มาต่อแล้วจ้า ตอนใหม่ แบบว่า ฮิ้ววววววว ความเดิมจากตอนที่แล้ว
"เปล่านี่ ไม่ได้ไปหาไอ้เดียร์ซะหน่อย แค่ลืมแผ่นดิสก์ค้างเอาไว้ในเครื่อง ไปเอาแผ่นดิสก์แล้วก็กลับ
ไม่ได้ไปหามัน ไม่ได้ไปหาชัวร์ ไปเอาแผ่นดิสก์ จำไว้ไปเอาแผ่นดิสก์ ไปเอาแผ่นดิสก์เฉย ๆ"
คิดเข้าข้างตัวเอง แล้วก็หัวเราะชอบใจ เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้ไปหาคนที่ทำให้ต้องกระวนกระวาย
ไม่ได้ไปหาไอ้เดียร์ซะหน่อย แค่ไปเอาแผ่นดิสก์ที่ลืมไว้
ไปเอาแผ่นดิสก์ครับไปเอาแผ่นดิสก์
ผมเปล่าไปหาไอ้เดียร์นะครับ
แค่ไปเอาแผ่นดิสก์ที่ลืมไว้แค่นั้นเอง เรื่องสั้นคั่นเวลา.....ก็แค่ผู้ชายหยอกล้อกัน ตอน ..........ขอ............... ครายแม่งมาทำอารายตอนนี้ว๊า กูจานอนเฟ้ยยยยยยยยยยย แม่งเอ้ย
เดียร์ปรือตาตื่นขึ้นและพยายามใช้หมอนอุดหูตัวเองเอาไว้กันเสียงที่ดังมาประสบโสตประสาท
ไม่สนเว้ย ใครกูก็ไม่สนทั้งนั้นกูจานอนนนนนนนนนนนนนนนเฟ้ยยยยยยยย
เข้าใจมั้ย เข้าใจมั้ย เข้าใจบ้างม้ายยยยยยยยยยยยยยยย เออ กูเปิดประตูก็ได้วะ ไอ้บ้าที่ไหนวะอย่าให้กูรู้นะว่าใครกูไม่เอาไว้ทำพ่อแน่นอนเลยเว้ยยยยยยยยย
ลุกขึ้นจากเตียงก้าวเพียงก้าวเดียวก็กระชากประตูเปิดได้อย่างรวดเร็ว และยืนทำหน้าบึ้งอยู่ที่หน้าประตูเมื่อรู้ว่าคนที่มารออยู่คือใคร
"มาหาพ่อมึงเหรอห๊า แม่งเอ้ย"
ด่าพอเป็นพิธีแล้วก็พาตัวเองมาทิ้งกายลงนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงชนิดที่ว่าไม่สนอีกแล้วว่าคนที่มาเยือนคือใคร.....
"อยากมาตายห่าเลย ลืมดิสก์เว้ย กูลืมดิสก์อันเดอร์สแตนมั้ยมึง ไอ้โง่ นึกว่าอยากมาตายเลยนะนาเดียร์จ๋าาาาาาาาาา"
ท้ายประโยคมีการลากเสียงพอเป็นพิธีให้รู้ว่าไม่ได้อยากมาจริง ๆ แค่มาเอาแผ่นดิสก์
แค่มาเอาแผ่นดิสก์จริง ๆ ชัวร์ บอกว่ามาเอาแผ่นดิสก์ไง ใช่ มาเอาแผ่นดิสก์ มาเอาแผ่นดิสก์เฉย ๆ
สายตาของฮวยมองไปที่ร่างที่นอนคว่ำหน้ากอดหมอนเอาไว้แน่น และนิ่งสนิทอยู่บนเตียง
รบกวนเหรอ
ยังไม่อยากตื่นนี่หว่า
ง่วงมากเลยหรือไง
กินอะไรแล้วหรือยัง
แล้ว......................
"เก็บไว้ไหนวะเก็บอะไรทีหายเลยใช่มั้ยเนี่ย"
รู้ว่ารบกวนแต่แค่อยากจะคุย แค่อยากได้ยินเสียง สุดท้ายฮวยก็เลยต้องเดินไปค้นหาแผ่นดิสก์ที่มันควรจะอยู่ในเครื่อง
แต่.............ก็ไม่มี
"แผ่นดิสก์บ้าบออะไรกูไม่เห็นว่าจะมีเลย เซฟไว้ในเครื่องชัด ๆ ไอ้บ้าถ่อมาทำไมถึงนี่วะ รบกวนกูชิบหาย"
ได้ยินชัดเจนแม้จะเป็นเสียงพูดที่ดังอู้อี้เพราะคนพูดนอนกอดหมอนแน่น แต่ก็ทำให้ได้ยินชัด
ชัดเจน
ชัดเต็มสองหู
คนคิดถึงกับคนไม่คิดถึงมันก็ต่างกันแบบนี้เอง
คนคิดถึงดื้อดึงที่จะมาหา แค่อยากเห็นหน้าแค่อยากได้ยินเสียง เพียงเพราะคำว่า ...........คิดถึง.............
แต่คนที่ไม่เคยคิดถึง มีอย่างเดียวคืออยากเลี่ยงอยากจะหนีและขับไล่ไสสงให้ไปให้พ้น ๆ
ฮวยกำลังยืนนิ่ง และหันกลับไปมองร่างที่อยู่บนเตียงอีกครั้ง
ก็แล้วทำไมต้องคิดถึงอยู่คนเดียวด้วย
แล้วทำไมต้องมาหาด้วย
ทำไมต้องหาข้ออ้างต่าง ๆ นา นา ด้วย ในเมื่อ...........รู้ทั้งรู้อยู่ว่าสุดท้ายมันก็เป็นแค่ข้ออ้าง
ข้ออ้างโง่ ๆ ที่บอกกับตัวเองเพื่อจะมาให้เห็นหน้า มาให้หายคิดถึง มาเพื่อ....................
มาเพื่อ
เพื่อ
เพื่อ
เพื่อ..............อะไรกันแน่
คนตัวโตทรุดกายลงนั่งอย่างช้า ๆ อยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ตัวเดิม ที่วันก่อนที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคล้ายคนกำลังมีความสุขที่สุดในโลก
ได้ยิ้ม
ได้โกรธ
ได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากใครสักคนที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็น...............
นาเดียร์......
อะไรที่ทำให้กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ ออกมาหาด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยม และแสนจะมีความสุขเมื่อรู้ว่าจะได้มาเห็นหน้า
มาหาด้วยความรู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ
มาด้วยความรู้สึกบางอย่าง
คาดหวังอะไรอยู่กันแน่ รู้ว่าต้องเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก แล้วยังจะมาทำไม ยังจะหลอกตัวเองทำไม
เพื่ออะไรกันนะ เพื่ออะไรกัน
เหลือบมองการ์ดลายสวยที่ตั้งใจเขียนข้อความบางอย่างจากหัวใจแล้วก็ได้แต่ยิ้มเยาะตัวเอง
เขียนด้วยใจแล้วก็มอบให้ด้วยความรู้สึกที่มี
แต่การ์ดลายสวยกลับอยู่แค่มุมโต๊ะและทำท่าว่าจะหล่นลงมาจากโต๊ะ เพราะคนที่ได้รับคงไม่คิดจะสนใจ
เดียร์.....
เดียร์งั้นเหรอ
มัวทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้
มาทำอะไรอยู่ที่นี่
แค่รอยยิ้มของใครคนหนึ่งที่อยากได้รับและเก็บเอาไว้เพียงคนเดียว เลยต้องรีบมาถึงที่นี่เลยเหรอ
แล้วสิ่งที่ตั้งใจทำมันจะมีประโยชน์อะไร
ไหนว่า....จะทำอะไรโง่ ๆ เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลง
ไหนล่ะที่คิดว่า จูบครั้งสุดท้ายแล้วจะตัดไฟที่ครุกรุ่นภายในใจได้
ไหนล่ะ ที่ว่าตัวเองจะเป็นคนหยุดทุกอย่างเอง ไหนล่ะ ที่ว่าจะเป็นคนกำหนดทุกอย่างเอง
ไหนล่ะ ไหน สิ่งไหนกันที่คิดว่าตัวเองแน่ใจแล้ว และก็กล้าที่จะทำ โดยไม่รู้สึกอะไร
"ขอโทษ...."
หยิบการ์ดมาอ่านอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายให้ใครได้รับรู้ได้แล้วก็ได้แต่ยิ้มอย่างหมองเศร้า
กับการ์ดที่อยู่ในมือ
นั่งนิ่ง ๆ
และเงียบงันอยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะไปที่ไหนได้ ใจมันแกว่งและรู้สึกหมดหวัง
เพราะไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่กันแน่ ไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไร
ไม่รู้จริง ๆ ว่ามาทำอะไร
จะให้บอกได้ยังไงว่าตกใจ
จะให้บอกหรือไงว่าตกใจจริง ๆ
ไม่เอาหรอก
จะบอกได้ยังไง จะให้บอกเหรอว่าก่อนที่หัวจะถึงหมอน แอบเผลอนึกถึงใครบางคน
จะให้บอกเหรอ ว่าทำอะไรบ้า ๆ ด้วยการแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากตัวเอง และเผลอคิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่นึกถึงคนที่ทำให้รู้สึกถึงอาการแปลก ๆ ของตัวเอง
สะบัดหัวไล่ความคิดออกไปได้ก็นับว่าโชคดีมากแล้ว
แต่เมื่อกำลังจะเคลิ้มหลับอีกครั้ง เสียงเคาะประตูทำให้ต้องลุกขึ้นไปเปิดด้วยความหงุดหงิดโมโห
จะให้บอกหรือไงว่าแอบหวังว่าจะมีใครสักคนมาหา
แล้วจะให้บอกอีกมั้ย ว่าใจมันคิดว่า..............ถ้าเป็นไอ้เฮงซวยฮวยบ้า คงจะดีพิลึก
แล้วเมื่อมันใช่ขึ้นมาจริง ๆ
กลับทำอะไรไม่ถูก
ได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง แล้วก็หาเรื่องโวยวาย ก่อนจะมานอนนิ่งเงียบอยู่บนเตียง หาเรื่องหาเหตุแสดงให้เห็นว่ารำคาญ ไม่อยากพบเจอ ทั้งที่................ไม่ใช่เลยสักนิด
ทำไมต้องมานอนตัวแข็งทื่อแบบนี้ด้วย
ทำไมต้องทำเป็นไม่อยากเจอ
แล้วที่สำคัญทำไมต้องแกล้งทำเป็นรำคาญถึงขนาดนี้
เดียร์กำลังคิดและค่อย ๆ ขยับกายหันกลับไปอีกทางอย่างช้า ๆ
ทำไมต้องหนีด้วย นี่มันห้องกูนะ
นี่มันที่อยู่ของกูนะโว้ย มึงเป็นคนบุกรุกนะ ทำไมกูต้องหนีมึงด้วย ไม่เข้าใจเลย
ไม่เอาหรอก เรื่องอะไรต้องเป็นคนเลี่ยงด้วย
เรื่องอะไร
ร่างกายค่อย ๆ ขยับหันกลับไปอีกทาง หันไปเผชิญหน้ากับใครคนหนึ่งที่นั่งเงียบ ๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง
และคน ๆ นั้นกำลังจ้องมองไปที่แผ่นกระดาษที่ถือเอาไว้ในมือ
ดวงตาจ้องนิ่งไปที่ข้อความที่ถูกเขียนในกระดาษแผ่นนั้น
ท่าทางที่เศร้าหมอง
ใบหน้าที่หมองเศร้าลง เมื่อนิ่งเงียบอยู่เพียงลำพัง เหมือนไม่รู้ว่ามีใครสักคนกำลังแอบลอบมองอยู่จนแทบลืมหายใจ
อะไรที่ทำให้ไอ้ฮวยมันทำหน้าแบบนั้นได้นะ
กะอีแค่อ่านการ์ดแค่เนี้ยเหรอ
ไม่น่าใช่หรอก
ถ้าเพราะเรื่องแค่นี้ มันไม่น่าใช่เลย แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้ต้องทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นด้วย
เดียร์กำลังคิด และไม่อาจละสายตาไปจากร่างที่นั่งนิ่งเงียบได้
อะไรกัน
อะไรที่ทำให้คนกวนประสาทคนนั้นทำหน้าแบบนี้ได้
"อ๊ะ"
ลืมตัวไปชั่วขณะว่าทำตัวเป็นพวกสอดรู้สอดเห็นอีกแล้ว ทำไมถึงได้เผลอมองอย่างนั้นเดี๋ยวก็โดนหาว่าเป็นพวกโรคจิตอีกหรอก ก็รู้อยู่ว่าปากมันขนาดไหน
เหมือนเพิ่งรู้สึกตัว คนตัวโตที่นั่งนิ่งเงียบหันกลับไปมองเดียร์อีกครั้ง
ทันได้ประสานสายตากับดวงตากลมโตที่ทอดมองมา
แต่ก็แค่เพียงแว่บเดียว แค่เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นและสุดท้ายต่างฝ่ายต่างก็ใช้วิธีหลบเลี่ยงที่จะประสานสายตากัน
ทางเดียวที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ตัวได้
ก็คืออย่าเปิดเผยความรู้สึกออกมา
อย่าให้รู้
อย่าให้รู้สึก
และอย่าให้เห็นเป็นอันขาด
"ไม่มีจริงด้วยนะ ดิสก์....สงสัยลืมเอาไว้ที่ไหนก็ไม่รู้"
คงใช่ ที่ว่ามันถูกลืมไว้ที่ไหนก็ไม่รู้ คงจะใช่ที่มันควรจะต้องเป็นแบบนั้น
ทั้งที่ฮวยก็รู้อยู่แก่ใจ ว่าไม่มีของที่ว่ามาตั้งแต่ต้น รู้ตั้งแต่แรกว่ามันก็แค่ข้ออ้างโง่ ๆ ของตัวเองเท่านั้น
"งั้น.....ก็นอนพักแล้วกัน....ว่าจะกลับพอดี..."
ทำท่าจะลุกขึ้น แต่แอบหวังให้อีกฝ่ายรั้งเอาไว้ แค่อยากให้รั้งเอาไว้ แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ากับความคิดบ้า ๆ ของตัวเอง
รอให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกดูยังจะง่ายซะกว่า ที่จะให้นาเดียร์อยากให้อยู่ด้วย
"ไม่รั้งเหรอ.....พูดอะไรก็ได้หวาน ๆ....อย่าเพิ่งไปได้มั้ย....เดียร์อยู่คนเดียวไม่ได้ เดียร์เหงา เดียร์คิดถึงพี่ฮวยจะแย่.....พูดว่าคิดทึ้งงงงงงงงงง คิดถึง คิดถึงซะจนนอนไม่หลับแล้วก็คิดถึงซะจน.....ต้องเก็บเอาไปฝันถึง"
พูดออกไปแล้ว และฮวยก็ได้แต่เปล่งเสียงหัวเราะให้ดังลั่นเข้าไว้ เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก
เดี๋ยวก็ได้ถูกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ อะไรสักอย่างสองอย่างคงได้ลอยตามมา แล้วก็คงได้ปะทะคารมย์ได้หาเรื่องงี่เง่าใส่กันอีก ทุกอย่างมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ ๆ มันมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ ๆ
แต่เดียร์กลับนิ่งเงียบ
หรุบสายตาลงอย่างช้า ๆ และรีบผุดกายลุกขึ้นนั่ง ทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง น้ำท่ายังไม่ได้อาบ
ดูยังไงก็ไม่น่าพิศมัยไม่น่ามองเลยสักนิด
"คิดทึ้งงงงงงงงงงคิดถึงมากกกกกกกจนอยากจะถีบ ถ้าได้เห็นหน้าสักสองสามวินาทีจะถีบให้คว่ำเลยตามด้วยจับหัวโขกฝาสักสองสามที แล้วก็ด่าไปว่า มึงเป็นเหี้ยอะไรกับกูนักหนาเนี่ย กูแม่งโคตรรำคาญเลย"
ได้รับคำตอบกลับมาอย่างที่คาดคิดเอาไว้ แล้วเดี๋ยวเราก็คงได้ทะเลาะกันอีก เหมือนทุกวัน
ทุกวันที่เราเอาแต่ทะเลาะกัน
"แหม นาเดียร์จ๋า ฮันนี่ของพี่ฮวยทำไมถึงได้คิดอะไรแบบนี้ เดี๋ยวเถอะ เป็นเมียอะไรพูดจาไม่ไพเราะ นี่ผัวที่รักนะจ๊ะ ทำแบบนี้ได้ไง หือ คิดจะจับหัวโขกผนังเหรอ มานี่เลยมา เดี๋ยวจะสอนให้ว่าไม่ควรทำแบบนี้รู้มั้ยเป็นเมียหัดทำตัวดี ๆ เดี๋ยวนี้เลยนะ"
ใช่
มันก็แค่ข้ออ้าง
ข้ออ้างที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ข้ออ้างที่ทำให้ฮวยต้องทำทีเป็นหงุดหงิดโมโห ข้ออ้างที่ทำให้ต้องหาเรื่องเดินเข้าไปนั่งอยู่บนเตียง และจัดการขยี้ผมของคนที่กำลังทำปากดีให้มันยุ่งเหยิงมากขึ้น และเป็นข้ออ้างที่จะได้เข้าหาให้มากขึ้น
"ไฮ้ฮวยยยยยยยย โว้ยยยยย กูยิ่งผมยุ่งอยู่ ทำห่าอะไรวะ มานี่เลย เอาคืนมั่ง มึงเป็นบ้าอะไรวะ ชอบแกล้งกู"
ได้ผลยิ่งกว่าได้ผล ต่างคนก็เลยต่างลงไม้ลงมือแกล้งกันไปแกล้งกันมา หาเรื่องทำแต่สิ่งแย่ ๆ ใส่กัน
และหาโอกาสที่จะ.....................
ไม่รู้ว่าเพราะทนความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ หรือทนกับเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว
ใช่ที่ว่ากำลังแกล้งอีกฝ่าย
ใช่ที่ว่ากำลังแกล้ง แต่แล้วกลับเผลอคว้าร่างที่อยู่ใกล้เข้ามากอดรัดเอาไว้แน่น
กอดจริง ๆ
ไม่ใช่แค่กอดเล่น ๆ หรือหยอกล้อเหมือนที่เคย
กอดเอาไว้แน่น
แน่น
จนไม่รู้ว่าเผลอทำอะไรแบบนี้ได้ยังไง
"กูหายใจไม่ออก ไอ้ฮวยแอ่ก ไอ้ ไอ้ ปล่อยโว้ยยยยยยยยย แม่ง โอ้ยยยยยยยยยย"
ก็แค่เสียงร้องโวยวาย แค่เสียงเอะอะที่มักจะได้ยินในทุก ๆ ครั้ง
แต่ไออุ่นและความรู้สึกที่ได้รับ ทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่างได้ชั่วขณะ
ฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบไล้แผ่วเบาที่แผ่นหลังบาง และแตะสัมผัสแผ่วเบาเข้าที่เส้นผม กอดประคองร่างในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกโหยหามานานแสนนาน
เดียร์
รู้มั้ยว่าไอ้บ้านี่มันคิดอะไรกับเดียร์อยู่
เดียร์
เดียร์รู้มั้ยว่า.......มีบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่ใครบางคนก็ไม่เคยรู้ตัวว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น
แล้วรู้มั้ย........
ว่ากี่ครั้งที่คิดจะถอยห่างออกมา กี่ครั้ง ที่ทนไม่ไหวจนต้องก้าวเข้าไปหาอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะได้คำตอบว่ายังไง
"แผ่นดิสก์อะไรไม่มีหรอก.....มันเป็นข้ออ้างหาเรื่องมากวนตีนเล่นแค่นั้นเอง....เพราะฉะนั้นหาให้ตายมันก็ไม่มีทางเจอหรอก"
โห
ไอ้ฮวยมันลงทุนถึงขนาดนี้เลยเหรอ นี่มันลงทุนหาข้ออ้างมาหาเรื่องกันถึงนี่เลยเหรอเนี่ย
นี่มึงอยากแกล้งกูขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย มึงเลวได้สุดยอดมาก
แล้วมากอดทำไมวะ ร้อนจะตายห่าแล้ว จะกอดทำไม
โอ้ยยยยยยยยยยยยย ปล่อยกูโว้ยยยยยยยยยย กูร้อน
ใครจะยอมให้กอดฟรี ๆ นอกจากดิ้นรนหนีแล้วเดียร์ยังพยายามจะใช้มือยันแผ่นอกของอีกฝ่ายออกให้ห่างจากตัวให้มากที่สุดด้วย
แต่กลับถูกรั้งเข้ามาในอ้อมแขนอีกครั้ง
ไม่ซึ้งนะ กูไม่ชอบ กูไม่ซึ้งหรอก ไอ้บ้า ร้อนโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
"อยากจูบ"
พูดบ้าอะไรวะ ไม่เอา จูบเจิบบ้าอะไรวะ ไม่เอานะโว้ยยยยยยยยย กูไม่ชอบ ไอ้บ้า ปล่อยกูสิวะ แม่งเอ้ย
"อยากกอดเดียร์"
ไม่เอา กูไม่อยากให้มึงกอด กูไม่ชอบ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้นะไอ้เฮงซวยเอ้ยยยยยยยยยยยยย
"อยากให้เดียร์พูดด้วยดี ๆ "
แต่กูไม่อยากพูดกับมึงดี ๆ นี่ มึงไม่พูดดี ๆ กับกูก่อนนี่หว่า โธ่โว้ยยยยยยยยมึงจะอะไรกับกูมากมายวะเนี่ย
"แต่ตอนนี้ขี้เกียจทะเลาะด้วย"
ทำอย่างกับกูอยากจะทะเลาะด้วยนักนี่
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ไหว มันจะเอาอะไรของมันอีกเนี่ย ไม่ไหวแล้วเลี่ยนอยากจะอ้วกกกกกก ปล่อยกูโว้ยยยยยยยยยยยยยย
ใช่ว่าฮวยไม่ยอมปล่อย ใช่ว่าฮวยจะพยายามยื้นยุดด้วยการกอดรัดร่างในอ้อมแขนเอาไว้แน่น แต่เพียงแค่กอดเอาไว้หลวม ๆ และกระซิบบอกเสียงเบาเท่านั้น
ก่อนจะค่อย ๆ คลายอ้อมแขนออกอย่างช้า ๆ และจ้องมองไปที่ดวงตากลมโตและใบหน้าของคนที่ทำให้ตัวเองทำเรื่องบ้า ๆ ลงไปโดยไม่ทันรู้สึกตัว
"นะเดียร์นะ.....ขอจูบอีกครั้ง....ได้มั้ย....แล้วถ้าเดียร์จะให้ทำอะไรก็จะตามใจทุกอย่าง นะ ขอร้อง แค่ครั้งเดียว อีกแค่ครั้งเดียวจริง ๆ "
TBC....
อ่านจบ.... หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง