ตอนที่ ๒๖
พี่เป้ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติงผมรู้ว่าสายตาของพี่แกยังคงจ้องมาที่ผม เพราะว่าผมยังรู้สึกร้อนที่ท้ายทอย 5555 อืมๆๆ เฮ้อ จะยืนให้ได้โลห์ใช่ไหม อีคุณเบลล์ก็ยังนั่งนิ่งเหมือนจะรอดูปฏิกิริยาผมว่าทำยังไงกับพี่เป้ ไอ้ชาติ ไอ้อ้น ยังคงยกแก้วดื่มและคงจะอยากรู้ว่าผมจะทำยังไงต่อไปอีก แน่นอนมันทำให้ผมยิ่งเครียด ยิ่งอารมณ์ไม่ดี ยิ่งหงุดหงิด ยิ่งๆๆๆๆๆ โธ่ โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“เบลล์ อย่าว่าผมเสียมารยาทเลยนะ ลุกหน่อย”
“ฮิฮิฮิ เบลล์ก็รอดูอยู่ว่าติณจะพูดอะไร งอน กันเหรอ ไม่กวนนะ แต่อย่าลืมนะว่าเรามีนัด” เบลล์ขยับตัวออกไปแล้ว แต่พี่เป้ยังคงยืนไม่ยอมนั่ง ผมต้องลุกขึ้นแล้วลากพี่แกมานั่ง ทำหน้าบึ้งนะเดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย
“น้องขอแก้วใบ” ผมตะโกนบอกเด็กเสริฟที่ผ่านไปผ่านมาเหมือนสัมพะเวสี
“พี่เป้มาถึงเร็วเหมือนกันนะ” อะไรไอ้อ้น มึงรู้ได้ไงว่าพี่เป้จะมา
“ครับ พอน้องอ้นโทรบอกพี่ พี่ก็รีบออกมาเลย”
“นี้หมายความว่าที่พี่เป้รู้ อยู่ที่นี้เพราะว่ามึงสารเน่โทรไปบอกใช่ไหม”
“ไม่รู้ ไม่ชี้”
“ไอ่อ้น ไอ้เหี๊ยะ”
“กูบอกมันแล้ว ว่าอย่าโทร ๆ ไอ้อ้นมันไม่เชื่อกู”
“มึงห้ามกูตรงไหนไอ้เหี๊ยะชาติ โทรศัพท์มึงนะที่โทรไปบอกพี่เป้นะ และที่สำคัญมึงเป็นคนกดเบอร์” เอากันเข้าไป ผมชี้หน้าไปที่ไอ้สองตัวนั้น เตรียมตัวตายได้เลย
“ก็ดีแล้วไง ที่เพื่อนติณเขาเป็นห่วงถึงได้บอกพี่”
“ห่วงไร ไม่ใช่เด็ก”
“ไม่เถียงพี่ซักครั้งจะได้ไหม”
“ไม่ได้ ไม่อยากฟัง ก็ไม่ต้องอยู่ไม่ได้เชิญมา”
“ติณ” โธ่เว่ย อย่าเรียกได้ไหม รู้ว่าเป็นห่วง รู้ว่ามาทำไม แต่ทำไม คือ.....แบบ....แบบ....แบบไรดีวะ
“อะไร เรียกทำไม นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ไปไหน เอ๊า ไอ่สองตัวนั้นเป็นอะไร แดกๆๆๆ” ผมยกแก้วไปชน
“ไม่กินเหรอ” ผมหันไปถามพี่เป้ ที่ตอนนี้นั่งจ้องกับแก้วเบียร์ที่อยู่ตรงหน้า
“อืม ไม่ดีกว่าเดี๋ยวเมาแล้วใครจะขับรถกลับ”
“ก็ไม่ต้องกลับ นอนที่นี้แหละ”
“ติ๊ณ”
“ไรอีก หะ”
“อย่าดื่มมากนะ พรุ่งนี้มีเรียน”
“.................................” ไม่สน พวกผมดื่มกันจนร้านปิด ยกเว้นพี่เป้คนเดียวที่ไม่ดื่ม ช่างมัน
“ว่าไงกันคะ หนุ่มๆ” มาแล้วกลุ่มของเบลล์ พอพวกหล่อนมาถึงก็ลากเก้าอี้มานั่งประกบพร้อม เบลล์มานั่งข้างผม ส่วนอีก2คนไปนั่งข้างไอ้อ้น กับไอ้ชาติ
“คนซ้ายนีชื่อลินลี่ คนขวาชื่อส้มค่ะ” เบลล์แนะนำเพื่อนอีก2คนให้พวกผมรู้จักซึ้งก็ไม่อยากรู้จักหรอกนะ
“อะไรนะ ลิ้นจี่ กับ สม เหรอ 555”
“ลินลี่ คะ ลินลี่ ไม่ใช่ลิ้นจี่ ส่วนคนนั้นส้มคะ ไม่ใช่สม ชิ” แม้ทำตัวน่าร๊ากกกกกก นะแม่สม ลินจี่ เอ๊ย ลินลี่
“แล้วนี้เราจะไปกันหรือยังคะ”
“ไปไหน” ผมรีบหันไปถามเบลล์
“อ้าวไหนว่าเราจะไปร้องคาราโอเกาะกันไงคะ”
“นี้มันตี 2 แล้วนะครับ” ใครขอความคิดพี่เป้
“ไปกันเถอะ”
“ติ๊ณ”
“ทำไมก็อยากไป ไม่อยากไปก็กลับไม่ได้ขอให้มา ไปไอ้อ้น ไอ้ชาติ”
“ว๊าย ๆ ๆ งั้นเรารีบไปเลยดีกว่านะคะ ชักช้าไป จะไม่มีที่นั่งนะคะ”
“ครับ นำทางเลยลิ้นจี่”
“ลินลี่ค่ะ” ลินลี่ลากแขนไอ้อ้นออกไปตามด้วยไอ้ชาติที่ถูกแม่ส้มลากออกไปเช่นเดียวกัน ส่วนเบลล์หันมามองผมแล้วลุก นำหน้าผมตาม พี่เป้ปิดท้าย
“เอาไงดีคร้า แบบว่าหารกันไม่ลงตัว ใครจะไปกับใคร”
“เอางี้ๆ ส้มว่า ส้มซ้อนชาติ ลินลี่แสนสวยซ้อนอ้น ส่วนเบลล์ผู้น่ารักของเราก็ไปกับติณ โอ ปะ”
“โอค๊า” รับมุกกันเหลือเกินนะลินลี่ แล้วพี่เป้ละ ผมแอบหันไปมองพี่เป้ที่ตอนนี้ยังยืนไม่พูดไม่จาอยู่ข้างหลังผม เฮ้อ เห็นแบบนี้ก็สงสารนะ ผมหันหลังไปจับมือพี่เป้ แล้วลากพี่เป้ไปที่รถ หาไม่ยากเพราะทั้งลานจอดเหลือแต่รถพี่เป้คนเดียว
“โอ๊ย ติณ เบาๆ เจ็บนะ อย่าลากพี่ พี่เจ็บ”
“กลับบ้าน”
“แล้วติณละ”
“ผมจะไปร้องเพลง”
“พี่ไปด้วย”
“จะไปเที่ยวทำไมต้องทำหน้าเศร้า ทำให้คนอื่นเขาเสียอารมณ์”
“พี่ขอโทษ”
“เอากุญแจรถมา ผมขับเอง” พี่เป้ยื่นกุญแจรถให้ผมแต่โดยดี ผมปลดล็อกแล้วเปิดประตูให้แกขึ้นนั่ง ผมค่อย ๆ ออกรถมาจอดที่เบลล์ยืนอยู่
“เบลล์จะไปด้วยกันไหม”
“อืม ไม่ดีกว่าคะ เดี๋ยวเบลล์ขี่มอไซด์ไปเอง”
“งั้นนำทางเลยครับ”
.........................................................................
“ไหวไหม”
“อะไรไหวไหม”
“ขับรถไหวไหม เมาเหรอป่าว”
“ไม่เมา ทำไม”
“ป่าว ก็เป็นห่วงไง แล้สตอนเย็นติณเป็นอะไร”
“ป๊าว”
“ถ้าพี่ทำอะไรให้ติณไม่พอใจพี่ก็ขอโทษนะ ติณเป็นแบบนี้พี่ไม่สบายใจเลย”
“ทำไมเหรอ ถึงแม้ผมจะทำอะไรให้พี่ไม่พอใจ พี่ก็มีคนปลอบอยู่แล้วนี้”
“ใครละ คนไหนที่ติณคิดว่าเขาจะเป็นห่วง หรือปลบใจพี่”
“ก็ไอ้พี่ คิม นั้นไง เห็นว่าจะมากันพรุ่งนี้ไม่ใช่เหรอ คงจะสำเริงสำราญกันเต็มที่สินะพรุ่งนี้”
“ติณ หึหึ หึงพี่เหรอ”
“ป๊าว ไม่เกี่ยวกับผมนี้”
“พี่จะถือว่าติณหึงพี่นะ ที่ทำลงไปในวันนี้ คิมนะเป็นเพื่อนพี่ตั้งแต่เรียนประถมแล้ว สนิทกันมาก”
“สนิทจนเคยเป็นผัวเมียกัน”
“ติ๊ณ....ไม่ใช่อย่างนั้น เขาเป็นเหมือนพี่แหละ เราไม่นิยมเพศเหมือนกัน 555”
“ แล้วไง” ใครจะไปรู้เห็นหน้าตาดีดี เหมือนกัน
“พอจบ ม.3 แม่มันก็ส่งไปเรียนที่นิวซีแลนด์ พี่ก็เลยเหงา พอเห็นมันมาพี่ก็ดีใจแค่นี้แหละไม่ได้มีอะไร”
“แล้วมาบอกผมทำไม”
“ไม่ต้องมาแอบยิ้มเลย สบายใจแล้วสิ อีกอย่าง ลองไปยุ่งกับมันสิแฟนฝาหรั่งมันจะได้มาหักคอ”
“เอ๊า มีแฟนแลเวเหรอ”
“อืม มีแล้ว คนน่าหน้าน่ารักอย่างมันคงจะหาแฟนไม่ยากหรอก”
“เห็นมะแล้วไปชมมันทำไม”
“ติณ ไม่ต้องห่วงหรอกครับ พี่รักใครรักจริง พี่เลือกติณแล้วพี่ไม่เปลี่ยนใจ”
“อย่ามาเนียน ไม่ต้องมาพิงพี่เป้ หนักอะ จะขับรถ” พี่เป้มันพูดจบมันก็เอาหัวมาพิงไหล่ผม ไล่ ๆ ไปงั้นแหละ รู้ว่าพี่แกไม่ยอมยกหัวออกหรอก ผมเลยใช้มือขยี้ไปที่หัวของพี่เป้ เบาๆ
“ติณ ไว้ใจพี่นะ พี่ก็จะไว้ใจติณ”
“ครับ” เป็นจังหวะเดียวกับที่รถติดไฟแดง ผมเลยก้มลงไปหอมที่ผมแกเบาๆ กลิ่นแชมพูที่คุ้นเคย หอมจัง พอได้รู้จากปากพี่เป้เกี่ยวกับเรื่อง คิม ผมก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ นี้ผมเป็นอะไร ผมหึงพี่เป้จริงเหรอเนี๊ยะ
“ผมรู้สึกดีนะที่ได้อยู่กับพี่ ตอนนี้ผมพูดได้แค่นี้”
“แค่นี้พี่ก็ดีใจ”........................................................