ตอนที่ 12
ผมไม่ได้เกิดเป็นพี่ชายคนโตที่มีหน้าที่คอยดูแลน้องๆ เสียสละ พึ่งพาได้ และไม่ใช่น้องชายคนเล็กที่ทุกคนคอยเอาใจ น่าเอ็นดู ขี้อ้อน ผมคือลูกชายที่สองแต่มีชื่อว่า เก้า เลขเก้าสำหรับคนทั่วไปคือความเป็นมงคล แต่สำหรับคนที่บ้านผมคือความอัปมงคล ถ้าตัดลูกชายคนกลางออกบ้านนี้ก็คงน่าอิจฉาที่สุดในโลก บ้านนี้รักความสมบูรณ์เพียบพร้อมครับ ผมก็ถูกเลี้ยงมาสูตรเดียวกับพี่ก้องไอ้แก้วนะ และผมก็ชอบมากที่ทุกอย่างจะดูเพอร์เฟค แต่เสียใจตรงที่ 'เก้า' ไม่ได้เท่ากับ ความเพอร์เฟค
ผมเป็นตัวปัญหา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเจ็บปวดอะไรหรอกนะ กะอีแค่เป็นจุดด่างพร้อยของตระกูล เรื่องจิ๊บๆ
"แกมันไม่ได้เรื่อง"
"เฮียก็มาจัดการเอาเองเลยดิ น่ารำคาญ" ผมย้อนพี่ชายไปทางโทรศัพท์ ด้วยน้ำเสียงงัวเงียและอาจฟังดูกวนตีนเล็กน้อย แจ๊บๆ
"แกบอกฉันมาสิว่ามันทำผิดกฏหมายยังไง อีกอย่าง แกคิดจะเอาน้องขึ้นศาลเรื่องผู้ชายรึไง"
ผมกลอกตาไปมา แลบลิ้นให้แบบไม่ออกเสียงให้คนในสาย เถ่อ... พ่อทนายมือทอง เป็นทนายจำเลยที่เมกา แต่ไม่มีปัญญาเอาผิดไรไอ้วิน ไม่เก๋าจริงนี่หว่า
"ทำไมต้องให้โกหกว่าแก้วไปเรียนออสเตเรีย เกิดเพื่อนมันถามถึงจิงโจ้ขึ้นมา น้องมันจะตอบยังไง"
"ไม่ต้องมากวนประสาทฉันนะ เสียเวลา ความผิดแกนั่นแหละไม่ดูแลน้องให้ดี ไม่น่าปล่อยให้อยู่ไทยกันแค่สองคนเลย"
"พอๆๆๆ บ่นอยู่นั่นแหละ บอกแล้วว่าไงว่ากำลังจัดการอยู่ เวลาไม่มีก็ไม่ต้องโทรมาดิ๊! บ๊าย.."
"เดี๋ยวก่อน ได้คุยกับน้องบ้างรึปล่าว"
"เออๆ ผมคุยกับมัน พอใจมั้ย? บาย"
ไม่ต้องให้สอนหรอก ถึงไม่ค่อยโทรคุยหรือให้กำลังใจมันบ่อยเท่าเฮีย ผมก็มีวิธีแสดงความเอาใจใส่ในแบบของพี่ชายคนรอง ใครทำน้องกูเจ็บ รับรองมันได้ทรมานไปอีกนานแสนนาน ได้เจอกับตัวสร้างปัญหามือโปรแน่มึง
ว่าแต่เฮียก้องบ้า โทรมาทำไมแต่ไก่โห่วะ ปวดหัว แฮงก์นิดๆ แฮะแค่จิบเล่นแก้วสองแก้ว เหล้าในตู้เฮียนี่ก็แม่งแรงชิบหาย ทีหลังไม่จิ๊กกินแล้ว ของเก่าแพงแล้วต่างจากปรกติยังไงกินแล้วก็เมา เมาแล้วก็แฮงก์เหมือนๆ กัน เฮียสะสมของสิ้นเปลืองไว้ในอพาร์ตเมนท์ทำไมอ่ะ ลอบวางยาน้องชายตัวเองนะเนี่ย ปวดหัวเหมือนมีอะไรคาๆ
อืม... ต้องเล่นงานไอ้วิน... แต่... เหอะ ไม่มีมู๊ดเลย เห็นท่าเอ๋อๆแบบนั้นจะทำอะไรลง ต่อยก็ไม่โต้ตอบ บีบคอก็ร้องไห้ ทำอย่างกับกูเป็นยักษ์เป็นมาร ที่เมื่อก่อนนะเข้าไปท้าตี แกล้งทำเป็นมองหยามๆ แล้วเมินไม่เห็นหัว แต่พอมืดแล้วส่งคนมากระทืบกูตอนเผลอ ไอ้ห่า แก้วหลงรักเข้าไปได้ไงไม่รู้...สวะพรรค์นั้น
แต่มานึกๆ ดูแล้ว ถือว่าผมเข้าถึงตัวมันได้ใกล้มากกว่าเมื่อสองสามเดือนแรกนะ ตอนนั้นด้วยความเลือดร้อน ก็พุ่งเข้าใส่ทุกครั้งที่เจอหน้า ถ้ามันอยู่ตัวคนเดียวก็ดีสิ แต่มันชอบอยู่กับลิ่วล้อเป็นพรวน ก๊วนก๊งเหล้าบ้าง รุ่นพี่บ้าง บอดี้การ์ดของที่บ้านบ้าง ทุกๆ ครั้งผมจะเจ็บหนักกลับมาฝ่ายเดียว ไม่เคยระคายถึงผิวมันหรอก ที่มันรับไปก็มีแต่เสียงตะโกนด่า ซึ่งดูๆ ไปแล้วมันไม่สะทกสะท้านด้วยซ้ำ
เออใช่ ผมมันโง่ บ้า ห่าม มุทะลุ ด่าผมมาได้เลย ไม่เจ็บ และไม่จำด้วย! ผมไม่เคยแคร์อยู่แล้วกับเสียงคนรอบข้าง เกิดมาเป็นตัวโชคร้ายของบ้าน ถ้าใส่ใจกับคำพูดทุกคำที่โดนด่า ก็คงกินน้ำยาล้างห้องน้ำตายตั้งแต่สามขวบแระ
ผมลุกขึ้น เก็บที่นอนเรียบร้อยแล้วถึงไปอาบน้ำ ปล่อยให้น้ำเย็นๆ ชะหน้าและไหลผ่านลงไป ไอ้วินมันเป็นคนน่าอิจฉา มีชีวิตที่เจ๋ง ตอนไฮสคูลเราเคยเกือบจะเป็นก๊วนเดียวกัน ตอนที่มันเลือดร้อนกว่านี้ ซ่ากว่านี้ ถือว่านิสัยค่อนไปทางเดียวกัน แต่ไปๆมาๆ ไอ้วินมันรำคาญผม บอกว่าผมเป็นคนเรื่องมากจู้จี้ ย้ำคิดย้ำทำ หลังจากนั้นเราเลยหมางๆ กัน แต่ก็ไม่ได้เรียนห้องเดียวกันอีก จนเข้ามหาลัยเดียวกันก็แล้วผมก็ยังอยู่นอกวงโคจรของมัน
ผมเองก็ไม่รู้ว่าแก้วไปเจอกับมันตอนไหน ถึงจะนอนอยู่อพาร์ตเมนท์นี้ด้วยกันหลังจากพี่ก้องย้ายออกไป แต่ผมไม่ค่อยจะแชร์อะไรกับแก้วมากนัก ก็พี่น้องตัวผู้เหมือนกัน จะให้คอยรับส่งไปเรียน ตามเฝ้าตามโอ๋ก็ใช่ที่ เรื่องส่วนตัวของมันผมก็ไม่ยุ่ง เวลาที่เจอกันก็แค่ก่อนนอนกับตื่นนอนเท่านั้น
แก้วเรียนหมอ อ่อนกว่าปีหนึ่ง เป็นคุณหนูประจำบ้าน กินยากอยู่ยาก พูดน้อย ขี้กลัว ขี้น้อยใจ หน้าตาก็จิ้มลิ้ม ใครๆ ในบ้านก็รักก็เอาใจ คนอาจจะมองว่าผมกับแก้วห่างเหินเพราะผมอิจฉาน้อง แต่ไม่ใช่นะ ผมไม่เคยอิจฉามัน แต่ผมก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิด ผมอาจจะรักหรือไม่รักน้องก็ได้ ผมก็ไม่รู้ มีปัญหาแมะ?
ผมนั่งใช้ความคิดก่อนจะบ้าระห่ำพุ่งไปทำร้ายไอ้วินอีก เกมมันเปลี่ยน เป้าหมายที่เคยเล่นไม้แข็งไปเจอไม้หน้าสามกลับมาตลอด จู่ๆ รถชนร้านเฟอร์นิเจอร์ข้างทาง หายเข้าโรงพยาบาลสองอาทิตย์ กลับมาเจอกันอีกที เสือกความจำเสื่อม จำอะไรไม่ได้ ที่แปลกคือนิสัยมันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้า ผมงุนงงถอยกลับมาตั้งหลักแล้วจู่โจมเข้าไปอีก ด้วยความที่มันเคยปฏิบัติกับน้องผมเหมือนเป็นเมียเก็บคนนึง ผมก็เลยเอาหนามบ่งกลับคืนไปบ้าง แล้วก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับคาสโนว่าคนนี้ ถึงหมอบราบคาบแก้วให้คนที่มันเคยเมินไม่เห็นหัวได้ ทำไมมันถึงแพ้ง่ายนักวะ ทำไมมันถึงกลายเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ให้เกียรติคนอื่น ทำไมมันถึงไม่ป้องกันตัวหรือโต้ตอบเมื่อโดนทำร้าย ทำไมมันถึงร้องไห้พร่ำบอกว่าขอโทษเมื่อผมบีบคอมันแค่ขู่ๆ ทำไมมันถึงดูไร้เดียงสานักตอนที่ผมลวนลามจะกดมัน
แม่งมีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจเต็มไปหมด
ผมโทรหาแก้ว ที่อเมริกาคงเป็นเวลาเย็นหรือพลบค่ำ
"ฮัลโหล"
"ยังไม่ตายอีกเหรอ"
"คิกๆ พี่เก้า ชู่ววว นั่นเป็นคำต้องห้ามสำหรับผู้ป่วยทางจิตนะ รู้มั้ย"
"แกยอมรับว่าแกป่วยเหรอ"
"ก็ทุกคนทำเหมือนว่าถ้าแก้วได้ยินคำว่าตายปุ๊บ จะคุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองปั๊บ อะไรแบบนั้น โอ๋กันทั้งวันทั้งคืน กระดิกตัวไม่ได้ น่าเบื่อจะตายอยู่แล้ว นี่แก้วไม่เป็นไรแล้วจริงๆ นะ"
"ไม่เป็นไรแล้วนี่ลืมไอ้วินได้รึยัง"
"หะๆๆ พี่พูดคำต้องห้ามอีกแล้วนะ ก็ไม่ใช่ว่าลืมพี่วินได้หรอก แต่ต่อไปคงไม่กล้าเข้าใกล้เค้าแล้วล่ะ บางทีแก้วอาจจะอยู่ที่นี่เลย ถ้าปรับตัวได้"
"ทิ้งกู"
"ฮึ สมน้ำหน้า ชอบใช้นู่นใช้นี่ พอไม่มีน้องให้ใช้แล้วโทรมาบ่อยจังนะ"
"ที่โทรเพราะเฮียสั่งมา บ่นมาก รำคาญ"
"ฮ่าๆๆๆ โกหกบ้างอะไรบ้างก็ได้พี่ แค่นี้ก่อนนะ แก้วทานข้าวก่อน"
"เออ บาย"
ไม่เป็นไรแล้ว... หัวเราะได้แล้ว
จริงๆ เหรอ?
กูเข็ดแล้วนะ ตอนที่มึงบอกว่าไม่เป็นไรเมื่อสี่เดือนก่อน มันไม่ได้ไม่เป็นไรจริงๆ นี่ คนที่เงียบๆ ยิ้มๆ อยู่มาวันหนึ่งก็กรีดข้อมือตัวเองไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วตอนนี้จะไม่ให้ทั้งบ้านพากันโอ๋เกินเหตุได้ยังไง น้องชายคนเล็ก คนที่น่ารักที่สุด นิสัยดีที่สุด แก้วตาดวงใจของครอบครัว พวกเราไม่ได้เว่อร์กันไปเองหรอกนะเจ้าแก้ว
มึงเป็นคนแรกที่ทำให้กูได้รู้ว่า
คำว่า "ใจจะขาด" มันเป็นยังไง
หัวใจที่กูไม่คิดว่าตัวเองมีอยู่ มันเจ็บเหมือนฉีกขาดออกจากกันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ตอนที่แก้วนอนฟุบอยู่กับโต๊ะแน่นิ่ง แขนห้อยต่องแต่ง เลือดแดงฉานแผ่ขยายเป็นวงกว้างบนพื้น ไม่รู้ว่านั่งอยู่อย่างนั้นคนเดียวนานแค่ไหนแล้ว เพราะผมไม่เคยสนใจว่ามันจะไปไหน ทำอะไร ค้างคืนกับใคร จะกลับห้องเมื่อไหร่ ถ้าไม่เอะใจว่าเห็นรถจอดอยู่ก็คงไม่รู้ว่ากลับห้องมาแล้ว ถ้าไม่เข้าไปเชคดูก็คงปล่อยน้องนอนสลบอยู่คนเดียว เลือดไหลออกจนหมดตัว ...เหี้ย กูเหี้ย กูผิดจริงๆนั่นแหละ เฮียก้องแม่งด่าด้วยความจริงอีกแล้ว พวกเรามารู้ทีหลังว่าแก้วมันเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อนหน้าสักพักใหญ่ๆ แล้วแต่ผมไม่ยอมสังเกตเอง
ผมคว้ากุญแจรถแล้วบุกไปหาตัวการที่คอนโด ไม่มีแผน ไม่แคร์ว่าโดนลิ่วล้อมันจะซ้อมเอาอีก กูต้องได้ทำร้ายมันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูจะเจ็บที่หัวใจอีก กูจะฆ่ามึง
ผมตามไปที่คอนโดก็ไม่เจอ ที่มหาลัยก็ไม่มี ตามไปจนถึงบ้าน เด็กก็ถูกสั่งไว้ไม่ให้บอก เออ หาเอาเองก็ได้เว้ย กูถนัดอยู่แล้วเรื่องรังควานเนี่ย
"ฮัลโหล"
"กูไปหามึงที่คอนโดมา มึงไปไหนวะ"
"ทำไมผมต้องบอกเก้าด้วยล่ะ"
"มึงติดหนี้แค้นกูอยู่"
"เรื่องอะไรล่ะ ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้หรอกครับ ผมความจำเสื่อมนะเก้าอย่าลืมสิ"
เออว่ะ มันจำไม่ได้ ไม่ใช่แกล้งทำเป็นลืม ผมเริ่มใจเย็นลงนิดหน่อย ใช้ไม้แข็งกับไอ้วินเหมือนก่อนหน้ามันรถชนไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้อ่อน...
"...บอกมาตอนนี้มึงอยู่ไหน"
"หาตัวเอาเองละกัน"
อะไรวะ ก็ว่าถามดีๆ แล้วนะ ไม่เห็นได้ผลเลย พอโทรหาอีกกี่สายๆ ก็ไม่ยอมรับ ไปไหนของมันวะ
ผมไปที่คอนโดเจ้าโซ่แล้วดักรอ โซ่มันเคยบ่นๆ ว่าไอ้วินยึดห้องนอนเล็กอีกห้องทำเป็นโรงแรม ถ้าไม่นอนคอนโดตัวเอง ยังไงมันก็ต้องมาที่นี่ ผมค้นที่อัดเสียงในรถแล้วหยิบติดมือมา มันนอนกองอยู่ในช่องเก็บของตั้งแต่แผนอัดเสียงไว้แบลคเมล์คว่ำไม่เป็นท่า ผมเปิดฟังไฟล์เสียงสุดท้ายที่บันทึกไว้
'กูไม่ได้ทำอะไรมัน ไม่ได้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ น้องมึงมันทำตัวไม่มีค่า เน่าเฟะ สกปรก กูไม่อยากติดโรค อย่าให้มันมาเฉียดตัวกูอีก จะอ้วก'
แม่งเอ้ย!!!!
ผมทุบพวงมาลัยเต็มแรง โดนแตรเสียงลั่นจนคนที่อยู่รอบบริเวณตกใจ ใช่ มันไม่ได้ทำอะไรผิดกฏหมาย มันแค่พูดจาบังคับให้แฟนตัวเองยอมนอนกับคนอื่น แล้วก็ตราหน้าว่าแก้วร่านเอง เป็นของเหลือ โสโครก ถีบหัวส่ง ไล่ให้ไปตาย
แค่คำพูดหมาๆ ของมันไม่กี่คำก็ทำให้แก้วเสียใจจนคิดสั้น ผมพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ แรงๆ กลางอกมันร้อน น้ำตามันจะไหลออกมา
ผมน่าสมเพชมากเลยที่จะพยายามเล่นงานมันด้วยวิธีควายๆ อย่างเข้าไปตั๊นหน้า หรือแบลคเมล์มัน ผมเจ็บใจตัวเองที่ไม่มีสมองซับซ้อนแบบพี่ก้องที่เป็นทนายหรือแก้วที่เรียนหมอ ผมลบคลิปเสียงทั้งหมดในเครื่องไม่ให้รกหู ถ้าทำได้อยากอัดเสียงตอนที่มันร้องไห้แล้วพูดขอโทษเสียงสั่นเครือไว้ แก้วได้ยินก็คงอาการดีขึ้น จนถึงตอนนี้แก้วยังไม่รู้ว่าอดีตคนรักของมันสูญเสียความทรงจำ ถ้าใช้ไอ้วินเอ๋อนี่ทำให้แก้วมันรู้สึกดีขึ้นได้ สักนิด นิดเดียวก็ยังดี
ว่าแต่มันจะยอมทำรึเปล่าวะ ยิ่งเดาทางยากๆ อยู่
ผมเจอตัวก็มันตอนเย็นแล้ว แทนที่จะหิ้วสาวมานอนกกห้องไอ้โซ่ กลับหิ้วถุงซุปเปอร์มาร์เกตลงจากแท็กซี่มา รถบ้านมึงจอดไว้ทำซากไรวะ
"พูดว่า วินขอโทษนะ ทีซิ"
"อะไร"
"กูจะเอาให้แก้วฟัง พูด"
"พูดตามกูซะดีๆ วินขอโทษนะแก้ว วินเสียใจจริงๆ"
"วินขอโทษนะแก้ว วินเสียใจจริงๆ"
....ผมได้สิ่งที่ต้องการตามเป้าหมายอย่างง่ายดาย น่าแปลก...ไอ้วินแม่งใจอ่อนว่ะ แค่เอ่ยชื่อแก้วมาก็ยอมทันที
อืม...ผมรู้วิธีรับมือกับคนแบบนี้นะ ง่ายออกจะตายไปนี่หว่า พี่ก้องกับไอ้แก้วก็โดนมาหลายทีแล้ว
"กูนั่งรอคำขอโทษมึงหกชั่วโมง หกชั่วโมง! เป็นเหี้ยไรไม่รับโทรศัพท์ คิดว่ากูพิศวาสมึงมากรึไงถึงทำเล่นตัวน่ะ"
"...ผมไม่รู้นี่นา ก็ทำไมไม่บอกล่ะว่ามีธุระ"
ต้องทำให้รู้สึกผิด จี้ให้โดนจุด
"มันเป็นความผิดของมึงชัดๆ มีอย่างที่ไหนให้กูเป็นฝ่ายต้องมาตาม มานั่งรอให้มึงพูดขอโทษ มึงต้องตามไปอ้อนวอนขอให้กูยกโทษให้สิ"
"กูยังไม่บอก เพราะกูยังไม่เชื่อใจมึง มึงมีหน้าที่ทำให้กูเชื่อใจแล้วยอมคุยด้วย เพราะถ้าเล่าอะไรไปกูกับน้องกูเป็นฝ่ายเสีย เข้าใจรึเปล่า"
ต้องทำเหมือนตัวเองเป็นผู้เคราะห์ร้าย
"ไอ้วิน! กูถามว่าเข้าใจรึเปล่า??? "
ต้องทำตัวให้ดูน่าสงสารเข้าไว้ เศร้า เจ็บปวด บีบคั้น... ความสามารถในการแสดงมีแค่ไหนขุดมาใช้ให้หมด
"เข้าใจแล้ว"
ไอ้วินคนนี้น่าแกล้งมาก...
เหมือนเฮียก้องกับแก้วผสมกัน แต่สองคนนั่นรู้จักผมหมดไส้หมดพุงแล้ว แต่วินมันไม่รู้นี่ ดูมันใจอ่อนยวบไปทันตา หึ เริ่มจับทางได้แล้ว มึงนี่เหมาะเป็นเมียตัวปัญหาอย่างกูจริงๆ นะเนี่ย จะอ่อนโยนอ่อนแอขี้สงสารไปไหน ผมเล่าเรื่องอดีตน่ารันทดให้มันฟัง ออกท่าทาง ใส่ไข่แต่งสีนิดหน่อย เผื่อได้กุมจุดอ่อนของมัน
"มึงต้องตอบกูมาให้ได้ อะไรที่มึงต้องการที่สุด กูจะรอฟัง"
ถ้ามึงไม่รีบฟื้นคืนความทรงจำไวๆ มึงแย่แน่ นาวิน พาริตา
รู้จักตัวปัญหาน้อยไปซะแล้ว++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เก้า เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ....
อ้าย....เด็ก.....บ้า........
เอ่อ ตอนที่ 12แล้ว เพิ่งจะเป็นพาร์ทแนะนำของเจ้าเก้า แถมยังเป็นเหตุการณ์เดิมวันเดียวกับน้องวินหนีเที่ยวอยู่
แหะๆ ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ
ปกติอัพค่ำๆ วันเว้นวัน แต่วันนี้แอบมาเร็ว เพราะรู้ล่วงหน้าว่าจะกลับบ้านดึก สี่ห้าวันนี้อาจจะอัพแปรปรวนนิดหน่อยนะคะ
พูดถึงเสียงตอบรับแล้ว ได้ยินว่าเรื่องนี่อ่านสบาย น่ารักๆ ไม่ดราม่าจัด เพราะตัวละครของฉันทุกตัวเป็นสีเทาละมั้ง ทำทั้งเรื่องดีและไม่ดี ไม่มีใครเป็นสีดำสนิทเลย ส่วนสีเทาเฉดที่เข้มจัดที่สุด ฉันก็ฆ่ามันตายไปแล้ว...
แล้วเจอกันใหม่ค่ะ