Special : ไม่ต้องบอกให้ใครรู้
กุมภาพันธ์..คือเดือนที่โจชัวร์ไม่ชอบที่สุด ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะมันมีวันที่เมษาจะป๊อประเบิดระเบ้อเหมือนข้าวโพดคั่วใน
ไมโครเวฟน่ะซี
วันที่สิบสี่กุมภา..วาเลนไทน์สยอง!
“ใกล้หน้าร้อนอีกแล้ว” พฤษภาบ่นอุบอิบ สาละวนตีเนื้อแป้งให้เข้ากัน ยิ่งใกล้วันสำคัญ ที่ร้านยิ่งมีออเดอร์เค้กบอกรัก
มากมายก่ายกอง
“ไม่ชอบเลย” โจชัวร์หน้าง้ำ ช่วยพ่อหั่นสตรอว์เบอร์รี่สดในตะกร้า เด็ดขั้วและผ่าเป็นสองเสี้ยวเท่ากันวางไว้ในจาน
“หืม..อะไรไม่ชอบครับ” กุ๊กเลิกคิ้ว
“จอชไม่ชอบเดือนกุมภา”
“แต่เดือนนี้คนจะแน่นร้านเลยนะ” พ่อเมย์บวกลบคูณหาร กำไรเห็นๆ
โจชัวร์หัวเราะก๊าก “ลูกค้าเยอะ จอชชอบ แต่สาวๆเยอะ จอชไม่ชอบ”
“สาวๆนี่ล่ะลูกค้าชั้นหนึ่งของเรา” พฤษภาให้ความเห็น พึมพำเรื่องนั้นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยไป สักพักก็ดูเหมือนจะนึกอะไร
ขึ้นมาได้ “นายเมษาหายหัวไปไหนอีกแล้วเนี่ย บอกว่าให้มาช่วยกันทำเค้กก็ไม่เอา”
“นั่นละที่จอชไม่ชอบ” โจชัวร์เคี้ยวสตรอว์เบอร์รี่หยุบหยับ เท้าคางมองออกไปนอกกระจกบานเลื่อนของร้าน เห็นหนุ่ม
สาวเดินควงกันเป็นคู่
วันนี้วันที่สิบสองกุมภา ยังไม่ถึงวันที่สิบสี่ดี ร้านค้าแผงลอยกระทั่งในห้างสรรพสินค้าก็ดาษดื่นไปด้วยตุ๊กตาหมี กุหลาบ
แดง และการ์ดบอกรักเต็มไปหมด ที่ป๊อปที่สุดในหมู่นักเรียนคือลูกอมฮาร์ทบีทกับสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ
สมัยเรียนประถม เข้าเดือนกุมภาพันธ์เมื่อไหร่ โจชัวร์ก็ป๊อปในหมู่เพื่อนเหมือนกัน กลับบ้านมาที เสื้อนักเรียนจะลาย
พร้อยไปด้วยสติ๊กเกอร์หัวใจสีแดงดวงเล็กดวงน้อยละลานตา มือถือกระเป๋ามาข้าง อีกข้างหิ้วถุงลูกอม
พวกเขาสองพี่น้องแอบแข่งกันว่าใครจะได้ลูกอมมากที่สุด มันเป็นเกมของเด็กๆ แต่อันที่จริงแล้วเมษาแข่งเพราะอยาก
เอาชนะ แต่โจชัวร์อยากแข่ง..เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเมษาของเขาจะไม่ป๊อปมากเกินกว่าที่กำลังเป็น หากลงท้าย ดูเหมือนว่าโจชัวร์
จะแพ้เมษาราบคาบอยู่เรื่อยไป
..ก็พ่อเจ้าประคุณท่านเล่นประกาศขายจูบแลกลูกอมเสียนี่..
โจชัวร์จดบันทึกสถิติลูกอมเอาไว้ตั้งแต่ประถมหนึ่งถึงประถมหก เมื่อเข้าชั้นมัธยมต้น สถิติลูกอมก็กลายเป็นดอกกุหลาบ
ไป
..ที่น่าวิตกคือ..กราฟของเมษาพุ่งขึ้นในทุกๆปี..
และเมื่อถึงเวลาเข้ามหาวิทยาลัย สถิติสติ๊กเกอร์ ลูกอม หรือดอกกุหลาบ กลับกลายเป็นเรื่องตลกที่เด็กๆทำกัน เพราะ
ยอดชายนายเมษาเปลี่ยนจากการนับแต้มสิ่งของ..มานับแต้มสาวๆที่เข้าหาแทน
..ไม่ชอบสิบสี่กุมภาจริงๆนะ..
“ทำไมลูกชายพ่อดูเนือยๆ” พฤษภาล้างมือแล้วเช็ดกับผ้ากันเปื้อนที่สวมอยู่ เวลาพ่อเมย์ใส่ชุดขาวพอดีตัว เด็กเสิร์ฟ
หนุ่มๆชอบแอบมองกันตาวาว โจชัวร์รับออเดอร์จากแด๊ดมาคุมพ่อเมย์ด้วยเหตุนี้นั่นเอง
“เปล่าฮะ” โจชัวร์ส่ายหัว นั่งหน้าง้ำต่อไป
“วันนี้มีเดทเหรอ ยังไม่ถึงสิบสี่เลยนี่” กุ๊กแซวลูก
“จอชมีแฟนเหมือนเมษที่ไหน” เจ้าตัวเอาหลอดกระแทกแก้วแรงๆเป็นการระบายอารมณ์ขุ่นมัว ถ้าจะบอกว่าเชื้อขี้หึงถ่ายทอดได้
ทางพันธุกรรม..ว่าอย่างไรก็ขอว่าตามกัน เพราะจอชกับแด๊ดขี้หึงเหมือนกันเลย
“เมษมีแฟนแล้วเหรอ พ่อเห็นลอยไปลอยมา คบคนนั้น ควงคนนี้ ไม่เห็นจริงจังกับใครสักคน” พฤษภาส่ายหัว เรื่องความเจ้าชู้ไม่รู้
เอามาจากไหน
“หึ” จอชชี่ยิ้มมุมปาก ม้วนหลอดแล้วบิดหัวท้ายให้ป่องกลาง ยื่นให้พ่อเมย์จับก่อนจะดีดเพี๊ยะ หลอดแตกดังบึ้มตามภาพใน
จินตนาการว่ากำลังดีดอวัยวะบางส่วนของเมษาให้เละกระจายละม้ายคล้ายหลอดระเบิดอยู่
มีเสียงเรียกเข้าจากมือถือรุ่นเก่าเก็บ โจชัวร์ไม่ต้องดูหน้าจอก็รู้ว่าใคร เพราะเพลงที่ตั้งไว้ประจำ ทำนองว่าแอบรัก แอบชอบนี้ มี
ให้แค่คนเดียวเท่านั้น
“เมษโทรมา ไม่รับเหรอครับ”
“รับไปก็เท่านั้นฮะ” จอชยักไหล่ “เย็นป่านนี้ สงสัยโทรบอกจอชให้ซื้อคอนด้อมไปให้ เมษาจะเอาไปใช้กับแฟนสาวคน
ล่าสุด”
เมษาเดินหน้าหงิกขึ้นมาบนห้องนอน เขาหูชาไปแถบหนึ่งเพราะถูกพ่อจ๋าเรียกตัวไปด่าๆๆๆชนิดติดเทอร์โบ ใช้คำไม่ซ้ำและแทบไม่ได้หายใจหายคอ
“เป็นผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิง ถ้ายังไม่คบกันจริงจังถึงขั้นแต่งงาน อย่าริชิงสุกก่อนห่าม เกิดเราเลิกกับเขาไป ฝ่ายเราน่ะได้ แต่ฝ่ายหญิงน่ะเสีย!”
เด็กหนุ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน นึกในใจว่าจะเล่นงานจอชชี่ให้อ่วมอรทัยไปทั้งตัว เขาจะฝากซื้อถุงยางน่ะจริง แต่ไม่ได้เอา
ไปใช้กับสาวๆที่ไหน แค่วันพรุ่งนี้มีนิทรรศการวาเลนไทน์ที่คณะ จะมีกิจกรรมลด ละ เลิกค่านิยมจู๋จี๋กันในคืนวันแห่งความรัก แต่ถ้ามันไม่ไหวถึงขั้นสุด..คอนด้อมคือคำตอบสุดท้าย
“เมษไม่ได้จะพาน้องจุ๋มจิ๋มเข้าโรงแรมนะ แค่เซฟเซ็กซ์อ่ะพ่อ” อันนี้แบบว่าพูดไม่เต็มประโยค เซฟเซ็กซ์ของนิทรรศการต่างหาก
“พูดไม่ทันขาดคำ!” แล้วพ่อจ๋าก็กระโจนเข้าดึงหูเขาเสียแทบขาด
..ถ้าแด๊ดไม่กลับมาห้ามทัพ..ป่านนี้เขาตายคาที่ไปแล้ว..
“จอชชี่!” เมษาเปิดประตูห้องอีกฝ่ายชนิดไม่ขออนุญาต
โจชัวร์สะดุ้งเฮือก ร่างขาวจั๊วะที่ยืนล่อนจ้อนอยู่กลางห้องถลาไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาหุ้มส่วนล่างไว้ เมษาเลิกคิ้วด้วยความ
ประหลาดใจ
“ทำอะไรอยู่”
“เพิ่งอาบน้ำเสร็จ เมษไม่มีมารยาท ไม่รู้จักเคาะห้อง!” ด่าสวนมันเลย
“ทำเป็นอาย” ใครจะหน้าด้านเท่านายเมษา “ไอ้จั๊วะอันแค่นี้น่ะ..” เขายื่นนิ้วก้อยให้ดูแล้วตัดให้สั้นเหลือแค่โคน “ให้
เมษใช้แว่นขยายส่องยังมองไม่เห็นเลย” ที่พูดนี่ด้วยอารมณ์ล้วนๆ แบบว่าเคืองที่ถูกพ่อจ๋าบิดหูชนิดไม่รู้สาเหตุ
โจชัวร์อ้าปากค้าง หน้าขาวๆมีสีเลือดแล่นลามจนแดงก่ำไปทั่ว
“จิ๋วขนาดนั้นให้มดกัดก็ขาดแล้ว! ไม่ต้องพูดถึงคอนด้อมหรอก เอาเกล็ดปลามาแปะยังหุ้มได้หมดเลยมั้ง” เมษาด่าเสร็จ
ตั้งใจจะเดินออกแต่เจ้าของห้องกลับพุ่งเข้าหา จอชชี่เอาหัวโหม่งหลังเขาเต็มรัก “โอ๊ย!”
เด็กหนุ่มทั้งสองล้มโครมลงไปกับพื้นห้อง โจชัวร์ลากหมอนข้างมาฟาดแล้วฟาดอีกบนตัวเมษา อีกฝ่ายได้แต่ร้องโอด
โอยแล้วยกมือปัดป้อง
“เจ็บ..เจ็บนะโว้ยจอชชี่”
“ไอ้เมษปากหมา ไอ้เมษาเส็งเคร็ง ไอ้เก๋าเจ้งเฮงซวย ไอ้กางเกงย้วยห่วยแตก!” โจชัวร์เอาหมอนวางบนอกเมษาแล้ว
ชกตุบตับ ที่ไม่ชกกับตัวเพราะกลัวเมษเจ็บ ถึงจะเคืองแต่ก็กระทำบนความปลอดภัยและห่วงใยทั้งนั้น
ปากด่าไป มือก็ทุบไป แรงจอชชี่มีน้อย ทุบเบาๆก็พอแสบๆคันๆ แต่พอทุบไปทุบมานานเข้า เมษาก็เริ่มจะเจ็บเข้าแล้ว
“หยุดนะจอชชี่”
“เอาให้ตาย!”
“บอกให้หยุดไง” เมษาจับข้อมือเล็กๆทั้งสอง ได้ผลตรงที่จอชหยุดทุบ แต่พอเขาชะโงกหน้าขึ้น อีกฝ่ายกลับเอาหัวโขกหน้าผาก
ดังป๊อก “อูย..”
“เกลียดไอ้เมษหมาบ้าที่สุด!”
เมษาฉุนกึก ฝ่ามือใหญ่รวบข้อมือทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน มือที่เหลืออีกข้างกระชากต้นคอขาวลงมาจนทั้งตัวแนบชิด โจชัวร์หยุด
การกระทำทันที
“พูดว่าอะไรนะ”
จอชชี่น้อยหันหน้าหนีไปทางอื่นหากคนด้านล่างที่เขานั่งคร่อมอยู่ใช้นิ้วแตะปลายคางแผ่วเบาเป็นเชิงถามย้ำ และเมื่อเจ้าตัวยัง
มองเมินหนักเข้า เมษาถึงได้เริ่มลามปามมือไม้ลงมาที่ต้นคอ หัวไหล่ กระทั่ง..หน้าอก
“ทำอะไรวะ” โจชัวร์ปัดมืออีกคนผัวะ
“อย่าพูดวะสิ ไม่สุภาพเลยจอชชี่” เมษาพึมพำ ลองไล้นิ้วตามเนื้อตัวอีกฝ่ายก็พบว่ามันนุ่มดี “นุ่มกว่าน้องจุ๋มจิ๋มอีกนะเนี่ย”
โจชัวร์เบิกตากว้าง ชกแก้มอีกคนไปหนึ่งดอกแล้วลุกพรวดขึ้น “ออกไปเลย!” เจ้าตัวเสียงดังใส่ น้ำตาคลอหน่วย “ไปขึ้นอืดตาย
เลยไป!”
เมษาลุกขึ้นยืนอย่างเนือยๆ เขาถอนหายใจ วันนี้ทำให้จอชชี่โกรธอีกแล้ว ทั้งที่ตัวเขาเองต่างหากที่ควรต้องโกรธ แต่อย่างว่า..
เห็นหน้าแล้วใจอ่อน
“จะให้ออกจริงเหรอ” เด็กหนุ่มยืนกอดอก ขวางทางเดินไว้
“ถ้าไม่ไป จอชไปเอง” โจชัวร์เอาศอกกระทุ้งหน้าท้องแข็งๆเข้าให้
เมษาคว้าหมับเข้าที่เอว ลากตัวเบาหวิวเข้ามาปะทะอก แขนข้างหนึ่งกักตัวคนตรงข้ามไว้แนบกัน มือที่เหลือดันประตูที่กำลังจะ
เปิดออกให้ปิดลง
โจชัวร์ร้อนวาบที่หน้า อุณหภูมิเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศกำลังเปลี่ยนเป็นร้อนผ่าวเมื่อแผ่นหลังทาบทับกับช่วงอกของคนตัว
สูงกว่า
“ไม่ให้ไปหรอกนะ..ชีเปลือย” เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างใบหูขาว
“แล้วไง!” โจชัวร์กำลังทะลุจุดเดือดอีกครั้ง “ถึงเอาแว่นขยายส่องมันก็มองไม่เห็นอยู่ดี” คราวนี้ลูกชายแด๊ดเขวี้ยงผ้าเช็ดตัวที่พัน
ท่อนล่างไว้ทิ้งเลย
“ทำไมขี้น้อยใจจังเนี่ย” เมษาอารมณ์เย็นลงหลังจากถูกทุบไปหลายหน “ขอโทษคร้าบ เมษปากเสียเอง จอชอย่างอนน้า”
“เดี๋ยวโทรหาน้องจุ๋มจิ๋มให้แล้วกัน ช่วยมารับพี่เมษไปไกลๆหน้าหน่อย เห็นแล้วคันหมัดอยากต่อย” โจชัวร์ยืนท้าลมท้าฟ้าไม่เกรง
ใจสายตาใคร
“อยากโทรก็เชิญ” เมษาพยักพเยิด “มีเบอร์มั้ยล่ะ มีเบอร์ก็โทร”
โดนดักแบบนี้โจชัวร์เลยหน้าแตกตามระเบียบ กระฟัดกระเฟียดตามลำพังเพราะหาทางออกไม่ได้ หนำซ้ำ เปลือยในห้องแอร์นี่ไม่
ใช่ความคิดที่ดีเลย
“ใส่เสื้อซะ” เมษารื้อชุดนอนให้ “เล็กอยู่แล้ว โดนความเย็นเลยหดเข้าไปใหญ่ เมื่อกี๊ไซส์เกล็ดปลาช่อน คราวนี้เลยเหลือเท่า
เกล็ดหางนกยูง..”
โจชัวร์ถอนใจด้วยความเหนื่อย เลิกต่อล้อต่อเถียง เลิกสนใจเวลานายเมษาแกล้งด่าทับถมให้ความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองของ
เขาหดยวบยาบ
จอชยกแขนให้อีกฝ่ายใส่เสื้อให้ เมษาบริการติดกระดุมเสร็จสรรพ กระทั่งกางเกงยังสวมให้เลย “ออกไปได้แล้ว จะนอน”
“โห..ใจร้าย” เมษบู้หน้า “ไล่กันเฉย”
“จอชไล่ เมษคงไม่รู้สึกเหมือนน้องจุ๋มจิ๋มไล่หรอก”
“จะหาเรื่องกันใช่มั้ย” เมษาเริ่มหน้าบึ้ง “เมษคบใครแล้วเกี่ยวอะไรกับจอชด้วยล่ะ คำก็น้องจุ๋มจิ๋ม สองคำก็น้องจุ๋มจิ๋ม ทีเมษยังไม่
พูดเลยว่าเบิ้มอย่างนั้น เบิ้มอย่างนี้ แฟนใครแฟนมัน ไม่ยุ่งกันอยู่แล้ว”
โจชัวร์อยากตะโกนด่าดังๆว่าไอ้ซื่อบื้อ! ที่พูดถึงน้องจุ๋มจิ๋มน่ะเพราะเขาหึง แล้วเขาก็ไม่ได้คบกับเบิ้มด้วย!
..แต่ตอนนี้ เขาเหนื่อยเกินจะด่าแล้วล่ะ..
“ออกไปเถอะ จะนอน”
“แน่ใจนะที่ไล่กัน” เมษาสวนกลับ “ทีหลังก็ไล่เบิ้มบ้างสิ”
โจชัวร์มุ่นหัวคิ้ว “ออกไ..” เสียงขาดหายเพราะคนตรงข้ามโน้มตัวลงมา ริมฝีปากร้อนผ่าวทาบทับจนติด เหมือนจะผิวเผินแต่กลับ
หนักหน่วง
ดวงตาสีฟ้าสว่างเบิกกว้าง ตัวแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูกโดยเฉพาะเมื่อฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไล้ลงบนแผ่นหลัง เขาขยุ้มเสื้อนักศึกษา
ของเมษไว้เป็นหลักยึด
“ทำไม..” ร่างเล็กถามเมื่ออีกคนขยับออก ปล่อยเรียวปากบวมช้ำให้เป็นอิสระ แม้ว่าจะรุกเร้าแค่ภายนอกแต่แรงที่บดลงกลับหนัก
แน่น
“ไม่รู้” เมษาลอยหน้าลอยตาตอบ
โจชัวร์น้ำตาร่วงเผาะอยู่ในอก “ไอ้หมาเมษ” เขาหัวเราะออกมาแต่ใจกลับวูบโหวงเข้าไปทุกขณะ “จูบกับแฟนสิ จูบกับพี่น้องใช้
ได้ที่ไหน”
“เอางั้นเหรอ”
“อืม..” โจชัวร์พยักหน้าหงึก “เมษไปจูบกับแฟน จอชจะจูบกับเบิ้ม”
“หึ” คนฟังยิ้มเยาะ
“จะได้เจ๊ากัน”
“เจ๊ากันยังไงไม่ทราบ” เมษาเท้าแขนลงกับฟูก ยืดตัวขึ้นสูงจนอีกฝ่ายที่นั่งอยู่บนเตียงต้องขยับถอย “เมษจูบแฟน แล้วจอชจะไป
จูบเบิ้มน่ะเหรอ”
“อื..” ยังไม่ทันรับปาก นายเมษาขยับเข้ามาจูบอีกแล้ว “อะ..ไร”
“พูดใหม่” หนุ่มไทยตัวสูงพึมพำแทบชิดริมฝีปากอีกคน
“ไม่ใช่โฆษณามายมิ้นท์นะ อ๊ะ..” เล่นมุขเกิน เมษาเลยจูบเข้าอีกหน
“ให้โอกาสอีกครั้งนะจอชชี่”
“โอกาสอะไร” โจชัวร์ยันหน้าอีกฝ่ายเพราะเห็นว่าเข้ามาใกล้เกิน
“ตกลงจะให้ใครจูบใคร”
“เมษจูบแฟน จอชจะจูบเบิ้ม!” จบประโยคปุ๊บ อีกฝ่ายเข้าหาปั๊บ “อื้อ”
“ปากดี”
“ไปจูบแฟนเมษสิ!” ขนาดไล่แล้วนายเมษายังหน้าด้านอยู่เลย เมื่อครู่จูบกันข้างเตียง ตอนนี้คุณท่านขยับขึ้นมาบนที่นอนเรียบ
ร้อย หนำซ้ำยังดันเขาให้นอนราบอยู่ในชัยภูมิที่อันตรายที่สุดอีกต่างหาก “แฟนใครแฟนมัน”
เมษาก้มลงชิด มือจับปลายคางเล็กให้เงยขึ้น เขาขยับปากเข้ามาทาบ บดเบียดน้ำหนักลงก่อนจะค่อยเคล้าคลึงแผ่วเบา “เมื่อกี๊
บอกปากดีแล้วใช่มั้ย”
โจชัวร์นอนหอบหายใจทั้งตาปรือปรอย
“คราวนี้..ปากหวานแล้วกัน” น้องเมษของพ่อจ๋าอมยิ้มตาวาววับ
“ทำ..ไม” หลังจากถูกจูบจนปากช้ำ จอชชี่ก็ได้แต่นอนตาลายอยู่กับที่
“ก็จอชพูดว่าอะไรล่ะ”
“ไม่ได้พูด”
เมษาถอนหายใจ เขกหัวคนบื้อไปหน “ให้เมษไปจูบแฟนไม่ใช่เหรอ..” ยังไม่ทันจบความ โจชัวร์น้ำตาคลอเบ้าอีกแล้ว “เมษจะ
จูบแฟนนะ”
โจชัวร์ยังงุนงงอยู่กระทั่งคนด้านบนโน้มตัวลงจูบอีกหน “......”
“พ่อให้จอชชี่กินอะไรเนี่ยถึงได้โง่ขนาดนี้” เมษาถอนใจเฮือก เขาบิดแก้มขาวอย่างมันเขี้ยว “ฟังดีๆนะโจชัวร์ เมษ..จะ..จูบ..กับ..
แฟน..เท่า..นั้น”
“ก็ไปสิ..” น้ำตาร่วงเลยนั่น
“ให้ตายสิเฟรดดี้” เมษาชอบอุทานเลียนแบบพ่อเมย์ “งี่เง่าแบบนี้เอนท์ติดเทคนิคการแพทย์มาได้ไง เกิดเจอเชื้อหวัดไม่แจ้งว่า
เจอเชื้อเอดส์เหรอ”
“ก็คนมันโง่นี่ ช่วยไม่ได้” น้อยใจไปมาน้ำตาร่วงมาอีกระลอก
เห็นน้ำตาจอชชี่แล้ว จะว่าสงสารก็ใช่ จะขำก็ถูก ในเมื่อเด็กชายเมษาชอบแกล้งเด็กชายโจชัวร์อย่างไร นายเมษาก็ชอบแกล้ง
นายโจชัวร์อย่างนั้น
..เป็นชีวิตประจำวันที่ขาดไปไม่ได้เลย..
“เอาเถอะ เมษจะทำตามจอชบอกแล้วกัน” เขายิ้ม จูบเบาๆที่ปากนุ่มนิ่มของโจชัวร์ “เมษจูบแฟนแล้ว ราตรีสวัสดิ์” พูดจบก็ล้มตัว
ลงนอน
..ทิ้งอีกคนให้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก..
โจชัวร์จับปากตัวเองอย่างคนหัวช้า คิดอะไรช้า ตีความอะไรช้า เพราะฉะนั้นเลยเข้าใจอะไรช้าไปด้วย “จูบแฟนเหรอ..”
“เออไอ้บื้อ” เมษาบอกใบ้
“เป็นแฟนกันจริงๆเหรอ” มือเล็กเขย่าตัวคนด้านข้างที่หลับไปทั้งชุดนิสิต เน่าก็เน่า เหม็นก็เหม็น แต่เพราะว่าจอชรักเมษ เลยดม
แล้วบอกว่าหอม
“โกหกมั้ง”
“น้องจุ๋มจิ๋มล่ะ” โจชัวร์ขี้หึงก็จริง แต่ถือคติไม่ยอมเป็นมือที่สาม ไม่ต้องการแย่งใคร ยกเว้นอีกฝ่ายไร้พันธะแล้วเข้าไปเสียบต่อได้
“ไม่ได้คบกันตั้งแต่แรกแล้ว” คนนอนหลับตางัวเงียบอก
“ไม่เชื่ออ่ะ”
“......” เมษางู่งี่ จะนอนก็ถูกเซ้าซี้อยู่นั่นละ
“จอชไม่เชื่อเมษ พ่อเมย์บอกเมษเจ้าชู้..” พูดไม่จบดี พ่อหนุ่มเจ้าชู้ที่ว่าก็คว้าคอลงไปอีกหน อ้อมแขนแข็งแรงกอดรัดตัวเล็กกว่า
แนบแน่น
“เงยหน้า” เมษาสั่ง “หลับตาด้วย”
โจชัวร์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำตาม เจอเมษาโหมดนี้ทีไร โจชัวร์ที่เอาแต่ใจเป็นต้องยอมทุกที “อย่าต่อยจอชนะ แค่อยากรู้
นิดเดียวเอง”
เมษาส่ายหัว เขาเกลี่ยปอยผมสีทองสว่างแผ่วเบา เพียงผิวเผินเท่านั้น..ที่เด็กหนุ่มโน้มลงจูบหน้าผากคนในอ้อมกอด
แค่ครั้งเดียว..โจชัวร์เงียบกริบยันเช้าเลย
อิอิ สเปวันวาเลนไทน์ (ไม่ได้เบิ่งตาดูเล้ยยว่าวันนี้เท่าไหร่ ยังกล้าเอามาลงอีก

)
แม้ว่าเรื่องนี้กำลังถูกหมักดองอย่างเข้มข้นแต่ก็อย่าเพิ่งทิ้งเค้าน้าา กระซิกๆ ตอนนี้เหลือสอบอีกสามวิชา (แต่มันยังกล้ามาเล่นเน็ต) แล้วก็ได้พักแค่ 10 วันเองขอรับ ฝึกงานอีกที 19 มีนา ลาตายล่วงหน้า คร่อกๆ
ขอให้ทุกท่านมีฟามสุขในวันวาเลนไทน์ (ที่เลยมาหลายอาทิตย์แล้ว 555+)