาทำคือนำอาหารนกไปวางยังจุดต่างๆ แล้วก็โปรยให้พวกมันบ้างในบางครั้ง แต่ไม่เคยต้องเล่นกับนกมาก่อน นายตำรวจหนุ่มจึงยังคงจ้องหน้านกกระตั้วตัวนั้นอย่างไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อไป
   แปะชิกชิกเอียงคอมองคนตรงหน้า จากนั้นก็กระโดดลงจากคอนลงไปที่โต๊ะ ตรงไปยังขวดแก้วใบหนึ่งซึ่งปิดฝาอยู่ ก่อนจะอ้าปากแล้วพยายามดันฝาเกลียวที่ปิดอยู่ออก ลู่อี้เผิงยืนมองอย่างทึ่งๆ
   เขากำลังจะได้เห็นนกกระตั้วเปิดฝาขวดหรือนี่
   แปะชิกชิกพยายามจะดันฝาขวดอยู่ได้สักพัก ฝาก็ยังไม่ขยับ เจ้านกสีขาวจึงเงยหน้าขึ้น เอียงคอมองเขา ก่อนจะเคาะจะงอยปากลงไปบนฝาขวด “เปิดหน่อย เปิดหน่อย”
   ลู่อี้เผิงมองนก ยังอุตส่าห์นึกขึ้นมาได้อีกว่า ถ้าเขาหยิบขวดขึ้นมาเปิด อาจเข้าข่ายถูกสัตว์เดรัจฉานบนการเอาก็ได้ ระหว่างที่กำลังชั่งใจว่าควรจะทำตามดีรึเปล่า แปะชิกชิกก็ตีปีกพึ่บๆ แล้วพูดขึ้นต่อ “คนใจร้าย คนใจร้าย”
   ลู่อี้เผิงไม่รู้ว่าสมควรจะยื่นมือไปหยิบขวดมาเปิด หรือว่ายื่นมือไปจับนกมาหักคอดี แต่ท้ายที่สุด นายตำรวจหนุ่มก็เลือกที่จะเปิดฝาขวด พลางบอกตัวเองว่า เขายังไม่อยากแลกชีวิตตัวเอง กับชีวิตของนกกระตั้วปากเสียนี่หรอก
   พอเปิดขวดได้ แปะชิกชิกก็ตีปีกพึ่บๆ ขยับตัวไปมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะบินไปเกาะที่คอนอีกอันหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป ลู่อี้เผิงจึงพอนึกขึ้นได้ ว่าเคยเห็นหงคงฉ่วยโยนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้เจ้านกนี่งับ นายตำรวจหนุ่มมองลงไปในขวด แล้วก็พบว่าเป็นขวดใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์จริงๆ
   เจ้านกกระตั้วตัวนั้นยืดคอขึ้นๆ ลงๆ เหมือนจะรอให้โยนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้ ลู่อี้เผิงเลยทดลองโยนให้เม็ดหนึ่ง แปะชิกชิกอ้าปากงับแม่นเหมือนเคย งับแล้วก็ขยับปากครั้งสองครั้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็หายเข้าปากไป นายตำรวจหนุ่มจึงลองโยนไปให้อีกเม็ดหนึ่ง คราวนี้เปลี่ยนทางบ้าง แปะชิกชิกก็ยังอุตส่าห์ วิ่งกระโดดตามคอนไปงับได้อีก
   ท้ายที่สุด ลู่อี้เผิงถึงได้รู้ว่าการโยนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้นกงับก็สนุกไปอีกแบบ พอโยนจนหมดขวด เจ้านกตัวนั้นก็ร้องแกว๊กๆ แล้วบินเข้ามาเกาะคอนตรงหน้า เอียงคอมองเหมือนจะขอคำชม ลู่อี้เผิงเลยยกนิ้วแตะตัวมันเบาๆ แล้วพูดยิ้มๆ “เก่งมากเลย”
   “เก่งมากเลย เก่งมากเลย” เจ้านกตัวนั้นพูดย้อนคำ แล้วขยับตัวตีปีกอยู่บนคอนเกาะ “รักเผิงเผิง รักเผิงเผิง”
   พูดจบก็เอียงคอไถศีรษะเข้ากับนิ้วของเขา จากนั้นก็อ้าปากงับเบาๆ
   ลู่อี้เผิงให้นกงับนิ้ว แล้วลูบตัวมันอยู่สักพัก หลี่คงก็เดินเข้ามา พอเห็นพ่อบ้านชรา แปะชิกชิกก็รีบบินไปเกาะอยู่บนคอน แล้วเอียงคอมองลู่อี้เผิง
   “วันนี้พอแล้ว วันนี้พอแล้ว”
   นายตำรวจหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองพ่อบ้านชรา หลี่คงยิ้มให้เขา “สารวัตรกลับได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาอีกที”
   “อ้อ... ครับ” ลู่อี้เผิงพูด พลางพยักหน้าอย่างงงไม่หาย ตกลงวันหนึ่งๆ เขาแค่ต้องมาเล่นกับเจ้านกนี่แบบนี้ไม่กี่นาทีหรือนี่ นายตำรวจหนุ่มมองนกกระตั้วสีขาวตัวนั้นอีกครั้ง เจ้านกเอียงคอมองเขา แล้วอ้าปากพูดเสียงแจ้ว
   “พรุ่งนี้เจอกัน พรุ่งนี้เจอกัน”
------------------------------------------------------------
“สารวัตรดูนาฬิกาอีกแล้ว พักนี้ไปแอบมีภาระไว้ที่ไหนรึเปล่าครับเนี่ย” ต้วนเฟิงทักขึ้น ขณะที่ทั้งสองคนกำลังนั่งทานอาหารเย็นกันอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ใกล้ๆ กับที่ทำงาน ลู่อี้เผิงเงยหน้ามองลูกน้อง ก่อนจะหัวเราะแหะๆ
“ก็ไม่เชิงหรอก พอดีมีคนฝากให้ดูนกให้นะ”
“นก?” อีกฝ่ายทวนคำ สารวัตรหนุ่มจึงพูดขึ้นต่อ “อืม พอดีว่าเจ้าของไม่อยู่หลายวัน เลยฝากผมให้ช่วยดูแลนกให้น่ะ”
“โห... เจ้าของเป็นสาวสวยที่ไหนรึเปล่าครับเนี่ย แหม... ถึงกับทำให้สารวัตรต้องกลับไปเลี้ยงนกให้ ว่างๆ พามาแนะนำให้ผมรู้จักบ้างสิ”
ลู่อี้เผิงเกือบจะไอออกมา “อ้อ เปล่า ไม่ใช่สาวที่ไหนหรอก ญาติผู้ใหญ่นะ”
“อ้อ...” ต้วนเฟิงร้องออกมา “นกอะไรล่ะครับ”
“นกกระตั้ว” ลู่อี้เผิงบอก พอเห็นต้วนเฟิงทำหน้างง สารวัตรหนุ่มจึงพยายามจะอธิบายรูปร่างหน้าตาของมันให้ลูกน้องฟัง
“นึกไม่ออกแหะ ผมนึกออกแต่นกแก้ว” ต้วนเฟิงพูดในที่สุด “ไว้เดี๋ยวผมค่อยเปิดหารูปในอินเตอร์เน็ตดูแล้วกัน แล้วนี่สารวัตรต้องไปเลี้ยงนกกี่โมงครับเนี่ย?”
“ทานข้าวเสร็จก็คงไปเลยแหละ” ลู่อี้เผิงว่า ต้วนเฟิงพยักหน้า “งั้นรีบๆ ทานกันดีกว่า เดี๋ยวนกจะรอนาน”
พูดจบ ผู้กองหนุ่มก็หัวเราะร่วน ไม่รู้ว่าตีความนกไปในทางไหนกันแน่ ลู่อี้เผิงได้แต่พยักหน้ารับยิ้มๆ แล้วก้มหน้าก้มตาทานอาหารต่อ
---------------------------------------------------------------
วันนี้ลู่อี้เผิงเปลี่ยนบรรยากาศ จากการเล่นโยนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้แปะชิกชิกงับให้ห้องรับรองของหงคงฉ่วย มาเป็นการยืนมองเจ้านกกระตั้วตัวเดิม เล่นของเล่นที่มีอยู่สารพัดในห้องที่เรียกกันว่า “ห้องของเสี่ยวชิก” ซึ่งดูไปโดยรวมแล้ว ห้องนี้ดูจะกว้างกว่าห้องนอนของลู่อี้เผิงเสียอีก
แปะชิกชิกยืนเกาะอยู่บนคอนไม้ ที่ห้อยลงมาจากต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเอาไว้มุมหนึ่งของห้อง นอนของเสี่ยวชิก เป็นห้องที่ผนังและเพดานครึ่งหนึ่งกรุกระจกและตาข่ายเหล็ก จึงทำให้สามารถปลูกต้นไม้เอาไว้ในห้องได้ ครึ่งหนึงของห้องเป็นป่าขนาดย่อม ต่อจากนั้นก็มีคอนไม้เชื่อมๆ ต่อกันไปรอบๆ ห้อง ลักษณะต่างๆ กันไป ระหว่างคอนไม้มีทั้งอุโมงค์ที่ทำจากไม้ขนาดเล็กพอที่นกจะลอดได้ จักรยานที่พาดอยู่บนเส้นลวด ห่วงวงกลมที่คล้องกันไปมา แล้วยังมีรางไม้ที่ต่อไปจนถึงท่อใสๆ ทรงกระบอกที่มีไม้เสียบอยู่โดยรอบ
พอเห็นหน้านายตำรวจหนุ่ม เจ้านกกระตั้วตัวนั้นก็เอ่ยทักทันที “เผิงเผิง”
ลู่อี้เผิงได้แต่ยิ้มให้นก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรตอบดี แปะชิกชิกยืดคอขึ้นๆ ลงๆ แล้วก็บินมาเกาะไหล่ลู่อี้เผิง เอาศีรษะถูไถแก้มจนนายตำรวจหนุ่มรู้สึกจั๊กจี๋
“เล่นกันนะ เล่นกันนะ” เจ้านกกระตั้วร้อง พลางตีปีกพึ่บๆ เล่นเอาลู่อี้เผิงแสบแก้วหู จากนั้นก็บินไปเกาะคอนไม้ เอียงคอมองนายตำรวจหนุ่ม หลังจากเล่นกับเจ้านกนี่มาได้สองวัน ลู่อี้เผิงพอจะรู้แล้วว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง
นายตำรวจหนุ่มเดินไปอีกฟากของห้อง แล้วหยิบขวดเมล็ดพืชขึ้นมาเปิด เจ้านกกระตั้วตัวนั้นตีปีกพึ่บๆ แล้วร้องเสียงลั่น ก่อนจะกระโดดมาตามคอน มุดลอดอุโมงค์มาแล้วก็ปั่นจักรยานอันเล็กๆ บนเส้นลวด ก่อนจะปีนลอดห่วงกลมๆ พวกนั้น มาดึงสลักตรงหน้ารางไม้ ปล่อยลูกเหล็กกลมๆ ให้ไหลไปตามราง แล้วกระโดดตามไปจนลูกเหล็กไหลลงในท่อทรงกระบอก แล้วก็กระโดดไปดึงไม้ที่เสียบออกอยู่ทีละท่อน
ลู่อี้เผิงมองดูเจ้านกกระตั้วตัวนั้นจัดการกับอุปสรรค์ที่ถูกวางเอาไว้ทั้งหมดด้วยความทึ่งจัด แปะชิกชิกดึงท่อนไม้พวกนั้นออกจนลูกเหล็กกลิ้งตามรางมาหยุดอยู่ตรงหน้าลู่อี้เผิง ก่อนจะกระโดดขึ้นไปเกาะคอน เอียงคอรอรับคำชมอยู่อย่างนั้น
“เก่งมากๆ ” นายตำรวจหนุ่มพูด และป้อนเมล็ดพืชเป็นรางวัลให้ แปะชิกชิกรับเมล็ดพืชเปลือกแข็งนั้นมาแล้วใช้อุ้งเท้าและปากกะเทาะเปลือกออกอย่างคล่องแคล่ว
หลังจากให้อาหารและปล่อยให้เจ้านกกระตั้วตัวนั้นถูไถจนพอใจแล้ว ลู่อี้เผิงก็เตรียมตัวจะกลับ แปะชิกชิกบินมาเกาะที่คอน ก่อนจะเอียงคอให้
“พรุ่งนี้มาเล่นกันอีกนะ” เจ้านกน้อยพูดพลางตีปีกพึ่บๆ ในตอนที่ลู่อี้เผิงเปิดประตูออกไป นายตำรวจหนุ่มหันกลับมาแล้วยิ้มให้
“อืม”
------------------------------------------------------
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น มีเหตุให้ลู่อี้เผิงจำต้องค้างอยู่ที่กรม เพราะคดีใหญ่ที่เพิ่งส่งสำนวนเข้ามา นายตำรวจหนุ่มจึงจำต้องโทรไปบอกพ่อบ้านของหงคงฉ่วยว่าวันนี้เขาคงไปเล่นกับนกไม่ได้ หลังจากนั้น พอตกช่วงเย็นๆ เขาก็ถูกเรียกตัวจากห้องทำงานลงไปที่ด้านล่าง
“เผิงเผิง” เจ้านกกระตั้วสีขาวท่าทางคุ้นตาซึ่งเกาะคอนอยู่ในกรงเหล็กซึ่งทำขึ้นอย่างประณีตที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวมันหน่อยหนึ่งร้องขึ้นทันทีที่เห็นหน้านายตำรวจหนุ่ม ลู่อี้เผิงกลืนน้ำลายเฮือก ก่อนจะหันไปมองนายตำรวจซึ่งเฝ้าเวรอยู่ด้านหน้า
“มีคนเอามาฝากไว้ให้สารวัตรน่ะครับ” นายตำรวจคนนั้นบอก ลู่อี้เผิงยืนมองนกอยู่อีกพัก นึกแปลกใจว่าคนรับใช้ที่บ้านของหงคงฉ่วยไม่มีปัญญาดูแลนกตัวหนึ่งขนาดนี้เชียวหรือ จนเมื่อแปะชิกชิกเริ่มตีปีกแล้วเรียกชื่อเขาอีกครั้ง ลู่อี้เผิงจึงหิ้วกรงนกนั้นขึ้นมาที่ห้องทำงาน
“โห... สารวัตร อย่าบอกนะครับว่านี่เป็นนกที่เขาฝากเลี้ยง?” ต้วนเฟิงเอ่ยทักขึ้นทันทีเมื่อเห็นลู่อี้เผิงกลับขึ้นมาพร้อมกับกรงนก สารวัตรหนุ่มพยักหน้า ได้ยินเสียงผู้เป็นลูกน้องพูดต่อ “ท่าทางมันจะติดสารวัตรน่าดู นี่ให้คนไปเอามาจากที่บ้านหรือครับ”
ลู่อี้เผิงไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี เลยได้แต่พยักหน้า “ก็ทำนองนั้นแหละ”
“มันชื่ออะไรน่ะครับ สารวัตร” ต้วนเฟิงถามต่อเมื่อลู่อี้เผิงวางกรงนกลงบนโต๊ะ ยังไม่ทันที่ลู่อี้เผิงจะตอบ เจ้านกกระตั้วตัวนั้นก็ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว “เสี่ยวชิก เสี่ยวชิก”
“โอ้โห ท่าทางจะฉลาดแฮะ” ต้วนเฟิงว่า แล้ววางงานที่ทำอยู่ เดินเข้ามาดูนกใกล้ๆ “นี่นกกระตั้วหรือครับเนี่ย น่ารักจัง”
“อืม” ลู่อี้เผิงพยักหน้า พลางนึกว่าวันนี้เขาจะได้ทำงานรึเปล่านะ ดันมีเจ้านกนี่มากวนประสาทอีก
ต้วนเฟิงดูจะสนใจนกเป็นพิเศษ เดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดอีก “เสี่ยวชิก”
“จ๋า” เจ้านกตอบเสียงหวาน แล้วเอียงคอมองคนไม่คุ้นเคยตรงหน้า “ใครน่ะ ใครน่ะ”
“โห... ถามชื่อด้วยแน่ะ” ต้วนเฟิงว่า แล้วแนะนำตัวเอง
“ต้วนเฟิง ต้วนเฟิง” เจ้านกน้อยร้องเสียงแหลม พลางตีปีกพึ่บๆ ต้วนเฟิงมองมันอย่างพิศวง ก่อนจะพูดออกมา “ฉลาดจัง”
“ฉลาดจัง ฉลาดจัง” แปะชิกชิกว่า ต้วนเฟิงนึกสนุก เลยถามขึ้นต่อ “ไหนบอกซิ ระหว่างฉันกับสารวัตรลู่ ใครหล่อกว่ากัน”
“เผิงเผิง” เจ้านกกระตั้วตัวนั้นตอบทันที คนได้ฟังถึงกับอึ้งๆ ก่อนจะหันไปหัวเราะกับสารวัตรหนุ่มที่ยืนอยู่ “ชื่อเล่นสารวัตรน่ารักดีนะครับ”
“อืม...” ลู่อี้เผิงส่งเสียงในคอ ก่อนจะตัดสินใจพูดตัดบท เพราะกลัวต้วนเฟิงถามไปถามมา เจ้านกบ้านี่อาจจะหลุดชื่อหงคงฉ่วยออกมาก็ได้
“ไปทำงานเถอะผู้กอง เดี๋ยวจะกลับดึก”

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
“อืม... ท่าทางคืนนี้คงไม่ได้กลับหรอกครับ” ต้วนเฟิงว่า และทำหน้าท้อแท้ “ท่านรองก็ใจร้ายจริง คดีใหญ่ขนาดนี้ ดันต้องมารีบทำอีก”
ยังไม่ทันที่ลู่อี้เผิงจะได้อ้าปากพูดอะไรตอบ แปะชิกชิกก็พูดขึ้นมาอีก “ใจร้ายจริง ใจร้ายจริง”
ต้วนเฟิงมองนก แล้วหัวเราะร่วน “เสี่ยวชิกน่ารักดีจัง ไปอยู่บ้านฉันไหม?”
“ไม่ไป ไม่ไป” เจ้านกน้อยตอบ แล้วอ้าปากแทะกรง ลู่อี้เผิงจึงจำต้องโบกมือ ไล่ลูกน้องตัวเองกลับไปทำงานเสียที ก่อนจะนั่งแหมะลงบนเก้าอี้ นึกปวดหัวว่างานก็เยอะอยู่แล้ว ยังจะมีเจ้านกนี่มากวนประสาทอีก
“เผิงเผิง” เจ้านกน้อยท่าทางอยากเล่นเต็มที่ เลยส่งเสียงเรียกเจื้อยแจ้ว พลางเดินไปเดินมาบนคอนในกรง ลู่อี้เผิงพยายามจดจ่ออยู่กับกองเอกสารตรงหน้า โดยไม่ให้ความสนใจกับเจ้านกสีขาวที่กำลังตีปีกพึ่บๆ แล้วร้องเรียกเขาอยู่ แต่เจ้านกน้อยยังส่งเสียงเรียกไม่หยุด “เผิงเผิง เผิงเผิง มาเล่นกัน มาเล่นกัน”
ในที่สุดลู่อี้เผิงก็กระแทกปึกเอกสารลงกับโต๊ะอย่างทนไม่ไหว ก่อนจะแค่นเสียงใส่เจ้านกน้อย “นี่ ช่วยเงียบๆ หน่อยเถอะ เดี๋ยวก็จับหักคอย่างกินซะหรอก”
พูดจบก็ถลึงตาใส่นกอย่างเอาเรื่อง แปะชิกชิกเอียงคอมองนายตำรวจหนุ่ม ก่อนจะทำคอตก ดูแล้วนึกถึงเจ้าของไม่ผิด ได้ยินเสียงต้วนเฟิงดังมาจากโต๊ะทำงานซึ่งตั้งเยื้องไปด้านหลัง “สารวัตรก็ ใจร้ายจัง นกมันจะไปรู้เรื่องอะไรล่ะครับ เล่นกับมันหน่อยสิ”
“ผมไม่ว่างขนาดนั้นหรอก” ลู่อี้เผิงว่า และก้มหน้าก้มตาจัดการกับงานเอกสารต่อ เจ้านกกระตั้วตัวนั้นก็เหมือนจะฟังภาษาคนรู้เรื่องจริงๆ พอถูกเอ็ดก็เงียบไปเลย สงสัยจะกลัวถูกหักคอ ลู่อี้เผิงนึกในใจว่า ถ้าเคลียร์งานเสร็จ อีกวันที่เหลือเขาจะใช้เวลาข่มขู่เจ้านกตัวนี้ เวลาอยู่พร้อมกับเจ้านกยูงนั่น จะได้ไม่เป็นลูกคู่กวนประสาทเขาอีก ดีไม่ดีเขาอาจจะได้พวกเพิ่มก็ได้

สำนวนคดีที่แบ่งมาเป็นการสอบปากคำพยานสองคน ที่ทางคณะตรวจสอบเห็นว่ายังมีข้อบกพร่องหลายอย่าง เลยส่งกลับมาให้ตรวจทาน และสรุปว่าควรจะสอบเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง นายตำรวจหนุ่มเดินไปชงกาแฟมาดื่มพลาง ตรวจสำนวนคดีไปพลาง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนมีใครมาสางผมให้อยู่ พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นดวงตาสีดำกำลังจ้องเขาอยู่
นายตำรวจหนุ่มรีบยันตัวลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานทันที และนึกตกใจว่าตัวเองเผลอหลับหรืออะไรกันแน่ พอมองชัดๆ ถึงได้เห็นว่าเจ้านกกระตั้วตัวนั้นยืนอยู่บนโต๊ะ ลู่อี้เผิงยกมือขึ้นขยี้ตา แล้วมองที่กรง ถึงเห็นว่าประตูกรงเปิดอ้าอยู่
“ออกมาจากกรงเองหรือนี่?” นายตำรวจหนุ่มถามขึ้นเบาๆ เจ้านกน้อยมองหน้าเขาแล้วผงกหัว ก่อนจะขยับเข้ามาใช้จะงอยปากค่อยๆ สางผมด้านหน้าของเขาเบาๆ ลู่อี้เผิงหัวเราะออกมา
“ฉันตื่นแล้วล่ะ ขอบใจนะ”
เจ้านกน้อยมองหน้าเขา แล้วก้มลงคาบเอกสารที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาวางบนมือของเขา ลู่อี้เผิงอดไม่ได้ต้องยกมือขึ้นลูบหัวมันเบาๆ แปะชิกชิกเลยเอาศีรษะถูไถกับมือของนายตำรวจหนุ่ม
ขณะที่ลู่อี้เผิงกำลังลูบหัวนกเพลินๆ เสียงของต้วนเฟิงก็ดังขึ้นข้างๆ “ท่าทางมันจะติดสารวัตรนะครับเนี่ย”
ลู่อี้เผิงเงยหน้าขึ้นมองลูกน้อง ก่อนจะหัวเราะเขินๆ “ไม่รู้สิ”
ต้วนเฟิงมองเขา แล้วยื่นเอกสารให้ “ของผมตรวจเสร็จแล้ว คิดว่าเราคงต้องสอบปากคำฉินสวี่เพิ่มนะ สารวัตรได้ความว่าไงครับ”
“อืม... คิดอยู่เหมือนกัน แต่ผมยังอ่านไม่เสร็จเลย” ลู่อี้เผิงยอมรับออกมาตรงๆ พลางมองปึกเอกสารตรงหน้า ต้วนเฟิงมองเขาด้วยสีหน้าเข้าอกเข้าใจเต็มที่ “ผมเห็นแล้วล่ะ ของสารวัตรน่ะมาอย่างโหดเชียว ความจริงตะกี้ผมว่าจะปลุกอยู่ล่ะครับ แต่เห็นนกมันท่าทางมีความสุขกับการจิกผมสารวัตร เลยไม่อยากยุ่งน่ะ” หยุดไปพักหนึ่ง นายตำรวจหนุ่มจึงพูดขึ้นต่อ “ว่าแต่นกก็ฉลาดนะครับ เปิดกรงเองด้วย แต่ไม่ยอมบินหนี ท่าทางจะเชื่องคนนะเนี่ย”
“อืม... คงจะติดคนอยู่น่ะ” ลู่อี้เผิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านสำนวนคดีต่อ โดยมีต้วนเฟิงนั่งเป็นเพื่อนอยู่ข้างๆ คอยเอาเมล็ดทานตะวันที่ใส่อยู่ตรงถ้วยในกรงให้แปะชิกชิกแทะเล่นบ้างอะไรบ้างตามประสา นานๆ ทีลู่อี้เผิงถึงจะถามความเห็นในสำนวนบ้าง ซึ่งบางทีทั้งคนทั้งนกก็ช่วยกันตอบ พอให้ได้หัวเราะคลายเครียดในยามดึก
กว่าที่สารวัตรหนุ่มจะสรุปสำนวนเสร็จก็ปาไปเกือบตีสาม หันไปอีกที ทั้งตัวนเฟิงทั้งแปะชิกชิกก็หลับกันหมดแล้ว เจ้านกกระตั้วตัวนั้นเข้าไปยืนหลับในกรง ส่วนลูกน้องเขาก็ฟุบหลับที่ข้างโต๊ะ

ต้วนเฟิงรู้สึกตัวตอนที่ลู่อี้เผิงขยับตัวลุกขึ้น พอเงยขึ้นไปก็เห็นอีกฝ่ายยิ้มให้ “กลับไหวไหมผู้กอง ผมไปส่งไหม?”
ต้วนเฟิงที่แม้อยู่ในอาการสะลึมสะลือ แต่ก็ยังนึกออกว่าแต่ละครั้งที่นั่งรถกับสารวัตรหนุ่มคนนี้ ตัวเองประสบเหตุอะไรบ้าง จึงรีบสั่นศีรษะทันที “ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมเรียกแท็กซี่กลับเอาดีกว่า”
พูดจบก็หันไปมองกรงนก เจ้านกกระตั้วสีขาวตัวนั้นก็ดูจะตื่นแล้วเหมือนกัน มันยืนเกาะคอนเรียบร้อยอยู่ในกรง พลางเงยหน้าขึ้นมองคนซึ่งยืนอยู่
“สารวัตรขับรถกลับดีๆ นะครับ เดี๋ยวนกมันจะตกใจขนร่วงหมด” ต้วนเฟิงว่า เมื่อเห็นลู่อี้เผิงหิ้วกรงนกขึ้น นายตำรวจหนุ่มมองเขาแล้วพยักหน้า “อืม ผู้กองเองก็กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
อีกฝ่ายพยักหน้า ทั้งคู่แยกกันหลังออกจากลิฟต์ ลู่อี้เผิงเดินมาที่รถ ความจริงเขาคิดว่าน่าจะเอาเจ้านกนี่กลับไปคืนที่คฤหาสน์ของหงคงฉ่วยก่อน แต่นี่ก็ใกล้จะเช้าอยู่แล้ว แถมทางไปคฤหาสน์นั่นก็ไกลว่าบ้านพักของเขา ลู่อี้เผิงเอากรงนกใส่เข้าไปตรงเบาะหน้า แล้วมุดตามเข้าไป สอดกุญแจสตาร์ตรถ แล้วหันไปถามเจ้านกสีขาวในกรง
“เสี่ยวชิก วันนี้ไปค้างบ้านฉันนะ”
เจ้านกกระตั้วที่ดูจะง่วงๆ แล้วตัวนั้นดูตื่นตัวขึ้นมาทันที “ไปบ้านเผิงเผิง ไปบ้านเผิงเผิง”
ลู่อี้เผิงยิ้มให้นก ก่อนจะถอยรถออกไป
----------------------------------------------------
พอกลับมาถึงบ้าน ลู่อี้เผิงก็จัดการวางกรงนกไว้ตรงเก้าอี้ที่ห้องนั่งเล่นเล็กๆ ชั้นล่าง เตรียมจะขึ้นไปชั้นบนเพื่ออาบน้ำและเข้านอน พอเห็นนายตำรวจหนุ่มเดินจากไป เจ้านกตัวนั้นก็ส่งเสียงเรียกทันที “เผิงเผิง เผิงเผิง”
ลู่อี้เผิงจึงต้องเดินกลับมาที่กรงนกอีกรอบ ก่อนจะถามอย่างเอ็นดู “อยากไปนอนด้วยหรือ?”
แปะชิกชิกมองหน้าเขา ก่อนจะร้องต่อ “นอนกับเผิงเผิง นอนกับเผิงเผิง”
ลู่อี้เผิงระบายลมหายใจออกมา แล้วจึงหิ้วกรงนกขึ้นไปชั้นบนด้วย แล้ววางเอาไว้ตรงเก้าอี้ข้างเตียงนอน พออาบน้ำเสร็จก็เห็นเจ้านกน้อยเกาะคอนหลับไปเรียบร้อยแล้ว ลู่อี้เผิงมองมันอยู่พักหนึ่ง แล้วจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง
--------------------------------------------------------
“เผิงเผิง ฉันไม่อยู่หลายวันคิดถึงหรือเปล่า?”
ลู่อี้เผิงเขม่นตามองร่างตรงหน้า ก่อนจะแค่นเสียงตอบไป “คุณมันใจร้ายน่าดู ทิ้งผมไว้กับนกตั้งหลายวัน”
หงคงฉ่วยขยับตัวลงนั่งที่ข้างเตียง แล้วยกมือลูบศีรษะเขา พลางยิ้ม “งอนหรือคุณตำรวจ ฉันกลับมาแล้ว คิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ?”
“ถามนกของคุณดูสิ” ลู่อี้เผิงว่า แล้วเบือนหน้าไปทางอื่น หงคงฉ่วยยิ้มที่มุมปาก แล้วก้มหน้าลงมาใกล้ “เสี่ยวชิกคิดถึงฉันอยู่แล้ว สารวัตรล่ะ คิดถึงฉันบ้างรึเปล่า”
ลู่อี้เผิงไม่ได้ตอบ เขาหันหน้ากลับมาอีกครั้ง และเห็นใบหน้าคมสันนั้นโน้มเข้ามาใกล้ นายตำรวจหนุ่มจึงเอื้อมมือขึ้นโอบร่างนั้นเอาไว้ ก่อนจะกระซิบเบาๆ “คงฉ่วย”
ริมฝีปากของฝ่ายนั้นค่อยๆ แนบลงมาบนริมฝีปากของเขาเบาๆ
!!
แข็ง!!
เท่าที่จำได้ ตั้งแต่จูบกันมา ริมฝีปากของหงคงฉ่วย ถึงไม่นิ่มเหมือนของผู้หญิงแต่ไม่แข็งขนาดนี้ ในที่สุดลู่อี้เผิงจึงลืมตาขึ้นมาได้จริงๆ เสียที และพบดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องมองเขาอยู่
“ตื่นแล้ว ตื่นแล้ว” เจ้านกกระตั้วสีขาวตัวนั้นไม่รู้ออกมาจากกรงตั้งแต่เมื่อไหร่ พอเห็นเขารู้สึกตัวก็ร้องเสียงลั่น ก่อนจะจิกปากเขาเบาๆ ลู่อี้เผิงยกมือขึ้นลูบปากตัวเอง
หรือว่าตะกี้... เขาจะจูบกับนกไปแล้ว?!!
นายตำรวจหนุ่มลุกพรวดพราดขึ้นมาทันที เจ้านกตัวนั้นเลยบินไปเกาะที่พนักพิงเก้าอี้ซึ่งเป็นโครงเหล็ก ก่อนจะเอียงคอมองและพูดต่อ “สายแล้ว สายแล้ว”
ลู่อี้เผิงเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา และพบว่าเป็นเวลาสิบโมงกว่าเข้าไปแล้ว จากเรื่องเมื่อคืน วันนี้เขาคงจะพอลางานได้ แต่... เจ้านกสีขาวตัวนี้สิ
“จะกลับบ้าน จะกลับบ้าน” แปะชิกชิกร้องขึ้น พลางตีปีกพึ่บๆ “หาคงฉ่วย หาคงฉ่วย”
------------------------------------------------------------------
ลู่อี้เผิงขับรถพาแปะชิกชิกมาที่คฤหาสน์ของหงคงฉ่วย พอเปิดประตูเข้าไป นายตำรวจหนุ่มก็ต้องนิ่วหน้าอีกรอบ เมื่อเห็นหงคงฉ่วยนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม
“ไหนคุณบอกไปห้าวันไง?” นายตำรวจหนุ่มอดไม่ได้ต้องถามขึ้นทันที หลังจากมองจนแน่ใจแล้วว่า เจ้าคนที่นั่งอยู่ใช่เจ้านกยูงนั่นแน่ๆ หงคงฉ่วยมองเขาแล้วพูดยิ้มๆ “พอดีคิดถึงเสี่ยวชิก เลยรีบกลับมาก่อน ไม่นึกว่าเธอจะพาเสี่ยวชิกไปค้างด้วยนะเนี่ย”
“คนของคุณนั่นแหละ เอามายัดเยียดให้ผม” ลู่อี้เผิงว่า แปะชิกชิกที่อยู่ในกรงมีท่าทางตื่นเต้นเมื่อเห็นเจ้านายของตัว ตีปีกพึ่บๆ แล้วร้องใหญ่ “คงฉ่วย คงฉ่วย”
ยังไม่ทันที่ลู่อี้เผิงจะทันได้พูดหรือทำอะไรต่อ เจ้านกน้อยก็ใช้จะงอยปากงัดกลอนประตูกรงขึ้น ก่อนจะบินพึ่บๆ ไปเกาะคอนตรงโต๊ะทำงานของหงคงฉ่วย ก่อนจะร้องเสียงแจ้ว “กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว”
“กลับมาแล้วล่ะ” หงคงฉ่วยว่า และยกมือขึ้นลูบตัวนกเบาๆ ลู่อี้เผิงยืนมองอยู่สักพัก ก็พูดออกมา “งั้นผมกลับล่ะ”
“เดี๋ยวซี่ มาแล้วจะกลับเลยหรือ?” อีกฝ่ายท้วง นายตำรวจหนุ่มจึงพูดตอบเสียงเรียบ “คุณจะได้มีเวลาอยู่กับนกสุดที่รักของคุณให้เต็มที่ไง ผมจะได้กลับไปนอนให้เต็มอิ่มด้วย”
ริมฝีปากของหงคงฉ่วยปรากฏรอยยิ้มลี้ลับขึ้นมา “เผิงเผิงงอนคงฉ่วยหรือ?”
“เปล่า” ลู่อี้เผิงตอบ และนึกอยากรีบกลับไปนอนขึ้นมาจริงๆ ได้ยินเสียงหงคงฉ่วยพูดต่อ “งั้นคิดถึงฉันล่ะสิ”
“ผมไม่คิดถึงคุณหรอก” นายตำรวจหนุ่มว่า แต่ใจพาลนึกไปถึงฝันเมื่อตอนเช้า เขาฝันบ้าๆ อย่างนั้นเข้าไปได้ไงกันนะ ใครมันจะไปคิดถึงเจ้านกยูงบ้านี่กัน
“ไม่คิดถึงฉันจริงๆ หรือ?” หงคงฉ่วยถามต่อ พอเห็นนายตำรวจหนุ่มไม่ตอบอะไร ทางนั้นจึงพูดขึ้นอีก “แต่ฉันคิดถึงเผิงเผิงนะ”
ลู่อี้เผิงเงยหน้าขึ้นมองหงคงฉ่วยทันที ก่อนจะรู้สึกร้อนวาบขึ้นมาบนใบหน้า
“ขึ้นมานี่สิ” ทางนั้นพูดอีก นายตำรวจหนุ่มไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ขาก้าวไปตามคำเรียกนั้น หงคงฉ่วยยกมือขึ้นลูบใบหน้าเขาเบาๆ “ไม่คิดถึงฉันสักนิดเลยหรือ?”
ลู่อี้เผิงได้แต่เม้มปากอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็พูดออกไป “นกคุณป่วนผมมากเลยนะ”
หงคงฉ่วยมองลู่อี้เผิงอีกพัก ถึงได้หัวเราะออกมา “คิดว่าเธอจะตกหลุมรักกับเสี่ยวชิกแล้วเสียอีก แต่ก็ดีแล้วล่ะ ฉันไม่อยากให้ใครมาแย่งรักเสี่ยวชิกหรอก” พูดจบก็หันกลับไปหานกกระตั้วตัวนั้นอีกรอบ
ลู่อี้เผิงมองท้ายทอยของหงคงฉ่วยแล้วให้รู้สึกป่วนในอกอย่างบอกไม่ถูก เขาเห็นหงคงฉ่วยยกมือขึ้นลูบนกกระตั้วตัวนั้น แล้วถามเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวชิกเอ๋ย เผิงเผิงใจดีรึเปล่า?”
แปะชิกชิกมองลู่อี้เผิง ก่อนจะร้องเสียงแหลม “หักคอ หักคอ”
ลู่อี้เผิงถึงกับสะดุ้ง เตรียมจะกระโจนหนีทันทีที่หงคงฉ่วยหันกลับมา แต่ก็ถูกอีกฝ่ายยุดมือไว้ก่อน “หักคอนี่มันอะไรน่ะ สารวัตรลู่”
ลู่อี้เผิงนึกอยากจะหักคอแปะชิกชิกขึ้นมาจริงๆ แต่ในเมื่อโดนหงคงฉ่วยยุดมืออยู่ นายตำรวจหนุ่มจึงได้แต่ปั้นหน้าปั้นตาเจี๋ยมเจี้ยม พูดแก้ตัวออกไป “ผมหยอกเล่นน่ะ”
“อ้อ...” หงคงฉ่วยลากเสียงยาว ก่อนจะหันไปถามนกต่อ “แล้วอยู่กับเผิงเผิงสนุกรึเปล่า”
“สนุก สนุก” เจ้านกน้อยตอบ และขยับตัวไปมา “เผิงเผิงหล่อ เผิงเผิงหล่อ”
ลู่อี้เผิงไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี พอเห็นหงคงฉ่วยหันหน้ากลับมาอีก เจ้าตัวเลยรีบพูดปัด “นี่ผมไม่ได้สอนมันพูดนะ”
“อืม... ฉันรู้” หงคงฉ่วยว่า แล้วยกมือขึ้นจับหน้าเขาอีกรอบ “เสี่ยวชิกตาถึงขนาดนี้ ไม่ต้องให้สอนหรอก”
ลู่อี้เผิงกลืนน้ำลายเฮือก มองดูคนตรงหน้า หงคงฉ่วยมองเขาอยู่พัก ก็ยิ้มอีก “เผิงเผิง ไม่ต้องกลับไปนอนที่บ้านหรอก ฉันเพิ่งกลับมา ยังไม่ได้นอนเลย ที่นอนที่โน่นก็กว้าง แถมหนาวด้วย”
มือที่จับใบหน้าเขาอยู่ เลื่อนต่ำลงไปลูบไล้อกเสื้อของชายหนุ่ม “นอนเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ ฉันอยากซบอกเธอ”
---------------------------------------------
ลั่วซ่งจือพาแปะชิกชิกกลับไปที่ห้องแล้ว ตอนนี้ลู่อี้เผิงจึงอยู่กับหงคงฉ่วยในห้องนอนแค่สองต่อสอง นายตำรวจหนุ่มกำลังยืนมองอีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้า หงคงฉ่วยถอดเสื้อคลุมด้านนอนออก ถึงได้เห็นว่าด้านในเป็นเสื้อแพร คงจะเตรียมเข้านอนตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว แต่บังเอิญต้องออกไปรับเขาที่ด้านนอนก่อน
ทางนั้นแขวนเสื้อคลุมเสร็จก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วซบหน้าลงบนอกเขา
“เผิงเผิงไม่คิดถึงฉันจริงๆ ?”
ลู่อี้เผิงไม่ได้ตอบ เขาประคองใบหน้าของหงคงฉ่วยขึ้นมา แล้วแนบจูบลงไป ความระอุอุ่นและอ่อนนุ่มของริมฝีปากของอีกฝ่ายซาบซ่านเข้ามาในทันที จูบกันไปได้สักพัก ทั้งคู่ก็ล้มลงบนเตียง
“เผิงเผิง” หงคงฉ่วยเรียก ในตอนที่นายตำรวจหนุ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอ ก่อนจะประคองศีรษะอีกฝ่ายขึ้นมา “วันนี้พักผ่อนเถอะนะ ฉันนั่งเครื่องมาหลายชั่วโมง เหนื่อยน่ะ”
ลู่อี้เผิงมองหน้าเขา แล้วก้มลงจูบอีกรอบ หงคงฉ่วยปล่อยให้ทางนั้นจูบอยู่อีกพักใหญ่ แล้วพูดขึ้นอีก “ฉันรู้แล้วล่ะว่าเผิงเผิงคิดถึงขนาดไหน”
นายตำรวจหนุ่มเม้มปากแน่น ก่อนจะกอดร่างนั้นเอาไว้ “คงฉ่วย”
หงคงฉ่วยพยักหน้า ก่อนจะซบลงบนแผ่นอกกว้างนั้น “เสี่ยวชิกเป็นเด็กดีหรือเปล่า?”
“อืม..”
“ชอบไหม?”
“อืม...”
“อย่าเผลอไปหลงรักเข้าล่ะ”
“ผมเป็นคนนะ ไม่หลงรักนกหรอก”
“อ้อ....”
“คงฉ่วย”
“หืม”
“คุณรักคนหรือรักนกมากกว่ากันล่ะ?”
หงคงฉ่วยเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะตอบยิ้มๆ “พักผ่อนเถอะ ฉันง่วงแล้ว”
พูดจบก็ซบหน้าลงกับแผงอกกว้างนั้นอีกรอบ ลู่อี้เผิงเม้มปากอยู่พัก ก็พูดออกมาอีก
“คงฉ่วย ถ้าผมจะรัก ผมจะรักคน”
“อืม... ฉันรู้...”
“คงฉ่วย...”
“ถ้าทำได้ ฉันก็อยากจะรักคน”
“?!” ลู่อี้เผิงก้มหน้าลงมอง แล้วก็เห็นว่าฝ่ายนั้นหลับตาลงแล้ว เขามองแพขนตางอนยาวนั้นอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะโอบร่างนั้นเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น
ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นอื้ออึงไปหมด
หงคงฉ่วย.....
----------------------------------------------------------
**ระบบกันสแปม90วิฯ ทำเอาอิฉันโพสลำบากเลยทีเดียว (เป็นเวรเป็นกรรมของคนเขียนตอนยาวมั้ยเนี่ย?) :really2:

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยยยยย

มาซักที!!!!!!!!

akike

  • บุคคลทั่วไป
เย้ ๆ กลับมาแว้ว
แปะน่ารักเหมือนกานนะเนี่ย :-[
คู่นี้เหมือนจาสวีทกานละนะเนี่ย
ดูไม่ค่อยทารุนเรย 5555+
หรือกำลังจะสับให้คงฉ่วยโดนทารุณบ้าง...ก็ดีนะ :haun4:

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
เผิงเผิงน่ารักที่สุดเลยยย  :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :o8:

ทำไมตอนนี้อ่านแล้วได้อารมณ์คู่รักจากกันไปแล้วนอนคุยกันอ่ะ

ยิ่งตอนสุดท้ายนี่เหมือนบอกรักกันกลายๆ

อ๊ายยยยย  ชอบอ่ะ

อยากให้รักกันจิงๆซะที

ออฟไลน์ Mookkun

  • mgAmuptUF
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • confidential adult chat rooms
เผิงเผิง รับศึกหนักเลยนะเนี่ย 555
ขอบคุณฮะ :)))

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
สวีททั้งกับนกทั้งกับคนเลยนะเผิงเผิง  :z1:

pantanakan

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดค่า  บอกรักกันแล้วๆๆๆ  เผิงเผิงเหมือนเด็กน้อยเลย เวลาอยู่กับคงฉ่วย
อ่านตอนนี้แล้วหลงรักเสี่ยวชิกเลยล่ะ  นกอะไรฉลาดน่ารัก ขี้อ้อนสุดๆ  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2011 22:57:56 โดย pantanakan »

ออฟไลน์ Pepor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 396
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-3
ดีใจจังที่คนเขียนกลับมาแล้ว
คิดถึงคงฉ่วยและเผิงเผิงจัง  แต่ตอนนี้ให้คะแนนความน่ารักของเสี่ยวชิกนะคะ ส่วนความหวาน(?)ของคู่หลักให้เป็นรอง

 :pig4: ขอบคุณนะคะที่กลับบมาเหนื่อยๆแล้วยังมาต่อให้ พักให้หายเหนื่อยนะคะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
สรุป  เสี่ยวชิกน่ารักที่สุด

ออฟไลน์ emmybblood

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
เผิงเผิงน้อย หลงรักคงฉ่วยเข้าแล้วอ่ะดิ ตอนนี้ออร่าความรักฟุ้งกระจาย 

เสี่ยวชิกน่ารักสุดๆ หลงรักแปะชิกชิก อร๊างงงงง

bellity

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนเด็กเลยฉลาดมากอ่ะ ^^

น่ารัก -////-

paradoxxx

  • บุคคลทั่วไป

มาแล้วๆ ^^
ตอนท้ายหมายความว่าไงนิ่? ><

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
รักเสี่ยวชิก รักเสี่ยวชิก

>\\\\\\\\\<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ murasakisama

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-4
น่ารักมากกกกกกกหวานจนมดขึ้นเลยตอนนี้นานๆทีมีหวานแบบนี้ก็รู่้สึกดีค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ EunSung87

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-2
เผิงเผิงน่าีรักจัง

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ทั้งนกและคน
น่ารักจริง ๆ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ดูเหมือนเผิงเผิงจะน้อยใจคงฉ่วยเล็กๆนะที่รักแปะชิกชิกมากกว่า

zhiki

  • บุคคลทั่วไป
จะรักคนรึรักนกดี

รักให้หมดเลยดีฟ่า รักคนเขียนด้วย  :กอด1: กอดดด

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
กลับมาแล้ว สนุกสมกับที่รอคอย
ตอนนี้หว๊านหวานเนาะ
เผิงเผิงกับเสี่ยวชิกอ่ะ สวีทกันจริงๆ
ก๋งก๋งอย่าทิ้งเผิงเผิงนานนะ เด๋วโดนนกแย่งนะเออ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เสี่ยวชิกน่ารักจัง  :-[ แอบสงสารตอนสลดเพราะเผิงเผิงขู่จะหักคอง่ะ :monkeysad:

ตอนนี้เผิงเผิงแอบอ้อนขอความรักจากคงฉ่วยนะ แต่คงฉ่วยที่กร้านชีวิตจะมีใจรักใครได้จริงๆมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ เผิงเผิง นี่ยังดีนะ เสี่ยวชิกไม่ได้พูดออกมาเต็มประโยค ไม่งั้นเจอทั้ง "หักคอ" ทั้ง "ย่าง" เลย  :laugh:

 :L1:เสี่ยวชิก :L1:

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
น่าา รักกก อ๊ะ!!

แปะชิกชิกฉลาดอ่ะ
ไปติดใจเผิงเผิงตอนไหนหว่า?

อ่านแล้วเลยสงสัยว่า เสี่ยวชิก ไม่ชอบเล่นกับคนรับใช้
หรือคงฉ่วยไม่ชอบให้คนอื่น แตะต้องเสี่ยวชิก?

แต่ตอนจบทิ้งท้ายนี่ พ่อหนุ่มซึนของเราน่ารักมากกกกก
กีสสส
 :impress2:

ออฟไลน์ reborn23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
น่ารักจัง มีฉากหวานๆของความคิดถึงด้วย   :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด