LOVE HIGH STORY – 48 – Sweetest Denial | คำปฏิเสธหวานหู 12:30 น.
.
.
.
สามหนุ่มสามมุม ต้าร์ ที โจ พากันเดินจากโต๊ะหินอ่อนริมสระเป็ดไปซื้อขนมตุนไว้เป็นเสบียงสำหรับคาบเรียนตอนบ่ายโมง ปล่อยให้กลุ่มรุ่นพี่นั่งเฝ้าโต๊ะกันไป... ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็น “ปกติ” ดี ถ้าไม่ติดตรงที่โจดันนึกสงสัยขึ้นมาซะได้ว่า “ทำไมวันนี้ไอ้เปี๊ยกมันเดินช้าจัง” เพราะปกติแล้วไอ้เจ้าเปี๊ยกเนี่ย ถึงจะขาสั้นกว่าเพื่อน แต่ก็เดินไวกว่าคนอื่นเขาอยู่เสมอ ไม่ค่อยมีหรอกนะ ที่ทีและโจต้องชะลอฝีเท้าเพื่อให้กีต้าร์เดินไปพร้อมๆ กันได้แบบนี้
“อะ... อะไรวะ” กีต้าร์เห็นแววตาที่มีเครื่องหมายคำถามของโจเพ่งมาที่เขา ก็เลยถามไปด้วยน้ำเสียงที่มีกลิ่นอายของความระแวงอยู่อย่างชัดเจน
“อืมมมมมมมมม” โจยกมือขึ้นลูบคางพลางทำหน้าครุ่นคิด เลยทำให้ทีที่ไม่ได้สังเกตอะไรพลอยนึกสงสัยไปด้วย
“อะไรของมึงวะ เชี่ยโจ จ้องจนกูจะท้องแล้วเนี่ย” กีต้าร์ถามย้ำ ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่ระแวงกว่าเดิม ใจเต้น... ตึก ตึก... นี่แหละนะ วัวน้อยสันหลังหวะ
“กูมีคำถาม” โจตอบเสียงนิ่งพร้อมส่งสายตาที่ทำเอาต้าร์คอแห้ง กลืนน้ำลายแทบไม่ลง ส่วนทีก็ยืนลุ้นพอกันอยู่ข้างๆ
“มึงจะถามอะไ....”
.
*ป้าบ!!* .
“โอ้ย! เชี่ย! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”กีต้าร์ทำใจดีสู้เสือ แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคก็โดนฟาดเน้นๆ เข้าที่ก้น... เจ็บจนร้องแหกปากลั่นมหาวิทยาลัยด้วยความเจ็บปวด... เจ็บจี๊ดตั้งแต่เซลล์ประสาทปลายลำไส้ใหญ่ แล่นเข้าไปถึงสมองกันเลยทีเดียว!!... ตอนนี้ก็เลยลงไปนั่งยองๆ เอามือจับก้นตัวเองด้วยสีหน้าเหยเก ขอบตาร้อนผ่าว... แต่ก็ยังไม่วายบ่นกร่นด่าเพื่อนสนิทที่เพิ่งประทุษร้ายร่างกายอันบอบบาง(?)ของเขาไปเมื่อครู่นี้
“ไอ้เชี่ยโจ ไอ้ฟาย ไอ้ผักสลัด! มึง!!#$%&@#*$%!@#!$^&”
คำด่าพรั่งพรูออกจากปากร่างเล็กแล้วตามด้วยคำโวยวายอีกระลอกใหญ่ แต่โจก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไร เอาแต่ยืนยิ้มย่องอย่างพอใจในผลงานของตัวเองอยู่ไม่ไกล... ส่วนที เห็นเช่นนั้นก็ตกใจไปกับอาการของเพื่อน จึงลงไปนั่งประคองไหล่เพื่อนสนิทร่างเล็ก ปากก็ถามไถ่ว่าเป็นอะไร มือก็ลูบแขนลูบหลังไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนสนิททั้งๆ ที่ค่อยไม่เข้าใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น...
แต่แล้วสายตาแห่งความห่วงใยของทีก็เปลี่ยนไปพร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ผุดขึ้นทันทีที่เขาบังเอิญไปเห็นว่า... มีรอย kiss mark อยู่แถวๆ กกหูของเพื่อนตัวเล็ก... และเมื่อประมวลภาพทั้งหมดรวมกัน จึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ถามว่าตกใจไหม บอกได้เลยว่าทีและโจนั้นตกใจอยู่ไม่น้อย แต่ความอยากรู้มันเข้ามาเบียดพื้นที่ในสมองจนเต็ม...
ว่าแล้วทีก็ดีดตัวลุกขึ้นแล้วไปยืนกอดอกอยู่ข้างๆ โจ... ย้ายฝั่งทันที... กีต้าร์สัมผัสได้ถึงสายตาประหลาดๆ ที่เขาจัดอยู่ในประเภท “กริยาคุกคาม” จากเพื่อนสนิททั้งสอง... กีต้าร์สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง... สมองวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็วแล้วพบว่าตอนนี้เขาอยู่ในสถานการณ์ที่ตกเป็นรอง พูดอะไรมากก็ไม่ได้ ของจะเข้าตัว... ว่าแล้วก็ สูดหายใจลึกๆ อีกครั้ง แล้วก็... ชิ่ง...
ขาทั้งสองข้างของกีต้าร์ก้าวสลับกันอย่างรวดเร็ว จะเจ็บก้นหรือไม่ ยังไงก็ไม่สนแล้ว วินาทีนี้ เขารู้ดีว่า ไอ้โจและทีคงจะมีคำถามที่เขาไม่อยากตอบรอเค้นเขาอยู่แน่ๆ... แต่ชิ่งไปได้ไม่ทันไรก็...
- หมับ –“มึง จะ หนี ไป ไหน” เสียงเย็นๆ ของโจดังขึ้นด้านหลังพร้อมมืออุ่นที่จับไหล่เขาเอาไว้... เฮือก!
“อะไร๊ ใครหนีมึงวะครับ” กีต้าร์ยังแถเสียงสูง ไม่กล้าสบตาเพื่อน
“ใคร? ก็มึงไง... มึงกำลังจะหนีพวกกูอยู่เนี่ย”
“เฮ้ยยย ไม่ได้หนี กู... กูแค่ไม่หิวแล้ว... กู... กูจะกลับไปที่โต๊ะ พวกมึงไปซื้อกันสองคนเหอะ”
“ไม่เอาน่า มาๆ มากับพวกกูก่อนดิ เดินมาด้วยกันแล้วจะทิ้งพวกกูกลางทางได้ไง เพื่อนกันเขาต้องไม่ทิ้งกันแบบนี้นะต้าร์...”
“ฮึ! ไอ้สลัดโจ มึงไม่ต้องมาอ้างความเป็นเพื่อนเลย สาดดดด... มึงเพิ่งทำร้ายกูไปหมาดๆ เมื่อกี๊นี้เองนะ!!” ต้าร์โวยวาย
“เฮ้ยยย โทษทีวะ กูไม่ได้ตั้งใจ... กูก็แค่มีคำถามอยากถามมึง”
“งั้นมึงก็ถามกูมาสิ ไม่ใช่มาตีกูแบบนั้น... เชี่ยเอ้ยยยยย...”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องถามอีกแล้วละ เพราะมึงตอบกูมาแล้ว... สั้น กระชับ ชัดเจน เห็นภาพ เลยละ... อืมมม แต่กูว่ามันยังดังไปนิดนะ แหกปากซะลั่นเลย ฮ่าๆๆๆๆ”
“ไอ้ส้มจีน! มึง!! โว้ยยยยยยยยยย” กีต้าร์เถียงอะไรไม่ออก เลยได้แต่หน้าขึ้นสี ชี้หน้าด่าเพื่อน
“ฮ่าๆๆๆๆๆ โอเคๆ กูไม่แกล้งมึงละ... ว่าแต่มึงเหอะ... มีอะไรจะบอกพวกกูไหม...” โจเดินเข้าไปกอดคอเพื่อนร่างเล็กก่อนจะถามด้วยรอยยิ้มทะเล้น แต่แววตาคู่นั้นกลับมีแววความอยากรู้อยากเห็นแบบ “จริงจัง” ฉายอยู่อย่างชัดเจน
“ไม่มีเว้ย” ร่างเล็กตอบโดยไม่ต้องคิด เสียงดัง ฟังชัด
“หึ... ถ้าไม่บอกดีๆ... งั้นกูจะถามมึงเอง”
“...” กีต้าร์ไม่รู้จะบอกปัดยังไง รู้ตัวเลยว่าถ้าโจมาไม้นี้... รอดยาก
.
“มึงไปทำอะไรมา ถึงเจ็บตูด”.
*เปรี้ยง* ถึงจะไม่ผิดจากที่คาด แต่พอเจอถามเข้าจริงๆ แล้ว ต้าร์กลับรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าลงกลางหัว
กีต้าร์หน้าเหวออยู่สามวิ ก่อนจะตั้งสติแล้วตอบ
“กู... กูท้องผูก ถ่ายไม่ออกมาหลายวัน... เมื่อเช้าถ่ายแล้วอึมันแข็ง ก็เลยเจ็บตูด” กีต้าร์ตอบ ไม่กล้าสบตาเพื่อนทั้งสอง
.
“หึ! อึไม่ออกเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับรอยดูดบนคอมึงวะต้าร์”.
*เปรี้ยง* คำถามของทีเป็นเหมือนสายฟ้าที่ผ่าซ้ำลงมาที่รอยเดิม
กีต้าร์หน้าเหวอเป็นครั้งที่สองในรอบ 30 วินาที เขารีบเอามือขึ้นไปทาบปิดลำคอ ทำอะไรไม่ถูก... ส่วนโจเองก็เหวอไม่แพ้กัน เพราะก่อนหน้านี้เขาเองก็ไม่ทันได้สังเกตว่ามีรอยบนคอเพื่อนร่างเล็กหรือไม่ เขาเพียงสังเกตจากท่าเดินแปลกๆ ของเพื่อนสนิทเท่านั้น
“ไอ้ที ตลกละ มึงอย่ามาอำกู”
“กูจะอำทำไม... แล้ว... ถ้าไม่มีจริงๆ แล้วมึงจะปิดคอตัวเองทำไมวะ ฮ่าๆๆๆๆ”
“เชี่ยเอ้ย ไอ้เพื่อนเลวววววว มันมีที่ไหนละ รอยดงรอยดูดอะไรนั่นนะ!”
“เอ้า ไม่เชื่อกูอีก... ถ้างั้นให้ไอ้โจดูดิ หรือให้ใครดูก็ได้ว่ามีจริงๆ อยู่ใต้กกหู เยื้องๆ ออกไปทางท้ายทอยอะ”
“ไม่เอา มันไม่มี ไม่ต้องให้ใครมาดูมายืนยันเลย สาดดดดด”
“มึงแน่ใจนะ ว่าไม่มี?” โจเอ่ยไม่เชิงถาม แต่เป็นการตอกย้ำมากกว่า
“ก็... กูไม่ได้ไปทำอะไรมา จะมีรอยดูดได้ไงละ”
“เชื่อกูเหอะว่ามี เดี๋ยวไปเซเว่นเนี่ย ก็ซื้อพลาสเตอร์มาซะ กูจะปิดให้”
“ไอ้ที กูบอกแล้วไงว่ากูไม่เชื่อ มันจะมีรอยได้ไง เป็นไปไม่ได้” กีต้าร์เชื่อเช่นนั้นจริงๆ ว่าไม่มีรอย เพราะเมื่อเช้าตอนอาบน้ำ เขาเช็คดูจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีรอย
“เฮ้อออออ มึงไม่เชื่อกูก็ตามใจ”
“เออ ช่างมันเหอะที... ต้าร์มันว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร... นี่ใกล้บ่ายโมงแล้ว รีบไปซื้อขนมเหอะวะ” ว่าแล้วโจก็หันไปกอดคอทีแล้วพากันเดินนำกีต้าร์ที่ยังยืนเอามือปิดคอตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่วายหันหน้ากลับมาบอกเพื่อนร่างเล็กให้รีบเดินไปด้วยกัน...
“เร็วๆ ดิ เปี๊ยก เข้าเรียนสายจะโดนเช็คเลทนะมึง... พวกกูเดินไว เดินตามให้ทันนะ ไอ้คนท้องผูก ฮ่าๆๆๆๆๆ”
กีต้าร์ได้ฟังก็รู้ทันทีเลยว่า โจจงใจแซวกันชัดๆ เพราะดูก็รู้ว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนของเขานั้นคงได้คำตอบที่ต้องการไปแล้ว และคำตอบที่ว่านั้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่เขาเจ็บก้นเพราะท้องผูกอย่างแน่นอน... เอาวะ ปล่อยให้พวกมันรู้กันแบบนี้ก็ยังดีกว่าที่จะต้องมานั่งบอกพวกมันตรงๆ ละนะ... ว่าแล้วก็เดินตามหลังเพื่อนสนิททั้งสองคนอยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่ได้เดินใกล้กันมาก เพราะเดินไปเดินมา ก็พบว่าตัวเองเดินช้าลงเรื่อยๆ จนต้องบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าให้พยายามเดินให้เป็นปกติที่สุด แต่ก็นะ แค่เดินก็กระเทือนไปทั่วบั้นท้ายแล้ว จะให้เดินคล่องๆ ตามปกติมันก็ต้องฝืนกันหน่อยละ
.
.
หลังจากนั้น ทั้งสามคนก็เดินกันไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ เดินช้อปปิ้งกันจนขนมเต็มตะกร้าราวกับว่ากำลังจะไปติดเกาะกันสักสองสามวัน... ต่างคนต่างหยิบของใส่ตะกร้าจนเกือบล้น ว่าแล้วก็พยักหน้าเห็นพ้องกันว่าเท่านี้ก็น่าจะพอสำหรับชายฉกรรจ์ทั้ง 7 คนแล้ว จึงเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
เมื่อออกมาหน้าร้าน...
“เฮ้ย โจ มึงถือดิ กูจะหยิบพลาสเตอร์ให้ไอ้ต้าร์” ทียื่นถุงขนมถุงใหญ่ไปให้โจถือ ทั้งๆ ที่ในมือโจก็มีถุงน้ำหลากชนิดอยู่ถุงใหญ่เช่นกัน
“ไอ้เชี่ยที มึงยังไม่เลิกอีกนะ” กีต้าร์ยืนพูดหน้าเซ็งอยู่หน้าเซเว่น
“มึงจะไม่เชื่อก็เรื่องของมึง แต่กูจะติดพลาสเตอร์ให้มึงก็เรื่องของกู... มานี่ ยืนนิ่งๆ”
ว่าแล้วก็ฉีกซองพลาสเตอร์ลายหมูสีฟ้าแล้วดึงแขนเพื่อนร่างเล็กเข้ามาชิดก่อนจะจับคางมนนั้นให้เอียงไปอีกด้าน ให้เขาติดพลาสเตอร์ได้ถนัด...
ณ จุดนี้ กีต้าร์เริ่มหวั่น ความมั่นใจที่ว่า “ไม่มีหรอก รอยอะไรนั่นนะ” เริ่มมีน้ำหนักน้อยลง และเริ่มจะเชื่อในสิ่งที่ทีบอกมากขึ้น... ถ้าทีพูดเล่น คงไม่คิดติดพลาสเตอร์ให้เขาจริงๆ จังๆ แบบนี้... นึกแล้วก็ขอบคุณเพื่อนสนิทคนนี้อยู่ในใจ... คงไม่มีใครหวังดีกับเขาได้เท่าเพื่อนสนิททั้งสองคนนี้อีกแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่มีใครสนใจ และปล่อยให้เขาเดินโชว์รอยบนคอหราไปทั้งวัน... เอิ่มมม หมายถึงว่าถ้ามันมีรอยอยู่จริงๆ อะนะ
...แต่ในห้วงที่เขากำลังซึ้งใจในความเป็นเพื่อนที่ดีของทีอยู่นั่นเอง...
.
*ป้าบ!*.
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”กีต้าร์โดนตีเข้าที่แผลเดิม จนลงไปนั่งโหยหวนตัวงออยู่บนพื้น... มือจับก้นตัวเอง หน้าเหยเก ขอบตาร้อนผ่าวเป็นครั้งที่สองในรอบครึ่งชั่วโมง
“โทษทีวะ กูเห็นไอ้โจทำแล้วน่าสนุกดี กูเลยอยากลองบ้าง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ทีกล่าวก่อนจะออกตัวชิ่ง วิ่งตัวเปล่ากลับไปที่โต๊ะโดยปล่อยให้โจเดินตามพร้อมถุงขนมและถุงน้ำเต็มมือ... เอ่อ... ส่วนไอ้เปี๊ยกอะเหรอ นั่งน้ำตาเล็ดอยู่หน้าเซเว่นนะแหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
.
.
.
[อ่านต่อที่ reply 1483 หน้า 50 นะครับ มันเกินลิมิต โพสต่อไม่ได้ครับ]