..................................................
สวัสดีครับ
ความรักของคุณเป็นแบบไหน
ความรักของผม เคยหยุดลง เมื่อผมบอกคนที่ผมรักไปว่า
“เรารักนายนะวี รักที่มากกว่าเพื่อน นายจะมาเป็นคนรักของเราได้ไหม”
...................................
ผม อาจจะดูเป็นคนหลงตัวเอง หากบอกว่า ผมมั่นใจว่าคนที่ผมรักก็รักผมเช่นกัน
เขา ผู้ซึ่งยิ้มให้ผมเสมอ และปฏิบัติกับผม จนผมรู้สึกได้ว่า ผมแตกต่างจากคนอื่น
แต่เมื่อผมตัดสินใจบอกรักไป เขากลับพูดมาว่า ผมเป็นเพียงแค่เพื่อน
หากเป็นคุณ คุณอาจจะตัดใจ แต่ผมไม่
เพราะผมเห็นประกายตาหวั่นไหวของเขา ผมรู้จักเขาดีพอ ที่เขาตอบมาแบบนี้ ....เขายังไม่รู้ใจตัวเอง
.........................................
ผมยังทำตัวปกติ
แต่ผมก็เห็น
ผมเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของเขา
เวลาที่เราเดินกลับบ้าน เขาพยายามทำตัวให้เป็นปกติ แต่ผมก็รู้ ว่าเขากำลังใจเต้น
ไม่.... ผมไม่ได้ยินเสียงหัวใจเขาหรอก แต่หน้าแดงๆของเขาต่างหากที่มันฟ้องอยู่
“ไปก่อนนะ”
เมื่อผมแยกจากเขา ผมก็ยังรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองตามหลังมา นั่นทำให้ผมไม่ได้หันกลับไป ทั้งๆที่ผมอยากจะหันกลับไปโบกมือลาเขาอีกซักครั้งจะตาย
.............................
“เราบอกว่าวันนี้เรากลับเย็น ประชุมเรื่องงานโรงเรียน นายจะรอไหม”
ผมบอกเขาที่นั่งรอผมกลับบ้านพร้อมกันเหมือนทุกวัน เขาเงียบ เหมือนกำลังใช้ความคิด ผมก็เลยชิงพูดออกมาซะก่อน
“เราว่านายไม่ต้องรอหรอก มันเย็นมาก กลับไปก่อนเลยก็ได้”
ผมเห็นเขาทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ที่เขาพูดออกมาคือ
“อืม”
และแล้ว วันนั้นเอง ความห่างไกลระหว่างเราก็ค่อยๆเพิ่มขึ้น บางคนอาจคิดว่าผมใจร้าย แต่กับเขาของผม บางครั้งความห่างไกลก็อาจเป็นสิ่งจำเป็น
...............................................
จากนั้น เรายิ่งห่างไกลกันมาขึ้นเรื่อยๆ ผมทุ่มตัวให้งานโรงเรียน แต่ผมก็ยังแอบสังเกตเขาอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้เขาจะไม่เคยรู้ก็เถอะ
งานโรงเรียนที่มาถึง ทั้งๆที่ผมตั้งใจจะให้เขามาอยู่ตอนที่ผมขึ้นไปร้องเพลงในงานโรงเรียนแท้ๆ ผมตั้งใจจะบอกรักเขาอีกครั้งในวันนี้ โดยการร้องเพลงเนี่ยแหละ
แต่ผมหาเขาตลอดทั้งงานก็ไม่เจอเลย
ผมยกเลิกการขึ้นไปร้องเพลงของตน แม้จะโดนเพื่อนบ่น ผมก็ไม่สนใจ
ผมเดินขึ้นไปยังตึกเรียน ที่ซึ่งผมเจอกับเขาครั้งแรก ที่ๆผมบอกรักเขา และที่ๆเขาปฏิเสธผม
ครืด~~~~
ผมเปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงักเล็กน้อย
คนที่ผมคิดถึงเขายืนอยู่ตรงนั้น เขาหันมามองผมด้วยท่าทางตกใจนิดหน่อยก่อนจะปรับให้เป็นปกติ
“ไม่ไปดูงานหรือ”
เขาถามเมื่อผมเดินไปอยู่ข้างเขา
“ก็ ไม่มีอะไรให้ดูแล้วล่ะ”
ผมตอบกลับตามความจริง ก็งานน่ะ ผมจัดการเรียบร้อยหมดแล้วนี่นา
จากนั้น เราสองคนก็เงียบ ไม่ได้พูดอะไรกันเลย
ผมรู้ว่าเขาอึดอัด และกำลังจะระเบิด
“นายมีอะไรจะบอกเราไหม”
ผมแย่งเขาพูดขึ้นมาก่อน
“นายไม่พูด เราจะพูดก่อนล่ะนะ”
“เรารักนายนะวี รักที่มากกว่าเพื่อน นายจะมาเป็นคนรักของเราได้ไหม”
ผมพูดประโยคเดิม แต่ผมรู้ว่าคำตอบจะต่างไป เขาโผเข้าสู่อ้อมกอดของผม ผมกอดเขาไว้แน่น กอดให้สมกับที่ไม่ได้กอดมาก่อนหน้านี้
“นายแกล้งเรา”
เขาพูดทั้งสะอื้น ผมยิ้ม ใช่ ผมแกล้งเขาจริงๆนั่นแหละ แต่ถ้ามันจะทำให้เขาเข้าใจตัวเองมากขึ้น ก็น่าแกล้งใช่ไหมล่ะ
“นายก็แกล้งเราเหมือนกัน”
ผมต่อว่ากลับไป รู้หรอกว่าเขาไม่ได้แกล้ง แต่ก็อดต่อว่าไม่ได้อยู่ดี
ที่เขาปฏิเสธผม ไม่ใช่ผมไม่เจ็บนะ แต่ผมรักเขามากกว่า เลยยินดีที่จะรอ
“เรารักนายนะวี รักมาก”
ผมย้ำอีกครั้ง และอยากบอกเขาว่า ถึงเขาจะรู้ตัวช้ากว่านี้ ผมก็ยังจะรักเขาอยู่ดี
……………………
PS
ถามว่าผมจะฝากบอกอะไรเขาบ้างเหรอ
ไม่ล่ะ
เดี๋ยวผมไปกระซิบบอกเขาเองที่ข้างหูดีกว่า
มันดูซึ้งกว่ากันเยอะเลยใช่มั้ยล่า......
......................
END
จบจริงๆแล้วค่ะ

ปล.ตอนพิเศษของเรื่องปฐพี รอก่อนนะคะ ยังไม่ได้ตรวจทานเลยค่ะ