[เรื่องเบาๆ]Stair.ขยับรัก ข้ามขั้น : จบ P22 6/07/2554(รุ่นพ่อ?vsรุ่นลูก?)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องเบาๆ]Stair.ขยับรัก ข้ามขั้น : จบ P22 6/07/2554(รุ่นพ่อ?vsรุ่นลูก?)  (อ่าน 387430 ครั้ง)

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
จบเร็วจริง  :a5:  ไม่อยากให้รีบจบเลย อยากอ่านต่อ ตอนแรกที่อ่านรู้สึกเหมือน นพ ตั้งใจมาสมัครงานตำแหน่งนี้ เหมือนแอบชอบ ลุงแกมาก่อนเลยอะ หรือว่า อ่านแล้วคิดไปเอง  :laugh:

อยากอ่านตอนที่เป็นมุมของ นพ บ้าง  :o8:

ปล. nc ยังไม่จุใจเลยอะ   :haun4:  :haun4:

ออฟไลน์ Kee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
เป็นเรื่องที่สั้นผิดคาดนะคะ
ถึงจะจบแล้วยังไง ก็ยังอยากอ่านตอนพิเศษของคู่นี้อีก
จะรอติดตามนะคะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจจัง....จบแบบน่ารักด้วยล่ะ
อิ อิ คุณไพฑูรย์มีฉากนั้นด้วย เจ้านพเป็นผู้โชคดีที่สุด
ชอบใจจังที่ผู้เขียน ให้ผู้สูงวัยเป็นตัวเอกน่ะค่ะ
ขอมอบ :L2:สำหรับผู้เขียนแทนคำว่าขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
เอาไปเลย  o13
หวานอมเปรี้ยวเลยแระเรื่องนี้
อ่านไปยิ้มไป น่ารักมาก
ขนาดฉากเลีฟฟฟฟฟ อิอิ ยังมีแอบฮ่าเลย
สนุกมากเลย รอตอนต่อไป มาไวไวน่ะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
ขอบคุณค่าสำหรับเรื่องน่ารักๆ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมี NC ด้วย  :-[ อิอิ

ถ้ามีตอนพิเศษอีกสักหลายตอนก็จะดีมาก  :laugh:

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
*** หายไปปิดเล่ม My neighbor 4มาค่ะ กลับมาต่อตอนพิเศษแล้วค่ะ^^
------------------------------
คำบอกเล่าของนายพชร
   ไม่มีใครเข้าใจสเป็กของนพรัตน์ พอๆ กับที่ไม่รู้ว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนนั่นแหละ
   นพรัตน์เป็นน้องชายเพื่อนผมที่ชื่อนพคุณ นพรัตน์เป็นลูกหลง ตอนผมเห็นหน้าเจ้าเด็กนี่ครั้งแรกเราก็อยู่ม.3กันแล้ว ตอนนั้นนพรัตน์เพิ่งเริ่มเข้าอนุบาล ผมของดพูดถึงตาลุงไพฑูรย์ก่อนนะ เพราะสมัยนั้นแกคงเรียนจบ ทำงานไปแล้วล่ะ
   นพรัตน์เกิดมาตอนพ่อแม่อายุมากแล้ว แถมเกิดมาแค่ปีกว่า แม่กับพ่อมันก็โดนรถชนเสียชีวิตอีก ดังนั้นเจ้าหนูนพรัตน์เลยถูกส่งไปให้ญาติผู้ใหญ่ที่ต่างจังหวัดเลี้ยง กลับมาอยู่กับพี่น้องอีกทีก็ตอนอายุได้สักสามสี่ขวบ บ้านมันมีพี่น้องสี่คน สองคนแรกเป็นพี่สาว นพคุณซึ่งตอนแรกเป็นลูกคนเล็กก็กลายเป็นพี่ชายมันไป พอนพรัตน์กลับมาอยู่บ้าน ก็เป็นที่เอ็นดูของพี่ๆ
ตอนผมเจอมันครั้งแรก ผมยังว่ามันน่ารักเลย ขาวๆ ตัวเล็กๆ ตาแป๋ว ชอบถามชอบอ้อน หลังจากนั้น มันก็เริ่มมาเล่นกับเราทุกวัน มันเพิ่งสามสี่ขวบนะครับ แต่มาเล่นกับเด็กอายุสิบห้าสิบหก เอากะมันสิ
   สาเหตุเพราะมันติดหนึบนพคุณพี่ชายมันมาก เรียกว่าเกาะแจไม่ยอมห่าง บ้านนพคุณชื่อต้นขึ้นด้วยนพหมด นพคุณเป็นสุดท้องมานานทั้งบ้านทั้งเพื่อนเลยเรียกมันว่านพ พอนพรัตน์เกิด เลยได้ชื่อเล่นไปโดยปริยายว่าไอ้เปี๊ยก ก็ตัวมันเล็กขนาดนี้ ใครก็เรียกมันเปี๊ยกทั้งนั้นแหละ
   ไอ้เปี๊ยกเป็นที่นิยมของพวกเราอย่างรวดเร็ว ตอนเย็นๆ นพคุณจะไปรับมันที่โรงเรียนอนุบาล แล้วพามันมาดูพวกเราเตะบอลกันที่สนามหลังโรงเรียน มันก็น่ารัก นั่งดูตาแป๋ว บางทีก็มีไปซื้อขนมมานั่งกิน วันดีคืนดีก็ซื้อมาให้พวกเราด้วยแน่ะ เรียกว่ารู้จักประจบผู้ใหญ่แต่เด็กๆ
   พอมันอยู่อนุบาลสาม มันก็เริ่มมาเตะบอลกับเราแล้ว ตอนนั้นพวกผมอยู่ม.6กันแล้วล่ะ บอลมีเตะบ้าง แต่ก็ต้องท่องหนังสือสอบเหมือนกัน มันก็เอากับเขาด้วย เรียกว่าพวกเราทำอะไร ถ้ามันทำได้ มันทำตามหมด แต่มันไม่แก่แดดแก่ลมนะ ยังคงความน่ารักของมันไว้เป็นเอกลักษณ์ ท่าทางทั้งญาติทั้งพี่มันจะสอนมาดี
   หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้เจอมันพักใหญ่ เพราะนพคุณเข้ามหาวิทยาลัย เลยต้องส่งมันไปอยู่โรงเรียนประจำ ตอนนั้นเรายังไม่รู้หรอกว่ามันมีสเป็กประหลาด จนมันอยู่สักม.3 วันหนึ่ง นพคุณก็โทรมาหาผม
   “ไอ้นัท ปรึกษาหน่อยสิ จำเปี๊ยกน้องกูได้มั้ย”
   “เปี๊ยก?” ตอนแรกผมงง พอนึกไปสักพักก็ถึงบางอ้อ “เออ ไอ้เปี๊ยก ไม่เจอโคตรนาน เป็นไงบ้างวะ? อยู่ม.ไหนแล้ว”
   “ม.3” มันตอบผม จากนั้นก็คุยอย่างภาคภูมิใจ “มันสอบได้ที่หนึ่งด้วย มันเรียนเก่งนะ”
   “แล้วยังน่ารักเหมือนเดิมรึเปล่า ไม่ใช่ว่าโตแล้วแก่แดดแก่ลมนะ”
   “โอ๊ย ขี้อ้อนเหมือนเดิมแหละ เออ ไอ้นัท กูมีเรื่องจะปรึกษา เกี่ยวกับเปี๊ยกนี่แหละ”
   เอาล่ะสิ ผมเห็นมันเล่าดิบดีกว่าน้องมันดีอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมันจะปรึกษาอะไรผม สงสัยจะเรื่องเรียนต่อ เพราะมันจะขึ้นม.4อยู่ไม่กี่เดือนแล้ว
   “ว่ามาสิ” ผมกระทุ้ง เมื่อเห็นนพคุณเงียบ “นัท.. เป็นเกย์รักษากันได้ป่าววะ?”
   “เฮ้ย มาถามอะไรกูเรื่องนี้” ผมเอ็ด แล้วถามมันต่อ “ถามทำไมวะ ไอ้เปี๊ยกมันเป็นหรือไง?”
   “เออ กูว่าท่าทางจะเป็นว่ะ ตอนปิดเทอมมันกลับมาบ้าน กูเห็นมันโทรศัพท์บ่อย เลยแซวว่ามีแฟนหรือไง อยู่โรงเรียนไหน ว่างๆ พามาแนะนำกูบ้าง รู้มั้ย มันตอบว่าไง”
   “มึงเล่าเลยดีกว่า” ผมว่า ขี้เกียจฟังมันอารัมภบทนาน
   “มันบอกว่าเปล่า เป็นอาจารย์ กูก็นึกว่าอาจารย์ฝึกสอน มึงนึกถึงสมัยเราเรียนออกใช่มั้ย สมัยนั้นกูกับมึงก็เคยนึกจะหม้ออาจารย์ฝึกสอนเหมือนกัน กูเลยแซวมัน ว่าอาจารย์ฝึกสอนก็อาจารย์นะเว่ยเปี๊ยก พอมันตอบกูมา กูอึ้งเลย มันบอกเป็นอาจารย์บรรจุแล้ว รุ่นน้องกูปีสองปี”
   ผมอ้าปากเหวอ อึ้งไปพักใหญ่
   “ยัง มึงต้องฟังให้จบ กูเลยเอ็ดมันไปว่า จะชอบใครก็ชอบไป แต่ขอร้องอย่าไปชอบคนมีลูกมีผัว มันตอบกูว่าไง มึงทาย”
   “กูไม่ทาย มึงเล่าๆ มาเลย”
   “มันบอกว่า ยังไม่มีหรอก เพราะเป็นผู้ชาย นัท กูอยากร้องไห้”
   ถ้าอยู่ใกล้ๆ ผมตบบ่ามันไปแล้วนะเนี่ย รู้อยู่หรอกว่านพคุณโคตรรักไอ้เปี๊ยกเลย “เฮ้ย มึงทำใจดีๆ ไว้ กูว่ามันอาจจะเบี่ยงเบนชั่วคราว แบบว่าเพราะสภาพแวดล้อมอะไรงี้ มึงส่งมันไปอยู่โรงเรียนชายล้วน แล้วมันเพิ่งแตกเนื้อหนุ่มไม่ใช่เหรอ สิบห้าเองนี่”
   “เออ กูก็พยายามคิดว่าแบบนั้น ปีหน้ากูส่งมันไปเรียนโรงเรียนสหฯดีกว่า อยู่โรงเรียนชายล้วนทำน้องกูเสียคนหมด กูทำงานหลายปีพอมั่นคงแล้ว เดี๋ยวหาเวลาไปรับไปส่งมัน มันน่าจะหาย”
   ผมเห็นด้วยทันที จากนั้นเราก็คุยกันถึงโรงเรียนที่จะส่งนพรัตน์ไปเรียนต่อ
   หลังจากนั้น พอนพรัตน์ขึ้นม.4 มันก็เริ่มไปไหนมาไหนกับพวกเราอีกรอบ เพราะนพคุณไปรับมันจากโรงเรียนแล้วพามาเที่ยวกับพวกเราต่อ ตอนแรกผมกลัวมันจะแก่แดด แต่นพคุณมันสอนน้องดี พอเราไปเทคไปผับมันจะเทศนาสั่งสอนก่อนเข้าเสียจนผมล่ะฝ่อแทนนพรัตน์เลยล่ะ น้องมันก็ดี เชื่อฟังพี่ทุกอย่าง ไม่เจอมันนาน มันโตขึ้นเยอะ ตัวใหญ่ หุ่นดี หน้าตาหล่อขึ้น แต่นิสัยน่ารักเหมือนเดิม ชอบอ้อน ถึงมันตัวใหญ่ขนาดนี้ โตจะข้ามหัวเราแล้ว เราก็ยังเรียกมันว่าไอ้เปี๊ยกอยู่ดี
   แล้วไอ้เปี๊ยกก็กลับมาสนิทกับพวกเราอีกรอบ วันดีคืนดีมันก็มาถามหาข้อมูลทำรายงานจากเรา บางทีมันก็มาขอให้สอนการบ้าน ผมว่าไอ้เปี๊ยกเรียนเก่งเพราะมีพวกเราหนุนหลังอยู่นี่แหละ ดังนั้น พอมันใกล้จบม.6 เราก็จัดงานฉลอบแบบขำๆ ให้มัน ค่าที่มันมีชีวิตรอดมาได้จนจะขึ้นมหาวิทยาลัย
   ปรากฏว่าวันนั้นไอ้เปี๊ยกมาแบบจ๋อยสนิท ปกติมันยิ้มเก่งถามเก่ง เรียกว่าคุยอะไรรับลูกได้หมด พอมันจ๋อย คนอื่นก็พลอยจ๋อยกับมันไปด้วย ถามไปถามมาได้ความว่ามันเพิ่งอกหัก พวกผมเลยปลอบมันไป ว่าเดี๋ยวเข้ามหาวิทยาลัย ยังมีสาวให้มันมองอีกเยอะ นพคุณหน้าเจื่อนก่อนเพื่อน จากนั้นก็พูดอย่างคนปลงตกว่า “น้องกูมันชอบผู้ชาย”
   พวกเรางี้อ้าปากค้าง ไอ้เปี๊ยกทำหน้าน่าสงสาร “ก็ผมชอบ”
   เป็นอันว่าวิธีแก้ไขปัญหาที่ผมเสนอให้นพคุณเมื่อคราวก่อนไม่ประสบผลสำเร็จ สรุปวันนั้นพวกเราต้องมานั่งทำใจว่ามีเพื่อนในกลุ่มอีกคนเข้าสู่โลกที่เราไม่สามารถเข้าใจได้ไปแล้ว เอาล่ะ เราเห็นไอ้เปี๊ยกมานาน นอกจากเรื่องชอบผู้ชายมันไม่มีข้อเสียเรื่องอื่น เป็นเกย์ก็ไม่เป็นไร เพื่อนๆ รับได้ แต่เราเพิ่งมารู้หลังจากนั้น ว่านอกจากไอ้เปี๊ยกจะเป็นเกย์แล้ว มันยัง...
   “นัท จำที่เปี๊ยกอกหักวันก่อนได้มั้ย?” นพคุณถามผม ตอนที่พวกเรานัดกันไปร้องคาราโอเกะ
   “เออ จำได้” ผมว่า และพูดต่อ “ไม่เป็นไร กูทำใจได้แล้วว่าเปี๊ยกมันเป็นเกย์ พวกกูไม่รังเกียจมันหรอก”
   “เออ... มันเป็นเกย์ กูปลงแล้ว รู้ว่าพวกมึงก็ปลง แต่กูกลัวมันเข้ามหาลัยแล้วเสือกไปจีบอาจารย์อีกน่ะสิ มึงรู้มั้ย ที่มันจีบแต่ละคน แก่กว่ามันเป็นสิบปีทั้งนั้น กูล่ะจะบ้าตาย เป็นเกย์ไม่พอ ดันชอบคนแก่อีก นัท กูอยากร้องไห้”
   คราวนี้ผมมีโอกาสได้ตบบ่าปลอบนพคุณล่ะ การร้องคาราโอเกะเลยกลายเป็นการปรึกษาเรื่องนพรัตน์ไป
   เราสรุปว่า เปี๊ยกมันคงชอบของมันแบบนั้นเพราะมันยังเด็ก ไม่แน่ว่าพอเรียนมหาวิทยาลัย หรือจบไปแล้วทำงาน มันอาจจะหันมาชอบคนรุ่นเดียวกัน หรือเด็กกว่าก็ได้ นพคุณพยักหน้า พยายามจะให้ความหวังตัวเองอีกเช่นเคย จากนั้นมันก็แต่งงานหลังไอ้เปี๊ยกเข้ามหาวิทยาลัยได้สักเทอมหนึ่ง แล้วมันก็เงียบไปเลย เพราะต้องให้เวลากับเมียและครอบครัวเมีย
   นพรัตน์เลยเข้ามาแทนที่พี่ชายของมันโดยปริยาย ถึงมันเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว มันก็ยังไปไหนมาไหนกับพวกเราบ่อยๆ จนผมอดค่อนแคะไม่ได้ว่า มันแอบชอบใครในกลุ่มเรารึเปล่า เพราะดูแล้วก็เป็นผู้ชาย แถมแก่กว่ามันเป็นสิบปีทั้งนั้น มันคำหน้าเคือง แต่ไม่กล้าด่าผม เออ ผมก็แค่ล้อเล่นหรอก พวกผมแก่จริง เป็นผู้ชายจริง แต่เรื่องหน้าตาดีตัดไปได้ ซกมกสมชายแท้แทบทุกคน ไม่งั้นคงไม่แต่งออกกันน้อยอย่างนี้หรอก
   โชคดีที่พอเข้ามหาวิทยาลัย ไอ้เปี๊ยกเลิกไล่จีบอาจารย์สักที มันไม่มีแฟนเป็นอาจารย์แล้ว แต่ดันมีเพื่อนเป็นอาจารย์แทน ไปๆ มาๆ อาจารย์กลายเป็นเพื่อนมันหมด มันกลายเป็นคนเส้นสายดีเพราะความเข้าถึงผู้ใหญ่เก่งมาแต่กำเนิดของมันแท้ๆ วันหนึ่งผมอดไม่ได้ ต้องเรียกมันมาถาม
   “เฮ้ย เปี๊ยก พี่ถามจริง ทำไมเปี๊ยกชอบคบคนแก่กว่า?”
   “พี่นัทหมายถึงแฟนหรือเพื่อนล่ะ?” มันถามกลับ ผมเลยระบุไปทั้งสองอย่าง
   “ผมมีเพื่อนรุ่นเดียวกันนะ แต่คุยกันไม่ค่อยถูกคอ ไงดีล่ะ ผมว่ามันไม่ใช่น่ะพี่ พอคุยกับพวกอาจารย์ไม่ก็พวกพี่แล้วรู้สึกดีกว่า คุยกันรู้เรื่อกว่า”
   โห... ผมจะบอกว่ามันแก่แดด อัจฉริยะ หรือว่าอะไรดี “งั้น แฟนล่ะ?”
   มันอึ้งๆ เงียบไปพักหนึ่ง แล้วตอบออกมา “ไม่รู้สิ ผมไม่ได้ตั้งสเป็กนะ แต่ผมชอบที่ดูภูมิฐานแล้วก็รูปร่างดีๆ “
   “เออเปี๊ยก คนรุ่นเดียวกันกับนายที่ดูภูมิฐานแล้วก็รูปร่างดีก็มีเยอะนะ พวกคนอายุมากๆ อ้วนลงพุงไม่ก็ผอมเป็นกุ้งทั้งนั้น ไม่ก็หนังเหี่ยวตีนกาขึ้น นายคงไม่ได้พิสวาสรอยตีนกาหรอกนะ”
   “ผมยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก” มันรีบปฏิเสธ ผมเลยได้ทีสำทับต่อ “ลองมองคนรุ่นเดียวกันบ้างสิเปี๊ยก แบบที่นายชอบก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะ”
   “ไว้ผมเจอก่อนแล้วกัน” มันว่า ผมเลยรีบตอกตะปูปิดฝาโลง “เปี๊ยกอย่าไปมองคนแก่กว่าเยอะๆ เลย คนอายุมากเขาไม่ค่อยจริงจังกับเด็กหรอก เขาว่าเราดูไม่มั่นคง”
   มันพยักหน้ายอมรับ ผมล่ะภูมิใจตัวเองจริงๆ เอาล่ะ เดี๋ยวเปี๊ยกมันเรียนจบไป มันคงหาย ไอ้นพคุณจะได้เลิกวิตกจริตเสียที ปล่อยให้มันไปวิตกกับเมียกับลูกในอนาคตของมันก็พอแล้ว
   ไอ้เปี๊ยกเรียนจบโดยไม่มีข่าวว่าริจีบอาจารย์ หรือแอบไปคบคนมีคู่มีเมียแล้ว มันเคยบอกเหมือนกันว่ามันรับได้ทุกอย่าง ยกเว้นคนมีลูกมีเมีย เออ ถ้ามันยังเอาอีกนะ ผมว่าเราควรพิจารณาเลิกคบมันได้แล้วล่ะ งานวันรับปริญญามัน เพื่อนๆ หน้าชื่นตาบาน เห็นมันมีเพื่อนรุ่นเดียวกันเยอะเราก็ดีใจว่ามันยังปกติ หลังจากนั้นเราก็เริ่มเห็นอาจารย์คณะโน้นคณะนี้มาถ่ายรูปกับมัน... พอมองดูพวกตัวเองก็อายุพอๆ กับอาจารย์พวกนั้นแหละ ไม่ก็แก่กว่าอีก เออ..หรือเรามีส่วนผิดที่ทำให้มันเป็นแบบนี้เนี่ย? แต่เอาล่ะ เราสามารถแยกได้ว่าไหนเพื่อนเก่ามันไหนเพื่อนใหม่มัน โดยดูจากชื่อเรียก ถ้าใครเรียกมันเปี๊ยก ชัวร์ เพื่อนเก่ามันแน่ แต่ถ้าเรียกนพ นั่นเพื่อนใหม่ ผมรู้ว่าชื่อเปี๊ยกเหมาะกับมันตอนเด็กๆ เท่านั้นแหละ โตมาใครจะคิดว่ามันตัวใหญ่เต็มบ้านขนาดนี้ ถ้าผมเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักมันผมก็คงเรียกมันว่าเปี๊ยกไม่ค่อยลงเหมือนกัน แต่มันไม่มีชื่อเล่นเป็นทางการ มันเลยให้เพื่อนเรียกนพ ตามพี่มันไปอีกคน
   จบมาแล้วนพรัตน์ก็ไปช่วยพี่ชายทำงาน และรับจ๊อบเล็กๆ เกี่ยวกับการดูแลจัดการงานอีเว้นท์บ้างอะไรบ้าง ตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดี แถมยังแวะไปช่วยเพื่อนผมอีกคนที่เปิดร้านอาหารอยู่เป็นประจำ เพราะมันบอกว่า แฟนเพื่อนผมที่เป็นพ่อครัวทำกับข้าวอร่อยดี เออ เพื่อนผมเป็นเกย์ก็พอมีนะ พอมันพูดแบบนี้ผมล่ะเสียวมันจีบแฟนเพื่อนจริงๆ แต่ก็เห็นไปช่วยเป็นปีๆ ไม่มีเหตุอะไร เลยพอเบาใจหน่อย
   ร้านอาหารเพื่อนคนนั้นจริงๆ อยู่ใกล้กับที่ทำงานที่ผมทำอยู่ แต่ผมไม่ค่อยได้แวะไปทาน ไม่ใช่ว่ารังเกียจไม่อยากอุดหนุนเพื่อนนะ แต่ผมรู้มาว่าไอ้จอมจับผิดของบริษัทชอบไปทานอาหารร้านนี้ ผมเลยขี้เกียจไปเจอหน้าแก เออ ได้เวลาผมพูดถึงตาลุงไพฑูรย์แล้วสินะ
   ที่ผมเรียกแกลุง ไม่ใช่ว่าแกหน้าแก่ ย่น เหี่ยว เหนียงยาน คางยื่น หรืออะไรหรอกนะ เอาเข้าจริงแล้วแกเป็นผู้ชายวัยสี่สิบต้นที่หน้าตาดีเวอร์ๆ ผมเกิดมาเพิ่งเคยเห็นผู้ชายด้วยกันดูดีขนาดนี้ก็แกนี่แหละ ดีขนาดที่เจอตอนแรกผมยังมองตาค้าง ตอนนี้แกอายุสี่สิบกว่า แกยังดูดีอย่างกับทำเบบี้เฟส ผมนึกเลยว่าตอนหนุ่มๆ แกคงป๊อบน่าดู แต่พอแกเริ่มอ้าปากสัมภาษณ์งาน ผมก็รู้แล้วว่าทำไมแกมาทำตำแหน่งแบบนี้ แล้วพอเข้ามาทำงานจริงๆ ผมไม่เสียใจเลยที่เรียกแกว่าลุง ผมว่าแกควรจะรู้ได้แล้วว่าแกน่ะลุงจริงๆ
   แกทำงานคุ้มค่าจ้าง เอาล่ะ แกก็ควรจะทำคุ้ม เพราะแกไม่ได้เป็นลูกจ้าง แต่แกเป็นคณะผู้บริหาร มีอำนาจรองจากคุณพงษ์โพยมผู้บริหารใหญ่คนเดียว ใครไม่กลัวแกก็บ้าล่ะ แถมคุณพงษ์โพยมก็โคตรจะเอาใจแกเลย เห็นว่าทำงานกันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท ที่สำคัญ แกเป็นนักจับผิดตัวยง ใครอย่าได้อู้อย่าได้ทำงานพลาดให้แกเห็น ไม่สิ อย่าได้ริอาจอู้หรือทำงานพลาดเลยดีกว่า เพราะไม่รู้แกรู้ได้ยังไง รู้ตัวอีกทีก็โดนแกหักเงินโบนัสบ้าง เงินเดือนบ้าง พร้อมกับจดหมายอธิบายสาเหตุยาวเหยียดที่จะเถียงก็เถียงไม่ออก ใครๆ เลยสารพัดจะตั้งฉายาให้แก ผมไม่ยกตัวอย่างนะ เดี๋ยวกระทบกระเทือนใจไอ้เปี๊ยกมัน
   กลับมาที่ร้านอาหารเพื่อนผมต่อ อย่างที่บอกไปแล้วว่าผมไม่ค่อยแวะไปร้านมันเพราะขี้เกียจเจอหน้าลุง แต่วันหนึ่งมันก็โทรมาหาผม บอกว่าเที่ยงนี้ไปทานข้าวที่ร้านหน่อย ไอ้เปี๊ยกมีเรื่องจะปรึกษา ผมก็ตอบตกลงไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเอ็นดูไอ้เปี๊ยกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกอย่างผมเข้าทางประตูส่งของหลังครัวก็ได้ เผื่อลุงแกอยู่จะได้ไม่ต้องเจอหน้ากัน เดี๋ยวแกหาว่าผมอู้งานตอนเที่ยงอีก
   พอมาถึง ทานข้าวกันไปได้จานหนึ่งพออิ่มท้อง ไอ้เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของร้านก็เข้าเรื่อง
   “นัท เปี๊ยกมันแอบชอบลูกค้าคนหนึ่ง เราเห็นว่านายทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเขา เลยคิดว่าน่าจะรู้จัก”
   ผมอิ่มๆ กำลังอารมณ์ดี เลยถามไอ้เปี๊ยกไปอย่างไม่คิดอะไร “ใครวะเปี๊ยก พาไปดูหน่อย เผื่อรู้จักเดี๋ยวจะแนะนำให้”
   ไอ้เปี๊ยกยิ้มหน้าบาน สมกับเป็นที่รักที่เอ็นดูของเพื่อนๆ อย่างที่สุด จากนั้นมันก็พาผมไป ผมล่ะนึกไว้หลายคน แต่พอเห็นว่าใครในระยะยี่สิบเมตร ผมรีบดึงมือไอ้เปี๊ยกกลับ
   “เฮ้ย เปี๊ยก ใครวะ อย่าบอกนะว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น”
   “อือ คนตัวเล็กๆ ขาวๆ หน้าตาเรียบร้อยที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมนั่นล่ะ”
   ผมจำได้ว่าตอนนั้นรีบกระชากมือมันเข้ามาหลบหลังเสาที่มีต้นไม้บังอยู่อีกที แทบจะเอ็ดตะโรมันลั่นร้าน
   “เปี๊ยก ดูไม่ผิดแน่นะ ใช่ตาลุงนั่นแน่นะ”
   เปี๊ยกทำหน้ามุ่ย “ผมไม่เห็นว่าเป็นลุงเลย เขาน่ารักจะตาย”
   ผมสิจะเป็นลม เปี๊ยกกล้าพูดว่าไอ้จอมวายร้ายนั่นน่ารักหรือนี่ เออ ผมขอโทษนะครับ ต้องเรียกฉายาแกออกมา แต่ที่ผมตั้งนะ เบสิกสุดๆ แล้วล่ะ
   “เฮ้ย เปี๊ยก เอ็งเป็นเกย์พี่ไม่ว่า เอ็งชอบอาจารย์พี่รับได้ แต่พี่ขอร้อง เอ็งอย่าไปชอบคนนี้เลย แกน่ะอายุได้ๆ รุ่นพ่อเอ็งแล้วนะ สี่สิบกว่าเข้าไปแล้ว”
   ไอ้เปี๊ยกทำตาโต ผมล่ะคิดว่ามันจะสำนึกได้เรื่องอายุ แต่เปล่า มันรีบถามผมด้วยความตื่นเต้น “จริงหรือพี่ เขายังหน้าเด็กอยู่เลยนะ พี่รู้จักเขาใช่ไหม แนะนำผมหน่อยสิ”
   เปี๊ยกมันเป็นเด็กน่ารักครับ ตั้งแต่รู้จักกับมันมา ไม่มีใครนึกอยากถีบอยากทำร้ายมันเลย แต่ตอนนี้ผมอยากจะกระทืบมันจริงๆ ถ้าผมกล้าพามันไปแนะนำกับแก ผมคงไม่มาแอบหลืบเป็นผู้ร้ายหนีคดีแบบนี้หรอก
   “ไม่ได้ คนนี้ห้ามไปยุ่งเด็ดขาด ยุ่งไปมีแต่จะซวยเปล่าๆ ” ผมว่า ไอ้เปี๊ยกทำหน้าสงสัย ผมเลยเล่าสารพัดความดุร้ายของแกให้มันฟัง แต่ไอ้เปี๊ยกอาการหนัก ที่เขาเรียกหมูไม่กลัวน้ำร้อนนี่มันชัดๆ เลย
   “อือ.. เขาชื่อไพฑูรย์เหรอ..”
ผมเล่าจนเหงือกแห้ง ขนาดลากมันกลับมานั่งที่โต๊ะด้านในแล้วเล่าจนดื่มน้ำไปสองแก้ว สิ่งที่มันจำได้คือชื่อ... โอ๊ย ผมล่ะอยากกระทืบมันให้หายหน้ามืดตามัวจริงๆ
“พี่นัท ที่บริษัทพี่มีตำแหน่งงานว่างอีกมั้ย เดี๋ยวผมไปสมัคร จะได้เจอแก่บ่อยๆ “
ผมงี้ตาเหลือก รีบห้ามมันทันที “อย่านะไอ้เปี๊ยก เอ็งไม่ได้จีบแกหรอก แกไม่ให้ใครยุ่งกับแกเลย ขนาดซื้อขนมฝากแกยังไม่รับเลย แกอย่าหวังสูงดีกว่า พี่ขอเหอะเปี๊ยก ใครก็ได้ แต่อย่าไปยุ่งกับแกเลย

ออฟไลน์ juon

  • มนุษย์หน้าคีย์บอร์ด
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +782/-3
    • My novel blog
ไอ้เปี๊ยกทำหน้าเศร้า แบบเด็กที่ถูกห้ามไม่ให้ไปเล่นของเล่น แต่ผมไม่ใจอ่อนกับมันหรอก ผมรักและเอ็นดูมันนะเนี่ย เลยไม่อยากให้มันพยายามทำอะไรที่สูญเปล่า มันจีบอาจารย์ยังมีได้คุยกัน ได้ทำอะไรกันบ้าง แต่ถ้าจีบคุณไพฑูรย์ ผมว่าที่มันจะได้คือถูกแกนั่งจับผิด ตัดเงินเดือน เผลอๆ แกจะไล่มันออกถ้ามันเกิดไปทำอะไรรุ่มร่ามใส่แก ไม่เอาล่ะ ผมรักน้องผมคนนี้ ผมไม่ส่งมันไปขึ้นตะแลงแกงหรอก แม้ว่ามันจะอยากจนตัวสั่นก็เถอะ
หลังจากนั้นผมก็ขุดสารพัดพฤติกรรมสุดทารุณต่อพนักงานของแกขึ้นมาพูด พูดไปเหลียวหลังไป กลัวว่าถ้าแกเกิดมายืนด้านหลังผมคงไม่มีหน้าไปทำงานในวันรุ่งขึ้น เล่าจนเกือบเลยเวลาพักเที่ยง พอเห็นว่าไอ้เปี๊ยกหน้าเจื่อน ท่าทางจะฝ่อดีแล้ว ผมเลยกลับไปทำงานต่อ ความจริงผมฝากเพื่อนผมที่เป็นหัวหน้าแผนกตอกบัตรแทนให้ได้ แต่ถ้าแกเกิดเดินมาเจอตอนผมเข้าสายพอดีมันจะซวยกันทั้งผมทั้งเพื่อน ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ผมขอตรงเวลา นี่ล่ะมั้งคุณงามความดีของแกที่มีต่อบริษัท แต่สำหรับพนักงาน แกมันตัวมารชัดๆ เลย
แล้วผมก็มารู้หลังจากนั้นว่าไอ้เปี๊ยกไม่เข็ด มันพยายามไปร้านเพื่อนผมทุกวัน หลังๆ นี่มันเริ่มทำตัวเป็นเด็กเสิร์ฟแล้ว ผมจะบ้าตายกับมันจริงๆ มันบอกว่าแกไม่ค่อยพูด เออสิ แผนกแกมีแกกับเลขาสองคน เลขาแกน่ะโคตรสวยเลย แต่แกไม่มีท่าว่าจะหลีจะจีบ คนเลยลือกันให้แซ่ดว่าแกเป็นเกย์ เพราะแกสี่สิบกว่าแล้ว หน้าตาก็ดี การงานก็สูง สมบัติไม่ต้องพูดถึง แกเป็นระดับผู้บริหาร เงินเดือนแกขนาดไหนไม่อยากจะจินตนาการ แต่แกไม่มีลูกมีเมีย ยังโสด ไม่ใช่เกย์แล้วจะอะไรอีกล่ะ แต่ก็ไม่เคยเห็นแกควงผู้ชายเหมือนกัน ไม่แน่ แกอาจจะไม่ชอบใจมนุษย์โลกเลยสักคนก็ได้ ก็ดูนิสัยแกสิ...ผมว่าที่แกเป็นโสด เพราะแกเรื่องมากจุกจิกนี่แหละ
ผมทำงานได้ที่นั่นสักปีครึ่งก็ลาออก ไม่ใช่เพราะถูกแกไล่ออกนะ พอดีผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะเอาเงินสักก้อนไปทำธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อนที่รู้จักกัน บริษัทนี้ก็ให้เงินเดือนพนักงานดี สวัสดิการเยี่ยม โบนัสก็มหาศาล ติดที่มีคุณไพฑูรย์เป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคลนี่แหละ
ออกมาแล้วผมก็ลืมๆ เรื่องแกกับไอ้เปี๊ยกไปพักหนึ่ง เพราะมัวแต่ยุ่งกับการจัดการธุรกิจใหม่ แล้ววันหนึ่ง พัชระซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกไอทีและเป็นเพื่อนผมที่บริษัทก็โทรมา
“นัท ลุงแกเปิดรับผู้ช่วยแล้วนะ เออ คุณพงษ์เปิดให้แกต่างหาก ไอ้น้องที่เคยเล่าให้ฟังวันก่อนยังอยากลองดีกับลุงแกอยู่ป่าววะ ลองมาสมัครดูสิ”
ผมเลยนึกขึ้นมาได้ ไม่รู้บุญแต่งหรือกรรมส่งไอ้เปี๊ยก ผมเขาไปทำงานอยู่ปีครึ่ง แต่พอรู้มาว่าตั้งแต่เปิดบริษัท ลุงแกไม่เคยรับผู้ช่วยเลย ถึงคุณพงษ์จะพยายามคะยั้นคะยอให้แกรับก็เถอะ ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่อยากโทรบอกไอ้เปี๊ยก เผื่อมันลืมๆ ไปแล้วดันติดไฟใหม่ ผมจะบาปเอา เลยโทรไปหาเพื่อนผมที่ทำร้านอาหารแทน
“ดีเลยนัท เปี๊ยกมันมาเฝ้าทุกวัน เราน่ะสงสารมันนะ มีโอกาสแล้วก็ให้มันไปลองๆ เถอะ”
นั่นแหละ ผมเลยโทรบอกไอ้เปี๊ยก เล็งเห็นว่านี่คงเป็นคราวเคราะห์สุดท้ายของมันแล้ว ถ้ามันได้เจอฤทธิ์เดชลุงไพฑูรย์ มันอาจจะเข็ดขยายผู้ใหญ่ไปเลยก็ได้
พอไอ้เปี๊ยกรู้ว่าแกรับสมัครผู้ช่วย มันก็ดีใจสุดๆ อย่างกับว่าจีบแกติดแล้ว เวอร์ซะไม่มี ผมเลยต้องเตือนมันอีกสารพัด และลงท้ายว่า “ถ้าแกไม่รับก็ตัดใจนะเปี๊ยก พี่ว่าเปี๊ยกได้คุยกับแกจริงๆ เปี๊ยกคงถอยเองแหละ”
มันรับปากผมแบบขอไปทีสุดๆ ผมล่ะอยากไปนั่งดูตอนมันสัมภาษณ์กับแกจริงๆ ดูว่ามันจะออกมาหน้าเจื่อนขนาดไหน
หลังจากนั้นสองวันมันก็ลาออกจากผู้ช่วยพี่มัน นพคุณก็โคตรใจดี ผมว่ามันน่าจะรู้ว่าน้องมันไปคราวนี้มีจุดประสงค์แอบแฝง แต่มันก็ยังปล่อยน้องมันไปอีก ไม่ตามใจก็คงปลงตกกับน้องมันแล้วล่ะ แล้วไอ้เปี๊ยกก็ไปสมัครงาน ตำแหน่งประวัติศาสตร์ของบริษัท ตกเย็นมันก็โทรมาหาผม เสียงดูดีใจสุดๆ
“พี่นัท ผมได้งานแล้ว คุณไพฑูรย์เขารับผมเป็นผู้ช่วยแล้วล่ะ”
ผมยืนอึ้ง นึกในใจว่าเปี๊ยกมันต้องฟังผิดแน่ๆ “รู้ได้ไงวะเปี๊ยก”
“เขาให้เลขาเขาโทรมาบอก พรุ่งนี้ผมได้เริ่มงานเลย”
ผมอึ้ง มองเห็นแต่ลางร้ายเต็มไปหมด เงียบไปสักพัก ผมก็พูดไป “เออ โชคดีแล้วกัน”
-------------------------------------------------
   หลังจากนั้นผมกับพวกเพื่อนๆ ก็มาประชุมกัน เตรียมวางแผนรับมือไอ้เปี๊ยกที่คงจะอกหักแน่ๆ อยู่ที่ว่ากี่วัน งานนี้ไม่มีนพคุณมานั่งเป็นประธาน เพราะติดดูแลเมียที่ป่วย แต่ผมโทรบอกมันแล้ว เพื่อให้มันสบายใจ มันก็ดูปลงกับน้องคนเล็กมันแล้วล่ะ จากนั้นเราเลยลงความเห็นกันว่า ไอ้เปี๊ยกอกหักคราวนี้ จะต้องซ้ำมันจนมันเข็ด ไม่งั้นเดี๋ยวมันได้ไปทำงานสถานสงเคราะห์คนชราแน่ๆ คิดดูนะ ตอนมันอายุสิบห้า มันชอบอาจารย์อายุยี่สิบห้ายี่สิบหก พอมันอายุสิบเก้า มันก็ขยับไปที่อาจารย์อายุสามสิบกว่า ตอนนี้มันอายุยี่สิบสาม ล่อซะรุ่นพ่อเลย ขืนปล่อยต่อไป ผมว่ามันคงสมัครตัวเองเข้าไปทำงานบ้านบางแคแน่ๆ เพื่อนๆ อย่างพวกผมรับไม่ได้เด็ดขาด
   เราวางแผนกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ นับวันรอเวลาไอ้เปี๊ยกอกหัก กะว่าคราวนี้แหละมันคงเข็ดหลาบสักที แต่เรื่องเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้มีจริง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
   สัปดาห์แรกนอกจากพวกเราจะรอเก้อแล้ว เราได้รู้ข่าวว่าเปี๊ยกมันประสบความสำเร็จในการชวนคุณไพฑูรย์ไปดูหนัง หลังจากนั้นพวกเราเลยต้องเรียกมันมาสัมภาษณ์ ถามว่ามันเล่นของอะไร ถึงชวนลุงแกไปดูหนังได้ มันก็ยิ้มกระมิดกระเมี้ยนภาษามันนั่นแหละ แล้วตอบว่า
   “ก็ชวนปกตินั่นแหละ เขาน่ารักสุดๆ เลยล่ะ”
   ผมเห็นไอ้เปี๊ยกทำหน้าเขิน แล้วพูดคำว่าน่ารักแล้วนึกขนลุก เอ่อ..ที่ขนลุกไม่ใช่เพราะมันทำแล้วน่าเกลียดนะ มันทำแล้วดูน่ารักนั่นแหละ แต่..คนที่ทำให้มันทำท่าแบบนี้ดันเป็นตาลุงปิศาจนั่นน่ะสิ อ๊ะ ผมเผลอเรียกฉายาแกอีกแล้ว เอาน่า นิดๆ หน่อยๆ ไม่มีใครอยากเรียกชื่อจริงแกหรอก นอกจากไอ้เปี๊ยก กับเพื่อนแก
   หลังจากนั้นพวกเราเลยมีงานอดิเรกใหม่ คอยฟังข่าวว่าเปี๊ยกกับลุงแกไปถึงไหนกันแล้ว โห... มันมีดวงเกินคาด ตอนแรกเราคิดว่ามันจะถูกแกไล่ตะเพิดออกภายในสองอาทิตย์ ที่ไหนได้ อาทิตย์แรกมันชวนแกไปดูหนังสำเร็จ เดือนต่อมามันก็ได้ไปนอนบ้านแกแล้ว มันบอกว่าแกป่วย มันเลยไปดูแล พวกเรางี้เหวอกินไปตามๆ กัน โดยเฉพาะผม ซึ่งเคยเห็นแกมาตั้งปีกว่า คนอย่างแกเนี่ยนะให้ใครไปดูแลตอนป่วย ทำงานปีกว่าผมไม่เคยเห็นแกไม่สบายด้วยซ้ำ แกอยู่ยงจนเข้าขั้นตายยาก ไอ้เปี๊ยกทำท่าเขินสุดๆ ท่าทางมันจะดีใจ มันบอกว่า
   “แกไม่สบาย เป็นหวัด ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง ผมเลยต้องไปดูแล”
   โห... ถ้าผมไม่รู้จักไอ้เปี๊ยกมาตั้งแต่มันยังตัวกระเปี๊ยกนะ ผมด่ามันว่าตอแหลแน่ๆ ลุงแกทนยิ่งกว่ากระเบื้องตราช้าง มาบอกแกร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง เอาเถอะ มันไม่ใช่คนโกหก เราเลยลงความเห็นกันว่า บางทีเปี๊ยกมันอาจจะมีดวงสมพงษ์กับลุงแก แต่เราไม่ได้บอกมันนะ กลัวยิ่งไปให้ความหวังมันอีก พออกหักทีนี้จะดามกันลำบาก
   หลังจากนั้นเราก็ได้รู้ว่า คุณไพฑูรย์แกทำอาหารอร่อย เฮ้ย ไอ้เปี๊ยกมันพัฒนาสุดๆ มันไปบุกถึงบ้าน ให้แกทำอาหารให้ทานเรียบร้อย พวกผมงี้อึ้งกิมกี่ เริ่มมีลุ้นกับมันแล้ว ที่ลุ้นกับมันน่ะ เพราะเวลามันเล่าเรื่องแก มันหน้าแดง ท่าทางเขินโคตร เราไม่เคยเห็นมันมีความสุขแบบนี้ ปกติเห็นมันมาก็หน้าสลด เพราะอกหัก เราเลยพลอยลุ้นให้มันสมหวังไปด้วย
   พักนี้ไอ้เปี๊ยกไม่ค่อยได้มาเจอพวกเราบ่อยแล้ว เพราะมันอาสาขับรถไปรับไปส่งคุณไพฑูรย์แกเช้าเย็น เพิ่งรู้เหมือนกันว่าบ้านแกกับบ้านมันอยู่ใกล้กันโคตร มันถึงกับเพ้อว่าคงเป็นพรหมณ์ลิขิต พวกเราก็ไม่อยากขัดมัน เพราะเริ่มจะเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ก็ลุงแกเคยซะที่ไหน ให้คนอื่นขับรถไปรับไปส่ง เพิ่งมีมันเป็นรายแรก แล้วก็เรื่องก่อนหน้านี้อีก พอเราไม่ค้านกันเหมือนแต่ก่อน ไอ้เปี๊ยกเลยยิ่งฮึดหนัก ระยะหลังนี่ได้ยินว่ามันได้ไปค้างบ้านแกช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย เหลือเชื่อไหมล่ะ? เรางี้สงสัยว่ามันคงจีบแกติดแล้วมั้ง เพราะพฤติกรรมอย่างกับคู่แต่งงาน แต่มันบอกว่ายังไม่รู้เลยว่าแกจะเอายังไง แกเป็นคนใจแข็ง แถมไม่ค่อยแสดงออกทางสีหน้า ไม่รู้ว่าแกคิดอะไรอยู่กันแน่
   ข้อนี้ผมเห็นด้วย ลุงแกหน้าตายจริงๆ ที่ไอ้เปี๊ยกได้ใกล้ชิดแกขนาดนี้ เรียกว่าอภินิหารสุดๆ แล้วล่ะ เรารู้ว่ามันต้องใช้เวลาเข้าถึงลุงแก แต่เราก็คิดถึงมันเหมือนกัน วันหนึ่งผมเลยโทรไปชวนมันมาเล่นบาสฯ มันทำท่าอึกๆ อักๆ ท่าทางจะติดที่ต้องไปค้างบ้านลุง ผมเลยแหย่ไป
   “ชวนลุงแกมาเล่นด้วยกันดิ จะได้ครบคู่”
   เออ ผมพูดเล่นนะตอนนั้น แต่วันเสาร์มันก็มาจริงๆ ชวนลุงแกมาด้วย ผมงี้ขนลุก ไม่อยากเชื่อว่ามันจะพาแกมาได้ ผมลาออกมาหลายเดือนแล้วนะ แต่เจอแกอีกที แกมองผมแบบเดิมเป๊ะ อย่างกับตอนอยู่ในบริษัทงั้นแหละ เกิดมาเพิ่งเคยเจอคนที่มองคนอื่นได้กดดันทุกเวลาทุกสถานการณ์ก็แกนี่แหละ ผมล่ะสงสัยจริงๆ ว่าไอ้เปี๊ยกชอบแกตรงไหน แล้วไหนคือความน่ารักของแก
   ผมชวนไอ้เปี๊ยกเล่นๆ แต่มันดันพาลุงแกมาได้จริง เพราะอย่างนั้น พวกเราเลยกระอักกระอ่วนกันอย่างหนัก เพราะไม่รู้ว่าแกจะเล่นได้สักกี่นาที กลัวแกจะเป็นลมเป็นแล้งถึงขั้นหามส่งโรงพยาบาล สุดท้ายเลยให้ไอ้เปี๊ยกจับคู่ดูแลแกไปเลย เพราะขืนแยกกัน เปี๊ยกมันคงโยนลูกให้แกแทนที่จะส่งให้ฝั่งเดียวกันแทนน่ะสิ
   ตอนผมรู้ว่าได้แกกับเปี๊ยกมาอยู่ทีม ผมงี้ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี ได้แกมาอยู่ทีมก็ดี ถ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามเกิดเจอหน้าแกแล้วชนแกล้มขึ้นมา ผมว่าความซวยต้องเกาะหลังผมแน่ๆ แต่อยู่ทีมเดียวกันผมไม่รู้ว่าจะต้องหามแกส่งโรงพยาบาลตอนไหน แต่แกมั่นของแกนะ แกเดินชิลๆ ลงสนาม แถมมองพวกผมด้วยสายตาประมาณว่า อย่าถ่วงฉันล่ะ โอ๊ย ผมสงสัยจริงๆ ว่าไอ้เปี๊ยกมันทนสายตาแบบนี้ก็แกไปได้ยังไง
   แล้วเกมก็เริ่ม เฮ้ย.. ลุงแก.. เก่งว่ะ ไม่บอกไม่รู้แกสี่สิบกว่า แกเล่นบาสฯโคตรคล่อง มารู้จากไอ้เปี๊ยกตอนหลังว่าแกออกกำลังกายประจำ มากกว่าพวกผมเสียอีก เออ มิน่าแกเลยไม่ค่อยป่วยไม่ค่อยไข้ แถมหุ่นดีเวอร์ๆ
   ตั้งแต่ผมเกิดมา เพิ่งเข้าใจคำว่าเพอร์เฟกแมนตอนที่เห็นแกเล่นบาสฯนี่แหละ นิ้วแกยาว เล็บก็ตัดจนมน ไม่สั้นมากไม่ยาวมาก เคาะลูกบาสฯได้ไม่มีปัญหาอะไร นิ้วแกโคตรสวย เรียวไม่มีรอยหัก หุ่นแกก็เพรียว เวลาแกกระโดดขึ้นชู้ตลูกที พวกเราได้แต่ยืนมองอึ้งๆ แบบว่าแกดูดีเวอร์เลยล่ะ
   สรุปว่าทีมผมชนะขาดลอย นอกจากลุงแกจะเล่นบาสฯเก่งเกินกว่าที่พวกผมคาด ไอ้เปี๊ยกยังทำหน้าที่ป้องกันแกอย่างดี คนอื่นก็ไม่มีใครกล้าบั๊มกับมัน เพราะกลัวซี่โครงหัก ผมเลยยิ้มหน้าบาน เพราะตอนแรกปลงแล้วว่าแพ้แน่ๆ หลังจากนั้นเราก็อาบน้ำ เปี๊ยกมันก็หวงของมันอีกแน่ะ พาลุงแกไปอาบในซอก ผมล่ะอยากจะบอกมันจริงๆ ว่าของลุงแกไม่มีใครอยากดูหรอก นอกจากตัวมันนั่นแหละ
   แล้วเราก็ไปทานข้าวกันต่อ มื้อนี้ลาบปาก เพราะลุงแกเลี้ยง พอออกนอกบริษัทแกก็ใจดีลมเป็นผู้ใหญ่เหมือนกันนะ เราก็เด็กดีไร้ความเกรงใจ กินกันเต็มอิ่ม เพราะรู้ว่าแค่นี้ขนหน้าแข้งแกไม่ร่วงหรอก จากนั้นเราก็ชวนกันไปร้องคาราโอเกะตามสูตร พร้อมกับเตรียมลาเปี๊ยก เพราะมันคงต้องกลับพร้อมกับลุง แต่ปรากฏว่า ลุงแกบอกว่าจะไปร้องด้วย พวกเรางี้อึ้ง หันไปมองหน้าเปี๊ยก ไอ้เปี๊ยกก็หน้าแดง จนพวกผมชักนึกสงสัยว่ามันกับลุงแกขั้นไหนกันแล้วแน่
   พวกเราวัยรุ่น ชอบลองของ เอาล่ะ เราอาจจะไม่รุ่นเด็กอายุยี่สิบ แต่ก็ยังไม่รุ่นสี่สิบแบบลุงแล้วกัน ดังนั้นเมื่อแกบอกจะไป พวกเราก็สนองเต็มที่ โชคดีมีบางคนกลับไปก่อน เราเลยไม่ต้องจองห้องใหญ่ เราหน้าด้านให้แกเลี้ยงข้าวมาแล้ว คาราโอเกะคงให้แกเลี้ยงต่อไม่ไหว กลัวแกจะพ่นไฟใส่ เราเลยออกกันเอง ห้องเล็กๆ แบบนี้แหละ อบอุ่นและถูก
   ไอ้เปี๊ยกหวงลุงเช่นเคย พาไปนั่งริมสุด ก็ดี พวกผมไม่อยากเบียดกับแกนักหรอก กลัวถูกแกมองด้วยสายตาจิกกัด แล้วเราก็แหกปากร้องเพลงกันแบบไม่เกรงใจผู้ใหญ่ ปกติไอ้เปี๊ยกนี่ก็ตัวร้องคาราโอเกะนะ แต่วันนั้นมันซุ่มเงียบ นั่งข้างลุงร้องเป็นลูกคู่พวกเรา แล้วสักพักมันก็สะกิดเพื่อนคนหนึ่งให้เลือกเพลงให้ พวกผมพอเห็นชื่อเพลงแล้ว ตื่นเต้นแทนมันสุดๆ เพราะเชื่อว่ามันจะร้องจีบลุงแกแน่นอน
   พอถึงช่วงเพลงขึ้น ผมรีบส่งไมค์ให้เปี๊ยก แล้วบังคับลุงแกถือไว้ไมค์หนึ่ง เพราะไม่รู้จะให้ใครถือ ให้แกเอาไปถือนั่นแหละ เผื่อสายไมค์จะสื่อใจถึงแกได้บ้าง แล้วเปี๊ยกก็เริ่มร้อง โอ้โห.. พวกเราโคตรจะเขินแทนมันเลย มันร้องไปมองหน้าแกไป นี่ขนาดพวกผมเป็นผู้ชาย เป็นคนดูแท้ๆ ยังเขิน แต่.. คุณไพฑูรย์แกไม่ธรรมดา นอกจากแกจะอายุสี่สิบสองและได้รับสารพัดฉายาไม่น่าพูดถึงจากเหล่าพนักงานในบริษัท แกยังเป็นจอมวางมาดแบบหาตัวจับยาก ตอนไอ้เปี๊ยกร้องเพลงที่พวกเราเขินกันแทบตาย แกนั่นหน้านิ่งสนิท นิ่งจริงๆ นะ ผมไม่อยากบรรยาย นิ่งจนเรายังอึ้งแทนเปี๊ยก แกนิ่งขนาดนี้เปี๊ยกมันจะทนร้องจนจบได้รึเปล่าเนี่ย
   แต่ปรากฏ ไอ้เปี๊ยกร้องจนจบได้ เพื่อนๆ ซาบซึ้งโคตรๆ นับถือความพยายามของมัน ผมงี้ต้องลุกไปกอดมันเลยนะ เพราะสงสารมันสุดๆ มันทำขนาดนี้ลุงแกยังหน้านิ่งอยู่เลย เปี๊ยกเอ๊ย เวรกรรมของเอ็งแท้ๆ เลย แต่เปี๊ยกมันแฮปปี้ของมัน เหมือนรุ่นซิมโทรศัพท์ มันร้องเสร็จก็เขินเองเสร็จ ท่าทางมีความสุขกับหน้าตายๆ ของลุงแกมา ผมล่ะไม่รู้จะลุ้นกะมันยังไงดี เอาล่ะ ในเมื่อมันชวนแกให้มาเล่นบาสฯ มาร้องคาราโอเกะแบบหน้าตายๆ กับเราได้ ผมว่ามันกับแกความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ
   เราเลยโทรไปเล่านพคุณหลังจากนั้น เหมือนมันจะพอรู้เรื่องจากน้องมันบ้างแล้ว มันบอกว่าคุณไพฑูรย์เป็นคนดังในแวดวงบริหารทรัพยากรบุคคลเลยล่ะ ว่างๆ มันก็อยากจะไปเจอดูสักที
ทำงานแบบเดียวกัน แถมเป็นระดับผู้บรรยาย ไม่ธรรมดา มันว่ามางี้ ผมว่านะมันเตรียมจะไปดูหน้าน้องเขยหรือน้องสะใภ้ในอนาคตที่อายุมากกว่ามันมากกว่า
ผมไม่รู้นพคุณแวะไปแล้วรึเปล่า แต่ผมมารู้อีกทีหลังจากนั้นว่ามันกับไอ้เปี๊ยกต้องไปดูแลพี่สาวคนโตซึ่งป่วยอยู่ที่แคนนาดา แล้วเหมือนเปี๊ยกต้องไปอยู่ยาว เพราะนพคุณต้องกลับมาทำงานต่อ
เปี๊ยกมันไปดูแลพี่สาวได้สักสามเดือนมั้ง มันกลับมาอีกที ผมเห็นมันหน้าบานเป็นจานกระด้ง เหมือนว่าจะหอบผ้าหอบผ่อนย้ายไปอยู่กับลุงแกเรียบร้อยแล้ว
นี่ถ้าไม่ประสบเองกับตัวผมไม่เชื่อนะเนี่ย พวกเพื่อนๆ อนุโมทนาสาธุว่าเปี๊ยกมันคงได้เจอเนื้อคู่สักที คุณไพฑูรย์แกไม่ใช่คนคบคนง่ายๆ ด้วย ที่แกยอมลงกับไอ้เปี๊ยกขนาดนี้ เปี๊ยกมันคงได้อยู่ยาว
ก็หวังว่าแกจะอยู่นานๆ ให้เปี๊ยกมันดูแลไปจนแก่จนเฒ่าทั้งคู่ล่ะนะ ส่วนพวกผม ขอหาภรรยาอายุน้อยกว่าหรือพอๆ กันก็แล้วกัน ผมไม่อยากเลียนแบบไอ้เปี๊ยกมันหรอก ปล่อยให้มันชอบของมันไปคนเดียวก็พอ
-----------------------------------------------------

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
อ่านแล้วรู้สึกว่าคุณนพน่ารักมากกกกกก
คอยดูแลลุงแ่ก่ๆ รึเปล่า 5555
พรุ่งนี้จะมาอ่านต่อนะ ไม่ไหวขอไปนอนก่อนตาจะปิดแล้ว

bellity

  • บุคคลทั่วไป
แบบว่าอ่านแล้วรู้สึกว่าทุกคนมองลุงในแง่ร้ายแฮะ

มีแต่นพคนเดียวละมั้งที่เห็นความน่ารักที่ซ่อนอยู่ของลุง 55+

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อ่านจากมุมมองคนอื่นแบบนี้แล้วฮามากค่ะ ฮากว่ามุมมองของ
คุณไพค่ะ อาจเพราะคุณไพรักษามาดได้ดีก็เป็นได้
ชอบค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
พี่ไพน่ารักจะตายไป เราหลงพี่ไพจะแย่ คริ ๆ

ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค่า หวังว่าจะมีให้อ่านกันอีกน๊า อิอิ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
คุณไพฑูรย์แกเนี๊ยบทุกองศาจริงๆ อ่านแล้วน่ารักดี
และคงเป็นพรหมลิขิตแน่ๆ เพราะน้องแมวของเราโชคดีได้เห็นมุมหลุดๆของแกตลอดๆ :impress2:

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
น่าร้ากกกกกอ่ะ ประเด็นหลายอย่างที่เคยสงสัยก็มาเคลียร์ในตอนนี้ จัดมาอีกนะคะ ยังไม่อยากให้จบ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คนเราย่อมมีหลายมุม บางคนในที่ทำงาน กับคนในที่ทำงานจะบุคลิกหนึ่ง ที่บ้านกับคนสนิทจะมีอีกบุคลิก
ดังนั้นบางครั้งจึงต้องอยู่แบบคลุกคลีกันจริงๆ จึงจะได้เห็นตัวตนจริงๆของเค้า
ขอบคุณมากค่ะสำหรับตอนพิเศษ

KaZuKi

  • บุคคลทั่วไป
กรี้ดด :mc4: อ่านแล้วหลงเปี้ยกอ่ะ เปี้ยกน่ารักกก อ้ายยยยยย อยากอ่านต่อแล้วค่าา
ตอนแรกไม่คิดว่าจะอ่านนะ เพราะเห็นอายุห่างกันหลายปี แต่เห็นนิยายส่วนใหญ่เขียนแต่ โชตะค่อน ไม่เคยอ่านแนวนี้
เลยลองอ่านดู อ่านแล้ว ชอบอ่ะ ลุงน่ารักในแบบของเขา ส่วนเปี้ยก น่ารักมากก เทคแคร์ลุงดีมากอ่ะ ชอบๆ o13

fOnfOn :D

  • บุคคลทั่วไป
ฮ่าฮ่า ลุงแกในสายตาคนอื่นนี้ดูโหดร้ายจังเลยเนอะ

แต่ในสายตานพ นี้คงน่ารักสุดๆ เลยอะดิ  :laugh: :laugh: :laugh:

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจากมุมมองคนอื่นแล้วคุณไพฑูรย์ดูดีขึ้นเยอะเลยนะ
คือ ก่อนหน้านี้ก็คิดว่าคุณไพฑูรย์ก็คงรูปร่างหน้าตาดูดีไม่ใช่ย่อยนั่นแหละ
แต่มันเป็นมุมมองจากคุณไพฑูรย์เองไง ที่แกโคตรจะถล่มตัวเลย
คิดว่าตัวเองแก่บ้างล่ะ บ่นเรื่องสุขภาพต่างๆนานา
ที่ไหนได้ มองจากมุมมองของคนอื่นแล้วคุณไพฑูรย์ดูดีกว่าที่แกมองตัวเองเยอะเลย 555
ถ่อมตัวจริงๆคุณไพฑูรย์ของเปี๊ยก  :o8:
อ่านตอนนี้แล้วยิ่งเห็นความน่ารักของเจ้าเปี๊ยกนะเนี่ย น่ารักจริงๆอ่ะ  :impress2:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ฮะฮะฮะ

ชอบมากๆเลยค่า

ทั้งเด็กน้อย ทั้งลุงเลย

อิจฉาเเท้ๆ น้อ

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ชอบตอนพิเศษมาก อ่านแล้วโครตชอบเลย
เพิ่งรู้นะว่าพชรตามลุ้นตามดูคู่นี้ด้วย o13

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
กร๊ากกกกกก อ่านตอนพิเศษแล้ว ใครจะหลับจะนอน ไม่สนละ ขอหัวเราะให้ลั่นห้องหน่อย
 :jul3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
Re: [เรื่องยาว]Stair.ขยั$
«ตอบ #290 เมื่อ11-06-2011 23:37:20 »

ชอบคำพูดพี่นพคุณอ่ะ "นัท กูอยากร้องไห้" คึคึ
พี่นัทก็ช่างเม้าท์คุณไพฑูรย์นะ แต่ฮาดีนะ มุมมองของคนอื่น
ส่วนนพน่ารักมาก เด็กหนุ่มตัวโตๆ นั่งเขินนั่งอายหน้าแดง อิอิ


+ และ :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2011 23:48:56 โดย love2y »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
นพรัตน์มีความพยายามสูงมาก ในที่สุดก็ได้ของที่ใฝ่ปองมาครอบครอง :mc4:  รู้สึกดีใจเหมือนลูกชายตัวเองออกเรือน  :laugh:

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
โหววววว ประวัติความเป็นมาของพ่อยอดชายนายนพ เป็นแบบนี้นี่เอง มิน่า เทสถึงได้มาแนวนี้  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ยิ่งมุมของพชร แล้ว อ่านแล้วขำค่ะ
ที่จริงน้องนพเอง ก็มีที่ปรึกษาความรักทีมใหญ่เลย
อยากรู้จังว่าพอพัฒนาเป็นคู่รักกันแล้ว  เวลาที่ทำงานคุณไพฑูรย์แกจะเป็นยังไง

LadyOneStar

  • บุคคลทั่วไป
อยากอ่านอีก  อยากอ่านอีก
ขอแบบต่อจากนั้นนะค่ะ
ขอร้องน้า~~~~

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
 o13เป็นตอนพิเศษ ที่ "พิเศษ" จริงๆ   เหมือนได้ดูเบื้องหลังตอนละครจบ เหอๆ

ออฟไลน์ gogo_jk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 o13 ตอนพิเศษน่ารักมากเลย รู้สึกถึงความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเปี๊ยกมากเลย
คุณไำพฑูรย์แกก็ออกจะน่ารัก..แต่เกราะแกหนาไปหน่อย
คนนอกเลยสยองไปหมด..จริงๆแล้วคุณไพเราออกจะฮาอยู่นะ
แต่มองกันคนละมุม..เลยอดเห็นความน่ารักอย่างที่เปี๊ยกเห็นล่ะซิ  :o8:

ออฟไลน์ lucifel

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
สูตรพิเศษ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อ่านเรื่องนี่แล้วมีความสุขมาก
ทุกคนดูมองโลกในแง่ดี เป็นคนดีกันทั้งนั้น
อ่านจากมุมมองของ นัท
เปี้ยก น่ารัก มีความพยายามมาก
พี่นพ ก็รักน้องมาก
คุณไพ ยิ่งอ่านยิ่งตลก กับแต่ละฉายาของคุณไพ
เปี้ยกก็ดีมีทั้งพื่อนและพี่ๆคอยสนับสนุน
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่น่ะค่ะ
อยากอ่านจากมุมมองของ เปี้ยกบ้างจัง
ว่าจะเป็นอย่างไร

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ขอบอกว่าน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ขำตอนลุงเป็นลม แค่เห็นสาวมากับนพรัตน์
แต่ขอชมคนเขียนนะว่า เขียนออกมาได้น่าร้ก
คิดได้ไงนะ นายเอกอายุตั้ง 42 พระเอก 23
เค้าอยากไ้ด้แบบนี้มั่งจัง   o22

 :L2:    เป็นกำลังใจให้นะค่ะ 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด