บันทึกของนายนพรัตน์ ช่วงที่3
6 กรกฎาคม 254x
ทีมบาสฯสีผมได้เหรียญทองระดับม.ต้น พี่เก่าที่เรียนจบไปแวะมาดู ชมว่าผมเล่นดี แถมตัวใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตา ผมดีใจนะ แต่ผมว่าผมยังเล่นไม่ดีเท่าไหร่หรอก เพราะเอมันเล่นดีกว่าผมเยอะเลย เสียแต่ปีกที่เล่นคู่กับมันอีกคนเข้ากันไม่ค่อยดีเท่านั้นเอง มันบอกว่าถ้าผมอยู่สีเดียวกับมัน รับรองทีมมันได้ที่หนึ่งแน่ ส่วนไอ้วี รักษาเหรียญทองปิงปองของมันไว้ได้อีกสมัย คุ้มค่าเหนื่อยที่ผมโดนมันตบอัดอยู่หลายเดือน มันบ่นว่าผมน่าจะสมัครลงปิงปองด้วย เพราะคู่แข่งรอบชิงมันป้อแป้กว่าผมซะอีก ผมเลยบอกว่าผมอยากเอาดีทางเล่นบาสฯ ไม่อยากถูกมันตบอัดด้วยลูกปิงปองทุกวันหรอก
------------------------------------------------------------
18 สิงหาคม 254x
วันนี้พี่นพพาผมไปทำบัตรประชาชน แล้วก็เลี้ยงวันเกิดย้อนหลัง หลังจากเมื่อวานขับรถไปรับผมที่โรงเรียนตอนเย็น ผมเป็นนายนพรัตน์แล้วล่ะ หลังจากเฝ้ารอมาสิบห้าปี พี่แนนทำเซอร์ไพรส์ด้วยการส่งเสื้อผ้ามาให้ผมอีก คราวนี้ตัวใหญ่กว่าเดิม บอกว่าเผื่อผมโตเท่าไซต์ฝรั่ง แต่ผมก็เกือบจะใส่พอดีแล้วล่ะ พี่นพบอกว่าส่งรูปถ่ายผมที่ถ่ายตอนกลับมาครั้งที่แล้วผ่านอินเทอร์เน็ตให้พี่แนนดู พี่แนนบอกว่าผมไม่เปี๊ยกแล้วล่ะ เริ่มจะตัวบิ๊กเบิ้มแล้ว เลยจัดแจงซื้อเสื้อตัวใหญ่ส่งมาให้เลย
ส่วนพี่หนิง ซื้อตุ๊กตาแมวขนปุยให้ผมตัวหนึ่ง บอกว่าไปซื้อของให้ลูก เห็นแล้วนึกถึงผมเลยซื้อมาฝากวันเกิด เออ พี่แนนมีลูกแล้วล่ะ ผมเป็นน้าอีกแล้ว ลูกพี่แนนเป็นลูกสาวเหมือนกัน ตาแป๋วเหมือนแม่เลยล่ะ น่ารักสุดๆ รอแต่พี่นพนี่แหละ เมื่อไหร่จะมีหลานกับเขาสักที แฟนยังไม่มีเลยมั้ง มัวแต่คอยเลี้ยงน้องเล็กอย่างผมอยู่ ผมเลยบอกพี่นพว่าปีหน้าผมจะเข้าเรียนอาชีวะ จบมาทำงานได้เลย พี่จะได้ไม่ต้องลำบากส่งเสียผมมาก พี่นพทำหน้าอึ้งๆ แล้วบอกผมว่าจริงๆ เรียนอาชีวะก็ดี แต่มันมีปัญหานักเรียนตีกันบ่อย พี่ไม่อยากให้ผมไปเสี่ยง บอกว่าเรียนต่อสายสามัญเถอะ แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัย พี่ส่งได้ ไม่เดือดร้อนอะไร ผมเห็นข่าวเหมือนกัน ก็เข้าใจที่พี่นพเป็นห่วงนะ แต่ก็คิดว่าน่าจะดูแลตัวเองได้ เลยบอกพี่นพว่าผมจะเข้าอาชีวะใกล้ๆ โรงเรียนที่เรียนอยู่ตอนนี้ ไม่ค่อยมีปัญหาตีกันหรอก พี่นพทำหน้ากลุ้มๆ แล้วบอกว่าอยากให้ผมเรียนสายสามัญมากกว่า มาสอบที่กรุงเทพฯก็ได้ โรงเรียนดีๆ มีเยอะแยะ เดี๋ยวพี่จะขับรถไปรับไปส่งเอง ผมยิ่งเกรงใจหนักเลยล่ะ เลยบอกว่าผมเรียนที่เดิมก็ได้ พี่จะได้ไม่ต้องลำบาก เราเถียงกันอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายพี่นพเลยบอกว่า ให้เวลาผมตัดสินใจอีกเทอมแล้วกัน
---------------------------------------------------------------
16 กันยายน 254x
ผลสอบผมออกมาแล้วล่ะ ได้ที่หนึ่งอีกแล้ว ผมได้ที่หนึ่งมาสองปีแล้ว พี่นพรู้ดีใจใหญ่ บอกว่าปีหน้าจะให้ผมลองมาสอบที่กรุงเทพฯดู ครูแนะแนวก็บอกว่าผมน่าจะไปลองสอบดู ผมหัวดีแบบนี้น่าจะสอบติด แต่ผมไม่อยากไปสอบเลยล่ะ เพราะกลัวสอบติดนี่แหละ ถ้าสอบติดแล้วคงต้องย้ายโรงเรียน ย้ายแล้วจะได้เจอครูต้าอีกรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมไม่อยากจากครูไปเลย ผมอยากอยู่กับครูนะ อยากอยู่ใกล้ๆ ครูตลอดไป
-----------------------------------------------------------------
20 กันยายน 254x
ครูไก่ที่เป็นครูประจำชมรมบาสฯบอกผมว่าอยากลองไปสอบโรงเรียนกีฬาดูรึเปล่า ครูบอกว่าทักษะด้านบาสฯของผมเริ่มดีใช้ได้แล้ว น่าส่งไปสอบ คงไม่อายคนเท่าไหร่ สมกับที่ขยันซ้อมตั้งแต่ตัวกะเปี๊ยก ผมดีใจนะที่ครูชม โรงเรียนกีฬาเป็นโรงเรียนประจำเหมือนกัน อยู่ในจังหวัดเดียวกันนี่แหละ ถ้าผมสอบติด ถึงผมจะต้องอยู่หอ แต่น่าจะแอบออกมาเจอกับครูต้าได้นะ แถมไม่ต้องลำบากพี่นพไปรับไปส่งด้วย
ตกเย็นผมเลยโทรบอกพี่นพ พี่นพอึ้งๆ ไปหน่อย แต่ก็บอกให้ผมไปลองสอบดูก็ได้ ดีกว่าเรียนอาชีวะ ผมดีใจมากเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปคุยกับครูต้าดู ว่าถ้าผมสอบได้โรงเรียนกีฬาจริงๆ ครูต้าจะแวะไปหาผมได้หรือเปล่า
--------------------------------------
27 กันยายน 254x
ผมคุยกับครูต้าช้ากว่าที่คิดเอาไว้หลายวัน เพราะเป็นหวัด เลยไม่อยากไปหาครูเพราะกลัวครูติดหวัด นอนซมอยู่ที่ห้องแถมคิดถึงครูมาตั้งหลายวัน พอวันนี้ดีขึ้นเลยรีบไปหาทันที
ครูบอกว่าอยากไปเยี่ยมผมอยู่ แต่เป็นหอนักเรียน แถมไม่ได้เป็นอาจารย์ประจำชั้นจะขึ้นไปก็น่าเกลียด ผมเลยบอกครูว่าไม่เป็นไรหรอก ให้ครูคิดถึงผมก็พอแล้ว จากนั้นผมก็ปรึกษาครูเรื่องเรียนต่อ ครูมองผมแล้วถามว่าผมอยากเรียนโรงเรียนกีฬาจริงๆ หรือว่าแค่อยากจะอยู่กับครูเฉยๆ ผมก็เลยตอบว่าผมอยากอยู่กับครู ไม่ได้อยากจะเรียนกีฬาหรอก ครูเลยตีผมทีหนึ่ง บอกว่าอนาคตผมอีกยาว จะคิดสั้นๆ แค่นี้ไม่ได้ ผมว่าผมไม่เคยคิดสั้นหรืออยากฆ่าตัวตายนะ ผมแค่อยากอยู่กับครูเท่านั้นเอง เหมือนว่าครูจะโกรธผม ไล่ผมกลับห้อง ผมไม่เข้าใจครูเลย ผมกลับมาไข้ขึ้นอีกแล้วล่ะ ผมแค่อยากอยู่กับครู ผมทำผิดตรงไหนกัน
------------------------------------------
4 ตุลาคม 254x
ผมไปหาครูต้าที่ห้องสหกรณ์อีกครั้งหลังจากแน่ใจว่าหายหวัดดีแล้ว พอไปถึงก็เห็นครูกำลังเขียนหนังสืออยู่ ผมก็เลยถามไปว่าครูเขียนอะไร ครูตอบว่าเขียนหนังสือขอเลื่อนขั้น แล้วก็อธิบายให้ผมฟังถึงระบบอัตราเงินเดือนครู ผมเข้าใจว่าครูต้องช่วยพ่อแม่หาเลี้ยงน้องสาวอีกสองคน เลยบอกครูว่าถ้ามีอะไรให้ผมช่วยบอกนะ ผมจะช่วยเต็มที่เลย ครูยิ้มๆ แล้วดึงผมไปกอด บอกว่าผมเป็นเด็กดีจริงๆ โตไปคงเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ผมตอบครูว่ารอผมโตผมจะดูแลครูอย่างดีเลย ครูหัวเราะและถอนหายใจออกมา ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ แต่เหมือนว่าครูจะน้ำตาซึมหน่อยๆ ด้วยล่ะ ตอนเงยหน้าขึ้นมองผม ผมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
-------------------------------------------------
29 ตุลาคม 254x
เปิดเทอมแล้ว ครูที่สอนวิชาแนะแนวเริ่มพูดถึงเรื่องการเรียนต่อแบบจริงๆ จังๆ แล้วล่ะ แต่ผมยังไม่มีแผนเลย บอกว่าจะเรียนโรงเรียนกีฬาครูต้าก็โกรธ จะไปเรียนที่อื่นก็กลัวว่าจะไม่ได้เจอครูอีก ผมเลยเขียนไปว่าผมจะเรียนที่นี่ต่อ แล้วค่อยสอบเข้ามหาวิทยาลัยอีกที แบบนี้น่าจะดีที่สุดล่ะนะ
---------------------------------------------------
11 พฤศจิกายน 254x
วันลอยกระทงอีกแล้วล่ะ น้ำเต็มคลองเลย ปีนี้ห้องผมได้รางวัลชนะเลิศด้านสวยงาม เพราะแห่กันมาทำกระทงตั้งแต่เช้า ปักดอกไม้เรียงกันสวยอย่างกับพานไหว้ครูแน่ะ ปีนี้ผมได้ลอยกระทงสองคนกับครูต้าแล้ว ผมนั่งข้างครูแล้วอธิฐานว่าปีหน้าขอให้ได้ลอยกับครูอีก แต่กระทงผมคว่ำเอากลางทาง ไม่รู้ว่านี่จะถือเป็นลางไม่ดีรึเปล่า
-----------------------------------------------------
26 พฤษจิกายน 254x
พักนี้ครูต้าดูจะวุ่นกับการทำรายงานขอเลื่อนขั้น ผมเลยต้องออกไปซื้อน้ำซื้อข้าวมาให้ น่าสงสารครูจัง เป็นพี่คนโตต้องรับผิดชอบเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ผมนึกถึงพี่นพ พี่นพคงต้องทำงานหนักเหมือนกันนั่นแหละ หรือผมจะลองไปสอบอาชีวะดูดีนะ จะได้แบ่งเบาภาระพี่นพได้บ้าง
------------------------------------------------------
12 ธันวาคม 254x
ผมไปปรึกษาครูแนะแนวเรื่องเรียนต่อ บอกว่าผมอยากจะเรียนอาชีวะ ครูเลยถามผมว่าทำไมอยากเรียนอาชีวะ เพราะคะแนนผมเรียนต่อสายสามัญแผนวิทย์คณิตได้สบายๆ ผมเลยบอกครูว่าผมอยากเรียนจบไปแล้วช่วยพี่ชายทำงานได้เลย ครูก็ชมว่าผมคิดดี แต่ถ้าพี่ชายไม่ลำบากมากก็น่าจะลองเรียนต่อสายสามัญ เพราะมีอาชีพให้เลือกมากกว่า แล้วครูก็เปิดหนังสือแนะนำอาชีพให้ผมดู บอกว่าผมค่อยๆ ตัดสินใจก็ได้ ยังมีเวลาอีกสองสามเดือน
------------------------------------------------------
31 ธันวาคม 254x
ปีใหม่ปีนี้ผมรู้สึกเหงาล่ะ ทุกคนกลับบ้านกันหมด พี่นพไม่ว่างอีกแล้ว แต่ก็มาเยี่ยมผมช่วงวันหยุดรัฐธรรมนูนชดเชยแล้วล่ะ ถึงอย่างนั้นทำไมผมเหงาจังก็ไม่รู้ ครูต้าก็กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ วีก็กลับบ้าน เหลือผมอยู่คนเดียวกับตุ๊กตาแมวที่พี่หนิงซื้อให้ในวันเกิด ปีก่อนๆ ผมอยากให้ปีใหม่มาถึงไวๆ อยากสูง อยากตัวใหญ่ แต่ปีนี้ผมไม่อยากให้ปีใหม่มาถึงเลยล่ะ ผมกลัวว่าอะไรๆ จะเปลี่ยนไป ปีใหม่แล้ว อีกไม่กี่เดือนผมก็จะจบม.3 ต้องเลือกสายจะเรียนต่อแล้ว ผมยังไม่รู้เลยว่าจะตัดสินใจไปทางไหนดี ไม่อยากให้ถึงปีใหม่เลย
-----------------------------------------------------
7 มกราคม 254x
วันนี้วันเด็ก ครูหลายคนแซวพวกผมว่า รีบๆ ฉลองเข้า พวกเธอน่ะวัยเด็กขั้นสุดท้ายแล้ว วันนี้มีรถจากบริษัทขายน้ำมาแจกน้ำที่โรงเรียนเหมือนปีก่อน มีซุ้มเกมที่พวกครูๆ ช่วยกันจัด แจกของเด็กๆ ม.ต้น ส่วนพวกม.ปลายก็ช่วยกันคิดเกมมาให้น้องเล่น ผม วี เอ เราสามคนฉลองวันเด็กปีสุดท้ายกันอย่างสุดเหวี่ยง แม้ไอ้วีจะอ้างว่ามันเป็นผู้ใหญ่มานานแล้วก็ตาม
ปีนี้ครูต้ามายืนแจกไอติม พอเห็นผมสามคนก็ตักให้เยอะเป็นพิเศษ บอกว่าสามคนนี่ใกล้พ้นวัยเด็กเต็มแก่แล้ว รีบกินฉลองเข้า พวกเราขำกันใหญ่ ไอ้วีแซวว่าครูระวังกลับเป็นเด็กนะ ตัวเล็กลงทุกวันแล้ว ผมเลยถองมันทีหนึ่ง บอกว่าครูต้าเป็นผู้ใหญ่จะตาย ครูเลยไล่พวกผมไปกินกันที่อื่น สงสัยกลัวผมจะหลุดปากพูดอะไรออกไปล่ะมั้ง ยังไม่มีใครรู้เลยล่ะว่าผมกับครูคบกันแบบนั้น
-------------------------------------------------------
22 มกราคม 254x
วันนี้วีมาบอกผมว่าปีหน้าผมกับมันอาจจะไม่เจอกันแล้ว มันจะไปสอบเข้าโรงเรียนกีฬา เพราะพ่อแม่ดูแล้วว่ามันมีดีด้านกีฬาอย่างเดียวจริงๆ ผมบอกว่าไม่เป็นไร มันไปทางนั้นอาจจะรุ่งก็ได้ ไม่แน่นะ เจอกันอีกที ผมอาจจะต้องวิ่งไปขอลายเซ็นมัน ในฐานะที่มันเป็นนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก มันหัวเราะเขินๆ บอกว่าให้มันสอบให้ติดก่อนแล้วกัน แล้วถามผมกลับว่าผมจะเรียนต่อที่ไหน ผมบอกไปตามตรงว่ายังไม่รู้เหมือนกัน มันอึ้งใหญ่ ก็เห็นผมเปรยๆ ว่าจะเข้าอาชีวะอยู่ปีที่แล้ว ปีนี้ไม่ไปแล้วเหรอ ผมก็สั่นหัว บอกมันว่าพี่ชายไม่ค่อยเห็นด้วย มันเลยบอกให้ผมคิดดีๆ หัวผมดีกว่ามันตั้งเยอะ เรียนสายสามัญต่อแล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะดีกว่า
ตกเย็นเอมาหาผมที่ห้อง บอกให้ผมช่วยติวข้อสอบให้มันหน่อย มันคิดแล้วว่าจะเรียนต่อสายสามัญแผนวิทย์คณิต เพราะจะเข้าวิศวะ ผมเลยถามมันว่าแล้วไมเคิล จอร์แดนล่ะ มันว่าไปเก็บฝันเอาต่อช่วงม.ปลายก็ได้ เพราะพ่อแม่มันบอกว่าเล่นบาสฯอย่างเดียวไม่พอกิน อันนี้ผมเห็นด้วยนะ แล้วมันก็ถามเหมือนวีว่าผมจะเรียนอะไรต่อ ผมก็ตอบว่าผมยังไม่รู้ ไอ้เอทำหน้าแปลกใจสุดๆ แล้วก็เลยชวนผมเรียนสายเดียวกับมัน เพราะมันบอกว่าเรียนแผนวิทย์เลือกคณะได้เยอะกว่า อย่างผมหัวดี เรียนไปเดี๋ยวก็รู้ว่าชอบอะไร มันบอกว่าเรียนไปผมอาจจะอยากเป็นหมอก็ได้ ก็ดี มันจะได้มารักษากับผม ช่วยอุดหนุนกันไปในตัว ผมหัวเราะ แล้วบอกมันว่าผมไม่เคยคิดอยากเรียนหมอเลยล่ะ มันก็ว่าหมอน่ะรวยจะตาย เดี๋ยวผมเรียนต่อสายสามัญไปอาจจะอยากเรียนหมอก็ได้ ผมเลยบอกว่าจะเก็บไปคิดดูแล้วกัน
----------------------------------------------------------
14 กุมภาพันธ์ 254x
วาเลนไทน์ปีนี้ของผมกร่อยสนิท ไม่ใช่ว่าเพื่อนฝูงรักผมน้อยลงนะ แต่ผมเพิ่งรู้เมื่อเช้านี่เองว่าหมดเทอมนี้ ครูต้าจะย้ายไปสอนโรงเรียนอื่นแล้ว ครูต้าเป็นคนพูดเรื่องนี้กับผม ตอนที่ผมแวะไปช่วยแพ๊คดอกไม้ตอนเช้า แล้วครูเลยถามว่าผมจะเรียนต่อไหนที่ไหน พอผมบอกว่ายังไม่รู้ครูเลยบอกว่าผมน่าจะไปสอบเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ผมเลยแย้งว่าไปไกลขนาดนั้นผมจะกลับมาเจอครูได้ยังไง ครูเลยบอกว่า ถึงอยู่ต่อก็ไม่เจอครูอยู่ดี เพราะปีการศึกษาหน้าครูจะย้ายไปสอนที่อื่นแล้ว ผมอึ้งสุดๆ เลยล่ะ ไม่อยากคิดเลยว่าครูจะไปแล้ว ผมถามว่าครูจะย้ายไปที่ไหน ครูบอกว่ายังไม่รู้ ต้องรอตำแหน่งว่าง ผมเลยถามต่อว่าถ้าไม่ว่างครูจะอยู่ต่อใช่ไหม ครูบอกผมยิ้มๆ ว่าตำแหน่งว่างน่ะมีอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องย้ายไปจังหวัดไหนเท่านั้นเอง
ผมมึนไปทั้งวันเลยล่ะ ก่อนหน้านี้วางแผนไว้ดิบดีว่าปีนี้จะฉลองครบรอบการครบหนึ่งปีระหว่างผมกับครูด้วยการแอบออกไปซื้อดอกกุหลาบมาให้ครูสักช่อหนึ่ง แต่พอรู้ว่าครูจะย้ายผมไม่มีแรงปีนรั้วออกไปหาซื้อเลย หูมันอื้อไปหมด เพื่อนๆ คุยอะไรผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว
ตกเย็นผมมาช่วยครูขายของเหมือนปีก่อน แต่ไม่มีคำพูดเลี่ยนๆ มาพูดกับครูแล้ว คอมันแข็งไปหมดเลย จะพูดอะไรก็พูดไม่ออก ตอนจะปิดร้าน ผมทนไม่ไหวต้องดึงครูมากอด บอกครูว่าอย่าย้ายเลย ผมอยากอยู่กับครู อย่าไปจากผมเลยนะ
ครูลูบหัวผม แล้วบอกว่าครูจำเป็นต้องย้าย ครูต้องช่วยพ่อแม่ส่งน้องสาวเรียน ผมรู้ว่าครูมีเหตุผล ผมรู้ว่าครูต้องรับผิดชอบ แต่ผมกลายเป็นเด็กไม่ดีแล้วล่ะ ผมไม่อยากให้ครูไปเลย ผมอยากให้ครูอยู่กับผมคนเดียว รักผมคนเดียว
------------------------------------------------------------------
15 กุมภาพันธ์ 254x
ผมเข้าใจอาการของคนอกหักแล้วล่ะ ถึงครูต้าไม่ได้บอกเลิกผมตรงๆ แต่ก็เหมือนเลิกไปแล้ว พอปิดเทอมนี้ครูก็จะไม่อยู่ที่โรงเรียนแล้ว ผมไม่มีกำลังจะไปเรียนหนังสือเลย นอนซมอยู่บนหอ จนไอ้วีด่า บอกว่าผมเป็นบ้าอะไรเนี่ย อกหักหรือไง ผมเลยบอกมันไปว่าใช่ คราวนี้มันตาค้าง มาเซ้าซี้ผมใหญ่ว่าผมคบกับใครด้วยเหรอ ไม่เห็นรู้มาก่อนเลย ผมขี้เกียจตอบมันเลยบอกว่าฝากลาครูประจำชั้นให้ผมด้วยแล้วกัน บอกว่าผมไม่สบาย มันบอกว่ามันไปลาให้ได้ แต่ครูจะเช็กลาให้ผมรึเปล่าอีกเรื่องหนึ่งนะ มันบอกว่าไปห้องพยาบาลแล้วขอใบลาจะดีกว่า แต่ผมไม่อยากเจอใครแล้ว อยากจะอยู่คนเดียว อยากจะร้องไห้ ผมคิดเรื่องครูจนปวดอกไปหมด จำได้เลยว่าตอนคุยกับครูใหม่ๆ ครูเคยพูดถึงเรื่องอกหักด้วย ตอนนี้ครูทำให้ผมรู้สึกถึงอาการแบบนั้น แล้วล่ะ ครูสอนผมครบทุกอย่างจริงๆ
------------------------------------------------------------------
20 กุมภาพันธ์ 254x
ท่าทางไอ้วีจะทนเห็นผมนอนแบะแฉะอยู่บนเตียงติดกันไม่ไหวอีกต่อไป วันนี้มันลุกขึ้นมาปลุกผมแต่เช้า ลากผมลงจากเตียง แทบจะอุ้มลง ดีว่าผมตัวพอๆ กับมันแล้ว มันเลยต้องลากลงมาแทน แล้วบอกว่าหยุดฟูมฟายทำตัวเหมือนจะตายวันตายพรุ่งสักที แค่อกหักไม่ตายหรอก ดูมันสิ เลิกกับพี่กระเทยได้ตั้งปีกว่าแล้ว มันยังไม่ตายเลย แล้วมันก็เทศนาผมอีกยืดยาวว่า มันเข้าใจอาการอกหักนะ แต่ที่ผมเป็นมันทุเรศ ทำเป็นผู้หญิงโดนผัวทิ้งไปได้ มันด่าผมอีกว่าผมไปเสียตูดให้ใครหรือไงถึงได้มานอนซมแบบนี้ มันด่าไปเรื่อยๆ ผมชักมีโมโห เลยเถียงกลับ สักพักก็ทะเลาะกันใหญ่โต จนถึงขั้นต่อยกันเลยล่ะ เสียงดังเอะอะเพราะต่างคนก็ตัวใหญ่กันทั้งคู่ ชนโต๊ะชนเตียงวุ่นวายไปหมด เดือดร้อนทั้งครูที่คุมหอและคนที่อยู่ห้องข้างๆ ต้องพังประตูเข้ามาห้าม
ผมกับวีถูกจับไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่ห้องพยาบาล แต่ละคนหน้าตาดูไม่ได้ ปากแตกแก้มปูดไปตามๆ กัน พอเห็นว่าไม่กระโจนเข้าใส่กันแล้ว ครูที่คุมหอซึ่งตามไปดูด้วยเลยถามว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ผมไม่ตอบ ไอ้วีก็ไม่ตอบ ครูมองเราอยู่พักหนึ่ง แล้วบอกว่าอยากจะแยกห้องกันอยู่มั้ย ผมสั่นหัว ไอ้วีหันมามองผมแล้วสั่นหัวด้วย ผมอยากต่อยมันจริงๆ นะ จากนั้นครูเลยให้เราออกจากห้องพยาบาล เป็นรูมเมทกันมาจะสามปี ผมเพิ่งเห็นว่าไอ้วีเป็นรูมเมทที่ดีจริงๆ ก็วันนี้แหละ วันที่มันกับผมต่อยกันแก้มปูดน่ะนะ
ผมบอกขอบคุณมัน มันก็ทำหน้าเชิดๆ บอกว่าขอบคุณเรื่องอะไร เรื่องถูกมันต่อยหรือไง ผมเลยบอกว่าใช่ มันก็หันมามองผมแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แล้วก็พูดตามประสามันว่ามันออมมือให้หรอก ถ้ามันเอาจริงผมได้ไปนอนโรงพยาบาลแน่ ผมพยักหน้า แล้วบอกมันว่าวันนี้ผมจะไปเรียนแล้วล่ะ มันเลยบอกว่างั้นมันจะหยุดเรียนแทน เพราะหน้าหล่อๆ ของมันโดนผมทำเสียโฉม ไม่อยากจะเอาไปอวดเพื่อนที่ห้อง ผมเลยขอโทษมันเป็นการใหญ่ คะยั้นคะยอให้มันเดินไปเรียนด้วยกันกับผม สุดท้ายมันก็ยอมไป
ตอนเดินไปมันบอกว่าครูต้าที่ห้องสหกรณ์เป็นห่วง วันก่อนมันไปซื้อของก็ถามถึงผมด้วย มันเลยบอกว่าผมอกหัก อาการหนักใกล้ตายแล้ว ครูก็ทำหน้าตกใจเวอร์เลยล่ะ ผมเลยแวะไปหาครูหลังเลิกเรียน
ครูต้าดูจะรู้ข่าวเรื่องที่ผมต่อยกับวีตอนเช้าแล้ว เลยถามว่าทะเลาะกันหนักรึเปล่า ผมเลยบอกว่าเปล่า แค่วีมันอยากกระตุ้นให้ผมตื่นตัวเฉยๆ แล้วผมก็บอกขอโทษครูที่ผมฟูมฟายจนครูเป็นห่วง ครูบอกว่าไม่เป็นไร ครูเข้าใจว่าผมยังเด็ก เพิ่งเริ่มเรียนรู้ เรื่องนี้ผมยอมรับโดยดี ผมเพิ่งเรียนรู้จริงๆ เรียนรู้จากครูทั้งหมดเลยล่ะ ผมมองหน้าครู ทำใจแข็งบอกครูว่า ครูจะย้ายบ้านวันไหนบอกผมนะ เดี่ยวผมจะชวนเพื่อนไปช่วยขนของ ครูตอบผมว่า ให้ผมไปช่วยคนเดียวก็เต็มบ้านแล้ว ดูสิ ตอนม.1ผมยังตัวกะเปี๊ยกอยู่เลย เผลอแว้บเดียวสูงท่วมหัวครูแล้ว ผมหัวเราะเขินๆ แล้วบอกว่าสงสัยจะเพราะผมตั้งใจจะสูง มันเลยสูงได้ขนาดนี้
ได้คุยกับครูวันนี้ผมสบายใจขึ้นมาหน่อยหนึ่ง รู้ว่าครูไม่ได้เกลียดผม ครูย้ายเพราะมีเหตุจำเป็น ผมเองก็จะมัวทำตัวเป็นเด็กเล็กๆ งอแงหาครูต่อไปไม่ได้แล้ว คงได้เวลาที่ผมจะต้องเลือกทางของตัวเองบ้างเหมือนกัน
-------------------------------------------------------
10 มีนาคม 254x
ปิดเทอมแล้ว ผมตัดสินใจโทรบอกพี่นพว่าผมจะไปสอบที่กรุงเทพฯดู เพราะคิดว่าคะแนนสอบเทอมนี้น่าจะออกมาดี พี่นพดีใจใหญ่ บอกว่าเดี๋ยวอีกสัปดาห์หนึ่งจะไปรับผม
วีเริ่มเก็บข้าวเก็บของแล้ว เห็นมันเก็บของแล้วใจหายเหมือนกันนะ สามปีที่ผ่านมา ถึงมันจะปากไม่ค่อยดี บ้าๆ บอๆ แถมชอบแกล้งผม แต่ผมก็สนิทกับมันที่สุด มันรื้อกองหนังสือโป๊ของมันออกมา แล้วบอกว่าจะเอาไปยกเป็นมรดกให้กับรุ่นน้องอีกคนที่มันรู้จัก ถามผมด้วยนะว่าที่ผมมีจะเก็บเอาไว้หรือยกให้คนอื่น ผมเลยยกให้มันยกให้รุ่นน้อง เพราะไม่รู้จะเก็บไปทำไม แล้วก็ไม่รู้ว่าจะยกให้ใครด้วย
หนังสือที่ผมกับมันขนกันมาทำร้านเช่าก็รวมกันเป็นร้อย ซุกอยู่ใต้เตียงบ้าง ในลิ้นชักโต๊ะบ้าง เยอะแยะไปหมด ผมกับมันตกลงว่าจะยกให้ห้องสมุดให้หมด หวังว่าอาจารย์คงไม่ถามหรอกนะว่าทำไมถึงมีกันเยอะแยะขนาดนี้
ผมเลยเริ่มเก็บของบ้าง เก็บไปเก็บมา อยู่โรงเรียนสามปี ผมเขียนบันทึกไปตั้งห้าเล่มแน่ะ เยอะน่าดู เอามาเปิดอ่านแล้วก็ขำบางตอน บางตอนก็อยากฉีกทิ้งจริงๆ ผมเขียนอะไรของผมเนี่ย แต่พี่หนิงบอกว่าให้เก็บบันทึกเอาไว้ จะได้คอยเตือนความจำเวลาเราโตขึ้น เตือนจริงๆ นะ ผมว่าผมจะไม่ยอมให้ใครอ่านบันทึกพวกนี้เด็ดขาด เพราะมีแต่เรื่องน่าอายทั้งนั้นเลย
ผมรีบเก็บบันทึกใส่กล่องแล้วเอาเชือกมัดไว้ เพราะกลัวใครมาเปิดอ่าน จากนั้นก็เริ่มรื้อโต๊ะต่อ โอ้โห...เศษเปลือกลูกอมมาจากไหนเนี่ย ถ้าพี่แนนรู้ตีผมตายแน่ ผมรีบโกยทิ้ง จนไอ้วีทักว่าผมสะสมเปลือกลูกอมหรือไง จากนั้นก็เจอยางลบรูปการ์ตูนที่เคยไปซื้อกับครูต้าเมื่อปีก่อน ยังใหม่อยู่เลยล่ะ เพราะผมไม่ได้ใช้เลย เอามาสะสมโดยเฉพาะ
รื้อของออกจากโต๊ะเสร็จ ผมก็ไปรื้อตู้เสื้อผ้าต่อ มีเสื้อที่พี่นพให้หลายตัวยังใส่ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ใส่ได้แล้วล่ะ ผมพับแยกๆ ใส่กระเป๋าเดินทางเอาไว้ วันกลับจะได้ขนไปทีเดียวเลย รื้อเจอผ้าเช็ดหน้าที่ครูต้าให้ด้วยล่ะ ผมเห็นแล้วก็ยิ้มออกมา ก่อนจะรีบพับเก็บเพราะกลัวไอ้วีทักอีก
เราเก็บของกันจนเที่ยง เลยลงไปทานข้าวแล้วไปถามหาซื้อลังใส่ของเพิ่มที่สหกรณ์ ครูต้าถามว่าผมตัดสินใจได้หรือยังว่าจะเรียนต่อที่ไหน ผมบอกครูว่าจะไปสอบกรุงเทพฯ ครูบอกว่าดีแล้ว ผมหัวดีต้องสอบติดแน่ วีเลยรีบเสริมใหญว่ากว่าผมจะยอมเลือกว่าจะต่อที่ไหนต้องรอให้มันต่อยปากแตกก่อน ครูเลยเอ็ดมันว่าต่อยกันไม่ดีนะ วีมันก็ทำหน้าเจื่อนๆ แล้วบอกว่าแต่ก็ทำให้ผมโงหัวขึ้นมาได้ล่ะ ผมเลยกลับไปที่ห้องกับมันก่อน แล้วแวะมาหาครูอีกทีตอนบ่ายๆ
ผมถามครูว่าครูจะย้ายวันไหน เก็บของแล้วหรือยัง ครูบอกว่าเก็บแล้ว คงย้ายประมาณปลายๆ เดือนนี้แหละ ผมเลยบอกครูว่าอาทิตย์หน้าผมจะกลับกรุงเทพฯกับพี่ชายแล้ว ถ้าสอบติดคงจะไปยาวเลย ครูก็พยักหน้าแล้วอวยพรให้ผมสอบติด เรามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นผมก็เดินไปกอดครู ถามครูว่าให้ผมไปบ้านครูอีกสักครั้งได้ไหม ผมอยากมีเวลาส่วนตัวกับครูก่อนจะไปกรุงเทพฯ
ครูนิ่งไปพักหนึ่งแล้วพยักหน้า ผมกอดครูแน่น ครูก็กอดผม เรากอดกันอยู่แบบนั้น ผมปวดใจจี๊ดๆ แต่ไม่เสียใจอีกแล้วล่ะ
--------------------------------------------------
12 มีนาคม 254x
ผมมาบ้านครูต้าอีกครั้ง ครูเก็บของเกือบเสร็จแล้วจริงๆ เหลือแค่ของใช้ประจำวันไม่กี่อย่าง เห็นแล้วใจหายวาบเลย ครูจะไปแล้วจริงๆ หรือ พอเดินขึ้นไปชั้นสองผมก็กอดครูไว้ เราจูบกันตั้งแต่ยังไม่ถึงหน้าประตูห้องนอน ถอดเสื้อผ้าของกันและกันออกจนหมดก่อนจะไปถึงเตียงซะอีก
คืนนั้นเราทำกันจนค่อนรุ่ง ผมจำทุกอ้อมกอดที่ครูกอดผม เสียงที่ครูเรียกชื่อผม ผมรักทุกอย่างของครู ครูสอนทุกอย่างให้ผม ผมคงคิดถึงครูไปตลอดชีวิต
ผมรักครูที่สุดเลย
-----------------------------------------------------
18 มีนาคม 254x
วันนี้อาจจะเป็นวันที่ผมอยู่โรงเรียนเป็นวันสุดท้าย พี่นพจะมารับผมพรุ่งนี้แล้ว ปรากฏว่าบันทึกก็เหลืออีกสองหน้าสุดท้ายพอดี ผมคงเขียนจบในสองหน้า แต่ถ้าเขียนไม่จบ ผมก็กะจะเอากระดาษมาเขียนต่อแล้วแม๊กไว้เหมือนเล่มอื่น
วีกลับบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ห้องโล่งเลย เพราะผมก็เก็บของเตรียมไว้แล้วเหมือนกัน ตอนมันกลับผมเห็นมันแอบน้ำตาซึมเหมือนกันนะ แต่แกล้งบอกว่าฝุ่นเข้าตา ผมก็น้ำตาซึมเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะอยู่กันมาตั้งสามปีแล้ว ผมยังจำได้อยู่เลยว่าตอนเข้ามาแรกๆ มันยังดูหงอๆ อยู่เลย ต้องชวนผมไปซักผ้าเพราะโดนกระเทยจีบ สามปีมันกลายเป็นหนุ่มเต็มตัวไปแล้ว ผมเองก็โตขึ้นเยอะมาก เปลี่ยนเสื้อไปก็หลายรอบ รองเท้าอีกตั้งหลายคู่ ต่อจากนี้ผมคงต้องเปลี่ยนเพื่อนใหม่อีก ไม่รู้ว่าโรงเรียนที่ผมจะไปสอบเป็นยังไงบ้าง คงต้องรอพี่นพพาไปดูตอนถึงกรุงเทพฯแล้ว
ผมไปลาครูต้าตอนบ่าย กอดครูแล้วไหว้ครูงามๆ หนึ่งที ครูเป็นคนที่สอนผมหลายเรื่อง ถึงไม่นับเรื่องแบบนั้นผมก็ยังรักครูอยู่ดี ผมหวังว่าครูย้ายไปสอนแล้วคงจะได้เจอกับคนดีๆ อยู่กับครูไปได้ตลอด ผมเห็นครูอยู่คนเดียวแล้วเป็นห่วง ครูใจดี น่ารัก น่าจะหาแฟนได้ไม่ยาก ขอบคุณครูจริงๆ ที่มาคบกับเด็กอย่างผม ทำให้ผมได้รู้จักทั้งคำว่ารัก อกหัก แล้วก็คำว่ายอมรับความจริง ครูเป็นครูที่ดีที่สุดของผมเลยล่ะ
ผมร้องไห้อีกแล้ว น่าอายจัง น้ำตาหยดลงสมุดบันทึกอีกแน่ะ ผมวงเอาไว้ดีกว่า แล้วเขียนเอาไว้ว่าผมจะไม่ร้องไห้อีก ผมเป็นนายนพรัตน์แล้ว ต่อไปจะโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็ง อดทน เหมือนพี่นพ เป็นที่พึ่งให้กับคนอื่นได้ ผมจะตั้งใจเรียน สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ออกมาทำงานช่วยพี่นพ ให้พี่ๆ ได้ภาคภูมิใจกับผม
อ้อ เกือบลืมเขียนถึงเอ มันไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้ว บอกว่าจะไปสอบที่กรุงเทพเหมือนกัน ไม่แน่ว่าผมกับมันอาจจะเจอกันก็ได้ มันแลกเบอร์โทรที่บ้านกับผมเอาไว้แล้ว บอกว่าถ้าคิดถึงจะได้โทรหากันได้ มันสูงขึ้นเยอะเหมือนกัน แล้วก็ยังบอกว่าจะตามฝันที่อยากเป็นไมเคิล จอร์แดนต่อ มันว่ามันมั่นใจว่าทำพร้อมเรียนได้ ผมก็อวยพรให้มันนะ มันก็เป็นเพื่อนอีกคนที่ผมสนิท
หน้ากระดาษหมดพอดี ผมคงต้องจบบันทึกเล่มนี้ไว้เท่านี้ก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะได้เปิดใช้บันทึกเล่มใหม่ที่พี่หนิงซื้อส่งมาให้ คราวนี้หน้าปกเป็นรูปหมีพูห์ล่ะ
------------------------------------------------------