"เพื่อรัก ฉันต้องเริ่ด" *Special Project* A21,The End : 5 Feb 2012; P52
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: "เพื่อรัก ฉันต้องเริ่ด" *Special Project* A21,The End : 5 Feb 2012; P52  (อ่าน 307813 ครั้ง)

Rhythm

  • บุคคลทั่วไป
เย้ รออ่าน

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รออ่านตอนต่อไป

ขอให้เข้าใจกันสักทีนะ ^^

watop

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมผมเพิ่งเห็นว่ามีเรื่องนี้ด้วย   :sad4: :sad4:

เพิ่งอ่านได้แค่ A1 เอง  แต่เห็นมีประโยคที่ว่า  อ.บ้านหมี่  จ.ลพบุรี

ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าบ้าน  "ยินดีต้อนรับนะครับ"  ช้าไป(มาก)โปรดให้อภัย

ว่าแต่ในเรื่องนี้มีสมาชิก บ้านหมี่ ลพบุรี มั้ยเนี่ย

ตอนนี้ผมขอตัวไปอ่านต่อก่อนนะครับ  แล้วจะตามให้ทันโดยไว

 :กอด1: :pig4: :3123: :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ น้ำชา เย็นๆ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ทำไมไม่เข้าใจกันสักที เราเศร้า

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ฮัทจบแล้วนะ  ฮิ้นรีบๆ จะได้จบไปพร้อมกัน  เตรียมชุดครุยด้วย

ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
ยังไม่จบหรอกเนอะ มีต่อภาคมหาวิทยาลัย อิอิอิ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
ตอนสุดท้าย
ไอ้ทักมันขับรถไปที่บ้านของฮัทล่ะครับ พอจอดรถก็เห็นพ่อของฮัทและอานั่งอยู่หน้าบ้านผมรีบลงจากรถทันที

                “สวัสดีครับ เอ่อ คือผมมาหาฮัท” ผมเอ่ยออกไปใจก็เต้นตูมตาม

                “อ้าวเพื่อนฮัทเหรอ ฮัทมันไปกรุงเทพฯแล้วล่ะหนู”

                “ไปอยู่ที่ไหนพอทราบไหมครับ” ผมถามพ่อของฮัทท่าทางนี่คงดูลนลานมากๆเพราะพ่อของฮัทหันไปมองอาของฮัทแล้วค่อยหันกลับมาตอบผม

                “อืม มันบอกไว้น่ะหนูว่าไม่ให้บอกใคร มันบอกว่ามันจะบอกเองไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ผมแอบถอนหายใจออกมา ทำไมกันนะ

                “คือฮัทลืมหนังสือสำคัญไว้กับผมน่ะครับ ขอที่อยู่ก็ได้เพราะผมจะส่งไปให้ฮัท นะครับคุณพ่อ” ผมเริ่มอ้อนวอนครับ พ่อของฮัทถอนหายใจออกมาเหมือนกัน

                “พ่อก็ไม่อยากจะปิดหรอกนะหนู แต่มันขอร้องไว้ บอกตามตรงมันเองก็ขู่พ่อไว้เหมือนกันว่าถ้าหากว่าใครรู้ว่ามันอยู่ไหนมันจะไม่ติดต่อพ่อมาอีกเลยจนกว่าจะเรียนจบ พ่อล่ะกลุ้มไม่รู้มันไปหนีใครหนักหนาถึงได้ปิดแบบนี้” แล้วผมควรจะทำยังไงดีล่ะครับ เสียใจนะแต่มันเหมือนมันถึงขีดของมันแล้ว ปวดใจนะแต่ให้ผมทำยังไงร้องไห้ออกมาก็ทำแล้ว ผมยกมือไหว้ลาพ่อกับอาของฮัททันที ไอ้ทักเองมันก็ยืนให้กำลังใจอยู่

                “เพราะกูคนเดียวเลยนะ เพราะกูแท้ๆ” ไอ้ทักมันครางออกมา

                “ทำไมล่ะ เกี่ยวอะไรกับมึง” ผมเองถามออกมาแต่ไมได้สนใจอะไรมันมากหรอกครับเพราะหัวใจมันมึนๆชาๆยังไงไม่รู้ พอก้าวขึ้นรถเครื่องแล้วผมถึงรู้สึกว่าเขาหนีผม เพื่ออะไร มีอะไรทำไมไม่พูดกัน มีอะไรทำไมไม่บอก ไม่เอา ไม่ชอบ หรือชอบหรือจะเอา กูจะรู้ไหม เชี่ยเอ้ย

                “ก็กูเคยขอร้องมันว่ากูขอให้มันอย่ามายุ่งกับมึง เพราะกูบอกมันว่ากูรักมึงมานานแล้ว นานเกินไปที่จะให้ใครมาแย่งมึงจากกูไป กูรักมึงตั้งแต่มึงยังไม่น่ารัก แต่มึงรู้ไหมว่ามึงน่ารักในสายตาของกูเสมอไม่ว่ามึงจะอ้วนจะดำ แต่มันเพิ่งมาชอบมึงตอนที่มึงไม่ดำแล้ว กูเลยขอมันไง มันมีน้ำใจลูกผู้ชายมาก มันทำตามสัญญา” ไอ้ทักมันสารภาพออกมาครับ ผมเองก็ตกใจที่ได้ยิน นี่เพราะไอ้ทักหรอกเหรอเนี่ยเรื่องทุกอย่างมันถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ว่าผมเองก็ไม่ได้โวยวายอะไร

                “มึงไม่รู้หรอก มันไม่จริงหรอก” ผมครางออกไป

                “อะไรที่ไม่จริง” มันหันมาถามครับ เราจอดรถอยู่ตรงชายทุ่งใต้ร่มราชพฤกษ์ที่เริ่มจะมีช่อดอกตูมเตรียมจะเบ่งบานในหน้าแล้ง ดอกไม้ที่ผมมองทีไรแล้วมีความสุขทุกครั้งไป

                “ฮัทเขาชอบกูมานานแล้ว ตั้งแต่เขาย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ เขา”

                “มึงรู้ได้ยังไง” มันร้องออกมาทำหน้าตกใจ

                “เขาเขียนไดอารี่ และกูก็ได้อ่านมันแล้ว กูถึงตามเขานี่ไง เพราะเขารักกูมานานแล้ว เขาชอบกูมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งจะมาชอบ” ผมน้ำตาเอ่อออกมาอีกครั้ง รักมานานแล้ว ชอบมานานแล้ว แล้วจะเก็บต่อไปถึงเมื่อไหร่เหรอ อยากจะถามเขาเหมือนกัน แล้วจะปกปิดมันไปถึงเมื่อไหร่ ไอ้ทักมันไม่ผิดหรอกนะที่มันขอไปแบบนั้นเพราะมันชอบมันก็ไม่ปิดบอกออกมาเลย แล้วเขาจะปิดผมไปถึงเมื่อไหร่กัน ผมเองก็ผิดที่พยายามไม่พอ ทำไมผมไม่แรดๆหน้าด้านๆเดินไปบอกเขาเลยนะว่าชอบ ว่ารัก ว่าอยากได้ ทำไม เพราะอะไรแล้วตอนนี้จะมาฟูมฟายเพื่ออะไร โอ๊ยย

                “งั้นกูจะช่วยมึงเอง ไปถาไมอ้ป่านกับไอ้วินกัน” ไอ้ทักมันบอกออกมาครับ

                “ก็มึงถามแล้วไม่ใช่เหรอ เขาคงจะพูดเหมือนพ่อของฮัทล่ะ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากว่าเราสองคนรักกันจริง ก็ได้แต่ภาวนาว่าสักวันคงจะได้เจอกัน คงจะได้บอกว่ารักกัน” ผมพูดออกไปพยายามจะไม่ร้องไห้ออกมา พอแล้วล่ะ

ไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานเท่าไหร่ ผมเองหลอกตัวเองว่าเดี๋ยวเขาก็คงติดต่อกลับมาแต่ไม่เลย จนจะถึงสงกรานต์อีกไม่นานก็จะเปิดเทอมอยู่แล้ว ผมไมได้ไปไหนเลย ไม่ได้ไปเรียนพิเศษ อยู่บ้าน อยู่ในห้อง อ่านไดอารี่ของเขาแล้วร้องไห้ ไม่รู้ทำไม เพื่อนๆผมก็มาหาที่บ้านทุกวันให้กำลังใจผมเป็นอย่างดี มันทั้งสามพยายามจะหาอะไรมาให้ผมทำเพื่อจะให้ผมไม่ว่างคิดอะไรไปคนเดียวเหมือนที่ผ่านๆมา

                “นี่มันจะไม่บอกจริงเหรอวะว่ามันไปเรียนที่ไหน” อีแจงมันพูดออกมาตอนกลางวันที่เราเตรียมจะตำส้มตำกินกันล่ะครับ อีวิวก็อยู่ไอ้ทักมันไปสอยมะละกอที่บ้านป้าของผม

                “นั่นสิ กูล่ะเซ็งแม่งจะหลบไปถึงไหนก็ไม่รู้ มันทำใจได้ไงวะ” อีวิวมันเสริมครับผมเอก็ไม่มีความเห็นหรอกนะว่าทำไม

                “แล้วไอ้เชี่ยป่านกับไอ้วินมันไม่บอกเลยเหรอ”

                “ไม่หรอกมึง ขนาดพ่อของฮัทเองยังบอกไม่ได้ แล้วไอ้ป่านกับไอ้วินมันจะบอกได้เหรอ” ผมพูดออกมาบ้างครับ

                “แปลกคนจัง นี่มันคิดอะไรของมันอยู่นะกูไม่เข้าใจไม่มีวันจะเข้าใจ อย่าให้เจอนะมึง ขอตบหัวมันสักที เชี่ยที่สุด”

                “นั่นดิ จะปิดจะเงียบไปถึงไหนทั้งที่ตัวเองก็ชอบก็รักเขา อะไรกันวะ มีแบบนี้ด้วยเหรอวะคนเราน่ะ ไม่เคยเจอ” อีวิวเสริมอีก ผมเองก็ได้แต่สูดลมหายใจเข้าออก

                “แต่กูพอเข้าใจฮัทแล้วนะ ว่าทำไม” ผมพูดออกมาครับ สองตัวนี้มันหันขวับทันที

                “ทำไมวะ” มันร้องขึ้นพร้อมกัน

                “ก็มีตอนหนึ่งที่เขาเขียนไว้ในไดอารี่ไง เขาบอกว่าไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แต่มีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆกู แต่ว่าทำไมเขาจึงกลัว กลัวที่จะเดินเข้ามาหา กลัวที่จะขอจับมือ นี่เขาคิดอะไรกับกูอยู่ เขาไม่อยากให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้เลย เพราะแค่นี้เขาก็เจ็บมากพอแล้ว” ผมเล่าคำในไดอารี่ของฮัทออกไปบางส่วนครับ

                “กูไม่เข้าใจ” อีวิวมันโพล่งออกมา

                “มันกลัวที่จะรักมึงเหรอ” อีแจงมันถามครับทำท่าครุ่นคิดอยู่

                “กลัวทำเชี่ยไร รักก็บอกรักไปเลยสิ”

                “แหมอีวิว มึงก็ต้องเข้าใจฮัทเขาบ้างสิ เขาเป็นเด็กผู้ชายปกตินะมึงอย่าลืม ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาอาจจะเคยคบแต่ผู้หญิง พอมีความรู้สึกชอบผู้ชายด้วยกันเป็นใครก็กลัววะ อีกอย่างสังคมของเขา พ่อของเขาอาจจะไม่ได้เปิดใจยอมรับเหมือนพ่อตุ๋ยกับแม่แจ่มก็ได้นะมึง คนเราไม่เหมือนกันนี่ กูเข้าใจฮัทล่ะ” อีแจงมันพูดออกมา มันเข้าใจในสิ่งที่ผมเข้าใจทุกอย่างครับ

                “แต่กูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีล่ะมึง ในเมื่อนี่มันเป็นชีวิตเรา จริงอยู่ว่าพ่อแม่ก็เป็นคนให้ชีวิต แต่เรา นี่มันชีวิตเรานะจะรักจะชอบใครต้องห้ามด้วยเหรอ นี่มันสมัยไหนแล้ว”

                “แหมๆ ก็ลองมึงไปรักไอ้แบงค์ขี้ยาสิ เอาแบบธรรมดาสามัญชายหญิงนี่ล่ะ มึงก็ลองคบดูแล้วมึงดูว่าพ่อแม่มึงจะยอมไหม” อีแจงยกตัวอย่าง

                “จิ๊ ไม่เหมือนกันสักหน่อย”

                “เอาเถอะมึง มันคงต้องมีทางไปล่ะ” ผมตัดบทครับเพราะท่าทางอีวิวคงจะอีกยาวและอีแจงเองก็เหมือนจะพร้อมยกตัวอย่างได้เสมอ

                “เอางี้ไหมมึง กูไปคุยกับไอ้ป่านไอ้วินให้กูว่ามันต้องบอก” อีแจงพูดออกมาตอนที่เรากินส้มตำเสร็จ

                “ไม่มีประโยชน์หรอกมึง” ผมค้านครับ

                “ไม่ลองจะรู้เหรอ กูว่ากูจะอ้อนวอนมัน ในเมื่อตอนนี้มันมาถึงขนาดนี้แล้วจะปิดกันไปทำไม ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน” อีแจงมันฉายแววตามุ่งมั่นออกมาครับ ผมหันไปมองหน้าเพื่อนๆอีกสองคนขอความเห็น มันสองคนพยักหน้าพร้อมกัน สรุปว่าเราก็ต้องไปอ้อนวอนไอ้ป่านกับไอ้วินอีกครั้ง

                “มาอีกล่ะ ไม่บอกเว้ย” ไอ้ป่านมันร้องออกมาตั้งแต่เจอหน้าเราทั้งสี่คนครับ ผมหน้าเสียไปแล้ว ไอ้วินเองมันก็มาลุกอยู่แต่บ้านไอ้ป่านไม่รู้มาทำอะไรกัน

                “กูรู้แล้วล่ะ แต่จะมาบอกแกสองคนเหมือนกันว่าถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก กูจะมาแช่งมึงสองคนว่าขอให้เจอเหมือนไอ้ฮิ้นท์มัน ขอให้รักใครเขาก็หนีทั้งที่รักกันใจจะขาด ขอให้มึงสองคนอย่าได้พานพบกับคำว่ารักเลยในชีวิตนี้”

                “เฮ้ย มากไปไหมมึงอีแจง” ไอ้วินมันกระโดดออกมาจากที่นั่งทันทีครับ

                “ไม่มากนี่ ทำไม จะตายเหรอแค่บอกว่ามันอยู่ไหน มึงคิดว่าไอ้ฮิ้นท์มันจะตามไปรังควานไอ้ฮัทมันเหรอ แค่มาถามเพราะอยากจะส่งไดอารี่คืน ถ้าจะทำแบบนี้กูเองก็ฝากถามมันหน่อยสิ มันจะมาวางไดอารี่ให้ไอ้ฮิ้นท์มันอ่านทำไม อ่านแล้วทำอะไรไม่ได้ เป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า” อีแจงมันใส่เป็นชุดครับไอ้วินกับไอ้ป่านหน้าเหวอ เราสามคนก็เหวอ

                “มึงเข้าใจหรอกเว้ย มันมีเหตุผลของมัน” ไอ้ป่านมันตอบออกมาอ้อมแอ้ม

                “กูไม่สนใจ แต่มันจะรู้ไหมว่าเหตุผลของมันกำลังทำให้อีกคนกำลังจะตาย เหตุผลเชี่ยอะไร ไม่รู้ล่ะมึงสองคนต้องบอกไม่งั้นก็อย่าหวังว่ามันจะได้กลับมาเจอหน้ากันอีก”

                “ทำไมวะ” ไอ้วินมันสงสัยครับผมเองก็สงสัย

                “ก็กูจะยุไอ้ฮิ้นท์แม่งให้มีคนอื่นไปเลยไง สมน้ำหน้ามัน รักกันยังไง รักแล้วหนี ชอบอะไรชอบแล้วมีแต่หลบ กูถามจริงๆเถอะถ้าหากว่าเป็นมึงสองคนมึงจะทำแบบนี้ไหมวะ” อีแจงมันเดินตรงเข้าหาครับจ้องหน้าไอ้ป่านกับไอ้วิน

                “อืม จิ๊ แม่งลำบากใจว่ะ กูเข้าใจมึงนะเว้ยฮิ้นท์ แต่ไอ้ฮัทมันก็ขอไว้ แต่ไอ้ฮัทเองกูก็เข้าใจมันนะว่าทำไม”

                “ก็นี่ไง บอกมาเสียก็จบ” อีแจงมันเร่งปฏิกิริยาครับ

                “โว้ย เอานี่ไป ไปหาเอง” ไอ้วินมันคงจะทนไม่ไหวครับเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วหยิบหนังสือเกี่ยวกับการถ่ายภาพออกมา มันยื่นให้ผม

                “เฮ้ย มึงเอาจริงเหรอวะไอ้วิน ไอ้ฮัทเอามึงตายแน่ๆ กูไม่เกี่ยวนะเว้ย” ไอ้ป่านมันร้องออกมา

                “ช่างแม่งเถอะ กูเบื่อจะหลอกคนว่ะ ไม่สันดาน มึงไปหาเองล่ะนะฮิ้นท์กูช่วยได้แค่นี้ล่ะ” ไอ้วินมันบอกครับแล้วเดินหนีไปหลังบ้านทันที อีแจงมันรีบมาดึงเอาหนังสือจากมือของผมไปเปิดดู

                “อ๊ะนี่มันชื่อ ฮัทนี่มึง เขาได้รางวัลถ่ายภาพ ได้รางวัลที่สามนักถ่ายภาพดาวรุ่ง ฮิ้นท์” อีแจงมันกรี๊ดออกมาครับผมเองก็ชะโงกหน้าเข้าไปดูอีวิวไอ้ทักเหมือนกัน

                “นี่มันรูปมึงนี่ รูปมึง” แค่ได้เห็นจมูกก็แสบตาก็ร้อนขึ้นมาทันที แรงดันในตัวขึ้นมาจากใจมันก็ดันออกมาน้ำตาเอ่อ

                “ฮัท” ผมร้องออกมาเม้มปาก

                “งานมีขึ้นที่พารากอน พรุ่งนี้นี่มึง” อีแจงมันรีบอ่านรายละเอียดครับ ผมจดจำทุกอย่างไว้ในสมองหมดแล้ว

                “ไปมึง มึงต้องไป ไปหาเขา” ได้ยินแค่นั้นแค่นั้นจริงๆ ผมก็วิ่งไปที่รถเครื่องทันที อีแจงมันรู้ครับว่าผมคงจะใจร้อนมันเลยให้ไอ้ทักมาขับรถให้ผม

                “พี่โฮม มารับฮิ้นท์หน่อย ฮิ้นท์อยากไปกรุงเทพฯ” ผมกดโทรศัพท์หาพี่ชายทันทีครับ

                “อะไรของมึง ไหนบอกจะไม่มา”

                “อยากไปแล้ว มารับเลยนะเย็นนี้”

                “โว้ย อะไรวะ กูต้องเข้าเวรนะ”

                “ไม่งั้นจะไปเองนะ จะบอกพ่อด้วย พี่โฮมไม่มาจะบอกพ่อ” ผมร้องไห้ออกมา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่มีเหตุผลเหมือนเด็กไม่ได้ของเล่นประมาณนั้น แต่มันเป็นวิธีเดียวครับที่ผมจะให้พี่ชายผมมารับได้

                “เฮ้ย เป็นไรวะฮิ้นท์ เออๆ เดี๋ยวแลกเวรเพื่อนไปรับ จิ๊ นี่มึงเป็นน้องหรือเป็นพ่อกูวะเนี่ย” พี่ชายผมบ่นออกมาครับก่อนจะวางสาย ผมใจชื้นขึ้นมารีบเก็บของที่จำเป็นแล้วก็นั่งกระสับกระส่ายรอพี่ชายครับ

                “ขอให้มึงได้เจอมันนะฮิ้นท์ บอกออกไปให้หมดเลยนะอย่าเก็บไว้อีก” อีแจงมันบอกผมครับ ผมเองก็พยักหน้า

                “อย่าหนีอีกนะ บอกมันอย่าหนี อย่าได้อายความรักมันไม่เคยทำให้ใครอาย” อีวิวพูดขึ้นอีกครับ

                “กูขอโทษนะ ขอให้มึงโชคดี” ไม่รู้ว่ามันยังเสียใจอยู่หรือเปล่าแต่สายตามของไอ้ทักมันจริงใจมากๆครับ ผมได้แต่เม้มปากแน่นและภาวนาขอให้ได้เจอเขา แค่ได้เจอก็พอแล้วผมจะบอกความในใจออกไปให้หมด ผมจะไม่เก็บมันไว้อีกแล้ว

                “มึงจะไปกรุงเทพฯเหรอฮิ้นท์” เสียงรถเครื่องมาจอดหน้าบ้านครับสองคัน ไอ้ป่านกับไอ้วินมีเพื่อนอีกคนหนึ่งนั่งซ้อนท้ายไอ้วินมาด้วย จำได้ว่าเขาคือเพื่อนของฮัท

                “อืมเราว่าจะไป” ผมเดินออกไปครับพวกมันก็เดินเข้ามา

                “งั้นป่ะไปด้วยกัน ไอ้ฮัทมันได้รางวัลที่สาม พ่อมันกับอาวดีก็ไปด้วย” ไอ้ป่านมันบอกออกมาครับ ผมรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้ในเมื่อพ่อกับอาของฮัทไปด้วย ถ้าหากว่าเจอกันอีกผมจะได้พูดกับเขาไหม

                “พวกนายจะไปยังไง เราให้พี่ชายมารับ” ผมบอกไอ้ป่านครับมองหน้ามันอยู่

                “ก็ไอ้โด่งมันจะขับรถไป ไม่ต้องห่วงพ่อกับอาวดีไปกันเอง มึงก็ไปกับพวกกูดิ” ผมหันหน้าไปมองเพื่อนๆ อีแจงมันเดินมาสมทบแล้วบีบบ่าผม

                “ก็ดีนะมึง เผื่อว่ามึงจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับฮัทเพิ่มขึ้น” อีแจงมันบอก ผมก็เลยต้องโทรบอกพี่ชายผมว่าจะไปเอง คราวนี้เองโดนมันด่าซะยับเยินเลยครับ มันบอกว่ามันอุตส่าห์ไปแลกเวรแล้ว จะมาเปลี่ยนกะทันหันแบบนี้ อะไรประมาณนี้ผมเองก็ขอโทษมันไปแล้วไมได้อย่างจะปั่นหัวใครต่อใครเล่นแบบนี้เลย แต่ในใจมันเต้นแปลกและแรงจนผมเองควบคุมมันไม่อยู่ สรุปแล้วผมก็ต้องนั่งรถเครื่องซ้อนไอ้ป่านไปบ้านของโด่ง แล้วเขาก็ขับรถของเขาไป

                “ที่มันไม่ยอมบอกน่ะ มันกลัวนะฮิ้นท์ ไม่ใช่ว่ามันไม่อยากบอก ทั้งพ่อมัน ทั้งเพื่อนๆ เราก็เค้นเอาคำตอบแทบตาย ตอนที่มันยิ้มดูมันมีความสุขมาก แต่เวลามันทุกข์ก็ไม่มีใครเข้าใจในความคิดของมันได้” ไอ้วินเริ่มเล่าครับผมเองก็นั่งนิ่งฟังอยู่

                “นั่นสิ มันกลัวว่าใครต่อใครจะไม่เข้าใจที่มันชอบ เอ่อ ผู้ชายด้วยกัน” ไอ้ป่านมันเสริมครับ

                “เราเป็นเพื่อนฮัทมานาน ฮัทไม่เคยรักใครจริงจังเท่านี้มาก่อนนะ เราว่าฮัทมันรักนายจริงๆ แต่ไอ้ฮัทเองมันเป็นคนไม่ค่อยพูด ถ้าเจอในงานนายอยากบอกอะไรมันก็บอกไปเลยนะ เราเชื่อว่าความรู้สึกของนายสองคนน่าจะตรงกัน” คนขับรถพูดขึ้นบ้างครับ แล้วทั้งสามคนก็ผลัดกันเล่าเรื่องราวของฮัท โด่งเล่าตั้งแต่ตอนเด็ก ส่วนป่านก็เยินยอว่าฮัทมีน้ำใจเป็นนักกีฬาอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนวินก็เล่าเรื่องที่ฮัทเองชอบผมนานแล้วแต่ไม่เคยบอกใคร ผมนั่งฟังอยู่ด้วยความเอิบอิ่มใจพอไปถึงกรุงเทพฯโด่งมันก็แวะไปที่หอพักของมันให้เราล้างหน้าล้างตาก่อนจะไปพารากอน ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา พอยืนหน้ากระจกผมก็ยิ้มออกมา ดีใจมากๆที่จะได้เจอฮัทแล้ว ผมดูหน้าตาตัวเองพยายามเอาน้ำลูบให้มันดูสดชื่นขึ้นมาบ้างเพราะเท่าที่ร้องไห้นอนไม่หลับมาหลายวันมันก็ทำให้ผมดูเหมือนหมีแพนด้าไปได้เหมือนกัน

                “ป่ะ ใกล้ถึงเวลางานแล้ว” โด่งชวนเราก็ลงจากหอของโด่งมาแล้วเขาก็ขับตรงไปที่พารากอน วันนี้ผู้คนเยอะเป็นพิเศษหรือผมคิดไปเองก็ไม่รู้ แค่ก้าวลงจากรถขาก็สั่น ใจสั่นไหวไปแล้ว งานจัดขึ้นที่ฮอลล์จัดงานของห้างภายในงานก็มีรูปที่ชนะการประกวด รูปที่เข้ารอบติดไว้ตามผนังของงานให้คนได้เดินดู

                “นั่นไง รูปไอ้ฮัท” ไอ้วินมันร้องขึ้นครับเมื่อเราเดินเข้ามาในงาน ผมหันไปดู ทันทีที่ได้เห็นก็หยุดกึกลง ใจที่เต้นตุ้มๆต่อมๆอยู่แล้วร่วงหล่นหายไปเลย มันดีใจ มันประหลาดใจ มันรู้สึกหลากหลายอย่างจนผมไม่สามารถจะแยกแยะได้ว่านี่มันคือความรู้สึกชนิดไหนกัน รูปที่ติดอยู่บนผนังนั้นมันใหญ่มาก ใหญ่เสมือจริง และคนในรูปนั้นคือผมเอง ผมที่นั่งมองสันเขื่อนอยู่ในตอนนั้น แสงสีเงาตกกระทบ แสงแดดที่ลามเลียใบหน้าผมนั้นมันดูอบอุ่น มันน่ามองเหลือเกิน สวยมากๆ ไม่ใช่ผมแต่มันคือการถ่ายรูปของเขา ผมน้ำตาเอ่อขึ้นมาเม้มปากแน่น

                “เข้าไปดูใกล้ๆดิฮิ้นท์” โด่งมาดันหลังผมให้เข้าไปดูใกล้ๆ ผมก็เดินเข้าไปหัวใจมันหายวับไปแล้ว รู้สึกดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็น ผมแหงนมองภาพนั้นอยู่พลันน้ำตาก็ร่วงลงมา

                “มันถ่ายสวยนะ สวยมาก” เสียงใครไม่รู้ดังอยู่ด้านหลังผมไม่ทันสนใจจะมองผมมองทุกรายละเอียดของภาพ ภาพนี้มันสวยมากจริงๆ สวยจนผมไม่อาจจะละสายตาไปไหนได้เลย

                “เอ๊ะ คนในรูปนี้ใช่น้องไหม” เสียงคนที่เข้ามาดูรูปเอ่ยขึ้นครับ ผมรีบกระพริบตาถี่ๆแล้วหันไปยิ้ม แต่ก็แค่นั้นผมรีบเดินหนีไปจากตรงนั้นทันที ไม่อยากจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่ผมอยากจะพูดด้วยในตอนนี้ คำพูดที่เรียบเรียงไว้ในใจมันมีไว้ให้เขาคนเดียว ผมอยากจะพูดกับเขาคนเดียวเพราะถ้าหากว่าผมเอ่ยอะไรกับใครออกไปคำพูดที่ผมตระเตรียมไว้มันจะหายไป โด่งเห็นว่าผมไม่อยากคุยกับใครเขาเลยพาผมออกไปจากบริเวณงานบอกว่าถ้าถึงตอนที่เขามอบรางวัลจะพาเข้ามาใหม่ โด่งพาผมไปหาอะไรดื่ม คนที่เดินเข้างานไปมีจำนวนไม่น้อย ผมชะเง้อมองเผื่อว่าจะได้เจอกับเขาแต่ก็ไม่เจอ ผมเหลือบไปเห็นพ่อกับอาของฮัทมาถึงแล้ว ไม่นานก็ถึงเวลางานเสียงพิธีกรประกาศดังแว่วออกมาจากฮอล โด่งจึงพาผมกลับเข้าไปในงาน

                “ตอนนี้เราได้ตัวของคนถ่ายภาพมาสามคนนะครับ นับจากรางวัลที่ หนึ่งถึงสาม ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ได้รางวัลที่สามคือเด็กมัธยม” เสียงเขาประกาศดังขึ้น เสียงที่บีบคั้นหัวใจผมเหลือเกิน ผมยืนอยู่ห่างจากเวทีพอสมควร และเชื่อว่าคนบนเวทีจะไม่มีทางมองมาเห็นผม

                “เอาล่ะครับขอเสียงปรบมือต้อนรับคนที่ได้รางวัลทั้งสามคนด้วยครับ” เสียงปรบมือดังกึกก้องขึ้นพลันผมก็เห็นฮัทที่เดินขึ้นมาบนเวที เขาใส่สูธแบบที่วัยรุ่นใส่ข้างในสวมเสื้อยืดสีขาวสวมกางเกงยีนส์ ให้ตายเถอะผมแทบอยากจะวิ่งเข้าไปกอดให้สมใจ เขาดูดีมากๆ มากกว่าใครหลายคนในบริเวณนั้น

                “น้องบุญณรงค์ใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถามฮัทแล้วยื่นไมค์โครโฟนให้

                “พี่อยากจะถามความรู้สึกของน้องบุญณรงค์นะครับว่าภาพที่ถ่ายนั้นสื่อถึงอะไรครับ แล้วตอนที่ถ่ายนี่คิดอะไรอยู่ คนในรูปคือใคร แล้วชื่อภาพที่บอกว่าแด่คนที่รัก นั่นหมายถึงเขาหรือเปล่าครับ” เขายิงคำถามฮัทเองรับไมค์มาไว้ในมือแล้วมองลงมาด้านล่างเขากลืนน้ำลายลงคงแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด ท่าทางของเขาทุกอย่างผมสังเกตอยู่ตลอดเวลา

                “ครับผม ภาพนี้เป็นภาพที่ผมแอบถ่ายเพื่อนมาครับ ตอนที่เราไปเขื่อนด้วยกัน ผมเห็นว่าแสงและเงามันสวยดีเลยแอบถ่ายมา” เขาตอบออกไปครับ

                “แล้วทำไมถึงตั้งชื่อภาพว่า แด่คนที่รักล่ะครับ คนในภาพเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ” คนถามเริ่มเสียมารยาท ถามในสิ่งที่เขาอยากจะรู้แต่เขาไม่คำนึงถึงคนตอบ ตอนนี้เองผมรู้สึกเข้าใจและเห็นใจฮัท

                “อ้อครับ แด่คนที่รักก็หมายถึงเวลาที่มองภาพนี้ สำหรับผมเองจะรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าคนอื่นเขาจะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า แต่ผมมองแล้วผมรู้สึกว่าเวลามองรูปนี้แล้วอยากมีคนที่รัก แสงสีทองนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าอยากมีคนรัก” ฮัทตอบออกมาเสียงคนปรบมือดังกึกก้อง เขาฉลาดมากทีเดียวที่ตอบออกไปแบบนั้น

                “นั่นสินะครับ เวลามองภาพนี้แล้วรู้สึกอยากมีคนรักจริงๆด้วยล่ะ นับว่าเก่งมากครับสำหรับการส่งภาพถ่ายเป็นปีแรกและได้ถึงรางวัลที่สาม” พิธีกรตอบออกมาแล้วเขาก็ประกาศมอบรางวัล ตอนที่ฮัทรับรางวัลเหมือนเขามองลงมาทางผมด้วยแต่คิดว่าคงมองไม่เห็น สักพักก็ปล่อยให้ฮัทลงจากเวที ผมตั้งใจจะวิ่งเข้าไปหาฮัทแต่พ่อกับอาวดีเข้าไปหาเขาก่อน โด่งเองก็จับแขนของผมไว้ เขาเดินไปหาป่านกับวินแล้วคุยอะไรกันสักอย่าง

                “ไปทางนี้ฮิ้นท์” โด่งบอกแล้วพาผมเดินอ้อมไปหลังงาน

                “ไปไหน” ผมถามขึ้นเพราะทางนี้มันคือบันไดหนีไฟ

                “เอาน่า เราจะพานายไปหาคนที่นายรัก” โด่งพูดออกมา คำพูดที่ทำให้ผมเองไม่ค้านเวลาที่เขาดึงแขนผมไป ผมตามไปทั้งตัวและหัวใจ พอถึงบันไดหนีไฟโด่งก็ปล่อยให้ผมผลักเข้าไปคนเดียว ผมเองก็ไม่ลังเลรีบผลักเข้าไป

                “ฮัท” ผมร้องออกมาดีใจจนบอกไม่ถูก ฮัทยืนอยู่บนขั้นบันไดก่อนแล้ว เขาเองหันมาแล้วทำสีหน้าเหมือนตกใจ

                “ฮิ้นท์” เขาร้องออกมาแล้วก้าวลงมาหาผม ผมเองก็ก้าวเข้าไปหาเขา กอดสินะ ผมคิดในใจแค่ไม่กี่เสี้ยววินาทีแค่นั้นผมก็โผเข้ากอดเขาทันที

                “เรารักนายนะฮัท เรารักนาย” ผมร้องไห้ออกมากอดเขาแน่น

                “เราก็รักนาย เราเองก็รักนาย” ใจผมเต้นแรงเหลือเกิน มันเต้นแรงจนเหมือนว่ามันจะหยุดหายใจ ผมดีใจมีความสุขมากๆ เราผละออกจากกันฮัทจ้องหน้าผม ไม่ทันได้ให้เขาคิดว่าควรจะพูดอะไร ผมเองก็โผเข้าประกบปากกับเขาทันที ตอนแรกเขาสะดุ้งตกใจแต่ก็จูบตอบรับ มันเป็นจูบที่ผมจะไม่มีทางลืม ริมฝีปากของคนที่รักช่างหอมหวาน มือที่กอดก่ายกันอยู่นั้นเหมือนว่ามันไม่มีความพึงพอใจเลยกับการได้สัมผัสเพียงเท่านี้ มันไม่เคยเพียงพอเลย

                “อย่าหนีเราไปอีกนะฮัท อย่าหนีเราไปไหนอีกนะ” ผมร้องไห้ออกมาหลังจากที่ดูดดื่มกับรสจูบของเขา

                “เราไม่ไปไหนหรอก  ดีใจนะที่ฮิ้นท์มาในวันนี้ ดีใจมาก”

                “เราก็ดีใจ ดีใจมากที่สุด”

                “ขอโทษนะฮิ้นท์ที่เราเหมือนคนขี้ขลาดให้ฮิ้นท์ต้องร้องไห้” ฮัทเขานิ้วมาปาดน้ำตาของผมออก ผมเม้มปากแต่ยังจ้องตาของเขาอยู่

                “ไม่เป็นไร แค่นี้เราก็มีความสุขมากแล้ว ขอบใจนะฮัทที่รู้สึกเหมือนกับเรา” ผมตอบออกไปแล้วยิ้มทั้งน้ำตา

                “ดีใจก็อย่าร้องไห้ดิ เราใจไม่ดีนะ”

                “ก็มันดีใจอ่ะ ดีใจจนร้องไห้” ผมหัวเราะออกมาทันใดฮัทก็ก้มลงหอมแก้มผม ตอนนี้รู้สึกเขินทั้งที่จ้องหน้ากันอยู่ ผมรู้สึกหัวใจมันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก คนมีความรักมันรู้สึกแบบนี้เองหรือ หัวใจรู้สึกได้ว่ามันพองโตจนคับแน่นหัวใจไปหมด

                “แต่ฮิ้นท์เข้าใจเราใช่ไหม ว่าเราจะรักกันเหมือนคนปกติไมได้ เราขอโทษถ้าหากว่าเราจะเดินจับมือกับฮิ้นท์ไม่ได้ เราขอโทษถ้าหากว่าเราจะต้องบอกใครต่อใครว่าฮิ้นท์เป็นแฟนเราไม่ได้” เขาทำสีหน้าเป็นกังวลออกมา

                “ฮัท แค่ฮัทรักเราก็พอแล้ว แค่ได้รู้ว่าเราสองคนรักกันก็พอแล้ว เราไม่ได้อยากให้ฮัททำอะไรแบบนั้น แค่ได้รักแค่รู้สึกตรงกันก็พอใจมากแล้ว” ผมตอบออกไปบ้าง มันจริงอย่างที่เขาว่า เขาไม่ใช่จะมาเปิดเผยตัวว่าเป็นแฟนผมและผมก็ไม่มีความจำเป็นที่จะไปเปิดเผยตัวว่าเราคบกัน ว่าเรารักกัน คนเรารักกันก็รักแค่สองคนและคงไม่จำเป็นที่จะต้องป่าวประกาศไปในเมื่อนี่มันคือความรักของเรา ไม่ใช่ของใครหรือของเขา

           " """ """"รูปเราที่ฮัทถ่ายไว้นั่นเราชอบมากเลยนะ  ไม่เห็นบอกเราเลยอ่ะ  ว่าถ่ายรูปนี้ไว้ด้วย" 

           " "อ๋อ... อืม ขอโทษทีนะที่เราไม่ได้บอกนายก่อน  อยู่ๆก็เอารูปนี้มาลงประกวดดื้อๆยังงี้  แต่เราชอบรูปนี้ที่สุดแล้วน่ะ"  ฮัทบอกพลางจูงมือผมเดินลงมาตามทางหนีไฟนั้นออกมาข้างนอก

                “ขอบใจนะฮิ้นท์ เออ.. ใช่  อยู่ๆเราก็นึกถึงรูปนั้นของนานอ่ะ  อันที่ได้รางวัลนั่นน่ะ เราเคยอยากถามมานานแล้ว  ว่าที่ใต้ต้นไม้นั่นมันมีขีดอยู่สองขีด จริงๆมันคืออะไรเหรอ เราคิดมาตั้งนานคิดไม่ออก”

                “ก็เราสองคนไง ตั้งแต่วินาทีที่เราชอบนาย เราก็จินตนาการไปว่าเราสองคนยืนอยู่ใต้ต้นราชพฤกษ์ดอกสีเหลืองทั้งต้นมีเราสองคนยืนอยู่เคียงข้างกัน”

                “ฮิ้นท์” ฮัทจับบ่าผมไว้แล้วยิ้ม เป็นอีกครั้งที่เขาดึงหน้าผมเข้าไปจูบ สวรรค์มันอยู่แค่นี้เอง ใจเรามันเต็มไปด้วยสุขเราก็เหมือนขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าหากใจเราทุกข์มันก็คงเป็นไปในทางกลับกัน
เขียนโดย อิ๊กกี้
                                                  จบครับ

ปล. ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านมาเรื่อยๆนะครับ เรื่องนี้ค่อนข้างเขียนนานไปหน่อยเพราะคนเขียนทั้งสองเองมีภารกิจงานประจำต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วย แต่ก็ขอบคุณมากๆนะครับที่ติดตามอ่านมาจนจบเรื่อง ส่วนเรื่องภาคต่อนั้นรอหลังสึกว่าจะมีโครงการอะไรอีกไหม ยังไงก็คอยติดตามนะครับผม ขอบคุณมากๆนะครับ จากใจอิ๊กกี้และเพื่อนครับ

ป.ล อิอิ ตอนนี้ น้องภูมิกำลังประกาศจองอยู่นะครับผม ใครสนใจก็สามารถสั่งจองได้เลย มีของสะสมเป็นเข็มกลัดให้ด้วยคร้าบบ

ขอบคุณครับ

อิ๊กกี้

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
จบอีกเรื่องแล้ว  จบแบบสบายๆเนาะพี่อิ๊ก
อืม  ไม่รู้จะเม้นต์อะไรดี  แบบว่ายังเชียร์ทักอยู่  อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
จบแบบนี้ก็ดีเนอะ
แค่รู้ว่าเรารักกัล :n1:
กด+เป็ดจ๊า
   

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็ Happy Ending
ขอบคุณอิ๊กกี้กับเพื่อนอิ๊กกี้นะจ๊ะ
สำหรับความเพลิดเพลินที่มอบให้
คนอ่านคนนี้ขอมอบ :L2 :และ :กอด1: ให้นักเขียนทั้งสอง
แทนคำขอบคุณอีกครั้งล่ะกันจ้ะ

ออฟไลน์ khunstar

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 487
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
อืมจบแบบนี้ปลื้มมมมม o13

 :bye2:ขอบคุนที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านจ้า

TeuyHom

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบแฮปปี้อ่ะ  น่ารักที่สุดเรยยยยยยย  ชอบๆๆ อยากเจอแบบนี้มั่งจัง  เขินๆจุ๊บกันด้วยย   อิอิ!!!

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
โล่ง

มีความสุขมากๆนะครับ ฮัท ฮิ้น

เป็นกำลังใจให้ทักด้วยน๊ะ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
น่ารักมากครับเรื่องนี้
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะครับ
อ่านไปยิ้มไป มีเศร้างบ้าง
มารอนิยายเรื่องใหม่นะครับ

ออฟไลน์ bytoey

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 865
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +197/-3
รักเรื่องนี้  :กอด1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดีใจแทนฮัทกะฮิ้นท์ที่เจอกัน ได้บอกรักกัน
ข้อจำกัดในชีวิตของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน
สองคนนี้ก็คงมีความรักในแบบที่เขาตกลงกัน ยังไงก็ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะ

ออฟไลน์ น้ำชา เย็นๆ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แต่ได้รู้ว่ารัก

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
 :impress3:   จบด้วยดี

แต่ถ้ามีภาคต่อ  คิดว่าคงมาม่าเต็มจอแน่  เพราะคว่มคิดของฮัทมันช่าง   :z3:  ปวดตับบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






min_min

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้มีภาคต่อ  จะรอกดโหวตเน่อ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
ค่อย ๆ อ่านทั้งของฮัทและฮิ้น... ความสุขของน้องฮิ้นก็คือความสุขของเรา..
และเทใจให้น้องแจง....เธอตีได้ตรงจุดมาก...สมควรได้รับ  :L2: แทนคำขอบใจ..
บทสรุปเราก็รู้แล้วว่า...เค้าทั้งคู่จะเดินไปด้วยกันด้วยความเข้าใจและยอมรับว่า
ในสังคมไม่ได้มีเค้าแค่สองคนยังมีคนอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง...และมีความสุขแบบที่มันควรจะเป็น...
ถ้าทั้งคู่สามารถเข้าใจถึงสัจธรรมนี้...รักนี้จะยืนยาวแน่นอน
ขอบคุณน้องอิ๊กและเพื่อนที่ช่วยกันแต่งนิยายที่มีทั้งความสนุกและบีบอารมณ์เล็ก ๆ ให้ได้อ่านกัน
ให้ข้อคิดในความเป็นจริงของสังคมที่พวกเราต้องยอมรับ...พี่จะติดตามนิยายเรื่องอื่นๆต่อไปค่ะ :L1:

 :pig4: น้องอิ๊ก กะ เพื่อน  :กอด1:

khalwfarng

  • บุคคลทั่วไป
จบแบบสบายๆ
โดนใจที่สุดค่ะ eiky    o13

ก็แอบหวิวๆที่จบซะแล้ว

 :o12:

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
จบแบบเบาๆไม่กดดัน ตอนพิเศษมีมั้ยเอ่ย

ขอบคุณอิ๊กกี้และเพื่อนนะ รอเรื่องใหม่โลด โฮ๊ะๆๆๆ

ออฟไลน์ นิรนาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
จบแล้ววววว~

อ่านเรื่องนี้ทีรัยยิ้มได้ทั้งวันเลย

รออ่านเรื่องต่อไปนะ ^^

chantana

  • บุคคลทั่วไป
+1 ให้อิ๊กกี้

เฮ้อ.....ค่อยยังชั่วหน่อยที่จบแบบน่ารัก ลุ้นตั้งนาน :n1:

จะมีเรื่องต่อไปอีกไหม  :L1:  :pig4:

รออ่านจ้า  :call:

ออฟไลน์ ๐DeAchieS๐

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
จบแล้วววว

Happy ending สุดๆ

^^

stupidchild

  • บุคคลทั่วไป
มีตอนพิเศษ หรือรวมเล่มมั้ยคะ

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
เอาใจช่วยและลุ้นมาตลอด สุดท้ายสองคนนี้สมหวัง
แล้วต่อไปในอนาคต จะเกิดอะไรขึ้นขอให้จับมือและจูงกันเดิน
ก้าวต่อไปเพื่อววันข้างหน้านะครับน้องฮัทน้องฮิ้น :n1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586

แอบหวังว่าจะได้อ่านตอนพิเศษ  อิอิ

ลุ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด