สวัสดีค่ะ เอาตอนพิเศษในเล่มหวาน ๆ สั้น ๆ มาให้อ่านกันอีกตอนนะคะ ^^
เรื่องนี้ปิดจอง 31 พ.ค. ค่ะ ใจจริงอยากแต่งตอนพิเศษยาว ๆ แต่ตอนปิดท้ายที่ลงในเล่มก็ค่อนข้างถูกใจตัวเองพอสมควร ก็เลยทั้งเล่มได้ระดับความหนา พอ ๆ กับดวงใจจ้าวมังกรแทน (ราว 350หน้า)
ส่วนเรื่องใหม่นี่ตั้งใจจะเขียนแนวฮาเฮออกมา แต่พล็อตก็ยังไม่ลงตัวสักทีสิน่า --" ก็เลยยังไม่ได้มาลงเรื่องยาวเรื่องใหม่ให้อ่านสักทีนี่ล่ะค่ะ
ดังนั้นเอาตอนพิเศษสั้น ๆ ไปอ่านแก้ขัดกันก่อนนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่คลิกเข้ามาอ่านกันค่ะ
..
..
ตอนพิเศษ
ค่ำคืนหวาน ๆ ของสองเรา
หลังผ่านพ้นวันปีใหม่ตุลาก็เริ่มต้นเขียนนิยายอีกเรื่อง โดยชายหนุ่มตั้งใจเปลี่ยนสไตล์การเขียนของเขาให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งกริชนั้นนอกจากคอยสนับสนุนแล้วยังคงให้คำแนะนำที่มีประโยชน์กับหลานของตนอยู่เสมอ ระยะแรก ๆ ทั้งสองแทบจะขลุกอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จนอธิปชักเริ่มหงุดหงิดและหึงคนรักที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเขาอย่างเคย
“ฮึ! ทีหลังก็ย้ายไปนอนห้องเดียวกับเจ้าหนูมันเลยสิ ไหน ๆ ก็ไม่มีเวลาจะกลับมานอนด้วยกันอยู่แล้วนี่”
อธิปประชดคนรัก เมื่อวิญญาณหนุ่มแวะมาหาตอนหัวค่ำ เพื่อที่จะบอกว่าคืนนี้ก็จะไปค้างกับหลานชายอีก
“น้อยใจงี่เง่าอะไรอีกล่ะ ทีเจ้าผีดิบนั่นยังไม่เห็นจะบ่นมากเหมือนนายเลยสักนิด ก็เห็นจี๋จ๋ากับตุลจนน่าหมั่นไส้ตลอดแท้ ๆ”
หมอผีหนุ่มเหลือบมองคนรักที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยแววตารำคาญ แล้วจึงมองเมินไปอีกทาง
“ใช่ซิ! ฉันมันคนใจแคบนี่หว่า คนเคยได้นอนกอดกันแทบทุกคืน แต่ดันมาโดนทิ้งติด ๆ กันแบบนี้ พอจะขอกอดก็บอกว่าต้องไปช่วยหาข้อมูลให้หลานเขียนนิยาย แล้วแบบนี้มันน่าน้อยใจไหมล่ะ!”
อธิปประชดต่อทำให้กริชคลอนศีรษะอย่างเอือมระอา แต่ก็ต้องยอมรับว่าระยะหลังนี้เขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับอธิปจริงอย่างที่อีกฝ่ายบอก
“อืม...ฉันผิดเองจริง ๆ นั่นล่ะ ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”
กริชบอกออกไปตรง ๆ ทำให้คนที่กำลังประชดน้อยอกน้อยใจชะงัก แล้วจึงหันมามองวิญญาณหนุ่มอย่างแปลกใจ
“นายเป็นอะไรไป ทำไมยอมรับผิดง่ายเกินคาดแบบนี้”
กริชฟังแล้วชักจะฉุนขึ้นมานิด ๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ แล้วตอบคำถามของอีกฝ่ายออกไปตามตรง
“ก็ฉันรู้สึกว่าตัวเองละเลยนายจริง ๆ น่ะสิ ...ทั้งที่นายเป็นฝ่ายยอมตอบรับรักฉันแท้ ๆ”
อธิปนิ่งอึ้ง แล้วจึงเดินตรงไปกอดร่างวิญญาณของอีกฝ่ายแน่นจนกริชรู้สึกแปลกใจ
“เป็นอะไรไปอธิป”
อธิปเงียบไปสักพัก แล้วจึงพึมพำตอบอีกฝ่ายไปทั้งที่ใบหน้ายังคงซบกับบ่าของวิญญาณหนุ่ม
“เห็นนายยอมรับอะไรง่าย ๆ แบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาน่ะสิ...ถ้านายปลงตกทั้งหมด แล้วคิดจะไปเกิดใหม่ ฉันก็คง...”
หมอผีหนุ่มเงียบไป ก่อนจะดันร่างของกริชออกแล้วฝืนยิ้มให้
“บ้าชะมัด...ขอโทษนะนายกริช ทั้งที่ควรจะดีใจแท้ ๆ ถ้ามันเป็นแบบนั้นได้จริง”
กริชจ้องอีกฝ่ายนิ่งด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย แต่ลึก ๆ แล้ว เขานั้นดีใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าอธิปเองก็ไม่อยากพรากจากเขาไปเช่นเดียวกัน
“งี่เง่า...ฉันยังไม่คิดไปไหนง่าย ๆ หรอก ไหนจะห่วงตุล...แล้วก็นายอีก”
กริชพึมพำพร้อมกับซบหน้าลงบนอกกว้างของอีกฝ่าย
“คืนนี้ฉันไม่ไปค้างที่ห้องตุลแล้วล่ะ ...เดี๋ยวขอตัวไปบอกหลานก่อนแล้วจะกลับมานะ”
กริชบอกแล้วเงยหน้าพร้อมยิ้มหวาน ทำเอาอธิปใจเต้นตึกตัก และเมื่อวิญญาณหนุ่มหายตัวไป ก็ทำให้คนที่เหลือนิ่งคิดกับตัวเอง ก่อนจะหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ ออกมาในที่สุด
กริชรู้สึกแปลกใจที่พอหายตัวกลับมาในห้อง ก็ไม่เห็นอธิปอยู่ในนั้น
“อธิป...นายอยู่ไหน”
กริชเรียกคนรัก แล้วตรงไปที่ห้องน้ำก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในนั้น
“...ไปไหนของเขานะ”
วิญญาณหนุ่มบ่นอุบอิบ แล้วจึงหายตัวมาด้านล่าง ก็ไม่เจอวี่แววของอธิปแม้แต่น้อย เขาถามพวกรุ้งพรายกับราตรี พวกหล่อนก็บอกว่าไม่เจอหมอผีหนุ่มตั้งแต่หัวค่ำแล้ว
“เจ้าบ้า... หายหัวไปไหนนะ ตัวเองเป็นคนขอให้เรามาค้างด้วยแท้ ๆ”
กริชเริ่มหงุดหงิด เขาหายตัวไปในห้องของอธิปอีกครั้ง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่มีลายมือหวัด ๆ ของหมอผีหนุ่มเขียนอยู่
‘อยากเจอฉันใช่ไหมนายกริช ...เพราะงั้นก็ถอดเสื้อผ้าแล้วไปนอนยั่วยวนรอบนเตียงสิ แล้วฉันจะปรากฏตัวให้นายเห็นเอง...อ้อ! ถ้าไม่ยอมทำนะ ฉันจะหนีไปหานางไม้กิ๊กเก่าฉันแทนจริง ๆ ด้วย!’
กริชอ่านแล้วขยำกระดาษก่อนเขวี้ยงทิ้ง พร้อมกับตะโกนลั่นอย่างโมโห
“เจ้าหมอผีงี่เง่า! นายแอบดูอยู่ใช่ไหม! หนอย...ทำขู่ฉันหรือไง อยากไปนอนกับคนอื่นก็ไปเลยไป แต่ถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ!”
เสียงถอนหายใจดังขึ้นทันทีที่กริชพูดจบ ร่างของอธิปที่คลายมนต์บังตาลง ค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นจากมุมห้อง กริชหันขวับไปมองด้วยนัยน์ตาขุ่นเคือง แต่ยังไม่ทันที่ได้โวยวายด่าใส่ อธิปก็ยกมือสองมือยอมแพ้เสียก่อน
“น่า ๆ ฉันก็แค่พนันกับตัวเองว่านายจะยอมไหม...แล้วก็ทายถูกเสียด้วยสิว่านายคงไม่ยอมทำแน่ แถมจะโกรธฉันเข้าให้อีก”
กริชขมวดคิ้วยุ่งแล้วถามกลับเสียงห้วน
“รู้ทั้งรู้แล้วจะทำไปทำไมอีก!”
“ก็นะ...”
อธิปเอ่ยค้างไว้ ก่อนจะมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามมา
“ก็ฉันตั้งใจว่า ถ้านายยอมทำอย่างที่ฉันเขียนไว้จริง จากนี้ไปไม่ว่านายจะสั่งจะว่าอะไร ฉันก็จะยอมเชื่อฟังทำตามนายบอกทุกอย่าง ไม่หึง ไม่หื่น ให้นายต้องรำคาญใจอีกแล้วยังไงล่ะ”
กริชตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แล้วรีบถามตามมา
“และถ้าฉันไม่ทำแถมโมโหแบบเมื่อครู่ล่ะ นายจะทำอะไรฉัน!”
อธิปจ้องอีกฝ่ายพร้อมยกยิ้มแสยะอย่างน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
“ฉันก็ตั้งใจจะให้นายชดเชยที่นายทิ้งฉันให้นอนเหี่ยวแห้งตลอดเดือนที่ผ่านมานี่น่ะสิ!”
กริชจ้องมองคนรักด้วยสีหน้าซีดเผือด เพราะดูจากแววตาแล้วอธิปนั้นท่าทางเอาจริงเต็มที่ แถมยังแฝงความหื่นไว้จนน่ากลัวอีกด้วย
“อ๊ะ! ไม่ให้หนีหรอก!”
อธิปส่งเชือกอาคมไปมัดร่างวิญญาณของกริชไว้ทันทีที่อีกฝ่ายขยับเตรียมหนี กริชสะดุ้งเฮือกแล้วหน้าแดงวาบ เมื่อเจ้าเชือกบ้านั่นเลื้อยไปมาบนร่าง แถมยังมัดเขาด้วยเงื่อนที่ค่อนข้างน่าอับอาย คล้ายกับพวกวิตถารชอบเล่น SM พวกนั้น
“อธิป! ไอ้บ้า! แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้นะ... อื๊อ!”
เชือกรัดแน่นขึ้นสร้างความเจ็บปวดและเสียวซ่านประหลาดให้กับคนถูกรัด อธิปเลียริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าของร่างโปร่ง แล้วลูบไล้ฝ่ามือผ่านเสื้อผ้าของอีกฝ่ายซึ่งมันก็อันตรธานไปอย่างน่าอัศจรรย์ จนเหลือแต่เพียงเรือนร่างขาวโพลนเปลือยเปล่าที่ถูกพันธนาการอยู่ใต้เชือก ชวนให้กระตุ้นอารมณ์ของผู้ที่จับจ้องมองอยู่ยิ่งนัก
“อย่าดิ้นมากสินายกริช ...ยิ่งดิ้นมันจะยิ่งรัดแน่นนะ”
อธิปพึมพำเสียงแหบพร่าพลางคุกเข่ามานั่งเบื้องหน้าร่างเปลือยเปล่า พร้อมกับเล้าโลมส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายอย่างหลงใหล
“อธิป...ไม่เอาแบบนี้นะ...ปล่อยฉันเหอะ”
กริชครางพร้อมกับสูดปากด้วยความเสียวซ่าน เมื่ออีกฝ่ายปรนเปรอให้เขาด้วยความชำนาญจนเขาถึงกับผงาดตอบรับในเวลาอันรวดเร็ว
“ไม่ต้องห่วง ...ถ้านายชินกับมัน นายจะชอบมันนะนายกริช ...ฉันศึกษามาอย่างดีแล้ว ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่นายคิดหรอกน่า”
อธิปบอกพร้อมรอยยิ้ม แล้วจึงเดินไปหยิบของบางอย่างจากมุมห้องกลับมา ซึ่งพอได้เห็นกริชก็เบิกตากว้าง แล้วหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว
“อธิป...นายจะทำอะไรฉัน”
“ก็อุปกรณ์ที่จะใช้เล่น SM กันไงล่ะ เทียนแล้วก็แส้ แต่ฉันไม่มีแส้ก็ใช้ไม้เรียวหวายแทนแล้วกันเนอะ”
หมอผีหนุ่มบอกแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่กริชนั้นกลัวจนหมดอารมณ์พิสวาทไปแล้ว
“เอาล่ะนะ นายกริช...เตรียมตัวให้ดีล่ะ”
หมอผีหนุ่มหยิบไม้เรียวหวายง้างขึ้นเตรียมจะฟาด กริชน้ำตาคลอแล้วหลับตาเบือนหน้าหลบด้วยความกลัว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแทนที่จะได้รับความเจ็บปวด แต่กลับมีสัมผัสนุ่ม ๆ ที่แก้มของเขาแทน
“ล้อเล่นน่ะ ใครจะใจร้ายกับสุดที่รักได้ลงคอ”
อธิปบอกแล้วจึงจัดแจงปลดเชือกอาคมออก ให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ กริชยืนมองด้วยความงุนงง ก่อนที่อธิปจะจัดการพาเขาไปนั่งบนเตียงด้วยกัน
“แค่อยากแก้เผ็ดที่ทำให้ฉันต้องเหงาอยู่ทุกคืนเท่านั้นเอง ...แต่จริง ๆ น่ะหายโกรธตั้งแต่นายยอมทิ้งเจ้าหนูตุลแล้วมาค้างด้วยกันคืนนี้แล้วล่ะ”
พอได้ยินคำเฉลยจากคนรัก กริชก็หน้าแดงวาบทั้งโกรธทั้งอายจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก
“โอ๋ ๆ อย่างอนสิที่รัก พอดีกลัวนายจะเบื่อลีลาเก่า ๆ ของฉัน ก็เลยหาเรื่องตื่นเต้น ๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศไงล่ะ”
“ไอ้บ้า! ฉันกลัวแทบตายจริง ๆ นะ”
กริชโพล่งใส่ด้วยความงอนกับความคิดบ้า ๆ ของอีกฝ่าย อธิปหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับกล่าวขอโทษ ก่อนจะชะโงกหน้าไปจูบแก้มซ้ายขวาของวิญญาณหนุ่มอย่างประจบ จนคนถูกจูบเริ่มใจอ่อน
“ตกลงนายอยากได้เซ็กส์แบบไหน แบบเดิม ๆ หรือแบบเร้าใจ หือ?”
อธิปกระซิบถามอ้อน ๆ แต่คนถูกถามนั้นหน้าแดงวาบ พร้อมกับผลักคนรักออกห่างด้วยความอาย
“ไอ้หื่น! ไอ้หน้าด้าน! ฉันไม่น่าหลงชอบนายเลยให้ตายเถอะ เลิกกันเสียตอนนี้เลยดีไหม!”
อธิปหัวเราะในลำคอ รู้ดีว่าคนรักพูดออกมาเพราะอาย ไม่ใช่เพราะเกลียดหรือเบื่อเขาแล้วแต่อย่างใด ทว่าถึงอย่างนั้นหมอผีหนุ่มก็ยังแกล้งกระเซ้ากลับไป ด้วยถ้อยคำที่แทบไม่แตกต่างจากใจจริงของเขานัก
“ไม่เอาน่านายกริช...ขืนนายเลิกชอบฉันตอนนี้ ฉันคงบ้าตายแน่ นายทำให้ฉันตกหลุมรักหัวปักหัวปำแบบนี้ แล้วคิดจะทิ้งกันไป อยากให้ฉันร้องไห้นักเหรอ”
กริชชะงัก หน้าร้อนวูบวาบ รู้สึกจุกในอก พูดอะไรไม่ออก รู้แต่เพียงว่าคำพูดของอธิปนั้นทำให้เขาสุขใจและปลาบปลื้มเสียเหลือเกิน
“อธิป...แค่ได้อยู่ด้วยกัน ฉันก็พอใจแล้ว...ส่วนเรื่องนั้น ขอแค่นายมีความสุข ฉันก็สุขไปกับนายด้วยนั่นล่ะ...เพราะฉะนั้น นายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”
กริชพึมพำก้มหน้าบอกหลังจากเงียบไปได้ชั่วครู่ และแม้จะไม่เห็นหน้าแต่อธิปก็รู้ดีว่าคนรักต้องข่มความอายพูดมาเพียงใด หมอผีหนุ่มยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ แล้วจึงรั้งร่างของกริชให้นอนราบไปบนเตียง ส่วนตัวเขาก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าที่เกะกะออกไปพร้อม ๆ กับจูบเล้าโลมไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย
“นายกริช...รักฉันให้มากยิ่งกว่านี้ได้ไหม ให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนสำคัญสำหรับนายจริง ๆ”
อธิปพึมพำขณะที่เฝ้าเวียนจูบไปแทบจะทั่วทั้งร่างเปลือยของคนรัก กริชกอดรัดร่างหนาตอบ และเมื่อหมอผีหนุ่มเคลื่อนใบหน้ามาประสานสายตา พวกเขาก็แลกเปลี่ยนจุมพิตกันอย่างเร่าร้อนและเนิ่นนาน จนกระทั่งอธิปถอนริมฝีปากออกมา
“คนโลภมาก...”
กริชกระซิบบอก แต่สีหน้านั้นมีรอยยิ้มหวานเชื่อมจนคนมองใจเต้น
“ก็รักนี่นา ผิดด้วยหรือ”
อธิปแย้งกลับทำให้วิญญาณหนุ่มหน้าร้อนวูบวาบกับคำหวานที่ได้ฟัง
“แล้วต้องทำยังไงถึงจะพอใจล่ะ”
คำถามเอียงอายนั้นทำให้หมอผีหนุ่มยกยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงชะโงกหน้าไปจูบหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
“บอกรักหวาน ๆ ให้ชื่นใจสักคำก็พอแล้ว”
กริชยิ่งหน้าแดงหนักหลังจากได้ฟัง วิญญาณหนุ่มหลุบตาเบือนหน้าหลบอยู่พักใหญ่จนอธิปคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าพูด ทว่าพอจะเล้าโลมร่างเปลือยตรงหน้าต่อ เขาก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินถ้อยคำแผ่วเบาจากปากของคนรัก
“ฉันรักนายนะอธิป...รักมากที่สุด ...เพราะฉะนั้นห้ามทิ้งฉันไปหาใครนะ ...ต้องรักแต่ฉันคนเดียวรู้ไหม”
คำสารภาพรักพร้อมถ้อยคำออดอ้อนที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ ทำให้หมอผีหนุ่มรู้สึกปลาบปลื้มแทบตัวลอย กริชพูดให้เขาดีใจได้ยิ่งกว่าที่เขาเคยคิดไว้ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาทั้งรักทั้งหลงอีกฝ่ายได้อย่างไร
“แน่นอน...จากนี้ต่อไปฉันจะรักแต่นายคนเดียว นายกริช...ฉันสัญญา”
ถ้อยคำกระซิบจริงใจพร้อมกับที่คนพูดไล่จุมพิตไปทั่วเรือนร่าง ทำให้กริชครางแผ่วเบาอย่างมีความสุข
คืนนั้น ทั้งสองพร่ำพรอดคำรักผ่านทางวาจาและการกระทำโดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย จวบจนกระทั่งแสงสว่างจากเช้าวันใหม่เล็ดลอดผ่านม่านบางเข้ามา ร่างหนาก็ฟุบลงบนแผ่นอกขาวเปลือยเปล่าอย่างหมดแรง ส่วนคนที่อยู่ด้านล่างอมยิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าไปจูบเส้นผมของอีกฝ่ายที่หลับไปแล้วแผ่วเบา
“รักนายนะ...เจ้าหมอผีหื่นของฉัน”
จากนั้นทั้งคู่ต่างก็นอนหลับไปด้วยกันบนเตียงใหญ่อันแสนอ่อนนุ่มอย่างมีความสุข โดยไม่ได้รู้ตัวกันสักนิดเลยว่า เมื่อคืนพวกเขาร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน โดยไม่ได้สร้างเขตแดนปกปิดตามปกติ
และเพราะอย่างนั้น สมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งตุลาซึ่งอยู่ห้องตรงข้าม จึงต่างก็ได้ยินเสียงครางหวาน ๆ ของกริชถนัดชัดเจน รวมไปถึงถ้อยคำกระซิบบอกรักกันอย่างเร่าร้อนที่ทั้งคู่มีให้กันนั่นด้วย
ภายในวันนั้น กริชจึงต้องเผชิญกับสายตาแปลก ๆ ของสมาชิกคนอื่น รวมไปถึงหลานชายที่พยายามหลบสายตาเขาตลอดเวลา และพอได้ล่วงรู้ความจริงจากรุ้งพรายที่เผลอหลุดปาก วิญญาณหนุ่มก็ทั้งอายและโมโห จนถึงกับประกาศไม่ยอมมีอะไรกับอธิปไปเกือบอาทิตย์ทีเดียว
และหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น อธิปก็ไม่เคยที่จะลืมกางเขตแดนก่อนร่วมรักกับวิญญาณหนุ่มอีกเลย แม้แต่ครั้งเดียว...
…End…