พิมพ์หน้านี้ - ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Xenon ที่ 07-07-2011 11:45:04

หัวข้อ: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 07-07-2011 11:45:04
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

 เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม




สารบัญ:

บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1545865#msg1545865)  บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1546276#msg1546276)  บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1547313#msg1547313)   บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1548551#msg1548551)   บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1549726#msg1549726)   บทที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1550577#msg1550577)   บทที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1552014#msg1552014)   บทที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1553430#msg1553430)

บทที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1554056#msg1554056)   บทที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1555119#msg1555119)   บทที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1556200#msg1556200)  บทที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1557318#msg1557318)   บทที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1558294#msg1558294)   บทที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1562223#msg1562223)   บทที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1562991#msg1562991)
 
บทที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1564244#msg1564244)   บทที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1565167#msg1565167)  บทที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1566275#msg1566275)   บทที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1567569#msg1567569)  บทที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1568822#msg1568822) 

บทที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1642296#msg1642296)  บทที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1644629#msg1644629)  บทที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1708776.html#msg1708776)  บทที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1741548.html#msg1741548)   บทที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1748921.html#msg1748921)   บทที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1755547.html#msg1755547)   

บทที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1776052.html#msg1776052)  บทที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1779864.html#msg1779864)  บทที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php/topic,27757.msg1779870.html#msg1779870)  บทที่ 29 (บทสรุป) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1781442#msg1781442) 

ตอนพิเศษ#1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1783481#msg1783481) 
ตอนพิเศษ#2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1796643#msg1796643)
... 



----------------------------------------------

นิยายเก่า ๆ ที่ลงไว้ (จบแล้ว)
คุณตำรวจยอดรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16626.0)  ,  คุณอาที่รัก(แนวโชตะ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17582.0)  , กรงรัก...พันธนาการใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=19318.0)  , The Eden School (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27513.0)  , ดวงใจจ้าวมังกร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24780.00) , ม่านราตรี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.0) ,   Miracle Café (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34057.0) 
ลิขิตรักอสุรกาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35637.0)    ,  เรื่องวุ่น ๆ ของคุณ รปภ. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39294.0)    , ขอโทษที คนนี้พี่จองแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43240.0)    , กรงรัก พันธนาการใจ (ฉบับรีเมก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43253.0)


เรื่องสั้น
คุณพี่...ที่รัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20403.0)   ,  สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33672.0)


นิยายที่ยังไม่จบ
-
หัวข้อ: ม่า่นราตรี : บทนำ-แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 07-07-2011 11:47:21
สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นแฟนตาซีออกแนวไทย  ๆ ที่จะออกเน้นไปในแนว ครอบครัว มิตรภาพ ระหว่างต่างเผ่าพันธุ์

เขียนจบไปแล้วในไม่กี่ตอนสั้น ๆ แต่นำมารีไรท์ต่อ กะว่าจะเขียนเป็นเรื่องยาวค่ะ


ป.ล. เรื่องนี้เคยว่าจะไม่เขียนเป็นแนวบอยเลิฟ แต่เขียนไปเขียนมา ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วก็คงให้เป็นแนวนี้ไปเลย (เพราะใกล้จบมันก็มีแนวโน้มแล้ว)  แต่คงไม่มีฉากอะไรมากมาย  เพราะเน้นความใส (ใสจริงจริ๊ง ไม่่ใช่ใสปิ๊งแอบแฝง) เป็นหลักค่ะ

หัวข้อ: RE ม่า่นราตรี : บทที่ 1 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 07-07-2011 11:49:40
ม่านราตรี
 บทนำ

    แสงนวลจากดวงจันทร์เต็มดวงที่ลอยเด่นบนท้องฟ้าไร้เมฆ สาดเล็ดลอดผ่านตามซุ้มพุ่มดอกเรียวเล็ก ที่ขึ้นรกทึบปกคลุมไปทั่วบริเวณสวนหน้าบ้านของเรือนทรงยุโรปประยุกต์สีขาว ที่บัดนี้กลับดูขุ่นคล้ำราวดังไม่เคยได้รับการใส่ใจดูแล  ปล่อยให้ทรุดโทรมผ่านไปตามกระแสกาลเวลา

   กลิ่นหอมเย็นลอยฟุ้งกระจายไปทั่ว แม้อาจจะฉุนไปสักนิดสำหรับบางคน เนื่องจากปริมาณของมันที่มีมากมาย ด้วยเพราะไม่ได้รับการตัดแต่งและรื้อถอนตลอดหลายปีที่ผ่านมา

   ยิ่งโดยเฉพาะคืนนี้ ถึงแม้จะเป็นยามดึกสงัดเงียบงันแทบจะไร้สายลมก็จริง ทว่ากลิ่นดอกราตรีที่แสนจะหอมอบอวล กลับยิ่งส่งกลิ่นรุนแรงไปได้ไกลกว่าทุกค่ำคืน  เสียงสุนัขที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น หอนรับต่อกันเป็นทอด ๆ ทำให้คนที่ขวัญอ่อนและตื่นง่ายบางคนต้องนอนคลุมโปงผวา ต่างรู้และคาดเดาได้ถึงต้นเหตุที่ทำให้เหล่าสุนัขเห่าหอน ว่ามาจากสิ่งใด

   ‘ม่านราตรี’ คฤหาสน์เก่าแก่ ซึ่งถูกปล่อยร้างทิ้งไว้ไร้คนอาศัย แม้จะตั้งอยู่ห่างไกลจากบ้านพักหลังอื่น แต่กลับเป็นที่เล่าลือโจษจันกันทั่วว่า บ้านหลังนี้ ‘เฮี้ยน’ ยิ่งนัก

   คฤหาสน์หลังใหญ่ที่ไร้คนพำนักมานานแสนนานจนแทบจะลืมไปว่าผ่านมากี่ปี  บัดนี้ กำลังจะมีเจ้าของคนใหม่มาเยือนมันอีกครั้ง

...


มาแบบสั้น ๆ ประเดิมก่อน เดี๋ยวตอนที่ 1 จะตามมาเร็ว ๆ นี้ ขอเวลารีไรท์สักแป๊บ (เพราะของเก่าคำซ้ำซ้อนมันเยอะมาก ๆ เลยค่ะ)

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทนำ ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 07-07-2011 13:51:00
เริ่มต้นด้วยอาการขนลุกหน่อยๆ o22
+1รออ่านจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทนำ ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 07-07-2011 14:37:05
มารอตอนต่อไป :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทนำ ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 07-07-2011 14:39:47
มาเจิมเรื่องใหม่ มาต่อเร็วๆ นะคะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 07-07-2011 18:24:27
ม่านราตรี
 บทที่ 1


    สภาพบ้านเก่ารกร้างซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางดงดอกราตรีที่แน่นขนัดเบื้องหน้า ทำให้ตุลาแทบอยากจะหันหนีกลับ เจ้าภาพถ่ายดูดีที่นางแม้นศรีเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรี ส่งให้เขาดูตอนเซ็นสัญญาเช่าบ้าน มันช่างผิดกับความเป็นจริงที่เห็นอย่างลิบลับ

   “คุณป้าแน่ใจหรือครับ ว่าเป็นบ้านหลังนี้ ...คงไม่ได้พาผมมาผิดที่สินะ”

   ตุลาหันไปถามหญิงร่างท้วมวัยกลางคนที่มาด้วยกัน เจ้าหล่อนแย้มยิ้มหวานแฝงความเจ้าเล่ห์ แล้วรีบจีบปากจีบคอบอก

   “หลังนี้ล่ะจ้ะพ่อคุณ ไม่มีผิดแน่  ถ้าทำความสะอาดสักหน่อยก็ดูดีเหมือนในรูปเองนั่นล่ะจ้ะ”

   แม้นศรีบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน แม้จะรู้ว่าต่อให้พยายามทำยังไงมันก็ไม่ดีขึ้นเหมือนในรูปแน่ เพราะรูปถ่ายเหล่านั้นเป็นรูปที่เธอถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อสิบปีก่อนนี่นะ

   “เอ้า! นี่กุญแจบ้านจ้ะ  งั้นป้าไปนะ ...อยู่ให้หลาย ๆ เดือนหน่อยล่ะ”

   ตุลารับกุญแจพวงใหญ่นั้นมาถืออย่างนึกเซ็ง ถ้าไม่เป็นเพราะพินัยกรรมของผู้เป็นอาระบุไว้ให้เขาต้องมาเช่าบ้านหลังนี้อยู่ล่ะก็ ป่านนี้เขาคงเผ่นกลับไปเรียบร้อย



    อาแท้ ๆ ของตุลา ...นายกริช ก้องเดช ที่เสียชีวิตไปเมื่อสิบปีก่อน เขาเป็นนักเขียนนิยายลึกลับที่มีชื่อเสียงมากในอดีต นิยายเล่มแรกของเขาได้รับการโจษจันไปทั่ว ถึงความสมจริง สนุกสนานและตื่นเต้น มีการตีพิมพ์ซ้ำหลายรอบ ทุกคนคาดหวังว่าเขาจะก้าวไปได้ไกลมากกว่านั้น ทว่าชายหนุ่มกลับเสียชีวิตด้วยอายุเพียงแค่ 22 ปี ด้วยอาการหัวใจวายอย่างไร้สาเหตุ  แต่ก่อนหน้านั้นราวกับจะรู้ถึงชะตากรรมในอนาคต กริชได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ทั้งหมดสองฉบับ ฉบับแรกเขายกทรัพย์สมบัติและเงินเก็บทั้งหมด ให้เกรียงไกรพี่ชายคนเดียวของเขา เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่เสียชีวิตไปหมดแล้ว  แต่ยังมีพินัยกรรมอีกฉบับที่ถูกเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟของธนาคาร ซึ่งได้รับคำสั่งเสียว่าให้เปิดขึ้นหลังจากตุลาผู้เป็นหลานชายเรียนจบปริญญาตรี

   และเมื่อพินัยกรรมถูกเปิด ก็ทำให้ตุลาถึงกับตกตะลึง เมื่อในนั้นมีบัญชีฝากประจำอีกหนึ่งเล่มเป็นเงินก้อนโต ที่กริชฝากไว้ให้กับเขา แล้วถ้อยคำที่ฝากฝังไว้ในพินัยกรรมว่า หากตุลายังคงต้องการเดินสู่เส้นทางนักเขียนนิยายแนวลึกลับเช่นเดียวกับตน ก็ให้นำเงินก้อนนี้ไปเช่าบ้านหลังหนึ่ง...



    “บ้านอะไรไม่รู้น่ากลัวชะมัด”

   ตุลาพึมพำหลังจากไขประตูบ้านเข้าไป หากเขาก็ยังคงยิ้มออกบ้าง ที่อย่างน้อยในบ้านก็ไม่มีฝุ่นฟุ้ง หรือหยากไย่รกรุงรังอย่างที่เคยคิดไว้

   “ก็ยังดีที่ยังมาทำความสะอาดบ้างล่ะนะ...”

   ชายหนุ่มบอกขณะที่หิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตเข้ามาไว้ในบ้าน เพราะแม้นศรีบอกว่าในนั้นมีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง ตุลาจึงไม่ได้นำอะไรมาจากบ้านเก่า เพราะเขาคิดว่าถ้าขาดเหลืออะไรก็ค่อยมาซื้อเก็บทีละชิ้นใหม่เลยน่าจะดีกว่า

   “ก่อนอื่นก็ต้องเช็คไฟฟ้า กับน้ำประปาก่อน”

    เจ้าตัวคลำหาสวิตซ์ไฟในห้องนั้น ก่อนถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นมันทำงาน และเมื่อเดินไปมุมครัว เปิดก๊อกน้ำ น้ำสะอาดก็ไหลออกมาอย่างไม่ติดขัด



     จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินกลับไปหิ้วกระเป๋าใบโต ตรงไปยังชั้นสอง เขาหยิบกุญแจที่ได้รับจากแม้นศรีขึ้นมาลองไขทีละดอก กระทั่งเปิดเข้าไปได้ในที่สุด ข้างในเป็นห้องกว้างที่ค่อนข้างโล่ง มีประตูกระจกบานใหญ่สามารถเปิดเชื่อมต่อกับระเบียงที่ยื่นออกไปรับแดดด้านนอก มีเตียงนอน  โต๊ะ ตู้ และเครื่องเรือนจำเป็นพร้อม ดังเช่นที่แม้นศรีบอกไว้จริง ๆ

   “วิวดีจังแฮะ... มันก็ไม่เลวร้ายอย่างที่คิดหรอก...มั้ง”

   ตุลาพึมพำ ก่อนจะสะดุ้งแล้วหันไปมองด้านหลัง เพราะรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงกุกกักจากแถว ๆ ทางเดินหน้าประตูห้อง

   “คิดไปเองสินะ”

   ชายหนุ่มที่ตัดสินใจเดินออกไปดูด้านนอก พึมพำอย่างโล่งใจ นี่ยังดีที่เป็นเวลากลางวันแดดเปรี้ยงเช่นนี้ ถ้าเป็นกลางคืน ตุลาก็ไม่คิดว่าเขาจะยังกล้าปลอบตัวเองแบบนี้อยู่หรือไม่



   ตุลาวางกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตและเปิดมันออก เขาหยิบโน้ตบุคออกมาต่อสายไฟเสียบกับปลั๊กในห้อง ก่อนจะนึกถึงสัญญาที่ให้ไว้กับบิดาของตัวเอง

   ‘ฉันให้เวลาแกแค่ 1 ปี ถ้ายังออกรวมเล่มไม่ได้ ต้องเลิกคิดจะเป็นนักเขียนแบบอาของแก แล้วกลับมาเรียนต่อ หรือไม่ก็ทำงานกับฉันแทน เข้าใจไหม!’

     เงื่อนไขของเกรียงไกร ทำให้ตุลาต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบ แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าเขาทำไม่ได้ก็แสดงว่าเขาไม่มีพรสวรรค์จะเป็นนักเขียนอย่างอาของตนจริง ๆ

   “ผมจะพยายามนะครับอากริช ...”

   ตุลาพึมพำ พลางรู้สึกถึงความอบอุ่นในหัวใจเมื่อคิดถึงผู้เป็นอาที่เขาเคารพรัก ถึงแม้พินัยกรรมฉบับนั้นของกริช จะทำให้เขากับพ่อต้องทะเลาะกันยกใหญ่เพราะความเห็นที่แตกต่างกัน



    ด้านเกรียงไกรนั้นปักใจเชื่อว่าน้องชายของตนเสียชีวิตเพราะนิยาย เนื่องจากเคยเห็นกริชอดนอนพิมพ์ต้นฉบับโต้รุ่งมาก่อน แม้หมอจะบอกว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับการพักผ่อนไม่เพียงพอก็ตาม

    ส่วนตุลานั้นพอได้อ่านคำสั่งเสียเขาก็ยินดีที่จะทำตามทันที เนื่องจากตุลานับถือกริชมาตั้งแต่เล็กเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และก่อนวันที่กริชจะตาย ตุลาจำได้ดีว่า วันนั้นชายหนุ่มเรียกเขาไปหา และบอกว่าถ้าตนไม่สามารถเขียนนิยายต่อได้อีกแล้ว ตุลาจะสานต่อความฝันของเขาแทนได้ไหม

    ตุลาในวัย 12 ปี ถึงแม้จะไม่เข้าใจความหมายนั้น แต่เพราะเป็นคำขอร้องของผู้เป็นอา ทำให้เขาออกปากตกลงรับคำไปว่าจะเป็นนักเขียนนิยายเหมือนอาให้ได้ พอได้ยินคำตอบของหลานชายกริชก็หัวเราะ แล้วบอกว่ายังไม่ต้องรีบตอนนี้ เขาจะให้เวลาตุลาอีกสิบปี ถ้ายังไม่เปลี่ยนคำพูด เขาจะมอบของขวัญแสนวิเศษชิ้นหนึ่ง เพื่อให้ตุลาสามารถเขียนนิยายลึกลับได้สมจริงเอง

   จากนั้นวันรุ่งขึ้น ตุลาก็ต้องพบข่าวร้ายจากการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของผู้เป็นอา ทุกคนล้วนโศกเศร้ากับการจากไปครั้งนี้ แต่ไม่มีใครสักคนที่ให้คำตอบได้ว่าทำไมกริชถึงหัวใจวายตาย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็เป็นคนแข็งแรงแท้ ๆ…



    เวลาล่วงเข้าไปบ่ายคล้อย ตุลารู้สึกหิวข้าวขึ้นมาตงิด ๆ  เขาเซฟไฟล์นิยายที่เริ่มต้นร่างเพียงแค่พล็อตไม่กี่บรรทัด ก่อนจะปิดเครื่องคอมของตน เพราะทำยังไงก็นึกไม่ออกเอาเสียเลยว่าจะเขียนสไตล์ไหน ให้มันโดนใจคนอ่านและสำนักพิมพ์ดี

   ตู้เย็นด้านล่างนั้นยังไม่ได้เสียบปลั๊ก แน่นอนว่าข้างในก็ว่างเปล่า ยังดีที่ตู้เย็นนั้นล้างทำความสะอาดไว้เรียบร้อย ไม่เหม็นอับอย่างที่คิดไว้

   “ออกไปซื้อของมาตุนไว้เลยดีกว่าแฮะ”

   ตุลาพึมพำ พลางหยิบกระเป๋าเงินพร้อมกุญแจบ้านติดออกไปด้วย เขาล็อกบ้านเรียบร้อย เตรียมจะเดินออกไปที่ประตูรั้ว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกรอบ ขนลุกชันทั่วกาย เมื่อลมพัดพากลิ่นดอกราตรีอ่อน ๆ ที่มันน่าจะมีกลิ่นเฉพาะในตอนกลางคืนมาเข้าจมูกของตน

   “ก็นะ...เยอะเสียขนาดนี้จะได้กลิ่นก็ไม่แปลกหรอก...มั้ง”

   ตุลาปลอบใจตัวเองแล้วรีบจ้ำอ้าวออกจากบ้าน เพราะเกรงว่าขืนเขาเลือกซื้อของนานไป คงได้กลับมาที่นี่ตอนเย็น ๆ แน่  ซึ่งนั่นคงไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยเท่าใดนักสำหรับเขา

   ลับหลังยามชายหนุ่มเดินจากไป สายลมพัดเอื่อยส่งผลให้ใบไม้ไหวไปมา ทว่าหากมีใครลองเงี่ยหูฟังดี ๆ  ก็จะมีเสียงคล้ายเสียงหัวเราะดังตามมาเบา ๆ แม้บริเวณนั้นจะไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใด ๆ อาศัยอยู่เลยก็ตาม



    ตุลารู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจผิด เมื่อเขาเผลอบอกกับเจ้าของร้านซุปเปอร์มาเก็ตย่านนั้นว่า เขาเพิ่งย้ายมาเช่าคฤหาสน์ม่านราตรี ที่ตั้งอยู่ห่างชุมชนออกไปไม่มากนัก ซึ่งพอได้ยินดังนั้น เจ้าของร้านก็รีบสาธยายถึงความเฮี้ยนต่าง ๆ นานา ของคฤหาสน์หลังนี้ให้ฟัง โดยเขาไม่ได้ขอร้องแต่อย่างใด

   “โอ๊ย! ตายล่ะ ๆ อยู่เข้าไปได้ยังไงคุณเอ๊ย! ที่นั่นมันแรงจะตาย ใครมาเช่าอยู่ได้ไม่เกินเดือนทั้งนั้น ต้องแผ่นแน่บออกมาทุกราย นี่คงโดนยายคุณนายแม้นศรีนั่นหลอกเอาสินะ!”

   เจ้าของซุปเปอร์ที่เป็นชายวัยกลางคนบอกกับตุลา ชายหนุ่มยิ้มแห้ง ๆ แล้วสั่นศีรษะเบา ๆ

   “ไม่หรอกครับ...ผมง่า ...ผมแค่สนใจบรรยากาศของบ้าน ก็เลยเช่าเท่านั้นล่ะครับ”

   คำตอบของตุลาทำเอาเจ้าของร้านชะงัก ก่อนถามต่อมาอย่างสนอกสนใจ

   “แสดงว่าคุณลูกค้าคงมีดีพอตัวล่ะสิ แล้วนี่เข้าไปได้เจออะไรมั่งหรือยังน่ะ”

   “ง่า...ก็ไม่เห็นมีนี่ครับ”

   ตุลาตอบออกไปตามตรง โดยเลี่ยงไม่บอกถึงเจ้าความรู้สึกแปลก ๆ ที่เขารู้สึกได้ในบางครั้งนั่นเอาไว้

   “อืม...งั้นถ้าเห็นอะไรก็มาเล่าให้ฟังบ้างแล้วกันนะ ผมจะได้เอาไว้บอกคนอื่นเขาต่อ!”

   ชายวัยกลางคนบอกแล้วยิ้มกว้างให้ ก่อนจะหยิบของที่วางอยู่ชิ้นอื่นของตุลาไปคิดเงิน ชายหนุ่มยิ้มตอบเจื่อน ๆ แล้วจึงหอบหิ้วข้าวของที่จ่ายเงินแล้ว กลับบ้านเช่าของเขาต่อไปเงียบ ๆ   



   เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ม่านราตรี ตุลาก็ต้องหยุดชะงักฝีเท้า แล้วยืนนิ่งมองมันผ่านรั้วด้านนอก ภาพที่สายตาเขาเห็นยามนี้ ทำให้เขาไม่แปลกใจเลยสักนิด ว่ามันจะถูกชาวบ้านเอาไปเล่าลือกันต่าง ๆ นานา ในหลายรูปแบบ ถึงแม้บางคนจะไม่เคยเห็นกับตาตัวเองว่าเป็นดังเช่นข่าวลือจริงหรือไม่ก็ตาม

   “น่าเสียดายเหมือนกันนะ ...ทั้งที่เคยสวยขนาดนั้นแท้ ๆ”

   ตุลาพึมพำเมื่อคิดถึงรูปถ่ายที่แม้นศรีเคยให้เขาดู ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่า นั่นคงเป็นสภาพบ้านสมัยที่มันยังคงมีคนอยู่อาศัยและดูแลอย่างดีอยู่แน่

   ทว่าหลังจากตุลาพูดจบ สายลมแรงก็พัดมาวูบหนึ่ง บานประตูรั้วเหล็กหน้าบ้านค่อย ๆ เปิดเองอย่างช้า ๆ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ พยายามนึกเข้าข้างตัวเองอีกครั้งว่า คงเพราะก่อนไปเขาไม่ได้ลงกลอนประตูรั้ว เวลาลมพัดมันก็เลยเปิดแบบนี้เอาได้

    ตุลาก้าวเข้าเขตบ้าน เขาดันรั้วเหล็กปิดและลงกลอนล็อกให้เรียบร้อย ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินแบกเสบียงซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นแต่ของแห้งกินง่าย เข้าไปในบ้าน



   ชายหนุ่มจัดอาหารแห้งเก็บไว้ในตู้กับข้าว ส่วนอาหารสดอย่างไข่ไก่ก็ใส่ตู้เย็นไว้ เขาถอนหายใจเบา ๆ แล้วคิดถึงชีวิตความเป็นอยู่หลังจากนี้ของตน เพราะยามอยู่บ้านก็มีคุณแม่คนเก่งทำกับข้าวอร่อย ๆ ให้กินอยู่ทุกวัน จนเขาทำอะไรเองแทบจะไม่เป็นเลยสักอย่าง

   ตุลามองเครื่องครัวในนั้น แล้วก็คิดว่า เห็นทีถ้ามีเวลาว่างเขาคงต้องสั่งซื้อไมโครเวฟเพิ่มมาเสียแล้ว เพราะดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ครัวอย่างเดียวที่เขาถนัดจะใช้มัน

   มื้อกลางวันและเย็นของวันนั้น ตุลาประทังชีวิตด้วยแซนวิชชิ้นใหญ่ที่ซื้อมาตุนไว้หลายชิ้น แต่พรุ่งนี้เขาคิดว่า เขาคงจะกินกาแฟ และขนมปังปิ้งเป็นมื้อเช้า เพราะที่นี่มีเครื่องปิ้งขนมปังเตรียมไว้ให้เรียบร้อย



   ยังไม่ทันมืดดี ชายหนุ่มก็รีบล็อกประตูหน้าบ้าน ปิดไฟด้านล่างให้เรียบร้อย แล้วขึ้นห้องนอนทันที เขาไม่คิดรอให้มันมืดเสียก่อนแล้วจึงเดินส่องไฟฉายขึ้นไปบนห้องนอน ท่ามกลางความวังเวงเช่นนี้แน่

   ทว่าราวกับฟ้ากลั่นแกล้ง เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากชั้นล่าง ในตอนหัวค่ำขณะที่เขากำลังคิดพล็อตนิยายอยู่ ทำให้ตุลาแทบอยากร้องไห้ พลางนึกบ่นในใจว่าคฤหาสน์ใหญ่ขนาดนี้ น่าจะมีโทรศัพท์ภายในพ่วงระหว่างโทรศัพท์ชั้นบนและชั้นล่างบ้าง

   เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่สักพักแล้วก็เงียบไป ทำให้ตุลาถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ได้เพียงแค่ครู่เดียว เพราะมันดังขึ้นอีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นใคร เพราะคนรู้จักของเขาก็ล้วนแล้วแต่มีเบอร์มือถือของเขาทั้งนั้น แม้แต่แม้นศรีเจ้าของบ้านเช่าเอง เขาก็ให้เบอร์มือถือเขาไว้เผื่อฉุกเฉินแล้วแท้ ๆ

   “ใครวะ ถ้าไม่ใช่ธุระสำคัญล่ะก็ พ่อจะด่าให้!”

   ตุลาคาดโทษใส่ปลายสายปริศนาอย่างหงุดหงิด เพราะดูเหมือนว่าทางนั้นจะไม่ยอมแพ้ และยังจะโทรเข้ามาเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีคนลงไปรับ

   ชายหนุ่มถือไฟฉายอันย่อมออกมา เขาฉายไฟเพื่อหาสวิตซ์ตรงระเบียง แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อเห็นใบหน้าของใครคนหนึ่งอยู่ที่สุดแสงไฟนั่น ตุลาเกือบจะหลุดปากตะโกนออกมา ถ้าไม่สังเกตว่าใบหน้านั้นดูนิ่งและเรียบเฉย ผิดปกติ เพราะมันคือรูปภาพแขวน ที่เจ้าของบ้านจัดประดับไว้ตามทางเดินนั่นเอง ซึ่งมีทั้งรูปภาพวิว รูปภาพคน ของศิลปินมีชื่อในสมัยนั้น

   “บ้าชะมัด”

   ตุลาด่าตัวเองที่ขวัญอ่อนเสียเหลือเกิน เขาเจอสวิตซ์ไฟในที่สุด และพอแสงสว่างถูกแทนที่ความมืด ชายหนุ่มก็พ่นลมหายใจออกจากปากเบา ๆ ก่อนจะเดินลงไปตามบันไดด้านล่าง เพื่อไปรับโทรศัพท์เจ้ากรรมที่ยังคงดังอยู่เรื่อย ๆ

   “สวัสดี...”

   ยังไม่ทันตุลาพูดจบเสียงปลายสายก็แทรกมาก่อน

   “น้องตุ้มจ๋า ยอมรับโทรศัพท์แล้วหรือจ๊ะ  คนดี๊คนดีของพี่  เปิดประตูบ้านให้พี่เข้าไปทีสิจ๊ะ พี่จะโดนยุงกัดลายทั้งตัวอยู่แล้ว”

   เสียงยานคางคล้ายคนเมาที่คุ้นเคยรวมไปถึงประโยคที่ได้ยิน ทำให้เส้นสติความอดทนของตุลาขาดผึง เจ้าตัวตะโกนใส่ปลายสายดังลั่นด้วยความโมโหเต็มที่

   “ตุ้มบ้าตุ้มบออะไรของมึง! โทรผิดแล้วรู้ไหม! หัดแหกตาก่อนจะกดเบอร์หน่อยสิโว้ย แฟนมึงเขาคงเปิดให้หรอก ในเมื่อเบอร์นี้มันเบอร์กู!  ไม่ใช่เบอร์ตุ้ม ได้ยินชัดไหม! ไอ้เก่ง!”

   “หือ? …ไม่ใช่เบอร์ตุ้ม แล้วใครพูดวะนั่น?”

   เสียงปลายสายถามยาน ๆ กลับมางง ๆ ตุลากำหูโทรศัพท์แน่นแล้วตะคอกกลับไปดัง ๆ

   “พ่อมึงพูดอยู่มั้งไอ้เก่ง! นี่เบอร์กูเอง ตุลโว้ย!”

   ปลายสายเงียบไป ก่อนจะมีเสียงหัวเราะกวนประสาทดังตามมาเบา ๆ

   “อ้อ! ไอ้ตุล ฮ่า ๆ เออ...ใช่ ๆ กูเมมไว้เอง ‘บ้านตุล’ เบอร์บ้านเช่าใหม่มึง ...มิน่า กูว่ากูเปิดหาเบอร์ ‘บ้านตุ้ม’ โทรเท่าไหร่แม่งก็ไม่รับสักที แถมไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังในบ้านอีก”

   “เออ! มันมาดังในบ้านกูแทนไงล่ะไอ้เวร! แค่นี้นะ อย่าเสือกโทรผิดมาอีกล่ะ ไม่งั้นพรุ่งนี้กูจะตามไปเตะมึงถึงบ้านแน่!”

   ตุลาตัดบทพลางวางสายกระแทกลงอย่างโมโห เขาเหลือบมองโทรศัพท์เครื่องนั้นสักครู่ แล้วตัดสินใจยกหูออกจากเครื่อง เพื่อกันปัญหาคนโทรมาผิดอีกรอบ ก่อนจะเดินกลับขึ้นห้องนอนไปอย่างหงุดหงิด ความโกรธช่วยกลบความกลัวก่อนหน้าไปจนเกือบหมดสิ้น

    ชายหนุ่มนั่งพิมพ์นิยายต่อบนโต๊ะทำงานในห้องนอนไปได้อีกสักพักใหญ่ พอเหลือบเห็นนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนกว่า เขาจึงตัดสินใจปิดคอมเข้านอน  โดยตลอดเวลาที่อยู่ในห้อง ตุลาได้ปิดล็อกบานประตูกระจกบานใหญ่ที่เชื่อมออกไปยังระเบียง แถมยังปิดผ้าม่านไว้อย่างแน่นหนาอีกชั้นหนึ่ง เพื่อมั่นใจว่าตลอดค่ำคืนนี้ เขาจะไม่มีโอกาสได้เห็นอะไรแปลก ๆ ด้านนอกผ่านสายตา แม้ว่ามันจะมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม



--- TBC ---



แจ้งไว้ก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แนวผีแหวะน่ากลัวสยองขวัญนะคะ แต่เป็นแนวน่ารัก อบอุ่น ๆ ค่า (จริงจริ๊ง!)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 07-07-2011 20:33:42
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 07-07-2011 21:42:48
หลงเข้ามาอ่านด้วยที่ว่าชอบนิยายแฟนตาซี
แต่มาแบบขนหัวลุกแบบนี้เค้ากลัวน๊า
ทำไงอ่ะ ชอบซะแล้ว มีแต่จะต้องติดตามต่อไปล่ะกัน ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 07-07-2011 21:47:36
แหะๆ ชอบแนวนี้นะเนีย
สู้ๆนะคะมาอัพเร็วๆนะคะ :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 07-07-2011 21:55:27
นั่งอ่านตอนดึก ขนลุกนิดๆ
เนื้อเรื่องน่าสนใจ
งานี้จะได้เจออะไรดีๆมั้ยน้า
อย่างเช่น ผ...
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 07-07-2011 22:05:34
แนวผีน่ารักเหรอคะ ดีใจจังมีแนวนี้มาเปิดอีกเรื่องแระ ชอบๆ อิๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 08-07-2011 00:46:17
อ้างถึง
แจ้งไว้ก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ใช่แนวผีแหวะน่ากลัวสยองขวัญนะคะ แต่เป็นแนวน่ารัก อบอุ่น ๆ ค่า (จริงจริ๊ง!)

^
^

ดีใจนะคะที่เห็นข้อความนี้ จะได้ตามอ่านอย่างสบายใจ   :m4:
ให้กำลังใจคนเขียนค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 08-07-2011 01:04:03
อ่านแล้วขนลุกเลย o21
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 08-07-2011 01:11:49
เอ่อ แน่ใจนะคะว่าไม่ใช่เรื่องผี

ทำไมอ่านไปขนลุกไปเนี่ย บรื๋ออ o21
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 08-07-2011 01:29:05
ชอบแนวนี้เอาแบบน่ารักๆ อบอุ่นนะ  :impress2: :impress2: แบบอื่นเค้ากลัว o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 08-07-2011 05:15:06
นึกยังไง เข้ามาอ่านเรื่องนี้ตอนตี 5 อ่านไป มองรอบตัวไป ขนลุกไป เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Selene ที่ 08-07-2011 05:19:19
ชอบค่ะ ติดตาม ๆ ^^

 :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 08-07-2011 11:02:08
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 ...นิยายแนวแฟนตาซีไทย ๆ ค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 08-07-2011 11:57:36
 o22อ่านแล้วขนลุกเลยอะแต่ชอบนะตื่นเต้นแต่ นานๆๆได้อ่านแบบนี้ มาต่อเร็วๆๆนะจ้า  สู้ๆๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 1 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 08-07-2011 12:36:49
อ่านแล้วตลกมากเลยค่ะ
เป็นผีแนวตลกชอบแกล้งคนหรือป่าวเนี้ย
สู้ๆๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 2 (07/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 08-07-2011 14:38:10
ม่านราตรี
 บทที่ 2


    “แค่ก ๆ”

   เสียงไอของร่างเล็กบนเตียงทำให้ชายหนุ่มใบหน้าอ่อนเยาว์ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบ ๆ ชะงัก เขาวางหนังสือลง แล้วรีบลุกเดินไปดูอาการอีกฝ่ายทันที

   “เป็นอะไรมากไหมตุล ...หิวน้ำไหม เดี๋ยวอารินให้”

   “...อากริชครับ ตุลทรมานจังเลย... เมื่อไหร่ตุลจะแข็งแรงเหมือนคนอื่นเขาบ้างล่ะครับ”

   คำถามจากร่างเล็กที่นอนซมเพราะพิษไข้ ทำให้ผู้เป็นอาชะงัก แล้วฝืนยิ้มเศร้าให้กับหลานชายสุดที่รักของตน

   “สักวันนะตุล ...สักวันหลานต้องแข็งแรง และไม่ต้องทรมานแบบนี้อีก อาสัญญา อาจะหาทางช่วยหลานให้ได้เอง”

   พอผู้เป็นอาพูดจบร่างเล็กนั้นก็แย้มยิ้มทั้งที่ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยพิษไข้ ก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง โดยมีสายตาห่วงใยของอีกคนจับจ้องมองอยู่ไม่ห่าง

 

    กลิ่นดอกราตรีหอมฟุ้งโชยเข้ามาแตะจมูก แม้เจ้าของห้องจะไม่ได้เปิดประตูกระจกทิ้งไว้ กลิ่นมันแรงเสียจนคนไม่คุ้นเคยอย่างตุลาต้องงัวเงียลุกขึ้นมานั่งมองไปที่ผ้าม่าน เขาถอนหายใจเบา ๆ หลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาจากความฝันถึงวัยเด็กที่แทบจะลืมไปแล้ว ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้บนหัวเตียง ปลายเข็มเรืองแสงในความมืด บ่งบอกว่าเวลานี้เป็นเวลาราวตีสาม แต่ชายหนุ่มนั้นกลับไม่ง่วงนอนอีกต่อไป เพราะกลิ่นฉุนที่ไม่คุ้นเคย และบรรยากาศห้องใหม่ซึ่งยังไม่คุ้นที่คุ้นทางเช่นนี้ มันช่วยทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาได้ชะงัด

   “หนาวแฮะ”

   พอตื่นเต็มตัว ชายหนุ่มก็ต้องห่อไหล่ เมื่อเจ้าแอร์เก่า ๆ ที่ยังคงทำงานได้อย่างน่าทึ่ง แม้จะดูอายุการใช้งานน่าจะติดตั้งมาเกือบสิบปีแล้วก็ตาม

   ตุลาตัดสินใจปิดเครื่องปรับอากาศในห้อง แล้วเปิดพัดลมตั้งโต๊ะมุมห้องตัวเล็กแทน พอเสียงมอเตอร์จากเครื่องปรับอากาศเงียบหายไป ความเงียบงัน และเสียงสายลมพัดกิ่งไม้ใบไม้เสียดสีไปมาก็ดังขึ้นแทนที่

   “แต่งนิยายต่อก็ได้วะ”

   ชายหนุ่มพึมพำ ยังไงก็นอนไม่หลับแล้ว ขืนนั่ง ๆ นอน ๆ เงียบ ๆ ไปแบบนี้ ก็รังแต่จะทำให้วิตกกังวลมากเกินไปเสียเปล่า

   ทว่าระหว่างที่กำลังจะหยิบโน้ตบุคคู่ใจขึ้นมาใช้งาน ตุลาก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรก ตึงตังเบา ๆ ดังแว่วมาจากชั้นล่าง แวบแรกเขานึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับคฤหาสน์หลังนี้ แต่แล้วก็ต้องรีบสลัดความคิดแรกนั้นไป เมื่อหวนคิดถึงสิ่งที่น่ากลัวมากกว่า

   ‘ขโมย?’

   จริงอยู่ แม้ภูตผีปีศาจจะน่ากลัวขนาดไหนก็ตาม แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านั้นมาก่อนอย่างตุลา มนุษย์ด้วยกันเองนั่นล่ะ ที่ยังน่ากลัวกว่ากันอยู่มาก

   ตุลาสูดลมหายใจเข้าปอดรวบรวมความกล้า เขาพกไฟฉายไปกระบอกหนึ่ง ในห้องไม่มีอุปกรณ์อะไรให้ป้องกันตัวได้เลย เขาจึงติดไปแค่โทรศัพท์มือถือ เผื่อถ้าเป็นโจรจริง ๆ ก็ยังโทรเรียกตำรวจได้ทัน 

   “ใจเย็น ๆ ตุลา ...ใจเย็น ๆ”

   ชายหนุ่มปลอบตัวเองระหว่างค่อย ๆ แง้มบานประตู เดินย่องออกไป เขาหรี่ไฟฉายเป็นไฟสว่างน้อยสุดให้เห็นเพียงแค่ทางเดินเท่านั้น ก่อนจะค่อย ๆ ย่องเบาให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปยังทางลงตรงบันได ทว่ายิ่งใกล้ เขาก็ยิ่งได้ยินเสียงจากชั้นล่างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มฟังชัดว่าเสียงนั้นมีเสียงพูดคุยของคนปะปนมาด้วย

   “ขโมยแน่ ๆ ทำไงดีวะ”

   ตุลาเม้มปากนิ่งก่อนจะตัดสินใจกึ่งย่องกึ่งไต่คลานลงบันไดไปให้เบาที่สุดเท่าที่เขาจะสามารถทำได้ แต่เพราะความมืดและความเกร็ง เท้าที่ก้าวลงบันไดของเขาจึงเหยียบพลาด จนเจ้าตัวเกือบเสียหลักกลิ้งลงไปด้านล่าง ทว่า...

     “โฮ่! เกือบไปแล้วไหมล่ะ เธอเกือบเป็นคนเช่าคนแรก ที่ประสบอุบัติเหตุเสียตั้งแต่คืนแรกที่มาพักแล้วนะ ...ขืนเป็นแบบนั้น ที่นี่ก็คงเฮี้ยนหนักขึ้นไปอีกแน่”

   เสียงทุ้ม ๆ ของผู้ชายที่ไม่เคยรู้จักดังขึ้นจากด้านหลัง แขนข้างหนึ่งของคนพูดจับเอวของตุลารั้งเอาไว้ไม่ให้ ร่างนั้นเสียหลักกลิ้งตกไปกับบันไดอย่างที่ควรเป็น แต่คนถูกช่วยนิ่งอึ้งกับการปรากฏกายอย่างกะทันหันและไร้วี่แววมาก่อนของอีกฝ่ายมากกว่า

   “อ๊ะ! พาทิศ ไม่ยุติธรรมนี่นา ไหนตกลงกันแล้วว่าจะไปทักทายคนใหม่พร้อม ๆ กันไงเล่า!”

   เสียงแหลมสูงของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากชั้นล่าง ตุลามองตามต้นเสียงนั้นไป แล้วก็ต้องพบกับเด็กสาววัยรุ่น หน้าตาสะสวยคนหนึ่งมองขึ้นมา แต่นั่นกลับทำให้ตุลาเบิกตากว้างมากไปกว่าเดิมด้วยความตกตะลึง เพราะร่างเจ้าหล่อนนั้นเรืองแสง จนทำให้เห็นถนัดชัดเจน แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืดก็ตาม

   “ก็พวกเธอนั่นล่ะทำเสียงดังจนเขาต้องลุกขึ้นมาดู จนเกือบจะประสบอุบัติเหตุแบบนี้”

   “ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ  ปิ่นต่างหาก ที่อยากเจอเด็กคนนี้”

   เด็กสาววัยรุ่นผมสั้นดำขลับคนนั้นชี้โบ้ยไปอีกคนที่อยู่ข้างเธอ อีกฝ่ายเป็นเด็กผู้หญิงผมยาวหยักศกถึงกลางหลัง วัยไล่เลี่ยกัน แต่ดูท่าทางขี้อายผิดปกติ เจ้าหล่อนก้มหน้าก้มตา ดึงแขนเพื่อนให้หยุดพูด ก่อนจะสบตากับตุลาแวบหนึ่งแล้วรีบหลบตาด้วยความอาย

    “พะ...พวกคุณ เป็นใคร?”   

   ตุลาถามเสียงสั่น ทำให้ร่างทั้งสามชะงักเล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มผู้ช่วยเขาไว้จะเอ่ยถามขึ้นก่อน

   “เธอจำพวกเราไม่ได้จริง ๆ หรือ ... เราคิดว่าเธอกลับมา เพราะจำพวกเราได้แล้วเสียอีก?”

   ตุลาชะงัก พยายามเอี้ยวกายหันไปมองอีกฝ่าย ผู้ชายที่ช่วยเขานั้นเป็นชายหนุ่มวัยน่าจะราว ๆ สามสิบ หน้าตาคมคายดูดี อีกฝ่ายจ้องมองเขานิ่ง เช่นเดียวกับตุลาที่จ้องตอบ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องเบิกตาค้าง อ้าปากพะงาบ ๆ เมื่อลูกตาข้างหนึ่งของอีกฝ่ายค่อย ๆ หลุดออกมาจากเบ้า แล้วห้อยหมิ่นเหม่จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ต่อหน้าต่อตาเขา

   “อ๊าก! จ๊าก!  ว๊าก!”

   ตุลาร้องแทบไม่เป็นประสา ผลักร่างนั้นให้ออกห่างด้วยความตกใจ จนลืมนึกไปว่าตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ตรงบันได และจากแรงผลักหนีออกมานั้น ก็ทำให้เขาพลัดร่วงตกจากบันไดทันที ท่ามกลางความตกตะลึงของชายอีกคน

   “ระวัง!”

   เสียงนั้นร้องเตือนแล้วพยายามเอื้อมมือมาช่วย แต่ก็สุดปลายมือคว้า ในขณะที่ตุลาคิดว่าเขาคงจะโชคร้ายเข้าให้แล้วแน่ เขาก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่ห่อหุ้มร่างของตนเอาไว้ พร้อมกับเสียงคุ้นเคยของใครบางคนกระซิบข้างหู

   “อย่าใช้ชีวิตที่อาให้ไว้ สิ้นเปลืองแบบนี้สิตุล”

   “อา...กริช”

   ตุลาพึมพำเรียกชื่ออาของเขา ก่อนจะหมดสติไป จากนั้นเขาก็เริ่มเห็นภาพบางอย่างเลือนรางเบื้องหน้า...



   “ที่นี่สวยจังเลยครับอา ผมขอไปวิ่งเล่นนะครับ”

   “ก็ได้ ๆ แต่อย่าซนนักล่ะ เดี๋ยวเกิดไม่สบายอีก อาจะโดนพ่อของตุลว่าเอา”

   ตุลาเห็นตัวเองในวัย 12 ปี กำลังขออนุญาตกริชไปวิ่งเล่นในสวนดอกราตรีอันคุ้นตา และเมื่อเพ่งมองดี ๆ เขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ทั้งสภาพสวนและคฤหาสน์ที่ถึงแม้จะดูแตกต่างไปบ้างจากปัจจุบันนี้ แต่มันก็เป็นสถานที่แห่งเดียวกันไม่มีผิดเพี้ยนแน่นอน

     มันคือคฤหาสน์ม่านราตรีที่เขาอาศัยอยู่ในตอนนี้นั่นเอง!




    ตุลาหลับไปนานเท่าใดก็ไม่อาจทราบได้ แต่พอรู้สึกตัวตื่นก็ได้ยินเสียงจ้อกแจ้กจอแจใกล้ ๆ กายเขาไม่ห่างนัก

   “เขาจะเป็นอะไรไหมรุ้ง?”

   เสียงหวาน ๆ ฟังดูนุ่มหูดังขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงใส ค่อนข้างโผงผาง

   “เธอถามฉันเป็นรอบที่สิบแล้วนะปิ่น เขาไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า ถ้าใกล้ตายเมื่อไหร่ พวกเราก็ต้องรู้สิ!”

   “แล้วทำไมเขาไม่ฟื้นสักทีล่ะ”

   เสียงเดิมถามขึ้นฟังดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด

   “จะไปรู้เหรอ คงช็อกน่ะสิ ใครใช้ให้พาทิศทำตาหลุดใส่ให้เห็นแบบนั้นล่ะ นายก็เหมือนกันพาทิศ บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ซ่อมร่างซอมซ่อของนายให้มันดี ๆ สักที!”

   สาวเสียงใสโพล่งขึ้น และดูเหมือนจะแขวะไปยังอีกคน ด้วยประโยคแปลก ๆ ที่ทำให้คนนอนแอบฟังไม่ยอมลืมตาตื่นอย่างตุลาขนลุกซู่

   “ก็อะไหล่มันไม่ค่อยมีนี่ เดี๋ยวนี้คนเขานิยมเผามากกว่าฝัง ฉันก็เลยต้องรักษาร่างเก่านี่ไว้ ทำไงได้ ถ้าไม่มีร่างก็ทำความสะอาดคฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้น่ะสิ   ลูกสะใภ้ของคุณจอมเดชน่ะหรือ จะมาลงทุนทำความสะอาดให้ จะทำก็แค่ตอนมีคนมาเช่าล่วงหน้าวันสองวันพอเป็นพิธีเท่านั้นล่ะ”

   “พูดถึงยัยสะใภ้จอมงกนั่นแล้วเจ็บใจไม่หาย นี่ถ้าไม่ได้พินัยกรรมของนายท่านช่วยไว้ ป่านนี้พวกเราโดนไล่ที่หมดแล้ว ...หือ มีอะไรหรือปิ่น?”

   เด็กสาวหันมาถามเพื่อนอย่างสงสัย เมื่อแขนถูกสะกิด และเมื่อมองตามมือของอีกฝ่ายชี้ไป เธอก็เห็นหนังตากระตุก ๆ ของชายหนุ่มที่นอนสลบบนเตียง จึงทำให้เด็กสาวร้องอ๋อเบา ๆ แล้วโน้มใบหน้าลงไปกระซิบข้าง ๆ หูของอีกฝ่าย

   “ถ้ายังแกล้งหลับอีก แม่จะจับแหกอกควักไส้ออกมากินเลย คอยดูสิ ฮิ ๆ ๆ”

   “จ๊าก! อย่าทำผมเลยครับ ผมกลัวแล้ว! พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย!”

   ตุลาหลับตาปี๋ยกมือไหว้ท่วมหัว จนคนแกล้งแหย่ ต้องระเบิดเสียงหัวเราะหวานใสออกมาอย่างขบขัน

   “บ้า! ใครเค้าจะทำเรื่องป่าเถื่อนแบบนั้น!”

   “พะ...พวกเราไม่ทำร้ายใครหรอกค่ะ...อย่ากลัวเลยนะคะ”

   เด็กสาวที่ชื่อปิ่นบอกขึ้นบ้าง จนตุลาเริ่มใจชื้นขึ้น

   “พวกคุณเป็นผี?”

   คำถามของชายหนุ่มทำให้ทั้งสามมองหน้ากัน แล้วเด็กสาวที่ถูกเรียกว่ารุ้งจึงเป็นคนตอบคำถามนั้นของตุลาพร้อมกับแนะนำตัวเองและพรรคพวก
   
“อือฮึ ผีเหรอ? จะเรียกแบบนั้นก็ได้หรอกนะ...เอาเป็นว่าพวกเราเป็นผีที่สิงอยู่ในคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นบ้านสำหรับพวกผีเร่ร่อนอย่างพวกเราน่ะ... ฉันรุ้งพราย เรียกรุ้งเฉย ๆ ก็ได้  ส่วนนี่ปิ่นสุดา เรียกเธอว่าปิ่นนะ  แล้วเขา ชื่อพาทิศ เธอจะเรียกเขายังไงก็แล้วแต่”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ ถึงการแต่งตัวและรูปลักษณ์ภายนอกของทั้งสามจะดูเหมือนคนทั่วไปมากเพียงใด แต่พฤติกรรมและสิ่งที่เขาเห็นมากับตา มันก็บ่งบอกแล้วว่าเรื่องที่อีกฝ่ายนั้นเล่าเป็นเรื่องจริง

   “อะไรกัน ...แสดงว่าข่าวลือที่ชาวบ้านลือกันนั่นก็จริงน่ะสิ...”

   ตุลาพึมพำด้วยความรู้สึกสับสน เขากลัวมากก็จริง แต่ท่ามกลางความกลัวนั้น มันกลับแฝงไปด้วยความพิศวง และขุ่นข้องใจ ทั้งเรื่องพินัยกรรมที่อาของเขาฝากฝังให้เช่าบ้านหลังนี้ รวมไปถึงเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ด้วย

   “จริงสิ! อาของผมล่ะ! ผมได้ยินเสียงอากริช ก่อนจะสลบไป...”

   ตุลามองซ้ายมองขวาหาคนที่เขาอยากจะพบที่สุด  ถ้าเป็นกริช ผู้เป็นอาที่เขาเคารพรักแล้ว ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผี เขาก็ไม่คิดกลัวแต่อย่างใด

   “พูดอะไรของนาย ฉันกับปิ่นเป็นคนช่วยนายก่อนจะหล่นกระแทกพื้นนะ ถ้าพวกฉันไม่ช่วยไว้ เผลอ ๆ นายได้มาเฝ้าบ้านอยู่กับพวกฉันไปแล้ว”

   เด็กสาวที่ชื่อรุ้งพรายบอก ซึ่งคนอื่นก็พยักหน้ายืนยันตามมา ทำให้ตุลานิ่งอึ้ง พร้อมกับใบหน้าที่สลดลง

   “คิดไปเองหรอกหรือ...”

   ทั้งสามพอเห็นสีหน้าของตุลาเป็นเช่นนั้นต่างก็มองหน้ากัน แล้วชายหนุ่มในกลุ่มจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง

   “พวกฉันเองก็ไม่อยากทำให้เธอตกใจหรอกนะ ก็แค่อยากทักทายในฐานะคนเคยรู้จักมาก่อน ไม่คิดว่าเธอจะจำพวกเราไม่ได้ ...แต่เอาเถอะ ถึงยังไงเราก็ทำความรู้จักกันใหม่ได้อีกอยู่ดี เพราะเธอยังคงจะเช่าที่นี่ต่อ ...สินะ?”

   พาทิศถามอย่างคาดหวัง ตุลามองชายหนุ่มที่ดูสุภาพอ่อนโยน และสาวน้อยทั้งสองที่น่ารักน่าทะนุถนอม อย่างพิจารณา ก่อนจะย้อนถามกลับไปแทน

   “พวกคุณไล่คนเช่าคนก่อน ๆ ออกไปไม่ใช่หรือ ...แล้วทำไมถึงอยากให้ผมอยู่ต่อล่ะ?”

   “ไม่ใช่นะ! ไม่ใช่ฝีมือเราสักหน่อย!”

   เสียงหวานแหลมสูงของรุ้งพรายดังขัดขึ้น ทำให้ตุลาสะดุ้ง แล้วหันไปมองหล่อน

   “พวกนั้นหนีกันไปเองต่างหาก ขนาดไม่มีเซนส์ทางวิญญาณ ก็พากันกลัวโน่นกลัวนี่ คิดไปเองแท้ ๆ แล้วพอตัวเองประสบอุบัติเหตุในบ้าน ก็มาโทษพวกเรา บ้าชะมัด!”

   เด็กสาวบ่น ๆ แล้วก็ทำหน้ามุ่ย ส่วนพาทิศก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วกล่าวเสริมตามมา

   “นั่นสิ  ความจริงฉันอยากให้มีคนเช่านะ  บ้านหลังนี้จะได้ไม่โทรม แล้วถ้าคนเช่าเขารักบ้านหลังนี้ได้ ก็จะยิ่งดี พวกเราก็จะได้อยู่ร่วมกันกับเขาอย่างมีความสุข เหมือนสมัยก่อน...”

   ชายหนุ่มทำหน้าย้อนคิดถึงความหลัง สีหน้านั้นช่างมีความสุข จนทำให้ตุลาเชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างไม่คิดระแวง

   “นะ...นั่นสิคะ...ถึงจะมีบางคนที่ถูกทำให้ออกไป เพราะพวกเราบางคนก็ตาม ...แต่ส่วนใหญ่พวกเราจะไม่หลอกหลอนใครนะคะ”

   ปิ่นสุดาพูดขึ้นมาบ้าง ถึงแม้เธอจะพูดตะกุกตะกักและเสียงค่อยด้วยความขี้อาย แต่คำพูดของเธอก็ทำให้ตุลาหันขวับไปมองอย่างตกใจ

   “หมายความว่าไงครับ?”

   “กะ...ก็...”

   ปิ่นสุดาหน้าแดง พูดอะไรไม่ถูกแล้วรีบหลบไปอยู่หลังรุ้งพรายทันที เด็กสาวอีกคนทำท่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ สบตากับพาทิศ แล้วจึงตัดสินใจเล่าความจริงออกไป

   “ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี รู้เลยวันนี้ก็ดีเหมือนกัน!”

   รุ้งพรายบอกแล้วเหลือบมองคนฟังที่ยังคงมีท่าทางสนใจไม่เปลี่ยน เจ้าหล่อนจึงเริ่มเล่าต่อ

   “นอกจากพวกเราแล้ว ก็ยังมีวิญญาณในคฤหาสน์นี้อีก 1 ราย ...รายนั้นน่ะ รักคฤหาสน์นี้มาก แล้วเขาก็ไม่ชอบให้ใครหน้าไหนก็ตาม เข้ามาอยู่ที่นี่ ...ถ้าเขาไม่ยอมรับล่ะนะ”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ ลำพังแค่มีผีโผล่มาสาม เขาก็อยากจะเผ่นกลับบ้านอยู่ใจจะขาดอยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นผีดี ก็ยังพอทำใจยอมรับได้บ้าง แต่ลองมาได้ยินแบบนี้เข้า เขาก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ดีหรือไม่

   “ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราจะดูแลเธอเอง แล้วจะพยายามอธิบายให้คนนั้นเข้าใจ”

   “อือ! อย่างที่พาทิศบอกนั่นล่ะ  นาน ๆ จะเจอมนุษย์ที่มีประสาทสัมผัสที่หกดี มองเห็นวิญญาณได้ เหมือนนายท่านทั้งที”

   “นายท่าน?”

   ตุลาทวนคำถามอย่างสงสัย เพราะสังเกตดูสีหน้าของรุ้งพราย เธอจะยิ้มอย่างอ่อนโยน ยามเมื่อพูดถึงนายท่านที่ว่า

   “เจ้าของคฤหาสน์คนเก่าน่ะ แต่เสียชีวิตไปเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว”

   พาทิศตอบคำถามนั้นให้แทน ทำให้ตุลาชะงัก แล้วพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

   “ขอโทษนะครับ ถ้าจะทำให้คิดถึงเรื่องเศร้า ๆ”

   พาทิศนิ่งเงียบ แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ก่อนเอื้อมมือไปลูบเส้นผมของอีกฝ่ายเบา ๆ

   “เด็กดี ...เธอไม่เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลยนะ ตุล”

   ตุลามองชายหนุ่มที่เคยบอกว่ารู้จักเขามาก่อนตาปริบ ๆ เขาจำไม่ได้หรอกว่าเคยเจออีกฝ่ายมาก่อน แต่ในความฝันก่อนหน้านั้น ก็แสดงว่าเขาอาจจะเคยมาที่นี่จริง ๆ ก็เป็นได้

   “ผมเคยเจอพวกคุณจริง ๆ ใช่ไหม?”

   ตุลาถามกลับแผ่วเบา คนอื่น ๆ สบตากันแล้วยิ้มอ่อนโยนให้

   “อืม...อายุของเธอตอนนั้นก็ราวสิบกว่าปีได้ ฉันก็นึกว่าเธอจะจำได้เสียอีก...แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ความทรงจำน่ะ เราสร้างร่วมกันใหม่ได้เสมออยู่แล้ว”

   พาทิศบอกแล้วยิ้มให้ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มทีแรกก็ยิ้มตอบ แล้วจึงค่อย ๆ เบิกตากว้าง ก่อนจะหงายผึ่งเป็นลมล้มตึงไปอีกครั้ง

   “กรี๊ด! พาทิศ เอาอีกแล้วนะ! ไปซ่อมลูกตานายให้ดี ๆ เลย! โธ่! นายตุลนี่ก็เหมือนกัน ขวัญอ่อนจริง ๆ  เจอซ้ำอีกครั้งน่าจะมีภูมิต้านทานได้แล้วนะ!  โอ๊ย! บอกแล้วไงปิ่น ว่าเขาไม่เป็นอะไรแน่ไงเล่า!”

   รุ้งพรายโวยวายลั่นเมื่อเพื่อนร่วมชายคาอาศัยแต่ละรายทำให้เธอหัวปั่น ตั้งแต่อีตาซอมบี้ที่ร่างกายผุ ๆ พัง ๆ ไม่ค่อยสมประกอบ รวมไปถึงเพื่อนสาวขี้กลัวและขี้อาย ที่ถูกชะตาเพื่อนร่วมอาศัยคนใหม่คนนี้เข้าให้เต็มเปา

   สงสัยนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไป คงจะมีแต่เรื่องปวดหัววุ่นวายตามมาอีกมาก หลังจากที่พวกเธอต้องทนนั่งแกร่ว  อยู่เฝ้าบ้านร้างหลังนี้มาหลายปีตามลำพังกันเอง จนกระทั่งถึงวันที่ได้เจ้าของบ้านคนใหม่อย่างตุลา ถึงจะเป็นเพียงแค่เจ้าของบ้านชั่วคราว แต่แค่เพียงวันแรก เขาก็ทำให้พวกเธอหายเหงาเข้าให้เสียแล้ว และในวันถัดไปอีกเล่า...

   รุ้งพรายเฝ้าจินตนาการถึงเรื่องสนุกต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้ด้วยรอยยิ้ม แม้จะยังหนักใจอยู่บ้าง เกี่ยวกับสมาชิกอีกราย ที่แสนจะหัวแข็ง และไม่ยอมเปิดใจให้มนุษย์คนไหนอีกเลย นับตั้งแต่จอมเดชเจ้าของคนเก่าตายไป



--- TBC ---


มาต่อตอนที่สองแล้วค่า  อย่าเพิ่งกลัวผีกันก่อนนะคะ ยังย้ำนะคะ ว่าผี ๆ ในบ้านนี้น่ารักกันทุกคนเลยค่า หุ ๆ (แต่เปิดตัวสำหรับบางคนอาจจะหลอนไปสักนิดล่ะนะ)

ป.ล. ตอนแรกข้อความมันไปกองด้านขวา แก้ไปแก้มา ถึงได้รู้ว่า  "หัวข้อกระทู้" มันยาวไป--  ต้องตัดสั้น เล้าอาจจะเปลี่ยนระบบอะไรสักอย่างทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น  เผื่อใครไม่รู้ก็แนะนำให้ลองแก้หัวข้อให้สั้น ๆ แล้วกันค่ะ  หรือไม่ต้องแก้อะไรก็ได้ เพราะเดี๋ยวทางเล้าคงปรับให้เองล่ะมั้งคะ เพราะเมื่อวานยังไม่เป็นเลยนี่นะ ^ ^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 08-07-2011 14:55:01
เข้ามาให้กำลังใจน้อง Xenon จ้า
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ด้วย  o13

ผีแต่ละตัว friendly มาก  :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 08-07-2011 15:18:52
เป็นกำลังใจให้กับนิยายเรื่องใหม่ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 08-07-2011 15:23:40
อ่านตอนนี้แล้วค่อยหายหลอนหน่อย ฮ่า ฮ่า ฮ่า  :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 08-07-2011 15:44:38
อื้อฮืออออ...ต่อให้หน้าตาดีขนาดไหน แต่มาทำลูกตาหลุดให้เห็นก็ช็อคได้เหมือนกันนะค้า   o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 08-07-2011 15:59:35
สนุกค่ะ
ติดตาม

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 08-07-2011 16:12:50
สนุกดีครับ

รอติดตามการปรากฎตัวของคุณผีตัวที่ 4

ท่าทางจะเป็นพระเอก (มั้ง)

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 08-07-2011 17:07:38
สงสารตุลจังเลยอะสลบสองรอบและ ขอบคุณสำหรับตอนที่สองนะจ้า :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 08-07-2011 18:41:41
อ่านเปิดตัวตอนแรกนี่ขนลุกจริงๆ
พอวันนี้มาเจอตอนที่2 ฮาแตกเลย :m20:
ท่าทางบ้านนี้จะไม่เงียบเหงาจริงๆ
แต่แอบหวั่นๆแทนตุลเรื่องคุณผีอีกตน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 08-07-2011 18:44:11
สนุกมากค่า
ถ้าอ่านกลางคืนนี่คงหลอนน่าดู บรื๋อ
จะรอดูผีอีกตนว่าจะน่ารักและนิสัยดีเหมือนสามตนนี้มั้ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 08-07-2011 20:23:57
ซะอุ้ย ผีแต่ล่ะตน น่ารักจริงๆ
ผีพ่อบ้าน น่ารักดี ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 08-07-2011 22:56:49
รู้สึกว่าผีในเรื่องน่ารักมากเลยนะคะเนียยย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 08-07-2011 23:48:46
น่าติดตามมากกกกกก สู้ๆๆนะค๊าา
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่2 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (08/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-07-2011 09:12:16
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 09-07-2011 12:27:05
 
 
ม่านราตรี
 บทที่ 3



    แสงแดดรำไรที่สาดส่องเข้ามาในห้องนอน เสียงนกร้อง สายลมพัด และเสียงกุกกักจากชั้นล่างของคฤหาสน์ ทำให้ตุลาต้องค่อย ๆ ปรือตาตื่นขึ้น  เขาหรี่ตาเมื่อเห็นแสงสว่างจากทางระเบียง เพราะบานประตูกระจกและผ้าม่านผืนใหญ่ ตอนนี้ถูกเปิดกว้างรับลมและให้อากาศภายในถ่ายเท ซึ่งเขาจำได้ดีว่า เขาปิดมันหมดแล้วตอนก่อนเข้านอน

   “เกิดอะไรขึ้น...”

   ตุลาพึมพำ พยายามที่จะทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ก่อนจะชะงัก เผลอกอดอกตัวเองอย่างลืมตัว

   ‘ความฝัน? ไม่ใช่สิ ...ความจริงแน่นอน’

   ชายหนุ่มคิด แล้วสิ่งที่ตอกย้ำความคิดนั้นก็เคาะประตูห้องเบา ๆ พร้อมกับร่างของชายหนุ่มวัยสามสิบที่เพิ่งได้เจอเมื่อคืนเปิดประตูห้องเข้ามา

   “ฉันเตรียมอาหารเช้าให้เธอแล้ว ล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อยแล้วลงไปทานซะนะ”

   พอพาทิศบอกจบก็ปิดประตูห้องแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ตุลานั่งอึ้งมึนงงอยู่เช่นนั้นพักใหญ่ ก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาตามที่อีกฝ่ายบอก ทั้งที่ยังคงสับสนไม่หาย

   “แซนวิชทูน่า ไข่ดาว แล้วก็กาแฟ ...ถ้าอยากทานอย่างอื่นเพิ่มก็บอกได้นะ พอดีวัตถุดิบที่เธอเตรียมไว้มันไม่ค่อยจะมีของสดสักเท่าไหร่ ฉันเลยเลือกทำที่มันทำง่าย ๆ น่ะ”

   อาหารบนโต๊ะแม้จะดูเรียบง่าย แต่ก็น่ากิน แถมรสชาติยังอร่อยชนิดที่ตุลาไม่อยากเชื่อเลยว่า ผู้ทำจะไม่ใช่มนุษย์อย่างเขา

   “แล้วพวกคุณรุ้ง กับคุณปิ่นล่ะครับ?”

   ตุลาเอ่ยถาม เพราะเห็นพาทิศอยู่เพียงคนเดียว

   “หลับอยู่  แต่สักพักเดี๋ยวก็ตื่นแล้ว เห็นว่าจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับเวลาของเธอน่ะ”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ

   “จนถึงตอนนี้ผมยังไม่อยากเชื่อเลยครับ ว่าเรื่องของพวกคุณจะเป็นเรื่องจริง ...หรือว่าผมยังหลับฝันอยู่ ...หรือว่าเมื่อคืนนี้ผมจริง ๆ แล้วตกบันไดสลบมา แล้วตอนนี้ก็นอนอยู่ที่โรงพยาบาล...หือ?”

   ตุลาชะงักเมื่อเห็นพาทิศหัวเราะออกมาเบา ๆ ชายหนุ่มมองคนอายุน้อยกว่า แล้วยิ้มให้ ก่อนอธิบาย

   “เธอนี่นะ สมกับเป็นนักเขียนนิยายเลยจริง ๆ มีจินตนาการกว้างไกลดี แต่ถ้าหัดยอมรับความจริงสักหน่อย ฉันว่าเธอคงจะเขียนเรื่องลึกลับได้ดีไม่แพ้อาของเธอเลยทีเดียว”

   คำตอบของพาทิศทำให้ตุลาตกตะลึงแล้วรีบถามกลับ

   “คุณรู้จักอากริชด้วยหรือครับ?”

   พาทิศยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงตอบกลับไป

   “ก็เขานั่นล่ะพาเธอตอนสิบกว่าขวบมาที่คฤหาสน์แห่งนี้ ... คุณจอมเดชเจ้าของคฤหาสน์ของเราน่ะ เขาเป็นแฟนนิยายของอาเธอยังไงล่ะ เขาจึงเชิญอาเธอมาที่นี่ แล้วอาเธอก็พาเธอมาด้วย ...พวกเราก็เลยได้เจอกัน”

   ตุลานิ่งเงียบ ยิ่งเห็นใบหน้าระลึกถึงความทรงจำอันแสนสุขของพาทิศ ก็ยิ่งทำให้เขาต้องก้มหน้ากำมืออย่างสำนึกผิด จนอีกฝ่ายสังเกตได้

   “ไม่ใช่ความผิดของเธอหรอกที่จำมันไม่ได้...แค่เห็นว่าเธอไม่รังเกียจพวกเราอีกครั้ง พวกเราก็ดีใจแล้ว”

   ตุลาเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย แล้วยิ้มตอบ น่าแปลกใจตัวเองอยู่เช่นกัน เพราะเมื่อคืนเขายังกลัวถึงขนาดนั้นอยู่แท้ ๆ

   “แล้วทำไมคุณถึงออกมาตอนกลางวันได้ล่ะครับ”

   พาทิศยิ้มแล้วแนะนำตัวเองอีกรอบ

   “ก็ฉันเป็นพวกซอมบี้ยังไงล่ะ เมื่อคืนเธอก็ได้เห็นแล้วไม่ใช่หรือ?”

   ตุลาชะงัก ไม่อยากจะคิดถึงความทรงจำอันน่ากลัวนั่นเท่าใดนัก แต่เจอแบบนั้นก็ใช่ว่าจะทำใจให้ลืมได้ง่ายอยู่

   “ง่า...ครับ”

   “หึ ๆ ไม่ต้องห่วงอะไรหรอกนะ ฉันยังไม่เข้าขั้นซอมบี้แบบหนังฝรั่งพวกนั้นหรอก ฉันรักษาร่างกายตัวเองอย่างดี ...แต่ก็นั่นล่ะ ก็มีหลุด ๆ ขาด ๆ บ้าง ของมันก็เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลานี่นะ”

   ตุลาพยายามจะยิ้มตาม แต่พอจินตนาการสภาพของพาทิศแบบนั้นเขาก็เผลออดสยองขึ้นมาไม่ได้

   “อีกอย่างที่ดินของบ้านหลังนี้น่ะ มันเป็นที่ดินพิเศษด้วย”

   “พิเศษ?”

   ตุลาทวนคำอย่างสงสัย พาทิศยิ้มให้ แล้วเล่าต่อ

   “ใช่ ...เป็นที่ดินซึ่งมีพลังอาถรรพ์แรงกล้า เหมาะจะเป็นที่อยู่ของพวกภูตผี ปีศาจยิ่งกว่ามนุษย์ ถ้าตามหลักฮวงจุ้ย ที่นี่ก็ทางผีผ่านดี ๆ นี่เอง”

   ชายหนุ่มเงียบกริบ แล้วเผลอกอดอกตัวเองขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างลืมตัว

    “ละ...แล้ว...ทำไม ถึงปลูกบ้านในที่แบบนี้ล่ะครับ”

   “ก็เพราะเป็นความต้องการของนายท่านยังไงล่ะ”

   คำตอบนี้ดังมาจากใครบางคนที่ตุลาจำเสียงได้ แต่พอหันกลับไป เขาก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อเห็นแมวดำที่มีสองหาง กระโดดแผล็วขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ถัดจากที่เขานั่ง ส่วนพาทิศก็ไปหยิบชามใส่นม มาวางตรงหน้าแมวตัวนั้น แมวดำเลียนมไปสักพัก แล้วจึงหันมาทางตุลา ตัวมันสีดำขลับไปทั้งร่าง แต่นัยน์ตาประหลาดนั้นเป็นสีรุ้งอย่างไม่เคยพบในแมวชนิดไหนมาก่อน

     “ตอนที่ท่านมาดูที่ดินเพื่อจะซื้อปลูกบ้าน ท่านก็เห็นแล้วว่าสภาพที่แห่งนี้เป็นยังไง เพราะท่านเป็นคนที่มีประสาทสัมผัสที่หกแรงกล้ามาก ...อีกอย่างก็มีข่าวลือว่า คนซื้อก่อนหน้านั้น ยังไม่ทันสร้างอะไรก็โดนอาถรรพ์ที่ดินเล่นงานกันไปแทบทั้งนั้น ... ตอนนั้นฉันเองก็เป็นหนึ่งในพวกที่ขับไล่มนุษย์ไปเหมือนกัน ...ฉันน่ะเกลียดมนุษย์...แต่ฉันรักนายท่านมาก...หือ? มีอะไรหรือตุล ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”

   อีกฝ่ายเอียงคออย่างสงสัย พาทิศกลั้นหัวเราะ แล้วพยายามอธิบายกับแมวดำ

   “ก็เธอเล่นอยู่ในร่างนี้แล้วพูดจ้อไม่หยุด ตุลก็เลยแปลกใจยังไงล่ะรุ้ง”

   ตุลาหันขวับไปทางพาทิศ แล้วหันมามองแมวดำตรงหน้าอีกครั้งอย่างตื่นตระหนก

   “โอ๊ะ! ลืมไปเลย สวัสดีตุล ฉันเองรุ้งพราย ...ตอนกลางวันร่างของฉันเป็นแบบนี้ล่ะ ตอนกลางคืนถึงจะกลายร่างเป็นมนุษย์ได้”

   “ละ ....แล้วคุณปิ่นล่ะครับ ...เป็นแบบเดียวกันไหม?”

   ตุลาถามต่อ แม้จะตกใจแค่ไหน แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็มีแต่ต้องตั้งสติยอมรับให้ได้เท่านั้น

   “ปิ่นน่ะหรือ...ปิ่นยังหลับอยู่ใน ‘ห้องนอน’ ของเธออยู่เลย นายยังไม่เคยสำรวจคฤหาสน์หลังนี้จนทั่วไม่ใช่หรือตุล กินข้าวเช้าเสร็จแล้วจะไปกันไหม?”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แต่ก็อดสนใจคำชวนนั้นอยู่ไม่ได้ อีกอย่างเวลาเช้าแบบนี้ ความน่ากลัวต่าง ๆ มันก็พลอยลดลงไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว

   “ได้ครับ”

   “จะดีหรือรุ้ง ...ถ้าคนนั้นตื่นขึ้นมาล่ะ?”

   พาทิศเตือน แต่แมวดำสาวรีบแย้งกลับ

   “ไม่ต้องห่วง ฉันไปสำรวจมาแล้ว ‘คนนั้น’ น่ะยังหลับอยู่เลย อีกอย่างทางที่เขาอยู่กับปิ่นอยู่ก็อยู่กันคนละที่ ไม่เป็นไรหรอก”

   ตุลามองทั้งคู่สนทนากันเงียบ ๆ ใจนึกอยากจะแทรกถาม แต่อีกใจก็ต้องเตือนตัวเองให้มีมารยาท ถ้าพวกเขาต้องการเล่าให้ฟัง ก็คงจะเล่าให้เขาฟังไปแล้ว

   “เอ้า! ไปกันได้แล้ว ถ้าสายแดดแรง แล้วมันจะร้อน ถึงในคฤหาสน์หลังนี้และสวนราตรีนั่นจะร่มรื่นตลอดเวลาก็เหอะ แต่แสงข้างนอกมันทำให้ฉันไม่อยากออกไปเจอเสียเลย เพราะมันเล่นร้อนเอาร้อนเอาขึ้นทุกวัน ...มนุษย์เรียกว่าปรากฏการณ์โลกร้อนใช่ไหมแบบนี้”

   “อะ...อืม”

   ตุลาตอบรับคำ ยังคงไม่เคยชินกับร่างแมวพูดได้ จากนั้นเขาจึงหันไปเตรียมจะเก็บจานไปล้าง แต่ก็ยังช้ากว่าพาทิศ

   “ทางนี้ฉันจัดการเอง ตุลไปเล่นกับรุ้งเถอะ... เผื่อจะได้มีไอเดียไว้แต่งนิยายเพิ่มไงล่ะ”

   ตุลาชะงักก่อนโค้งนิด ๆ พึมพำขอบคุณอีกฝ่าย คำพูดของพาทิศเองก็มีเหตุผลพอสมควร หรือว่าเพราะแบบนี้ อาของเขาจึงต้องการให้เขาเช่าอยู่ที่คฤหาสน์ม่านราตรีนี่กันแน่

   รุ้งพรายในร่างแมวดำ กระโดดลงจากโต๊ะ เดินนำชายหนุ่มไป เธอพาเขาไปยังประตูหลังบ้าน ที่ทะลุออกไปยังสวนกว้างด้านหลัง และนั่นยิ่งทำให้ตุลาตกตะลึง เพราะคิดว่าสวนหน้าบ้านนั้นกว้างมากแล้ว แต่สวนหลังบ้านยิ่งกว้างมากกว่า  ที่เขาสามารถเช่าคฤหาสน์หลังใหญ่ขนาดนี้ได้  ถ้าไม่ได้ข่าวลือเรื่องผีดุ และทรัพย์สมบัติที่อาทิ้งไว้ให้ เขาก็คงไม่มีโอกาสได้มาอาศัยอยู่ในที่สุดยอดแบบนี้แน่



   สวนด้านหลังนั้น นอกจากจะมีพุ่มราตรีปลูกไว้เต็มไปหมด ยังมีต้นปีบต้นใหญ่ ๆ หลายต้น ขึ้นแน่นขนัดแผ่กิ่งก้านสาขาปกคลุมให้ร่มเงา จนแสงแดดแทบจะไม่ส่องลงมายังพื้นด้านล่าง มองไปไกล ๆ เห็นบ่อน้ำขนาดย่อมพอ ๆ กับสระว่ายน้ำส่วนตัว  และถัดไปอีกด้าน ยังมีซุ้มนั่งเล่นสีขาว ซึ่งตอนนี้รกทึบไปด้วยต้นราตรีที่พันเลื้อยเต็มไปหมด

   “ตามมาทางนี้ตุล ‘ห้องนอน’ ของปิ่นอยู่ทางนี้”

   แมวดำสาวบอกแล้วเดินนำไปจนถึงบ่อน้ำใหญ่ มันมีสีเขียวครึ้มไปด้วยตะไคร่ มองแทบไม่ออกเลยว่ามีสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่บ้าง และลึกแค่ไหน

   “ระวังนะ ตกลงไปน่ะเผลอ ๆ จะไม่มีโอกาสลอยขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะข้างล่างน่ะสาหร่ายเพียบเลย มันจะพันแข้งพันขาจนนายว่ายขึ้นมาไม่ได้เลยทีเดียว”

   รุ้งพรายขู่ ทำเอาตุลาชะงักแล้วรีบถอยหลังออกห่างจากบ่อไปสองสามก้าว จนแมวดำสาวต้องหัวเราะออกมาอย่างขบขัน

   “รุ้งบ้า...เธอขู่ให้เขากลัวแล้วรู้ไหม”

   เสียงคุ้นหูดังขึ้น แต่มันเหมือนดังมาจากใต้น้ำนั้น ทว่ากลับได้ยินเสียงชัดเจนอย่างน่าประหลาด

   “อ้าว! ตื่นแล้วหรือปิ่น ตื่นมาแล้วก็โผล่ออกมาทักทายกันบ้างสิ ตุลอุตสาห์แวะมาเยี่ยมนะ”

   ปิ่นสุดาไม่ตอบ เสียงก็เงียบไป จนรุ้งพรายในร่างแมวถอนหายใจ แล้วเดินมาบอกเบา ๆ กับตุลาที่ยืนอยู่แถวนั้น

   “ปิ่นเขากลัวว่าถ้าเธอเห็นร่างจริงเขา จะกลัวจนเผ่นหนีไปน่ะสิ”

   ตุลาชะงัก แล้วจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะตอนเขาเห็นรุ้งพรายในร่างแมวพูดได้ เขาก็ยอมรับว่าตกใจอยู่มากเหมือนกัน

   “ง่า...ถ้าไม่น่ากลัวอย่างที่คุณพาทิศทำเมื่อคืน ผมก็พอจะรับได้อยู่แล้วครับ...คุณปิ่นคงไม่ถึงขนาดนั้นใช่ไหมครับ”

   ตุลาทรุดนั่งชันเข่า แล้วบอกกับบางสิ่งในบ่อน้ำ ซึ่งสักพักก็มีพรายน้ำผุดขึ้นมา ก่อนที่ร่างของสาวน้อยผมยาวหยักศกสลวยถึงกลางหลัง ท่อนบนเปลือยเปล่า แต่ได้เส้นผมยาวปิดบังในบางสิ่งที่ชวนให้คนมองหน้าแดงไว้ ส่วนท่อนล่าง ที่เต็มไปด้วยเกล็ดคล้ายปลา ก็แหวกว่ายไหวไปมานิด ๆ

   “งะ...เงือก?”

   “อือ...ปิ่นเป็นเงือกน้ำจืดที่แทบจะสูญพันธุ์หมดแล้ว เพราะโดนมนุษย์ไล่ล่า ทั้งที่เผ่าเงือกเป็นเผ่ารักสงบ และไม่เคยทำร้ายใครก่อนแท้ ๆ”

   รุ้งพรายอธิบายให้ตุลาฟัง แล้วยิ่งเห็นใบหน้าสลดของเด็กสาวขี้อายคนนั้น ก็ทำให้ตุลาต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วก็ยิ้มให้หล่อน

   “คุณปิ่นไม่ต้องกลัวนะครับ ...เพราะผมชอบทานเนื้อมากกว่าทานปลาอยู่แล้ว”

   ปิ่นสุดาชะงัก ก่อนจะหลุดยิ้มน้อย ๆ ออกมา

   “ปิ่นก็เหมือนฉัน กลางวันจะคืนร่างจริง แล้วนอนพักอยู่ที่ของตัวเอง แต่พอกลางคืนพวกเราก็จะออกมาเที่ยวเล่น ในบริเวณคฤหาสน์แห่งนี้ได้อย่างอิสระ แต่บางทีก็มีพวกเซนส์ดีที่ผ่านมาเห็นเข้าเหมือนกัน ก็เลยเอาไปลือกันว่าที่นี่มีผี ...ก็นะ ถึงพวกฉันเป็นผีก็จริง แต่พวกฉันก็ไม่ได้ไปทำร้ายใครก่อนนี่ ...มีแต่มนุษย์นี่ล่ะ ที่ทำร้ายพวกเราก่อน เพียงแค่เพราะเราแปลกแตกต่างไปจากตัวเองเท่านั้น”

   รุ้งพรายบอกด้วยน้ำเสียงขมขื่นเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเนิ่นนานมาแล้ว

   “ก่อนที่ฉันจะมาเจอกับที่ดินผืนนี้ ก่อนที่นายท่านจะสร้างคฤหาสน์ม่านราตรีเพื่อพวกเราขึ้น  ฉันเคยเกือบถูกมนุษย์ควักลูกนัยน์ตาของฉันออกมา เพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นเพชร หรือของวิเศษอะไรสักอย่าง... พวกเขาทำเรื่องโหดร้าย โดยไม่คิดสนความรู้สึกและชีวิตของใครเลยแท้ ๆ”

   “รุ้ง...”

   ปิ่นสุดาเรียกชื่อเพื่อนของเธอเตือนสติ เพื่อไม่ให้ระบายความคับข้องแค้นใจอะไรออกไปมากกว่านั้น เพราะตุลาเองก็ถือว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง

   “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณปิ่น...ผมเข้าใจ ...ผมเองก็อยากฟังเรื่องของพวกคุณ และคฤหาสน์หลังนี้เหมือนกัน ...เพราะผมคิดว่า ผมคงจะเริ่มสนใจสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาแล้วก็ได้”

   ตุลาบอกออกไปอย่างที่ใจของตนคิด เพราะครั้งแรกที่มาเช่าอยู่ก็เพื่อทำตามคำสั่งเสียจากพินัยกรรมของอา สำหรับเขาพอเห็นที่นี่ครั้งแรก เขารู้สึกหวาดกลัวและไม่ชอบใจเอาเสียเลย ทว่าเพียงแค่ผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญชั่วข้ามคืน และได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่ไม่ใช่คนเหล่านี้ มันก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกสนใจ ในสถานที่อยู่อาศัยแห่งใหม่นี้ขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

   “นายนี่เหมือนจะเปลี่ยนไปจากตอนเด็ก...แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่เลยนะ”

   รุ้งพรายบอกแล้วยิ้มให้ แม้จะไม่เห็นรอยยิ้มจากแมวดำตรงหน้า แต่ความรู้สึกที่ตุลาสัมผัสได้ มันบ่งบอกเขาเช่นนั้น

   “ก็ได้... ฉันจะเล่าให้ฟัง เรื่องของพวกฉัน และเรื่องของนายท่าน รวมไปถึงกำเนิดคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้...”

   ตุลาทรุดนั่งขัดสมาธิที่ริมบ่อน้ำ มีปิ่นสุดากึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่แถวริมบ่อ ส่วนรุ้งพรายก็เล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของจอมเดช เจ้าของคนก่อน ที่มีศักดิ์เป็นพ่อสามีของคุณนายแม้นศรี ผู้ให้ชายหนุ่มเช่าบ้านหลังนี้

   “นายท่านเป็นผู้ชายที่ใจดีมาก ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าที่ดินผืนนี้มีอาถรรพ์ เขาจะจ้างหมอผีมาขับไล่ หรือเชิญพระมาทำพิธีไล่เราก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะเข้ามาคุยกับเรา มาถามเราตรง ๆ  และพอรู้เรื่องที่พวกเรามารวมตัวกัน เพราะถูกมนุษย์ไล่มาเรื่อย ๆ จนมาได้ที่ดินผืนนี้เป็นที่หลบอาศัย  นายท่านจึงตัดสินใจสร้างคฤหาสน์ขึ้น โดยไม่ยอมฟังคำทักท้วงของเพื่อนของท่านที่มีวิชาอาคมพอควร  ผู้ชายคนนั้นบอกท่านว่า ที่ดินผืนนี้นั้นอัปมงคล ให้ทำพิธีปัดรังควานขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปเสีย  แต่นายท่านกลับยิ้มอ่อนโยนและบอกกับคนนั้นว่า  สำหรับท่านนั้นจะหาที่อยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ แต่พวกนี้เขาไม่มีที่ไป แล้วจะให้ท่านใจร้ายขับไล่พวกเขาออกไปได้อย่างไร  ผู้ชายคนนั้นจึงเลิกคิดเตือน แล้วจึงช่วยแนะนำการวางผังบ้าน ให้เป็นที่อยู่ซึ่งปลอดภัยทั้งผู้อยู่อาศัย และภูตผีในนี้ เพื่อเลี่ยงไม่ให้นายท่านได้รับผลกระทบของความอาถรรพ์จากที่ดินผืนนี้มากนัก”

   ตุลาฟังสิ่งที่รุ้งพรายเล่า ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกศรัทธาในตัวของจอมเดชมากขึ้น แม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ก็ตาม ว่าเคยได้พบชายผู้นี้มาก่อน

   “พวกเราทั้งหมดตัดสินใจแล้วว่า จะคอยดูแลที่ดินผืนนี้ จะปกป้องคุ้มครองนายท่านจากภูตผีร้ายอื่น ๆ ที่หวังจะมายึดครองที่ดินนี่ ...พวกเราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขมาตลอด นับตั้งแต่คฤหาสน์ม่านราตรีถูกสร้างขึ้น จนกระทั่งนายท่านจากไป...เกือบสิบปีมานี้ พวกเราไม่เคยได้เจอเจ้าของบ้านหลังใหม่ที่เหมือนนายท่านอีกเลย ...ไม่มีใครเห็นพวกเรา ...ไม่มีใครยิ้มให้พวกเรา...ไม่มีใครที่จะพูดคุยกับพวกเรา ได้เหมือนนายท่าน อีกต่อไปแล้ว...”

    รุ้งพรายเล่าไปสะอื้นไปในตอนท้าย ตุลามองร่างของแมวดำสาว แล้วจึงลูบศีรษะของอีกฝ่ายแผ่วเบา

   “ถึงผมจะไม่เหมือนกับเจ้าของคนเก่า ...และถึงผมจะมาอยู่แค่ชั่วคราว... แต่ผมก็จะพยายามนะครับ จะพยายามเป็นเพื่อนที่ดี กับทุกคนที่นี่ ...ผมสัญญา”

   รุ้งพรายกลืนก้อนสะอื้นลงคอ แล้วร่างของแมวสาวจึงเข้าไปไถขาของชายหนุ่ม ส่วนปิ่นสุดาก็จับมือของตุลาไปกุมไว้แล้วก็สะอื้นร้องไห้  ตุลานั้นไม่รู้จะทำยังไงดี จึงได้แต่ปล่อยให้สองสาวร้องอยู่เช่นนั้นสักพัก จากนั้นเขาจึงพยายามชวนคุยเรื่องอื่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ  โดยไม่ทันได้รู้สึกว่า ณ อีกด้านหนึ่งของมุมสวนหลังบ้าน กำลังมีสายตาเย็นชาของใครบางคนจับจ้องมายังที่เขา แต่เมื่อชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัวและหันมา ก็ต้องพบแต่เพียงความว่างเปล่าของซุ้มที่นั่ง ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยพุ่มดอกราตรีเพียงแค่นั้นเอง...

   

   
--- TBC ---

ตอนที่ 3 มาแล้วนะคะ~ หึ ๆ ตอนหน้าขอเตือนว่าแอบมีหลอนนิด ๆ เนาะ 
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 09-07-2011 13:00:28
จิ้มแปะ แล้ววิ่งไปอ่านนน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-07-2011 13:03:38
เข้ามาอ่านตอนนี้ด้วยเหตุผลหลักสองประการคือ
๑. เป็นผลงานของน้องXenon
๒. ข้อความที่บอกไว้ว่าผีไม่น่ากลัว
  แค่ตกใจนิดหน่อยตอนที่ลูกตาของพาทิศหลุดออกมา
แต่ก็มาคิดอีกที แหม..เรื่องผี ก็ต้องมีอะไรแบบผีๆมั่งเดะ เนาะน้องXenon อิ อิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 09-07-2011 13:07:00
รู้ซึงว่ามันมีปมอยู่นะเนียย ลุ้นอ่านต่อไป :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 09-07-2011 13:20:21
2 สาวน่ารักจัง แต่อีก 1 ตนที่เหลือ ท่าทางจะร้ายไม่เบาเนอะ หุหุ  o18
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 09-07-2011 13:21:12
มันจะมีอะไรที่หลอนไปกว่าพาทิศทำลูกกะตาหลุดอีกเหรอ o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-07-2011 14:10:33
แอบอยากรู้ว่าเจ้าของสายตาเย็นชาคนนั้นเป็นใคร

มาต่อไวๆนะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 09-07-2011 14:27:20
เริ่มสนุกขึ้นแล้วสิ คนนั้นนะพระเอกหรือเปล่าน่า  อย่าหลอนมากนะเดี๋ยวนอนมะหลับ o22 o22

มาต่อเร็วๆๆๆนะ สู้ๆๆ  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 09-07-2011 17:12:02

:z3:  :z3:  อยากอ่านตอนต่อไปแล้วจ้า  สายตาเย็นชาคู่นั้นเป็นของใครรรรรรรรรรร 

จิ้มๆๆๆ  คนเขียน  กลับมาต่อไวๆ น้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 09-07-2011 17:45:33
พระเอกคือเจ้าของสายตาเย็นชารึป่าวน้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-07-2011 17:49:41
 o18

ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 09-07-2011 17:53:49
ฟู้ว ยังเจอผีดี โล่งอกไป
แต่ผีอีกตน คงจะต้องเคลียร์กันหน่อยแล้ว

เค้าเจอผีก็คงภูมิตต้านทานต่ำ ตกใจสลบเหมือนกัน
แต่ถ้าผีหล่อๆ ก็โอนะ ไม่สลบ แถมประกบแน่
งานนี้ผีคงจะกลัวเค้าแทน 555
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 09-07-2011 18:47:15
เอร๊ยย อยากอ่านต่ออ่าาาาาาา คนนั้นคือใครรรรร
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 09-07-2011 19:08:06
เรื่องแนวนี้ชอบค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 09-07-2011 20:43:07
คุณผีอีกตนโผล่มาแค่สายตาเย็นชา :a5:
แต่ถึงจะแค่นั้นก็เล่นเอาคนอ่านกังวลแทนตุลแ้ล้วนะเนี่ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 09-07-2011 21:59:45
ตั้งใจรอตอนต่อไป ซอมบี้ตาหลุด แมวดำตารุ้ง เงือกสาวบ่อน้ำจืด

อีก1 จะเป็นอะไรหนอ แวมไพร์ หมาป่า หรือว่า....................................กระหัง ไปดีกว่าก่อนถูกตื๊บ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-07-2011 00:01:49
+1  เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-07-2011 12:08:56
มันตกใจกะตอนที่พาทิศทำตาหลุดนี่แระ 555
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่3 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (09/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 10-07-2011 12:48:20
แหม -- ดีนะที่จั่วหัวว่าผีไม่น่ากลัว ขืนไม่จั่ว แล้วเจอบทนำ อาจจะมีคนโบกมือบ๊ายบาย  แต่ถึงยังไงแนวผี มันก็ต้องมีบรรยากาศให้ชวนขนหัวลุกบ้างล่ะนะคะ ~ ถึงจะเข้ากัน หุๆ

เห็นอย่างนี้ แต่คนเขียนกลัวผีนะคะ   :o8:  คงเขียนอะไรน่ากลัวมากเกินไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวเขียนไปสะดุ้งไปพอดี เพราะนั่งเขียนแบบหลังโล่ง เงียบ ๆคนเดียว เสียด้วยสิ :sad4:

อ้อ แล้วก็ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน ที่ติดตามเพราะเป็นงานของปัดนะคะ  :กอด1:  จะพยายามเขียนงานดี ๆ อ่านแล้วยิ้มได้ มาให้อ่านเรื่อย ๆ ค่ะ  ถ้าผิดพลาดอะไรตรงไหนก็เตือนได้นะคะ เพราะบางทีก็หลงๆ  ลืม ๆ ไปบ้าง ขอบคุณล่วงหน้าค่า

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ  :bye2:

----------------------------





ม่านราตรี
 บทที่ 4



    ตุลากับรุ้งพรายลาปิ่นสุดากลับเข้าบ้าน โดยชายหนุ่มให้สัญญากับเงือกสาวว่าคืนนี้เขาจะยังไม่รีบหลับ และรอคุยกับเธออย่างแน่นอน

   “ปิ่นดีใจมากเลยนะ ที่ได้เจอตุลอีกครั้ง ตอนนายเป็นเด็ก เล่นซนจนพลัดตกน้ำลงไปในบ่อของเธอ เกือบจมน้ำตาย ปิ่นช่วยนายไว้ได้ แต่อาของนายน่ะสิทำหน้าตาน่ากลัวมาก แล้วรีบพานายกลับบ้านทันที ทำให้ปิ่นคิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง แล้วก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่จะได้มีโอกาสเจอนายอีก”

    ตุลาหวนคิดถึงเรื่องเมื่อก่อน แล้วก็ต้องสั่นศีรษะไปมาเบา ๆ

   “ผมจำไม่ได้เลยครับ ...แต่ผมคิดว่าอากริชคงไม่มีเจตนาจะโทษคุณปิ่นหรอกครับ อาเป็นคนดีนะครับ แล้วก็เป็นสุภาพบุรุษมากด้วย ...ถ้าให้ผมเดาคงเพราะกลัวผมไม่สบายมากกว่า เพราะตอนเด็ก ๆ ผมป่วยบ่อยมากเลย เจอฝน เจอแดดแรงหน่อย ก็จับไข้ไปหลายวันแล้ว”

   ตุลาบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุขเมื่อหวนคิดถึงอาที่เขาเคารพรัก จนรุ้งพรายที่ลอบมองอยู่ถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินคำถามของชายหนุ่มตามมา

   “มีอะไรหรือครับคุณรุ้ง?”

   “มะ...ไม่มี  อ๊ะ! เข้าบ้านกันเถอะ ดูเหมือนพาทิศจะเรียกหานายอยู่นะ!”

   ตุลาชะงักแล้วมองไปยังในบ้าน ก่อนจะขมวดคิ้วน้อย ๆ

   “ผมไม่เห็นได้ยินเลยนี่ครับ”

   รุ้งพรายแกว่งไกวหางทั้งสองไปมา ก่อนจะเอ่ยตอบ

   “เคยได้ยินคำว่าหูผีไหม ของจริงเสียงจริงก็อยู่ตรงนี้ไง ...ไปเถอะ เขาไม่ได้เรียกนายตรง ๆ หรอก แต่บอกฉันให้พานายไปหาเขาต่างหาก”

   ตุลายิ้มแห้ง ๆ แล้วพยักหน้ารับก่อนจะเดินตามแมวดำเข้าไปในคฤหาสน์ พอเห็นพาทิศแมวสาวก็กระโดดแผล็วไปอยู่บนโต๊ะหน้าอีกฝ่าย แล้วรีบพูดขึ้นทันที

   “ไง! พาทิศ ฉันพาตุลมาหานายแล้ว นายมีธุระจะพูดกับเขาใช่ไหมล่ะ! พูดเลยสิ!”

   ปีศาจแมวสาวจ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง พาทิศชะงัก ก่อนจะรีบเออออตามน้ำอย่างรวดเร็ว

   “อะ! จริงด้วยสิ อืม...ฉันจะปรึกษาเธอเรื่องกับข้าวของเธอพอดีเลยตุล  ฉันน่ะทำกับข้าวให้เธอกินได้ทุกมื้อ แต่ขาดวัตถุดิบพวกของสด ...หรือถ้าเธอชอบของแห้ง ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก แต่มันจะไม่ดีกับสุขภาพเธอนะ”

   ตุลานิ่งอึ้งกับความห่วงใยเอาใจใส่นั่น แล้วจึงเกาท้ายทอยเขิน ๆ ตามมา

   “ง่า ...ความจริงผมก็ทานปกตินั่นล่ะครับ แต่ผมทำกับข้าวเองไม่ค่อยเป็น ถ้าอย่างนั้นผมจะไปซื้อมาตุนไว้แล้วกันครับ ...แล้วผมต้องซื้ออะไรบ้างล่ะครับ?”

   พาทิศยิ้มให้ ก่อนจะไปบอกให้ตุลาเตรียมกระดาษและปากกามาจด เขาตั้งใจให้ชายหนุ่มซื้อของสดมาตุนเพื่อทำกินสัก 1 อาทิตย์ต่อครั้ง จะได้ไม่ต้องลำบากออกนอกบ้านไปบ่อย ๆ เพราะเดี๋ยวพวกชาวบ้านปากมากพวกนั้น จะเป่าหูชายหนุ่มมาอีก ก็วีรกรรมที่เพื่อนร่วมคฤหาสน์ ‘อีกราย’ ของเขาทำไว้ มันใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่กันล่ะ

   “อืม...แล้วของพวกคุณล่ะครับ จะสั่งอะไรเป็นพิเศษไหม?”

   ตุลาถามขึ้นหลังจากจดรายการอาหารในส่วน 1 อาทิตย์ของตนหมดแล้ว

   “ฉันเอานม นมจืดด้วยนะ ฉันไม่ชอบนมหวาน”

   รุ้งพรายบอกพร้อมกับแกว่งหางทั้งสองของเธอไปมาอย่างอารมณ์ดี ตุลารีบจดรายการลงไป ในขณะที่พาทิศมองปีศาจสาวอย่างเอือมระอา ดูท่ารุ้งพรายจะติดใจตุลาเข้าให้แล้ว ดูจากการเอาแต่ใจที่เกิดขึ้น เหมือนลักษณะนิสัยของแมวที่แสดงต่อเจ้าของไม่มีผิด

   “ฉันน่ะหรือ? ไม่ต้องเผื่อหรอก ส่วนปิ่นก็ไม่ต้อง รายนั้นไม่เรื่องมากเหมือนรุ้งหรอก พวกเราน่ะหาอาหารเองได้อยู่ ...หรือถ้าอยากจะเผื่อ ก็พวกปลาอะไรก็ได้”

   พาทิศบอกเมื่อเห็นสายตาตั้งคำถามของตุลาเหลือบมองตน ตุลาฟังแล้วก็พยักหน้าพลางจดรายการปลาสดเพิ่มไปอีกหนึ่งอย่าง ก่อนจะชะงัก แล้วเงยหน้าถามพาทิศอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงสมาชิกปริศนาที่เขายังไม่เคยพบ

   “แล้วอีกคนล่ะครับ ...เขามีอะไรอยากได้เป็นพิเศษไหม”

   พาทิศเงียบกริบ เช่นเดียวกับรุ้งพราย ก่อนที่ปีศาจแมวสาวจะสะบัดหางไปมาอย่างรำคาญ

   “ไม่ต้องเผื่อหรอก รายนั้นน่ะวิญญาณตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่พวกภูต หรือปีศาจจำแลงแบบพวกฉัน ไม่กินอะไรก็ไม่ตายหรอกน่า!”

   “อะ...ครับ”

   ตุลารับคำ แล้วจึงขอตัวไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวทั้งหมดก่อน และพอลับร่างเจ้าของบ้านชั่วคราวคนใหม่ รุ้งพรายก็ถอนหายใจออกมาดัง ๆ อีกครั้ง

   “เฮ้อ...ทำไมนะ ตุลก็ออกจะเป็นเด็กดีขนาดนี้ ทำไมถึงญาติดีด้วยไม่ได้ ...จริงอยู่ที่นายท่านน่ะสำคัญที่สุด แต่นายท่านก็ไม่อยู่กับพวกเราแล้วนะ…”

   “ไม่เป็นไรหรอก เขาจะต้องเข้าใจและยอมรับในตัวของตุลเข้าสักวัน ...ก็เด็กคนนั้นน่ะ เป็นมนุษย์ที่ดีและเหมือนนายท่านขนาดนั้น”

   รุ้งพรายเหลือบมองเพื่อน แล้วตีหางไปมาก่อนตอบ

   “เหมือนแค่จิตใจดีเท่านั้นนะ แต่เรื่องความฉลาดยังห่างไกลนายท่านอีกเยอะ!”

     “แต่ฉันว่าเขาเป็นเด็กหัวอ่อนก็ดีแล้วนา ว่าแต่เธอเหอะ ระวังอย่าไปแกล้งเขามากนักล่ะ ...ระวังจะเจอ ‘คนนั้น’ เล่นงานกลับเข้าให้”

   พาทิศเตือนปีศาจสาวในท้ายประโยค อีกฝ่ายทำเสียงฮึในลำคอเบา ๆ แต่ก็อดหวั่น ๆ คำเตือนของเพื่อนชายอยู่นิด ๆ ก็ในเมื่อ ‘คนนั้น’ ที่พาทิศบอก แม้จะเป็นเพียงวิญญาณก็จริง แต่ก็ร้ายกาจมากอยู่เหมือนกัน

   “ฉันล่ะเบื่อพวกวิญญาณแต่ละตนนี่จริง  มีแต่พวกเข้าใจยากทั้งนั้น”

   ปีศาจแมวสาวบ่นก่อนอ้าปากหาว แล้วจึงขอตัวไปนอนพักต่อ เพราะความจริงเวลากลางวันคือเวลานอนของเธอ แต่ที่ตื่นมาแต่เช้าก็เพียงเพราะอยากพูดคุยกับตุลานั่นเอง

   

   ตุลาหอบข้าวของพะรุงพะรังกลับคฤหาสน์ ท่ามกลางสายตาสนอกสนใจของชาวบ้านที่มองมา แต่เพราะเห็นชายหนุ่มหิ้วของมากมายเดินกลับ จึงไม่มีใครกล้าทักแม้จะคันปากสักเพียงใดก็ตาม

   “สงสัยต้องซื้อจักรยาน ไม่ก็มอเตอร์ไซด์สักคัน”

   ตุลาพึมพำ แม้ระยะทางจะไม่ไกลมากจากย่านร้านค้า แต่ถ้าต้องหอบของหนักขนาดนี้บ่อย ๆ มีหวังแย่แน่ จากนั้นเขาจึงใช้ไหล่ดันประตูรั้วที่ไม่ได้ล็อกเอาไว้เข้าไป ก่อนจะเดินหิ้วของเข้าไปในบ้านตามปกติ แต่แล้วก็ต้องชะงักฝีเท้า เงยหน้าขึ้นไปมองด้านบนชั้นสอง เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตอาฆาต เกลียดชัง จากใครบางคนบนนั้น

   ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อไม่พบกับสิ่งใด เขาถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะรีบจ้ำฝีเท้าเข้าไปในบ้าน เพื่อหาเพื่อนคุย เพราะถึงพาทิศกับรุ้งพราย จะเป็นจำพวกภูตผีปีศาจ แต่ก็มองออกว่ามาดี ผิดกับจิตมุ่งร้ายที่เขาสัมผัสได้เมื่อครู่ลิบลับ    

   “กลับมาแล้วครับ”

   ตุลาบอกแล้วเดินตรงไปที่ครัว แต่ก็ไม่เห็นพาทิศ เขาเรียกพาทิศ แล้วเรียกรุ้งพราย แต่ก็ไม่มีเสียงใดขานตอบ ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ แล้วตัดสินใจเก็บของสดแช่ตู้เย็น ก่อนจะเดินหาสมาชิกในบ้านที่เขาเพิ่งได้รู้จัก

   “คุณพาทิศ?  คุณรุ้ง?”

   ตุลาเดินออกมาจากห้องครัว เขาเดินผ่านถังผงในครัว แต่ไม่ทันได้สังเกตเห็นเศษกระดาษแผ่นหนึ่ง ที่ถูกขยำทิ้งลงในถังนั่น มันถูกเขียนไว้ด้วยลายมือหวัด ๆ ของพาทิศ ด้วยเนื้อความที่ว่าจะขอกลับไปพักผ่อนที่ห้องใต้ดินก่อน ทว่าคนที่ทำให้มันไปอยู่ในถังใบนั้นกลับหาใช่ชายหนุ่มเจ้าของลายมือแต่อย่างใด

    “แอ๊ด...!”

   เสียงเปิดประตูดังขึ้นจากชั้นบน ทำให้ตุลาชะงักแล้วเหลือบมองขึ้นไป เขาก็ได้เห็นบานประตูห้องหนึ่งแง้มอยู่

   “คุณพาทิศ?  คุณรุ้ง? อยู่บนนั้นหรือเปล่าครับ?”

   ตุลาตะโกนเรียก แต่ก็ยังเงียบ เขากลืนน้ำลายลงคอ แล้วตัดสินใจเดินขึ้นไปหาทั้งคู่ ที่คาดว่าน่าจะอยู่ในห้องนั้น

   “อย่าแกล้งกันสิครับ ...ผมไม่ค่อยชอบแบบนี้เลยนะครับ”

   ชายหนุ่มที่เดินขึ้นไปชั้นบนบอกอุบอิบ เมื่อมายืนอยู่หน้าห้องที่บานประตูถูกเปิดแง้มออก เขาตัดสินใจเปิดเข้าไป แล้วก็ต้องพบกับความว่างเปล่าไร้สิ่งมีชีวิตข้างในนั้น

   “เอ๋? ไม่อยู่หรอกหรือ แล้วทำไม...”

   พอตุลาจะหันกลับไปยังบานประตู เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อมันเกิดปิดเองดังปัง ชายหนุ่มรีบบิดลูกบิดพยายามเปิดออกไปแต่ไม่เป็นผล

   “อะไรกัน! เปิดเดี๋ยวนี้นะ! ไม่ตลกเลยนะ ผมไม่ชอบให้หลอกกันเล่นแบบนี้นะครับ!”

   ตุลาโวยวาย แต่ดูเหมือนจะไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเสียวสันหลังวาบ ขนลุกซู่ เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลดังขึ้นมาจากในห้องน้ำ ซึ่งอยู่ภายในห้องนอนใหญ่ห้องนี้

   “โธ่โว้ย!”

   ชายหนุ่มสบถกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด ลำพังถูกขังอยู่ในห้องแบบนี้ เขาก็แทบจะประสาทเสียอยู่แล้ว โชคดีที่เป็นตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่อย่างนั้นเขาคงคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิมแน่

   “ช่วยไม่ได้!”

   ตุลาพึมพำเพราะขืนปล่อยให้น้ำไหลต่อไป เขากลัวว่าค่าน้ำเดือนนี้คงต้องจ่ายหนักกว่าเดิมแน่ ชายหนุ่มตัดสินใจเดินไปที่ผ้าม่านเปิดมันออก ปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้องให้เต็มที่ ห้องนี้ก็มีประตูบานกระจกติดระเบียงเช่นเดียวกับห้องเขา แต่วิวตรงระเบียงห้องนี้ จะเห็นบริเวณของสวนหลังบ้านแทบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนของซุ้มดอกราตรี และบ่อน้ำที่ปิ่นสุดาอาศัยอยู่ 

    พอแสงสว่างเข้ามายังห้อง ตุลาก็เริ่มใจชื้น เขาเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปและพบกับความว่างเปล่า เจ้าตัวค่อย ๆ เหลือบไปมองอ่างล้างหน้า ที่มีน้ำไหลลงมาจากก๊อก ก่อนจะตัดสินใจหมุนปิดอย่างรวดเร็ว ทว่าเพราะเจ้าดอกราตรีที่ค่อย ๆ ร่วงหล่นลงมาจากบนเพดาน และตกลงมายังอ่างล้างหน้านั่น ก็ทำให้มือของชายหนุ่มที่ปิดน้ำเรียบร้อย ชะงักค้างจับก๊อกเอาไว้เช่นนั้น

   “มะ...ไม่ใช่เรื่องตลกเลยนะครับ ...ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ชอบอะไรแบบนี้”

   ตุลาบอกเสียงตะกุกตะกัก มือเท้าสั่นไปด้วยความกลัว ก่อนจะร้องจ๊ากดังลั่น เพราะนอกจากดอกราตรีแล้ว ยังมีเส้นผมยาวร่วงหล่นลงมาจากเพดาน ตกลงมายังอ่างล้างมือทีละกระจุก

   ชายหนุ่มไม่คิดจะแหงนหน้าขึ้นไปมองบนเพดาน เขารีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำ ล้มลุกคลุกคลาน หนีไปที่ระเบียง ก่อนจะตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นร่างของหญิงสาวผมยาวถึงกลางหลัง ในชุดกระโปรงวันพีชยาวคลุมเข่าสีขาวทั้งชุด ใบหน้าซีดเผือด ลอยออกมาจากห้องน้ำ ตามเขามา

   “ไม่ยกให้ใครเด็ดขาด...คฤหาสน์หลังนี้ เป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น...”

   น้ำเสียงเยียบเย็นดังขึ้น แสงแดดที่เคยส่องสว่างเริ่มหายไปเพราะเมฆมืดครึ้มที่ลอยมาบดบังดวงอาทิตย์ เสียจนบรรยากาศยามนี้ ราวกับกลายเป็นเวลายามเย็นแทน

   “คุณ...สมาชิกอีกคน ที่คุณพาทิศ กับคุณรุ้งพรายบอกสินะ...ที่ว่าเป็นวิญญาณ...”

   ตุลาพยายามทำใจดีสู้ผี ทั้งที่แข้งขายามนี้แค่ยืนก็จะไม่ไหว เขาถอยมาจนหลังพิงราวระเบียง ในขณะที่วิญญาณหญิงสาวลอยเข้ามาหาเขาช้า ๆ

   “ไม่ยอมรับ...ฉันไม่ยอมรับมนุษย์อย่างแก...นอกจากเขาแล้ว ฉันไม่ยอมรับใครทั้งนั้น!”

   นัยน์ตาดำขลับของหญิงสาวเบิกกว้างกลายเป็นตาขาวเหลือก ก่อนที่ร่างนั้นจะลอยพุ่งเข้ามาบีบคอของตุลาหมับ ตุลาพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้น  นึกถึงคำพูดของพาทิศขึ้นมา เรื่องที่ดินแสนอาถรรพ์ผืนนี้ แม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงร่างวิญญาณก็ยังสามารถสำแดงฤทธิ์ทำร้ายเขาได้ทั้งที่เป็นเวลากลางวันแบบนี้ก็ตาม

   “หยุดนะราตรี! ห้ามทำร้ายเขานะ!”

   เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาจากหลังคาบ้าน รุ้งพรายในร่างแมวดำกระโจนพุ่งใส่กระแทกร่างวิญญาณของผีสาว จนต้องผละมือออกจากลำคอของตุลา ชายหนุ่มไอคอกแคกทันทีที่เป็นอิสระ ส่วนวิญญาณในชุดขาวหันมาทางปีศาจแมวสาวขวับ พลางตะคอกใส่อย่างฉุนเฉียว

   “อย่ามาขวางฉันนะรุ้งพราย! ผู้ชายคนนี้จะมาแทนที่เขา ...ฉันไม่ยอมหรอก ...ฉันไม่มีวันยอมเด็ดขาด!”

   “เธอมันบ้าราตรี! ตุลไม่ได้คิดจะมาเป็นตัวแทนนายท่าน  เขาไม่ได้คิดจะมาเป็นตัวแทนของใคร เขาเป็นสมาชิกใหม่ของม่านราตรีเหมือนกับพวกเราต่างหาก!”

    รุ้งพรายตวาดกลับ แต่ดูเหมือนผีสาวจะไม่ยอมฟังที่หล่อนบอก เธอสะบัดมือเรียกสายลมวูบใหญ่ พัดร่างของปีศาจแมวสาวลอยไปกระแทกกับรั้วระเบียงดังผลัก จนตุลาตกใจแล้วรีบวิ่งปราดเข้าไปห้ามขวางหน้า ก่อนที่ผีสาวจะลงมือซ้ำอีกครั้ง

   “อย่านะ! พวกคุณเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรือครับ ทำไมต้องมาทะเลาะกันเองด้วย!”

   “เพราะแกไงล่ะ! เพราะแก จะมาแย่งที่ของเขาไป...แกจะล้างสมองทุกคนให้ลืมเขา แล้วยึดคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้ไป ...ฉันไม่ยอม...ฉันไม่ยอมให้ทุกคนลืมเขาคนนั้นเด็ดขาด!”

   ผีสาวบอกแล้วกรีดร้องเสียงแหลม เสียงของเธอทำให้ปิ่นสุดาลืมตาตื่นจากก้นบ่อ แล้วพุ่งขึ้นมาด้วยความตกใจ ส่วนพาทิศที่หลับอยู่ในห้องใต้ดินก็เบิกตากว้าง แล้วรีบลุกขึ้นมายังต้นตอของเสียงนั้นทันที

   “อย่าทำเขานะราตรี! อย่าทำเขา!”

   ปิ่นสุดาตะโกนห้ามจากบ่อน้ำ เมื่อเห็นราตรีตรงเข้าไปบีบคอหิ้วร่างของตุลาลอยขึ้น เตรียมจะทิ้งลงไปจากระเบียงด้านล่าง

   “เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะราตรี ปลดเขตแดนของเธอซะ!”

   เสียงทุบประตูดังตึงตังจากด้านนอก พาทิศกัดฟันกรอด แล้วจึงตัดสินใจปลดปล่อยพลังวิญญาณของตน พร้อมกับกระแทกบานประตูนั้นไปเต็มแรง จนมันหลุดกระเด็น

   “ปล่อยตุลเดี๋ยวนี้นะราตรี!”

   ราตรีชะงัก ก่อนจะค่อย ๆ หมุนคอของตัวเองมามองคนห้าม พลางแสยะยิ้มให้

   “ได้สิ...ฉันจะปล่อยเดี๋ยวนี้ล่ะ”

   พาทิศตาเบิกกว้าง พยายามพุ่งตรงไปยังร่างที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แต่กำลังตกลงไปยังชั้นสอง ปิ่นสุดาปิดตากรีดร้อง ส่วนรุ้งพรายพยายามฝืนลุกขึ้นไปช่วย แต่แค่จะขยับเธอก็ไม่ไหวเพราะความจุกจากการถูกเล่นงาน

   “ไม่นะตุล!”

   รุ้งพรายร้องตะโกนลั่น ก่อนจะชะงักเช่นเดียวกับวิญญาณและปีศาจตนอื่น เพราะสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณมหาศาลที่ถูกสร้างเป็นเบาะนุ่มหนุนรองให้ตุลาตกลงมาอย่างปลอดภัย

   “แก...เป็นใคร...”

   ราตรีมองร่างของก้อนพลังวิญญาณที่ก่อตัวกันขึ้นมาเป็นร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง อีกฝ่ายเงยหน้ามองราตรีแล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะไปมา

   “ไม่ไหว ๆ ที่ดินนี่อาถรรพ์เกินไปจริง ๆ ขนาดวิญญาณอย่างเธอยังถูกมันครอบงำ จนจำฉันไม่ได้เสียอย่างนั้น”

   ตุลาพยุงกายขึ้นนั่งด้วยความมึนงง เขามองตามไปยังต้นเสียงที่ช่วยชีวิตเขา และแม้จะเห็นเพียงแค่แผ่นหลัง แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มน้ำตาซึม แล้วพึมพำเสียงแผ่ว

   “อากริช...นั่นอาใช่ไหมครับ...”

   ร่างสูงเพรียวของวิญญาณหนุ่มชะงักเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันมายังเสียงเรียกชื่อตน ใบหน้าอ่อนเยาว์แย้มยิ้มปราณีส่งให้กับผู้เป็นหลาน ก่อนจะหันกลับไปมองวิญญาณสาว ที่บัดนี้เริ่มปลดปล่อยพลังด้านลบอันชวนกดดันแผ่ซ่านไปทั่วคฤหาสน์ นัยน์ตาเหลือกขาวจับจ้องมองตรงมายังร่างของตุลาเขม็ง

     “ไม่ยอมหรอก...ไม่ยอมให้ใครมาแทนที่เขาทั้งนั้น ...ถ้าแกยังยืนกรานจะอยู่ที่นี่อีก ....ฉันจะฆ่าแกเอง!”

   

   
--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 10-07-2011 13:00:23
อร๊ายยย กรี๊ดด อยากอ่านต่อออออออแล้วววว

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 10-07-2011 13:17:34
กำลังสนุกเลย
มาต่อไว ๆ นะจ๊ะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-07-2011 13:28:23
จะเป็นยังงัยต่ออะลุ้นลุ้น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 10-07-2011 13:41:20
อิอิ ลุ้นมากมาย 

รอตอนต่อไปนะคร้าบ o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-07-2011 13:52:34
ราตรีนี่รักเจ้าของคนแรกใช่มั้ย แล้ววิญญาณเจ้าของคนแรกไปไหนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-07-2011 13:53:34
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 10-07-2011 14:09:34
ผิดคาด คนนั้น ไม่ใช่พระเอก  เรื่องกำลังสนุกเลย  รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 10-07-2011 14:12:27
ลุ้นๆ อยากอ่านต่ออ่า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 10-07-2011 14:33:43
ชอบมากเลยครับ แนววิญญานตื่นเต้นดี
ราตรีก็เป็นผีผู้หญิงอีก
ยังไม่เห็นวี่แววจะ Y เลย
(ยังไม่ต้องรีบนะครับ ว่าเรื่อยๆ ตาม plot)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 10-07-2011 15:17:49

แป่วววว....คนนั้นไม่ใช่ผู้ชาย  555+
รอๆ พระเอกออกโรง (หรือโลงฟะ  :laugh: )
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 10-07-2011 15:22:39
กำลังสนุกมาต่อวๆนะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-07-2011 15:49:25
เริ่มมีเหตุการณ์ต่างๆออกมาให้เราใคร่รู้เสียแล้วว่า จะดำเนินไปอย่างไร
อยากรู้จริงๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 10-07-2011 16:01:21
เนื้อเรื่องที่อ่านชวนติดตามยิ่งอ่านยิ่งสนุก o13

 
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 10-07-2011 16:27:22
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่หลอนนะ แต่มาหลอนตอนผมร่วงลงมาเป็นกระจุก!นี่หละ(หมดหัวรึยางงงง)

รู้สึกได้ถึงความน่ารักของเหล่าผี
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 10-07-2011 16:56:08
อะแว๊กกกก เดาผิด ช่างหน้าอับอาย

เห็นเปิดตัวช้า นึกว่าจะเป็นพระเอก ที่ไหนได้ ผีชะนีแถมน่ากลัวอีกต่างหาก

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 10-07-2011 19:35:06
น้ำตาซึมตามตุล
อากริชคอยปกป้องตุลอยู่จริงๆด้วย  :กอด1:
ส่วนเจ้ราตรี น่ากลัวอ่ะ ไหนว่าไม่น่ากลัวไง :m26:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 10-07-2011 20:34:04
ิอ่านถึงตอนที่ตุลาถูกหลอกแล้วอะ ฮาีดี  :laugh: เรื่องนี้ออกแนวผีฮา
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 10-07-2011 20:44:17
ง่า ลุ้นมากมาย ผีเรื่องนี้ไม่ฮาอย่างเดียวนี่นา  o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Final_love ที่ 10-07-2011 22:08:29
แบบว่า...

สนุกมากค่ะ

แต่ชักจะกังวลเรื่องพระเอก

มองไปก็มีแต่ผี! ผี! และผี! :m15:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 10-07-2011 23:32:29
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ตับฉับเลยเหรอ กำลังลุ้นเลยอะ :serius2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 4 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (10/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 11-07-2011 00:09:48
อ้าว อีกตนเป็นผีชะนีซะงั้น :a5:
นึกว่าเป็นผีพระเอก เห็นไม่เปิดตัวผีตัวสุดท้ายซะที
ราตรีน่ากลัวจริงๆ หลอกตุลซะคนอ่านขนลุกซู่เลย
อากริชมาช่วยตุลไว้อีกแล้ว
เปิดตัวพระเอกซะทีเถอะจ้า ลุ้นจะแย่แล้วเนี่ย
 :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 11-07-2011 00:24:41
เป็นไงคะตอนที่แล้ว ผิดคาดกันสินะ คิดว่าเป็นผีหนุ่ม หุ ๆ เรื่องนี้แต่แรกเน้นจะเขียนใส ๆ  บรรดาสาว ๆ ก็เลยเยอะไปนิด (แต่แน่นอน พวกเธอไม่ใช่นางเอก แต่เป็นบอดี้การ์ดและพี้เลี้ยงของน้องตุลต่างหาก)  :laugh:

ส่วนใครลุ้นพระเอก .....ถ้าจะบอกใบ้ว่า เขาออกมาแล้วล่ะ จะเป็นยังไง หุ ๆ ..... เดาได้ไหมคะว่าใคร?

เอาน่า เรื่องนี้ยังอีกยาวไกล นาน ๆ จะเขียนอะไรใส ๆ สักทีน้อ เลยไม่ค่อยได้เน้นเรื่องความรักระหว่าง หนุ่ม-หนุ่ม นัก (แต่รับรองว่ามีหวาน ๆ ให้ชวนยิ้มแน่ค่ะ) หวังว่าคงจะยังตามอ่านกันอยู่นะคะ  :o8:

ป.ล. ตอนแรกก็ลังเลกับพระเอกคนนี้ แต่คิดไปคิดมา เอาน่า ....เหมาะดี(มั้ง) หุ ๆ

------------------------------------

ม่านราตรี
 บทที่ 5



    ผีสาวตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว ทางด้านร่างโปร่งใสของกริชยกยิ้มเย็นชานิด ๆ ที่มุมปาก แล้วจึงตอบกลับ

   “ถ้าเธอจะทำอย่างนั้น ก็ต้องผ่านฉันไปก่อน... ถ้าผ่านได้ล่ะนะ”

   กริชกระโดดเพียงเบา ๆ ก็ลอยไปอยู่ตรงหน้าของวิญญาณสาวอย่างน่าอัศจรรย์ ชายหนุ่มจับคอเสื้อของอีกฝ่ายกระชากเข้ามา แล้วเหวี่ยงเจ้าหล่อนลงไปกับพื้นด้านล่าง

   แผ่นดินสะเทือนพร้อมเสียงดังตุบ เวลาเดียวกับที่ร่างวิญญาณตกลงมากระแทกกับพื้นเต็มแรง จนเกิดรอยยุบลงไป ราตรีกระอักออกมาด้วยความจุกและเจ็บปวด

   “อะ...อากริช...”

   ตุลาเรียกชื่ออาของเขาเสียงสั่น พลางกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเห็นอาของตนลงมือรุนแรงกับอีกฝ่ายขนาดนั้น และพอราตรีขยับกาย กริชก็พุ่งลงมา แล้วจ่อฝ่ามือเรืองแสงที่ใบหน้าของหญิงสาวที่ตอนนี้ซีดเผือด เพราะความต่างชั้นกันเกินไปกับอีกฝ่าย

   “ตุล! ห้ามอานายทีเร็ว เขาจะฆ่าราตรีทิ้งแล้ว!”

   เสียงของรุ้งพรายตะโกนเรียกชื่อชายหนุ่มที่นั่งนิ่งอึ้งอยู่กับที่อย่างตกใจ ส่วนพาทิศนั้นมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างลุ้นระทึก เขาไม่ได้ห้ามเช่นรุ้งพราย เพราะรู้สึกถึงการตัดสินใจบางอย่างที่ชายคนนั้นมี และความผิดปกติของวิญญาณเพื่อนสาวที่เกิดขึ้น

    กริชนั้นเหลือบไปมองร่างแมวดำที่ตะโกนขอร้องหลานชายของเขา ริมฝีปากกระตุกยิ้มนิด ๆ ก่อนจะแสร้งทำเป็นเฉยชาตามมา

   “ช่วยไม่ได้... ใครใช้ให้เธอคิดร้ายกับหลานชายของฉัน ...วิญญาณร่อนเร่อย่างเธอ จะมีฤทธิ์มาสู้กับวิญญาณคุ้มครองมนุษย์อย่างฉันได้ยังไงกัน”

   จากนั้นฝ่ามือเรืองแสงก็ค่อย ๆ เลื่อนมาที่รำคอเรียวแล้วลงมือเพิ่มแรงบีบมันทีละน้อย

   “อาครับ! อย่าฆ่าเธอเลยครับ ได้โปรดเถอะครับ!”

   ตุลาพยายามจะเข้ามาห้าม แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อขาทั้งสองข้างขยับไม่ได้อย่างใจคิด

   “ผู้หญิงคนนี้จะฆ่าตุลอยู่แล้วนะ ถ้าอาไม่มาช่วย ป่านนี้ตุลได้กระดูกออกนอกเนื้อไปบ้างแล้วล่ะ”

   กริชพูดโดยไม่หันไปมองหลานชายตัวเอง ตุลาเงียบกริบสักพัก แต่ก็ยังคงตัดสินใจขอร้องอาของตนต่อไป

   “ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงโกรธเกลียดผมขนาดนั้น ...แต่เรื่องที่เขารักคฤหาสน์หลังนี้ และรักเจ้าของคนเก่าแค่ไหน ผมเข้าใจดีครับ...ผมเข้าใจดี...”

   ตอนที่ถูกบีบคอเกือบตายนั้น ตุลารู้สึกเหมือนตัวเองจะเห็นภาพเลือนรางบางอย่าง ภาพนั้นเป็นภาพของหญิงสาวที่กำลังทำร้ายเขา แย้มยิ้มอย่างอ่อนโยนใกล้ ๆ ชายชราคนหนึ่ง เป็นรอยยิ้มที่แสนงดงามอย่างที่ตุลาไม่เคยได้เห็นจากใครมาก่อน

   กริชชะงักมือของตน เขายิ้มน้อย ๆ กับตัวเองเมื่อได้ยินคำพูดของหลาน แต่มือที่บีบคอของหญิงสาวกับบีบแน่นไปอีก เสียงปิ่นสุดากับรุ้งพรายตะโกนร้องห้าม แม้แต่พาทิศตอนนี้ก็เริ่มเฉยรอดูสถานการณ์ไม่ไหว เมื่อเห็นสภาพทรมานของเพื่อนสาวที่อยู่ด้วยกันมากว่าสิบปีเบื้องล่าง

   และก่อนที่คนอื่นจะทำอะไรลงไป ร่างของราตรีก็กระตุกเฮือก แล้วจึงมีควันสีดำลอยออกมาจากปากของหล่อน กริชยิ้มที่มุมปากนิด ๆ แล้วจึงปล่อยมือที่ลำคอของผีสาว เปลี่ยนไปจับหมับที่ควันดำนั้น ก่อนลากมาให้พ้นจากร่างที่นอนนิ่งอยู่

   “นี่ล่ะตัวการที่ทำให้เธอคลุ้มคลั่งไป ...พวกเธอก็เหมือนกัน ถ้าไม่ระวังตัวให้ดี จะถูกอาถรรพ์ของที่ดินผืนนี้กลืนกินเอาได้ และแปรเปลี่ยนพวกเธอให้กลายเป็นวิญญาณร้ายไปเช่นนี้”

   พอกล่าวจบกริชก็ใช้มือเรืองแสงของตนบีบหมับที่กลุ่มก้อนสีดำ มันส่งเสียงกรีดร้องทรมาน แล้วค่อย ๆ สลายลงไปในที่สุด จากนั้นตุลาก็เริ่มขยับได้ เขาวิ่งมาดูราตรี แล้วเหลือบมองผู้เป็นอาด้วยสายตาตั้งคำถาม

   “ผู้หญิงคนนั้นปลอดภัยแล้ว อาก็แค่ชำระล้างความอาฆาตแค้น ที่ทำให้หล่อนกลายเป็นวิญญาณร้ายทิ้งไปเท่านั้น  แต่ถ้าไม่ทำรุนแรงแบบนี้ เจ้านั่นก็ไม่ยอมออกมาให้จับตัวง่าย ๆ หรอก”

   ตุลานิ่งเงียบฟัง เขาจ้องร่างวิญญาณของชายหนุ่มตรงหน้านิ่ง แล้วหมายจะตรงเข้าไปจับแขนร่างนั้น แต่ก็คว้าได้แค่เพียงความว่างเปล่า เมื่อร่างของกริชขยับหนีถอยไป

   “อากริช...ทำไมล่ะครับ...”

   น้ำเสียงของชายหนุ่มสั่นเครือ นัยน์ตาสีดำคลอวาววับไปด้วยหยาดน้ำใส ร่างวิญญาณของชายหนุ่มแย้มยิ้มอ่อนโยน ก่อนจะบอกกับผู้เป็นหลาน

   “ยิ่งจับต้องตัวตนได้ก็ยิ่งอาลัยอาวรณ์กันมากเปล่า ๆ ... ถ้าไม่เพราะมีอันตรายเกิดขึ้นกับตุล อาก็ไม่อยากปรากฏกายให้ตุลเห็นแบบนี้หรอก”

   “ทำไมล่ะครับ ...”

   ตุลาถามเสียงแผ่ว เพราะตลอดเวลาเขานั้นอยากจะเจอกริชมาตลอด แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายตายไปแล้วก็ตาม

   “เพราะตอนนี้อาเป็นเพียงวิญญาณคุ้มครองของหลานเท่านั้น และอาก็รู้ดีว่าหลานน่ะกลัวผีขนาดไหน อาพูดถูกไหม”

   ตุลาชะงัก ก่อนที่น้ำตาใส ๆ จะเริ่มไหลอย่างหยุดไม่อยู่

   “ผมกลัวผีก็จริง...แต่ถ้าเป็นอากริช ...ต่อให้มาในรูปร่างแบบไหน ...ผมก็ไม่กลัวหรอก!”

   “แน่ใจนะ?”

   กริชย้อนถาม แล้วร่างกายจึงค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นเน่าเฟะ พุพอง จนรุ้งพรายและปิ่นสุดาที่มองอยู่ยังร้องอี๋ ส่วนพาทิศต้องเบือนหน้า ฝ่ายตุลาตาเบิกกว้าง เขาถอยหลังไปก้าวสองก้าวด้วยความหวาดกลัว แต่พอเห็นรอยยิ้มเศร้า ๆ ของผู้เป็นอา ก็ทำให้เขากัดฟันแน่น แล้วพุ่งตรงไปกอดร่างนั้นไว้

   “ถึงยังไงผมก็รักอามากนะครับ ...ถ้าเลือกได้ ผมอยากให้อาอยู่ แล้วผมตายแทนด้วยซ้ำ!”

   กริชชะงักกึก ก่อนจะกลับกลายเป็นเป็นรูปลักษณ์แบบเดิม แล้วจึงใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ศีรษะของหลานชายสุดที่รักของตนอย่างอ่อนโยน

   “อย่าพูดแบบนั้นอีกนะตุล ...ชีวิตของตุลมีค่ามาก ตุลเป็นที่รักของพ่อ ของแม่ และของอา ...ดังนั้นตุลต้องรักษาชีวิตตัวเองให้ดี อย่าคิดไปตายแทนใครง่าย ๆ รู้ไหม?”

   “แต่อาเป็นที่รักยิ่งกว่าตุล... ทุกคนที่รู้จักอา รักอาทั้งนั้น ...แล้วก็ไม่อยากให้อาต้องตายเหมือนกัน”

   ตุลาสะอื้นตอบ กริชยิ้มน้อย ๆ แล้วจับร่างของอีกฝ่ายดันออก ก่อนจะเอ่ยทวงสัญญาบางสิ่ง

   “จำได้ไหม ใครเคยสัญญากับอาว่า ถ้าอาเขียนนิยายไม่ได้อีกต่อไป เขาคนนั้นจะเขียนนิยายแทนอาน่ะ”

   ตุลาชะงัก แล้วพยักหน้ารับ   

    “จำได้ครับ ผมรับปากกับอาไว้ ว่าจะเขียนนิยายแทนอาให้ได้”

   “ดี...เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดมากเรื่องอดีต เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ตอนนี้ให้ตุลคิดถึงแค่เรื่องอนาคตก็พอ เข้าใจไหม”

   ตุลาปาดน้ำตาของตน ก่อนจะแย้มยิ้มพยักหน้ารับคำหนักแน่น

   “ครับ!”

   “เด็กดี...”

   กริชจับหัวของอีกฝ่ายโยกไปมาอย่างเอ็นดู แล้วจึงมองสภาพรอบ ๆ ของคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้

   “ที่นี่มีพลังวิญญาณแรงจังนะ แม้แต่อาเองก็ยังสามารถออกมาให้ตุลเห็นรูปลักษณ์และสัมผัสร่างของตุลได้ ...แต่กลับกันก็ต้องระวัง ถ้าอ่อนไหวง่าย ก็จะโดนเล่นงานได้เหมือนผู้หญิงคนนี้”

   พอกริชพูดถึงราตรีก็ทำให้ตุลาขอผละไปดูอาการหล่อน ส่วนรุ้งพรายพอเริ่มขยับได้ก็กระโดดลงมาด้านล่าง ตรงไปหาเพื่อนสาว เช่นเดียวกับพาทิศ ส่วนปิ่นสุดานั้นคอยมองดูอยู่ห่าง ๆ เพราะเธอขึ้นจากบ่อตอนกลางวันไม่ได้

   “ราตรี เป็นไงบ้าง?”

   รุ้งพรายถามอย่างเป็นห่วง และเหลือบมองกริชอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะชายหนุ่มลงมือรุนแรงกับเพื่อนของเธอค่อนข้างหนักเอาการ

   “คุณราตรีครับ...ได้ยินผมไหมครับ?”

   สัมผัสอันอบอุ่นผ่านมือของตุลา ทำให้ร่างของวิญญาณสาว ค่อย ๆ ปรือตาฟื้นขึ้นมามอง เธอเห็นตุลาและกริชที่ยืนอยู่ข้าง ๆ  พลันในความทรงจำของเธอ ก็ฉายให้เห็นภาพของเด็กชายตัวเล็ก ๆ ซ้อนทับร่างของตุลาอีกที

   “เด็กน้อยตอนนั้น...คือเธอเองหรอกหรือ”

   “ราตรีเธอจำเขาได้แล้วสินะ!”

   รุ้งพรายบอกอย่างดีใจ วิญญาณสาวดันกายลุกขึ้นนั่งแล้วคิดทบทวนกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอ ก่อนจะก้มหัวขอโทษกับกริช

   “ขอโทษค่ะ...ที่ทำเรื่องร้ายกาจกับหลานของคุณลงไป ...ขอโทษจริง ๆ”

   ท่าทางอ่อนโยนสุภาพ ผิดเป็นคนละคน ทำให้ตุลาเผลอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตามมา แล้วเอ่ยขัดขึ้น

   “ผมไม่เป็นไรครับ ยังปลอดภัยครบสามสิบสอง เพราะฉะนั้นคุณราตรีก็อย่าโทษตัวเองเลยนะครับ”

    “หลานฉันเขาเป็นสุภาพบุรุษเหมือนฉันนี่ล่ะ เพราะฉะนั้นเธอก็ไม่ต้องคิดมากนักหรอก”

   รุ้งพรายเหลือบมองพลางค้อนขวับให้กริชอย่างหมั่นไส้ เพราะสุภาพบุรุษที่ว่าเล่นงานเพื่อนของเธอหนักเสียจนเธอคิดว่าเขาจะฆ่าเพื่อนของเธอจริง ๆ ด้วยซ้ำ

   “เป็นแบบนี้นานแล้วสินะ ราตรี พวกเราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า อาถรรพ์ที่ดินผืนนี้จะเล่นงานให้เธอเปลี่ยนไปได้ ...ตอนอยู่กับคุณจอมเดช ก็ไม่เคยเกิดอะไรขึ้นแท้ ๆ”

   พาทิศพูดขึ้นบ้าง เขาฉุดร่างเพื่อนสาวให้ลุกขึ้นยืน ร่างวิญญาณของราตรีไม่ได้บอบช้ำอันใดนักอย่างที่น่าห่วง ตรงกันข้ามกันดูสดใสผิดหูผิดตา ต่างจากเมื่อหลายปีก่อน

   “ฉันเองก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน ...รู้แต่ว่า ยิ่งคิดถึงเขา ก็ยิ่งเจ็บปวด  อยากเจอเขาอีกสักครั้ง ...ถึงเป็นไปไม่ได้ ก็ขอให้ความทรงจำเก่า ๆ ไม่ถูกรบกวนหรือทำลายลงไปก็ยังดี ...ฉันอยากเก็บความสุขที่อยู่กับเขาไว้กับตัวเองแบบนี้ ...ไม่อยากให้มันเปลี่ยนแปลงไป ...พอคิดแบบนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าสติของตัวเองจะเริ่มรางเลือนลงทุกที จนสุดท้ายก็เผลอทำในสิ่งที่ไม่น่าอภัยลงไป หลายต่อหลายครั้ง”

   ราตรีบอกกับเพื่อนของเธอ แล้วร้องไห้อย่างเสียใจ ตุลาพอเห็นเช่นนั้นก็ทำอะไรไม่ถูก กริชยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของหลานชายของตน

   “คุณจอมเดชน่ะ แต่ไหนแต่ไรก็ปรารถนาให้พวกเธอทุกคนมีความสุข ถึงแม้จะไม่ใช่มนุษย์ แต่ทุกคนก็คือครอบครัวของเขา ฉันว่าเขาคงไม่ต้องการให้พวกเธอจมทุกข์กับความทรงจำเก่า ๆ  แต่ต้องการให้พวกเธอร่วมกันสร้างความทรงจำใหม่ ๆ ที่แสนสุขร่วมกันตลอดไปมากกว่า ...”

   กริชยังคงจำได้ดีถึงเรื่องที่เคยได้สนทนากับจอมเดชเมื่อสิบปีก่อน ชายชราผู้นั้นมอบความรักให้กับภูตผีปีศาจเหล่านี้ ดุจดังเป็นครอบครัวเดียวกัน ด้วยความรู้สึกจากหัวใจของเจ้าตัวอย่างแท้จริง

    “ฉันไม่ได้บอกให้พวกเธอลืมเขา แต่ฉันอยากให้พวกเธอมีความสุขให้มาก ๆ เผื่อเขาที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับมันอีกต่อไปแล้ว ...”

   ราตรีเงยหน้าฟังคำพูดอันอ่อนโยนของกริช ก่อนจะน้ำตาไหลพราก พลางพยักหน้ารับรู้  รุ้งพรายกับปิ่นสุดานั้นนิ่งเงียบรับฟังน้ำตาซึม ส่วนพาทิศแย้มยิ้มเศร้า ๆ ก่อนจะกล่าวขอบคุณชายหนุ่มแผ่วเบา



    ทางด้านตุลาเฝ้ามองผู้เป็นอาอย่างปลาบปลื้มไม่วางตา ก่อนจะรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาเล็กน้อย เขาวูบไปเกือบจะล้มฟาดพื้น แต่ได้พาทิศที่อยู่ใกล้ช่วยประคองไว้ได้ทันก่อน

   “เกิดอะไรกับตุลหรือคะ?”

   รุ้งพรายถามอย่างเป็นห่วงใยในตัวเพื่อนใหม่ของเธอ กริชมีสีหน้าเคร่งขรึม แล้วจึงบอกเบา ๆ

   “ไม่เป็นไร เขาก็แค่อ่อนเพลีย ร่างกายตุลอ่อนแอมาตั้งแต่เด็กแล้ว เพิ่งจะมาแข็งแรงในระยะหลัง ๆ นี่ล่ะ ...แต่ระวังไว้สักหน่อยก็ดี ฝากพวกเธอดูแลเขาด้วย ...ฉันจะพักสักหน่อย ถ้าตุลถามถึงฉัน บอกว่าฉันใช้พลังวิญญาณไปมาก ต้องทำการพักฟื้น และถ้าค่อยยังชั่ว ฉันจะปรากฏกายให้เขาเห็นเอง”

   จากนั้นร่างวิญญาณของชายหนุ่มก็หายไปในร่างของตุลา ราตรีมีสีหน้ากังวลและเฝ้าพึมพำโทษตัวเอง จนรุ้งพรายในร่างแมวดำที่กระโดดมาเกาะบ่าของพาทิศบ่นใส่

   “มันช่วยไม่ได้นี่ แบบหมอนั่นบอกยังไงล่ะ! เรื่องมันผ่านมาแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราก็ปรับปรุงตัวใหม่ได้นี่!”

   ราตรีเหลือบมองปีศาจแมวสาว เธอพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงเอ่ยถามขึ้นแผ่วเบา

   “เขาจะยอมรับฉันเป็นเพื่อน เหมือนยอมรับพวกเธอไหม ...”

   ราตรีมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด จนพาทิศต้องอมยิ้มน้อย ๆ มองร่างที่สลบไปในอ้อมแขน แล้วจึงตอบคำถามนั้น

   “ต้องยอมรับสิ ...เด็กคนนี้เป็นคนที่พวกฉัน และคุณจอมเดชให้ความไว้วางใจเชียวนะ”

    วิญญาณสาวฟังคำตอบของเพื่อน แล้วก็ต้องหวนคิดถึงคำพูดของชายชราในวาระสุดท้าย เขาคนนั้นบอกกับเธอที่พยายามรั้งเขาให้อยู่ต่อว่า  ถึงเขาจะจากไป แต่สักวัน จะมีคนที่เหมือนเขามาแทน และคนนั้นจะต้องเป็นเพื่อนกับทุกคนได้แน่ ๆ ... หากทว่าในตอนนั้นเธอเศร้าเสียใจมากกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ของคนที่เธอรักและเคารพ จึงไม่ได้สนใจถ้อยคำทิ้งท้ายนั่น แต่มาวันนี้เธอพอจะรู้แล้วว่า จอมเดชนั้นหมายถึงผู้ใดกัน...

   “คฤหาสน์ม่านราตรี จะกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้งสินะ...”

   ราตรีพึมพำ แล้วมองสภาพรกร้างรอบ ๆ บริเวณของคฤหาสน์อย่างมีความหวัง

   “ก็คงอย่างนั้น...ง่า แต่ต้องปรับปรุงกันหนักเลยทีเดียว โดยเฉพาะประตูห้องเก่าของคุณจอมเดชน่ะ”

   พาทิศบอกเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเพิ่งได้พังประตูห้องไปหนึ่งบานหมาด ๆ

   “หวังว่าคงไม่รู้ถึงหูยัยคุณนายแม้นศรีนะ ไม่งั้นตุลโดนจ่ายค่าปรับอื้อซ่าแน่”

   รุ้งพรายบอกอย่างสงสารชายหนุ่มผู้เป็นมนุษย์คนเดียวของบ้าน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเบา ๆ ของเพื่อนสาวอีกคน เจ้าหล่อนกระโดดแผล็วลงจากบ่าของพาทิศตรงไปหาปิ่นสุดาที่บ่อน้ำทันที

   “เป็นอะไรไปปิ่น ...หา! ไม่มีคนสนใจเธอเลย!  โธ่วุ้ย! เอาน่า ๆ ไว้ตอนกลางคืนจะเริ่มปรึกษาใหม่ โดยมีเธอเข้าร่วมด้วย ตกลงไหม หยุดร้องได้แล้วน่า!”

   รุ้งพรายกึ่งปลอบกึ่งบ่น กึ่งโวยใส่เพื่อนสาว โดยมีพาทิศและราตรีมองตามไปยิ้ม ๆ ทางด้านพาทิศนั้นดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของราตรีอีกครั้ง เขามองชายหนุ่มในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู ก่อนจะช้อนร่างของเจ้าตัวกลับขึ้นห้องนอน เพื่อให้ตุลาได้พักผ่อนตามที่กริชฝากฝังเอาไว้



    “ฮึก...อากริช...ตุลทรมานจัง ...ตุลจะตายไหมครับ...”

   ร่างเล็ก ๆ ที่หน้าแดงเพราะพิษไข้รุมเร้า ถามผู้เป็นอาที่เฝ้าไข้ จนคนฟังเม้มปาก แล้วจับมือข้างหนึ่งของเด็กชายขึ้นมาเกาะกุมไว้

   “ไม่มีทาง! อาไม่ยอมปล่อยให้ตุลเป็นอะไรไปแน่!”

   กริชบีบมือของหลานชายแน่น เขาหลับตาคิดอะไรบางอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะลืมตาขึ้น แววตาฉายการตัดสินใจเด็ดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ให้ติดตรึงประทับในความทรงจำของตุลาที่นอนป่วยอยู่ในตอนนั้น จนถึงวันนี้

   


   “อืม...อากริช”   

   เสียงละเมอของตุลา ทำให้ร่างโปร่งแสงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ชะงัก แล้วจึงใช้มือใหญ่ลูบไล้ศีรษะของอีกฝ่ายแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน

   “ไม่ต้องห่วงนะตุล ...อาจะไม่ยอมให้ตุลเป็นอะไรอีกเด็ดขาด”

   กริชพึมพำกับร่างที่หลับอยู่ สักพักใบหน้าที่ดูทรมานนั่นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นแย้มยิ้ม แล้วหลับต่อไปอีกอย่างสงบ สร้างความสบายใจให้กับร่างโปร่งใส ก่อนที่ร่างนั้นจะค่อย ๆ อันตรธานไปจากห้องนั้น เหลือแต่เพียงเจ้าของห้องที่นอนหลับสบาย ไปจนกระทั่งเวลาเย็นมาถึง




--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 11-07-2011 00:43:12

ตามๆๆ ติดตามต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่คฤหาสน์หลังนี้อีก

ขอบคุณที่มาต่อตอนดึกๆ นะค้า ได้บรรยากาศยามราตรีมากๆ  o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 11-07-2011 00:48:11
จ๊าก!! เพิ่งเม้นตอนที่แล้วไปไม่เท่าไหร่มาลงตอนใหม่อีกแล้ว
จองไว้ก่อน อ่านจบจะกลับมาเม้น
-------------------------------
อ่า บอกว่าพระเอกออกมาแล้ว
งั้นก็รู้แล้วหล่ะว่าใครเป็นพระเอก
 :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-07-2011 00:57:05
 มันมากๆ สนุกสุดๆ ขอบคุณมากๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-07-2011 01:12:14
เดาไม่ถูกเลยว่าใครเป็นพระเอก จะว่าคุณอากริชก็ไม่น่าใช่ เพราะเป็นอาแท้ๆ แต่แอบเชียร์พาทิศนะ ดูอบอุ่นดีจัง   
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 11-07-2011 01:21:18
ใครจะเป็นพระเอกเนี่ยยยย ลุ้นๆๆ อยากอ่านต่อแล้ว ห้าๆๆ โลภตล๊อดดดด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-07-2011 01:28:18
ความสุขจะกลับมาอีกครั้งแล้วววว :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 11-07-2011 01:55:37
อ่านๆ ไปแล้วเหมือนอากริชจะเป็นพระเอกเลยอะ ฮ่า ฮ่า  :oni1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 11-07-2011 03:59:07
แอบเชียร์อากริช อบอุ่น
เหมาะกับตำแหน่งพระเอกสุดๆ
โดยเฉพาะฉากเน่าๆเฟะๆที่ตุลเข้าไปกอดนะ ได้ใจมาก
ไม่กล้าจินตนาการตามเลย กลัววววว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 11-07-2011 04:11:15
เลือกมะถูกอะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-07-2011 09:44:02
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 11-07-2011 10:33:59
ที่อากริชตายจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับตุลแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 11-07-2011 13:26:13
อิอิ ตอนใหม่ทันใจดีมากๆครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-07-2011 13:54:48
วุ้ย..มีผีแบบนี้อยู่ร่วมบ้าน ก็ดีเนอะ ช่วยเราทุกอย่าง ดูแลปกป้องเราด้วย
กริช พาทิศ ใครกันคือพระเอก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 11-07-2011 14:23:36
แฟนตาซัีแบบนี้ก็สนุกแบบหลอนๆดี

ฮ่าๆ ติดตามจ้า ><'
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 11-07-2011 15:37:58
ติดตามต่อจ้า

ใครจะเป็นพระเอกกันนะ

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 11-07-2011 16:02:35
หืม อาเป็นพระเอก รักต้องห้ามเหรอเนี่ย ???

เอ หรือเบลล์เดาพระเอกผิดหว่า เป็นซอมบี้ตาหลุดเหรอ -0-
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 11-07-2011 19:48:17
ไม่เดาแล้วว่าใครเป็นพระเอก

หรือว่า.......นายตุลจะเป็นพระเอก หาใช่นายเอกอย่างที่เข้าใจไม่ เอิ๊ก เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 11-07-2011 19:56:33
อากริชตามคุ้มครองตุลนี่เอง

ว่าแต่ตุลนี่นายเอกปะ แล้วพระเอกจะเปนใครเนี่ย ออกมามีแต่ผีๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 11-07-2011 20:10:51
อ่านแล้วยิ่งอยากรู้ใครเป็นพระเอกน้า :m28:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 11-07-2011 21:20:50
สรุปพระเอกคือผู้ใด-*-
เอาเป็ว่ารออ่านตอนต่อไปปปปปป :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: หนอนเทพ ที่ 11-07-2011 21:47:09
ชอบเรื่องนี้จังเลย ตอนล่าสุดนี่วิญญานในคฤหาสน์ออกมาครบหมดแล้วยัง อยากรู้จังว่าตอนหน้าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Kusano ~~ Kawaii ที่ 12-07-2011 00:06:55
ชอบจังเลยค่ะ
สนุกมากๆ บรรดาผีๆนี่น่ารักกันจังเลย
อากริชยอมสละตัวเองเพื่อให้ตุลรอดหรือเปล่านะ้เนี่ย
ยังแอบลุ้น ว่าใครหนอจะมาคู่กับนายตุล ฮา
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 5 แฟนตาซีไทย(ผี)ไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 12-07-2011 08:26:57
สนุกมากเลย ในที่สุดอากริชก็ออกมาแล้ว
แต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นพระเอกรึว่าอากริช
ลุ้นๆๆ เราว่าพระเอกต้องเป็น หมอผีใจดีแน่เลย  :laugh: :jul3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 (12/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 12-07-2011 08:45:14
เดาพระเอกกันไป หุ ๆ ~ พระเอกออกมาแล้วนะคะ  .... แต่พอผ่านสักค่อนเรื่อง (นานขนาดนั้นเชียว!) ก็น่าจะเดาออกได้หมดแล้วค่ะ ว่าใครจะมาวินครั้งนี้

ป.ล. หนูตูล ไม่ใช่พระเอกนะคะ  :sad4: นุ่มนิ่มขนาดนั้นกดใครเป็นได้ไง  :-[  มีแต่จะโดนกดเสียมากกว่า  :impress2:

-------------------------

ม่านราตรี
 บทที่ 6

    ตุลาลุกจากเตียงนอนในห้องของตัวเองอย่างงัวเงีย แต่ก็รู้สึกว่าร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่จนเจ้าความรู้สึกมึนงง และอ่อนเพลียหายไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เจอใคร จึงเดินไปที่ระเบียงแล้วลองเรียกดู

   “ทุกคน ...ยังอยู่กันไหมครับ?”   

   ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงแต่สายลมพัดมากระทบให้กิ่งต้นปีบสั่นไหว พุ่มดอกไม้เรียวขาวขยับไปมา บรรยากาศยามเย็นของคฤหาสน์ม่านราตรี ช่างแสนชวนให้รู้สึกหนาวสันหลังวูบวาบ โดยเฉพาะคนที่รู้อยู่เต็มอก ว่าที่นี่มีสิ่งใดอาศัยอยู่

   ตุลาเงียบกริบเมื่อถามไปแล้วแต่ไร้การตอบสนอง เขาจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องลงไปชั้นล่างแทน โดยที่แม้จะยังมีแสงสว่างเข้ามาในบ้านให้เห็นอยู่บ้าง เขาก็ยังอดที่จะเปิดไฟตรงทางเดินขึ้นมาไม่ได้

   “ทุกคนครับ? ยังอยู่กันไหมครับ?”

   ตุลาตะโกนถามขณะที่ลงมาถึงชั้นล่าง เขามองไปทางโซนห้องครัวที่ว่างเปล่าไร้เงาคนก็ต้องถอนหายใจ จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินออกไปที่สวนหลังบ้าน เพื่อตามหาคนอื่นต่อ

   “ทุกคนครับ?  คุณปิ่น?  คุณราตรี? อยู่กันไหมครับ”

   ตุลายังคงเรียกหาต่อ ก่อนจะถอนหายใจออกมา เมื่อเดินหาสักพัก ก็ยังไม่ปรากฏแม้แต่เงาของคนที่เขาเรียกให้เห็นสักคน สีหน้าของชายหนุ่มดูเหงาเสียจนคนที่แอบอยู่แทบจะทนไม่ไหว

   “ไม่ได้นะราตรี! ขืนออกไปตอนนี้ก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ! ขนาดปิ่นยังยอมนอนนิ่ง ๆ ก้นสระไม่ยอมออกมาเลยนะ”

   “แต่ว่าเขาเรียกชื่อฉันด้วยนะ...ทั้งที่ฉันทำร้ายเขาขนาดนั้นแท้ ๆ แต่ก็ยังเรียกหาฉันด้วย”

   รุ้งพรายเหลือบมองวิญญาณสาวเพื่อนของเธออย่างกึ่งระอากึ่งหมั่นไส้ แต่ก็อดยิ้มน้อย ๆ ออกมาไม่ได้ เมื่อหวนคิดถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา

   ราตรีนั้น จริง ๆ แล้วเป็นหญิงสาวมนุษย์ที่ถูกฆ่าฝังไว้ใต้ต้นราตรีที่ขึ้นบนผืนดินแผ่นนี้ จนกระทั่งกลายมาเป็นภูตผีร้ายที่เกลียดมนุษย์ และยอมเปิดใจให้กับชายเพียงผู้เดียวในที่สุด  จอมเดชเอ็นดูและสงสารในตัวของวิญญาณสาวที่อ่อนไหวเป็นพิเศษ จนลงทุนปลูกต้นราตรีไว้เต็มบ้าน และตั้งชื่อคฤหาสน์แห่งนี้ว่าม่านราตรี และเรียกวิญญาณสาวที่ทิ้งชื่อตัวเองไปแล้วว่าราตรีเช่นเดียวกัน

   ในสายตาของรุ้งพราย และภูตผีตนอื่นในคฤหาสน์  ตุลานั้นคล้ายกับจอมเดชเมื่อก่อนแทบไม่มีผิด ทั้งที่ถูกทำเรื่องร้าย ๆ ใส่ แต่ก็ยอมอภัยให้ง่าย ๆ และยังยอมรับในตัวตนของอีกฝ่าย  ซึ่งเธอไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ราตรีจะยอมเปิดใจให้กับมนุษย์อีกครั้ง ก็ในเมื่อชายหนุ่มผู้นี้ ช่างแสนดีเหมือนกับผู้มีพระคุณคนนั้นของพวกเธอขนาดนี้


   “อากริช...ทุกคน... จะไม่อยู่ด้วยกันอีกแล้วหรือครับ”

    ตุลาที่หยุดเดินหา มายืนพึมพำกับตัวเองที่ปากบ่อน้ำสีเขียวเข้มด้วยใบหน้าเศร้าหมอง พลางคิดว่าการอยู่คนเดียวมันช่างเหงาเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะหลังจากได้เจอผู้คนที่คิดว่าจะสามารถคบหาเป็นเพื่อนสนิท และจริงใจต่อกันได้แล้วแท้ ๆ

   จากนั้นสักพักชายหนุ่มก็เดินคอตกกลับเข้าไปในคฤหาสน์ ทำเอาแม้แต่รุ้งพรายที่ใจแข็งก็ยังอดสงสารไม่ได้

   “ไม่เอาแล้ว ...รุ้งใจร้าย ...ฮึก ...เขาน่าสงสารขนาดนั้นแท้ ๆ...”

   เสียงปิ่นสุดาร้องไห้สะอึกสะอื้นเบา ๆ ดังมาจากบ่อน้ำ แม้จะอยู่ก้นบ่อ แต่เงือกสาวก็สามารถมองเห็นภาพจากด้านบนผ่านผิวน้ำที่สะท้อนลงมาเบื้องล่างได้ชัดเจน

   “ยะ...อย่ามาโทษฉันคนเดียวนะ ...ก็เป็นมติเอกฉันท์ของพวกเราทุกคนไม่ใช่หรือไง ...อดทนแป๊บเดียวสิ นี่อีกไม่กี่นาที อาทิตย์ก็จะลับขอบฟ้าแล้ว ...แป๊บเดียวเองน่า”

   รุ้งพรายรีบแก้ตัวตะกุกตะกัก เพราะราตรีเองก็มองเธอเหมือนจะขอให้ยกเลิกแผนการเช่นเดียวกัน

   “แล้วพาทิศไปไหนเนี่ย ให้ฉันโดนรุมอยู่คนเดียว! หมอนั่นก็ตัวตั้งตัวตีคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกันนะ!”

   ปีศาจแมวสาวโวยวายแล้วรีบอาศัยจังหวะที่ราตรีเผลอ กระโดดแผล็วขึ้นระเบียงบ้าน ก่อนจะหนีขึ้นหลังคาไปอีก เพื่อหลีกเสียงบ่นของเพื่อนสาวทั้งสอง


   ภายในคฤหาสน์ม่านราตรี ตุลาเอนกายลงบนโซฟาตัวยาว เริ่มรู้สึกหิวนิด ๆ ขึ้นมา เพราะเขายังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่มื้อกลางวัน ทว่าจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ ลอยมาแตะจมูกของตน อย่างน่าแปลกใจ

   “หือ? กลิ่นอาหาร”

   ชายหนุ่มพึมพำ แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อจู่ ๆ ไฟที่เปิดไว้ในบ้านดับวูบสนิทพร้อมกันทั้งบ้าน ตุลากลืนน้ำลายลงคอ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่แล้วสายลมวูบวาบที่พัดเย็นผ่านต้นคอไปมา พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักเบา ๆ ก็ทำให้ชายหนุ่มเม้มปากแล้วเอ่ยเสียงสั่น

   “ทุกคนครับ...อย่าเล่นแบบนี้สิครับ ...ผมไม่ค่อยถูกโรคกับอะไรแบบนี้เลยนะครับ”

    “แฮ่! ฉันจะหักคอนาย!”

   ทันทีที่มีเสียงตะโกนใกล้หู พร้อมกับมือเย็น ๆ ที่จับคอ ก็ทำให้ตุลาร้องจ๊าก แล้วเป็นลมล้มไปทั้งยืน ท่ามกลางเสียงโวยวายตามมายกใหญ่

   “รุ้งบ้า! ใครใช้ให้ไปหลอกเค้าแบบนั้นกัน! คุณตุล อย่าเป็นอะไรไปนะคะ ฮือ ๆ”

   ปิ่นสุดาสะอื้นไปพลางว่าเพื่อนไปพลาง ส่วนรุ้งพรายนั้นเกาศีรษะแกรก ๆ ไม่คิดว่าตุลาจะขวัญอ่อนหนักขนาดนี้

   “กะ...ก็ ไม่คิดว่าจะกลัวจนเป็นลมนี่นา ตั้งใจแค่ให้ตกใจนิดหน่อยเองนะ”

   “ใจเย็น ๆ ปิ่น เขาแค่เป็นลมไปเท่านั้น ...ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะกลัวหนักขนาดนี้เลยแฮะ ตอนเห็นจะ ๆ ยังไม่เป็นอะไร แต่พอแบบนี้กลับกลัวเสียได้”

   พาทิศหันไปบอกเพื่อนสาว ก่อนจะมองร่างที่เป็นลมไปแล้วอย่างนึกขำ เมื่อนึกถึงตอนที่กริชแสดงฤทธิ์เผยให้เห็นสภาพซากศพเน่าเฟะขนาดนั้น แต่ตุลายังวิ่งไปกอดโดยไม่รังเกียจ  แต่ตอนนี้แค่โดนรุ้งพรายแหย่ใส่ ทั้งที่เจ้าตัวก็รู้เต็มอกว่าบ้านนี้มีผี ก็ดันกลัวจนถึงขั้นเป็นลมเป็นแล้งไปอีกจนได้

   “พาไปนอนพักก่อนดีกว่าพาทิศ รุ้งไปหายาดมมาทีซิ”

   ราตรีบอกกับผีดิบหนุ่ม แล้วหันไปสั่งการปีศาจแมวสาว แต่รุ้งพรายนั้นขมวดคิ้วยุ่งก่อนถามกลับ

   “แล้วจะไปหาที่ไหนล่ะ?”

   “ก็ไปค้นดูเอาสิ เด็กคนนี้น่าจะพกติดตัวมาบ้างล่ะ...หรือถ้าไม่มีก็ไปขอยืมข้างบ้านแถวนี้มาก็ได้”

   ราตรีบอกอย่างไม่คิดใส่ใจแถมยังทำตาดุ ๆ เข้าให้ จนรุ้งพรายต้องรับคำเนือย ๆ อย่างนึกเซ็ง

   “เจ้าค่ะ ๆ จะไปหาให้เดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ”


   จากนั้นร่างของตุลาก็ถูกพาทิศพามานอนพักที่โซฟา ส่วนปิ่นสุดาเดินไปนำน้ำและผ้าสะอาดมาให้พาทิศเช็ดเนื้อเช็ดตัวชายหนุ่มให้รู้สึกดีขึ้น

   “ยังดีนะที่ตุลไม่เป็นโรคประจำตัวประเภทโรคหัวใจ ไม่งั้นเจอแบบนี้บ่อย ๆ มีหวังได้หัวใจวายตายแน่”

   “ถึงจะมีบางส่วนคล้ายกัน แต่ก็ไม่เหมือนคุณจอมเดชเสียทีเดียวล่ะนะ”

   ราตรีพึมพำ แล้วลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “แน่ล่ะ ตุลไม่ได้เป็นตัวแทนใครนี่ เขาก็เป็นเขา และฉันก็ชอบเขาอย่างที่เขาเป็นแบบนี้...แล้วเธอล่ะราตรี”

   พาทิศถามเพื่อนสาว เจ้าหล่อนนิ่งไปสักพัก ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนตามมา

   “นั่นสินะ... ไม่มีใครแทนที่คุณจอมเดชได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า นอกจากคุณจอมเดชแล้ว ฉันจะยอมรับมนุษย์คนอื่นเพิ่มขึ้นมาไม่ได้นี่นะ”

   “เข้าใจได้ก็ดีแล้ว เฮ้อ ...จะว่าไปฉันเองก็ผิด ที่ไม่ได้เฉลียวใจเรื่องของเธอก่อนหน้านั้นเลยแม้แต่น้อย”

   พาทิศพึมพำ ส่วนปิ่นสุดา พอเช็ดหน้าเช็ดตาตุลาเรียบร้อย เธอก็พูดขัดขึ้นมาบ้าง

   “เพราะพวกที่มาอยู่ก่อนหน้านั้น ไม่เหมือนเขานี่คะ... ราตรีที่ผูกพันกับที่นี่มากที่สุด จะต่อต้านออกไป ก็เลยดูไม่แปลกและน่าผิดสังเกตเท่าใด”

   ชายหนุ่มฟังที่เงือกสาวบอก แล้วก็พยักหน้าเล็กน้อยอย่างเห็นด้วย

   “นั่นสินะ... เอาเถอะ! เรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว จะไปรื้อฟื้นก็ใช่ที  ก่อนอื่นเรามาทำให้ตุลฟื้น แล้วจัดงานเลี้ยงต้อนรับเขาอย่างที่ตั้งใจเอาไว้กันดีกว่า!”

   “มาแล้วจ้า! ยาดมมาแล้ว!”

   รุ้งพรายในร่างของมนุษย์กระโดดลงจากชั้นสองอย่างง่ายดายไม่ต่างจากตอนที่เธออยู่ในร่างแมว เด็กสาวนำยาดมที่ติดมือมาส่งให้ราตรี ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไป และเปิดฝานำมาจ่อห่าง ๆ ที่จมูกของตุลา
   
“อืม...”

   ร่างที่เป็นลมไป ค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมา ท่ามกลางความดีใจของทุกคน ตุลามองไปรอบ ๆ กาย เขาเห็นสาวน้อยผมสั้นและผมยาวหยักศกนั่งคุกเข่าอยู่ติดโซฟา กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตายินดี ส่วนหญิงสาวสวยในชุดวันพีชสีขาวก็ส่งยิ้มน้อย ๆ ให้เขา ชายหนุ่มหน้าตาคมคายใส่เสื้อเชิตขาวแขนยาวสุภาพ ก็กำลังลูบศีรษะเขาด้วยใบหน้าอ่อนโยน

   “ทุกคนอยู่ที่นี่เอง ...ผมนึกว่าพวกคุณหนีผมกันไปหมดแล้วเสียอีก”

   พวกภูตผีและปีศาจจำแลงแห่งคฤหาสน์ม่านราตรีพากันนิ่งอึ้งต่อคำทักนั่น ก่อนที่พาทิศจะแย้มยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้รื่นเริง

   “เอ้า ๆ ตุลตื่นก็ดีแล้ว มาทางนี้สิ พวกเรามีอะไรจะอวดนะ!”

   ตุลายันกายลุกขึ้นเดินตามทุกคนไปที่ครัว แล้วก็ต้องพบกับอาหารหน้าตาน่ากินมากมาย จัดวางอยู่บนโต๊ะ ทางด้านรุ้งพรายดีดนิ้วเบา ๆ ก็เกิดลูกไฟวิญญาณสีฟ้าลอยไปมารอบ ๆ เจ้าหล่อนบอกว่าเพื่อสร้างบรรยากาศโรแมนติก ซึ่งตุลาก็ไม่กล้าแย้ง ทั้งที่คิดว่ามันยิ่งเพิ่มความวังเวงมากขึ้นไปอีก จากนั้นพาทิศและราตรี จึงพาตุลาไปนั่งประจำที่ ซอมบี้หนุ่มขยับเก้าอี้ให้อีกฝ่ายนั่ง แล้วบอกกับเจ้าตัวพร้อมรอยยิ้ม

   “ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์ม่านราตรี  ต่อไปนี้ตุลและพวกเราก็เป็นสมาชิกของที่นี่เหมือนกันแล้วนะ”
   
ตุลานิ่งอึ้ง ก่อนจะพยักหน้ารับน้อย ๆ รู้สึกตื้นตันและอยากร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจขึ้นมาทันที ทางด้านราตรีนั้นมีท่าทางอึกอักเหมือนอยากจะพูดอะไรกับตุลาบ้าง แต่ก็ยังไม่กล้า รุ้งพรายที่อยู่ใกล้ ๆ จึงเดินมาตบบ่าหญิงสาวเป็นกำลังใจให้หล่อน

   “เอ่อ... เธอจะยอมรับฉันเป็นเพื่อนได้ไหม ตุล”

   ราตรีถามแล้วรอคำตอบ ตุลาหันไปมองคนถาม เขานิ่งอึ้งจนอีกฝ่ายกังวล แต่ก็ต้องโล่งอกเมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของชายหนุ่ม

   “แน่อยู่แล้วครับ ...ผมต่างหากที่กลัวว่าคุณราตรีจะไม่ยินดีต้อนรับผม”

   ตุลายื่นมือไปข้างหน้าเช่นเดียวกับราตรีที่ยื่นมือมาจับประสานแสดงถึงการยอมรับมิตรภาพระหว่างกัน จากนั้นมนุษย์เพียงคนเดียวในคฤหาสน์ ก็เริ่มต้นลงมือทานอาหารเลี้ยงต้อนรับสำหรับเขาอย่างเอร็ดอร่อย  และหลังมื้ออาหารจบลง  ทั้งหมดก็ปรึกษากันถึงเรื่องการปรับปรุงคฤหาสน์ม่านราตรีให้ร่มรื่นน่าอยู่ในลำดับต่อมา


   “แล้วคุณแม้นศรีเขาจะไม่ว่าเอาหรือครับ ถ้าเราปรับปรุงบ้านตามใจชอบแบบนี้”

   ตุลาเอ่ยถามอย่างกังวล แต่ก็ได้รับการยืนยันจากคนอื่นที่เหลือพร้อม ๆ กัน ว่าคนงกอย่างแม้นศรี มีแต่จะพอใจ ที่ไม่ต้องลงทุนลงแรง ปรับปรุงพื้นที่ด้วยตัวเองเสียมากกว่า ชายหนุ่มฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “ความจริงผมชอบความร่มรื่นในสวนหลังบ้านนั้นนะครับ แต่ถ้าตัดหญ้าพื้นสนามให้เรียบร้อยสักหน่อยจะน่าดูกว่า แล้วตรงซุ้มราตรี ถ้าตัดแต่งสักนิด ก็จะดูโล่งสบายตา และน่านั่งพักยิ่งขึ้น”

   ตุลาลองเสนอความเห็นบ้าง ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย ด้านพาทิศนั้นเตรียมอาสาขนเครื่องมือทำความสะอาดและตัดแต่งสวน จากห้องใต้ดินที่เขาอยู่อาศัย ขึ้นมาเตรียมพร้อมไว้ก่อนในคืนนี้

   “แล้วบ่อของปิ่นล่ะ จะวิดบ่อทำความสะอาดเปลี่ยนน้ำใหม่ดีไหม เอาแบบใสแจ๋ว แล้วเห็นปิ่นที่ก้นบ่อชัดไปเลยแบบนั้นน่ะ!”

   รุ้งพรายเสนอขึ้นบ้าง แต่ทำให้เด็กสาวอีกคนหน้าแดงก่ำ พลางสั่นศีรษะปฏิเสธพร้อมกับไล่ตีเพื่อนแก้เขิน ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินอีกคนพูดขึ้น

   “เรื่องบ่อน้ำนี่ผมเองก็ไม่รู้นะครับ แต่ถ้าเปลี่ยนน้ำแล้วทำให้คุณปิ่นอยู่สบายขึ้นก็น่าเปลี่ยน ... แต่ก็กลัวว่าคอลรีนจากน้ำประปา จะทำให้คุณแพ้หรือเปล่า?”

   ตุลาถามด้วยความเป็นห่วง ซึ่งก็ยิ่งทำให้เงือกสาวหน้าแดงกว่าเดิม เจ้าตัวจึงอุบอิบบอกเสียงแผ่ว

   “ฉันไม่แพ้น้ำประปาหรอกค่ะ...แต่ไม่ค่อยชอบ...ถ้าให้ดีเป็นพวกน้ำฝน หรือน้ำบาดาลจะดีกว่า...แต่น้ำบ่อที่อยู่ก็ดีแล้วนะคะ ...แค่ออกซิเจนเหลือน้อยไปหน่อย ตะไคร่มากไปนิด ก็เท่านั้นเอง”

   ชายหนุ่มนิ่วหน้า สรุปแล้วเขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่พูดมานั่น ดีหรือไม่ดีสำหรับอีกฝ่ายกันแน่

   “ด้านหลังที่ดินนี่มีบึงน้ำกว้าง มันมีโพรงเล็กโพรงน้อยใต้บึง ที่ทะลุไปถึงลำคลองใหญ่ด้านนอกนั่น ทำให้น้ำในบึงไหลเวียนตลอด ไม่เน่า แล้วก็ยังใสและสะอาดอยู่มาก ถ้าตุลไปทยอยตักมาเรื่อย ๆ ก็เปลี่ยนน้ำในบ่อให้ปิ่นอยู่ได้สบาย เพราะก่อนจะมาอยู่ที่บ่อนี่ ปิ่นเคยอยู่ที่บึงนั่นมาก่อน แต่พอเงือกอีกตัวสิ้นอายุขัย ก็เลยเหลือปิ่นแค่คนเดียวน่ะ นายท่านเลยชวนมาอยู่เสียที่นี่ด้วยกัน”

   รุ้งพรายเล่าประวัติของเพื่อนให้ฟัง แล้วยังเสนอความเห็นเรื่องการทำความสะอาดบ่อของปิ่นสุดา แต่แน่นอนความคิดเห็นของเธอ ทำให้เพื่อนคนอื่นที่เหลือหันมามองตาปริบ ๆ

   “แล้วจะให้ตุลไปแบกน้ำจากบึงนั่นมาใส่บ่อนี่นะ กว่าจะเต็มเขาก็เหนื่อยตายพอดี”

   พาทิศบ่นใส่ ซึ่งราตรีก็พยักหน้าเห็นด้วย รุ้งพรายนั้นขมวดคิ้วยุ่งเมื่อได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น เพราะเธอคิดว่าข้อเสนอของเธอมันฟังเข้าท่าที่สุดแล้ว

   “บ่อน้ำคุณปิ่นลึกมากไหมครับ แล้วใช้น้ำราว ๆ ไหน ผมจะได้กะถูกกว่าควรจะใช้น้ำเติมไปกลับกี่รอบ”

   ตุลาตั้งคำถามที่ทำให้ทุกคนหันขวับมาทางเขา มีรุ้งพรายคนเดียวที่ถูกใจ แต่ปิ่นสุดารีบห้ามทันที

   “อย่าเลยค่ะคุณตุล! บ่อน้ำแบบเดิมนี่ฉันก็อยู่ได้อยู่แล้ว คุณตุลอย่าลำบากเลยค่ะ ...อีกอย่าง ถ้ากลับมาป่วยแบบตอนเด็กอีก จะทำยังไงล่ะคะ”

   คำพูดของปิ่นสุดา ทำให้รุ้งพรายและตุลาชะงัก ปีศาจแมวสาวมีสีหน้าสลดลง เมื่อนึกขึ้นได้ถึงคำพูดของกริชอาของชายหนุ่ม ส่วนตุลานั้นนิ่งเงียบไปสักพักแล้วจึงแย้มยิ้มอ่อนโยนให้ทุกคน

   “ไม่หรอกครับ ...พอแข็งแรงขึ้น ผมก็เริ่มออกกำลังกาย เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับไปป่วยอีกเหมือนตอนเด็ก ๆ ตอนนี้ผมว่าผมแข็งแรงพอสมควรนะครับ”

   “แน่ใจหรือ ...แค่ตกใจนิดหน่อยก็เป็นลมแล้วแท้ ๆ นี่นะ”

   พาทิศแย้งยิ้ม ๆ ซึ่งก็ทำให้คนฟังสะดุ้ง แล้วหันไปบอกเสียงอ่อย

   “ง่า...อันนั้นนอกประเด็นนะครับ ต่อให้แข็งแรงขนาดไหน แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่กลัวสักหน่อยนี่ครับ”

   จากนั้นตุลก็ยืนกรานหนักแน่นว่าจะไปขนน้ำในบ่อมาเปลี่ยนให้ปิ่นเอง แต่คนอื่นนั้นยังคงคัดค้าน ไม่เห็นด้วย จนกระทั่งเมื่อใครคนหนึ่งปรากฏกาย พวกเขาก็นิ่งเงียบรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายเสนอขึ้นบ้าง

   “ก็เงินที่อาให้ตุล มันก็มากพอที่จะเช่าอยู่ที่นี่ได้ตั้งหลายปีอยู่แล้วด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ ตุลก็เอาเงินจำนวนนั้นถอนออกมานิดหน่อย มาใช้อำนวยความสะดวกตัวเองบ้างสิ อย่างการจ้างมืออาชีพมาดูแลจัดสวน ทาสีบ้าน รวมไปถึง จ้างพวกรถสูบน้ำ สูบน้ำมาจากบึงนั่น แล้วก็จ้างคนให้วิดบ่อไว้รอให้เขาปล่อยน้ำลงไปใหม่น่ะ ง่ายจะตายจริงไหม?”

   ทุกคนต่างเห็นด้วยในสิ่งที่กริชเสนอ แม้กระทั่งตุลาเอง เขายิ้มกว้างให้กับอาที่เขานับถือ ทำให้กริชต้องลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “ถึงจะแข็งแรงแล้ว แต่ก็อย่าประมาท ถ้าใช้ร่างกายหนักมากไป มันก็อาจทำให้เจ็บป่วยอีกก็ได้ เข้าใจไหม?”

   กริชบอกกับตุลา แล้วเปรยสายตาเย็นชากึ่งตำหนิไปให้รุ้งพราย ที่สะดุ้งเฮือกแล้วรีบกระโดดหลบไปอยู่หลังพาทิศทันที

   จากนั้นคุยกันอีกสักพัก กริชก็อ้างว่าเหนื่อยและขอตัวไปพักก่อน ทำให้ตุลาที่กำลังจะถามชายหนุ่มว่า ทำยังไงไปยังไงผู้เป็นอาถึงกลายมาเป็นวิญญาณคุ้มครองเขาได้ต้องผิดหวัง แต่ก็ยังคงเฝ้ารอโอกาสจนกว่ากริชจะบอกกับเขาด้วยตนเองในสักวันหนึ่ง 



--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 12-07-2011 09:12:44
อากริช แน่ใจเหรอว่าเค้าจะกล้ามาทำงานให้อ่ะ

กำลังล้างบ่อ เจอเงือกสาวนอนยิ้มอยู่ก้นบ่อ

แต่งต้นราตรีมีผีสาวผมยาวมายืนคุม

หิวข้าวหิวน้ำ มีซอมบี้บริการยกมาให้

อิอิ คงทำงานไปขนหัวขนแขนลุกกันพรึบ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 12-07-2011 10:01:16

ค่อนเรื่องเชียวหรือคะ  :z3:  ไม่เป็นไรค่ะ ค่อนก็ค่อน  ว่าแต่...เรื่องนี้จะยาวประมาณกี่ตอนคะ   :serius2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 12-07-2011 10:16:35
แล้วก็ยังหาพระเอกไม่เจออีกต่อไป
อ่านๆไปอากริชชักจะเหมือนพ่อตุลเข้าไปทุกทีล่ะ
มีจิกตาใส่รุ้งด้วย ห่วงตุลเกิ๊นนนนน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 12-07-2011 10:28:10
สนุกมากครับ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แต่ว่า ใครจะมาคู่กับ ตุลา เหรอครับ ออกมาหรือยัง หรือว่าจะเป็น อากริช
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: puengturn ที่ 12-07-2011 10:41:15
ชอบมากๆเลยค่ะ พึ่งมาอ่านครั้งแรก ติดหนึบเลยค่า   หาพระเอกยังไม่เจอเลยค่ะ  ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 12-07-2011 12:08:07
อากริชนี่ ทั้งรักทั้งห่วงตุลสุดๆ เลยนะเนี่ย  o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 12-07-2011 12:24:48
ค่อนเรื่องเชียวหรือคะ  :z3:  ไม่เป็นไรค่ะ ค่อนก็ค่อน  ว่าแต่...เรื่องนี้จะยาวประมาณกี่ตอนคะ   :serius2:

ที่เขียนไว้ก่อนหน้าจะเอามาลงบอร์ด  จะอยู่ที่ 17 -18 ตอนค่ะ

เรื่องนี้ที่ไม่มีพระเอกโผล่ให้เห็นแบบจะจะ เพราะทีแรกตั้งใจจะเขียนออกมาประมาณว่า "ทุกคนที่อยู่ใกล้ตุลมีสิทธิ์เป็นพระเอก" แต่พอหลัง ๆ จากเหตุการณ์ "เสียเฟิร์สคิส" ก็เลยกำหนดตัวพระเอกเอาไว้ได้ล่ะนะคะ  และเพราะเลือกพระเอกได้แล้ว ก็เลยว่าจะเขียนให้ยาวเกิน 20 ตอนขึ้นไป และจะเริ่มมีการจับคู่พระคู่นายอย่างจริงจังสักที ... (ดูอนาคตก่อนด้วย ว่าจะยืดหรือจบดี ถ้าคนอ่านชอบสไตล์ผีเน้นครอบครัวอบอุ่น ก็ว่าจะเขียนไปเรื่อย ๆ ล่ะค่ะ เพราะพล็อตแนวนี้ มันคล้ายซีรียส์ จบเป็นตอน ๆ ได้สบาย ๆ ^ ^

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 12-07-2011 12:28:00
มิตรภาพคนกับผี อิอิ o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 12-07-2011 14:01:50
ติดเรื่องนี้ซะแล้วสิ...อยากอ่านต่อแล้วล่ะคับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 12-07-2011 14:07:06
ผีกับคนอยู่รวมกันช่างน่ารัก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-07-2011 15:37:25
อากริชอาจจะไม่ใช่อาจริงจริงของตุลก้อได้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 12-07-2011 16:35:22
เป็นเรื่องที่น่ารักมาก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 12-07-2011 16:42:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 12-07-2011 18:01:44
จ้างคนมาปรับปรุงบ้านให้
แล้วมันจะมีใครกล้ามาทำรึเปล่าละนั่น :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 12-07-2011 20:04:41
คุณผีทุกตนน่ารักมากอะ แต่ก็ยังไม่แน่ใจพระเอกอยู่ดีว่าเป็นใคร
แต่จะรอลุ่นตอนหน้าเพื่อจะชัดดเจนกว่านี้ :pig4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 12-07-2011 20:29:39
อากริช แน่ใจเหรอว่าเค้าจะกล้ามาทำงานให้อ่ะ

กำลังล้างบ่อ เจอเงือกสาวนอนยิ้มอยู่ก้นบ่อ

แต่งต้นราตรีมีผีสาวผมยาวมายืนคุม

หิวข้าวหิวน้ำ มีซอมบี้บริการยกมาให้

อิอิ คงทำงานไปขนหัวขนแขนลุกกันพรึบ


555+ ฮามากอ่ะไรมาก คิดภาพออกเลยอ่ะว่าจะออกมาประมาณไหน 55+

แบบว่าครอบครัวผีสุขสันต์ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 12-07-2011 20:45:17
สนุกดีจ้า อิอิ หลอนนิดนึงอะนะ

5555+
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 12-07-2011 20:51:46
เรื่องนี้น่ารัก^ ^อยากให้พระเอกโผล่มาไวๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 12-07-2011 20:58:07
สนุกจริงๆค่ะ

พวกผีน่ารักทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 12-07-2011 22:50:27
เค้าอยากให้อากริชเป็นพระเอกก แอร๊ยยย อบอุ่นๆๆๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 12-07-2011 23:27:51
อากริชนี่ ไปทำสัญญาไรซักอย่างกะปีศาจเพื่อยกชีวิตตัวเองแลกกับชีวิตหรือสุขภาพที่แข็งแรงของตุลรึป่าว (เดาไปเรื่อย) ดูอากริชรักตุลม้ากมาก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 13-07-2011 01:56:21
สนุกค่ะ แหวกแนวดี
แต่ก็หลอนนิดๆๆๆอ่ะน่ะ
สู้ๆๆๆๆ จะรอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 13-07-2011 09:26:46
เปิดผ่านไป ผ่านมาอยู่นาน กว่าจะทำใจอ่านได้
สุดท้ายอ่านตอนแรกไม่จบ แบบว่าหลอนก่อนนอน
มาแอบอ่านเอาที่ทำงาน เสี่ยงดี แต่คนอยู่เย๊อะ 5555
สนุกจังค่ะ แต่ว่าพระเอกนี่ อากริชหรอคะ แบบว่า อา-หลาน อ่ะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 6 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (11/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 13-07-2011 09:45:55
อิจฉาตุลนิดหน่อยมีเพื่อนเป็นผี :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 13-07-2011 11:08:27
ม่านราตรี
 บทที่ 7



    เช้าวันใหม่อันแสนคึกคักกว่าปกติของคฤหาสน์ม่านราตรีเวียนมาถึง ตุลาได้โทรไปบอกคุณนายแม้นศรีผู้ให้เช่าถึงเรื่องที่เขาจะขออนุญาตปรับปรุงบ้าน  ซึ่งเจ้าหล่อนพอรู้ว่าตุลาจะลงมือปรับปรุงคฤหาสน์ของเธอให้ โดยเสนอออกเงินเองทั้งหมด เธอก็มีน้ำเสียงยินดีเป็นอย่างยิ่ง แถมยังบอกให้ตุลาปรับปรุงไปได้ตามสบายเลยอีกด้วย ไม่ผิดกับที่พวกพาทิศเคยบอกไว้แม้แต่น้อย

    และจากนั้น ตุลาก็ต้องทึ่งอีกครั้ง เมื่ออำนาจเงินที่เขาสั่งจ่ายออกไป มันได้บันดาลความสะดวก เรียบร้อยในชั่วเวลาไม่นานให้กับเขาอย่างน่าอัศจรรย์

   เพียงแค่ครึ่งวัน สวนของคฤหาสน์ก็ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวนสวย แตกต่างจากสวนรกครึ้มดูน่ากลัวของเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง สำหรับปิ่นสุดานั้น เงือกสาวได้ย้ายไปอยู่ในบึงใหญ่ชั่วคราว โดยมีรุ้งพรายตามไปอยู่เป็นเพื่อน โดยทั้งคู่ตั้งใจว่า ถ้าสวนและบ่อน้ำทำความสะอาดเสร็จ จึงค่อยกลับมาอยู่ใหม่อีกครั้ง



    ส่วนเรื่องการทาสีบ้านทั้งหลังที่ค่อนข้างเป็นเรื่องยุ่งยากและเป็นงานใหญ่ ตุลาได้จ้างช่างรับเหมาให้มาจัดการทาสีให้เขา ด้วยสีมีคุณภาพและเร่งด่วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพราะแพ้กลิ่นสีและทินเนอร์ เขาจึงไปกางเต็นท์อยู่นอกบ้านแทน อาหารการกินก็อาศัยซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินประทังชีวิตไปก่อน หรือไม่ก็โทรสั่งพวกพิซซ่ามากินแทน

    ครั้นพอตกกลางคืนก็มีพวกพาทิศ ราตรี ปิ่นสุดา และ รุ้งพราย คอยแวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยไม่ให้ชายหนุ่มได้เหงา  แต่นั่นกลับทำให้พวกช่างทาสี รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ เมื่อเจ้าของบ้านที่ควรมีแค่คนเดียว แต่บางครั้งพวกเขาก็เห็นเหมือนมีคนอื่นเดินไปมา หรือแม้แต่กระทั่งลอยวูบวาบผ่านไปในสวน  แต่เมื่อตุลายืนยันหนักแน่นว่าไม่มีใครนอกจากเขา ก็ทำให้พวกนายช่างข่มความกลัวแล้วรีบทำงานอย่างขยันขันแข็ง เพื่อให้งานเสร็จโดยไวที่สุดเท่าที่จะทำได้

   และแล้ว คฤหาสน์ม่านราตรี ก็กลับกลายมาเป็นคฤหาสน์หลังใหม่ที่สวยงาม ไม่แตกต่างจากที่ตุลาเคยได้ดูในรูปซึ่งแม้นศรีนำมาให้เขาดูก่อนเซ็นสัญญาแม้แต่น้อย

   

   “ว้าว! เหมือนเมื่อสมัยก่อน ตอนที่นายท่านยังอยู่เลยเนอะ!”

   รุ้งพรายวิ่งไปมาทั่วสวนอย่างชื่นชม  นับจากที่ได้ออกมาชมผลงานหลังพระอาทิตย์ตกดิน และบรรดาช่างทาสีทั้งหมดกลับไปเรียบร้อย สวนสวยเปิดไฟสว่างทั้งหมด โดยมีตุลาคอยเดินเก็บภาพความประทับใจของคฤหาสน์หลังนี้ ผ่านกล้องวิดีโอที่เขาลงทุนซื้อ

   “เอ้า! มัวแต่ถ่ายวิดีโออยู่ได้ มานี่เร็ว ๆ เข้า นายต้องเป็นเจ้าภาพ เปิดงานเลี้ยงฉลองปรับปรุงคฤหาสน์หลังใหม่นะ ”

   รุ้งพรายตะโกน ทำให้ตุลาวางมือ แล้วเดินมายังโต๊ะยาวที่ทุกคนช่วยกันยกมาจัด มีทั้งเครื่องดื่ม และอาหาร ที่เตรียมไว้สำหรับตุลา  ปลาสด ๆ สำหรับปิ่นสุดา และนมชามใหญ่ของปีศาจแมวสาว ส่วนพาทิศและราตรีนั้นไม่ได้กินดื่มอะไร แต่ทั้งคู่ช่วยกันเทเครื่องดื่ม และคอยหยิบตักอาหารให้กับตุลา จนชายหนุ่มนึกเกรงใจ

    “ดีจังนะครับ ตอนแรกยังหนักใจอยู่เลยว่าต้องมาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ ๆ แบบนี้คนเดียวตั้งเกือบปี แล้วผมจะทำยังไงดี”

   ตุลาบอกออกไปตามตรงด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ จนคนมองแต่ละคนอดนึกสงสารและเห็นใจอีกฝ่ายไม่ได้

   “แล้วทำไมต้องมาเช่าบ้านอยู่ลำพังแบบนี้คนเดียวด้วยล่ะ เขียนนิยายน่ะ เขียนที่ไหนก็ได้นี่”

   รุ้งพรายถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้ ตุลานิ่งเงียบ แต่พอจะบอกความจริง ร่างโปร่งใสของกริชก็ปรากฏกายขึ้นข้าง ๆ ชายหนุ่ม พลางตอบคำถามนั้นแทนหลานชาย

   “ก็ฉันเห็นว่าบ้านหลังนี้ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบ และอีกอย่างก็มีวัตถุดิบให้ตุลได้ศึกษาแบบตรง ๆ ก็เลยสั่งเสียให้เขาเช่าบ้านหลังนี้ไว้ยังไงล่ะ ความจริงก็ได้คุย ๆ กับคุณจอมเดชไว้บ้างแล้ว  แต่เพราะติดอยู่ตรงที่อยากให้ตุลเรียนให้จบก่อน ก็เลยให้รอเวลาเกือบสิบปีถึงค่อยให้เปิดพินัยกรรมล่ะนะ”

   คนอื่นฟังแล้วก็ทำตาปริบ ๆ เพราะคนที่จะคิดการณ์ไกลก่อนตัวเองตายแบบนี้นั้น ถือว่าหาได้ยาก เพราะอย่างน้อย ๆ ก็ต้องรู้วันตายตัวเองล่วงหน้าล่ะ ถึงจะวางแผนเตรียมพร้อมได้ออกมาราว ๆ นี้

   “อากริชครับ ...แล้วทำไมอาถึงกลายมาเป็นวิญญาณคุ้มครองผมได้ล่ะครับ ...อาควรจะได้ไปเกิดแล้วนี่ครับ”

   ตุลาลองตัดสินใจถามอีกครั้ง แต่เขาก็เผื่อใจไว้ครึ่ง ๆ ว่าอาจจะไม่ได้รับคำตอบเหมือนเดิม แต่คราวนี้ กริชกลับยิ้มให้เขาน้อย ๆ แล้วจึงตอบคำถามของหลานชายออกไป

   “เพราะอาอยากอยู่ดูแลตุลมากกว่าน่ะสิ บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ก็ยังเป็นห่วงอยู่ กลัวหลานจะอาการกำเริบป่วยหนักเหมือนตอนเด็ก ๆ ขึ้นมาน่ะ”

   กริชบอกแล้วลูบศีรษะของหลานชายของตน ความอ่อนโยนและรอยยิ้มของกริช ทำเอาตุลาพึมพำอย่างสำนึกผิด

   “เป็นเพราะผมที่รั้งอาเอาไว้ใช่ไหมครับ...ผมขอโทษนะครับ...ทั้งที่อาน่าจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีกว่าแท้ ๆ”

   วิญญาณหนุ่มยิ้มเศร้า ๆ เมื่อได้ยินคำพูดหลาน

   “มันก็ไม่แน่หรอกนะตุล ว่าถ้าอาไปที่นั่นแล้วจะดีกว่าเดิม ...”

    กริชเปรยเบา ๆ เขาเงียบไปสักพัก แล้วจึงเอ่ยต่อ

    “ช่างเรื่องนั้นเถอนะ เอาเป็นว่า อาสมัครใจจะอยู่แบบนี้ และก็พอใจมากด้วย ที่ตัวอาสามารถปกป้องและคุ้มครองดูแลหลานได้ตลอดไป”

   “อาครับ...”

   ตุลามองหน้าอาของตนอย่างซาบซึ้งระคนเศร้าใจ แล้วก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายชวนเขาเปลี่ยนเรื่องคุย

   “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พวกเขาจะเสียใจนะ ที่อุตสาห์จัดงานเลี้ยงเพื่อตุล แต่ตุลกลับมานั่งเศร้าแบบนี้แทนน่ะ”

      พอได้ยินกริชพูดเช่นนั้น ตุลาจึงค่อย ๆ พยักหน้ารับรู้ พลางปรับสีหน้าเป็นแย้มยิ้มให้ทุกคนอย่างจริงใจ สมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีที่เห็นต่างก็ยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนไม่แพ้กัน

   และในคืนนั้น ตุลาจึงย้ายที่นอนจากเต็นท์กลับไปบนห้องของตัวเองอย่างเคย เขาเปิดบานกระจกบานใหญ่ และผ้าม่านเพื่อรับลมเย็นจากนอกสวน  โดยปิดแค่เพียงบานประตู้มุ้งลวดเพื่อกันยุงเข้ามากัด แทนที่จะเปิดแอร์นอนเหมือนในคืนแรก   

    ทางด้านพวกรุ้งพราย ปิ่นสุดาและพาทิศ ต่างไปนั่งพัก พูดคุยกับราตรี ที่ซุ้มไม้ซึ่งปรับปรุงใหม่ อันเป็นที่พักเดิมของวิญญาณสาว  บางเวลาพวกเขาและเธอ ก็จะเงยหน้าขึ้นไปเฝ้ามอง ยังระเบียงห้องเจ้าของบ้านคนใหม่ พร้อมกับแย้มรอยยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุข จนกระทั่งรุ่งเช้าเวียนมาถึง ต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้ายกันกลับที่พำนักของตนต่อไป



   ยามเช้าของตุลานั้นถูกปลุกด้วยกลิ่นอาหารหอม ๆ จากชั้นล่าง ชายหนุ่มบิดขี้เกียจเล็กน้อย เดินงัวเงียแทบไม่มองทางเข้าห้องน้ำไป  ก่อนเปิดน้ำก๊อกแล้ววักน้ำใสล้างหน้า แล้วควานมือจับสะเปะสะปะ เพื่อหาโฟมล้างหน้าที่วางอยู่แถวนั้น โดยไม่ได้เงยหน้ามอง

   “เอ้า ... นี่จ้ะ”

   เสียงหวาน ๆ และโฟมที่ส่งมาให้ถึงมือทำให้ตุลางึมงำขอบคุณตอบรับ ก่อนจะสะดุ้งเฮือก แล้วถอยหลังกรูดไปติดผนังห้อง มองไปก็เห็นราตรี กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ อ่างล้างหน้าของเขา

   “คะ...คุณราตรี ...มะ...มาได้ยังไงครับ”

   ราตรีมองชายหนุ่มยิ้ม ๆ แล้วบอกออกไปตามตรง

   “ก็ฉันเห็นว่าเช้าแล้ว ก็เลยมาปลุกเธอน่ะ พอดีเห็นเธอตื่นแล้วก็เลยตามเข้ามาเผื่อจะช่วยอะไรได้บ้างยังไงล่ะ”

   ตุลาหน้าซีดสลับแดง ดีใจที่อีกฝ่ายเอาใจใส่เขาขนาดนี้ แต่ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผี  ก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

   “ง่า ...ผมช่วยเหลือตัวเองได้ครับ โดยเฉพาะเรื่องในห้องน้ำ”

   “จริงหรือ? แล้วเกิดเป็นลมล้มไปล่ะ จะทำยังไง ใครจะช่วยเธอล่ะ ให้ฉันเฝ้าดีไหม?”

   ดูเหมือนราตรีนั้นจะไม่ถือสาเรื่องที่ตุลาเป็นกังวล แถมเธอยังยกเหตุผลที่ทำให้ชายหนุ่มแทบกุมขมับ

   “โธ่! คุณราตรีครับ ผมไม่ได้ร่างกายอ่อนแอขนาดนั้นหรอกนะครับ ...ง่า แต่ถ้าไม่ไหวยังไงจะเรียกให้คุณมาช่วยทันทีเลยครับ เพราะฉะนั้น ตอนนี้ขอผมทำธุระส่วนตัวก่อนนะครับ”

   ผีสาวนิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม

   “ก็ได้ ถ้ามีอะไรต้องรีบเรียกเลยนะ ฉันจะรออยู่แถว ๆ นี้ล่ะจ้ะ”

   บอกแล้วเจ้าหล่อนก็ลอยทะลุประตูห้องน้ำออกไปรอนอกห้อง ตุลารู้สึกเหนื่อยอกเหนื่อยใจอยู่มาก แต่ลึก ๆ เขาก็ดีใจที่มีคนมาห่วงใย เอาใจใส่คอยประคบประหงมเขา เหมือนสมัยตอนยังเป็นเด็ก ๆ ไม่มีผิด

   “ถ้าไม่อยากให้เธอเฝ้า งั้นอาจะคอยเฝ้าให้แทนดีไหม?”

   เสียงกระซิบอันคุ้นเคย ทำเอาตุลาต้องสะดุ้งเฮือกรอบสอง ร่างโปร่งใสของกริช ปรากฏกายให้เห็น แล้วยิ้มน้อย ๆ ให้กับหลานชาย

   “ง่า...อากริชครับ ...ดีใจหรอกนะครับ แต่จะรบกวนอาเปล่า ๆ”

   ตุลาบอกปฏิเสธแล้วพยายามยกเหตุผล เพราะต่อให้อีกฝ่ายเป็นอาของเขา แถมยังเคยอาบน้ำอาบท่าให้ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ตาม แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กเหมือนเมื่อก่อน แถมอาในตอนนี้ก็ดูอายุพอ ๆ กับเขา มันก็ทำให้ตุลารู้สึกกระดากอายอยู่บ้างพอสมควร

   “เฮ้อ! ทีเมื่อก่อนนี้ อ้อนอยากจะอาบน้ำกับอาตลอด พอโตเข้าหน่อย ก็ขับไล่ไสส่งอาเสียแล้ว”

   กริชทำเป็นแสร้งถอนหายใจ จนคนมองทำอะไรไม่ถูก และมีสีหน้าลำบากใจจนเห็นได้ชัด

   “หึ ๆ อาล้อเล่นน่ะ ...แต่ถ้าอยากให้อาอาบน้ำเป็นเพื่อน ก็เรียกได้ตลอดเวลานะ”

   บอกจบกริชก็หายตัวไป ทิ้งให้ตุลายืนนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกตามมา แล้วรีบล้างหน้าล้างตาแปรงฟัน ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน เขายิ้มเจื่อน ๆ ให้กับราตรีที่ยังนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานของเขา บนโต๊ะมีรุ้งพรายในร่างแมวมานั่งจ้องทางเขาอีกราย

   “อาบน้ำหรือตุล ฉันอาบด้วยได้ไหม...”

   “ไม่สะดวกหรอกครับ ขออาบคนเดียวดีกว่า!”

   ตุลารีบค้านแล้วหยิบเสื้อผ้าและผ้าขนหนูผลุบหายเข้าห้องน้ำไปโดยไว พร้อมกับล็อกประตูห้องเรียบร้อย กันปีศาจแมวสาวตามเข้ามา ทางด้านรุ้งพรายนั้นขมวดคิ้วยุ่ง แล้วบ่นอุบอิบกับตัวเองเบา ๆ

   “อะไรของเขากัน ขอเข้าอาบน้ำด้วยแค่นี้ ทำเป็นอาย ตัวเองเด็กกว่าเค้าตั้งหลายสิบปีแท้ ๆ”

   “ก็นั่นสินะ”

   ราตรีตอบรับอย่างเห็นด้วย เธอเองก็นึกขำเวลาเห็นสีหน้าและท่าทีลำบากใจของตุลาเช่นกัน จะว่าไปแล้วตอนเล็ก ๆ เด็กคนนั้นก็ค่อนข้างขี้อาย แต่ก็ยิ้มแย้มและเข้ากับคนอื่นได้ง่าย และก็น่าแปลกที่ตุลาจะจำเรื่องที่เคยมาที่นี่ไม่ได้เลย คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ก็คงมีแต่กริชเท่านั้น แต่เธอก็พอจะมองออกว่าวิญญาณหนุ่มคนนั้น ดูมีความลับเก็บงำไม่คิดจะบอกใครกับเขาบ้างอยู่เหมือนกัน

   “เสร็จแล้วครับ”

   ตุลาที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาบอกเบา ๆ เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เป็นเสื้อยืดลำลองสีขาว กางเกงขาสามส่วนสีเทา ใบหน้าอ่อนเยาว์ยิ้มแย้มทักทายทั้งสองสาวที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานเขา ซึ่งทั้งคู่ก็ยิ้มตอบรับ

   “ไปกินข้าวกันเหอะ วันนี้ฉันได้กลิ่นหอมฉุยจากในครัวแต่เช้า  ถ้าให้เดา ต้องเป็นข้าวต้มเครื่องแน่”

   ตุลาเบิกตานิด ๆ อย่างดีใจ ความจริงเขาชอบอาหารเช้าแบบย่อยง่าย และแม่ของเขาก็มักจะชอบทำโจ๊ก หรือข้าวต้มให้กินในตอนเช้าประจำเสมอ

   “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยครับ”

   ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มตาหยี จนคนมองอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

   “งั้นก็ลงไปกันเลย”

   รุ้งพรายบอกแล้วกระโดดลงจากโต๊ะ เดินส่ายหางนำหน้าชายหนุ่มไปก่อน ตุลานั้นเดินไปพร้อมกับราตรีที่ลอยช้า ๆ เคียงข้างชายหนุ่ม

   “ไง ตุล ฉันว่ากำลังจะขึ้นไปปลุกเธอที่ห้องนอนพอดี แต่รู้สึกว่าจะมีคนรับทำหน้าที่แทนเรียบร้อยแล้วสินะ”

   พาทิศที่เห็นตุลาเดินมาพร้อมกับพวกรุ้งพรายเอ่ยทัก ตุลานั้นแย้มยิ้มให้ แล้วกล่าวทักทายกลับ

   “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพาทิศ”

   “อรุณสวัสดิ์ เช้านี้มีข้าวต้มเครื่อง ทานได้ไหม?”

   ซอมบี้หนุ่มถามอีกฝ่าย ขณะที่ช่วยยกเก้าอี้ให้เจ้าตัวนั่ง ทางด้านตุลาหันไปยิ้มให้ แล้วเอ่ยตอบ

   “ของโปรดเลยล่ะครับ ...ขอบคุณมากนะครับ”

   “ดีแล้วที่ชอบ คราวหน้าก็จดเมนูที่ชอบ แล้วก็ไม่ชอบ มาให้ฉันแล้วกัน ส่วนอันไหนถ้ากินแล้วแพ้ ก็จดไว้ด้วยนะ ฉันจะได้เลี่ยงทำ”

   พาทิศบอกกับชายหนุ่ม ซึ่งคำพูดที่ไร้ผลประโยชน์แอบแฝงเคลือบแคลง ทำให้ตุลารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจที่อีกฝ่ายมีให้เขายิ่งนัก

   “ขอบคุณนะครับ ...ความจริงคุณไม่ต้องลำบากทำอาหารให้ผมแบบนี้ทุกมื้อก็ได้ เวลากลางวันเป็นเวลาพักผ่อนของคุณไม่ใช่หรือครับ”

   พาทิศชะงักมือที่ตักข้าวต้มครู่หนึ่ง ก่อนจะตักมันใส่ชามให้ตุลาต่อ เขายกชามมาวางตรงหน้าอีกฝ่าย ส่วนตัวเขาก็ไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

   “ฉันน่ะ ทำเพราะชอบและอยากทำ แต่ถ้าเธอเห็นว่ามันน่ารำคาญ หรือรุกรานความเป็นส่วนตัวของเธอเมื่อไหร่ เธอก็บอกฉันได้ทุกเมื่อนะ ไม่ต้องเกรงใจ”

   คำพูดของพาทิศทำให้ตุลาสะดุ้งแล้วรีบแย้งกลับทันที

   “ผมไม่เคยคิดเลยนะครับว่าน่ารำคาญ มีแต่จะขอบคุณเสียมากกว่าที่ช่วยดูแลให้กันขนาดนี้ ...แม้แต่เสื้อผ้าของผม คุณก็ยังเอาไปซักให้เลยไม่ใช่หรือครับ”

   ตุลาบอกกับอีกฝ่ายด้วยความขอบคุณและซาบซึ้งจากใจจริง พาทิศยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน ชวนให้ใบหน้านั้นดูหล่อเหลาสะกดสายตามากขึ้น ทำเอาตุลาตกตะลึงก่อนจะเผลอหน้าแดงนิด ๆ ด้วยความลืมตัว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเสียงแหลม ๆ ขัดขึ้น

   “ฉันก็ช่วยด้วยนะ ไม่ใช่พาทิศคนเดียวสักหน่อย”

   รุ้งพรายโพล่งขึ้นบ้าง แล้วเชิดหน้ารั้น ๆ มองตุลา ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็เผลอลูบศีรษะแมวสาวจนเจ้าหล่อนลืมตัวทำตาพริ้มอย่างเป็นสุข แล้วพอนึกได้ ก็รีบสะบัดหน้าแล้วขู่ฟ่อใส่เข้าให้

   “อย่ามาทำกับฉันเหมือนแมวทั่วไปนะยะ!”

   รุ้งพรายบอกอย่างงอน ๆ แล้วนอนหันหลังให้กับตุลา แต่ก็ยังใช้หางแกว่งไปมาตีพื้นเล่น จนชายหนุ่มนึกขำ ก่อนจะหันมาทางพาทิศที่ยิ้มมองเขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว

    “รู้ไหมตุล พวกเราก็เปรียบเหมือนครอบครัวเดียวกันแล้ว ...สำหรับฉัน เธอช่วยคืนความสุขให้กับคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้ ฉันเองก็อยากจะตอบแทนเธอ ในสิ่งที่ฉันพอจะทำได้ มันก็แค่นั้นล่ะ”

   “คุณพาทิศ”

   ตุลาพึมพำเรียกชื่อของอีกฝ่ายด้วยความตื้นตันใจ

   “ฉันก็ด้วยนะ ถ้ามีสิ่งไหนที่ฉันสามารถช่วยเหลือเธอได้ ฉันก็ยินดีช่วยเต็มที่”

   ราตรีบอกขึ้นบ้างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน ที่ทำให้ตุลาต้องยิ้มตาม

   “ฉันก็ช่วยได้นะ ทำได้หลายเรื่องด้วย!”

   รุ้งพรายรีบหันมาบอกบ้าง จนคนอื่นพากันอมยิ้ม ส่วนตุลาก็ต้องรีบรับคำ เพราะปีศาจแมวสาวทำท่าจะงอนขึ้นมาอีกครั้ง



    จากนั้นพอทานข้าวเช้าเสร็จ ตุลาก็เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน โดยนำโน้ตบุคไปพิมพ์นิยายที่ซุ้มดอกราตรีในสวนหลังบ้านแทน พร้อมกับฟังปิ่นสุดาร้องเพลงคลอกล่อมเบา ๆ  เนื่องจากเงือกสาวได้รับการขอร้องจากชายหนุ่ม หลังจากได้ฟังมาจากรุ้งพรายว่า ปิ่นสุดานั้นร้องเพลงได้ไพเราะมาก ๆ จนเขาอยากฟังเสียงเธอร้องเพลงบ้าง ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลยสักนิด

   บรรยากาศอันอบอุ่นของคฤหาสน์ม่านราตรี  ผิดจากวันที่เขามาเยือนยังสถานที่นี่ใหม่ ๆ ลิบลับ วันแรกนั้นหากไม่ติดสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เป็นอา เขาคงแทบจะเผ่นหนีไปเสียแล้ว

   ตุลานั่งคิดถึงเรื่องที่อยากจะเขียนมากมาย จากนั้นเขาจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเริ่มพิมพ์ข้อความลงไปในโน้ตบุคของตน

   ‘....เบื้องหน้าของผมนั้นคือคฤหาสน์สีขาวทรงยุโรปประยุกต์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางสวนดอกราตรีที่ปลูกแน่นขนัด ผมหันไปถามคุณป้าผู้ให้เช่าว่าเธอพาผมมาถูกที่หรือไม่ แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มหวานแทนคำตอบ ...ผมถอนหายใจเบา ๆ มาถึงตรงนี้ก็คงจะถอยลำบาก ค่าเช่าล่วงหน้าก็จ่ายไปแล้วสามเดือน อย่างน้อยก็คงต้องอยู่ให้ครบจนถึงเวลาที่จ่ายเงินไปล่ะนะ...’

   ชายหนุ่มวางมือ เมื่อเขาพิมพ์ไปเรื่อย ๆ จนบทนำของเขาเสร็จเรียบร้อย

   “เอาล่ะ! วันนี้พอแค่นี้”

   “น่าสนใจจัง ขออ่านได้ไหมตุล?”

   รุ้งพรายกระโดดมาใกล้ ๆ โน้ตบุค พลางยื่นหน้ามาใกล้ แต่ตุลารีบยกโน้ตบุคหลบทันที

   “ไม่ได้! ทุกคนห้ามอ่านนะ!”

   “ทำไมล่ะ เธอจะเขียนนิยายไม่ใช่หรือ ความเห็นของคนอื่นเป็นสิ่งสำคัญมากไม่ใช่หรือไง”   

   ราตรีถามขึ้นมาบ้าง ตุลากลืนน้ำลายลงคอ เมื่อคนอื่นเพ่งมองมายังเขาคล้ายจะรอคำตอบ

   “ผมอายนี่นา...”

   พอตุลาพูดจบ เสียงหัวเราะของรุ้งพรายก็ดังแหลมขึ้น ประสานกับเสียงหัวเราะแผ่วเบาของราตรี แม้แต่ปิ่นสุดาที่ฟังอยู่ ยังอดหัวเราะคิกคักเบา ๆ ด้วยความเอ็นดูชายหนุ่มไม่ได้

   “แปลกตรงไหนเล่า...ถ้าลงเน็ตให้คนอื่นที่เราไม่รู้จักอ่าน ก็พอไหวหรอก แต่ถ้าคนรู้จักยิ่งสนิทเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่อยากให้อ่านมากขึ้นนี่นา”

   ตุลาบอกอย่างเริ่มนึกงอนขึ้นมาบ้าง เพราะสาว ๆ รุมหัวเราะเขา ไม่มีใครเข้าใจความอายของเขาสักนิด

   “น่า ๆ อย่างอนสิ ก็เข้าใจนะ แต่ถ้าจะเขียนเรื่องที่นี่หรือเรื่องเกี่ยวกับพวกเรา ฉันว่าพวกฉันน่ะจะแนะนำนายได้ตรงประเด็นมากกว่า”

   ตุลาสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินคำพูดของรุ้งพราย เขานิ่งคิดสักนิด ก่อนจะยอมปล่อยโน้ตบุคของตนให้ปีศาจแมวสาวใช้ ซึ่งตุลาก็ต้องทึ่งซ้ำสองเมื่อเห็นแมวเล่นโน้ตบุคต่อหน้าต่อตาตนแบบนี้

   “มองอะไร เห็นแบบนี้ฉันก็ไฮเทคพอนะยะ ฉันแอบไปเล่นคอมของเด็กแถวนี้บ่อย ๆ นั่นล่ะ ก็แหมตอนกลางคืนฉันเป็นหญิงสาวแสนสวยออกขนาดนั้น หนุ่ม ๆ บ้านไหนก็ยินดีเปิดรับฉันเข้าบ้านทั้งนั้นล่ะ”

   รุ้งพรายเชิดอวด แต่เสียงปิ่นก็ดังขึ้นแทรกมาเบา ๆ

   “ไม่ใช่เพราะไปใช้มนต์สะกดให้เขายอมทำตามหรอกหรือรุ้ง”

   ปีศาจแมวสาวสะดุ้ง ก่อนจะหันขวับไปยังเพื่อนสาว แล้วดุเบา ๆ

   “ใครว่าล่ะ ก่อนหน้าจะถูกสะกด ก็กระดี๊กระด๊า เชิญชวนฉันกันทั้งนั้น!”

   “นี่รุ้ง ถ้าไม่อ่านก็ถอยไป ฉันจะได้อ่านเอง”

   ราตรีบอกอย่างเริ่มรำคาญ เมื่อเพื่อนสาวของเธอไม่ยอมอ่านนิยายของชายหนุ่มให้เสร็จสักที

   “อ๊ะ อ่านก็อ่าน ...ไหน ๆ ก็ไหน ๆ อ่านออกเสียงแล้วกัน”

   ราตรีกับปิ่นสุดาพยักหน้าเห็นด้วย เพราะพวกเธอจะได้ไม่ต้องต่อคิวอ่านต่อในตอนหลัง แต่ตุลานี่สิหน้าซีดสลับแดง เพราะยิ่งอับอายหนัก เมื่อถูกคนรู้จักอ่านนิยาย แถมอ่านออกเสียงให้ได้ยินแบบนี้ เขารอลุ้นจนกระทั่งรุ้งพรายอ่านจบบทนำที่เขียนทิ้งไว้ ทั้งสามนิ่งเงียบ แล้วค่อย ๆ หันมามองชายหนุ่ม

   “ดีนี่ เริ่มแบบนี้ก็โอเค สมจริงดี!”

   รุ้งพรายชม ซึ่งราตรีก็เสริมตามมา

   “นั่นสินะ ประสบการณ์นี่ช่วยในงานเขียนได้จริง ๆ นั่นล่ะ”

   “ฉันอยากอ่านตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ เขียนไว ๆ นะคะ คุณตุล”

   ปิ่นสุดาบอกพร้อมรอยยิ้ม ทำเอาตุลาโล่งอก และเริ่มมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

   “ครับ! ผมจะพยายาม”

   จากนั้นชายหนุ่มจึงหยิบโน้ตบุคกลับเข้าบ้าน เพราะเขาถือหลักไม่รีบร้อนแต่ง แต่อยากแต่งในช่วงอารมณ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้นิยายของตนออกมาดีที่สุดเช่นเดียวกัน

   



--- TBC ---

หลายคนก็เดาพระเอกกันไป จะให้บอกเลยโต้ง ๆ ก็กระไรอยู --"  เพราะบางคนชอบลุ้นเอง ...

ที่พระเอกเดายากเพราะเรื่องนี้ตอนแรกเขียนเลย ตั้งใจจะเขียนสไตล์ "ฮา่เร็ม"  คือ มีตัวเอก(ตุลา) เป็นศูนย์กลาง และตัวละครอื่น ๆ ก็จะมีความชอบในตัวละครนี้ และทุกตัวละครก็มีสิทธ์จับคู่กับ "ตุลา" ได้พอ ๆ กัน  (แต่ในที่นี้ผู้ชายน้อยไปนิด ตัวเลือกก็เลยเหลือแ่ค่ 2 และก็จะเหลือ 1 ตามมา เมื่อมีหนุ่มโผล่มาอีก 1 หน่อ และดึงอีกหนุ่มไป(มั้ง) )

ยังไงก็ต้องขออภัยสำหรับคนชอบอะไรวาบหวิว กริ๊วกร๊าว ระหว่าง พระเอก-นายเอก  เรื่องนี้ "มี" ก็จริง แต่น้อย ๆ ทยอย สวีทค่าาา

ป.ล. เดากันได้ยัง สำหรับตอนนี้ หุๆ ... (เดาได้ยากอยู่แต่ละรายหาโอกาสทำคะแนนทั้งนั้น)



ตอนหน้า(8) ฮา ๆ ค่ะ เพื่อนนายตุลมาเยี่ยมบ้านโดยที่ไม่บอกล่วงหน้า  .... ไว้ตอนกลางคืนจะย่องมาแปะต่อนะคะ  ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 13-07-2011 11:29:10

จะมี 1 หนุ่มมาดึง 1 หนุ่ม ไป  <---  แวกกกกก  ดึงอากริชไปอะพอเป็นไปได้ แต่ถ้าดึงพาทิศไปเนี่ย คงต้องรอตัวละครออกมาเพิ่มอีก

ตอนนี้เดาไปก่อนว่าพาทิศเป็นพระเอก และถ้าหากเป็นจริง พาทิศรีบไปเข้าคอร์สซ่อมแซมร่างกายด่วนเลยน้า
ถ้าไม่อยากให้นายเอกเค้าเป็นลมบ่อยๆ เด้อ

 :pig4: คนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 13-07-2011 13:13:25
แหมตอนจัดงานเลี้ยง น่าจะเชิญ...เจ้แม้น...มากินฟรีด้วยนะ

ถ้า...พาทิศเป็นพระเอก ฉากสวีทหวานจะกลายเป็นหวีดสยองแทนไม๊

แบบประมาณ จุ๊บทีลูกตากระเด้งดึ๋งๆ 

นายเอกต้อง ontop อ่ะสิ ลูกตาจะได้ไม่หลุด เอิ๊ก เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 13-07-2011 13:37:15
ผีกับคนเหรอ ออกแนวสยอง ถ้ามีอีก 1 หนุ่ม คงต้องเป็นหมอผี ซะละมั้ง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 13-07-2011 13:52:52
“ฉันอยากอ่านตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ เขียนไว ๆ นะคะ คุณตุล”

เหมือนกานน~~
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 13-07-2011 13:57:02
เนื้อเรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ แต่น่ารักค่ะ ตัวละครทุกตัวน่ารักมาก :m1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 13-07-2011 14:44:18
อยากกินข้าวต้มมมมมม :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 13-07-2011 14:59:41
ขอเดาว่าเป็นพาทิศ แน่นอน ฟันธง :3123:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-07-2011 15:51:01
ว้าวว้าวนิยายของตุลเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-07-2011 15:55:15
ติดตามต่อจ้า

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 13-07-2011 16:51:29
ตอนที่แล้วคิดว่าเป็นตุลา - อากริช ซ๊ะอีก
มาตอนนี้ตุลน้อย เขิลพาทิศซ๊ะงั้น อารมณ์เปลี่ยนทันทีเลย
จะสวีทกันที ต้องคิดหน่อยแล้ว ตาจะหลุดเมื่อไหร่ :jul3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 13-07-2011 18:20:19
อ่านตอนนี้จบ ก็อยากอ่านตอนหน้าแล้วชิ
สู้ๆนะคร๊าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 13-07-2011 19:27:13
เลือกไม่ถูกรอเฉลยครับ^ ^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 13-07-2011 19:46:05
ตามอ่านจนทันแล้วค่ะ รวดเดียวเจ็ดตอน
ตอนแรกๆแอบหลอนๆเหมือนกันนะคะ
แต่ตอนล่าสุดนี่ น่ารักดี แอบเชียร์อากริชค่ะ รู้สึกอากริชน่ารักและน่าจะมีเรื่องอะไรซับซ้อนให้ลุ้นอยู่
รอตอนหน้านะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 13-07-2011 20:17:26
ใครๆก็อยากอาบน้ำกับตุลาเนาะ อิอิ
ตอนนี้น่ารักจัง เป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆด้วย  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 13-07-2011 21:12:52
ลงให้อ่านกันก่อนค่า เผื่อพรุ่งนี้ยุ่งจนลืมอัพ~


ม่านราตรี
 บทที่ 8



    ในวันถัดมา ตุลาก็ต้องพบกับความยุ่งยากที่แวะมาเยือนในชีวิตอีกรอบ เมื่อจู่ ๆ แก๊งเพื่อนสนิท นำขบวนโดยพิชยะ หรือเจ้าเก่ง เพื่อนซี้ตัวกวนของเขา โผล่มาเยี่ยม  แถมพาทิศยังออกไปต้อนรับและเชื้อเชิญพวกนั้นเข้ามาพัก โดยไม่คิดกลัวใครจะรู้ว่าตัวเองเป็นซอมบี้เลยด้วยซ้ำ

   “ต๊าย! ไอ้ตุล ทำไมแกไม่รีบบอกพวกฉัน ว่ามีพ่อบ้านหล่อลากดินแบบนี้คอยรับใช้วะ!”

   แหม่มหรือนางสาวมนฤดี สาวน้อยผูกผมม้าผู้ร่าเริงแจ่มใส รีบหันไปถามตุลาที่ลงมาจากชั้นสอง และยังคงนั่งอึ้ง ๆ ด้วยความมึนงงกับเพื่อนที่ห้องรับแขก ส่วนพิชยะนั้นรีบเอ่ยแซวเพื่อนสาวกลับไปทันที

   “แล้วถ้าตุลมันบอกก่อนหน้านี้ แล้วแกจะทำยังไงวะแหม่ม”

   มนฤดียิ้มหวานหยดย้อยพลางเอ่ยขอบคุณคนที่เอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟ แล้วขอตัวกลับไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารกลางวันต่อ หญิงสาวหันมาทางเพื่อนชายที่ตั้งคำถาม แล้วตอบออกไปอย่างหนักแน่นจริงจัง

“ฉันจะได้ขอมาเช่าบ้านกับตุลมันด้วยอีกคนยังไงล่ะ!”

   “แชร์ค่าเช่าเดือนละสามหมื่น ถ้าจ่ายได้ก็เชิญตามสบาย”

   ตุลาจิบน้ำเย็นแล้วแสร้งบอกไปเรียบ ๆ เรียกอาการค้อนขวับ จากเพื่อนสาวได้ทันที

   “เชอะ! อีตางก! ใครจะมีปัญญาจ่ายยะเดือนละสามหมื่น”

   คนฟังถอนหายใจ แล้วหันไปอีกสองคนที่นั่งยิ้ม ๆ ไม่พูดไม่จามากมายเหมือนพิชยะและมนฤดี

   “แล้วคิดยังไงถึงได้ยกขบวนมาเยี่ยมกันแบบนี้  ใครต้นคิดล่ะนั่น นายหรือ เอก?”

   ชายหนุ่มมาดเข้มรูปร่างสูงใหญ่เป็นนักกีฬายิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะ ก่อนจะย้อนถาม

   “ไม่ใช่ฉันหรอก นายลองเดาดูสิ”

   ตุลานิ่งคิด มองอานนท์ แล้วหันไปมองปณาลีที่นั่งใกล้ ๆ  ก่อนจะไล่มองพิชยะ และมนฤดี ที่ยกยิ้มกวน ๆ ให้เขา

   “อืม...ไอ้เก่ง?”

   “บู่! ผิด! ไม่ต้องทายแล้ว หนูน้ำของเราต่างหากที่เป็นคนเสนอความคิด!”

   พิชยะโพล่งบอกร่าเริง แต่คนถูกกล่าวถึงยิ้มอาย ๆ แล้วพยักหน้าน้อย ๆ รับ

   “ก็เราเป็นห่วงนายนี่ เห็นนายไม่เคยอยู่คนเดียวมาก่อน ก็เลยชวนคนอื่นมา เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง”

   หญิงสาวผมสั้นประบ่าหน้าตาน่ารักบอกกับตุลา ทางด้านชายหนุ่มยิ้มนิด ๆ แล้วขอบคุณเบา ๆ กับความมีน้ำใจและห่วงใยจากเพื่อนสาวของเขาผู้นี้

   “แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องช่วยอะไรแล้วนี่ น่าแปลกนะ ตอนถามทางเข้ามา พวกชาวบ้านบอกว่าบ้านเช่านายเป็นคฤหาสน์ผีสิง ไอ้พวกฉันก็เสียวสันหลังวาบ คิดว่านายโดนผีหลอกตายคาบ้านไปละ แต่พอมาดูจริง ๆ นี่มันคฤหาสน์ไฮโซชัด ๆ หรูหราจะตาย”

   อานนท์เปรยขึ้น ขณะที่มองสำรวจไปทั่วบ้านอย่างนึกทึ่ง ไม่คิดว่าเพื่อนจะมีเงินเช่าคฤหาสน์หรูหราขนาดนี้เพื่ออยู่อาศัยได้

   “ถ้ามาก่อนหน้านั้นอีกสักสามสี่วัน ก็คงได้เห็นแบบที่ชาวบ้านบอกนั่นล่ะ”

   ตุลาบอกเบา ๆ เมื่อหวนคิดถึงสภาพบ้านที่เขาได้เห็นในครั้งแรก

   “หือ? แล้วไหงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”  มนฤดีถามขึ้นบ้าง

   “ก็ฉันสละทรัพย์สมบัติส่วนตัวปรับปรุงน่ะสิ...ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็ต้องอยู่อีกเกือบปี ยังไงก็ต้องตอบแทนกันบ้าง”

   ตุลาเปรยแล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคนอื่น ๆ มองเขาอย่างสงสัย

   “ง่า...ฉันหมายถึง ตอบแทนบ้านหลังนี้ที่ให้ฉันอยู่อาศัยไง”

   “แปลก ๆ นะนาย ...ว่าแต่คุณพาทิศนี่เป็นใคร ทำไมถึงมาเป็นพ่อบ้านนายได้ล่ะ นายจ้างเขามาหรือ ค่าตัวแพงมากไหม?”

   มนฤดีกลับมาซักไซ้ในเรื่องของพ่อบ้านหนุ่มที่เธอให้ความสนใจอีกรอบ ตุลายิ้มเจื่อน ๆ แล้วพยายามคิดเรื่องแก้ตัวสด ๆ ขึ้นมาเพื่อหวังกลบเกลื่อน

   “คือ...คุณพาทิศ เขาเป็นคนรู้จักของเพื่อนคุณอาอีกที แบบอากริชฝากฝังไว้ก่อนตายน่ะ ว่าถ้าฉันเช่าบ้านหลังนี้เมื่อไหร่ ก็ให้มาคอยดูแลฉันด้วย”

   คำตอบของตุลาทำให้เพื่อน ๆ ร้องอ๋อ  ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็นึกแปลกใจกับพินัยกรรมล่วงหน้าที่ผู้เป็นอาของเพื่อนเขียนทิ้งไว้อยู่บ้าง แต่เพราะรู้ว่าตุลานั้นรักและเคารพอาของตัวเองมาก จึงไม่มีใครโต้แย้งหรือติติงอะไรถึงพินัยกรรมแปลก ๆ ฉบับนั้น เพราะเกรงว่าตุลาจะไม่พอใจนั่นเอง

   “นี่ ๆ ตุล ขอพวกเราเดินสำรวจบ้านหน่อยได้ไหม บอกตามตรงว่ะ ไม่เคยเข้าบ้านหรู ๆ แบบนี้มาก่อน อยากเห็นเป็นบุญตาสักครั้ง...นะ”

   พิชยะหันไปขอร้องเพื่อน ตุลาทำตาปริบ ๆ ครั้นจะไม่อนุญาตก็กลัวโดนว่าใจแคบ เลยต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วอนุญาตให้อย่างเสียไม่ได้

   “ก็ได้...แต่อย่าทำเสียงดังนักนะ เดี๋ยวจะรบกวนพวกเขาเข้า...”

   คนอื่นชะงัก พร้อม ๆ กับตุลาที่เผลอหลุดปาก ต่างคนมองชายหนุ่มนิ่งด้วยสายตาตั้งคำถาม ตุลานิ่งคิด แล้วจึงแสร้งยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับบอกไปหน้าตาเฉย

   “ก็พวกวิญญาณเฮี้ยนที่ชาวบ้านบอกยังไงล่ะ”

   พิชยะที่กลัวผีไม่แพ้กับตุลาสะดุ้งเฮือก แล้วเหลือบมองซ้ายมองขวาอย่างลืมตัว

   “มะ...มีจริงหรือวะ”

   “บ้าน่ะเก่ง ไปเชื่อตุลมัน คนขี้กลัวอย่างมัน ถ้ามีผีจริง ๆ ป่านนี้เผ่นไปแล้ว ไม่อยู่มาได้เกือบอาทิตย์แบบนี้หรอก!”

   มนฤดีบอกขัดคอขึ้นอย่างหมั่นไส้ ทำเอาตุลากลืนน้ำลายลงคอ กับคำพูดแสนจะแทงใจดำของเพื่อนสาว เพราะถ้าพวกพาทิศไม่ใช่ผีใจดีแล้วล่ะก็ เขาก็คงเผ่นไม่ยั้งไปตั้งแต่วันแรก ๆ อยู่เหมือนกันนั่นล่ะ

    และในที่สุด เมื่อเห็นว่าเพื่อน ๆ ยังคงไม่เปลี่ยนใจ ตุลาจึงจำต้องเดินนำเป็นไกด์พาทุกคนทัวร์ภายในคฤหาสน์ม่านราตรีอย่างจำใจทีละห้อง

   

   ตอนนี้ตุลาย้ายมาอยู่ห้องใหม่ ซึ่งเป็นห้องเก่าของจอมเดช เพราะเวลาออกมาที่ระเบียง จะสามารถเห็นสวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่อยู่ของเงือกสาวและซุ้มดอกราตรีที่วิญญาณสาวอาศัยอยู่ได้ถนัดชัดเจนกว่าห้องที่เขาอยู่ในครั้งแรก

   “โห! ห้องมึงหรูว่ะตุล กว้างก็กว้าง แถมมีระเบียงอีก มองไปเห็นวิวในสวนด้วย... อ๊ะ! เฮ้ย! เงือกนี่นา!”

   เสียงพิชยะเอะอะโวยวาย ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือก ส่วนคนอื่นพากันวิ่งกรูออกไปทางระเบียงอย่างสนใจ

   “ไหน? เงือกที่ไหน ไม่เห็นมีใครเลย ตาฝาดไปเปล่า”

   มนฤดีถามเพื่อนของเธอ คนอื่น ๆ ก็พยายามมองแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากสนามหญ้าและต้นไม้ รวมไปถึงบ่อน้ำแค่นั้น

   “มีสิ! มีจริง ๆ นะ ผู้หญิงสาวผมยาว ๆ มีหางเป็นปลา มานั่งอยู่ริมบ่อตรงนั้น!”

   พิชยะโวยวายเมื่อเพื่อนคนอื่นพยายามหาว่าเขาตาฝาด

   “หือ? เงือกหรือ ตอนฉันวิดบ่อเปลี่ยนน้ำใหม่ ยังไม่เจอเลยนะ สงสัยจะเพิ่งย้ายมาอยู่มั้ง”

   ตุลาทำหน้าตาแบบไม่รู้สึกรู้สา ยิ่งตอกย้ำให้คนอื่นเข้าใจว่าพิชยะน่าจะตาฝาดไปเองมากกว่า

   “เพราะนายกลัว และคิดว่ามีผี ก็เลยตาฝาดไปน่ะสิ!”

   มนฤดีบ่นใส่ ซึ่งพิชยะก็รีบสวนกลับทันที

   “นั่นมันผี ถ้าฉันตาฝาดก็ควรเห็นผี แต่ที่ฉันเห็นมันนางเงือกต่างหาก! เงือกตัวเป็น ๆ จริง ๆ นะ!”

   “อย่าเถียงกันเลยน่า เอาเป็นว่าเดี๋ยวลงไปดูในบ่อพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า จะได้รู้ว่ามีจริงหรือตาฝาด”

   อานนท์สรุป ซึ่งก็ทำให้ทุกคนเห็นด้วย ยกเว้นตุลา

   “ง่า...เหลวไหลน่า แค่นี้ก็ต้องลงไปดูด้วยหรือไง ฉันว่าเราไปสำรวจห้องอื่นแทนดีกว่านะ”

   “แต่เราว่าไปดูเลยก็ดีนะตุล จะได้ไม่คาใจทั้งสองฝ่าย จริงไหมเก่ง”

   ปณาลีบอกกับเพื่อนของเธอ ซึ่งพิชยะก็รีบพยักหน้ารับ

   “นั่นสิ! ไปดูให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่า อยากรู้เหมือนกันว่าตาจะฝาดบ้าอะไรเป็นรูปเป็นร่างขนาดนั้น ยังติดตาอยู่เลยเนี่ย!”

   จากนั้นเพื่อนทั้งสี่ก็เคลื่อนขบวนลงจากตึกออกไปยังสวนหลังบ้าน โดยมีตุลาตามไปอย่างกังวล จะขอให้พาทิศช่วยแก้สถานการณ์ ซอมบี้หนุ่มก็ไม่รู้หายไปไหน มีแค่เพียงอาหารกลางวันที่ถูกจัดเตรียมค้างไว้ในครัวเท่านั้น

   

   “นี่ล่ะ ๆ บ่อนั้นไง ที่มีเงือก!”

   พิชยะบอกแล้วชี้ให้เพื่อนดู แต่ตัวเขาเองกลับไม่กล้าเข้าไปเสียอย่างนั้น

   “มา! ฉันไปดูเอง น้ำใสแจ๋วเห็นก้นบ่อขนาดนี้ มองดูก็รู้ว่ามีอะไรบ้าง...”

   มนฤดีบอกแล้วก็เงียบชะงักไป ปฏิกิริยาของเพื่อนสาว ทำให้ตุลาตกใจและรีบแก้ตัวยกใหญ่

   “เอ่อ... คือนั่นน่ะ ...เธอเป็นเพื่อนฉันเอง ...ไม่ใช่ภูตผีปีศาจอะไรไม่ดีทีไหนหรอกนะ!”

   มนฤดีหันมามองตุลาอย่างงง ๆ ก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนเข้าไปดูที่บ่อน้ำกับเธอ

   “นี่ไง เงือกที่นายเห็นน่ะเก่ง”

   ปลาช่อนอเมซอนตัวใหญ่พอ ๆ กับเด็ก ว่ายวนไปมาในบ่อลึก ผิวน้ำบนบ่อมีใบบัวเล็ก ๆ บังร่มเงาให้ร่างใต้น้ำ มันว่ายไปมา เลาะกอบัว ทำให้คนมองยิ้มน้อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน

   “แต่ฉันว่าฉันเห็น...”

   “มองผ่าน ๆ ก็นึกว่าเงือกได้เหมือนกันล่ะนะ ตัวใหญ่ไม่ใช่ย่อยเลยนี่ตุล อยู่มานานแล้ว หรือนายซื้อมาลงบ่อไว้น่ะ”

   อานนท์หันไปถามเพื่อน ด้านตุลาซึ่งกำลังมึนงงชะงักเล็กน้อย แล้วรีบตอบตามน้ำไป

   “ง่า ...มันอยู่มานานแล้วน่ะ ก่อนฉันจะมาเช่า บางทีเวลากระโดดเล่นน้ำ ก็ทำให้มองผ่าน ๆ นึกว่าคน  เด็ก ๆ แถวนี้ก็เลยชอบเอาไปลือกัน”

   “ตาฝาดหรือวะ...แต่ที่ฉันเห็นนั่นผู้หญิงชัด ๆ เลยนะ”

   พิชยะยังคงบ่นอุบ มนฤดีกับปณาลีเลยช่วยปลอบเพื่อน แล้วชวนไปนั่งเล่นที่ซุ้มราตรีแทน ตุลาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังคงมองเจ้าปลาช่อนอเมซอนอย่างแปลกใจ แต่ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสาวเรียก

   “ยืนเหม่ออะไรอยู่ได้ตุล เห็นปลาช่อนเป็นเงือกกับเก่งเข้าอีกคนหรือไง!”

   ตุลารีบหันไปยิ้มแห้ง ๆ แล้วตามเพื่อนไปนั่งที่ซุ้ม ระหว่างนั่งพวกเขาก็คุยกันเรื่อย ๆ ถึงการงาน และเรื่องเรียนของแต่ละคนในช่วงนี้

   “พวกนายสองคนเรียนต่อคณะเดียวกันสินะ”

   ตุลาถามอานนท์กับปณาลี ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้ารับ

   “น้ำน่ะฉันไม่แปลกใจหรอก แต่นายน่ะสิเอก ไหนบอกไม่อยากต่อบริหารแล้วไง”

   มนฤดีถามต่อ แต่คนถูกถามสะดุ้ง แล้วเหลือบมองไปทางอื่น ส่วนปณาลีนั้นหน้าแดงนิด ๆ แล้วก้มหน้าน้อย ๆ ทำให้เพื่อนทุกคนชะงัก แล้วหันมาสนใจกับปฏิกิริยาของคนทั้งคู่แทน

   “ต๊าย! อย่าบอกนะว่าคบกันแล้ว!  กรี๊ด! น้ำทำยังงี้ได้ไง มีแฟนตัดหน้าเราแบบนี้อ่ะ!”

   มนฤดีแกล้งทำโวยวายใส่ ยิ่งทำให้ปณาลีและอานนท์เขินหนักยิ่งขึ้น ส่วนพิชยะที่คันปากยิบ ๆ ก็รีบแทรกขัดขึ้นทันที

   “ขืนรอให้เธอหาแฟนได้ก่อน มีหวังหนูน้ำเหี่ยวแห้งก่อนพอดีน่ะสิแหม่ม”

   “ปากเสียนะไอ้เก่ง เดี๋ยวเจอเตะหรอก!”

   มนฤดีหันมาบอกด้วยน้ำเสียงห้วนห้าว เสียจนเพื่อนชายต้องทำคอพับคอย่นแล้วรีบยกมือยอมแพ้ สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนอื่นที่เหลือ

   “ก็คิด ๆ อยู่เหมือนกันล่ะนะ ว่าอาจจะเป็นแบบนี้สักวัน ยังไงก็ขอให้มีความสุขนะทั้งสองคน”

   ตุลาอวยพรให้เพื่อน ซึ่งอานนท์กับปณาลีก็หันมายิ้มให้กับชายหนุ่ม

   “ที่เป็นแบบนี้ก็ต้องขอบคุณนายด้วยล่ะนะตุล”

   อานนท์ว่า แต่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อถูกแฟนสาวตีแขนเข้าให้เบา ๆ แล้วทำหน้าห้ามให้เขาพูด

   “ฮ่า ๆ น้ำเขาเขินน่ะ ไม่เห็นเป็นไรเลย เรื่องมันผ่านมาแล้วก็เล่า ๆ ไปเหอะ คนบื้อ ๆ มันจะได้รู้ตัวบ้าง จะได้ไม่เผลอไปทำให้สาวไหนอกหักเข้าให้อีก”

   อานนท์บอกอย่างไม่ถือสา ปณาลีหน้าแดงหนักแล้วค้อนขวับให้แฟนของเธออย่างงอน ๆ จนทำให้อานนท์ต้องรีบง้อ  ส่วนคนอื่นนอกจากตุลาพอได้ยินเช่นนั้นก็พอจะเดาเรื่องทั้งหมดได้ออก มีแต่ตุลาที่ยังคงมีสีหน้าสงสัยแล้วถามคนอื่น

   “เอ่อ..ทำไมหรือ เกี่ยวอะไรกับฉันด้วยหรือไง?”

   ทุกคนมองหน้ากันตาปริบ ๆ แล้วจึงถอนหายใจออกมาไล่เลี่ยกันจนตุลายิ่งงงไปใหญ่

   “ตุลเป็นแบบนี้ต่อไปก็ดีแล้วล่ะ น่ารักดีออก”

   ปณาลีบอกแล้วยิ้มให้ ซึ่งอานนท์ก็หัวเราะเบา ๆ คนอื่น ๆ ก็ต่างอมยิ้มน้อย ๆ จนตุลาชักจะไม่สบอารมณ์

   “อีกละ ชอบทำเป็นรู้กันเองเฉพาะกลุ่ม แล้วทิ้งให้ฉันไม่รู้อยู่คนเดียวประจำ!”

   “โอ๋ ๆ  อย่างอนสิคะ น้องตุล มามะ เดี๋ยวพี่เก่งปลอบให้”

   พิชยะแกล้งจีบปากจีบคอล้อเลียน แล้วทำท่าปล้ำกอดตุลา จนคนถูกกอดต้องตะโกนห้าม ส่วนคนอื่น ๆ พากันหัวเราะอย่างสนุกสนาน

   “โธ่โว้ย! บอกว่าอย่าไง! ปล่อยนะโว้ย ไอ้เก่ง!”

   ตุลาบ่นโวยวาย พิชยะหัวเราะร่าเริงไม่ยอมฟัง ยังคงแกล้งกอดเพื่อนของตนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเย็นวาบที่ข้อเท้าของตน เขาเหลือบลงมองไปดู แล้วก็ต้องร้องจ๊าก พลางกระโดดหนีออกไปจากซุ้ม พร้อมแหกปากโวยวายยกใหญ่

   “มือ! มีมือจับข้อเท้าฉัน!”

   ตุลาใจหายวาบ แล้วรีบทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนทันที

   “มือบ้าอะไรวะ คราวเงือกก็ทีนึงละ”

   “อีกละ ๆ มึงนี่นะเก่ง จะแกล้งกันไปถึงไหนวะ หรือเห็นว่าตุลกลัวผี เลยแกล้งทำเป็นเจอผีหลอกให้ตุลมันกลัว ฮึ!”

   อานนท์เสริมขึ้นมาบ้าง แต่พอเห็นใบหน้าซีดเผือดของเพื่อน ก็รู้สึกว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้แกล้งแหย่เล่นแน่

   “เข้าไปนั่งพักในบ้านสงบสติอารมณ์ก่อนไป นึกว่าตุลมันจะกลัวผีขึ้นสมองคนเดียวเสียอีก มึงนี่ก็ไม่แพ้กันเลยว่ะเก่ง”

   ชายหนุ่มรูปร่างนักกีฬาบ่น แล้วชวนเพื่อนเข้าไปพักในบ้าน เพราะบรรยากาศร่มรื่นของสวนครึ้มแห่งนี้ จะว่าไป ถ้าไม่ใช่ช่วงกลางวัน มันก็ดูวังเวงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

   

   พอทั้งหมดเข้ามาในคฤหาสน์ พาทิศก็ปรากฏกายมาดักรอทุกคนพร้อมรอยยิ้ม

   “ยินดีต้อนรับกลับนะครับนายน้อย อาหารเตรียมไว้เสร็จแล้ว เชิญทุกคนที่โต๊ะได้เลยนะครับ ผมขอตัวสักครู่ก่อน”

   พาทิศบอกแล้วหันไปลอบยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนที่ตีหน้ายุ่ง เพราะเวลาเดือดร้อน อีกฝ่ายก็ดันหายตัวไม่ยอมอยู่ช่วยเขาแก้ไขสถานการณ์ ทั้งที่เป็นคนนำเจ้าเพื่อนรักพวกนี้เข้ามาโดยไม่บอกเขาล่วงหน้าแท้ ๆ

   จากนั้นทั้งหมดก็พากันมายังโต๊ะอาหาร บรรยากาศตึงเครียดเมื่อครู่สลายไปเกือบจะหมดสิ้นเพราะสีสันและกลิ่นหอมเย้ายวนบนโต๊ะเหล่านั้น

   “อร่อยชะมัดเลยว่ะตุล น่าอิจฉาจริง ๆ ที่มีของอร่อยแบบนี้ให้กินทุกวัน”

   พิชยะที่อารมณ์ดีขึ้นเพราะของกิน บอกกับเพื่อนสนิท คนอื่น ๆ เองก็เห็นด้วยกับชายหนุ่ม แล้วต่างกินอาหารในมื้อนั้นกันจนหมดเกลี้ยง

   “เดี๋ยวพวกฉันช่วยล้างเอง หนุ่ม ๆ ไปนั่งคุยกันไป!”

   สองสาวไล่หนุ่ม ๆ ที่ยืนเกะกะในครัว  เพราะตุลาบอกว่าพาทิศนั้นร่างกายไม่แข็งแรงนัก ส่วนใหญ่พอถึงช่วงกลางวันพ่อบ้านหนุ่มก็จะเข้านอน และเริ่มจัดการงานบ้านทั้งหมดในตอนเย็น  เพื่อน ๆ ของเขาเลยขันอาสาจัดการเรื่องเก็บกวาดล้างชามเป็นการตอบแทนอาหารมื้ออร่อยดังกล่าว

   “บ้านเช่ามึงน่าอยู่ดีหรอกนะตุล แต่ถ้าให้อยู่คนเดียวกูคงไม่ไหวว่ะ”

   อานนท์บอกกับเพื่อนของเขา  ซึ่งเวลาหนุ่ม ๆ อยู่คุยกันเองก็มักจะส่งภาษามึงมาพาโวยเช่นนี้เสมอ แต่ถ้ามีมนฤดีหรือปณาลีอยู่ด้วย พวกเขาก็จะพูดคุยกันธรรมดา เพราะมักจะโดนปณาลีเขม่นอยู่บ่อย ๆ ส่วนมนฤดีนั้นเธอเคยชินกับคำพูดสนทนาเช่นนี้เสียแล้ว มิหนำซ้ำยังเผลอพูดเองกับพวกหนุ่ม ๆ ด้วยซ้ำ

   “นั่นสิวะ บ้านหลังใหญ่แบบนี้ ยังไงก็ต้องมี ‘ไอ้นั่น’ อยู่แน่ ทางที่ดี มึงแขวนพระติดตัวไว้ดีกว่าว่ะตุล เพื่อนขอเตือนด้วยความเป็นห่วงนะโว้ย!”

    พิชยะรีบพยักหน้าเสริมเห็นด้วยตามมาอย่างรวดเร็ว

   “มึงก็ขี้กลัวเกินไปว่ะเก่ง และอีกอย่างถึงจะมีไอ้นั่นจริง ๆ แต่ถ้าเค้ามาดีไม่มาร้าย กูก็ไม่ว่าอะไรหรอก”

   ตุลาบอกกับเพื่อนทั้งสองด้วยสีหน้าจริงจัง จนคนมองต้องนิ่งอึ้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาไล่เลี่ยกัน

   “ก็แล้วแต่มึงล่ะนะ ...อืม จะว่าไปก็จริง ๆ นั่นล่ะ ต่อให้เป็นผี ถ้ามาดี ก็ยังดีกว่าคนที่คิดร้ายเสียอีก”

   อานนท์เปรยขึ้น จากนั้นทั้งสองสาวก็ตามมาสมทบ พวกเขาคุยกันสักพัก พิชยะก็ชักชวนเพื่อนฝูงขอตัวกลับ เพราะบ้านแต่ละคนก็อยู่ไกลจากที่พักของตุลาพอสมควร

   “น่าเสียดายจัง ว่าจะลาคุณพาทิศสักหน่อย งั้นฝากตุลบอกด้วยนะว่าฉันชอบเค้ามาก เอ๊ย! ขอบคุณเขามากสำหรับอาหารมื้อกลางวัน”

   มนฤดีบอกกับเพื่อนชายของเธอด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มชวนฝัน ซึ่งตุลาก็หัวเราะเบา ๆ แล้วพยักหน้ารับ

   “อือ รู้แล้ว ไว้จะบอกให้”

   “งั้นก็โชคดีนะตุล นิยายคืบหน้ายังไงก็ส่งมาให้อ่านกันบ้างนะ”

   “ได้สิ แล้วจะส่งไปให้ช่วยอ่าน ช่วยวิจารณ์แล้วกัน”

   ตุลาบอกกับปณาลีพร้อมรอยยิ้ม และพอทั้งหมดเตรียมจะกลับ พิชยะก็เกิดปวดปัสสาวะขึ้น จึงบอกให้คนอื่น ๆ รอเขาก่อน

   “เดี๋ยวไปฉี่แป๊บว่ะ รอหน่อยนะสาว ๆ”

   “เออ ๆ ไปเถอะย่ะ!”

   มนฤดีบอกอย่างรำคาญใจ พิชยะหัวเราะแห้ง ๆ แล้ววิ่งตรงไปยังห้องน้ำชั้นล่าง เขายืนทำธุระแล้วกดน้ำเรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างสบายตัว

   “อี๋! ล้างมือด้วยสิยะ น่าเกลียดเชียว!”

   เสียงใส ๆ บ่นขึ้น ทำเอาพิชยะสะดุ้งเฮือก หน้าซีด มองซ้ายมองขวา  ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อได้ยินเสียงน้ำจ๋อมแจ๋มดังเบา ๆ หลังประตูกระจกฝ้าที่กั้นระหว่างอ่างอาบน้ำกับห้องน้ำเอาไว้  พิชยะค่อย ๆ เดินไปเปิดบานประตูนั้นช้า ๆ แล้วก็ต้องตกตะลึงตาเหลือกกว้าง เมื่อเห็นแมวดำสองหางกำลังนอนแช่น้ำเล่นในอ่างนั้น แถมยังขู่ฟ่อใส่เขาอีก

   “ทะลึ่ง! มาแอบดูสุภาพสตรีอาบน้ำได้ไง ปิดเดี๋ยวนี้นะยะ!”

   ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก รีบปิดบานประตูกระจกฝ้านั่นอย่างรวดเร็ว แล้วเดินออกจากห้องน้ำตรงไปยังที่เพื่อน ๆ รออยู่

   “เสร็จแล้วหรือวะเก่ง...หือ? เป็นอะไรไป ไหงหน้าซีดเผือดแบบนั้น”

   อานนท์ทักเพื่อนอย่างเป็นห่วง พิชยะไม่ตอบคำถามนั่น แต่กลับหันไปหาตุลาแทน

   “ตุล...บ้านมึงเลี้ยงแมวดำด้วยใช่ไหม ...แมวที่มีหางสองหางน่ะ?”

   ตุลาชะงัก พอจะคาดเดาได้ว่าเพื่อนไปเจอกับอะไรมา เขาแสร้งยิ้มหวานอ่อนโยน แล้วบอกกับอีกฝ่าย

   “ไม่มีนี่ ตาฝาดเห็นอะไรเข้าอีกล่ะ ...อ้อ แต่เคยได้ยินชาวบ้านเล่าว่า เจ้าของคนเก่าเขาเลี้ยงแมวไว้ แต่ก็ตายไปหลังจากเจ้าของที่นี่ตายไม่นานแล้วล่ะนะ”

   พิชยะยิ่งหน้าซีดเผือดขึ้นไปอีก เขาหันไปหาเพื่อนคนอื่นแล้วรีบบอก

   “กะ...กลับกันเถอะว่ะ ขืนอยู่อีก มีหวังได้เจออะไรแปลก ๆ อีกแหง...”

   “เฮ่ย! เดี๋ยวเก่ง อย่าบอกนะว่าเมื่อกี๊เจอแมวอะไรที่ว่าเข้า”

   มนฤดีถามอย่างตกใจ ซึ่งเพื่อนชายของเธอก็รีบพยักหน้ารับหงึก ๆ ทั้งที่หน้าซีดเผือด ทำเอาคนอื่น ๆ เสียวสันหลังวาบตามกัน

   “งั้น...มือนั่นที่ซุ้มก็อาจจะ...”

   อานนท์เอ่ยค้างไว้แค่นั้น แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยงพร้อมกับคนอื่น เมื่อได้ยินเสียงแมวร้องแง๊วดังลั่น แล้วก็เงียบไป ตุลาหน้าซีดตามเพื่อน แต่ก็แสร้งฝืนยิ้มแย้มส่งให้คนอื่น

   “ก็นะ...บางครั้งก็มีอะไรแบบนี้บ้าง แต่ก็ดีไม่ใช่หรือ ได้บรรยากาศเขียนนิยายดีออก”

   คนอื่นยิ้มไม่ออก โดยเฉพาะพิชยะ เขาอยากรีบกลับบ้านเสียเดี๋ยวนี้ จึงดึงแขนอานนท์ยิก ๆ ตลอดเวลา

   “ง่า...งั้นพวกเรากลับล่ะตุล ...ถ้าอยากย้ายบ้านเมื่อไหร่ก็โทรมาตามได้ทุกเมื่อนะ”

   มนฤดีบอกพร้อมกับยิ้มเจื่อน ๆ จากนั้น ทุกคนก็รีบขอตัวกลับบ้าน โดยมีพิชยะเดินนำลิ่ว ๆ ออกไปเป็นคนแรก ทางด้านตุลามองตามไล่หลังเพื่อนไปด้วยความสงสาร ก่อนจะหันกลับมามองในคฤหาสน์แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาตั้งใจว่า จะไปไล่ถามทีละราย ถึงพฤติกรรมที่พวกเจ้าตัวทำในวันนี้ โดยเฉพาะรายหลังสุดที่เข้าข่ายหลอกเพื่อนเขาให้ขนหัวลุกไปตาม ๆ กันนั่น…





--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 7 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 13-07-2011 21:13:31
พระเอกให้เดาคงเป็นพาทิศนะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 13-07-2011 21:26:47
ไม่อยากจะบอกคนแต่งว่าเราติดเรื่องเข้่าให้แล้ว
เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีแต่น่ารักมากจริงๆ สาวๆเยอะดีด้วย
อีกอย่างอ่านแล้วให้ความรู้สึกว่าอยู่กันเป็นครอบครัวดีจัง
สงสัยอากริชอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นพระเอกหรือจะเป็นพี่ทิศ
แถมดูเหมือนว่าอากริชความลับเยอะจัง ทำให้อยากรู้มากๆ
เพื่อนๆตุลมาแล้วเจอดีกันซะด้วยโดยเฉพาะเก่ง

ปล.ถ้าของจริงน่ารักเหมือนในเรื่องจะดีมาก ส่วนใหญ่ที่เจอไม่ค่อยน่ารักเลย ยกเว้นท่านเจ้าที่และน้องกุมาร อันนี้เท่าที่เคยเจอน่ะ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-07-2011 21:49:17
ว่าที่พระเอกอีกหนึ่ง ยังไม่เผยโฉมแน่เลย แต่อยากให้พระเอกเป็นคนจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 13-07-2011 21:51:44
ยังไม่ไ้ด้เม้นของตอนที่7 เลย มาอัพตอนที่8 ซะแล้ว
พิชญะน่าสงสารอ่า โดนอยู่คนเดียวเลย :m20:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 13-07-2011 22:40:19
ได้อ่านสองตอนรวดเลยย อิอิ ติดเรื่องนี้ซะแล้ว

อยากให้อากริชเป็นพระเอกกกกกก >//<
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 13-07-2011 23:28:52
สนกดีค่ะ
อ่านไปตลกไป
มาอัพตอนต่อไปเร็วๆๆๆน้า
คอยอยู่จ้า สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 13-07-2011 23:31:46
อ่านะ วีรกรรมแต่ละคน อุๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-07-2011 00:42:26
ชอบพิชชะ อะ โดนหลอกแบบน่ารักจากผีๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 14-07-2011 03:25:16
อ่านแล้วเพลืนดี
รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของตัวคฤหาสน์ม่านราตรีได้อยากชัดเจน
อีกทั้งสมาชิกทุกตัว(คน) ที่อาศัยอยู่ด้วย

ชอบมาก สนุกดี

รักคนเขียน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 14-07-2011 10:54:07
เหอ เหอ น่าจะให้เก่งย้ายมาอยู่กับตุล ซะเลยนะ ร่วมด้วยช่วยกันหลอน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-07-2011 12:52:49
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 14-07-2011 14:25:47
โดนแกล้งคืน เนืองจากมารบกวนเวลานอนล่ะซิ * *
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 14-07-2011 18:25:00
สมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ
เก่งกับตุลขี้กลัวเหมือนกันเด๊ะ
ถ้าเก่งมาอยู่ด้วยต้องสนุกแน่เลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 8 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (13/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 14-07-2011 18:44:03
น่ารักนะ^ ^

ชอบจัง เหมียวขี้เล่น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 14-07-2011 20:42:51
ม่านราตรี
บทที่ 9



    ตุลายืนจ้องบรรดาวิญญาณประจำคฤหาสน์ม่านราตรีอย่างเงียบ ๆ  หลังจากที่ฝากพาทิศให้ช่วยเรียกทุกตนให้มารวมตัวกันในตอนค่ำของวันนั้น เพราะแต่ละรายเหมือนจะรู้ตัวว่าต้องเผชิญกับอะไร จึงแสร้งทำเป็นไม่ยอมออกมาพบชายหนุ่มตามปกติ จนตุลาต้องฝากให้พาทิศไปบอกอีกครั้งว่า เขาจะกลับบ้านและเลิกเช่าถ้าแต่ละตนไม่ยอมออกมาพบเขาภายในคืนนี้

   “โอ๊ย! เลิกจ้องสักที คนไม่ได้ตั้งใจจะหลอกสักหน่อย ก็อาบน้ำอยู่ดี ๆ อีตาบ้านั่นเข้ามาเองทำไมเล่า ห้องน้ำในคฤหาสน์นี่ ก็มีตั้งหลายห้อง ดันมาเข้าห้องที่ฉันอาบน้ำอยู่เองทำไมกัน!”

   รุ้งพรายที่ทนความกดดันเงียบ ๆ ที่ตุลาใช้กับตนไม่ไหว โพล่งขึ้นมาอย่างเหลืออด ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อเรียบ ๆ

   “แล้วที่ร้องเสียงดังส่งท้ายนั่นล่ะครับ?”

   รุ้งพรายชะงัก เธอหน้าแดงนิด ๆ แล้วทำเป็นเมินไปอีกทางไม่ยอมตอบ

   “จงใจแกล้งสินะครับ”

   ตุลาย้ำถามต่อ ทำให้คนฟังสะดุ้งแล้วรีบแก้ตัว

   “เปล่าสักหน่อย ฉันแค่ก้าวพลาดลื่นตกจากขอบอ่าง เลยตกใจแล้วเผลอร้องไปก็เท่านั้นเอง!”

   พอบอกจบรุ้งพรายก็หน้าแดงก่ำด้วยความอาย ตุลาเห็นดังนั้นจึงถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาได้

   “เอาเถอะครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไงมายังไง ถ้าเรื่องราวเกิดลามปามออกไป ผมจะได้หาวิธีช่วยแก้ไขไว้ล่วงหน้าได้ทัน”

    คำพูดของตุลาทำให้วิญญาณและภูตผีทุกตนยิ้มออก แต่แล้วอีกสองสาวก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อตุลาหันมาทางพวกเธอต่อ

   “แล้วคุณราตรีกับคุณปิ่น...”

   “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก็เธอร้องขอให้ช่วย ฉันก็เลยช่วยจับขาให้ผู้ชายคนนั้นหยุดแกล้งเธอ อุตสาห์ตั้งใจปรากฏให้เห็นแค่มือแท้ ๆ เชียวนะ”

   ราตรีรีบบอก ทำให้ตุลาลอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้

   “ขอบคุณครับ ก็ช่วยผมได้จริง ๆ นั่นล่ะนะ”

   เพราะอีกฝ่ายตั้งใจและหวังดี ตุลาจึงไม่อยากต่อว่าหรือบ่นอะไรมาก ราตรีเห็นดังนั้นก็โล่งอกแล้วยิ้มออก ทว่าปิ่นสุดาที่ยังไม่ถูกซักฟอกเป็นตนสุดท้าย ตอนนี้กำลังยืนหน้าซีดนัยน์ตาคลอวิบวับด้วยหยดน้ำใส ๆ จนตุลาไม่กล้าบ่นใส่เจ้าหล่อนเรื่องที่ออกมานั่งเล่นตรงปากบ่อให้คนเห็น ทำได้แต่กระแอมเบา ๆ แล้วเลี่ยงถามเรื่องที่สงสัยอีกอย่างไปแทน

   “เอ่อ คุณปิ่นครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมไม่ได้จะว่าอะไรคุณ เพียงแต่ผมสงสัยเรื่องปลาช่อนอเมซอนตัวนั้น ว่ามาได้ยังไงก็แค่นั้นล่ะครับ”

   คำพูดของตุลาทำให้ปิ่นสุดายิ้มออก เธอบอกกับชายหนุ่มด้วยเสียงเบา ๆ อันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวออกไป

   “นั่น...ก็ฉันเองล่ะค่ะ เป็นร่างแปลงเอาไว้หลอกตามนุษย์ไม่ให้จับได้ค่ะ”

   คำตอบของเงือกสาวทำให้ตุลาเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ดี เขาถอนหายใจอีกครั้ง แล้วจึงหันไปทางพาทิศ

   “วันหลังช่วยให้พวกเขายืนรออยู่นอกบ้าน ก่อนจะปล่อยให้เข้ามานะครับ วันนี้ผมตกใจแทบแย่แน่ะ ที่คุณออกไปรับพวกเขาเข้ามาน่ะ”

   พาทิศยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะจับมือของตุลาขึ้นมาจูบหลังมือเบา ๆ แล้วยิ้มให้ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์

   “ผมจะจำไว้นะครับ นายน้อย”

   “คุณพาทิศ!”   

   ตุลาเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยความอาย ที่เจ้าตัวยังคงล้อเลียนเขาโดยการแสดงเป็นพ่อบ้านไม่เลิก แถมเท่าที่เขาเคยรู้มา ก็ไม่เคยเห็นมีพ่อบ้านที่ไหนจูบหลังมือเจ้านายเหมือนที่อีกฝ่ายทำด้วย โชคดีที่รุ้งพรายมัวแต่อายเรื่องก่อนหน้านั้นจึงไม่ได้สนใจการกระทำของพาทิศเท่าใด  ส่วนราตรีกับปิ่นสุดา ทั้งสองเองก็ไม่ได้ใส่ใจกับภาพที่เห็นนัก จึงไม่ได้คิดโวยวายอะไรให้มากความ

     พอเห็นหน้ามุ่ย ๆ งอน ๆ ติดอายของตุลา ก็ทำให้พาทิศต้องหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “พอดีฉันเห็นว่าเป็นเพื่อนของเธอ แล้วเท่าที่สังเกต ก็ไม่น่าจะใช่มนุษย์ที่ก่อปัญหาเท่าใดนัก ก็เลยพาพวกเขาเข้ามาให้รอในบ้านน่ะ”

   “ยังดีนะครับ ที่เป็นพวกนั้น ถ้าเป็นพ่อกับแม่ ผมคงโกหกลำบากแน่”

   ตุลาบอก แล้วถอนหายใจเบา ๆ เมื่อคิดถึงพ่อกับแม่ของตน

   “อ้อ! วันสิ้นเดือนผมคงกลับบ้านนะครับ สัญญากับพ่อแม่ไว้แล้วว่าจะกลับไปพักที่บ้านเดือนละครั้ง”

   ชายหนุ่มบอกอย่างนึกขึ้นได้ ทำให้สมาชิกในคฤหาสน์ที่เหลือต่างหันขวับมายังเขา

   “ค้างหลายคืนหรือเปล่า?”

   รุ้งพรายถาม พลางทำตาละห้อยมองมา จนทำให้ตุลาต้องอมยิ้ม

   “คืนสองคืนเองครับ ไม่กล้าทิ้งบ้านที่นี่ไว้นาน ...กลัวพอไม่อยู่ เดี๋ยวจะกลายเป็นบ้านผีสิงอีกรอบ”

   ชายหนุ่มบอกแล้วก็นึกถึงเมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ที่มีชาวบ้านมาด้อม ๆ มอง ๆ ที่คฤหาสน์ซึ่งเปลี่ยนไปด้วยความสนอกสนใจ รุ้งพรายก็เลยร่วมมือกับราตรี แสดงอภินิหารเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นเสียงหัวเราะของผู้หญิงลอยมาตามลม กลิ่นดอกราตรีที่หอมแรงในตอนกลางวัน ตบท้ายด้วยแมวดำกระโจนมาจากกำแพงบ้าน ทำให้ชาวบ้านที่อยากรู้อยากเห็นวิ่งเผ่นหนีป่าราบ เดือดร้อนเขาที่เวลาไปซื้อกับข้าวมาตุนไว้ ต้องมานั่งฟังพวกนั้นกรอกหูว่าที่นี่มีผีจริง ๆ แล้วย้ำถามเขาว่าเจอบ้างไหมเสียทุกครั้งไป

   “เฮอะ! เรารึอุตสาห์ไล่พวกสอดรู้สอดเห็นพวกนั้นไปให้ ดันกลายมาเป็นเราผิดซะอย่างนั้น ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ”

   ปีศาจแมวสาวบ่นอุบอย่างนึกงอน เพราะรู้ดีว่าประโยคนั้นของตุลาจงใจว่าพวกเธอโดยเฉพาะ

   “ถึงจะเปิดใจยอมรับมนุษย์บ้าง ...แต่บางครั้งเราก็ไม่ชอบให้คนนอกมาก้าวก่ายกับพวกเรา เธอน่าจะเข้าใจนะตุล”

   ราตรีบอกขึ้นบ้าง ซึ่งตุลาพอฟังก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้มให้ผีสาวแล้วบอกต่อ

   “ผมเข้าใจครับ แต่ผมกลัวว่าถ้ามีข่าวลือหนักเข้า พวกนี้จะใช้กฎหมู่เข้ามาพิสูจน์ไล่ผีในบ้านเข้าให้น่ะสิครับ”

   “ก็ลองสิ! ถ้าพวกมันทำอย่างนั้นจริง ฉันจะไล่พวกมันกลับให้กระเจิงไปคนละทิศละทางเลย!”

   รุ้งพรายแทรกขัดอย่างหงุดหงิด จนตุลาต้องปราม

   “ใจเย็นครับ นั่นแค่เป็นการคาดเดาของผมเท่านั้น และที่สำคัญสมัยนี้ การที่จะบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวเข้ามาได้ ก็ไม่ใช่นึกอยากทำก็ทำกันได้ง่าย ๆ นักหรอกครับ”

   “ก็ใครใช้ให้นายยกตัวอย่างแบบนั้นเล่า!”

   รุ้งพรายว่าต่อ ยังคงหงุดหงิดไม่หาย

   “สมัยก่อนมันมีเรื่องคล้ายแบบนี้นั่นล่ะตุล ใช้กฎหมู่ไล่บีบพวกที่แตกต่างจากตนเข้าว่า จนพวกเราต้องหนีกระเซอะกระเซิงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ได้มาอยู่ที่นี่นั่นล่ะ”

   พาทิศอธิบายให้ชายหนุ่มฟัง ซึ่งพอได้ฟังตุลาก็มีสีหน้าสลดลง เพราะเขาลืมคิดไปว่า แต่ละตนในที่นี้ ล้วนมีอายุยืนยาวมากกว่าเขาหลายเท่าตัว รวมทั้งได้ผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมามากทีเดียว

   “ขอโทษครับ ผมลืมคิดไป”

   “ไม่ใช่ความผิดของตุลหรอกน่า อีกอย่างระวังไว้ก็ดีแล้ว ใครจะรู้ว่าพวกนั้นจะไม่บ้าเลือด บุกรุกพื้นที่เข้ามาในคฤหาสน์ได้ล่ะ สันดานพาลของมนุษย์ ถึงเวลาจะผ่านไปไม่ว่ากี่ปีต่อกี่ปี มันก็ไม่มีวันหายไปได้หรอก”

   พาทิศบอกกับทุกตนเพื่อเป็นการตัดบท และย้ำว่าไม่ควรแสดงตัวตนออกไป ให้ตุลาผู้เป็นเจ้าของบ้านต้องลำบากใจกว่านี้ จากนั้นตุลาจึงขอตัวไปแต่งนิยายต่อ เพราะวันนี้เขายังไม่ได้เขียนสักบท เนื่องจากมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับเพื่อน ๆ ที่มาเยี่ยมบ้านนั่นเอง



    รอบด้านที่มองเห็น มีแต่หมอกควันสีขาวขุ่นอยู่ทั่ว ตุลาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้จุดหมาย ยิ่งอยู่ในหมอกนั้นนานเท่าใด เขาก็รู้สึกถึงอาการหายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ครั่นเนื้อครั่นตัว และสติที่เริ่มลางเลือน  แต่แล้วทันใดนั้น เขาก็ได้เห็นแสงสว่างอยู่ปลายทางลิบ ๆ ตุลารีบเร่งฝีเท้าไปเบื้องหน้าด้วยความดีใจ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ เขาก็รู้สึกถึงความสบายตัวอย่างน่าประหลาด ทว่าก่อนจะถึงแสงนั้น เขาก็รู้สึกเมื่อถูกใครบางคนฉุดมือดึงเขาเอาไว้ แล้วตะโกนห้าม

   “ตุล! อย่าไปนะ!”

   “อากริช...”

   ตุลาพึมพำ ก่อนจะเห็นใบหน้าของผู้เป็นอาค่อย ๆ ลางเลือนไปอย่างรวดเร็ว เปลือกตาหนากระพริบถี่ ภาพแรกที่เห็นคือเพดานห้องสีขาวที่ตอนนี้มองไม่ออก เพราะอยู่ในความมืด ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ทั้งที่อากาศตอนกลางคืนภายนอกนั้นเย็นสบาย มีลมพัดตลอดเวลาแท้ ๆ

   “อากริช...อาอยู่ไหมครับ?”

   ตุลาพึมพำเรียกชื่ออาของเขา แล้วมองซ้ายมองขวา มองแขนข้างที่อาของตนดึงไว้ เขายังรู้สึกได้ถึงสัมผัสนั้นอยู่เลย แม้กระทั่งตอนนี้

   “ฝันหรือ...ทำไมถึงฝัน เหมือนเมื่อตอนนั้นเลยนะ...”

   ตุลาหวนคิดถึงตอนที่เขาอายุ 12 ในคืนที่เขาป่วยหนัก เขาก็ฝันแบบนี้ แล้วกริชก็มาช่วย พอวันรุ่งขึ้นเขาก็หายป่วยเป็นปลิดทิ้งจนพ่อแม่และหมอยังแปลกใจ แต่แล้วหลังจากนั้นอีกสองวัน กริชก็เสียชีวิต

    “อาครับ...ผมคิดถึงอา...”

   เมื่อหวนคิดถึงเรื่องในวัยเด็กก็ทำให้ตุลาต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ก่อนจะชะงักเมื่อมือโปร่งใสของใครบางคนช่วยกรีดซับน้ำตาของตนแผ่วเบา

   “โตแล้วนะ อย่าทำตัวขี้แยเหมือนตอนเด็ก ๆ นักสิ ตุล...”

   “อากริช!”

   ตุลาเรียกชื่อของอีกฝ่ายที่ปรากฏกายขึ้นอย่างดีใจ กริชแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยนให้หลานรัก 

     “อาก็อยู่ด้วยกับหลานตลอดเวลาแท้ ๆ ยังร้องไห้เรียกหาอาแบบนี้อีกทำไมกัน หือ?”

   “ก็อาไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นทุกครั้งที่ผมเรียกนี่ครับ ...บางครั้งที่ผมอยากให้อาอยู่ข้าง ๆ อยากพูดคุยกับอา แต่อาก็จะหายไปไม่ยอมมาปรากฏตัวให้ผมเห็นสักที”

   ตุลาแย้งเขาอยากกอดร่างโปร่งใส อยากให้อีกฝ่ายปลอบใจ แต่เขาก็ต้องกลั้นความปรารถนานั้นไว้ แค่เพียงกริชแสดงตัวให้เขาเห็น สำหรับชายหนุ่มก็มากเพียงพอแล้ว

   “อาครับ ผมฝันแปลก ๆ”

   ตุลาบอกขึ้นหลังจากที่นิ่งเงียบไปสักพัก

   “ฝันมันก็คือฝัน”

   กริชเปรยเรียบ ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังความฝันของอีกฝ่าย ทำให้ตุลายิ่งแปลกใจ

   “อากริช ...อาปิดบังอะไรผมอยู่หรือเปล่าครับ”

   กริชชะงักแล้วหันไปทางหลานชายของตน

   “ตุลสงสัยอะไรอาหรือ”

   “...ปะ...เปล่าครับ”

   สีหน้าและแววตาเย็นชาที่มองมา ทำให้ตุลาต้องรีบปฏิเสธ  กริชเห็นแบบนั้นแล้วก็นึกสงสารหลาน จึงจำต้องลูบศีรษะอีกฝ่ายปลอบโยนเบา ๆ

   “ตุลจำไว้นะ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาทำ อาทำเพื่อหลานเท่านั้น”

   “อากริช...”

   “นอนพักเถอะ นี่ยังดึกอยู่เลย”

   ตุลามองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสอง เขาทำสีหน้าลำบากใจแล้วเอ่ยขึ้น

   “ผมกลัวจะฝันแบบเดิมอีก...”

   “อาจะอยู่ข้าง ๆ ถ้าตุลฝันร้าย อาจะปลุกตุลเอง...นะ”

   กริชบอกอย่างอ่อนโยน ทำให้ตุลาแย้มยิ้มออก แล้วจึงหลับตาลง ก่อนจะหลับไปในไม่ช้า วิญญาณหนุ่มยิ้มออกมาน้อย ๆ เมื่อเห็นหลานชายของตนหลับลงในที่สุด เขาลูบไว้เส้นผมของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนสักพัก แล้วจึงนิ่งคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่ตนเคยกระทำไว้เมื่อสิบปีก่อน

   “อาทำเพื่อหลานนะตุล ...ถ้าตุลรู้ คงเสียใจที่อาเลือกทางแบบนี้ ..แต่ต่อให้เลือกอีกกี่ครั้ง อาก็ยังจะเลือกทางนี้อยู่ดี”

   จากนั้นกริชก็มีสีหน้าที่เริ่มเย็นชา เขามองไปด้านนอก แล้วจึงหายตัวไปปรากฏกายอยู่ที่ซุ้มราตรี จนวิญญาณสาวที่กำลังนั่งเล่นอยู่สะดุ้งโหยง

   “ราตรี คืนนี้ฉันฝากตุลหน่อยได้ไหม ไปช่วยเฝ้าเขาหน่อย ถ้าเขาฝันร้ายก็ช่วยปลุกด้วย”

   ผีสาวมีสีหน้างุนงง แต่ก็ยังคงพยักหน้ารับแต่โดยดี

   “ก็ได้อยู่หรอกค่ะคุณกริช แล้วคุณจะไปไหนหรือคะ”

   เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นวิญญาณคุ้มครองของตุลาและคอยปกป้องดูแลชายหนุ่มมาโดยตลอด การที่วิญญาณหนุ่มจะออกปากไปไหนห่างร่างของตุลา จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกพอสมควร

   “ฉันจะแวะไปหาเพื่อนเก่าสักหน่อย...ฝากด้วยล่ะ”

   กริชตัดบทแล้วหายตัวไป ทิ้งให้ราตรียืนงุนงงอยู่ลำพัง แต่หล่อนก็ยังคงทำตามคำขอนั่น ไปนั่งเฝ้าชายหนุ่มที่หลับไปแล้วโดยไม่นึกลำบากหรือเกี่ยงงอน แถมยังเอ็นดูเมื่อเห็นใบหน้านอนหลับและละเมอน้อย ๆ ของอีกฝ่ายอีกด้วย

   

   บ้านไม้สองชั้นสภาพเก่าแก่ ที่ดูด้วยตาน่าจะปลูกมาเกินสามสิบปี ชานกว้างบนชั้นสอง มีชายวัยกลางคนอายุราว 35 - 40 ผมเผ้ายุ่ง ๆ หนวดเคราครึ้ม ใส่เสื้อกางเกงม่อฮ่อม  กำลังนั่งสูบบุหรี่อยู่เงียบ ๆ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ เมื่อสัมผัสถึงสายลมพัดวูบใหญ่ พร้อมบรรยากาศชวนเสียวสันหลังวาบตามมา

   “ไม่ได้เจอกันนานนะนายกริช... เกิดอะไรขึ้น ถึงได้ยอมอยู่ห่างหลานสุดที่รักของนาย แล้วแวะมาหาฉันถึงบ้านได้แบบนี้ล่ะ...หรือจะเปลี่ยนใจขอให้ฉันหาวิธีส่งให้นายสู่สุคติ หมดเวรหมดกรรมกับเขาบ้างสักที หือ?”

   ชายวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดี หากแต่วิญญาณหนุ่มนั้นกลับมีสีหน้าเคร่งเครียด แล้วบอกออกไปอย่างขุ่นเคือง

   “ทำไมตุลมีอาการเหมือนตอนนั้นได้... อายุขัยเขาควรจะเหลืออีกหลายสิบปีไม่ใช่หรือไง!”

   คนฟังเลิกคิ้วน้อย ๆ ก่อนจะอมยิ้มเมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายรีบแจ้นมาหาเขาอย่างเดือดดาลเช่นนี้

   “ฉันก็เคยบอกนายเมื่อสิบปีก่อนแล้วนะกริช ว่าอวิชาพวกนี้น่ะ มันมีผลข้างเคียงหรือผลกระทบมากมาย ...จริงอยู่อายุขัยที่ว่า มันควรจะเหลือหลายสิบปีก็จริง แต่นั่นหมายถึงมันอยู่กับเจ้าของที่แท้จริง ...ไม่ใช่ได้รับการถ่ายเทหรือยกให้แบบที่หลานนายมีอยู่”

   กริชกัดฟันกรอด เขานิ่งเงียบไปสักพัก แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “แล้วมีวิธีช่วยเหลืออะไรเขาได้บ้าง...ถ้าฉันทำได้ ฉันยินดีทำทุกอย่าง”

   “แม้แต่ฉันจะบอกว่า ให้เอาวิญญาณนายไปใช้ จนนายจะต้องสลายไปตลอดกาลอย่างนั้นหรือ”

   ชายอีกคนแทรกขัดขึ้น แต่ก็ต้องถอนหายใจยาว เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังเช่นนั้นแทนคำตอบ

   “ปล่อยวางได้แล้วกริช ...มนุษย์น่ะ ถ้าถึงที่ตายก็ต้องตาย หลานของนายใช้ชีวิตต่อมาจากที่ควรดับสูญมาแล้วสิบปี เท่านั้นมันก็มากพออยู่แล้ว”

   “แต่ตุลยังเด็ก! เขายังควรได้สนุกกับชีวิตให้มากกว่านี้!”

   กริชขัดขึ้น ทำให้คนฟังสั่นศีรษะอย่างระอา

   “สำหรับนายต่อให้ผ่านไป จนหลานของนายมีผมหงอกขาวโพลน นายก็คงหาเรื่องมาอ้างได้เรื่อย ๆ ... ยอมรับเถอะกริช ชะตาชีวิตของแต่ละคนน่ะถูกขีดเส้นมาแล้ว พวกเราทำยังไงก็หนีความตายไม่พ้นหรอก แม้แต่ฉันสักวันก็ต้องตายเหมือนกัน”

   วิญญาณของชายหนุ่มนิ่งอึ้ง เขากำมือของตัวเองแน่น แล้วถามเสียงแผ่ว

   “หมายความว่านายไม่มีวิธีที่จะช่วยตุลใช่ไหม ...ถ้าอยากนั้นบอกได้ไหมว่าเขาจะอยู่ได้อีกกี่ปี”

   ชายวัยกลางคนเงียบไปสักพัก รู้สึกสงสารอดีตเพื่อนเก่า  เขาจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเปรยขึ้น

   “เรื่องแบบนี้บอกเลยไม่ได้หรอก ถึงจะเห็นว่าเหมือนจะอายุขัยกำลังจะดับสูญ แต่บางทีอาจจะไม่เป็นแบบที่แสดงให้เห็นเสมอไปก็ได้ มันเกี่ยวพันกับหลายอย่าง ต้องไปดูด้วยตาตัวเองถึงจะบอกได้”

   กริชชะงัก เริ่มรู้สึกมีความหวังขึ้นมาจนฉายออกทางสีหน้าให้อีกคนเห็น ชายวัยกลางคนยิ้มแย้มน้อย ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “พรุ่งนี้ฉันจะไปดูให้ นายก็บอกหลานนายล่วงหน้าแล้วกัน เขาจะได้ไม่คิดว่าฉันเป็นโจรไปปล้นบ้าน”

   “ได้สิ ฉันจะบอกตุลไว้ให้ ... ขอบใจนายมากนะอธิป”

   กริชบอกขอบคุณกับเพื่อนต่างวัย ที่เขารู้จักและคบหามาตั้งแต่สมัยมีชีวิต อีกฝ่ายคอยช่วยให้ข้อมูลด้านผีสางและไสยศาสตร์ต่าง ๆ ยามเมื่อกริชเขียนนิยาย ด้วยเพราะเจ้าตัวมีความรู้และได้รับการถ่ายทอดเรื่องทางนี้ผ่านบรรพบุรุษที่ทำอาชีพหมอผีกันมาช้านานตั้งแต่สมัยก่อน

   และการที่กริชต้องมาเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ก็เพราะการตัดสินใจของเขาที่ให้อธิปช่วยใช้อายุขัยของเขาไปต่อชีวิตให้กับตุลาผู้เป็นหลาน แม้จะได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากอธิปก่อนหน้านั้นก็ตาม แต่สุดท้ายเพราะทนที่กริชก้มหัวขอร้องจนถึงกระทั่งขู่ว่าจะฆ่าตัวตายตามหลานไม่ไหว อธิปจึงจัดการดำเนินพิธีกรรมให้ เพราะคิดว่าช่วยไว้สักหนึ่งชีวิต ก็ยังดีกว่าต้องเสียถึงสองชีวิตในครั้งนั้น

   แน่นอนว่าการตายแบบผิดธรรมชาติ จึงทำให้วิญญาณของกริชไม่ได้รับการปลดปล่อยให้ไปสู่ภพภูมิ อย่างที่ควรจะเป็น แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยนึกเดือดร้อนแต่อย่างใด และยังพอใจอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสคอยดูแลปกป้องช่วยเหลือหลานชายของตัวเองมาตลอด  โดยอธิปที่เฝ้ามองอาหลานคู่นี้อยู่ห่าง ๆ นั้น ได้แต่ภาวนาว่า สักวันหนึ่ง กริชนั้นจะได้พบกับปลายทางสุดท้ายของชีวิตอันถูกต้องเหมาะสมสักที



   
--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: keztudio ที่ 14-07-2011 21:06:15
อ้ากกกก อากริช T^T
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 14-07-2011 21:16:30
ต้องคารวะอากริชจากใจเลย

รักตุลมากจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 14-07-2011 21:28:58
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง :a5:
อากริชรักตุลมากจริงๆถึงกับสละชีวิตตัวเองได้ :L1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 14-07-2011 21:32:29
อ่านแล้วสงสารอากริชแฮะ เฮ้อ คนเรามันก็คงปลงตกกันไม่ได้ง่ายๆหรอกเนอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 14-07-2011 21:34:02
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
อากริชรักตุลมากจริงๆถึงกับสละชีวิตตัวเองได้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 14-07-2011 22:37:22
 :L2:  เอาดอกไม้มาให้อากริช   :L2:

เพิ่มตัวละครมาอีกหนึ่ง แถมเป็นตัวละครที่เป็นคนและเป็นผู้ชายซะด้วย  อืมๆๆๆๆ  รับไว้พิจารณา   :really2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-07-2011 00:07:40
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 15-07-2011 00:11:46
มีชายวัยกลางคนอายุราว 35 - 40 ผมเผ้ายุ่ง ๆ หนวดเคราครึ้ม

จะเปิดตัวคู่(มั้ง)ของอากริชทั้งที ขอแบบหมอผีไฮเทคหล่อเนี๊ยบสักหน่อยก็ไม่ได้  :serius2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 15-07-2011 00:15:27
อ่อ เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง
นี่สินะความลับของอากริช
แต่โโมเม้นท์ตุล-พาทิศนี่น่ารักดีนะ
พ่อบ้านกับนายน้อย o3
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 15-07-2011 10:12:20
อากริช ทำไมเป็นคนดีแบบนี้
ดูยึดติดแบบแปลกๆ ถ้าตุลรู้ความจริงต้องเสียใจมากแน่ๆ
อยากให้อาแกไปสู่สุขคตินะ
แต่ก็อยากให้อยู่กะตุลไปตลอดมากกว่า  :serius2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-07-2011 10:32:45
อากริชทำเพื่อตุลขนาดนี้เลยเหรอ สงสารอากริชจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-07-2011 10:36:27
อากริช ทำเพื่อ ตุล สุดยอดมาก o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 15-07-2011 10:39:45
ที่แท้เรื่ิองมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
อากริชต้องรักตุลมากแน่ๆถึงได้กล้าทำขนาดนั้น
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 15-07-2011 10:56:22
หมอผี งึมม ถ้าไม่บอกล่วงหน้าพวกผีที่บ้านคงจะไล่ออกมาแล้วก็โดนตุลไล่ด้วยล่ะมั้ง

สภาพเหมือนโจรเลยน้อ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-07-2011 11:00:35
เป็นแบบนี้นี่เอง ว้าว อากริชรักตุลมากเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 15-07-2011 11:27:33
แม้แต่ลมหายใจยังยกให้หลานได้อากริชคนดีที่หนึ่งเลย :กอด1:
+1และแจกน้องเป็ดให้อากริชคนดีที่รักด้วย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 15-07-2011 11:31:20
อากริชรักตุลเหมือนลูกเลยนะเนี่ย ซาบซึ้งมากๆ
แต่ถ้าตุลรู้จะเสียใจขนาดไหนนะ

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 15-07-2011 13:46:20
หรือว่าจะเป็นคู่ อา-หลาน แต่ว่าดูดีๆมันต้อง หมอผี-อา มากกว่า - -
สรุปว่าหลานจะคู่ใครล่ะเนียย ลุ้นกันต่อไปปป
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 9 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (14/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 15-07-2011 13:47:05
ซาบซึ้อากริชจังค่ะ ทำได้ทุกอย่างเพื่อหลานตัวเอง
ป.ล.ตอนนี้บรรดาผีๆน่ารักจัง โดยเฉพาะพาิทิศ  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 15-07-2011 17:25:43

ม่านราตรี
บทที่ 10



    เช้าวันรุ่งขึ้น ตุลาก็ได้รับฟังข้อความจากอาของตนสั้น ๆ ว่าจะมีคนรู้จักมาเยี่ยม และแม้อีกฝ่ายจะอ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทของกริช แถมยังเอ่ยทักทายเขาอย่างสนิทสนมทันทีที่เห็นหน้า แต่ตุลาเองนั้นมองยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกับชายผู้นี้มาก่อนตั้งแต่เมื่อไหร่  อีกฝ่ายเป็นหนุ่มใหญ่หน้าตาคมเข้ม แต่มีหนวดเคราขึ้นเขียวรกครึ้ม เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว กางเกงผ้าสีดำเข้ารูป  ตุลาคิดว่าถ้าเจ้าตัวใส่แว่นดำด้วยแล้ว ก็คงแลดูเหมือนพวกนักเลงโตได้เลยทีเดียว 

   “ไม่ได้เจอกันนานเชียวนะเจ้าหนู  โตเป็นหนุ่มแล้วนี่ แถมเป็นหนุ่มหล่อไม่แพ้อาเธอเสียด้วยนะ”

   อธิปกล่าวทักทายแล้วก็ต้องเลิกคิ้วเล็กน้อย เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย

   “จำฉันไม่ได้หรือไง เราเจอกันตอนเธออายุ 12 ยังไงล่ะ ...”

   ชายวัยกลางคนเอ่ยค้างไว้แค่นั้น แล้วก็ต้องชะงักเหมือนนึกขึ้นได้

   “อ้อ ๆ ขอโทษทีฉันเองก็ลืมไป ...ผลข้างเคียงของพิธีกรรมนั่น มันอาจทำให้ความทรงจำของเธอบางส่วนหายไปบ้าง อืม... ก็ไม่แปลกหรอกนะ”

   “อธิป!”

   เสียงของกริชดังขึ้น จากนั้นร่างโปร่งใสของชายหนุ่ม ก็ปรากฏกายขึ้นข้าง ๆ หลานชาย พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายด้วยแววตาดุ ๆ

   “เออ ๆ รู้แล้วน่า ฉันก็เผลอบ้างสิ...ถ้าอย่างนั้นเรามาว่าธุระกันเลยดีกว่า”

   จากนั้นชายที่ชื่ออธิปก็ถือวิสาสะจับมือของตุลาขึ้นมาพลิกหน้าพลิกหลังดู ก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของชายหนุ่มจนน่าหวาดเสียว เขาขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย แล้วจึงหันไปทางร่างโปร่งใสที่ยืนมองอย่างเป็นกังวล ก่อนจะหันมาบอกกับตุลาที่นั่งอึ้งอยู่

   “อืม...เธอช่วยพาฉันเดินชมบ้านหน่อยสิ”

   “อะ เอ๋ คะ...ครับ ได้ครับ”

   ตุลารีบรับคำแม้จะงุนงงอยุ่บ้างก็ตาม ส่วนกริชนั้นยิ่งมีสีหน้ากังวลหนักขึ้น เมื่อเห็นเพื่อนยังไม่ยอมบอกในสิ่งที่เขาอยากรู้สักที

   

   ตุลาเดินพาอธิปชมสวนนอกบ้านก่อนอันดับแรก พลางลุ้นว่าขออย่าให้พวกสาว ๆ ออกมาปรากฏกายให้อธิปเห็นเลย แม้จะแปลกใจว่าทำไมอธิปถึงรู้จักกริชในร่างวิญญาณได้ก็ตาม   

   “เป็นสถานที่น่าอยู่จังเลยนะ ...ในหลาย ๆ ด้านน่ะ”

   อธิปหันมาบอกกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าตนแล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างแฝงความนัยจนคนมองต้องกลืนน้ำลายลงคอ

   “เป็นบ่อที่กว้างดีจังเลยนะ”

   จู่ ๆ อีกฝายก็หยุดยืนแถวบ่อน้ำบ่อใหญ่ในสวน มองไปในบ่อตอนนี้ ก็เห็นเป็นปลาช่อนอเมซอนตัวโตกำลังว่ายหลบ ๆ อยู่ห่าง ๆ ทำให้ตุลาที่ตกใจในคำเอ่ยทักตอนแรกของอธิป เผลอยิ้มน้อย ๆ อย่างลืมตัว

   “นี่รู้ไหมเจ้าหนู บ่อน้ำนี่นะ มันค่อนข้างต่างจากบ่อน้ำธรรมดาทั่วไปสักหน่อย”

    คำพูดของอธิปทำให้ตุลาสะดุ้ง จากนั้นชายหนุ่มก็ดึงกลุ่มหญ้าแถวนั้นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วจ่อแถวปาก พลางพึมพำอะไรบางอย่างที่ตุลาฟังไม่ทัน

   “ถ้าเป็นบ่อน้ำปกติ โยนหญ้านี้ลงไปจะไม่เกิดอะไรขึ้น ...แต่ถ้ามีภูตผีปีศาจสิงอยู่ มันจะกลับสภาพเป็นสีแดง แล้วเกิดความร้อนราวกับน้ำเดือดจนปีศาจตนนั้นอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว...จะลองดูไหม”

   ตุลาเบิกตากว้าง หันไปมองกริชที่ตามมาด้วย ก็เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่พูดไม่จา เขาหันกลับไปมองอธิป ก็เห็นว่าเจ้าตัวทำท่าจะปล่อยหญ้าในมือ ส่วนปลาช่อนอเมซอนในบ่อ ก็ว่ายพล่านไปมาอย่างตื่นตระหนก

   “อย่านะครับ!”

   ตุลารีบร้องห้าม เมื่อเห็นอีกฝ่ายปล่อยหญ้าลงไป เขาพุ่งไปหมายจะจับหญ้ากลุ่มนั้นไม่ให้ลงไปในบ่อ แต่ก็ต้องพลัดตกลงไปในบ่อตูมใหญ่จนเปียกปอนไปทั้งตัว ส่วนอธิปนั้นยืนอึ้งในทีแรก ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะยกใหญ่ตามมา

   “อธิป! นายมัน...”

   กริชเตรียมจะเล่นงานเพื่อนที่หลอกหลานชายของเขาจนตกบ่อน้ำแบบนั้น แต่พอเห็นสีหน้าไม่รู้สึกรู้สาของอีกฝ่าย เขาก็ต้องกัดฟันกรอด แล้วจึงหันมาทางตุลาแทน

   “ตุล! รีบขึ้นมา แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ!”

   สีหน้าเกรี้ยวกราดของผู้เป็นอาอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก ทำให้ตุลาตกใจ ส่วนปิ่นสุดาในร่างปลาใหญ่เองก็เช่นกัน เพราะเธอจำสีหน้าแบบนี้ของชายหนุ่มได้ดี เมื่อสิบปีที่แล้วเหตุการณ์ก็คล้าย ๆ แบบนี้ แล้วกริชก็โกรธมากเหมือนเดิมเช่นกัน

   “อาครับ...ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”

   ตุลาบอกขณะที่ยันกายขึ้นจากบ่อ แล้วมองไปทางอธิปด้วยสายตาตั้งคำถาม เพราะแม้หญ้ากลุ่มนั้นจะตกลงไปในบ่อแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นเลยสักนิด

   “ฉันแหย่เล่นน่ะ ไม่คิดว่าเธอจะเชื่อ”

   อธิปเฉลยทำให้ตุลาต้องขมวดคิ้วยุ่ง

   “แต่แสดงว่าในบ่อนี้มีอะไรจริง ๆ ที่ทำให้เธอยอมให้หญ้าพวกนั้นหล่นลงไปไม่ได้สินะ”

   คำถามที่ตามมาทำให้คนฟังสะดุ้ง แล้วมองหน้าคนถามเลิ่กลั่ก

   “อธิป! นายจะทำอะไรกันแน่ บอกสิ่งที่ฉันต้องการรู้มาได้แล้ว!”

   กริชขึ้นเสียงด้วยความโมโห แต่ชายวัยกลางคนนั้นยักไหล่แล้วจึงหันมาทางร่างโปร่งใสของชายหนุ่ม

   “จะให้ฉันบอกจริง ๆ หรือ ต่อหน้าเด็กคนนี้นี่นะ”

   กริชชะงักกึก เขาเหลือบมองตุลาที่ยืนจ้องมาทางตัวเองอย่างสงสัย แต่พอเห็นหลานชายหลุดจามเบา ๆ ชายหนุ่มก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป แล้วบังคับไล่ตุลาให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

   “อาบอกแล้วไงตุลว่าให้รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ถ้าป่วยหนักขึ้นมาอีกจะทำยังไง!”

   “อากริช...แต่นั่นมันเมื่อก่อนนะครับ ตอนนี้ผมไม่ได้ร่างกายอ่อนแอเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกแล้ว”

   ตุลาเถียงกลับ ทำให้อีกฝ่ายนิ่งไป แล้วจึงมีสีหน้าเจ็บปวดจนตุลาตกใจ

   “ตุล...อาขอร้องล่ะ ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เช็ดผมให้เรียบร้อย ...อย่าประมาทกับเรื่องพวกนี้นักได้ไหม อาอยากให้ตุลสดใส แข็งแรงตลอดไปแบบนี้เรื่อย ๆ ไม่อยากให้กลับไปเป็นเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกแล้ว”

   กริชขอร้องเสียงแผ่ว ทำให้คนฟังเม้มปากน้อย ๆ อย่างสำนึกผิด แล้วจึงยิ้มรับฟังแต่โดยดี

   “ครับอา...ผมเข้าใจแล้ว งั้นสักพักผมจะมาใหม่นะครับ ...เอ่อ เชิญคุณอธิปเดินสำรวจบ้านไปก่อนได้ตามสบายเลยนะครับ”

   “อื้อ! ได้ เดี๋ยวให้หมอนี่เป็นไกด์แทนเอง”

   อธิปบอกอย่างยิ้มแย้ม แล้วไล่มองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาเกือบรอบ อย่างเอ็นดูแกมเวทนา

   “เขาดูเข้มแข็งกว่าที่นายคิดนะกริช ...ถึงแม้วันนั้นเขาจะรู้ว่าตัวเองจะตาย และอาจจะนึกกลัวบ้าง แต่ถ้าให้เขาเลือก ฉันว่าเขาจะไม่มีวันเลือกแบบที่นายเลือกแน่นอน”

   ชายวัยกลางคนหันมาบอกกับกริชที่นิ่งเงียบไปสักพัก แต่ก็ยังคงจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งแล้วย้ำถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย

   “บอกเรื่องที่ฉันอยากรู้มาได้แล้ว”

   “เฮ้ ๆ อย่ารีบร้อนนักสิ ขอเดินดูให้ทั่วบ้านก่อน ...ตอนนี้รู้แค่ครึ่ง ๆ เอง แต่ถ้าสำรวจหมด ก็คงบอกได้”

   คำตอบของอธิปทำให้กริชชะงัก แล้วจึงหวนคิดถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาได้

   “นายจะบอกว่าอาการของตุลน่าจะเกี่ยวข้องกับคฤหาสน์หลังนี้ด้วย?”

   “อือฮึ ...คิดว่างั้น”

   อธิปตอบแบบเผื่อ ๆ ทำให้คนฟังนิ่งเงียบ แล้วจึงเหม่อมองไปยังทิศที่ตั้งของห้องหลานชาย แล้วพึมพำแผ่วเบา

   “ถ้ามีวิธีช่วยให้ตุลอยู่ต่อได้อีกก็คงดี”

   ทางด้านอธิปมองเพื่อนต่างวัยของเขาอย่างนึกเวทนา แล้วจึงมองไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ

   “อืม...มิน่าล่ะ เป็นที่ดินที่พิเศษจริง ๆ ...อ้อ สาวน้อย ไม่ต้องกลัวฉันแบบนั้นหรอกน่า แล้วก็ไม่ต้องซ่อนร่างไว้หรอก ร่างจริง ๆ ของเธอน่ารักกว่าร่างเจ้าปลานี่ตั้งเยอะ”

   ท้ายประโยคอธิปหันไปพูดกับปลาในบ่อเสียงดัง ทำให้ร่างนั้นสะดุ้ง แล้วจึงค่อย ๆ กลับคืนสู่ร่างเงือกเหมือนเดิม

   “คุณเห็นร่างจริงฉันด้วยหรือคะ?”

   ปิ่นสุดาโผล่พ้นมาจากผิวน้ำ เอ่ยถามอย่างกึ่งกล้ากึ่งกลัว ซึ่งอธิปก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบตรง ๆ

   “หญ้าเมื่อครู่นี้ ถ้าฉันปลุกเสกจริง ๆ ก็จะออกฤทธิ์แบบที่ฉันบอกเจ้าหนูตุลนั่นไปล่ะนะ แต่สำหรับเงือกสาวน่ารัก ๆ ที่ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างเธอ ฉันทำแบบนั้นไม่ลงหรอก”

   อธิปบอกแล้วยักคิ้วให้พร้อมรอยยิ้มกระเซ้า ทำเอาปิ่นสุดาหน้าแดงแล้วรีบหลบไปอยู่ใต้บ่อของเธอ

   “อย่ามัวแต่เล่นอยู่ จะเดินสำรวจไม่ใช่หรือไง รีบ ๆ เข้าสิ!”

   กริชบอกอย่างร้อนใจ ทำให้คนฟังหัวเราะเบา ๆ

   “ไม่เปลี่ยนเลยนะ พอเป็นเรื่องหลานนี่ได้เป็นแบบนี้ทุกที เอ้า ๆ ไม่ต้องทำตาดุแบบนั้น งั้นฉันไปสำรวจดูให้ก็ได้”

   บอกแล้วอธิปก็เดินเรื่อย ๆ ไปรอบสวน และพอผ่านซุ้มราตรี เขาก็แหงนมองไปที่บนซุ้มแล้วยักคิ้วทักทายวิญญาณสาวที่ปกปิดซ่อนตัวเองไม่แสดงตัวตนออกไป เพราะเกรงว่าจะทำให้ตุลาเดือดร้อน

   “สวัสดีสาวสวย แหม เจ้าหนูตุลนี่ช่างโชคดีจริงนะ แวดล้อมไปด้วยวิญญาณและภูตผีสวย ๆ มองแล้วเจริญตาจริง ๆ”

   ราตรีสะดุ้งเฮือก ที่อีกฝ่ายมองร่างวิญญาณของเธอเห็น หญิงสาวลอยมาอยู่เบื้องหน้าของอีกฝ่าย แล้วมองจ้องเขม็ง

   “คุณเป็นใคร...ฉันสัมผัสได้ถึงพลังไสยเวทย์จากคุณ ...อย่าบอกนะว่าจะมาปราบพวกเรา”

   “เขาเป็นเพื่อนฉันเองราตรี ถึงจะเป็นหมอผี แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไรนักหรอก”

   กริชเอ่ยขัดขึ้น ซึ่งพอได้รับการรับรองจากกริช ก็ทำให้ผีสาวยอมเปิดทางให้อีกฝ่ายผ่านไป แม้จะยังคงระแวดระวังอยู่มากก็ตาม

   “อืม ...ตำแหน่งนี้มัน”

   อธิปเงยหน้าขึ้นไปมองยังระเบียงห้อง ซึ่งปัจจุบันนั้นเป็นห้องพักของตุลานั่นเอง

   “มิน่าล่ะนะ...เอาล่ะ ไปเดินสำรวจในบ้านกันแทนเหอะ”

   อธิปพึมพำแล้วจึงหันกลับมาชวนกริชเข้าไปในคฤหาสน์ ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็พยักหน้าแล้วตามไป เพราะอยากทราบเรื่องที่ต้องการโดยไว

   

   พอเข้ามาในเขตคฤหาสน์ อธิปก็ต้องเผชิญหน้ากับพาทิศที่กำลังเตรียมอาหารกลางวันให้กับตุลาตามปกติ

   “มีแขกมาเพิ่มหรือครับคุณกริช”

   พาทิศหันไปถามกริช ดูไม่ค่อยแปลกใจสักนิดที่เห็นอีกฝ่ายเดินมาด้วยกัน

   “อือ แต่อยู่สักพักก็จะไปแล้ว ไม่ต้องเตรียมอะไรให้กินหรอก”

   กริชบอกตัดบท แต่อธิปกลับหันไปมองเพื่อนตาปริบ ๆ

   “มากไป ๆ ค่าจ้างก็ไม่ได้ แล้วยังไม่มีน้ำใจเลี้ยงดูปูเสื่ออีก ...อืม ถ้าไม่ลำบากนัก ผมขอทานข้าวกลางวันที่นี่ด้วยคนแล้วกันนะครับ”

   พาทิศยิ้มให้กับคำพูดของอีกฝ่าย แล้วจึงพยักหน้ารับ

   “ไม่มีปัญหาครับ งั้นเดี๋ยวผมเตรียมอาหารเพิ่มให้อีกชุดแล้วกัน”

   จากนั้นซอมบี้หนุ่มก็ขอตัวไปเตรียมอาหารต่อ ด้านอธิปมองตามไล่หลังอีกฝ่ายไป พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ อย่างชื่นชม

   “เป็นผีดิบร่างสมบูรณ์ แถมยังมีวิญญาณอีก ไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้เท่าไรเลยนะ  เชื่อแล้วว่าที่นี่อาถรรพ์แรงจริง ๆ ไม่งั้นคงไม่สามารถคงสภาพอยู่แบบนี้ได้ตลอด แม้เวลากลางวันก็ตามหรอก...”

   อธิปพึมพำกับตัวเอง แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแมวร้อง พร้อมกับมีแมวสองหางกระโจนจากระเบียงชั้นสอง ลงมาหาเขา

   “นี่ลุง! นายเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้เรื่องพาทิศไม่ใช่คนได้!”

   เพราะแอบฟังและแอบดูอยู่อย่างสนใจมาได้สักพัก ทำให้รุ้งพรายได้ยินสิ่งที่อธิปบอกอย่างชัดเจน แม้ว่าจะอยู่ห่างกันไปไกลหลายเมตรก็ตาม

   “หืม? ปีศาจแมว? แหม…บ้านนี้มันช่างครึกครื้นดีแท้ น่าย้ายมาอยู่ที่นี่จริง ๆ แฮะ ...นายว่าไงกริช คิดว่าหลานนายจะยอมแบ่งห้องพัก ให้ฉันไหม?”

   “อธิป...”

   กริชเอ่ยชื่ออีกฝ่ายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เริ่มหงุดหงิด เพราะดูเหมือนชายหนุ่มจะดูเอื่อยเฉื่อย และไม่ค่อยสนใจเรื่องของหลานชายเขาเท่าใดนัก

   “น่า ๆ นายจะร้อนรนไปให้มันเกิดอะไรขึ้น ถ้าช่วยไม่ได้ จะรีบยังไงก็ช่วยไม่ได้ ...แต่ถ้าไม่รีบไม่ร้อน บางทีมันอาจจะเป็นแค่ปัญหาเส้นผมบังภูเขา ที่เรามองผ่านไปโดยไม่ได้สังเกตก็ได้นะ”

   กริชชะงักแล้วจึงเงียบไป ถึงแม้จะหงุดหงิด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรออธิปเท่านั้น

   “นี่ลุง! ลุงยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ!”

   รุ้งพรายขู่ฟ่อตามมา เพราะโดนเมินไม่สนใจ ทำให้อธิปหันกลับมามอง แล้วยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “ฉันน่ะอายุน้อยกว่าเธออีกนะ แม่เหมียว  มาเรียกว่าลุงแบบนี้ ฉันก็เสียหายหมดสิ”

   “ก็หน้าแก่นี่ เรียกลุงก็เหมาะแล้ว!”

   รุ้งพรายบอกแล้วค้อนขวับ ทำให้อธิปหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

   “เออนะ ก็ถูกของเธอ เอาล่ะ ฉันจะตอบคำถามเธอก่อน จะได้ไปสำรวจบ้านต่อ ไม่งั้นมีหวังหมอนี่คงหงุดหงิดใส่ฉันไม่เลิกแน่”

   จากนั้นอธิปก็ทรุดนั่งลงแล้วเอื้อมมือไปจับศีรษะของแมวสาวแผ่วเบา ทว่าพออีกฝ่ายสัมผัส รุ้งพรายก็ขนลุกซู่ แล้วกระโดดหลบออกมาทันที

   “นายเป็นหมอผี!”

   “ถูกต้อง สมแล้วที่อยู่มานาน ประสาทสัมผัสคมกริบใช้ได้”

   อธิปบอกยิ้ม ๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ เมื่อเห็นท่าทางกลัวจนตัวสั่นของแมวสาวตรงหน้า

   “ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันเป็นเพื่อนกับหมอนี่ แล้วที่มาที่นี่ก็แค่มาดูอาการของหลานชายเขาก็แค่นั้น”

   “อธิป ไม่จำเป็นต้องพูดมาก ไปได้แล้ว!”

   กริชขัดขึ้น เพราะไม่อยากให้รุ้งพรายรู้เรื่อง เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้ตุลาพลอยรู้ถึงเรื่องนี้ไปด้วย

   “รุ้ง...มาช่วยฉันในครัวหน่อย ส่วนทางนั้นปล่อยพวกเขาไปเหอะ อย่าไปกวนเขานักเลย”

   เสียงของพาทิศตะโกนขัดมาจากมุมครัว ทำให้รุ้งพรายที่เตรียมซักถามด้วยความสงสัยสะดุ้งโหยง ปีศาจแมวสาวลังเล ก่อนจะทำเสียงฮึในลำคอ แล้วจึงสะบัดหน้าเดินตรงไปที่ครัว ตามที่เพื่อนชายเรียก

   อธิปนั้นมองตามร่างของปีศาจแมวสาวไป เขาหัวเราะเบา ๆ  แล้วจึงหันมาทางกริช

   “เอาล่ะ คราวนี้ไปห้องนอนของหลานชายนายเลยแล้วกัน”

   กริชขมวดคิ้วยุ่ง แต่ก็ยังทำตามที่อีกฝ่ายบอก เขาพาอธิปมาที่ห้องซึ่งตุลาพักอยู่ และพอเดินมาถึง ประตูห้องก็เปิดออกมาพอดี

   “อะ...อ้าว ผมกำลังจะลงไปหาพอดีเลยครับ ...มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

   ตุลาถามอย่างสงสัย ซึ่งอธิปก็ยิ้มแล้วตอบกลับ

   “พวกเราก็มีธุระกับห้องของเธอพอดีนั่นล่ะ”

   คนฟังขมวดคิ้วยุ่งอย่างงุนงง แต่ก็ยังคงปล่อยให้ทั้งคู่เข้ามาในห้องของตัวเอง ทางด้านอธิปพอก้าวเท้าเข้ามาในห้องของชายหนุ่ม ไม่กี่ก้าว เขาก็มองไปรอบ ๆ พลางยกยิ้มน้อย ๆ แล้วหันไปบอกกับกริช

   “ถ้านายปล่อยให้เขานอนห้องนี้ต่ออีกสักอาทิตย์  นายคงได้เขามาอยู่ร่วมเป็นก๊วนผี กับพวกนายไปแล้วล่ะ กริชเอ๋ย”



   

   
... TBC ...

(ว่าที่)สมาชิกใหม่ของม่านราตรีเพิ่มมาแล้วอีก 1 หน่อ หุ ๆ แถมยังเป็นคนเดียวที่ประมือกับนายกริชได้พอฟัดพอเหวี่ยงอีกด้วย ... หวังว่านักอ่านคงจะยินดีต้อนรับอีตาลุงหมอผีคนนี้เช่นเีดียวกันนะคะ   ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 15-07-2011 18:50:14
อ่านรวดเดียวเลย 10 ตอนจุใจ

อยากบอกว่า ตัวแพรเองเป็นคนชอบอ่านนิยายแฟนตาซีมากๆ
แต่นานๆที ถึงจะเจอนิยายที่ถูกใจ อ่านแล้วรู้สึกว่ามันใช่
และเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่ใช่สำหรับแพรค่ะ
คนเขียน เขียนสนุกดีจัง อ่านแล้วลื่นไหล เนื้อเรื่องก็มีอะไรให้ลุ้นตลอด
ส่วนภาษา ถึงจะไม่่ได้ใช้ภาษาสลวยส่วยเก๋อะไร แต่ว่ามันดึงดูดคนอ่านดีค่ะ
ไม่ติดขัด อ่านแล้วรู้สึกไม่เบื่อ แล้วก็อยากจะอ่านอีกเรื่อยๆเลย  :L2: +1
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 15-07-2011 19:01:02
มาทำให้อยากแล้วจากไปอีกแล้ว
อยากรู้จังเลยว่ามนห้องนอนตุลมีอะไรอยู่
แต่ดูท่ามันคงจะอันตรายไม่น้อยน่ะเนี้ย
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 15-07-2011 19:07:09
อิตาหมอผีเนี่ยท่าทางจะเป็นคู่ของอากริช แป่วววว  อุตส่าห์จะจิ้นให้คู่กะหลานอากริชซะหน่อย ถึงแม้หนุ่มซอมบี้จะเริ่มมีบทบาทก็เหอะ
รอลุ้นต่อไปปปปปปปปปปปปป    :really2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: mukwan ที่ 15-07-2011 19:10:28
10 ตอนรวดเหมือนกันค่ะ สนุกมาก เรื่องนี้   :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 15-07-2011 19:21:09
คุณหมอผีหมายความว่าไง?
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-07-2011 19:27:46
อย่าบอกนะว่า อธิป เป็นพระเอก ม่ายยยยยย  :z3: ต้องพาทิศ คนเดียวเท่านั้นๆๆๆๆ :z3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-07-2011 19:32:06
งืมงืม แล้วตุลจะเป็นงัยมั้งนะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 15-07-2011 19:45:20
ย้ายฮวงจุ้ยด่วนสินะท่านหมอผี....เหตุผลคือ......(รอตอนหน้าไง)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Natjy012 ที่ 15-07-2011 19:59:58
สนุกมากค่ะ
เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ

ไงก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 15-07-2011 20:01:40
มีสมาชิกเพิ่มเข้ามาอีก 1
แถมเป็นหมอผีซะอีก
บ้านนี้คงสนุกขึ้นแน่ๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 15-07-2011 20:05:17
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ อ่านตั้งแต่ตอนที่ 1-10 สนุกมากค่ะ น่าติดตามมาก
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ๆค่ะ
 :3123:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-07-2011 20:19:04
ง่ะ ห้องนอนนั้นมันดูดพลังชีวตหรือไงหว่า ง่า ค้างๆ  :z3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 15-07-2011 21:16:16
อะไรอยู่ในห้องนอนน่ะO.o
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 15-07-2011 21:18:00
คุณหมอผีช่วยตุลด้วยน้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-07-2011 22:54:39
เรื่องนี้ออกแนวไสยศาสตร์มากๆ แต่พ่ออธิปเป็นพระเอกใช่มั้ย ดูกวนๆดี :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-07-2011 23:06:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 16-07-2011 00:25:50
อาถรรพ์เจ้าของห้องรึป่าวนะ :m28:
ยิ่งอ่านยิ่งน่าสงสัย แต่.. แต่เค้ายังเชียร์อากริชอยู่นะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 16-07-2011 00:41:22
คุณอธิปรีบๆช่วยตุลด่วนเลยนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 16-07-2011 02:03:37
ช่างเป็นหมอผีที่กวนมากๆ
อ่านๆไปเริ่มจะหงุดหงิดตามอากริชแล้ว  :m16:
แต่เวลาอยู่กะอากริชก็น่ารักดีอ่ะ ชอบ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 10 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (15/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 16-07-2011 10:24:26
ไม่จริงงงงง หลานน้อยยอย่าเป็นอะไรน่า :sad4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 16-07-2011 12:55:07
ม่านราตรี
บทที่ 11



    วิญญาณหนุ่มนิ่งอึ้ง เช่นเดียวกับตุลาที่ทั้งตกตะลึงทั้งสงสัยในคำพูดนั้นของอธิป

   “คฤหาสน์หลังนี้ ...ไม่สิที่ดินผืนนี้ เป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยพลังอาถรรพ์ มันมีทั้งผลดีและผลร้ายต่อผู้อาศัย สำหรับมนุษย์ถ้าอึดไม่พอคงรอดยาก...”

   กริชเงียบกริบ แล้วพึมพำเสียงแผ่ว

   “นี่ฉันเกือบจะทำให้หลานตัวเองต้องตาย โดยไม่รู้ตัวเสียแล้วหรือนี่...”

   ตุลาหันมาทางผู้เป็นอา เมื่อเห็นสีหน้าสำนึกผิดเช่นนั้นเขาก็ต้องตกใจ แล้วเตรียมจะปลอบอาของตัวเอง แต่อธิปก็ขัดขึ้นเสียก่อน

   “ไม่เชิงหรอกนะกริช บางทีสำหรับเด็กคนนี้ ที่นี่อาจจะดีสำหรับเขาก็ได้”

   อธิปบอกตามมา ทำให้กริชชะงัก และตุลาหันกลับมามองคนพูดอย่างสงสัย

   “อืม...คอแห้งจังน้า นี่เจ้าหนู ฉันวานหน่อยสิ  ช่วยไปเอากาแฟ แล้วก็น้ำเย็น ๆ มาให้อย่างละแก้ว อ้อ ถ้ามีขนมด้วยก็ดีนะ”

   อธิปหันไปบอกกับตุลา ทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง ฟังดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะกันท่าเขาออกจากบทสนทนาชัด ๆ

   “ช่วยจัดให้เขาตามนั้นด้วยนะตุล”

   กริชเสริมตามมาอย่างพอจะรู้จุดประสงค์ของเพื่อน และเพราะเป็นคำขอของกริชทำให้ตุลาไม่กล้าที่จะขัด และจำต้องออกจากวงสนทนาไปอย่างจำใจ

   

   “อธิบายมาเสียทีสิ!”

   กริชบอกอย่างหงุดหงิดเมื่อตุลาเดินออกจากห้องไปได้สักพัก แต่อธิปกลับไม่บอกเรื่องที่เขาอยากรู้ในทันทีแต่อย่างใด

   “แหม ๆ ใจเย็น ๆ สิ นายนี่ใจร้อนจริงนะ ขนาดเป็นวิญญาณไปแล้วแท้ ๆ”

   อธิปหันมาบอกอย่างใจเย็นดังเช่นสีหน้า แล้วจึงเดินไปนั่งที่เตียงของตุลา

   “ดูสิ ...บริเวณนี้น่ะ มันเป็นทางผ่านของพลังงานอาถรรพ์ซึ่งไหลเวียนรอบ ๆ ที่ดินผืนนี้ และหลานนายก็มานอนขวางทางของมัน ก็เลยรับผลกระทบตรงนี้มาเต็ม ๆ อ้อ! แต่ถ้าเป็นภูตผีอย่างพวกนายก็จะไม่มีปัญหานัก แถมยังจะช่วยเสริมพลังวิญญาณดีเสียอีก”

   กริชมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด  เขาหลุดพึมพำขึ้นมาอย่างแผ่วเบา จนคนฟังเวทนา

   “ที่นี่มันอันตรายกับตุลจริง ๆ สินะ...ฉันมัน...ไม่น่าเลยแท้ ๆ...”

   “อย่าเพิ่งด่วนสรุปตีความไป ฉันบอกแล้วว่ามันมีทั้งผลดีและไม่ดี แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกให้เกิดขึ้นแบบไหน”

   อธิปแย้ง แล้วจึงเดินออกไปทางระเบียง พลางเปรยขึ้นเบา ๆ

   “กระแสพลังอาถรรพ์ ของที่ดินผืนนี้ มันเป็นประเภทไม่คงที่ ไหลเวียนหมุนผ่านไปมา สุดแล้วแต่ว่ามันจะเปลี่ยนทิศทางไปที่ไหน...”

   หนุ่มใหญ่บอก แล้วจึงหันมาทางกริชที่ยืนฟังอยู่

   “การไปขวางทางของมันอย่างหลานนายทำอยู่ ย่อมไม่เป็นผลดีกับร่างกายมนุษย์แน่ แต่ถ้าสามารถหลีกเลี่ยงได้ มันจะส่งผลตรงกันข้าม เพราะชีวิตของหลานนายอยู่ได้ด้วยคุณไสยของฉันและอายุขัยของนาย พลังของที่ดินผืนนี้มันมีส่วนช่วยเสริมอาคมที่ฉันทำไว้ให้แข็งแกร่งขึ้น ...จนบางทีหลานของนาย อาจจะอายุยืนยาวได้เท่ากับอายุขัยที่นายให้เขาไว้เลยทีเดียว”

   ประโยคถัดมาของอธิปทำให้กริชตาเบิกกว้างด้วยความยินดี สีหน้าเช่นนั้นของวิญญาณหนุ่มทำให้อธิปยิ้มน้อย ๆ อย่างเศร้าใจ

   “รู้ไหมกริช ...ฉันลังเลอยู่พอสมควร ว่าจะบอกเรื่องนี้กับนายดีไหม ...”

   กริชนิ่งเงียบไปในทันที เขาพอจะรู้ความหมายในคำพูดของเพื่อนอยู่บ้าง เจ้าตัวนิ่งไปสักพัก แล้วจึงยิ้มให้อีกฝ่าย

   “แต่นายก็ยังบอกฉัน...ขอบใจนะ อธิป”

   “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ฉันหลวมตัวมาคบกับคนแบบนายกันล่ะ!”

   อธิปตอบยิ้ม ๆ เขาเงียบไปสักพัก แล้วจึงเอ่ยตามมาด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจังผิดจากเดิม

   “นายพอจะบอกให้หลานนาย รับฉันมาอยู่ที่นี่ด้วยอีกคนได้ไหม ... เพราะดูเหมือนฉันคงต้องทำหน้าที่เป็นหมอดูฮวงจุ้ยแก้ขัดไปเรื่อย ๆ ให้หลานนายเสียแล้วล่ะนะ จนกว่าเขาจะมีภูมิต้านทานกับอาถรรพ์ของที่นี่มากพอ จนมันทำอันตรายเขาไม่ค่อยได้ ฉันถึงจะปล่อยเขาไว้โดยไม่ต้องคอยตามประกบได้นั่นล่ะ”

   กริชนิ่งรับฟังแล้วจึงพยักหน้ารับรู้ค่อย ๆ

   “ได้สิ ฉันจะช่วยพูดให้...แล้วก็ขอบใจนายมากอธิป ที่ช่วยเป็นธุระให้แบบนี้”

   “ทำไงได้ ฉันมันคนบาปนี่ ...ก็ได้แต่ทำบาปเพิ่มไปเรื่อย ๆ แบบนี้  หาหนทางปลดปล่อยตัวเองไม่ได้สักที”

   กริชชะงัก แล้วมีสีหน้าสลดลง จนคนมองต้องลอบถอนหายใจ

   “เฮ้อ! ฉันล้อเล่นน่า อย่าคิดมากเลยกริช... บางทีการที่ฉันต้องมาช่วยนายแบบนี้ ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของเวรกรรมที่ฉันต้องชดใช้คืนให้นายก็ได้...แต่อย่าลืมล่ะ ถ้ามันถึงที่สุด ทำยังไงคนเราก็ไม่อาจรั้งความตายไว้ได้อยู่ดี”

   วิญญาณหนุ่มนิ่งรับฟัง แล้วจึงพยักหน้าอย่างรับรู้ ด้วยสีหน้าปวดร้าว

   “ฉันเข้าใจแล้ว...อธิป...เมื่อเวลานั้นมาถึงจริง ๆ ...ฉันก็จะยอมรับมันให้ได้”

   “อืม...ดีแล้ว ฉันก็ไม่อยากให้เพื่อนสนิทของฉัน ต้องมายึดติดกับทางโลกแบบนี้ ทั้งที่เขามีโอกาสที่จะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีกว่าแท้ ๆ”

   อธิปบอก แล้วจึงเดินกลับไปนั่งที่เตียงนอนในห้องนั้น โดยมีกริชยืนพิงกำแพงห้องมองเขาอยู่ห่าง ๆ

   “ก็ไม่แน่ว่าที่ ๆ ฉันจะได้ไป มันจะดีกว่าที่ฉันอยู่เสียเมื่อไหร่”

   หนุ่มใหญ่หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

   “เชื่อฉันสิ ที่ ๆ นายจะไป ยังไงก็ดีกว่าที่นี่แน่...”

   ‘เพราะทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการให้ นายได้ให้ชีวิตของนายเพื่อต่อชีวิตของหลานชายตัวเอง นั่นถือเป็นกุศลอันสูงสุดแล้ว แต่เพราะกรรมที่ทำไว้ในชาติปางก่อน มันจึงทำให้นายเกิดห่วงและยึดติด จนไม่สามารถหลุดพ้นจากภพภูมิมนุษย์ได้สักที’

   “ขอโทษครับ ...กาแฟมาแล้วครับ”

   เสียงของตุลาที่ดังขึ้นหน้าห้อง ทำให้อธิปซึ่งกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ หัวเราะเบา ๆ แล้วจึงเดินไปเปิดประตูต้อนรับเจ้าของให้เข้ามาในห้อง

   “เข้ามาสิ กำลังอยากคุยด้วยอยู่พอดี”

   ตุลามองคนพูดอย่างงุนงง แต่เขาก็ยังคงนำถาดที่ใส่กาแฟและแก้วน้ำเย็น รวมไปถึงขนมขบเคี้ยวไปวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้อง ซึ่งอธิปก็เอ่ยขอบคุณเบา ๆ แล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้แถวนั้นพร้อมกับยกกาแฟขึ้นจิบอย่างใจเย็น

   “พอดีฉันมีปัญหาทางการเงินนิดหน่อย จนตอนนี้แทบจะไม่มีบ้านอยู่แล้ว เลยอยากจะขอมาอาศัยอยู่กับเธอด้วยสักหน่อย...อ้อ! ไม่ได้พักฟรี ๆ หรอก ฉันจะดูฮวงจุ้ยตอบแทนให้ เห็นแบบนี้ ฉันก็พอมีความรู้เกี่ยวกับศาสตร์พวกนี้พอสมควรเหมือนกันนะ”

   คนฟังนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า เขาเหลือบไปมองกริชแล้วก็ได้รับคำยืนยันตามมา

   “ให้เขาอยู่ด้วยจะดีกว่านะตุล ...ที่ดินผืนนี้มันมีอาถรรพ์มากเกินไปที่มนุษย์จะอยู่ไหว ...ดูอย่างราตรีสิ ขนาดวิญญาณอย่างหล่อน ยังเคยถูกอาถรรพ์ของมันครอบงำเข้าให้ได้เลย”

   ตุลาหันไปมองอาของเขา จ้องมองชายหนุ่มสักพัก แล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ

   “ถ้าอาว่าอย่างนั้น ผมก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ”

   “ดี ๆ รับรองว่าจะไม่หาเรื่องก่อปัญหาให้เธอแน่”

   อธิปบอกตามมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ทำให้ตุลาต้องหันไปยิ้มน้อย ๆ ให้

   “ยังไงคุณก็เป็นเพื่อนของอา อีกอย่างบ้านหลังนี้ก็เช่าด้วยเงินของอา ถ้าเป็นความต้องการของอาผมก็ไม่คิดขัดหรอกครับ”

   หนุ่มใหญ่ฟังแล้วก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะดัง ๆ ตามมาอย่างถูกใจ ส่วนกริชนั้นมองหลานชายของตนด้วยแววตารักใคร่ และชื่นชม

   “เด็กดี ๆ เอาเถอะ ฉันจะช่วยเท่าที่ตัวเองช่วยไหวแล้วกัน …”

    อธิปบอกแล้วลุกขึ้นมาขยี้ศีรษะของตุลาอย่างเอ็นดู ก่อนจะหันไปทางกริช

     “งั้นฉันขอตัวกลับไปขนของตัวเองมาก่อนดีกว่า… ส่วนเธอก็เปลี่ยนห้องนอนซะ จะนอนห้องไหนก็ได้ ยกเว้นห้องนี้ เข้าใจไหม”

   หนุ่มใหญ่สั่งความเจ้าของห้องทิ้งท้าย แล้วจึงขอตัวกลับโดยไม่คิดใส่ใจสีหน้าสงสัยของตุลาแม้แต่น้อย



   และเมื่ออธิปจากไปได้พักใหญ่ ตุลาที่นั่งเก็บข้าวของตามคำสั่งนั้น ก็หันไปมองกริชเป็นระยะ ด้วยความสงสัยที่เก็บงำเอาไว้แต่ไม่กล้าปริปากถาม เพราะถ้อยคำก่อนหน้านั้นของผู้เป็นอา

   “ขอร้องล่ะตุล อย่าถามอะไรอาเลย… เมื่ออาพร้อม อาจะเป็นฝายบอกกับตุลเอง”

   และเพราะประโยคนั้นและใบหน้าเศร้า ๆ ของกริช จึงทำให้ตุลาไม่คิดจะซักถามชายหนุ่มต่ออีก

   “อาครับ อาคิดว่าผมกลับไปนอนห้องเก่าดีไหม?”

   ตุลาที่พับเสื้อผ้าของตนใส่ตะกร้าเก็บเรียบร้อยหันมาถามผู้เป็นอา กริชนิ่งคิดแล้วจึงพยักหน้าค่อย ๆ

   “ก็คงได้ เพราะหมอนั่นไม่ได้ระบุห้องไว้ แสดงว่านอกจากห้องนี้แล้ว หลานจะนอนห้องไหนก็คงได้เหมือนกันหมดนั่นล่ะ”

   “ครับ…งั้นผมกลับห้องเก่าแล้วกัน  แต่น่าเสียดายนะครับ ห้องนี้เห็นวิวในสวนด้านหลังทั่วทั้งหมดแท้ ๆ”

   ตุลาพึมพำด้วยสีหน้าเสียดายดังเช่นคำพูด ส่วนกริชนั้นได้แต่ยืนนิ่งมองหลานชายด้วยแววตาเศร้าสร้อย

   “จริงสิ อาครับ แล้วจะเตรียมห้องไหนให้คุณอธิปดีล่ะครับ ผมจะได้ไปเปิดห้อง แล้วปัดกวาดไว้รอก่อน”

   กริชชะงัก แล้วจึงนิ่งคิด ก่อนจะตอบออกไปง่าย ๆ

   “ให้นอนห้องนี้ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเปิดห้องทำความสะอาดเพิ่ม”

   คนฟังกลืนน้ำลายลงคอ แล้วย้อนถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจ

   “เอ่อ แต่ว่า ห้องนี้มัน…”

   วิญญาณหนุ่มหันมาสบตากับหลานชาย พลางยิ้มหวานอย่างอ่อนโยนส่งให้

   “หมอนั่นน่ะอึดเสียยิ่งกว่าแมลงสาบอีก ไม่ตายง่าย ๆ หรอกน่า”

   ตุลาหัวเราะแห้ง ๆ กับคำตอบนั้น แล้วยกตะกร้าผ้าของตนไปเก็บอีกห้อง แต่พอยกเดินไปไม่เท่าไหร่ พาทิศที่จัดเตรียมข้าวกลางวันเสร็จ ก็ขึ้นมาช่วยชายหนุ่มขนข้าวของย้ายห้อง แม้ตุลาจะบอกปฏิเสธด้วยความเกรงใจ แต่ซอมบี้หนุ่มก็ยังหยิบตะกร้าที่มือเขาไปถือแทนอยู่ดี



   ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีดี  ตุลาก็ย้ายกลับมาห้องของตัวเองเรียบร้อย ด้วยความช่วยเหลือของพาทิศ จากนั้นอีกครึ่งชั่วโมง อธิปก็กลับมาพร้อมกับกระเป๋าใบโตที่หอบหิ้วมาด้วย

   “เอ่อ คุณอยากพักห้องไหนครับ ผมจะพาไปให้”

   ตุลาบอกกับอีกฝ่าย เพราะยังไงก็ไม่อยากเสียมารยาทให้เจ้าตัวพักที่ห้องเดิมของเขาซึ่งมีปัญหาอยู่ดี

   “ห้องหรือ? โอ๊ย ไม่ต้องเรื่องมากหรอก ฉันนอนพื้นแถวห้องรับแขกข้างล่างนี่ก็ได้!”

   พอได้ยินอธิปบอกแบบนั้น แล้วดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างนั้นจริง ๆ กริชที่เฝ้ามองอยู่ก็สั่นศีรษะอย่างระอา แล้วจึงเปรยขึ้นเรียบ ๆ

   “ไปนอนชั้นบนนั่นล่ะ เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยเหลือตุลได้ทันท่วงที”

   แม้คำพูดที่เอ่ยออกจะดูเย็นชานิด ๆ เหมือนไม่ได้ใส่ใจอันใดนัก แต่อธิปก็ยังคงยิ้มให้ แล้วพยักหน้ารับรู้

   “งั้นก็โอเค… ส่วนห้องฉันนอนห้องไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ห้องที่เจ้าหนูย้ายมา ตอนแรกก็อยากจะเสี่ยงอยู่หรอก แต่กลัวสู้อาถรรพ์ที่ดินไม่ไหว จะกลายเป็นผีเฝ้าที่นี่เสียแทน”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ ส่วนกริชนั้นไม่ได้ว่าอะไร แต่ก็คิดว่าห้องที่หลานชายพัก คงมีอาถรรพ์มากจริง ๆ เพราะขนาดคนมีวิชาอาคมอย่างอธิปเองยังออกปากไม่กล้าเสี่ยงแบบนี้

   “ถ้าอย่างนั้นผมจะพาไปดูห้องนะครับ”

   ตุลาบอกแล้วจึงเดินนำทางอธิปขึ้นไปบนชั้นสองของคฤหาสน์

   “อืม...ขอบใจ”

   หนุ่มใหญ่กล่าวขอบคุณสั้น ๆ แล้วจึงเลือกห้องพักตรงกันข้ามกับห้องของตุลา แต่พอชายหนุ่มเห็นอีกฝ่ายหยิบข้าวของส่วนตัวบางชิ้นออกจากกระเป๋า เขาก็ต้องนิ่วหน้า แล้วเอ่ยถามเสียงอ่อย

   “เอ่อ ...นั่นอะไรหรือครับ”

   อธิปชะงัก เขามองหน้าคนถามก่อนจะจ้องสิ่งของในมือของตน พลางตอบออกไปอย่างหน้าตาเฉย

   “ก็หัวกะโหลกคนไง ไม่เคยเห็นมาก่อนเหรอ?”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วขอตัวออกไปจากห้องเงียบ ๆ ปล่อยให้อีกฝ่ายจัดห้องของเจ้าตัวไป แล้วพอเดินออกมาได้สักพัก ชายหนุ่มก็พึมพำกับตัวเองเบา ๆ

   “อากริชครับ ...เพื่อนอาน่ะปกติแล้วเขาทำอาชีพอะไรหรือครับ?”

   กริชที่อยู่ข้างกายหลานชายตลอดปรากฏกายขึ้น เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วตอบคำถามนั้นพร้อมรอยยิ้ม

   “หมอผีไงล่ะ อานึกว่าตุลจะรู้แล้วเสียอีก”

   ตุลาสั่นศีรษะไปมา แล้วมีสีหน้ากังวลหนักขึ้น

   “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยครับ...แล้วนี่จะไม่เป็นไรหรือครับ ก็ในบ้านนี้น่ะ...”

   ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงสมาชิกตนอื่น ๆ ของคฤหาสน์ม่านราตรีขึ้นมาทันที แต่กริชนั้นเปรยปลอบหลานชายของตนเสียก่อนที่อีกฝ่ายจะกังวลมากไปกว่านั้น

   “ไม่เป็นไรหรอก ถึงจะเป็นหมอผี แต่หมอนั่นไม่ได้บ้าปราบผี จับผี ตามอย่างละคร หรือหนังไทยทั่วไปหรอกนะ เขาแค่ศึกษาเรียนรู้วิชาอาคมเอาไว้ เพื่อช่วยเหลือและป้องกันคนที่เดือดร้อน เพราะศาสตร์พวกนี้แค่นั้นเอง”

   พอได้ฟังคำพูดของผู้เป็นอาก็ทำให้ตุลาใจชื้นขึ้น เขายิ้มน้อย ๆ แล้วจึงบอกกับอีกฝ่าย

   “ถ้าแบบนั้นก็ดีไปอย่างนะครับ บางทีผมอาจจะถามคุณอธิปเขาถึงเรื่องพวกนี้ จะได้ใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการเขียนนิยายของผมบ้างก็ได้”

   กริชยิ้มตอบแล้วจึงเอ่ยตามมา

   “ดีสิ งั้นเดี๋ยวอาจะคอยช่วยเป็นคนอ่านทวนให้เองดีไหม?”

   ตุลาสะดุ้งแล้วจึงหน้าแดงนิด ๆ ก่อนจะตอบเสียงอ่อย

   “ผมก็อยากให้อาช่วยอ่านทวนให้หรอกนะครับ ...แต่ฝีมือของผมมันยังมือสมัครเล่นมาก ๆ ...แบบว่า...”

   กริชมองหลานชายแล้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะบอกออกไปด้วยรอยยิ้ม

   “ไม่ต้องกังวลไปหรอก คนเรามันก็ต้องมีครั้งแรกทั้งนั้น อีกอย่างตุลเองก็มีพรสวรรค์เรื่องขีด ๆ เขียน ๆ ตั้งแต่เด็กแล้ว อาเชื่อนะว่านิยายของตุลมันต้องออกมาดีไม่แพ้ของอา...ไม่สิ อาจจะดีกว่าของอาเลยก็ได้”

   พอได้ยินอาของตัวเองพูดแบบนั้น ตุลาก็ทั้งเขินและปลาบปลื้มไปในคราวเดียวกัน ชายหนุ่มยิ้มกว้างอย่างยินดี แล้วจึงสะดุ้งเมื่อพาทิศตะโกนมาจากชั้นล่าง เรียกให้เขาและอธิปทานข้าวกลางวันได้แล้ว

   “ครับ ๆ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ งั้นผมไปตามคุณอธิปก่อนนะครับอา”

   “อืม ตามสบาย”

   กริชบอกแล้วก็มองหลานชายเดินกลับไปเปิดประตูห้องเพื่อนของตน ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นตุลายืนอึ้งตาค้าง แล้วคอพับคออ่อน เป็นลมสลบล้มลงไปนอนกองอยู่แถวนั้น

   “ตุล! เป็นอะไรไป!”

   กริชพุ่งพรวดเข้าไปหาอย่างตกใจ ก่อนจะหันขวับไปมองในห้องของอธิป ภาพเบื้องหน้าที่เห็นทำให้เขาตกตะลึง แล้วจึงตามมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดโมโหเต็มที่

   “นายทำบ้าอะไรน่ะอธิป!”

   หนุ่มใหญ่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบ รอบตัวเขามีหัวกะโหลกนัยน์ตาเรืองแสงสีแดงลอยอยู่สามหัว ห้องนั้นก็ปิดทั้งม่าน ปิดทั้งไฟ จึงทำให้บรรยากาศดูชวนหลอนมากยิ่งขึ้น

   “ก็นะ...แค่ลองวิชาเก่า ๆ ดูว่าจะสนิมกินหรือยัง จะไปรู้ได้ไงล่ะว่าเจ้าหนูนี่จะเปิดมา...ว่าแต่ก็น่าแปลกนะ อยู่ร่วมทั้งวิญญาณ ทั้งภูตผีแท้ ๆ แต่ดันกลัวกับอีแค่กะโหลกลอยได้ ตลกดีเนอะ นายว่าไหม”

   อธิปบอกแล้วยิ้มกว้างให้ในประโยคหลัง ทำเอาคนฟังยิ่งหงุดหงิดโมโหหนักเป็นเท่าตัว หนุ่มใหญ่จึงได้แต่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วยกมือยอมแพ้ ขอโทษขอโพย พลางอุ้มตุลาเข้าห้องนอนปฐมพยาบาลให้เจ้าตัวฟื้น โดยมีเสียงบ่นของกริชดังขึ้นข้าง ๆ ตลอดเวลา ทำให้คนฟังนึกรำคาญ จนชักอยากจะจับอีกฝ่ายยัดใส่หม้อถ่วงน้ำขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว

   

   
--- TBC ---
มาต่อแล้วจ้า แหมมีหลายคนหันมาลุ้นนายอธิปแทน ...ลุ้นน่ะลุ้นได้ แต่ลุ้นให้กับนายกริชนะ ตุลเค้ามีคนจองอยู่แล้ว (ถึงตอนนี้จะไม่แสดงออกมากมายก็เถอะ หุๆ) ...อ๊ะ สปอยส์พระเอกไหมเนี่ย~

ป.ล. ฝากแจ้งข่าวหน่อยค่ะ ช่วงนี้ปัดเปิดจองนิยายเรื่องที่เขียนจบไปแล้ว "ดวงใจจ้าวมังกร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24780.0)" ใครสนใจลองไปติดตามคลิกไปอ่านรายละเอียดได้ที่กระทู้บทความนะคะ  คนละสไตล์กับเรื่องนี้ค่ะ (เรื่องนั้นพระเอกหื่นตลอด--)

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 16-07-2011 13:29:15
โรคกลัวผีของนู๋ตุล ทำยังไงก็คงรักษาไม่หายอยู่ดี  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 16-07-2011 13:31:41
แวะมาให้กำลังใจนักเขียนคนขยันคร้าบ  o13 + ทั้งเป็ดทั้งคะแนนไปเลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 16-07-2011 13:44:26
กลัวจนเป็นลมอีกแล้วนะตุล :m20:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 16-07-2011 13:48:26
พาทิศแน่ๆเลย อ๊ากก เขินแทนตุล มีสองคู่แน่ๆเลย พาทิศตุล    กับ  อธิปกริช
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 16-07-2011 13:58:13
คนเขียนเลยคำว่าสปอยแล้วล่ะค่ะ  :laugh:
ต่อไปคงได้ตั้งหน้าตั้งตาจิ้นให้ถูกคู่ซักที อืมมม...อาหลานคู่นี้เป็นเคะทั้งคู่หรือนี่  :z1:

+1 สำหรับความขยันอัพเรื่องนะค้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-07-2011 14:14:00
แค่ให้รู้ว่า "หมอผี" อธิปมาดีมาเพื่อช่วยเหลือตุล ดิฉันก็โล่งใจล่ะ
ในบรรดาผีสาวๆทั้งหลายในบ้านนี้นี่น่ารักทุกคนนะ
แต่ใจดิฉันชอบรุ้งพรายเป็นพิเศษ ดูหล่อนมีสีสันดีจัง
รออ่านตอนหน้าคงได้คำตอบ ว่าทำไมอธิปถึงได้พูดแบบนั้น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 16-07-2011 14:27:40
บ้านหลังนี้ได้สมาชิกเพิ่มมาอีกคนแล้ว อิอิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 16-07-2011 14:31:35
ตกลงคุณพี่พาทิศคือพระเอกของตุล
คุณเพื่อนหมอผีอธิปคือพระเอกของอากริช :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 16-07-2011 14:38:22
ตุลนี่มันสุโค่ยจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 16-07-2011 17:05:18
จนป่านนี้ยังไม่ชินอีกเรอะน้องตุล สงสัยต้องให้พ่อบ้านพาทิศติวเข้มซะหล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 16-07-2011 17:28:44
อ้าว พระเอกยังไม่มาซะงั้น  o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: moony ที่ 16-07-2011 18:58:49
^o^ เรื่องนี้น่ารักม๊ากมาก
 รออ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeit ที่ 16-07-2011 20:06:48
คุณหมอผีแกล้งหนูตุลลลลลล ใจร้าย
คุณอาขา ผายปอดเร็วค่ะ 555555
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 16-07-2011 20:15:35
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-07-2011 21:05:57
ตกลงใครคู่ใครเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 16-07-2011 21:46:29
น้องตุลของเราเป็นลมง่ายเหลือเกิน  :เฮ้อ:

ขนาดอยู่กับผีมาตั้งนาน ยังไม่ชินอีก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-07-2011 00:12:00
มาอ่านครั้งแรกก็ล่อซะรวดเีดียวทันตอนล่าสุดเลย  :impress2:
สนุกดี  o13
กด+ กด+
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 11 แฟนตาซี(ผี)ไทยไม่น่ากลัวค่ะ (16/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 17-07-2011 01:21:47
ตุลเอ๋ย ขนาดอยู่กับผีมาทั้งนานนะ
ภูมิต้านทานไม่เพิ่มขึ้นเลยหรอ :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 17-07-2011 11:15:23

ม่านราตรี
บทที่ 12



    ตอนหัวค่ำในวันเดียวกันนั้น อธิปได้รับการแนะนำตัวจากตุลาให้สมาชิกตนอื่น ๆ รับรู้ ว่าอีกฝ่ายจะมาอยู่ร่วมคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้ด้วย ทำให้รุ้งพรายและราตรีไม่ค่อยชอบใจนัก ส่วนพาทิศและปิ่นสุดาไม่มีความเห็นคัดค้านอันใด เพราะตอนนี้สิทธิในการตัดสินใจนั้น เป็นของตุลาที่เป็นเจ้าของชั่วคราวอยู่แล้ว

   “ให้หมอผีมาอยู่ร่วมกับภูตผี แล้วถ้าเกิดวันดีคืนดี หมอนี่อยากจับพวกเราใส่หม้อถ่วงน้ำขึ้นมา นายจะรับผิดชอบไหวหรือไงตุล!”

   รุ้งพรายโวยวายใส่ ส่วนราตรีแม้จะไม่ขึ้นเสียงเท่าปีศาจแมวสาว แต่เธอก็ยังคงมีสีหน้าไม่พอใจเช่นเดียวกัน

   “นั่นสิ ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนคุณกริชก็เถอะ แต่จะไว้ใจได้ขนาดไหนกัน”

   ตุลามีสีหน้าลำบากใจ หันไปมองอธิปก็เห็นอีกฝ่ายยังคงอารมณ์ดี ไม่ทุกข์ไม่ร้อนอย่างที่ควรจะเป็น

   “เอ่อ...ขอโทษที่ทำให้พวกคุณลำบากใจ แต่ถือว่าผมขอร้องแล้วกันครับ ...อีกอย่างคุณอธิปก็คงไม่คิดทำร้ายพวกคุณแน่ ...ผมเชื่ออย่างนั้นครับ”

   ท้ายประโยคตุลาหันไปสบตากับอธิปแล้วเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าและแววตาเชื่อมั่น จนคนที่ทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา ต้องหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ 

   “หึ ๆ ก็อย่างที่เขาว่า ฉันไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อคิดทำอันตรายพวกเธอหรอก ...และถ้าพวกเธอรู้ว่าแท้จริงแล้วฉันมาที่นี่ทำไม ฉันว่าฝ่ายที่ต้องขอร้องให้ฉันอยู่อาจจะกลายเป็นพวกเธอเองก็ได้นะ”

   อธิปเปรยให้คนฟังคิด แต่ก็ต้องถูกขัดด้วยเสียงกระแอมเบา ๆ เสียก่อน จากนั้นเจ้าของเสียงจึงปรากฏกายขึ้นแล้วเอ่ยเสริมตามมา

   “ฉันขอยืนยันอีกคนว่า หมอนี่จะไม่ทำอันตรายพวกเธอแน่นอน ... ตอนนี้ฉันยังอธิบายอะไรมากไม่ได้ แต่ขอให้พวกเธอรู้เอาไว้ว่า เขาจำเป็นต้องอยู่ที่นี่ แค่นั้นพอ”

   รุ้งพรายกับราตรีชะงัก แล้วเงียบกริบ พอได้ฟังคำพูดหนักแน่นของกริช ก็ทำให้พวกเธอเริ่มได้คิดว่า การที่อธิปมาอยู่ที่นี่ บางทีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับตุลาก็ได้ เพราะพวกเธอต่างรู้ดีว่า กริชนั้นเป็นห่วงเป็นใยในตัวของหลานชายคนนี้มากเพียงใด

   “ก็ได้ ๆ  ยังไงตอนนี้ตุลก็เป็นเจ้าของคฤหาสน์นี่นะ ถึงจะชั่วคราวก็เหอะ”

    “ถ้าทั้งคู่ยืนยันขนาดนั้น ฉันก็คงว่าอะไรไม่ได้หรอกค่ะ”

   ราตรีเอ่ยตามมา แล้วเหลือบไปมองอธิป ซึ่งหนุ่มใหญ่ก็ยิ้มแซวใส่ ทำให้เจ้าหล่อนต้องค้อนขวับให้อย่างลืมตัว

   “ดีจัง...ที่ตกลงกันได้แบบนี้”

   ตุลาพึมพำกับตัวเอง แล้วยิ้มน้อย ๆ เพราะดีใจที่จะมีสมาชิกมาเพิ่มในบ้าน แถมเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับตน

   “ตุล...แล้วหลานเป็นยังไงบ้าง มีอาการปวดหัว หรือตัวร้อนไหม ...ถ้ามีไข้เมื่อไหร่ต้องรีบบอกเลยนะ”

    กริชที่อยู่ใกล้ ๆ หันมาถาม เพราะเป็นห่วงเรื่องที่ชายหนุ่มตกน้ำเมื่อตอนกลางวัน แถมยังเป็นลมเข้าให้ พอได้ยินดังนั้นตุลาก็สะดุ้งเล็กน้อย แล้วจึงหันไปตอบผู้เป็นอา   

    “ผมสบายดีครับ ...คงเพราะเชื่อที่อาไล่ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อช่วงเช้า ไม่งั้นก็คงไม่แน่เหมือนกัน”

   ตุลาบอกพร้อมกับยิ้มกว้างส่งให้กริช ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวยิ้มตอบอย่างเอ็นดู

   “เฮ้อ! ห่วงกันเข้าไป แล้วเมื่อไหร่เจ้าหนูมันจะโตเป็นผู้ใหญ่ ยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเองเวลาไม่มีนายอยู่สักที ฮึ กริช”

   อธิปแสร้งเปรยเสียงดัง ทำให้ตุลากับกริชชะงัก แล้วตุลาจึงรีบถามอาของตนด้วยความตกใจ

   “อากริชจะไปไหนหรือครับ!?”

   กริชนิ่งอึ้ง เขาเหลือบมองอธิปด้วยแววตาดุ ๆ แล้วจึงหันมาบอกกับหลานชาย

   “หมอนั่นเพ้อเจ้อไปเอง อาไม่มีวันทิ้งตุลไปไหนหรอก...”

   คำตอบของกริชทำให้อธิปนึกหมั่นไส้ แล้วจึงพูดแทรกขัดดัง ๆ

   “ยึดติดไม่เข้าเรื่อง...เจ้าหนู หมอนี่มันหัวดื้อ พูดอะไรไปก็ไม่ฟัง ถ้ารักอาเธอจริง ว่าง ๆ ก็ช่วยพูดกล่อมให้เขาไปสู่สุคติสักทีเถอะ!”

   จากนั้นหนุ่มใหญ่ก็เดินกลับขึ้นห้องพักตัวเองบนชั้นสอง ทิ้งให้ตุลายืนนิ่งอึ้ง และกริชยืนเงียบด้วยความไม่พอใจอยู่แถวนั้น ส่วนภูตผีตนอื่นเริ่มนึกสงสัยในตัวชายผู้ชื่ออธิป ว่าเกี่ยวพันอันใดกับอาหลานสองคนนี้กันแน่



   “อาครับ...ตอนนี้ ผมอยู่คนเดียวได้แล้ว...”   

   ตุลาที่นิ่งเงียบไปนานเอ่ยเสียงสั่นเครือ ทำให้คนฟังต้องสั่นศีรษะไปมาแล้วลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มนั้นแผ่วเบา

   “ทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้แบบนี้ แล้วจะให้อาปล่อยให้อยู่คนเดียวได้ยังไง ... ขอร้องล่ะตุล ขอให้อาได้อยู่เคียงข้างหลานอีกสักนิด ... และเมื่อถึงเวลานั้น อาจะยินยอมจากไปเอง โดยไม่ทำให้หลานต้องลำบากใจ”

   ตุลาเม้มปากแน่น น้ำตาคลอ แล้วพยักหน้า เขากระซิบบางอย่างเบา ๆ กับกริช ทำให้วิญญาณชายหนุ่มแย้มยิ้มอ่อนโยน แล้วแสดงร่างวิญญาณที่เห็นเด่นชัดขึ้นจนสามารถสัมผัสกายเนื้อของอีกฝายได้

   “เด็กขี้แยเอ๊ย...”

   กริชกอดหลานชายปลอบโยน ขณะที่ตุลานั้นร้องไห้เงียบ ๆ อย่างลืมตัว และไม่สนใจว่าจะมีคนอื่นมองตนอยู่หรือไม่ ภาพความรักของอาหลาน ทำให้ภูตผีตนอื่นในบ้านเลี่ยงหลบไปเงียบ ๆ ปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันตามลำพัง ส่วนอธิปที่แอบมองอยู่บนชั้นสอง ถอนหายใจเบา ๆ แต่เขาก็ยังคงปรารถนาให้เพื่อนสนิทเลิกยึดติด แล้วจากไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าดังเดิมอยู่ดี

   

   พอล่วงเข้าสู่เช้าวันรุ่งขึ้น ตุลาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อตื่นนอนขึ้นมา ก็ต้องพบกับใบหน้าของอธิปชะโงกเข้ามาใกล้จนน่าหวาดเสียว

   “อ้าว...ตื่นแล้วหรือ ฉันกำลังเข้ามาดูอาการเธออยู่พอดี ว่าเป็นยังไง ...ไหน ขอดูแววตาหน่อยซิ?”

   คนพูดยังคงชะโงกหน้าเข้ามาใกล้อีก จนตุลาต้องตัวแข็งทื่อ กลืนน้ำลายลงคอ อยู่นิ่งเช่นนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงดังตุบมาจากทางระเบียง พร้อมกับเสียงทักทายร่าเริงอันคุ้นเคยของใครบางคน

   “ตุล! ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะ ....กรี๊ด! อีตาลุงบ้า! นายจะทำอะไรตุลยะ!”

   ท่าทางชวนหวาดเสียวของอธิปและตุลา ทำให้รุ้งพรายที่เพิ่งเข้ามากรีดร้องด้วยความตกใจดังลั่นบ้าน จนคนอื่น ๆ ที่อยู่แถวนั้นสะดุ้งโหยงไปตาม ๆ กัน

    ทางด้านอธิป ตอนแรกเขาเองก็งง แต่พอเห็นปฏิกิริยาของรุ้งพราย หนุ่มใหญ่จึงแกล้งทำเป็นลูบเส้นผมของตุลาเล่น แล้วแนบหน้าคลอเคลียอยู่ใกล้ ๆ

   “ก็ลักหลับยามเช้ายังไงล่ะ แม่เหมียวน้อย ...เพราะฉะนั้นก็ออกไปได้แล้ว อย่ามาขัดจังหวะพวกเรา...โอ๊ย!”

   อธิปร้องเสียงหลง เมื่อกริชที่อยู่แถวนั้นใช้พลังวิญญาณโยนนาฬิกาปลุกใส่ศีรษะของอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้

   “อย่ามาทำให้คนอื่นเข้าใจหลานชาวบ้านผิดได้ไหม!”

   พอหันไปเห็นกริชก็ทำให้รุ้งพรายโล่งอก เพราะเธอไม่คิดว่ากริชจะกล้าปล่อยให้เพื่อนปล้ำหลานชายต่อหน้าต่อตาแบบนี้แน่

   “ฉันเจ็บนะ...ปามาได้ ถ้าหัวแตกจะทำยังไง”

   อธิปบ่นอุบ แล้วลุกขึ้นมานั่งคลึงศีรษะเบา ๆ ท่ามกลางความโล่งใจของตุลา

    “สมน้ำหน้า ใครใช้ให้มาลวนลามหลานชายชาวบ้านเขากันเล่า”   

   กริชตอบด้วยสีหน้าเย็นชา ทำให้คนฟังต้องถอนหายใจ แล้วยักไหล่พลางแสร้งทำเสียงน้อยอกน้อยใจตามมา

   “เออนะ คนเรา ...เรารึอุตสาห์ตื่นแต่เช้าถ่อมาดูอาการหลานให้ ว่าผิดปกติตรงไหนไหม แล้วดูทำเข้า จะขอบคุณสักนิดก็ไม่มี ดันเอาของมาปาใส่อีกต่างหาก”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ เขาเหลือบไปมองกริชก็ยังเห็นมีสีหน้าเฉยชาตามเดิม เขาจึงเอ่ยขอบคุณอธิปเบา ๆ แทนผู้เป็นอา

   “เอ่อ...ขอบคุณนะครับ”

   อธิปมองชายหนุ่มตรงหน้าแล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ให้ พร้อมกับขยี้เส้นผมอีกฝ่ายเล่นอย่างเอ็นดู

   “เธอนี่มันน่ารักจริง ๆ นะ ถ้าหมอนั่นว่าง่าย ได้อย่างเธอสักครึ่งก็คงดี”

   จากนั้นอธิปก็ลุกขึ้นยืน แล้วเปรยขึ้นเสียงดัง โดยไม่มองหน้าใคร

   “เอาล่ะ! วันนี้ก็เรียบร้อยปกติดี ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าไม่ใช้ห้องนั้นในช่วงนี้ ก็หมดห่วงไปได้สักพัก ไว้ทิศทางพลังอาถรรพ์นั่นมันเปลี่ยนกระแส แล้วฉันจะแวะมาตรวจสอบอีกรอบ”

   บอกแล้วเจ้าตัวก็โบกมืออำลา แล้วเดินจากไป กริชนั้นมีสีหน้าสบายใจขึ้น ส่วนรุ้งพรายก็มองวิญญาณหนุ่มอย่างสงสัย แต่ก็ตัดใจไม่ถาม แล้วกระโดดขึ้นมาบนเตียงนอนของตุลาแทน

   “ตื่นแล้วก็ไปเดินเล่นตอนเช้ากันตุล วันนี้อากาศดีเป็นพิเศษเลย มีแดดอ่อน ๆ แต่เช้า น่าจะเหมาะกับนายนะ ไม่เจอแดดมาหลายวันแล้วไม่ใช่หรือ”

   ตุลาชะงัก แล้วจึงพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เขาพึมพำขอบคุณปีศาจแมวสาวก่อนจะขอตัวไปล้างหน้าล้างตา และอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อน

   และเมื่อตุลาหายเข้าไปทำธุระส่วนตัวในยามเช้า กริชจึงเดินมาใกล้รุ้งพราย แล้วเอ่ยขอบคุณเบา ๆ

   “ขอบใจนะ ที่ช่วยดูแลตุลให้แบบนี้”

   รุ้งพรายเงยหน้ามองวิญญาณชายหนุ่ม แล้วจึงสะบัดหางสองหางไปมาค่อย ๆ ก่อนตอบไปเรียบ ๆ

   “ไม่ต้องขอบใจอะไรหรอกค่ะ ฉันทำไปเพราะฉันอยากทำ ก็แค่นั้นเอง...”

   “เธอไม่คิดจะถามเรื่องที่ฉันพาอธิปเข้ามาหรอกหรือ”

   จู่ ๆ กริชก็เอ่ยขึ้นในสิ่งที่ทำให้ปีศาจแมวสาวสะดุ้ง ทว่าเจ้าหล่อนก็ต้องหัวเราะเบา ๆ ตามมาแล้วจึงตอบออกไปอย่างจริงจัง

   “ฉันน่ะ ชอบตุลนะ และอยากคอยดูแลเขาเท่าที่ตัวเองจะทำได้ด้วย ... และฉันก็เชื่อว่าคุณน่ะ รักตุลมาก และคงไม่มีวันยอมให้เขาเกิดอันตรายแน่ ...ดังนั้น ถ้าคุณไม่อยากเล่า ฉันก็จะไม่ถามมันก็แล้วกัน”

   กริชชะงัก แล้วจึงยิ้มอ่อนโยนส่งให้อีกฝ่าย อย่างที่ไม่ค่อยมีให้ใคร นอกจากหลานชายของตน

   “ขอบใจ ...ฉันคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ให้เขามาอยู่ที่นี่”

   “เรื่องนั้น ก็ทำให้ฉันต้องขอบคุณคุณอยู่เหมือนกัน...ขอบคุณนะที่ส่งตุลมา”

   รุ้งพรายบอกออกไปจากใจจริงของเธอ แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อคนในห้องน้ำโผล่หน้ามา แล้วมองพวกเขาอย่างสงสัย

   “คุยอะไรกันหรือครับ?”

   “นินทานายยังไงล่ะ อาบน้ำไวจริงนะ วิ่งผ่านน้ำหรือไง?”

   รุ้งพรายแกล้งตอบ ทำเอาตุลาต้องหัวเราะแห้ง ๆ แล้วบอกอุบอิบ

   “ผมอาบธรรมดานะ ไม่ได้วิ่งสักหน่อย”

   จากนั้นตุลาก็เดินตามรุ้งพรายที่เดินนำหน้าเขาไป ก่อนจะชะงักฝีเท้า หันกลับมามองใครอีกคนที่ไม่ยอมตามไปด้วย

   “อาไม่ไปด้วยกันหรือครับ?”

   กริชยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงสั่นศีรษะปฏิเสธค่อย ๆ

   “ไม่ล่ะ หลานไปเถอะ ...แต่ถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรก็เรียกอาได้ทันทีนะ”

   ตุลายิ้มตอบ แล้วจึงพยักหน้ารับ   

   “ครับ ...งั้นผมไปนะครับ”

   เมื่อลับร่างของปีศาจแมวสาวและหลานชายแล้ว กริชจึงหายตัวไปปรากฏที่ห้องของอธิป อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในห้องนอน แต่ได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัวในห้องน้ำ ก็แสดงว่าเจ้าตัวน่าจะกำลังอาบน้ำอยู่ในห้อง



   สักพัก ร่างสูงของหนุ่มใหญ่ก็เดินออกมาจากห้องน้ำ เจ้าตัวนุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียวผูกเอวไว้ และกำลังเดินเช็ดศีรษะที่เปียกด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก เขาชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีแขกมาเยี่ยมห้อง

   “ไง นายกริช แวะมาบ่นอะไรฉันอีกล่ะ”

   อธิปทักแล้วก็ต้องเลิกคิ้วเมื่ออีกฝ่ายโค้งศีรษะน้อย ๆ ให้เขา แล้วพึมพำเบา ๆ

   “เมื่อครู่ขอโทษนะ...แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยดูแลตุลด้วย”

   คนฟังถอนหายใจ แล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียง แล้วแสร้งเปรยดัง ๆ

   “เพี้ยนอะไรขึ้นมาอีกล่ะ ปกติเห็นแต่บ่น ๆ  ด่า ๆ อยู่ประจำ หือ?”

   กริชชะงัก แล้วจึงมีสีหน้าที่กึ่งยิ้มกึ่งเบื่อหน่ายแทน

   “ก็เป็นเสียแบบนี้ จะไม่ให้ถูกบ่นบ่อย ๆ ได้ยังไงกัน”

   อธิปหัวเราะในลำคอ แล้วจึงเอ่ยตามมา

   “แบบนี้สิ ค่อยสมเป็นนายหน่อย”

   กริชสั่นศีรษะอย่างระอา แล้วจึงเปรยขึ้นเบา ๆ

   “อธิป...นายว่าฉันควรจะบอกตุลเรื่องของฉันดีไหม?”

   คนฟังชะงักก่อนจะแย้มยิ้มน้อย ๆ ตอบ

   “เข้มแข็งขึ้นมาอีกนิดแล้วสินะ... สำหรับคำตอบของฉันนายก็น่าจะรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือกริช”

   คนฟังยิ้มเศร้า ๆ แล้วจึงตอบพึมพำเสียงแผ่ว

   “ฉันกลัว...อธิป...กลัวตุลจะโกรธ กลัวเขาเสียใจ ...กลัวไปถึงว่าเขาจะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง เพื่อประชดฉันด้วยซ้ำ”

    อธิปหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เมื่อได้ยินความกังวลของเพื่อน แล้วจึงเปรยดัง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “ถ้าเจ้าหนูมันเป็นเด็กแบบนั้นจริง นายก็คงไม่ทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้หรอกกริช ...เชื่อใจหลานตัวเองหน่อยสิ เขาอาจจะโกรธ อาจจะเสียใจ นั่นก็ไม่แปลก ...นายเองก็ต้องยอมรับตรงจุดนี้ เพราะนายก็ผิด ที่ทำทุกอย่างลงไปเอง โดยไม่ยอมถามความสมัครใจของเขา”

   กริชมีสีหน้าสลดและสำนึกผิดยิ่งกว่าเดิม จนคนมองนึกสังเวช แล้วจึงเอ่ยต่อตามมา

     “แต่ฉันมั่นใจว่า เขาจะไม่มีวันทำร้ายชีวิตตัวเอง ซึ่งคนที่รักเขามากที่สุดยอมสละมันให้เขาหรอกนะ”

   คนฟังเงียบไปสักพัก แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน

   “ขอบคุณนะอธิป”

   อธิปโบกไม้โบกมือเบา ๆ คล้ายไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ โดยที่กริชก็ยังคงยืนมองอยู่ในห้องนั้น จนเจ้าของห้องชั่วคราวเริ่มมองไปทางอีกฝ่าย แล้วถามกลับไป

   “มองทำไม? หรือชอบดูคนแก้ผ้า?”

   “เหอะ! มีอะไรน่าดู แก่ก็แก่ เหี่ยวก็เหี่ยว”

   กริชบอกประชด แล้วยังคงจ้องมองอีกฝ่ายจนอธิปชักหวาดระแวง

   “นี่...อย่าบอกนะว่านายเป็นพวกอย่างว่านั่น...”

   วิญญาณหนุ่มขมวดคิ้วยุ่ง แล้วจึงย้อนสวนกลับไปอย่างหงุดหงิด

   “ใครเป็น! ฉันต่างหากที่ควรจะระแวงนายว่ามีรสนิยมประเภทนั้นหรือเปล่า จะได้คอยกันตุลให้อยู่ห่าง ๆ นาย เอาไว้ยังไงล่ะ!”

   อธิปชะงัก ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว จนอีกฝ่ายชักไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก

   “ฮ่า ๆ คิดได้ไงวะกริช  อ้อ! เรื่องล้อเล่นเมื่อเช้าสินะ  งั้นสบายใจได้เลย ถึงหลานนายจะน่ารักขนาดไหน แต่ตราบใดที่มีไอ้นั่นเหมือนกัน ฉันไม่คิดจะยุ่งแน่!”

   หนุ่มใหญ่บอกอย่างขบขัน แต่กริชยังคงไม่ไว้ใจเท่าใดนัก

   “แน่ใจ? ถ้าชอบผู้หญิงจริง ทำไมยังอยู่เป็นโสดมาจนถึงป่านนี้ล่ะนั่น”

   อธิปฟังแล้วก็ต้องสั่นศีรษะอย่างระอา แล้วตอบคำถามของอีกฝ่าย

   “ก็นะ...ผู้หญิงน่ะเรื่องมากจะตาย ถ้าจีบพอให้กระชุ่มกระชวยหัวใจก็พอได้ แต่ถ้าให้ต้องมาคอยเอาอกเอาใจพวกเจ้าหล่อน เห็นทีคงไม่ไหว ฉันมันพวกอะไรก็ได้ ง่าย ๆ แบบนี้ แล้วนายคิดหรือว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาสนใจฉันน่ะ”

   กริชมองคนพูด แล้วก็ต้องยักไหล่นิด ๆ เพราะจะว่าไปนิสัยของอธิปที่เขารู้จักก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

   “ก็ดี เพราะฉันเองก็ไม่อยากให้หลานต้องกลายเป็นแบบนั้นนักหรอก...”

   “แต่ถ้าหลานนายชอบแบบนั้นเอง นายจะทำยังไง คัดค้านหรือ?”

   อธิปแกล้งแซวอีกฝ่าย ส่วนคนถูกแซวชะงัก หันมามองหน้าคนพูดด้วยแววตาดุ ๆ ก่อนจะตอบตามมา

   “ถ้าเป็นความชอบของตุลจริง ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบใจ แต่ฉันก็ไม่คิดจะบงการให้หลานเปลี่ยนความชอบตามใจฉันหรอกน่า!”

   อธิปหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกกับอีกฝ่าย

   “ฉันชักอิจฉาเจ้าหนูมันแล้วสิ พ่อแม่ฉันแท้ ๆ ยังไม่เคยเอาอกเอาใจใส่ฉัน เหมือนนายทำกับเจ้าหนูมันเลยนะ”

   “หลานใครใครก็รักไม่ใช่หรือไง”

   กริชแย้ง แต่อธิปก็โต้กลับ

   “ถ้ารักธรรมดาทั่วไปมันก็ใช่ แต่นายนี่มันเข้าขั้นพวกติดหลานแบบผิดปกติแล้วรู้ไหม”

   วิญญาณหนุ่มชะงัก แล้วจึงทำเป็นไม่สนใจคำพูดนั้น ก่อนจะแสร้งเปรยใส่อย่างรำคาญใจ

   “คนไม่เคยมีหลานกับเขาก็พูดได้นี่ เหอะ ไม่คุยกับนายดีกว่า พูดด้วยนาน ๆ แล้วเสียสุขภาพจิต!”

   จากนั้นร่างของกริชก็หายตัวออกไปจากห้อง เหลือเพียงเจ้าของห้องที่กำลังยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าเพียงลำพัง ชายหนุ่มนึกขำกับท่าทางหลบเลี่ยงเพราะถูกพูดแทงใจดำของเพื่อน  พลางสั่นศีรษะเบา ๆ อย่างระอา แล้วจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าของตนต่อ


--- TBC ---

มาสั้น ๆ ไปหน่อยสำหรับตอนนี้ ไว้ตอนหน้าจะเขียนหวาน ๆ แก้ให้นะคะ (ช่วงนี้อยู่ในช่วงซ่อมแซมความหวานให้กับเรื่อง  ^^" )
ตอนแรกที่เขียนเรื่องนี้ได้อิมเมจ เพลง ดอกราตรี  กะจะให้ออกแนวสยองขวัญโรแมนติกเศร้า ๆ .......แล้วไหงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ก็ไม่รู้ --. การเขียนโดยการวางโครงเรื่องกว้่าง ๆ นี่มันทำให้แนวเขียนเปลี่ยนจริงเลยนะคะ  (แต่ก็ลากให้จบได้ถูกใจตัวเองอยู่ดีล่ะนะ)

ป.ล. พระเอกช่วงนี้ยังไร้บทหวาน ๆ  แต่เริ่มเก็บกำไร ทำคะแนนกับน้องตุล ในตอนหน้าเป็นต้นไปบ้างแล้วจ้า

เพิ่มเติม : หลายคนยังสับสน พระเอก นั้นออกตั้งแต่ตอนแรก ๆ และ "ไม่ใช่คน" จ้าาา~  (เดาได้ยัง)



หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 17-07-2011 11:34:50
หมอผีเป็นพระเอกเหรอ -0-
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 17-07-2011 12:12:15
บทนี้พ่อพระเอกพาทิศ(ของหนู)หายจ้อยเลยนะคะ  o3
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-07-2011 12:25:06
รออ่านตอนหวานๆอยู่นะจ๊ะ มาดูกันว่าพระเอกที่ไม่ใช่คนน่ะ จะหวานได้ขนาดไหน
รุ้งพรายจ๊ะ ชั้นชอบคุณจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-07-2011 12:29:01
 :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-07-2011 12:29:43
^^
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 17-07-2011 12:30:10
แหมๆ พ่อพาทิศรึเปล่าจ้ะพระเอกน่ะ  เฉลยเร็วๆนะ

(ปล.แอบเชียร์อากริชนะ   เอ๊ะ หรือว่าอากริชหว่าที่เป็นพระเอก?)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 17-07-2011 13:11:39
ดีจังที่ตุลมีคนรักและดูแลเอาใจใส่ดีขนาดนี้ อบอุ่นดีจัง
พระเอกนี่จะใช่พาทิศมั้ยนะ ว่าแต่ช่วงหลังนี่ไม่ค่อยมีบทเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 17-07-2011 13:17:49
แหมยิ่งอ่าน ก็ยิ่งรู้สึกว่าหนูตุนเนี่ยน่ารัก ทำให้อยากปกป้องเสียจริง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 17-07-2011 13:26:50
พระเอกไม่ใช่คน เง้ออออ..จะมาได้เสียเป็นเมียผัวแบบพ่อมากแม่นากหรือเปล่าเนี่ย   :z3:

คุณอาหมอผีช่วยซ่อมแซมร่างกายพาทิศให้สมบูรณ์หน่อยน้า กลัวนายเอกของเราจะอายุสั้นเพราะตกใจเป็นลมบ่อยๆ น่ะสิ  :really2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-07-2011 13:48:07
ใช่จิงๆด้วย พระเอกมิใช่คน คุณพ่อบ้านแน่ๆ หวายๆ ตอนหน้าพระเอกเริ่มเก็บคะแนนแล้ว รออ่านตอนหวานๆดีกว่า><//
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 17-07-2011 14:30:39
นิยายผี ไม่พระเอกก็นายเอกต้องเป็นผีสิเนอะ 555+ o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 17-07-2011 14:57:58
พระเอกเรื่องนี้มีหลายตัวเลือกจริง
ลุ้นๆ
 o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 17-07-2011 16:04:44
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 17-07-2011 17:19:10
คุณอาติดหลานมากจริงๆ
เดาตอนจบไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Vvenus ที่ 17-07-2011 17:27:00
อ่าา ... เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ ขอบอกว่า มันน่ารักมาก ><
แต่เรื่องพระเอก ขอเดาว่าไงๆก็ต้องเป็นคุณอาค่ะ ++!

เป็นกำลังให้คนแต่งนะคะ >< สู้ ๆ ^__^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 17-07-2011 17:38:04
พาทิศศศศศศศศศศ เช้านี้มีอะไรกินมั่ง

อาอธิปไม่ได้คู่กับอากริชเหรอครับ แหม...เสียดายจัง เฮ้อ...เสียดายจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 17-07-2011 17:42:25
อากริชห่วงหลานมากกมากๆๆๆ เลยเนอะ
จับคุ่ให้เลยดีมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 17-07-2011 18:04:03
อ่านๆไป อากริชเคะเป็นบ้าเลยอ่ะ
ตอนที่เถึยงกับอธิปอ่ะ น่ารักมากกกก
อาเค้าหวงหลานขนาดนี้ พ่อพระเอกจะทำไงล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-07-2011 18:21:28
พาทิศแน่เลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-07-2011 18:49:30
อยากให้อธิปคู่กะกริชจัง สองคนนี้น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 17-07-2011 19:52:40
เมื่อวานไม่ได้เข้ามาอัพไปแล้ว2ตอนแหนะ
คิดว่าหมอผีอาจคู่กับผีจริงๆก็ได้นะเนีย
อยู่กับผีเป็นๆไม่กลัว กลัวหัวกระโหลกซะนี้
พาทิศเป็นพระเองแน่ๆเลยๆเข้าข่ายสุดๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 17-07-2011 20:04:59
เพิ่มเติม : หลายคนยังสับสน พระเอก นั้นออกตั้งแต่ตอนแรก ๆ และ "ไม่ใช่คน" จ้าาา~  (เดาได้ยัง)
แหม..ใบ้ซะขนาดนี้ ถ้าเดาไม่ถูกก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วเน๊อะ :t2:
แต่แอบหลอนแทนตุลล่วงหน้าเผื่อหวานกันอยู่ดีพระเอกทำตาหลุดใส่นี่คงได้ตกใจน่าดู :m20:
รอพระเอกมาทำคะแนนตอนหน้าจ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 17-07-2011 20:16:09
คิดว่าพี่ทิศน่าจะเป็นพระเอกของหนูตุลน่ะ
แต่เอาไว้อ่านไปก็คงจะรู้เองดีกว่า ทายไม่ค่อยจะถูก
อยากรู้ว่าห้องนั้นมันมีอาถรรพ์อะไรน้า
ได้อธิปมาอยู่ที่บ้านด้วยคงจะสนุกขึ้นอีกแน่ๆ
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 17-07-2011 20:38:32
โหยยย เค้ากลับบ้านนอกมาสามวัน กลับมาได้อ่านจุใจเลยอ่ะ อิอิอิ

ตกลงคนนั้นเป็นพระเอกหราาาา เอร๊ยยยยยยย (ยังติดสินใจไม่ถูกว่าจะอารมณ์ไหนดี ห้าๆๆ)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: doll@love ที่ 17-07-2011 21:45:01
+1 จร้าแล้วมาอัพต่อไวๆน้า ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-07-2011 22:29:50
ถ้าพาทิศเป็นพระเอก ก็ต้องเข้าโรงซ่อมร่างกายด้วยนะ

เดี๋ยวมีชิ้นส่วนหลุดออกมาเวลาจู๋จี๋กัน น้องตุลจะเป็นลมเอา  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-07-2011 01:27:20
อ่านสองตอนติดสะใจแท้ เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 18-07-2011 16:08:56
รีบนพูดถูก ต้องไปซ่อมร่างกายด้วยนะ หุหุหุ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 18-07-2011 17:26:16
เดาพระเอกจากตอนที่แล้ว เริ่มจะคิดว่าคงไม่ใช่อากริชแระ
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ชอบตอนน้องตุลย์อ้อนอากริชจังเลยค่ะ เอาอีกๆ
รอตอนหน้านะคะ อยากเห็นฉากเก็บคะแนนหวานๆของพระเอกเหมือนกัน :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 18-07-2011 20:26:25
สุดท้ายก็ได้หมอผีมาอยู่บ้านอีก 1 คน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 18-07-2011 21:00:43
หูยยยย..หว๊านนน หวาน  อาหลานคู่นี้ (ชักอิจฉาตุล)
อากริชน่ารักกกกก 

พระเอกไม่ใช่คน ... (ไม่ใช่คนกันค่อนเรื่อง  :z3:)

/me ลุ้นพระเอกต่อไป[/color]
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 18-07-2011 21:41:10
พระเอกคือพาทิศสิงั้น หรือจะเป็นอา แบบว่าอาไม่แท้ อิๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 18-07-2011 21:49:18
รออยู่ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 12 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (17/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Noi ที่ 19-07-2011 21:48:41
รออยู่จ้า :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 19-07-2011 23:00:23
มาต่อแล้วค่าาาาา ขอโทษนะคะ เมื่อวานงานยุ่งไปหน่อย ^ ^"

---------------

ม่านราตรี
บทที่ 13



    ...นับตั้งแต่อธิปย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คฤหาสน์ม่านราตรี ตุลาก็รู้สึกว่าบ้านเริ่มคึกคักขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะอธิปเป็นคนอารมณ์ดีและขี้เล่น แต่ก็นั่นล่ะ ถ้าไม่นับงานอดิเรกน่ากลัวของเจ้าตัว ตุลาก็คิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่น่าคบหาใช้ได้คนหนึ่ง

   “นายกริช อยู่ไหม?”

   อธิปชะโงกหน้ามาจากระเบียงห้องบนชั้นสอง ด้านล่างตุลากำลังนั่งแต่งนิยายอยู่ในซุ้มดอกราตรี ชายหนุ่มมองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นว่ากริชจะอยู่ เขาจึงลองเรียกชื่อกริชเบา ๆ แต่ก็ไร้ปฏิกิริยาใด ๆ ตอบโต้ให้เห็น

   “...เออ ไม่อยู่ก็แล้วไป แหม ...ช่วงนี้กระแสพลังอาถรรพ์บ้านนี้มันก็ชักเริ่มแปรปรวนอีกแล้ว ฉันย้ายหนีกลับไปอยู่บ้านเก่าตัวเองดีไหมน้อ ไม่อยากเสี่ยงกับที่นี่เล๊ย!”

   อธิปแกล้งเอ่ยเน้นเสียงดังช้า ๆ ชัด ๆ และนั่นก็ทำให้กริชยอมปรากฏกายขึ้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด

   “มีอะไร!”

   อธิปหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่อยากออกมาพบตนนัก เนื่องจากเมื่อวานนี้เขาก็เพิ่งทำให้ตุลาตกใจอีกรอบ เพราะดันพาเจ้าลูกน้องหัวกะโหลกของเขาออกมาเดินเล่นกลางดึกในบ้าน เลยเจอกับตุลาที่กำลังเดินออกมาหาน้ำดื่มด้านล่างเข้าพอดี แล้วเด็กนั่นก็ร้องจ๊ากลั่นก่อนเป็นลมตามระเบียบ กริชก็โวยวายใส่เขาจนหูชาแทบทั้งคืน

   “ฉันอยากหาหนังสืออ่านในห้องสมุด เลยจะให้นายช่วยค้นให้หน่อย นายมันหนอนหนังสือนี่นะ น่าจะรู้ดีกว่าฉัน”

   หมอผีหนุ่มใหญ่เอ่ยอย่างอารมณ์ดี ไม่ได้สนใจสีหน้าหงุดหงิดของอีกฝ่าย  แต่พอพูดถึงหนังสือ กริชก็เริ่มลดอารมณ์โกรธลง หากก็ยังคงพูดคุยด้วยน้ำเสียงติดห้วนเล็กน้อย

   “เฮอะ! แค่หาหนังสืออ่าน ยังไม่มีปัญญาจะหา แล้วจะอยากอ่านทำไม …แต่เอาเหอะ ถ้าอยากอ่านจริง ๆ จะช่วยหาให้ก็ได้”

   กริชบอกกึ่งประชด แต่คำพูดนั้นทำให้คนฟังอมยิ้ม เพราะรู้ดีว่าถึงชายหนุ่มจะพูดจาแรง ๆ ใส่ แต่ก็เต็มใจช่วยเหลืออยู่ดี

   “ถ้าอย่างนั้นอาจะไปอยู่ที่ห้องสมุดกับหมอนั่นสักครู่นะ ตุลต้องการความช่วยเหลืออะไรก็เรียกอาแล้วกัน”

   กริชหันไปบอกหลานชาย แล้วหายตัวขึ้นไปอยู่ข้าง ๆ อธิปบนชั้นสอง หมอผีหนุ่มใหญ่ยิ้มกว้าง แล้วจึงรีบบอก

   “ฉันเห็นหนังสือในห้องสมุดของเจ้าของบ้านคนเก่าแล้ว เยอะมาก ยังกับห้องสมุดในมหาวิทยาลัยแน่ะ พอเห็นแล้ว ต่อมรักหนังสือฉันมันเดือดพล่านเลย แต่พอจะลงมือหยิบอ่าน ฉันก็ไม่รู้จะอ่านอะไรดี”

   อธิปบอกขำ ๆ ทำให้คนที่คบหาสนิทสนมกันสมัยยังมีชีวิต ทำเสียงในลำคออย่างหมั่นไส้ เพราะรู้นิสัยการอ่านของอีกฝ่ายดี ลองได้อ่านอะไรที่มีตัวหนังสือยาวเป็นพรืดเข้าสักหน่อย ไม่นานก็บ่นเบื่อ หรือไม่ก็หลับคาหนังสือไปเลยด้วยซ้ำ

   “สารานุกรมภาพของคุณจอมเดชก็มีหลายเล่ม อยากอ่านเกี่ยวกับแนวไหนล่ะ เดี๋ยวฉันช่วยดูให้ก็ได้”

   กริชบอกเซ็ง ๆ อย่างรู้ทัน ทำให้คนฟังยิ้มตอบ แล้วรีบบอกในสิ่งที่ตนอยากอ่านทันที จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปคุยไปตรงไปยังห้องสมุด โดยที่อธิปมักจะเป็นฝ่ายพูดเสียส่วนใหญ่ ส่วนกริชก็รับคำเงียบ ๆ บ้างก็ค้อนเข้าให้ด้วยความรำคาญก็มี

   

   “อานาย กับลุงนั่นสนิทกันดีจังเนอะตุล”

    รุ้งพรายที่นอนเล่นอยู่ในซุ้มดอกราตรีด้วยกันกับตุลามองตามแล้วบ่นเบา ๆ เพราะเห็นทั้งคู่มักทะเลาะกันบ่อย ๆ แต่แป๊บ ๆ ก็คุยปรึกษาโน่นนี่กันแทนเสียแล้ว

   “นั่นสินะครับ แต่อาเขาเป็นคนเพื่อนเยอะมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ...ผมนี่สิ มามีเพื่อนสนิทก็ตอนขึ้นมหาวิทยาลัยนั่นล่ะครับ ก่อนหน้านั้นร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงก็เลยร่วมกิจกรรมหนัก ๆ กับเพื่อน ๆ ไม่ค่อยได้มากนัก”

   ตุลาบอกแล้วหวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมา หลังจากกริชตาย ร่างกายของเขาก็แข็งแรงขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาอะไรหนัก ๆ ได้อย่างเด็กคนอื่นเลยทันที   เขาค่อย ๆ พัฒนาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนพอจะร่วมกิจกรรมกีฬาเบา ๆ กับเพื่อนได้บ้าง แต่ก็นั่นล่ะ ถึงเขาจะแข็งแรงขึ้นสักแค่ไหน ครอบครัวของเขาก็ยังห่วงใยและยังเข้มงวดใส่เขา ในทุกเรื่องที่เสี่ยงต่อสุขภาพของเขาอยู่ดี

   “เอาน่า... สำหรับมนุษย์ นายก็ยังถือว่าเพิ่งพ้นวัยเด็กมาได้ไม่เท่าไหร่ ค่อยเป็นค่อยไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องหักโหมหรอก แล้วถ้าพูดถึงเพื่อน ตอนนี้ นายก็มีพวกฉันอยู่นี่นะ”

   รุ้งพรายปลอบเมื่อเห็นสีหน้าเศร้า ๆ ของชายหนุ่ม ตุลาหันมายิ้มให้ แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อมือเย็น ๆ ของใครบางคนลูบศีรษะของเขาเบา ๆ 

   “ถึงพวกเราจะอยู่ด้วยกับเธอไม่ได้ตลอดเวลา แต่ถ้าเธอเรียกหาพวกเราเมื่อไหร่ พวกเราก็จะมาอยู่เคียงข้างเธอเอง”

   ราตรีบอกแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ทำให้ตุลายิ้มตอบ แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงค่อย ๆ แต่ดังลอยตามลมมาให้เขาได้ยินชัดเจนอย่างน่าอัศจรรย์

   “ฉันก็เหมือนกันค่ะ ...ถึงตอนกลางวันจะขึ้นไปหาคุณตุลไม่ได้ก็ตาม ...ฮึก...”

   “เฮ้ย! จะร้องไห้ทำไมเล่าปิ่น เดี๋ยวตุลก็ตกใจพอดี นึกว่าเขาทำให้เธอร้องไห้หรอก!”

   รุ้งพรายรีบห้ามเมื่อเพื่อนสาวเริ่มงอแงอีกรอบ

   “กะ...ก็ พอคิดถึงว่า ตัวเองช่วยอะไรคุณตุลไม่ได้เลยในตอนกลางวัน ...มันก็ร้องไห้ขึ้นมาเองนี่นะ..”

   ปิ่นสุดาสะอื้น ทำให้คนฟังต้องสั่นศีรษะเบา ๆ แต่ก็ยังอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้

   “ไม่เป็นไรนะครับ แค่รู้ว่าคุณห่วงผม ก็ทำให้ผมดีใจมากแล้ว”

   ตุลาบอกกับเงือกสาว ทำเอาเจ้าหล่อนที่กำลังสะอื้นชะงัก หน้าแดงก่ำ แล้วว่ายลงไปหลบอยู่ก้นบ่อด้วยความเขิน ทำเอารุ้งพรายต้องเหลือบมามองชายหนุ่มตาปริบ ๆ

   “จะเรียกว่าเจ้าชู้ หรือเป็นเสน่ห์ตามธรรมชาติดีเนี่ย”

   แมวสาวบอกกับราตรีที่อยู่แถวนั้น วิญญาณสาวเองก็นึกขำกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่แพ้กัน

   “...ฉันว่าเขาคงได้อยู่เป็นโสดไปตลอดชาติแน่ หรือไม่ก็ถ้ามีแฟน คน ๆ นั้น ก็ต้องเป็นคนที่ใจกว้างมาก ๆ ไม่อย่างนั้นคงทนไม่ได้ เพราะเล่นโปรยเสน่ห์ใส่ชาวบ้านไปเสียทั่วแบบนี้”

   ราตรีบอกพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า รุ้งพรายในร่างแมวพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วย แต่คนที่นั่งอยู่แถวนั้นกำลังทำหน้าแปลก ๆ มองทั้งคู่สลับไปมา

   “เอ่อ...ลืมไปหรือเปล่าครับ ว่าผมเองก็นั่งอยู่ด้วย”

   ชายหนุ่มเปรยเสียงอ่อย เมื่อถูกนินทาสด ๆ ร้อน ๆ ต่อหน้าต่อตา  แต่สองสาวกลับหัวเราะกันคิกคัก ทำให้ตุลาหมดอารมณ์แต่งนิยาย เลยขอตัวกลับขึ้นห้องพักตนอย่างงอน ๆ  โดยมีเสียงหัวเราะใส ๆ ไล่ตามหลังไปอย่างเอ็นดู



   พอกลับขึ้นมาที่ห้อง ตุลาก็ยังไม่ได้แต่งนิยายต่อในทันที เขาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม กอดหมอนพลิกไปมา พลางบ่นพึมพำกับตัวเอง

   “ฮึ! ผิดด้วยหรือไงที่ไม่มีแฟนกับเขา...”

    คำพูดบ่นเบา ๆ แต่กลับทำให้คนที่กำลังจะเคาะประตูห้องชะงักมือกึก พลางอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเคาะประตูเบา ๆ

   “อะ...เชิญครับ”

   ตุลารีบบอกอนุญาตคนที่อยู่ด้านนอก เขาไม่ได้ล็อกประตูห้องนอน นับตั้งแต่อธิปมาอยู่ด้วย เพราะนั่นเป็นคำสั่งจากกริช เผื่อเกิดฉุกละหุก อธิปจะได้เปิดเข้ามาได้ทันท่วงที โดยไม่ต้องเสียเวลาหากุญแจไข หรือพังประตูห้อง

    “ฉันเอาของว่างมาให้”

   พาทิศบอกพร้อมกับวางนมสดและคุ้กกี้ไว้ที่โต๊ะทำงานของอีกฝ่าย ตุลายิ้มขอบคุณเขิน ๆ เพราะไม่แน่ใจว่าเรื่องที่บ่นเมื่อครู่ พาทิศจะได้ยินบ้างหรือเปล่า

   “...ตุลอยากมีแฟนหรือ”

   คำถามของซอมบี้หนุ่มที่ตามมา ยิ่งทำให้คนฟังหน้าแดงวาบ ตอกย้ำความสงสัยเมื่อครู่ของตนได้เป็นอย่างดี จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสวนให้ฟังด้วยน้ำเสียงอึกอัก พอฟังเสร็จพาทิศก็อมยิ้มอย่างเอ็นดู แล้วเปรยขึ้นเสริมความคิดของเพื่อนสาว

   “ก็นะ พวกราตรีก็พูดถูกอยู่หรอก...”

   ตุลาชะงัก หน้ามุ่ยใส่ที่ซอมบี้หนุ่มเข้าข้างสาว ๆ แทนที่จะเข้าใจเขา พาทิศเห็นดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวต่อ

    “ตุลเป็นคนมีเสน่ห์แล้วก็ใจดีกับทุกคน  นั่นเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับมนุษย์คนหนึ่ง แต่สำหรับคนที่รักและหวงเธอมาก ๆ จนอยากให้เธอเป็นของเขาคนเดียว ก็คงไม่พอใจ ถ้าเธอทำดีกับเขาไปทั่ว ...เพราะอย่างนี้ ราตรีถึงได้บอกว่าเธออาจจะได้อยู่เป็นโสดยังไงล่ะ”

   คนฟังชะงัก แล้วค่อย ๆ พยักหน้าอย่างรับรู้ แต่สักพักตุลาก็เอ่ยพึมพำตามมา

   “แต่สำหรับผมคิดต่างกันไปนะครับ ...ผมมั่นใจว่า ถ้าเป็นคนที่ผมรักและเลือกแล้ว เขาน่าจะเข้าใจในตัวผมดี และคงไม่หึงหวงเพียงแค่ผมใจดีกับคนอื่น ...”

   พาทิศได้ฟังคำตอบนั้น เขาก็แย้มยิ้มน้อย ๆ ส่งให้ ก่อนจะชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนพูดเบา ๆ อย่างลืมตัว ทำเอาตุลานั่งตัวแข็งทื่อ ทำปากพะงาบ ๆ มองอีกฝ่าย จนซอมบี้หนุ่มนึกขำ จากที่ไม่ได้ตั้งใจในตอนแรก คราวนี้จึงชะโงกหน้าไปหอมแก้มอีกข้างของตุลาอย่างจงใจแทน

   “คะ...คุณพาทิศ...ทะ...ทำ...อะไร...ครับ”

   ตุลาถามตะกุกตะกัก หน้าแดงก่ำไปหมด จนคนมองนึกมันเขี้ยว อยากจับร่างนั้นหอมซ้ำ ๆ แต่ก็เกรงว่าถ้าทำลงไปแบบนั้น อีกฝ่ายอาจจะโวยวาย แล้วทั้งกริชและพวกรุ้งพราย ก็จะมารุมบ่นต่อว่าเขาให้หูชายกใหญ่แน่

   “หอมแก้มด้วยความเอ็นดูน่ะ...ถ้าอย่างนั้นฉันไปล่ะนะ ตุลก็ตั้งใจเขียนนิยายเข้าล่ะ”

   ซอมบี้หนุ่มบอกหน้าตาเฉย ไม่ได้มีความเขินอายอย่างอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว มิหนำซ้ำรอยยิ้มที่เห็นก็ดูเจ้าเล่ห์อยู่มาก

   “คะ...ครับ”

   ตุลาตอบเสียงสั่น เรื่องกลุ้มใจที่ถูกสองสาวแซวก่อนหน้า แทบจะหายวับไปจากสมอง เหลือแต่เพียงใบหน้าคมเข้มของซอมบี้หนุ่มตอนที่ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้เขา ลอยอยู่เต็มหัวไปหมด

   “กะ...ก็แค่หอมแก้มเท่านั้นเองล่ะนะ”

   ตุลาพึมพำปลอบตัวเอง จริงอยู่เขาก็เคยถูกอาและพ่อหอมแก้มมาก่อน แต่นั่นก็เป็นตอนที่เขายังเด็กมาก แต่พอโตมาก็ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขา

   “แต่งนิยายดีกว่า...”

   ชายหนุ่มพยายามไล่ความคิดฟุ้งซ่านในสมองออกไป แล้วเปิดโน้ตบุคขึ้นมาพิมพ์ แต่พอพิมพ์ไปพิมพ์มา เจ้าตัวก็ต้องหน้าแดงวาบ เมื่อดันเผลอพิมพ์คำว่าจูบลงไปในกระดาษหน้าว่างนั้น ตุลารีบลบทิ้ง พลางหันซ้ายหันขวา ว่ามีใครเห็นไหม และเมื่อไม่มีใครอยู่ในห้อง เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก  แล้วก็นั่งเหม่อต่ออีกรอบ

   “อากลับมาแล้ว เป็นไงตุล แต่งนิยายไปถึงไหนละ....”

    กริชที่เพิ่งกลับมาจากห้องสมุด ขมวดคิ้วยุ่งเมื่อเห็นหลานตัวเองนั่งเหม่อหน้าโน้ตบุค แถมจู่ ๆ ก็ยกมือขึ้นลูบแก้ม แล้วก็หน้าแดงระเรื่อตามมา

   “ตุล! ไม่สบายหรือ!”

   กริชที่เข้าใจไปอีกอย่างหายตัววับเข้ามาหาหลานชายอย่างเป็นห่วง ทำเอาคนนั่งเหม่อสะดุ้งเฮือก แทบจะตกเก้าอี้ด้วยความตกใจ แต่พอเห็นว่าเป็นอาเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

   “อาเองหรือครับ กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับเนี่ย”

   ตุลาถามพลางยิ้มเขิน ๆ เพราะเขามัวแต่เหม่อเรื่องของพาทิศจึงทำให้ไม่ทันได้สังเกตรอบด้านอีกครั้ง

   “...ตุล ไม่สบายหรือเปล่า หลานแปลก ๆ ไปนะ...อธิป! อยู่แถวนั้นไหม เข้ามานี่หน่อยเร็ว!”

   เสียงโวยวายเอะอะของกริช ทำเอาคนอื่น ๆ ในบ้านพากันตกใจ แล้วต่างกรูกันมาในห้องนั้น แม้แต่ปิ่นสุดาที่มาไม่ได้ยังเร่งฝากรุ้งพรายให้มาดูด้วยความเป็นห่วง

   “เกิดอะไรนายกริช เจ้าหนูตุลเป็นอะไรไปรึ!”

   อธิปถามอย่างตกใจ แล้วขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเห็นสีหน้าซีด ๆ แหย ๆ ของตุลาที่มองมา

   “ผมไม่ได้เป็น...”

   ตุลากำลังจะบอก แต่ก็ถูกผู้เป็นอาพูดขัดเสียก่อน

    “ตุลน่าจะไข้ขึ้น เดี๋ยวเหม่อ ๆ เดี๋ยวหน้าแดงแปลก ๆ นายพาตุลไปหาหมอหน่อยสิ ...เอ หรือจะโทรเรียกให้หมอมาตรวจดี ...เบอร์หมอประจำตัวที่เคยตรวจตุลในตอนเด็กเบอร์อะไรนะ...”

   กริชมีท่าทางร้อนรนจนตุลารู้สึกผิด เขาเตรียมจะแก้ตัวต่ออีกฝ่าย แต่พอหันไปเห็นพาทิศที่ลอบส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เขา ตุลาก็หน้าแดงวาบขึ้นมาอีกครั้ง

   “อ๊ะ! หน้าแดงอีกแล้ว ตุลไข้ขึ้นแน่เลย!”

   รุ้งพรายที่เฝ้ามองอยู่โพล่งขึ้นมา ทำเอากริชยิ่งเครียดหนัก จนแทบอยากจะลากคออธิปให้ไปตามหมอมาเสียเดี๋ยวนั้น

    “เอ...รู้สึกผมจะมีปรอทวัดไข้ติดไว้นะครับ ไปซื้อมาเก็บไว้ ตั้งแต่ช่วงที่ตุลเข้ามาอยู่บ้านได้ใหม่ ๆ น่ะครับ”

   พาทิศที่เงียบอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้หลายสายตามองมายังเขา โดยเฉพาะตุลา ชายหนุ่มทำหน้ามุ่ยใส่อย่างนึกงอน เพราะมั่นใจว่าซอมบี้หนุ่มจะต้องรู้แน่ ว่าที่เขาเป็นเช่นนี้ก็เพราะฝีมือเจ้าตัวนั่นล่ะ

   และแล้วในวันนั้น ตุลาก็พ้นจากการถูกพาไปหาหมอ แต่ก็ยังไม่วายโดนกักตัวให้อยู่บนเตียงตลอดทั้งวันอยู่ดี โดยกริชนั้นคอยเฝ้าดูแลอยู่ไม่ห่าง พวกสาว ๆ ก็พากันเข้ามาเฝ้าในตอนกลางคืน ส่วนซอมบี้หนุ่มนั้นยืนเฝ้าอยู่ห่าง ๆ แต่พอคนอื่น ๆ เผลอ เขาก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วแกล้งทำเป็นแตะแก้มตัวเอง จนคนบนเตียงที่หันมาสบตาเข้าหน้าแดงวาบ แล้วรีบห่มผ้าคลุมโปงหนี จนคนอื่น ๆ พากันแปลกใจไปตาม ๆ กัน

   

--- TBC ---



หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 19-07-2011 23:15:07
น่ารักอ่ะ หอมแก้มด้วยย อ๊าคคคคคคค ชอบบบบบบ  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: @StaR@ ที่ 19-07-2011 23:26:19
แหมๆๆๆ พี่ทิศได้ทีเอาใหญ่เลยน่ะ
ตอนนี้น่ารักดีจริงๆ คิดว่าพี่ทิศน่าจะเป็นตัวจริงน่ะเนี้ย
 :กอด1: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 19-07-2011 23:36:54
อาเขาหวงขนาดนั้นยังไปแอบหอมแก้มหลานเขาอีก คุณพี่พาทิศนี่ยังไงนะ   :-[

 :pig4:  คนเขียนมากๆ ค่า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 19-07-2011 23:47:13
ก็คนมันเสน่ห์แรงโดยธรมมชาติอ่ะ 55+
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-07-2011 23:50:19
อร้ายยยย น่ารักโครตๆ ตุลอาย :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-07-2011 00:21:14
5555555 รู้สึกว่าตอนนี้พาทิศเจ้าเล่ห์ไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 20-07-2011 01:36:32
 :laugh: หวานจริงๆด้วย แต่เอ้า... ไหนๆก็ไหนๆแล้ว พาทิศจัดมา!!! :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 20-07-2011 02:31:17
พาทิศเริ่มรุกแล้วเหรอเนี่ย แหม ตอนแรกเห็นนิ่งๆ แอบร้ายนะเนี่ย ฮ่า ฮ่า :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 20-07-2011 09:23:25
หวายๆ ซอมบี้แอบหื่น จะฟ้องอากริช
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 20-07-2011 10:08:22
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 20-07-2011 10:52:14
น่ารัก  :man1: น่ารัก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: chae ที่ 20-07-2011 11:20:09
หมด อ้ากกกกกกกกกกกกกก ไม่ไหว นายพาทิศ หรือยังไง
ใครจะเป็นพระเอก โอยลุ้นกันตัวโก่งหมดล่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 20-07-2011 11:20:48
พาทิศเจ้าเล่ห์อ่ะ เห็นนิ่งๆนี่กะให้ตุลตายใจใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 13 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-07-2011 12:26:31
มีซอมบี้หนุ่มหล่อคมเข้มแบบนี้มาคอยดูแลใส่ใจ
แถมคอยหยอดทั้งด้วยวัจนภาษาและอวัจนภาษาแบบนี้
เป็นใครก็ต้องหัวใจแกว่งล่ะเนอะตุลเนอะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 20-07-2011 16:06:08
ม่านราตรี
บทที่ 14



   เสียงร้องโหยหวนด้วยความตกใจ พร้อมกับเสียงโวยวายตามมา ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ นับตั้งแต่ชายผู้ชื่ออธิปย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้

   “ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพยายามหาเรื่องแหย่ให้ตุลกลัว! ถ้าหลานฉันหัวใจวายตายขึ้นมา นายจะรับผิดชอบยังไง หา!”

   กริชตวาดใส่คนที่ยืนเกาศีรษะแกรก ๆ ด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ ตรงหน้าตน

   “ใครแหย่กัน...เด็กนี่ทำตัวเองต่างหาก แค่เปิดห้องมาเจอลูกน้องของฉันเท่านั้นเอง ก็ดันร้องแหกปากโวยวายซะลั่นบ้านแบบนี้”

   กริชกัดฟันกรอดกับคำแก้ตัวนั่นของเพื่อนสนิท แล้วจึงสวนกลับไปอย่างเหลืออด

   “ก็เพราะลูกน้องของนายนั่นล่ะ! เลิกซักทีได้ไหม ที่ปล่อยให้ลูกน้องปรากฏร่างแค่หัวกะโหลกลอยเพ่นพ่านในห้องแบบนั้นน่ะ!”

   “หา! ความผิดฉันหรือไง อีกอย่างให้ลอยแค่ในห้องก็ดีหนักหนาแล้ว ไอ้หนูนี่ต่างหากที่ขวัญอ่อนเกินไป เปิดมาเจอแบบนี้ตั้งสองสามรอบ น่าจะชินสักทีได้แล้วนะ!”

   อธิปโต้กลับอย่างหงุดหงิด แต่วิญญาณหนุ่มก็ยังคงเข้าข้างหลานชายตนเองอยู่ดี ทำให้ตุลาที่ยืนหน้าซีด ๆ รีบเอ่ยเสียงอ่อยห้ามทั้งคู่ ก่อนจะมีการปะทะคารมมากไปกว่านี้

   “เอ่อ...อากริชกับคุณอธิปอย่าทะเลาะกันเลยครับ ผมผิดเองนั่นล่ะที่ขวัญอ่อนจนเกินไป”

   อธิปตวัดสายตามาทางตุลา แล้วหันกลับไปยักไหล่ส่งยิ้มเยาะให้กับเพื่อนสนิทของตน ทำให้กริชเม้มปากด้วยความไม่สบอารมณ์นัก

   “ถึงอย่างนั้นก็เหอะ หมอนี่ก็ปล่อยตัวทำตามเคยชินเกินไป...ดีล่ะ ต่อไปนี้ถึงเวลาอาหารตุลไม่ต้องขึ้นมาตามหรอก ปล่อยให้อดตายในห้องนี่ล่ะดีแล้ว!”

   “เอ่อ จะดีหรือครับ”

   ตุลาแย้งผู้เป็นอา เพราะหากบางวันเขาไม่ได้มาเรียก อธิปก็สามารถขลุกอยู่ในห้องส่วนตัวได้เป็นวัน ๆ เสียอย่างนั้น จนตุลานึกห่วง แต่เจ้าตัวเองกลับบอกว่าแค่อดข้าววันสองวันไม่ถึงกับตาย ลงท้ายเขาก็เลยต้องรับอาสามาเรียกอีกฝ่ายให้ไปกินข้าวพร้อมกันทุกมื้อแทน และบางครั้งก็ได้เจอของแถมอย่างที่ผ่านมา แต่หลัง ๆ นี่เขาก็พัฒนาขึ้น แค่ตกใจเฉย ๆ โดยไม่เป็นลมอย่างสองสามครั้งแรกที่เจอนั่นแล้วล่ะนะ

    “แบบนั้นน่ะดีแล้วล่ะ!”

   กริชบอกย้ำ แล้วเหลือบมองอธิปก่อนจะตวัดสายตาค้อนให้อย่างไม่สบอารมณ์แล้วหายตัววับไปตามเดิม

   “อาเธอนี่มันพวกติดหลานเกินเหตุจริง ๆ เลยนะ”

   อธิปเปรยอย่างนึกเซ็ง ส่วนตุลาหัวเราะแห้ง ๆ กับคำพูดนั้นของอีกฝาย ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่ออธิปหันมาทางตน แล้วจ้องมองพลางตำหนิเบา ๆ

   “แต่เธอนี่มันก็ขี้กลัวเกินไป ฉันเข้าใจว่าของพวกนี้มันออกจะน่ากลัว แต่เห็นบ่อย ๆ ก็น่าจะชินได้แล้ว ทีอยู่ร่วมกับภูตผีปีศาจเป็นโขยงดันอยู่ได้ ทีแค่หัวกะโหลกลอยไปลอยมาดันกลัวซะงั้น!”

   “ง่า...ก็คนอื่น ๆ เค้ามีรูปร่างแบบคนนี่ครับ เลยพอจะบรรเทาความกลัวไปบ้าง แล้วพวกนั้นก็...เอ่อ ไม่ค่อยแกล้งผมเท่าไหร่ด้วย”

   อธิปเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วมองชายหนุ่มอายุน้อยกว่าที่หลบตาเขาในประโยคท้าย ๆ

   “อ้อ...งั้นหรอกรึ”

   หนุ่มใหญ่บอกเสียงยานคราง แล้วจึงยิ้มแย้มให้ พร้อมกับเปลี่ยนเรื่องคุย

   “จริงสิ มาตามไปกินข้าวกลางวันใช่ไหม ไปกันเถอะ ป่านนี้พ่อผีดิบนั่นรอเธอแย่แล้ว”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ นึกสังหรณ์ใจในรอยยิ้มของอีกฝ่ายขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ก็ยังคงเดินลงไปยังห้องครัวด้านล่างเงียบ ๆ เพื่อกินอาหารกลางวันกับอีกฝ่ายต่อไป

   

   ระหว่างกินอาหารจู่ ๆ อธิปก็โพล่งขึ้นถึงเรื่องบางอย่างทำให้สมาชิกอีกสองรายคือ รุ้งพราย กับพาทิศชะงัก แล้วรับฟังที่หนุ่มใหญ่บอกอย่างสนใจ

   “พวกเธอคิดไหมว่า เด็กนี่ขี้กลัวเกินไป ถ้าเราจะช่วยกันฝึกความกล้าให้เขา มันจะเป็นการดี สำหรับการอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้มากกว่า”

   “อืม...จริงสินะ ไม่งั้นตุลอาจจะหัวใจวายตายเสียก่อนก็ได้ ขนาดแค่ฉันกระโดดลงมาจากชั้นสองหาเขาข้างล่าง ก็ตกใจช็อกซะใหญ่โตขนาดนั้น”

   รุ้งพรายในร่างแมวดำเปรยขึ้นบ้าง แต่ทำเอาชายหนุ่มร่วมโต๊ะอาหารต้องเหลือบไปมองเจ้าหล่อนตาปริบ ๆ เพราะพฤติกรรมที่ว่า ต่อให้ไม่ใช่เขา เป็นใครก็ต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้น

   “นั่นสินะครับ ก่อนหน้านั้น แค่ผมหอมแก้มเขา ก็ทำท่าตกใจซะขนาดนั้น...”

   พาทิศเปรยขึ้นบ้าง แต่คนฟังรีบแย้งกลับด้วยใบหน้าแดงก่ำ

   “ก็มันน่าตกใจไหมล่ะครับ! แล้วนั่นมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องกลัวผีของผมด้วย!”

   “อะไรนะ! ไปหอมแก้มกันตอนไหนยะ ทำไมฉันไม่เห็นรู้ ...อ๊ะ! หรือว่าตุลจะชอบ ‘แบบนี้’ จริง ๆ”

   แมวดำสาวที่ฟังบทสนทนาอยู่ถึงกับหูกระดิก แล้วขู่ฟ่อใส่พาทิศ พลางหันมาทางตุลา ซึ่งชายหนุ่มก็สะดุ้งแล้วบอกกลับไป

   “แบบนี้น่ะแบบไหนครับ ถ้าแบบที่คุณคิดไว้น่ะไม่ใช่แน่นอน!”

   ตุลารีบแย้งด้วยใบหน้าแดงก่ำ ทำเอาอธิปที่เสนอเรื่องฝึกความกล้าต้องกระแอมเบา ๆ ก่อนเรื่องมันจะออกทะเลไปมากกว่านั้น

   “เอ้า ๆ กลับมาเรื่องเดิมก่อน พวกเธอคิดว่าไงถ้าฉันจะฝึกความกล้าให้ตุลเขา”

   พาทิศกับรุ้งพรายสบตากัน ส่วนตุลานั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วสะดุ้งเฮือก ตกใจแทบตกเก้าอี้ เมื่อจู่ ๆ ราตรีปรากฏกายกะทันหัน มานั่งข้าง ๆ เขา

   “ก็ดีเหมือนกันนะ ตุลจะได้เคยชินสักที....เฮ้อ”

   ท้ายประโยคเจ้าหล่อนทำท่าถอนหายใจ เมื่อเห็นสีหน้าและปฏิกิริยาของชายหนุ่มข้าง ๆ ตน

   “เมื่อไหร่เธอถึงจะเคยชินกับพวกเราสักทีนะ”

   “ทำยังไงก็ชินยากครับ ...แล้วช่วยมาแบบธรรมดาหน่อยไม่ได้หรือครับ”

   ตุลาบอกอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่ไหล่ของตนแผ่วเบา

   “หลานต้องใจแข็งเข้าไว้ เอาเถอะ ถ้าพวกเขากวนหลานบ่อย ๆ อาจะช่วยปรามให้เอง”

   กริชบอกแล้วจึงยกยิ้มเย็นชาให้สมาชิกคนอื่น แต่รุ้งพรายนั้นบ่นอุบกับตัวเองว่ากริชก็ไม่แพ้พวกหล่อนในเรื่องที่ชอบทำให้ตุลาตกใจนักหรอก

   “ว่าแต่นายคิดแกล้งอะไรหลานฉันหรือเปล่าอธิป ถึงได้คิดจะฝึกเรื่องความกล้าอะไรไร้สาระให้ตุลเขาน่ะ”

   วิญญาณหนุ่มหันไปทางเพื่อนสนิทแล้วลงมือซักอีกฝ่ายด้วยความสงสัย ทางด้านอธิปนั้นยักไหล่เล็กน้อย แล้วยิ้มนิด ๆ ให้กับกริช

   “ฉันก็แค่ห่วงเขาจะหัวใจวายตายก่อนอายุขัยเท่านั้นเอง ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับวิญญาณและหมอผี ถ้าไม่มีภูมิต้านทานเลย จะลำบากเอานา”

   กริชเม้มปาก พอมองออกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ห่วงหลานเขาจริงดังเช่นคำพูดทั้งหมด แต่ความเห็นของอธิปนั้นก็เข้าท่าอยู่เหมือนกัน เพราะดูเหมือนหลานชายของเขาจะขี้กลัวและตกใจง่ายไปสักนิด

   “อืม ...ถ้านายไม่ว่าอะไร งั้นคืนนี้ เราก็มาช่วยทดสอบความกล้าให้เจ้าหนูตุลแล้วกัน ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปแต่งนิยายอะไรนั่นของเธอได้แล้วเจ้าหนู ที่เหลือฉันกับสมาชิกคนอื่นจะปรึกษากันเอง”

   อธิปสรุปแล้วไล่ตุลากลับขึ้นห้องพักของชายหนุ่มไปทันที

   “เอ่อ...ร่วมฟังด้วยคนไม่ได้หรือครับ จะได้เตรียมทำใจไว้ก่อนได้”

   ตุลาแย้ง แต่อีกฝ่ายก็สั่นศีรษะปฏิเสธ ส่วนรุ้งพรายก็รู้สึกดีอกดีใจหางสั่นไปมา แถมยังชวนหมอผีหนุ่มไปปรึกษาเรื่องนี้ที่สวนแทน เพื่อที่ปิ่นสุดาจะได้มีส่วนร่วมด้วยอีกราย

   “ตุลกลับไปที่ห้องพักเถอะ ถ้าพวกนี้คิดเล่นอะไรแผลงเกิน อาจะคอยห้ามเอง ไม่ต้องห่วง”

   กริชปลอบหลานชายซึ่งก็ทำให้ตุลาที่กำลังกังวลยิ้มออก แล้วขอตัวไปแต่งนิยายต่อ ทางด้านอธิปมองเพื่อนสนิทอย่างนึกหมั่นไส้ที่ห่วงหลานเกินเหตุ ส่วนพาทิศนั้นอมยิ้มน้อย ๆ แล้วก็สะดุ้งนิด ๆ ตามมา เมื่อกริชหันขวับมามองเขาเขม็ง

   “แต่ก่อนอื่น ขอย้อนเรื่องก่อนหน้านั้นนิด ...เรื่องหอมแก้มนั่นหมายความว่าไง หือ?”

   ซอมบี้หนุ่มชะงัก แล้วแสร้งยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะตอบออกไป

   “แค่เอ็นดูเองครับ ในสายตาผมไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เด็กคนนั้นก็ยังน่ารัก เหมือนตอน 12 ไม่มีผิด”

   กริชหรี่ตามองอย่างสงสัย ก่อนจะทำทีเป็นถอนหายใจตามมา แล้วมองอีกฝ่ายด้วยนัยน์ตาดุ ๆ แทน

   “ให้แค่เอ็นดูจริง ๆ อย่างที่พูดแล้วกัน”

   “นั่นสิ ถูกอย่างเขาพูดนั่นล่ะ ให้แค่เอ็นดูจริง ๆ แล้วกัน ...รสนิยมนายยิ่งพิลึก ๆ กว่าชาวบ้านอยู่ด้วย!”

   รุ้งพรายเสริมคำพูดนั้น แล้วจึงค้อนขวับเข้าให้ ก่อนจะเดินนำหน้ามุ่งตรงไปสวนหลังบ้านถัดไป โดยที่พวกพาทิศ อธิป กริช และราตรี ก็ตามเจ้าหล่อนมาไม่ห่าง เพื่อเข้าสู่การประชุมจัดเตรียมการทดสอบความกล้าให้กับตุลาในคืนนี้

   

   อธิปเหลือบมองกริชที่ยืนกอดอกเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ระหว่างที่เขาและภูตผีตนอื่นในคฤหาสน์ม่านราตรีกำลังปรึกษาหารือ เรื่องทดสอบความกล้าของตุลาในคืนนี้

   “ถ้าอย่างนั้นพวกฉันและเธอจะทำบ้านผีสิงเป็นด่าน ๆ ให้เด็กนั่นทดสอบความกล้า ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ ฉันคิดว่าความขี้กลัวของเขาน่าจะลดลงได้มากล่ะนะ”

   หนุ่มใหญ่สรุป แต่รุ้งพรายยกอุ้งเท้าหน้าขึ้นถามเสียก่อน

   “มีลิมิตความน่ากลัวด้วยหรือเปล่าลุง?”

   คนอื่นหันไปมองปีศาจแมวสาว แล้วหันไปทางอธิปเพื่อรอคำตอบ

   “ตามสบาย …แต่อย่ารุนแรงจนทำให้ ผู้ชายที่ยืนอยู่หลังพวกเธอ เขาอาละวาดเข้าให้ล่ะ”

   หมอผีหนุ่มบอก ทำเอาคนที่เหลือหันไปมองกริชเป็นตาเดียว ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็ทำเสียงฮึในลำคออย่างหมั่นไส้ แล้วเบือนหน้าไปมองทางอื่น

   “งั้นฉันขอประจำด่านแรก จะหลอกให้ตกใจร้องจ๊ากไปเลย ฮ่า ๆ”

   รุ้งพรายเสนอตัว โดยเหมือนจะลืมจุดประสงค์หลักในครั้งนี้ไปแล้วว่า จัดขึ้นเพื่ออะไรกันแน่

   “ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปคิดวิธีหลอกตุลบ้างดีกว่า”

   ราตรีพึมพำด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง ก่อนจะหายตัวไป ทางด้านพาทิศนั้นอมยิ้มนิด ๆ ติดเจ้าเล่ห์ เมื่อหวนคิดถึงสิ่งที่จะทำกับตุลาในคืนนี้ ส่วนปิ่นสุดานิ่งคิดหนักสลับกับหน้าแดงไปมา จนอธิปชักสงสัยว่าแม่เงือกสาวนั้นกำลังคิดอะไรกันแน่

   “โอเค งั้นแยกย้ายกันแค่นี้ ฉันก็จะไปเตรียมการของฉันบ้าง หวังว่าเจ้าหนูนั่นจะคงมีสติ  หลุดรอดมาถึงด่านสุดท้ายของฉันแล้วกัน หึ ๆ”

   อธิปหัวเราะทิ้งท้าย แล้วเหลือบมองไปยังกริชก่อนจะยกยิ้มน้อย ๆ ในแบบที่ทำให้วิญญาณหนุ่มต้องขมวดคิ้วยุ่ง พลางคิดว่าอีกฝ่ายต้องหาทางเล่นงานกลั่นแกล้งหลานสุดที่รักของเขา แทนที่จะช่วยฝึกความกล้าอะไรอย่างที่บอกนั่นเพียงอย่างเดียวแน่



   ตกค่ำ ตุลาก็ถูกทุกคนลากออกมาให้ยืนอยู่หน้าบ้านแล้วให้คอยอยู่ราว 15 นาที โดยทางอธิปมอบแผนที่ด่านต่าง ๆ ซึ่งตุลาต้องผ่านแล้วนำตรายางในแต่ละด่านที่ทุกคนมีอยู่ประทับตราในตารางที่ใส่ไว้หลังแผนที่ให้ครบ จึงจะถือว่าการทดสอบความกล้าครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี

   “อากริชครับ ...ผมจะรอดไหมครับเนี่ยงานนี้”

   ตุลาพึมพำกับผู้เป็นอาที่ยังคงอยู่เคียงข้างเขา กริชหันมามองสีหน้าซีด ๆ ของหลาน ก็อดที่จะยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดูไม่ได้

   “ตุลนี่นะ รู้ทั้งรู้ว่าพวกนั้นตั้งใจจะแกล้ง หลานก็ต้องตั้งสติไว้ให้ดี ๆ สิ ไม่ต้องห่วงนะ มีอาอยู่กับหลานทั้งคน”

   ชายหนุ่มหันไปมองผู้เป็นอาข้าง ๆ แล้วจึงยิ้มกว้างพลางพยักหน้ารับ

   “ครับ ขอบคุณครับอา”

   กริชหัวเราะเบา ๆ ถึงจะรู้ดีว่าคนอื่นตั้งใจจะทำเพื่อให้ตุลาหายขี้กลัว แต่จากลางสังหรณ์ส่วนตัว นอกจากราตรีและปิ่นสุดาที่ดูหวังดีกับตุลามากที่สุดแล้ว คนอื่นไม่คิดแกล้งก็ลืมจุดประสงค์ครั้งนี้ไปแล้วแน่ ๆ โดยเฉพาะด่านแรก ปีศาจแมวสาวที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นร่าเริงเป็นพิเศษทีเดียว

   

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ มองจากแผนที่ ด่านแรกที่เขาต้องเจอคือห้องโถงกลาง เขาตัดสินใจเปิดประตูบ้านออกช้า ๆ แล้วเดินเข้าไปอย่างไม่รีบร้อน ในขณะที่สายตาก็มองซ้ายมองขวา มองหน้า มองหลังอย่างระมัดระวัง

    “ฟ่อ...ฮื่อ...แฮ่...”

   เสียงขู่ทุ้มต่ำ ที่ฟังดูเหมือนสัตว์ใหญ่อย่างไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือก หันมาสบตากับกริช ซึ่งกริชก็ยังคงยิ้มเป็นกำลังใจให้หลานของตน ทำให้ชายหนุ่มใจชื้นขึ้นมาได้

   เสียงพื้นห้องสะเทือนพร้อมกับการปรากฏกายของปีศาจแมวยักษ์ตัวใหญ่คับห้องมันทำให้ตุลาเบิกตากว้าง โดยเฉพาะยามที่เขี้ยวยาวแหลมคมภายในปากใหญ่นั่นแสยะให้เห็น

   “อะ...อะไร นั่น”

   ชายหนุ่มทรุดนั่งลงบนพื้นด้วยความกลัวจนขาแข้งอ่อนไปหมด กริชตอนแรกก็นิ่งอึ้งอยู่หรอก แต่พอคิดดูแล้ว ก็คิดว่านั่นน่าจะเป็นอิทธิฤทธิ์ที่ปีศาจแมวสาวแสดงก็ได้

   “อืม...ความน่ากลัวให้เต็มสิบอยู่หรอก แต่ระวังนะ ภาพพจน์ตอนนี้มันจะติดตาของตุลเขาไปเรื่อย ๆ น่ะ จะดีหรือ รุ้งพราย”

   ปีศาจแมวยักษ์ผู้น่ากลัวสะดุ้งโหยง ยิ่งพอเห็นสีหน้าหวาดกลัวของตุลา เจ้าตัวก็รีบกลับคืนร่างเป็นสาวน้อยผู้น่ารักตามเดิม

   “แค่ร่างแปลงเองนะ ร่างจริงฉันออกจะน่ารัก ทั้งร่างแมว และร่างมนุษย์ เห็นไหมตุล!”

   กริชลอบยิ้ม แล้วทำเป็นตีสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่ตุลาเริ่มหายตกใจแล้วยิ้มแห้ง ๆ

   “ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เป็นร่างจริง ๆ แล้วหรือครับ”

   ปีศาจแมวสาวสะดุ้งนิด ๆ พลางรีบปฏิเสธเสียงดัง

   “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันบอบบางขนาดนี้จะตัวใหญ่ยักษ์เท่านั้นได้ยังไง!”

   สีหน้าและแววตาที่มองแล้วพยายามแก้ตัวสุดฤทธิ์นั่น ทำให้ตุลายิ้มเจื่อน ชักไม่แน่ใจแล้วว่าร่างนั้นเป็นร่างจริงของรุ้งพรายแน่หรือไม่

   “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นด่านแรก ก็มีแค่นี้ใช่ไหม ตุลก็ขอให้รุ้งเขาประทับตราผ่านให้สิ”

   กริชเปรยขึ้น ทำเอาทั้งคู่สะดุ้ง จากนั้นรุ้งพรายก็บ่นอุบกับตัวเอง นี่ถ้าไม่มีกริชมาด้วย แผนการหลอกให้ตุลากลัวหงอของเธอคงสำเร็จราบรื่นด้วยดีไปแล้ว แต่ถ้าจะให้ตุลากลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้เธอตลอด มันก็ทำให้เธอลำบากใจอยู่เหมือนกัน

   ตุลายิ้มกับแผ่นกระดาษที่ได้รับการประทับผ่านด่านแรกไปแล้ว แต่ว่าเขายังเหลืออีกสี่ด่าน นั่นก็คือ พาทิศ ปิ่นสุดา ราตรี และอธิป เป็นด่านสุดท้าย





... TBC ...

งมอยู่ครึี่งวัน โพสนิยายได้สักที  :เฮ้อ:

พอดีเซ่อเอง ที่มองไม่เห็นวิธีโพส --  ปกติงมอยู่แต่ในห้องอ่านนิยาย นาน ๆ ถึงโผล่ไปห้องซื้อขายที ห้องพูดคุยแทบไม่ค่อยได้เฉียดไป   เจอกระทู้คลิกขวาไม่ได้ เลยเข้าไปโพสแจ้ง ถึงได้รู้ว่ามีลงวิธีโพสนิยายไว้ในกระทู้แจ้ง error หน้าหลังสุดโน่น  ใครที่จะโพสนิยาย หรือ copy +paste อะไรลงบอร์ด แล้วทำไม่ถูก ก็ลองไปอ่าน ๆ วิธีดูนะคะ 

แปะให้ดู
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65.msg1562953#msg1562953

เป็นกำลังใจให้ทีมงานปรับปรุงระบบบอร์ดเข้าที่เข้าทางไว ๆ ค่ะ  :L2:


หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 20-07-2011 16:27:52
ตุลจะรอดไปถึงด่านสุดท้ายไหมเนี่ย
แต่ล่ะคนดูท่าจะสนุกกับการแกล้งตุลเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 20-07-2011 16:28:44
อากริชน่ารักอีกแระ ยิ่งตอนหวงๆคุณหลานนะ น่ารักสุดๆ :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 20-07-2011 16:54:17
อยากรู้ว่าผาทิศจะแกล้งตุลอย่างไร :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 20-07-2011 17:49:51
ฮิ้ว กิ้วกิ้ว แหมเขินตามตุลเลยอะ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 20-07-2011 18:47:53
ตุลจะผ่านด่านพาทิศได้มั้ยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 20-07-2011 20:21:11
ฮือออ คนเขียนทำให้หนูเขินผี ซอมบี้ด้วย!!
อ่านไปเขินไปยิ้มไป อายคนทั้งบ้าน
แต่ยังไงก็ชอบค่ะ  :-[
หายไปหลายวันคิดถึงมว้ากกก มาทีมาแบบจุใจ คิคิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 20-07-2011 21:04:18
หวา

ด่านต่อไปจะเจออะไรเนี๊ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Mai.IcySakura ที่ 20-07-2011 21:36:36
เพิ่งมาอ่านค่า น่ารักจริงๆ ><

พาทิศเป็นพระเอกสินะคะ มานิ่งๆแต่แอบร้ายนะเนี่ย

แล้วจะฝ่าด่านอากริชผู้รักหลาน(มาก)ไปได้มั้ยเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 20-07-2011 21:42:03
ฮิฮิ ลุ้นๆกับด่านของพาทิศ  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 20-07-2011 22:02:52
ตุลสู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 20-07-2011 22:39:32
จะได้หลุดไปถึงด่านลุงอธิปมั้ยเนี่ย  กลัวจะมัวหลงอยู่ที่ด่านซอมบี้หนุ่มอยู่น่ะสิตุลย์  :laugh:

 +1 และ :pig4: คนเขียนแสนขยันค่า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 20-07-2011 23:00:46
แหม...ขี้แกล้งกันจริงๆน้อ แต่ยังเหลืออีกหลายด่าน
ผ่านให้ตลอดนะตุล o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 21-07-2011 00:36:27
สนุกมากๆเลยจร้า ตุลน่ารักสุดๆๆ   :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 21-07-2011 10:57:05
อยากรู้จังว่า ซอมบี้พาทิศ จะทำอะไรหนูตุลน้า.....
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 14 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (19/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 21-07-2011 14:47:09
คุณซอมบี้จะยอมให้ตุลผ่านด่านง่ายๆมั้ยน๊อ :-[
แต่ถ้ามีอากริชไปด้วยคุณซอมบี้คงไม่กล้าทำไรตุลเยอะหรอกมั้ง :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 21-07-2011 17:09:32
มาต่อส่วนด่านอื่น ๆ แล้วค่า ~



ม่านราตรี
บทที่ 15



   ตุลาเดินตามแผนที่ซึ่งมุ่งลงสู่ห้องใต้ดินด้วยความหวาดหวั่น  แต่ก็ยังอุ่นใจที่มีกริชคอยอยู่เคียงข้างเขาไปเช่นนี้ ทว่าพอลงห้องใต้ดินปุ๊บ กริชก็ต้องชะงักเมื่อมีกำแพงใส ๆ กั้นไม่ให้เขาเข้าไป หากแต่ตุลาสามารถเดินผ่านได้โดยไม่เป็นอะไร

   “เล่นอะไรกันพาทิศ!”

   กริชบอกแล้วทุบเขตแดนโปร่งใสตรงหน้าอย่างขุ่นเคือง โดยที่ตุลานั้นไม่ได้รู้เลยว่าผู้เป็นอาตามมาด้วยไม่ได้ ยังคงเดินมุ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ในแผนที่ต่อไป

   “ช่วยไม่ได้นี่ครับ คุณอธิปบอกมาว่าถ้าปล่อยให้คุณตามติดตุลมาด้วยตลอด การฝึกความกล้าครั้งนี้ก็ไม่ได้ผลพอดี”

   เสียงของพาทิศดังขึ้นทั้งที่ไม่เห็นตัว กริชกัดฟันกรอด แล้วเอ่ยขู่เสียงเข้ม

   “ถ้าหลานฉันเป็นอะไรไป ฉันเล่นงานนายแน่!”

   เสียงหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ แล้วจึงมีเสียงทุ้มเอ่ยตามมา

   “คุณดูแลเขาเกินไปหน่อยแล้วล่ะครับ คุณกริช ตุลเขาก็มีชีวิตเป็นของตัวเองนะครับ เรื่องชะตากรรมก็ด้วย ต่อให้ฝืนยังไงก็ตาม …ถึงแม้บางคนอาจจะยืดระยะเวลาเลี่ยงออกไปได้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครหนีพ้นชะตากรรมของตัวเองหรอกครับ”

   กริชเงียบกริบ มาถึงตอนนี้เขาคิดว่าพาทิศน่าจะรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับเรื่องของเขาอยู่บ้าง เพียงแต่เลือกที่จะไม่พูดออกมาเท่านั้นเอง อีกอย่างซอมบี้หนุ่มก็มักจะทำตัวลึกลับอยู่เสมอ

   “พาทิศ…ตุลน่ะเป็นเด็กที่มีสัมผัสที่หกไวตั้งแต่เล็ก ทำให้มักจะเห็นสิ่งลี้ลับและภูตผีได้ง่าย ฉันเองเมื่อก่อนก็ผิดที่เห็นเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องน่าสนุก คอยแกล้งหลอกเขา จนเขาไปเจอภูตผีร้ายที่น่ากลัวเข้าจริง ๆ ถึงตอนนั้นฉันจะช่วยเขาเอาไว้ได้ แต่มันก็ได้กลายเป็นแผลฝังใจเขาไปแล้ว ตุลในตอนนั้นยังเล็กมาก จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ความกลัวนั่นคงไม่มีวันจางหาย …”

   กริชนิ่งเงียบไปชั่วครู่อย่างสำนึกผิด ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มอ่อนโยนของอีกฝ่ายดังขึ้น

   “หึ ๆ ผมเข้าใจคุณนะคุณกริช แต่ผมก็ยังคงยืนยันคำเดิม ตุลโตขึ้นแล้ว เข้มแข็งขึ้น ไม่ใช่เด็กน้อยขี้โรคเหมือนตอนเด็ก ๆ ที่คุณเฝ้าปกป้องอีกแล้ว … จริงอยู่แผลใจนั้นอาจมีหลงเหลือบ้าง แต่พวกเราก็ช่วยกันกลบมันทีละน้อยก็ได้นี่ครับ”

   กริชเงียบรับฟัง จากนั้นพาทิศจึงเอ่ยทิ้งท้ายให้อีกฝ่ายคลายกังวล

   “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมไม่ทำอะไรตุลรุนแรงแน่ ผมเองก็เอ็นดูเขาไม่แพ้ทุกตนในคฤหาสน์หลังนี้นักหรอกนะครับ”

   กริชยิ้มออกมาน้อย ๆ กับถ้อยคำที่ได้ยิน แล้วจึงยอมยืนรอนอกเขตแดนเฉย ๆ ปล่อยให้หลานชายเผชิญหน้ากับด่านที่สองตามลำพัง

   

   ตุลาเดินมาหน้าประตูห้องหนึ่งในห้องใต้ดิน เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตัดสินใจผลักมันออกไปช้า ๆ

   “คุณพาทิศครับ? อยู่หรือเปล่าครับ?”

   ตุลาเรียกชื่อซอมบี้หนุ่ม แต่ไม่มีเสียงใดตอบรับ แถมจู่ ๆ ประตูห้องใต้ดินห้องนั้นก็ปิดโครมลง ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้ง พยายามเปิดก็เปิดไม่ได้ พอจะหันไปให้กริชช่วย ก็ไม่เจอใคร ลองเรียกดูวิญญาณหนุ่มก็ไม่ยอมปรากฏกายให้เห็น

   “หึ ๆ ถ้าไม่มีอาอยู่ จะทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้เลยหรือตุล”

   เสียงของพาทิศดังขึ้น ทำให้ตุลาชะงัก พอมองไปด้านหลัง ก็เห็นร่างของซอมบี้หนุ่มยืนยิ้มให้เขา

   “คุณพาทิศ …เอ่อ ผม…”

   ตุลาเอ่ยตะกุกตะกัก แก้ตัวเรื่องที่อีกฝ่ายพูดไม่ออกเอาดื้อ ๆ ทำให้พาทิศเดินเข้ามาใกล้ แล้วลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “เธอก็น่าจะรู้ดีไม่ใช่หรือตุล คนที่เหนี่ยวรั้งให้วิญญาณที่น่าจะไปสู่สุคตินานแล้ว อย่างอาของเธอ ไม่อาจไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า นั่นคือใคร?”

   ตุลาเงียบกริบ เขาก้มหน้านิ่ง ก่อนจะหลุดสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว

   “ผมน่ะ…ก็อยากให้อาพ้นทุกข์สักที…เหมือนกัน … แต่ผมก็รักอามาก…ฮึก”

   พาทิศเห็นดังนั้นจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วรวบร่างผอมบางตรงหน้ามากอดปลอบอย่างอ่อนโยน

   “ฉันเข้าใจ ในตอนนี้แม้อาจจะยากต่อการจากลา แต่ถ้าสักวันหนึ่งที่โชคชะตาฟ้าลิขิตให้แยกจากกันมาถึง ฉันหวังว่าเธอคงจะสามารถยิ้มส่งให้เขาไปสู่สุขคติได้ …ฉันรู้ การแยกจากคนที่รักมากมันยาก แต่เราก็ต้องฝืนทน”

   แม้จะไม่เทียบเท่ากับอาของตน แต่อ้อมกอดของพาทิศก็เปรียบเสมือนกับว่าอีกฝ่ายเป็นญาติผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้ ตุลากลั้นสะอื้นสงบสติอารมณ์แล้วยิ้มให้ซอมบี้หนุ่ม

   “ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยเตือนสติ”

   “ไม่เป็นไร ว่าแต่เข้าเรื่องของเรากันเลยดีกว่า”

   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้ตุลาขมวดคิ้วอย่างสงสัย

   “เรื่องอะไรหรือครับ?”

    “ก็เรื่องทดสอบความกล้าไง ลืมแล้วหรือ”

   คนฟังชะงัก แล้วทุบมือเบา ๆ อย่างลืมตัว

   “อ้อ จริงด้วยสิครับ … อ๊ะ ว่าแต่ด่านนี้ั คุณพาทิศจะทำอะไรหรือครับ”

   ซอมบี้หนุ่มหัวเราะเบา ๆ แล้วใช้มือเชยคางของตุลาขึ้น จนอีกฝ่ายงุนงง

   “ฉันจะให้เธอทำในสิ่งที่มนุษย์น้อยคน กล้าลองเสี่ยง แต่ถ้าเธอทำได้ เธอก็ผ่านด่านของฉันไปง่าย ๆ ว่าไง กล้าหรือไม่กล้า”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ ตัดสินใจชั่วครู่ แล้วพยักหน้ารับ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าจะถูกให้อีกฝ่ายทำอะไร

   “ดีมาก กล้าหาญใช้ได้ ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะลงมือเลยแล้วกัน”

   พาทิศพึมพำตอบ แล้วค่อย ๆ ชะโงกหน้ามาใกล้ ตุลาเบิกตาน้อย ๆ ด้วยความตกตะลึง ก่อนจะตัวแข็งทื่อ พูดอะไรไม่ออก เมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายประกบกับริมฝีปากของตัวเองพอดิบพอดี



   กริชที่รออยู่ด้านนอกชะงักเล็กน้อย เมื่อเขตแดนของพาทิศถูกปลดออก จากนั้นสักพักตุลาก็เดินหน้าแดงออกมา โดยที่ซอมบี้หนุ่มก็เดินตามมาส่งเรื่อย ๆ

   “เกิดอะไรขึ้นหรือตุล”

   วิญญาณหนุ่มถาม ทำเอาหลานชายของเขาสะดุ้ง แล้วรีบสั่นศีรษะไปมา ใบหน้านั้นก็แดงหนักขึ้น

   “นายทำอะไรหลานฉัน?”

   กริชถามพาทิศด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แต่คนถูกคาดคั้นกลับแย้มยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบออกไป

   “ทดสอบความกล้ายังไงล่ะครับ”

   “แล้วทำไมตุลถึงมีปฏิกิริยาแปลก ๆ แบบนี้?”

   กริชซักต่อ ด้านตุลาเห็นท่าทางไม่ค่อยดี อีกทั้งไม่อยากบอกเรื่องน่าอายให้ผู้เป็นอาฟัง ชายหนุ่มจึงรีบแก้ตัวแทนพาทิศยกใหญ่

   “ไม่มีอะไรหรอกครับอา… ผมแค่ ...เอ่อ...ไม่เล่าได้ไหมครับ ...แบบว่า ...เรื่องมันค่อนข้างจะน่าอายสักหน่อย...”

    วิญญาณหนุ่มหันมามองหลานอย่างจ้องจับผิด แต่เมื่อเห็นตุลาหลบตา สีหน้าก็แดงระเรื่อด้วยความเขินเหมือนที่ปากบอก เขาก็เลยจำใจเชื่อคิดว่าตุลาคงกลัวจนเผลอแสดงท่าทางตลก ๆ อะไรไปที่เล่าให้เขาฟังลำบาก เขาจึงตัดสินใจไม่ซักพาทิศต่อ ส่วนซอมบี้หนุ่มนั้นมองอาหลานทั้งสองพลางลอบยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะชะโงกหน้ามาข้างหูของตุลา

   “เอ้า! ไปด่านต่อไปได้แล้วตุล ปิ่นเค้าคงรอเธออยู่นานแล้วล่ะ”

   เสียงทุ้มที่กระซิบข้างหู ทำเอาตุลาออกอาการสะดุ้งโหยง แล้วจึงรีบถอยหลังห่างออกมาสองสามก้าว ก่อนจะพยักหน้ารับด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วจึงรีบจ้ำฝีเท้ากลับขึ้นไปชั้นบนของคฤหาสน์ทันที

   “หวังว่าคงจะไม่ได้ทำอะไรเกินเลยกับหลานชายของฉันหรอกใช่ไหม?”

   กริชหันมาถามซอมบี้หนุ่มซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มรับแล้วตอบกลับอย่างสุภาพ

   “ใครจะกล้าล่ะครับ …ยกเว้นว่าตุลจะให้ความร่วมมือเองล่ะนะ”

   “ก็เพราะแต่ละคนมันเป็นกันซะแบบนี้ แล้วจะไว้ใจปล่อยให้ตุลอยู่ด้วย โดยไม่ดูแลได้ยังไงกัน!”

   กริชทำหน้ายุ่ง พลางบ่นกับตัวเองอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหายวับไปทิ้งไว้เพียงพาทิชที่ยืนอมยิ้มอยู่ลำพังคนเดียวอย่างอารมณ์ดี

   

   ตุลาเดินออกจากคฤหาสน์มายังสวนด้านหลังบริเวณก่อนถึงบ่อน้ำ ซึ่งยามนี้ถูกมนต์ลวงตาเปลี่ยนให้กลายเป็นหนองน้ำกลางป่ารกทึบ

   “เล่นกันซะอลังการงานสร้างจริง ๆ แฮะ”

   กริชพึมพำอย่างกึ่งชื่นชมกึ่งระอา ส่วนหลานชายเขานี่สิ ตอนนี้กำลังมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดเสียว ย่ำไปในหนองน้ำมุ่งตรงไปข้างหน้า ที่ดูเวิ้งว้างไร้ที่สิ้นสุด ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นแค่สวนด้านหลังธรรมดาแท้ ๆ

   “ตุล สบายใจเถอะ อาเชื่อว่าปิ่นสุดาคงไม่คิดแกล้งหลาน เหมือนกับคนอื่น ๆ เค้าหรอก”

   กริชปลอบ ซึ่งก็ทำให้ตุลายิ้มออก ก่อนจะสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงน้ำแตกกระจาย พร้อมกับการปรากฏกายของจระเข้ยักษ์เบื้องหน้า

   “เหวอ! อะไรนั่น! นี่มันการทดสอบความกล้าเรื่องผีไม่ใช่หรือไง!”

   ตุลาโพล่งขึ้นอย่างทั้งกลัว ทั้งเหลืออด ก็เพราะสองด่านก่อนหน้าและตอนนี้ มันดูไม่ค่อยจะใกล้เคียงการฝึกให้เขาเลิกขวัญอ่อนกลัวเรื่องภูตผีสักเท่าใดสักนิด

   แต่แล้วสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มแทบจะหัวใจหยุดเต้นแท้จริง ก็คือมือเย็นเฉียบซึ่งจับหมับอยู่ที่ข้อเท้าทั้งสอง พอก้มลงไปมอง ก็เห็นเส้นผมและศีรษะคนค่อย ๆ โผล่มาจากน้ำที่เขาเหยียบอยู่ ใบหน้าขาวซีด ตาเหลือกขาวโพลน

   “คิก ๆ …ฉันจะเอาเธอไปอยู่ด้วยกับฉัน…”

   ตุลาตัวแข็งทื่อตาค้าง จระเข้ยักษ์ด้านหน้าก็ย่างเท้าเข้ามาใกล้ ส่วนผีสาวในน้ำก็ค่อย ๆ ดึงขาเขาจมลงไปเรื่อย ๆ ตุลาโวยวาย แล้วร้องลั่น

   “มะ …ไม่เอานะครับ คุณปิ่น! คุณราตรี! อย่าเล่นสมจริงเกินไปสิครับ ผมกลัวนะ!”

   จระเข้ยักษ์และผีสาวในหนองน้ำ ชะงัก แล้วจึงค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิมของตน โดยจระเข้ยักษ์คืนร่างเป็นปิ่นสุดา ส่วนผีสาวน่ากลัวนั่นก็กลายร่างเป็นวิญญาณสาวผู้งดงามอีกครั้ง  ภาพลวงตาหายไป กลับกลายเป็นสวนราตรีแสนสวยตามเดิม

   “ตุลรู้ได้ไงว่าเป็นพวกเรา? คุณบอกเขาหรือคะคุณกริช?”

   ราตรีหันไปทางกริช ซึ่งกริชก็ยักไหล่น้อย ๆ

   “พวกเธอก็เห็น ฉันแค่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ แล้วจะบอกอะไรกับตุลได้ตอนไหน อีกอย่างบอกตามตรงเลยนะ พวกเธอเล่นกันสมจริงมาก จนฉันยังนึกทึ่งด้วยซ้ำ”

   ราตรีฟังแล้วก็พยักหน้ารับ เพราะเธอก็เห็นอย่างที่อีกฝ่ายบอก จากนั้นจึงหันไปทางชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ชั่วคราวคนใหม่

   “ผมรู้สึกได้น่ะครับ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน แต่เป็นความรู้สึก ที่บอกว่านั่นเป็นคุณปิ่น และคุณราตรี”

   ตุลาอธิบาย ซึ่งก็ทำให้สองสาวทึ่งในสัมผัสที่หกของชายหนุ่ม แม้แต่กริชเองก็คิดว่าพลังของหลานชายพัฒนาขึ้นมาก นับตั้งแต่มาอยู่ในพื้นที่ดินอาถรรพ์ผืนนี้

   “แต่ถึงยังไงตุลก็เก่งขึ้นมาก เจอเรื่องน่ากลัวแบบนี้ แต่ก็ยังไม่ตกใจจนสลบ ถือว่าผ่านล่ะนะ”

   ราตรีเอ่ยชม แล้วหยิบตราประทับของเธอปั๊มบนแผนที่ของตุลา ซึ่งปิ่นสุดาเองก็ทำเช่นเดียวกัน

   “ขอโทษนะคะ ที่หลอกให้คุณตกใจ”

   เงือกสาวบอกอย่างเป็นกังวล ทำให้ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะ

   “ไม่เป็นไรครับไม่ต้องห่วง พวกคุณหวังดีกับผมนี่นะครับ”

   ปิ่นสุดาหน้าแดง ส่วนราตรียิ้มน้อย ๆ ให้ จากนั้นจึงยื่นแผนที่ซึ่งปั๊มตราประทับของเธอและเงือกสาวเรียบร้อย ส่งคืนให้กับตุลา

   “ด่านสุดท้าย เป็นด่านของหมอผีนั่น เขาไม่ได้แย้มกับพวกเราว่าจะทำอะไร แต่ฉันเชื่อนะว่าจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากทีเดียว เพราะฉะนั้นก็ตั้งสติให้มั่นคงแบบเมื่อครู่ แล้วผ่านมันไปให้ได้เช่นกันนะ”

   ราตรีเตือนชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง ซึ่งตุลาก็ขอบใจผีสาว แล้วจึงบอกกับทั้งคู่

   “ถ้าอย่างนั้นผมไปล่ะครับ”

   “โชคดีจ้ะตุล”

   “พยายามเข้านะคะ”

   ทั้งสองสาวอวยพรไล่หลังตามมา ก่อนจะหันมาสบตากัน แล้วยิ้มน้อย ๆ ที่คนซึ่งพวกเธอชื่นชอบ เริ่มมีความกล้าเพิ่มขึ้น

   

   ด่านสุดท้ายคือด่านที่อธิปประจำอยู่ เป็นด่านที่กริชรู้สึกไม่ไว้วางใจปล่อยให้ตุลาเข้าไปคนเดียวเป็นอย่างที่สุด

   “ผมว่าคงไม่มีอะไรน่าห่วงอย่างที่อาคิดหรอกครับ”

   ตุลาบอกพลางยิ้มเจื่อน ๆ อย่างไม่แน่ใจ เพราะพักหลังตัวการที่ทำให้เขาตกใจเสมอ ก็มาจากอธิปเสียเป็นส่วนมาก

   “ด่านสุดท้าย ห้องคุณอธิปสินะครับ”

   ตุลาพึมพำ พร้อมกับดูแผนที่ในมือที่ได้รับมา

   “ระวังเข้าล่ะ เจ้าหมอผีโรคจิตนั่น บางครั้งนึกอยากจะแกล้งใครขึ้นมา ก็ไม่ค่อยกะความพอดีนักหรอก”

   กริชบอกด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายแกมกังวล ทำให้ตุลากลืนน้ำลายลงคอแล้วพยายามตั้งสติให้มากขึ้น เพื่อที่จะไม่ได้ตกใจร้องจ๊ากเป็นลมล้มไปก่อน หากเปิดไปเห็นเจ้าหัวกะโหลกเจ้ากรรมที่ชอบลอยไปมาให้เขากลัวเสมอ

   

   ชั้นสองของคฤหาสน์ม่านราตรี เต็มไปด้วยบรรยากาศชวนเสียวสยองอย่างน่าประหลาด โดยเฉพาะหมอกควันขาว ๆ เลือนรางที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณชั้นสองอย่างน่าพิศวงนั่น

   “ไอ้หมอผีโรคจิต ทำซะน่ากลัวเชียวนะ”

   กริชบ่นเบา ๆ กับตัวเอง เพราะเจ้าบรรยากาศแสนอึมครึมชวนขนลุกนี่ มันเหมือนกับว่าพวกเขากำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าช้าหรือสุสานแห่งใดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว

   “เอ่อ อากริชครับ จะว่าอะไรไหม ถ้าผมจะ…”

   ตุลาบอกกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอึกอัก ใบหน้าก็แดงน้อย ๆ จนคนมองเลิกคิ้ว แล้วก็เข้าใจตามมา

   “เอาสิ... ไม่ได้เดินด้วยกันแบบนี้มานานแล้วนี่นะ”

   กริชยิ้ม พลางแสดงร่างวิญญาณให้เห็นชัดเจนขึ้น ก่อนจะยื่นมือมาสัมผัสกับมือของหลานชายที่ส่งมาอย่างเขิน ๆ อาหลานจูงมือกันเดินไปจนกระทั่งถึงห้องของอธิป ซึ่งพอจับลูกบิดประตู ตุลาก็ชะงักนิ่วหน้า เมื่อรู้สึกถึงความกดดันแปลก ๆ บางอย่าง

   “แปลกจังครับ รู้สึกสังหรณ์ไม่ดีเอาเสียเลย”

   ตุลาหันมาบอกผู้เป็นอา กริชขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจกระทำบางอย่าง

   “อาจะเข้าไปดูลาดเลาให้ก่อน แล้วจะออกมาบอกให้แล้วกัน”

   “แต่ว่า จะดีหรือครับ”

   ตุลาแย้งอย่างเกรงใจ เพราะนี่เป็นการทดสอบความกล้าของเขา ถ้าให้กริชช่วยแบบนี้ มันจะไม่ดีทั้งต่อเขาและอธิป รวมไปถึงภูตผีตนอื่นในคฤหาสน์ม่านราตรี ที่ช่วยกันสร้างด่านทดสอบขึ้นมา

   “อาไม่ได้ไปขัดขวาง แต่ตุลบอกว่าสังหรณ์ไม่ดีไม่ใช่หรือ เพราะฉะนั้นอาจะไปสำรวจให้ก่อน ถ้าแค่เป็นการกลั่นแกล้งธรรมดา อาจะยอมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ได้ แต่ถ้ามันหนักหนา จนอาจถึงขั้นทำอันตรายกับตุล อาก็คงต้องเจรจากับหมอนั่นสักหน่อยล่ะ”

   กล่าวจบวิญญาณหนุ่มก็หายวับไปต่อหน้าตุลา ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ แล้วยืนรอสักพัก แต่พอเวลาผ่านไปเกือบสิบนาที เขาก็เริ่มแปลกใจ ที่ทำไมผู้เป็นอายังไม่กลับมาสักที

   “อากริชครับ ผมจะเข้าไปแล้วนะครับ”

   เงียบกริบ ไร้เสียงตอบ ทำให้ตุลานิ่วหน้า แล้วจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปทันที  ไอเย็นเยียบที่พุ่งมาปะทะร่าง ทำให้เจ้าตัวชะงักกึก ก่อนจะตกตะลึง ขาแข็งอยู่กับที่ เมื่อร่างของกริชนั้นกำลังนั่งคุกเข่าแข็งค้างไม่ขยับเขยื้อน ที่ลำคอมีเคียวยักษ์สีดำพาดจากด้านหลัง โดยผู้ถือเคียวนั่น คือร่างสูงใหญ่ในชุดคลุมดำสนิท ฮู้ดดำที่สวมศีรษะหลวม ๆ นั่น ก็ทำให้แทบจะมองไม่เห็นว่าผู้สวมใส่มีหน้าตาแบบไหน อีกฝั่งของห้องมีร่างของอธิปนอนคว่ำหน้าสลบอยู่

   “ตุล … หนีไป… อย่าเข้ามา”

   เสียงกริชพยายามเค้นพูดรอดไรฟันอย่างยากลำบาก นั่นยิ่งทำให้ตุลาตกอยู่ในสภาวะตะลึงงันมากยิ่งขึ้น

   “อะไรครับนั่น …คุณเป็นใครกัน….”

   เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากร่างในเสื้อคลุม จากนั้นน้ำเสียงห้าวใหญ่แปลกหู จึงเอ่ยขึ้นดังก้องกังวานไปทั่ว

   “ข้าหรือ ข้าคือยมทูตที่จะมาพาตัวเจ้า และชายผู้นี้ไปพิพากษาในนรกน่ะสิ!”

      

   

... TBC ...
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 21-07-2011 17:21:57
เง้ออ จะเอาอากริชไปไหนคะ
ตอนนี้พาทิศรุกหนักนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 21-07-2011 18:17:11
ท่านยมมา!!!!!
ทำไงดีล่ะทีนี้
คงไม่ใช่ว่าอธิปแกล้งหรอกนะ!
=w=
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 21-07-2011 18:42:54
ค้างคาอย่างแรงนะเนี่ย มาต่ออีกนะครับ :m16:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 21-07-2011 18:54:57
ตอนนี้แฟนตาซีผีไทยจริงๆนะเนี่ย :laugh3:
แอบอยากรู้ด่านคุณซอมบี้เยอะกว่านี้อ่า
เห็นตุลเขินเดินหน้าแดงออกมาแบบนั้น
คนอ่านก็อยากจะเขินไปกับตุลด้วยบ้างอะไรบ้าง
เอ่อ..อธิปเล่นแรงว่ะ
แต่คิดว่าอธิปคงอยากให้กริชคิดได้หล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 21-07-2011 19:16:11
เอิ่ม  เล่นแรง!!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 21-07-2011 19:16:56
ยมทูตจริงหรืออธิปแกล้งกันแน่ อยากรู้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-07-2011 19:18:43
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 21-07-2011 19:20:24
มียมทูตโผล่มาอีกตนแล้ว คงไม่ใช่แผนกลั่นแกล้งของอธิปนะ
แล้วอย่างนี้ใครจะมาช่วยตุลกับอากริชล่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 21-07-2011 19:27:16
เอ๋ ท่านยม ท่านมาได้อย่างไรกัน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 21-07-2011 19:32:45
ตอนนี้คงจะยังไม่ถึงเวลาของยมทูตแต่เป็นอธิปที่แสดงสมบทบาทมากกว่า :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 21-07-2011 20:33:25
เหวออออออออ ท่านยม
ของจริงปะนั่น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 21-07-2011 21:31:58
พาทิศ ไอ่จูบเนี่ยมันเกี่ยวกับการทดสอบยังไง โฮะ โฮะ

ว่าแต่ ท่านยมเหรอนั่น -*-

ค้างงงงงง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 21-07-2011 21:51:24
คุณหมอผีเล่นแรงไปหรือเปล่า

ตุลสู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Mai.IcySakura ที่ 21-07-2011 21:54:12
คุณยมทูตใส่ฮูตด้วย แนวจริงๆ

ของจริงหรือแผนของอธิปกันนะเนี่ย เพราะท่านยมจะมาช้าไปป้ะคุณอาตายมาเป็นสิบปี หุหุ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-07-2011 00:33:35
ท่านยมนี้ทดสอบใช่ไหม?
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-07-2011 02:46:58
ง่ะ แกล้งกันจริงๆใช่ป่ะเนี่ย
แอบเสี่ยวกับท่านยมเหลือเกิน
ไม่ใช่ว่าโดนหลอกทั้งอาทั้งหลานล่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 22-07-2011 05:29:56
ตายแล้ว ตายแล้ว ทำไงดีหละทีนี้

แต่ มันน่าจะมีอะไรซักอย่างนะ ต้องเป็นการทดสอบจิตใจจากอธิปแน่แน่ ใช่ป่ะ

รักคนเขียน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 22-07-2011 10:10:29
เอ่อคือ นึกว่าท่านยม ท่านสุวรรณตรวจดูบัญชี

มาซะของนอกเลยใส่คลุมมีฮู้ดปิดถือเคียว จะไปแร๊บโย่วแถวไหนครับ ท่านยมฑูต
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 22-07-2011 10:26:36
ฝีมืออธิปหรือแจ็กพ็อตแตกจริง ๆ ล่ะนี่ o22
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 15 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (21/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 22-07-2011 11:19:58
ของจริงหรือเล่นล่ะนั่น ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-07-2011 12:18:33
   

ม่านราตรี
บทที่ 16



   ตุลานิ่งอึ้งอยู่กับที่ ถ้านี่จะเป็นด่านสุดท้ายของการทดสอบความกล้า เขาก็ว่ามันช่างแสนสมจริงและจัดฉากได้ชวนให้ตกใจอยู่หรอก แต่ว่าภาพที่เห็นนั่นมันก็ชวนยากจะให้คิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นได้

   “จะพาฉันไปนรกขุมไหนก็เชิญ…แต่อย่ายุ่งกับหลานของฉัน!”

   กริชพยายามฝืนมนต์สะกดที่ยมทูตลึกลับใช้กับเขา พูดออกไป แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะกังวานของร่างในชุดคลุมสีดำดังลั่นไปทั่วห้อง

   “ฮ่า ๆ เจ้าคิดว่าเจ้ายังจะมีสิทธิ์เลือกได้อีกเช่นนั้นรึ!”

     “อย่าทำอะไรอากริชเลยครับ ได้โปรด!”

   ตุลาวิ่งตรงเข้ามาหาจับหมับที่แขนของอีกฝ่าย แต่ก็ถูกเหวี่ยงลอยกระเด็นลงไปบนที่นอนนุ่ม ทว่าถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงรู้สึกจุกอยู่ดี

   “เจ้าหนุ่ม! เจ้าเองอีกเดี๋ยวก็ต้องพบชะตากรรมอันไม่แตกต่างจากอาของเจ้าเช่นกัน เจ้าละเมิดลิขิตสวรรค์ ฝืนกฎนรก โกงความตายที่สมควรจะได้รับ!”

   “หยุดนะ อย่าบอกเขา!”

   กริชพยายามห้าม และฝืนมนต์สะกดเต็มที่จนวิญญาณทั้งร่างปวดร้าว ส่วนตุลานั้นยันกายขึ้นนั่งอย่างลำบาก และมองยมทูตลึกลับด้วยสีหน้าสงสัย

     “ผมนี่นะหรือ โกงความตาย …. เกิดอะไรขึ้น…”

   “อย่าไปสนใจฟังตุล!”

   กริชแย้ง แต่ตุลานั้นกลับพุ่งความสนใจไปยังร่างที่ยืนอยู่

   “ถ้าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องจริงล่ะก็ ช่วยบอกให้ผมรู้ได้ไหมครับ …อากริช … คุณอธิป”

   ร่างในชุดคลุมดำสะดุ้งเฮือก ส่วนกริชนั้นชะงักกึก พยายามเหลียวหน้าไปมองร่างเบื้องหลังตน ที่เริ่มมีท่าทางลุกลี้ลุกลนจนเห็นได้ชัด

   “อธิป?”

   “ไร้สาระ! ข้าคือยมทูตต่างหาก!”

   “อธิป…”

   เสียงกริชเข้มตามมา ทำให้ร่างในชุดคลุมกลืนน้ำลายลงคอ แล้วจึงโยนเคียวสีดำทิ้งจากมือ มันก็กลับกลายเป็นกิ่งไม้แห้ง ร่างของอธิปที่นอนคว่ำหน้าอยู่ก็กลายเป็นหัวกะโหลกบริวารของเขา ส่วนเจ้าตัวก็ปลดผ้าคลุมดำออก แล้วกลับกลายมาเป็นร่างตามเดิมของตน

   “อุตสาห์เปลี่ยนรูปร่าง เปลี่ยนเสียงแล้วเชียวนะ ยังถูกจับได้อีก เจ้าหนูเธอมีประสาทสัมผัสที่ดีมากเลยนะ”

    “ไม่ต้องมาเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง! นายเป็นบ้าอะไรถึงสร้างเรื่องแบบนี้ขึ้นมา หา!”

   กริชตวาดใส่เพื่อนด้วยความฉุนเฉียว ตอนนี้เขาได้รับการปลดข่ายมนตราที่สะกดร่างเขาเอาไว้เรียบร้อย ส่วนอธิปก็รีบยกมือสองข้างปรามวิญญาณหนุ่มเอาไว้ก่อน

   “ข้าก่อน ๆ อย่าเพิ่งโมโหสิ ถ้าไม่ทำให้สมจริง แล้วจะดูน่าเชื่อถือได้ยังไงล่ะ”

   บอกเสร็จอธิปก็หันไปยิ้มให้กับตุลาที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก

   “ก็แค่เรื่องล้อกันเล่นน่ะ”

   หมอผีหนุ่มใหญ่บอกพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ตุลานั้นไม่อยากเชื่อเพราะท่าทางของกริชนั้นดูจริงจังเกินคาด โดยเฉพาะตอนที่ห้ามไม่ให้อธิปในสภาพยมทูตบอกเรื่องที่เขาโกงความตายอะไรนั่น

   “จริงหรือครับอากริช?”

   ตุลาหันไปถามผู้เป็นอา ซึ่งกริชก็ฝืนยิ้มแล้วพยักหน้า

   “ก็อย่างที่หมอนี่ว่า เรื่องล้อเล่นกันน่ะ”

   “แต่เมื่อครู่อาเหมือนไม่อยากให้ผมรับรู้เลยนี่ครับ”

   ตุลายังคงแย้งแต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายตวาดลั่นตามมา

   “ตุล! อาบอกแล้วไงว่าเป็นเรื่องล้อเล่น!”

   “เฮ้... กริชใจเย็น ๆ หน่อยสิ”

   อธิปแย้งทำให้กริชชะงัก แล้วจึงพึมพำเบา ๆ ตามมา

   “เกมทดสอบความกล้าของวันนี้จบแล้ว ตุลไปพักได้แล้ว… และก็ขอโทษด้วยที่อาเผลอขึ้นเสียงดังไปหน่อย”

   “…ครับ”

   ตุลาตอบเสียงอ่อย เหลือบมองไปที่กริชซึ่งเบือนหน้าไม่ยอมสบตาเขา พอหันไปทางอธิป หนุ่มใหญ่ก็ยักไหล่นิด ๆ พร้อมกับยิ้มเป็นกำลังใจให้

   “ถ้าอย่างนั้นผมกลับห้องนะครับ”

   ชายหนุ่มบอกค่อย ๆ แล้วเดินจากไปเงียบ ๆ เหลือเพียงอธิปกับกริชที่อยู่กันลำพังภายในห้องนั้น

   “อุตสาห์สร้างสถานการณ์ให้บอกได้ด้วยตัวเองสักที ยังไม่ยอมพูดอีกหรือ”

   อธิปเปรยขณะที่เดินไปนั่งที่เตียงของตน กริชหันขวับไปมองคนพูดเขม็ง จ้องด้วยแววตาดุดันสักพัก แล้วจึงค่อย ๆ หลุบตาลง ก่อนจะบอกเสียงแผ่ว

   “ไม่ได้…ฉันยังทำใจบอกกับเขาไม่ได้…ฉันกลัว อธิป …กลัวเขาเกลียดฉัน ถ้ารู้ในสิ่งที่ฉันทำ”

   หมอผีหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจึงเปรยขึ้นบ้าง

   “กริชเอ๊ย นายเลือกทางของนายเอง นายก็ต้องรับผลที่นายก่อ …พนันกับฉันไหมล่ะ เจ้าหนูตุลถึงจะรู้เรื่องนี้ก็ตาม เขาก็ไม่เกลียดนายหรอก”

   “ฉัน…”

   กริชยังคงลังเลก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่ออธิปเปรยเสียงดังขึ้น

   “จริงไหมเจ้าหนู เลิกแอบฟังข้างนอก แล้วเข้ามาฟังข้างในได้แล้ว”

   “อธิป! นี่นาย!”

   กริชเรียกชื่อเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่พอเห็นตุลาเปิดประตูเข้ามาจริง เขาก็ยิ่งมีสีหน้าหวั่นวิตกมากขึ้นไปอีก

   “ตุล นี่หลานยัง…”

   “ฉันแอบสั่งผีพรายของฉันไปบอกเจ้าหนูที่หน้าห้อง แล้วให้เขายืนรอฟังอยู่แถวนั้นพร้อมกับถ่ายทอดเสียงในห้องให้เจ้าตัวได้ยิน ดังนั้นนายหมดสิทธิ์แก้ตัวหรืออ้างโน่นอ้างนี่แล้วกริช … คิดให้ดี ๆ นะ ว่าจะยอมบอกจากปากตัวเอง หรือให้เจ้าหนูไปรู้เองทีหลัง ผลกระทบที่ได้มันต่างกันอยู่นะกริช”

   อธิปเตือนสติเพื่อนสนิท ซึ่งกริชก็ยังคงลังเล แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อหลานชายมายืนข้าง ๆ พร้อมกับบอกออกมาแผ่วเบา

   “ต่อให้เรื่องราวมันจะเลวร้ายสักเพียงไหน  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมจะยืนยันได้ นั่นก็คือ…”

   ตุลาเว้นวรรค สูดลมหายใจเข้าปอด แล้วเงยหน้าขึ้นบอกกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

   “ผมจะไม่มีวันเกลียดอาเด็ดขาด!”

   กริชนิ่งเงียบ ก้มหน้า น้ำตาไหลซึม แล้วจึงเงยหน้าขึ้นฝืนยิ้มมองหลานชายของตน

   “ได้ …อาจะเล่า จากปากของอาเอง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับอา และตุล”

   จากนั้นกริชจึงเริ่มเล่านับตั้งแต่ที่เขาได้รู้จักอธิปทำให้รู้จักศาสตร์การต่ออายุขัยจากอีกฝ่าย และเพราะได้ล่วงรู้จากอธิปว่าตุลาใกล้หมดอายุขัยแล้ว ทำให้ตัวเขาตัดสินใจต่ออายุขัยที่เหลือทั้งหมดให้กับหลานชายคนเดียวเพื่อให้อยู่ต่อไป ส่วนตัวเองก็ไม่อาจไปสู่สุคติเพราะความเป็นห่วงในตัวหลานชาย จนต้องกลายเป็นวิญญาณคุ้มครองเช่นนี้

   พอได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ตุลาก็นิ่งงันไปอย่างคาดไม่ถึง น้ำตาแห่งความเสียใจไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ มองผู้เป็นอาซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรัก ด้วยแววตาปวดร้าว แล้วพึมพำออกมาแผ่วเบา

   “ที่แท้ เพราะผม … ผมเป็นคนทำให้อาต้องตาย…เพราะความผิดของผมเอง…”

   “ไม่ใช่นะตุล! อาเต็มใจเอง อาเต็มใจยอมสละชีวิตของตนเพื่อให้ตุลอยู่ต่อ ตุลเป็นหลานที่อารัก เป็นความหวังของอา …ตุลอย่าโทษตัวเองเลยนะ”

   กริชบอกพลางกอดร่างของอีกฝ่ายแน่นเพื่อปลอบโยน แต่ความจริงที่รับรู้ ดูเหมือนจะหนักเกินกว่าที่ตุลาจะรับได้ ชายหนุ่มพร่ำแต่โทษตัวเองไปมา ราวกับคนเสียสติ

   “ฮึก …เพราะผม…อาครับ …ผมขอโทษ”

   “โธ่! ตุล…อธิป ช่วยฉันหน่อยเถอะ ช่วยพูดกับตุลหน่อย”

   กริชหันไปขอร้องเพื่อนสนิท เพราะเขาไม่รู้จะปลอบโยนหลานให้คลายเศร้าได้อย่างไร ยิ่งเห็นตุลาสำนึกผิดโทษตัวเองแบบนี้ มันยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าที่อีกฝ่ายจะบอกว่าเกลียดเขาเสียอีก

   “เอาเถอะ นี่มันก็เป็นการลงโทษที่หนักหนาสำหรับนายเหลือเกินนี่นะ”

   จากนั้นหมอผีหนุ่มก็เดินไปหาตุลาแล้วจับบ่าอีกฝ่ายไว้แน่น พลางโพล่งใส่เสียงดัง

   “เจ้าหนู! มันไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เป็นเพราะอาเธอไม่ยอมรับในชะตากรรมต่างหากมันถึงได้เป็นแบบนี้ อย่าโทษตัวเองเลยน่า ถ้าจะโทษก็โทษอาเธอเถอะ!”

   ตุลาชะงัก เช่นเดียวกับกริชที่หันไปมองหน้าเพื่อน ที่พูดความจริงอย่างไม่มีอ้อมค้อมและไว้หน้า แต่วินาทีนี้ ขอแค่ให้ตุลาเลิกโทษตัวเองได้ จะให้เขาทำยังไงเขาก็ยอม

   “ใช่แล้วตุล เป็นความผิดของอาเอง จะโทษอา ด่าว่าอาก็ได้ แต่อย่าโทษตัวเองแบบนี้เลยนะ”

   “ไม่ครับ… อาไม่ผิด ผิดที่ผมเอง …ถ้าไม่เพราะช่วยผม …อาก็ไม่…ฮึก…”

   ตุลาพยายามปฏิเสธหัวชนฝา อธิปเห็นดังนั้นจึงแกล้งประชดขึ้นมา

   “ถ้าอย่างนั้นก็เอาอายุขัยเธอคืนให้อาของเธอ แล้วเธอก็ตายแทนดีไหม?”

   “อธิป!”

   “ได้หรือครับ!”

   ทั้งตุลาและกริชเอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมกัน แล้วเป็นกริชที่หันขวับมายังหลานชายของตน

   “ไม่มีทาง! ถึงจะมีวิธีอาก็ไม่ยอมให้ตุลทำแบบนั้นเด็ดขาด!”

   “ทำไมผมจะทำไม่ได้! ทีตอนผม อาให้โอกาสผมได้เลือกบ้างไหม! ถ้าผมรู้มาก่อน ผมจะไม่มีวันยอมให้อาทำแบบนั้น…จะไม่มีวันยอมให้ใช้ชีวิตของคนที่ผมรักที่สุด…เพื่อผมแบบนี้”

   ตุลาตวาดใส่วิญญาณของชายหนุ่มทั้งน้ำตา ทำให้กริชนิ่งอึ้ง แล้วพึมพำเสียงแผ่ว

   “อาขอโทษ ที่ไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของตุล …แต่อาทำเพื่อตุลนะ … อาไม่อยากให้หลานที่อารักต้องมีอันเป็นไปก่อนอา …ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีวิธีที่จะช่วยหลานได้”

   “ถ้าอย่างนั้นผมก็เหมือนกัน …ผมใช้ชีวิตของอามามากเกินพอแล้ว …ถ้าสามารถคืนมันให้กับญาติที่ผมรักมากคนนี้…แล้วทำไมผมถึงจะทำบ้างไม่ได้”

   พอเห็นว่าตุลาทำยังไงก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ กริชจึงหันไปทางเพื่อนสนิทของเขาแทน

   “อธิป…ได้โปรด ยังไงฉันก็ตายไปแล้ว แต่ตุลยังมีชีวิตอยู่ …ขอร้องล่ะ อย่าทำตามที่เขาขอได้ไหม…ฉันกราบล่ะ”

   พอกริชเตรียมจะนั่งก้มลงกราบเท้าตนจริง ๆ ก็ทำเอาอธิปสะดุ้งโหยง แล้วรีบจับมือเพื่อนห้ามเอาไว้ก่อน

   “บ้ารึ! พวกนายอาหลานมันงี่เง่ากันทั้งคู่เลยนะ! ฉันแค่ประชดเท่านั้นเอง ช่วยคนใกล้ตายน่ะยังพอไหว แต่คนตายไปแล้วน่ะ ยังไงก็ช่วยไม่ได้แล้ว!”

   กริชชะงัก สีหน้าดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กลับกันฝ่ายตุลา มีสีหน้าสลดลง แล้วพึมพำถามหมอผีหนุ่มแผ่วเบา

   “ไม่มีจริงหรือครับ …วิธีที่จะช่วยอากริชได้…”

   อธิปมองชายหนุ่มอ่อนเยาว์ตรงหน้าเขา แล้วถอนหายใสแผ่วเบา ก่อนจะตอบสั้น ๆ

   “มันก็มีอยู่หรอก”

   “จริงหรือครับ!” ตุลารีบโพล่งถาม ด้วยความตื่นเต้น

   “อืม…ก็”  อธิปเว้นวรรค เหลือบมองเพื่อนสนิทของตนที่มีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก หนุ่มใหญ่ยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงหันไปทางตุลา

   “ก็แค่เธอทำตัวเป็นคนดี ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ให้สมกับที่อาของเธอยอมเสียสละชีวิตของเขา เพื่อให้เธอคงอยู่แทน ยังไงล่ะ”

   กริชนิ่งอึ้ง เขาพึมพำขอบคุณเพื่อนของตนแผ่วเบา ส่วนตุลานิ่งเงียบไปสักพัก กำหมัดแน่น พยายามกลั้นสะอื้น แล้วหันมาทางอาของตน

   “อากริชครับ …ผม….ผมจะเป็นคนดีอย่างที่อาหวัง…”

   “ตุล…”

   “ฮึก…อากริช!”

   ตุลาโผเข้าหาร่างวิญญาณของอีกฝ่ายที่ก็กอดรับร่างนั้นแน่นไม่แพ้กัน  ตุลาร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาอีกครั้งอย่างกลั้นไม่อยู่ แต่เขาก็ไม่โทษตัวเองเหมือนก่อนหน้านั้นอีกแล้ว อธิปยิ้มให้กริชที่หันมามองเขาแล้วพึมพำคำขอบคุณ ก่อนจะขอตัวออกไปจากห้องทิ้งให้อาหลานปรับความเข้าใจกันตามลำพัง

   

   ทางด้านนอกห้อง พอออกมาหมอผีหนุ่มก็ต้องชะงัก เมื่อพบกับพาทิศที่มีท่าทีว่ากำลังยืนรอเขาอยู่

   “เรากำลังจะดื่มชากับทานของว่างรอบดึก คุณสนใจไปปาร์ตี้กับพวกเราไหมครับ”

   อธิปเลิกคิ้วน้อย ๆ แล้วแสร้งถามอีกฝ่ายลองเชิง

   “หือ…แล้วต้องให้เรียกสองคนข้างในนี่ไปด้วยไหม?”

   พาทิศยิ้มเจ้าเล่ห์รับ แล้วสั่นศีรษะเบา ๆ

   “อย่าดีกว่าครับ ผมไม่อยากขัดจังหวะฉากซึ้ง ๆ ของคนอื่น”   

   คำตอบของพาทิศทำให้หมอผีหนุ่มหัวเราะเบา ๆ เพราะเขาเองก็คิดมานานแล้วว่า ซอมบี้หนุ่มผู้นี้นั้น รู้เรื่องเกี่ยวกับสมาชิกในคฤหาสน์นี้มากกว่าที่หลายคนคิด

   “หึ! คุณนี่ก็นะ… มิน่านายกริชถึงไม่ค่อยชอบหน้าเท่าไหร่”

   “เขาบอกคุณอย่างนั้นหรือครับ”

   พาทิศแกล้งถาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยักไหล่

   “มองก็รู้แล้ว แต่กรณีคุณนี่บวกเรื่องที่ชอบไปคลอเคลียสนิทกับหลานเขาเกินจำเป็นด้วยล่ะนะ”

   พาทิศหัวเราะในลำคอ เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย แล้วจึงชวนอธิปไปคุยด้านล่างแทน เพราะการนินทาวิญญาณอื่นเผาขนระยะใกล้ชิดแบบนี้ มันคงไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งอธิปเองก็เห็นด้วย และรีบเดินตามไป เพราะได้ยินเสียงกระแอมเบา ๆ จากวิญญาณหนุ่มในห้องที่ดังออกมานั่นเอง




.... TBC ...


ไงค้า เป็นอย่างที่หลายท่านคิดกันไหม หุ ๆ  บางท่านอาจคิดว่า ยมทูต(อธิป)แต่งตัวเท่ห์เกิน พอดี นิยายปัดอีกเรื่องปัดเขียนให้บรรดายมทูตทั้งหลาย ใส่สูท ผูกไทค์ รับวิญญาณน่ะค่ะ (ถือเคียวเป็นอาวุธ) เลยติดมาใช้ด้วย ก็นะ สมัยนี้เค้าพัฒนาแล้ว~~ ก็ต้องแต่งให้สมยุคหน่อยหุ ๆ

ขอบคุณนักอ่านที่ติดตามเรื่องนี้กันมาเรื่อย ๆ นะคะ  อ่านคอมเมนต์แต่ละคนก็อมยิ้ม บางทีก็หลุดฮาได้อีก ช่วยให้คลายเครียดและมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยค่ะ
 :pig4:

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-07-2011 12:42:25
สรุปว่าโดนต้มทั้งอาทั้งหลาน
อธิปขี้แกล้งเหมือนกันนะเนี่ย
2 อาหลานเค้าก็ซึ้งกันไป
เด๋วอธิปและพักพวกจะยกทีมไปนินทากันที่อื่นแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 22-07-2011 13:07:22
โดนต้ม!!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-07-2011 13:13:43
โห อธิปเล่นขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย ตุลจะไม่ร้องไห้แย่เหรอ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 22-07-2011 13:18:05
ในที่สุดอากริชก็ยอมสารภาพความจริงกับตุลซะที :เฮ้อ:
แต่ละคนคิดว่าตัวเองให้สิ่งที่คิดว่าดีที่สุดแล้วกับคนที่ตัวเองรัก
แต่ไม่ได้คิดเลยว่าคนที่รับเขาอยากที่จะรับมันหรือเปล่า
นี่ละนะ รักมาก ห่วงมาก จึงทุกข์มาก :amen:
จัดพ่อซอมบี้แบบเต็มๆให้ซักตอนได้มั้ยจ๊ะ :impress:
หลงเสน่ห์ความลึกลับและเจ้าเล่ห์ของพ่อซอมบี้ตนนี้เข้าเต็มเปาเลยอ่า
อยากรู้จักซอมบี้พาทิศมากกว่านี้ :m1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 22-07-2011 13:33:24
โดนหลอกตามๆกัน แต่ตุลก็เก่งนะที่รู้ว่าเป็นอธิปขนาดอากริชยังไม่รู้เลย
ดีใจที่อากริชยอมบอกความจริงซะที ทีนี้คนที่น่าจะมีความลับมากที่สุดคงเป็นพาทิศซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 22-07-2011 14:23:06
อาหลาน รักกันๆ ทำไมหลังๆยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า ออร่าเมะของอธิปกับพาทิศแรงขึ้นๆแล้วก็เจ้าเล่ห์ขึ้นด้วยนะ :laugh:
บวกๆให้กับความขยันของคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 22-07-2011 14:30:01
อธิปหลอกซะเหมือนเชียว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 22-07-2011 16:47:20
คุณอธิ๊ปปปป ทำซะตกใจเชียว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-07-2011 17:12:29
ว้าว ตุลรู้ความจริงแล้ว แต่อยากรู้เหตุการ์ณตอนพาทิศอะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-07-2011 17:20:51
ตอนนี้เล่นเอาน้ำตาไหลเลย :sad11:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 22-07-2011 17:36:35
สนุกมากมายมาต่ออีกนะครับ :L1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 22-07-2011 18:33:02
สมกับเป็นหมอผี หลอกทั้งคนหลอกทั้งผี หลอกคนอ่านให้ใจแป้วอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 22-07-2011 21:14:09
เฮ้ๆ คุณพาทิศแน่ใจนะว่าแค่เอนกูน่ะ :z1:
โดนโตมซะเปือยจนยุ้ยเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-07-2011 21:17:37
อธิปร้ายกาจที่สุดดด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 22-07-2011 21:28:59
ความรักของอากับหลานทำเราซึ้งเลยละ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 22-07-2011 21:30:15
อธิปเล่นแร๊งงง  :o
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-07-2011 21:33:20
^^
คุณอธิปหลอนได้อีก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 22-07-2011 22:30:44
พาทิศแสดงออกไม่แคร์สื่อจริงๆ อยากรู้จังเกิดอะไรขึ้นที่ด่านของพาทิศ   :o8:

ขอบคุณนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 22-07-2011 22:52:23
โหหห ตกใจหมดเลยนึกว่ายมทูตจริง :เฮ้อ:
ทำเหมือนไปนะ คุณอธิป  :z6:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 22-07-2011 23:39:43
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 16 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กกะโปโล ที่ 23-07-2011 02:24:51
ไล่อ่านยันตี2ทันจนได้ :try2:

ว่าแล้วเชียวว่าเป็นอธิปแน่ๆ (แต่ท่านยมเวอร์ชั่นผ้าคลุมดำ+เคียวนี่อินเตอร์มากฮะ XD)
ตุลได้รู้ความจริงของตัวเองกับอากริซซะที แต่ละคนจะได้ไม่ค้างคาใจกันและ

พาทิศล่วงละเมิดตุลหลายครั้งแล้วนะเนี่ย >///<
ชอบตอนที่สวมบทพ่อบ้านแล้วเรียกตุลว่า "นายน้อย" อ้ะ!! :m3:
สารภาพว่าตอนแรกสุดเลยคิดว่าตัวเอกจะเป็นวิญญาณที่ยังไม่ออกมาซะอีก (แอบจิ้นว่าเด็กกว่าตุล อยากเห็นคนกดผี o17)

ผีทุกตนน่ารักมาก แต่ส่วนตัวชอบปิ่นสุดาที่สุดฮะ

+1ให้คุณปัดนะฮะ เป็นกำลังใจให้นะ
มาต่อไวๆนะคร้าบ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 23-07-2011 10:09:45
ม่านราตรี
บทที่ 17



   หญิงร่างท้วมวัยกลางคนซึ่งนั่งข้าง ๆ ชายแก่รูปร่างผอมสูง ผู้เป็นสามี กำลังทำตาโต มองหนุ่มน้อยตรงหน้าซึ่งกำลังนับเงินแบงค์พันปึกหนึ่ง แล้วยื่นส่งมาให้เธอ

      “ผมอยากจะจ่ายเป็นเงินก้อนล่วงหน้าไว้เลย เพราะบางครั้งผมอาจจะยุ่ง ๆ จนลืม จะได้ไม่ทำให้คุณป้าเดือดร้อน”

      แม้นศรีรีบหยิบเงินก้อนโตมานั่งนับอย่างละเอียด พอเห็นว่าครบ เจ้าหล่อนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วแสร้งปั้นยิ้มส่งให้กับตุลา พร้อมกับยื่นสัญญาเช่าบ้านต่ออีกครึ่งปีส่งให้กับชายหนุ่ม

   “แหม! พ่อหนุ่ม ช้านิดช้าหน่อยป้าไม่ว่าหรอกจ้ะ ได้ผู้เช่าชั้นดีอย่างพ่อหนุ่มที่ช่วยปรับปรุงบ้านแถมให้ฟรี ๆ แบบนี้ ป้าละดีใจ๊ดีใจ ถือเป็นบุญของป้าเชียวนะ …แต่แหม ตั้งใจจะอยู่แค่ปีเดียวจริง ๆ หรือจ๊ะ ไม่เช่าต่อสักหน่อยหรือ …อ๊ะ ถ้าครบปีแล้วอยากซื้อบ้านล่ะก็ ติดต่อป้าได้นะ รับรองป้าขายได้ในราคาน่าสนใจทีเดียว!”

   ตุลายิ้มเจื่อน ๆ ให้กับอีกฝ่ายที่พูดน้ำไหลไฟดับตรงหน้าเขา ความจริงแล้วเขาก็สนใจที่จะเช่าต่อ ถ้าเขียนนิยายได้สำเร็จ และก็อยากซื้อคฤหาสน์ม่านราตรีมาเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ ถ้ากริชอนุญาต เพราะสมบัติที่กริชมอบให้ไว้ก็มีมูลค่ามหาศาลมากพอจะซื้อได้อยู่แล้ว หรือถ้าขาดเหลืออะไร เขาก็คงจะขอแม้นศรีผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ ก็คงพอไหว

   “คงแค่ปีเดียวล่ะครับ แต่ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจะรีบติดต่อคุณป้าอีกทีนะครับ”

   ตุลาเลี่ยงตอบ ซึ่งคำตอบของเขาก็ทำให้หญิงวัยกลางคนยิ้มแย้มอย่างมีหวัง

   “จ้า งั้นป้าจะรอข่าวดีนะจ๊ะ”

   “ถ้าอย่างนั้นผมขอลากลับล่ะครับ สวัสดีครับคุณป้า คุณลุง”

   ตุลายกมือไหว้ทั้งแม้นศรีและสามีอย่างมีมารยาท ซึ่งทั้งคู่ก็รับไหว้ แล้วออกไปส่งอีกฝ่ายถึงหน้าประตูบ้านของพวกตน

   “เป็นเด็กดีมีมารยาทจริงนะ”

   จอมพลผู้เป็นสามีของแม้นศรีเอ่ยชม ซึ่งฝ่ายภรรยาก็เสริมขึ้นบ้าง

   “ใช่ แถมยังรวยมากด้วย มีใครที่ไหนจะลงทุนปรับปรุงบ้านเช่าให้ฟรี ๆ แบบนี้  แหม! โชคดี๊ โชคดี ที่เขายอมเช่าตั้งปีนะคุณ ไม่อย่างนั้นฉันต้องเสียเงินดูแลบ้านสัปปะรังเคนั่นอีกตั้งหลายเดือน จนกว่าจะครบสิบปีตามพินัยกรรมที่คุณพ่อคุณเขียนไว้”

   จอมพลเหลือบมองภรรยาแล้วลอบถอนหายใจกับความงกของอีกฝาย พลางหวนนึกถึงพินัยกรรมที่บิดาให้ไว้ก่อนจะเสียชีวิต ว่าห้ามขายคฤหาสน์ม่านราตรีให้ใคร จนกว่าจะครบสิบปีหลังจากที่ตนตาย นั่นทำให้แม้นศรีภรรยาของเขาหงุดหงิดยิ่งนัก เพราะเธอไม่ชอบบรรยากาศคล้ายบ้านผีสิงของบิดาเขาหลังนี้ แถมพอเปิดเช่าก็ยังมีข่าวลือว่าเฮี้ยนตลอด จนแทบจะไร้คนเช่า มีรายตุลานี่ล่ะที่สามารถอึดและแจ้งความจำนงอยู่ต่อ รวมถึงจ่ายเงินค่าเช่าล่วงหน้าให้ก่อนเช่นนี้

   “แต่ผมก็ยังสงสัยถึงพินัยกรรมเกี่ยวกับที่ดินผืนนั้นอีกหนึ่งฉบับ ที่คุณพ่อสั่งให้เปิดหลังสิบปีนั่น ว่ามีอะไรกันแน่”

   แม้นศรีหันไปมองสามีแล้วเบ้หน้า ก่อนจะทำเป็นขึ้นเสียงสูงใส่

   “จะมีอะไรล่ะคะ อย่างดีคุณพ่อของคุณก็คงสั่งเสียว่า ให้นำรายได้จากการที่ดินผืนนั้นไปทำบุญสักสิบยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของที่ขายได้ เฮอะ! คุณก็รู้ว่าท่านน่ะใจบุญขนาดไหน ไม่ว่าใครมาขอบริจาค จะจริงหรือจะหลอกก็ให้เขาเสียหมด!”

   จอมพลมองภรรยาของเขาประชดบิดาที่เสียชีวิตไปแล้วอย่างเอือมระอา แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “แล้วถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ล่ะ คุณจะยอมไหม?”

   “อู๊ย! ไม่ยอมก็ต้องยอมล่ะคุณ ถ้าพินัยกรรมสั่งเสียมาแบบนั้น เอาเถอะ! ฉันขอแค่ขายที่ดินน่าขนลุกนั่นให้ไปพ้นจากความรับผิดชอบดูแลได้ ก็พอใจแล้ว  อีกอย่างที่ดินกว้างขนาดนั้น ก็คงได้มากโขอยู่ ยอมเสียค่าโน่นนี่นิดหน่อย แต่ได้เงินก้อน ฉันก็พอใจแล้วล่ะค่ะ”

   แม้นศรีบอกกับสามีแล้วยิ้มเล็กยิ้มน้อย อย่างคาดหวังถึงอนาคตอันสวยหรู แต่จอมพลกลับไม่เป็นเช่นนั้น เขาสังหรณ์ใจประหลาดบางอย่าง เพราะนอกจากที่ดินผืนนั้น พินัยกรรมทรัพย์สมบัติอย่างอื่นของบิดาก็มอบให้เขากับภรรยาตามปกติ เฉพาะที่นั่นเท่านั้น ที่พิเศษกว่าเพื่อน ไม่ว่าเรื่องระยะเวลาและพินัยกรรมที่ยังไม่เปิดอีกฉบับนั่นก็ตาม

   

     ยามบ่ายของคฤหาสน์ม่านราตรี ทันทีที่เจ้าของคฤหาสน์ชั่วคราวเปิดประตูบ้านเดินเข้ามาในห้องรับแขกได้ก้าวสองก้าว เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกและเกือบจะเผลอหลุดตะโกน เมื่อแมวดำตนหนึ่งกระโดดพุ่งจากชั้นสอง ตกมายังพื้นแหมะที่ตรงหน้าเขาพอดี

   “กลับมาแล้วหรือตุล! เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม!”

   รุ้งพรายทักทายอย่างร่าเริง หางสองหางก็แกว่งไกวไปมา

   “ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ยังไงก็นั่งแท็กซี่ไปทั้งขาไปแล้วก็ขากลับอยู่แล้ว”

   ตุลาบอกยิ้ม ๆ แล้วจึงสะดุ้งโหยงนิด ๆ เมื่อมีมือใครบางคนมาสัมผัสที่ไหล่ของเขา

   “เดินทางมาเหนื่อย ๆ  กินน้ำก่อนสิ วันนี้ฉันต้มน้ำใบเตยไว้ให้เธอด้วยนะ”

   พาทิศบอกแล้วยิ้มให้ ตุลาหน้าแดงนิด ๆ แล้วขยับถอยไปก้าวหนึ่งก่อนจะรับน้ำในมือของอีกฝ่ายมา พลางพึมพำขอบคุณเบา ๆ

   “ยังไม่หายกลัวอีกหรือไง ก็แค่แกล้งแหย่นิดหน่อยเอง”

   “คุณพาทิศ!”

   ตุลารีบเรียกชื่ออีกฝ่าย เป็นการปรามไม่ให้ซอมบี้หนุ่มพูดอะไรมากไปกว่านั้น แต่ไม่ทันรุ้งพรายที่ความรู้สึกไว ปีศาจแมวสาวรีบซักไซ้อีกฝ่ายในทันที

   “มีอะไร เกิดอะไรขึ้น นายทำอะไรตุล หือ พาทิศ?”

   “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่ตอนฉันจับเก้าอี้ให้ตุลเปลี่ยนหลอดไฟในห้องน้ำชั้นบนเมื่อวาน แล้วตุลเสียหลักล้มลงมาฉันก็เอาตัวรองเป็นเบาะรับไว้ให้ก็แค่นั้นเอง”

   ซอมบี้หนุ่มเล่าเรื่อย ๆ แต่คนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์นั้นหน้าแดงขึ้นไปอีก เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้นที่อีกฝ่ายไม่ได้เล่าต่อมานั่นก็คือ เขาที่ล้มลงไปทับเจ้าตัวในท่าคร่อม พอจะลุกขึ้นก็โดนพาทิศรั้งเอาไว้ แถมยังใช้มือข้างหนึ่งรั้งที่ท้ายทอยเขาบังคับให้โน้มใบหน้าลงมา แล้วขโมยจูบเขาอีกครั้งจนได้

   โชคดีที่เมื่อวานกริชไม่อยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงมีเรื่องให้โวยวายตามมากันอีกยาวเป็นแน่

   “จริงสิครับคุณรุ้ง อากริชกับคุณอธิปกลับมาหรือยังครับ”

   “หือ...ยังหรอก แต่ลุงนั่นโทรมาบอกว่า สักตอนเย็น ๆ จะมาถึงน่ะ”

   เมื่อสองวันก่อน อธิปมีธุระต้องไปจัดการที่บ้านเก่า เพราะคนรู้จักโทรมาขอร้องให้เขาไปช่วยไล่ผีที่คอยตามรังควาน หลอกหลอน ในบ้านที่เพิ่งซื้อต่อมาจากคนอื่น อธิปจึงดึงกริชไปเป็นลูกมือด้วย ทีแรกกริชไม่ยอมไป แต่พอเจอเหตุผลว่าถ้ายังขลุกอยู่ใกล้หลานอยู่แบบนี้ สักวันจะตัดใจจากไปง่าย ๆ ได้ยังไง ก็ทำให้กริชยอมตกลง ถึงแม้เหตุผลหลักจริง ๆ ก็คือ อธิปแกล้งขู่ว่าจะไม่ช่วยดูฮวงจุ้ยที่พักให้กับตุลาอีก จึงทำให้กริชยอมไปด้วยอย่างเสียไม่ได้

   “อืม...งั้นผมขึ้นไปแต่งนิยายรอก่อนแล้วกันครับ เหลืออีกไม่กี่เดือนเอง จะเสร็จทันหรือเปล่าก็ไม่รู้”

   ตุลาพึมพำ ซึ่งก็ทำให้รุ้งพรายเอียงคอมองอีกฝ่ายอย่างสงสัย

   “แล้วถ้าตุลเขียนเสร็จไม่ทันจริง ๆ ล่ะ?”

   “ผมก็คงต้องเลิกเช่าที่นี่แล้วหอบผ้าหอบผ่อนกลับบ้านเดิมน่ะสิครับ”

   ตุลาบอกแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ทำให้ปีศาจแมวสาวอ้าปากเหวอ เพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่าตุลาจะเขียนนิยายด้วยเงื่อนไขเช่นนี้

   “ผมตกลงกับพ่อไว้คนละครึ่งทางน่ะครับ ถ้าภายใน 1 ปี ผมเขียนนิยายไม่เสร็จ และไม่ผ่านการพิจารณากับสำนักพิมพ์ ผมก็จะต้องกลับบ้านไปเรียนต่อ ตามที่พ่ออยากให้เรียน”

   “บ้า ๆ ๆ เรื่องแบบนี้ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้เล่า ถ้าตุลโดนพาตัวกลับไป พวกฉันจะทำยังไง รู้งี้ไม่ชวนเที่ยวเล่น หรือแกล้งแหย่ ตอนตุลเขียนนิยายก็ดีหรอก!”

   รุ้งพรายโวยวาย แล้วรุกรนไปมาจนตุลานึกขำ

   “ไม่ต้องห่วงครับคุณรุ้ง ผมจะตั้งใจเขียนให้เต็มที่ ...เพราะผมอยากจะอยู่ที่นี่กับทุกคนตลอดไป ...เอ่อ...คือ ผมตั้งใจไว้ว่า ถ้าครบปี แล้วผมประสบความสำเร็จ ...ผมจะขอซื้อคฤหาสน์นี้จากคุณนายแม้นศรี ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของผมน่ะครับ”

   พอตุลาบอกความตั้งใจของตัวเองเสร็จ รุ้งพรายก็ชะงัก แล้วกระโดดพุ่งเกาะร่างของชายหนุ่มอย่างยินดี พร้อมกับคลอเคลียไม่ห่าง

   “จริง ๆ นะ สัญญาแล้วนะ! ฉันจะไปบอกปิ่นกับราตรีให้รู้เดี๋ยวนี้ล่ะ พวกเราจะได้ช่วยกันร่วมมือให้ตุลเขียนนิยายให้สำเร็จให้ได้!”

   บอกจบเจ้าหล่อนก็กระโจนแผล็วหายไปทางสวนหลังบ้าน ทำเอาตุลาตามแทบไม่ทัน

   “เป็นความคิดที่วิเศษมาก ...ถ้าคุณจอมเดชยังอยู่ เขาก็คงยินดีที่เธอรักคฤหาสน์หลังนี้ และทุกคนที่นี่ไม่แพ้เขา”

   พาทิศบอกกับชายหนุ่ม ซึ่งตุลาก็หันไปมองอีกฝ่ายแล้วแย้มยิ้มอ่อนโยนตอบ

   “ผมเองก็ดีใจครับ ที่ทุกคนที่นี่ยอมรับในตัวผมแบบนี้ ...ผมมีความสุขจริง ๆ ครับ ที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคนแบบนี้”   

   “แล้วฉันจะรอวันที่เธอจะกลายมาเป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีเต็มตัวนะตุล”

   พาทิศบอก ซึ่งตุลาก็หัวเราะเจื่อน ๆ พลางเกาแก้มอย่างเขิน ๆ

   “ยังไงก็จะพยายามล่ะครับ ผมเองยังไม่รู้เลยว่า ทางนั้นจะคิดมูลค่าคฤหาสน์และที่ดินผืนนี้เท่าไหร่ เงินของอากริชที่เหลือจะพอซื้อไหม ถ้าไม่พอ ก็คงต้องผ่อนใช้เอา แต่ไม่รู้ว่าทางคุณนายแม้นศรีจะยอมหรือเปล่า”

   ซอมบี้หนุ่มยืนฟังอีกฝ่ายเปรยบ่นอย่างกังวล ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้ทุกข์ร้อนตามไปด้วยอย่างที่คิด

   “ไม่ต้องห่วง ...พอเวลานั้นมาถึง เธอจะพบว่า ปัญหาที่เธอกังวลนั่น มันไม่ได้หนักหนาอะไรอย่างที่เธอคิดเลยสักนิด”

   พาทิศเปรยทิ้งท้ายแล้วขอตัวกลับห้องใต้ดิน ทิ้งให้ตุลายืนงงอยู่ลำพัง แต่สักพักชายหนุ่มก็ต้องสลัดความคิดฟุ้งซ่านดังกล่าว แล้วมุ่งขึ้นยังห้องนอนเพื่อทำการเขียนนิยายของตนต่อไป

   

   เวลาล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว สามเดือนหลังจากนั้น นิยายของตุลาเขียนจบสมบูรณ์จนได้ ชายหนุ่มส่งผลงานไปยังสนพ.ชื่อดังแห่งหนึ่งที่พิมพ์นิยายแนวสยองขวัญ ลึกลับโดยเฉพาะ แล้วลุ้นรอผลด้วยใจระทึกในอีกสามเดือนที่เหลือ

   “ผ่านแน่น่า ไม่ต้องห่วง ตุลเขียนสนุกออก ฉันรับรอง!”

   รุ้งพรายให้กำลังใจชายหนุ่มที่ผุดนั่งผุดลุกตลอดเวลาในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หลังส่งต้นฉบับไป

   “แต่ผมไม่ค่อยมั่นใจเลยครับ...อีกอย่างถ้านิยายไม่ผ่าน ผมคงต้องกลับบ้าน และจากทุกคนไป”

   ตุลาพึมพำด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จนภูตผีตนอื่นที่มาล้อมวงให้กำลังใจชายหนุ่มภายในบ้านต้องสบตากัน

   “ตุลไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวอาไปพูดกับพี่ไกรให้เองก็ได้”

   ตุลาหันขวับไปยังอาของเขา แล้วขมวดคิ้วนิด ๆ

   “แต่ว่า...แล้วอาจะ...”

   “ก็เข้าฝันไง ไม่เห็นยาก อย่าห่วงเลย เรื่องที่ตุลจะต้องจากที่นี่ไปน่ะ ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว ยกเว้นตุลจะเบื่อที่นี่เอง ถ้าเป็นอย่างนั้นอาก็คงห้ามลำบาก”

   กริชบอกยิ้ม ๆ ทำเอาสมาชิกตนอื่น ๆ มองเขานิ่ง แล้วหันไปทางตุลา

   “ตุลคงไม่คิดเบื่อพวกเราหรอกใช่ไหม?”

   รุ้งพรายขู่ ซึ่งตุลาก็มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม และไล่มองคนที่เหลือซึ่งก็มองเขาอย่างกังวลเช่นกัน

   “ผมไม่เบื่อพวกคุณหรอกครับ ...เอาล่ะครับ ผมจะพยายามคิดในแง่ดี และถึงครั้งนี้จะไม่ผ่าน ผมก็จะนำผลงานที่ผมตั้งใจเขียนชิ้นนี้ให้พ่ออ่าน  พ่อจะได้รู้ว่าผมทุ่มเทเพื่อมันมากแค่ไหน”

   ตุลาบอกพร้อมรอยยิ้มที่ดูดีขึ้น จนภูตผีตนอื่นโล่งใจไปตาม ๆ กัน

   “เป็นคนโชคดีจังนะเป็นที่รักของผี ๆ แบบนี้ ฉันเสียอีกเป็นหมอผีแท้ ๆ มีแต่ผีไม่ชอบขี้หน้า”

   อธิปเปรยขึ้นบ้าง แต่หน้าตาไม่ได้บ่งบอกถึงความอิจฉาอะไร ตรงข้ามกับยิ้มแย้มร่าเริงเสียด้วยซ้ำ

   “ก็ช่วยไม่ได้นี่ ก็ลุงน่ะถนัดจับพวกฉันมากกว่าเป็นเพื่อนนี่นา พวกผี ๆ อย่างพวกฉันไม่ชอบลุงก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว!”

   รุ้งพรายโต้ตอบอย่างหมั่นไส้ ส่วนราตรีก็เชิดใส่ เพราะไม่ชอบที่อธิปชอบทำล้อเลียนเจ้าชู้ใส่เธอแบบทีเล่นทีจริงอยู่ประจำ ส่วนปิ่นสุดายิ้มน้อย ๆ อย่างนึกขำ เธอไม่ได้รังเกียจอะไรอธิปนัก เพราะเขาเป็นคนคุยสนุก และมักจะมีมุขเฮฮามาทำให้ขำอยู่เสมอในการสนทนา

   “จะว่าไปได้อยู่กินกับผีเป็นโขยงแบบนี้ ลองไปเล่าให้ใครฟังก็ไม่มีใครเชื่อหรอกนะ ดีแล้วล่ะที่ถ่ายทอดออกมาเป็นแบบนิยายแทน”

   อธิปหันไปบอกกับหลานชายของเพื่อนสนิท ซึ่งตุลาก็พยักหน้ารับค่อย ๆ

   “ครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น เวลาพวกเพื่อน ๆ มา ผมถึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น แล้วก็ไม่คิดบอกเรื่องนี้กับพวกเขา”

   “ดีแล้วล่ะ บางเรื่องเราก็ไม่ควรเผยแพร่ออกไป เพราะมันอาจจะนำอันตรายมาสู่ตัวเราและคนที่เรารู้จักก็ได้”

   หมอผีหนุ่มตบบ่าชายผู้อ่อนวัยกว่า แล้วจึงขอตัวไปนอนพักผ่อนบนห้องก่อน ปล่อยให้ตุลานั่งคุยสนทนากับภูตผีตนอื่นในบ้านไปตามสบาย ฝ่ายกริชนั้นเห็นหลานชายมีเพื่อนคุยแล้ว เขาก็ตามอธิปขึ้นไปบนห้อง แล้วเริ่มต้นคุยธุระกับชายหนุ่ม

   “อธิป ...นายคิดว่าไง ถ้าจะเลิกทำงานพวกหมอผีพวกนั้น แล้วมารับงานจากฉัน...อย่างเช่น คอยดูแลตุลแทนฉัน อะไรแบบนั้น”

   หนุ่มใหญ่ที่กำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ หันไปมองคนพูดแล้วยักไหล่นิด ๆ พลางสั่นศีรษะไปมาอย่างเอือมระอา

   “นายกริชเอ๊ย นี่ใจคอจะให้ฉันคอยดูแลตามประกบหลานนายยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยหรือไง!”

   “ไม่ใช่แบบนั้น ...คือ ฉันเกรงใจที่นายต้องทิ้งบ้านมาคอยช่วยดูแลตุลแบบนี้ ...อีกอย่างงานหมอผีอะไรของนายนั่นมันก็ไม่ได้มั่นคงนัก... ฉันไม่ได้อยากเอาเปรียบนายแค่ฝ่ายเดียว ต่อไปนี้ฉันจะให้ตุลจ่ายเงินเดือนให้นาย โดยนายก็ทำหน้าที่คอยดูแลตุลบ้าง ดูแลบ้านหลังนี้บ้างยังไงล่ะ ถ้าพี่ไกร เห็นว่ามีผู้ใหญ่อยู่ด้วย แถมยังเคยเป็นคนรู้จักของฉัน จะได้วางใจให้ตุลอยู่ที่นี่ตลอดไปได้สักที”

   คำพูดของเพื่อนทำให้อธิปขมวดคิ้วพลางย้อนถาม

   “ตลอดไป? แต่ครบปีนี้ เจ้าหนูก็หมดสัญญาเช่าแล้วนี่ หรือว่านายจะให้เค้าซื้อคฤหาสน์หลังนี้ต่อ เงินมรดกนายเหลือเฟือนักหรือไง ถ้ายายคุณนายนั่นเกิดโก่งราคา ตุลไม่ต้องเป็นหนี้หัวโต คอยผ่อนบ้านไปด้วย จ่ายเงินเดือนฉันไปด้วยหรอกหรือ?”

   กริชแย้มยิ้มกับคำแย้งของเพื่อน เขาเดินไปเรื่อย ๆ เปิดม่าน และออกไปตรงระเบียงนอกห้องของอธิป ก่อนจะหันกลับมามองเพื่อนของตน

   “เรื่องเงินไม่ต้องห่วง อีกไม่นาน ตุลจะได้คฤหาสน์หลังนี้มาเป็นกรรมสิทธิ์ครอบครองอย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียว แล้วถึงตอนนั้นเงินมรดกฉันที่เหลือ ก็เอาไว้จ้างนายยังไงล่ะ”

   อธิปขมวดคิ้วยุ่งยิ่งขึ้นไปอีก เขาเดินไปหาเพื่อนแล้วถามอย่างสงสัย

   “นายกริช นายคิดจะอมพะนำกับฉันไปถึงตอนไหน มาพูดให้ฟังแบบนี้ มันก็ยิ่งอยากรู้สิวะ!”

   กริชหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เขาลอยผ่านร่างของอธิปไปวูบหนึ่ง ไปยังประตูห้อง และก่อนจะเดินทะลุประตูหายออกไป ชายหนุ่มก็หันกลับมาบอกกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม

   “รออีกไม่กี่เดือนนายก็รู้เองนั่นล่ะ”

      


.... TBC ....

ตอนหน้าใครรอพ่อซอมบี้หนุ่มแบบจัดเต็ม มีเฮค่ะ ~ 

ตามเนื้อเรื่องเดิมก็ใกล้จบแล้วค่ะ  แต่ยังอยากแต่งต่อนิ หึๆ  ไว้ใกล้ ๆ จะมาหยั่งเสียงอีกทีเนาะ ว่าจบแบบนี้มันดีอยู่แล้ว หรืออยากรู้เรื่องราวหลังจากนั้นดี ....เจอกันตอนหน้านะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 23-07-2011 10:56:03
เข้ามารอพาทิศจัดเต็มหนูตุลในตอนหน้า :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 23-07-2011 11:19:07
สนุกๆๆมากมายและน่าติดตามอ่าน ขอบคุณครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-07-2011 11:36:45
จัดเต็ม โอ้วว รอมานานคำๆนี้ แต่ว่าจัดเต็มเรื่องไหร่หว่า หุหุ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 23-07-2011 11:39:54
เดาได้ไม่ยากเลยแหะ
ว่าพินัยกรรมที่ยังไม่เปิดจะเขียนไว้เรื่องอะไร

รอคุณพาทิศตอนหน้า :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 23-07-2011 11:59:13
อย่าให้แขน ขา หัว พาทิศหลุดอีกละ :a5: เดียวเสียบรรยากาศหมด :m20:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 23-07-2011 12:08:11
จัดเต็มจริงๆ น้า อย่าหลอกกันน้า   :-[

ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 23-07-2011 12:10:47
ใกล้จะจบแล้วหรือคะ ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
รอลุ้นให้นิยายของตุลผ่านการพิจารณาเร็วๆนะ จะได้อยู่ที่นี่ต่อ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 23-07-2011 12:17:25
พินัยกรรม 10 ปีสินะ

เกี่ยวกับการครอบครองโดยปรปักษ์รึเปล่า แต่ไม่น่าใช่เพราะตุลามาเช่าแค่ปีเดียว

แถมเป็นการเช่าด้วย ไม่ใช่การครอบครองโดยปรปักษ์แบบมีเงื่อนไข

คือ 1 ใช้ประโยชน์จากที่ดิน (อันนี้ใช้)

2 แสดงตัวและทราบกันโดยทั่วไปว่ามีเจตนาเป็นเจ้าของ(อันนี้ใช้ไ่ม่ได้ถึงจะแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเพราะติดอยู่ในสัญญาเช่่า)

3 ครอบครองที่ดินนั้ัน 10 ปี(ในกรณีอสังหาริมทรัพย์) และ 5 ปี (ในกรณี สังหาริมทรัพย์) (อันนี้ปีเดียวเอง??)

4 ที่ดินนั้นไม่ใช่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งเอาอายุความมาเป็นข้อต่อสู้ไม่ได้(ข้อนี้ผ่านเพราะเป็นที่ดินส่วนบุคคล)

เอหรือเรื่องมันจะพลิกหว่า หึหึ พินัยกรรมนั้นยกให้คนเช่าแน่เลยอ่ะ ><
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-07-2011 12:38:46
ว้าวว้าว พาทิศจัดเต็ม
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: doll@love ที่ 23-07-2011 13:40:04
รอ พาทิศจัดเต็ม ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 23-07-2011 14:16:10
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 23-07-2011 14:39:12
จัดเต็มชอบคำ คำนี้จริงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: berlyn ที่ 23-07-2011 15:44:31
จัดเต็ม...หมายความว่าไงคะ? หึๆ!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 23-07-2011 15:45:51
อากริชก็ยังมีความลับต่อไป
พาทิศขี้ขโมยกอด หอมแก้ม จูบ แต่ชอบ555
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 23-07-2011 17:03:21
พาทิศมาเต็ม หลอกแบบเต็มๆหรือสวีทเต็มๆคะ (ฮา)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 23-07-2011 17:22:09
มารอ เฮ กับ พาทิศคับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 23-07-2011 17:25:45
คุณอามีลับลมคนในเยอะจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 23-07-2011 21:30:37
รออ่านต่อนะคะ

ลุ้นอยากให้เปิดพินัยกรรมเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 23-07-2011 21:32:52
อ่านแล้วเกิดอาการ.... ติด
อยากอ่านต่ออีก ^^
โดยเฉพาะฉากหวานๆของพาทิศ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 23-07-2011 21:43:17
จัดเต็มๆ จริงๆน๊า
รออ่านอย่างใจจอจ่อเลยเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 23-07-2011 22:07:04
พินัยกรรมจะออกมายังน๊า
ชวนติดตามจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 23-07-2011 22:19:52
 :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 23-07-2011 23:20:42
เปิดพินัยกรรมไวๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 24-07-2011 10:07:28
พาทิศจะจัดเต็มจริงอ่ะ ตั้งตารอฉากหนูตุลช็อกตาตั้ง เอิ๊ก เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 24-07-2011 11:09:42
จัดเต็มคราวนี้พ่อซอมบี้จะมีเซอร์ไพรส์รึเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 24-07-2011 12:02:15


ม่านราตรี
บทที่ 18



    ...หลังจากส่งนิยายไปแล้ว ช่วงอาทิตย์แรก ๆ ตุลานั้นค่อนข้างกระวนกระวาย จนสมาชิกร่วมบ้านต้องคอยปลอบให้ใจเย็น และวิธีปลอบของแต่ละคนก็ทำเอาชายหนุ่มแทบจะลืมความกังวลในเรื่องการรอฟังผลพิจารณาไปเสียสนิท ไม่ว่าจะเป็นการปลอบแกมขู่จากรุ้งพราย หรือการปลอบไปร้องไห้ไปเสียเองจากปิ่นสุดา และการปลอบราวกับเขาเป็นเด็กตัวน้อย ๆ จากราตรี ก็ตาม

   แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการปลอบของพาทิศ โดยเฉพาะวิธีปลอบแบบถึงเนื้อถึงตัวเวลายามเขาเผลอ  มันทำเอาเขาต้องคอยระวังตัวแจ ว่าอีกฝ่ายจะโผล่มาตอนไหนเลยด้วยซ้ำ

   “เอ๋...เย็นนี้อากับคุณอธิปจะไม่อยู่อีกแล้วหรือครับ?”

   ตุลาถามขึ้นหลังจากเห็นอธิปสะพายกระเป๋าเป้ใบเก่าขึ้นหลัง และมีกริชเดินตามมาด้วยห่าง ๆ ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก

   “ช่วยไม่ได้นี่นะ ทางนั้นยังไงก็เคยมีบุญคุณกันมาตั้งแต่สมัยพ่อฉันยังอยู่ เลยต้องไปจัดการให้สักหน่อย ถ้าเป็นคนอื่นคงปฏิเสธได้เลยนั่นล่ะ”

   อธิปบอกกับตุลาอย่างร่าเริง ทว่าคนที่ยืนร่างโปร่งใสอยู่ข้าง ๆ กลับบ่นอุบ

   “คนเดียวก็จัดการได้แท้ ๆ ต้องลากชาวบ้านไปเป็นเพื่อนด้วย”

   “อย่าเรื่องมากน่า เดี๋ยวก็ปฏิเสธงานบอดี้การ์ดนั่นเสียเลยนี่”

   อธิปยักคิ้วอย่างเป็นต่อ ทำให้อีกคนกัดฟันกรอดด้วยความหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น

   “บอดี้การ์ด?”

   ตุลาที่ได้ยินทวนคำอย่างงุนงง กริชชะงักเล็กน้อย แล้วจึงหันมายิ้มให้กับหลานชายของตน ก่อนจะบอกออกไปตามตรงโดยไม่คิดปิดบังอันใดอีก

   “อาเห็นว่าหมอนี่มีประโยชน์ทางด้านฮวงจุ้ย แล้วก็มีอาคมแกร่งกล้า น่าจะช่วยคุ้มครองตุลให้อยู่ในที่ดินผืนนี้อย่างราบรื่นได้ตลอดไปน่ะ ...อีกอย่างอาก็สงสารเขา เพราะลำพังเงินค่าจ้างไล่ผี ที่หมอนี่หาได้ ก็แทบไม่พอยาไส้อะไรนัก อาก็เลยจะจ้างเขาด้วยเงินมรดกอาที่ให้ตุลไว้นั่นล่ะ”

   ท้ายประโยคชายหนุ่มเหลือบสายตามองอีกฝ่ายด้วยหางตาเหยียด ๆ อย่างหมั่นไส้ ทว่าคนที่ถูกกล่าวถึงนั้นหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีโดยไม่ได้นึกขุ่นเคืองกับถ้อยคำดูถูกนั่น เพราะรู้ดีว่าเพื่อนสนิทกำลังโมโหที่ตนลากให้ไปทำงานด้วย จนไม่ได้อยู่เคียงข้างหลานสุดที่รักนั่นเอง

   “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปล่ะ ...ไปเร็วนายกริช ขืนช้าทางโน้นจะโทรมาโวยวายอีก ...ไอ้ผีเจ้าถิ่นนั่นก็โมโหร้ายเหลือเกิน แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ เขาอยู่ของเขาดี ๆ มาตั้งนาน ทางนี้ดันไปตัดต้นไม้ที่เขาอาศัยทิ้งเองนี่นา พ่อฉันก็เคยเตือนไว้แท้ ๆ ไอ้พวกรุ่นลูกรุ่นหลานนี่มันไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตาจริง ๆ”

   อธิปบ่นอุบยืดยาวต่องานที่ต้องไปทำ ส่วนกริชก็ทำหน้าเซ็งใส่ แต่ก็ยอมหายตัวเข้าไปสิงในกล่องเล็ก ๆ ที่อธิปเอาออกมา  จากนั้นเมื่อทั้งคู่ออกไปจากบ้าน ตุลาก็เดินไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องครัวเงียบ ๆ ตามลำพัง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อใบหน้าหล่อเหลาคมคายของใครบางคนชะโงกมาใกล้ ๆ

   “เหงาหรือตุล หือ?”

   ตุลาหน้าแดงวาบ เพราะลองพาทิศโผล่มาใกล้ ๆ แบบนี้  ถ้าไม่โดนแต๊ะอั๋งบ้าง ก็มักโดนขโมยจูบเป็นประจำ

   “ปะ...เปล่านะครับ...”

   ตุลาบอกแล้วขยับเก้าอี้หนี จนพาทิศนึกขำ เลยเลี่ยงไปนั่งฝั่งตรงข้ามแทน

   “เอ่อ นี่ก็เย็นแล้ว พวกคุณรุ้งล่ะครับเห็นเงียบ ๆ มาตั้งแต่บ่ายแล้ว”

   พาทิศเลิกคิ้วนิด ๆ แล้วจึงตอบออกไปตามตรง

   “พวกสาว ๆ วันนี้ไม่อยู่บ้านน่ะ เห็นว่าจะไปตามหาอะไรสักอย่างแถวบ่อน้ำหลังคฤหาสน์นี่ เมื่อครู่ฉันเพิ่งเห็นปิ่นวิ่งไปกับราตรีหายไปแถวนั้น ส่วนรุ้งคงจะไปตั้งแต่เมื่อบ่ายแล้ว”

   “เอ๋? ถ้าอย่างนั้นผมไปช่วยหาด้วยดีไหมครับ”

   ตุลาถามอย่างเป็นห่วง แต่พาทิศนั้นยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะ

   “ไม่ดีแน่ ไม่คิดหรือว่าทำไมพวกนั้นถึงไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับเธอ ...เพราะเขาต้องการปิดเป็นความลับกับเธอยังไงล่ะ นี่ฉันก็ไม่ควรจะมาบอกกับเธอเลยด้วยซ้ำ ถ้ารุ้งรู้เข้าคงโมโหแย่”

   ตุลาชะงัก แล้วก็นิ่งคิดหนัก ว่าเรื่องความลับของสามสาวมันเกี่ยวข้องอะไรกับเขากันแน่ ทว่าระหว่างที่กำลังคิดเคร่งเครียด เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อคนนั่งตรงข้ามลุกขึ้นยืนชะโงกตัวข้ามมาครึ่งโต๊ะแล้วหอมแก้มเขาแรง ๆ ฟอดใหญ่

   “คุณพาทิศ!”

   “ใครใช้ให้เธอทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ เดี๋ยวก็แก่ไวหรอก”

   พาทิศกระเซ้ายิ้ม ๆ แล้วนั่งลงจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาเจ้าเล่ห์

   “สรุปว่าวันนี้ เหลือเราอยู่กันสองต่อสองในคฤหาสน์นี้เท่านั้นแล้วล่ะนะ”

   ตุลาหน้าแดงวาบ เขารู้หรอกว่าพาทิศชอบแกล้งเขา แต่การกลั่นแกล้งแบบเดี๋ยวจูบ เดี๋ยวหอมนั่น มันทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูกเสียจริง ๆ  ถึงจะไม่ได้นึกรังเกียจอะไรก็เถอะนะ

   “วันนี้จะให้ฉันนอนเป็นเพื่อนก็ได้นะ ...เพราะคืนเดือนมืดแบบนี้ บางทีก็มักมีพวกแขกไม่ได้รับเชิญหลงเข้ามาในคฤหาสน์บ้างเหมือนกัน ...ปกติพวกรุ้งก็จะคอยไล่ไปอยู่หรอก แต่นี่...”

   ท้ายประโยคพาทิศบอกด้วยสีหน้าขรึม ๆ จนตุลาขนลุกซู่เผลอกอดอกอย่างลืมตัว ก่อนจะหน้าแดงด้วยความโมโห เมื่อผีดิบตรงหน้าดันเผลอหลุดหัวเราะคิกอย่างเอ็นดูคนกลัวผีเข้าไส้อย่างเขาให้เห็น

   “ตุลนี่ขี้กลัวจังน้า...แต่ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าคืนนี้มีอะไรเกิดขึ้น ฉันจะปกป้องเธอเอง”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ แต่แววตาแสดงถึงความจริงจัง จนคนกำลังโมโหชะงัก แล้วอุบอิบขอบคุณเบา ๆ ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ

   

   ตกกลางคืนตุลารีบปฏิเสธคนที่จะมานอนเป็นเพื่อน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ บ้านเงียบ ๆ ที่ไร้เสียงเฮฮาของรุ้งพราย ไร้เสียงต่อว่าของราตรี และไร้เสียงร้องเพลงเพราะ ๆ ของปิ่นสุดา ก็ทำเอาเขารู้สึกเงียบเหงาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ มิหนำซ้ำ กริชก็ยังอยู่ห่างเกินกว่าที่เขาจะเรียกหาเสียอีก

   “เงียบชะมัดเลยแฮะ...”

   ตุลาพึมพำ พลิกซ้ายพลิกขวาอยู่ค่อนคืนก็ไม่หลับสักที จึงตัดสินใจออกมายืนรับลมที่ระเบียง เขายืนอยู่สักพักจนรู้สึกหนาว แต่แล้วพอคิดจะกลับไปนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ห่มผ้าให้อบอุ่น  ชายหนุ่มก็ต้องชะงัก ขนลกซู่ไปทั่วกายด้วยความลืมตัว เมื่อเขาเห็นเงาดำ ๆ คลานสี่ขา เสียงหายใจดังฟืดฟาด เข้ามาในสวน

   “ตัวอะไรนั่น...”

   ตุลาพึมพำเสียงแผ่ว แต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อนัยน์ตาแดงก่ำของเจ้าตัวประหลาดด้านล่างหันขวับมามองเขา มันอ้าปากแสยะคำรามจนเห็นเขี้ยวขาว  แล้วกระโดดพุ่งขึ้นมา หมายจะเล่นงานมนุษย์ที่เห็นมัน

   “เหวอ!”

   ตุลาหลับตายกแขนบังหน้าเพื่อป้องกันตัว แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงอ้อมแขนแข็งแรงที่ดึงร่างเขาไปกอด มีเสียงปึกดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องคล้ายสัตว์เจ็บปวด

   “เกือบแย่แล้วไหมตุล ...บอกให้ฉันนอนด้วยก็ไม่เชื่อนี่นะ”

   ตุลาลืมตาขึ้นมามองคนพูดด้วยความตื่นตกใจ แต่พอเห็นว่าเป็นพาทิศเขาก็รู้สึกโล่งอก แล้วก็รีบหันขวับไปทางเจ้าวิญญาณสัตว์ร้ายที่หลงเข้ามา

   “อึ๋ย...”

   เจ้าตัวดำมืดคล้ายสัตว์ป่าหัวบุบไปข้าง ด้วยแรงทุบมหาศาลของพาทิศ ก่อนที่มันจะโขยกเขยกวิ่งหนีออกไปทางนอกบ้าน

   “มันจะเป็นอะไรไหมครับ?”

   ตุลาพึมพำ ถึงจะกลัวแต่เผลออดสงสารไม่ได้

   “เด็กโง่...มันเป็นวิญญาณเร่ร่อนนะ เจอแค่นั้นไม่เป็นอะไรหรอก สักพักก็ฟื้นฟูตัวเองได้น่า ...ห่วงตัวเธอเองดีกว่า ถ้าฉันมาไม่ทันคงโดนมันขบหัวเข้าให้แล้ว”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ ทำให้คนฟังรู้สึกขอบคุณอีกฝ่าย ก่อนจะชะงักเมื่อเริ่มรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม แถมอ้อมกอดนั้นยังรัดตัวเขาเรื่อย ๆ อย่างจงใจ

   “เอ่อ... ผมโอเคแล้วครับ...ขอบคุณนะครับที่คุณช่วยไว้ ...”

   “งั้นหรือ...แต่ฉันชักง่วงแล้ว และก็ไม่อยากจะเดินกลับไปนอนที่ห้องใต้ดินด้วยสิ”

   พาทิศแกล้งบอก ทำเอาตุลาต้องขมวดคิ้วยุ่ง ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเป็นพวกนอนกลางวัน ตื่นกลางคืนแท้ ๆ ทว่าพอพาทิศประคองเขาขึ้นเตียง และจับเขากดทาบลงไปบนเตียงนุ่ม ก่อนที่ตัวเองจะตามมาคร่อมทับ ตุลาก็ต้องสะดุ้งเฮือก ตัวแข็งทื่อ โดยเฉพาะยามที่อีกฝ่ายไล่จูบเบา ๆ ทั่วหน้าและไล่มาเรื่อย ๆ จนถึงลำคอของตน

   “ยะ...หยุดเถอะครับ..คุณพาทิศ...อือ...”

   ตุลาพยายามดันร่างสูงหนาที่คร่อมทับตนให้ออกไปห่าง ๆ ด้วยเรี่ยวแรงที่ไม่รู้ว่ามันหายไปไหนหมดยามนี้

   “รังเกียจที่ฉันเป็นซอมบี้หรือตุล?”

   พาทิศหยุดแล้วกระซิบถามเสียงเศร้า ๆ ทำให้คนที่กำลังดันร่างนั้นออกชะงัก แล้วรีบบอกปฏิเสธทันทีด้วยความตกใจ

   “ไม่ใช่นะครับ...แค่กลัวว่า...เอ่อ ตอนคุณกำลังทำ...แบบนี้...กับผม...แล้วเกิดจู่ ๆ ลูกตาหลุดออกมาอีก...ผมคงช็อกตายแน่....”

   พอบอกออกไปใบหน้าอ่อนเยาว์ก็ยิ่งแดงหนักไปอีก จนคนที่แกล้งทำเป็นเก๊กเศร้าอดไม่ไหว ต้องหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วจูบหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “หึ ๆ คิดไปถึงนั่นเชียวหรือเด็กน้อย...อย่าห่วงเลย มันไม่ได้หลุดง่ายดายขนาดนั้นหรอกนะ”

   “เอ๊ะ...แต่เมื่อก่อนหน้านั้น ...คือว่า...เอ่อ”

   ตุลาทำสีหน้าตกใจและแปลกใจในคราเดียวกัน และไม่รู้จะเรียบเรียงคำพูดยังไงเพื่อไม่ให้เสียมารยาทเกินไปนัก พาทิศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ จูบแก้มซ้ายขวาของหนุ่มน้อยใต้ร่างของตนอย่างหากำไรอีกข้างละฟอด แล้วจึงยันกายลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ อีกฝ่าย

    “ก่อนหน้านั้นฉันแกล้งทำน่ะ ...เป็นวิธีต้อนรับสมาชิกใหม่ในแบบของฉันเองล่ะนะ”

   “เอ๋?! ...แกล้งหรือครับ”

   ตุลาถามอย่างตกตะลึง ซึ่งพาทิศก็อมยิ้มแล้วบอกออกไปตามตรง

   “ใช่...แกล้ง หึ ๆ พอดีติดนิสัยแบบนี้ ตอนแกล้งทำให้โน่นนี่มันหล่นออกมา เวลารุ้ง หรือราตรีบ่นน่ะ ...ก็พวกสาว ๆ เวลาเห็นอะไรแบบนี้ มันก็ไม่ค่อยเจริญหูเจริญตา แล้วก็จะหยุดพูดไปเองไง ...แต่อย่าไปบอกพวกหล่อนล่ะ ไม่งั้นฉันโดนสวดหูชาแน่”

   ตุลานิ่งอึ้ง ไม่คิดเลยว่า จริง ๆ แล้วเขาจะถูกอีกฝ่ายแกล้งเอาแต่แรกแบบนี้  ...นี่ถ้าเขาเกิดหัวใจวายตายไป ไม่เท่ากับว่า เขาได้มาร่วมก๊วนกับอีกฝ่ายตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่หรอกรึ!

    “โกรธหรือ...ก็ฉันไม่คิดว่าเธอจะขวัญอ่อนขนาดนั้นนี่นา ...ขนาดเจอมุกเดิม ๆ ซ้ำ ๆ เธอก็ยังเป็นลมได้อีก”

   พาทิศหวนคิดถึงสีหน้าของชายหนุ่มในวันแรกที่พวกเขาเจอกัน  ครั้งแรกนั้นเขารู้สึกผิดอยู่มาก ที่ทำให้อีกฝ่ายตกใจ จนเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ โชคดีที่กริชออกมาช่วยทัน แต่ถึงกริชช่วยไม่ทัน ทั้งปิ่นสุดา ทั้งรุ้งพรายก็คงยอมเสียสละเป็นเบาะรองร่างให้กับตุลาได้ทันอยู่ดี แต่นั่นก็จะทำให้ตุลาบาดเจ็บไม่มากก็น้อยทีเดียว เพราะอย่างนั้นเขาจึงอยากจะชดใช้ด้วยการดูแลชายหนุ่มในเรื่องงานบ้านที่ตนถนัด ...แต่ไม่คิดว่าพออยู่ร่วมกันไปนาน ๆ เข้า เขากลับถูกใจเด็กคนนี้ขึ้นมา จนเกินกว่าคำว่าเอ็นดูไปเสียแล้ว

   “ใจร้าย...ไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนขี้แกล้งแบบนี้”

   ตุลาพึมพำ พลางทำหน้ามุ่ย เมื่อเห็นใบหน้ากึ่งยิ้มกึ่งขำ ของซอมบี้หนุ่ม

   “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ตุลน่ารักไม่เปลี่ยนเองล่ะ...ฉันก็อดใจไม่ได้น่ะสิ”

   “อะ...เอ๋ ...ผะ....ผมนี่นะน่ารัก...ผม เอ่อ เป็นผู้ชายนะครับ”

   ตุลาบอกเสียงสั่นหน้าแดงด้วยความอาย ทำให้คนมองยิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้ามาใกล้ ๆ จนตุลาใจเต้นแรง

   “สำหรับฉัน ไม่ว่าตุลจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ตุลก็ยังน่ารักถูกใจฉันอยู่ดี...”

    บอกจบพาทิศก็ถอยห่างออกมา แล้วยกนิ้วชี้ไปแตะริมฝีปากของตุลาเบา ๆ

    “เอาล่ะ ฉันจะยอมหยุดเรื่อง ‘แกล้ง’ เธอ ไว้แค่นี้ก่อนก็ได้ ...แต่เรื่องของเราวันนี้ ต้องเป็นความลับนะ อย่าให้ใครรู้ล่ะ...”

   ตุลาใจเต้นตึกตัก กับสัมผัสจากปลายนิ้วนั่น แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินประโยคถัดมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย

   “อ้อ แต่ถ้าอยากบอกจริง ๆ ฉันก็ไม่บังคับหรอกนะ โดยเฉพาะกับอาของเธอ”

   “ผมว่าไม่ดีกว่าครับ...ความลับก็ความลับ”

   ตุลาบอกเสียงอ่อย เพราะขืนกริชรู้เรื่องนี้ คงต้องอาละวาดหนักแน่ เขาเองก็ไม่อยากให้คนที่ชอบมากทั้งคู่ ต้องมาผิดใจกันเพราะเขาหรอกนะ

   “น่ารักจังเลยน้า ตุลเนี่ย”

   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้ม แล้วทิ้งกายลงนอนข้าง ๆ ชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะขยับเข้ามาใกล้ จนตุลาหวาดระแวง

   “ยะ...อย่านะครับ...”

   “หึ...ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย แค่นอนด้วยเฉย ๆ เท่านั้นเอง”

   ตุลาหน้าแดง ที่เผลอคิดเรื่องน่าอายเสียเอง ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ทันทำอะไรตนสักนิด เขาขยับออกห่าง จนพาทิศอมยิ้มแล้วแกล้งเอ่ยทัก

   “หรือว่าไม่อยากให้ฉันนอนด้วย ฉันไปก็ได้นะ”

   พาทิศทำท่าจะยันกายลุกขึ้น ทำเอาตุลาชะงัก พอเหลือบไปดูนอกระเบียงก็รู้สึกกลัวขึ้นมาอีก จนต้องรีบตามคว้าแขนอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะหน้าแดงแล้วพึมพำแผ่วเบา

   “ชะ...ช่วยนอนเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ”

   พาทิศหัวเราะในลำคอ แล้วขยี้ศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   “ได้สิ รับรองจะนอนเฉย ๆ ไม่กวนใจให้ตุลต้องรำคาญเลยนะ”

   ซอมบี้หนุ่มบอก แล้วเอนกายนอนข้างอีกฝ่ายตามเดิม ตุลาหน้าแดงนิด ๆ แต่พอลมเย็น ๆ พัดวูบจนผ้าม่านไหว เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก แล้วขยับเข้าใกล้พาทิศ ซุกกายกับอกกว้างนั่นด้วยความกลัว จนคนที่นอนด้วยทั้งสงสารทั้งเอ็นดูไปในคราเดียว

   “ไม่เป็นไร ๆ เด็กดี...ฉันจะอยู่ข้าง ๆ เธอเอง”

   พาทิศบอกแล้วลูบศีรษะของอีกฝ่ายปลอบ จนตุลารู้สึกอบอุ่นและวางใจ จนกระทั่งค่อย ๆ เคลิ้มหลับไปในที่สุด 



   แสงตะวันที่สาดส่องเข้ามาแยงโดนตาในตอนเช้า ทำให้ตุลาต้องนิ่วหน้าขมวดคิ้ว ก่อนจะปรือตาตื่นขึ้นมาอย่างง่วง ๆ เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้หลับก็ค่อนข้างดึกแล้ว แถมยังเจอเรื่องน่ากลัว ๆ อีก โชคดีที่มีพาทิศนอนอยู่เป็นเพื่อน ไม่เช่นนั้นเขาก็คงผวาหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนเป็นแน่

   ที่นอนข้าง ๆ มีรอยบุ๋มเล็กน้อย และค่อนข้างเย็น แสดงให้เห็นว่าคนข้างกายคงลุกไปนานแล้ว ตุลายันกายลุกขึ้น แล้วก็ต้องพบกับความแปลกใจ เมื่อมองไปที่โต๊ะทำงานในห้อง ก็เห็นก้อนหินสีเป็นประกายม่วงครามทรงรูปไข่ ก้อนเท่านิ้วก้อยวางอยู่ มีกระดาษเขียนด้วยลายมือหวัด ๆ ใต้ก้อนหินนั้น

   ‘หินนี่เป็นเครื่องรางที่จะช่วยให้สมปรารถนา พวกเราหามันมาให้ตุล และช่วยกันอธิษฐานให้นิยายของเธอผ่าน เก็บมันเอาไว้ให้ดี ๆ นะ ...ฉัน ปิ่น และราตรี กว่าจะหามันมาได้ ต้องลงไปงมถึงก้นบึงเลยทีเดียว รู้ไหม!  / รุ้งพราย’

    ตุลาอ่านข้อความนั้นแล้วนิ่งอึ้ง ก่อนจะแย้มยิ้มยินดีตามมา เขาวิ่งไปที่ระเบียงแล้วตะโกนเรียกชื่อสามสาวอย่างซาบซึ้งตื้นตันใจ

   “ขอบคุณมากครับ คุณรุ้ง คุณราตรี คุณปิ่น ผมจะเก็บรักษามันไว้อย่างดีที่สุดเลยครับ!”

   เจ้าของชื่อทั้งสามต่างอมยิ้มน้อย ๆ พวกเธอเข้านอนพักยาวเพราะลุยหนักกันทั้งคืน อีกทั้งวันนี้แดดก็ค่อนข้างแรง จนพวกเธอรู้สึกอ่อนเพลีย และแทบไม่อยากปรากฏกายด้วยซ้ำ

   ตุลามองหินในมือแล้วยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะวางมันไว้ในลิ้นชักพร้อมกระดาษข้อความของรุ้งพราย จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่ออาบน้ำชำระล้างร่างกายในตอนเช้าให้สดชื่น แต่พอออกมาเขาก็ต้องพบกับความแปลกใจ เมื่อเห็นลิ้นชักที่ปิดไปแล้วเปิดออก ตุลาเดินไปดูอย่างกังวล แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อหินทรงรูปไข่เมื่อครู่ ตอนนี้มันถูกร้อยอยู่ในลวดดัดสวยงาม ทำเป็นจี้ห้อยคอ คล้องไว้กับสร้อยที่เป็นทองคำขาว กลายเป็นเครื่องประดับหรูหราแปลกตาไปในทันที

   “ฉันทำให้เอง เธอจะได้เอาไว้สวมติดตัวตลอดยังไงล่ะ...”

   ตุลาหันไปยังต้นเสียง เขาเห็นพาทิศยืนยิ้มอยู่ตรงประตูหน้าห้อง ซอมบี้หนุ่มเดินเข้ามา แล้วหยิบสร้อยนั่นมาสวมใส่ให้กับอีกฝ่าย 

     “หินเครื่องรางนี้เป็นของดี และจะให้คุณแก่ผู้พกมันไว้ เธอต้องขอบคุณสามสาวนั่นให้มาก ๆ นะ เพราะหินชนิดนี้ หายากมากเลยทีเดียว”

    ตุลาก้มมองจี้ห้อยคอแล้วพยักหน้า ก่อนจะหันไปทางพาทิศ แล้วยิ้มให้

   “ขอบคุณสำหรับจี้และสร้อยเช่นกันนะครับ มันสวยมากเลย”

   พาทิศยิ้มตอบ แล้วจึงค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงไปหาอีกฝ่ายช้า ๆ ตุลาหน้าแดง ใจเต้นตึกตัก แต่เขากลับไม่ได้หลบ หากแต่เผลอเงยหน้า พลางหลับตาพริ้มรออย่างลืมตัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงดังปึงปังข้างล่าง

   “กลับมาแล้ว! หิวจังเลย มีอะไรกินบ้างเนี่ย!”

   เสียงของอธิปนั่นเอง ตุลาหน้าแดงระเรื่อ แล้วรีบขยับถอยออกห่างจากพาทิศ ซึ่งอีกฝ่ายก็นึกเสียดายเล็กน้อย ที่ถูกขัดจังหวะแบบนี้

   “อย่าลืมนะตุล...เรื่องความลับระหว่างพวกเราน่ะ”

   พาทิศโน้มใบหน้าลงไปกระซิบข้างหูอีกฝ่าย แล้วถอยออกห่าง เป็นเวลาเดียวกับที่กริชหายตัวแวบขึ้นมาปรากฏกายบนห้องพอดี

   “นายมาทำอะไรในห้องหลานฉันพาทิศ?”

   กริชถามเสียงเข้ม ยิ่งเห็นตุลาหน้าแดง เขาก็ยิ่งไม่ค่อยไว้ใจในตัวซอมบี้หนุ่มเท่าใดนัก

   “ผมก็แค่มาตามตุลไปทานข้าวเองครับ ...แต่เอ... สงสัยเป็นเพราะเมื่อคืนนอนเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เลยเป็นไข้ หน้าถึงได้แดงแบบนี้”

   พาทิศบอกอย่างหน้าตาเฉย ทำเอาคนฟังชะงัก แล้วรีบหันไปถามหลานด้วยความเป็นห่วงทันที

   “จริงหรือ? เป็นอะไรมากไหม? ให้อธิปไปตามหมอดีไหมเนี่ย?”

   กริชลืมเรื่องสงสัยก่อนหน้าไปจนหมด พลางซักอย่างร้อนรนเป็นห่วง ทำเอาตุลาหน้าไม่ดี แล้วเหลือบสายตาขอความช่วยเหลือไปทางซอมบี้หนุ่ม

   “ผมมียาอยู่ครับ เดี๋ยวผมจะเอาข้าวต้มมาให้ แล้วให้ตุลนอนพักอยู่ข้างบนสักวัน ก็คงดีเอง ...ตัวก็ไม่ร้อนมากนักหรอกครับ”

   พาทิศแสร้งทำเป็นเอามืออังหน้าผากของตุลา ชายหนุ่มยิ่งหน้าแดงหนักไปอีก จนกริชต้องบังคับให้หลานชายเข้านอนแต่เช้า โชคดีที่พาทิศช่วยเบี่ยงเบนความสนใจ ตุลาจึงไม่ต้องกินยาเข้าไปจริง ๆ เพียงแต่ต้องทนลำบากนอนอยู่ในผ้าห่มแต่เช้าจรดเย็น โดยมีพวกสาว ๆ ผลัดกันมาเฝ้าไข้ด้วยความเป็นห่วงตลอดเวลา ส่วนซอมบี้จอมเจ้าเล่ห์ ก็ได้แต่ส่งยิ้มให้เขา โดยไม่คิดจะช่วยแก้ความเข้าใจผิดในเรื่องนี้สักนิดเดียว...



 

--- TBC ---

ดู ๆ แล้วจัดได้ไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่แฮะ เกรงใจหนูตุล ยังไม่สารภาพรักจะข้ามขั้นตอนไปก็ใช่ที่ เดี๋ยวคุณอาจะอาละวาด หุๆ   เขียนตอนนี้แล้วพาทิศมันดูเจ้าเล่ห์ขึ้นจม --...  สำหรับตอนหน้า .....เปิดพินัยกรรมจ้ะ  (หลายคนคงคาดเดากันได้)

แล้วคงจะได้โบกมืออำลากันสำหรับเรื่องนี้ .... (ชั่วคราว) เพราะส่วนตัวแล้วยังอยากจะเขียนอะไรอีกมากมาย

และอย่างที่บอกเรื่องนี้ค่อนข้าง "ใส" จึงไม่มีอะไรเซอร์วิสนักอ่านมากนัก ต้องขออภัยด้วยค่ะ แต่หลังจากภาคใหม่เป็นต้นไป รับรองมีหวาน ๆ แบบเรียกเลือด มาแจมแน่ ....(มั้ง)

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ   :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 17 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (23/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 24-07-2011 12:03:39
จะจัดเต็มก็ระวังอากริชหน่อยนะคุณซอมบี้
ขอหลาย ๆ ตอนเลยนะคะ จบแล้วก็ต่อตอนพิเศษเยอะ ๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-07-2011 13:27:46
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 24-07-2011 13:34:39
มารอเป็นพยานในการเปิดพินัยกรรม  อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 24-07-2011 13:51:31
ดูเหมือนยอมรับกันและกันแล้วเนาะ  :o8:

ลุ้นเปิดพินัยกรรมตอนหน้าค่า   :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 24-07-2011 14:03:08
ชอบสามสาวจัง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Vvenus ที่ 24-07-2011 14:16:34
คนเขียนสปอยงี้คนอ่านก็ต้องติดตามต่อไปสิค่ะ !!! ><
555 รอตอนไปเหมือนเดิมค่ะ

''เนื้อเรื่องน่ารักมาก;) โดยเฉพาะซอมบี้เจ้าเล่ห์ ^^'//
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 24-07-2011 14:28:57
รอตอนหน้า  :o8:

แต่งยาวๆหน่อยก็ได้ค่ะ อยากอ่านนานๆ อิๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: aum_15597 ที่ 24-07-2011 14:59:44
ถ้าคุณซอมบี้จัดหนักกว่านี้ ถ้าคุณกริชรู้นอกจากตาจะหลุด
เกรงว่าหัวจะหลุดตามไปด้วยนะซิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 24-07-2011 15:05:51
พาทิศเจ้าเล่ แน่ใจทำต่อหน้าอาเขาเลยสิ ^^
อากริชจะรุ้มั้ยเนี่ย ว่าหลานชายถูกลวนลามไปเรียบร้อยแล้ว แถมบ่อยครั้งซะด้วย
แตะนู้น แตะนี่ มือไวชะมัดนะคุณซอมบี้

จะเปิดพินัยกรรมแล้วหรอ รอๆๆ จะมีข้อความให้ลุ้นอะไรอีก

เอะ เรียกเลือด หวังว่าไม่ใช่เรื่องสยอง แต่เป็นสยิวได้มั้ยน้า ^o^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 24-07-2011 15:17:53
เขินแทนตุลจัง><!!!
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 24-07-2011 15:47:08
มีโอกาสเป็นไม่ได้เลยนะพาทิศ :m12:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 24-07-2011 15:53:46
จัดเต็มคราวหน้า ขอแบบเลือดพุ่งนะ อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 24-07-2011 16:52:16
พาทิศรุกหนักแถมเจ้าเล่ห์ขึ้นทุกวัน หนูตุลจะรอดไปได้ถึงเมื่อไหร่เนี่ย  o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: paulla ที่ 24-07-2011 16:57:53
อยากเห็นรูปตัวละครแล้วคับ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 24-07-2011 17:16:47
โห้ย เจ้าเลห์ที่สุดอ่ะ
งานนี้หนูตุลโดนแกล้งจนแก้มช้ำแล้วมั้ง  :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 24-07-2011 20:29:04
 :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 24-07-2011 21:41:48
 :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 24-07-2011 22:04:34
เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ว่าพาทิศเจ้าเล่ห์ขึ้นเยอะ แถมเผลอเป็นไม่ได้มีจูบมีหอมตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 24-07-2011 22:14:08
พาทิศเจ้าเลห์จริงจริงแระ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 24-07-2011 22:34:16
น่ารัก น่ารัก
 
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 24-07-2011 22:57:53
อ๊ายยยยย เจ้อซอมบี้มือไวนี่ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
คุณอาเผลอแล้วเจอกันนะจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กกะโปโล ที่ 25-07-2011 01:03:41
พาทิศคอยแต่จะฉวยโอกาสตลอด เหลี่ยมคมเยอะขึ้นนะ

จบภาคนี้แล้วภาคใหม่มาไวๆนะฮะ มันยังหวานไม่พอใจคนอ่าน :fox2:

รอเปิดพินัยกรรมพร้อมตุล~ +1ให้คุณปัดฮะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-07-2011 01:17:17
ตุล พาทิศ จะทำให้รักและหลงไปถึงไหนกัน ชอบนิยายเรื่องนี้สุดๆ สนุกมากๆครับ
พาทิศนี่ก็เจ้าเลห์ขึ้นทุกวันเนอะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 25-07-2011 02:31:21
นึกถึงตอนอากริชรู้ความลับของสองคนนี้
คงได้โมโหหนักแน่ๆ แล้วคงคุมตุลแบบใกล้ชิดสุดๆ :m20:
คราวนี้เหมือนอธิปช่วยพาทิศให้ได้อยู่กับตุลเลย o3
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Mai.IcySakura ที่ 25-07-2011 03:03:49
ค่อยยังชั่วหน่อยที่พาทิศทำชิ้นส่วนหลุดเป็นแค่เรื่องแกล้งกัน ฮ่าๆ

ไม่งั้นไม่อยากจะคิดจริงๆนะเนี่ย บรึ๋ย ><

พาทิศน่ารักอะไรอย่างนี้นะ ฮ่าๆๆ ทั้งเจ้าเล่ห์ ทั้งฉลาด ตุลย์เริ่มหวั่นไหวตามแล้วเนี่ย(หรือนานแล้ว ฮ่ะๆ)

เปิดพินัยกรรมตอนหน้าคุณแม้นศรีจะเป็นไงมั่งนะ หวังว่าไม่ช็อคตายร่วมก๊วนบ้านนี้อีกคนนะ =[]=
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 25-07-2011 12:21:37
น่ารักมากเลยนะครับน้องตุลาเนี่ยสุดๆๆไปเลย เอาใจช่วยเสมอ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 18 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 25-07-2011 13:48:45
เขิล.......ล.ล....=////=  อยากมีหนุ่มขี้แกล้งแบบนี้มั่งจัง ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 25-07-2011 16:35:49
ม่านราตรี
บทที่ 19



    ...เวลาล่วงเลยผ่าน นับจากวันที่ตุลาส่งต้นฉบับไป ตอนนี้ก็ได้ราวสามเดือนพอดี  ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังเปิดโน้ตบุคนั่งเล่นเน็ตอยู่ตามปกติ เขาก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมีเสียงแจ้งเตือนจากหน้าต่างเว็บไซต์ว่ามีเมล์เข้ามาฉบับหนึ่ง ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ อ่านหัวข้ออีเมล์ ‘ผลการพิจารณาต้นฉบับ…’ แล้วก็ลังเลที่จะคลิกเมาส์ เข้าไปอ่านข้อความในนั้น

    “อ๊ะ! เมล์พิจารณาผลมาแล้วนี่! เปิดเลยสิตุล!”

    รุ้งพรายที่โผล่มาใกล้ ๆ เมื่อไหร่ไม่ทราบบอกเสียงดัง ทำให้ตุลาสะดุ้งเฮือก แต่แล้วก็ต้องตกใจซ้ำเมื่อปีศาจแมวสาวเอื้อมอุ้งเท้าหน้ามาใกล้เมาส์ของเขาหวังจะคลิกเปิดเองแทน

    “เดี๋ยวก่อนครับคุณรุ้ง!  ขอผมทำใจก่อน!”

    “ทำใจอะไร โธ่ตุล ไม่ผ่านก็ตก ไม่เห็นต้องซีเรียส”

    รุ้งพรายในร่างแมวบอกหน้าตาเฉย ทำเอาตุลาต้องมองอีกฝ่ายตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วตัดสินใจเปิดอ่านในที่สุด

    “สวัสดีครับ…

    ผลการพิจารณาต้นฉบับนิยายเรื่อง คฤหาสน์สนธยา ของคุณตุลา ผ่านการพิจารณาของกองบรรณาธิการ แล้วครับ ซึ่งทางกองบรรณาธิการจะติดต่อคุณตุลากลับไปอีกครั้ง ถึงเรื่องรายละเอียดการเซ็นสัญญาในเร็ววันนี้ครับ

ขอบคุณครับ

    กองบรรณาธิการ สำนักพิมพ์ …”


    พออ่านจบ เสียงไชโยก็ดังขึ้น แต่ไม่ใช่เสียงของเจ้าของผลงานแต่อย่างใด กลับเป็นเสียงของรุ้งพรายที่ยื่นหน้ามาอ่านข้าง ๆ แทน เจ้าหล่อนกระโดดแผล็วไปที่ระเบียงพร้อมกับตะโกนลั่นบ้าน

    “นิยายของตุลผ่านแล้วนะทุกคน! ตุลทำได้แล้ว!”

    พอขาดคำของรุ้งพราย ทั้งปิ่นสุดา ทั้งราตรี ก็ปรากฏกายขึ้นในสวน และต่างมีความดีใจออกนอกหน้าเช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่พาทิศซึ่งกำลังเตรียมกับข้าวในครัว เขายิ้มที่มุมปากน้อย ๆ ส่วนอธิปที่นั่งสวดมนต์อยู่ในห้อง สั่นศีรษะไปมาด้วยความระอา แต่ก็อดยิ้มยินดีกับหลานชายของเพื่อนไม่ได้

    “อาบอกตุลแล้วไง ว่าตุลมีพรสวรรค์ ยังไงตุลก็ต้องเป็นนักเขียนที่ดีได้”

    กริชซึ่งปรากฏกายออกมาหลังจากที่ตุลาได้ทราบผลการพิจารณาของตัวเอง เอ่ยชมหลานชาย ซึ่งตุลาก็หันกลับไปมองผู้เป็นอาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มทั้งน้ำตาคลอ

    “ผมทำได้แล้วครับอา …สัญญาที่ให้ไว้กับอา…ในที่สุด”

    กริชยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนแล้วลูบศีรษะอีกฝ่ายแผ่วเบา

    “เก่งมากหลานอา อายินดีด้วย”

    ตุลายิ้ม แล้วรีบเช็ดน้ำตา เพราะไม่อยากถูกคนอื่นล้อ จากนั้นจึงรีบโทรไปบอกพ่อกับแม่ แล้วก็กลุ่มเพื่อน ถึงความสำเร็จของเขา ซึ่งก็ได้รับคำชมเชยตามมา แม้แต่เกรียงไกรที่เคยเห็นต่างในตอนแรก ก็ยังชื่นชมลูกชายและอวยพรให้ตุลาประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เลือกเดินต่อไป



    ตกบ่าย ยังไม่ทันหายตื่นเต้นกับข่าวแรก ก็มีข่าวใหญ่อีกข่าว ที่ทำให้ตุลา ซึ่งกำลังเข้าครัวช่วยพาทิศเตรียมจัดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองในตอนเย็น ต้องพบกับความตกตะลึงเสียยิ่งกว่า เรื่องนิยายของเขาผ่านการพิจารณาเสียอีก

    “สวัสดีครับ ผมชื่อผสุ เป็นทนายความส่วนตัวของตระกูล อัครทรัพย์ ครับ”

    ทนายความหนุ่มใหญ่วัยกลางคนอายุราวห้าสิบปี แนะนำตัวเองพร้อมรอยยิ้ม หลังจากที่ขออนุญาตเข้ามาด้านในคฤหาสน์เพื่อแจ้งเรื่องบางอย่างให้เจ้าของบ้านเช่าชั่วคราวทราบ

    “คุณคือคุณตุลา ที่ทำสัญญาเช่าคฤหาสน์หลังนี้เป็นเวลา 1 ปี ใช่ไหมครับ”

    ทนายผสุหันไปถามตุลา ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ อธิปที่กริชขอให้มานั่งเป็นเพื่อนหลานของตน

    “ใช่ครับ เอ่อ... คุณมีธุระอะไรกับผมหรือครับ หรือว่า ผมจะทำผิดสัญญาเช่า…”

    ตุลาถามอย่างสงสัยและเป็นกังวล เพราะไม่แน่ใจว่าเผลอไปทำอะไรผิดกฎการเช่าบ้านหลังนี้เข้าให้ จนแม้นศรีถึงกับต้องใช้ทนายมาแจ้ง

    “เปล่าครับ เปล่า ๆ เข้าใจผิดแล้วครับ ที่ผมมาวันนี้ผมจะมาบอกข่าวดีกับคุณต่างหาก”

    “ข่าวดี?”

    ตุลาทวนคำอย่างสงสัย ทางด้านทนายหนุ่มใหญ่ยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงหยิบเอกสารแผ่นหนึ่งออกมา พร้อมกับซองจดหมายปิดผนึก ซึ่งดูจากซองนั้นเห็นได้ว่าถูกเปิดอ่านมาแล้ว

    “พินัยกรรมของคุณจอมเดช เจ้าของคนเก่าของคฤหาสน์ม่านราตรี ท่านได้สั่งเสียไว้ว่า ห้ามขายคฤหาสน์นี้ในช่วงระยะสิบปี หลังจากที่ท่านเสียชีวิต แต่สามารถเปิดให้เช่าได้ และเมื่อครบสิบปี ลูกหลานที่เหลือก็จะสามารถขายคฤหาสน์หลังนี้ได้ตามชอบธรรม”

    ตุลาพยักหน้ารับรู้กับสิ่งที่ผสุบอก เพราะพอจะได้ยินเรื่องนี้มาบ้างจากพวกรุ้งพรายเล่าให้ฟัง

    “นอกจากนั้นยังมีพินัยกรรมอีกฉบับ ที่คุณจอมเดชกำชับว่าให้เปิดอ่านหลังจากสิบปีผ่านไป ซึ่งก็คือเมื่อวาน และผมได้ทำการเปิดอ่านต่อหน้าคุณจอมพล บุตรชาย และคุณแม้นศรี ผู้เป็นสะใภ้ ของคุณจอมเดชเรียบร้อย”

    ผสุบอกพร้อมรอยยิ้ม นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันก่อน ที่พอเขาอ่านพินัยกรรมจบ คุณนายแม้นศรีก็เป็นลมล้มพับไปทันที พอฟื้นขึ้นมาก็ให้เขาอ่านพินัยกรรมซ้ำ แล้วก็เป็นลมต่อไปอีกรอบ จนจอมพลผู้เป็นสามีต้องบอกให้เขาหยุดอ่าน เมื่อเห็นผู้เป็นภรรยาที่ฟื้นขึ้นมา เตรียมจะบอกให้เขาอ่านซ้ำให้แน่ใจอีกหน

     ตุลาขมวดคิ้วมองคนที่นั่งอมยิ้มคิดอะไรเพลิน ๆ อย่างแปลกใจ  จนผสุรู้สึกตัว เขากระแอมเบา ๆ แก้เขิน จากนั้นจึงบอกกับตุลาต่อ

    “ในพินัยกรรมระบุว่า ให้ทายาทของท่านสามารถขายคฤหาสน์ม่านราตรีได้ตามสิทธิชอบธรรมที่ได้รับ แต่ถ้าในระหว่างสิบปีที่ผ่านมา ก่อนวันเปิดพินัยกรรมฉบับนี้ หากมีผู้เช่ารายใด ทำสัญญาเช่าบ้านครบ 1 ปี หรือตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไปก็ตาม สิทธิ์ความชอบธรรมทุกอย่าง ในคฤหาสน์ม่านราตรี จะตกเป็นของผู้เช่าคนนั้นทันที และจากการตรวจสอบของผม คุณตุลา… คุณคือคนเดียว ที่ทำสัญญาเช่าคฤหาสน์ม่านราตรีแห่งนี้ โดยจ่ายเงินครบถ้วน เป็นจำนวน 1 ปี พอดีครับ”

    ตุลานิ่งอึ้ง หันมองผสุ และหันกลับไปมองอธิป ที่กำลังพึมพำกับตัวเอง ได้ยินประโยค ราว ๆ ว่า มิน่าล่ะ นึกแล้วเชียว เห็นดังนั้นตุลาก็นิ่วหน้า แล้วหันกลับมาทางผสุพลางเอ่ยถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

    “หมายความว่า ผมจะได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้ อย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือครับ?”

    ทนายหนุ่มใหญ่หัวเราะเบา ๆ กับสีหน้าตกตะลึงนั่น แล้วจึงพยักหน้าพร้อมตอบยืนยัน

    “ครับ … แล้วผมก็นำเอกสารสิทธิ์มาให้คุณเรียบร้อย รบกวนช่วยเซ็นให้ผมด้วยนะครับ”

    “แต่ว่าผม …”

    ตุลาเตรียมแย้งแต่ก็ต้องชะงัก เมื่ออธิปตบบ่าของเขาเบา ๆ

    “ยอมรับมันไปเหอะ ฉันว่าคุณเจ้าของคนเก่าน่ะ เขาตั้งใจยกมันให้เธอ ตั้งแต่ก่อนเขาจะตายแล้วล่ะ”

    ตุลามองอธิปตาปริบ ๆ ด้วยความสงสัย และแม้เขาจะทั้งแปลกใจ ทั้งตื่นเต้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด เขาต้องการเป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีหลังนี้เป็นที่สุดอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะความใหญ่โต หรูหรา โอ่โถง ของมัน แต่เพราะที่นี่เป็นที่ซึ่งเพื่อน ๆ ที่เขาให้ความสำคัญอยู่อาศัยด้วยต่างหาก

    “ครับ … เอ่อ แล้วผมต้องทำอะไรบ้างครับ”

    ตุลาหันไปทางผสุ ซึ่งอีกฝ่ายก็ช่วยอธิบายถึงขั้นตอนต่าง ๆ จนกระทั่งการเซ็นเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดเรียบร้อย และตุลาก็ได้เป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีโดยสมบูรณ์

    “เอ่อ ขอบคุณนะครับที่ช่วยเป็นธุระให้”

    ชายหนุ่มบอกพร้อมกับพนมมือไหว้ ขณะที่ออกมาส่งผสุยังรถของเจ้าตัว ทนายหนุ่มใหญ่ยิ้มพลางยกมือรับไหว้แล้วกล่าวอำลาก่อนจะกลับไป และพอตุลาเดินกลับเข้าบ้าน เขาก็ต้องตกใจ เมื่อรุ้งพรายกระโดดพุ่งใส่ พร้อมกับไถหัวซุกอกของเขาไปมา

    “ดีใจจริง ๆ ในที่สุดตุลก็ได้อยู่ที่นี่แบบถาวรสักที”

    “เอ้า! เข้าใจว่าดีใจ แต่พุ่งเข้าหาแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็หงายโครมพอดี”

    พาทิศบอกพลางหิ้วคอรุ้งพรายออกมาจากร่างของตุลา ซึ่งปีศาจแมวสาวก็ดิ้นไปมา จนซอมบี้หนุ่มต้องปล่อยให้เจ้าหล่อนลงพื้น

    “อีตาบ้า หยาบคาย มาหิ้วคอสุภาพสตรีแบบนี้ ระวังเหอะ แม่จะข่วนให้ตาหลุดเลย”

    รุ้งพรายโวยวายใส่พาทิศแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่กลับหันไปทางตุลาแทน

    “ฉันบอกเธอแล้วไง ว่าเธอไม่ต้องกังวลเรื่องบ้าน เป็นไง เป็นอย่างที่ฉันบอกใช่ไหม?”

    “แสดงว่าคุณพาทิศก็รู้อยู่ก่อนแล้วสินะครับ”

    ตุลาถามอีกฝ่าย ซึ่งซอมบี้หนุ่มก็ยิ้มตอบ แล้วบอกในสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มตะลึงมากขึ้น

    “ไม่เพียงแต่ฉัน อาของเธอก็รู้นะ เพราะฉะนั้น อาของเธอ จึงเขียนพินัยกรรมให้เธอเช่าที่นี่อยู่เขียนนิยาย เป็นเวลาหนึ่งปีพอดียังไงล่ะ”

    “ใจร้าย! ทำไมฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะ!”

    รุ้งพรายโวยวายขัดการสนทนาขึ้นมา ไม่ใช่แค่นั้นราตรีก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซอมบี้หนุ่ม เล่นเอาตุลาที่มองอยู่ผงะ เกือบจะหลุดปากร้องออกมาด้วยความตกใจ

    “นั่นสิ ทำไมไม่เคยบอกกันบ้างเลย และที่สำคัญ ทำไมถึงรู้แต่เธอล่ะพาทิศ!”

    ผีสาวถามด้วยความงอน เพราะเธอเองก็ถือว่าสนิทกับจอมเดชมากอยู่เช่นกัน แต่ทำไมมีแต่พาทิศเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ได้

    “ก็ฉันรู้เพราะบังเอิญเผลอไปได้ยินเข้าพอดี คุณจอมเดชเลยบอกว่าอย่าให้ฉันบอกใคร เพราะอยากจะให้ทุกคนเซอร์ไพรส์กันในอีกสิบปีข้างหน้า เธอรู้บ้างไหมราตรี การที่ต้องทนเก็บความลับ ทั้งที่คันปากอยากบอกใครสักคนแต่บอกไม่ได้ จนถึงสิบปีน่ะมันทรมานขนาดไหน”

    ราตรีชะงัก ก่อนจะพยักหน้ารับแต่ก็ยังคงบ่นอุบอิบเบา ๆ ที่จอมเดชไม่ยอมบอกเธอก่อนหน้านั้นอยู่ดี ส่วนรุ้งพรายนั้นพยักหน้ารับรู้อย่างจริงจัง เพราะสำหรับคนช่างพูดเช่นเธอ เข้าใจดีเลยว่า การต้องทนปิดบังเรื่องสำคัญไม่ให้พูดออกไปทั้งที่อยากพูดเหลือเกินนั่น มันทรมานสักเพียงใด

    ส่วนทางด้านพาทิศพอเห็นเพื่อนสาวทั้งสองเลิกโวยวายใส่เขา ชายหนุ่มก็ลอบยิ้มกับตัวเอง แล้วจึงหันไปทางตุลา

    “พอดีเลย ตกลงคืนนี้นอกจากปาร์ตี้ฉลองที่นิยายของเธอผ่าน เราก็เพิ่มงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าของบ้านคนใหม่ของคฤหาสน์ม่านราตรีไปด้วย  เธอว่าดีไหม?”

    “เอ่อ …คือ …ผม”

    ตุลาตอบกึกกัก อย่างที่ยังคงทำใจกับเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ค่อยได้ และสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น

    “ตุล…ไม่ต้องคิดมาก หลานรักที่นี่ คนที่นี่ก็รักหลาน และตอนนี้หลานก็ได้เป็นเจ้าของสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยคนที่หลานรักอย่างชอบธรรม ตุลรู้แค่นี้ก็พอ ไม่ต้องคิดอะไรมากกว่านี้ให้ยุ่งยากหรอก”

    กริชปรากฏกายออกมาข้าง ๆ เพื่อปลอบหลานชาย ซึ่งพอได้ฟังคำพูดของอา ตุลาก็หันไปยิ้มให้เขา และหันมายิ้มให้กับสมาชิกที่เหลือคนอื่น

    “ครับ ต่อไปนี้ผมเองก็ฝากตัวด้วยนะครับ เอ๋?”

    ตุลาชะงัก เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้กระซิก ๆ ลอยมาให้ได้ยิน แม้จะไม่ได้ดัง แต่ก็ชัดเจน ราวกับว่าดังขึ้นใกล้ ๆ

    “ตายละ ปิ่นร้องไห้อีกแล้ว แถมร้องหนักด้วย”

    รุ้งพรายอุทานอย่างนึกได้ หลังจากที่แปลกใจในตอนแรกกับเสียงร้องไห้ที่ได้ยินเหมือนกัน

    “ร้องไห้? ร้องทำไม?”

    อธิปถามอย่างสงสัย ซึ่งปีศาจแมวสาวก็หันมาทำหน้าเบื่อหน่ายใส่

    “ก็เพราะพวกเราเอาแต่มารุมตุลอยู่แถวนี้ ทั้งที่เขาเองก็อยากมีส่วนร่วมด้วย แต่มาไม่ได้ยังไงล่ะลุง ถามได้!”

    อธิปชะงักแล้วก็หัวเราะอย่างนึกขำ ก่อนจะตบบ่าตุลาค่อนข้างแรง

    “เจ้าหนู เสน่ห์แรงจริง ๆ นะเรา  เอ้า! งั้นไปตั้งครัวเตรียมปาร์ตี้กันในสวนด้านนอกดีไหม อากาศก็ดี แถมแม่เงือกสาวนั่นจะได้เลิกร้องไห้สักที แหม! สมกับเป็นภูตพรายจริง ๆ เสียงร้องไห้เบา ๆ แต่ดันลอยไปตามลมให้ได้ยินแทบทุกคนแบบนี้ มีหวังพรุ่งนี้ชาวบ้านได้เมาท์กันกระจายแน่ ว่าคฤหาสน์ผีสิงนี่เฮี้ยนขึ้นมาอีกแล้ว”

    ข้อเสนอพร้อมคำชมทะแม่ง ๆ ของอธิปทำให้ตุลายิ้มเจื่อน ๆ แล้วจึงหันไปทางพาทิศ ซึ่งพ่อครัวเอกของคฤหาสน์ก็ยิ้มพลางพยักหน้ารับรู้เห็นด้วย จากนั้นทั้งหมดจึงย้ายครัวไปเตรียมการกันที่สวนอย่างครึกครื้น โดยไม่รู้เลยว่า ตอนนี้พวกชาวบ้านที่ได้ยินเสียงร้องไห้ประหลาดลอยมาตามลมก่อนหน้านั้น กำลังเมาท์กระจายถึงเรื่องนี้กันทั่ว และต่างสรุปว่าเสียงนั้นมาจากคฤหาสน์ผีสิงเจ้าเดิมเป็นแน่ แถมยังเมาท์ไปถึงว่า ตุลานั้นอาจจะโดนผีสิงอยู่ถึงทำให้ทนอาศัยอยู่ที่นั่นไหวเป็นปี บ้างก็ว่าบางทีตุลาอาจจะมีอาคมแกร่งกล้าสะกดผีได้ หรืออาจจะเป็นผีเสียเองก็ได้



    ทว่าคนที่กำลังตกเป็นประเด็นลือกันอย่างสนุกสนาน ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์วุ่นวายพอสมควร เมื่อจู่ ๆ พาทิศก็แสดงความยินดีโดยการหอมแก้มตุลาต่อหน้าต่อตาทุกคนในที่นั้น ทำเอาสาว ๆ ในคฤหาสน์  โดยเฉพาะรุ้งพรายกรี๊ดกร๊าดโวยวายใส่ซอมบี้หนุ่มยกใหญ่ ส่วนกริชนั้นได้แต่หัวเราะเบา ๆ คล้ายไม่ใส่ใจ แต่หลังจากนั้นก็คอยแทรก และกันไม่ให้ตุลาได้อยู่ใกล้พาทิศอีกเลย จนอธิปมองไปขำไป กับความหวงหลานชายขนาดหนักของเพื่อนสนิท

    ตุลามองเพื่อน ๆ ต่างวัย ต่างภพ ต่างเผ่าพันธุ์ของเขาด้วยรอยยิ้มเป็นสุข เขาแหงนหน้ามองคฤหาสน์ที่อยู่อาศัยมากว่าหนึ่งปีด้วยความรักและผูกพัน เกิดเหตุต่าง ๆ ขึ้นมากมาย ชวนให้ทั้งตกใจ และสะเทือนใจ แต่ในที่สุดเขาก็ผ่านมัน มาจนกระทั่งเป้าหมายของเขาประสบความสำเร็จ แถมยังได้กลายมาเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้อย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย

    “ฉันขอฝากเนื้อฝากตัวอีกครั้งนะ ม่านราตรี”

    ตุลาพึมพำ พลางโค้งให้กับคฤหาสน์ตรงหน้า ก่อนจะหันมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตน จากปีศาจแมวสาว

    “ตุล! มานี่เร็ว มาช่วยฉันจัดซุ้มหน่อย!”

    “ครับ ๆ คุณรุ้ง ไปเดี๋ยวนี้ล่ะครับ”

    ตุลารับคำ เขาหันไปทางคฤหาสน์อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมา แล้วเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อน ๆ ของตน ด้วยรอยยิ้มอันเป็นสุขยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ





---จบภาค--- / TBC


ปกติจะตัดจบภาคที่ตอนนี้ แล้วคิดว่าจะขึ้นภาคใหม่ แต่ที่เขียนมาใหม่เนื้อหาต่อเนื่องกันไป เลยขึ้นเลขตอนต่อเนื่องไปเลย  ดังนั้นเลยกลับมาเปลี่ยนท้ายตอนนี้ เป็น TBC  แทนจบภาค เพื่อให้นักอ่านที่มาอ่านทีหลังไม่สับสนค่ะ


... คุยกันหลังจบ …



    ((บ่น : พอเขียน ๆ ไป ทำไมคาแรกเตอร์ของอีตาเซบาสเตียนมันถึงลอยมาใส่พาทิศได้ฟะ--... สงสัยหลังจากรับบทพ่อบ้านคราวนั้นแน่เลย   ดีนะที่หนูตุลไม่ซึนเหมือนจิเอลน่ะ!))

   ในตอนที่ 19 นี้ เขียนไว้ว่าจบภาค (ความจริงมันควรจะจบได้แล้ว --) แต่ก็อยากเขียนเนื้อเรื่องหลังจากนี้ต่ออีก เพียงแต่คงต้องวางพล็อต เอาไว้ล่วงหน้าจะได้ไม่เขียนไปออกทะเลไปหาฝั่งกลับไม่เจอ จนกระทั่ง ตัน และดองในที่สุด --.  (ปัญหาสำคัญของนักเขียนทีเดียวเรื่องนี้)

   ดังนั้นปัดขอเวลาพักผ่อนสัก 2-3 อาทิตย์ แล้วจะกลับมาเขียนม่านราตรี ต่อในภาคใหม่นะคะ

    สำหรับภาคใหม่พาทิศก็คงแสดงความเป็นเจ้าของหนูตุลมากขึ้น อากริชก็คงขวางตามเคย แต่คงได้อธิปช่วยดึง ๆ ไว้ล่ะนะ  ส่วนสามสาวเห็นแบบนั้นพวกเค้าคิดกับตุลาเหมือน แม่ เหมือนพี่สาว ส่วนหนูปิ่นถึงจะเขิน จะอาย อยู่บ่อย ๆ แต่ถ้าถามว่าเธอรักตุลาในแบบหนุ่มสาวไหม ก็คงตอบว่า ก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่ตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำนัก เพราะ ตัวละครตัวนี้ จะออกค่อนข้างขี้อายกับเพศตรงข้ามอยู่แล้ว และเธอมีความชอบพอในตัวตุลาเป็นพิเศษเท่านั้นเอง   

   ยังไงปัดก็ขอบคุณนักอ่าน และคอมเมนต์ที่ท่านมอบให้ ซึ่งปัดถือว่าเป็นกำลังใจอย่างมาก และเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองขยัน และทิ้งความขี้เกียจในการเขียนนิยายไปได้มากทีเดียว อีกทั้งหลายคอมเมนต์ก็ทำให้ยิ้ม ให้หัวเราะได้เมื่ออ่าน  ถึงปัดจะไม่ได้ไล่ตอบทุกคอมเมนต์แต่ก็เปิดอ่านตลอดนะคะ

   แล้วไว้เจอกันในภาคใหม่ค่ะ จะพยายามร่างพล็อต และเขียนเรื่องราวเอาไว้คร่าว ๆ เพื่อจะได้ไม่ทิ้งช่วงเวลาในการโพสมากจนเกินไปนักค่ะ
 :bye2:
   
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 25-07-2011 17:05:40
ว่าแล้วเชียว(ตบเข่าดังป้าบ)ว่าตุลต้องได้คฤหาสม่านราตรี
ชอบจัง อยากอ่านต่อ รอภาคต่อไปนะค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: n2 ที่ 25-07-2011 17:14:02
พาทิศหอมแก้มตุลอีกแล้ว :m3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Vvenus ที่ 25-07-2011 17:17:21
น่ารัก >< รอติดตามภาคต่อไป !!

ไฟท์ติ้งค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 25-07-2011 17:26:52
ขอบคุณสำหรับภาคนี้นะคะ  สนุกมากกกกกกกกก   o13
คิดว่าภาค 2 น่าจะมีเรื่องตื่นเต้นเข้ามาอีกเยอะแยะแน่เลย  o22   รอติดตามนะค้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 25-07-2011 17:58:53
จบภาค 1 แล้ว น่ารักมากๆเลย o13
เป็นนิยายผี ที่เรียกรอยยิ้มได้ตลอดจริง
รออ่านภาค 2 อยู้จ้า  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: raphaello ที่ 25-07-2011 18:33:37
เป็นนิยายผีๆที่น่ารักที่สุดที่เคยอ่านเลย^ ^

ว่าแล้วว่าพินัยกรรมต้องเป็นตุลที่ได้บ้าน (ฮุฮุฮุ ป้าแม้นเป็นลมเลยยย)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 25-07-2011 18:58:26
จบภาคได้น่ารักมากๆ  แล้วจะรอหนูตุลและพ้องเพื่อน รวมทั้งความรักกับคุณพาทิศต่อไปนะคะ  :m1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 25-07-2011 19:04:53
ทำไมไม่จูบไปเลยน้า
รอภาคหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 25-07-2011 19:59:12
อ๋อยยยย ชอบบบอ่าาา รอภาคต่ออนะคะ โหะ โหะ โหะ

ว่าแต่คุณนักเขียน ชอบคุณพ่อบ้านกับจิเอลเหมือนกันเลยอ่ะ คึคึ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 25-07-2011 20:51:45
สนุกสุด ๆ เลยค่ะ แล้วก็นายเอกน่ารักมาก ๆ ด้วย อิอิ

รอภาคต่อไปนะค่า ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 25-07-2011 21:21:51
แน่ะๆ พาทิศชักจะออกนอกหน้านอกตาไปแระ มาหงมาหอม อากริชอย่าไปยอมค่ะ :laugh:
รอภาคต่อนะคะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ayanae ที่ 25-07-2011 21:23:12
จบภาคได้น่ารักมากๆค่า
ดีใจที่ทุกคนได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
จะรอภาคต่อไปนะคะ สู้สู่ค่า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-07-2011 22:20:51
ขอบคุณมากครับคุณปัด นิยายคุณเยี่ยมจริงๆครับ จะรออ่านภาคต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 25-07-2011 22:22:53
ขอบคุณครับ
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-07-2011 00:06:47
จะรออ่านภาคต่อไปนะคะ ซึ่งต้องสนุกเหมือนภาคแรกแน่ๆ
เอ๊ะ..รึจะสนุกกว่านะ เพราะพาทิศกับตุลต้องได้รักกันหวานๆนะซิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กกะโปโล ที่ 26-07-2011 00:09:59
น่าจะจูบส่งท้ายนะพาทิศ :z1: หอมเฉยๆไม่สะจายยย

ขอบคุณคุณปัดมากๆฮะสำหรับภาคนี้
แล้วจะรอภาคใหม่นะฮะ จะได้เห็นพาทิศกับตุลหวานแบบจริงๆจังๆซะที
+1ให้คร๊าบ เป็นกำลังใจให้นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 26-07-2011 00:34:18
อบอุ่นดีค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Sadaharu ที่ 26-07-2011 00:35:36
เข้าใจเลยครับเรื่องออกทะเลเนี่ย เหอะๆ ยังไงมาต่อนะครับเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 26-07-2011 03:21:13
ยินดีด้วยกับเจ้าของม่านราตรีคนใหม่

รอภาคต่อไป  อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 26-07-2011 03:24:24
แอบลุ้นคุณอากับเพื่อนหมอผี ^^
รอภาคต่อไปอยู่น้า อยามลืมมาต่อนะ

ปล.เรื่องนี้อ่านตอนกลางคืนก็เสียวได้เหมือนกัน :a5:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 26-07-2011 10:04:22
ฮิ้ว ในที่สุดตุลกะได้เป็นเจ้าของคฤหาสม่านราตรี
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 26-07-2011 10:10:34
อ๊ายยยยยย น่ารักๆๆ คุณผีๆทั้งหลายน่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดด :m3: :m3:

เป็นนิยายผีๆที่ไม่น่ากลัวเลยซักกะติ๊ด อ่านไปยิ้มไปจนคนข้างๆจะหาว่าเป็นบ้าแล้ว  :o8: :o8:

รออ่านต่อภาค2อย่างใจดจ่อ มาต่อไวๆนะคะคุณปัทม์  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 26-07-2011 11:03:01
อ่านจบแว้ววววววววววว

รอภาคสองอย่างด่วนๆ
พ่อบ้านพาทิศจะรุกยังไงอีกว๊าาาาาา :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 26-07-2011 13:57:33
ให้กำลังใจเสมอและตลอดไปนะครับตุลา :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 26-07-2011 14:17:02
จบภาคนี้แบบอบอุ่น น่ารักๆ
แต่ยังไม่จุใจกับพ่อซอมบี้เลย
รอภาคสองนะจ๊ะ รอพ่อซอมบี้มาจัดหนักจ้า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 26-07-2011 15:03:10
จบภาคแรกแล้ว ถูกใจมากค่ะ
พาทิศเจ้าเล่ห์จริงๆ
รออ่านภาคต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Heladasless ที่ 26-07-2011 18:29:05
ชอบมาก o13
รอเซบาสจังกะจิเอล :impress2:  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 27-07-2011 08:40:35
คุณนายแม้นศรีเป็นลมแบบไม่ต้องเจอผี (ยิ่งกว่าเจอผีอีกนะ ยิ่งงกๆอยู่)

ภาคหน้าพาทิศติดเทอร์โบเลยไม๊

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 27-07-2011 09:49:05
จบภาคแล้ว...  ถ้าหนังสือที่ตุลออก ขายดีก็ดีสิ  เผื่อจะมีรุ่นน้องนักเขียนได้ปลื้มแอบมาขอเป็นลูกศิษย์ คงได้มันส์แน่ 55+ เอาเป็นว่าแค่คิดถึงในกรณีที่ตุลย์ได้
ป็นนักเขียนประจำ ก็สงสารคนที่จะมารับต้นฉบับแล้ว..
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sakerum ที่ 28-07-2011 00:05:23
 :mc4:เย้ๆๆๆๆๆ
จบภาคแล้วววว
อิอิ ตุลกับพาทิศน่ารักอ่ะ  o13
ทีนี้ก็รอภาคต่อใช่ป่ะ  รอๆ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 28-07-2011 21:16:39
ชอบมาก รอภาคต่อไปคะ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 28-07-2011 21:54:30
รออ่านภาคต่อปายยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Mai.IcySakura ที่ 29-07-2011 01:25:23
จบภาคอย่างแฮปปี้ อิอิ น่ารักมากเลยค่าเรื้่องนี้

จะรอภาคต่อนะคะ คงจะเป็นนิยายรักมากกว่าภาคนี้ใช่ป่าว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 29-07-2011 19:35:38
น่ารักอ่า จบได้ดีมากๆ แล้วมาต่อไวๆนา
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 30-07-2011 17:20:56
ตุลเขาคงจะไม่ซึนอย่างจิเอล
แต่เขาซื่อต่างหากล่ะ

ภาคหน้า ตุลจะโดนพาทิศทำอะไรอีกเนี่ย
อากริชขา ไม่ต้องใกล้หลานมากก็ได้
ปล่อยให้ 1 คน กับ ผี(ซอมบบี้) 1 ตัว เขาจู่จี๋กันบ้าง ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 04-08-2011 17:17:21
สนุกมากเลยค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มทั้งวัน ฮิๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 07-08-2011 13:22:41
ชอบมาก ตอนเเรกอ่านไปเสียว จริงๆเเล้วน่ารักมากๆ

อากริชหวงหลาน ตุลเป็นที่รักของทุกๆตนจริงๆ

รอภาค2น่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 30-08-2011 12:05:15
ภาค2จ๋ามารึยังเอ่ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 03-09-2011 00:29:06
เมื่อไหร่จะมาต่ออ่ะ แงๆๆๆๆ  :sad4: :sad4: :sad4:
เดือนกว่าแว้วววว  :o12:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 05-09-2011 03:07:16
อ่านจบแล้วเย่ๆ น่ารักมากๆเลย รออ่านภาคสองนะครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 05-09-2011 11:00:54
o13 สุดยอดไปเลยจร้า ชอบเรื่องนี้มากๆ
ตอนแรกพอเห็นว่าเป็นเรื่องผีปุ๊บแอบกลัวนิดๆ
แต่พออ่านไปเรี่อยๆ เกิดอาการตกหลุมรักคุณผีที่แสนน่ารักในบ้านนี้ขึ้นมาทันที
ในที่สุดตุลาก็เป็นเจ้าของอย่างเต็มตัวซักที เย้ๆ ดีใจ
พาทิศนี้ก็เริ่มแสดงตัวมากขึ้นเรี่อยๆ ฮ่าๆ
จะรอติดตามภาค 2 นะคร้า
 :L2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 19 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ- จบภาค (25/07/11)
เริ่มหัวข้อโดย: tamora ที่ 07-09-2011 15:41:35
อ่านนิยายจบ มาเห็นคอมเม้นต์ข้างล่าง นี่พี่ปัดเหรอเนี่ย
ที่แต่งเรื่อง เรื่องป่วนๆของก๊วนยมทูตในเด็กดีรึเปล่าค่ะ
แอบติดตามเรื่องนั้นมาเนิ่นนาน ^^
อ่านเรื่องนี้ของพี่ปัดแล้วคิดว่าหนุ่มๆน้อยไปนิดนึงอ่ะค่ะ แต่ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม  :3123:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 20-09-2011 17:49:36
กลับมาต่อแล้วค่า ขออภัยที่หายไปนานกว่าที่คิด .... พอดีงานเข้า ^ ^"

แถมพอกลับมาเขียนต่อ คิดไปคิดมา จะต่อหรือให้จบไปเลยดีฟะ

นั่งนึก ๆ คิด ๆ อยู่นาน จนได้ตัวธีมของภาคนี้ขึ้นมา  เอาตอนที่ 20 มาลงลองเชิงก่อนแล้วกันค่ะ  ตัวละครหลักก็คงเดิมไม่ค่อยเยอะมากมายสำหรับเรื่องนี้ล่ะนะคะ
..
..
..

ป.ล. ทีแรกว่าจะต่อตอน 1 ภาค 2 แต่คิดไปคิดมา เขียนให้เป็นตอนที่ 20 แทนดีกว่า ยังไงเนื้อหามันก็ต่อเนื่องอยู่ดี




ม่านราตรี
บทที่ 20


    ...ตุลาเป็นเจ้าของคฤหาสน์ม่านราตรีโดยไม่คาดฝันมาได้เป็นเวลาสามเดือนแล้ว  และแม้จะมีสมาชิกในบ้านอยู่มากมายหลายคน แต่นอกจากเขาและอธิป ทั้งหมดไม่เป็นพวกปีศาจก็เป็นวิญญาณทั้งนั้น แถมมนุษย์ด้วยกันอย่างอธิปก็ดันมีอาชีพหลักเป็นหมอผีเสียอีก

   ตามปกติตุลามักจะใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับสมาชิกในคฤหาสน์ แม้จะมีเรื่องให้ชวนผวาในบางครั้ง แต่เขาก็เริ่มเคยชินและมีภูมิต้านทานขึ้นมาทีละนิด แต่ทว่าเขากลับรู้สึกระทึกขวัญสั่นประสาทแทบจะทุกครั้ง ยามมีแขกภายนอกมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน โดยเฉพาะเมื่อแขกผู้นั้นเป็นคนสนิทและคุ้นเคยกับเขาเป็นพิเศษ

    และวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ขนาดเขาย้ำนักย้ำหนา ว่าให้สมาชิกในคฤหาสน์ช่วยกันระวัง เพราะกลุ่มเพื่อนของเขาจะแวะมา แต่ตุลาก็ยังพบเจอกับเหตุการณ์วุ่น ๆ เข้าให้อีก จนเขาชักไม่ค่อยแน่ใจนักว่า นี่เป็นเรื่องบังเอิญ หรือพวกสมาชิกในบ้านจงใจกลั่นแกล้งกันแน่

   “ผมจะไม่พูดอะไรอีกแล้วนะครับ ... เอาเป็นว่า ถ้าไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนความสงบที่นี่นัก คราวหน้าผมจะนัดพวกนั้นนอกบ้านแล้วกัน”

   ตุลาบอกต่อหน้าเหล่าภูตผีปีศาจ ที่มารวมพลกันในตอนค่ำ หลังจากเหตุการณ์ที่เพื่อนเขามาเยี่ยมบ้านและกลับออกไปด้วยอาการขวัญหนีดีฝ่อเสียยิ่งกว่าครั้งแรกที่มา เพราะเสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่ดังลั่นจากสวนด้านนอก แม้ตุลาจะพยายามแก้ตัวว่ามันเป็นเสียงจากทีวีของเพื่อนบ้านก็ตาม แต่ด้วยเพราะคฤหาสน์ที่ตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยวอย่างม่านราตรี ทำให้เพื่อนของเขายากที่จะเชื่อลงได้

   “ฉะ...ฉันขอโทษนะคะ ...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะร้องออกไป... แต่เพราะตกใจที่แมลงสาบที่รุ้งไล่จับ มันบินตรงมาหาฉัน ...ก็เลย...”

   ปิ่นสุดาบอกเสียงสั่นเครือเจือสะอื้น เพราะวันนี้เธอก็ยังแอบขึ้นมานั่งเล่นบนปากบ่อเช่นเคย แถมคำสารภาพของปิ่นสุดาก็ทำให้รุ้งพรายสะดุ้งเฮือกตามไป เพราะเจ้าหล่อนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเพื่อนของตุลามา แต่ก็ยังออกมาวิ่งเล่นในสวน โดยไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะเจอเช่นเดียวกัน

   “เฮ้อ...ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”

   ตุลาไม่อยากจะต่อว่าทั้งคู่ เพราะความจริงพวกหล่อนก็ใช้ชีวิตเช่นนี้ทุกวันด้วยความเคยชินมานานหลายสิบปีแล้ว เขาต่างหากที่เป็นฝ่ายย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ และมาก่อกวนชีวิตประจำวันอันสงบของทุกคน

   “ไม่ต้องร้องไห้หรอกครับคุณปิ่น คราวหน้าผมจะบอกให้พวกนั้นนัดเจอกันข้างนอก ...ซึ่งผมว่าพวกนั้นก็คงยินดีและเต็มใจมากเลยด้วย”

   ตุลาเอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่เขาเชื่อมั่นว่าเพื่อนของเขาแต่ละคน คงคิดเช่นเดียวกับเขา โดยเฉพาะพิชยะเพื่อนสนิทผู้ซึ่งไม่ถูกโรคกับภูตผีปีศาจเหมือนกับเขาคนนั้น

    “น่าเสียดายนะ ฉันอุตสาห์เริ่มติดใจนายเก่งเพื่อนของเธอเข้าให้แล้วแท้ ๆ  ตลกดี ขี้กลัวไม่แพ้เธอเลย”

   ราตรีบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทำให้คนฟังหันไปยิ้มแห้ง ๆ ให้ แล้วนึกสงสารเพื่อนสนิทขึ้นมาจับใจ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด เมื่อสาว ๆ เริ่มสนทนากันถึงเพื่อนของเขาอย่างสนุกสนาน

   “เอ่อ...คุณพาทิศล่ะครับ”

   ตุลาถามสาว ๆ เพราะเห็นว่าพาทิศยังไม่มารวมตัวกับคนอื่น ๆ สักที  ทั้งที่ยามปกติพอตกหัวค่ำแบบนี้ ชายหนุ่มมักจะปรากฏกายให้เขาเห็นแทบเป็นคนแรก ๆ ด้วยซ้ำ

   “เอ...จริง ๆ ด้วยแฮะ”

   รุ้งพรายเพิ่งสังเกตได้ตามที่อีกฝ่ายบอก ก่อนจะชะงักเมื่อปิ่นสุดาสะกิดเธอแล้วเอ่ยขึ้น

   “เพราะวันนี้เป็นจันทร์เต็มดวงหรือเปล่าคะ?”

   “อ๊ะ  อ๋อ! จริงด้วย พระจันทร์เต็มดวงนี่นะวันนี้”

   รุ้งพรายตอบกลับอย่างนึกได้ ทำให้ตุลาที่ฟังอยู่เริ่มงุนงง ก่อนจะนึกย้อนไปถึงเมื่อก่อน ที่ก็มีบางวันที่เขาไม่ค่อยเจอกับพาทิศ แต่เพราะได้เจอหน้ากันบ่อยเสียยิ่งกว่าหายหน้าห่างกัน จึงทำให้เขาไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในเรื่องนี้เท่าใดนัก

   “มีอะไรกับพระจันทร์เต็มดวงหรือครับ?”

   ตุลาถามสองสาว รุ้งพรายกับปิ่นสุดาสะดุ้งโหยง พลางจ้องมองหน้ากันอย่างลังเลว่าจะเล่าให้ชายหนุ่มฟังดีไหม

   “เอ่อ...ถ้าเป็นเรื่องที่เป็นความลับ ผมไม่ถามก็ได้ครับ”

   ตุลาบอกอย่างเกรงใจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งคู่

   “พาทิศเค้ามักจะไปหาคู่รักของเขาในคืนวันนี้น่ะ”

   คำตอบที่ได้ยินทำให้ตุลาชะงักกึก ก่อนจะรู้สึกตัวชาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   “คู่รัก...”

   “อืม... ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ เคยถามครั้งหนึ่งแล้วก็ได้คำตอบมาแบบนี้ล่ะ”

   ราตรีบอกเรียบ ๆ  ส่วนสองสาวก็มีสีหน้าลำบากใจไม่แพ้กัน

   “ฉันก็พอจะรู้บ้าง...แต่อย่าให้เล่าเลยนะ ถ้าตุลอยากรู้ก็ไปถามเขาเอาเองเถอะ”

   รุ้งพรายตัดบท ทำให้ตุลายิ่งประหลาดใจมาก เพราะปกติแมวสาวจะชอบเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ของคนอื่นให้เขาฟังเสมอโดยไม่คิดจะปิดบังหรือเกรงใจว่ามันจะละเมิดเรื่องส่วนตัวของคนอื่น

   “เอ่อ...ผมก็แค่สงสัย ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับขึ้นห้องก่อนนะครับ”

   ตุลาบอกกับบรรดาสาว ๆ แล้วปลีกตัวเดินกลับห้องพักของตน  ซึ่งพอลับหลังชายหนุ่ม ทั้งสามสาวก็ถอนหายใจออกมาพร้อม ๆ กัน

   “ก็นะ เรื่องส่วนตัวแบบนั้น จะให้เล่าไปก็ลำบากใจเหมือนกัน”

   “นั่นสิคะ ขนาดเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี แต่คุณพาทิศก็ยังไม่เคยลืมเธอคนนั้นเลยนี่นะคะ”

   ปิ่นสุดาเอ่ยตอบ ทำให้ราตรีหวนนึกถึงจอมเดชขึ้นมาบ้าง   

   “เวลาแค่ไม่กี่สิบปีสำหรับพวกเรา มันแทบไม่แตกต่างอะไรกับไม่กี่เดือนของมนุษย์นั่นล่ะนะ...”

    “มันก็ใช่...แต่ก็ไม่ควรจะผูกมัดตัวเองติดอยู่กับอดีตแบบนั้นนี่นา ความทรงจำน่ะเก็บไว้ได้ แต่เราก็ต้องก้าวเดินไปสู่อนาคตพร้อมกับมันด้วย”

   รุ้งพรายบอกอย่างพอจะคาดเดาได้ว่าเพื่อนสาวกำลังคิดถึงเจ้าของคฤหาสน์คนเก่าผู้นั้นอยู่

   “อืม...นั่นสิ”

   ราตรีตอบพลางแย้มยิ้มอ่อนโยนส่งให้ รุ้งพรายยิ้มตอบ แล้วจึงพึมพำขึ้นมา

   “หวังว่าหมอนั่นคงกล้าเล่าเรื่องเธอคนนั้นให้ตุลฟัง เหมือนกับที่เคยกล้าเล่าให้พวกเราฟังล่ะนะ”

   “ฉันเชื่อนะคะ ว่าถ้าเป็นคุณตุลจะต้องไม่กลัวเขา และจะต้องเข้าใจในตัวเขาแน่”

   ปิ่นสุดาบอกกับปีศาจแมวสาวอย่างเชื่อมั่น ซึ่งรุ้งพรายก็ยิ้มน้อย ๆ ตอบเพื่อนของหล่อน แล้วจึงเงยหน้ามองไปยังตำแหน่งที่ตั้งห้องนอนของตุลา

   “นั่นสินะ เพราะเป็นเด็กคนนั้นที่พวกเราทุกคนรัก เขาจะต้องเข้าใจและยอมรับในอดีตของพาทิศได้แน่นอน”

   

   ตุลาหลังจากที่ปลีกตัวออกมาก็ยังคงนั่งนิ่งเงียบอยู่ที่โต๊ะทำงาน ในตอนแรกเขาตั้งใจจะเขียนนิยายต่อ แต่กลับไม่มีสมาธิที่จะจดจ่อถึงเนื้อเรื่องได้เลย เรื่องที่พาทิศมีคู่รักหวนกลับมารบกวนเขาอยู่ตลอด ตุลารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก จริงอยู่ที่พาทิศนั้นชอบมาหยอกล้อแกล้งเขาในลักษณะที่ชวนให้เข้าใจผิด แต่ก็ไม่เคยทำมากกว่ากอดและจูบ แถมบางครั้งพอเขาเผลอเคลิ้มไปกับอีกฝ่าย พาทิศก็หยุดการกระทำไปเฉย ๆ เช่นนั้น  จนเขาเองยังแปลกใจ แต่พอมารู้ความจริงแบบนี้ ก็ทำให้พอเข้าใจการกระทำเช่นนั้นบ้าง... พาทิศคงแค่แหย่เล่นไม่ได้คิดจริงจังกับเขา ความจริงเขาควรจะโล่งอกแท้ ๆ แต่ยิ่งคิดกลับยิ่งรู้สึกโมโห และปวดใจขึ้นมาอย่างประหลาด

    ชายหนุ่มปิดโน้ตบุคที่เปิดทิ้งค้างเอาไว้เป็นเวลานาน และตั้งใจจะนอนหลับ แต่ด้วยความเป็นคนนอนดึกเป็นประจำ จึงทำให้เขาไม่เกิดความง่วง และนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปลำพังเช่นนั้น จนกระทั่งเริ่มเบื่อ จึงตัดสินใจออกไปเดินเล่นในสวน เพื่อหาเพื่อนคุยกับตน

   “หือ... ไปไหนกันหมด?”

   ตุลารู้สึกแปลกใจ เพราะปกติมักจะเห็นพวกสาว ๆ ไปรวมกันอยู่ที่ซุ้มดอกราตรี  แต่วันนี้กลับเงียบไร้ผู้คน ทำให้สวนที่ดูน่ากลัวอยู่แล้วยิ่งวังเวงหนัก

   “อะไรของมันกันนะวันนี้!”

   คนที่หงุดหงิดอยู่แล้ว บ่นอุบพาล ๆ กับตัวเอง เมื่อคิดว่ายังไงก็คงไม่มีเพื่อนคุยแน่ เขาจึงตัดสินใจกลับขึ้นห้องพักของตน ทว่าก็ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาเบื้องหน้าเขา

   “คุณพาทิศ...”

   “พวกรุ้งไปตามฉันมา บอกว่าเธออยากพบฉัน”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ ทำให้ตุลาชะงัก หน้าแดงนิด ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะไปมา

   “ไม่ใช่สักหน่อยครับ ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคุณไม่อยู่บ้านก็แค่นั้นเอง...”

   ตุลาบอกพร้อมก้มหน้าหลบ ไม่กล้าสบตาคนตรงหน้าขึ้นมาดื้อ ๆ

   “อย่างนั้นหรือ...ถ้าอย่างนั้นฉันกลับห้องใต้ดินล่ะนะ”

   พาทิศแกล้งทำเป็นพึมพำรับคำ แล้วขอปลีกตัวจากไป นั่นทำให้ตุลาสะดุ้ง รีบเร่งฝีเท้าเดินไปคว้าแขนร่างสูงไว้ทันที

   “เดี๋ยวก่อนครับ!”

   “หือ? มีอะไรอย่างนั้นหรือ”

   พาทิศแสร้งถามด้วยสีหน้าสงสัย ตุลาอึกอัก หน้าแดงนิด ๆ ก่อนจะตัดสินใจถามออกไป

   “คุณ...ไปหาคู่รักของคุณมา...จริงหรือครับ”

   พาทิศจ้องมองชายหนุ่มนิ่ง ไม่ได้ตอบคำถามนั้น จนคนรอฟังใจเสีย

   “ขะ...ขอโทษครับ ที่ก้าวก่าย ...ผมกลับห้องล่ะครับ”

   ตุลารีบบอก แล้ววิ่งจากไปด้วยความรู้สึกสับสน เจ้าตัวรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่ดวงตาทั้งสอง แล้วจึงใช้หลังมือปาดน้ำใส ๆ ที่กำลังไหลรินออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้ ก่อนจะอุทานด้วยความตกใจ เมื่อร่างของตนโดนอ้อมแขนแกร่งรวบเอาไว้จากเบื้องหลัง ไม่ให้หนีไปไหน

   “คุณพาทิศ...ปล่อยเถอะครับ”

   ตุลาบอกเสียงสั่นพร่า กับท่ากอดที่ดูหมิ่นเหม่นั่น แถมพอหวนคิดว่าเจ้าตัวมีคนรักแล้ว เขาก็ยิ่งรู้สึกปวดใจแปลบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

   “ไม่ปล่อย...จนกว่าตุลจะบอกฉันว่า ร้องไห้ทำไม”

   ร่างสูงที่พลิกกายอีกฝ่ายให้มาเผชิญหน้า ถามอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้นิ้วกรีดซับน้ำตาของชายหนุ่มผู้เยาว์วัยแผ่วเบา

   “ผม...”

   ตุลาเงยหน้าสบตากับอีกฝ่ายพลางหลุบตาหลบอย่างช้า ๆ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองร้องไห้ทำไม รู้แต่ว่าหงุดหงิด ไม่พอใจ แล้วลึก ๆ รู้สึกเสียใจ ที่คนตรงหน้ามีคนรักอยู่แล้ว

   “เฮ้อ...ช่วยไม่ได้ ทั้งที่อยากฟังจากปากของตุลมากกว่าล่ะนะ”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ แล้วชะโงกหน้าไปจูบที่เปลือกตาของชายหนุ่มค่อย ๆ

   “กลับขึ้นห้องเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง”

   ตุลาพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วจึงยอมให้อีกฝ่ายจูงมือเดินนำไปเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงห้อง พาทิศก็จับร่างโปร่งให้นั่งบนเตียง จากนั้นเขาจึงเดินไปลากเก้าอี้มานั่งเป็นเพื่อนข้าง ๆ

   “ตุลอยากฟังเรื่องของฉันไหม…เรื่องคู่รักที่ตุลอยากรู้ยังไงล่ะ”

   ตุลาเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย แล้วจึงพยักหน้าตอบรับ

   “อืม...พวกรุ้งก็บอกฉันเหมือนกัน ว่าให้ลองเล่าให้ตุลฟังดู แต่พูดก็พูดเถอะ ถ้าให้เลือกฉันไม่อยากให้ตุลรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ”

   ตุลาชะงักพลางกำมือตัวเองแน่น เพราะเผลอคิดไปว่าตนเองไม่มีความหมายสำหรับอีกฝ่าย และที่พาทิศทำดีด้วยก็เพียงแค่ต้องการแกล้งเขาเล่น ๆ ไม่ได้จริงจังอะไร  จึงไม่อยากให้เขาได้รับรู้เรื่องนี้

   “หึ ๆ  ดูเหมือนจะเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า”

   พาทิศที่สังเกตปฏิกิริยานั้นหัวเราะในลำคอ แล้วเอื้อมไปจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมาจูบเบา ๆ จนตุลาตกใจ

   “เอาล่ะ...เล่าก็เล่า ...”

   ผีดิบหนุ่มพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าขรึมลงเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจเล่าเรื่องราวในอดีตของตนให้คนบนเตียงฟังทั้งหมด

   “ฉันเคยมีคู่รัก... คน ๆ เดียวกันกับที่เธออยากรู้จักนั่นล่ะ”

   “...เคยมี?”

   ตุลาทวนคำอย่างประหลาดใจ ซึ่งพาทิศก็ยิ้มน้อย ๆ แล้วเล่าต่อ

   “ใช่ เคยมี...แต่เธอตายไปแล้ว...ตายไปเมื่อหลายสิบปี ก่อนที่ฉันจะมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”

   ตุลาชะงักกึก แล้วเบือนหน้าหลบสายตาไปทางอื่น นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาทันที เพราะแทนที่จะสงสารอีกฝ่าย แต่วูบหนึ่งแล้วเขากลับรู้สึกยินดีขึ้นมาประหลาด เมื่อทราบว่าคู่รักของพาทิศคนนั้นได้ตายไปแล้ว

   พาทิศที่พอจะคาดเดาจากสีหน้าและท่าทางของอีกฝ่ายได้ ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่นั้น ยิ้มน้อย ๆ อย่างไม่นึกโกรธ เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน แล้วจึงเล่าต่อ

   “เมื่อก่อน ฉันเคยเกลียดมนุษย์ เพราะในยามที่ฉันมีชีวิตอยู่ ฉันต้องเจอแต่กับเรื่องร้าย ๆ เพราะคนรอบข้างมาตลอด...ฉันเกลียด ฉันเคียดแค้น เฝ้ากร่นด่าชะตากรรมจนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตมาถึง ...แม้กระทั่งตายไปแล้ว โชคชะตาก็ยังเล่นตลกและโหดร้ายกับฉันไม่เปลี่ยน ...ฉันกลายเป็นผีดิบ จากนั้นก็ใช้ชีวิตอันอมตะของตน ลงโทษคนที่ทำให้ฉันทุกข์ ให้พวกมันพบกับความทุกข์และทรมานยิ่งกว่าฉันได้รับ”

   พาทิศเสียงแผ่วลง หวนคิดถึงความหลังอันยาวนาน นัยน์ตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาชั่วขณะ ทำให้ตุลาเสียวสันหลังวาบ ทว่าเพียงแค่ครู่เดียวมันก็กลับมาเป็นปกติ   

    “...กลัวฉันไหม?”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แต่พอเห็นแววตาของอีกฝ่ายดูหมองลง เขาก็รีบโพล่งตอบออกไปดังลั่น

   “ไม่ครับ!”

   พาทิศชะงัก ก่อนจะจ้องมองแววตาคู่นั้นอย่างค้นคว้าหาความจริง

   “ผะ...ผม ยอมรับว่าพอฟังแล้วอาจจะกลัว เพราะไม่เคยรู้จักคุณในอดีตมาก่อน...แต่ถ้าเป็นคุณที่อยู่ตรงนี้ ผมไม่มีทางกลัวแน่นอน...อ้อ ถ้าไม่พยายามทำโน่นนี่หลุดบ่อย ๆ ล่ะนะครับ”

   ตุลาเอ่ยตอบออกไปตามตรง ทำให้คนฟังหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วจึงแย้มยิ้มอ่อนโยนชวนมองให้

   “ขอบคุณนะตุล...”

   พาทิศพึมพำ แล้วจึงเล่าเรื่องราวในอดีตของตนต่อ

   “ฉันใช้ชีวิตในฐานะผีดิบมานานจนแทบจะลืมความเป็นมนุษย์ ...และตอนนั้นเองฉันก็ได้เจอกับเธอคนนั้น”

   พาทิศหวนย้อนคิดถึงใบหน้าอ่อนหวาน ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำให้ผู้คนที่พบเห็นสบายใจเสมอ ของอดีตคนรัก

   “เธอคนนั้นเป็นคนสอนให้ฉันได้รู้ว่า มนุษย์ใช่ว่าจะมีแต่ด้านเลวร้ายเสมอไป มนุษย์ที่มีจิตใจดี และมีเมตตา พร้อมจะให้อภัยกับคนที่ทำผิดก็มีอยู่มากมาย ...แต่ก็เพราะฉัน ถึงทำให้คนดี ๆ อย่างเธอต้องมาตายลงไปก่อนวัยอันควร....คืนนั้นที่เธอจากฉันไป ก็เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงแบบนี้ล่ะนะ...”

   ผีดิบหนุ่มมีสีหน้าเศร้าหมองลงจนตุลารู้สึกปวดใจ เขาเอื้อมมือไปกุมมือทั้งสองของพาทิศ แล้วสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง

   “พอเถอะครับ...ถ้าไม่อยากเล่าก็อย่าเล่าต่อไปอีกเลย”

    พาทิศสบตาตอบ ก็เห็นแต่แววตาห่วงใยระคนสงสารของอีกฝ่ายจ้องตอบกลับมา เขายิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าไปหอมแก้มของคนปลอบ จนตุลาสะดุ้งรีบปล่อยมือ แล้วถอยออกมาหน้าแดงระเรื่อ

   “ขอบใจนะตุล... ก็นั่นล่ะ ฉันคงยังเล่ารายละเอียดหลัก ๆ ให้เธอฟังไม่ได้  แต่ฉันบอกได้แค่ว่า เพราะอยู่ใกล้ฉัน เธอคนนั้นถึงต้องโชคร้ายจนต้องตายไปในที่สุด... รู้แบบนี้แล้ว ตุลกลัวฉันไหม...เพราะไม่แน่นะ ฉันอาจจะทำให้เหตุการณ์ร้าย ๆ นั่น ย้อนกลับมาหาตุลเหมือนเธอคนนั้นก็เป็นได้”

   ตุลายอมรับว่าพออีกฝ่ายพูดแบบนั้นด้วยแววตาจริงจัง เขาเองก็รู้สึกกลัวเช่นกัน แต่เมื่อหวนคิดถึงหนึ่งปีที่อยู่ร่วมกันมา เขาก็เม้มปากนิด ๆ แล้วลุกขึ้นก่อนจะโผไปโอบกอดรอบคอพาทิศแล้วพึมพำตอบ

   “ผมไม่กลัว ...สิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือ ไม่มีคุณและทุกคนอยู่ร่วมกันที่คฤหาสน์หลังนี้ มีแต่ผมที่อยู่คนเดียว ...ถ้าเป็นแบบนั้น สู้ให้เจอเรื่องร้าย ๆ เสียยังดีกว่า”

   พาทิศนิ่งชะงักด้วยความตกตะลึงต่อคำสารภาพของอีกฝ่าย ก่อนจะหลับตาลงช้า ๆ แล้วลืมตาขึ้น พร้อมกับดันร่างโปร่งออกมาสบตาด้วย

   “แย่จริงตุล...เธอกำลังทำให้ฉันคิดจริงจังกับเธอแล้วนะ ...รู้ไหมว่า ถ้าเป็นแบบนั้น ต่อให้อาของเธอ หรือใครในบ้านนี้จะห้าม ...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่...”

   ตุลาใจเต้นตึกตักต่อแววตาที่แฝงไปด้วยอำนาจประหลาดคู่นั้น และกว่าจะรู้สึกตัวอีกที แผ่นหลังของเขาก็กระทบกับเตียงนอน โดยมีร่างสูงคร่อมอยู่ด้านบน

   “คุณพาทิศ...”

   ตุลาพึมพำครางเรียกชื่ออีกฝ่าย ในขณะที่ร่างสูงไล่จูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าและลำคอของตน ก่อนที่พาทิศจะชะงัก แล้วยิ้มมุมปากน้อย ๆ พลางดันกายลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ ทำให้คนที่นอนอ่อนระทวยปรือตาขึ้นมามองอย่างแปลกใจ

   “ขืนทำมากกว่านี้ ฉันอาจโดนกันท่าจากตุลก็ได้ ...ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงเศร้าแย่”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ อย่างนึกขัน เมื่อจับสัมผัสบางอย่างจากนอกห้อง ก่อนจะแกล้งรั้งตัวตุลาขึ้นมานั่ง แล้วกัดงับไปแรง ๆ ตรงซอกคอของอีกฝ่าย

   “โอ๊ย!”

   ตุลาร้องเสียงดังด้วยความเจ็บ ทว่าหลังจากที่เขาหลุดปากร้องออกไป ด้านนอกระเบียงก็มีสามสาวเปิดพรวดเข้ามา ส่วนประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับกริชและอธิปที่ก้าวเข้ามาในห้องเช่นเดียวกัน

   “แย่จัง แบบนี้ก็คงต้องเปิดตัวกับทุกคนแล้วสินะตุล...ว่างั้นไหม”

   พาทิศบอกกับตุลาพลางแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาตุลานิ่งอึ้ง หน้าซีดสลับแดง เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นของทุกคนที่มองมายังพวกตน

   “ตุล...อาถามตรง ๆ นะ ชอบหมอนี่แบบนั้นจริง ๆ หรือเปล่า!”

   กริชถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ขณะที่อธิปพยายามกลั้นหัวเราะ เขากับกริชแอบฟังทั้งคู่คุยกันอยู่นาน ...แน่นอนด้วยความสามารถเฉพาะตัวของวิญญาณอย่างกริช และด้วยอาคมที่เขามีก็ทำให้พวกเขามองเข้าไปในห้องได้สบาย ๆ ซึ่งเขาเองก็พอจะมองออกถึงท่าทางของตุลาและพาทิศในช่วงระยะสามเดือนที่ผ่านมา กริชเองก็เช่นกัน เขาเองก็พอจะรู้ว่าหลานชายนั้นเริ่มมีใจให้อีกฝ่าย ถึงไม่ออกไปขัดขวางแต่แรก และทนรอจนกระทั่งพาทิศรู้สึกตัวว่ามีคนแอบมองนั่นล่ะ

   ส่วนสามสาว หลังจากที่ไปบอกให้พาทิศเล่าเรื่องราวในอดีตให้ตุลาฟัง พวกหล่อนก็ตัดสินใจแอบมองอยู่ห่าง ๆ แต่ว่าหลังจากที่เห็นทั้งคู่กอดกันในสวน ก็ทำให้พวกเธอเริ่มอยากรู้อยากเห็น และตามมาแอบมองอยู่นอกห้อง ซึ่งถึงแม้จะได้เห็นพฤติกรรมชวนน่าสงสัยของทั้งคู่ แต่พวกเธอก็ยังตัดสินใจแอบดูเงียบ ๆ ด้วยความลุ้นระทึก แม้กระทั่งตอนที่พาทิศจับตุลากดลงไปบนเตียงก็ตาม พวกเธอก็ไม่คิดจะออกไปขัดขวาง แถมยังรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาดอีกด้วย

   “อาครับ...คือผม”

   ตุลาตอบกึกกักด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วจึงหันมองคนโน้นคนนี้ที่มองมาที่เขาเป็นตาเดียว ก่อนจะชะงักเมื่อพาทิศจับบ่าของเขาบีบเบา ๆ

   “ตอบไปตามความรู้สึกของตุลเถอะ...ฉันเองก็อยากรู้ และถึงจะปฏิเสธกัน ฉันก็ไม่โกรธหรอกนะ”

   พาทิศพูดดักเอาไว้ ทำให้คนที่คิดจะแก้ตัวสะดุ้ง แล้วจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ หวนคิดถึงความรู้สึกของตนที่ผ่านมา ก่อนจะหันมายิ้มให้กับผู้เป็นอา

   “ผมชอบเขาครับ”

   ตุลาตอบออกไปตามตรง ทำให้แม้แต่พาทิศเองยังแอบนิ่งอึ้ง ก่อนแย้มรอยยิ้มอ่อนโยนตามมา

   ทางด้านกริชเองพอได้ฟังก็เงียบไปชั่วครู่ เขาสบตาหลานชายก็เห็นแต่ความจริงใจในแววตาคู่นั้น วิญญาณหนุ่มทำท่าถอนหายใจ แล้วจึงหันไปทางอธิปก็เห็นเพื่อนสนิทกำลังกลั้นหัวเราะ กริชสบถอุบอิบด่าเพื่อนเบา ๆ แล้วจึงหันไปทางพาทิศที่มองเขาตอบเช่นกัน

   “ถ้านายจริงจัง ฉันก็จะไม่ขัดขวาง ...แต่ถ้าคิดกับตุลแค่เล่น ๆ ฉันก็ขอร้องว่าอย่าให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ กับหลานชายฉันอีก”

   พาทิศเงียบกริบ ไม่คิดว่ากริชจะยอมง่าย ๆ เช่นนี้  เขามองไปยังตุลาที่สบตาเขาด้วยความเป็นกังวล  พาทิศหลับตาลงช้า ๆ หวนคิดถึงกำแพงบาง ๆ ที่ตนเคยสร้างกั้นระหว่างอีกฝ่าย ที่แม้จะถูกใจเพียงไหน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลยไปมากกว่าการสัมผัสเล็กน้อย ...เพราะเขากลัวว่า หากรักเข้าไปเต็มหัวใจจริง ๆ แล้ว  อีกฝ่ายอาจจะต้องประสบกับชะตากรรมอันเลวร้าย เหมือนกับอดีตคนรักของเขาก็เป็นได้  ทว่าด้วยคำพูดของตุลาเมื่อก่อนหน้า ก็ช่วยปัดเป่าถึงความกังวลนั้นให้เขาจนหมดสิ้น

   “ผมชอบตุลครับ...ก่อนหน้านั้นยอมรับว่าแค่ถูกใจ จึงอยากแกล้งดู ...แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั่นมันมากขึ้นกว่าเดิมแล้วล่ะครับ”

   กริชเงียบไปพักใหญ่ แล้วจึงมีสีหน้าเหมือนปลงตก เขาลูบศีรษะผู้เป็นหลานชายเบา ๆ แล้วจึงหายตัวไป ทำให้ตุลาตกใจเป็นอย่างมาก แต่พอได้ยินที่อธิปบอกก็ทำให้เขารู้สึกโล่งอกและเบาใจขึ้นมา

   “ใจเย็น ๆ หมอนั่นก็แค่หายตัวไปทำใจในแบบของเขา ...แต่ไม่ต้องห่วงนะ หมอนั่นยอมรับในการตัดสินใจของเธอในทุกเรื่อง เพราะเขาเชื่อมั่นในตัวเธอยิ่งกว่าใครไงล่ะ”

   อธิปอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง แล้วขอตัวกลับห้องบ้าง ส่วนสามสาวที่นิ่งเงียบอยู่นานก็รุมล็อกตัวผีดิบหนุ่ม แล้วยิงคำถามรัวจนพาทิศหูชา

    “อะไรกัน! ไปชอบกันตอนไหนทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย เล่ามาให้หมดเลยนะ!”

   รุ้งพรายถามเสียงสูงปรี๊ดอย่างโมโห ที่เธอนั้นตกข่าวใหญ่แบบนี้ได้ ยิ่งดูจากท่าทางของกริชและอธิปก็ทำให้รู้ว่า สองคนนั้นก็รู้ตื้นลึกหนาบางมาพอสมควรยิ่งกว่าเธอเสียอีก

   “นั่นสิ! แย่จัง เพื่อนกันแท้ ๆ ทำไมไม่ปรึกษากันบ้างเลย เรารึจะได้ช่วยวางผงวางแผนดูต้นทางคุณกริชให้บ้าง!”

   ราตรีบ่นอุบ แต่คำบ่นของเธอทำให้ตุลาหันไปมองตาปริบ ๆ ส่วนปิ่นสุดานั้นน้ำตาคลอ แล้วบอกกับพาทิศด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น

   “นั่นสิคะ ...พวกเราอุตสาห์ไว้ใจคุณแท้ ๆ ...แต่ไม่คิดว่าจะชุบมือเปิบไปแบบนี้ ...ว่าแต่คุณตุลเป็นรับใช่ไหมคะ ...อย่าให้เป็นรุกนะคะ... ไม่งั้นฉันไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ...”

   รุ้งพรายกับตุลาหันมามองเงือกสาวตาปริบ ๆ ส่วนพาทิศนิ่งอึ้งไปในทีแรก ก่อนจะหัวเราะตามมา แล้วรับปากปิ่นสุดาว่าจะไม่ยอมให้ตุลารุกเขาเด็ดขาด

   “บางทีฉันก็ไม่เข้าใจ เรื่องความชอบของปิ่นเลยนะ”

   รุ้งพรายพึมพำ ซึ่งตุลาก็พยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่ และเมื่อตอบคำถามของสามสาวอยู่พักใหญ่ ทั้งหมดจึงเริ่มแยกย้ายกันไป เพราะได้ยินเสียงนาฬิกาตีดังเที่ยงคืน อันเป็นเวลาสมควรพักผ่อนของตุลาแล้ว

    “ราตรีสวัสดิ์ ฝันดีนะ”

   พาทิศชะโงกหน้าไปหอมแก้มชายหนุ่ม  ตุลาหน้าแดงนิด ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินกลับไปนอน หวนคิดถึงเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้า พลางอมยิ้มน้อย ๆ

    อยู่เป็นโสดมายี่สิบกว่าปี ในที่สุดเขาก็มีคนรักเหมือนคนอื่นบ้างแล้ว ...ถึงคนรักคนนี้จะเป็นผู้ชาย แถมไม่ใช่คนก็ตาม แต่สำหรับตุลา ก็ถือว่า พาทิศเป็นคนที่เขาอยากอยู่เคียงข้างไปด้วยกันเรื่อย ๆ ตลอดไปล่ะนะ


   
   
---TBC---

   








------------

ตอบคำถาม:
อ่านนิยายจบ มาเห็นคอมเม้นต์ข้างล่าง นี่พี่ปัดเหรอเนี่ย
ที่แต่งเรื่อง เรื่องป่วนๆของก๊วนยมทูตในเด็กดีรึเปล่าค่ะ
แอบติดตามเรื่องนั้นมาเนิ่นนาน ^^
อ่านเรื่องนี้ของพี่ปัดแล้วคิดว่าหนุ่มๆน้อยไปนิดนึงอ่ะค่ะ แต่ก็ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิม  :3123:

คนเขียนคนเดียวกันค่ะ ^ ^ เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันเขียนคนละแนวค่ะ หนุ่ม ๆเลยน้อยไปหน่อย อีกอย่างไม่อยากใช้ตัวละครเปลืองด้วย แหะ ๆ อยากเขียนตัวละครน้อย ๆ แต่ให้คนอ่านรู้สึกผูกพันกับทุกตัวมากกว่าน่ะค่ะ ^ ^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 20-09-2011 17:57:17
ในที่สุดก็กลับมาอัพ
...................................


อดหงุดหงิดตุลไม่ได้ ทำไมเป็นคนว่าง่ายขนาดนี้เนี่ย
อยากให้งอนให้พาทิศง้อจริง ๆ แต่เพราะแบบนี้แหละถึงได้น่ารัก น่าแกล้ง XD

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 20-09-2011 18:26:16
 :mc3: :mc3: :mc3:

เย้ๆๆๆ  กลับมาอัพแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 20-09-2011 19:28:10
กรี๊ดดดด กลับมาแว้ววว นึกว่าจะไม่มาต่อแว้ว โฮววว โล่งอก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 20-09-2011 19:45:25
มาอ่านตอนใหม่ น่าติดตามเหมือนเดิมค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 20-09-2011 20:03:05
ในที่สุดก็มาต่อแล้วดีใจมาก :กอด1:
ตุลาน่ารักมาก :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 20-09-2011 20:08:52
เหมือนมีลางสังหรณ์ เมื่อวานยังนึกถึงเรื่องนี้อยู่เลยว่าหายไปนาน สงสัยไม่ได้อ่านต่อแล้ว
วันนี้เปิดมาดจอเลย ดีใจๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 20-09-2011 20:40:25
 :mc4: กลับมาแล้ว ดีใจจังเลย   อย่างงี้ต้อง + 
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 20-09-2011 20:48:14
 :L2: :L2: :L2: :L2:ตุลาน่ารักมาก
กลับมาแล้ว นึกว่าจะไม่มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-09-2011 21:08:37
ว๊าย เพิ่งรู้ว่าคนเขียนคนเดียวกับเรื่องป่วนๆฯนะคะนี่
เรื่องนั้นเค้าก็ชอบมากเลย  ฮาเร็มย่อมๆเลยอ่ะค่ะ :laugh:

เรื่องนี้ก็ชอบเหมือนเดิมค่ะ  :o8:
มาต่อเร็วๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 20-09-2011 21:42:01
ว้าวๆ ในที่สุดก็รู้ใจกันแล้ว :mc4:

ต่อไปก็ ... :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 20-09-2011 22:29:46
รู้สึกว่าจะแสดงความเป็นเจ้าของออกมาชัดเจนเรื่อยๆแล้วววววววววววว อิอิอ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 21-09-2011 00:00:06
ตุลากลับมาแล้ววววว  ดีใจจัง สรุปว่าคบกับพาทิศแล้วใช่ไหมมมมม วิ้วววววว  :mc4:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ นะคะ ที่กลับมาต่อเรื่องนี้  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 21-09-2011 00:48:19
 :mc4: :mc4:ฉลองการกลับมา
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 21-09-2011 01:26:48
 :mc4: :mc4: เย้ กลับมาต่อแล้ว
คู่นี้เค้าลงเอยกันแล้ว ตุลน่ารักเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 21-09-2011 04:12:57
 :mc4: :L2: :กอด1:
ยินต้อนรับการกลับมานะจ๊ะ

กร๊ากกกกก สาวๆในคฤหาสเป็นสาววายซะงั้น :jul3:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 21-09-2011 04:49:10
สนุกมากเรื่องนี้ อ่านไปอมยิ้มไป ตุลก็น่ารัก พาทิศก็เจ้าเล่ห์ดี มาต่อตอนต่อไปไวๆนะ อยากรู้ว่าจะหวานกันขนาดไหน แล้วคู่กริชกับอธิปจะมีการสารภาพรักตามคู่แรกหรือเปล่า อิอิลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kra-Jieb ที่ 21-09-2011 06:51:37
ดีใจจังกลับมาต่อให้แล้ว  แอบกลัวว่าจะไม่มาต่อ...ขอบคุณนะคะ :กอด1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 21-09-2011 09:42:31
โอ้.........แล้วแบบนี้ภาพต่อไปจะมีคู่ของคุณอาตุลมัง่ใหมเนี่ย อยากเห็นๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 21-09-2011 20:12:35
น่ารักๆดีอ่ะ :-[
รอตอนต่อไปคับ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 21-09-2011 21:36:54
หวานๆ น่ารักจัง

แอบสงสารอากริช  คงรู้สึกเหมือนลูกสาว? กำลังจะออกเรือน  :oni1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 22-09-2011 07:29:11
ว้าว มิน่าทำไมรู้สึกเหมือนเคยอ่านงานลักษณะนี่มาก่อน เจ้าของเรื่องในเวปเด็กดีที่เคยอ่านนี่เอง
เรื่องนี้น่ารัก สนุกดีครับ ชอบมาก ขอบคุณที่เขียนให้อ่านครับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 20 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (20/09/11)--ตอนใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 22-09-2011 10:20:07
ดีใจมาต่อแล้ว ตอนแรกจำชื่อเรื่องไม่ได้ว่าเคยอ่านแล้ว 555

น้องตุลน่ารักเหมือนเดิม ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-09-2011 12:43:28
   **มาต่อแล้วค่า ขอบคุณมากค่า ที่ยังคงติดตามกันอยู่  :pig4: 

ช่วงนี้มีหวาน ๆ กันไปก่อนนะคะ  หวังว่าคงไม่เบื่อกันน้า~  :o8:



ม่านราตรี
บทที่ 21


    ... หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างพาทิศและตุลากลายเป็นที่ยอมรับของสมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีกันถ้วนหน้า ผีดิบหนุ่มก็เริ่มออกอาการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของให้บางคนหมั่นไส้ โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าคุณอาผู้หวงหลานชายผู้นั้น

   “หนอย... หมอนั่น มันจงใจอี๋อ๋อกับตุลต่อหน้าฉันชัด ๆ เห็นยอมเข้าหน่อยทำได้ใจ เดี๋ยวคอยดูเหอะจะจับแยกเข้าให้!”

   อธิปมองเพื่อนสนิทอย่างงัวเงีย เพราะอีกฝ่ายพอมาถึงก็ปลุกให้เขาตื่นแล้วยืนบ่นให้เขาฟังเป็นชุดเสียอย่างนั้น

   “เฮ้อ! ปลุกฉันมาตั้งแต่เช้า เพื่อจะมาบ่นเรื่องไร้สาระให้ฟังนี่นะ”

   กริชปรายสายตามองคนบ่นอย่างหมั่นไส้ แล้วจึงกระแทกเสียงใส่

   “เช้าบ้านนายน่ะสิ! สายโด่งขนาดนี้แล้ว!”

   อธิปเลิกคิ้ว แล้วคลำหานาฬิกาข้อมือของตนบนหัวเตียงมาเพ่งดู

   “เออว่ะ ... สายแล้วนี่นา นึกว่ายังเช้าอยู่เสียอีก”

    กริชทำเสียงฮึในลำคอ ก่อนจะสะดุดสายตาเข้าให้กับนาฬิกาที่อีกฝ่ายหยิบมาดู ตัวเรือนเหล็กนั้นเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน ส่วนสายหนังก็เปื่อยแถมถลอกจนเห็นได้ชัด

   “เก่าจะตายยังจะเก็บไว้อีกหรือนั่น”

   อธิปเงยหน้ามองคนพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ถือสา

   “ไม่เห็นเป็นไร ก็แค่เอาไว้ดูเวลา ยังเดินได้ก็ใช้มันต่อไปนั่นล่ะ”

   กริชฟังแล้วก็เงียบคิด ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงของอธิปเอ่ยขึ้นต่อมา

   “แล้วก็เรื่องเจ้าหนูตุลนั่นน่ะ  ฉันว่านายอย่าทำตัวเป็นพ่อตาหวงลูกสาวหน่อยเลย หลานชายนายโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนา แถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกัน เรื่องท้องก่อนแต่งอะไรนั่นก็ไม่ต้องเป็นห่วง สบายจะตาย”

   กริชหันขวับมาทางเพื่อนสนิท พลางจ้องอีกฝ่ายตาขวาง เพราะดันสะดุดในเนื้อความที่หนุ่มใหญ่พูดออกมาตรง ๆ นั่น

   “ง่า...ยังไงพวกเขาก็เป็นแฟนกันแล้วนี่ นายคิดหรือว่าเขาจะคบกันแบบเด็ก ๆ ประเภท กอดจูบกันเฉย ๆ น่ะ ...ไม่เอาน่ากริช นายคงไม่ให้หลานนายรักษาพรหมจรรย์จนถึงวันสิ้นอายุขัยของเขาใช่ไหม?”

   อธิปรีบอธิบายตามมาเมื่อเห็นแววตาดุ ๆ ของเพื่อน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้คนฟังไม่สบอารมณ์เข้าไปใหญ่

   “ฉันรู้ดีน่าเรื่องนั้น! แต่ที่ไม่สบอารมณ์เพราะหมอนั่นตั้งใจอี๋อ๋อกับตุลต่อหน้าฉันต่างหาก!”

   กริชโพล่งใส่ แต่อธิปกลับหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “หึงล่ะสิ ที่เจ้าหนูนั่นไปอ้อนคนอื่นนอกจากตัวเอง?”   

   วิญญาณหนุ่มที่ถูกพูดแทงใจดำชะงักกึก แล้วทำเป็นค้อนประชด ก่อนจะนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ จนคนพูดต้องถอนหายใจ

   “กริช...ไม่ดีหรอกหรือ มีคนคอยดูแลเจ้าหนูตุลให้ นายจะได้หมดห่วง แล้วละภพภูมินี้ไปได้สักที”

   อธิปปลอบ แต่ทำให้คนฟังชะงัก แล้วหันหน้าไปมองคนพูดด้วยใบหน้าหมองลง

   “นายอยากให้ฉันไปจากที่นี่ไว ๆ จะได้ไม่ต้องอยู่กวนนายแบบนี้ใช่ไหมล่ะ”

   กริชประชดใส่ด้วยความน้อยใจ เพราะการที่หลานชายซึ่งตัวเองดูแลมา มีคนอื่นที่สำคัญกว่าเขา ก็ทำให้วิญญาณหนุ่มรู้สึกเหงาขึ้นมานิด ๆ แล้ว แถมพอโดนเพื่อนพูดเหมือนรีบไล่ให้ไปเกิดไว ๆ ก็ทำให้เขายิ่งเกิดความน้อยใจมากขึ้นไปอีก

   “เฮ้อ! นายนี่...ไม่เปลี่ยนเลยนะ ขี้งอนไม่เข้าเรื่อง”

   อธิปเปรยบ่นแล้วโอบบ่าร่างโปร่งแสงของเพื่อนมาหาตัวเบา ๆ และเพราะอาถรรพ์ที่ดินแรงกล้า อีกทั้งความที่ชายหนุ่มมีพลังวิญญาณในฐานะหมอผี ร่างของกริชจึงเอนตามแรงดึงนั้นอย่างง่ายดาย

   “ปล่อยฉัน!”

   กริชบอกอีกฝ่ายเสียงดุ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจแล้วคำเปรยแผ่วเบาของเพื่อนสนิท

   “รู้ไหมนายกริช ...ตั้งแต่เกิดจนแก่ป่านนี้ ฉันมีเรื่องเดียวที่รู้สึกเสียใจ และอยากย้อนเวลากลับไปแก้ไขเสมอ...ถ้าในวันนั้นฉันไม่ตอบรับคำขอร้องของนาย ...บางทีนายอาจจะยอมมีชีวิตอยู่ต่อไป ได้กลายเป็นนักเขียนโด่งดัง มีความสุขมากยิ่งกว่านี้ก็เป็นได้”

   กริชนิ่งอึ้ง เขาเงียบไปพักใหญ่ ๆ แล้วจึงซบหน้าลงกับบ่าของอีกฝ่าย

   “ถ้านายไม่ช่วยฉันในวันนั้น ก็จะไม่มีตุลในวันนี้ แล้วฉันก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นหลานชายที่ฉันรักเติบโต มีเพื่อนฝูง มีคนที่รักและหวังดีต่อเขา ... อย่าโทษตัวเองเลยอธิป นายก็แค่ทำตามคำขอที่เอาแต่ใจของฉันก็แค่นั้น ...และถ้าวันนั้นนายไม่ตอบรับคำขอของฉัน ...ฉันก็จะทำอย่างที่เคยบอกไว้ ...ฉันทนดูหลานตายต่อหน้าต่อตา ทั้งที่รู้ว่ามีทางช่วยเหลือเขาไม่ได้หรอกนะอธิป ...หรือต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้  ฉันก็จะบังคับนายให้ทำเรื่องซ้ำ ๆ แบบเดิมอยู่ดีนั่นล่ะ”

    อธิปถอนหายใจเบา ๆ เขากอดร่างนั้นอยู่พักใหญ่จนกริชเริ่มรู้สึกตัว แล้วดันร่างของตนออกมาแรง ๆ ก่อนจะมีสีหน้าแดงระเรื่อให้เห็นบนใบหน้าเผือดขาวนั่น

   “ถึงฉันจะยอมให้ตุลคบกับผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่หมายความว่า ฉันจะมีรสนิยมแบบนั้นนะ!”

   อธิปที่นิ่งอึ้งด้วยความตกใจในตอนแรกที่ถูกอีกฝ่ายผลัก ขมวดคิ้วยุ่ง ก่อนจะหวนคิดถึงสิ่งที่อีกฝ่ายบอก แล้วจึงนึกขึ้นมาได้ว่ากริชนั้นหมายถึงอะไรกันแน่

   “หึ ๆ นายกริชนะนายกริช... คิดอะไรได้น่าขนลุกพิลึก ที่ฉันกอดก็เพราะสงสารคนขี้เหงาหรอกนะ ไม่ได้คิดอะไรอย่างที่นายคิดสักนิดเดียว”

   อธิปบอกอย่างนึกขำ แต่คนฟังนี่สิทำหน้าบึ้งใส่ แล้วโพล่งกลับเสียงดังลั่น

   “ใครขี้เหงา! อย่ามาใส่ความกันนะ!”   

   “เอ ...ใครกันนะ พอโดนหลานทิ้งไปหาแฟนก็มาบ่น ๆ ให้ชาวบ้านฟัง แถมพอคนเขาอยากให้ไปสู่สุคติ ก็ยังมางอน น้อยอกน้อยใจใส่อีก ...แบบนี้ไม่เรียกขี้เหงาแล้วจะเรียกอะไร”

   “อธิป!”

   กริชเรียกชื่อเพื่อนด้วยความโมโหแกมอาย วิญญาณหนุ่มพุ่งเข้ามาหมายจะชกปากเสีย ๆ ของเพื่อนให้หายโกรธ แต่ก็ดันโดนคนไวกว่ารวบตัวเอาไว้ได้เสียก่อน

   “จุ๊ ๆ เป็นวิญญาณ คิดจะเล่นงานหมอผี เร็วไปร้อยปีนะจ๊ะ”

   อธิปแกล้งแหย่ ทำให้กริชทั้งโมโหทั้งเสียหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอาคมของอีกฝ่ายทำให้เขาขยับตัวลำบาก

   “อธิป...ฉันเจ็บ...ปล่อยเถอะนะ...”

    และระหว่างที่หมอผีหนุ่มกำลังได้ใจ กริชก็เงยหน้าช้อนตามองอีกฝ่ายด้วยสายตาอ้อนวอน ชนิดที่ทำให้คนมองกลืนน้ำลายลงคอ ใจเต้นแรงอย่างประหลาด เผลอลืมตัวจนเปิดช่องว่างให้กับคนที่คอยโอกาสอยู่แล้วโหม่งศีรษะซัดปลายคางเจ้าตัวเต็มที่

   “โอ๊ย! เล่นปลายคางนี่กะจะให้สลบเลยหรือไงวะ!”

   อธิปที่ลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าด้วยความมึนงงโวยวาย กริชยืนมองภาพนั้นด้วยความสะใจ

   “สมน้ำหน้า ใครใช้ให้แกล้งกันก่อนเล่า เชอะ!”

   กริชบอก ก่อนจะหายตัววับหนีกลับห้องไป เพราะกลัวอีกฝ่ายจะบ้าจี้เอาคืนเขาบ้าง ทิ้งให้อธิปนั่งสะบัดศีรษะอย่างมึนงงครู่ใหญ่ พร้อมกับสบถด่าตัวเองที่ดันไปเผลอใจเต้นเข้าให้กับใบหน้าหวาน ๆ อ้อน ๆ ของเพื่อนสนิท จนต้องโดนเล่นงานแบบนี้

   “เดี๋ยวเหอะ เล่นยั่วแบบนี้บ่อย ๆ พ่อจับกดเข้าให้จริง ๆ แล้วอย่ามาร้องโวยวายแล้วกัน!”

   อธิปพึมพำด้วยความเจ็บใจ พร้อมกับคาดโทษชนิดที่หากกริชได้ยินคงจะโวยวายใส่แล้วหาทางเล่นงานคนพูดเข้าให้แน่



   ตุลารู้สึกเขิน ๆ ต่อสายตาที่แสดงความอยากรู้อยากเห็นอย่างจริงจังของสาว ๆ ที่จ้องมาในยามที่เขาพูดคุยกับพาทิศ ที่บริเวณซุ้มราตรี และแทนที่ผีดิบหนุ่มจะรู้สึกอายเหมือนกัน แต่กลับแกล้งทำเป็นแตะโน่นจับนี่ตามตัวเขา ให้สาว ๆ คอยซุบซิบหัวเราะคิกคักนินทากันใกล้ ๆ แทนเสียอีก

    “คุณพาทิศครับ...คือว่า...มือ...”

   ตุลาบอกหน้าแดงระเรื่อเมื่ออีกฝ่ายขยับมานั่งใกล้แถมยังโอบเอวเขาเข้าให้อย่างถือสิทธิ์

   “ทำไม...ไม่ชอบหรือ?”

   พาทิศแกล้งถาม ทำเอาชายหนุ่มหน้าแดงก่ำ แล้วก้มหน้าก้มตาตอบอุบอิบ

   “ไม่ใช่ไม่ชอบ...แต่...คือผมอายน่ะครับ”

   คำตอบตรงไปตรงมาสมกับเป็นเจ้าตัว ทำให้พาทิศอมยิ้มแล้วเลิกแกล้งอีกฝ่าย เขาปล่อยมือออก พลางลูบศีรษะของตุลาเบา ๆ ก่อนจะชะโงกหน้าไปกระซิบใกล้ ๆ

   “งั้นไว้กอดตอนไม่มีคนอยู่แล้วกันนะ”

   “แหม! คนอื่นนั่งหัวโด่อยู่ทั้งคน ทำตัวหวานกันไม่เกรงใจเลยนะยะ”

   รุ้งพรายที่ได้ยินเสียงกระซิบนั่นถนัดหู กระแทกเสียงใส่อย่างหมั่นไส้ เพราะพอทั้งคู่ประกาศเป็นแฟนกัน พาทิศก็ตามประกบตุลาไม่ค่อยห่างเสียยิ่งกว่าเดิม ทำเอาเหมือนเธอรู้สึกโดนแย่งของเล่นสุดโปรดไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้น

   “ช่วยไม่ได้นี่นา อุตสาห์ปล่อยให้พวกเธอมะรุมมะตุ้มเขามาเป็นปี ๆ ตอนนี้ก็ขอคืนบ้างล่ะ”

   พาทิศหันไปตอบปีศาจแมวสาวพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ รุ้งพรายจึงค้อนขวับเข้าให้ อาการงอน ๆ นั้น ทำให้แม้แต่ตุลายังอดอมยิ้มไม่ได้

   “ก็คิดอยู่บ้างว่าตุลคงหาแฟนสาวได้ยาก แต่ไม่คิดเลยนะจะมาได้แฟนแถวนี้ แถมยังเป็นพาทิศอีก”

   ราตรีเอ่ยขึ้นบ้างอย่างไม่ได้คิดหมั่นไส้อะไรทั้งคู่ กลับกันเธอนั้นยินดีที่ได้เห็นคนที่เธอชอบทั้งสองคนลงเอยกันเอง มากกว่าที่จะไปลงเอยกับคนอื่นที่เป็นสมาชิกนอกคฤหาสน์หลังนี้    

   ทางด้านตุลามองวิญญาณสาวตาปริบ ๆ รู้สึกทะแม่งในคำพูดต้นประโยคของอีกฝ่าย แต่พอถูกพาทิศหอมแก้มเข้าให้ เขาก็สะดุ้งโหยงหน้าแดง แล้วรีบขยับตัวหนีห่างด้วยความอาย ส่วนรุ้งพรายพอเห็นก็ค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้อีกครั้ง ด้านราตรีนั้นหัวเราะคิกคัก ส่วนปิ่นสุดาที่นั่งอยู่บนปากบ่อน้ำก็แอบอมยิ้ม แล้วก็พลันนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้

   “แล้วแบบนี้ตอนกลางคืนคุณตุลจะนอนที่ไหนคะเนี่ย?”

    คนอื่น ๆ หันมามองเงือกสาวอย่างสงสัย ปิ่นสุดาสะดุ้งหน้าแดงวาบ แล้วบอกออกไปอย่างเอียงอาย

   “ก็เป็นคู่รักกัน มันก็ต้องมีเรื่องพวกนั้นไม่ใช่หรือคะ...ถ้าแยกกันนอนจะทำแบบนั้นได้ยังไงล่ะคะ”

   ปิ่นสุดาพูดไปหน้าแดงไป แต่คนฟังอย่างตุลายิ่งหน้าแดงหนักเข้าไปอีก สำหรับราตรีนั้นพอได้ยินเธอก็หลุดหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ ส่วนรุ้งพรายอ้าปากค้างในทีแรก ก่อนจะบ่นอุบอิบไม่อยากเชื่อ ว่าเพื่อนสาวจะคิดเล็กคิดน้อยไปถึงขนาดนั้นได้ ทั้งที่เป็นคนเรียบร้อยแท้ ๆ

   และสำหรับพาทิศเขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อเห็นสีหน้าเขินอายของหนุ่มน้อยข้างกาย เขาแกล้งกระแอมเบา ๆ แล้วเอ่ยขึ้นตามมา

   “ตุลไม่ต้องย้ายห้องหรอก ...แต่ถ้าอยากให้ฉันกอดเมื่อไหร่ ก็เรียกแล้วกัน แล้วฉันจะรีบไปหาทันที”

   “คุณพาทิศ!”

   ตุลาตวาดคนรักด้วยใบหน้าแดงก่ำ พลางมองซ้ายมองขวาก็เห็นสายตาของสาว ๆ มองมายังเขาด้วยความสนอกสนใจ นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มยิ่งอายหนัก แล้ววิ่งหนีขึ้นห้องไปในทันที

   “โถ ๆ งอนเข้าให้แล้วสินะ ไปปลอบด้วยล่ะพาทิศ เดี๋ยวก็ไม่ยอมคุยกับพวกเราหรอก”

   ราตรีหันไปบอกเพื่อนชายของเธอ พาทิศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ส่วนรุ้งพรายคลอนหัวไปมา และปิ่นสุดาหน้าแดงระเรื่อเมื่อเผลอจินตนาการอะไร ๆ ของหล่อนไปตามลำพัง

      

    เมื่อกลับขึ้นมาถึงห้อง ตุลาก็ต้องพบว่าเขาลืมโน้ตบุคไว้ด้านล่าง แต่จะให้ลงไปเอาตอนนี้ก็เห็นทีจะลำบาก เพราะเขาคงต้องโดนหัวเราะเยาะให้อีกแน่

   “ฮึ! คนขี้แกล้ง”

   ตุลาพึมพำต่อว่าคนที่ยังคงชอบแหย่ชอบแกล้งเขาเสมอ ถึงแม้ว่าเวลานี้พวกเขาจะคบกันแล้วก็ตาม

   “ใจร้ายจัง คนอุตสาห์เอาของขึ้นมาส่งให้แท้ ๆ”

   เสียงทุ้มที่ดังอยู่ตรงประตูทำให้คนที่ยืนบ่นสะดุ้งโหยง แล้วหันขวับไปมองอย่างตกใจ

   “คุณพาทิศ มาได้ยังไงกัน!”

   เพราะตัวเองวิ่งขึ้นมา และเพิ่งปิดห้องไปหยก ๆ แต่ไม่ทันไรอีกฝ่ายก็ตามมาทันเสียแล้ว ทำให้ตุลารู้สึกประหลาดใจพอดู แต่พอเห็นรอยยิ้มเอ็นดูของอีกฝ่ายที่มีให้ตน เขาก็ต้องชะงักแล้วนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนเหมือนตนเอง เรื่องพวกนี้มันก็คงไม่น่าจะแปลกใจอะไร

   “ดีใจจังนะ ที่ตุลไม่คิดว่าฉันเป็นพวกตัวประหลาด ผิดแผกจากตัวเองตลอดเวลาแบบนั้น”

   พาทิศบอกยิ้ม ๆ แล้วจึงเดินเข้ามาในห้อง วางโน้ตบุคลงบนโต๊ะทำงาน แล้วตรงเข้าสวมกอดคนรัก ที่บัดนี้หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แต่ก็ยังคงบอกตอบอีกฝ่ายออกไปแผ่วเบา

   “ผมอาจจะเป็นคนขี้กลัว จนบางครั้งเหมือนเสียมารยาทกับคุณไปบ้าง ...แต่ผมไม่เคยรังเกียจคุณเลยสักครั้งนะครับ”

   พาทิศหัวเราะในลำคอ แล้วจึงกระชับอ้อมกอดของตนให้แน่นขึ้นไปอีก

   “อืม...ฉันรู้ดี เพราะอย่างนั้นฉันถึงได้ชอบตุลมากขึ้น ๆ ทุกวันยังไงล่ะ”

   ตุลาหน้าแดงก่ำกับคำหวานบอกรักนั่น ทว่าระหว่างที่เขากำลังเงยหน้าหลับตาพริ้มรอรับจูบของอีกฝ่าย กริชก็ปรากฏกายขึ้นมาต่อหน้าทั้งคู่พอดี

   “ตุล อามีเรื่องอยากปรึกษาสักนิด...”

   กริชเอ่ยค้างไว้แค่นั้น ตุลาเองก็ตกใจ ส่วนพาทิศนั้นสะดุ้งเล็กน้อย แต่สักพักก็อมยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาตามมา ทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งใจขัดจังหวะหน้าหงิก แล้วโพล่งถามเสียงห้วน

   “นายจะทำอะไรหลานฉัน หา!”

   “แหม...ก็ทำเรื่องที่คู่รักเขาทำกันน่ะสิครับ เรื่องธรรมดาออกเนอะตุล”

   พาทิศแกล้งตอบกวน ๆ เพราะรู้ดีว่ากริชไม่ค่อยเต็มใจให้เขาคบกับหลานชายนัก ส่วนตุลาหน้าแดงด้วยความเขินพูดอะไรไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ

   “หนอย...”

   กริชกัดฟันกรอดเพราะเถียงสู้ไม่ได้ เนื่องจากคำพูดของพาทิศก็ไม่ได้ผิดอะไรกับความเป็นจริงที่ทั้งคู่เป็นอยู่

   “เอ่อ...อาครับ เมื่อครู่อาจะพูดอะไรกับผมหรือเปล่าครับ”

   ตุลารีบขัดจังหวะก่อนที่กริชจะอารมณ์เสียไปมากกว่านั้น

   “ฮึ่ม...ฝากไว้ก่อนเถอะ”

   กริชพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงหันไปตอบคำถามของตุลา

   “คือ...ถ้าอาจำไม่ผิด อีกสองวันจะเป็นวันเกิดของอธิปเขา...อาเองก็รบกวนเขาไว้มาก ก็เลยอยากตอบแทนอะไรสักหน่อย ตุลว่าเราจะจัดงานเลี้ยง หรือแค่ซื้อของขวัญให้หมอนั่นดีล่ะ”

   พาทิศกับตุลาฟังแล้วก็หันมาสบตาพลางอมยิ้มน้อย ๆ ให้กัน เพราะต่างรู้ดีว่ากริชนั้นสนิทกับอธิปดีเพียงไร แม้จะโต้เถียงและทะเลาะกันบ่อยครั้งให้เห็น แต่สำหรับสายตาของคนนอก หมอผีหนุ่มก็ถือว่าเป็นเพื่อนคนสำคัญสำหรับกริชคนหนึ่งเลยทีเดียว

   “ยิ้มอะไรกัน! อาทำเพราะแค่อยากตอบแทนที่เขาช่วยเหลือตุลมาโดยตลอดเท่านั้นหรอกนะ!”

   คนปากไม่ตรงกับใจรีบแก้ตัว ทำให้คนฟังกลั้นยิ้มแล้วรีบอ้อนประจบทันที

   “อย่าโมโหสิครับอา ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย เอาแบบนี้ไหมครับ ผมว่าไหน ๆ แล้ว เราจัดเป็นงานเลี้ยงกันเลยดีกว่านะครับ คนช่วยเตรียมก็ตั้งเยอะขนาดนี้”

   พาทิศหันไปมองคนรักยิ้ม ๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้นบ้าง

   “นั่นสิครับ ผมรับหน้าที่งานครัวให้เอง ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีการเซอร์ไพรส์ เพราะปกติคุณอธิปก็มักจะขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง หรือถ้าไม่อยากให้เขารู้ตัวก่อน คุณกริชก็ชวนเขาคุย หรือไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดก็ได้นี่ครับ”

   กริชฟังแล้วก็นิ่งคิดตามอย่างเห็นดีด้วย โดยเฉพาะถ้าชวนอ่านหนังสือ มีหวังอธิปได้หลับคาหนังสือแน่นอน

   “ก็ดี...ถ้าอย่างนั้นฝากทั้งสองคนช่วยเตรียมการให้หน่อยแล้วกัน  ส่วนเรื่องของขวัญ อาวานตุลช่วยออกไปซื้อให้หน่อยได้ไหม”

   “ได้แน่นอนครับอา ไปวันนี้เลยก็ได้นะครับ”

   ตุลารีบบอก ทำให้กริชอมยิ้มแล้วลูบศีรษะหลานชายอย่างเอ็นดู ก่อนจะชะงักแล้วหันไปทางพาทิศ พร้อมกับจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

    “ถึงนายจะเป็นคนรักของหลานฉันก็ตาม ...แต่ไอ้เรื่องทำประเจิดประเจ้อกันกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ยังไงฉันก็รับไม่ได้อยู่ดี!”

   ตุลาหน้าแดงวาบที่กริชหันวกกลับมาสนทนาเรื่องเดิมเข้าให้อีกรอบ ทางด้านพาทิศนั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

   “ถ้าอย่างนั้น ตอนกลางคืนก็ไม่เป็นไรสินะครับ”

   กริชนิ่งอึ้ง กัดฟันกรอด เหลียวมองหลานชายที่สบตาเขาอย่างกังวล แล้วจึงโพล่งตอบไปอย่างหงุดหงิด

   “เออ!!”

   พาทิศหลุดหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว ก่อนจะเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายเบา ๆ ตามมา

   “ขอโทษนะครับที่ทำให้อารมณ์เสีย แต่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะไม่ทำเรื่องที่บังคับฝืนใจตุลเด็ดขาด ...ผมชอบเขาจริง ๆ และจะรอจนกว่าเขาจะพร้อมเป็นของผมทั้งใจและกายครับ”

   กริชจ้องมองคนรักของหลานชาย ใบหน้าหงุดหงิดคลายบึ้งตึงลงไปมาก แล้วจึงพยักหน้ารับรู้

   “...ยังไงก็ฝากหลานฉันด้วยแล้วกัน ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้อีกนานไหม”

   “อาครับ!”

   ตุลาแทรกขัดอย่างตกใจ แต่พอกริชหันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มก็นิ่งเงียบไป

   “เราไม่อาจคาดเดาอนาคตข้างหน้าได้  แต่ถ้าสามารถเลือกได้ อาก็อยากเฝ้ามองตุลอยู่แบบนี้ไปตลอดล่ะนะ”

   “ผมก็อยากให้อาอยู่ข้าง ๆ ผมตลอดไป...ถึงแม้จะเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว ...แต่ผมก็ยังอยากให้เป็นแบบนั้น...”

   ตุลาตอบเสียงแผ่ว ทำให้กริชรวบร่างของหลานชายมากอดอย่างรักใคร่ แล้วจึงจูบที่หน้าผากของอีกฝ่ายเบา ๆ

   “อาก็เหมือนกัน...”

   กริชยิ้มให้ตุลาแล้วจึงดันร่างหลานชายส่งต่อให้พาทิศ ก่อนจะแสร้งโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   “ยังไงอาก็ยังไม่รีบไปในวันสองวันนี้หรอก ยังมีภาระให้ต้องจัดการอีกหลายอย่างนี่นะ!”

   ตุลาชะงักแล้วอมยิ้ม เมื่อนึกขึ้นได้ว่าภาระที่อีกฝ่ายบอกนั้นหมายถึงอะไร

   “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวอาบอกให้แล้วกันว่าจะให้ตุลซื้ออะไรให้หมอนั่น”

   กริชเอ่ยต่อ แล้วให้ตุลาเปิดโน้ตบุคออกมาเซิร์ซหาของที่เขาอยากให้อีกฝ่ายซื้อ และเนื่องจากอยากได้สินค้าในสภาพดีที่สุด เขาจึงตัดสินใจไม่สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ แต่ให้ตุลาไปเลือกในห้างและห่อของขวัญให้แทน เพราะมั่นใจว่าหลานชายของตนจะต้องเลือกชิ้นที่ดีที่สุดมาให้อย่างแน่นอน


       

   
--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 22-09-2011 13:48:05
พาทิศกับตุลาหวานมาก :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 22-09-2011 13:50:29
คู่ตุลพาทิศหวานมากกกกกกกกก
ส่วนกริชอธิป ก็กำลังจะเริ่มหวาน   อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 22-09-2011 15:07:18
มีลุ้นอีกคู่แล้วสิ >_<
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: mr.tou_chi ที่ 22-09-2011 15:17:46
อิอิอิ ชอบจังเรื่องนี้อ่านแล้วสามารถทำให้อมยิ้มอย่างมีความสุขได้ บทของตัวละครทุกตัวไม่มีใครด้อยไปกว่าใครเลย น่ารักกันหมด ชอบมาก เป็นกำลังใจให้คนแต่งเสมอ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 22-09-2011 16:01:58
คริคริ  กลางวันไม่ได้งั้นกลางคืนได้ซิ :oo1:
 :o8:มีเพิ่มมากอีกคู่....น่ารักอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-09-2011 16:11:07
หวานทั้งอาและหลาน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-09-2011 16:16:56
พาทิศ น่ะถึงจะเป็นผีดิบก็เหอะนะ เป็นสุภาพบุรษ พ่อบ้านพ่อเรือน
แล้วก็ดูแลตุลดีปานนั้น มันก็น่ารักน่าหลงเนอะ
น้องปัดจ๊ะ หลังงานเลี้ยงวันเกิดอธิป
พี่ว่าได้กลิ่นอายของความรัก เริ่มส่งกลิ่นระรวยมาอีกคู่แล้วใช่ปะคะ (กริช-อธิป)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: jasmin ที่ 22-09-2011 19:02:45
หนูปิ่น พลังจิ้นเธอสุดยอดมาก 555
ดูเหมือน่าคามรักจะทักทายทั้ง อา หลานเลยนะเนี่ย
ชอบๆ บรรยากาศหวานๆอย่างนี้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 22-09-2011 19:47:40
 :pig4:  ที่มาอัพต่อค่ะ

คู่หลานหวานกันซะมดอาย  แล้วคู่อาล่ะไม่มีบ้างเหรอคะ

 :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 22-09-2011 19:59:16
แอบสงสัยว่า เป็นผี แล้วยังมีอารมณ์อย่างนั้นอยู่รึป่าว  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 22-09-2011 20:02:24
คู่คุณอาก็น่ารักไม่แพ้คู่คุณหลานนะคะ ว่ามั๊ย   :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 22-09-2011 20:09:29
 :-[ น่ารักทั้งคู่หลาน คู่อา งืดด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-09-2011 18:11:00
หวานจังน๊า
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 23-09-2011 20:34:43
น่ารัก
ชอบอากริช
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: dariganae ที่ 24-09-2011 15:51:08
สนุกมากๆเลยค่ะคุณปัด!!! ><
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ

ตอนนี้หลงกลิ่นอายผีไทยไปเรียบร้อยแล้ว
ว่าแต่ซอมบี้นี่ผีไทยหรือเปล่า ฮาาาาาา

มาต่อไวๆนะคะ รออยู่ค่ะ^0^ :pig4:
ปล.เอาหวานเยอะๆๆ  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 25-09-2011 17:16:46
คุ๋ของอาชักจะเริ่มขึ้นแล้วนะ^^
ปิ่นจ๊ะ รสนิยมเธอเนี่ย แจ่มกู้ดเลย

ส่วนคุ๋หลักพาทิศ-ตุล
หวานเลยเกิน :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-09-2011 21:58:07
มารออ่านคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 28-09-2011 19:43:54
น่ารักมากขึ้นทุกที

อากริชกับอธิปนี้สงสัยในอนาคตต้องซัมติงกันแน่ๆ

เมื่อไรพาทิศจะเผด็จศึกตุลาซักทีรออยู่นะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 28-09-2011 22:12:26
โอ้ คนเขียนกลับมาแล้วววววววววว  :a5:

ตอนใหม่หวานจิงอะไรจิง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 30-09-2011 03:37:38
ตามอ่านทันแล้วว ว
ตุลน่ารักได้อีกนะ คุณอาก็หวงหลานได้ดีจังเลย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: zazakapp ที่ 01-10-2011 23:52:46
น่ารักทั้งอาทั้งหลานน.... :-[
มานั่งรอตอนต่อไปค่ะ ..!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-10-2011 15:18:19
มารอตุลย์กะพาทิศ คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: shiOn ที่ 16-10-2011 23:03:20
เอ่อ ไม่รู้มีคนอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่าแต่บางตอนมันหายน่ะค่ะ
อย่างตอนที่ 11 13 15 มันหายไปไหนไม่รู้โผล่มาตอนต่อไปเลย = ="
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/09/11) อัพแล้วค่า
เริ่มหัวข้อโดย: akashita ที่ 25-10-2011 10:27:06
อาหลานคู่นี้เนี่ยนะ .. น่ารักจริง ๆ ให้ตายเหอะ  คริคริ ..
หวานกันสุด ๆ 555+

ชอบตอนกริชอ้อนให้อธิปปล่อยตัวมากกกก ..
แนะนำอธิปว่า .. คราวหลังไม่ต้องอดทน .. จับกดไปโลดดดด ฮาาาาาาาาาาาาาาาา

รออ่านอยู่เสมอนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : บทที่ 21 แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 05-11-2011 15:16:41
เอ่อ ไม่รู้มีคนอื่นเป็นแบบนี้รึเปล่าแต่บางตอนมันหายน่ะค่ะ
อย่างตอนที่ 11 13 15 มันหายไปไหนไม่รู้โผล่มาตอนต่อไปเลย = ="

ไม่แน่ใจนะคะ แต่ปัดยังเจออยู่ ลองเข้าผ่านสารบัญที่ปัดทำไว้หน้าแรกดีไหมคะ จะได้อ่านครบ  อืม ปัดยกมาแปะให้ที่นี่ด้วยแล้วกัน

สารบัญ:

บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1545865#msg1545865)  บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1546276#msg1546276)  บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1547313#msg1547313)   บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1548551#msg1548551)   บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1549726#msg1549726)   บทที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1550577#msg1550577)   บทที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1552014#msg1552014)   บทที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1553430#msg1553430)

  บทที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1554056#msg1554056)   บทที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1555119#msg1555119)   บทที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1556200#msg1556200)  บทที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1557318#msg1557318)   บทที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1558294#msg1558294)   บทที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1562223#msg1562223)   บทที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1562991#msg1562991)
 
บทที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1564244#msg1564244)   บทที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1565167#msg1565167)  บทที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1566275#msg1566275)   บทที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1567569#msg1567569)  บทที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1568822#msg1568822) 

บทที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1642296#msg1642296)  บทที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.msg1644629#msg1644629)


แวะมาบอกว่าตอนนี้ติดน้ำท่วมอยู่ค่ะ แต่สถานการณ์เริ่มอยู่ตัว ปัดจะพยายามมาแปะตอนใหม่ ในเดือนนี้ให้ได้นะคะ

ขออภัยสำหรับคนที่ติดตามอ่านค่ะ (ยังเหลืออยู่ไหมเนี่ย ^ ^")
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 05-11-2011 15:48:17
รับทราบค่ะ...อารมณ์ตอนนี้คงแต่งอะไรไม่ค่อยออก(เป็นเหมือนกัน)
ยังรออยู่แน่นอนค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 05-11-2011 16:10:54
รอค่ะ ๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 05-11-2011 16:47:18
ไงก็ขอให้ผ่านพ้นน้ำท่วมไปได้นะคับ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 05-11-2011 17:29:15
รับทราบค่ะ รอๆๆๆๆ  o15

เป็นกำลังใจให้เรื่องน้ำท่วมนะคะ  :a2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 05-11-2011 19:39:22
ยังรออ่านอยู่ค่ะ

สู้ๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 06-11-2011 00:47:20
เอ่อ คือ เค้าพึ่งเข้ามาอ่านอ่า มันเป็นอะไรที่น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก มาก  :-[

แล้วก็ชอบคุณจริงๆคะ ที่มีสารบัญข้างหน้า ทำให้อ่านได้ไวขึ้นเยอะเลย   :pig4:  (อ่านรวดเดียวเลยนะนั่น)

เรื่องนี้สนุกมากๆเลยคะคุณคนแต่ง  อิอิ ชอบนะ อาหลานคู่นี้

คุณอธิป ครั้งหน้า อย่าได้ทนนะคะ 555+ แต่ ก่อนอื่นก็ ไปโกนหนวดโกนเคราให้เรียบร้อยก่อนก็ดี (จะได้ง่ายต่อการจิ้น :o8:)
ส่วน พาทิศ ไหนๆคุณอาก็อณุญาติตอนกลางตืนแล้ว ... เต็มนี้เลยนะ เค้ารออ่านด้วยความเต็มใจ 555+  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 06-11-2011 04:36:25
สนุกมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก   o13
ตุลน่ารักสุดๆอะ
ปล.แอบตกใจในความคิดปิ่นสุดาเล็กน้อย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/11/11) แจ้งข่าวเรื่องตอนใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-11-2011 12:07:48
รับทราบคับ นั่งรออ่านตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 11-11-2011 01:46:11
ตอนใหม่มาแล้วค่ะ ส่วนตอนอื่น ๆ จะพยายามทยอยมาต่อนะคะ ช่วงนี้น้ำลดค่อยมีแรงใจปั่นหน่อย ~  :impress2:



ม่านราตรี
บทที่ 22



   ในที่สุดวันเกิดของอธิปก็มาถึง ตุลานั้นเตรียมของขวัญตามที่กริชสั่ง ส่วนพาทิศก็จัดเตรียมอาหารเพื่อเซอร์ไพรส์เจ้าของวันเกิดในมื้อเย็นตามแผนการที่วางไว้ ทว่า…

   “อะไรนะ! ไปทำธุระนอกบ้านอย่างนั้นหรือ  ธุระอะไร สำคัญมากหรือไง คงไม่ใช่งานหมอผีนั่นอีกนะ ไหนบอกว่าเลิกรับงานพวกนั้นแล้วไงล่ะ!”

   กริชโพล่งใส่เพื่อนสนิทเป็นชุด หลังจากที่ได้ฟังจากอธิปว่าเจ้าตัวจะไม่อยู่และอาจจะค้างนอกบ้านในคืนนี้

   “ช่วยไม่ได้นี่หว่า คนคุ้นเคยกันขอร้องทั้งที อีกอย่างรายนี้เขาเจอหนักเพราะโดนเล่นของใส่ ไปหาคนอื่นก็ช่วยไม่ได้ ฉันเลยต้องออกโรงเองไงล่ะ”

   กริชกัดฟันกรอดนึกอยากจะตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายให้หายหงุดหงิด แต่ก็กลัวแผนที่วางไว้จะพังเสียก่อน จึงได้แต่พยายามข่มอารมณ์ถามออกไปห้วน ๆ

   “แล้วจำเป็นต้องค้างด้วยหรือไง!”

   “ก็บ้านเขาค่อนข้างไกลนี่นา แล้วนายจะโมโหอะไร กับอีแค่ฉันออกไปทำงานข้างนอก นี่อุตสาห์ไม่พาไปด้วยแล้วนะ!”

   อธิปโต้ตอบอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน เพราะไม่เข้าใจว่าเพื่อนโมโหอะไรกันแน่

   “เฮอะ! ไม่เห็นจะสนใจ อยากไปไหนก็ไปสิ!”

   กริชบอกประชด แล้วสะบัดหน้าหนี ทำให้อธิปต้องเกาศีรษะแกรก ๆ ส่วนคนอื่น ๆ พากันเงียบกริบไม่กล้าเอ่ยแทรกการสนทนาของทั้งสอง ได้แต่ดูอยู่ห่าง ๆ อย่างลุ้นระทึก

   “งั้นไปล่ะ อะไรก็ไม่รู้ จู่ ๆ ก็มาโวยวายใส่”

   อธิปบ่นอุบ แล้วเตรียมเดินออกจากบ้านไป โดยที่ตุลานั้นหันมองผู้เป็นอาอย่างกังวล แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดอะไรออกไป กริชก็เม้มปากแน่นแล้วตะโกนเรียกชื่อคนที่เดินถึงประตูหน้าบ้านเสียก่อน

   “เดี๋ยว อธิป!”

   อธิปชะงักฝีเท้า พลางหันกลับมามองคนเรียกตาขุ่น ๆ  แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นสีหน้าของคนที่เรียกเขา

   “…นายจะกลับก่อนเที่ยงคืนได้ไหม”

   คำพูดขอร้องด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง และแววตาที่คาดหวัง ทำให้หนุ่มใหญ่เงียบกริบ ก่อนจะถอนหายใจตามมา

   “เฮ้อ… อะไรของนายกันนะวันนี้”

   กริชพอได้ฟังก็เงียบไป เขาลังเลว่าจะบอกอีกฝ่ายดีไหม หรือจะปล่อยเงียบเฉยให้มันผ่านไป แต่แล้ววิญญาณหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดถัดมาของเพื่อนตน

   “ไม่รู้ว่ามีอะไร แต่จะพยายามรีบกลับมาให้ทันแล้วกัน”

   “สัญญาแล้วนะ!”

   น้ำเสียงนั้นห้วน สีหน้าก็ติดเชิด แต่แววตาแสดงความดีใจยากปิดบัง ทำให้อธิปหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วบอกตอบอย่างอารมณ์ดีกว่าเดิม

   “เออ ๆ สัญญา… งั้นฉันไปล่ะ จะได้รีบไปรีบกลับ”

   หมอผีหนุ่มบอกแล้วจึงเดินออกจากบ้านไป ท่ามกลางความโล่งใจของคนอื่น ๆ ในบ้านที่เฝ้ามองอยู่ และต่างตัดสินใจเลื่อนงานเลี้ยงตอนหัวค่ำ เป็นตอนดึกในเวลาที่อธิปกลับมาถึงแทน

   

    ช่วงหัวค่ำทุกคนยังคงนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน และช่วยกันสมมุติเหตุการณ์ตอนอธิปกลับมา แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จนใกล้จะเที่ยงคืน เสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบลง กลายเป็นความไม่สบายใจแทน เมื่อเห็นกริชนั้นดูเงียบเฉยไปไม่พูดไม่จา จนกระทั่งเวลาเที่ยงคืนผ่านพ้นไป

   “จบแล้วสินะ”

   กริชพึมพำ ก่อนจะแสร้งทำเป็นบิดกายไปมาอย่างเกียจคร้าน แล้วจึงโพล่งเสียงดังกลบความเงียบอันน่าอึดอัด

   “เจ้าบ้านั่นให้รออยู่ได้ ถ้ามาไม่ทันก็โทรมาบอกเสียก็สิ้นเรื่อง พวกเราเลยดูเหมือนคนงี่เง่าไปเลย!”

   “อากริชครับ … คือ เอ่อ”

   ตุลาพยายามหาคำพูดมาปลอบโยนอาของตน แต่กริชนั้นหันมายิ้มให้กับหลานชาย แล้วบอกด้วยสีหน้าไม่ทุกข์ร้อน

   “อย่าซีเรียสตุล ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ อาไม่คิดมากหรอก ให้ช้าให้เร็ว ก็เป็นของขวัญวันเกิดเหมือนกัน”

   ตุลาเงียบกริบ แม้อาของเขาจะยิ้มแต่ดวงตาคู่นั้นแลดูเศร้าจนน่าเป็นห่วง แต่พอเขาจะปลอบอะไรออกไป พาทิศก็บีบไหล่เตือนเสียก่อน พลางสั่นศีรษะเบา ๆ เป็นเชิงให้ตุลาหยุดพูด

   “ถ้าอย่างนั้น ผมพาตุลขึ้นนอนเลยนะครับ พวกเธอก็ด้วย ปิ่น รุ้ง ราตรี กลับที่ตัวเองได้แล้ว”

   สามสาวพอได้ยินดังนั้น ก็ลอบถอนหายใจเบา ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์กับตุลาและกริช พลางแยกย้ายกันไปเงียบ ๆ

   “ขอบคุณสำหรับอาหารที่เตรียมไว้นะ ลำบากนายแย่เลย”

   กริชบอกกับพาทิศที่กำลังพาตุลาขึ้นห้อง พาทิศหันมายิ้มน้อย ๆ แล้วตอบกลับไป

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปส่งตุลก่อนนะครับ”

   “อือ ขอบใจ”

   กริชตอบสั้น ๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแถวนั้นเงียบ ๆ พาทิศเดินพาตุลาไปส่งจนถึงห้อง ซึ่งพอเข้าไปในห้องชายหนุ่มก็ถามคนรักอย่างสงสัยทันที

   “ทำไมล่ะครับ อากริชน่าสงสารออก อุตสาห์ตั้งใจเตรียมงานเพื่อคุณอธิปถึงขนาดนั้น”

   “ก็เพราะอย่างนั้น เขาถึงไม่อยากให้พวกเรารู้ว่าเขาเสียใจยังไงล่ะ  การปลอบโยนในสถานการณ์บางอย่าง บางทีก็เหมือนตอกย้ำความเจ็บให้อีกฝ่าย ถ้าเขาแสดงออกว่าไม่เป็นไร เราก็ควรตอบรับการแสดงของเขามากกว่า”

   ตุลาเงียบกริบ ก่อนจะพึมพำเบา ๆ

   “ผมนี่แย่จริง ไม่รู้อะไรเลยแท้ ๆ”

   พาทิศยิ้มน้อย ๆ แล้วดึงร่างของอีกฝ่ายมากอดหลวม ๆ

   “มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ชีวิตต่างหาก เธอเองก็อายุยังน้อย ค่อย ๆ เรียนรู้ไป อีกหน่อยก็เชี่ยวชาญขึ้นเองนั่นล่ะ”

   “ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าถ้าอายุมากขึ้นแล้วจะเข้าใจโลกมากขึ้นไหม”

   ตุลาพึมพำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเขิน ๆ

   “เพราะอย่างนั้น … คุณจะอยู่เคียงข้างผม คอยช่วยสอนทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมตลอดไป ได้ไหมครับ”

   พาทิศนิ่งอึ้ง ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมา แล้วเพิ่มแรงกอดรัดร่างโปร่งอย่างรักใคร่

   “ได้แน่นอน ฉันจะสอนทุกสิ่งทุกอย่าง และจะอยู่เคียงข้างเธอ คอยช่วยเหลือเธอตลอดไป”

   ตุลากอดตอบร่างสูง แต่ก็ต้องตกใจเมื่ออีกฝ่ายดันร่างของเขาออกห่าง แต่พอถามออกไปก็ต้องได้รับคำตอบที่ชวนสะดุ้ง

   “ถึงร่างนี้จะเป็นผีดิบ แต่ก็ยังมีอารมณ์อย่างว่า ตามปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปนะ”

   ตุลาหน้าแดงวาบ รีบก้มหน้างุด ๆ หลบสายตา ทำให้พาทิศต้องหัวเราะออกมาเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

   “ฉันก็อยากทำเรื่องนั้นนะ แต่อาเธออารมณ์ไม่ดีแบบนี้ ฉันก็ไม่อยากเสี่ยงโดนลูกหลงหรอก ไว้รอวันหลังก็แล้วกัน”

   ตุลาพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ เห็นดังนั้นพาทิศจึงก้มลงไปหอมแก้มอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนจะกล่าวราตรีสวัสดิ์แล้วจากไป ทิ้งให้เจ้าของห้องเดินหน้าแดงตรงไปนอนบนเตียง ก่อนจะคิดฟุ้งซ่านอยู่นานจึงจะหลับไปได้ในที่สุด



    นาฬิกาแขวนผนังบอกเวลาหนึ่งนาฬิกาของวันใหม่ กริชยังคงนั่งเหม่อในห้องรับแขก ตามองประตูบ้านนิ่ง ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรกจากประตูรั้วแว่วดังเข้ามา และสักพักประตูบ้านก็ถูกเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของอธิป

   “…ขอโทษที กริช …ฉันพยายามเร่งเต็มที่แล้ว …แต่ก็ไม่ทันอยู่ดี”

   คำพูดพร้อมกับท่าทางเหนื่อยหอบที่แสดงให้เห็น ทำให้คนฟังนิ่งเงียบแล้วจึงแย้มยิ้มน้อย ๆ ส่งให้

   “ไม่เป็นไร  นายก็พยายามเต็มที่แล้วนี่”

   กริชบอกกับเพื่อนของเขา แล้วจึงนั่งรอให้อธิปเดินเข้ามาใกล้ ก่อนจะหยิบกล่องของขวัญบนโต๊ะรับแขกยื่นส่งให้อีกฝ่าย

   “เอ้า! ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็สุขสันต์วันเกิดนะ”

   อธิปรับของขวัญมาอย่างมึนงง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่า วันที่ผ่านมาเป็นวันเกิดของตนนั่นเอง

   “กริช …นี่มัน…”

   “กินอะไรมาหรือยังล่ะ อาหารมีอยู่ในตู้เย็น ถ้าจะกินนายก็ต้องอุ่นเอาเอง หรือถ้าอยากกินของหวาน เค้กก็มีนะ”

   กริชบอกเรื่อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเตรียมจะเดินไปทางครัว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่ออธิปโอบกอดเขามาจากด้านหลัง

   “เฮ้ย! อะไรกันอธิป!”

   วิญญาณหนุ่มโวยวายด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย

   “…ขอโทษนะ ที่ผิดสัญญา ทั้งที่นายตั้งใจฉลองเพื่อฉันแบบนี้แท้ ๆ”

   คำขอโทษพร้อมกับอ้อมกอดที่สวมกอดแน่นมาจากด้านหลัง ทำให้กริชนิ่งเงียบ ก่อนเปรยขึ้นเบา ๆ

   “ไม่เป็นไรหรอก นายมีธุระสำคัญจริง ๆ นี่นะ …แล้วเป็นไง ช่วยสำเร็จไหม”

   ท้ายประโยคกริชรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ทำให้อธิปยิ้มกับตัวเองน้อย ๆ แล้วจึงคลายอ้อมกอดออก จับพลิกร่างอีกฝ่ายมาเผชิญหน้ากับตน

   “มือชั้นนี้แล้ว มีหรือจะพลาด”

   กริชยิ้มน้อย ๆ ตอบ ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงท้องของอธิปร้องโครกครากดังลั่น

   “ช่วยไม่ได้ พองานเสร็จฉันก็รีบตรงกลับบ้านเลยนี่!”

   อธิปรีบแก้ตัว รู้สึกขายหน้านิด ๆ ที่ดันมาท้องร้องให้อีกฝ่ายได้ยินแบบนี้

   “ฉันเชื่อที่นายพูดนะ หึ ๆ”

   กริชบอกกึ่งขำ แล้วจึงเดินไปที่ตู้เย็นหยิบอาหารในนั้นออกมาอย่างสบาย ๆ เพราะตอนกลางคืนในคฤหาสน์ม่านราตรี ก็ยิ่งช่วยเสริมพลังวิญญาณให้เขามากขึ้นจนร่างโปร่งใสแทบจะมีเนื้อหนังเหมือนคนปกติด้วยซ้ำ

   “เอ้า! นั่งรอไป ไม่ต้องมาช่วย เดี๋ยวฉันอุ่นให้”

   “เห…ใจดีแบบนี้ ในนั้นใส่ยาสั่งอะไรหรือเปล่าน้อ”

   อธิปแกล้งแหย่ ทำเอาคนที่กำลังจะเตรียมเทอาหารลงกระทะชะงัก แล้วทำหน้าบึ้ง

   “ปากแบบนี้ทำกินเองเลยดีไหม!”

   “โอ๋ ๆ คุณกริชครับ ผมพูดเล่นเท่านั้นเอง ช่วยทำให้ผมกินหน่อยนะครับ ผมหิวจะเป็นลมอยู่แล้ว”

   อธิปรีบแก้ตัว เรียกเสียงฮึเบา ๆ จากร่างโปร่ง ก่อนที่เจ้าตัวจะช่วยอุ่นอาหารต่าง ๆ แล้วนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ โดยที่อธิปเองก็หยิบจานเปล่าและช้อนไว้รออยู่แล้ว

   “อันนี้รสคล้ายกับที่นายเคยทำให้กินเมื่อสิบกว่าปีก่อนเลย”

   อธิปบอกหลังจากที่กินอาหารเสร็จ และกำลังกินเค้กวันเกิดของตน  แต่พอได้ยินหมอผีหนุ่มพูดแบบนั้น กริชก็ชะงักแล้วตอบออกไปโดยไม่ยอมสบตาอีกฝ่าย

   “เค้กมันก็รสเหมือน ๆ กันนั่นล่ะ”

   “ไม่นา ถึงจะใช้สูตรเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าจะออกมาเหมือนกันสักหน่อย …หือ อย่าบอกนะว่านายทำให้ฉันกินด้วยตัวเองน่ะ?”

   อธิปถามออกไปเพราะเห็นสีหน้าแปลก ๆ ของอีกฝ่าย กริชหลบสายตาก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ

   “ฉันแค่บอกสูตรแล้วให้ตุลช่วยทำน่ะ … รสชาติแย่มากไหม?”

   “ไม่แย่หรอก แค่หวานน้อยไปนิดเท่านั้น”

   อธิปบอกตามตรง แต่คนฟังกลับขมวดคิ้วยุ่ง

   “อายุมากขึ้นอีกปีแบบนี้ยังจะอยากกินหวาน ๆ อีก เดี๋ยวก็โรคถามหาหรอก”

   อธิปหลุดหัวเราะออกมาทันทีที่กริชพูดจบ ทำให้คนพูดงุนงง แล้วถามออกไป

   “หัวเราะอะไร?”

   อธิปยิ้มน้อย ๆ ให้คนถาม ก่อนจะตอบออกไป

   “ก็นายพูดประโยคเดียวกับตอนนั้นเลยนี่ …จำได้ไหม ปีสุดท้ายที่นายจัดวันเกิดให้ฉัน นายทำเค้กให้ พอฉันติว่าหวานน้อยไป นายก็พูดประโยคเดียวกับเมื่อครู่เด๊ะเลย”

   กริชนิ่งอึ้ง เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงจดจำเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผ่านมาเมื่อสิบปีก่อนได้เช่นนี้

   “ขอบคุณนะกริช นายทำให้มันเป็นวันเกิดที่วิเศษอีกปีของฉันเลยทีเดียว …”

   อธิปบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้คนมองหน้าแดงด้วยความอาย แล้วแสร้งหันหน้าเมินไปทางอื่น

   “ช่วยไม่ได้ ก็เพื่อนที่พูดคุยได้ของฉันตอนนี้เหลือแค่นายคนเดียวนี่นะ!”

   “อืม ๆ ฉันรู้”

   อธิปบอกยิ้ม ๆ เพราะชินเสียแล้วกับคนปากไม่ตรงกับใจตรงหน้าเขา

   “ฮึ! ฉันขอตัวก่อนล่ะ นายก็ไปนอนพักได้แล้ว … และก็ของขวัญให้ไปต้องใช้ด้วยรู้ไหม ไม่งั้นน่าดู!”

   กริชโพล่งใส่ทิ้งท้าย ก่อนจะหายตัววับไป อธิปสั่นศีรษะเบา ๆ อย่างระอา แล้วจึงจัดการเก็บจานชามล้างให้เรียบร้อย ก่อนจะขึ้นห้องนอนบนชั้นสอง และแกะของขวัญดูทันทีที่เข้ามาภายในห้อง

   “หึ ๆ หมอนี่ ไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ นะ”

   อธิปมองดูนาฬิกายี่ห้อชั้นดีราคาแพงในกล่องสวยหรู ก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือเรือนเก่าของเขาซึ่งได้รับมาจากเจ้าของคนเดียวกัน

   “นายจะด่าอะไรฉันทางอ้อมไหมเนี่ยฮึนายกริช เล่นให้นาฬิกาเป็นของขวัญแบบนี้สองครั้งสองคราแล้ว”

   อธิปมองขำ ๆ แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่อความหมายอะไรกับตน เขาเคยเจอประโยคหนึ่งในหนังสือนิยายของกริช ซึ่งเป็นฉากที่ตัวเอกให้ของขวัญกับเพื่อนคู่หูเป็นนาฬิกาข้อมือ

   ‘ความหมายของมันน่ะหรือ …มันก็หมายถึงมิตรภาพของพวกเราจะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเข็มนาฬิกาที่จะไม่มีวันเดินถอยหลังน่ะสิ’

    “ไม่ต้องห่วงนะนายกริช ฉันจะอยู่คอยให้ความช่วยเหลือนายไปแบบนี้ จนกว่าฉันจะตาย หรือไม่ก็นายยอมไปเกิดใหม่นั่นล่ะ”

   อธิปพึมพำกับนาฬิกาข้อมือเรือนใหม่ของเขา แล้วจึงวางมันลงบนหัวนอนเคียงข้างกับนาฬิกาข้อมือเรือนเก่า ก่อนจะหลับลงไปด้วยความอ่อนเพลียในที่สุด



...TBC...

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 11-11-2011 04:57:33
เย้..........มาต่อซักที่รอตั้งนาน
 :call: :call: :pig2: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 11-11-2011 06:31:17
อั๊ยยะ!! อากริชเขิน :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 11-11-2011 07:33:32
อากริชนี่ ปากไม่ตรงกับใจนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 11-11-2011 07:56:57
อากริชน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :impress2:
ถึงปากจะไม่ตรงกับใจยังไงอธิปก็ยังเข้าใจตลอดๆ  :o8:
ปล.ไม่รู้ว่าทำไมพออ่านตอนนี้แล้วถึงรู้สึกว่า พาทิศเก่งมากอะที่อดทนได้ เพราะตุลน่ากดแบบสุดๆๆๆๆ  o18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 11-11-2011 09:35:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-11-2011 10:02:04
ดีใจกับหนูปัดนะจ๊ะที่สถานการณ์น้ำแถวที่หนูปัดอยู่เริ่มลดลง
ยังไงๆก็ขอส่งใจมาช่วยอยู่นะคะ
หูย...ผีหนุ่ม(ใหญ่)มีแง่งอน มีเขิน น่ารักจริงเชียว
เอ๊อ...เท่าๆที่จับสังเกตได้นี่ ดูเหมือนว่าสองคู่นี้ ตุล-พาทิส   กริช-อธิป
เหมือนจะไม่ได้มีโอกาสอยู่ร่วมกันใช่ไหม กลัวจัง กลัวว่าจะเป็นเรื่องรักที่แสนเศร้าน่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 11-11-2011 10:42:54
สนับสนุนคู่นี้สุด ๆ อากริชกับคุณอธิปนี่มีความทรงจำร่วมกันมายาวนานจริง ๆ
พาทิศก็นะ...เนียนขอตุลดื้อ ๆ เลย (ตุลดันพยักหน้าตกลงนี่สิ) :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 11-11-2011 12:30:23
น่ารักจัง
อ่านแล้วรุ้สึกอบอุ่น
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 11-11-2011 13:44:20
น่ารักที่สุด  อากริชเขินแหละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 11-11-2011 14:47:18
คู่แก่แอบหวาน
ส่วนคู่หลาน เดี๋ยวนี้ หวานไม่เกรงใจใครเลยนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-11-2011 17:56:59
หวาน :impress2:ปนเศร้า :sad11:ยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 11-11-2011 18:34:05
ชอบคู่กริชกับอธิปจัง
เสียดาย อากริชตายซะแล้ว อยากให้คู่กับอธิปมากๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: dariganae ที่ 11-11-2011 18:46:55
เห็นเรื่องนี้อัพปุ๊บ กดเข้ามาปั๊บ>.<
ดีใจมากๆ!!! คุณปัดอัพแล้ววววว
คิดถึงพาทิศมากกกกกก
คู่คุณอาก็น่ารักกกก

ปล.สู้ๆนะคะ ขอให้น้ำแห้งไวๆ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 12-11-2011 08:35:33
อากริชน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 12-11-2011 21:25:40
สมกับการรอคอย :3123:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: Tris ที่ 12-11-2011 23:58:05
 “ถึงร่างนี้จะเป็นผีดิบ แต่ก็ยังมีอารมณ์อย่างว่า ตามปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไปนะ”

คุณปัดชนะเลิศประโยคนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ  :z3:ดีใจที่ได้อ่านต่อ ขอบคุณนะคะ

ทริสเอง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 13-11-2011 16:17:19
เค้กหวานน้อย
แต่ตอนนี้อ่านแล้วหวานมากๆ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (11/11/11) ตอนที่ 22
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 14-11-2011 17:58:03
แอร๊ยยยยยยยยยยยย

หวานจริงจริ๊งงงงงงงงงงงง :-[
//ปัดมด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 29-11-2011 11:28:43
สวัสดีค่ะ มาต่อแล้วนะคะ ~

สำหรับใครที่กลัวว่าเรื่องจะเปลี่ยนกลายเป็นธีมเศร้า และมีการพลัดพราก สำหรับเรื่องนี้ คงไม่เขียนถึงจุดนั้นค่ะ ถ้าจะจบก็อยากให้จบแบบมีความสุข และเฝ้าจินตนาการต่อยอดไปได้อีกมากกว่า ปัดชอบการจบแบบมีความสุขมากกว่าดราม่าค่ะ ดังนั้นเรื่องนี้คงไม่มีฉากเศร้าเคล้าน้ำตาลาจากแน่ ถ้าจะมีก็คงมีแค่ความซาบซึ้งประทับใจเพียงแค่นั้น

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ยังตามอ่านกันอยู่นะคะ~~

สำหรับตอนนี้ก็ยังเป็นเรื่องของคู่คุณอาอยู่ค่ะ ~ 

...
..





ม่านราตรี
บทที่ 23


   ตั้งแต่ประกาศออกหน้าออกตากับทุกคนในคฤหาสน์ม่านราตรีว่าเขาคบกับตุลา พาทิศเองก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรกับอีกฝ่ายให้สมกับเป็นคนรักกันจริง ๆ สักที และตัวต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เขาต้องพลาดโอกาสเรื่อย ๆ ก็เห็นจะเป็นเพราะว่าอาผู้หวงหลานชายผู้นั้นคอยกันท่าด้วยความหมั่นไส้อยู่เรื่อย ๆ นั่นเอง

   “คุณต้องร่วมมือกับผมแล้วล่ะคุณอธิป ช่วยดึงเพื่อนของคุณไปให้ห่าง ๆ หลานเขาหน่อย ขืนเป็นแบบนี้ผมกับตุลก็คงไม่ไปถึงไหนกันสักที!”

   พาทิศบุกเข้าห้องของหมอผีหนุ่มใหญ่เพื่อปรึกษาปัญหาหัวใจในยามดึก แต่นั่นกลับทำให้คนฟังขมวดคิ้วยุ่งด้วยความสงสัย

   “แล้วทำไมถึงต้องเป็นผมล่ะ ถึงผมจะเป็นเพื่อนของนายกริช แต่ก็ใช่ว่าจะสั่งหรือบังคับเขาได้นา”

   พาทิศจ้องอีกฝ่ายนิ่งอย่างพิจารณาด้วยสายตาที่ทำให้อธิปไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะมันเหมือนจะอ่านลึกเข้าไปได้ถึงความในใจเลยทีเดียว

   “นอกจากตุลแล้ว คนที่มีอิทธิพลกับคุณกริชก็มีแค่คุณอีกคนเท่านั้นล่ะ”

   อธิปเลิกคิ้วนิด ๆ ขณะที่กำลังคิดจะหาทางโต้ตอบกลับไป เขาก็ต้องชะงักแล้วนิ่งอึ้ง ตัวแข็งทื่อ เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยตามมาอีกด้วยสีหน้าจริงจัง

   “ถามจริงเหอะนะ คุณอธิป คุณคิดว่าคุณกริชเป็นไง ชอบเขาบ้างไหม ...ผมหมายถึงชอบแบบพิเศษที่เกินเพื่อน ขึ้นไปน่ะ”

   “เฮ้ย! ไม่มีทาง ผมไม่ใช่เกย์นะ!”

   อธิปรีบโวยวายตอบทันทีที่ตั้งสติได้ พาทิศหรี่ตาลงเพื่อจับผิดอีกฝ่าย ก่อนจะทำท่าคล้ายถอนหายใจ แล้วจึงยักไหล่นิด ๆ

   “งั้นผมคงต้องให้คนอื่นช่วย ...อืม วิญญาณที่ชอบผู้ชายด้วยกันแถวนี้ก็มีอยู่บ้าง แต่หมอนั่นค่อนข้างมีรสนิยมซาดิสต์รุนแรงกับคนที่ชอบ ขนาดพวกรุ้งยังแหยงไม่กล้าเข้าใกล้ ผมเลยไม่อยากติดต่อด้วยเท่าไหร่ ...แต่เมื่อเป็นแบบนี้มันก็จำเป็นล่ะนะ”

   พาทิศบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่ก็เน้นเสียงดังให้อีกฝ่ายได้ยิน อธิปเกาศีรษะแกรก ๆ แล้วโพล่งกลับอย่างหัวเสีย

   “แล้วทำไมคุณต้องพยายามยัดเยียดนายกริชให้คนโน้นคนนี้ด้วยล่ะ แค่พูดกับเขาดี ๆ ก็ได้ไม่ใช่หรือ แล้วอีกอย่างทำไมอีกฝ่ายต้องเป็นผู้ชายด้วยเล่า!”

   พาทิศแอบชำเลืองมองอธิป พลางซ่อนยิ้มในสีหน้า ก่อนจะอธิบายตอบยืดยาวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

   “นั่นมันก็เพราะตุลเขาสงสารอา บอกว่าถ้าคุณกริชยังคิดจะอยู่บนโลกนี้ เขาก็อยากให้อามีความสุข มีคนรักเหมือนเขา อาจะได้ไม่เหงา และผมเองก็เห็นดีด้วยในข้อนั้น เพราะถ้าคุณกริชมีคนรัก เขาก็จะเข้าใจเองได้ว่า คนที่รักกันก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง และที่พยายามให้อีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ก็เพื่อเขาจะได้เข้าใจในความรักของผมกับตุลมากขึ้น  อีกอย่างผมเห็นว่าคุณสนิทกับเขามาก และคุณกริชก็แคร์คุณมาก ผมก็เลยคิดจะจับคู่ให้พวกคุณ ...แต่ถ้าคุณยืนยันว่าคุณไม่คิดชอบผู้ชาย ผมก็จะช่วยหาคู่คนอื่นให้เขาแทนยังไงล่ะ”

   อธิปนิ่งอึ้งรับฟัง แล้วก็ต้องรีบเรียกรั้งผีดิบหนุ่มเอาไว้อย่างลืมตัว เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมจะเดินออกไปจากห้องของเขา

   “เฮ้! ดะ เดี๋ยวก่อนสิ!”

   พาทิศชะงักฝีเท้าพลางหันมาแสร้งตีสีหน้าเงียบขรึม แล้วย้อนถามกลับไปสั้น ๆ

   “อะไรหรือครับ?”

   “เอ่อ...คุณคงไม่พาวิญญาณที่ว่านั่นมาแนะนำกับนายกริชเร็ว ๆ นี้หรอกใช่ไหม?”

   อธิปถามอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ด้วยสีหน้าลำบากใจ ทำให้พาทิศนึกขำจนเกือบหลุดเก๊ก แต่ผีดิบหนุ่มก็ยังคงมาดนิ่ง แล้วตอบกลับไป

   “ก็ตั้งใจว่าจะอีกวันสองวันนั่นล่ะครับ ...บอกตามตรง ผมก็ไม่ค่อยชอบหน้าหมอนั่นเท่าไหร่ แต่บางทีถ้าหมอนั่นเกิดตกหลุมรักคุณกริชจริง ๆ เขาก็อาจจะเปลี่ยนไปก็เป็นได้ และถ้าเป็นแบบนั้นมันก็จะเป็นผลดีกับทั้งคุณกริช ผมแล้วก็ตุลด้วย”

   “สองสามวันหรือ...”

   อธิปพึมพำแล้วจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย

   “ขอเวลาผมสักหน่อยได้ไหม.... บางทีผมอาจจะเกลี้ยกล่อมให้นายกริชเข้าใจเรื่องของพวกคุณก็ได้ คุณจะได้ไม่ต้องลำบากหาวิญญาณอะไรนั่นมาเป็นคู่ให้เขาน่ะ”

   พาทิศอยากจะหลุดหัวเราะออกมาเต็มทน เขาเบือนหน้าไปอีกทางแล้วควบคุมไม่ให้น้ำเสียงผิดปกติอย่างเต็มที่

   “...ถ้าอย่างนั้นคนที่จะมีความสุขก็มีแค่เพียงพวกผม  แต่คุณกริชก็ยังคงต้องเหงาอยู่ดี ...น่าสงสารออกนะครับ ทั้งที่เป็นคนดีขนาดนั้นแท้ ๆ”

   อธิปชะงัก เงียบกริบ คำพูดของอีกฝ่ายจี้ใจดำของเขาเต็มที่ เขารู้ดีกว่าใครว่ากริชเป็นคนดี จริงใจกับมิตรที่คบหา และให้ความสำคัญกับคนสำคัญของตน จนแม้กระทั่งชีวิตก็ยอมสละให้ได้ แต่เพราะความดื้อดึงและยึดติดจนเกินไปของเจ้าตัว ผลตอบแทนที่ได้รับก็คือต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนอยู่แบบนี้เรื่อยไป

   “ถ้าคุณเห็นว่าเขาเป็นเพื่อนคนสำคัญ คุณก็ควรมีส่วนช่วยเหลือให้เขาพบกับความสุขในชีวิตไม่ใช่หรือครับ... ถึงแม้ว่ามันจะเป็นชีวิตหลังความตายก็ตาม”

   พาทิศพยายามเกลี้ยกล่อม ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าอธิปนั้นเริ่มที่จะลังเลขึ้นมาอีกครั้ง ผีดิบหนุ่มจึงซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้าก่อนจะเปรยต่อแผ่วเบา

   “แต่ถ้าคุณไม่สามารถคิดกับเขาได้มากกว่าเพื่อน คุณก็ลองปล่อยให้เขาไปเจอคนอื่นดูเถอะครับ ...บางที คนที่ใช่สำหรับคุณกริช อาจจะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ก็เป็นได้”

   พาทิศเอ่ยทิ้งท้ายพลางขอตัวออกจากห้องไป ทิ้งให้อีกฝ่ายเฝ้ากลัดกลุ้มกับทางเลือกที่ผีดิบหนุ่มเสนอตามลำพัง



   อีกด้านหนึ่งตุลาที่นั่งอยู่ในห้องกับกริช ก็กำลังชวนวิญญาณหนุ่มพูดคุยไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เจ้าตัวหายเขินอาย ที่เผลอหลุดความในใจออกมาต่อหน้าหลานและคู่รักของหลานให้ได้ล่วงรู้ แต่ดูเหมือนว่ากริชจะยังคงกังวลและรู้สึกแย่จนเผลอแสดงออกมาอยู่เรื่อย ๆ

   “เฮ้อ...แย่ชะมัด ทำไมถึงหลุดปากออกไปได้นะ”

   กริชพึมพำบ่นกับตัวเองเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่ตุลาก็จำได้ว่าพอเผลอ ๆ ก็มักจะได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ จนเขานึกสงสาร

   “ไม่เป็นไรหรอกครับอา ...พวกผมไม่บอกใครแน่ อย่าคิดมากเลยครับ”

   กริชเงยหน้ามองหลายชายแล้วฝืนยิ้มน้อย ๆ ส่งให้

   “ตุลคงดูถูกอาสินะ ... ทั้งที่อาคอยแกล้งคอยขวางเรื่องหลานกับหมอนั่น แต่ตัวอาดันมารักชอบผู้ชายเสียเองแบบนี้”

   “ไม่มีทางครับ!”

   ตุลารีบโพล่งตอบ แล้วตรงเข้ากอดร่างโปร่งใสไว้หลวม ๆ

   “ผมรักและเคารพอามากนะครับ ไม่ว่าอาจะเป็นยังไง จะรักจะชอบใคร ผมก็เคารพในการตัดสินใจของอาเสมอครับ”

   กริชซบหน้ากับบ่าของหลานชายแล้วจึงพึมพำเบา ๆ ด้วยความตื้นตันใจ

   “ขอบคุณนะตุล ...หลานโตขึ้นมากเลยนะ... บางทีอาอาจจะไม่จำเป็นสำหรับหลานต่อไปแล้วก็ได้”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวหวนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองอาจจะต้องเผชิญเข้าสักวัน แล้วก็พลันมีสีหน้าเศร้าลง 

   “อากริชครับ...ไม่เอานะครับ อย่าพูดแบบนี้ ... ถ้าอาจะไปเพราะหมดห่วงทุกอย่างแล้ว ผมก็จะไม่รั้งไว้ …แต่นี่อาจะไปเพราะอารมณ์เหงา อารมณ์น้อยใจ ...ยังไงผมก็ไม่ยอมนะครับ”

   ตุลาบอกพร้อมกับเผชิญหน้าสบตากับอีกฝ่ายนิ่ง กริชยิ้มน้อย ๆ แล้วมือโปร่งใสจึงลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบา ๆ

   “หลานโตขึ้นมากจริง ๆ นั่นล่ะ ...ขอบใจที่เตือนสติอานะ”

   ตุลายิ้มเขิน ๆ ที่ได้รับคำชม และเมื่อต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบกันอีก ก็ทำให้เขาหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ใหญ่ ๆ ที่เกิดขึ้นภายในห้องนี้ก่อนหน้านั้น...

 

     เมื่อราว ๆ เกือบชั่วโมงที่ผ่านมา เขาและพาทิศกำลังใช้เวลาตามประสาคู่รักหยอกล้อกัน และดูเหมือนจะเลยเถิดเมื่อพาทิศเริ่มจะมีอารมณ์ที่จะทำบางอย่างขึ้นมายิ่งกว่าการหยอกล้อ แต่จู่ ๆ กริชก็ปรากฏร่างเพื่อมาหาเขา ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็โวยวายทันที ที่เห็นพาทิศกำลังจับหลานชายของตนเปลื้องผ้าให้เห็นต่อหน้าต่อตาแบบนั้น

เขาพอจะจำได้ลาง ๆ ว่าพาทิศก็เริ่มหัวเสียเหมือนกันที่ถูกขัดจังหวะ ทั้งคู่โต้เถียงกันไปมา แล้วมีประโยคหนึ่งที่ผีดิบหนุ่มย้อนกลับไปว่า คนที่ยังไม่เคยมีความรักอย่างกริชคงไม่เข้าใจพวกเขา แต่กริชซึ่งกำลังหงุดหงิดไม่แพ้กัน ก็สวนกลับมาว่าเขาเองก็มีคนที่รักอยู่แล้ว ทำไมจะไม่เข้าใจ นั่นจึงทำให้ทั้งพาทิศและเขาเองนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน

จากนั้นพอเขาตั้งสติได้ ก็ย้อนถามอาของตนกลับทันทีว่าใคร แต่กริชซึ่งหายตกใจที่เผลอหลุดปากออกมา ก็เอาแต่หน้าแดงด้วยความเขินอาย แล้วทำเป็นเมินไม่ยอมสบตา เขาและพาทิศก็คิดคาดเดาไปต่าง ๆ นานา แล้วก็มาสะดุดพร้อม ๆ กันที่ใครคนหนึ่ง เขาจึงถามกริชออกไปตรง ๆ ว่า ใช่อธิปหรือเปล่า

    เท่านั้นล่ะ กริชก็หน้าแดงขึ้นอีก แล้วรีบปฏิเสธยกใหญ่อย่างร้อนรน จนพาทิศนึกขำ และหัวเราะเบา ๆ ออกมาคล้ายจะล้อเลียน ทำให้กริชทั้งอายทั้งโมโหจนหนีหายตัวไป ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาตกใจอย่างมาก พยายามเรียกหาเท่าไรกริชก็ไม่ยอมปรากฏตัว จนเขาทั้งกลัว และเสียใจว่าผู้เป็นอาจะไม่ยอมออกมาพบอีก แล้วจึงเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

พาทิศเองพอเห็นเขาร้องไห้ ก็เริ่มปลอบโยนอย่างรู้สึกผิด และสักพักกริชก็ปรากฏกายขึ้น เขาจึงรีบขอโทษอีกฝ่ายทันที แต่กริชนั้นไม่ได้โกรธอะไรเขาเลย แล้วบอกว่าที่หายไปก็แค่เพราะอายเท่านั้น จากนั้นวิญญาณหนุ่มจึงขอร้องไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใคร และสารภาพว่า ตนเพิ่งเริ่มมาคิดกับอธิปแบบนั้นก็ตั้งแต่ที่มาอยู่คฤหาสน์ม่านราตรีด้วยกัน และตนเองก็ไม่อยากให้อธิปรับรู้เพราะกลัวจะถูกรังเกียจ ซึ่งเขาก็รีบแย้งว่าไม่มีทางที่อธิปจะคิดแบบนั้นกับกริช เพราะทั้งคู่สนิทกันมาก

ทางด้านกริชเองพอได้ยินเขาพูด ก็มีสีหน้าซึมลง แล้วพึมพำบางอย่างให้ได้ยินว่า ทั้ง ๆ ที่คิดแค่เพื่อนมาตลอด แต่ทำไมความรู้สึกถึงเปลี่ยนไปได้ ... จากนั้นกริชก็ฝืนยิ้มให้กับพวกเขา แล้วบอกว่า ถ้าเขาและพาทิศไม่บอกเรื่องนี้กับใคร ตนจะไม่มาคอยกวนทั้งคู่ให้รำคาญอีก เขาเองพอได้ยินก็รู้สึกสงสารอาไม่รู้จะปลอบยังไง แต่พาทิศนั้นบอกด้วยสีหน้าจริงจังตอบไปว่า พวกเราจะไม่พูด ทำให้กริชยิ้มออก

    แต่พอกริชจะขอตัวจากไป พาทิศก็ทำสีหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ แล้วบอกว่ามีธุระต้องรีบไปจัดการ รบกวนให้กริชช่วยอยู่เป็นเพื่อนเขาให้หน่อย ซึ่งกริชก็ทำตามอย่างไม่คิดสงสัยอะไร แต่คงเพราะอาของเขาไม่ได้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กับการขยิบตาทิ้งท้ายก่อนจากไปของอีกฝ่ายด้วยนั่นล่ะ จะว่าไปเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพาทิศจะทำอะไร แต่เดาได้ว่าคงจะไม่น่าใช่เรื่องที่ดีแน่ ๆ

 

   ...ตุลาหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา พลางถอนหายใจยาวอีกครั้งจนกริชลอบมอง ก่อนที่จะเบือนหน้าหันไปมองอีกทางที่เป็นทิศเดียวกับห้องของอธิปอยู่ วิญญาณหนุ่มมีสีหน้าซึมเศร้าเล็กน้อยเมื่อหวนคิดถึงว่า หากอธิปล่วงรู้ความในใจของเขาเข้าสักวัน อีกฝ่ายจะยังคงยิ้มให้เขา และคอยอยู่เคียงข้างเขาเหมือนเดิมอีกไหม

   ‘ขอโทษนะอธิป ...ขอโทษจริง ๆ ที่ฉันห้ามใจไม่ให้ชอบนายไม่ได้’

   วิญญาณหนุ่มคิดในใจ โดยไม่อาจได้ล่วงรู้ว่าใครบางคนที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ก็กำลังนอนไม่หลับเพราะความกลัดกลุ้มเรื่องของเพื่อนสนิทอยู่เช่นเดียวกัน

   “ทำไมนะ ...ไม่เห็นจำเป็นต้องหาคู่ให้หมอนั่นสักนิด แค่พูดคุยกันดี ๆ ก็สิ้นเรื่อง... กลัวหมอนั่นเหงาหรือไง เฮอะ! ก็ไม่เห็นจะเหงาตรงไหน ว่าง ๆ ก็มาขลุก ๆ อยู่กับเรา แล้วบ่นนั่นบ่นนี่จนหูชาประจำแท้ ๆ”

   อธิปบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความหงุดหงิด เมื่อหวนคิดว่าเพื่อนของตนจะต้องไปคบกับวิญญาณอื่นแถมยังเป็นวิญญาณผู้ชายด้วยกัน มันก็ยิ่งทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นมาอย่างไม่รู้เหตุผลทีเดียว

   “แล้วไอ้วิญญาณซาดิสต์ที่ว่านั่นมันเป็นวิญญาณประเภทไหนก็ไม่รู้ ...นายกริชเห็นแบบนั้น จริง ๆ ก็บอบบางอยู่ ไปเจอวิญญาณร้ายรังแกเข้า จะสู้แรงเขาไหวไหมเนี่ย!”

   หมอผีหนุ่มนึกเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมาตงิด ๆ จนเผลอลืมไปว่า ที่เขาเห็นอีกฝ่ายอ่อนแอ คงเพราะมองในมุมมองเพื่อนเก่าสมัยมีชีวิต และในมุมมองที่ตัวเองเป็นหมอผี ซึ่งส่วนใหญ่จะมองวิญญาณอื่นอ่อนแอกว่าไปหมด

   “โธ่โว้ย! ถ้านายกริชมันเป็นหญิง ฉันก็คงไม่ลำบากใจอย่างนี้หรอก ในเมื่อหมอนั่นเป็นผู้ชายทั้งแท่ง จะทำใจได้ยังไงวะ!”

   อธิปบ่นอุบ แล้วเผลอจินตนาการถึงสีหน้าหวาน ๆ ของเพื่อน ยามยิ้ม ยามร้องไห้ ยามอ้อนขอบางอย่างจากเขา มันก็ทำให้หมอผีหนุ่มต้องกลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบขับไล่จินตนาการเหล่านั้นทิ้งไปเสีย เพราะดันเผลอใจเต้นขึ้นมาอย่างประหลาด

   “บ้าไปแล้วเรา ... ใช่แล้ว เพราะเจ้าผีดิบนั่นล่ะพูดกล่อมทำให้เราไขว้เขว ...เราจะมองหมอนั่นแบบนั้นได้ยังไง...ไม่มีทาง ...ใช่ ไม่มีทางแน่”

   อธิปพยายามสะกดจิตตัวเอง ทั้งที่ตอนนี้เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงอารมณ์แปลก ๆ บางอย่าง และใจที่ยังคงเต้นแรงเมื่อหวนคิดถึงใบหน้าเพื่อนสนิทของตน

   “ไม่เอาแล้วโว้ย! เข้านอนดีกว่า งี่เง่าชะมัด ...ถ้าหมอนั่นรู้เรื่องนี้เข้า คงโมโหเหมือนกันแน่!”

   อธิปสรุปตัดบท แล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปง พยายามข่มตาหลับอย่างยากลำบาก เพราะดันมีแต่เรื่องของกริชให้เขาต้องคอยคิดเป็นระยะ ๆ นั่นเอง



   ตกดึก อธิปรู้สึกเคลิ้ม ๆ กึ่งหลับกึ่งตื่น เขาปรือตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสวิญญาณบางเบา แล้วก็ต้องเห็นร่างโปร่งแสงของเพื่อนยืนอยู่ข้างเตียง

   “หือ ...นายกริช มีอะไรหรือ?”

   อธิปถามอย่างงัวเงีย แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเพื่อนสนิทยิ้มน้อย ๆ ชวนมองให้ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับกายขึ้นมาบนเตียง แล้วมาหยุดที่ท่านั่งคร่อมบนร่างของเขาอย่างน่าหวาดเสียว

   “ง่า...กริช ...อย่ามาล้อเล่นแบบนี้สิเพื่อน ...ไม่ตลกนา”

   อธิปบอกพลางกลืนน้ำลายลงคออย่างลืมตัว เมื่อแทนที่อีกฝ่ายจะเลิก แต่กลับยิ้มยั่วยวนจนทำให้เขาใจเต้นแรงแทน แถมร่างที่โปร่งใสนั่นก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น จนกลายเป็นมีเนื้อมีหนังเหมือนมนุษย์ทั่วไป

   “อธิป...รู้ไหม ...ว่าฉันรู้สึกยังไงกับนาย”

   กริชถามเสียงกระเส่า พลางใช้มือลูบไล้ไปที่แผ่นอกกว้างของคนบนเตียง จนอีกฝ่ายแทบจะทนไม่ไหว อยากจะพลิกจับร่างบางกดราบไปกับเตียงแทนเสียเดี๋ยวนั้น แต่ก็ต้องท่องคำว่าอดทนอยู่ในใจ เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนตั้งใจจะมาไม้ไหนกันแน่

   “นายกริช ...เอิ่ม...นายเมาหรือเปล่า ... นายดูแปลก ๆ ไปนะ”

   อธิปถามออกไป แล้วก็ได้คิดว่ามันเป็นคำถามที่ดูงี่เง่าที่สุดเท่าที่เขาจะคิดออกไปได้

   “บ้า...วิญญาณมีเมาได้ด้วยหรือ”

   กริชบอกเบา ๆ ตามมา ใบหน้านั้นเปลี่ยนเป็นยิ้มกึ่งขำ แต่ก็ทำให้ดูน่ารักน่ามองอยู่ดี ทว่าจู่ ๆ ใบหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเศร้า ๆ แล้วโน้มเข้ามาใกล้ใบหน้าเขาจนแทบจะชิดกัน

   “อธิป...ฉันชอบนายนะ ชอบมานานแล้ว ...”

   “...หะ...หา...นะ...นายว่าอะไรนะ”

   อธิปได้แต่อึกอักตอบเพราะความตกใจ เขารู้สึกว่าหัวสมองว่างเปล่าไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากเย็น ๆ ของกริชประทับลงมา

   “วิญญาณอย่างฉัน คงไม่ดีพอสำหรับนายสินะ”

   ใบหน้านั้นยิ้มเศร้า ๆ หลังจากที่ถอนริมฝีปากออกมาแล้ว นั่นจึงทำให้สติของอธิปขาดผึง เขาคว้าศีรษะของอีกฝ่ายกดลงมาอีกครั้งแล้วบดเบียดจูบกับวิญญาณหนุ่มอย่างร้อนแรง ลิ้นของทั้งคู่กระหวัดเกี่ยวรัดพัวพันกันพักใหญ่ อธิปจึงยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเพื่อนเป็นอิสระในที่สุด

   “อธิป...ทำให้ฉันเป็นของนายได้ไหม...”

    กริชที่ซุกหน้าซบกับอกกว้างพึมพำถามแผ่วเบา อธิปชะงักในทีแรก เขาหวนคิดถึงมิตรภาพระหว่างพวกเขา และสถานภาพที่เป็นอยู่ รวมไปถึงเรื่องเพศที่เขาพยายามจะต่อต้าน

   “นายกริช ...ถ้าทำแบบนั้นแล้ว พวกเราจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วนะ”

   อธิปพึมพำด้วยความสับสน และพยายามจะปฏิเสธความรู้สึกลึก ๆ ของใจตัวเอง

   “ขอแค่ให้คืนนี้ฉันเป็นของนาย ... แล้วหลังจากนี้ ถ้านายจะรังเกียจ ...จะไม่อยากมองหน้า ...ฉันก็จะไม่ปรากฏตัวให้นายได้เห็นอีกเลย”

   ถ้อยคำอ้อนวอนของกริช ช่วยลบเลือนสติสัมปชัญญะของอธิปให้เลือนรางไปอีกครั้ง หมอผีหนุ่มกระทำตามความปรารถนาของร่างกายและหัวใจตัวเอง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ... เสียงกรีดร้องและเรือนร่างขาวโพลนชวนมองบนร่าง ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของเขาตลอดค่ำคืนยาวนานที่ผ่านมา

   “อธิป! ไม่ไหว...ฉะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว!”

   เสียงกระเส่าร้องครางลั่น อย่างไม่คิดสนใจว่าจะมีใครได้ยิน เช่นเดียวกับอธิปเองที่ก็ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นในยามนี้เขาต้องการแต่เพียงจะเติมเต็ม ให้ร่างบนกายเขามีความสุขที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

   “อีกนิด...นายกริช ...ทนหน่อย...พวกเราจะได้ไปพร้อม ๆ กันไง...”

   หมอผีหนุ่มกัดฟันตอบ เขาเองก็ใกล้จะถึงอีกฟากของฝั่งฝันเต็มที หนุ่มใหญ่ขยับเอวขึ้นลงกระแทกรัวแรง จนเสียงหวีดร้องของร่างโปร่งดังขึ้นยาว แต่ทว่าก่อนที่อธิปจะปลดปล่อยออกมา ภาพเบื้องหน้าของเขาก็ค่อย ๆ เลือนหาย พร้อมกับที่เขาสะดุ้งเฮือกตื่นขึ้นมาพบกับความว่างเปล่าภายในห้องนอน

   อธิปตั้งสติอยู่นานกว่าจะทำใจได้ว่าที่ผ่านมามันคือความฝันของเขา  หมอผีหนุ่มสบถเบา ๆ เมื่อก้มมองบางสิ่งที่ดุนดันผ้าห่มขึ้นมา

   “....บัดซบเอ๊ย! ทำไมไม่ยอมให้ถึงก่อนแล้วค่อยตื่นทีหลังวะ!”

    จากนั้นร่างบนเตียงก็ดึงผ้าห่มออกแล้วเหวี่ยงไปปลายเตียงด้วยความหงุดหงิด พลางเดินตรงหายเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อจัดการบางสิ่งที่ยังคงค้างคาอยู่ ให้เสร็จเรียบร้อยไปสักที



... TBC ...



หุ ๆ จะมีใครค้างเหมือนอธิปบ้างไหมน้อ~ 



หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 29-11-2011 12:05:56
อิ อิ คราวนี้อากริชคงเข้าใจพาทิศกับตุลนะว่า
เขาสองคนก็อยากมีเวลาส่วนตั๊วส่วนตัวบ้าง อยากสุขแบบนี้บ้าง
คราวหน้าขอตุลกับพาทิสบ้างนะจ๊ะ อยากรู้ว่าผีดิบหนุ่มจะร้อนแรงขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 29-11-2011 12:38:51
อธิปอย่ารีรอ ทำตามหัวใจดีกว่าเนอะ :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 29-11-2011 14:29:41
โดนชักนำหน่อยเดียวเก็บไปฝันซะขนาดนี้เลยแฮะอธิป เป็นเอามากกว่ากริชซะอีก :m20:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 29-11-2011 17:40:29
น่าสงสารอธิปนะเนี่ย ค้างเติ่งเลย 55
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 29-11-2011 18:11:38
ดันเป็นแค่ฝันซะงั้น :a5:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 29-11-2011 18:21:35
อั๊ยยะ ใกล้จะเป็นสองคู่ชูชื่นแล้วสิน้าา
ปล.แอบสงสารอธิปอยู่หน่อยๆนะเนี่ย 555
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 29-11-2011 19:54:35
หมอผีกับผีหนุ่ม(น้อย)55+
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 29-11-2011 21:25:21
สงสารอธิปจัง
ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 29-11-2011 22:24:44
ค้างๆ อธิปค้าง  :z1:
ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-11-2011 00:47:03
ค้างอย่างแรง  อธิปชอลกริชแล้วล่ะสิ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 30-11-2011 01:40:36
 :z3: :z3: ขอตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ค้าง ....
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 30-11-2011 02:31:16
กริชแค่แอบรัก แต่เพื่อนอธิปนี่แอบคิดลามกเลยนะนั่น  :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 30-11-2011 06:50:56
นานๆ จะมีฉากแบบนี้มาให้จิ้นกันซะทีเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจะมีอีกหรือเปล่า ชอบมากมาย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 30-11-2011 11:04:07
เป็นเอามากนะคะเนี๊ย  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Natjy012 ที่ 30-11-2011 21:18:41
บ๊ะแล้วววววว....
ไหนบอกแค่เพื่อน
ฝันซะเกือบ...เสร็จ
อาการหนักอย่างแรง
เป็นกำลังใจให้นะคะ อิอิ!!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 30-11-2011 23:41:35
 o22 ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
งืออออ...อ่านแล้วค้างตามอธิปไปแล้ว
โฮกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 01-12-2011 19:34:12
ค้างงงง
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 02-12-2011 16:36:16
ม่านราตรี คฤหาสน์ที่น่าอยู่(จริงเรอะ ฮ่าๆ)

อ่านตอนล่าสุดนี่เกือบจะเหมือนว่าคุณอาจะนำหน้าคุณหลานไปแล้วละนะ
ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (29/11/11) ตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 03-12-2011 19:16:32
อธิป กลับไปนอนแล้วฝันนต่อดิ คนอ่านค้างมากมาย ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 03-12-2011 21:08:02
มาต่อแล้วจ้า~ สำหรับคนที่ลุ้นคู่ของคุณอา เชิญพบกับบทสรุปได้ในตอนนี้ค่ะ

และสำหรับคู่ของคุณหลาน ตอนนี้บทอาจจะน้อยไปนิด แต่ตอนหน้ารับรองเต็มที่ค่ะ~



ม่านราตรี
บทที่ 24



   มื้อเช้าอธิปนั้นไม่ได้ลงมากินอาหารพร้อมกับตุลา ทำให้กริชรู้สึกเป็นห่วงเพื่อน จึงได้ตัดสินใจเข้าไปหาในห้อง แต่เขาก็พบว่าอธิปยังคงนอนเหม่อนิ่งเฉยอยู่บนเตียง โดยไม่มีทีท่าจะลุกไปไหน

   “อธิป...นายเป็นอะไรไป ไม่สบายหรือเปล่า”

   กริชนั่งลงบนเตียงข้างร่างในผ้าห่ม ทำเอาคนนอนอยู่สะดุ้งโหยงเมื่อรู้ว่าใครเข้ามาในห้อง

   “นะ...นายกริช”

   อธิปหันไปมองคนบนเตียงของตนอย่างตกใจ กริชขมวดคิ้วยุ่งแล้วจึงตอบกลับไป

   “ก็ฉันน่ะสิ เป็นอะไรของนายทำหน้ายังกับเห็นผี...”

   พอพูดจบกริชก็ชะงักแล้วหวนนึกขึ้นได้ว่าตัวเองก็เป็นวิญญาณ เขาจึงกระแอมเบา ๆ แล้วปรับเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่

   “...ฉันหมายถึงทำหน้ายังกับเจอคนไม่รู้จักกันอย่างนั้นน่ะ”

   “เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก ...ไม่มีอะไรจริง ๆ คือฉันนอนดึก แล้วยังง่วงมาก ๆ อยากพักมันทั้งวันเลยก็แค่นั้น”

   อธิปบอกแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมโปงหลบหน้าอีกฝ่าย ทำเอากริชขมวดคิ้วยุ่ง แล้วพยายามดึงผ้าห่มออก แต่อธิปก็ดึงกลับแน่นจนวิญญาณหนุ่มเริ่มที่จะโมโหขึ้นมาบ้าง

   “ตามใจ! ไอ้เราก็เป็นห่วงคิดว่าจะป่วย แต่ดูท่าว่าคงไม่ได้ป่วยอะไร แต่โรคบ้าขึ้นสมองมากกว่า!”

   กริชประชดเพราะเพื่อนดูแปลก ๆ เหมือนไม่อยากเจอหน้าเขานัก ซึ่งเขาก็จำไม่ได้เลยว่าไปทำอะไรให้เจ้าตัวต้องคอยหนีหน้าแบบนี้ ...นอกจาก

   จู่ ๆ วิญญาณหนุ่มก็คิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เผลอหลุดปากบอกพาทิศและตุลาออกไป ใบหน้านั้นแดงระเรื่อแล้วจึงค่อยกลับมาเป็นซีดเผือด ก่อนจะเอ่ยขึ้นตะกุกตะกักอย่างแผ่วเบา

   “เมื่อคืน...คงไม่มีใครมาพูดอะไรแปลก ๆ กับนาย... เรื่องฉันใช่ไหม”

   อธิปสะดุ้งเฮือก แล้วรีบตอนปฏิเสธทันที

   “ไม่มี! ใครจะเข้ามาคุยอะไรมืด ๆ ค่ำ ๆ ไม่มีทั้งนั้นล่ะ!”

   กริชขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อถูกปฏิเสธโดยไม่ยอมให้เห็นหน้าแบบนี้มันยิ่งชวนให้สงสัยมากขึ้นไปอีก แล้วเมื่อคืนพาทิศก็ออกจากห้องไปก่อน...ไม่แน่ว่า ผีดิบหนุ่มอาจจะนำเรื่องที่เขาแอบชอบอธิปไปบอกกับเจ้าตัวแล้วก็ได้ เพื่อนของเขาถึงได้มีปฏิกิริยาผิดแผกแปลกไปแบบนี้

   “เอ่อ...ไม่มีก็แล้วไป ...แต่ถ้ามีใครมาพูดไร้สาระอะไรให้นายฟังจริง ๆ ก็อย่าไปเชื่อมากมายนักล่ะ...หมอนั่นก็แค่อยากแกล้งฉันน่ะ...มันไม่ใช่เรื่องจริงจัง ที่นายต้องเก็บมาคิดมากหรอก...”

   อธิปชะงักกึก พอเขาได้ฟังที่อีกฝ่ายพูด ก็ดันเข้าใจผิดไปว่ากริชนั้นรู้เรื่องที่พาทิศคิดจะจับคู่ตัวเองกับวิญญาณเพศเดียวกันแถวนี้เข้าให้แล้ว หมอผีหนุ่มจึงค่อย ๆ โผล่หน้ามาจากผ้าห่ม แล้วย้อนถามกลับไป

   “นายไม่จริงจังจริง ๆ นะ?”

   กริชรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกขึ้นมาวูบหนึ่งแต่ก็ยังคงฝืนแสร้งยิ้ม แล้วยักไหล่นิด ๆ ทำทีเป็นไม่ใส่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น

   “ก็ใช่น่ะสิ คนอย่างฉันนี่นะจะมาคิดจริงจังเรื่องแบบนั้น”

   ทันทีที่กริชพูดจบอธิปก็หลุดถอนหายใจยาวขึ้นมาอย่างโล่งอก แล้วจึงเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มร่าเริงผิดกับก่อนหน้าลิบลับ

   “โชคดีไป... ดีแล้วล่ะนะ ที่ไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไรนั่น ...เฮ้อ ค่อยยังชั่ว!”

   กริชแสร้งยิ้มรับ ทั้งที่อยากร้องไห้เต็มกลืน เมื่อเห็นว่าอธิปนั้นโล่งอกเพียงใด ที่รู้ว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับเจ้าตัวเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่นเท่านั้น

   “นายไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว...ฉันขอตัวก่อนนะอธิป”

   พอพูดจบกริชก็หายตัววับไปทันที ทำให้คนที่เอาแต่เผลอโล่งอกที่เพื่อนจะได้ไม่ต้องไปคบกับวิญญาณอื่น หันมองตามอย่างสงสัย แต่สักพักก็พยายามสลัดเรื่องเหล่านั้นออกจากสมอง แล้วตรงเข้าไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เพื่อเตรียมลงไปทานข้าวเช้าที่เกือบจะได้กลายเป็นมื้อกลางวันต่อไป



   ทางด้านกริชนั้น พอหายตัวออกจากห้องของอธิปแล้ว เขาก็บุกไปหาพาทิศถึงห้องใต้ดิน ทำเอาผีดิบหนุ่มซึ่งกำลังนั่งเขียนบันทึกเพลิน ๆ บนโต๊ะทำงาน ถึงกับสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ ๆ กริชก็โผล่มาแล้วโวยวายใส่เขาลั่น

   “คนโกหก! นายไปบอกหมอนั่นเรื่องฉันสินะ!”

   พาทิศรู้สึกสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่พอจะเอ่ยปากถาม กริชก็โพล่งตามขึ้นมาอีกระลอก

   “นายคงสนุกมากล่ะสิ ที่ได้แก้แค้นฉัน ... คงสะใจมากสินะ ที่ได้เห็นฉันในสภาพแบบนี้!”

   “คุณกริชใจเย็น ๆ ครับ นี่คุณพูดเรื่องอะไรกันแน่”

   พาทิศพยายามห้ามปรามให้อีกฝ่ายใจเย็นลง เพราะตอนนี้เขางงกับเรื่องที่เกิดขึ้นไปหมดแล้ว กริชเห็นดังนั้นจึงพยามควบคุมสติอารมณ์ของตน พลางบอกออกไปโดยไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย

   “หมอนั่นรู้เรื่องที่ฉันชอบเขาแล้ว...และก็ลำบากใจมากด้วยที่จะสู้หน้าฉัน  ...จนฉันต้องบอกออกไปว่ามันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรทั้งนั้น”

   “เดี๋ยวครับ! คุณอธิปจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อผมไม่ได้พูดเรื่องนั้นออกไปสักคำ!”

   พาทิศรีบแย้งทันทีด้วยความตกใจ ทำให้กริชชะงัก แล้วหันไปมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

   “หมายความว่าไง? นายไม่ได้บอกเรื่องของฉัน ...แล้วทำไมเขาถึงพูดเหมือนรู้เรื่องดีทั้งหมด และก็โล่งใจมากด้วยที่ฉันบอกว่าตัวเองไม่ได้จริงจังน่ะ”

   “จริง ๆ ครับ ผมสาบานได้ ผมแค่ไปกระตุ้นคุณอธิปให้รู้สึกว่าคุณสำคัญกับเขามากเพียงไหนก็แค่นั้น รับรองไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่านั้นเลยครับ”

   กริชมีสีหน้างุนงงกับคำตอบที่ได้รับ พาทิศจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้วิญญาณหนุ่มฟัง ซึ่งพอได้ฟังกริชก็ลองรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาปะติดปะต่อกัน ก่อนจะหน้าแดงก่ำตามมาอย่างห้ามไม่อยู่

   “ผมว่าคุณอธิปเขาคงโล่งใจ ที่คุณไม่คิดจะสานสัมพันธ์กับคนอื่น... และถ้าให้ผมคาดเดา นั่นก็เพราะว่าเขาอาจจะคิดกับคุณเกินเพื่อนไปมากแล้วแต่ยังไม่รู้สึกตัวเองมากกว่า”

   “บะ...บ้าน่า...หมอนั่นน่ะหรือ ...จะคิดกับฉันแบบนั้น”

   “หึ ๆ คุณเองก็ยังชอบเขาได้ไม่ใช่หรือครับ ความรักความชอบมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลอะไรรองรับนักหรอกครับ”

   พาทิศบอกกับอีกฝ่ายด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม ส่วนคนฟังนั้นหวนคิดตามพลางหน้าแดงเล็กน้อยด้วยความยินดี

   “อย่างนั้นหรือ...อธิปเองก็อาจจะคิดกับฉันแบบนั้นเหมือนกันสินะ”

   พอบอกไปแบบนั้นสักพักเจ้าตัวก็ชะงักและนึกขึ้นได้ เขาแสร้งเมินไปทางอื่น ก่อนจะกระแอมขึ้นมาเบา ๆ

   “เอาเป็นว่าฉันขอโทษแล้วกัน ที่เข้าใจนายผิด”

   “ไม่เป็นไรครับ ...แต่คุณไม่คิดจะทำให้เรื่องของพวกคุณก้าวหน้าไปมากกว่านี้ด้วยตัวเองหรือครับ”

   พาทิศเริ่มยุ แต่ทำให้คนฟังสะดุ้ง หน้าแดงวาบ ทว่าสักพักก็กลับกลายเป็นซึมเศร้าตามมา

   “อย่าดีกว่า ให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปเถอะ....ใจตรงกันแล้วยังไงล่ะ  ถึงยังไงฉันกับเขาก็ต้องจากกันอยู่ดี”

   “แต่นั่นมันก็อีกนานไม่ใช่หรือครับ ...ไม่สิ ถึงจะยาวหรือสั้น  แค่ได้อยู่เคียงข้าง แม้เพียงเสี้ยววินาที แต่สำหรับคนที่รักกัน แค่นั้นมันก็น่ายินดีแล้วไม่ใช่หรือครับ”

   พาทิศเอ่ยเตือนสติ ทำให้คนฟังเงียบไปสักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นยิ้มน้อย ๆ ให้

   “นั่นสินะ...”

   “ถ้ายังไงให้ผมช่วยวางแผน...”

   พาทิศเอ่ยค้างแค่นั้นเพราะเห็นกริชสั่นศีรษะเบา ๆ ไปมา

   “ขอบใจ ...แต่ฉันจะเป็นคนบอกเขาเอง”

    พาทิศนิ่งเงียบ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ส่งให้อีกฝ่าย

   “ผมขอเป็นกำลังใจให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะครับ”

   “ขอบคุณ ...นายกับตุลก็เหมือนกัน ...ต่อไปนี้ฉันจะพยายามไม่เข้าไปขัดขวางให้มากนัก...ถ้าไม่จำเป็น”

   กริชเอ่ยทิ้งท้ายพร้อมยกยิ้มน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้คนฟังสั่นศีรษะคลอนไปมาอย่างเหนื่อยใจ

   “ขอบคุณครับ ...ฟังแล้วรู้สึกดีเป็นบ้าเลย”

   “หึ ๆ ช่วยไม่ได้นี่นะ ฉันมันพวกขี้อิจฉา ขี้เหงานี่ ...เรื่องอะไรจะปล่อยให้คนอื่นเขามีความสุขต่อหน้าต่อตาได้ล่ะ”

   กริชบอกแล้วหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะขอตัวไปตามหาอธิป เพื่อที่จะสารภาพความในใจของตนออกไป แม้ว่าผลที่ได้รับกลับมา เขาอาจจะถูกปฏิเสธจากอีกฝ่ายก็ตาม

   

   ระหว่างที่กริชหายตัวไปพบกับพาทิศ ทางด้านตุลาเองก็กำลังพูดคุยกับอธิปอย่างเคร่งเครียดเช่นกัน สาเหตุก็เพราะชายหนุ่มดันไปเผลอแอบฟังอาของเขากับอธิปคุยกันเข้า ตอนที่เขากำลังจะเดินออกมาจากห้องเพื่อไปหาน้ำเย็นดื่มด้านล่าง

   “คุณอธิปใจร้าย...ทำไมถึงโหดร้ายกับอากริชขนาดนี้ล่ะครับ!”

   ตุลาที่ยืนดักรอจนกระทั่งอธิปออกมาจากห้องโพล่งใส่หน้าอีกฝ่าย ทำเอาคนที่กำลังจะลงไปหาอะไรกินชะงักกึก พลางขมวดคิ้วยุ่งตามมาอย่างสงสัย 

   “หมายความว่าไง?”

   ตุลาสะดุ้งเฮือก เพราะดันเผลอลืมตัวตำหนิชายหนุ่ม โดยลืมไปว่าเขาได้ให้คำสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องที่กริชชอบอีกฝ่ายออกไป

   “ว่าไงเจ้าหนู ฉันไปทำอะไรโหดร้ายกับอาของเธอตอนไหน หือ?”

   อธิปย้ำถามเมื่อเห็นท่าทีร้อนรนของอีกฝ่าย ตุลากำมือแน่นแล้วจึงตัดสินใจตอบออกไปตามตรง เพราะเข้าใจว่าไหน ๆ อธิปก็รู้ความในใจของอาตนไปแล้วเรียบร้อย

   “ก็ทั้ง ๆ ที่อาของผมชอบคุณขนาดนั้น แต่คุณกลับบีบให้เขาต้องยอมแกล้งโกหกว่าไม่ได้คิดอะไรกับคุณ...แถมคุณก็ยังทำเสียงโล่งอกและดีใจเสียเต็มประดาแบบนั้น ...แล้วจะไม่ให้ผมว่าคุณโหดร้ายได้ยังไงกันครับ!”

    อธิปนิ่งอึ้งรับฟัง ก่อนจะยกมือห้ามให้ตุลาที่กำลังจะโวยต่อหยุดพูด แล้วย้อนถามกลับไปใหม่

   “เดี๋ยวก่อนนะเจ้าหนู ...ใครชอบใครกันนะ พูดใหม่อีกทีซิ?”

   คราวนี้ตุลากลับมาเป็นฝ่ายงงบ้าง ทีแรกที่แอบฟังเขาเองก็เข้าใจเหมือนกริชว่า อธิปนั้นรู้ความในใจของวิญญาณหนุ่มแล้ว แต่พอเห็นสีหน้ามึนงงของอีกฝ่าย ก็ทำเอาเขาแปลกใจไม่แพ้กัน

   “ก็เรื่องที่อากริชแอบชอบคุณไงล่ะครับ ... เรื่องนี้ไม่ใช่หรือครับที่คุณดีใจที่มันกลายเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่ได้คิดจริงจังอะไรนั่น”

   อธิปกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกปวดหัวขึ้นมาตุบ ๆ มิน่าล่ะ ถึงกริชจะยิ้มแย้ม แต่เขาก็เห็นว่าเพื่อนดูแปลก ๆ ไป  ตอนนั้นเขาก็มัวแต่ดีใจที่กริชไม่คิดสนใจเรื่องผูกสัมพันธ์กับวิญญาณหนุ่ม ๆ ตนอื่น จนไม่ได้คิดสักนิดเลยว่า พวกเขาทั้งคู่จะเข้าใจกันผิดไปคนละเรื่องแบบนี้

   “เวรแล้ว ...ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ...ก็เจ้าผีดิบนั่นเล่นมาบอกว่าจะจับคู่ให้นายกริชกับวิญญาณแถวนี้ ฉันเองก็ห่วงว่าเขาจะตกลง ...แต่พอเขาบอกว่าไม่ได้คิดจริงจัง เป็นแค่เรื่องไร้สาระ ฉันก็ดีใจที่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น ...ให้ตายเถอะ ฉันไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าหมอนั่นจะคิดกับฉันแบบ... โธ่โว้ย!”

   อธิปเสยผมอย่างหงุดหงิด แล้วจึงเดินดุ่ม ๆ ลงไปยังชั้นล่างผ่านตุลาที่ยืนนิ่งอึ้ง เพราะคาดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

   

   “กริช! นายอยู่ไหน! ออกมาพบฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

   เสียงอธิปโหวกเหวกโวยวาย เสียจนรุ้งพรายที่กำลังนอนกลางวันต้องสะดุ้งตื่นอย่างตกใจ ราตรี และปิ่นสุดาเองก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนอธิปจะไม่สนใจผู้ร่วมคฤหาสน์คนอื่นนัก เพราะเป้าหมายตอนนี้ของเขามีเพียงเพื่อนสนิทคนเดียวเท่านั้น

   ‘อะไรของหมอนั่น...เอะอะโวยวายทำไมของเขา ...แล้วนั่นก็กำลังโกรธอยู่นี่นะ ...โกรธมากด้วยสิ’

   สำหรับคนที่คุ้นเคยกันมานานตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่ มองปราดเดียวก็พอเดาอารมณ์ของอีกฝ่ายออก กริชขมวดคิ้วยุ่ง แต่ก็ยังคงล่องหนอยู่ไม่ยอมปรากฏกายออกมาให้เห็นอยู่ดี อารมณ์ที่คิดจะมาสารภาพรักกับหมอผีหนุ่มหายวับไปในพริบตา

   “นายกริช! ฉันรู้นะว่านายยังอยู่ในบ้านน่ะ! จะออกมาดี ๆ หรือให้ฉันบังคับให้ออกมากัน หา!”

   กริชเงียบกริบ ทว่าวิญญาณหนุ่มก็ยังไม่ยอมปรากฏกายและรอดูท่าทีว่าอธิปจะทำอะไรต่อไป แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อหมอผีหนุ่มดึงเส้นผมออกมาสองสามเส้น ปลุกเสกอะไรบางอย่าง แล้วเส้นผมนั่นก็ลอยขึ้นกลายเป็นเชือกตรงเข้ามามัดร่างเขา โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

   “อธิป! ไอ้หมอผีบ้า! ปล่อยฉันนะ! นี่นายจะจับฉันมัดไว้ทำไมกัน!”

   กริชที่ถูกบังคับให้ปรากฏร่างโวยวายลั่น ทางด้านตุลาที่ตามอธิปลงมาพอเห็นแบบนั้นก็เตรียมจะเข้าไปห้าม แต่เขาก็ถูกพาทิศที่มายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบล็อกตัวเอาไว้ก่อน  ผีดิบหนุ่มยิ้มน้อย ๆ พลางเอานิ้วแตะปาก เป็นสัญญาณว่าไม่ให้เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย

   “ก็อยากเรียกแล้วไม่ยอมโผล่ออกมาให้เห็นเองนี่!”   

   อธิปกระชากเสียงกลับ ทำเอาคนฟังสะดุ้งด้วยความกลัว เพราะไม่เคยเห็นเพื่อนโกรธแบบนี้มาก่อน

   “นายโกรธฉันหรือ...ฉันไปทำอะไรให้นายกัน...บอกฉันได้ไหมอธิป”

   กริชเปลี่ยนมาใช้ไม้นวมในการเจรจาแทน แต่นั่นกลับทำให้คนฟังกัดริมฝีปากนิด ๆ แล้วเอ่ยตามมาในที่สุด

   “หลานนายบอกฉันแล้ว ...เรื่องที่นายชอบฉัน”

   กริชชะงักกึก หน้าแดงวาบ ทว่าเพียงครู่เดียวเขาก็หน้าซีดลง เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าทำไมอธิปถึงได้โมโหมากแบบนี้

   “นายโกรธฉันที่ฉันชอบนายหรือ...ขอโทษนะอธิป...ฉันไม่คิดว่านายจะรังเกียจถึงขนาดนี้”

   กริชพึมพำด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้น ทำเอาตุลาที่แอบมองอยู่แทบอยากจะไปต่อยหน้าอธิปเสียเดี๋ยวนั้น เพราะสงสารอาของเขาเสียเหลือเกิน แต่พาทิศเหมือนจะรู้ ผีดิบหนุ่มกระซิบเบา ๆ ว่าให้รอดูต่อไปก่อน นั่นจึงทำให้ตุลาหยุดการกระทำของตัวเองเอาไว้ได้    

   “โธ่โว้ย! ใครว่าเล่า!”

   อธิปตะโกนตอบกลับ แล้วจึงดึงร่างที่ถูกพันธนาการมากอดแนบอกจนกริชตกใจ

   “ที่ฉันโกรธ ฉันโมโหอยู่เนี่ย ฉันโกรธตัวเองต่างหาก ที่มันดันโง่ ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย จนทำให้นายต้องเจ็บ ต้องเสียใจแบบนี้!”

   “อธิป...”

   กริชเรียกชื่อเพื่อนเสียงแผ่ว เขาสัมผัสได้ถึงแรงกอดที่แน่นขึ้นมากอีก พร้อมกับคำสารภาพตามมา

   “ขอโทษนะกริช...ที่ทำให้นายเข้าใจผิดแบบนั้น ...เรื่องบนห้องนั่นเพราะฉันคิดว่านายจะไปคบหากับใครหน้าไหนนอกจากฉัน ฉันเลยรู้สึกคิดมากและหวงนาย ...แต่พอนายบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระไม่จริงจัง ฉันก็เลยดีใจ ...ฉันไม่รู้ว่านายจะหมายถึงเรื่องที่นายชอบฉัน....ฉันขอโทษจริง ๆ”

   กริชนิ่งเงียบรับฟังก็จริง แต่เขากลับรู้สึกว่าหัวใจที่เคยแห้งเหี่ยวกำลังพองโตขึ้น เขาซบหน้ากับอกกว้างของเพื่อน แล้วพึมพำถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยมั่นใจนัก

   “อธิป...แล้วนายคิดยังไงกับฉันหรือ...บอกได้ไหม”

   อธิปชะงัก เขานิ่งเงียบไปจนกริชนึกกลัว แต่สักครู่หมอผีหนุ่มก็ตอบกลับมาอย่างอึกอัก ไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

   “นายรู้ไหม...ว่าทำไมเมื่อตอนที่นายมาปลุกฉัน...ฉันถึงพยายามจะหนีหน้านายน่ะ”

   กริชเงยหน้ามองคนพูดอย่างแปลกใจ ก่อนจะพยักหน้ารับเบา ๆ

   “คือ...เมื่อคืนนี้ฉันฝัน ...ฝันว่านายเอ่อ ...มาบอกว่าชอบฉัน ....แล้วก็ขอมีอะไรด้วยน่ะ... พอตื่นขึ้นมา ฉันเลยไม่กล้ามองหน้านาย ...แบบว่า ... ฉันกลัวลืมตัว จับนายกดเหมือนในฝันน่ะสิ”

   กริชอึ้งกับเรื่องราวที่ได้รับฟัง ใบหน้าขาวค่อย ๆ มีสีเรื่อขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเขินอาย ก่อนจะโวยวายดังลั่น พลางดิ้นขลุกขลักให้หลุดจากอ้อมกอด และเชือกอาคมของอีกฝ่าย

   “ไอ้หมอผีบ้า! ลามก! ฝันว่าฉันนี่นะไปขอให้นายทำแบบนั้น ...ไอ้บ้า! นี่นายคิดว่าฉันมันใจง่าย อยากได้ตัวนายขนาดนั้นเลยหรือไง!  ไอ้งี่เง่า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! โธ่โว้ย!”

   “เฮ้! กริช ใจเย็น ๆ ฉันไม่ได้ว่านายนะ ...มันเป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกของฉันเองต่างหาก ...เพราะฉันมันโง่ ไม่รู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วฉันก็แคร์นายมาก ตอนกลางคืนหลับฝันก็เลยฝันถึงเรื่องแบบนั้น ...เรื่องที่ฉันอยากให้เป็นไงล่ะ...นายเข้าใจไหมกริช”

   ท้ายประโยคน้ำเสียงนั้นอ่อนโยนลง จนคนโวยวายชะงักกึก หยุดดิ้น แล้วมองคนพูดอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

   “อธิป ...แสดงว่านายเองก็...”

   หมอผีหนุ่มยิ้มตอบน้อย ๆ แล้วโอบร่างโปร่งมาไว้ในอ้อมกอดอีกครั้ง

   “ฉันชอบนายนะกริช ...ชอบเกินเพื่อนไปแล้ว ...และจะไม่ยอมปล่อยนายให้ไอ้หนุ่มหน้าไหนมายุ่มย่ามด้วย”

   บอกจบอธิปก็เหลือบมองไปยังพาทิศด้วยสายตาดุ ๆ ทำให้ผีดิบหนุ่มหลุดหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงโค้งขอโทษอีกฝ่าย ก่อนจะดึงตัวตุลาที่กำลังมึนงงสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเข้าไปในห้องนอนของชายหนุ่มด้วยกัน เพื่อที่จะไม่ต้องอยู่เป็นก้างขวางคอของทั้งสองคนข้างล่าง

   “ฉันคิดว่านายจะรังเกียจ จะขยะแขยงฉันเสียอีก...”

   กริชพึมพำแผ่วเบา ซบหน้ากับอกกว้างของหมอผีหนุ่มพลางกอดตอบหลวม ๆ หลังจากที่อีกฝ่ายนั้นปลดเชือกอาคมบนร่างของเขาเรียบร้อย

   “ตอนแรกก็คิดหรอกว่าถ้าถูกตัวผู้ที่ไหนมาสารภาพรัก ก็คงขนลุก วิ่งหนี หรือไม่ก็มีตั๊นหน้ากันบ้าง ...แต่พออีกฝ่ายเป็นนาย มันกลับตรงกันข้ามเสียแบบนั้น”

   อธิปบอกขำ ๆ และยังคงกอดร่างโปร่งแน่น ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระสักที

   “จะว่าไปฉันสิน่าแปลกใจ ที่ถูกนายมาชอบเสียได้... นายชอบอะไรในตัวฉันหรือกริช”

   กริชหน้าแดงวาบไม่ยอมตอบคำถาม ทำให้อธิปยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากแล้วแกล้งโน้มใบหน้าลงไปจูบแก้มของอีกฝ่าย เรียกเสียงกรี๊ดจากรุ้งพรายที่แอบดูดังหลุดออกมา จนกริชและอธิปสะดุ้งโหยง ปีศาจแมวสาวเองก็ไม่รู้จะทำไง จึงได้แต่ร้องออกไปเบา ๆ

   “เมี้ยว~”

    “อะแฮ่ม...ถ้าไม่ลำบากนัก ขออยู่กันตามลำพังได้ไหมแม่เหมียว”

   อธิปเปรยขึ้นดัง ๆ แต่กลับได้ยินเสียงฮึดังขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับเสียงแหลมใสดังย้อนกลับมาเป็นชุด

   “ถ้าอยากอยู่กันตามลำพังก็ขึ้นห้องตัวเองไปสิยะ เล่นมาสารภาพรักหวานแหววกันกลางบ้าน ถึงไม่อยากแอบดูก็ต้องเห็นอยู่ดีนั่นล่ะย่ะ!”

   อธิปชะงักกึกก่อนจะหัวเราะดังลั่นตามมาอย่างอารมณ์ดี ส่วนกริชนั้นเขินหนักจนแทบอยากจะมุดดินหนีไปเสียเดี๋ยวนั้น

   “จริงของเขานะ! ถ้าอย่างนั้นเราไปคุยกันในห้องดีกว่านายกริช ...ฉันจะถามนายให้หมดเปลือกชนิดเปลือยใจใส่กันเลยล่ะ”

   อธิปบอกพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ทำให้กริชไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ แต่พอจะปฏิเสธ เขาก็ถูกอีกฝ่ายใช้อาคมสะกด แล้วแบกขึ้นบ่าไปทั้งแบบนั้น

   “ไอ้อธิป! ไอ้หมอผีงี่เง่า! ปล่อยฉันนะโว้ย! ไอ้บ้า! ไอ้หื่นกาม! ฉันไปหลงชอบนายได้ยังไงวะเนี่ย ปล่อยนะ!”

   กริชโวยวายดังลั่นไปตลอดทางจนกระทั่งทั้งเขาและอธิปหายเข้าไปในห้องของหมอผีหนุ่ม ทว่ารุ้งพรายที่ย่องตามไปกลับต้องทำเสียงบ่นฮึมฮำในลำคอเบา ๆ เมื่อดูเหมือนว่าอธิปจะสร้างเขตแดนคุ้มกันไม่ให้ใครก็ตามแอบดูหรือได้ยินเสียงในห้องของเขาได้

   “ขี้งก! ไม่ดูก็ได้ ไปแอบดูห้องของตุลดีกว่า ...คงน่าดูไม่แพ้คู่นี้แน่  คิก ๆ”

   ปีศาจแมวสาวเอ่ยกับตัวเอง พลางโบกหางสะบัดไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเปลี่ยนแผนไปแอบดูห้องนอนของอีกคู่ ที่ตอนนี้กำลังมีรังสีความหวานปลดปล่อยออกมาอย่างไม่คิดเกรงใจใครเช่นเดียวกัน

   

   


--- TBC ---
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 03-12-2011 21:17:34
คฤหาสน์หลังนี้ถูกแสงแห่งความรักปกคุลมไปทั้งหลังแล้ว :-[ :L1:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 03-12-2011 21:38:32
ผีเป็นแฟนกับหมอผี อย่างนี้ก็หนีไปไหนไม่รอดแล้วอะสิ เล่นใช้คาถากันตลอดแบบนี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 03-12-2011 21:58:54
สาววายเปรมเลยสินะ  :laugh: สองคู่แน่ะ!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-12-2011 22:43:51
เย้ๆๆๆ เป็นแฟนกันแล้ว ว่าแต่ แอบไปทำอะไรกันบนห้องรึป่าวน้าา
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 04-12-2011 00:42:41
 :z1: ที่บ้านมีออร่าสีม่วงขึ้นมาทันตาเห็นเลย เพิ่มมาอีกคู่แล้วซิ 5555+ อยากอ่านต่อไวๆแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 04-12-2011 00:47:12
แอร๊ยยยยยยยยยย    โฮกกกกกกกกกกกกก
อยากแปลงร่างเป็นจิ้งจกเกาะข้างฝาจริงๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 04-12-2011 04:48:17
อิจฉาสาวๆบ้านนี้จริงๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 04-12-2011 09:20:27
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ในที่สุด ในที่สุดรักกัน ก็เข้าใจกัน

สองคู่ชูชื่นละทีนี้  o18

ปล.อธิปแอบโหดนะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 04-12-2011 10:01:20
อยากเห้นอธิปจับคุณอาเปลือย...ใจ
อยากรู้ว่าจะหวานสู้หลานได้ไหม
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-12-2011 12:31:43
คฤหาสน์หลังนี้ถูกแสงแห่งความรักปกคุลมไปทั้งหลังแล้ว :-[ :L1:

ฮิ้ววว....เห็นด้วยกับรีนี้จ้า
กลายเป็นคฤหาสน์สีชมพู ดูยังไง้ยังไงก็ไม่น่ากลัวเนอะ

ป.ล. อยากบอกคนเขียนว่า ณ เวลานี้ ซุ้มราตรีที่บ้านดิฉันออกดอกพราวเต็มซุ้ม แทบจะไม่มีใบเลย
ตอนกลางคืนกลิ่นระรวยถึงห้องนอน ยิ่งถ้าไม่เปิดไฟสนาม ไม่เปิดไฟรอบๆบ้าน
มาอ่านเรื่องนี้ :a5: ได้บรรยากาศมากกกกก...จ้ะ



หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 04-12-2011 14:01:51
 :o8: 2 คู่หวาน :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 04-12-2011 14:12:22
 :z1:สองคู่ชูชื่น
มีกล้องติดอยู่ทั้งสองห้องไหมครับ
ถ่ายทอดสด ด่วน!!
 :haun4:!
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 04-12-2011 14:28:24
คุ่คุณอาเนี่ย หวิดวี้ว สวีทหวานกันเหลือเกินนนน
แหม่ๆ แอบดูหน่อยก็ไม่ได้
งั้น จัดของตุลมาให้หน่ำใจด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 04-12-2011 16:29:05
อากริชมีคู่แระ พาทิศคงหมดก้างขวางคอซะที  :o8:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 04-12-2011 19:39:47
แอบอิจฉาสาววายบ้านนี้จริงๆ มีอาหารตาให้ดูด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 04-12-2011 20:02:30
กริชพลาดซะแล้ว จะเอาอะไรไปสู้อธิปเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Ancier ที่ 04-12-2011 22:29:50
สวีทกันดีจังทั้งสองคู่ หว๊านหวาน อิอิ :-[
หมดก้างแล้วนะตุล อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (03/12/11) ตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: Umiko ที่ 05-12-2011 19:10:13

ตามทันแล้ว....

เรื่องนี้สนุกมาก ๆ เลย...  o13

กริชอธิปก็เข้าใจกันแล้ว...ตุลพาทิศคู่นี้ก็หวานได้อีก...  :o8:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 07-12-2011 14:04:21
มาต่อแล้วจ้า หุๆ  สำหรับตอนนี้คงถูกใจใคร ๆ หลายคนนะคะ  :-[



ม่านราตรี
บทที่ 25



   หลังจากอธิปและกริชได้ตกลงปลงใจคบกันแล้ว แม้ตุลาจะยินดีกับอาของเขา แต่ตอนนี้เขาก็กำลังพบกับความลำบากอยู่เช่นกัน เมื่อพาทิศกับเขายังคงไม่สามารถผ่านคืนหวานชื่นสำหรับคู่รักไปได้สักที  ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรนัก แต่พอจะถึงเวลาแบบนั้นทีไร เขาก็กลัวจนเผลอร้องไห้ออกมา ทำเอาพาทิศต้องหยุดแล้วปลอบเขาเสียยกใหญ่ อะไรไม่แย่เท่า พอกริชได้ยินเสียงเขาร้องไห้ก็ดันหายตัวแวบมาบ่นใส่พาทิศอีก จนทำให้ผีดิบหนุ่มเปรยกับเขาไว้ว่า สงสัยจะต้องสร้างเขตแดนเวลาอยู่กับเขาเพียงลำพังเสียแล้ว

   “ขอโทษนะครับ...เพราะผมแท้ ๆ คุณเลยโดนอาดุเข้าให้อีกจนได้”

   ตุลาบอกกับพาทิศด้วยสีหน้าสำนึกผิด หลังจากที่อธิปเข้ามาลากตัววิญญาณหนุ่มออกไปไม่ให้อยู่รบกวนพวกตนต่อ

   “ไม่ใช่ความผิดของตุลหรอก ...ฉันต่างหากที่ทำให้ตุลหายกลัวไม่ได้สักที”

   พาทิศปลอบโยนคนข้างกาย ซึ่งก็ทำให้คนฟังยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่

   “ทั้ง ๆ ที่ผมชอบคุณขนาดนี้ ...แล้วก็อยากให้คุณกอด...แต่ว่า...”

   “ไม่เอาน่าตุล ครั้งแรกสำหรับบางคนมันก็ต้องใช้ความกล้ามาก ...ฉันไม่โทษตุลหรอกที่จะกลัวเรื่องนี้ ...คงเคยได้ยินมาสินะว่ามันเจ็บมากน่ะ ใช่ไหม”

   ตุลาหน้าแดงวาบ แล้วจึงพยักหน้ายอมรับตามตรง ทำให้คนพูดยิ้มน้อยแล้วลูบศีรษะอีกฝ่าย

   “ว่าแล้วเชียว ...แสดงว่าไปแอบหาข้อมูลเรื่องนี้เอาไว้ แล้วดันเจอเรื่องน่ากลัว ๆ อะไรมาล่ะสิ”

   “ระ…รู้ได้ไงครับ”

   ตุลาสะดุ้ง พลางเอ่ยอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มองหน้าอีกฝ่าย ทำเอาพาทิศอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

   “ก็นิสัยนักเขียนอย่างตุลนี่ เวลาอยากรู้อะไรก็ต้องหาข้อมูลให้ละเอียดใช่ไหมล่ะ”

   ตุลาชะงักแล้วก้มหน้าหลบสายตาคนรู้ทันด้วยความอาย ทำให้พาทิศต้องชะโงกหน้าไปจูบแก้มขาวอมชมพูนั่นด้วยความเอ็นดูฟอดใหญ่

   “สำหรับบางคน เรื่องพวกนี้มันก็เป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างน่ากลัวสักหน่อย ...แต่หลายคนก็รู้สึกดีกับมัน ขึ้นอยู่กับว่า คู่ของเราเป็นใคร เขารักเราและพร้อมจะเอาใจใส่ถนอมเรา ไม่ใช่หวังเพียงแค่ร่างกายของเราหรือไม่ ...ซึ่งในจุดนี้ฉันคิดว่าตุลก็คงน่าจะมั่นใจได้ไม่ใช่หรือ”

   ตุลาเงยหน้าสบตากับคนรักหนุ่มด้วยสายตารักใคร่ชื่นชม แล้วซุกใบหน้าซบกับอกกว้างของอีกฝ่าย

   “ผมจะลองดูอีกครั้งครับ...”

   “ขอบใจ ...แต่ถ้าไม่ไหวยังไงก็บอกนะ ฉันไม่รีบร้อนเร่งรัดเธอนักหรอก”

   พาทิศปลอบโยน ทำให้คนฟังยิ่งรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันมากขึ้นไปอีก

   “... ถะ ถ้า ผมเกิดร้องไห้อีก...คุณพาทิศก็ไม่ต้องสนใจนะครับ”

   ตุลาบอกเสียงอึกอักพร้อมใบหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะช้อนตาหวานซึ้งจ้องตอบอีกฝ่าย

   “ผมเชื่อใจคุณครับ...”

   พาทิศครางเบา ๆ ในลำคอแล้วก้มลงจูบริมฝีปากบางนุ่มของร่างตรงหน้าอย่างอดใจไม่ไหว

   “ทำไมถึงได้น่ารักมากขึ้นทุกวันแบบนี้นะตุล ... เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกไปแล้วรู้ไหม”

   “คุณพาทิศ...ผม...”

   ตุลามีทีท่าเอียงอาย นึกคำพูดโต้ตอบอะไรไม่ถูก แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องอุทานเบา ๆ เมื่อถูกร่างสูงประคองร่างของเขาเอนกายลงไปสัมผัสกับผืนเตียงนุ่ม พร้อมกับทาบทับร่างของตัวเองไปติด ๆ

   “อ๊ะ ...เกือบลืมไป”

   พาทิศอุทานเบา ๆ เหมือนจะนึกขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่าง ทำเอาคนที่หลับตาพริ้มรอคอยจุมพิตอันอ่อนโยน ต้องปรือตาขึ้นมองอย่างสงสัย แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ ครอบคลุมไปทั่วห้องนอนที่เขาอยู่อย่างน่าประหลาด

   “เขตแดนไงล่ะ ...ทีนี้ก็จะไม่มีใครมารบกวนพวกเราตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอีกแล้ว ...แถมยังป้องกันไม่ให้คนอื่นได้เห็นตุลของฉันในสภาพเซ็กซี่เย้ายวนได้อีก”

   คำตอบของพาทิศทำให้คนฟังหน้าแดงวาบด้วยความอาย โดยเฉพาะประโยคที่แสดงความเป็นเจ้าของนั่น มันยิ่งทำให้ใจของเขาเต้นระทึกด้วยความวาบหวามมากขึ้นอีกด้วย

   “ตุล...รักนะ ...รักมากที่สุด”

   ถ้อยคำกระซิบและการเล้าโลมอันอ่อนโยนช่วยกลบความคิด ความกลัวอื่น ๆ ของชายหนุ่มร่างบางให้สลายหายไปเกือบหมดสิ้น ทว่าระหว่างที่กำลังเพลิดเพลินจนถึงขีดสุด ตุลาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อมีบางสิ่งที่เขาคุ้นเคยแทรกตัวเข้ามาภายในช่องทางคับแน่นของร่างเขา

   “อ๊ะ...มะ...ไม่!”

   ตุลาสะบัดหน้าไปมาด้วยความเจ็บปวด น้ำใส ๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสอง มือทั้งคู่พยายามดันร่างสูงให้ออกห่าง พาทิศมองความทรมานของคนรักด้วยความสงสารแล้วพยายามกระซิบปลอบและเล้าโลมให้ชายหนุ่มคลายความเจ็บลงอย่างเต็มที่

   “ไหวไหมตุล...”

   เสียงกระซิบอ่อนโยนพร้อมกับอาการขยับหมายจะถอนกายทำให้ตุลารู้สึกตัว เขาผวากอดรัดร่างนั้นไม่ให้จากไปไหน แล้วจึงตอบกลับไปทั้งน้ำตา

   “ขอโทษครับ ...ทะ...ทำต่อเถอะครับ...ผมยังไหว”

   “แน่ใจนะ ...ไม่ต้องห่วงความรู้สึกฉันหรอก ร่างกายของตุลสำคัญกว่า”

   พาทิศกระซิบถามอย่างเป็นห่วง เพราะการเกร็งตัวบีบรัดของชายหนุ่มแสดงออกให้เห็นถึงความกลัวและความเจ็บปวดของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

   “ผมอยากเป็นของคุณ...ทั้งหัวใจ ...และร่างกาย ...ได้โปรดเถอะครับคุณพาทิศ...ช่วยผมด้วย”

   น้ำเสียงเจือสะอื้นเอ่ยร้องขอ และคำพูดนั้นก็ทำให้ผีดิบหนุ่มยากจะควบคุมตัวได้ไหวอีกต่อไป เขาค่อย ๆ ดันกายเข้าไปภายในช่องทางคับแคบนั่นอย่างช้า ๆ สลับหยุดนิ่ง เพื่อให้แรงบีบรัดนั้นคลายออก ส่วนริมฝีปากบางนุ่มก็ถูกเขาประกบปากปิดเอาไว้ตลอดเวลา เพราะไม่อยากได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของคนรัก ทว่าเสียงครางฮือในลำคอทุกครั้งที่เขาขยับก็ทำให้เขารับรู้ความเจ็บของร่างโปร่งได้เป็นอย่างดี

   “ถ้าตุลรักฉัน ก็ขอให้เชื่อฉัน...ฉันจะทำให้เธอมีความสุข...เชื่อฉันนะ”

   ถ้อยคำกระซิบปลอบตลอดเวลาที่ร่วมรัก ทำให้คนซึ่งรู้สึกเจ็บปวดเจียนตาย และร้องไห้ออกมาตลอดเวลา ยิ้มขึ้นมาได้ เขารั้งกายให้แนบชิดเข้าไปอีก และพยายามขยับกายตามการเคลื่อนไหวของคนรัก เสียงครางด้วยความเจ็บในตอนแรก เริ่มแปรเปลี่ยนไปในทางดีขึ้น นั่นจึงทำให้พาทิศยิ้มออกมาได้ในที่สุด

   “ตุล ...รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม ...บอกฉันสิ”

   ตุลาพยายามจะตอบ แต่พออีกฝ่ายขยับเคลื่อนไหว เขาก็เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบาแทน ทำให้ร่างสูงอมยิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าลงไปประทับริมฝีปากของอีกฝ่ายอยู่เนิ่นนานจนกระทั่งถอนริมฝีปากออกมาในที่สุด

   ภาพดวงตาปรอยชุ่มฉ่ำน้ำตา ปากบวมแดงเผยอเย้ายวน และใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่ ล้วนปลุกกระตุ้นให้อารมณ์ของผีดิบหนุ่มพวยพุ่งขึ้นสูง จนเผลอลืมตัวลืมตนขยับกายด้วยความรุนแรง จนร่างโปร่งสั่นคลอนไปทั้งร่าง โชคดีที่ตุลาในยามนี้เริ่มมีอารมณ์คล้อยตามมากขึ้นแล้ว หากยังคงเป็นแบบในช่วงแรกของการร่วมรัก บางทีชายหนุ่มอาจจะเข็ดหลาบและหวาดกลัวเพิ่มขึ้นไปเลยก็ได้

   “อ๊า ...คุณพาทิศ ... บะ...เบาหน่อย”

   ตุลาร้องครางประท้วงเพราะเหมือนว่าผีดิบหนุ่มจะเร่งจังหวะเกินไป จนร่างกายเขาแทบรับไม่ไหว พาทิศกัดฟันกรอดพยายามข่มความต้องการตัวเอง แล้วพึมพำขอโทษคนรักแผ่วเบา ก่อนจะค่อย ๆ ขยับกายให้ช้าลงกว่าเดิม และช่วยผลักดันให้ร่างโปร่งไปถึงจุดฝั่งฝันก่อน

   “ดีไหม...ตุล”

   ตุลาปรือตาขึ้นมองคนรัก แล้วยิ้มอย่างอ่อนหวานตอบ

   “ครับ ...ผมดีใจ ที่เราได้เป็นหนึ่งเดียวกันจริง ๆ สักที”

   พาทิศยิ้มรับ พลางกล่อมให้อีกฝ่ายหลับ ซึ่งก็ไม่ยากลำบากอะไร เพราะตุลาหลับไปหลังจากนั้นไม่นานด้วยความอ่อนเพลีย ส่วนตัวเขาก้มมองบางส่วนของร่างกายของตัวเองที่ยังคงไม่ยอมอ่อนแรงอย่างนึกปลง ทั้ง ๆ ที่อยากจะทำให้มากกว่านี้ แต่ขืนทำแบบนั้นตุลาคงจะรับไม่ไหวเป็นแน่  เขาอยากให้ครั้งแรกของชายหนุ่มรู้สึกดีให้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สานความสัมพันธ์ระหว่างกันในครั้งต่อไปได้ราบรื่นกว่าเดิม

   “ช่วยไม่ได้นะ ...เพราะรักมาก ถึงได้ยอมรู้ไหม”

   พาทิศกระซิบบอกคนที่หลับไปแล้วพร้อมกับจุมพิตที่หน้าผากอีกฝ่ายแผ่วเบา ใบหน้าหวานแย้มยิ้มน้อย ๆ ราวกับกำลังหลับฝันดี นั่นจึงทำให้คนมองอดจะยิ้มน้อย ๆ ไปด้วยไม่ได้

   “ราตรีสวัสดิ์...เด็กน้อยที่น่ารักของฉัน”

   ผีดิบหนุ่มเอ่ยราตรีสวัสดิ์แล้วประคองนอนกอดร่างโปร่งไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นว่าตุลาหลับสนิท เขาจึงปลดเขตแดน และกลับห้องใต้ดินของตนบ้าง เพื่อที่จะจัดการภารกิจส่วนตัวที่ยังคงค้างคา ให้มันเสร็จสิ้นไปในคืนนี้เสียที

      

   ตุลาบิดกายอย่างเกียจคร้านเมื่อแสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามายังในห้องนอนของเขา ทว่าชายหนุ่มกลับต้องปวดแปลบไปแทบทั้งร่างโดยเฉพาะบริเวณบั้นท้าย ตุลากัดฟันนิด ๆ ขณะขยับตัว เขาทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แล้วก็ต้องใบหน้าแดงวาบด้วยความเขินอาย

   “เรากับคุณพาทิศ...ทำไปแล้วสินะ”

   ชายหนุ่มพึมพำ ก่อนจะมองไปรอบ ๆ ห้อง ซึ่งไม่เห็นร่างของคนรักอยู่ เจ้าตัวลอบถอนหายใจ แม้อยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วมีพาทิศอยู่เคียงข้างตลอดเวลา แต่ด้วยสถานภาพความเป็นผีดิบของอีกฝ่าย ก็ทำให้เขาพอจะเข้าใจได้ถึงความจำเป็นของคนรักอยู่พอสมควร แค่พาทิศเจียดเวลามาคอยดูแลทำอาหารเช้าและกลางวันให้เขา และอยู่เป็นเพื่อนเขาบ้าง ตุลาก็รู้สึกเกรงใจมากอยู่แล้ว เพราะลองคำนวณดูอีกฝ่ายก็แทบไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างที่ควรจะเป็นเลยด้วยซ้ำ

   “ฮึบ! อาบน้ำดีกว่า ...อ๊ะ...เหวอ ....โอ๊ย!”

   เสียงร้องพร้อมกับเสียงวัตถุบางอย่างตกตุบลงพื้น ทำให้คนที่กำลังเตรียมอาหารชะงักแล้วรีบพุ่งตัวกระโดดขึ้นชั้นสอง เปิดห้องพรวดเข้าไปยังห้องคนรักอย่างรวดเร็ว เร็วเสียกว่ากริชที่หายตัวออกจากห้องของอธิปมาเพื่อดูหลานชายเสียอีก

   “ตุล เป็นอะไรหรือเปล่า!”

   พาทิศบอกแล้วประคองคนที่ล้มไปนอนกองกับพื้น ตุลาหน้าแดงก่ำ ไม่กล้าบอกว่าเพราะเจ็บสะโพกและแข้งขาอ่อนหมดแรง จนทำให้ล้มตกเตียงลงไปนอนกองแบบนั้น ทว่าอาการก้มหน้าก้มตาของชายหนุ่มก็ทำให้พาทิศพอจะคาดเดาได้

   “คราวหลังก็เรียกสิ ...ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะรีบมาหาทันทีล่ะนะ”

   พาทิศกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ทำเอากริชที่เตรียมจะถามอา่การหลานชายชะงัก แล้วค่อย ๆ ถอยออกห่างทั้งคู่ ก่อนจะมองตุลาด้วยสายตาเอ็นดู แล้วจึงหายตัวไปจากห้องนั้น

   “แต่คุณพาทิศก็ยุ่ง ๆ เพราะผมอยู่ทุกวันนี่ครับ”

   ตุลากระซิบบอกอุบอิบ ทำเอาคนมองยิ้มน้อย ๆ แล้วจูบหน้าผากของชายหนุ่มแผ่วเบา

   “ถ้าต้องทำเพื่อตุล ฉันไม่เหนื่อยหรอกนะ”

   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้คนมองหน้าแดงแล้วกอดร่างสูงแน่น ก่อนจะชะงักเหมือนจะนึกขึ้นได้

   “เอ๊ะ เมื่อครู่ เหมือนผมจะเห็นอากริชในห้องนี่ครับ”

   ตุลามองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นร่างของอาอย่างใด พาทิศหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วประคองร่างของตุลาขึ้นนั่งบนเตียง

   “เขาคงเห็นว่าฉันดูแลตุลได้ เลยไม่อยู่รบกวนพวกเราล่ะมั้ง ...”

   ตุลาหน้าแดงระเรื่อ รู้สึกอายนิด ๆ แต่ก็ดีใจที่อาของเขาเข้าใจความรักของพวกเขาและเลิกคิดขัดขวางสักที

   “หรือไม่ก็เป็นห่วง ไม่อยากอยู่ห่างคุณอธิป เลยต้องรีบกลับไปหาก็ได้”

   พาทิศบอกตามมาพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาตุลาหน้าแดงก่ำ เพราะเผลอจินตนาการแปลก ๆ ระหว่างทั้งคู่ไปด้วย แต่แล้วเสียงกระแอมเบา ๆ ก็ทำให้ผีดิบหนุ่มยิ้มแห้ง ๆ ก่อนที่เจ้าของเสียงกระแอมจะเปรยขึ้นเบา ๆ

   “นายทิ้งหม้อข้าวต้มไว้ใช่ไหม ...ไปจัดการต่อให้เรียบร้อยซะ เดี๋ยวก็ไหม้หมดหลานฉันไม่มีข้าวเช้ากินพอดี!”

   “ครับ ๆ รับทราบ”

   พาทิศยกมือยอมแพ้ แล้วหันไปโค้งศีรษะขอโทษอีกฝ่าย ซึ่งวิญญาณหนุ่มก็ทำเสียงฮึในลำคออย่างไม่สบอารมณ์นัก แต่พอพาทิศออกไปจากห้องแล้ว เขาก็หันมาสบตากับหลานชายที่มองเขาตาแป๋ว กริชหน้าแดงวาบแล้วรีบแก้ตัวทันที

   “อาเปล่านะ! ทำไมอาจะต้องห่วงหมอผีงี่เง่าแบบนั้นด้วย!”

   ตุลาหัวเราะแห้ง ๆ เขายังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนอาของเขาจะกลัวว่าเขาจะล้อเลยต้องรีบแก้ตัวไว้เสียก่อน

   “ครับ ๆ ผมเชื่ออานะ”

   ตุลาบอกพร้อมยิ้มกว้าง ทำให้กริชโล่งอก แล้วสอบถามเรื่องร่างกายของอีกฝ่าย แต่พอตุลาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ บอกพร้อมหน้าแดงก่ำ ก็ทำให้วิญญาณหนุ่มชะงัก แล้วกัดฟันกรอดตามมา

   “หนอย...หมอนั่น กล้าล่วงเกินหลานของฉันเชียวหรือไง”

   “แปลกอะไรเล่า เขาคนรักกัน ขืนป่านนี้ยังไม่มีอะไรกันน่ะสิ ผิดปกติแล้ว”

   เสียงเนือย ๆ อย่างนึกรำคาญของใครบางคนดังขึ้นหน้าประตู กริชกับตุลาหันขวับไปมองก็พบว่าอธิปกำลังยืนมองพวกเขาอยู่อย่างเซ็ง ๆ

   “พอเลยนายกริช ...ได้ยินเสียงหลานทีก็แวบหาย ๆ หัดคิดถึงคนที่กำลังอารมณ์ค้างดูมั่งสิว่าลำบากขนาดไหน”

   กริชหน้าแดงวาบ เช่นเดียวกับตุลา วิญญาณหนุ่มมองหลานชายของตนด้วยความอาย แล้วหันมาตวาดเพื่อนสนิทที่เลื่อนฐานะเป็นคนรักไปเรียบร้อยลั่นห้อง

   “หุบปากเลยไอ้หมอผีหื่น! นายกำลังทำให้หลานฉันเข้าใจผิดนะ!”

   “เออ ๆ เข้าใจผิดก็เข้าใจผิด ...งั้นฉันขอตัวอาเธอกลับห้องก่อนแล้วกันเจ้าหนู ส่วนข้าวเช้าไม่ต้องขึ้นมาตาม ขอเวลาฉันสักสองสามชั่วโมง เดี๋ยวฉันลงไปกินเอง”

   ตุลาพยักหน้าหงึก ๆ ตอบรับทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ ส่วนกริชนั้นหน้าแดงวาบแล้วเตรียมทำท่าจะแวบหนี แต่ก็ถูกอธิปเดินมาจับข้อมือหมับเอาไว้เสียก่อน ด้วยอาคมของหมอผีหนุ่มจึงทำให้กริชไม่สามารถหายตัวหนีได้อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก

   “กลับห้องกันได้แล้วนะที่รัก...คราวนี้ถ้ายังทำไม่เสร็จ ไม่ยอมปล่อยให้ออกมาแน่”

   อธิปยิ้มติดโหดทำเอาตุลาต้องลอบกลืนน้ำลายด้วยความกลัวแทนอาของตน ส่วนกริชนั้นอยากจะโวยวาย แต่ก็อายหลานชายที่มองอยู่ เจ้าตัวจึงทำเป็นเชิดใส่ แล้วบอกออกไปด้วยท่าทางไม่ยี่หระ

   “เชอะ! ไม่ปล่อยก็อย่าปล่อย กลัวแต่จะหมดแรงก่อนจะถึงเสียมากกว่า ทั้งแก่ทั้งเหี่ยวออกแบบนี้”

   อธิปลอบยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงมือที่สั่นของคนพูด เจ้าตัวหันไปลาเจ้าของห้อง แล้วจูงมือกริชออกไปด้วยกัน โดยมีตุลามองตามอย่างนึกทึ่งในตัวอาของตน

   “อากริชเก่งจัง ...ถ้าเราเก่งแบบนี้บ้าง คุณพาทิศจะดีใจไหมนะ”

   ตุลาพึมพำโดยไม่ได้ล่วงรู้เลยว่า ขณะนี้คนเก่งของเขา กำลังพยายามทั้งขู่ ทั้งอ้อนวอน ให้หมอผีหนุ่มยอมปล่อยตัว  เพราะตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาอธิปก็ไม่ยอมปล่อยให้กริชได้พัก แถมยังใช้อาคมสร้างร่างให้วิญญาณหนุ่มสิง จนมีประสาทสัมผัสรับรู้เหมือนตอนเป็นมนุษย์อีก เล่นเอากริชทั้งอ่อนเปลี้ยระบมไปหมด แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า การที่อยู่เคียงข้างและได้รับความรักจากอธิปเช่นนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขที่สุดนับตั้งแต่วันที่ได้กลายมาเป็นวิญญาณเลยทีเดียว



.... TBC ....




คุยกับนักอ่าน :

มาถึงตอน 25 แล้ว ตอนแรกคิดว่าจะจบไปตั้งแต่ตอน 19 เสียอีก ^ ^ ตอนนี้ก็แฮปปี้เอนดิ้งกันหมดแล้ว เลยคิดว่าน่าจะลากจบได้สักที แต่ส่วนตัวก็ยังอยาก(หาเรื่อง)แต่งต่อ เพราะเคยวางพล็อตในใจ ให้มัีนมีอุปสรรคจากภายนอก มาคอยก่อกวนสมาชิกในม่านราตรี ให้อยู่ในสภาวะตึงเครียด และเป็นอันตราย  แต่ถ้าลองเขียนไป กลัวจะลากยาวไปกว่านี้น่ะสิคะ --.

นักอ่านล่ะคะ คิดว่าไง หวาน ๆ ทิ้งท้ายสักตอนสองตอน แล้วจบแบบแฮปปี้ หรือจะให้ลากยาว ต่อไปกันดี (แต่อาจจะหลุดไปแนวบู๊นิด ๆ ล่ะนะคะ)

แต่ไม่ว่ายังไงจะมีคนอยากติดตามอ่านต่อหรือไม่ ปัดก็ขอขอบคุณกำลังใจก่อนหน้านั้นของนักอ่านทุกคนนะคะ ทีแรกคิดว่าจะไม่มีใครคลิกเข้ามาอ่าน มาคอมเมนต์พูดคุยกับแนวเรื่องแบบนี้เสียอีก ดีใจจริง ๆ เลยค่ะ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นแบบนี้

ขอบคุณนะคะ ไว้เจอกันตอนหน้าจ้ะ ขอบรรยากาศสบาย ๆ กันอีกสักตอนนะคะ  :L2:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 07-12-2011 14:17:45
อืม...เขียนให้จบเป็นภาคแล้วกันค่ะพี่ปัด เอาอันนี้เป็นให้จบในตัวหวานไปเลยแล้วพล็อตต่อไปให้เป็นภาค2แทน~

สู้ๆนะคะ จุ๊บๆ >3<
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 07-12-2011 14:44:23
เห็นด้วยกับคุณกระต่ายชมจันทร์ค่า
ภาคนี้ขอแบบหวานๆ จบแบบหวานๆ ส่วนถ้าอยากเขียนแนวบู๊เพิ่มเติมก็ลงเป็นภาคต่อไปแทน

หนูตุลนี่น่ารักจริงๆ เลยเนะ พาทิศทำบุญมาด้วยอะไรกันนี่อยู่ๆ ก็มีแฟนเคะและน่ารักได้ขนาดนี้  :กอด1:
ไม่สงสารอากริชเลยที่โดนอธิปข่มขู่แบบนั้น ก็เล่นมาแวบหายแวบหายขณะกำลังเข้าด้วยเข้าเข็มขนาดนั้น มันก็ควรอยู่หรอก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 07-12-2011 14:48:50
น่ารัก...ขอแว่บไปส่องในห้องคุณอธิปกับอากริชด้วยได้มั้ยอ่ะ
ท่าทางจะคนละบรรยากาศกับห้องของตุล  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 07-12-2011 15:29:54
พาทิศจะเอาใจตุลเกินไปแล้วนะ
ฮึ
มันต้องมีสักวันที่ลืมสร้างเขตแดน (><)
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 07-12-2011 15:36:51
คฤหาสน์กลายเป็นสีม่วงอมชมพูไปแย้วววววว อร๊ายยยย :-[

อยากได้แบบจบภาคหวานๆ  แล้วลากยาวต่อ แต่เอาแบบหวานๆเหมือนเดิมได้มั๊ยคะ
อยากอ่านน่ารักๆแบบนี้เรื่อยๆอ่ะค่ะ 
เบาหวานขึ้นกันเลยทีเดียว :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 07-12-2011 16:01:30
จบแบบแฮปปี้เป็นคู่ๆแบบนี้ก็ดีนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 07-12-2011 16:50:07
อยากอ่าน nc ของคุณอาจัง อิอิ แต่คู่หลานก็น่ารัก

อย่าลืมรุ้งพราย กะเพื่อนๆนะคับ เดี๋ยวเขาจะน้อยใจเอา ห้าๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 07-12-2011 16:58:57
สองคู่ หวานๆกันไป อธิปดูเฉี่อยๆแต่ก็แอบหื่น พอๆกับพาทิศเลยนะคะ

น้องตุลน่ารักเวอร์ๆ กลัวเจ็บแต่ก็อยากทำให้คนรักมีความสุข :o8:

ขอส่องห้องคุณอา กับอธิปบ้างได้มั้ยคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 07-12-2011 17:18:29
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย  :-[

อยากอ่านหวานๆแล้วก็มีอีกหลายๆตอน ( :z6:)

แต่ก็อยากให้แอบมีปมเล็กๆบ้างจะได้มีสีสรรและไม่จบง่ายๆ(ประเด็นคือไม่อยากให้จบค่ะ คงคิดถึงแย่เลย)

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 07-12-2011 18:29:14
ทั้งสองคู่หวานมากๆ :-[ :-[
พาทิศดูแลหนูตุลดีๆนะ
ส่วนอากริชนี่มีแอบประชดด้วยโดนอธิปจัดหนักแน่  :z1:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 07-12-2011 19:23:33
หวานกันไปทั้งสองคู่เลย

ไม่รู้ว่ามดขึ้นบ้านหรือป่าว  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 07-12-2011 20:08:08
โอ้ ลงเอยกันหมดทุกคู่แล้ว

ที่ถามมา เราไงก็อ่านค่ะ จะแบบไหนก็ได้ แต่อย่ามาม่ามากนักก็พอ อิๆ
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-12-2011 20:55:14
เป็นฝั่งเป็นฝากันไปทั้งอาและหลาน  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 07-12-2011 22:37:59
อยากเห็นคู่คุณอาสวีท(หนักๆ) กันบ้างหงะคุณคนแต่ง 555+  :z1: :z1: :z1:

หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 08-12-2011 16:51:38
ในที่สุด กริ้ดดดดดดด  :-[  :-[  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 08-12-2011 23:22:20
ขอลากต่อแบบหวานๆได้ไหมจ๊ะ ^^

อยากแต่งแนวไหน ไม่ว่าจะบู๊ หรือคลุกวงใน ก็อ่านได้หมดจ้า
แต่ถ้าจะตามใจคนอ่านบ้างก็ขอตอนหวานๆ มาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันบ้าง จะดีมิใช่น้อย
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (07/12/11) ตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-12-2011 00:44:35
เย้ๆๆๆๆ  ตุลย์กับกริชเสียตัวแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณมากนะครับคุณปัด  เรื่องนี้สนุกที่สุด
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 09-12-2011 13:34:18
แวะมาพูดคุย ตอบคำุถาม (นาน ๆ ที) แล้วก็แจ้งบทสรุปของเรื่อง(ด้านล่าง)ค่ะ

อืม...เขียนให้จบเป็นภาคแล้วกันค่ะพี่ปัด เอาอันนี้เป็นให้จบในตัวหวานไปเลยแล้วพล็อตต่อไปให้เป็นภาค2แทน~

สู้ๆนะคะ จุ๊บๆ >3<

- อืมไอเดียน่าสนใจ ขอบใจจ้าลูกต่าย

เห็นด้วยกับคุณกระต่ายชมจันทร์ค่า
ภาคนี้ขอแบบหวานๆ จบแบบหวานๆ ส่วนถ้าอยากเขียนแนวบู๊เพิ่มเติมก็ลงเป็นภาคต่อไปแทน

หนูตุลนี่น่ารักจริงๆ เลยเนะ พาทิศทำบุญมาด้วยอะไรกันนี่อยู่ๆ ก็มีแฟนเคะและน่ารักได้ขนาดนี้  :กอด1:
ไม่สงสารอากริชเลยที่โดนอธิปข่มขู่แบบนั้น ก็เล่นมาแวบหายแวบหายขณะกำลังเข้าด้วยเข้าเข็มขนาดนั้น มันก็ควรอยู่หรอก  :laugh:

- เชื่อว่าหลายคนคงอิจฉาพาทิศ ได้เคะซื่อ ไร้เดียงสา แถมว่าง่ายแบบหนูตุล  แหม ได้อารมณ์โคแก่เลี้ยงต้อยพิลึก  ส่วน อากริช น่าสงสาร โดนคนรักข่มเหง แถมคนอ่านยังไม่เข้าข้างอีก อิ ๆ (แต่ก็น่าอยู่หรอก รักหลานเกินเหตุ หุๆ)
อ้อ ขอบคุณสำหรับความเห็นเรื่องนิยายนะคะ  ^^

น่ารัก...ขอแว่บไปส่องในห้องคุณอธิปกับอากริชด้วยได้มั้ยอ่ะ
ท่าทางจะคนละบรรยากาศกับห้องของตุล  :laugh:

- ห้องนั้นเขาล็อกหมดค่ะ ทั้งคนทั้งผีแอบดูไม่ได้เลย หุๆ

พาทิศจะเอาใจตุลเกินไปแล้วนะ
ฮึ
มันต้องมีสักวันที่ลืมสร้างเขตแดน (><)

- ถ้าวันนั้นมาถึง สาว ๆ ในม่านราตรีคงจะกรี๊ดกร๊าดน่าดู  หุ ๆ

คฤหาสน์กลายเป็นสีม่วงอมชมพูไปแย้วววววว อร๊ายยยย :-[

อยากได้แบบจบภาคหวานๆ  แล้วลากยาวต่อ แต่เอาแบบหวานๆเหมือนเดิมได้มั๊ยคะ
อยากอ่านน่ารักๆแบบนี้เรื่อยๆอ่ะค่ะ 
เบาหวานขึ้นกันเลยทีเดียว :laugh:

- เรื่องนี้เน้นหวานเป็นหลักค่ะ ถึงจะเปิดมาเหมือนแนวสยองก็เถอะ ^ ^" ส่วนที่เสนอมากำลังนำมารวมกับข้อสรุปอื่น ๆ อยู่ค่า

จบแบบแฮปปี้เป็นคู่ๆแบบนี้ก็ดีนะคะ

- ขอบคุณสำหรับความเห็นค่ะ ^ ^ ส่วนตัวปัดชอบเขียนแฮปปี้อยู่แล้ว เพราะมีความรู้สึกผูกพันกับตัวละคร (ยกเว้นตัวประกอบใช้แล้วทิ้ง) ยังไงก็จะเน้นแฮปปี้ และหวานเป็นหลักค่ะสำหรับเรื่องนี้

อยากอ่าน nc ของคุณอาจัง อิอิ แต่คู่หลานก็น่ารัก

อย่าลืมรุ้งพราย กะเพื่อนๆนะคับ เดี๋ยวเขาจะน้อยใจเอา ห้าๆ

- ดีใจจังที่ยังมีคนนึกถึงพวกสาว ๆ อยู่  พวกหนูรุ้งฝากขอบคุณมาค่ะและบอกว่าไว้จะพยายาม ถ่ายคลิปเจาะฉากทั้งสองห้อง มาให้นักอ่านชมกันนะคะ~

สองคู่ หวานๆกันไป อธิปดูเฉี่อยๆแต่ก็แอบหื่น พอๆกับพาทิศเลยนะคะ

น้องตุลน่ารักเวอร์ๆ กลัวเจ็บแต่ก็อยากทำให้คนรักมีความสุข :o8:

ขอส่องห้องคุณอา กับอธิปบ้างได้มั้ยคะ  :impress2:

- อธิปมันพวกแอบหื่นค่ะ อิ ๆ ส่วนห้องคุณอา เดี๋ยวมีคิวแน่ค่ะ แต่เจอกันในตอนพิเศษนะคะ รับรองลงบอร์ดให้อ่านทุกช็อตจ้า

อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย  :-[

อยากอ่านหวานๆแล้วก็มีอีกหลายๆตอน ( :z6:)

แต่ก็อยากให้แอบมีปมเล็กๆบ้างจะได้มีสีสรรและไม่จบง่ายๆ(ประเด็นคือไม่อยากให้จบค่ะ คงคิดถึงแย่เลย)

 :pig4:

- ยาวไปเดี๋ยวจะเบื่อกันเสียเปล่า ๆ นะคะ หุ ๆ ถึงเรื่องหลักจะจบ แต่สำหรับแนวเขียนสไตล์นี้ รับรองว่ามีตอนพิเศษออกมาให้อ่านเรื่อย ๆ ค่ะ อย่าลืมติดตามนะคะ  ^^

ทั้งสองคู่หวานมากๆ :-[ :-[
พาทิศดูแลหนูตุลดีๆนะ
ส่วนอากริชนี่มีแอบประชดด้วยโดนอธิปจัดหนักแน่  :z1:


- ถึงพ่ออธิปจะชอบจัดหนัก แต่พอโดนนายกริชอ้อนจริงจัง เดี๋ยวก็อ่อนเป็นไฟลน หุ ๆ  อธิปเห็นหื่น ๆ แบบนี้ แคร์กริชมากน่าดู~ เอ สงสัยต้องรีบปั่นตอนในห้องของสองคนนี้ออกมาแล้วสินะ

หวานกันไปทั้งสองคู่เลย

ไม่รู้ว่ามดขึ้นบ้านหรือป่าว  :laugh:

- พวกรุ้งบ่นใหญ่เลยค่ะ ว่าพักนี้มดไม่รู้มาจากไหน เต็มบ้านไปหมด อิ ๆ  สงสัยความหวานเรียกหา

โอ้ ลงเอยกันหมดทุกคู่แล้ว

ที่ถามมา เราไงก็อ่านค่ะ จะแบบไหนก็ได้ แต่อย่ามาม่ามากนักก็พอ อิๆ

- ถ้าจะเขียนถึงก็คงมีมาม่าบ้างเล็กน้อยเป็นตัวดำเนินเรื่อง แต่นิยายปัด ส่วนใหญ่ มาม่ายังไงก็แฮปปี้เอนตลอดค่ะ~

เป็นฝั่งเป็นฝากันไปทั้งอาและหลาน  :laugh:

- แถมคู่เจ้าตัวก็ไม่ใกล้ไม่ไกล คนใกล้ตัวทั้งนั้นด้วยสิคะ หุ ๆ

อยากเห็นคู่คุณอาสวีท(หนักๆ) กันบ้างหงะคุณคนแต่ง 555+  :z1: :z1: :z1:


- เดี๋ยวจัดให้ค่ะ  ^^

ในที่สุด กริ้ดดดดดดด  :-[  :-[  :-[

- ช่วยกรี๊ด ^ ^"

ขอลากต่อแบบหวานๆได้ไหมจ๊ะ ^^

อยากแต่งแนวไหน ไม่ว่าจะบู๊ หรือคลุกวงใน ก็อ่านได้หมดจ้า
แต่ถ้าจะตามใจคนอ่านบ้างก็ขอตอนหวานๆ มาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจกันบ้าง จะดีมิใช่น้อย

- สำหรับเรื่องนี้ ความหวานนำหน้าอยู่แล้วค่ะ --+

เย้ๆๆๆๆ  ตุลย์กับกริชเสียตัวแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณมากนะครับคุณปัด  เรื่องนี้สนุกที่สุด

- ปัดก็ต้องขอบคุณสำหรับคอมเมนต์เช่นกันค่า ทำให้มีกำลังใจปั่นเยอะเลย ^ ^


จากที่ได้รับคำปรึกษา จากนักอ่านหลายท่าน ปัดคิดว่าม่านราตรีเรื่องนี้คงจะดำเนินต่อไปอีกสัก 2 - 3 ตอน (หรือมากน้อยกว่านั้น) ก็จะจบภาคหรือเรื่อง ซึี่งจะคงคอนเซปต์เดิมตั้งแต่แรก คือแนวครอบครัวอบอุ่น และความรักหวาน ๆ เอาไว้

จากนั้นก็จะมีตอนพิเศษเสริม ตามแต่นักอ่านรีเควสให้อ่านกันสักหน่อย จะเป็นตอนสั้น หรือตอนยาว ๆ ขึ้นอยู่กับความขยันของปัดเองค่ะ (แหะ ๆ)  ซึ่งใครอยากอ่านอะไรเป็นพิเศษก็ลองขอมาค่ะ ^ ^ (ส่วนซูมในห้องอากริช มีโครงการเขียนแน่ค่ะ)


ขอบคุณสำหรับนักอ่านที่ติดตามอ่านนะคะ สำหรับภาคที่อาจจะมีต่อ ปัดว่าจะลองซุ่มเขียนสักระยะ  อาจจะเริ่มกระทู้ใหม่ หรือถ้าเขียนไปแล้วไม่แป้ก ก็จะต่อกระทู้เดิมเลย  ถ้ารอดก็เอามาลง ไม่รอดก็จะเป็นลักษณะตอนพิเศษเฉพาะเทศกาลไปเรื่อย ๆ ค่ะ


 
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 09-12-2011 23:38:00
อะไรก็ได้ขอแค่มาอัพให้อ่านจร้า 555+  :-[
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 11-12-2011 20:42:41
ถ้ามีโครงเรื่องใหญ่พอสมควร ก็ตั้งกระทู้ใหม่ได้เลย ขาประจำตามไปอ่านอยู่แล้ว

แต่ถ้ายังอยู่ในช่วงฟักตัว ก็ส่งเรื่องในมุ้งของ อา-หลาน มาเรียกเลือด เอ๊ย เรียกความหวานก่อนก็ได้ ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 11-12-2011 22:48:45
อีก 2 -3 ตอนก็จะจบแล้วเหรอ เหมือนเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เองนะ

ติดตามอ่านค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้คอมเม้นท์เท่าไรเพราะบางทีก็เม้นท์ไม่ได้ แต่ก็อ่านนะคะ (หรือบางทีน้องปัทม์เขียนดีแล้วพี่ไม่มีอะไรจะเม้นท์)

ยกมือเป็นแฟนคลับด้วยอีกคน
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 12-12-2011 16:51:16
และแล้วทั้งอาทั้งหลานโดนกินทั้งคู่ >o<
น่าสงสารคุณพาทิศเนอะ
ต้องไปต่อเองที่ห้อง หึหึ

ใกล้จะจบแล้วเหรอ
ไงก็เอาแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งน้า ^^
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 12-12-2011 21:32:11
แอบอยากให้มีสัมภาษณ์ตัวละคร เป็นคู่ หรือเป็นรายบุคลไรงี้อะ
มันคงน่ารักดี เอาทุกคนมาสัมภาษณ์แยกๆกันไป ใครเป็นคู่ก็สัมภาษณ์ก็ได้
คำถามเอาฮาๆ กวนๆ หรือ หื่นก็ได้(ข้อนี้รีเครววว!)
กี่ครั้ง? อึดมั้ย? เจ็บมั้ย? อะไรแบบนี้(กรี๊ดดดด!! พิมพ์อะไรลงป๊ายยย>/////<)
ถามสาวๆด้วย เดียวน้อยใจ 55555+ แบบเบื่อไหมต้องนั้งบี้มด
หรือปิ่นมีจิตนาการล่ำไปแค่ไหนแล้ว 55+ แอบอยากให้มีจริงๆนะ^^


มันต้องมีสักทางที่เข้าไปแอบดูคู่คุณอาได้ซิน๊า!
อยากเห็นคุณอาอ้อน อร๊ายยย>< เคะแอบซึน โมเอะที่สู้ดดดดด!!!~*




ตอนพิเศษก็ขอแบบไปเที่ยวนอกบ้านกันยกก๊วน ให้ลุงอธิปช่วยอะไรแบบนี้ๆ
หรือไม่ก็ขอแบบอาหลาน เริ่ม+รุก+ยั่ว หมอผีกับซอมบี้ก็ดี ฮี่ฮี่ฮี่
อยากได้เยอะไปมั้ยนิ๊ 5555555555+
หัวข้อ: Re: ม่า่นราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (09/12/11) แจ้งข้อสรุปเกี่ยวกับบทจบของนิยาย
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-12-2011 22:26:39
ตามสะดวกคุณปัดเลยครับ  แบบไหน  ถ้าเป็นเรื่องนี้  ผมชอบบบ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-12-2011 09:56:58
กลับมาต่อแล้วค่ะ คาดว่าตอนหน้าก็คงจะเป็นตอนจบแล้ว (หรือถ้ามันยาวก็อาจจะแบ่งได้อีกตอน )
ไหน ๆ ก็เป็นนิยายผี ก็ขอจบแบบผี ๆ นี่ล่ะค่ะ หึ ๆ .... (หัวเราะไม่น่าไว้ใจ)

เชิญอ่านตอนนี้กันได้เลยค่ะ ส่วนตอนหน้าจะรีบปั่นมาให้อ่านนะคะ ^ ^


ม่านราตรี
บทที่ 26



   นิยายเรื่องที่สองของตุลาได้รับการตีพิมพ์และมีผลตอบรับจากนักอ่านค่อนข้างดีไม่แพ้เล่มแรก แถมเผลอ ๆ จะดีกว่าเล่มแรกด้วยซ้ำ เพราะเพียงวางขายไม่นานเขาก็ได้รับการแจ้งจากสำนักพิมพ์ว่าจะมีการตีพิมพ์ซ้ำครั้งที่สองเร็ว ๆ นี้

   “ยินดีด้วยนะเจ้าหนู ตอนนี้เธอกลายเป็นนักเขียนใหญ่ยิ่งกว่าอาของเธอแล้วล่ะมั้ง”

    อธิปเอ่ยชม ตอนนี้ทุกคนในคฤหาสน์กำลังร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีกับตุลา ณ บริเวณสวนหน้าซุ้มราตรี แสงไฟหลากสีถูกประดับตกแต่งไปตามซุ้มแลดูสวยงามยิ่งนัก

   “ไม่หรอกครับ ถ้าอายังอยู่ป่านนี้คงจะดังยิ่งกว่าจนผมเทียบไม่ติดก็ได้”

    กริชสั่นศีรษะอย่างระอากับการถ่อมตัวของหลานชาย เขาเองก็คิดเหมือนอธิปที่ว่าตุลานั้นมีพรสวรรค์ในการแต่งนิยาย แม้สำนวนการดำเนินเรื่องจะยังไม่เข้าขั้นนักประพันธ์ชั้นครู แต่นิยายของตุลานั้นมีเสน่ห์ทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ร่วมและลุ้นระทึกไปกับเหตุการณ์ในแต่ละหน้ากระดาษได้เป็นอย่างดี

   “ความจริงคุณกริชก็น่าจะเขียนหนังสือต่อได้นะคะ ที่นี่ก็มีอาถรรพ์พอที่จะให้คุณแสดงร่างออกมาได้อยู่แล้ว คุณก็แค่พิมพ์เรื่องที่คุณแต่งลงไปในคอมแค่นั้นไม่ใช่หรือคะ”

   ราตรีเสนอความเห็นทำให้ตุลาตาวาวแล้วรีบหันไปทางอาของตน ทว่าวิญญาณหนุ่มกลับยิ้มน้อย ๆ แล้วสั่นศีรษะปฏิเสธ

   “ตอนที่ฉันเลือกเดินทางนี้ ฉันก็ตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างในโลกไปหมดแล้ว จะมีก็แค่ตุลเท่านั้นที่ฉันยังเป็นห่วงอยู่ ส่วนเรื่องงานเขียนตุลก็สืบทอดต่อจากฉันไปแล้ว ฉันจึงไม่จำเป็นต้องสานต่อมันอีก”

   คำตอบของกริชสร้างความเสียดายให้กับตุลายิ่งนัก แต่เขาก็เข้าใจในสิ่งที่อาบอกดี และเขาก็ตั้งใจแล้วว่าจะเป็นนักเขียนนิยายที่ดีและมีชื่อเสียงตามความฝันของอาให้ได้

    “ฮึ...ใช่สิ ห่วงก็แค่หลานตัวเองเท่านั้นล่ะนะ”

    อธิปที่นั่งข้าง ๆ บ่นขึ้นอย่างน้อยใจ ทำให้วิญญาณหนุ่มต้องหันไปมองพลางลอบยิ้ม

    “ไม่เห็นแปลก ญาติพี่น้องก็ต้องมาก่อนคนรักเป็นธรรมดา”

   กริชเปรยเบา ๆ สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนฟังยิ่งนัก แต่ก็นับว่ายังดีที่อีกฝ่ายกล้าเรียกเขาว่าคนรักต่อหน้าคนอื่น อย่างไม่เขินอายเหมือนช่วงแรก ๆ ที่คบกัน

    “คอยดูเหอะ คืนนี้จะจัดชุดหนักจนต้องครางขอร้องเสียให้เข็ด”

   อธิปบ่นงึมงำ ทว่าทุกคนนอกจากตุลากลับได้ยินชัดเจนดี ดังนั้นนอกจากกริชที่นั่งหน้าแดงด้วยความฉุนปนอาย คนอื่นก็พากันอมยิ้ม และหัวเราะคิกคักกันเบา ๆ จนตุลาแปลกใจ

    “ไม่มีอะไรหรอก พอดีทุกคนนึกเรื่องตลกขึ้นได้พร้อม ๆ กันน่ะ”

    พาทิศแสร้งตอบคำถามคนรัก แต่นั่นทำให้ตุลายิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่

   “ใช่...พวกเรานึกถึงตอนตุลเข้ามาอยู่ใหม่ ๆ ตอนนั้น ตุลขี้กลัวจะตาย หลอกนิดหลอกหน่อยก็เป็นลมละ”

   รุ้งพรายรีบเสริม เพราะขืนบอกเรื่องที่อธิปบ่นไป มีหวังกริชอาละวาดจนงานเลี้ยงได้ยุติแน่

   “อ๊ะ ก็ตอนนั้นทุกคนชอบแกล้งผมกันนี่ครับ”

   ตุลารีบบอก หน้าแดงน้อย ๆ ด้วยความอาย เพราะตนก็เผลอทำเรื่องน่าขายหน้าไปเยอะในช่วงปีกว่าที่ผ่านมา

   “แต่ตอนนี้คุณตุลก็เก่งขึ้นเยอะนะคะ อย่างน้อยก็ไม่ค่อยได้ยินเสียงโวยวายตกใจเหมือนเมื่อก่อนแล้ว”

   ปิ่นสุดาเอ่ยชม แต่ก็ทำให้คนฟังยิ้มเจื่อน ๆ เพราะแต่ละคนดันจำเรื่องแย่ ๆ ของเขาได้หมด

   “อืม...บางทีโรคกลัวผีของตุลอาจจะดีขึ้นแล้วก็ได้นะ”

   ราตรีเอ่ยเสริม ทำให้ทุกคนนอกจากกริชหันมามองตากัน แล้วยิ้มแปลก ๆ จนตุลาชักสังหรณ์ใจพิกล

   “เราไม่ได้ทำไอ้นั่นมานานแล้วนี่นะ...”

   รุ้งพรายบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนกริชเอะใจ

   “พวกนายจะคิดแกล้งอะไรตุลอีก...อ๊ะ อธิปปล่อยนะ!”

   กริชที่เตรียมจะแย้งถูกอธิปโอบเอวรั้งมาใกล้ตัว พลางกระซิบบอก

   “ไม่ดีหรอกหรือ...เขาจะได้เลิกขวัญอ่อนสักที เกิดใครรู้ว่านักเขียนนิยายผี กลับกลัวผีขึ้นสมองเสียเอง มันทุเรศออกนะกริช นายอยากให้หลานนายกลายเป็นตัวตลกหรือ?”

   คำเกลี้ยกล่อมของอธิปทำให้กริชเริ่มลังเล แต่ตุลาที่พอจะรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองถึงกับสะดุ้งโหยง แล้วหันไปมองพาทิศคล้ายจะขอความช่วยเหลือ

   “รับรองว่าฉันจะอ่อนโยนกับเธอในครั้งนี้แน่”

   ผีดิบหนุ่มบอกพร้อมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จนตุลาต้องลอบถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง

   “ตามสบายครับ...ยังไงผมก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วนี่”

   เสียงหัวเราะคิกคักจากสามสาวดังขึ้นทันทีที่ตุลาพูดจบ พวกเธอเอ่ยปลอบโยนเขาครู่หนึ่ง แล้วจึงสุมหัวปรึกษากันในสิ่งที่ทำให้คนฟังขนลุกซู่ เพราะดูว่าพวกเจ้าหล่อนจะเอาจริงเอาจังเสียยิ่งกว่าครั้งก่อนเสียอีก

    “ถ้าอย่างนั้นฉันร่วมด้วยดีไหมนะ...”

   กริชที่เริ่มนึกสนุกเปรยขึ้นมา ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือกแล้วหันไปมองอาของตนอย่างไม่เชื่อสายตา

   “อาไม่แกล้งหลานรุนแรงเหมือนพวกนี้หรอกน่า รับรอง”

   กริชแย้มยิ้มอ่อนโยน แต่มันทำให้ตุลารู้สึกเสียวสันหลังวาบยังไงพิกล แม้ว่าตุลาจะลืมไปแล้ว แต่คนที่ทำให้เขากลัวผีขนาดหนักแบบนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นอาที่แสนดีของเจ้าตัวนั่นเอง

   “อืม…มีนายกริชมาร่วมวงแบบนี้คงสนุกดี หมอนี่ยิ่งชอบคิดวิธีแกล้งคนแบบแปลก ๆ เสียด้วยสิ”

   อธิปหันไปพึมพำกับพาทิศ ทำให้กริชที่ถูกนินทาหันขวับไปมองแล้วค้อนเข้าให้ จนอธิปต้องรีบง้อเพราะกลัวอีกฝ่ายงอนหนักจนเลิกล้มความตั้งใจเสียก่อน

   “งั้นคืนนี้จะปล่อยเธอนอนพักให้เต็มตาไปก่อน ทว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ที่คฤหาสน์ม่านราตรีนี่จะกลายเป็นสถานที่สยองขวัญอย่างแท้จริงสำหรับเธอเอง”

    พาทิศเปรยขู่ ทำเอาตุลาส่งเสียงฮึเบา ๆ ด้วยความงอน ที่แม้แต่คนรักก็ยังไม่ยอมเข้าข้างเขา แถมยังจะหาเรื่องแกล้งเขาเหมือนทุกคนอีก

   “เอาน่า เดี๋ยวจะยอมให้ลงโทษหลังจากการทดสอบความกล้าจบลงนะ”

   ผีดิบหนุ่มโน้มใบหน้ากระซิบข้าง ๆ หูคนรัก ทำให้ตุลาหน้าแดง แล้วบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ หายงอนไปกว่าครึ่งเรียบร้อย

   “ถ้าอย่างนั้นก็กินเลี้ยงกันต่อ แล้วค่อยส่งตุลขึ้นไปพัก จากนั้นพวกเราก็มาปรึกษากันว่าใครจะหลอกอะไรยังไงช่วงไหน งานนี้ฉันตั้งใจว่าจะเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้ายันถึงเที่ยงคืนของพรุ่งนี้เลย ดังนั้นเราจะมาหลอกรุนแรงเหมือนพวกผีปลอม ๆ ตามงานวัดหรือสวนสนุกตั้งแต่แรกไม่ได้  ต้องค่อย ๆ เพิ่มดีกรีความน่ากลัวทีละน้อย ให้สมกับเป็นผีจริงหน่อย”

   กริชสรุปตัดบท ทว่าคำพูดของวิญญาณหนุ่มก็ทำให้หลายคนอึ้ง เพราะมันช่างผิดกับอิมเมจชายผู้รักหลานคนนี้เสียเหลือเกิน

   “ขอบคุณจริง ๆ ครับอากริช...ที่ตั้งใจเพื่อผมแบบนี้”

   ตุลาพึมพำด้วยความเหนื่อยใจ ทำให้กริชชะงักหันมามองหลานยิ้ม ๆ แล้วรีบบอก

   “จะได้ให้ตุลจำความรู้สึกเวลาหวาดกลัวเอาไว้ไงล่ะ ประสบการณ์ตรงแบบนี้ทำให้เขียนนิยายได้ดีขึ้นนะ”

   ตุลาฝืนยิ้มแห้ง ๆ ให้ เข้าใจว่าอาเป็นห่วง แต่ลึก ๆ แล้วในความเป็นห่วงนั่นคงมีความสนุกแฝงอยู่บ้างเป็นแน่

   “เอาล่ะ ๆ มากินกันต่อดีกว่า เดี๋ยวเจ้าหนูตุลจะใจฝ่อเสียก่อน”

   อธิปรีบเอ่ยขัด เช่นเดียวกันคนอื่นที่ช่วยกันชวนตุลาคุย และเล่าเรื่องตลกขบขันให้อีกฝ่ายลืมเรื่องที่จะเกิดขึ้น จนในที่สุดก็ถึงเวลาเกือบสี่ทุ่ม ทุกคนจึงคะยั้นคะยอกึ่งบังคับให้ตุลาเข้านอน ซึ่งชายหนุ่มก็จำยอมทำตามอย่างขัดไม่ได้ และพอส่งตุลาถึงห้องแล้ว สมาชิกที่เหลือของคฤหาสน์ม่านราตรี ต่างก็สบตากันไปมา แล้วจึงปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น้อย ๆ บนใบหน้าของแต่ละคน ชนิดที่หากตุลาได้เห็น คงต้องขอตัวลี้ภัยหนีไปนอนบ้านบิดามารดาแทนเป็นแน่



   ตุลาปรือตาขึ้นลืมอย่างงัวเงีย อากาศในช่วงใกล้เช้าของวันนี้ค่อนข้างหนาวกว่าทุกวัน จนทำให้เขาต้องลุกขึ้นตรงไปทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำแต่พอจะเดินกลับมานอน  เขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อเห็นอะไรบางอย่างวูบผ่านตรงระเบียงห้องตนไปแวบหนึ่ง

   “ฮะ ๆ ตาฝาดน่า ...ก็พวกนั้นบอกว่าจะเริ่มหลอกเราตั้งแต่หกโมงเช้าเป็นต้นไปนี่นา”

   ตุลาทำเป็นไม่ใส่ใจเพราะดูเวลาที่นาฬิกาแล้วก็เพิ่งแค่ตีห้าเท่านั้น ทว่าเขาก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหลม ๆ ลอยมาตามลมแผ่วเบา พร้อมกับร่างในชุดกระโปรงสีแดงสด มีผมยาวรุงรังปิดหน้าปิดตาวูบผ่านระเบียงไปอีกหน

   “วะ...เหวอ แบบนี้ผิดสัญญานี่ครับ!”

   ตุลากระโดดโหยงแล้วโวยวายลั่นห้อง แต่พอสิ้นเสียงเขาไม่เท่าไหร่ พวกรุ้งพราย ปิ่นสุดา และราตรี ก็กระโดดขึ้นมาที่ระเบียงอย่างตกใจ ส่วนกริชนั้นหายตัวแวบเข้ามาในห้องหลานด้วยสีหน้าเป็นห่วง โดยมีอธิปและพาทิศเปิดประตูตามมาติด ๆ

   “เกิดอะไรขึ้นหรือตุล เป็นอะไรไปทำไมตะโกนโวยวายแบบนี้”

   ตุลาเบิกตามองทุกคนไล่ไปเรื่อย ๆ แล้วก็ยิ่งหน้าซีด เมื่อนึกขึ้นได้ว่าชุดที่ราตรีใส่นั้นเป็นสีขาวมาตลอด แต่คนที่เขาเห็นลอยผ่านระเบียงไปนั่นใส่ชุดแดงชัด ๆ

   “ผะ...ผมเห็นผี ...ผีผู้หญิงใส่ชุดแดงลอยผ่านหน้าต่างนั่นไป”

   ทุกคนพากันนิ่งเงียบเมื่อได้ยิน ก่อนที่รุ้งพรายจะเป็นฝ่ายหัวเราะเสียงดัง แล้วคนอื่น ๆ ก็มีทั้งหัวเราะทั้งอมยิ้มตามมา

   “อะ...หัวเราะอะไรกันครับ ผมซีเรียสนะ!”

   ตุลารีบบอกด้วยความหงุดหงิด เพราะสีหน้าและแววตาที่ทุกคนมองมายังเขานั้น แสดงออกว่าไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูดสักนิด

   “ก็แหม...พวกเราอุตสาห์กลุ้มคิดเรื่องที่ว่าจะหลอกตุลยังไงให้กลัวพรุ่งนี้ดี ใครจะไปรู้ล่ะว่าตุลเองก็คิดจะหลอกให้พวกเรากลัวเหมือนกัน พัฒนาขึ้นนะเนี่ย!”

   รุ้งพรายบอกหลังจากหยุดหัวเราะได้แล้ว คนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วย บ้างก็พึมพำอะไรเบา ๆ พร้อมรอยยิ้ม จนทำให้ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด

   “ผมไม่ได้แกล้ง ไม่ได้โกหกนะ ผมเห็นจริง ๆ กับตาตัวเองเลย ผีตนนั้นลอยผ่านระเบียงไปมาตั้งสองรอบแน่ะ!”

   ตุลาโวยวาย แล้วชี้มือไปที่ระเบียง รุ้งพราย ราตรี และปิ่นสุดา ขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วจึงชะโงกหน้าไปดูรอบ ๆ สวน ก่อนจะหันมาสบตากัน

   “ไม่มีนะคะคุณตุล ถ้ามีพวกเราที่อยู่ที่นี่ก็ต้องรู้สึกตัวสิคะว่ามีคนล่วงล้ำเขตแดนเข้ามา”

   ปิ่นสุดาบอกขึ้นบ้าง นั่นจึงทำให้ตุลาชักเริ่มลังเลและไม่มั่นใจในสิ่งที่ตนเองเห็น

   “หลานอาจจะกังวลเรื่องพรุ่งนี้มากเกินไป ....ถ้ายังไงเราจะยกเลิกทดสอบเรื่องความกล้าดีไหม หลานจะได้ไม่ต้องเห็นภาพหลอนนั่นอีก”

   กริชเอ่ยปลอบหลานชาย แต่เสียงของรุ้งพรายนั้นขัดขึ้นมาก่อน

   “อ๊า ...อุตสาห์นั่งประชุมคิดทั้งคืนเลยนะ”

   “รุ้งนี่ก็ อยากให้ตุลประสาทเสียเพราะภาพหลอนทั้งวันหรือไง”

    ราตรีดุเพื่อนสาว ทำให้รุ้งพรายหน้าจ๋อย จนตุลานึกสงสาร

   “เอ่อ...ไม่ต้องหรอกครับ คงจะเป็นอย่างทุกคนพูด ผมคงเครียดเกินไป แถมเพิ่งตื่นก็อาจจะงัวเงียก็ได้ ส่วนเรื่องทดสอบความกล้า ไหน ๆ ทุกคนก็เสียเวลาคิดแล้ว ก็ทำต่อไปเถอะครับ”

   คำพูดของตุลาทำให้ทุกคนในห้องรู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก พาทิศโอบบ่าร่างของคนรักมาแนบกาย แล้วปลอบโยนเบา ๆ

   “ไม่ต้องห่วงนะตุล รับรองพรุ่งนี้ตุลจะต้องพบกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ...แน่นอน ไม่ใช่เรื่องแย่ ๆ อย่างเดียวหรอก”

   ตุลาเงยหน้ามองผีดิบหนุ่มก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แต่ก็ยังคงยิ้มตอบรับอีกฝ่าย

   “ครับ ...หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น”

   “จะให้อานอนเป็นเพื่อนยันเช้าดีไหม”

   กริชบอกขณะดูเวลา เพราะยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมงพวกเขาจึงจะเริ่มแผนการทดสอบความกล้าในครั้งนี้

   “ง่า...เกรงใจครับ ผมนอนคนเดียวได้อยู่”

   ตุลาบอกเพราะเห็นอธิปหน้าหงิกตอนที่กริชเสนอความเห็น ส่วนพาทิศหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกกับทุกคนในห้องนั้น

   “ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมจะดูแลตุลจนถึงเช้าเอง ยังไงผมเองก็ไม่มีบทบาทอะไรในช่วงเช้าของพรุ่งนี้อยู่แล้ว”

   คนอื่น ๆ หันมาสบตากันแล้วพากันพยักหน้าเห็นด้วย แต่รุ้งพรายก็ยังไม่วายกำชับก่อนจากไป

   “แล้วอย่าใจอ่อนบอกความลับในการทดสอบความกล้าให้ตุลรู้ล่ะ นายยิ่งแพ้ลูกอ้อนตุลอยู่ด้วย!”

   “เออน่า ไม่บอกหรอก ไป ๆ กันสักที ตุลจะได้นอนต่อ...จริงไหม”

   รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับริมฝีปากผีดิบหนุ่มระหว่างพูด ทำให้ตุลาหน้าแดงน้อย ๆ พอจะเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อดี

   “เชอะ! หวานกันนัก หมั่นไส้จริง ๆ ถึงตอนหลอกเมื่อไหร่ แม่จะหลอกให้ขวัญกระเจิงไปเลย”

   รุ้งพรายบ่นงึมงำค่อนข้างดัง ทำเอาตุลาที่ได้ยินเข้าหันไปมองตาปริบ ๆ ส่วนราตรีนั้นหัวเราะน้อย ๆ แล้วตบบ่าเพื่อนสาวให้ใจเย็น ก่อนจะหันมาโบกมืออำลาชายหนุ่มเช่นเดียวกับปิ่นสุดา

   “แล้วเจอกันตอนเช้านะเจ้าหนู”

   อธิปบอกพร้อมกับลากแขนกริชให้เดินตามไปด้วยกัน สร้างความหมั่นไส้ให้วิญญาณหนุ่มยิ่งนัก แต่ก็ยังคงยอมเดินตามไปด้วยแต่โดยดี

    “อีกแค่ไม่ถึงชั่วโมงเองสินะ”

   ตุลามองนาฬิกาพลางพึมพำอย่างเป็นกังวล เขาเหลือบมองไปที่ระเบียงด้วยความหวาดหวั่น แต่ก็ต้องสะดุ้งน้อย ๆ เมื่ออ้อมกอดอันอบอุ่นของคนที่อยู่ด้วยสวมกอดตนจากเบื้องหลัง

   “ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถึงทุกคนจะบอกอย่างนั้น แต่ช่วงเช้า พวกเราจะปล่อยให้ตุลกินอาหารและทำธุระส่วนตัวตามปกติให้เรียบร้อยโดยไม่ก่อกวน เพราะฉะนั้นเธอก็ยังพอมีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจได้อีกตั้งนานเลยทีเดียว”

   คำบอกเล่าของพาทิศทำให้ตุลาต้องถอนหายใจอย่างโล่งอก เห็นดังนั้นผีดิบหนุ่มจึงหัวเราะเบา ๆ แล้วพลิกร่างของคนรักให้หันกลับมาเผชิญหน้าตน

   “แล้วอย่าบอกรุ้งล่ะว่าฉันแอบบอก เดี๋ยวฉันจะโดนบ่นเข้าให้อีก”

   ตุลายิ้มรับ แล้วพยักหน้า จากนั้นพาทิศก็โอบบ่าคนรักให้ไปที่เตียง พวกเขานอนพูดคุยหยอกล้อกันอยู่ตลอดยันเช้า เพราะตุลาเองก็นอนไม่หลับแล้ว และพอใกล้หกโมงเช้า แสงแดดเริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง พาทิศก็ขอตัวกลับไปด้านล่างเพื่อเตรียมอาหารเช้าให้คนรักต่อไป โดยที่ตุลานั้นออกมายืนส่งอีกฝ่ายหน้าห้อง ก่อนจะรีบหายเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ เพราะไม่มั่นใจว่าทุกคนจะเปลี่ยนแผน เป็นโจมตีเขาแต่เช้าไหมนั่นเอง


...TBC...


ป.ล. สำหรับตอนพิเศษ(หวานๆ) มีลงให้อ่านในบอร์ดแน่นอนค่ะ ยังไงก็ตั้งใจจะเขียนอยู่แล้วล่ะจ้า ทั้ังคู่อา คู่หลานเลย
  :-[
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 22-12-2011 10:37:14
รอติดตามอยู่จ้า ชอบมากเลย
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 22-12-2011 10:38:37
ใครอ่ะ...ผู้หญิงชุดแดง น่ากลัวอ่ะ  o22
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 22-12-2011 11:21:06
 o22
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 22-12-2011 11:46:04
ผู้หญิงนั้นคือใครกัน
อย่าเหล่าผีๆ อย่ามัวแต่คิดจะทดสอบตุลสิ
ระแวงกันบ้างก็ได้
หวั่นๆ แอบชิงตุลไปหลบก่อนดีกว่า
พาทิศ กระชากกลับทันที
จะพาเขาไปไหนครับ ยิ้มเหื้ยมเกรียม  :m15:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 22-12-2011 12:34:01
 o22 น่ากลัวอ้ะ ไม่ใช่ผีในกลุ่มเพื่อนซะงั้น
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: kissme ที่ 22-12-2011 12:59:48
ชุดแดง......ใครอ่ะ?????
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 22-12-2011 13:16:47
ตุลาสู้ๆนะ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 22-12-2011 15:16:24
แอบหลอนนะเนี่ย ผีใหม่หรอคะ มาดีมาร้ายเนี่ย o22

หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 22-12-2011 17:03:59
อ้าวว มีผีไม่ได้รับเชิญมาด้วย หุๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 22-12-2011 18:54:10
ถ้าไม่ใช่ผีๆในบ้านแกล้งตุลแล้วอะไรแดงๆแวบผ่าน
หรือว่าจะเป็น....ลมพัดแรงแล้วกางเกงในปลิว o22

ฮ่าๆๆ ผีที่ไหนมาเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-12-2011 01:18:47
เย้ยยยย ผีตนนั้นคือใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (22/12/11) ตอนที่ 26
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 23-12-2011 02:04:19
สาวชุดแดง เธอเป็นใคร?  o21
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 24-12-2011 22:44:25
ลงยาว ๆ ฉลอง x-mas จ้า (ความจริงตั้งใจเขียนตอนเดียวแต่มันยาวเลยหั่นแบ่งเป็นสองตอนน่ะค่ะ)    :L2:



ม่านราตรี
บทที่ 27




   แสงแดดจากยามเช้าทำให้ตุลารู้สึกดีขึ้นมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ผ่านเหตุการณ์สยองขวัญเมื่อตอนเช้ามืดมาหมาด ๆ

   “ภาพหลอนงั้นหรือ...แต่เหมือนจริงเป็นบ้า”

   ตุลาพึมพำ ชำเลืองมองไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “อยากให้แดดออกเปรี้ยง ๆ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงชะมัด”

   ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ เพราะวันนี้ทั้งวันไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอบททดสอบโหด ๆ อะไรบ้าง นึกแล้วก็อยากโทรไปชวนพิชยะให้มาอยู่เป็นเพื่อน แต่อีกใจก็สงสาร เพราะอีกฝ่ายก็เป็นพวกกลัวผีขึ้นสมองไม่แพ้เขา แถมยังเป็นเป้าหมายของการแกล้งจากบรรดาพวกสาว ๆ ในคฤหาสน์แห่งนี้อีก

   “คุณพาทิศ?”

   ตุลาลงมาที่ห้องครัวก็ไม่พบร่างของพาทิศ เขาถอนหายใจเบา ๆ เมื่อพบโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนข้อความบางอย่างวางไว้ใต้จานข้าวต้มของเขา

   ‘ลำบากหน่อยนะ แต่ฉันจะคอยเอาใจช่วย’

   “เอาใจช่วยอย่างนั้นหรือ ตัวเองก็เตรียมแกล้งเค้าแท้ ๆ”

   ตุลาบ่นเบา ๆ อย่างระอา เขานั่งกินข้าวต้มไปมองรอบ ๆ ไปอย่างหวาดระแวง แม้พาทิศจะบอกไว้ก่อนหน้านั้นว่าช่วงเวลาในตอนอาหารเช้า จะไม่มีใครมารบกวนเขาก็ตาม

   “ปัง!”

   เสียงประตูห้องหนึ่งจากชั้นสองปิดดังโครม ทำเอาตุลาสะดุ้งเฮือก จากนั้นทุกอย่างก็เงียบสงบเหมือนก่อนหน้านั้น ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบกินอาหารเช้าให้เสร็จโดยไว

   “นี่นะ ยังไม่หลอก...เชื่อไม่ได้เลย คนเจ้าเล่ห์”

   ตุลากินเสร็จก็วิ่งขึ้นไปหยิบโน้ตบุคพร้อมสายไฟลงมา และตัดสินใจยึดพื้นที่ห้องรับแขกชั้นล่างเป็นฐานทัพรับมือสมาชิกคนอื่นในคฤหาสน์ เขาเลือกมุมห้องที่ด้านหลังติดกำแพงไม่มีหน้าต่าง ด้านหน้าโล่งกว้างมองเห็นรอบด้าน เพราะถ้าเกิดมีเสียงตึงตังจากชั้นสองหรือรอบ ๆ อย่างมากเขาก็เปิดประตูวิ่งหนีออกนอกบ้านไปเลยก็แค่นั้น

    

   เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ยิ่งสร้างความตึงเครียดให้คนที่กำลังโดนทดสอบมากไปอีก เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนไหน

   ตุลาตัดสินใจปิดโน้ตบุคของตน เพราะยังไงวันนี้เขาก็รวบรวมสมาธิไม่ได้อยู่แล้ว แต่ไม่นานนักความเงียบสงัดก็เข้ามาเยือนภายในห้อง แถมเขายังรู้สึกหิวข้าวกลางวันอีก เพราะกินข้าวต้มไปตั้งแต่เช้าเพียงแค่นั้น

   “เฮ้อ...คุณพาทิศคงไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้แน่เลย”

   ชายหนุ่มบ่น เพราะตำแหน่งที่เขานั่งก็มองเห็นครัวได้สบาย และตั้งแต่เช้าจนถึงเที่ยงเขาก็ไม่เห็นใครเดินผ่านสายตาไปเลยสักคน

   “อ๊ะ...มีนี่นา”

   ตุลาอุทานยิ้ม ๆ เมื่อเปิดตู้เย็นหาของมาทำกิน ก็พบกับแซนวิชแฮมชีสที่เขาชอบหลายชิ้นแช่เย็นอยู่ในนั้น

    “ใจดีไม่เปลี่ยนเลยแฮะ ...นึกว่าจะต้องกินไข่ดาว หรือไม่ก็มาม่าเสียแล้ว”

   ตุลาพึมพำขณะที่หยิบแซนวิชพร้อมขวดน้ำเปล่าออกมาจากตู้เย็น เขาวิ่งเหยาะ ๆ กลับไปที่มั่นของตนเอง เพราะตำแหน่งในห้องครัวมันวังเวงเกินไป โดยเฉพาะหน้าต่างตรงที่ล้างจานที่ไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรวูบผ่านไปผ่านมาตอนเขากินอาหารอยู่หรือเปล่า

   ทว่าระหว่างที่กำลังกินแซนวิชอย่างเอร็ดอร่อย ตุลาก็แทบจะสำลักแซนวิชตาย เมื่อเสียงกรีดร้องแหลมยาวอย่างเจ็บปวดทรมานของหญิงสาว  ดังขึ้นมาจากห้องใดห้องหนึ่งบนชั้นสอง

   “แคก ๆ จงใจร้องหรือเปล่าเนี่ย!”

   ตุลาบ่นอุบหลังจากดื่มน้ำลงไป ทว่าเสียงนั้นกลับเปลี่ยนเป็นร้องไห้สะอื้นเบา ๆ ฟังแล้วชวนให้ขนลุกซู่อย่างน่าหวาดหวั่น

   “แกล้งกันหนักจริง ๆ คราวนี้”

   ชายหนุ่มหยิบหมอนอิงบนโซฟามากอดพร้อมกับนั่งตัวสั่น มองซ้ายมองขวาด้วยความกลัว

   “ฮือ ๆ แค้นเหลือเกิน...แค้น...”

   เสียงสะอื้นและน้ำเสียงที่ฟังไม่คุ้นเคยนัก ทำให้ตุลากลืนน้ำลายลงคอ พยายามนั่งคิดว่าเสียงที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของใคร

   “ฮือ ๆ ...ต้องฆ่า...ฆ่าให้หมด...ไม่ว่าใคร...”

   ประโยคถัดมาทำให้ตุลากอดหมอนอิงแน่น อยากจะร้องไห้แล้วบอกว่าให้ทุกคนเลิกทดสอบความกล้าเสีย แต่ก็นั่นล่ะ เขาก็ยังคงรอดูว่านอกจากเสียงและคำพูดชวนสยองนั่น จะมีอะไรตามมาไหม ยังไงตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงตรง แม้ท้องฟ้าจะช่างแสนเป็นใจ พากันมืดครึ้มให้ชวนหวาดหวั่นตั้งแต่เวลาก่อนเที่ยงก็ตาม

   “เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว”

   ตุลาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเสียงร้องไห้นั้นเงียบไป แต่แล้วเขาก็ช็อกจนหัวใจแทบตกไปถึงตาตุ่ม เมื่อจู่ ๆ ราตรีก็ปรากฏกายขึ้นมาเบื้องหน้าเขา

   “ตุล เห็นรุ้งบ้างไหม เขาออกมาหลอกเธอหรือยังน่ะ”

   “เอ๋? ไม่เห็นนี่ครับ ...อ๊ะ หรือว่าเมื่อครู่นั่นเป็นเสียงของคุณรุ้ง?”

   ราตรีขมวดคิ้วน้อย ๆ แล้วจึงย้อนกลับไป

   “เสียง? ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย ทั้งที่เวลานี้เป็นคิวของรุ้งที่จะต้องแปลงร่างเป็นอสูรกายคำรามลั่นบ้าน ข่มขวัญเธอแท้ ๆ ฉันเลยปรึกษากับปิ่นแล้วโผล่มาถามเธอนั่นล่ะ...เพราะมันผิดปกติเกินไป รุ้งไม่ใช่คนไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองแบบนี้”

   ตุลาขนลุกซู่ หน้าซีดเผือดจนราตรีสังเกตเห็น   

   “เกิดอะไรขึ้นหรือตุล?”

   “เมื่อครู่ผมได้ยิน เสียงผู้หญิงกรีดร้องบนชั้นสอง จากนั้นก็มีเสียงร้องไห้ แล้วบอกว่าแค้นบ้าง จะฆ่าบ้าง ผมยังคิดอยู่เลยว่านั่นเป็นเสียงหนึ่งในพวกคุณหรือเปล่า เพราะมันไม่ค่อยคุ้นเอาเสียเลย”

   ราตรีชะงัก แล้วถามกลับเสียงแผ่ว

   “ตุลได้ยินจริง ๆ หรือ ...ถ้าตุลได้ยินทำไมพวกฉันไม่ได้ยินล่ะ...หรือว่า”

   ราตรีกอดอกแน่น สีหน้าดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะตัดสินใจตะโกนขึ้นเสียงดังลั่น

   “รุ้ง! พาทิศ! คุณกริช! คุณอธิป! ปิ่น! มีใครได้ยินฉันบ้างไหม!”

   เงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับ แต่นั่นจึงทำให้ราตรีมีสีหน้ากังวลหนักขึ้นไปอีก

   “ผิดปกติจริง ๆ ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ ทำไมฉันถึงสัมผัสจิตของทุกคนไม่ได้เลยนะ”

   ตุลามองผีสาวด้วยความหวาดหวั่น ถ้านี่เป็นการแกล้งก็ดูเหมือนว่าผีสาวจะตีบทแตกได้ชนิดนักแสดงอายทีเดียว

   “ตุล...ฉันจะลองไปตรวจสอบบนชั้นสองก่อนนะ ถ้าสิบนาทีแล้วฉันไม่ลงมา ก็ให้เธอไปหาปิ่นที่บ่อน้ำ ...แต่ถ้าโชคร้ายเกิดไม่เจอใคร...”

   ราตรีหยุดเว้นวรรคเล็กน้อย แล้วใช้มือจับบ่าของชายหนุ่มเบา ๆ พลางจ้องมองเขาด้วยแววตาห่วงใย

   “ถ้าเธอไม่เจอใครจริง ๆ ก็ให้รีบหนีออกจากคฤหาสน์นี้ทันทีรู้ไหม”

   “แล้วพวกคุณราตรีล่ะครับ!?”

   ตุลาถามกลับด้วยความเป็นห่วง แต่ผีสาวนั้นยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน แล้วจึงหันกลับไปมองที่ชั้นสองด้วยแววตาแข็งกร้าว

   “ไม่ต้องห่วงพวกฉัน ถ้ามันเกิดอะไรนอกเหนือความคาดหมายจริง ๆ ทุกคนก็คงคิดเหมือนฉัน คือทำยังไงก็ได้ ขอแค่ให้เธอปลอดภัยก็พอ!”

   จากนั้นราตรีก็หายวับไปจากเบื้องหน้าของตุลา ชายหนุ่มเม้มปากพลางกำมือแน่นอย่างรอคอย เวลาแต่ละนาทีช่างยาวนาน เขาน้ำตาซึมน้อย ๆ เมื่อหวนคิดถึงไปในทางร้าย ๆ จนกระทั่งเข็มนาฬิกาผ่านไปสิบนาที

   “คุณราตรีครับ....”

   เงียบกริบไร้เสียงตอบ ตุลาจึงลองเร่งเสียงตะโกนดังขึ้นไปอีก

   “คุณราตรีครับ!”

   ทั่วคฤหาสน์ยังคงเงียบกริบ ตุลามองบนชั้นสองด้วยความเป็นห่วง เขานึกถึงคำพูดของราตรีก่อนหน้านั้น แล้วจึงตัดสินใจออกไปที่สวน เพื่อตามหาคนอื่น ๆ ที่ยังคงเหลืออยู่

   

   ตุลาเดินออกมาที่สวนแล้วตรงไปที่บ่อน้ำซึ่งปิ่นสุดาอาศัยอยู่ ทว่าเขาก็ต้องพบกับความตกตะลึง เมื่อไม่เห็นร่างของเงือกสาว ในบ่อเหลือแต่ความว่างเปล่า ทั้งที่ตอนกลางวันนั้นปิ่นสุดาจะไม่สามารถขึ้นมาจากน้ำได้แท้ ๆ

   “ไม่จริง…นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

   ชายหนุ่มพึมพำแล้วเดินสำรวจรอบ ๆ บริเวณนั้นอย่างหวั่นวิตก

   “คุณปิ่น! คุณรุ้ง! คุณราตรี!”

   ตุลาเดินไปพลางตะโกนเรียกหาทุกคนไปพลาง แต่ก็ยังคงไร้เสียงตอบรับ

   “คุณพาทิศ! อาครับ! คุณอธิป! ทุกคนอยู่ไหนกันครับ!”

   ตุลาเริ่มใจเสียเมื่อแม้แต่หมอผีอย่างอธิปก็ยังติดต่อไม่ได้ จะว่าทุกคนแกล้งพร้อมใจกันเงียบ ก็ดูเป็นการแกล้งที่รุนแรงเกินไปสักหน่อย

   “ทุกคน...เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ ทุกคนยังปลอดภัยอยู่ไหม ตอบผมทีสิครับ!”

   ตุลาตะโกนต่อเรื่อย ๆ จนเริ่มเจ็บคอ บรรยากาศรอบคฤหาสน์ที่ไร้ทุกคนกลับดูทะมึนน่ากลัวยิ่งกว่าวันแรกที่เขามาเยือนเสียอีก

   “ไหนบอกว่าถ้าผมต้องการความช่วยเหลือก็จะมาช่วยยังไงล่ะครับ...คุณพาทิศ...คุณไปอยู่ที่ไหนกัน”

   ตุลาพึมพำถึงคนรัก แล้วใช้แขนปาดน้ำตาที่มันทำท่าเหมือนจะไหลออกมา พลางเดินตรงไปที่ด้านหน้าคฤหาสน์ เขามองไปยังประตูรั้ว และหวนคิดถึงคำพูดของราตรีอีกครั้ง มือทั้งสองกำหมัดแน่น ก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับแล้วมุ่งเข้าไปด้านในแทนที่จะหนีออกไปข้างนอกอย่างที่วิญญาณสาวแนะนำ

    “ไม่ยอมหรอก ...ยังไงก็จะไม่ยอมทิ้งทุกคนไปเด็ดขาด”

   ตุลาพึมพำพร้อมกับกัดริมฝีปากแรง ๆ เพื่อข่มความกลัว เขาตรงขึ้นไปยังชั้นสองเพื่อไปที่ห้องของอธิป แต่พอเปิดเข้ามาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ เพราะในห้องเต็มไปด้วยของประดับที่ชวนให้ขนลุกแทบทั้งนั้น

    “พอจะมีอะไรให้หยิบยืมใช้ได้ไหมนะ”

   ถึงยังไงอธิปก็เป็นหมอผีที่มีวิชาอาคมและเครื่องรางของขลังอยู่มากพอสมควร การที่จะหาญกล้าต่อกรกับสิ่งลี้ลับที่ลักพาตัวทุกคนไป เขาก็คงต้องใช้อะไรบางอย่างจากในห้องนี้ติดตัวไปด้วย ถึงจะพอช่วยทุกคนได้ไหวนั่นล่ะ

   “เอ...ไม่เห็นเจออะไรเลย ทำไมนะ?”

   ตุลาพึมพำอย่างแปลกใจ ทั้งที่ยามปกติเวลาเข้ามาในห้องนี้ อธิปก็มักจะมีของมาโชว์ให้เขาแปลกใจ และเป็นข้อมูลในการเขียนนิยายเสมอแท้ ๆ

   “สงสัยคงต้องใช้นั่นแทนแล้วมั้ง”

   ชายหนุ่มนึกถึงของบางอย่างที่พิชยะเคยเอามาฝากเขาเพราะรู้สึกถึงความเฮี้ยนของคฤหาสน์หลังนี้ แต่เขาก็รับมันมาขำ ๆ แถมยังเก็บซุกไว้หลังหนังสือบนหัวเตียงอีกต่างหาก

   

   พอออกมาจากห้องอธิป ตุลาก็ตรงกลับเข้าไปยังห้องตัวเองอีกครั้ง ทว่าระหว่างที่เขากำลังหยิบหนังสือออกมาจากหัวเตียงเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะแหลมสูงก้องกังวานดังไปทั่วคฤหาสน์

    “โธ่โว้ย!”

   ตุลาสบถกับตัวเองที่ดันเผลอมือไม้อ่อนทั้งที่ยังไม่ทราบชะตากรรมของคนอื่น ๆ เขาหยิบของบนหัวนอนใส่กระเป๋ากางเกงหมับแล้ววิ่งออกไปจากห้อง ตัดสินใจเดินตรงไปยังห้องของจอมเดชที่เขายังไม่ได้เข้าไปสำรวจ

   ทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา ตุลาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อห้องที่เคยโล่งโปร่งกลับมีหมอกบาง ๆ ปกคลุมไปทั่วห้อง อากาศภายในนั้นเย็นจัด จนชายหนุ่มต้องเผลอกอดอกด้วยความหนาว แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ด้านหลัง แต่พอจะหันกลับไป ก็ต้องถูกมือใหญ่ที่มีผ้าขนหนูนุ่มโปะปิดหน้าของตน ตุลาดิ้นรนพยายามแกะมือนั้นออก ทว่าสติของเขากลับค่อย ๆ ลางเลือนลงทีละนิดอย่างน่าประหลาด จากนั้นร่างของชายหนุ่มก็พลันอ่อนแรงและสลบลงไปในอ้อมแขนลึกลับนั่นเอง




.... TBC ....
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 24-12-2011 22:46:35
ม่านราตรี
บทที่ 28



   เสียงพูดคุยที่ดังแว่วเข้ามาในหู ทำให้ตุลาต้องปรือตาขึ้นอย่างอ่อนล้า รู้สึกมึนหัวไปหมดน่ากลัวผ้าผืนนั้นที่ปิดหน้าเขาจะมีอะไรบางอย่างปะปนอยู่เป็นแน่

   “อ๊ะ ตุลฟื้นแล้ว”

   เสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นจากมุมหนึ่ง ตุลาสะบัดศีรษะไปมา ภาพที่นัยน์ตาเห็นเบลออยู่สักพัก แล้วจึงกลับแจ่มใสขึ้นเรื่อย ๆ

   “ที่ไหน...”

   ความรู้สึกเย็นเยือกทำให้ตุลาต้องห่อไหล่ อิฐทึม ๆ มืด ๆ บนพื้นที่เขานอนอยู่นั่นก็ชวนให้คุ้นตา คล้ายจะเคยเห็นมาก่อน

   “ไง ....เจ้าหนู หลับไปนานเลยนะ นึกว่าจะไม่ฟื้นเสียอีก... ถ้าเป็นอย่างนั้นการแก้แค้นของฉันมันก็ไม่สนุกน่ะสิ!”

   เสียงสูงเย็นชาไม่คุ้นเคยดังตามมา ตุลาหันไปมองยังต้นเสียง แล้วก็ต้องพบกับความตกตะลึงเมื่อเห็นร่างโปร่งใสในชุดแดง ยืนเท้าแขนอยู่บนเก้าอี้ไม้สักตัวใหญ่ที่พาทิศนั่งอยู่ แถมผีดิบหนุ่มยังถูกจับมัดติดอยู่กับเก้าอี้นั้นอีกต่างหาก ถัดออกไป พวกสมาชิกคนอื่นที่หายตัวไปก็ถูกจัดมัดด้วยเชือกนั่งบนเก้าอี้เรียงกันไปทีละคน และแต่ละคนก็ต่างสลบไสลคอพับคออ่อนไม่มีใครได้สติ นอกจากคนรักของเขาคนเดียว

    “คุณพาทิศ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ...”

   ผีดิบหนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวด เขาหลบตาอีกฝ่าย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงปวดร้าว

    “ขอโทษนะตุล...เพราะฉันแท้ ๆ ทุกคนก็เลยโชคร้ายแบบนี้”

   ตุลามองอีกฝ่ายอย่างงุนงง แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อผีสาวชุดแดง ลอยช้า ๆ มาอยู่ด้านข้างของพาทิศ แล้วใช้นิ้วชี้ผลักศีรษะผีดิบหนุ่มค่อนข้างแรง

    “ใช่! เพราะนายนั่นล่ะ ที่บังอาจทรยศต่อความรักของฉัน ...ทำให้ฉันตายไม่พอ แต่ตัวเองดันหนีมามีความสุขคนเดียวแบบนี้!”

    ตุลานิ่งอึ้ง มองทั้งคู่อย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

   “หรือว่าคุณ...ก็คือคนรักเก่า...ของคุณพาทิศ”

   ชายหนุ่มพึมพำด้วยน้ำเสียงขาดหายเป็นห้วง ๆ เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังคงอยู่ แถมยังกลายเป็นวิญญาณอาฆาต และกลับมาแก้แค้นผีดิบหนุ่มอีก

    “หึ...ใช่ ฉันก็คือผู้หญิงโง่ที่หลงรักหมอนี่...และก็ต้องโชคร้ายตายเพราะเขานั่นล่ะ!”

   ผีสาวตวาดลั่น ตุลาเห็นพาทิศก้มหน้านิ่งหลบตาแล้วก็รู้สึกสงสารอีกฝ่ายจับใจ จนต้องเถียงสู้กลับไป

   “ไม่ใช่ความผิดของเขาสักหน่อย ถ้าคุณเป็นคนรักเขาจริง คุณก็ต้องเข้าใจเขาสิ!”

      ใบหน้าสวยหวานแต่ขาวซีดเผือดจนน่ากลัวหันขวับกลับมาที่ชายหนุ่ม แล้วจึงลอยวูบเข้ามาประชิดร่างของตุลา จนเขาแทบช็อก

   “เธอมันจะรู้อะไรเจ้าหนู! ลองเธอต้องมาตายเพราะเขาบ้างสิ เธอจะได้รู้ว่าฉันน่ะรู้สึกยังไง!”

   ตุลาตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวต่ออารมณ์เกรี้ยวกราดของผีสาว แต่แล้วร่างในชุดแดงก็ปรับอารมณ์ลงแล้วแสยะยิ้มน้อย ๆ ตามมา

   “แต่ก็ดีไปอย่างที่เขาอยู่ในสถานที่แวดล้อมแบบนี้...แถมยังมีเพื่อนฝูงที่มีพลังวิญญาณเยอะแยะเต็มไปหมด”

   “ชบา! ฉันบอกเธอแล้วไงว่ามันเป็นความผิดของฉันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับตุล และทุกคนในม่านราตรีนี่!”

   พาทิศโพล่งขัดขึ้นมา ทว่าก็ต้องชะงักเมื่อพลังวิญญาณกดดันแรงกล้าของหญิงสาวพุ่งตรงใส่เขาพร้อมกับเสียงตวาดลั่น

   “หุบปาก!”

   พาทิศกัดฟันกรอด ผีสาวเห็นดังนั้นจึงแสยะยิ้มน้อย ๆ แล้วหันมาทางตุลาอีกครั้ง

   “อยากช่วยคนรักของเธอไหมล่ะเจ้าหนู...แค่เธอยอมเสียสละร่างเนื้อของเธอให้ฉันสิงสู่ ฉันก็พร้อมจะปล่อยเขาให้เป็นอิสระทันที...อ้อ แต่เฉพาะเขานะ คนอื่น ๆ นั่นไม่เกี่ยว”

   ตุลาตาเบิกกว้างด้วยความตกใจต่อข้อเสนอนั่น พาทิศพยายามตะโกนห้าม แต่ก็ถูกผีสาวหันกลับไปใช้พลังรัดเชือกที่มัดร่างนั้นให้แน่นขึ้นอีก จนตุลาต้องรีบร้องห้ามเมื่อเห็นใบหน้าเจ็บปวดของคนรัก

   “อย่านะครับ! อย่าทำเขา!”

    ชบาหยุดมือที่กำลังทรมานผีดิบหนุ่มแล้วค่อย ๆ บิดคอหันกลับมามอง จนทำให้ตุลาขนลุกซู่

   “อยากให้หยุด ก็ทำตามข้อตกลงฉันสิ แล้วฉันจะปล่อยเขาไปตามสัญญา”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ เขามองพาทิศที่นั่งคอตกคล้ายหมดเรี่ยวแรง แล้วไล่มองไปยังคนอื่น ๆ ที่มีสภาพแทบไม่แตกต่างกันนัก

   “ถ้าผมยอมสละร่างให้คุณ...นอกจากปล่อยคุณพาทิศแล้ว คุณก็ต้องปล่อยคนอื่น ๆ ไปด้วย”

   เสียงหัวเราะแหลมสูงดังขึ้นทันทีที่ตุลาพูดจบ ร่างในชุดแดงบิดกายหันมาตามศีรษะที่หันไปก่อนหน้านั้น ก่อนที่เจ้าของร่างจะยิ้มเย้ยหยันอีกฝ่าย

   “ได้คืบจะเอาศอกนะ ...”

   ชบาทิ้งช่วงเว้นไว้ให้ตุลาพอจะมีหวัง ทว่าประโยคถัดมาก็ทำให้ชายหนุ่มแทบจะเข่าอ่อนเมื่อได้ยิน

    “แต่ฉันขอปฏิเสธ... ทั้งมนุษย์ และภูตผีพวกนี้มีพลังวิญญาณมาก หากฉันกินพลังวิญญาณพวกมัน ฉันก็จะมีพลังเพิ่มขึ้น และจากนั้นฉันก็จะครอบครองผืนดินอันน่าอยู่นี้แทนในฐานะเจ้าของที่ถูกกฎหมาย โดยอาศัยร่างของเธอยังไงล่ะ!  ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

   เสียงหัวเราะแหลมสูงก้องกังวานไปทั่วบริเวณห้องใต้ดิน ตุลามองวิญญาณตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไล่มองสมาชิกทุกคนในคฤหาสน์ม่านราตรีทีละคน และมาหยุดที่พาทิศ ซึ่งพยายามเงยหน้าบอกพึมพำให้เขาหนีไปจากที่นี่อย่างยากลำบาก

   “ผมไม่เชื่อหรอก...”

   ตุลาบอกเสียงแผ่ว จนชบานึกแปลกใจ

   “ไม่เชื่ออะไรรึเจ้าหนู?”

   “ผมไม่มีทางเชื่อว่าคุณเคยเป็นคนรักของคุณพาทิศน่ะสิ!”

   ตุลาบอกเสียงกร้าวด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ จนคนมองชะงักแล้วตวาดกลับไปบ้าง

   “ฉันเป็นคนรักของเขา! ถามเขาสิ ว่าเขาเคยรักฉันมาก่อนไหม!”

   “โกหก! ...ถ้าคุณเคยรักเขาจริง คุณก็ต้องเข้าใจเขาสิ ไม่ใช่มาแค้นเคืองและทำร้ายเขาแบบนี้ คนอย่างคุณน่ะ ผมไม่มีทางยกเขาให้หรอก!”

   ชบานิ่งอึ้งเช่นเดียวกับพาทิศที่มองชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง แล้วจึงตามมาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ด้วยความพอใจ

   “ทุกคนที่นี่เป็นเพื่อน เป็นครอบครัว ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ผมก็จะไม่ยอมให้คุณทำร้ายใครได้แน่!”

   ร่างโปร่งในชุดแดงเม้มปากแน่น ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ นัยน์ตาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แล้วจึงตวาดใส่ลั่น

   “ดีงั้นก็ตายให้สมใจเสียเถอะ!”

   ขาดคำร่างนั้นก็ลอยพุ่งเข้าหา ทว่ากลับต้องชะงักกึก ตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เมื่อตุลาล้วงขวดใสในกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วเปิดจุกออกพร้อมกับสาดไปยังร่างเบื้องหน้า

   “กรี๊ด!”

   ร่างนั้นกรีดร้องด้วยความตกใจ ตั้งแต่ฝาจุกถูกเปิดออก เจ้าหล่อนหายตัวแวบไปอยู่หลังพาทิศก่อนที่น้ำมนต์ในขวดนั้นจะสาดมาโดนร่างวิญญาณของตนหวุดหวิด

   “อะไรกันพาทิศ  ไหนบอกเล่น ๆ ไงล่ะ น้ำมนต์นั่นของจริงนะยะ  ถ้าฉันโดนเข้ามีหวังได้ไปเกิดใหม่แน่!”

   ผีสาวโวยวายลั่นอย่างขวัญผวา ทว่าคำพูดของเธอทำให้พาทิศหน้าเจื่อน เจ้าตัวรีบจุ๊ปากให้อีกฝ่ายเงียบ โดยใกล้กันก็มีเสียงกลืนน้ำลายลงคอ ดังจากร่างของใครบางคนที่ถูกจับและสลบอยู่ และนั่นทำให้ตุลาเริ่มสังหรณ์ใจแปลก ๆ บางอย่างขึ้นมาได้

   “ไม่จริง...หรือว่านี่ยังอยู่ในเกมทดสอบความกล้านั่น?”

   “เอ่อ...คือ ฉันอธิบายได้นะตุล แบบว่า...”

   พาทิศที่ดูมีเรี่ยวมีแรงผิดจากเดิมค้างคำพูดไว้ดื้อ ๆ เพราะเห็นแววตาเสียใจระคนโมโหจากคนรักของตนที่จ้องมองมาและไล่มองกวาดไปยังแต่ละคนในห้องนั้น

   “ผมกลัวแทบตาย ...กลัวว่าทุกคนจะเป็นอันตรายแท้ ๆ”

   น้ำเสียงและแววตาตัดพ้อนั่น ทำให้ร่างที่แกล้งสลบแต่ละคนเงยหน้าและลืมตาขึ้นมามองกันไปมาเลิ่กลั่ก

   “ฉันบอกแล้วว่ามันไม่เวิร์กไง...ตุลโกรธจริง ๆ ด้วยเห็นไหม”

   รุ้งพรายที่เลิกแกล้งสลบหันไปบ่นกับวิญญาณเพื่อนสาว แต่นั่นทำให้ราตรีหันมาเขม่นใส่หล่อน

   “แล้วก่อนหน้านั้นใครกันที่หัวเราะคิกคักที่หลอกเขาได้ แถมยังปลื้มอกปลื้มใจที่ตุลห่วงตัวเองซะไม่มีน่ะ!”

   พอราตรีพูดจบปิ่นสุดาที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบเอ่ยเสริมตามมาทันที

   “นั่นสิคะ...เป็นอย่างที่คุณราตรีบอกนั่นล่ะ”

   “ไม่เข้าข้างแล้วก็อย่าซ้ำเติมสิยะปิ่น!”

   รุ้งพรายรีบแก้ตัวเสียงแหลมใส่ เพราะตุลานั้นหันขวับมามองเธอเขม็ง เห็นดังนั้นอธิปก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ เขาปลดเชือกที่มัดตัวเองออกง่าย ๆ เพราะมันแกล้งผูกไว้หลอก ๆ นั่นเอง

    “คนต้นคิดล่ะว่าไง เงียบเชียวนะ”

   หมอผีหนุ่มหันไปทางอีกคนที่นั่งข้าง ๆ เขา กริชเหลือบมองคนรัก แล้วจึงยักไหล่น้อย ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

   “ไม่ดีหรอกหรือ หลานฉันยอมทำทุกอย่างทั้งที่กลัวแทบตายก็เพื่อทุกคนในที่นี้ เพราะอย่างนั้นต่อให้เขาจะดูไม่เท่ หรือดูตลกยังไง แต่เพื่อทุกคนแล้วเขาก็สามารถเป็นคนกล้าได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นกันใช่ไหมล่ะ”

   คำพูดของกริชทำให้คนที่กำลังโมโหเริ่มรู้สึกซาบซึ้งแทน โดยมองข้ามสิ่งที่อธิปบอกไปเสียแล้วว่า คนที่คิดแผนการครั้งนี้ขึ้นมาเป็นใคร

    “อาครับ...”

   ตุลาพึมพำเรียกอาของเขา กริชแก้เชือกออกแล้วลุกเดินไปหาหลานชาย ก่อนจะลูบศีรษะอีกฝ่ายเบา ๆ อย่างอ่อนโยน

   “อย่าลืมความรู้สึกนี้ล่ะตุล ต่อให้ต้องพบกับอุปสรรคขนาดไหน  แต่ถ้าตุลนึกถึงคนที่ตุลรัก ตุลก็จะมีความกล้าที่จะฝ่าฟันมันเอง”

   ตุลารับฟังด้วยความตื้นตันที่อานั้นคิดเพื่อเขาเช่นนี้ เจ้าตัวพยักหน้าน้อย ๆ แล้วตอบรับกลับไป

   “ครับอา”

   ภาพอันน่าซาบซึ้งของอาหลานทำให้หลายคนในห้องมองด้วยความรู้สึกทะแม่ง โดยเฉพาะรุ้งพรายนั้นถึงกับบ่นอุบออกมาทีเดียว

   “ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมเราต้องโดนตุลโกรธ แต่เขากลับได้รับความชื่นชมจากตุลแทนล่ะ!”

   “ฉันบอกพวกเธอแล้ว ว่าต่อให้ความแตก ยังไงคนต้นคิดอย่างนายกริชก็ไม่มีวันโดนโกรธหรอก”

    อธิปเปรยขัดด้วยน้ำเสียงเอือมระอา จนทำให้คนฟังชะงัก แล้วหันไปค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปโอบบ่าหลานชายชวนเดินออกไปจากห้องนั้น

   “ปล่อยพวกนั้นไปเหอะ ตุลคงเหนื่อยแล้วใช่ไหม พวกเราเตรียมงานเลี้ยงปลอบขวัญเอาไว้ให้ตุลแล้ว รับรองว่าตุลต้องชอบแน่ เพราะมันมีของโปรดตุลทั้งนั้น”

   “เอ๋...เดี๋ยวครับ...แล้วผีผู้หญิงคนนั้น”

   ผีสาวในชุดแดงพอได้ยินตุลาพูด เธอก็ชี้หน้าตัวเองอย่างแปลกใจ

   “ฉัน?  อ๊ะ! นี่เธอจำฉันไม่ได้จริง ๆ  รึ  เราก็เจอกันออกบ่อยไม่ใช่หรือไง”

   คำตอบนั้นทำให้ตุลาขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วย้อนถามกลับไป

   “เอ๋? เคยเจอหรือครับ”

   “เธอปรากฏกายในร่างนี้ เด็กนี่ไม่มีทางจำได้หรอก ลองกลับร่างเดิมของเธอดูสิชบา”

   อธิปเปรยขัดเสียงเนือย ๆ ซึ่งผีสาวในชุดแดงพอได้ยินเธอก็ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

   “ค่ะนาย”

   ผีสาวที่ชื่อชบาตอบ จากนั้นจึงปรากฏกลุ่มควันล้อมรอบร่างของเธอ ทว่าพอกลุ่มควันจางลง ตุลาก็ต้องเบิกตากว้าง อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้เห็น

   “ไงเจ้าหนู จำฉันได้หรือยัง เราเจอกันบ่อยใช่ไหมล่ะ นอกจากฉันก็มีพี่ชายฉันอีกสองคนยังไงล่ะ  เอ๋? เจ้าหนู ....เจ้านายคะ เด็กนี่เป็นลมอีกแล้วล่ะ!”

   หัวกะโหลกลอยได้ขยับปากพูดเป็นชุด แต่คนอื่น ๆ นี่สิ กลับถอนหายใจแทบจะพร้อมกัน เพราะคนที่แม้จะเห็นวิญญาณหรือเจอสถานการณ์เลวร้ายแต่ก็ยังไม่เป็นอะไร  ทว่าแค่พอเห็นหัวกะโหลกคนลอยได้ กลับเป็นลมไปแบบนี้ มันก็ชวนให้น่าสมเพชอยู่มิใช่น้อย

    “อธิป...”

   กริชหันไปมองคนรักด้วยแววตาคมกริบเอาเรื่อง ทำให้หมอผีหนุ่มสะดุ้งโหยง แต่พอกริชค้อนให้อย่างงอน ๆ แล้วบอกให้พาทิศอุ้มร่างตุลาไปไว้ที่บนห้องนอนของเจ้าตัว อธิปก็รีบโวยวายตามหลังไปทันที

   “เฮ้ย! ความผิดฉันหรือไงนายกริช! เดี๋ยวก่อนสิ อย่าเดินหนีแบบนั้นสิ กลับมาพูดกันดี ๆ เลยนะ!”

   หัวกะโหลกหญิงสาวมองตามเจ้านายของเธอไปอย่างนึกสงสาร แล้วจึงหันมาหาคนอื่น ๆ ที่แก้มัดตัวเองกันหมดแล้ว

   “อย่างนี้พวกเราก็ยังเริ่มงานเลี้ยงไม่ได้ล่ะสิเนี่ย”

   “ก็คงงั้น ...จริงสิชบา เธอไปชวนพี่ชายเธออีกสองคนมาแนะนำตัวกับตุลตอนเขาฟื้นสิ เขาจะได้คุ้นเคยกับพวกเธอยังไงล่ะ”

    รุ้งพรายรีบบอกอย่างนึกสนุก แต่ราตรีนั้นตีไหล่เพื่อนสาวดังเผียะอย่างหมั่นไส้

   “รู้น่าว่าจะหลอกให้ตุลกลัวอีก คิดจะทำให้คุณกริชโกรธหรือไง ฉันน่ะไม่ขอมีเรื่องกับคนนั้นหรอกนะ คนอะไรไม่รู้โหดชะมัดกับหลานรักแท้ ๆ ยังแกล้งซะสมจริงขนาดนี้ ขืนไปทำให้โกรธจริง ๆ  จะถูกเอาคืนแบบไหนก็ไม่รู้”

   ราตรีบ่นเบา ๆ แต่ปิ่นสุดาและชบาที่รับบทร้ายครั้งนี้ ต่างก็พยักหน้ารับเห็นด้วยเต็มที่

   “แหม...ก็แค่อยากแนะนำสมาชิกในบ้านให้รู้จักกันถ้วนหน้าแค่นั้นเอง ไม่ได้คิดจะแกล้งเสียหน่อย”

    รุ้งพรายบอกอ้อมแอ้ม แล้วรีบเดินเผ่นออกจากห้อง ก่อนที่จะถูกรุมต่อว่าอะไรอีก

   “ว่าแต่ไม่รู้คุณตุลจะโกรธคุณพาทิศมากไหม เล่นเอาเรื่องอ่อนไหวแบบนั้นมาหลอกกันแบบนี้ด้วยสินะคะ”

   ปิ่นสุดาพึมพำอย่างเป็นห่วงทั้งคู่ ทำให้ราตรีกับชบาหันมาสบตากัน แล้วต่างฝ่ายต่างก็สั่นศีรษะไปมา

   “ช่วยไม่ได้ พาทิศเองก็รู้อยู่แล้วล่ะว่า ถ้าเล่นเรื่องพวกนี้ก็ต้องเสี่ยงกับการโดนโกรธเป็นธรรมดา แต่ยังไงหมอนั่นน่ะเก่งเรื่องง้อคนอยู่แล้ว แถมทั้งคู่ก็เป็นคนรักกันแบบนั้น ฉันว่านะแทนที่เธอจะห่วงว่าเขาจะโกรธกัน สู้ห่วงว่าจะง้อกันจนเกินงาม แล้วตุลจะลุกไม่ไหวในวันพรุ่งนี้แทนมากกว่า”

   ราตรีบอกตรง ๆ จนปิ่นสุดาหน้าแดงวาบ ส่วนชบานั้นหัวเราะอย่างขบขันจนหัวกะโหลกของเธอสั่นคลอน

   “ฮ่า ๆ นั่นสินะ แถมเผลอ ๆ จะไม่ใช่คู่เดียวอีก คุณกริชกับนายก็เหมือนกันทะเลาะกันทีไร ก็จบด้วยการง้อบนเตียงทุกที ฉันกับพี่ ๆ น่ะเลยได้ดูของดีเพลิน ๆ กันทุกวัน”

   ปิ่นสุดาหันไปมองผีกะโหลกสาวด้วยความอิจฉา เพราะไม่ว่าจะเป็นห้องของตุลาหรือห้องของอธิป ทั้งสองห้องก็มักมีเขตแดนกางขวางกั้นการแอบดูของเธอและเพื่อน ๆ เสมอ

   “หึ ๆ งั้นคืนนี้ฉันจะผนึกเธอกับพี่ของเธอไว้ในลังเก็บของในห้องเอง ชบา จะได้มีเวลาพักผ่อนยังไงล่ะ”

   เสียงเยียบเย็นจากทางเข้าออกห้องใต้ดินทำให้ทั้งสามสะดุ้งเฮือก โดยเฉพาะหัวกะโหลกผีสาวที่ค่อย ๆ หันกลับมาหา

   “มาได้ยังไงคะเจ้านาย ไม่ได้ตามไปง้อคุณกริชหรือคะ”

   “ก็ตามไปอยู่นั่นล่ะ แต่ดันนึกได้ว่าลืมลูกน้องปากมากไว้ที่ห้องใต้ดิน ขืนปล่อยให้อยู่นานกว่านี้มีหวังความลับฉันโดนล้วงออกมาหมดพอดี!”

   อธิปประชด แล้วจับหัวกะโหลกของชบาหิ้วติดมือกลับขึ้นไปชั้นบน โดยมีเสียงขอโทษของผีสาวดังไปตลอดทาง ส่วนราตรีกับปิ่นสุดานั้นหันมาสบตากันปริบ ๆ แล้วต่างฝ่ายต่างก็ทำเสียงถอนหายใจออกมาเบา ๆ

   “ไปเฝ้าตุลดีกว่าแฮะ”

   “อืม...นั่นสิคะ”

   ปิ่นสุดาพึมพำตอบรับ และทั้งคู่จึงออกจากห้องใต้ดินตรงไปยังห้องของตุลาที่ตอนนี้มีสมาชิกคนอื่น ๆ ยืนเฝ้าให้กำลังใจ และบางรายก็ช่วยปฐมพยาบาลให้ชายหนุ่มฟื้น จนห้องกว้าง ๆ ของอีกฝ่ายกลับดูคับแคบไปถนัดตาเลยทีเดียว







... TBC ...

ยังเหลืออีกตอนเป็นบทสรุปปิดท้ายค่ะ ^ ^ หลังจากนั้น ก็จะหยุดพักนิดนึงแล้วจะเริ่มเขียนตอนพิเศษให้อ่านกันค่ะ

สุขสันต์วัน x-mas กันนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 24-12-2011 22:54:18
มาตอนแรกทำเอาเราตกใจเลย นึกว่าเจอคนรักของพาทิศจริงๆ
มาแบบหลอนเลย  o22  กำลังกลัวเลยว่า จะมาทำอะไรตุลาหรือเปล่า
แต่คำพูดของตุลานี้จริงใจ+โดนใจเรามากๆ สุดยอดไปเลยตุลา
ฮ่ะๆ ผลสุดท้าย ตุลาก็สลบไปจนได้ (สลบเพราะเห็นหัวลอย เป็นเราเราก็ช๊อคเหมือนกันนะ)
+เป็ดกิ๊บก๊าบ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 24-12-2011 22:59:43
พอดีกำลังเบลอ  ๆ นี่โพสไปต้องไล่อ่านทวนคำผิด ดังนั้นใครอ่านตอนโพสทันทีอาจจะเจอประโยคแปลก ๆ บ้างก็ต้องขออภัยนะคะ ตอนนี้กำลังไล่ทวนอ่านค่ะ ถ้ายังมีหลงเหลืออยู่ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ ตอนรีไรท์จะตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 24-12-2011 23:09:22
แหม่เล่นทดสอบแบบเนี่ย มันก็แรงต่อความรู้สึกนะ
เป็นเราก็คงโกรธพาทิศน่าดู
เฮ้อ เอาใจช่วยให้ตุลหายโกรธล่ะกัน :oo1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 24-12-2011 23:21:24
งืดดด แอบคิดว่าเรื่องจริง ลุ้นแทบแย่

ว่าแต่จะง้อกันแบบไหนนะ อิอิอิอิ

หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 24-12-2011 23:33:13
แผนอากริชแรงมาก แอบตกใจเลยนึกว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับตุลแล้วนะเนี่ย :sad4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 24-12-2011 23:48:08
แผนที่แกล้งเเรงมาคะอากริช 555
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 24-12-2011 23:49:06
ตกใจหมดเลยนึกว่าจริง o22

ค่อยยังชั่ว ลงเอยด้วยดี  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 24-12-2011 23:51:52
ถ้าไม่โดนจับได้ ตุลจะถูกหลอกไปจนถึงขั้นไหนนะ   :really2:

ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า  Merry Christmas นะคะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 25-12-2011 01:19:38
มารอดูว่าพาทิศจะใช่วิธีไหนง้อตุล :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: catwander ที่ 25-12-2011 01:46:41
ไม่ค่อยได้โจ๊ะพรึมๆ กันเลยแฮะ 2 คู่นี้
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 25-12-2011 02:58:10
อากริช
คิดบทซะสมจริงเลยนะครับ
รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จะยกให้ใครดีล่ะครับงานนี้ ฮ่าๆๆ
พาทิศ ดีไหมครับ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 25-12-2011 10:26:47
แม๊ ตะละคน เหอะๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 25-12-2011 11:18:42
จะง้อกันท่าไหนละเนี่ย(เอ๊ะ หรือว่ามีหลายท่า เอิ๊กๆ)
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 25-12-2011 21:16:58
ง่ะ บอกเลยว่าไม่เวิรค์นะ เล่นกับความรู้สึกน่ะ แต่ว่ามาฮา ตอนเจอผีหัวกะโหลกแทนนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 25-12-2011 21:58:45
บททดสอบแบบนี้ ระวังตุลตายจริงๆหรอก  :serius2:

อากริชทำเนียน ที่แท้ก็ตัวต้นคิด  :z3:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 25-12-2011 22:41:44
ตุลก็คือตุล จะกล้าแค่ไหนแต่ถ้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแล้วล่ะก็คงเป็นลมไปได้ง่ายๆเหมือนกัน ฮ่าๆ
พาทิศง้อตุลดีๆล่ะ รายนั้นขาห่วงแบบจริงจังเลยนะเนี้ย


เมอร์รี่คริสต์มาสนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (24/12/11) ตอนที่ 27-28
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-12-2011 22:48:04
ง่าา โล่งอก นึกว่าตุลย์จะเป็นอะไรมากซะอีกนะเนี่ย
ดีนะได้น้ำมนต์มาช่วย แผนเลยแตกยับเยิน ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 25-12-2011 23:07:15


ม่านราตรี
บทสรุป

   

   ตุลาปรือตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความโล่งอกของทุกคน ชายหนุ่มนั้นตกใจในทีแรกที่ถูกรุมล้อมรอบเตียงแบบนี้ ทว่าพอเห็นสีหน้าแสดงความเป็นห่วงของแต่ละคน เขาจึงยิ้มน้อย ๆ ออกมาได้

   “ค่อยยังชั่ว ฟื้นสักที อุตสาห์ชนะเกมทดสอบความกล้าได้แท้ ๆ แต่ดันมาตกม้าตายตอนจบเป็นลมเพราะเห็นหัวกะโหลกพูดได้ลอยได้นี่ มันไม่ค่อยเข้าท่าเลยนะตุล”

   รุ้งพรายบอกด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อกริชตวัดสายตาคมกริบมายังหล่อน

   “เอ๋ ...ผมชนะเกมหรือครับ...แต่ผม...”

   ตุลาจำได้เพียงว่าเขาหยิบน้ำมนต์ออกมาสู้ทำให้จับผิดทุกคนได้ หรือนั่นก็ถือว่าชนะแล้ว

   “ความจริงน่ะ แค่ตุลไม่หนีไปตั้งแต่ไม่เจอปิ่น และกลับเข้ามาตามมาหาพวกเรา นั่นก็เท่ากับตุลผ่านด่านทดสอบความกล้าในครั้งนี้แล้วล่ะ แต่อันที่เจอในช่วงกลางคืนนั่นมันของแถมที่พวกหนุ่ม ๆ เค้าคิดกันเองต่างหาก”

   ราตรีบอกตามมาแล้วยิ้มหวาน ทำให้ชายหนุ่มทั้งสามเหลือบมองเธอตาปริบ ๆ เพราะวิญญาณสาวเล่นตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่คิดอยู่รับผิดชอบในแผนการครั้งนี้ร่วมกันกับพวกเขาเลยสักนิด

    “ใช่ ๆ พวกเราไม่เกี่ยวสักหน่อย เราแค่จำใจหลอกตามแผนเท่านั้น ทั้งที่สงสารตุลจะตาย”

   รุ้งพรายรีบเสริม ส่วนปิ่นสุดาก็พยักหน้าหงึก ๆ แต่นั่นกลับทำให้ตุลาขมวดคิ้วยุ่งเล็กน้อย

   “จำใจหรือครับ แต่เมื่อตอนตีห้านั่น แต่ละคนแกล้งไม่รู้ไม่ชี้กันเนียนมากเลยนะครับ”

   “เอ๋? ตอนตีห้า ...นั่นไม่ใช่ตุลแกล้งว่าเห็นผีเองหรอกรึ”

   ราตรีมีสีหน้าแปลกใจ แต่นั่นกลับทำให้ตุลาหน้าซีดเผือด ทว่าเพียงครู่เดียววิญญาณหญิงสาวก็หัวเราะคิก เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่พากันอมยิ้มตามมา

   “หลอกเล่นน่ะ ...ก็พวกฉันเป็นภูตผี ก็ต้องหลอกเก่งเป็นธรรมดายังไงล่ะ”

   ตุลาบ่นอุบอิบกับตัวเองอย่างนึกงอน จากนั้นทุกคนจึงเฉลยแผนการที่ผ่านมาให้ฟัง โดยเริ่มจากการให้ชบาซึ่งเป็นหนึ่งในบริวารของอธิป แกล้งปรากฏกายให้ตุลาเห็น แล้วจึงวางแผนหลอกแบบไม่เห็นตัวเป็นระยะ ส่วนปิ่นสุดาที่หายตัวไปก็เพราะเธอไปซ่อนที่บึงน้ำนอกคฤหาสน์ตั้งแต่ก่อนเช้าแล้ว

   “สรุปผมก็โดนทุกคนหลอกตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดีล่ะนะครับ ...แถมยังล้อเล่นกันแรง ๆ แบบนั้นอีก”

   ตุลามองคนรักแล้วค้อนนิด ๆ ให้อย่างนึกงอน จนทำให้พาทิศสั่นศีรษะไปมา แล้วยกมือยอมแพ้

   “ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจหลอกกันแบบนั้นหรอก ...แต่ก็ดีใจมากเลยที่ตุลยอมทำเพื่อฉันและเข้าใจฉันขนาดนั้นน่ะ”

   คำพูดอ้อน ๆ ของผีดิบหนุ่มทำให้คนฟังใจเต้นแรง พร้อมกับหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย จนคนอื่น ๆ มองสบตากันปริบ ๆ

   “แล้วจะเอายังไงกับงานเลี้ยง  จะลงไปฉลอง หรือจะแยกย้าย...ปรับความเข้าใจ”

   อธิปเว้นวรรคก่อนจะส่งสายตาแฝงความนัยที่ทำให้คนมองตอบต้องอมยิ้ม จากนั้นผีดิบหนุ่มจึงหันไปถามคนรักของเขาบ้าง

   “ตุลหิวไหม...ถ้ายังไม่หิว ฉันมีของหวานให้กินบนห้องนี้แทน สนไหม”

   ตุลาหน้าแดงก่ำ ส่วนสาว ๆ ก็พากันแอบซุบซิบแล้วหัวเราะคิกคักกันอย่างสนุกสนาน ทว่ากริชกลับมองผีดิบหนุ่มอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ได้เอ่ยขัดอะไรออกไปเพราะรู้ว่าหลานชายนั้นรักอีกฝ่ายมาก และพาทิศเองก็ให้ความสำคัญกับหลานของเขามากเช่นกัน 

   “ผะ...ผมว่า ไปทานพร้อมกันทุกคนจะดีกว่านะครับ”

   ตุลาเลี่ยงตอบทำให้คนฟังแต่ละคนทำท่าถอนหายใจไล่เลี่ยกัน ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตามมาถ้วนหน้า

   “งั้นก็ได้ ไปฉลองกันก่อน ...แต่ถ้าเสร็จแล้ว ต้องมากินของหวานกันสองต่อสองในห้องนี้นะ”

   พาทิศกระซิบ ทำเอาตุลาหน้าแดงหนัก แล้วรีบก้มหน้าเดินงุด ๆ ลงไปชั้นล่าง ท่ามกลางเสียงหัวเราะและรอยยิ้มที่ดังไล่หลังของเขาไปติด ๆ



    เมื่องานเลี้ยงฉลองจบลง พาทิศกับตุลาก็เลี่ยงขึ้นไปนั่งปรับความเข้าใจกันต่อบนห้อง เพราะผีดิบหนุ่มนั้นสังเกตได้ว่า ตุลายังคงไม่ค่อยพอใจนักกับแผนลองใจที่พวกเขาร่วมมือกันหลอก ซึ่งก็ยืนยันได้เป็นอย่างดีเมื่อหลังจากขึ้นมาบนห้องสักพัก ตุลาก็เริ่มตั้งคำถามขึ้นทันที

   “ทำไมต้องคิดแผนแบบนั้นขึ้นมาด้วยล่ะครับ…”

    ผีดิบหนุ่มยิ้มน้อย ๆ โอบร่างของคนรักมานั่งด้วยกันบนเตียง แล้วจึงเริ่มเล่าให้ฟัง

      “...ก็ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนที่พวกเราปรึกษาเรื่องการทดสอบความกล้ากันนั่นล่ะ ก็มีการเสนออะไรหลายอย่าง แล้วก็มีการแซวกันไปแซวกันมา จนมีบางคนบอกว่า ถ้าเจอของน่ากลัวแบบนี้ยังไงก็ขอแผ่นแนบหนีเอาตัวรอดไว้ก่อนดีกว่า แล้วพวกฉันบางคนก็สะดุดคิดขึ้นมาว่า ถ้าเกิดมีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวกว่าพวกเราปรากฏขึ้นมาล่ะ แล้วชีวิตของพวกเรากำลังอยู่ในความเป็นความตาย ตุลจะหนีหรือจะทิ้งพวกเรากัน...”

   พาทิศเล่ามาเรื่อย ๆ ก่อนจะหยุดเว้นวรรค สังเกตสีหน้าที่ซีดเล็กน้อยของอีกฝ่าย แล้วจึงพูดต่อ

     “หึ ๆ เป็นความคิดที่แย่ดีไหม แต่พวกเราบางคนที่เคยเจอกับการหักหลังของมนุษย์มาก่อนที่จะได้เจอกับคุณจอมเดช ก็ยังมีความหวาดระแวงอยู่ลึก ๆ ในใจของพวกเรา และก็อยากทดสอบว่าคนที่เราชอบมากที่สุดในปัจจุบันเขาจะทรยศเราไหม”

   ตุลากลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอ่ยขัดขึ้นเสียงแผ่ว

   “งั้นถ้าผมเกิดหนีไปแทนล่ะ ทุกคนจะผิดหวังและโกรธผมมากไหม...”

   พาทิศมองหน้าคนรักแล้วแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ก่อนจะย้อนถามกลับไปแทน

   “ รู้ไหมว่าทำไมแผนการลองใจครั้งนี้ถึงเกิดขึ้นได้”

   ตุลาส่ายหน้าแทนคำตอบ ทำให้คนมองอมยิ้ม แล้วเอ่ยต่อ

   “ก็เพราะคุณกริชบอกว่า ต่อให้ต้องเจอกับอันตรายร้ายแรงขนาดไหน ตุลก็จะไม่มีวันทิ้งทุกคนที่นี่ไปน่ะสิ”

    “อากริช...”

   ตุลาพึมพำถึงอาของเขาอย่างตื้นตันใจ พาทิศลูบศีรษะของคนรักเบา ๆ แล้วจึงเล่าต่อ

    “อาของเธอเชื่อมั่นในตัวเธอ และพยายามแสดงให้พวกเราเห็นว่า พวกเราเลือกคนไม่ผิด ...ตอนที่ตุลเลือกกลับมาช่วยพวกเรา เชื่อไหมรุ้งกับราตรีถึงกับน้ำตาซึมเลยทีเดียว นี่ถ้าปิ่นอยู่ด้วยรายนั้นคงปล่อยโฮให้แผนเสียไปแล้ว”

   ตุลายิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข ดีใจที่ไม่ทำให้ทุกคนที่เขารักผิดหวัง

   “แล้วอย่าแอบไปบอกพวกเธอล่ะ”

   พาทิศบอกตามมา ทำให้ตุลาหลุดขำเบา ๆ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

   “แล้วทำไมต้องทำให้ผมสลบแล้วเล่นละครลวงโลกนั่นต่อล่ะครับ”

   ผีดิบหนุ่มคลอนศีรษะไปมาอย่างเอือมระอาเมื่อนึกถึงตอนที่วางแผน แล้วจึงบอกคนรักต่อด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ

   “ก็มันเป็นไคลแมกซ์ของแผนน่ะสิ”

    “ไคลแมกซ์?”

   ตุลาทวนคำอย่างแปลกใจ พาทิศยักไหล่ค่อย ๆ แล้วจึงเล่าต่อ

     “ใช่... อาเธอบอกว่าอุตสาห์วางแผนทั้งทีจะให้จบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ก็เสียของแย่ ยังไงล่ะ”

   ตุลาเงียบกริบ ความประทับใจต่อผู้เป็นอาเริ่มลดลงไปกว่าครึ่งทีเดียว เห็นสีหน้าแบบนั้นพาทิศเลยหัวเราะด้วยความขบขัน พลางจับศีรษะของอีกฝ่ายโยกเบา ๆ แล้วจึงเอ่ยต่อ

   “นี่ถ้าเธอไม่หยิบน้ำมนต์ออกมา ชบาก็แค่จะจับคอเธอแต่ไม่ได้บีบ จากนั้นก็จะเฉลยแผนการ แล้วพวกเราทุกคนก็จะลุกมาโอบล้อมยินดีตอนที่เธอกำลังงง ๆ   แต่แผนดันมาเปลี่ยนนิดหน่อยตอนเธอกล้าสู้นี่ล่ะ ทำเอาฉันอึ้งไปเลยทีเดียว เธอนี่เก่งเอาเรื่องกว่าที่ฉันคิดอีกนะ”

    ตุลาเกาแก้มเขิน ๆ เมื่อได้รับคำชม แต่แล้วก็นึกถึงผีสาวอีกตนขึ้นมาได้

   “...แย่จังเกือบจะทำร้ายคุณชบาไปเสียแล้ว ถ้าทำให้เธอต้องไปเกิดโดยไม่เต็มใจล่ะก็....”

   พาทิศพอเห็นสีหน้าของคนรักหมองลงหลังพูดจบ ก็รีบบอกปลอบตามมาทันที

     “ไม่เป็นไรหรอกหล่อนก็โวยวายไปอย่างนั้นล่ะ ต่อให้โดนน้ำมนต์จริง ๆ วิญญาณตายโหงอย่างหล่อนก็ไปเกิดง่าย ๆ ไม่ได้หรอกนะ  ที่สำคัญหล่อนและพี่ ๆ ก็ดูเหมือนจะติดใจคุณอธิปพอสมควร ขนาดคุณอธิปจะปลดปล่อยวิญญาณให้ไปสู่สุคติเพราะจะเลิกเป็นหมอผี พวกนั้นยังไม่ยอมกันเลย แถมยังจะขอติดตามไปจนกว่าคุณอธิปจะตายทีเดียว”

   ตุลาหัวเราะเจื่อน ๆ หวนคิดถึงหัวกะโหลกสามหัวในห้องของหมอผีหนุ่มแล้วก็ต้องกอดอกห่อไหล่ด้วยความกลัว จนทำให้พาทิศอมยิ้มนิด ๆ อย่างเอ็นดู

   “ฉันน่ะดีใจมากรู้ไหม ตอนที่เห็นตุลโกรธเพื่อฉัน แถมยังบอกว่าจะไม่ยอมส่งฉันให้ใครอีก ฉันงี้ปลื้มจนลืมตัวยิ้มออกมาเลยทีเดียว”

   ตุลาหน้าแดงวาบ เมื่อหวนคิดถึงคำพูดของตัวเองยามนั้น เขาพยายามหลบสายตาที่บ่งบอกถึงความรักของอีกฝ่ายอย่างเขินอาย จนทำให้พาทิศอดที่จะรวบร่างบางนั้นมากอดมาจูบเสียไม่ได้

   “ขอโทษนะที่ทำร้ายความรู้สึกของตุลแบบนี้”

   ผีดิบหนุ่มกระซิบบอกอย่างจริงจังหลังจากที่หากำไรไปจากคนรักเสียชุ่มปอด

    “ช่วยไม่ได้นี่ครับ...แค่ให้ทุกคนรู้ว่าผมชอบและไม่คิดทอดทิ้งทุกคนที่นี่ ผมก็พอใจแล้วครับ”

   คำตอบจริงใจที่ไร้สิ่งใดเคลือบแฝง ทำให้พาทิศต้องโน้มใบหน้าลงจูบแก้มซ้ายแก้มขวาของคนรักอีกครั้ง ก่อนจะประคองเอนร่างนั้นให้ล้มลงไปบนเตียงนอนนุ่มด้วยกัน

   “เด็กดี อย่างนี้ต้องให้รางวัลเสียแล้ว”

   ตุลาหน้าแดงระเรื่อ รู้ทันทีว่ารางวัลของอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

    “เอ่อ ไม่ดีมั้งครับ เพิ่งทานมาอิ่ม ๆ”

   ชายหนุ่มพยายามเลี่ยงปฏิเสธ ความจริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมีสัมพันธ์กับพาทิศหรอก เพียงแต่จะให้ตอบรับโต้ง ๆ เลยเขาก็ค่อนข้างกระดากปากและอายอยู่มากทีเดียว

   “อิ่มหรือ... งั้นก็ต้องออกกำลังกายให้อาหารย่อยสินะ”

   ทว่าพาทิศยังคงดึงเข้าเรื่องเดิมจนได้ ทำให้ร่างในอ้อมกอดหน้าแดงก่ำ แล้วโวยวายเบา ๆ ด้วยความเขินอาย

   “แล้วทำไมต้องวกมาเรื่องนี้ประจำเลยล่ะครับ!”

   “ใครใช้ให้ตุลน่ารักเองนี่”

   พาทิศกระซิบ แล้วไม่ยอมรอให้ตุลาปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยง เขาค่อย ๆ เล้าโลม จนสติของชายหนุ่มเริ่มเตลิดเปิดเปิงไปทีละน้อย

   “ดะ เดี๋ยว...คุณพาทิศ”

   “หือ อะไรหรือ”

   พาทิศเงยหน้าจากแผ่นอกขาวเนียนขึ้นมามองสบตาคนรักอย่างแปลกใจ

   “เอ่อ...อย่าทำรุนแรงนักนะครับ”

   ตุลาบอกด้วยใบหน้าแดงจัด ทำให้คนมองต้องชะโงกหน้าไปจูบปากนุ่มนั้นเบา ๆ อย่างเอ็นดู

   “โอเค รับรองจะอ่อนโยนด้วยนะ”

   ผีดิบหนุ่มรับปาก แล้วมือไม้และริมฝีปากจึงเริ่มซุกซนปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนรักต่อไปเรื่อย ๆ ก่อนจะชะงักมือของตน เมื่อได้ยินเสียงห้ามปรามอีกครั้ง

   “อะไรหรือตุล”

   “เอ่อ...อย่าลืมสร้างเขตแดนด้วยนะครับ ...คือผมกลัวคนแอบดู”

   พาทิศหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ พลางชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนรักอีกข้างละฟอด

   “โอเค ๆ เกือบลืมแล้วนะเนี่ย ขอบใจนะ”

   ทว่าก่อนที่เขตแดนของผีดิบหนุ่มจะสมบูรณ์ ตุลาได้ยินเสียงแว่ว ๆ บ่นของใครบางคนดังขึ้น เขาหน้าแดงก่ำ พลางนึกในใจว่าคิดถูกแล้วล่ะนะที่ขอให้พาทิศทำแบบนี้  จากนั้นเมื่อเขตแดนเสร็จเรียบร้อย ตุลาจึงค่อย ๆ หลับตาพริ้ม รอรับจุมพิตอ่อนโยนของคนรักที่มอบให้ตนอย่างมีความสุข อีกครั้ง





…The End…





จบแล้วค่ะ อาจจะดูห้วนไปนิด แต่ก็อยากให้ปิดฉากอยู่หวานๆ  แบบนี้ล่ะนะคะ



แล้วเจอกันในตอนพิเศษเร็ว ๆ นี้ค่า ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน

อาจจะไม่ได้ตอบคอมเมนต์หรือพูดคุยด้วยแต่ก็อ่านคอมเมนต์ทุกท่านนะคะ ถ้าคนไหนมีคำถามสงสัยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องก็จะทยอยตอบให้ทีละรายค่ะ แต่ไม่ว่าเป็นคอมเมนต์แบบไหน ก็ทำให้ปัดรู้สึกดีใจมาก จนถึงกับว่าพอมีคอมเมนต์เพิ่มก็ต้องคลิกมาอ่านแล้วยิ้มเป็นประจำทีเดียว

สำหรับเรื่องหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะเขียนแนวไหน แต่ช่วงนี้ติดใจเขียนแนวใส ๆ เสียแล้วสิคะ ^ ^” คงเพราะมันเขียนง่ายกว่าล่ะมั้ง ยังไงถ้าคิดพล็อตได้แล้วจะมาลงให้อ่านกันอีกทีนะคะ

ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ
 :pig4:



หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 25-12-2011 23:18:19
จบแล้ว 55+ อยากเป็นผีไปแอบดูเค้าบ้างอ่ะว่าจะหวานกันขนาดไหน ><
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 25-12-2011 23:21:59
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 25-12-2011 23:40:55
สนุกดีค่ะ นายเอกใสซื่อดี  :o8:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 25-12-2011 23:56:15
ตุลน่ารักอ่ะ ฮ่าๆ ตอนนี้มันแอบไม่มีคุณอานี่สินะ
เห็นด้วยกับตุล ทำไมต้องวกมาแบบนี้ทุกทีเลย  :-[ :-[ :-[ :-[

เมอร์รี่คริสต์มาสนะคะ

รอเรื่องต่อไป ^^ :L2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 26-12-2011 00:02:09
ว้าว ไม่เสียที ที่วันนี้นอนดึก ได้อ่านเรื่องนี้จนถึงตอนจบด้วย ขอบอกแอบชอบตั้งแต่เรื่อง ยมทูตนั่นแล้ว เสียดายที่ไม่ได้เป็นนิยายวาย แต่ก็น่ารักดี เรื่องนี้ชอบที่ให้ตัวละครทุกตัวมีบทบาท พระเอกกับนายเอก รักกันไม่มาก แต่ผมกับชอบที่ตุลคิดถึงแต่กริช และต้องการเดินตามรอยอาตน บวกกับภาพสถานที่ที่คนเขียนมีความสามารถการบรรยายได้ดีมากๆ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 26-12-2011 00:07:39
ทำไมมาตัดฉับแบบนี้  :-[

เราชอบแนวใสๆแบบนี้แหละ น่ารักดี เขียนอีกๆ เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อๆไปนะคะ รอตอนพิเศษด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 26-12-2011 01:18:37
จบซะแล้ว  ทุกอย่างลงตัว
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านนะครับ
ผมอ่านแล้วยิ้มไปทั้งเรื่อง ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 26-12-2011 01:26:08
แล้วทำไมต้องสร้างเขตแดนกั้นคนอ่านด้วยอ่ะอดได้อ่านเลย :z3:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 26-12-2011 05:30:05
จบเมื่อไหร่นี่ เค้าหายไปนานขนาดนั้นนนเลย แง้วว

น่ารักมากๆเลยค่ะเรื่องนี้ ตอนแกล้งตอนสุดท้ายนี้น่ากลัวเวอร์

นับถือใจตุลมากๆจริงๆ น่ารักแล้วยังแสนดีอีกนะตัว

พาทิศแสนดีมากกก แต่ก็แอบกลัวแฟนเก่าของพาทิศอยู่เหมือนกัน

คู่คุณอาก็น่ารักซะ อ๊ายยยย

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆน่ารักๆนะคะ อ่านรู้สึกดีรู้สึกมีความสุขมากๆเลยค่ะ

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 26-12-2011 06:23:33
เป็นอีกหนึ่งเสียงของ "เสียงแว่ว ๆ บ่นของใครบางคน"  :laugh:

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะคะ  :pig4:  ตุลและทุกคนน่ารักมาก โดยเฉพาะตุล อ่านแล้วสัมผัสได้ว่าทำไมถึงเป็นที่รักของทุกคนทุกตนขนาดนี้   :กอด1:

หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (25/12/11) บทสรุปเรื่องราว(บทที่29)
เริ่มหัวข้อโดย: Pepor ที่ 26-12-2011 21:49:31
ขอตามอ่านจนจบนะคะ
น่ารักทุกคน+ตนเลยค่ะ ตุลเข้มแข็งจริงๆ เพราะถ้าให้ไปอยู่แบบตุล สงสัยหัวใจวายไปนานแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 27-12-2011 10:30:31
หุ ๆ พอดีนั่งว่าง ๆ ไม่มีเพื่อนเมาท์ เลยหยิบนิยายมาปั่นตอนพิเศษ ได้ตอนพิเศษสั้น ๆ มาให้อ่านกันก่อน ตอนนึง

ยังไงก็จะทยอยปั่นมาให้อ่านเรื่อย ๆ นะคะ ตอนนี้ไฟยังแรงอยู่ ยังคิดนิยายเรื่องใหม่ไม่ได้ก็งี้ล่ะค่ะ
  :o8:



ตอนพิเศษ #1
(อธิป-กริช)





   เสียงพูดคุยกระซิบหยอกล้อ ค่อย ๆ เงียบหายจนสัมผัสไม่ได้ ทำให้คนแอบฟังอยู่อีกห้องต้องทำเสียงในลำคออย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก

   “ฮึ! เจ้าผีดิบนั่น รังแกหลานฉันอีกแล้วสิท่า”

   อธิปมองคนรักที่ยืนเดินไปเดินมาที่หน้าประตูห้องเขา  แล้วจึงสั่นศีรษะอย่างเอือมระอาตามมา

   “นายกริช หลานนายกับหมอนั่น เขาไปถึงไหนต่อไหนกันตั้งนานแล้ว นายยังจะห่วงจะหวงอะไรนักหนา หือ?”

   “ก็ร่างกายตุลไม่ค่อยแข็งแรงนี่นา!”

   กริชแก้ตัวพลางหน้าแดงนิด ๆ ที่ต้องมาเถียงกันเรื่องบนเตียงของคนอื่นแบบนี้

   “แค่เป็นฝ่ายรับมันจะอะไรนักเชียว”

   “จะลองเป็นดูมั่งไหมล่ะ!”

   กริชสวนกลับ จนคนฟังต้องทำสีหน้าแหยง ๆ แล้วรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ ทำให้วิญญาณหนุ่มค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้

    “ทำเป็นพูดดี นายนั่นล่ะหื่นตัวพ่อเชียวไอ้หมอผีบ้า นี่ดีนะที่ฉันตายไปแล้ว และไม่มีร่างเนื้อ ไม่งั้นมีหวัง...”

   กริชค้างคำพูด หน้าแดงก่ำ ไม่กล้าพูดต่อให้จบ ทำให้คนฟังอมยิ้มน้อย ๆ แล้วแกล้งถาม

   “มีหวังอะไร พูดต่อให้จบสิ”

   “มีหวัง...โธ่โว้ย งี่เง่า คืนนี้ฉันนอนที่อื่นดีกว่า!”

   กริชแกล้งโวยวายกลบเกลื่อนแล้วทำท่าจะหายตัวหนีไป แต่ก็ยังช้ากว่าคนที่นั่งบนเตียง เจ้าตัวดีดนิ้วเปาะเดียว ร่างของกริชที่หน้าประตูก็หายวับมาอยู่ตรงหน้า  ก่อนจะถูกเขารวบตัวมานั่งตักของตนเองในเวลาถัดมา

   “ปล่อยนะ! เจ้าหมอผีเฮงซวย! ฉันบอกหลายหนแล้วไงว่าไม่ให้ใช้อาคมกับฉัน!”

   อธิปหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ แล้วจึงหอมแก้มของร่างที่ดิ้นโวยวายบนตักของตนเบา ๆ จนร่างนั้นสะดุ้ง พอกริชดิ้น อธิปก็หอมซ้ำ จนวิญญาณหนุ่มต้องเลือกนั่งนิ่ง ๆ เพื่อไม่ให้ถูกคนรักแกล้งหากำไรจากเขาอีก

   “ถ้าเป็นวิญญาณเรียบร้อย ๆ เหมือนผ้าพับไว้ ฉันจะใช้อาคมทำไม วิญญาณที่ใจร้อน ขี้โวยวาย แถมชอบน้อยอกน้อยใจอย่างนาย ขืนไม่สะกดเอาไว้ แล้วหนีไป ฉันก็ลงแดงตายพอดี”

   กริชหน้าแดงก่ำกับคำพูดนั้น เพราะฟังแล้วก็แปลได้อย่างเดียวว่าอีกฝ่ายทั้งหวง ทั้งห่วง และรักเขามาก จนต้องผูกมัดบังคับกันก็ยอม และเขาเองจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้รังเกียจการแสดงความรักแบบที่อธิปทำกับเขาเท่าใดนัก เพียงแต่เพราะไม่อยากเสียหน้า จึงต้องทำเป็นเล่นตัวโวยวายออกไปนั่นเอง

   “ไอ้หมอผีหื่น...”

   กริชพึมพำเบา ๆ แล้วซบหน้าลงบนอกกว้างของอีกฝ่าย ทำให้อธิปต้องอมยิ้มน้อย ๆ พลางประคองกอดร่างบางเอาไว้แบบนั้นสักพักใหญ่ จนกริชต้องเงยหน้ามามองอย่างสงสัย

   “จะไม่ทำหรือไง”

   อธิปยิ้มตอบ ก่อนจะแสร้งตีสีหน้าเจ้าเล่ห์แล้วย้อนถามกลับ

   “ทำอะไร?”

   “ก็ทำ...”

   กริชชะงักหน้าแดง แล้วจึงเริ่มโวยวายแก้เขินอีกครั้ง

   “ไม่ทำก็ไม่ทำ ปล่อยได้แล้ว!”

   “โอ๋ ๆ ก็นายไม่อยากนี่ แล้วจะให้ฉันฝืนใจนายได้ยังไงกัน”

   อธิปรีบแก้ตัว ทำให้วิญญาณหนุ่มต้องค้อนขวับให้อย่างหมั่นไส้

   “ทีคืนก่อน ๆ ล่ะ บอกให้พอก็ไม่ยอมหยุด ทีนี้จะมาทำเป็นสุภาพบุรุษขึ้นมาเชียว!”

   “หมายความว่า ถ้าฉันอยากเมื่อไหร่ก็ทำได้เลย โดยไม่ต้องรอนายอนุญาต?”

   อธิปแสร้งถามด้วยสีหน้าสงสัย ทำให้กริชที่กำลังงอนโพล่งตอบกลับไปอย่างลืมตัว

   “เออ! อยากทำอะไรก็ทำไปสิ!”

   พอพูดจบวิญญาณหนุ่มก็ชะงัก เพราะได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ จากคนรัก และยิ่งมองสีหน้าของอีกฝ่าย ก็เริ่มรู้ตัวว่าตนหลงกลอธิปเข้าให้เสียแล้ว

   “ไอ้หมอผีเจ้าเล่ห์!”

   “นายไม่ชอบคนผิดคำสัญญาใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ล่ะ”

   “เออ! อยากทำก็ทำไป ไม่เห็นจะแคร์เลย ก็แค่ฝ่ายรุกแก่ ๆ ทำทีสองทีก็หมดแรงแล้วแท้ ๆ”

   กริชที่โดนไล่ต้อนทำเป็นเชิดหน้าใส่ แต่คำพูดยั่วยุอารมณ์นั่นกลับทำให้อธิปนึกขำ เขาแกล้งทำเป็นซ่อนยิ้มในสีหน้า แล้วจึงเอ่ยออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม

   “พูดแบบนี้มันสบประมาทกันชัดๆ  งั้นเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้เห็นเองว่า ฉันมันแก่แค่อายุ แต่อย่างอื่นยังฟิตปั๋ง จะทำโต้รุ่งก็ยังไหว!”

   กริชหน้าซีดเผือด พยายามดันกายหนีออกจากอ้อมกอดนั่น แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งเห็นรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมดุดันของคนรัก เขาก็ยิ่งอยากจะร้องไห้กับความปากเก่งของตัวเองเมื่อครู่

   “ง่า...เมื่อกี๊ฉันล้อเล่นน่ะ”

   อธิปแกล้งทำเป็นตีสีหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

   “สายไปแล้ว นายดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของฉันอย่างรุนแรงเลยนะนายกริช เพราะฉะนั้นคืนนี้ ฉันจะทำให้นายรู้ด้วยร่างกายของนายเองเลยว่า ฉันน่ะเจ๋งขนาดไหน”

   “อธิป...”

   กริชลากเสียงอ้อน ทำเอาอธิปเกือบหลุดยิ้ม แต่ก็ยังคงเก๊กขรึม แล้วส่ายหน้าช้า ๆ

   “ไม่มีทาง คืนนี้ฉันจะใช้อาคมสร้างร่างเนื้อให้นายเหมือนคราวนั้นด้วย ...รับรองว่าคราวนี้นายจะไม่บ่นเบื่อ หรือหาว่าฉันไร้น้ำยาอีกแน่”

   กริชอยากจะร้องไห้ออกมาเมื่อได้ฟัง เขาพยายามจะดิ้นรนหนี แต่ไม่เป็นผล เพราะสู้อาคมของอีกฝ่ายไม่ได้

   “นายจะรุนแรงกับฉันจริง ๆ หรืออธิป... ไหนนายว่ารักฉันไงล่ะ....จะรังแกกันได้ลงคอเชียวหรือ”

   อธิปแทบจะใจอ่อนยวบยาบ พอเจอใบหน้าหวาน ๆ ที่มีน้ำตาคลอเบ้า อ้อนวอนขอร้องเขา แต่ก็ยังคงพยายามฝืนเกร็งสีหน้าให้เย็นชาไม่ให้หลุดยิ้มออกมาเต็มที่

   “ฮึ...ทีพูดทำร้ายจิตใจกันดันพูดออกมาง่าย ๆ ทีนี้คิดจะมาอ้อนขอ คิดว่าฉันจะใจอ่อนง่าย ๆ หรือไง”

   กริชเงียบกริบพลางนิ่งคิดอย่างแปลกใจ เพราะตามปกติเจอไม้นี้อธิปก็มักจะใจอ่อนกับตนไปแล้ว ถ้าไม่โกรธจริง ๆ ก็มีอีกอย่างเดียวก็คืออีกฝ่ายกำลังหาทางแกล้งเขาอยู่เป็นแน่

   “อย่างนั้นหรือ...งั้นก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำไปเลยแล้วกัน”

   กริชบอกด้วยสีหน้าเศร้าซึม จนคนมองใจหายวาบ เริ่มหลุดร้อนรนออกมาจนวิญญาณหนุ่มจับได้ กริชซ่อนยิ้มในสีหน้า รู้ทันทีเลยว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกรธตนจริงแน่

   “ฉันมันพวกปากไม่ดี ปากเสีย ฉันเองก็รู้ตัว...แต่ฉันคิดว่านายจะรู้ดีเสียอีก ว่าฉันก็แค่พูดไปแบบนั้น ...ฉันคงคิดไปเองสินะ ว่าพวกเราน่ะเข้าใจกันและกันดีกว่านี้น่ะ”

   กริชเริ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ทำเป็นน้อยอกน้อยใจอย่างรุนแรง จนอธิปต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

   “นายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะอธิป... ถึงนายจะทำรุนแรงกับฉันขนาดไหน ยังไงฉันก็เกลียดนายไม่ลงอยู่แล้วนี่นะ”

   เท่านั้นเองอธิปก็ไม่อาจแกล้งทำเป็นเฉยชาต่อไป หมอผีหนุ่มรีบกอดจูบ ปลอบประโลม และพูดจาเอาอกเอาใจคนรักยกใหญ่ จนกริชต้องลอบยิ้มกับตัวเองน้อย ๆ

   “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ นายจะไม่ทำรุนแรงกับฉันใช่ไหม”

   กริชแกล้งถามเศร้า ๆ ทำให้อธิปต้องพยักหน้ารับหลาย ๆ ครั้งเพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายเชื่อใจ

   “สัญญาแล้วนะ งั้นถ้าฉันบอกให้หยุด นายก็ต้องหยุดด้วยนะ”

   “ได้ ๆ ยังไงก็ได้ ....เอ๋?”

   คำขอที่ดูเหมือนจะเอาแต่ใจ ผิดกับสีหน้านั่น ทำให้อธิปเริ่มสงสัย แต่พอเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับบนใบหน้าหวานตามมา เขาก็ต้องสบถเบา ๆ ในลำคอที่เสียรู้คนรักเข้าให้อีกจนได้

   “ว่าฉันเจ้าเล่ห์ นายก็ไม่แพ้กันเลยนะนายกริช!”

   “ใครใช้ให้นายแกล้งฉันก่อนล่ะฮึ!”

   กริชสวนกลับ ซึ่งอธิปก็ทำหน้ายุ่ง แต่สักพักเขาก็กอดร่างในอ้อมกอดแน่นขึ้น แล้วจูบใบหน้าของคนรักอย่างเอาอกเอาใจแทน

   “เอาเป็นว่าฉันยอมรับผิดเอง เลิกงอนแล้วดีกันนะ ไม่งั้นเอาแต่งอนกันไปงอนกันมาแบบนี้ มีหวังสว่างไม่ได้ทำอะไรพอดี”

   กริชหน้าแดงระเรื่อ ทั้งฉุนทั้งอายที่อีกฝ่ายวกกลับเข้ามาเรื่องพวกนี้เข้าอีกจนได้

   “ไอ้หมอผีหื่น!”

   “เออ หื่นก็หื่น ยอมรับทุกข้อกล่าวหา เพราะงั้นมาทำกันได้แล้วน่า”

   อธิปเลิกต่อล้อต่อเถียง แล้วจับร่างที่เตรียมจะโวยวายอุ้มลอยขึ้นแล้ววางลงบนเตียงนอนตามมา

   “ยอมรับดี ๆ เถอะน่า นายเองก็ต้องการเหมือนกันใช่ไหม”

   กริชหน้าแดงก่ำ พลางตวาดสวนกลับไป

   “ใครต้องการกัน!”

   “เหรอ...งั้นตกลงคืนนี้จะไม่ให้ทำจริง ๆ น่ะหรือ”

   อธิปแกล้งย้อนถามด้วยสีหน้าสงสัย ทำให้ร่างบนเตียงชะงักกึก หน้าแดงมากขึ้น ก่อนจะอุบอิบตอบเสียงแผ่ว

   “เจ้าบ้า...ฉันไม่ได้หน้าด้านเหมือนนายนะ ...รู้ดีอยู่แล้วจะถามทำไมเล่า”

   “หึ ๆ นาน ๆ ครั้งก็อยากฟังนายพูดบ้างนี่ เอาแบบ อธิปฉันต้องการนาย แบบอ้อน ๆ น่ะ พูดให้ฟังบ้างก็ดีนะ”

   หมอผีหนุ่มทำเป็นจีบปากจีบคอล้อเลียน ทำให้กริชทั้งขำทั้งฉุน แล้วจึงแกล้งเลียนแบบคำพูดอีกฝ่ายออกไปบ้าง

   “อธิป...ฉันต้องการนายนะ...รีบ ๆ มาทำเร็วเข้าสิ ขืนให้รอมากกว่านี้ ระวังฉันจะไปหาคนอื่นแทนนะ”

   หมอผีหนุ่มที่เคลิ้ม ๆ ในตอนแรก กับคำหวานอ้อน ๆ ของคนรัก ถึงกับสะดุ้งเฮือกในท้ายประโยค ก่อนจะทำตาดุใส่ทันที

   “ขืนลองทำดูสิ ฉันเอาไอ้ชายชู้นั่นตายแน่ ถ้าหมอนั่นมันเป็นคน ฉันจะเสกตะปูกับหนังควายเข้าท้องมัน และถ้าเป็นผี ฉันจะจับใส่หม้อ โบกปูนถ่วงน้ำไม่ต้องผุดต้องเกิดตลอดชาติแน่!”

   กริชยิ้มขำ ๆ กับท่าทีหึงหวงของอีกฝ่าย ก่อนจะใช้ฝ่ามือลูบไล้ที่เสื้อของตัวเองเบา ๆ ฉับพลันมันก็ค่อย ๆ สลายไปเองเผยให้เห็นเนื้อหนังขาวเนียนชวนมองแทน

   “ฉันเริ่มจะขี้เกียจรอจริง ๆ แล้วสิ...นายจะหึงอีกนานไหมเนี่ย”

   อธิปกลืนน้ำลายลงคอกับอาหารตาตรงหน้า เขาถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกบ้างจนเปลือยเปล่า แล้วจึงใช้มือของตนลูบไล้กางเกงของกริชแผ่วเบา ซึ่งมันก็ได้ผลลัพธ์ตามมาไม่แตกต่างจากเสื้อของวิญญาณหนุ่มเลยทีเดียว

   “เป็นวิญญาณแบบนายมันก็สะดวกดีไปอย่างนะ”

   “หึ...แต่ถ้าเอาแต่หื่นมากอย่างนาย ระวังจะได้ตายก่อนแก่กว่านี้พอดี”

   กริชเอ่ยเตือนอย่างระอา ดีนะที่อธิปเป็นหมอผีจึงมีวิธีป้องกัน ขืนเป็นคนธรรมดา ริอาจมีอะไรกับวิญญาณแบบเขาบ้าง มีหวังได้อายุสั้นโดนสูบพลังวิญญาณจนหมดแน่

   “มือชั้นนี้แล้ว เอาผีมาทำเมียก็หลายครั้ง รับรองไม่มีปัญหา”

   คำพูดนั้นทำให้คนที่กำลังเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับชะงักกึก แล้วมองคนรักตาขวางทันที

   “เอาผีมาทำเมียบ่อยอย่างนั้นหรือ!”

   อธิปกลืนน้ำลายลงคอ เพราะดันเผลอหลุดปากออกไป ระหว่างที่กำลังคิดแก้ตัว เสียงแหลม ๆ จากมุมหนึ่งในห้องก็ดังขัดขึ้นมา

   “ใช่แล้วค่ะคุณกริช เจ้านายชอบหาเศษหาเลยกับพวกนางไม้ ผีพราย ไม่ก็ผีสาวเอ๊าะ ๆ บ่อยมาก แถมผีสาวพวกนี้ยังติดใจ มาตบตีกันแถวบ้านเจ้านายประจำ จนฉันกับพวกพี่ ๆ ต้องคอยออกไปไล่เพราะรำคาญเลยค่ะ!”

   กริชเงียบกริบ มองไปยังกล่องใส่ของที่ขยับไปมา แต่ของข้างในไม่อาจออกมาได้ เพราะถูกอธิปใช้สายสิญจน์พันผนึกเอาไว้อยู่

   “เฮ้ย! ชบา เอาอะไรมาพูด ... ง่า อย่าไปเชื่อนะนายกริช ยัยนี่ชอบพูดจาเหลวไหลเลอะเทอะแบบนี้ประจำ”

   อธิปที่ถูกลูกน้องเผารีบแก้ตัว ทว่ากริชกลับมองเขาอย่างเย็นชา แล้วจึงเรียกเสื้อผ้าออกมาสวมใส่ร่างกายแบบเดิมอีกครั้ง

   “ถ้างั้นคืนนี้นายก็ไปหาพวกนางไม้อะไรนั่นมาแก้หื่นแทนแล้วกัน ฉันขอตัวก่อนล่ะ!”

   “ดะ เดี๋ยว กริช ไม่จริงน่า ... นายปลุกให้ฉันเริ่มตั้งมาขนาดนี้แล้วแท้ ๆ นายจะปล่อยให้มันค้างคาแบบนี้หรือไง!”

   อธิปโวยวายลั่น แต่กริชกลับหันขวับมามอง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

   “แต่ฉันหมดอารมณ์ไปเรียบร้อยแล้ว...และถ้านายคิดจะใช้อาคมบังคับฉันล่ะก็ เราสองคนขาดกันแน่”

   คำพูดสีหน้าแววตา มองดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายเอาจริง และเมื่อกริชหายวับไปจากห้องเขา หมอผีหนุ่มก็หันขวับมามองกล่องที่ใส่หัวกะโหลกของลูกน้องทั้งสาม แล้วขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นเคือง

   “ชบา...นี่เธอ...”

   “ก็ใครใช้ให้เจ้านายพลั้งปากเองล่ะ แล้วถึงฉันไม่พูด เดี๋ยวคุณกริชก็มาคาดคั้นฉันอยู่ดี สู้บอก ๆ ไปเสียเลยดีกว่า ...นี่ล่ะน้า ให้ฉันแอบดูดี ๆ ก็ดีอยู่แล้ว ดันมาผนึกเอาไว้ ไม่ให้ฉันเห็นภาพ แต่ดันให้ได้ยินเสียง กะจะยั่วให้ฉันอกแตกตายเองนี่  แบบนี้เขาเรียกเวรกรรมตามทันไงล่ะคะ!”

   ชบารีบบอกเสียงใสเป็นชุด ก่อนจะทำเป็นหาวยาวแล้วเงียบไป แสดงให้เห็นว่าไม่อยากจะสนทนาต่อ นั่นจึงทำให้หมอผีหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิด เพราะอีกฝ่ายก็พูดถูก เขาดันเผลอพลั้งปากเอง และด้วยนิสัยอย่างกริชถ้าอยากรู้จะต้องซักไซ้ไล่ต้อนจนกว่าจะรู้ความจริงเป็นแน่

    “เออ! ฉันมันผิด ทำอะไรก็ผิดไปหมด! โธ่โว้ย! ถึงจะเคยผ่านใครมา แต่ปัจจุบันก็รักนายคนเดียวนะ นายกริช ได้ยินไหม!”

   อธิปโวยวายเสียงดัง ทำให้คนที่หายตัวหนีไปแต่ไม่ได้ไปไหนห่างต้องลอบยิ้มน้อย ๆ ความจริงก็ไม่ได้โกรธอะไรนัก แต่ก็แค่อยากดัดนิสัยคนรักเอาไว้แต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่แอบไปมีเล็กมีน้อยทีหลังอีก

   “คืนนี้ช่วยตัวเองไปก่อนเถอะนะอธิป ไว้จะบริการให้วันหลังแทนแล้วกัน”

   กริชพึมพำพลางอมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงหายตัวแวบไปที่ห้องสมุดของคฤหาสน์ หยิบหนังสือในนั้นมาอ่านไปพลาง ฮัมเพลงไปพลางอย่างอารมณ์ดีตลอดทั้งคืน ผิดกับอีกคนที่อยู่ในห้องนอน ที่ต้องช่วยตัวเองไปลวก ๆ แถมพอฝัน ก็ยังฝันว่าคนรักนั้นตามมายั่วให้อยากแล้วจากไปให้อารมณ์ค้างซ้ำสองอีกด้วย

   มันช่างเป็นคืนที่แสนโชคร้ายสำหรับหมอผีหนุ่มผู้นี้เสียจริง!






...END...
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 27-12-2011 10:35:30
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 27-12-2011 10:49:24
ก๊ากกกกกกกกกกกก :laugh:
แสบพอกันทั้งคู่เลยเนอะ คู่นี้.....น่ารักนะเนี่ย  :-[
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: เฉาก๊วย ที่ 27-12-2011 11:44:48
คนอ่านอ่านไปก็ลุ้นไปว่าคืนนี้จะ...มั้ยน้า ในที่สุด....ก็ไม่    :laugh:  สะใจจริงหมอผีเจ้าชู้
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 27-12-2011 13:14:02
คู่นี้มีสีสันดี อธิปดูกะล่อนเล็กๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 27-12-2011 16:11:57
ฮ่าๆๆ ปากพาจนนะคุณหมอผี
แบบนี้ต้องไปง้อดีๆแล้วนา
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 27-12-2011 17:06:34
ก็นี่ล่ะน้า
อยากเจ้าชู้ดีนะ
โดนลงโทษซะบ้าง ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-12-2011 17:27:41
แม้จะจบห้วนไปสักนิด  แต่ก็น่ารักดีค่ะ

ตุลไม่น่าให้พาทิศกันเขตเลย อดดูของดี  :laugh:

รอตอนพิเศษนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: changasa@hotmail.com ที่ 27-12-2011 17:28:50
ค้างซ้ำซ้อน ฮ่าๆๆๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 27-12-2011 19:26:54
555 หมอผีเจ้าชู้ๆสมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 28-12-2011 18:35:31
คู่หลานหวานฉ่ำ
คู่อาเปรี้ยวอมหวาน

ชอบทั้งสองแบบ แต่แอบปันใจให้คุณอามากหน่อย ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 28-12-2011 18:58:33
คู่นี้น่ารักสุดโต่งอ่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 28-12-2011 20:12:53
ทั้งผีทั้งหมอผีเจ้าเล่ห์ทั้งคู่ :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-12-2011 21:05:11
สมน้ำหน้าอธิปจริงๆ  ปากพาซวยซะนี่ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (27/12/11) ตอนพิเศษ#1 (อธิป-กริช)
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 04-01-2012 09:08:24
ที่ชบาบอกว่าเมื่อก่อนอธิปชอบหาเศษหาเลยเนี่ย เพราะรู้ว่ายังไงกริชก็ต้องมาถาม

หรือว่าโมโหที่ได้ยินแต่เสียงกันแน่น้าาา

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 05-01-2012 23:58:01
**มาต่อจนได้จ้า ขอบคุณสำหรับท่านที่ยังคงรออ่านนะคะ ^ ^ ตอนพิเศษตอนนี้คงลงเป็นตอนสุดท้ายในเล้าให้อ่านกันแล้วจ้า

ถ้าสามารถเคลียร์งานค้างอีกเรื่องได้เสร็จทัน ก็ว่าจะรวมเล่มม่านราตรีนี้ไปพร้อม ๆ กันเลย ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ค่ะ ซึ่งถ้ามีการรวมเล่มก็คงจะแต่งตอนพิเศษหวาน ๆ เพิ่มในเล่มอีกสักหน่อยตามระเบียบล่ะนะคะ ^ ^

ยังไงก็ขอกล่าวคำว่าขอบคุณสำหรับทุกท่านที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ และตามตอนพิเศษกันด้วย
หวังว่าคงจะได้เจอกันอีกครั้งในเรื่องใหม่ค่ะ    :pig4:

ขอบคุณจริง ๆ แล้วก็สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ ทักทายช้าไปหน่อย คงไม่ว่ากันนะคะ ^ ^



ตอนพิเศษ #2

คืนข้ามปี



   ...วันสิ้นปี หลายบ้านนั้นวุ่นวายกับการจัดเก็บทำความสะอาดบ้านพักอาศัย และมีหลายบ้านที่จัดงานเลี้ยงฉลองกันตามลำพังครอบครัว หรือร่วมกับเพื่อนฝูง  ตุลาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาช่วยพวกพาทิศจัดเก็บกวาดที่คฤหาสน์ม่านราตรี ก่อนจะไปฉลองเป็นส่วนตัวกับครอบครัวและญาติฝั่งแม่ที่บ้านของบิดา

   “แย่ชะมัด คิดว่าจะได้เคาท์ดาวน์ปีใหม่กับตุลเป็นครั้งแรกแท้ ๆ”

   รุ้งพรายบ่นอุบ เพราะปีที่แล้วตุลาก็กลับไปฉลองกับที่บ้านแบบนี้เหมือนกัน

   “เอ่อ คุณรุ้งครับ มันจำเป็นนี่ครับ”

   “ใช่ซิ! พวกเรามันไม่ใช่ครอบครัวของตุลนี่นา จะไปสำคัญอะไรกับตุลนักล่ะ!”

   รุ้งพรายประชดอย่างพาล ๆ ด้วยความน้อยใจ เพราะเธอเตรียมของขวัญปีใหม่ไว้เซอร์ไพรส์อีกฝ่ายเรียบร้อย และตุลาก็ทำท่าเหมือนกับว่าจะกลับมาร่วมเคาท์ดาวน์ที่คฤหาสน์ได้ ทว่าเพราะปีนี้มีญาติ ๆ มาด้วย ทำให้กำหนดงานเลี้ยงดำเนินยาวไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งก็ทำให้ชายหนุ่มต้องค้างที่บ้านเดิมไปโดยปริยาย

   “ไม่ใช่นะครับคุณรุ้ง”

   ตุลาบอกด้วยสีหน้าลำบากใจ ทำให้พาทิศที่เฝ้ามองอยู่ต้องมาช่วยคนรักพูดอีกเสียง

   “อย่าทำให้ตุลลำบากสิรุ้ง เธอก็น่ารู้ดีไม่ใช่หรือ ว่าตุลให้ความสำคัญกับพวกเราแค่ไหนน่ะ”

   รุ้งพรายชะงัก ปีศาจสาวในร่างแมวเมินมองไปอีกทาง แล้วทำเสียงฮึในลำคอเบา ๆ

   “ฉันเข้าใจ แต่แล้วไงล่ะ พวกเราก็อยากใช้ช่วงเวลาพิเศษร่วมกับเขาเหมือนกันนี่!”

   “แค่มีตุลอยู่ด้วยทุกวันก็เป็นวันพิเศษแล้วล่ะ เทียบกับทางนั้นที่ตุลจะได้กลับไปหาแค่นาน ๆ ครั้ง หรือช่วงเทศกาลสำคัญแล้ว เธอไม่คิดว่าพวกเราจะมีความสุขกว่าเขาหรือ”

   พาทิศเตือนสติ ทำให้รุ้งพรายนึกขึ้นมาได้ ปีศาจแมวสาวเดินเข้ามาคลอเคลียไถขาของตุลา ทำให้ตุลายิ้มออกและอุ้มอีกฝ่ายขึ้นมากอด

   “ขอโทษนะตุล ฉันนี่แย่จริง ๆ พาลใส่ตุลแบบนี้”

   “ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจดี”

   รุ้งพรายซุกศีรษะซบกับอกของอีกฝ่ายนิ่งสักพัก แต่แล้วก็ต้องหลุดร้องเมี้ยวดังลั่น เมื่อถูกมือของใครบางคนจับหลังคอเธอ และหิ้วขึ้นมา

   “ซบพอแล้ว นานกว่านี้มีเคืองแน่”

   “ปล่อยฉันนะ! ไอ้ซอมบี้ขี้อิจฉาเอ๊ย!”

   รุ้งพรายโวยวายลั่นออกไปข้างนอก ทำให้ราตรีที่นั่งคุยกับปิ่นสุดาต้องเหลือบไปมองตามทิศที่มาของเสียง แล้วสั่นศีรษะอย่างเอือมระอาแทบจะพร้อม ๆ กัน

   “อีกปีแล้วสินะ ที่ตุลมาอยู่กับพวกเรา เวลานี่มันผ่านไปเร็วจังเลยนะ”

   ราตรีเปรยเบา ๆ ซึ่งปิ่นสุดาที่นั่งเล่นอยู่ปากบ่อก็ยิ้มรับ

   “นั่นสิคะ จะว่าไปฉันยังจำตอนคุณตุลเป็นเด็กได้อยู่เลยนะคะเนี่ย ตอนนั้นคุณตุลน่ารักมาก แก้มงี้ยุ้ยน่าดึงเล่นเชียว”

   ราตรีหัวเราะเบา ๆ อย่างเห็นด้วย ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นกริชกับอธิปออกมาเดินเล่นด้วยกันที่สวน

   “คู่นั้นก็เหมือนกันนะปิ่น ตอนแรกไม่คิดว่าจะลงเอยแบบนี้ แล้วดูเข้าสิ ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าอีตาหมอผีลามกนั่น จะไปคู่กับคุณกริชได้ เสียของจริง ๆ ผู้ชายดี ๆ ยิ่งมีน้อยอยู่ ถึงจะเป็นวิญญาณก็เถอะ”

   ราตรีบ่นอุบ เพราะเธอไม่ค่อยชอบความทะลึ่งทะเล้นที่อธิปมี แต่พอได้กริชเป็นแฟน หมอผีหนุ่มก็ดูเพลาพฤติกรรมเหล่านั้นลงไปมากทีเดียว



   ทางด้านอธิปนั้นกระแอมเบา ๆ อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะดันหูดีได้ยินผีสาวนินทาเอาเข้าเต็มเปา เขาเหลือบมองราตรีที่พอเห็นหน้าเขาเข้าก็ค้อนขวับให้ทันที

   “ฉันไปทำอะไรให้หล่อนโกรธนะ ถึงได้คอยตั้งแง่เป็นไม้เบื่อไม้เมาแบบนี้ตลอด”

   อธิปบ่นอุบ ทำเอากริชหันมาเหลือบตามองอย่างนึกหมั่นไส้

   “ทีงี้ทำเป็นไม่จำ ไปจีบ ไปแซว ไปลวนลามผ่านคำพูดกับเขามาเป็นปี เขาไม่ด่าให้ทุกครั้งที่เจอหน้าก็บุญเท่าไหร่แล้ว”

   กริชเปรยเรียบ ๆ ทำเอาอธิปสะดุ้ง แล้วรีบโอบร่างโปร่งมากอดหลวม ๆ อย่างประจบ

   “โธ่เอ๊ยนายกริช นั่นมันวิธีตีสนิท ไม่ได้ตั้งใจจีบจริง ๆ ซักหน่อย ใช่มั้ยจ๊ะ แม่ผีคนสวย”

   อธิปรีบหันไปหาราตรีเพื่อให้ช่วยพูด ราตรีเหลือบมามองอีกฝ่าย แล้วซ่อนยิ้มในสีหน้า ก่อนจะหันมาทางกริช แล้วเอ่ยขึ้น

   “ก็คงอย่างที่เขาว่าล่ะค่ะคุณกริช ...คุณอธิปคงไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ถึงได้เคยแกล้งทำเป็นเนียนกอดฉัน แล้วบอกว่าเข้าใจผิดเป็นคุณน่ะ”

   กริชชะงักกึก แล้วหันมามองอธิปเขม็ง จนหมอผีหนุ่มหน้าซีดเผือด

   “ง่า...นั่นมันเรื่องเมื่อปีที่แล้วตอนที่ฉันเข้ามาใหม่ ๆ แถมหัวใจก็ยังว่างอยู่นะนายกริช ...ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ไม่มีอีกแล้วแน่นอน”

   “แสดงว่าเรื่องจริงสินะ”

   “มันก็จริง...”

   อธิปบอกเสียงอ่อย แต่ก็ต้องรีบแก้ตัวตามมาเมื่อกริชเมินใส่เขาด้วยความงอน

   “โธ่เอ๋ยนายกริช นายก็รู้นิสัยฉันดี เห็นผู้หญิงสวย ๆ ก็อดหยอกล้อนิด ๆ หน่อย ๆ ไม่ได้ แต่ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเกินเลยไปกว่านั้นนี่นะ”

   “ใช่...ฉันรู้จักนายดี ไม่ทำอะไรเสียหายเกินเลย ถ้าอีกฝ่ายไม่เปิดไฟเขียวให้ใช่ไหมล่ะ!”

   กริชประชด ทำให้หมอผีหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ราตรีเห็นดังนั้นก็ลอบยิ้มนิด ๆ สะใจที่เห็นอธิปโดนเล่นงานกับเขาบ้าง ถึงแม้เธอจะไม่ได้เกลียดอะไรอีกฝ่ายนัก แต่ก็ขอแก้แค้นคืนเรื่องที่เคยโดนแกล้งเมื่อก่อนบ้างล่ะ

   “ไม่เอาน่าอย่างอนสิ ใกล้ปีใหม่แล้วนะ คนดี๊คนดียกโทษให้สามีผู้น่ารักคนนี้เถอะนะ”

   กริชหน้าแดงวาบต่อคำพูดของอีกฝ่าย ปิ่นสุดานั้นหลุดกรี๊ดเบา ๆ แล้วหันไปซุบซิบกับราตรีทันที

   “ดูสิราตรี เรียกแทนตัวว่าสามีด้วย แสดงว่าเมื่อคืนก่อนที่ผ่านมา ที่ฉันได้ยินแว่วใครเรียกเมียจ๋าอย่าโกรธผัวเลยอะไรนั่น ก็ไม่ได้หูฝาดล่ะสิ”

   กริชกับอธิปสะดุ้งเฮือก หันขวับไปที่เงือกสาวแทบจะพร้อมกัน ดูเหมือนว่าปิ่นสุดาจะรู้ตัวเธอแสร้งทำเป็นยิ้มหวานแล้วกระโดดลงไปหลบในบ่อของตน จนคนมองต้องทำตาปริบ ๆ

   “เฮ้อ! ยังไงก็น่าเสียดายจริง ๆ นั่นล่ะ  เอาเถอะ ฉันเข้าใจนะคะคุณกริช ว่าคนเรามักชอบอะไรที่ตรงข้ามกับตัวเอง ...แต่ยังไงมันก็เหมือนสาวสวยกับสัตว์ป่าลามกอยู่ดีล่ะนะ”

   ราตรีพึมพำแล้วหายตัววับกลับเข้าซุ้มดอกราตรีของเธอ เหลือแต่เพียงชายหนุ่มสองคนที่ยืนอยู่ แล้วเป็นกริชที่หันขวับมามองอธิปเขม็ง

   “ฉันบอกนายแล้วใช่ไหมว่าอย่าเรียกแบบนั้น ถ้าจะเรียกให้กางเขตแดนก่อนไง เจ้าหมอผีบ้า!”

   “ก็ลืมไปนี่นาว่าบ้านหลังนี้มันหูผี จมูกมด กันทั้งนั้น”

   อธิปบอกพลางยิ้มเจื่อน ๆ แล้วก็รีบวิ่งตามง้อเมื่อกริชหายตัวหนีไปด้วยความโมโหปนอาย ซึ่งกว่าวิญญาณหนุ่มจะหายงอนได้ อธิปก็ต้องไปเรียกตุลาให้มาช่วยกล่อมด้วยอีกคน



   ตกบ่ายของวันนั้น ตุลาก็ออกเดินทางจากคฤหาสน์ม่านราตรีกลับไปร่วมงานเลี้ยงสิ้นปีกับครอบครัวที่บ้านเดิมของเขา ทำเอาสมาชิกที่เหลือมีสีหน้าห่อเหี่ยวไปตาม ๆ กัน

   “แล้วทำไมไม่ชวนพวกพี่ชายกับพี่สะใภ้นายมาอยู่เสียด้วยกันเลยล่ะนายกริช เจ้าหนูนั่นจะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา”

   อธิปเสนอความเห็น ทำเอารุ้งพรายในร่างแมวหูกระดิก แล้วมองไปที่กริชอย่างสนใจ

   “นายจะหาเรื่องให้พี่ชายกับพี่สะใภ้ฉันหัวใจวายตายหรือไง...อีกอย่างถ้ารู้ว่ามีภูตผีอยู่เป็นฝูงแบบนี้พี่ไกรมีหวังลากตัวตุลกลับ แล้วจ้างหมอผีมาทำพิธีขับไล่พวกนี้หมดแน่”

   “พี่ชายนายไม่ชอบผี?”

   “เออ! ถึงไม่แสดงออกเท่าตุล แต่รายนั้นทั้งเกลียดทั้งกลัวผีมากเลยทีเดียว ส่วนพี่สะใภ้ฉัน ไม่แสดงออกอะไรเลยว่ากลัว แต่บทจะเป็นลมก็เป็นไปเลยโดยไม่มีเตือนล่วงหน้าน่ะ”

   อธิปกับคนอื่น ๆ มองกริชตาปริบ ๆ แล้วต่างก็พึมพำนินทากันเบา ๆ

   “แสดงว่าสายเลือดกลัวผีนี่เป็นกรรมพันธุ์สินะ”

   อธิปเปรยค่อย ๆ แต่ทำให้คนที่เล่าเรื่องสะดุ้งเฮือก ก่อนจะแสร้งทำเป็นกลบเกลื่อนท่าทีด้วยการวางเฉย ทว่าปฏิกิริยาเมื่อครู่นั้นอยู่ในสายตาของทุกคนหมดเรียบร้อย

   “อืม...หวังว่าอาการกลัวผีของครอบครัวนั้น คงไม่ได้เกิดจากกรณีเดียวเหมือนที่ตุลเคยโดนใช่ไหมครับ”

   พาทิศเปรยถามอย่างสงสัย ทำเอาคนอื่นหันมองผีดิบหนุ่มและกริชสลับไปมา

   “เอ๋? เกี่ยวอะไรกับตุลด้วยหรือ มันเรื่องอะไรกันคะ คุณกริช”

   รุ้งพรายถามอย่างแปลกใจ แต่กริชนั้นเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่ยอมตอบ ทำให้อธิปที่เฝ้ามองอยู่และรู้นิสัยอีกฝ่ายดีพอจะเดาได้ในที่สุด

   “หรือว่า นายไปแกล้งจนพวกเขาจากที่เฉย ๆ เลยกลายเป็นกลัวผีฝังใจไปน่ะ”

   กริชสะดุ้ง แล้วเงียบไป ทว่าพอถูกสายตากดดันของทุกคนที่มองมา เขาก็เม้มปากแน่นก่อนจะหันมาโพล่งใส่อย่างหงุดหงิด

   “ก็ใช่! ก็ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากลองอยู่นี่นา แล้วก็สนุกด้วยที่เห็นพี่ชายกับพี่สะใภ้กลัวน่ะ ส่วนตุลก็แค่อยากแหย่หลานเล่น ๆ ใครจะรู้ว่าจะกลัวกันขนาดนี้เล่า!”

   คนอื่น ๆ เงียบกริบ ภาพพจน์ดี ๆ ที่เคยสะสมมาของอีกฝ่ายเริ่มพังทลายลงช้า ๆ อธิปถอนหายใจเบา ๆ แล้วลูบศีรษะคนรักค่อย ๆ

   “ช่วยไม่ได้ นายมันชอบเล่นชอบทดลองอะไรห่าม ๆ มาตั้งแต่ตอนมีชีวิตอยู่แล้วนี่เนอะ”

   “เชอะ! คนเรามันก็เคยมีเรื่องที่ทำผิดพลาดกันบ้างสิ ตอนนี้ฉันก็เสียใจอยู่เหมือนกันนะ กับเรื่องที่เคยทำลงไปน่ะ”

   กริชรีบแก้ตัว แต่อธิปและคนอื่น ๆ มองมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ เพราะหวนนึกถึงตอนทดสอบความกล้าครั้งก่อนโน้นที่อีกฝ่ายเป็นคนวางแผน แม้จะบอกว่าทำไปเพื่อลองใจตุลา แต่สีหน้าระรื่นยามที่แผนการสำเร็จนั่น มันก็ทำให้พวกเขาพูดอะไรแทบไม่ออก และไม่อยากบอกตุลาให้รู้ด้วย เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะน้อยใจ อีกอย่างถึงจะพูดออกไป แต่กริชก็มีวิธีกลับดำเป็นขาว ทำให้ตุลาชื่นชมตนเองได้เสมออยู่แล้ว

   “อธิป...ไม่เชื่อที่ฉันพูดหรือ”

   กริชสบตากับคนรักแล้วทำเสียงอ้อน ๆ จนอธิปต้องกลืนน้ำลายลงคอ แล้วรีบบอก

   “เชื่อสิ จะไม่เชื่อได้ไงล่ะ”

   กริชลอบยิ้มน้อย ๆ ทำเอาพาทิศ ราตรี และ รุ้งพราย ต้องมองตากันปริบ ๆ ก่อนจะสั่นศีรษะอย่างระอา แล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง เพราะดูเหมือนทั้งคู่จะเริ่มสร้างโลกส่วนตัวของพวกเขาขึ้นมาเสียแล้ว

   

   เสียงเพลง เสียงดนตรี จากในหมู่บ้านดังแว่ว ๆ มาจนถึงคฤหาสน์ม่านราตรี ที่ตอนนี้ค่อนข้างจะเงียบเหงา เพราะสมาชิกในคฤหาสน์ไม่มีแก่ใจจะจัดงานเลี้ยงสังสรรค์อย่างคนอื่นเขาเลยสักนิด

   “ป่านนี้ตุลคงกำลังสนุกอยู่แน่ ...ฮึ!”

   รุ้งพรายบ่นพึมพำ เธอและคนอื่น ๆ มานั่งเล่นกันที่ซุ้มดอกราตรี เพราะขี้เกียจนั่งเหงาจับเจ่าอยู่แต่ในคฤหาสน์นั่นเอง

   “อืม...หรือไม่ก็กำลังถูกสาว ๆ หลีอยู่ ญาติฝั่งแม่เด็กนั่น มีแต่สาวเอ๊าะ ๆ ทั้งนั้นเลยไม่ใช่หรือ”

   อธิปที่พอจะจำได้เอ่ยกระเซ้าผีดิบหนุ่ม แต่กริชนั้นลอบมองคนรักแล้วเปรยขัด

   “สาวเอ๊าะ ๆ ที่นายเห็นเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้ก็กลายเป็นรุ่นป้ากันหมดแล้วมั้งนั่น”

   หมอผีหนุ่มชะงักกึก แล้วทำท่ากอดอกสยองเมื่อจินตนาการถูกทำลายจนย่อยยับ

   “หมดกันนายกริช นายทำฉันสยองส่งท้ายปีเลยนะเนี่ย”

   อธิปบ่นอุบเรียกเสียงฮึเบา ๆ จากวิญญาณหนุ่ม พร้อมกับเสียงเปรยประชดตามมา

   “อยากเห็นสาว ๆ สวย ๆ ก็ไปเรียกพวกนางไม้กิ๊กเก่านายมาสิ!”

   “แหม ๆ บอกแล้วไงว่าเลิกหมดแล้ว ตอนนี้เปลี่ยนสเป็คมาเป็นแบน ๆ ขาว ๆ เร่าร้อน เซ็กซี่ใกล้ ๆ นี่แทนแล้วล่ะ”

   อธิปหยอดคำหวานแต่ดูเหมือนจะทำให้คนฟังโมโหเสียมากกว่า เพราะหมอผีหนุ่มเล่นพูดจาไม่ดูสถานที่เลยว่ามีคนอื่นนั่งอยู่ด้วยหรือไม่

   “คืนนี้อย่าหวังจะได้ยุ่งด้วยเลย!”

   กริชกระซิบขู่อย่างหมั่นไส้ ทำเอาหมอผีหนุ่มต้องรีบอ้อนประจบ ภาพที่เห็นทำให้พาทิศรู้สึกคิดถึงตุลาขึ้นมาบ้างเช่นกัน

   “ไม่โทรไปหาล่ะพาทิศ ถ้าแค่คุยโทรศัพท์คงปลีกตัวมาได้หรอกนะ”

   ราตรีเสนอเพราะหันไปเห็นใบหน้าหมอง ๆ ของเพื่อนชายเข้าพอดี

   “อ๊ะ! จริงด้วย พวกเราก็เคาท์ดาวน์ผ่านทางโทรศัพท์กับตุลก็ได้นี่นา เร็วเข้า ไปโทรกันเถอะ!”

   รุ้งพรายรีบขัดอย่างดีใจ ทว่าอธิปกลับเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือ แล้วหันไปมองปีศาจแมวสาว

   “นี่แม่เหมียว นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะ ถ้าใช้เบอร์บ้านโทรเข้ามือถือหมอนั่น รับรองเดือนนี้เจ้าหนูจ่ายค่าโทรศัพท์ตรึมแน่”

   อธิปรีบแย้ง ทำเอารุ้งพรายต้องหันกลับมามอง

   “งั้นใช้มือถือของลุงโทรแทนได้เปล่าล่ะ”

   รุ้งพรายบอกแล้วยิ้มหวาน แต่อธิปนั้นกลับแค่นหัวเราะแล้วเปรยไปมองที่กริชซึ่งทำเฉไฉมองไปทางอื่น

   “ฉันโดนยึดโทรศัพท์ไปแล้ว แถมโดนหักซิมทิ้งอีก แค่มีสาวโทรมาคุยด้วยตามประสาคนคุ้นเคยแท้ ๆ”

   “คุ้นเคย? คนคุ้นเคยเขาไม่จ๊ะจ๋ากันหวานฉ่ำอย่างนั้นหรอกนะ อีกอย่างหักซิมทิ้งไปก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องคอยเติมเงินให้สิ้นเปลืองไง แล้วนายก็เลิกอาชีพหมอผีแล้วด้วย ไม่เห็นจำเป็นต้องพกโทรศัพท์เอาไว้กับเขาเลย...จริงไหม”

   กริชบอกแล้วยิ้มหวานเย็นชาให้ ทำเอารุ้งพรายต้องลอบกลืนน้ำลายลงคอ แล้วขยับไปห่างอย่างนึกกลัว ส่วนอธิปได้แต่ยิ้มหน้าเจื่อน ๆ แล้วพยักหน้ารับอย่างขัดไม่ได้

    “จ้า ที่รัก นายพูดถูกทุกอย่างเลย ไม่ผิดเลยสักนิดเดียว”

   กริชทำเสียงฮึในลำคออย่างหมั่นไส้เพราะรู้ดีว่าถูกประชด จากนั้นเขาจึงหันไปทางพาทิศแล้วบอกกับอีกฝ่าย

   “ใกล้ ๆ เที่ยงคืนแล้วโทรไปสิ เพราะพอใกล้เที่ยงคืน พวกผู้ใหญ่ทางโน้นก็คงเมาแอ๋กันหมดแล้วล่ะ ตุลก็คงจะว่างพอดี”

   ผีดิบหนุ่มยิ้มรับอย่างขอบคุณ จากนั้นรุ้งพรายก็ชวนปิ่นสุดา และราตรี คิดคำอวยพรปีใหม่ที่จะใช้พูดกับอีกฝ่ายตอนเที่ยงคืนของวันนี้ ทั้งหมดกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อธิปกอดเอวกริชหลวม ๆ แล้วหอมแก้มวิญญาณหนุ่มฟอดใหญ่ ระหว่างที่ยืนดูทุกคนนั่งคิดคำอวยพร ทำเอากริชหน้าแดงแล้วหยิกแขนหมอผีหนุ่มแรง ๆ โทษฐานทำรุ่มร่ามไม่เข้าท่า จนสาว ๆ ต้องหันมาอมยิ้มน้อย ๆ แล้วหันกลับไปนั่งคิดคำอวยพรของพวกหล่อนกันต่อไป

   

   พอถึงเวลาเกือบเที่ยงคืน พาทิศก็ต่อสายไปหาคนรักของเขา โดยมีคนอื่น ๆ ล้อมวงโทรศัพท์ ที่ตอนนี้เปิดลำโพงให้ได้ยินเสียงปลายสายกันถ้วนหน้า

   “สวัสดีครับ ตุลาพูดครับ”

   ตุลารับโทรศัพท์อย่างแปลกใจที่เห็นเบอร์จากคฤหาสน์ม่านราตรีโทรเข้ามา แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงทักทายดังขึ้นหลายเสียง

   “เอ๋...เกิดอะไรกันขึ้นหรือครับนั่น”

   “ทุกคนอยากเคาท์ดาวน์ไปพร้อมกับตุลน่ะ ตุลยุ่งอยู่หรือเปล่า”

   พาทิศเอ่ยถาม เสียงปลายสายเงียบไปสักพัก พวกเขาได้ยินเหมือนตุลาคุยอะไรบางอย่างกับใครสักคน จากนั้นจึงมีเสียงดังขึ้น

   “ตอนนี้ไม่ยุ่งแล้วล่ะครับ ...คุยได้ตามสบายเลย”

   “สนุกไหมงานเลี้ยง”

   “สนุกดีครับ แต่ถ้ามีทุกคนอยู่ด้วยคงยิ่งสนุกกว่านี้”

   ตุลาตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้คนฟังแต่ละคนอมยิ้ม โดยเฉพาะผีดิบหนุ่มยิ่งอยากเห็นหน้าคนรัก แล้วหอมแก้มสักฟอดใหญ่ ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณความน่ารักของอีกฝ่าย

   “ตุล! พวกเราคิดคำอวยพรปีใหม่เอาไว้ให้นายด้วยนะ”

   เสียงรุ้งพรายแทรกขัดเข้ามา แล้วก็ตามมาด้วยราตรี กับปิ่นสุดา ที่บอกให้ตุลากลับบ้านพรุ่งนี้ไว ๆ พวกเธอจะได้จัดปาร์ตี้งานปีใหม่ให้กับชายหนุ่มตั้งแต่เช้า

   “ครับ ๆ อยากกลับให้ถึงบ้านจะแย่อยู่แล้ว คิดถึงทุกคนที่สุดเลยครับ”

   ตุลาบอกตามมาอย่างร่าเริง แล้วหลุดร้องอ๊ะเบา ๆ ก่อนเงียบไป ทำให้ทุกคนตกใจถ้วนหน้า

   “เป็นอะไรไปตุล!”

   กริชรีบถามอย่างเป็นห่วง เสียงหัวเราะแห้ง ๆ ดังเข้ามาก่อน แล้วปลายสายจึงดังขึ้นอีกครั้ง

   “หกล้มน่ะครับ พอดีมัวแต่คุยไม่ได้มองทาง”

   กริชกับคนอื่นขมวดคิ้วยุ่ง ส่วนอธิปถอนหายใจเฮือกใหญ่

   “ระวังหน่อยสิเจ้าหนู เดี๋ยวทางนี้ก็รีบหายตัวแจ้นไปหาเพราะห่วงหรอก”

   หมอผีหนุ่มเอ่ยพาดพิงคนใกล้ตัว ทำให้กริชหันมาค้อนขวับ แล้วคุยกับหลานชายต่อ

   “พวกพี่ไกร กับพี่สาเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”

   “สบายดีทั้งคู่ครับ พ่อยังบ่นถึงอาให้ผมฟังอยู่เลย ว่าถ้าอายังอยู่คงได้มาฉลองด้วยกัน”

   กริชรับฟังยิ้ม ๆ เขารู้ว่าพี่ชายรักเขามาก และเขาเองก็รู้สึกผิดต่อพี่ ที่ตัดสินใจทิ้งชีวิตนี้โดยไม่ได้ปรึกษาอีกฝ่าย ถ้าเกรียงไกรรู้ คงโกรธและผิดหวังในตัวเขามากทีเดียว

   “ตอนนี้คุยอยู่ที่ไหนเนี่ย ถ้าอยู่นอกบ้านก็เข้าบ้านไปก่อน อากาศค่อนข้างเย็นนะวันนี้ ระวังจะเป็นหวัด”

   กริชถามอย่างเป็นห่วง เสียงหัวเราะอ่อย ๆ ดังขึ้นปลายสายชวนให้สงสัย แต่พอจะถาม รุ้งพรายก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “คุณกริช! อย่ามัวแต่ชวนคุยสิคะ ตุล! อีกห้านาทีเองนะ มาเตรียมนับถอยหลังกันได้แล้วเร็วเข้า!”

   กริชชะงักกึก ก่อนจะยอมปล่อยให้สาว ๆ ล้อมวงโทรศัพท์และตัวเขาถอยออกมายืนห่าง ๆ เช่นเดียวกับพาทิศและอธิป

   “โดนแย่งเจ้าหนูไปแล้วนะนาย”

   อธิปเอ่ยแซวพาทิศที่ยืนยิ้มมองสาว ๆ ที่กำลังแย่งกันคุยกับตุลาอยู่ ผีดิบหนุ่มหันกลับมาแล้วบอกพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ นาน ๆ ที”

   “เหอะ ๆ นั่นสิ  ปกติเจ้าหนูก็ขลุกอยู่แต่กับนายทั้งกลางวันกลางคืนนี่นะ”

   อธิปเปรย ทำเอาคนข้าง ๆ คิ้วกระตุกขึ้นมานิด ๆ ด้วยความหวงหลานชาย แต่ก็ต้องหันกลับไปอีกทางเมื่อได้ยินเสียงอุทานอย่างตื่นเต้นของรุ้งพรายดังขึ้น

   “ต๊าย! อีกนาทีเดียวเท่านั้น เอาล่ะนะ เริ่มนับถอยหลังกันล่ะ ....ตุล ยังฟังอยู่หรือเปล่า!”

   รุ้งพรายตะโกนถามด้วยความแปลกใจ เพราะคุย ๆ กันอยู่เสียงตุลาก็หายไปจากโทรศัพท์เสียเฉย ๆ แถมยังได้ยินเสียงลมแว่ว ๆ เข้ามาในสายอีกต่างหาก

   “ตุล! เป็นอะไรยังฟังอยู่หรือเปล่า”

   กริชถามขึ้นบ้าง แม้แต่พาทิศเองก็เริ่มชักจะวางเฉยไม่ไหว

   “ตุล...ได้ยินพวกเราไหม”

   เสียงเงียบไปจนทุกคนใจคอไม่ดี และก่อนที่กริชจะตัดสินใจหายตัวกลับไปดูหลานชายที่บ้านเดิม เขาก็ต้องชะงักกึก เช่นเดียวกับทุก ๆ คนที่อยู่ในคฤหาสน์นั่น เมื่อได้ยินเสียงรั้วบ้านเปิดออก พร้อมกับร่างหนึ่งที่เพิ่งมาถึง

   “ตุล!”

   ทุกคนทิ้งโทรศัพท์วิ่งไปที่หน้าบ้าน พวกเขาเห็นตุลายิ้มกว้าง แล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินขึ้นมา

   “ยังเหลืออีกสิบวินะครับ”

   ตุลาโชว์นาฬิกาบนมือถือของเขาให้ทุกคนเห็น รุ้งพรายชะงักก่อนหันไปสบตากับคนอื่น ๆ ทุกคนมีรอยยิ้มกลับมา แล้วเริ่มนับถอยหลังตามเวลาที่เหลืออยู่

   “5... 4 ... 3...2 ...1  สวัสดีปีใหม่!”

   เสียงประสานด้วยความยินดีดังกังวานไปทั่วคฤหาสน์ม่านราตรี  และหลังจากที่ต่างคนต่างอวยพรปีใหม่กันเรียบร้อย ตุลาก็ถูกพาเข้ามาในบ้าน ส่วนพาทิศก็ไปชงนมอุ่น ๆ มาให้ชายหนุ่มดื่มแก้หนาว เพราะทั้งหน้าและทั้งมือของอีกฝ่ายนั้นเย็นเฉียบไปหมด

   “ดูสิ มือเย็นเชียว เหลวไหลจริง ๆ  ทำไมถึงกลับมาคนเดียวดึก ๆ แบบนี้  รู้ไหมว่ามันอันตรายมากน่ะ”

   กริชบ่นใส่หลานชาย เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่รุมดุชายหนุ่มราวกับเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ตุลายิ้มแห้ง ๆ แล้วบอกเสียงอ่อย

   “ก็ผมคิดถึงทุกคนนี่ครับ อย่างน้อยก็อยากจะมาร่วมเคาท์ดาวน์ด้วยกัน เลยขออนุญาตพ่อกับแม่ออกมาก่อน”

   พอได้ยินคำพูดของตุลา คนอื่น ๆ ก็พากันโกรธไม่ลง และต่างมีรอยยิ้มให้เหมือนเดิมก่อนหน้านั้น

   “แล้วพี่ไกรยอมปล่อยหลานมาง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ”

   กริชถามอย่างสงสัย ซึ่งตุลาก็หันไปยิ้มให้กับผู้เป็นอา แล้วบอกออกไปตามตรง

   “ผมบอกว่ามีคนสำคัญรออยู่ครับ...พ่อกับแม่ก็ไม่ซักอะไรมาก แต่พวกท่านบอกว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็เล่าให้ฟังบ้างแล้วกัน”

   คำพูดของตุลาทำเอาทุกคนตาเบิกกว้าง แม้แต่กริชเองก็ยังตกใจด้วยเช่นกัน

    “หรือว่าทั้งคู่พอจะรู้ระแคะระคายบ้างแล้ว”

   กริชพึมพำ แต่อธิปนั้นเหลือบไปมองคนรัก แล้วเปรยขึ้นบ้าง

   “ถ้าได้อ่านนิยายของเจ้าหนูเรื่องแรกนั่น แล้วไม่คิดว่ามันเป็นแค่นิยายก็คงพอจะเดาอะไรออกได้บ้างล่ะ”

   คำพูดของอธิปทำให้คนอื่นหันมาสบตากันอย่างเป็นกังวล แต่ตุลานั้นกลับขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าพวกท่านไม่ยอมรับ ผมก็จะพยายามอธิบายจนกว่าพวกท่านเข้าใจ ...แต่ผมเชื่อนะครับ ว่าพวกท่านจะต้องชอบพวกคุณเหมือนกับผมแน่นอน”

   สมาชิกในม่านราตรีหันมาสบตากัน แล้วต่างมีรอยยิ้มมอบให้กับเจ้าของบ้านคนปัจจุบันกันถ้วนหน้า

   “แน่นอน ก็พวกท่านเป็นพ่อแม่ของเธอนี่นะ”

   พาทิศบอกพร้อมรอยยิ้ม ตุลายิ้มน้อย ๆ ตอบคนรัก จากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันถึงการเตรียมตัวต้อนรับพ่อแม่ของชายหนุ่ม ซึ่งตุลาก็รีบร้องห้ามเสียงหลง เพราะรุ้งพรายเตรียมเสนอการต้อนรับแบบจัดหนักเพื่อเสริมภูมิต้านทานให้ทั้งคู่ ทางด้านกริชนั้นหัวเราะเบา ๆ แต่ก็แอบนิ่งคิดอะไรเงียบ ๆ อย่างสนใจเช่นกัน ทำเอาตุลาต้องหันมามองอาของตนตาปริบ ๆ เลยทีเดียว

   จากนั้นเวลาก็เริ่มล่วงเข้าสู่ตีหนึ่ง ตุลาหาวขึ้นเบา ๆ เพราะความง่วง ทุกคนจึงแยกย้ายกันไป และปล่อยให้ตุลาขึ้นไปนอนพักผ่อน ชายหนุ่มเอ่ยลาและกล่าวสวัสดีปีใหม่ทุกคนอีกครั้ง เขาเดินขึ้นชั้นสองไปพร้อมกับพาทิศ ก่อนจะหยุดมองลงมารอบ ๆ ทั่วคฤหาสน์ พลางพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา

   “สวัสดีปีใหม่นะม่านราตรี  ปีนี้ก็ขอฝากตัวด้วยอีกเหมือนเดิมนะ”

   

.... END …



ฝากข่าวนิดนึงค่ะ ตอนนี้ปัดเปิดรีไรท์นิยายทำมือเก่า ๆ ที่เคยทำไป
อาทิเช่น คุณตำรวจยอดรัก คุณอาที่รัก ดวงใจจ้าวมังกร โดยเปิดจอง/โอนตั้งแต่วันที่ 2 มกรา ถึง 14 กุมภา 55 ค่ะ

อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ค่ะ จิ้มจ้ะ (http://www.facebook.com/note.php?note_id=329081997116852)   

หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-01-2012 00:41:25
จิ้มๆๆๆ  ขอบคุณมากนะครับ ที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านกัน  ขอบคุณนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 06-01-2012 01:04:28
ประสบการณ์ที่บ้านราตรีเพิ่มอีกปีแล้วนะตุล :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 06-01-2012 22:20:18
เป็นผีที่ไม่น่ากลัวเลย  น่ารักมากกกกกกก

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆๆ นะคับบ สนุกมากๆๆๆๆ  จะรอเรื่องต่อไปนะคับบ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: kabung ที่ 06-01-2012 23:52:55
ยังไม่จุใจเลยอ่า จะเอาตอนพิเศษอีก  :serius2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: OTAKKIEZ ที่ 14-01-2012 12:35:04
เราชื่อปิ่นสุดาค่ะ ;A; ... อยู่ดีๆกลายเป็นผีซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 14-01-2012 12:41:34
เราชื่อปิ่นสุดาค่ะ ;A; ... อยู่ดีๆกลายเป็นผีซะแล้ว

โอ๋ ๆ ขอโทษค่ะ  แต่น้องปิ่นไม่ใช่ผีนะคะ น้องปิ่นเป็นภูตค่ะ เป็นน้องเงือกสวยน่ารัก ไร้เดียงสา(?)

พอดีหาชื่อที่ดูน่ารัก สวยสมหญิง+อ่อนหวาน  ให้เข้ากับตัวละคร ก็เลยได้ชื่อนี้มาค่ะ   ยังไงก็ขออภัยนะคะ ที่ไปเหมือนเข้า คงไม่ว่ากันเนอะ ^ ^"
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 14-01-2012 14:08:10
 :a5:  แง้ว ท่าทางเราจะไม่ได้เข้ามานาน

เปิดมาอีกทีจบซะเเล้ววววว
เดี๋ยวไปตามอ่านก่อน^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: express_men ที่ 15-01-2012 13:18:59
เม้นท์สั้นๆ

ว่าน่ารักมากครับ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 15-01-2012 19:00:55
โอ๊ะ ตอนพิเศษสองตอนเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: zetsubo ที่ 18-01-2012 22:23:15
น่ารักอะ ตุล อยากได้อย่างนี้บ้าง 5555 (ตบตีแย่งชิงกับพ่อผีดิบซินะ อิอิ 55)

คู่อธิปกับอากริซ (เขียนถูกป่าวหนอ :P) น่ารักอะ > :-[  ถ้ารวมเล่มแล้วน่าซื้ออะ >\\<
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 10-03-2012 01:36:12
 :pig4:

 o13 o13
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 10-03-2012 13:04:51
แวะเข้ามาแจ้งข่าวคราว ระหว่างยังไม่มีนิยายเรื่องยาวเรื่องใหม่ ม่านราตรีที่ว่าจะเปิดจองเดือนมีนา คงต้องเลื่อนเป็นเดือนเมษายนแล้วล่ะค่ะ เพราะงานเข้าช่วง ก.พ. มากมาย จนปั่นตอนพิเศษกับตรวจบรูฟไม่ทัน (เผอิญทำอีกเรื่องคู่กันไปด้วย)

ขออภัยที่ทำให้บางท่านรอเก้อนะคะ ตอนนี้ปัดเคลียร์ตอนพิเศษทำมือของแฟนตาซีแนวปกติ (แนวจิ้นได้ไร้นางเอก) เรียบร้อยแล้ว  ต่อไปนี้ก็จะเริ่มปั่นของม่านราตรีบ้างล่ะค่ะ  เท่าที่ดูน่าจะอัดเล่มเดียวอยู่นะคะ  กะว่าตอนปกติ+พิเศษ ให้หนาสักไม่เกิน 350-400 หน้า ก็พอล่ะนะ(เท่าที่ลงในเล้านี่ก็เกือบสามร้อยหน้าเอห้าละ)
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 17-03-2012 10:02:01
สนุกมากเลยค่ะ ชอบทุกคูเลย สงสัยปิ่นสุดานี่จะเป็นสาววาย ๕๕๕
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 17-03-2012 20:18:36
 o13 o13 o13

น่ารักทั้งสองคู่เลยเนอะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: k_roro ที่ 17-03-2012 22:51:44
ชอบๆๆๆๆ

อ่านรวดเดียวสองชั่วโมง

น่ารักมากถึงมากที่สุด ชอบๆ

ทำหนังสือมั้ยคะ

 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 24-03-2012 04:28:00
แง่ยังไม่คลายปมเรื่องคนรักของพาทิศเรย
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 24-03-2012 17:03:07
อิอิอิ เพิ่งได้ทำใจให้ไม่กล้วแล้วเข้ามาอ่าน ปกติเป็นคนกลัวผีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนแรกเลยไม่กล้าเท่าไหร่

แต่อ่านจบแล้ว ชอบมากกกกกกกกกกกกกกก ตุลน่ารักน่าแกล้งสุดๆไปเลย ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ (05/01/12) ตอนพิเศษ#2 P.21 [จบแล้วค่ะ]
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเล็ก ที่ 28-03-2012 23:23:04
น่ารักมากๆๆเลยค่ะ
ไม่ว่าจะแต่งแนวไหน
ก็น่ารักหมดเลยค่ะ
สนุกมากเลย ^^
จะรอรวมเล่ม และตอนพิเศษนะคะ
ติดตามเรื่อยๆๆค่ะ
สู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ .... แจ้งข่าวเปิดจอง P.
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 10-04-2012 13:18:56
หายไปนานแวะมาแจ้งข่าวการเปิดจอง
คาดว่าจะเปิดจองหลังสงกรานต์ ถ้ายังไงจะตามมาอัพเดทอีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: เปิดจองม่านราตรี วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2555
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 18-04-2012 21:32:52


สวัสดีค่ะ สรุปได้แล้วนะคะ 

เปิดจอง : นิยายม่านราตรี  ราคา 320 บาท (ส่งลงทะเบียนให้ฟรี)

เปิดให้จอง/โอนเงิน ได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2555


ภาพปกค่ะ

(http://www.nolimitbook.net/picpat/images/klz1334037017m.jpg)

หลังปก

(http://www.nolimitbook.net/picpat/images/cqs1334161963t.jpg)
 

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวอัพเดทแบบรวดเร็วทันใจ และไม่ตกหล่น ได้ในแฟนเพจเฟช  ไม่ต้องเป็นสมาชิกเฟชบุคก็เช็คได้(ใช่ไหมหว่า...แหะ ๆ พอดีปัดโลว์เทคเล็กน้อยน่ะค่ะ)

https://www.facebook.com/NovelPat


สั่งจองได้ที่   อีเมล์  novelpat(แอด)gmail.com    โดยใช้หัวข้อว่า    จองนิยาย ม่านราตรี  


ย้ำสักนิด! หลังจากที่ทำการโอนเงินแล้ว ปัดจะตอบเมล์ยืนยันการโอนเงินภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง ถ้าเกินนั้นให้สันนิษฐานได้เลยว่า เมล์ของท่านส่งมาไม่ถึงปัด  ท่านสามารถโทรถาม หรือ โพสสอบถามได้ในแฟนเพจ ได้เลยค่ะ




 
 
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....เปิดจองม่านราตรีแล้ว วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2555
เริ่มหัวข้อโดย: nookik ที่ 05-05-2012 11:11:35
เดินลั้นลา เข้ามาอ่าน แล้วก็ ...ติดหนึบหนับ  :-[

สนุกมากเลยจ้า


โดยเฉพาะตอนพิเศษ  :z1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....เปิดจองม่านราตรีแล้ว วันนี้ - 31 พฤษภาคม 2555
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 06-05-2012 03:20:33
สนุกมากมาย ขอบคุณมากเลยครับ
อ่านคนเดียวแล้วรู้สึกไม่กลัวแต่ดูตลก ๆ มากกว่า
ชอบแนวนี้  :)
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 14-05-2012 13:07:01
สวัสดีค่ะ  เอาตอนพิเศษในเล่มหวาน ๆ สั้น ๆ มาให้อ่านกันอีกตอนนะคะ ^^

เรื่องนี้ปิดจอง 31 พ.ค. ค่ะ  ใจจริงอยากแต่งตอนพิเศษยาว ๆ แต่ตอนปิดท้ายที่ลงในเล่มก็ค่อนข้างถูกใจตัวเองพอสมควร ก็เลยทั้งเล่มได้ระดับความหนา พอ ๆ กับดวงใจจ้าวมังกรแทน (ราว 350หน้า)

ส่วนเรื่องใหม่นี่ตั้งใจจะเขียนแนวฮาเฮออกมา แต่พล็อตก็ยังไม่ลงตัวสักทีสิน่า --"  ก็เลยยังไม่ได้มาลงเรื่องยาวเรื่องใหม่ให้อ่านสักทีนี่ล่ะค่ะ 

ดังนั้นเอาตอนพิเศษสั้น ๆ ไปอ่านแก้ขัดกันก่อนนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่คลิกเข้ามาอ่านกันค่ะ
 :pig4:
..
..

ตอนพิเศษ
ค่ำคืนหวาน ๆ ของสองเรา

   หลังผ่านพ้นวันปีใหม่ตุลาก็เริ่มต้นเขียนนิยายอีกเรื่อง โดยชายหนุ่มตั้งใจเปลี่ยนสไตล์การเขียนของเขาให้ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งกริชนั้นนอกจากคอยสนับสนุนแล้วยังคงให้คำแนะนำที่มีประโยชน์กับหลานของตนอยู่เสมอ ระยะแรก ๆ ทั้งสองแทบจะขลุกอยู่ด้วยกันตลอดเวลา จนอธิปชักเริ่มหงุดหงิดและหึงคนรักที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับเขาอย่างเคย

   “ฮึ! ทีหลังก็ย้ายไปนอนห้องเดียวกับเจ้าหนูมันเลยสิ ไหน ๆ ก็ไม่มีเวลาจะกลับมานอนด้วยกันอยู่แล้วนี่”

   อธิปประชดคนรัก เมื่อวิญญาณหนุ่มแวะมาหาตอนหัวค่ำ เพื่อที่จะบอกว่าคืนนี้ก็จะไปค้างกับหลานชายอีก 

   “น้อยใจงี่เง่าอะไรอีกล่ะ ทีเจ้าผีดิบนั่นยังไม่เห็นจะบ่นมากเหมือนนายเลยสักนิด ก็เห็นจี๋จ๋ากับตุลจนน่าหมั่นไส้ตลอดแท้ ๆ”

   หมอผีหนุ่มเหลือบมองคนรักที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยแววตารำคาญ แล้วจึงมองเมินไปอีกทาง

   “ใช่ซิ! ฉันมันคนใจแคบนี่หว่า คนเคยได้นอนกอดกันแทบทุกคืน แต่ดันมาโดนทิ้งติด ๆ กันแบบนี้ พอจะขอกอดก็บอกว่าต้องไปช่วยหาข้อมูลให้หลานเขียนนิยาย แล้วแบบนี้มันน่าน้อยใจไหมล่ะ!”

   อธิปประชดต่อทำให้กริชคลอนศีรษะอย่างเอือมระอา แต่ก็ต้องยอมรับว่าระยะหลังนี้เขาเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างให้กับอธิปจริงอย่างที่อีกฝ่ายบอก

   “อืม...ฉันผิดเองจริง ๆ นั่นล่ะ ขอโทษด้วยแล้วกันนะ”

   กริชบอกออกไปตรง ๆ ทำให้คนที่กำลังประชดน้อยอกน้อยใจชะงัก แล้วจึงหันมามองวิญญาณหนุ่มอย่างแปลกใจ

   “นายเป็นอะไรไป ทำไมยอมรับผิดง่ายเกินคาดแบบนี้”

   กริชฟังแล้วชักจะฉุนขึ้นมานิด ๆ แต่ก็พยายามระงับอารมณ์ แล้วตอบคำถามของอีกฝ่ายออกไปตามตรง

   “ก็ฉันรู้สึกว่าตัวเองละเลยนายจริง ๆ น่ะสิ ...ทั้งที่นายเป็นฝ่ายยอมตอบรับรักฉันแท้ ๆ”

   อธิปนิ่งอึ้ง แล้วจึงเดินตรงไปกอดร่างวิญญาณของอีกฝ่ายแน่นจนกริชรู้สึกแปลกใจ

   “เป็นอะไรไปอธิป”

   อธิปเงียบไปสักพัก แล้วจึงพึมพำตอบอีกฝ่ายไปทั้งที่ใบหน้ายังคงซบกับบ่าของวิญญาณหนุ่ม

   “เห็นนายยอมรับอะไรง่าย ๆ แบบนี้ มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาน่ะสิ...ถ้านายปลงตกทั้งหมด แล้วคิดจะไปเกิดใหม่ ฉันก็คง...”

   หมอผีหนุ่มเงียบไป ก่อนจะดันร่างของกริชออกแล้วฝืนยิ้มให้

   “บ้าชะมัด...ขอโทษนะนายกริช ทั้งที่ควรจะดีใจแท้ ๆ ถ้ามันเป็นแบบนั้นได้จริง”

   กริชจ้องอีกฝ่ายนิ่งด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย แต่ลึก ๆ แล้ว เขานั้นดีใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าอธิปเองก็ไม่อยากพรากจากเขาไปเช่นเดียวกัน

   “งี่เง่า...ฉันยังไม่คิดไปไหนง่าย ๆ หรอก ไหนจะห่วงตุล...แล้วก็นายอีก”

   กริชพึมพำพร้อมกับซบหน้าลงบนอกกว้างของอีกฝ่าย

   “คืนนี้ฉันไม่ไปค้างที่ห้องตุลแล้วล่ะ ...เดี๋ยวขอตัวไปบอกหลานก่อนแล้วจะกลับมานะ”

   กริชบอกแล้วเงยหน้าพร้อมยิ้มหวาน ทำเอาอธิปใจเต้นตึกตัก และเมื่อวิญญาณหนุ่มหายตัวไป ก็ทำให้คนที่เหลือนิ่งคิดกับตัวเอง ก่อนจะหลุดยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ ออกมาในที่สุด


   กริชรู้สึกแปลกใจที่พอหายตัวกลับมาในห้อง ก็ไม่เห็นอธิปอยู่ในนั้น

   “อธิป...นายอยู่ไหน”

   กริชเรียกคนรัก แล้วตรงไปที่ห้องน้ำก็ไม่เห็นมีใครอยู่ในนั้น

   “...ไปไหนของเขานะ”

   วิญญาณหนุ่มบ่นอุบอิบ แล้วจึงหายตัวมาด้านล่าง ก็ไม่เจอวี่แววของอธิปแม้แต่น้อย เขาถามพวกรุ้งพรายกับราตรี พวกหล่อนก็บอกว่าไม่เจอหมอผีหนุ่มตั้งแต่หัวค่ำแล้ว

   “เจ้าบ้า... หายหัวไปไหนนะ ตัวเองเป็นคนขอให้เรามาค้างด้วยแท้ ๆ”

   กริชเริ่มหงุดหงิด เขาหายตัวไปในห้องของอธิปอีกครั้ง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเห็นแผ่นกระดาษที่มีลายมือหวัด ๆ ของหมอผีหนุ่มเขียนอยู่

   ‘อยากเจอฉันใช่ไหมนายกริช ...เพราะงั้นก็ถอดเสื้อผ้าแล้วไปนอนยั่วยวนรอบนเตียงสิ แล้วฉันจะปรากฏตัวให้นายเห็นเอง...อ้อ! ถ้าไม่ยอมทำนะ ฉันจะหนีไปหานางไม้กิ๊กเก่าฉันแทนจริง ๆ ด้วย!’

   กริชอ่านแล้วขยำกระดาษก่อนเขวี้ยงทิ้ง พร้อมกับตะโกนลั่นอย่างโมโห

   “เจ้าหมอผีงี่เง่า! นายแอบดูอยู่ใช่ไหม! หนอย...ทำขู่ฉันหรือไง อยากไปนอนกับคนอื่นก็ไปเลยไป แต่ถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ!”

   เสียงถอนหายใจดังขึ้นทันทีที่กริชพูดจบ ร่างของอธิปที่คลายมนต์บังตาลง ค่อย ๆ ปรากฏให้เห็นจากมุมห้อง กริชหันขวับไปมองด้วยนัยน์ตาขุ่นเคือง แต่ยังไม่ทันที่ได้โวยวายด่าใส่ อธิปก็ยกมือสองมือยอมแพ้เสียก่อน

   “น่า ๆ ฉันก็แค่พนันกับตัวเองว่านายจะยอมไหม...แล้วก็ทายถูกเสียด้วยสิว่านายคงไม่ยอมทำแน่ แถมจะโกรธฉันเข้าให้อีก”
   กริชขมวดคิ้วยุ่งแล้วถามกลับเสียงห้วน

   “รู้ทั้งรู้แล้วจะทำไปทำไมอีก!”

   “ก็นะ...”

   อธิปเอ่ยค้างไว้ ก่อนจะมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามมา

   “ก็ฉันตั้งใจว่า ถ้านายยอมทำอย่างที่ฉันเขียนไว้จริง จากนี้ไปไม่ว่านายจะสั่งจะว่าอะไร ฉันก็จะยอมเชื่อฟังทำตามนายบอกทุกอย่าง ไม่หึง ไม่หื่น ให้นายต้องรำคาญใจอีกแล้วยังไงล่ะ”

   กริชตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แล้วรีบถามตามมา

   “และถ้าฉันไม่ทำแถมโมโหแบบเมื่อครู่ล่ะ นายจะทำอะไรฉัน!”

   อธิปจ้องอีกฝ่ายพร้อมยกยิ้มแสยะอย่างน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

   “ฉันก็ตั้งใจจะให้นายชดเชยที่นายทิ้งฉันให้นอนเหี่ยวแห้งตลอดเดือนที่ผ่านมานี่น่ะสิ!”

   กริชจ้องมองคนรักด้วยสีหน้าซีดเผือด เพราะดูจากแววตาแล้วอธิปนั้นท่าทางเอาจริงเต็มที่ แถมยังแฝงความหื่นไว้จนน่ากลัวอีกด้วย

   “อ๊ะ! ไม่ให้หนีหรอก!”

   อธิปส่งเชือกอาคมไปมัดร่างวิญญาณของกริชไว้ทันทีที่อีกฝ่ายขยับเตรียมหนี กริชสะดุ้งเฮือกแล้วหน้าแดงวาบ เมื่อเจ้าเชือกบ้านั่นเลื้อยไปมาบนร่าง แถมยังมัดเขาด้วยเงื่อนที่ค่อนข้างน่าอับอาย คล้ายกับพวกวิตถารชอบเล่น SM พวกนั้น

   “อธิป! ไอ้บ้า! แก้มัดฉันเดี๋ยวนี้นะ... อื๊อ!”

   เชือกรัดแน่นขึ้นสร้างความเจ็บปวดและเสียวซ่านประหลาดให้กับคนถูกรัด อธิปเลียริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะคุกเข่าตรงหน้าของร่างโปร่ง แล้วลูบไล้ฝ่ามือผ่านเสื้อผ้าของอีกฝ่ายซึ่งมันก็อันตรธานไปอย่างน่าอัศจรรย์ จนเหลือแต่เพียงเรือนร่างขาวโพลนเปลือยเปล่าที่ถูกพันธนาการอยู่ใต้เชือก ชวนให้กระตุ้นอารมณ์ของผู้ที่จับจ้องมองอยู่ยิ่งนัก

   “อย่าดิ้นมากสินายกริช ...ยิ่งดิ้นมันจะยิ่งรัดแน่นนะ”

   อธิปพึมพำเสียงแหบพร่าพลางคุกเข่ามานั่งเบื้องหน้าร่างเปลือยเปล่า พร้อมกับเล้าโลมส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายอย่างหลงใหล

   “อธิป...ไม่เอาแบบนี้นะ...ปล่อยฉันเหอะ”

   กริชครางพร้อมกับสูดปากด้วยความเสียวซ่าน เมื่ออีกฝ่ายปรนเปรอให้เขาด้วยความชำนาญจนเขาถึงกับผงาดตอบรับในเวลาอันรวดเร็ว

   “ไม่ต้องห่วง ...ถ้านายชินกับมัน นายจะชอบมันนะนายกริช ...ฉันศึกษามาอย่างดีแล้ว ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่นายคิดหรอกน่า”

   อธิปบอกพร้อมรอยยิ้ม แล้วจึงเดินไปหยิบของบางอย่างจากมุมห้องกลับมา ซึ่งพอได้เห็นกริชก็เบิกตากว้าง แล้วหน้าซีดเผือดด้วยความกลัว

   “อธิป...นายจะทำอะไรฉัน”

   “ก็อุปกรณ์ที่จะใช้เล่น SM กันไงล่ะ เทียนแล้วก็แส้ แต่ฉันไม่มีแส้ก็ใช้ไม้เรียวหวายแทนแล้วกันเนอะ”

   หมอผีหนุ่มบอกแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่กริชนั้นกลัวจนหมดอารมณ์พิสวาทไปแล้ว

   “เอาล่ะนะ นายกริช...เตรียมตัวให้ดีล่ะ”

   หมอผีหนุ่มหยิบไม้เรียวหวายง้างขึ้นเตรียมจะฟาด กริชน้ำตาคลอแล้วหลับตาเบือนหน้าหลบด้วยความกลัว แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อแทนที่จะได้รับความเจ็บปวด แต่กลับมีสัมผัสนุ่ม ๆ ที่แก้มของเขาแทน

   “ล้อเล่นน่ะ  ใครจะใจร้ายกับสุดที่รักได้ลงคอ”

   อธิปบอกแล้วจึงจัดแจงปลดเชือกอาคมออก ให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ กริชยืนมองด้วยความงุนงง ก่อนที่อธิปจะจัดการพาเขาไปนั่งบนเตียงด้วยกัน

   “แค่อยากแก้เผ็ดที่ทำให้ฉันต้องเหงาอยู่ทุกคืนเท่านั้นเอง ...แต่จริง ๆ น่ะหายโกรธตั้งแต่นายยอมทิ้งเจ้าหนูตุลแล้วมาค้างด้วยกันคืนนี้แล้วล่ะ”

   พอได้ยินคำเฉลยจากคนรัก กริชก็หน้าแดงวาบทั้งโกรธทั้งอายจนแทบจะพูดอะไรไม่ออก

   “โอ๋ ๆ อย่างอนสิที่รัก พอดีกลัวนายจะเบื่อลีลาเก่า ๆ ของฉัน ก็เลยหาเรื่องตื่นเต้น ๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศไงล่ะ”

   “ไอ้บ้า! ฉันกลัวแทบตายจริง ๆ นะ”

   กริชโพล่งใส่ด้วยความงอนกับความคิดบ้า ๆ ของอีกฝ่าย อธิปหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับกล่าวขอโทษ ก่อนจะชะโงกหน้าไปจูบแก้มซ้ายขวาของวิญญาณหนุ่มอย่างประจบ จนคนถูกจูบเริ่มใจอ่อน

   “ตกลงนายอยากได้เซ็กส์แบบไหน แบบเดิม ๆ หรือแบบเร้าใจ หือ?”

   อธิปกระซิบถามอ้อน ๆ แต่คนถูกถามนั้นหน้าแดงวาบ พร้อมกับผลักคนรักออกห่างด้วยความอาย

   “ไอ้หื่น! ไอ้หน้าด้าน! ฉันไม่น่าหลงชอบนายเลยให้ตายเถอะ เลิกกันเสียตอนนี้เลยดีไหม!”

   อธิปหัวเราะในลำคอ รู้ดีว่าคนรักพูดออกมาเพราะอาย ไม่ใช่เพราะเกลียดหรือเบื่อเขาแล้วแต่อย่างใด ทว่าถึงอย่างนั้นหมอผีหนุ่มก็ยังแกล้งกระเซ้ากลับไป ด้วยถ้อยคำที่แทบไม่แตกต่างจากใจจริงของเขานัก

   “ไม่เอาน่านายกริช...ขืนนายเลิกชอบฉันตอนนี้ ฉันคงบ้าตายแน่  นายทำให้ฉันตกหลุมรักหัวปักหัวปำแบบนี้ แล้วคิดจะทิ้งกันไป อยากให้ฉันร้องไห้นักเหรอ”

   กริชชะงัก หน้าร้อนวูบวาบ รู้สึกจุกในอก พูดอะไรไม่ออก รู้แต่เพียงว่าคำพูดของอธิปนั้นทำให้เขาสุขใจและปลาบปลื้มเสียเหลือเกิน

   “อธิป...แค่ได้อยู่ด้วยกัน ฉันก็พอใจแล้ว...ส่วนเรื่องนั้น ขอแค่นายมีความสุข ฉันก็สุขไปกับนายด้วยนั่นล่ะ...เพราะฉะนั้น นายอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ”

   กริชพึมพำก้มหน้าบอกหลังจากเงียบไปได้ชั่วครู่ และแม้จะไม่เห็นหน้าแต่อธิปก็รู้ดีว่าคนรักต้องข่มความอายพูดมาเพียงใด หมอผีหนุ่มยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ แล้วจึงรั้งร่างของกริชให้นอนราบไปบนเตียง ส่วนตัวเขาก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าที่เกะกะออกไปพร้อม ๆ กับจูบเล้าโลมไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย

   “นายกริช...รักฉันให้มากยิ่งกว่านี้ได้ไหม ให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนสำคัญสำหรับนายจริง ๆ”

   อธิปพึมพำขณะที่เฝ้าเวียนจูบไปแทบจะทั่วทั้งร่างเปลือยของคนรัก กริชกอดรัดร่างหนาตอบ และเมื่อหมอผีหนุ่มเคลื่อนใบหน้ามาประสานสายตา พวกเขาก็แลกเปลี่ยนจุมพิตกันอย่างเร่าร้อนและเนิ่นนาน จนกระทั่งอธิปถอนริมฝีปากออกมา

    “คนโลภมาก...”

   กริชกระซิบบอก แต่สีหน้านั้นมีรอยยิ้มหวานเชื่อมจนคนมองใจเต้น

   “ก็รักนี่นา ผิดด้วยหรือ”

   อธิปแย้งกลับทำให้วิญญาณหนุ่มหน้าร้อนวูบวาบกับคำหวานที่ได้ฟัง

   “แล้วต้องทำยังไงถึงจะพอใจล่ะ”

   คำถามเอียงอายนั้นทำให้หมอผีหนุ่มยกยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงชะโงกหน้าไปจูบหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

   “บอกรักหวาน ๆ ให้ชื่นใจสักคำก็พอแล้ว”

   กริชยิ่งหน้าแดงหนักหลังจากได้ฟัง วิญญาณหนุ่มหลุบตาเบือนหน้าหลบอยู่พักใหญ่จนอธิปคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่กล้าพูด ทว่าพอจะเล้าโลมร่างเปลือยตรงหน้าต่อ เขาก็ต้องชะงัก เมื่อได้ยินถ้อยคำแผ่วเบาจากปากของคนรัก

   “ฉันรักนายนะอธิป...รักมากที่สุด ...เพราะฉะนั้นห้ามทิ้งฉันไปหาใครนะ ...ต้องรักแต่ฉันคนเดียวรู้ไหม”

   คำสารภาพรักพร้อมถ้อยคำออดอ้อนที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของ ทำให้หมอผีหนุ่มรู้สึกปลาบปลื้มแทบตัวลอย กริชพูดให้เขาดีใจได้ยิ่งกว่าที่เขาเคยคิดไว้ แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาทั้งรักทั้งหลงอีกฝ่ายได้อย่างไร

   “แน่นอน...จากนี้ต่อไปฉันจะรักแต่นายคนเดียว นายกริช...ฉันสัญญา”

   ถ้อยคำกระซิบจริงใจพร้อมกับที่คนพูดไล่จุมพิตไปทั่วเรือนร่าง ทำให้กริชครางแผ่วเบาอย่างมีความสุข

    คืนนั้น ทั้งสองพร่ำพรอดคำรักผ่านทางวาจาและการกระทำโดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย จวบจนกระทั่งแสงสว่างจากเช้าวันใหม่เล็ดลอดผ่านม่านบางเข้ามา ร่างหนาก็ฟุบลงบนแผ่นอกขาวเปลือยเปล่าอย่างหมดแรง ส่วนคนที่อยู่ด้านล่างอมยิ้มน้อย ๆ แล้วชะโงกหน้าไปจูบเส้นผมของอีกฝ่ายที่หลับไปแล้วแผ่วเบา

   “รักนายนะ...เจ้าหมอผีหื่นของฉัน”

    จากนั้นทั้งคู่ต่างก็นอนหลับไปด้วยกันบนเตียงใหญ่อันแสนอ่อนนุ่มอย่างมีความสุข โดยไม่ได้รู้ตัวกันสักนิดเลยว่า เมื่อคืนพวกเขาร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน โดยไม่ได้สร้างเขตแดนปกปิดตามปกติ

    และเพราะอย่างนั้น สมาชิกในคฤหาสน์ม่านราตรีทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งตุลาซึ่งอยู่ห้องตรงข้าม จึงต่างก็ได้ยินเสียงครางหวาน ๆ ของกริชถนัดชัดเจน รวมไปถึงถ้อยคำกระซิบบอกรักกันอย่างเร่าร้อนที่ทั้งคู่มีให้กันนั่นด้วย

   ภายในวันนั้น กริชจึงต้องเผชิญกับสายตาแปลก ๆ ของสมาชิกคนอื่น รวมไปถึงหลานชายที่พยายามหลบสายตาเขาตลอดเวลา และพอได้ล่วงรู้ความจริงจากรุ้งพรายที่เผลอหลุดปาก วิญญาณหนุ่มก็ทั้งอายและโมโห จนถึงกับประกาศไม่ยอมมีอะไรกับอธิปไปเกือบอาทิตย์ทีเดียว

   และหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น อธิปก็ไม่เคยที่จะลืมกางเขตแดนก่อนร่วมรักกับวิญญาณหนุ่มอีกเลย แม้แต่ครั้งเดียว...


…End…
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 14-05-2012 13:31:16
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: FantasyPloy ที่ 14-05-2012 16:01:12
โอ๊ย!!!!!!!!
อยากจะไปอยู่บ้านราตรี เพราะตอนพิเศษนี้แหละ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 14-05-2012 16:22:58
ฮุๆๆ อิจฉาคนในบ้านนั้นจังเว้ย!!  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 14-05-2012 18:01:37
กริ๊ดๆ อยากได้ไปอยู่บ้านตุลา อิอิ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 14-05-2012 20:41:06

:o8: โอ้ยยย อยากเป็นคนในบ้านจังเลย
จะได้รู้ได้เห็น เอ๊ย ได้ยินกับเขาบ้าง 555555
ตอนพิเศษน่ารักมากจ้า  ขอบคุณมากน้า
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 04-06-2012 01:11:51
 :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 04-06-2012 21:05:20
ตุลเป็นคนน่ารักมาก ๆ เลยนะนั่น ถึงจะเป็นคนขี้กลัว แต่ก็กล้าหาญมาก ๆ เหมือนกัน พาทิศไม่ค่อยเลยนะ กริชรักตุลมาก ๆ เลยนะนั่น แต่ก็ขี้แกล้งมาก ๆ ด้วย อธิปฮาดี
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 05-06-2012 12:31:22
ตอนแรกเห็นเป็นเรื่องผีเลยไม่กล้าอ่าน
แต่พออ่าน ปรากฏว่าสนุก น่ารักมาก ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
ชอบทั้งสองคู่เลย เพื่อนๆผีก็เป็นผีดีทุกตัวเลย
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: tumtok ที่ 07-06-2012 02:34:26
ยังหวานกันยุไม่เปลี่ยนแปลง :impress2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 10-06-2012 22:12:53
 o13ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้สนุกดี อ่านไปยิ้มไป ลุ้นไป กล้าๆกลัวๆ พระเอกน่ารักดี ดูอบอุ่นและอ่อนโยนมากๆ
แล้วผีสาวแต่ละนาง น่ารักอ้ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: อากาศใต้ผ้าห่ม ที่ 08-08-2012 18:13:56
อ่านจบแล้ววว  o13 เรื่องนี้แปลกแหวกแนวมาก
ไม่เคยอ่านแนวนี้มาก่อนจริง ๆ สนุกมาก ๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 08-08-2012 22:43:29
ทีหลังก็เช็คควสามเรียบร้อยก่อนนะคุณหมอผี ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 16:54:42
สนุกมากเลยค่า
อ่านไม่เบื่อเลย
 o13
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 16-08-2012 07:26:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
อ่านจบแล้วสนุกครับ วังเวงนิดๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: mamaNUT ที่ 16-08-2012 09:05:25
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

มาหื่นแค่พอเบาๆ เบาะ ๆ ให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ บวกน้ำลายไหลมุมปากเล็กน้อย

น่ารัก หลงรัก ตามแบบฉบับ ม่านราตรี  ชอบคู่กริชกะอธิป ดูคิคุ ลั่นล๊า ดี

รอพิเศษต่อ..ขอแบบไม่งอก ไม่เส้น ไมกิน 555 ( บร้าไปแว้ววววว.... )
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 17-08-2012 13:13:20
ทั้งน่ารัก ทั้งสนุก
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-09-2012 11:13:10
ฮ่าๆๆ หื่นจนลืมกางเขตแดน
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: mnara ที่ 09-10-2012 13:52:42
หลังจากเจอเขตแดนมานาน :serius2:
ในที่สูดดดด :o8:
ชอบทุกเรื่องเลย(อ่านทุกเรื่องแล้ว) o13
จะเป็นกำลังใจให้ตลอดไปนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: kwa ที่ 24-10-2012 10:06:13
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้จนจบเมื่อคืนนี้ค่ะ
เสียดายที่เริ่มอ่านช้าไป เพราะมันสนุกมากกกกกก สนุกจริงๆ ^^
ตัวละครทุกตัวมีมิติของตัวเอง ไม่แบนราบจนถูกกลืนไปง่ายๆ
เนื้อเรื่องดึงดูดใจมากๆค่ะ อ่านแล้วก็อยากติดตามอ่านอีก
ปกติไม่ค่อยอ่านนิยายแนวผีๆ เพราะเป็นคนกลัวผี แหะๆ
แต่พอได้อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลย ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 13-01-2013 15:51:20
น่ารักอ่ะ o13 o13
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 24-01-2013 01:20:47
น่ารักมากเลยอ่่ะ เรื่องนี้

ชอบทุกคนเลย ^^

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: pandorads ที่ 29-01-2013 19:07:55
สนุกมากค่ะ เพิ่งอ่านจบเอง
แอบหลอนนิดๆ ตอนอ่านกลางคืน -w- เหมือนกัน 555
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 02-02-2013 17:38:06
+1 คนเขียนก่อนเลยค่ะ นิยายน่ารักมากมาย

อ่านเรื่องนี้เสร็จแล้ว อยากดู Warm Bodies ขึ้นมาเลยค่ะ เริ่มติดใจพระเอกซอมบี้ขึ้นมาตะหงิดๆ 555
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 03-02-2013 22:10:12
 :-[  :-[

ตุลน่ารักมาเลยอะ  บางตอนก้แอบน่ากลัว  บางตอนก็เรียกน้ำตา

เรื่องนี้สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: PJansam ที่ 06-02-2013 08:52:26
ชอบแนวนี้มากเลยคะ ที่แบบมีบรรยายกาศย้อนยุคนิดๆ(อย่างน้อยก้บ้าน)  ชอบมาดเลยคะ :-[
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: minimink ที่ 06-02-2013 23:55:16
ตอนเริ่มเหมือนจะน่ากลัว แต่อ่านไปอ่านมาเป็นนิยายแหวนแหว้ นะนี่  :กอด1: ชอบๆ ขอบุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 08-02-2013 05:55:19
สนุกมากเลยยย

ชอบทั้งสองคู่เลยค่ะน่ารักดีี
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 10-04-2013 21:31:30
สนุกมากจริงๆค่ะ แล้วก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดไว้ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 01-05-2013 22:09:11
สนุกมาก น่ากลัวด้วยคะ
อ่านรวดเดียวจบเลย
น้องตุลคนดีกับพาทิศหวานๆน่ารักคะ
คุณอากริชกับอธิป ชอบคะให้มาคู่กันคุณอาจะได้ไม่เหงา อิอิ  :L2:

ชอบที่มีปมต่างๆให้ได้คาดเดากัน สนุกมาก ขอบคุณผู้เขียนคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 27-06-2013 09:48:51
ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ  สนุกๆ  อบอุ่นมากๆค่ะ

จะติดตามทุกผลงานนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-06-2013 03:57:46
สนุกมากเลยค่ะ ตอนหลอนก็หลอนซะจนขนลุกเกรียวเลยทีเดียว
แต่พอหวานก็หวานซะมดเดินกันให้พรึ่บ
ปกติเราอ่านแนวผีๆ ไม่เยอะนะ แต่เรื่องนี้นี่อ่านต่อเนื่องจนจบเลยทีเดียว
ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: karashi ที่ 10-12-2013 20:36:21
น่ารักทั้งน้า ทั้งหลานเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2013 13:48:09
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: micky_yunjae ที่ 13-12-2013 12:14:51
เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยชอบหนูตุลน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 29-12-2013 21:28:36
ฮ่าๆๆๆ ตอนแรกก็ซึ้งๆดีอยู่หรอก มาฮาตอนฉากสุดท้าย

ที่ว่าหลังจากนั้นอธิปก็ไม่เคยลืมกางเขตแดนเลย แม้แต่ครั้งเดียว  :m20:

ชอบเรื่องนี้อ่ะ น่ารักมากกกกกกก  :hao7:

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 31-12-2013 21:58:56
สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: oishinutty ที่ 27-09-2014 00:42:14
ชอบอ่ะ อยากให้รวมเล่น อยากให้แต่ แนวนี้อ่ะ T-T ไม่อยากลืม น้อง เขาเลย ตุน น่ารัก เราก็อยากมี ประสบการณ์แบบนี้จัง T-T [แต่อย่าดีกว่า !! เพราะเรากลัวผี ]  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 28-09-2014 23:28:28
น่ารักอ่าาา ><

อ่านแล้วมีความสุขมากๆๆ ยิ้มตลอด

ขอบคุณนะคะ <3
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 30-09-2014 05:05:54
น่ารักใสๆ

หวานแหวนปนฮา แอบน่ากลัวนิดๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-10-2014 17:21:09
 :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 04-11-2014 21:45:26
ชอบเรื่องนี้มากแหวกแนว แถมฮามาก ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 02-09-2015 17:54:36
อ่านรวดเดียวจบ น่ารัก ฟินกันไปเบาๆ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 28-02-2016 14:44:17
น่ารักมาก ๆ ครับ ............ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 09-03-2016 00:41:18
น่ารักอ่ะ.....เสียใจมาอ่านช้าไปหลายปี :hao5:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 14-03-2016 08:16:24
น่ารักสุดๆ เรื่องนี้แต่งดีมากแฟนตาซีที่เหมาะสม น่ารัก ฟินเวอร์วังอลังการมาก
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 16-03-2016 17:32:13
รออ่านจบไม่ไหว ขอเม้นก่อน
พระเอกบทน้อย แต่ไม่เป็นไร นายเอกน่ารักมากกกก ให้อภัย
สงสัยพระเอกไปซ่อมร่างกายอยู่ ดีแล้วๆ
ถ้าลูกกะตาหลุดตอนจีบนานเอก คงแย่น่าดู
ซ่อมไวๆ กลับมาไวๆน้า5555มาทำคะแนน
ตลกคู่อธิปกับอากริช
เนื้อเรื่องแปลกดี ชอบบบบบบ

อ่านต่อๆ คึคึ :katai4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 22-04-2016 01:58:55
น่ารักมากกอะ
นี่ดีใจมากเดาพระเอกถูกตั้งแต่ตอนจูบมือ5555
พาทิศแบบออร่าพระเอกออกเลย
เปนซอมบี้ขี้แกล้ง ขี้เนียน และก้อบอุ่นน่ารักสุดๆ
เจอแบบนี้เข้าไปก้กลัวไม่ลงอะนะจริงๆ
คู่อธิปกริชก้แซ่บบบลืมมมตลอดเลยอะ
บทจะหวานก้เอาซะสำลักน้ำตาลเลย
สนุกมากกก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 31-01-2017 10:30:23
สนุกมากเลยค่ะ...น่ารักทั้งบ้านเลยเนอะ555[size=24pt
]แล้วจะติดตามผลงานต่อนะ...พยายามเข้า[/size]
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 18-12-2017 12:59:42
ผีไทยน่ารัก ๆ สมชื่อ  :L2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-12-2017 20:31:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: suphansa ที่ 19-12-2017 10:21:10
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 16-01-2018 11:26:43
อ่านไปหลายรอบแต่ไม่เม้นท์สักที  o18

เป็นเรื่องที่ดีมากๆเรื่องนึง
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: Airrieeirrie ที่ 22-03-2018 22:07:45
คืออ่านรวดเดียวเลย สนุกมากๆ เรื่องไม่ซับซ้อนด้วย ภาษาก็ดี แต่เราว่าเราอยากรู้ตอนที่ตุลจะหมดอายุขัยอะ ว่าทุกคนจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ม่านราตรี : แฟนตาซี (ผี)ไทย น่ารัก ๆ P.22....ตอนพิเศษ หวาน ๆ ของ อธิป-กริช
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 25-03-2018 14:18:37
ปิ่นเป็นสาววายใช่ม่ะ