โจชัวร์สลึมสลือตื่นขึ้นในเช้าวันเสาร์เพราะได้ยินเสียงโครมครามดังมาจากชั้นล่าง เด็กน้อยหาววอด ยกมือเล็กขึ้นขยี้ตายุกยิก
ป้าสาวโผล่เข้ามาในห้องพลางบอกให้เจ้าหนูรีบอาบน้ำแต่งตัว
“ไปไหนฮะ” จอชชี่ยังตาปิดสนิท
“ลี้ภัยค่ะ” แกส่ายหัวด้วยความระอา “แด๊ดดี้กำลังพังครัวของป้า”
โจชัวร์เกาพุงแกรกๆ “แด๊ดดี้จะทำอะไรกินเหรอฮะ”
ป้าสาวอุ้มร่างเล็กเข้าไปในห้องน้ำ จัดแจงถอดเสื้อผ้าให้แล้วเปิดน้ำอุ่นรดตัวนุ่มนิ่ม ขืนปล่อยให้ทำเองคงนั่งหลับคาชักโครก “ป้า
ก็ไม่รู้”
โจชัวร์ถูกหุ้มด้วยผ้าขนหนูแล้วเช็ดจนตัวแห้งตอนที่มีเสียงเพล้งดังลั่น ป้าสาวใส่เสื้อกับเอี๊ยมก่อนจะสวมถุงเท้าลายเท็ดดี้แบร์ให้
จนเรียบร้อย
“ไปกันค่ะ” แกจูงมือเด็กชาย
ดวงตาสีฟ้าสดมองลอดเข้าไปในครัว เห็นแด๊ดดี้ตัวสูงผูกผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววของป้าสาว แขนข้างหนึ่งประคองชามสลัด
ที่ตอกไข่ใส่ลงไป มืออีกข้างถือที่ตีไข่พร้อมกับลงมือกวนอย่างสุดแรงเกิด
เพล้ง!
“Gosh!!” เฟรดยกมือขึ้นขยี้หัว เขาทำถ้วยแตกไปแล้วสามใบ เสียไข่ไปแปดฟอง กะอีแค่ทำออมเล็ตเท่านี้ยังสร้างความพินาศ
ได้!
“แด๊ดดี้” โจชัวร์ตั้งท่าจะเข้าไปหาแต่อีกฝ่ายยกมือห้าม
“ระวังแก้วนะกู๊ดบอย” เฟรดใช้เท้าเขี่ยเศษกระเบื้องให้พ้นทาง ผลที่ได้ก็เลยถูกคมของมันบาดใต้ฝ่าเท้านั่นเอง “ให้ตายเถอะ”
จอชชี่วิ่งตุบตับไปเอาพลาสเตอร์กับยาล้างแผลแต่เฟรดบอกป้าสาวว่าให้ช่วยพาโจชัวร์ออกไปข้างนอก..อย่างน้อยก็จนกว่า
สถานการณ์ไข่จะสงบ
“แด๊ดดี้..” โจชัวร์หันมองตาละห้อย มือป้อมยกขึ้นบ๊ายบาย
..ทำเหมือนแด๊ดจะไปออกสงครามโลก!..
ร่างสูงเปิดตำราทำอาหาร เขาพยายามตอกไข่ไก่สามฟองจนสำเร็จ ค่อยๆใช้ที่ตีกวนให้ไข่แดงกับไข่ขาวเข้ากัน เหยาะเกลือ ผสม
พาสเล่ย์สับกับผงจันทน์เทศ เติมครีมเข้าไปทีละน้อย ตีให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันอีกครั้ง
เฟรดตั้งสมาธิใหม่ ตอนนี้เขาล้างกระทะเทฟลอนรอบที่สาม เปิดไฟอ่อนแล้วใช้ไม้พายตักเนยแข็งลงละลาย “Holy shit!” เขา
เผลอหั่นแฮมครู่เดียว ควันโขมงจากกระทะก็ลอยคลุ้งเต็มห้องครัว วิ่งไปเปิดหน้าต่างแทบไม่ทัน
ชายหนุ่มรีบคว้ากระทะ อารามเร่งร้อนเลยจับมือเปล่า “โอ๊ย!” ตามด้วยการถูกลวกจนนิ้วพอง โมโหเข้าหน่อยก็โยนของลงซิ้งค์จน
เละเทะ
เฟรดเลิกใช้เนยเพราะไหม้ง่ายเหลือเกิน และด้วยความที่กระทะยังเปียกน้ำซ่ก พอเขาเทน้ำมันลง ทีนี้ไฟเลยลุกพรึ่บ หนุ่มฝรั่งรีบ
สาดน้ำดับ เท่านั้นเอง ทุกอย่างก็โกลาหล ทั้งไฟที่โหมหนักกว่าเดิม ทั้งน้ำมันที่กระเด็นขึ้นลวกแขน กว่าจะโยนฝาหม้อลงมาปิด
กระทะแล้วคุมทุกอย่างได้ก็ไม่เหลือซาก
มีกลิ่นเหม็นไหม้ลอยมาจากเครื่องปิ้งขนมปัง เขาถลาเข้าไปกดมันออก ขนมปังโฮลวีตไหม้เป็นตอตะโก ซ้ำร้าย..เขาลืมหม้อน้ำที่
ต้มชงกาแฟเสียสนิท มันแห้งผากจนก้นเกรียม ยังไม่รวมไส้กรอกที่ลองทอดจนแข็งเป็นหิน
เขาเงยหน้ามองเขม่าที่จับตามผนังเป็นวงกว้าง คราบไหม้ที่ติดตามตู้เก็บจาน เศษแก้วแตกและจานที่บิ่นไปหลายใบ นี่ยังไม่รวม
แผลน้ำมันลวก กระทะนาบ แก้วบาด มีดเฉือนเนื้อและเหงื่อแตกซ่ก
..นรกชัดๆ..
......
พฤษภาเพิ่งจะกลับมาจากวิ่งออกกำลังกายตอนเช้ากับน้องเมษ พอมาถึงหน้าบ้านก็เจอป้าสาวกับจอชชี่นั่งรออยู่ตรงแปลงแพร
เซี่ยงไฮ้แล้ว
“อ้าว..คุณป้า” เขารีบเปิดรั้ว เชิญทั้งคู่ให้เข้าบ้าน “เกิดอะไรขึ้นครับ”
ป้าสาวถอนใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า “สงครามโลกครั้งที่สามค่ะ”
กุ๊กเลิกคิ้ว เปิดตู้เย็นรินน้ำส้มให้แขก ส่วนจอชชี่ต้องกินนมจะได้ตัวสูงๆ “สงครามโลกครั้งที่สาม?” เขางุนงง
น้องเมษเดินเข้าไปหลังบ้าน เด็กชายเอาแซนด์วิชเนยแข็งออกมาตั้งทิ้งไว้ โจชัวร์กำลังท้องร้องจ๊อก ตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้กินอะไร
เลย
“จอชชี่กินกับเมษ” เมษาบิขนมปังชิ้นใหญ่กว่าให้เพื่อน
น้องจอชน้ำลายหยดแหมะ พ่อพฤษภ์เลยนึกขึ้นได้
“ทานข้าวด้วยกันก่อนสิฮะ” เขาชวน บอกให้นั่งดูการ์ตูนเช้าวันเสาร์แป๊บเดียว ใช้เวลาไม่กี่อึดใจก็เดินออกมาพร้อมอาหารเช้า
อย่างดี
ป้าสาวน้ำตาไหลด้วยความซึ้ง “ไหงคุณเฟรดไม่ได้อย่างคุณบ้างน้า”
กุ๊กหัวเราะ ตักข้าวต้มหมูร้อนๆควันฉุยให้แขก
เขาใช้ข้าวหอมมะลิต้มกับน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ซี่โครงหมักเครื่องเทศจนเนื้อนุ่มละมุน ใส่เห็ดหอมสด
เพื่อความอร่อย ตกแต่งสีสันด้วยแครอทและผักชี กระเทียมเจียวโรยหน้าเพิ่มความหอม
“หนูอยากกินเบรกฟาด” เมษาหัดใช้ภาษาอังกฤษ
“กำลังทำอยู่เลยครับ รอแป๊บเนอะ” พฤษภาทำไข่เจียวแฮมให้เด็กๆ เขาพิถีพิถันในทุกเรื่อง ทั้งใช้เนยอย่างดีและใช้น้ำมัน
มะกอกปรุงอาหาร
ออมเล็ตแฮมสีเหลืองกรอบหอมกลิ่นเนยเสิร์ฟพร้อมไส้กรอกโบโลน่า วางคู่ขนมปังปิ้งทาแยมสตรอเบอร์รี่ ตกแต่งด้วยสลัดผักกาด
แก้วและมะเขือเทศราชินี ใช้น้ำสลัดทำเองอร่อยอย่าบอกใคร มีนมกับน้ำส้มเป็นเครื่องดื่ม
..สวรรค์ชัดๆ..
โจชัวร์กินอิ่มจนแทบกลิ้ง ต่อจากเบรกฟาดของเพื่อนเมษแล้วยังกินข้าวต้มซี่โครงหมูไปอีกสองถ้วย นมอีกสองและน้ำส้มหนึ่ง
ป้าสาวก็กลิ้งพอกัน “อิ่มๆๆๆ”
พฤษภานั่งขำ “แล้วสงครามโลกครั้งที่สามคืออะไรฮะป้า”
แกลุกพรวดขึ้นมาทำตาโต กำหมัดทุบปึกลงบนฝ่ามือ “ตายล่ะ..คุณเฟรดเละไปรึยังเนี่ย” ป้าหันมาหาอีกคน “คุณพฤษภ์ช่วยไปดู
ให้ป้าทีได้มั้ยคะ”
“หือ?” กุ๊กเกาหัวแกรก “ใครเป็นอะไร ที่ไหน ยังไงครับ”
“คุณเฟรดค่ะ..เธอจะพังครัว ไม่รู้เกิดเพี้ยนอะไรขึ้น ตื่นแต่เช้ามาทำกับข้าวซะบ้านเละตุ้มเป๊ะ” ป้าสาวแฉหมดเปลือก
พฤษภานิ่งอึ้ง “คุณเฟรด..ทำอาหาร?”
“ใช่ค่า” ป้าสาวอยากหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก สงสารก็สงสาร
โจชัวร์ได้ยินผู้ใหญ่คุยกันเลยเข้ามาแจม เด็กชายชูมือสองข้างให้ดู “แด๊ดดี้ถูกมีดบาดด้วยฮะ ตรงนี้ ตรงนั้น แล้วก็ตรงนู้น” ร่างเล็ก
แปะมือบนเท้า
พฤษภามุ่นคิ้ว ไม่อยากบอกว่าเป็นห่วง แต่จะไปหาหน่อยคงไม่เสียหาย “อยู่นี่กันก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปดูคุณเฟรดให้”
เขาคว้าจักรยานคุณป้าคันสีม่วงปั่นเข้าไปในซอย ป้าสาวให้กุญแจมาแล้ว พอเข้าบ้านเท่านั้นกลิ่นเหม็นไหม้ก็โชยกึก “ทำอะไร
ของเขาเนี่ย”
กุ๊กโผล่หน้าเข้าไปดูในครัว เขาไม่เห็นใครนอกจากซากขยะเหมือนบ้านหลังนี้เคยเป็นสมรภูมิรบของตะหลิว กระทะ แล้วก็ของสด
มีเสียงก๊อกแก๊กในห้องอาหาร พฤษภาเยี่ยมหน้าไปมองอย่างระแวดระวัง ดวงตาแทรกซอนไปทั่วก่อนจะหยุดกึกที่ร่างสูงใหญ่ใน
ผ้ากันเปื้อน
เฟรดยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเหงื่อ ทั้งตัวชุ่มไปด้วยไอร้อนเหมือนเพิ่งวิ่งผ่านน้ำ ใบหน้าหล่อเหลาที่มีแววอ่อนระโหยคลี่ยิ้ม มือที่มีรอย
มีดบาดทั้งบวมทั้งพองจนน่ากลัว แต่เหนือสิ่งอื่น..ท่าทางภูมิใจแบบนั้นเขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“เสร็จแล้ว” เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง ยกจานขึ้นดูผลงาน
มันเป็นออมเล็ตหน้าตาบูดเบี้ยวพิกลพิการ สีกระดำกระด่างทั้งดำทั้งเหลืองสลับกัน กลิ่นไม่ค่อยน่าพิสมัย รสชาติอาจจะสุนัขไม่รับ
ประแดก
..แต่ทั้งหมดนั้น..มันมาจากใจ..
เฟรดหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำใหม่ ให้อร่อย ให้สวย ให้ดีเลิศ ให้เพอร์เฟ็กต์ ให้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองจนกุ๊กต้องยกนิ้วด้วยความ
ชื่นชม
..เขาไม่มีทางยอมแพ้..
ชายหนุ่มหันหลังกลับ หากทั้งตัวต้องชะงักกึกเมื่อสบเข้ากับคนตัวเล็กที่แอบอยู่หลังประตู ดวงตากลมโตคู่นั้นจ้องตรงมา “เมย์..”
พฤษภากระแอมแก้เก้อ “ทำอะไรอยู่เหรอ”
เฟรดเช็ดมือชื้นเหงื่อกับผ้ากันเปื้อน พอนึกขึ้นได้ว่าใส่ผ้ามีลูกไม้ห้อยชายกับระบายเป็นพริ้วก็รีบถอดแล้วโยนทิ้งไปหลังเก้าอี้
“ไม่ต้องหลบหรอกน่า” กุ๊กหัวเราะ “น่ารักดีออก”
“ผมควรจะดีใจมั้ยนะ” ถึงปากบ่นอย่างนั้น แต่เขาเองก็ยิ้มแทบไม่หุบ
พฤษภาเดินเข้ามาหา ตาเหลือบมองฝรั่งตัวโตพลางลอบดูร่องรอยความซุ่มซ่ามที่น่าจะเจ็บเอาการ “คุณจะทำอะไรกันแน่..เฟรด”
เจ้าของชื่อยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเก้อเขิน “ทำอาหารครับ”
พ่อครัวหัวป่าก์ตัวจริงยกจานไข่ขึ้นพิจารณา “อยากได้คะแนนจากผมมั้ย” เขายิ้มเมื่อเฟรดผงกหัวหงึกหงักอย่างกระตือรือร้น “ดู
จากหน้าตา..” เขาย่นจมูกเมื่อเห็นสีและความเละ “รสชาติ..” กุ๊กเอาช้อนมาชิมก่อนจะเบ้ปาก
“คะแนนติดลบ”
เฟรดหน้าเศร้า แผลที่มือปวดแปล๊บๆ
พฤษภาได้แต่อมยิ้ม เขี่ยไข่ไหม้ๆด้านนอกทิ้งแล้วลองตัดเนื้อสีเหลืองอ่อนด้านใน มีแฮมสุกบ้างดิบบ้างซ่อนอยู่ เขาเลือกตรงที่กิน
ได้เข้าปาก
“พอเถอะเมย์..เดี๋ยวท้องเสีย” เฟรดแย่งจานออกไป
“ผมยังกินไม่หมดเลย”
ร่างสูงส่ายหัว รู้สึกขาไม่มีแรงขึ้นมาดื้อๆ “ไม่ว่าคุณจะกินตรงไหนมันก็เหมือนกันนั่นแหละ แย่พอกัน..เพราะสุดท้ายแล้วคนทำคือ
ผมเอง”
..ไม่ใช่พี่โชคของคุณ..
พฤษภ์ส่ายหัว “คุณรู้รึเปล่าเฟรด..” เขาจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล “เทียบกับเด็กๆในครัวมธุปายาสแล้ว คุณทำอาหารได้
ห่วยแตกมาก”
“ครับ..” เฟรดน้ำตาตกใน คะแนนเขาดิ่งลงเหวไปอีกรอบ
“เด็กผมเพิ่งจะฝึกทำกับข้าว แต่พวกเขาทำได้ดีกว่าคุณมาก หน้าตาสวย รสชาติเยี่ยม ฝีมือคงที่ แต่กับคุณ..” พฤษภาสวด
ยับ “มันต่างกันสุดๆ”
หนุ่มตัวโตหางลู่หูตกเหมือนโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ถูกดุ
“แต่ถ้าถามใจผมจริงๆ..” เขาดึงฝ่ามือใหญ่ที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมา ลูบลงรอยแผลพวกนั้นแผ่วเบา “คุณได้คะแนนความ
พยายามเกินล้าน”
เฟรดกะพริบตาปริบ สีหน้างุนงง
“การทำอาหารมันอยู่ที่นี่” กุ๊กวางมือลงบนอกซ้ายของตัวเอง “มีคนมากมายที่ทำอาหารเป็น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทำ
อาหารเยี่ยม ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ..อยู่ที่ความพยายาม” เขายิ้มให้ “อยู่ที่..ความรัก”
คนฟังรู้สึกหัวใจพองโต
“วันนี้คุณอาจจะทำได้ห่วยแตกจนทั้งน้องจอชและป้าสาวต้องหนีไปกินข้าวบ้านผม แต่ขอบอกอะไรอย่างหนึ่งนะเฟรดดี้” พฤษ
ภาคลี่ยิ้ม
“คุณชนะใจผมจริงๆ”
เฟรดรู้สึกว่ามีคนนับล้านกำลังจุดพลุในอกเขา มันส่งเสียงตูมตาม ดังระรัวคล้ายมีกลองอีกร้อยชุดตีกระหน่ำ เขาแทบไม่รู้เรื่องอะไร
นอกจากตาที่พร่าเลือนเพราะเห็นสีชมพูและลูกกวาดลอยระยิบระยับเบื้องหน้า หูอื้อแล้วยังหายใจไม่ทั่วท้องราวกับคนใกล้จะ
น็อคจากไม้ตายที่ชื่อว่า ‘รอยยิ้ม’
“ทีหลังอย่าทำอะไรเกินตัวอีกนะคุณ” กุ๊กพฤษภ์เอากล่องปฐมพยาบาลมานั่งทำแผลให้ เขาเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดแผล
แต้มยาแดงก่อนจะปิดไว้ด้วยพลาสเตอร์ “อยากกินอะไรก็บอกสิ ผมเต็มใจทำให้อยู่แล้ว”
เฟรดส่ายหัวหวือ “ให้ทำไม่ได้”
คนฟังพองลมที่แก้ม “ทำไมล่ะ”
“Because everything I do..” เขาพึมพำ “I do it for you”
ดวงตาสีอ่อนเบิกกว้าง ทั้งตัวร้อนผ่าวเหมือนมีคนจุดไฟอยู่ไม่ห่าง แก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความคาดไม่ถึง “อะไรนะ..”
เฟรดหลุบตาลงมองเรียวปากบาง “ผมทำเพื่อคุณ..”
พฤษภาหายใจไม่ออก เขาบอกแล้ว..คุณเฟรดมักแย่งอากาศเขาเสมอ ยิ่งอยู่ใกล้กันแค่คืบอย่างที่เป็นอยู่ เขาหาทางไปไม่ได้
เลย
“ทุกอย่างที่ทำ..เพื่อคุณคนเดียว” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบแก้มอีกคนแผ่วเบา ทั้งร่างโน้มลงใกล้ ใบหน้าคมสันอยู่ห่างไปเพียงเอื้อม
พฤษภาหลับตาปี๋ กลั้นหายใจด้วยความตกตะลึง
ทั่วทั้งห้องเงียบงันเมื่อร่างสูงสัมผัสริมฝีปากคนตรงข้ามผิวเผิน เฟรดละออกมา จับจ้องทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เขาหลงใหลแทบ
บ้า
“ทำ..ไม” กุ๊กเมย์เพ้อขึ้น ดวงตาปรือปรอยเพราะรสหวาน
“คุณบอกไม่ชอบผู้ชายทำอาหารไม่เป็น” เฟรดเฉลย กระซิบแนบปากนุ่ม “ผมไม่หวังให้คุณชอบฝีมือทำอาหาร แต่อย่างน้อย..
คุณจะได้ไม่เกลียด”
พฤษภาตัวโงนเงนเหมือนจะตกจากเก้าอี้ อ้อมแขนแกร่งโอบรัดลงรอบเอว ความอบอุ่นที่ได้รับมากมายจนรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าว
ของผิวหน้า
เฟรดจูบอีกครั้ง..และอีกครั้ง
สัมผัสบางเบา อ่อนโยน และนุ่มนวล เขาบดคลึงเรียวปากด้วยความรักใคร่ ลูบไล้ลงไหล่บางอย่างโหยหา “อย่าเกลียดผมเลยนะ
เมย์”
คนตัวเล็กตกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง นัยน์ตาหลุบต่ำเพราะความเก้อเขิน ความหวานที่ถูกชักนำทำให้ใจอ่อนยวบ ปลายนิ้วเลื่อน
ขึ้นโอบกอดแผ่นหลังกว้าง ขยุ้มลงเสื้อยืดสีเข้มของอีกฝ่าย เผลอไผลไปกับรสจูบ
..แพ้ใจ..

เน่าจริงๆไอ้คู่นี้
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมากนะคร้าบ

เอากุหลาบไปเยอะๆเลย อิอิ