กลิ่นหอมของเครื่องแกงอวลอยู่ในห้องครัวใหญ่ ถ้วยสีขาวใส่เครื่องปรุงและวัตถุดิบวางเรียง มีเสียงโขลกเครื่องพริกแกงพร้อมกลิ่นฉุนของลูกผักชี ยี่หร่าและพริกไทย
“แกงเขียวหวานเนื้อ ยำตะไคร้ไส้กรอกทอด” หนุ่มวัยสามสิบอ่านทวนเมนูก่อนจะเหน็บออเดอร์ไว้ด้านบน
พฤษภา หัวหน้าห้องครัวอยู่ในชุดสีขาว หมวกปิดเก็บผมเรียบร้อย เขายืนกำกับลูกมือที่กำลังล้างเนื้อวัวสดใหม่ เครื่องปรุงทุกอย่างต้องถูกคัดมาอย่างพิถีพิถันไม่ให้เสียชื่อห้องอาหารมธุปายาส
เด็กสาวคนหนึ่งยืนตำน้ำพริกแกงเขียวหวานเสียงลั่น ที่นี่มีกฎว่าจะไม่ใช่เครื่องแกงสำเร็จรูป เพราะกลิ่น สีและความเผ็ดอยู่ที่ตัวเครื่องเทศ เพราะฉะนั้น แม้ว่าจะเป็นห้องอาหารไทย แต่รสของอาหารจะแตกต่างราวฟ้ากับเหวเมื่อเทียบกับข้าวแกงถุงด้านนอก
เธอโขลกพริกขี้หนูเขียวกับเกลือ หยิบข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดกับรากผักชีใส่ในครก โขลกพอละเอียดแล้วตามด้วยกระเทียม หอมแดง เพิ่มกลิ่นจากลูกผักชี ยี่หร่าและพริกไทย
พฤษภาจะให้คนอื่นเตรียมเครื่องปรุง ในส่วนของการทำ เขาจะลงมือด้วยตัวเอง ชายหนุ่มพับแขนเสื้อขึ้น ลงมือผัดเครื่องน้ำพริกด้วยไฟกลาง พอเปลี่ยนเป็นไฟอ่อนถึงใส่กะทิ ผัดพอแตกมันสีเขียว ตามด้วยเนื้อวัวสดหั่นชิ้นพอดีคำและใบมะกรูด
กลิ่นหอมของเนื้อพร้อมด้วยเครื่องเทศพริกแกงอบอวลอยู่ในห้อง เขาเปลี่ยนมาใส่หม้อแล้วต้มจนเดือด ใส่กะทิอีกถ้วยแล้วปรุงรสน้ำปลา น้ำตาล รอสุกอีกครั้งใส่มะเขือเปราะหั่นเสี้ยว สุกแล้วยกลง โรยหน้าโหระพากับพริกชี้ฟ้าแดง
“โอ๊ย..น่ากิน” เด็กใหม่มักจะโอดคำนี้เสมอทุกครั้งที่พ่อครัวหัวป่าก์ทำอาหารเสร็จ ไม่มีใครทนกลิ่นหอมชวนน้ำลายสอแบบนี้ได้สักคน
พฤษภายิ้มรับ ละออกมาให้ลูกมือตักแกงใส่ถ้วย หม้อที่ทำจะขนาดพอดี เมนูทุกอย่างต้องทำใหม่เสมอ อาจต้องใช้เวลาแต่ความที่คนมากมายถึงลงมือได้รวดเร็ว ที่ห้องอาหารนี้จะไม่มีการมักง่ายอย่างต้มทิ้งไว้เป็นหม้อค่อยตักให้ลูกค้าที่สั่ง
เมนูต่อไปเป็นยำตะไคร้ไส้กรอกทอด เครื่องยำเป็นตะไคร้ซอย ขิง มะนาว หอมแดง พริกขี้หนู ส่วนเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กุ้งแห้งและมะพร้าวคั่วจะช่วยชูโรง คลุกเคล้าพอเข้ากันแล้วปรุงรส ตักใส่บนใบชะพลูที่พับเรียงแทนกระทงบนจานแก้วกุ๊นขอบทองสำหรับเป็นเครื่องจิ้ม ตัวไส้กรอกต้องทอดสุกเหลืองอร่ามไม่ให้อมน้ำมันแล้วหั่นเป็นชิ้น
“อุ๊ย! หนูยังไม่ได้ทอดไส้กรอก” เสียงใครคนหนึ่งแว่วมา
พฤษภาขมวดคิ้ว เขาเป็นคนใจดีแต่ก็ค่อนข้างเข้มงวด..เรียกว่าดุยังได้
“ทำอะไรชักช้า เดี๋ยวผมทำเอง” เขาหันขวับ คว้าเอาไส้กรอกอันยาว
“โอ๊ย!”
ชายหนุ่มหันไปทางต้นเสียง ยิ่งขมวดคิ้วหนักเมื่อเห็นใครบางคนกุมไส้กรอกอันยักษ์อยู่ “เอามา จะถือไว้ทำไม”
พออีกฝ่ายไม่ส่งให้ คราวนี้เขาเลยฉุนขาด กระชากหมับ
......
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังอยู่ข้างหู เขาเห็นตัวเองบีบซอสเซจสีน้ำตาลเละกระจายเต็มมือ พร้อมกับสะดุ้งพรวดขึ้นจากเตียง ลืมตาโพลงด้วยเนื้อตัวเมื่อยปลาบ หยดเหงื่อผุดซึมข้างขมับ
“ฝัน..” พฤษภายกฝ่ามือขึ้นป้องแสงจากหน้าต่างบานใส
..หน้าต่าง..กระจกบานเลื่อน?..
ชายหนุ่มเบิกตากว้าง พรวดพราดลงจากเตียงแล้ววิ่งไปเกาะขอบระเบียง ผละออกแทบไม่ทันกับอาการเวียนหัวชั่วขณะ บ้านสองชั้นที่อยู่กับลูกชายกลายเป็นโรงแรมใจกลางเมือง
“อะไร..อะไร!”
“โอ๊ยย..” เสียงทุ้มต่ำดังจากด้านหลัง
เขาหันมอง รู้สึกเลือดในกายเย็นเฉียบ คนตรงหน้า..ไม่สิ บนเตียง..ด้วยร่างเปลือย นั่งกุมส่วนกลางตัวเองอยู่
“ค..คุณ..” พฤษภาเพ่งมอง หนุ่มตัวสูงโย่ง เรือนผมสีทองกับดวงตาสีฟ้า
..พ่อแก้วแม่แก้ว!..
ร่างใหญ่สบถสาบานเป็นภาษาอังกฤษ เขาด่าอะไรอีกยาวเหยียดชนิดที่ฟังกันไม่ทัน แต่ถ้าจะให้จับใจความ ก็คงพอคาดเดาได้ว่า เขาถูกไอ้พ่อครัวหัวป่าก์ตะครุบลงน้องชายแล้วบีบเข้าให้สุดแรงเกิด
“Fuck!” เขายกมือขึ้นเสยผม เหลือบมองผู้ชายอีกหนึ่งที่ยืนตัวลีบด้วยสภาพชอบกลอยู่ข้างกระจกระเบียง “เข้ามาเมย์..อยากอวดเหรอ ชีเปลือย”
พฤษภาแหกปากร้องโหยหวนเพราะอาการเย็นวาบด้านหลัง
“Shut up!!” หนุ่มฝรั่งตะคอก ลุกขึ้นยืนต่อหน้าอย่างไม่อายนัก
พฤษภาก้มลงดูตัวเอง ยังดีนะ..เขามีผ้ากันเปื้อนคลุม
..ผ้ากันเปื้อน!!..
..ผ้าจริงๆ ผ้าผืนเดียว ไม่มีอย่างอื่นเลย!..
เขามองคนตรงหน้าอีกครั้ง หน้าแดงจัด เหมือนพริกชี้ฟ้าที่โรยหน้าแกงเขียวหวาน
“จ๊ากกกกกกก”
พ่อคนตัวใหญ่เห็นท่าไม่ดีก็กระโจนเข้าตะครุบปาก ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงติด เน้นคำ ช้าๆชัดๆ “หุบปากซะเมย์ อยากประกาศให้ข้างห้องรู้เหรอ”
คนตัวเล็กกว่าดิ้นขลุกๆ เขาเปลือย..มันก็เปลือย เขาเจ็บ..ด้านหลัง แล้วมันล่ะ เจ็บรึเปล่า แล้วที่มันดุนๆต้นขานี่อะไร? ไส้กรอกที่จะเอามาทอดใช่มั้ย!!
ร่างสูงก้มดูส่วนกลางของตัวเองแล้วหัวเราะหึๆ อะไรบางอย่างที่ไม่น้อยนัก..ตามไซส์ต่างชาติกำลังผงกหัวขึ้นทักทาย “มันบอกว่า กู้ด มอร์นิ่งจ้ะฮันนี่”
พฤษภาขบกรามกรอด กระทุ้งเข้าให้ตรงสีข้างแล้วถีบไอ้ฝรั่งขี้นกสุดแรงเกิด คนตรงข้ามกลิ้งหลุนๆลงไปกับพื้น หัวโขกขอบเตียงเสียงดังป๊อก “ไอ้ชั่ว! ไอ้ควายเผือก!”
เขาเลิกคิ้ว ลากผ้าห่มมาคลุมท่อนล่าง “ถ้ารู้มาไม่ผิด คนไทยด่าควายแล้วโกรธ แต่พวกเรานี่..ห้ามด่าหมู เราไม่ชอบ”
“ไอ้หมู!!”
หนุ่มใหญ่ขมวดคิ้วฉับ แต่แล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นโลมเลีย ลูบปลายคางอย่างครุ่นคิดเมื่อมองกวาดไปทั่วร่างขาวตรงหน้า หนุ่มตัวเล็ก มาตรฐานชายไทยล่ะมั้ง สวมแต่ผ้ากันเปื้อนแม่ครัวผืนเดียว แก้มก้นกลมๆนั่นแปะติดกระจกบานเลื่อนเสียด้วย เขาคงไม่เห็นหรอกถ้าด้านหลังจะไม่ใช่กระจกเงาของตู้เสื้อผ้า
“เซ็กซี่”
พฤษภาอ้าปากค้าง เขาขว้างผ้าเช็ดตัวใส่หัวลูกค้ารายใหญ่ของห้องอาหาร
เฟรด โอ คอนเนอร์ หนุ่มอเมริกันที่ย้ายนิวาสสถานมาปักหลักในเมืองไทยได้เจ็ดปีเต็ม ถึงแม้การเริ่มต้นรู้จักกันจะไม่ค่อยดีนัก แต่พฤษภาคิดว่าการรับงานทำอาหารเลี้ยงคนในบริษัทที่เฟรดทำงานอยู่ก็ไม่ถือว่าเลวร้ายซะทีเดียว
..มันมาร้ายไอ้ตอนที่เลี้ยงฉลองกันนี่ล่ะ..
พ่อครัวตัวเล็กคว้าชุดคลุมมาสวมลวกๆ เขาเหลือบมองเสื้อตัวเองกระเด็นไปทาง กางเกงห้อยไปอีกทาง
“ลืมมันซะ!” พฤษภาตะคอกเสียงแข็ง ชี้หน้าเป็นการหมายมาด
เฟรดยักไหล่ คว้าผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่าง ร่างสูงตระหง่านเบียดบังคนตรงหน้าให้หดลีบลงไปอีก
“ใครจะอยากจำ”
“ดีแล้วที่ไม่จำ!” ว่าพลางคว้าเสื้อมาสวม ติดกระดุมลวกๆ พอยกมือขึ้นเสยผมก็ต้องตีหน้าด้วยความขยะแขยง
..โอ้ก! มือข้างนี้ที่กำดับเบิ้ลบิ๊กไบท์ของมันนี่หว่า!..
เฟรดเดินไปเปิดตู้เย็นในห้อง คว้าน้ำมาดื่มด้วยท่าทีสบายๆ
“จะไปแล้วเหรอ” เขาหันมาถามคนที่กระโดดเหย็งๆใส่กางเกง “ไม่เจ็บรึไง”
พฤษภาเงยหน้ามองทั้งแก้มแดงเถือก เขาชูนิ้วกลางใส่
..เจ็บสิโว้ย! เจ็บน้ำตาเล็ด แต่พยายามจะลืมอยู่ ไม่ต้องมาทวน!..
กุ๊กพฤษภ์คว้ากระเป๋าเป้แล้ววิ่งกะเผลกๆไปหน้าห้อง พอคว้าลูกบิดอีกฝ่ายก็จับหมับ “ปล่อย!!”
เฟรดถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย เขาคว้าเช็คมาวางบนโต๊ะข้างตัว “ค่าจ้างจัดอาหาร”
ชายหนุ่มเหลือบตามอง ขยับไปด้านนอกได้ครึ่งหนึ่งแล้วแต่ยังไม่วายกระโจนเข้ามาคว้าเงิน “ไม่โกงนะ”
ฝรั่งรูปหล่อตีหน้าปุเลี่ยน “มีครบ ทั้งค่าแรง ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา..แล้วก็..”
“แล้วก็..?”
“ค่าตัว” เฟรดยกยิ้ม
พฤษภากระโดดเข้าชกปลายคางอีกคนดังผัวะ เฟรดเซไปด้านหลัง มึนตึ้บ “ไอ้หมูเผือก!”
เสียงปิดประตูโครมดังสนั่นห้อง ร่างใหญ่หัวเราะเบาๆ ยกหลังมือขึ้นเช็ดมุมปาก
..เลือดออกเลย..
“ครับ..คุณรชต” เขารับสายเจ้านาย คงโทรทางไกลจากกระบี่มาแสดงความยินดีเรื่องที่เขาบริหารงานแทนจนกำไรไตรมาสแรกทะลุเป้า “เดี๋ยวผมจะให้เด็กแฟกซ์ส่งไปให้ ครับ..บาย”
เฟรดผละไปอาบน้ำ เมื่อคืนเขาค้างโรงแรม ป่านนี้ไอ้ตัวยุ่งคงอาละวาดบ้านแตก พอแต่งตัวเสร็จ ลองต่อสายโทรหาพี่เลี้ยงเด็กก็ได้ความว่าลูกชายยังหลับปุ๋ย
“ถ้าจอชตื่น บอกเขานะว่าแด๊ดจะซื้อขนมไปให้” เขาสั่งปลายสาย ค่อยโล่งอกที่ไม่ต้องมาปลอบไอ้แสบทั้งวัน
ร่างสูงเปิดประตู มองสำรวจความเรียบร้อยในห้องว่าไม่ลืมของ
..นอกจากเตียงยับย่นเหมือนผ่านสนามรบมาเป็นปีก็คงไม่มีอะไรแล้ว..
“ลืมมันซะ!”เสียงหนึ่งว้ากขึ้นในหัว
“ใครจะอยากจำ” เฟรดส่ายหน้า อดยิ้มมุมปากไม่ได้ “กว่าจะเข้าได้แต่ละที ฝืดก็ฝืด เจ็บจะตาย” ดิ้นเป็นปลาถูกทุบ แถมยังร้องเหมือนโลกถล่ม นอนกับสาวๆยังไม่ยากเย็นแบบนี้ด้วยซ้ำ
เขาลืมเหตุการณ์เมื่อคืนแทบจะทันที ก็แค่เซ็กซ์ที่เกิดขึ้นจากความเมา
..แล้วก็อารมณ์นิดๆหน่อยๆ..
..แค่นั้นเองจริงๆ..
ทุกท่านเลย หุๆ ไม่เครียด ไม่เศร้า ไม่โศก และคงไม่ซึ้ง 5555 รับรองคร้าบ ^^