Trick or Treat?
วันที่สามสิบเอ็ดตุลาคมเป็นปาร์ตี้ฮาโลวีนของโรงเรียน พวกเด็กๆจะแต่งตัวด้วยชุดแฟนซี แล้วเอาอาหาร ขนม เครื่องดื่มและของขวัญจับฉลากมาร่วมสนุกด้วยกัน
“เราจะมีประกวดรางวัลผีน้อยแคสเปอร์ของห้องด้วย” ครูแหม่มอธิบาย “ใครแต่งได้น่ารักที่สุดจะได้รางวัลเป็นบัตรลด
ราคาของเบอร์เกอร์คิง”
..เข้าเป้าน้องเมษสิงานนี้..
ดังนั้น..คุณพ่อพฤษภาผู้รักลูกปานแก้วตาดวงใจจึงต้องเสาะหาชุดผีน้อยที่สุดแสนจะน่ารักน่ากระทืบไปให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
ใส่
“เฮ้อ..” กุ๊กถอนใจเฮือก เดินหามันทั่วประตูน้ำกับแพลททินัมแล้วยังไม่เห็นไอ้ชุดแคสเปอร์น่ารักน่าหยิกที่ว่านั่นเลย
โจชัวร์เดินจูงมือกับแด๊ดดี้ตามมาติดๆ เด็กชายได้หมวกฟักทองไปใบหนึ่ง ตั้งใจว่าจะสวมชุดสีเหลืองอ๋อยแล้วเดินถือแจ็ค โอ
แลนเทิร์น
“ไม่เอาชุดแคสเปอร์ไม่ได้เหรอน้องเมษ พ่อจะหาจากที่ไหนให้หนูล่ะครับ” พฤษภ์โอดครวญ นั่งปาดเหงื่อด้วยความเพลียหัวใจ
“แคสเปอร์ แคสเปอร์ เบอร์เกอร์ เบอร์เกอร์” เด็กชายเมษากระโดดโลดเต้น ในความหมายคือ ชุดแคสเปอร์จะทำให้ได้กิน
เบอร์เกอร์
เฟรดหัวเราะหึๆ อุ้มน้องเมษมานั่งตักแล้วส่งโจชัวร์ให้กุ๊กแทน “ครูแหม่มเขาหมายถึงรางวัลผีน้อยแคสเปอร์น่ะฮันนี่ ไม่ได้บังคับ
ให้น้องเมษใส่ชุดแคสเปอร์” เขาบิดจมูกเชิดรั้น “น้องเมษหล่ออยู่แล้ว ใส่อะไรก็หล่อ”
“งั้นเอาชุดแบทแมน” เด็กชายเมษาเชื่อฟังแด๊ดดี้เฟรดมากกว่าพ่อจ๋าเสียอีก “หนูจะใส่ลิงสีแดงไว้ข้างนอก มีเขา มีปีก มีหูด้วย”
พฤษภากุมขมับ น้องเมษเอาตัวซาตาน ซูเปอร์แมน แล้วก็แบทแมนมายำกันจนป่นปี้ “พ่อคิดว่าคงจะต้องซื้อไม่ต่ำกว่าสามชุดนะ
นั่น”
น้องเมษกระโดดตุบลงจากตักลุงเฟรด ถลกเสื้ออวดพุงแล้วเอาท้องกลมๆมาแปะต้นขาพ่อ “หนูจะใส่หน้ากากพรุนๆ ถือมีดอันเท่า
เนี้ย!”
“พ่อจ๋าไม่อนุญาตให้ใส่ชุดของเจสัน วอร์ฮีส์นะครับ”
“งั้นเอาเอี๊ยมยีนส์กับเสื้อสีฟ้าสีแดงสีเขียว”
“ห้ามชุดของชัคกี้ด้วย”
“บุ่ย” เมษาบู้ปาก “เสื้อไหมพรมสีแดงสีดำกับหมวก แล้วก็เล็บ”
“เฟรดดี้ ครูเกอร์ก็ห้ามจ้า” พฤษภาทึ้งหัว “ห้ามพูดถึงไมเคิล ไมเยอร์สแล้วก็แจ็คเดอะริปเปอร์ด้วย” เขาขยี้ผมนุ่มนิ่ม
น้องเมษหน้าหงิก พ่อจ๋าลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือให้เดินต่อ โจชัวร์กระตุกแขนเสื้อแด๊ด ชี้มือให้ดูชุดฟักทองตัวกลม
“เอาชุดนั้นเหรอกู๊ดบอย” เฟรดลองเอาไซส์มาทาบกับตัว เป็นฟักทองสีส้มแปร๊ดที่สวมทับนุ่นสีเขียวไว้อีกชั้น สีเข้ากันกับหมวก
ฟักทองอันเก่าเลย
“จอชชี่ได้แล้ว” กุ๊กเมย์ลองเอาชุดเต่าทองน่ารักมาให้น้องเมษบ้าง ดูเหมือนไอ้แสบจะไม่ถูกใจ ส่ายหัวดิก “ชุดจระเข้มั้ย น่ากลั๊
วน่ากลัว”
“ม่ายย” น้องเมษลากเสียงยานคาง
“ชุดสับปะรดล่ะ” พ่อจ๋าโยกตัวไปมา “ใส่แล้วก็ร้องเพลงนี้ ชูมือขึ้นแล้วหมุนๆ” เขายกแขนเหนือหัว “ชูมือขึ้นโบกไปมา กางแขน
ขึ้นและลง พับแขนมือแตะไหล่” คนพ่อส่ายเอวเบาๆ
เฟรดหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเพราะกุ๊กเมย์เอาชุดสับปะรดทาบตัวแล้วเต้นมันหน้าร้านเพื่อจูงใจลูกชายสุดชีวิต
“ต้องร้องแบบนี้ฮะ” น้องเมษโยกก้น “มีตารอบตัว รอบตั๊ว รอบตัว มีจั๊วะขึ้นรา ขึ้นร๊า ขึ้นรา” แบบว่าร้องเพราะได้ยินพ่อ
จ๋าแซวลุงโชคบ่อย
พฤษภายิ้มแป้น “ตกลงเอาชุดนี้เนอะ”
“ถือเคียวด้วย” น้องเมษอยากใส่หน้ากากหวีดสุดขีด
เจ้าของร้านรับเงินมาจากคู่พ่อลูกฝรั่งแล้ว แต่พ่อลูกคนไทยยังยืนเถียงกันคอเป็นเอ็น “ไม่ทราบว่าอยากได้แบบไหนเหรอคะ”
“หนูจะถือเลื่อย..วี้..วี้..ว..” น้องเมษถูกพ่อจ๋าตะครุบปาก
“เขาอยากได้ชุดผีน้อยแคสเปอร์น่ะครับ”
เธอหัวเราะ บอกว่าชุดแคสเปอร์ไม่มี แต่ถ้าอยากได้จริงๆ เอาผ้าสีขาวมาคลุมแล้วเจาะตาทำเป็นช่องก็ได้ “หนูน่ารักอยู่แล้ว ใส่ชุด
ไหนก็น่ารัก”
ด้วยเหตุนี้ พฤษภาเลยต้องเสียผ้าปูเตียงสีขาวให้น้องเมษไปผืนหนึ่ง
หนุ่มๆทั้งหลายเดินผ่านร้านขายหน้ากาก กุ๊กเมย์หยุดยืนดูแล้วคว้าหน้ากากยางผีหน้าเละมาได้หนึ่งอัน หน้ากากหวีดก็น่าสนแต่
ราคาหลายร้อย สู้อันที่เขาถือไม่ได้ สามสิบบาทไม่ขาดไม่เกิน
เฟรดกำลังต่อราคาแจ็ค โอ แลนเทิร์นให้ลูก แต่ใครบางคนสะกิดจากเบื้องหลัง เขาหันมอง ผงะไปก้าวหนึ่งด้วยความตกใจที่อีก
ฝ่ายยื่นหน้าใส่
“บู้!” กุ๊กเมย์กับหน้ากากผีสามสิบบาท น่ากลัวที่ซู้ด! “กู๋ กู๋ กู๋”
ร่างสูงหัวเราะเบาๆ “คืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่”
“จริงอ่ะ” พฤษภาออกจะภูมิใจ “แม่ค้าเอานี่อันนึง ลดได้มั้ย ยี่สิบเนอะ” ราคาสามสิบบาทยังมีหน้าไปต่อเขาอีก
เฟรดส่ายหัวด้วยความเอ็นดู เขาเจอหูกระต่ายเพลย์บอยอยู่อันหนึ่งเลยคว้ามาถือ “เมย์..ผมว่าคุณเหมาะกับอันนี้มากกว่านะ”
กุ๊กนิ่งอึ้ง คนตรงข้ามระบายยิ้มอ่อนโยนในขณะที่ขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นน้ำหอมเจือจางจากร่างสูงใหญ่อยู่เพียงปลายจมูก เขาสูง
เลยไหล่อีกฝ่ายมาได้แค่หน่อยเดียวเท่านั้น “อ..อะไรเหรอ”
เฟรดไม่ตอบ เขาเพียงแต่สวมหูกระต่ายลงบนศีรษะอีกคนด้วยความอ่อนโยน ดวงตาสีฟ้าอ่อนมองตรงมาด้วยความชื่นชมอย่างไม่
ปิดบัง “น่ารัก”
พฤษภ์ย่นจมูกแม้หน้าจะขึ้นสีเจือจาง “ชมว่าน่ารักไม่ดีใจหรอก”
“เชื่อผมสิ..น่ารักก็คือน่ารัก” เขาไล้นิ้วข้างแก้ม “ไม่โกหกคุณอยู่แล้ว”
กุ๊กเมย์เอาศอกกระทุ้งสีข้างคนตัวสูง “ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อ” หูแดงอีกแล้วนะนั่น “ทีหลังชมว่าหล่อสิ หล่อลาก หล่อบรรลัย..แบบนี้
ถึงจะดีใจ”
เฟรดอมยิ้ม จ่ายเงินให้ทีเดียว “คร้าบ..สุดหล่อ”
พวกเขากลับมาถึงบ้านตอนหกโมงเย็น พ่อพฤษภ์เตรียมทอดไส้กรอก ไก่ทอด เฟรนช์ฟราย แล้วก็ทำเบอร์เกอร์โฮมเมดไปแจ
มกับเด็กๆ
เด็กชายเมษารื้อผ้าปูเตียงออกมาลองสวม คลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าก็หมดเรื่อง มองไปมองมาแลดูคล้ายลูกบอลสีขาว น่ารักน่าเตะ
เป็นที่สุด
จอชชี่ใส่ชุดฟักทองแล้วน่ารักอย่าบอกใคร เด็กชายแก้มแดงเป็นลูกมะเขือเทศสุกเมื่อทุกคนชมว่าหล่อที่สุดในสามโลก
“อย่าลืมไอเท็มสำคัญ” พฤษภาชูตะกร้าขึ้นมา “พอเดินเข้าไปในงาน น้องเมษต้องไปเคาะประตูห้องเรียนอื่นแล้วพูดว่าทริ
คออร์ทรีท!”
“เอาขนมมาซะดีๆไม่งั้นตาย” น้องเมษชูมือร้องยิปปี้
“ไม่ใช่ลูกไม่ใช่” กุ๊กละเหี่ยเพลียใจจริงๆ “หนูต้องพูดว่า..จะให้ขนมหรือจะให้หลอก” เขาคว้าหน้ากากมาสวม ร้องออกมา “กู๋ กู๋
กู๋”
“ตุ๋ย ตุ๋ย ตุ๋ย” เมษาเอาผ้าคลุมหัว
“กุ๊ก กุ๊ก กู๋” พฤษภาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่
น้องเมษขอสวมหน้ากากบ้าง พอใส่หน้าเละแล้วเอาผ้าขาวคลุมหัว ยอมรับจริงๆว่ามันสยองที่สุด! ถ้าถือดอกบัวกับเอาสายสิญจน์
มัดนี่ใช่เลย
..ลุกจากโลงมาสดๆร้อนๆ! แคสเปอร์บ้านใครวะ!..
“คืนนี้นอนไม่หลับแน่นอน” ลุงเฟรดลูบแขนตัวเอง
โจชัวร์รับตะกร้ามาแล้วเดินกระมิดกระเมี้ยนไปหาพ่อพฤษภ์ เด็กชายแก้มแดงก่ำ จะเปิดปากแต่ละทีเหมือนกลัวดอกพิกุลจะ
ร่วง “ข..ขอขนมฮะ”
พฤษภาหัวเราะก๊าก มันเขี้ยวแก้มนุ่มนิ่มสุดชีวิตจนต้องก้มลงหอมฟอด ช็อคโกแลตในตู้เย็นมีเต็มถุงแต่ให้กินทีละแท่ง เดี๋ยวฟันผุ
เอา
ฝ่ายเมษาเคยกลัวเคยอายกับใครเขาที่ไหน “จะเลี้ยงเบอร์เกอร์หรือจะให้หลอก ตุ๋ย ตุ๋ย ตุ๋ย” ไอ้แสบชะโงกหน้าเข้าไปหาจนชิด
คางลุงเฟรด
ร่างใหญ่กลั้นหัวเราะ กอดอกเชิดหน้า “ไม่กลัวหรอก น่ารักจะตาย”
น้องเมษถอนใจเฮือก เดินตุบๆกลับมาหาเพื่อน “จะเลี้ยงบุฟเฟ่ต์หรือจะให้หนูปล้นจอชชี่ กุ๊ก กุ๊ก กู๋” ลูกใครวะ ยิ่งกว่าศรีธนญชัย!
เฟรดหัวเราะ “ไม่กลัวจ้า”
เมษาเหงื่อแตกเพราะหน้ากากยางมันร้อน “หนูเล่าให้ลุงฟังหมดเลยได้มั้ย นี่ไง ลุงมีช็อคโก้นะ” เจ้าหนูดัดเสียงเลียนแบบผู้ใหญ่
พฤษภาเลิกคิ้ว ส่วนเฟรดเริ่มตงิด
น้องเมษจีบปากจีบคอ “พวกเราต้องช่วยกันสังเกตลุงโชคกับพ..” เด็กชายปิดปากฉับเมื่อลุงเฟรดถลามายื่นช็อคโก้บาร์จากสวิส
แท่งเท่าแขนให้
“ลุงโชคทำไมเหรอ” กุ๊กเกาหัวแกรกๆ
น้องเมษส่ายหน้าหวือ เคี้ยวช็อคโกแลตกร้วมๆอย่างสบายใจ
“ผมกลับก่อนดีกว่า” เฟรดหาทางชิ่ง “ช็อคโกแลตอร่อยเนอะน้องเมษ เนอะๆ” เขายักคิ้วหลิ่วตาให้เป็นเชิงขอร้อง
“พรุ่งนี้ลุงเฟรดจะเลี้ยงเบอร์เกอร์หนู” คบเด็กสร้างบ้านนี่หว่า!
“สัญญาจ้า” เขายิ้มเฝื่อน หิ้วปีกโจชัวร์ตามไป “แล้วเจอกันนะเมย์”
พฤษภาได้แต่งุนงง “วันนี้มาเร็วเคลมเร็วเนอะ”
......
วันที่สามสิบเอ็ดตุลาคม เด็กๆต่างตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ สารพัดผีน้อยเดินกันเต็มโรงเรียน แต่ละคนงัดชุดแฟนซีมาอวดกันสุด
ฤทธิ์
“จอชชี่น่ารักจังเลย” เพื่อนๆชมเด็กฝรั่ง
“โจชัวร์น่ารักที่สุด!”
ลูกชายแด๊ดดี้เฟรดเดินขาแทบขวิด ชุดฟักทองก็หนักพอแล้ว นี่ต้องมาแบกคำชมจากเพื่อนๆที่ปกติก็ไม่ค่อยจะสนใจกันเท่าไหร่
อีก
โจชัวร์เป็นเด็กน้อยผิวสีน้ำนม แก้มเนียนชอบแดงระเรื่อเพราะความขี้อาย ดวงตากลมโตเป็นสีฟ้าสว่างรับกับกลุ่มผมสีทองเปล่ง
ประกาย
วันนี้โจชัวร์ใส่ชุดแฟนซีฟักทอง สวมหมวกฟักทองอันกลมมีใบสีเขียวชี้โด่เด่ เดินถือตะเกียงของเล่นแจ๊คกี้พร้อมกับหิ้วตะกร้าไป
ขอขนมจากอาจารย์
..ส่วนเพื่อนซี้ตัวกวนน่ะเหรอ..
น้องเมษเดินลากผ้าปูเตียง มือปุ้มปุ้ยหิ้วตะกร้าหวายคุณยายขนาดใส่แมวได้ทั้งตัวตามมาด้วย เพื่อนๆหันมามองแล้วพากันแตกฮือไปคนละทิศด้วยความตกใจ
“เมษใส่อะไรน่ะ”
“เมษเป็นตัวอะไร”
ทุกคนพากันสงสัย เพื่อนเมษเอาผ้าขาวมาคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก้มหน้างุดๆมองแต่พื้น บอกให้มองกันหน่อยก็ไม่ยอม
“กระหัง” เด็กชายเมษาตอบชัดเจนแจ่มแจ่ง “นี่กระด้ง” ตะกร้าต่างหากเล่า ชอบฟังสารคดีแล้วจำมาผิดๆ แต่ก็ถือว่าเป็นความน่า
รักอย่างหนึ่ง
“อยากเห็นหน้า” เพื่อนหลายคนเซ้าซี้
เด็กชายเมษาเลยเงยหน้าให้ดู เจ้าตัวน้อยหลายคนร้องว้าก หงายท้องผลึ่งด้วยความตกใจ หน้ากากเมษเละตุ้มเป๊ะ มีเลือดเปื้อน
เป็นคราบด้วย
“เคทฉับ” เด็กชายหมายถึงซอสมะเขือเทศ จริงๆไม่ได้ตั้งใจหลอน แต่บังเอิญตอนนั่งรถมาน้องเมษกินน่องไก่ เขย่าซอสแรงไป
หน่อยมันเลยกระฉอกมาทั้งขวด สาดใส่ทั้งชุดทั้งหน้ากากเละไปหมด นี่พ่อจ๋าเช็ดให้แล้วแต่คงไม่เกลี้ยงดี แล้วที่ก้มหน้าไว้ก็
เพราะอายต่างหาก “จะให้ขนมหรือจะให้หลอก”
ประโยคเดียวเท่านั้น ทั้งหน้ากากผี ทั้งเลือด ทั้งชุดขาว เด็กชายเมษาได้คะแนนความสยองไปเต็มร้อย ทุกคนพร้อมใจกันเทขนม
ให้เต็มตะกร้าเลย
น้องเบิ้มเพิ่มเข้ามาสมทบ เด็กชายนุ่งโจงกระเบน คล้องสังวาลย์แล้วเปลือยท่อนบน ดูเหมือนว่าจะมีใครติดผมก้อนๆให้บนหัว
ด้วย
“เบิ้มน่ารักจัง” จอชชี่อดชมไม่ได้
“พ่อบิ๊กบอกว่าเบิ้มเป็นกุมารทอง”
น้องเมษเดินลากผ้าเข้ามาหา “ลูกกรอก!” ใครอย่ามาเถียงเรื่องผีกับเมษานะ พ่อจ๋าอ่านกรุผีไทยเป็นนิทานก่อนนอนให้ฟังเมื่อ
สองวันก่อนเอง
“กุมารทองต่างหาก” เบิ้มเถียงใหญ่
“ลูกกรอก!”
“แกงจืดลูกกรอกเหรอ” จอชชี่น้ำลายหก “ต้องเอาเบิ้มลงไปต้มสินะ”
น้องเบิ้มยิ้มเผล่ “เบิ้มให้จอชกินคนเดียว แหะๆ”
เมษายกมือเป็นกากบาท “จอชกินเบิ้ม แต่เมษจะกินจอช”
“ทำไมจอชต้องถูกกินด้วย” โจชัวร์เอียงคอมอง
“เพราะเมษเป็นกระหัง” มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย!
ครูแหม่มต้อนเด็กๆเข้าห้อง เจ้าแสบทั้งหลายส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจกันใหญ่ ต่างคนต่างอวดว่าใครได้ขนมอะไรมาบ้าง “หนูๆขา
หันมาทางนี้ก่อนเร้ว” เธอผายมือมาทางหน้าห้อง “วันนี้คุณพ่อพฤษภ์เป็นเจ้ามือทำอาหารเลี้ยงพวกเรา ทุกคนขอบพระคุณคุณ
พ่อกันดังๆเลยนะคะ”
เด็กๆปรบมือกันเกรียวกราว พฤษภาเลยได้แต่หัวเราะด้วยความเก้อเขิน เขาทำอาหารก็จริง แต่เจ้ามือส่วนใหญ่เป็นคุณเฟรดกับ
คุณบิ๊กต่างหาก
ไม่กี่นาทีต่อมา อาหารสารพัดก็ถูกทยอยมาตั้งไว้ใต้ตะเกียงฟักทอง ส่วนมากเน้นฟาสต์ฟู้ดกินง่าย มีไส้กรอก เฟรนช์ฟราย หอม
ทอด น่องไก่ เบอร์เกอร์สารพัดหน้า แฮมชีส ขนมปัง ครัวซองส์ ลูกชิ้นทอด และแซนด์วิช
เฟรดเพิ่งเข้ามาสมทบ ใบหน้าหล่อเหลาคลี่ยิ้มอ่อนโยนเมื่อเด็กๆพากันพูดขอบคุณ พฤษภาหันมามอง เขารู้สึกว่าปฏิกิริยา
ประเภทแก้มแดงกับหน้าร้อนผ่าวมันชักจะเกิดกับตัวเองบ่อยครั้งเกินไปแล้ว
..โดยเฉพาะเมื่อได้สบตากับคนตรงข้าม..
ชายหนุ่มสวมเชิ้ตแขนยาวเข้ากับกางเกงสแล็คผ้าไหมสีดำทั้งชุด แผงอกแกร่งใต้เสื้อแบรนด์ดังให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคย
เป็นมาก่อน กลิ่นน้ำหอมสปอร์ตจากร่างสูงใหญ่เร้าความพลุ่งพล่านของความคิด
พฤษภายืนไม่ติดที่นักเมื่อดวงตาคมกล้าปรายมอง นัยน์ตาสีฟ้าสว่างเป็นประกายนั่นดูมีอิทธิพลกับใครอีกคนอย่างน่าประหลาด
เฟรดขยับเข้ามาใกล้ ออกปากทักกุ๊กเมย์ด้วยเสียงนุ่มนวล “ไฮ”
“ไฮ..ฮิตเลอร์” พฤษภาหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้จริงๆ
เฟรดว่ายิ้มๆ “ไม่กวนผมสักวันได้มั้ยเมย์”
“ยาก..” กุ๊กลอบถอนหายใจ “ออกไปห่างๆหน่อยสิ”
“ผมน้อยใจนะ” เขาหน้าเศร้า
“คุณชอบแย่งอากาศผม” พฤษภาเอามือลูบอกตัวเอง มันมีเสียงบางอย่างเต้นเป็นจังหวะ..ใครกัน อุตริมาตีกลองอยู่แถวนี้
เฟรดเลิกคิ้ว ช่วยตักไอศกรีมให้เด็กๆ “ผมอยู่ของผมเฉยๆ”
“ไม่รู้” พฤษภาแอบมองผู้ชายตัวใหญ่ที่กลายเป็นขวัญใจของเด็กๆไปอีกคน “นี่คุณแต่งเป็นตัวอะไร”
“เอ็ดเวิร์ด คัลเลน” จะบอกว่าเป็นแดร็กคูล่าก็กลัวไม่อินเทรนด์
“ใครวะ” พูดไปอย่างนั้นล่ะ จริงๆก็รู้จักอยู่หรอก “ไม่ได้เหมือนเลย”
เฟรดก้มลงมองตัวเอง “งั้นคราวหน้าเป็นหมาป่าดีกว่า”
กุ๊กหมั่นไส้เหลือเกิน แต่พูดก็พูดเถอะ ยอมแพ้จริงๆ “ผมว่าคุณเหมือนพ่อของเอ็ดเวิร์ดมากกว่านะ” ไม่ได้อยากชม! แต่มันดูดีจริง
อย่างว่า!
“สรุปว่าหล่อรึเปล่า”
“ไม่รู้โว้ย!” พฤษภาแทบจะเขวี้ยงไอศกรีมใส่
หลังจากเด็กๆพากันรุมทั้งของคาวของหวานเรียบร้อย หลังจากนั้นมีการจับฉลากของรางวัล โจชัวร์ได้ตุ๊กตาหมีขาวขั้วโลกขนาด
เท่าตัวเองไปนอนกอด ฝ่ายน้องเมษได้กระปุกออมสินรูปผีกระสือสมกับคอนเซ็ปต์แต่งผีกระหัง
“โหวตหนุ่มน้อยแคสเปอร์ได้ที่กล่องนี้นะคะ” ครูแหม่มเตือน “คนไหนน่ารักถูกใจ” เธอรู้สึกมีสายตาอ้อนวอนอยากได้บัตรลด
เบอร์เกอร์คิงยิงวิ้งๆเข้าใส่ “เอ่อ..หรือแต่งได้สยองจนน่าสยิว..ก็เขียนชื่อโหวตลงมาเลยค่ะ”
คุณพ่อพฤษภ์ช่วยถ่ายรูปให้ลูกชาย ดูไปดูมา น้องเมษกับน้องเบิ้มนี่ช่างเข้าธีมเปิดกรุผีไทยเสียจริง เด็กชายกระหังกับเด็กชาย
กุมารทอง นี่ถ้ารวมป้าปอบ ลุงเปรต ยายกระสือ นางตานีกับผีตะเคียนเข้าไป รับรองว่าได้รางวัล
“เรามานับคะแนนดีกว่าเนอะ” ครูแหม่มค้นกล่องกุกกัก มีทั้งหมดสามรางวัล บัตรลดเบอร์เกอร์คิงจะเป็นของผีน้อยแคสเปอร์
อมยิ้มหนึ่งแท่งเป็นของผีน้อยขวัญใจช่างภาพ และสุดท้ายลูกอมหนึ่งเม็ด(จะงกไปไหน)เป็นของผีหลอกวิญญาณหลอนที่
สามารถกวาดขนมลงตะกร้าได้มากที่สุด
..และคะแนนก็ออกมาอย่างเป็นเอกฉันท์..
“โจชัวร์..ได้รางวัลผีน้อยแคสเปอร์จ้า” ครูแหม่มปรบมือแปะๆ “น้องเบิ้มขวัญใจช่างภาพ ส่วนผีหลอกวิญญาณหลอน” เธอปาด
เหงื่อ หน้าตาน้องเมษยังชวนสยองขนสยิวจนหยดสุดท้าย “น้องเมษนี่เอง!”
เมษาหน้าหด “เบอร์..เกอร์..”
พฤษภาหัวเราะ “เดี๋ยวพ่อจ๋าซื้อให้กินก็ได้ ไม่เห็นต้องเสียดายเลย”
น้องเบิ้มเดินดูดอมยิ้มสบายใจเฉิบ ส่วนจอชชี่หลังจากถูกดึงไปถ่ายรูปตรงนั้นทีตรงนี้ทีแล้วก็กลับเข้ามาหาเพื่อนซี้
“จอชให้” เจ้าหนูยิ้มเอียงอาย ยื่นบัตรเบอร์เกอร์คิงให้น้องเมษ
เมษาตาลุกวาว “จริงเหรอ”
“อื้อ” โจชัวร์ฉีกยิ้มกว้าง “จอชให้เมษ เพราะจอชชอบเมษ”
“เมษก็ชอบจอชชี่!” ไอ้แสบร้อง “ถ้าให้บ่อยๆ เมษจะช้อบชอบจอช”
..โจชัวร์เลยโดนหลอกกินเข้าเต็มเปา..
เย็นนั้น หลังจากสัญญาลูกผู้ชาย(เลี้ยงเบอร์เกอร์ซับเวย์)ของลุงเฟรดแล้ว พวกเขาก็นั่งรถกลับมาด้วยกันที่บ้านกุ๊กพฤษภ์ สอง
หน่อคงเหนื่อยจัดเลยนอนคอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมกอดพ่อ
พฤษภาส่งเด็กๆขึ้นนอนก่อนจะมานั่งดินเนอร์กับแด๊ดดี้เฟรดกันสองคน ไม่ได้คิดจะทำโรแมนติคอะไร แค่คนทำอาหารยังไม่ได้กิน
ข้าวเท่านั้น
“เมย์..ชิมนี่มั้ย” เฟรดอวดไวน์แดงจากอิตาลี ลูกค้าเพิ่งเอามาให้เขาเมื่อวาน กะว่าจะเปิดชิมแต่รอมาลองกับกุ๊กดีกว่า
“โอ้โห!” พฤษภาซะอย่าง ถึงไม่รู้จักไวน์ก็ไม่เป็นไร ถ้าสั่งตรงมาจากเมืองนอกขึ้นชื่อว่าแพงสำหรับกุ๊กหมด..ของแพงนี่ยิ่งต้องฟัด
ให้เรียบ
แล้วคนคออ่อนที่ไม่เคยสำเหนียกว่าคออ่อนก็เมากลิ้ง
“เคี้ยก เคี้ยก” เมาแล้วรั่ว..พฤษภาแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์
เฟรดชิมไปนิดเดียวเท่านั้น เขาชอบนั่งมองตอนอีกฝ่ายบ้าจนเต็มที่มากกว่า “ไม่ไหวเลยน้ากุ๊กเนี่ย”
“ม่ายหวายอะราย” คนตัวเล็กลุกพรวดพราด ตัวโงนเงนไปมา
“ทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย” เขาเท้าคางมองยิ้มๆ “ขี้เมา”
“แอร๊!” กุ๊กย่นจมูกใส่ “น่าร๊าก พรึดน่าร๊าก!”
“จริงเหรอ” เฟรดแกว่งหูกระต่ายเพลย์บอยไปมา “ถ้าน่ารักจริง ลองใส่หูกระต่ายแล้วเต้น I will survive ให้ดูหน่อยได้มั้ย”
“ด้าย..ด้ายอยู่แล้น” พฤษภาส่ายอาดๆเข้ามาหา ดึงหูไปสวมฉับแล้วยกมือขึ้นเหนือหัว ทำท่าเชคๆพร้อมกับสะบัดเอวไปข้าง
หนึ่ง “ฮูลา ฮูล่า”
เฟรดจ้องด้วยดวงตาคมกริบ
“เมียพี่มีชู้ววว..โว้ยยยย” กุ๊กแหกปาก “ชาวบ้านรู้กันทั่วว”
คนฟังแทบตกเก้าอี้
“สิบหกปี..แห่งความหลางง” ยังไม่เลิกอีกนั่น “ทั้งร๊ากทั้งชัง..อุ๊บ” พฤษภาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง จมูกเล็กปะทะเข้ากับ
แผงอกล่ำสัน
ชายหนุ่มดึงอีกคนผละมาทางโซฟา ไอ้ตัวพ่อเอาแต่ปัดซ้ายป่ายขวาเลยเสียหลักล้มลงบนเบาะทั้งคู่ “จุ๊ๆ” เฟรดกระซิบ กอดรัด
แน่นขึ้น “ไม่ต้องร้องแล้วที่รัก ร้องทีไรนึกว่าอยู่โรงเชือด”
คนขี้เมาหัวเราะคิกคัก “คุณหมอคาเลน”
“คัลเลน” เฟรดออกเสียงให้ “ว่าไงครับคุณ จะชมผมเหรอ” เขากระซิบ
“อื้อ” กุ๊กพยักหน้าหงึก ยกมือโปะแก้มอีกฝ่าย ดวงตาหวานเชื่อมเป็นประกายวิบวับ “หล่อ..เป็นผี..หล่อที่ซู้ด”
เฟรดยิ้มแก้มปริ “ถ้าหล่อก็ต้องให้รางวัล” เขาชี้แก้มตัวเองแต่กุ๊กสั่นหัวดิก นิ้วเล็กจิ้มลงปากเขาแทน “จูบเลยเหรอ” ไวน์นี่ท่าจะ
แรงจริง
พฤษภากวักมือหยอยๆ คนสติดีที่คิดไม่ซื่อต่อคนเมาจะขัดขืนทำไมให้โง่ “เอิ๊ก..” แล้วพอโน้มลงมาก็เลยถูกเรอเข้าเต็มหน้านั่นไง
อารมณ์ชายหนุ่มที่กำลังกระพือเลยดิ่งลงเหว เขาถอนใจเฮือก ก้มลงมองคนที่หลับตาพริ้ม น็อคเอาท์คาโซฟา “โธ่เอ๊ย!”
เฟรดได้แต่ส่ายหัว มองคนที่หลงรักจนพอใจแล้วช้อนคนที่นอนตัวอ่อนขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน เขาพาเดินขึ้นไปบนชั้นสอง หาผ้าขน
หนูชุบน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าพอให้หายเหนียวตัว ไอ้ครั้นจะเปลี่ยนเสื้อนอนก็เกรงจะไม่หยุดแค่นั้น
ฝ่ามือใหญ่ลูบผมคนนอนนิ่งด้วยความอ่อนโยน นัยน์ตาทอแววรักใคร่ “กู๊ดไนท์นะเมย์” เขากระซิบข้างหู อยากจะจูบสักครั้งแต่
ห้ามใจไว้ก่อน
..ภาษิตไทยว่า..อดเปรี้ยวไว้กินหวาน..
ชายหนุ่มอมยิ้ม ความคิดหนึ่งวูบเข้าเมื่อเหลือบมองนาฬิกา
..ก่อนจะหมดวันที่สามสิบเอ็ด..อยากฝากอะไรไว้ให้แปลกใจ..
ใบหน้าคมสันโน้มลงชิดตรงต้นคอขาว ริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลง กุ๊กพฤษภ์เครือครางในลำคอ ดวงตาปรือปรอยขึ้นมอง
“แดก..คิว..ล่า?”
“คงงั้นมั้ง” เขาขบกัดเบาๆแต่ถึงอย่างนั้นรอยแดงเป็นจ้ำก็ปรากฏขึ้นอย่างง่ายดาย “คืนนี้ผมดูดเลือด..แต่คืนหน้า” เขายิ้ม “ผมจะ
ดูดอย่างอื่น”
เฟรดหมายมั่นปั้นมือเอาไว้
..ถ้าอยากดูดเร็วๆ..ก็ต้องเร่งทำคะแนนแล้วล่ะ..
FIN
มาลงก่อนตั้งกี่วันนี่